RESERVED WILDLIVE ช วิ น ป วี ณ์ ก ร ว า สุ เ ท พ รั ก ษ์ M.2/2 No. 6
คํา นํา “สัตว์สงวน”ผู้เขยี นจดั ทําขึนเพือสะทอ้ นใหเ้ หน็ สัตวท์ ีใกล้ จะสูญพันธ์เชน่ แมวลายหนิ ออ่ น,พะยูน, เกง้ หมอ้ , นก กระเรียน, เลียงผา, กวางผา ,ละอง ฯลฯ ซงึ นบั วันใกล้จะสูญ พันธ์เปนอยา่ งมากการศึกษาเรอื งนีจึงเล็งเหน็ ว่าเราควรทีจะ ปกปองและไมอ่ อกล่าสัตว์ทีหายากเพราะเปนสัตวท์ ใี กลจ้ ะสูญ พันธจ์ งึ ไมค่ วรทจี ะล่ามนั เราควรทจี ะปกปองมนั มากกวา่ ผ้จู ัดทาํ จึงเลง็ เหน็ วา่ การศึกษา เรืองนจี ะเปนประโยชนอ์ ย่าง ยงิ ตอ่ ผ้ทู สี นในในดา้ นนี ช วิ น ป วี ณ์ ก ร ว า สุ เ ท พ รั ก ษ์ M.2/2 No. 6
ส า ร บั ญ สัตว์สงวนหมายถึง 1-3 กฎกระทรวง 4 สัตวป์ าคุ้มครอง 6 สัตว์ปาทคี คุม้ ครองทีอนญุ าตให้เพาะเลยี ง 6 สัตวปานอกทีค้มุ ครองนอก 7 การอนญุ าตตา่ งๆ 7 หนังสือคาํ สังราชการ 10 ข้อหา้ มขอ้ บังคบั บางประการจากพระราชบญั ญติ 11 ทอี าศัยสัตวส์ งวน 12
1 สั ต ว ป า ส ง ว น บทนาํ สัตว์ปาสงวน หมายถึง สัตว์ปาทีหายาก กาํ หนดตามบญั ชี ท้ายพระราชบญั ญตั สิ งวนและคุ้มครองสัตวป์ า พ.ศ. 2503 จํานวน 9 ชนดิ เปนสัตวป์ าเลียงลกู ด้วยนมทงั หมด ไดแ้ ก่ แรด กระซู่ กปู รี ควายปา ละองหรือละมงั สมัน เนอื ทราย เลียงผา และกวางผา สัตว์ปาสงวนเปนสัตว์หายาก, ใกล้จะสูญพันธ์ุ หรอื อาจจะ สูญพันธ์ไุ ปแลว้ จึงจําเปนตอ้ งมบี ทบญั ญัติเขม้ งวดกวดขัน เพือปองกันไม่ให้เกดิ อันตรายแก่สัตวป์ าทียังมีชวี ิตอยหู่ รอื ซากสัตว์ปา ซึงอาจจะตกไปอยยู่ ังต่างประเทศด้วยการซือ ขาย ตอ่ มาเมอื สถานการณ์ของสัตว์ปาในประเทศไทย เปลยี นแปลงไป สัตวป์ าหลายชนิดมีแนวโนม้ ถกู คกุ คามเสียง ต่อการสูญพันธ์มุ ากยิงขึน ประกอบกับเพือใหเ้ กิดความ สอดคลอ้ งกบั ความรว่ มมือระหว่างประเทศในการ ควบคุม ดูแลการคา้ หรอื การลกั ลอบค้าสัตวป์ าในรปู แบบตา่ ง ๆ ตามอ นสุ ัญญาวา่ ด้วยการคา้ ระหวา่ งประเทศวา่ ดว้ ยชนดิ สัตวป์ า และพืชปาซึงประเทศไทยไดร้ ่วมลงนามรบั รองอนุสัญญาใน ป พ.ศ. 2518 และไดใ้ ห้สัตยาบัน เมอื วนั ที 21 มกราคม พ.ศ. 2526 นบั เปนสมาชกิ ลําดับที 80 จงึ ได้มีการพิจารณาแก้ไข ปรับปรงุ พระราชบัญญตั ฉิ บบั เดมิ และตราพระราชบญั ญตั ิ สงวนและคุ้มครองสัตวป์ า พ.ศ. 2535 ขนึ ใหม่เมือวนั ที 19 กุมภาพันธ์
2 สั ต ว ป า ส ง ว น สัตว์ปาสงวนตามในพระราชบญั ญัตฉิ บบั ใหม่ หมายถึง สัตวป์ าที หายากตามบญั ชีท้ายพระราชบญั ญตั ิฉบับนแี ละตามทีกําหนดโดย ตราเปนพระราชกฤษฎกี า ทาํ ใหส้ ามารถเปลียนแปลงชนดิ สัตวป์ า สงวนไดโ้ ดยสะดวกโดยออกเปนพระราชกฤษฎีกาแก้ไขหรอื เพิม เติมเทา่ นัน ไมต่ ้องถงึ กบั ตอ้ งแก้ไขพระราชบัญญัติอย่างของเดมิ ทังนไี ดม้ ีการเพิมเติมชนดิ สัตว์ปาทีมสี ภาพล่อแหลมต่อการสูญ พันธอุ์ ย่างยงิ 7 ชนดิ และตัดสัตว์ปาทีไม่อยู่ในสถานะใกล้จะสูญ พันธุ์ เนอื งจากการทสี ามารถเพาะเลียงขยายพันธ์ุได้มาก 1 ชนดิ คือ เนอื ทราย รวมกับสัตว์ปาสงวนเดิม 8 ชนิด รวมเปน 15 ชนดิ [1] ได้แก่ นกเจ้าฟาหญงิ สิรินธร (Pseudochelidon sirintarae) แรด (Rhinoceros sondaicus) กระซู่ (Dicerorhinus sumatrensis) กปู รหี รอื โคไพร (Bos sauveli) ควายปา (Bubalus bubalis) ละอง หรือละมงั (Rucervus eldi) สมัน หรอื เนือสมัน (Rucervus schomburki) เลียงผา หรือเยือง หรือกรู ํา หรอื โครํา (Capricornis sumatraensis) กวางผาจนี (Naemorhedus griseus) นกแต้วแร้วทอ้ งดํา (Pitta gurneyi)
3 สั ต ว ป า ส ง ว น นกกระเรยี นไทย (Grus antigone) แมวลายหินอ่อน (Pardofelis marmorata) สมเสรจ็ (Tapirus indicus) เก้งหม้อ (Muntiacus feai) พะยนู หรอื หมูนาํ (Dugong dugo
4 สั ต ว ป า ส ง ว น กฎกระทรวง กฏกระทรวง กําหนดชนดิ ของสัตว์ปาคมุ้ ครองให้เปนสัตว์ปา ชนิดทีเพาะพันธไุ์ ด้ พ.ศ. 2546 กฏกระทรวง กาํ หนดให้สัตว์ปาบางชนิดเปนสัตวป์ าค้มุ ครอง กฏกระทรวง กําหนดแบบและวธิ กี ารแจ้งการครอบครองสัตว์ ปาคุ้มครองและซากของสัตวป์ าคุม้ ครองการออกใบอนุญาต ใหค้ รอบครองสัตว์ปาคุ้มครองชวั คราว และการออกใบรังรอง การครอบครองซากของสัตว์ปาคุ้มครอง พ.ศ. 2550 กฏกระทรวง ฉบบั ที 2 (พ.ศ. 2537) ออกตามพระราชบัญญัติ สงวนและค้มุ ครองสัตวป์ า พ.ศ. 2535 กฏกระทรวง กาํ หนดอตั ราคา่ ธรรมเนยี มใบอนุญาตและใบรับ รอง พ.ศ. 2550 กฏกระทรวง กาํ หนดหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื นไขการขอ และการออกใบอนญุ าตในการเพาะพันธ์สุ ัตวป์ าสงวนหรือสัตว์ ปาคุ้มครอง การครอบครองและการนําเคลือนทีเพือการค้าซงึ สัตวป์ าคุ้มครองและซากของสัตวป์ าคุม้ ครองและการคา้ สัตว์ ปาคมุ้ ครองซากของสัตวป์ าค้มุ ครอง และผลิตภณั ฑ์ทีทาํ จาก ซากของสัตว์ปาคุ้มครอง พ.ศ. 2551 กฏกระทรวง ฉบับที 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามพระราช บญั ญตั สิ งวนและคมุ้ ครองสัตวป์ า พ.ศ. 2535
5 สั ต ว ป า ส ง ว น กฏกระทรวง ฉบับที 8 (พ.ศ. 2538) ออกตามพระราช บญั ญัตสิ งวนและคมุ้ ครองสัตวป์ า พ.ศ. 2535 กฏกระทรวง ฉบบั ที 9 (พ.ศ. 2540) ออกตามพระราช บญั ญตั ิสงวนและคุ้มครองสัตวป์ า พ.ศ. 2535 บัญชีสัตว์ปาคุ้มครอง แบบฟอร์มขอแจ้งการเปลยี นแปลงจาํ นวนสถานทีเลียงดสู ัตว์ ปา กฏกระทรวง กําหนดหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื นไข การขอ และการออกใบอนญุ าตในการเพาะพันธุ์ สัตวป์ าสงวนหรือ สัตวป์ าคุ้มครอง กฏกระทรวงกาํ หนดอัตราค่าทําเนียมใบอนุญาตและใบรบั รอง พ.ศ.2550 หลกั เกณฑ์การขอใชเ้ งินรายได้ของเขตรักษาพันธุ์หรอื เขตห้าม ลา่ สัตว์ปา ประกาศกรมปาไม้เรอื งการกําหนดอตั ราคา่ บริการหรือคา่ ตอบแทน ลงวันที 28 สิงหาคม พ.ศ.2545 ประกาศกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตว์ปา และพันธุ์พืช เรอื ง การ กาํ หนดแนวทางปฏบิ ตั ิเพือทดลองแก้ไขปญหาการทอ่ งเทยี วใน เขตรกั ษาพันธ์สุ ัตวป์ าอมุ้ ผาง จังหวัดตาก ประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปา และพันธพ์ุ ืช เรือง ปด เส้นทางตรวจการณไ์ มใ่ หย้ านพหนะเข้า-ออกในเขตรกั ษาพันธุ์ สัตวป์ าอ้มุ ผางจากหนว่ ยพิทักษ์ปาห้วยหนองหลวง ถงึ นาํ ตกที ลอซู
6 สั ต ว ป า ส ง ว น สัตว์ปาคุม้ ครอง หมายถงึ สัตวป์ าทกี ฎหมายกระทรวงกาํ หนดให้ เปนสัตวป์ าคมุ้ ครองเพือเปนการปองกนั มใิ หส้ ัตวป์ าบางชนดิ ต้อง สูญพันธ์ุ เปนสัตวเ์ ลียงลกู ด้วยนม 201 ชนดิ นก 952 ชนิด สัตว์ เลือคลาน 91 ชนิด สัตวส์ ะเทนิ นาํ สะเทินบก 12 ชนิด ปลา 14 ชนดิ แมลง 20 ชนดิ และ สัตวไ์ มม่ กี ระดูกสันหลงั 12 ชนิดจาก บทบญั ญัตใิ นมาตรา 5 และ มาตรา 17 แหง่ พระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตวป์ า พ.ศ.2535จึงได้ออกกฎกระทรวงกาํ หนดชนดิ ของสัตว์ปาคมุ้ ครองให้เปนสัตว์ปาชนดิ ทีเพาะพันธไุ์ ด้ พ.ศ.2546 แบ่งเปน 5 จาํ พวก ได้แก่ สัตวป์ าจาํ พวกสัตวเ์ ลียงลกู ด้วยนม สัตว์ปาจาํ พวกนก สัตว์ปาจาํ พวกสัตวเ์ ลอื ยคลาน สัตว์ปาจาํ พวกสัตวส์ ะเทินนาํ สะเทนิ บก สัตวป์ าจําพวกปลา จากบทบัญญัตใิ นมาตรา 5 และ มาตรา 17 แหง่ พระราชบัญญตั ิ สงวนและคุม้ ครองสัตว์ปา พ.ศ.2535 จงึ ได้ออกกฎกระทรวงกาํ หนดชนิดของสัตว์ปาคุม้ ครองใหเ้ ปนสัตว์ ปาชนิดทีเพาะพันธไ์ุ ด้ พ.ศ.2546 แบ่งเปน จาํ พวก ไดแ้ ก่ สัตวป์ าจาํ พวกสัตวเ์ ลยี งลกู ดว้ ยนม สัตว์ปาจําพวกนก สัตวป์ าจาํ พวกสัตวเ์ ลือยคลาน สัตวป์ าจาํ พวกสัตว์สะเทนิ นาํ สะเทนิ บก สัตวป์ าจาํ พวกปลา
7 สั ต ว ป า ส ง ว น สัตวป์ านอกคมุ้ ครอง แบง่ เปน 6 จาํ พวกได้แก่ สัตวป์ าจาํ พวกสัตวเ์ ลียงลกู ดว้ ยนม สัตวป์ าจําพวกนก สัตว์ปาจําพวกสัตวเ์ ลือยคลาน สัตว์ปาจาํ พวกสัตวส์ ะเทินนาํ สะเทินบก สัตว์ปาจําพวกปลา สัตวป์ าจําพวกสัตว์ไมม่ กี ระดูกสันหลงั การขออนญุ าตค้าสัตว์ปาคมุ้ ครองทีได้มาจากการเพาะพันธ์ุ ค่มู อื การขออนญุ าตเพาะพันธสุ์ ัตวป์ า เพาะพันธุส์ ัตว์ปาสงวนและสัตวป์ าค้มุ ครอง เพือประโยชนแ์ กก่ จิ การสวนสัตว์สาธารณะ หรือ เพาะพันธุส์ ัตว์ปาค้มุ ครองชนดิ ที อนญุ าตให้เพาะพันธไ์ุ ดเ้ พือประโยชน์แก่การคา้ บัญชีสัตวป์ าคมุ้ ครอง กฎกระทรวงกําหนดให้สัตวป์ าบางชนดิ เปนสัตว์ปาค้มุ ครอง พ.ศ. ๒๕๔๖ ขนั ตอนการปฏิบัตติ ามระเบยี บกรมปาไม้ ว่าดว้ ยการอนญุ าตให้ผู้ได้รบั อนญุ าต เก็บ รังนกอีแอน่ เขา้ ไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2532 คมู่ ือการขออนญุ าตเพาะพันธ์ุสัตวป์ า เพาะพันธ์สุ ัตว์ปาสงวน และสัตว์ปาค้มุ ครองเพือ ประโยชนแ์ ก่กจิ การสวนสัตว์สาธารณะ หรอื เพาะพันธุ์สัตว์ปาคุม้ ครองชนดิ ทีอนุญาต ให้เพาะพันธไุ์ ดเ้ พือประโยชน์แกก่ ารค้า บัญชีสัตวป์ าคมุ้ ครอง แบบฟอร์มขอแจง้ การเปลยี นแปลงจาํ นวนสถานทเี ลยี งดูสัตวป์ า การขออนุญาตให้เขา้ พืนทเี ขตรกั ษาพันธส์ุ ัตว์ปา/เขตห้ามล่าสัตว์ปา ขนั ตอนการขออนุญาตใหเ้ ข้าพืนทเี ขตรักษาพันธ์ุสัตว์ปา/เขตหา้ มล่าสัตว์ปา ดาวนโ์ หลดแบบฟอร์มทกี ําหนด
8 สั ต ว ป า ส ง ว น การขออนญุ าตถา่ ยทาํ ภาพยนต์ในพืนทเี ขตรักษาพันธ์สุ ัตวป์ า/เขตห้ามล่าสัตว์ปา คาํ ขออนญุ าตถา่ ยทําภาพยนตร์ในเขตรกั ษาพันธ์สุ ัตวป์ า และเขตห้ามลา่ สัตวป์ า เอกสารประกอบกรณีบรษิ ัทถา่ ยทาํ ในประเทศ ขอ้ ระเบยี บ กฎกระทรวง ฉบับที 7 คําสังกรมอุทยาน ที 1257 ประกาศกรมปาไม้ 6 สค 41 พระราชบญั ญัติสงวนและคมุ้ ครอง 2535 ระเบยี บกรมปาไม้ พศ.2540 ระเบยี บกรมปาไม้ พศ.2545 การสนับสนนุ พันธุส์ ัตว์ปา ขันตอนการขอรบั การสนับสนนุ พันธส์ุ ัตวป์ าการขออนญุ าตตา่ งๆ กระบวนการขออนุญาตใหเ้ ขา้ พืนทีเขตรักษาพันธสุ์ ัตว์ปาและเขตหา้ มลา่ สัตว์ กระบวนการอนญุ าตใหเ้ ขา้ ไปถา่ ยทําภาพยนต์ในเขตรกั ษาพันธส์ุ ัตว์ปา กระบวนการอนุญาตใหจ้ ัดตงั และดําเนินกจิ การสวนสัตว์สาธารณะ กระบวนการอนญุ าตใหค้ ้าสัตว์ปาค้มุ ครองทไี ดม้ าจากการเพาะพันธ์ุ กระบวนการปฏบิ ตั ิงานดา้ นสุขภาพสัตวป์ าและการจดั การสัตวป์ าของกลาง
9 สั ต ว ป า ส ง ว น หนังสือคาํ สังราชการ 1. แผนสร้างความโปร่งใสในการปฏบิ ตั ิราชการ กระบวนงานการขออนญุ าตถา่ ยทํา ภาพยนตใ์ นเขตรกั ษาพันธุ์สัตวป์ าและเขตห้ามล่าสัตวป์ าผา่ นระบบหนงั สือราชการ 2. ลักษณะสําคัญขององคก์ าร สํานกั อนรุ กั ษ์สัตวป์ า ประจําปงบประมาณ พ.ศ. 2557 3. แตง่ ตังคณะกรรมการอาํ นวยการชว่ ยเหลอื ประชาชนดา้ นสัตว์ปา จัดตังศูนยป์ ฏบิ ตั ิ การเฉพาะกิจช่วยเหลือประชาชนดา้ นสัตวป์ า และแต่งตงั เจา้ หน้าทีปฏบิ ตั งิ าน
10 สั ต ว ป า ส ง ว น ทีอยู่อาศัยของสัตวป์ าสงวน นกเจา้ ฟาหญงิ สิรินธร Pseudochelidon sirintarae ทีอยู่อาศัย : อาศัยอยตู่ ามดงออ้ และพืชนาํ ในบริเวณบึงบอระเพ็ด แรด Rhinoceros sondaicus ทอี ยอู่ าศัย: แรดอาศัยอยเู่ ฉพาะในบรเิ วณปาดบิ ชนื ทีมคี วามอุดมสมบรู ณ์ หรือตามปาทึบริมฝงทะเล ส่วนใหญจ่ ะ หากินอย่ตู ามพืนทรี าบ ไม่ค่อยขนึ บนภเู ขาสูง กระซู่ Dicerorhinus sumatrensis ทีอยู่อาศัย : กระซู่อาศัยอยู่ตามปาเขาทีมคี วามหนารกทึบ ลงมาอยใู่ นปาทรี าบตาํ ในตอนปลายฤดูฝนซึงในระยะนนั มีปรกั และนําอยู่ทัวไป กปู รหี รือโคไพร Bos sauveli ทีอย่อู าศัย : ปกตอิ าศัยอยตู่ ามปาโปร่ง ทีมที ุง่ หญา้ สลับกบั ปาเตง็ รังและในปาเบญจพรรณ ละองหรอื ละมงั Cervus eldi ทีอยู่อาศัย : ละองชอบอยตู่ ามปาโปร่ง และปาทงุ่ โดยเฉพาะปาทีมแี หลง่ นําขงั
11 สั ต ว ป า ส ง ว น ละองหรอื ละมงั Cervus eldi ทีอยู่อาศัย : ละองชอบอยู่ตามปาโปรง่ และปาทุ่ง โดยเฉพาะปาทีมแี หลง่ นําขัง สมันหรือเนือสมนั Cervus schomburki ทีอยู่อาศัย : สมันจะอาศัยเฉพาะในทุ่งโล่ง ไมอ่ ยตู่ ามปารกทึบ เนอื งจากเขามีกิงกา้ นสาขามาก จะเกยี วพันพันกับ เถาวัลยไ์ ดง้ า่ ย กวางผา Naemorhedus griseus ทอี าศัย : กวางผาจะอยูบ่ นยอดเขาสูงชันในทรี ะดับนําสูงชนั มากกว่า ๑,๐๐๐ เมตร นกแตว้ แลว้ ทอ้ งดาํ Pitta gurneyi ทีอยู่อาศัย : นกแต้วแลว้ ทอ้ งดาํ ชนดิ นีพบอาศัยอยูเ่ ฉพาะในบริเวณปาดงดิบตาํ นกกระเรียน Grus antigone ทอี ยู่อาศัย : ชอบอาศัยตามท่งุ หญา้ ทีชืนแฉะ และหนองบงึ ทีใกลป้ า เก้งหมอ้ Muntiacus feai ทอี ยูอ่ าศัย : ชอบอยูต่ ามลาดเขาในปาดงดิบและหบุ เขาทมี ีปาหนาทบึ และมีลําธารนําไหลผ่าน
12 สั ต ว ป า ส ง ว น พะยูนหรือหมูนาํ Dugong dugon ทีย่อู าศัย : ชอบอาศัยหากนิ พืชจําพวกหญ้าทะเลตามพืนท้องทะเลชายฝง ทังในเวลากลางวนั และกลางคืน เลียงผา,เยอื ง,กรู ํา,โครํา Capricornis sumatraensis ทีอาศัย : เลยี งผาอาศัยอยู่ตามภเู ขาทมี หี น้าผาสูงชันมีปาปกคลมุ
13 สั ต ว ป า ส ง ว น อา้ งองิ http://www.zoothailand.org/ewtadmin/ewt/ubon_th/ewt_news.php? user=wm&nid=489 http://www.verdantplanet.org/protect/protectedanimal.php
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: