Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore car 4

car 4

Published by chasmooththunsiri, 2020-04-03 11:06:41

Description: merged (pdf.io) (4)

Search

Read the Text Version

รายงานการวิจยั ในชัน้ เรียน เรอ่ื ง กำรแกป้ ญั หำกำรทำงำนเปน็ กลุ่มของนักเรยี นชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่1ี /10 นายชาตรี ธญั สริ กิ ลุ กติ ติ์ ครู คศ.1 โรงเรยี นศขี รภูมิพิสัย อำเภอศขี รภูมิ จงั หวดั สรุ นิ ทร์ สำนกั งำนเขตพ้ืนทกี่ ำรศกึ ษำมธั ยมศกึ ษำ สุรินทร์ เขต 33

บทที่ 1 บทนํา ความเปน มาและความสําคัญของปญหา ในการเรยี นภาคเรียนท่ี 2 ปการศึกษา 2562 ผูวิจัยไดรับมอบหมายใหสอนในรายวิชาภาษาไทย ทั้งภาคเรยี นที่ 1 และ ภาคเรียนที่ 2 ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปที่ 1 ทั้งหมด 5 หอ งเรียน รวมนักเรียน 186 คน ในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนเพื่อใหสอดคลองกับพระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พุทธศักราช 2542 หมวด 4 มาตรา 22 เนนผูเรียนมีความสําคัญที่สุด ภารกิจสําคัญของครูคือ การจัด กระบวนการเรยี นรูเ พ่ือใหผ ูเรียนทกุ คนสารถมาเรียนรูแ ละพัฒนาตนเองไดอยางเต็มตามศกั ยภาพเพื่อเปน มนษุ ยท่ีสมบรูณท ั้งรางกายและจิตใจ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแตล ะครงั้ จึงจัดใหมกี ารทํางานเปน กลมุ เพ่ือฝก ใหนกั เรยี นเรยี นรูท ักษะการทาํ งานรวมกัน การวางแผนการทํางาน การแกป ญหา การตดั สินใจ การคิดสรางสรรค การสื่อสาร การประเมนิ ผลงาน และการสรา งบรรยากาศการเรียนรูผูวจิ ัยถึงมอบหมาย ใหนักเรียนเรียนรูโดยใชกระบวนการกลุม ใหนักเรียนจัดกลุมโดยความสมัครใจ กลุมละประมาณ 6-7 คน แลวมอบหมายงานใหชวยกันทํางานใหเสร็จตามเวลา แลวสงตัวแทนกลุม นําเสนอผลสรปุ ของงานหนาชั้นเรียน แตมักจะพบปญหาการทํางานเปนกลุมของนักเรียนมาโดยตลอด ดังนี้ 1.นกั เรยี นจัดกลุมโดยรกั เพือ่ นสนทิ ที่รักชอบกันมาเปนสมาชิกในกลุมเดียวกันทั้งนักเรียนเพื่อนที่ ไมชอบไมใหเ ขา เปนสมาชิกกลมุ ดว ย 2.นักเรียนไมเกงมักจะรวมกลุมเดียวกัน นักเรียนที่ออนมักจะรวมกลุมเดียวกันทําใหการทาํ งาน ของนกั เรียนกลุม เกงทาํ งานเสร็จทันกําหมดเวลาบรรลุผลตามจุดประสงค แตก ลุมออนการทํางานชา เสร็จ ไมต รงเวลา ผลงานออกมาไมม ีประสทิ ธิภาพ 3.ในขณะทํางานกลุมจะมนี กั เรียนบางคนไมทาํ งานชวยเหลือรว มมอื กบั เพ่อื น เดนิ ไปเดินมาพูดคยุ เร่อื งอื่น 4. เอางานอ่ืนขน้ึ มาทํา 5. มีคนทาํ งานในเรอ่ื งท่ไี ดร ับมอบหมายอยา งจรงิ จงั กลมุ ละประมาณ 2-3 คน 6. ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นของนกั เรยี นในกลุมออนอยูใ นเกณฑตาํ่ สรุปไดว า นกั เรยี นบางคนเทานัน้ ทีเ่ กิดการเรียนรูดานเนือ้ หา มีความรับผิดชอบ แตการทาํ งาน รวมกันเปน กลุม เพือ่ ใหเ กิดทกั ษะการทํางานรวมกันประสบความลมเหลว นักเรียนเกดิ การเอาเปรยี บกัน บางคนขอแคมีชื่อในกลุมเทา นั้นเพื่อใหไดคะแนน ขาดความรับผิดชอบ และนกั เรียนเกงตองทํางานคน เดยี วมากกวา ทาํ งานเปนกลมุ หากปลอยเหตกุ ารณเ ปน เชนนต้ี อ ไปตองไมเกิดผลดีตอ นกั เรียนที่เปนอนาคต ของชาตอิ ยางแนน อน ผวู ิจัยจึงตอ งแกปญ หาการทํางานเปน กลมุ ของนักเรยี น โดยมีวตั ถปุ ระสงค ดังนี้

วตั ถุประสงคข องการวจิ ยั 1. เพื่อศึกษาการดาํ เนนิ งานเปนกลุมของนักเรียนไดเรยี นรรู ว มกันอยา งแทจริง 2. เพือ่ ใหน ักเรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรสู ูงข้ึน ขอบเขตของการวจิ ยั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/10 โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย อําเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร จาํ นวน 1 หอ งเรยี น 34 คน นิยมศัพทเฉพาะ ปญ หา คือ ความแตกตา งระหวางสภาพท่คี าดหวังกับสภาพความเปนจริง หรือสภาพที่เกดิ ข้ึนไม ตรงกบั ความตอ งการใหเ กิดข้ึน การทํางานเปนกลุม หมายถึง การทีค่ นตั้งแต 2 คนขึ้นไปมาชวยกันคิด วางแผนการทํางาน ลง มือปฏิบตั ิงานชว ยเหลือซึ่งกนั และกัน รับผดิ ชอบรวมกนั จนบรรลวุ ัตถุประสงคท ตี่ ้งั ไว ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น คือ ผลการเรยี นของนักเรยี นท่ีผา นเกณฑก ารประเมนิ จุดประสงค หมายถงึ เปา หมายหรือจุดหมายทต่ี ั้งไวเ พอ่ื ใหการดําเนนิ การจัดกิจกรรมเปนไปตาม ทต่ี ง้ั ไวใหบ รรลผุ ล

บทที่ 2 ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกย่ี วของ ผวู ิจยั ไดศึกษาเอกสารการสอนโดยเนน การเรียนแบบรวมมอื ( Cooperative learning ) ซึ่งเปน เทคนิคการจัดการเรียนการสอนที่ครูแบงผูเรียนออกเปนกลุมยอย มีสมาชิกในกลุมเทากันประกอบดว ย สมาชิกที่มีความสารถมาในการเรียนเกง ปานกลาง ออน สมาชกิ ทุกคนมีเปาหมายในการทํางานรวมกันจน ประสบผลสําเรจ็ ตามจดุ มุงหมายของการเรียนรว ม และสารถมาแกปญ หาการทาํ งานเปนกลุมของนักเรยี น ได จึงดําเนินการศกึ ษาและไดพบวา จอสน สัน ดดี บั บลิว และคณะ สรปุ องคป ระกอบพื้นฐานของการเรียน แบบรวมมือไว 5 ประเภทดงั น้ี 1. การชว ยเหลอื พ่ึงพาอาศยั กนั และกันดวยอธั ยาศยั อันดี 2. นกั เรียนตองเขา ใจวาความสาํ เรจ็ ของกลมุ ขึน้ อยกู ับความสําเรจ็ ของสมาชิกแตล ะคนในกลุม 3. ควรมีการกาํ หนด บทบาทหนาทสี่ มาชกิ ในกลมุ ใหช ดั เจน 4. ทกุ คนตองมีหนาที่ 5. มีผลงานตามหนา ทสี่ ารถมาตรวจสอบได เชน 5.1 ผูน ํากลมุ เปนผนู ําท่ใี หการทํางานกลมุ สาํ เรจ็ 5.2 ผสู รปุ เปน ผสู รุปผลการเรียนรู เกบ็ ขอมลู บันทึกขอมลู ในการทาํ งานกลุม 5.3 ผตู รวจสอบ เปน ผตู รวจสอบความรูของสมาชกิ ในกลุมวา ทกุ คนมีความรูท กุ เรอ่ื ง เหมอื นกัน 5.4 ผูชว ย เปนผชู วยใหความคดิ พจิ ารณาวา ถูกหรอื ไม 5.5 ผชู แี้ นะ เปน ผูคอยเพม่ิ เตมิ ความคิด ขยายความรู 5.6 ผหู าขอมลู เปน ผหู าเอกสารขอ มูลในกลมุ 5.7 ผกู ระตนุ เตอื น เปนผคู อยใหกําลังใจและกระตนุ ใหทํางานตดิ ตอ ประสานงาน ระหวา งกลุม 5.8 ผสู ังเกต เปนผดู ูแลใหทกุ คนทาํ หนาทีข่ องตนเอง บันทึก และรายงานสภาพ การทํางานของกลมุ จอหนสันและจอหนสัน ( Johnson and Johnson. 1987:122 ) ใหความหมายของการเรียน แบบรว มมอื วา เปน การจัดประสบการณก ารเรียนใหนกั เรียนเปนกลุมเล็กๆ กลุม ละประมาณ 2-5 คนโดย ท่สี มาชิกในกลมุ มีความแตกตางกันทางดานเพศ เชื้อชาติ ความสามารถทางการเรียน นักเรียนมีทักษะใน การทาํ งานกลมุ มีการแลกเปลีย่ นความคดิ เห็น ชว ยเหลอื ซง่ึ กนั และกัน สมาชิกแตละคนในกลุมรวมมือกนั รับผิดชอบในงานทีไ่ ดรับมอบหมายอารทชและนิวแมน ( Artzt and Newman. 199990:216-255 ) กลาวถึงความหมายของการเรียนแบบรวมมือวา เปนการเรียนที่จัดสมาชิกเปนกลุมเล็กๆ ใหรวมกัน

แกปญหาหรือทํางานที่ไดรับมอบหมายใหสําเร็จ สมาชิกทุกคนตองมีสวนรว มในการชวยเหลือซึ่งกันและ กนั ในการทํางาน แนตทีฟและคนอื่นๆ ( Nattiv and others. 1991:216255 ) กลาวถึงการเรียนแบบรวมมือวา เปน วิธีท่ีนักเรียนทํางานรวมมอื กันเปนกลุมขนาดเล็กเพื่อใหบรรลุเปาหมายที่ตั้งไว กลุม หรือทีมปกติมีจํา นาน 4-8 คน มคี วามแตกตา งในดานผลสัมฤทธิ์ เพศ และเผาพันธุ สมาชิกในกลุมจะมบี ทบาทแตกตางกัน และมกี ารหมนุ เวยี นเปลีย่ นการรับผดิ ชอบ จากความหมายดงั กลา วสารถมาสรุปไดวาการเรียนแบบรวมมือเปนการจัดการเรียนการสอนท่ี เนนนักเรียนเปนศูนยกลาง ( child center ) สงเสริมใหนักเรียนมีปฏิสัมพันธและการทํางานรว มกันเปน กลุม กลมุ ละ 4-5 คน สมาชิกในกลุมมีระดับความสารถมาแตกตางกัน เชนเพศ เชื้อชาติ และความสารถ มาทางการเรียนสารถมาสอ่ื สารกันและรว มมอื กันและรว มปฏบิ ตั งิ านทีไ่ ดรบั มอบหมาย โดยที่สมาชกิ แตละ คนมคี วามรับผดิ ชอบตอ หนา ท่ขี องตน และตองานของกลุม โดยมเี ปาหมายรวมกนั ดังนนั้ การเรียนแบบรวมมอื จงึ เปนผลที่เกิดจากการมีปฏิสมั พันธกันระหวางสมาชิกโดยตระหนัก วาการปฏบิ ัตขิ องตนเองมีผลตอ กลุม รสู ึกประสบความสาํ เร็จและความภาคภมู ใิ จรวมกนั

บทท่ี 3 วิธดี ําเนนิ การวิจยั ผูว ิจยั วางแผนการดาํ เนนิ การแกป ญ หาการทาํ งานเปนกลุมของนักเรยี นตามทฤษฎีการเรยี นแบบ รว มมือ Cooperative leaming ตามลาํ ดบั ขัน้ ตอน ดงั น้ี 1. พิจารณาการจัดกลมุ โดยดูผลสรุปจากแบบวเิ คราะหผ เู รียน 2. ทดสอบผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรียนแตละคนโดยใชข อ สอบปรนยั วชิ าภาษาไทย (ท 21102) จาํ นวน 60 ขอ เพื่อจักกลุม นักเรยี น เกง ปานกลาง ออน 3. จดั กลมุ นักเรยี นใหมสี มาชกิ เปน กลุมนักเรียน เกง ปานกลาง ออน กลมุ ละ 7-8 คน 4. สมาชกิ ในกลมุ จะมกี ารหมุนเวยี นสมาชกิ กันเดอื นละ 1 ครงั้ 4.1 ครง้ั ท่ี 1 เดือนพฤษภาคม 2562 4.2 ครั้งที่ 2 เดือนมถิ ุนายน 2562 4.3 ครงั้ ที่ 3 เดือนกรกฎาคม 2562 4.4 ครัง้ ท่ี 4 เดือนสงิ หาคม 2562 5. กําหนดบทบาทหนา ทีข่ องสมาชกิ ในกลมุ ดังตอไปนี้ 5.1 ประธานกลมุ ทําหนา ที่เปน ผนู ําทใี่ หก ารทาํ งานกลุมสาํ เรจ็ 5.2 ผสู รุป ทาํ หนาทเ่ี ปนผสู รุปผลการเรยี นรู เก็บขอ มลู บันทกึ ขอมลู ในการทาํ งานกลุม 5.3 ผตู รวจสอบ ทําหนา ทเี่ ปนผตู รวจสอบความรขู องสมาชิกในกลมุ วาทุกคนมคี วามรู ทุกเร่อื งเหมือนกัน 5.4 ผชู ว ย ทําหนา ท่ีเปนผชู ว ยใหความคดิ พจิ ารณาวา ถกู หรือไม 5.5 ผูชีแ้ นะ ทําหนาท่ีเปนผคู อยเพ่ิมเตมิ ความคดิ ขยายความรู 5.6 ผูหาขอมูล ทําหนา ทเ่ี ปนผหู าเอกสารขอมูลในกลุม 5.7 ผกู ระตนุ เตือน ทําหนาท่เี ปน ผคู อยใหกําลังใจและกระตุน ใหทาํ งาน ติดตอ ประสานงานระหวา งกลมุ 5.8 ผูส งั เกต ทําหนา ทเี่ ปนผดู ูแลใหทกุ คนทําหนา ทข่ี องตนเอง บันทึก และรายงาน สภาพการทาํ งานของกลุม 6. กําหนดกตกิ าการทาํ งานกลมุ 6.1 สมาชิกทุกคนในกลุมตองไดร ับมอบหมายหนา ที่ใหป ฏิบัติ โดยมีการหมุนเวียน บทบาทหนา ที่อยา งเปนระบบ 6.2 ในขณะทาํ งานกลมุ ใหใชเสยี งพดู ดังไดยินภายในกลมุ ไมส งเสียงดงั จนรบกวนกลมุ อืน่

6.3 สมาชกิ ทกุ คนไมล ุกออกจากกลุมถา งานยงั ไมเ สรจ็ 6.4 เม่ือเกดิ ปญหาในกลุมใหช ว ยเหลือเพ่อื แกปญหากันเองกอ นที่จะนาํ ปญ หาไปใหครู ชวยแกไข 6.5 ไมนาํ งานอ่ืนขน้ึ มาทําโดยทไี่ มเ กีย่ วขอ งกบั การทาํ งานกลมุ ขณะน้นั 6.6 ไมแอบหลบั ขณะดาํ เนินกิจกรรมกลมุ 6.7 เตรียมเครอ่ื งมอื ท่ใี ชใ นการเก็บขอมลู ไดแก แบบประเมินการปฏิบัติหนาทก่ี าร ทาํ งานกลมุ แบบประเมนิ ผลการดําเนินงานกลมุ แบบตรวจสอบความรขู องสมาชิก ในกลมุ 6.8 ดาํ เนนิ การสอนและเกบ็ ขอมลู ทคุ รัง้ ท่มี ีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช กระบวนการกลุม

บทท่ี 4 ผลการวจิ ยั ผลการดําเนินงานการแกปญหาการทํางานเปนกลุมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่1/10 ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศึกษา 2562 พบวา การปฏิบัติหนาท่ีของสมาชกิ กลุมที่ไดรับมอบหมายใหปฏิบัติ เปน ไปตามเง่อื นไข ตามรายระเอยี ด ตอ ไปนี้ ตานรางท่ี 1 การปฏิบตั ิหนา ทงี่ านกลุม ปฏบิ ตั ิหนาทงี่ านกลมุ พฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กลุม /ผลปฏิบัติ x กลุม /ผลปฏิบัติ x กลุม /ผลปฏบิ ัติ x กลมุ /ผลปฏิบัติ x ปฏบิ ตั ิหนาท่ี ไมป ฏบิ ัติ ไมป ฏิบัติ ไมปฏิบัติ ไมปฏิบัติ 1. ผูนํากลุม 12345123451234512345 2. ผสู รปุ 3. ผูตรวจสอบ //////////////////// 4. ผชู วย 5. ผูชแี้ นะ //////////////////// 6. ผหู าขอมลู 7. ผูกระตนุ เตือน //////////////////// 8. ผสู งั เกต //////////////////// //////////////////// //////////////////// //////////////////// //////////////////// สรปุ จากตาราง ผลการปฏิบัตหิ นา ท่ีงานกลุมปฏิบตั ิหนาท่ีทกุ คน ทุกกลุม และทุกเดือน

ตารางที่ 2 ผลการดําเนนิ งานของกลมุ ระดับคุณภาพ ปฏบิ ตั ิหนา ที่ พฤษภาคม มถิ นุ ายน กรกฎาคม สิงหาคม กลมุ /คะแนน กลมุ /คะแนน กลุม/คะแนน กลุม /คะแนน 12345123451234512345 1. การทาํ งาน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 กลุม 2. ยอมรบั ความ 32222333333233323333 คดิ เหน็ 3. มน่ั ใจใน การ 33333333333333333333 ทํางาน 4. เหน็ ความ สําคญั ของงาน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 กลมุ 5. ความ สาํ เรจ็ ของงาน 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 6. การยอมรบั สมาชิก 2 3 3 3 3 2 3 3 3 2 3 3 3 3 3 2 3 2 3 3 7. ผลการ เรียนกบั การ 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 ทาํ งานกลุม 8. เน้อื หา 2 3 3 3 3 3 2 3 3 3 2 2 3 3 3 3 3 2 3 3 9. ผา น จดุ ประสงค 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 3 รวม 22222222222222222222 56666667766577757577

สรุป จากตารางจะเหน็ ไดว า จากการประเมินผลการดําเนนิ งานกลมุ ทกุ กลมุ ทุกคนชวยกนั ทาํ งาน เปน อยา งดี ไดคะแนนรวมแลว 21 คะแนนข้นึ ไปผาน ผลโดยภาพรวม 1. นักเรยี นปฏิบตั ิหนา ที่ตามทม่ี อบหมายดีมาก แกป ญ หานักเรยี นไมชว ยเหลอื รว มมือกับกลมุ และ ขาดความรับผิดชอบได 2. นักเรียนมพี ฤติกรรมการทาํ งานกลมุ ดีขน้ึ กลาคิด กลาพดู กลาแสดงออก และกลา เสนอแนะ 3. นักเรียนท่เี รียนเกง ยอมรับความคดิ เหน็ ของนักเรยี นทเ่ี รียนออ น 4. นกั เรียนทีเ่ รยี นออนเกดิ ความมัน่ ใจมากขึ้น 5. สมาชิกในกลมุ เห็นความสาํ คัญในการทาํ งานรวมกัน 6. สมาชิกในกลุม มีสวนรว มในความสาํ เรจ็ ของการทํางานกลุม รวมกันภาคภมู ใิ จ 7. สามารถแกป ญ หานกั เรยี นไมรบั เขา เปนสมาชิกกลมุ ได 8. สามารถแกปญหานกั เรียนกลุมออนทาํ งานไมมีประสิทธิภาพใหมีประสิทธิภาพได 9. สมาชกิ ทุกคนในกลุม ไดรบั ความรูดา นเนื้อหาเทา เทยี มกัน 10. นักเรียนมผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นรูสงู ขึน้ สรปุ ผลการวจิ ัย 1. การทาํ งานเปน กลุม ของนักเรยี นไดเรียนรรู ว มกนั อยา งแทจริง 2. นักเรยี นมผี ลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นรูสงู ขึน้

บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผล และขอเสนอแนะ วัตถุประสงคก ารวิจยั เพื่อแกปญหาการทํางานเปนกลุมของนักเรียนไดเรียนรูรวมกันอยางแทจริง และเพื่อใหมี ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นสงู ขน้ึ ประชากรและกลุมตัวอยา ง ประชากร ประชากรทใ่ี ชใ นการศึกษานักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/10 ประจาํ ปการศึกษา 2562 โรงเรียน ศขี รภูมพิ ิสัย จังหวัดสุรนิ ทร จํานวน 34 คน กลมุ ตัวอยา ง กลุมตัวอยางที่ใชในการศึกษาเปนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1/10 ประจําปการศึกษา 2562 โรงเรยี นศขี รภมู พิ ิสยั จํานวน 34 คน โดนใชวิธสี มุ แบบเจาะจง เครือ่ งมือใชเก็บรวบรวมขอมลู แบบประเมนิ การปฏบิ ัตหิ นา ทงี่ านกลุม แบบประเมินผลการดําเนินงานกลุม วิธรี วบรวมขอมูล ผูวิจัยเก็บรวบรวมขอมูลดวยตนเอง โดยนําแบบประเมินการปฏิบัติหนาที่งานกลุม และแบบ ประเมนิ ผลการดําเนนิ งานกลุม นักเรยี นกลุมตัวอยาง สรุปผล อภปิ รายผล จากการดําเนินการแกป ญ หาการทาํ งานเปน กลมุ ของนกั เรียนพบวา การจัดกลุมของนกั เรียนและ แบบคละความสามารถ หมุนเวียนสมาชิกและหนา ที่การทํางานภายในกลุมเดือนละ 1 ครั้ง การกําหนด บทบาทหนาที่ของสมาชกิ กลุม ตลอดจนการกําหนดกติกาการทํางานในกลุม มผี ลทําใหนักเรียนเกิดการ เรียนรรู ว มกันอยา งแทจริงและเกิดความรับผดิ ชอบตอ งานกลุมไมเ อาเปรยี บซ่ึงกันและกนั และมผี ลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นสงู ข้นึ นักเรียนมีโอกาสเปลีย่ นแปลงบทบาทหนาที่หลายหนาที่ไดรับความรูสึกของผูที่อยูใน บทบาทตางๆ และมีโอกาสแสดงความสารถมาที่หลากหลาย มีความรูสึกเปนสารถมาชิกกลุม มีสวน ภาคภูมิใจในความสําเร็จของกลุม และรวมกันรับผิดชอบตองานกลุมไดอยางมีประสิทธิภาพ ถือเปน

ความสําเร็จในการจัดการเรียนการสอนที่เนนนักเรียนเปนสําคัญ เพื่อสงเสริมใหนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงขึน้ เปน คนดี เปนคนเกง และมคี วามสขุ ขอเสนอแนะ วิชาภาษาไทย เปนวิชาที่มีเนื้อหาคอนขางมาก และบรรยากาศในหองเรียนไมเอื้อตอ การเรียน การสอน ขาดสอ่ื นวัตกรรมเอกสารประกอบการเรียน และวธิ ีการมอบหมายงานใหน ักเรียนทําเปนกลุม จึง จําเปนตองมีขอมูล เพราะนักเรียนบางคนไมรับผิดชอบในงานตนเองไดรับมอบหมาย เพราะฉะนั้นครู จะตองแบงกลุมนักเรียนใหมีความรับผิดชอบและทํางานรวมกันโดยไมเลี่ยงงาน และมีความรูสึกเปน สมาชิกกลุม มีสว นภาคภมู ิใจในความสําเร็จในงานของกลุม มีสวนชว ยใหงานในความรับผิดชอบตองาน กลมุ ไดอ ยา งมปี ระสิทธิภาพ เพื่อสง ผลใหน กั เรยี นมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนสงู ข้ึน

บรรณานุกรม กรมวชิ าการ.การจัดการเรียนรูแบบรวมมอื .กรุงเทพมหานคร:โรงพมิ พการศาสนา,2543. ทศิ นา แขมมณี. นวลจิตต เชาวกีรตพิ งศ. การเขยี นรายงานวจิ ัยในชั้นเรยี น. เอกสารอัดสําเนา, 2542. พระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหง ชาติ. พ.ศ. 2542. ราชกจิ จานเุ บกษา. เลม 116 ตอนท่ี 74 ก. หนา 17.19 สิงหาคม 2542. วัฒนาพร ระงบั ทกุ ข. การจัดการเรยี นการสอนทีเ่ นน ผูเ รียนเปนศนู ยก ลาง. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท เลฟิ แลนด ลิพเพรส จาํ กดั , 2541 เอกสารประกอบการบรรยายเรื่องหลักในการเรยี นการสอนที่เนน นกั เรยี นเปน ศนู ยกลาง.เอกสาร อัดสําเนา, 2542. Johnson, D.W. and others.Circles of leaning.Edna,mm : intearetion, 1990


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook