Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

1

Published by 01 อมรรัตน์ เย็นลับ, 2022-08-17 06:10:24

Description: ivve

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาการวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวชิ า 30204-2003 ท–ป–น 2–2–3 ระดบั ชัน้ ปวส. ปีการศึกษา 2564 โดย นางสาวจุฑาพันธ์ วงศ์ปรดี ี ตาแหนง่ ครู วิทยาลยั เทคนคิ สวา่ งแดนดนิ อาชวี ศึกษาจงั หวดั สกลนคร สานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา

แผนการจัดการเรียนรู้ ช่อื วิชา การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหัสวชิ า 30204-2003 ท–ป–น 2–2–3 หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ช้ันสงู พทุ ธศักราช 2563 ประเภทวิชา บริการธุรกิจ สาขาวิชา เทคโนโลยธี ุรกิจดิจทิ ลั จัดทำโดย ครจู ุฑาพันธ์ วงศป์ รีดี แผนกวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ วทิ ยาลัยเทคนคิ สว่างแดนดิน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวิชา 30204-2003 เล่มนี้ได้ จัดทำขึ้นเพ่ือใช้เป็นคู่มือประกอบการสอน หรือเป็นแนวทางการสอนในรายวิชาเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2563 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ การจดั ทำได้มีการพัฒนาเพ่ือใหเ้ หมาะสมกับผู้เรียน โดยแบง่ เนือ้ หาออกเปน็ 9 หน่วย การจัดกิจกรรม การเรยี นการสอนยึดผู้เรยี นเป็นสำคัญ ซ่ึงมที ้ังภาคทฤษฎีและปฏบิ ัติ ไว้ในหน่วยการเรยี นรู้ตามความเหมาะสม สอดคลอ้ งกบั เน้ือหา มแี บบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น มีใบงานฝกึ ปฏิบัติ และสอ่ื การเรยี นการสอนต่าง ๆ เพือ่ ให้เกิดประสทิ ธผิ ลแก่ผู้เรยี นมากยิ่งขึ้น ผู้จัดทำหวังว่าแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ีคงจะเป็นแนวทางและเป็นประโยชน์ต่อครู-อาจารย์และ นกั เรยี น หากมขี ้อเสนอแนะประการใด ผจู้ ัดทำยินดีน้อมรับไว้เพ่อื ปรับปรงุ แกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป (นางสาวจุฑาพนั ธ์ วงศป์ รีดี)

สารบญั เรื่อง หนา้ หลกั สูตรรายวชิ า 1 ตารางวเิ คราะหร์ ายวชิ า 2 ตารางโครงการจัดการเรียนรู้ 3 หน่วยการเรียนรู้ 5 สมรรถนะย่อยและจุดประสงคก์ ารปฏบิ ัติ 7 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 ขน้ั ตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 13 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 หลกั การพ้ืนฐานและแนวคดิ เชิงวัตถุ 16 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 กระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ 19 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 โมเดลท่ีใช้ออกแบบเชิงวัตถุ 22 แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 5 หลกั การ UML Modeling 25 แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 6 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ด้วย Use Case Diagram 28 แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Sequence Diagram 31 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 8 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ด้วย Activity Diagram 34 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ด้วย Class Diagram 37

1 หลักสตู รรายวชิ า ชอื่ รายวชิ า การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วิชา 30204-2003 สาขาวิชา เทคโนโลยธี ุรกจิ ดิจิทลั ประเภทวิชา บริหารธุรกิจ จำนวน 3 หนว่ ยกติ จำนวนช่วั โมงรวม 72 ชั่วโมง ............................................... จดุ ประสงค์รายวิชา เพอื่ ให้ 1. เขา้ ใจหลกั การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วัตถุ หลกั การของ UML Modeling องค์ประกอบของ UML 2. มีทักษะในการวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วตั ถุ ออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ 3. มีเจตคตแิ ละกจิ นิสัยท่ีดใี นการปฏบิ ตั งิ านด้วยความรบั ผิดชอบ ซ่อื สตั ย์ ละเอียดรอบคอบ สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เก่ียวกบั หลกั การวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ 2. วิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วตั ถุตามหลักการ 3. ออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ โดยใช้หลักการของ UML คำอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับข้ันตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ หลักการพื้นฐานและแนวคิด เชิงวัตถุ กระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ โมเดลที่ใช้ออกแบบเชิงวัตถุ หลักการของ UML Modeling องคป์ ระกอบของ UML และการวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ

2 ตารางวเิ คราะหร์ ายวชิ า ช่อื วิชา การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหัสวิชา 30204-2003 ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้นั สงู (ปวส.) สาขาบรหิ ารธุรกจิ สาขาวชิ า เทคโนโลยีธรุ กิจดิจิทัล จำนวน 3 หนว่ ยกิต จำนวนชว่ั โมงรวม 72 ช่ัวโมง ลำดับ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ พฤตกิ รรมท่ีคาดหวงั ตอ่ การเรียนการสอน ที่ 1 ครง้ั ความรู้ ทักษะ จิตพิสัย รวม(ชม.) 1 ข้ันตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ 4 2 หลกั การพน้ื ฐานและแนวคิดเชงิ วตั ถุ 4 3 กระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ 4 4-5 โมเดลท่ีใชอ้ อกแบบเชงิ วตั ถุ 8 6 หลักการ UML Modeling 4 7-10 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ 16 ด้วย Use Case Diagram 11-12 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ 8 ดว้ ย Sequence Diagram 13-14 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ 8 ด้วย Activity Diagram 15-17 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ 12 ดว้ ย Class Diagram 18 การประเมินผลการเรียน 4 รวม 72

3 ตารางโครงการจัดการเรียนรู้ ชอ่ื รายวิชา การวเิ คราะห์และออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วิชา 30204-2003 จำนวน 3 หนว่ ยกติ จำนวนช่ัวโมงรวม 72 ชั่วโมง 2–2–3 (ท–ป–น) สปั ดาห์ที่ เร่ือง ปฏิบัติ จำนวนคาบ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ 1 ขน้ั ตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ แบบฝกึ หัดหน่วยที่ 1 40 2 หลักการพื้นฐานและแนวคดิ เชงิ วัตถุ แบบฝึกหัดหนว่ ยท่ี 2 40 40 3 กระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชงิ วัตถุ แบบฝกึ หดั หนว่ ยท่ี 3 44 40 4 โมเดลท่ีใชอ้ อกแบบเชงิ วตั ถุ แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 4 4 12 5 หลักการ UML Modeling แบบฝกึ หดั หนว่ ยที่ 5 44 6 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ แบบฝึกหดั หนว่ ยท่ี 6 44 ดว้ ย Use Case Diagram ใบงานฝกึ ปฏบิ ตั ิหน่วยท่ี 6 48 7 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 7 13 37 35 ด้วย Sequence Diagram ใบงานฝึกปฏบิ ัตหิ น่วยท่ี 7 72 8 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 8 ด้วย Activity Diagram ใบงานฝกึ ปฏิบัติหน่วยที่ 8 9 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 9 ด้วย Class Diagram ใบงานฝกึ ปฏบิ ตั ิหน่วยที่ 9 18 วัดผลและประเมินผลปลายภาค รวม รวม

4 หนว่ ยการเรยี นรู้ ชือ่ วชิ า การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 รวม 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ สัปดาห์ท่ี หน่วยที่ หนว่ ยการเรียนรู้ จำนวน 1 ชว่ั โมง 2 1 ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 3 4 1.1 ความหมายของการพัฒนาระบบสารสนเทศ 4 4-5 1.2 ข้ันตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 1.2.1 วงจรชวี ติ ของระบบสารสนเทศ 4 1.2.2 ขั้นตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ 1.2.3 รูปแบบและวิธีการพัฒนาระบบสารสนเทศ 8 1.2.4 แนวทางการปฏิบัติ (Methodologies) 2 หลักการพื้นฐานและแนวคดิ เชิงวตั ถุ 2.1 OOP (Object Oriented Program) 2.2 แนวคิดแบบ OOP 2.3 ความรเู้ กี่ยวกับ OOP 2.3.1 การเชื่อมตอ่ (Interface) 2.3.2 การนำวัตถมุ าใชใ้ หม่ (Reuse Object) 2.3.3 การพ้องรปู (Polymorphism) 2.4 ประโยชน์ของการโปรแกรม OOP 3 กระบวนการวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วตั ถุ 3.1 ความหมายของหลกั การวิเคราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ 3.2 กระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ 3.2.1 กระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ 3.2.2 ออบเจ็กต์ (Object) 3.2.3 คลาส (Class) 3.2.4 แอดตรบิ วิ ต์ (Attributes) 3.2.5 การดำเนนิ การหรือโอเปอเรชนั่ (Operation) หรือ เมธอด (Method) 3.2.6 การสบื ทอดคุณสมบัติ (Inheritance) 3.2.7 โพลิมอร์ฟสิ ซมึ (Polymorphism) 3.2.8 เอน็ แคปซูเลชัน (Encapsulation) 3.2.9 แอ็บสเตรคช่ัน (Abstraction) 4 โมเดลที่ใชอ้ อกแบบเชงิ วตั ถุ

4.1 ภาษา UML 5 4.2 องคป์ ระกอบของ UML 4.2.1. สญั ลักษณท์ ่ัวไป (Things) 4 4.2.2 ความสัมพนั ธ์ (Relationship) 4.2.3 ไดอะแกรมตา่ ง ๆ (Diagram) 4.3 ชนิดของไดอาแกรมใน UML 4.3.1 Use Case Diagrams 4.3.2 Class Diagrams 4.3.3 Sequence Diagrams 4.3.4 Collaboration Diagrams 4.3.5 State Diagrams (statechart) 4.3.6 Activity Diagram 4.3.7 Component Diagram 4.3.8 Deployment Diagram 4.3.9 Object Diagram 6 5 หลกั การ UML Modeling 5.1 หลักการ UML Modeling

6 หนว่ ยการเรยี นรู้ ช่อื วชิ า การเขียนโปรแกรมเชงิ วตั ถเุ บือ้ งต้น รหสั 20204-2108 รวม 4 ชั่วโมง/สัปดาห์ สปั ดาห์ที่ หนว่ ยที่ หนว่ ยการเรียนรู้ จำนวนชั่วโมง 7-10 6 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ดว้ ย Use 16 11-12 Case Diagram 6.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Use Case Diagram 6.1.1 ความหมายของ Use Case Diagram 6.1.2 สัญลกั ษณ์ Use Case Diagram 6.1.3 ความสัมพนั ธ์ใน Use Case Diagram 6.1.4 ขน้ั ตอนการสรา้ ง Use Case Diagram 6.2 ตัวอย่างการเขียน Use Case Diagram โปรแกรม ทางธุรกจิ - ตวั อยา่ งท่ี 1 Use Case Diagram โปรแกรมคา่ คอมมสิ ช่ัน - ตัวอยา่ งที่ 2 Use Case Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตวั อยา่ งท่ี 3 Use Case Diagram โปรแกรมการสัง่ ซอื้ พัสดุ–ครภุ ัณฑ์ - ตัวอยา่ งท่ี 4 Use Case Diagram โปรแกรมตวั แทนขายประกนั ภัยรถยนต์ภาคบังคบั (พ.ร.บ.) - ตวั อย่างท่ี 5 Use Case Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รับเงนิ 7 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย 8 Sequence Diagram 7.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Sequence Diagram 7.1.1 ความหมายของ Sequence Diagram 7.1.2 สัญลกั ษณ์ Sequence Diagram 7.1.3 ความสัมพนั ธใ์ น Sequence Diagram 7.1.4 ขน้ั ตอนการสร้าง Sequence Diagram

7 7.2 ตัวอยา่ งการเขียน Sequence Diagram โปรแกรม 8 ทางธรุ กิจ 12 - ตวั อย่างที่ 1 Sequence Diagram โปรแกรม ค่าคอมมิสช่นั - ตัวอยา่ งท่ี 2 Sequence Diagram โปรแกรม คำนวณเกรด - ตวั อย่างที่ 3 Sequence Diagram โปรแกรม การส่ังซอื้ พัสดุ–ครุภัณฑ์ - ตัวอย่างท่ี 4 Sequence Diagram โปรแกรม ตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ - ตัวอย่างท่ี 5 Sequence Diagram โปรแกรม ใบเสรจ็ รับเงิน 13-14 8 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Activity Diagram 8.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Activity Diagram 8.1.1 ความหมายของ Activity Diagram 8.1.2 สญั ลกั ษณ์ Activity Diagram 8.1.3 ความสัมพันธ์ใน Activity Diagram 8.1.4 ข้นั ตอนการสรา้ ง Activity Diagram 8.2 ตวั อยา่ งการเขียน Activity Diagram โปรแกรมทาง ธุรกิจ - ตวั อยา่ งท่ี 1 Activity Diagram โปรแกรมคา่ คอมมิสช่ัน - ตัวอยา่ งที่ 2 Activity Diagram โปรแกรม คำนวณเกรด - ตวั อย่างท่ี 3 Activity Diagram โปรแกรมการ สัง่ ซอื้ พสั ดุ–ครภุ ณั ฑ์ - ตวั อย่างที่ 4 Activity Diagram โปรแกรม ตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ภาคบงั คับ (พ.ร.บ.) - ตัวอยา่ งท่ี 5 Activity Diagram โปรแกรม ใบเสรจ็ รบั เงนิ 15-17 9 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย

8 Class Diagram 9.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Class Diagram 9.1.1 ความหมายของ Class Diagram 9.1.2 องค์ประกอบของ Class Diagram 9.1.3 ความสมั พนั ธ์ใน Class Diagram 9.1.4 ข้ันตอนการสร้าง Class Diagram จาก - ตัวอย่างการสร้าง Class Diagram โปรแกรม ทางธุรกิจ - ตัวอย่างท่ี 1 Class Diagram โปรแกรมค่าคอม มิสชน่ั - ตั ว อ ย่ าง ท่ี 2 Class Diagram โป ร แ ก ร ม คำนวณเกรด - ตัวอย่างที่ 3 Class Diagram โปรแกรมการ ส่งั ซ้อื พสั ดุ–ครภุ ณั ฑ์ - ตวั อย่างที่ 4 Class Diagram โปรแกรม ตัวแทนขายประกนั ภยั รถยนต์ภาคบังคบั (พ.ร.บ.) - ตั ว อ ย่ าง ที่ 5 Class Diagram โป ร แ ก ร ม ใบเสรจ็ รับเงนิ

9 สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงค์การปฏบิ ตั ิ ชอื่ วิชา การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วัตถุ รหสั วิชา 30204-2003 ท–ป–น 2–2–3 จำนวนคาบสอน 4 คาบ: สปั ดาห์ ระดับช้นั ปวส. ช่อื เร่อื ง สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ หนว่ ยที่ 1 ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) 1.1 ความหมายของการพฒั นาระบบสารสนเทศ 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับ ขัน้ ตอนการพัฒนาระบบ 1.2 ข้นั ตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ สารสนเทศ 1.2.1 วงจรชีวิตของระบบสารสนเทศ 1.2.2 ขน้ั ตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ จุดประสงคก์ ารปฏิบัติ (Behavioral Objectives) 1.2.3 รูปแบบและวธิ ีการพฒั นาระบบ 1. บอกความหมายของการพัฒนาระบบสารสนเทศได้ สารสนเทศ ถูกตอ้ ง 1.2.4 แนวทางการปฏิบัติ 2. บอกขน้ั ตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศไดถ้ กู ต้อง 3. อธบิ ายความสำคญั ของการวิเคราะหร์ ะบบ ไดถ้ ูกต้อง (Methodologies) 4. บอกวงจรชีวติ ของระบบสารสนเทศไดถ้ ูกตอ้ ง 5. อธบิ ายรปู แบบและวิธกี ารพฒั นาระบบสารสนเทศได้ หนว่ ยที่ 2 หลักการพ้ืนฐานและแนวคดิ เชงิ วัตถุ 2.1 OOP (Object Oriented Program) ถูกต้อง 6. บอกแนวทางการปฏบิ ัติ (Methodologies) ได้ถกู ตอ้ ง 2.2 แนวคิดแบบ OOP 2.3 ความรเู้ ก่ยี วกบั OOP สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกับ2 หลกั การพื้นฐานและแนวคิดเชงิ 2.3.1 การเชื่อมต่อ (Interface) 2.3.2 การนำวัตถุมาใช้ใหม่ (Reuse วตั ถุ Object) 2.3.3 การพ้องรปู จดุ ประสงค์การปฏิบตั ิ (Behavioral Objectives) (Polymorphism) 1. บอก OOP (Object Oriented Program) ได้ถูกต้อง 2.4 ประโยชนข์ องการโปรแกรม OOP 2. บอกแนวคดิ แบบ OOP ไดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกความรู้เกีย่ วกับ OOP ได้ถกู ตอ้ ง 4. บอกการเช่ือมตอ่ (Interface) ไดถ้ ูกตอ้ ง 5. บอกการนำวัตถุมาใช้ใหม่ (Reuse Object) ได้ถกู ต้อง 6. บอกการพ้องรูป (Polymorphism) ไดถ้ ูกตอ้ ง 7. บอกประโยชน์ของการโปรแกรม OOP ได้ถูกต้อง

10 สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ ชื่อวิชา การวเิ คราะห์และออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหัสวิชา 30204-2003 ท–ป–น 2–2–3 จำนวนคาบสอน 4 คาบ: สัปดาห์ ระดบั ช้นั ปวส. ชอื่ เรือ่ ง สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์การปฏิบตั ิ หนว่ ยท่ี 3 กระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 3.1 ความหมายของหลักการวเิ คราะห์และ 1. แสดงความร้เู ก่ียวกับกระบวนการวิเคราะห์และ ออกแบบเชงิ วตั ถุ ออกแบบเชิงวตั ถุ 3.2 กระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเชิง จุดประสงคก์ ารปฏบิ ัติ (Behavioral Objectives) วตั ถุ 1. บอกหลักการวิเคราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ ไดถ้ กู ตอ้ ง 2. บอกความหมายออบเจก็ ต์ (Object) ได้ถกู ตอ้ ง 3.2.1 กระบวนการวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ 3. บอกความหมายคลาส (Class) ไดถ้ ูกตอ้ ง วัตถุ 4. บอกความหมายแอดตรบิ ิวต์ (Attributes) ได้ถูกต้อง 5. บอกการดำเนนิ การหรอื โอเปอเรช่นั (Operation) หรือ 3.2.2 ออบเจก็ ต์ (Object) 3.2.3 คลาส (Class) เมธอด (Method) ไดถ้ ูกต้อง 3.2.4 แอดตริบวิ ต์ (Attributes) 6. บอกการสืบทอดคณุ สมบตั ิ (Inheritance) ได้ถกู ต้อง 3.2.5 การดำเนนิ การหรอื โอเปอเรชนั่ 7. บอกโพลมิ อรฟ์ สิ ซึม (Polymorphism) ได้ถูกตอ้ ง (Operation) หรอื เมธอด (Method) 8. บอกเอ็นแคปซเู ลชนั (Encapsulation) ไดถ้ ูกตอ้ ง 3.2.6 การสืบทอดคุณสมบตั ิ (Inheritance) 9. บอกแอ็บสเตรคช่ัน (Abstraction) ได้ถูกตอ้ ง 3.2.7 โพลมิ อร์ฟสิ ซมึ (Polymorphism) 10. บอกกระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ ได้ 3.2.8 เอ็นแคปซูเลชัน (Encapsulation) 3.2.9 แอบ็ สเตรคช่นั (Abstraction) ถกู ต้อง หน่วยท่ี 4 โมเดลที่ใช้ออกแบบเชงิ วัตถุ สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 4.1 ภาษา UML 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกบั โมเดลท่ีใชอ้ อกแบบเชงิ วตั ถุ 4.2 องค์ประกอบของ UML 4.2.1. สัญลักษณท์ ว่ั ไป (Things) จดุ ประสงค์การปฏิบัติ (Behavioral Objectives) 4.2.2 ความสมั พันธ์ (Relationship) 1. บอกภาษา UML ได้ถูกตอ้ ง 4.2.3 ไดอะแกรมต่าง ๆ (Diagram) 2. บอกขอ้ ดีของ UML ได้ถูกตอ้ ง 4.3 ชนิดของไดอาแกรมใน UML 3. บอกชนิดของไดอาแกรมใน UML ได้ถูกตอ้ ง 4.3.1 Use Case Diagrams 4. บอกความหมาย Use Case Diagrams ไดถ้ กู ตอ้ ง 4.3.2 Class Diagrams 5. บอกความหมาย Class Diagrams ไดถ้ ูกตอ้ ง 4.3.3 Sequence Diagrams 6. บอกความหมาย Sequence Diagrams ไดถ้ ูกตอ้ ง 4.3.4 Collaboration Diagrams 7. บอกความหมาย Collaboration Diagrams ได้ถูกต้อง 4.3.5 State Diagrams (statechart) 8. บอกความหมาย State Diagrams (statechart) ได้ 4.3.6 Activity Diagram 4.3.7 Component Diagram ถกู ตอ้ ง 9. บอกความหมาย Activity Diagram ได้ถูกต้อง

11 4.3.8 Deployment Diagram 10. บอกความหมาย Component Diagram ได้ถูกต้อง 4.3.9 Object Diagram 11. บอกความหมาย Deployment Diagram ได้ถกู ต้อง 12. บอกความหมาย Object Diagram ได้ถกู ตอ้ ง สมรรถนะยอ่ ยและจุดประสงค์การปฏิบตั ิ ช่อื วชิ า การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 ท–ป–น 2–2–3 จำนวนคาบสอน 4 คาบ: สปั ดาห์ ระดบั ชั้น ปวส. ชือ่ เรื่อง สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ัติ หนว่ ยท่ี 5 หลักการ UML Modeling สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) 1. แสดงความรู้เก่ียวกับหลักการ UML Modeling 5.1 หลักการ UML Modeling จดุ ประสงค์การปฏิบตั ิ (Behavioral Objectives) 1. บอกความหมายของ OOA (Object-Oriented Analysis) ได้ถูกตอ้ ง 2. บอกความหมายของ OOD (Object-Oriented Design) ได้ถกู ต้อง 3. บอกความหมายของ OOP (Object-Oriented Programming) ไดถ้ กู ต้อง 4. บอก Concept ของส่ิงต่างๆ ในโลกของวตั ถุทาง คอมพิวเตอร์ กบั วัตถใุ นโลกความจรงิ ได้ถูกตอ้ ง หนว่ ยท่ี 6 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรม สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) ทางธุรกจิ ดว้ ย Use Case Diagram 1. แสดงความรู้เก่ียวกับการวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรม 6.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ทางธุรกจิ ดว้ ย Use Case Diagram ด้วย Use Case Diagram 6.1.1 ความหมายของ Use Case Diagram จุดประสงค์การปฏิบัติ (Behavioral Objectives) 1. บอกความหมายของ Use Case Diagram ได้ถูกตอ้ ง 6.1.2 สญั ลกั ษณ์ Use Case Diagram 6.1.3 ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ใ น Use Case 2. เขียนสญั ลักษณ์ Use Case Diagram ได้ถูกต้อง 3. บอกความสัมพันธ์ใน Use Case Diagram ไดถ้ ูกต้อง Diagram 6.1.4 ข้ั น ต อ น ก า ร ส ร้ า ง Use Case 4. อธิบายขั้นตอนการสร้าง Use Case Diagram ไดถ้ ูกต้อง 5. ออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ด้วย Use Case Diagram Diagram 6.2 ตัวอย่างการเขียน Use Case Diagram โปรแกรม ไดถ้ ูกต้อง ทางธรุ กิจ - ตั ว อ ย่ า ง ที่ 1 Use Case Diagram โปรแกรมคา่ คอมมิสชั่น - ตั ว อ ย่ า ง ที่ 2 Use Case Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด

12 - ตั ว อ ย่ า ง ที่ 3 Use Case Diagram โปรแกรมการส่งั ซ้อื พัสดุ–ครุภณั ฑ์ - ตั ว อ ย่ า ง ที่ 4 Use Case Diagram โป ร แ ก ร ม ตั ว แ ท น ข า ย ป ร ะ กั น ภั ย ร ถ ย น ต์ ภ า ค บั ง คั บ (พ.ร.บ.) - ตั ว อ ย่ า ง ที่ 5 Use Case Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รบั เงิน

13 สมรรถนะยอ่ ยและจดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ัติ ชื่อวิชา การวเิ คราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหสั วิชา 30204-2003 ท–ป–น 2–2–3 จำนวนคาบสอน 4 คาบ: สัปดาห์ ระดับชนั้ ปวส. ช่ือเร่ือง สมรรถนะย่อยและจดุ ประสงค์การปฏบิ ตั ิ หนว่ ยที่ 7 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) ด้วย Sequence Diagram 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรม 7.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทาง ทางธุรกจิ ดว้ ย Sequence Diagram ธุรกจิ ดว้ ย Sequence Diagram จุดประสงค์การปฏบิ ัติ (Behavioral Objectives) 7.1.1 ความหมายของ Sequence 1. บอกความหมายของ Sequence Diagram ได้ Diagram ถูกต้อง 7.1.2 สญั ลักษณ์ Sequence Diagram 2. เขยี นสญั ลกั ษณ์ Sequence Diagram ได้ถกู ต้อง 7.1.3 ความสัมพันธใ์ น Sequence 3. บอกความสัมพนั ธใ์ น Sequence Diagram ได้ ถูกตอ้ ง Diagram 4. อธิบายขัน้ ตอนการสรา้ ง Sequence Diagram 7.1.4 ข้ันตอนการสรา้ ง Sequence ได้ถูกต้อง 5. ออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ด้วย Sequence Diagram Diagram ไดถ้ กู ตอ้ ง 7.2 ตัวอยา่ งการเขียน Sequence Diagram โปรแกรมทางธุรกจิ - ตัวอย่างที่ 1 Sequence Diagram โปรแกรมคา่ คอมมิสช่นั - ตวั อย่างท่ี 2 Sequence Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตวั อย่างท่ี 3 Sequence Diagram โปรแกรมการสง่ั ซื้อ พสั ดุ–ครุภณั ฑ์ - ตวั อยา่ งท่ี 4 Sequence Diagram โปรแกรมตัวแทนขายประกนั ภัยรถยนต์ภาค บงั คับ (พ.ร.บ.) - ตัวอยา่ งที่ 5 Sequence Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รับเงิน หนว่ ยที่ 8 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ สมรรถนะย่อย (Element of Competency) ด้วย Activity Diagram 1. แสดงความร้เู กี่ยวกับการวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรม 8.1 การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ทางธรุ กิจ ด้วย Activity Diagram ดว้ ย Activity Diagram

14 8.1.1 ความหมายของ Activity Diagram จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ (Behavioral Objectives) 8.1.2 สัญลักษณ์ Activity Diagram 1. บอกความหมายของ Activity Diagram ไดถ้ กู ตอ้ ง 8.1.3 ความสัมพันธใ์ น Activity Diagram 2. เขยี นสัญลักษณ์ Activity Diagram ไดถ้ กู ตอ้ ง 8.1.4 ข้ันตอนการสร้าง Activity Diagram 3. บอกความสมั พันธ์ Activity Diagram ได้ถกู ตอ้ ง 8.2 ตวั อยา่ งการเขียน Activity Diagram โปรแกรม 4. อธิบายข้ันตอนการสร้าง Activity Diagram ได้ถกู ต้อง ทางธุรกจิ 5. ออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ด้วย Activity Diagram ได้ ถูกตอ้ ง - ตัวอยา่ งท่ี 1 Activity Diagram โปรแกรม คา่ คอมมิสชน่ั - ตวั อย่างที่ 2 Activity Diagram โปรแกรม คำนวณเกรด - ตัวอย่างที่ 3 Activity Diagram โปรแกรม การส่ังซ้อื พัสดุ–ครภุ ณั ฑ์ - ตัวอยา่ งท่ี 4 Activity Diagram โปรแกรม ตวั แทนขายประกนั ภยั รถยนต์ภาคบงั คบั (พ.ร.บ.) - ตวั อยา่ งที่ 5 Activity Diagram โปรแกรม ใบเสรจ็ รับเงนิ หน่วยท่ี 9 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ สมรรถนะยอ่ ย (Element of Competency) ด้วย Class Diagram 1. แสดงความรเู้ กยี่ วกับการวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรม 9.1 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ทางธรุ กิจ ด้วย Class Diagram ดว้ ย Class Diagram จดุ ประสงค์การปฏิบัติ (Behavioral Objectives) 9.1.1 ความหมายของ Class Diagram 9.1.2 องค์ประกอบของ Class Diagram 1. บอกความหมายของ Class Diagram ไดถ้ ูกต้อง 9.1.3 ความสมั พันธ์ใน Class Diagram 2. เขยี นสญั ลกั ษณ์ Class Diagram ได้ถกู ตอ้ ง 9.1.4 ขน้ั ตอนการสร้าง Class Diagram จาก 3. บอกความสัมพันธ์ Class Diagram ไดถ้ ูกตอ้ ง - ตัวอย่างการสร้าง Class Diagram โปรแกรม 4. อธบิ ายขนั้ ตอนการสรา้ ง Class Diagram ได้ ทางธรุ กิจ ถกู ตอ้ ง - ตัวอย่างที่ 1 Class Diagram โปรแกรมค่า คอมมสิ ชัน่ 5. ออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Class Diagram ไดถ้ ูกตอ้ ง - ตวั อย่างท่ี 2 Class Diagram โปรแกรม คำนวณเกรด - ตวั อย่างที่ 3 Class Diagram โปรแกรมการ สง่ั ซอื้ พสั ดุ–ครภุ ัณฑ์ - ตวั อย่างท่ี 4 Class Diagram โปรแกรม ตัวแทนขายประกนั ภัยรถยนตภ์ าคบงั คับ (พ.ร.บ.) - ตวั อย่างท่ี 5 Class Diagram โปรแกรม ใบเสร็จรับเงิน

15 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 หน่วยที่ 1 ช่ือวชิ า การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 เวลาเรยี นรวม 72 คาบ สอนครัง้ ที่ 1/18 ช่อื หนว่ ย ขนั้ ตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ จำนวน 4 คาบ ชือ่ เรื่อง ข้นั ตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ หัวขอ้ เร่ือง 1.1 ความหมายของการพฒั นาระบบสารสนเทศ 1.2 ข้นั ตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ 1.2.1 วงจรชวี ติ ของระบบสารสนเทศ 1.2.2 ข้ันตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 1.2.3 รูปแบบและวิธกี ารพัฒนาระบบสารสนเทศ 1.2.4 แนวทางการปฏิบตั ิ (Methodologies) สาระสำคญั /แนวคดิ สำคญั การพัฒนาระบบสารสนเทศ เพ่ือเป็นการสร้างระบบงานใหม่หรือปรับปรุงระบบงานเดิมให้ดีกว่าที่ เป็นอยู่ การเปลี่ยนแปลงกระบวนการบริหารและการปฏิบัติงาน จำเป็นต้องพัฒนาหรือปรับปรุงระบบ สารสนเทศ ที่สามารถช่วยในขั้นตอนการปฏิบัติงานภายในและกระบวนการบรหิ ารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การเปล่ียนแปลงทางด้านเทคโนโลยี เพื่อท่ีจะเกิดการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาปรับปรุงและประยกุ ต์ใช้ กับระบบงานเดิมทีม่ อี ยู่แลว้ การปรับองคก์ ารและสร้างความได้เปรียบในการแขง่ ขัน เพ่ือสามารถตอบสนองต่อ การเปลีย่ นแปลงสภาพแวดล้อมทางธรุ กจิ ได้อย่างรวดเรว็ และสร้างความได้เปรยี บในการแขง่ ขนั โดยท่วั ไปการ พัฒนาระบบข้ึนกบั ส่ิงเหล่านี้ ไดแ้ ก่ กระบวนการทางธรุ กิจ วัตถุประสงค์ เป้าหมาย ข้ันตอนในการดำเนินธุรกิจ แนวทางของระบบสารสนเทศที่จะพัฒนาบุคลากรที่ให้ความร่วมมือในการพัฒนา วิธีการและเทคนิคในการ พัฒนา ซึ่งมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกัน เทคโนโลยีที่ต้องมีการพิจารณาให้รอบคอบเน่ืองจากมีให้เลือกใช้ มากมาย ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมต่อการใช้งาน ค่าใช้จ่ายและส่วนต่างๆ งบประมาณ ที่ต้องจัดเตรียมไว้ รองรับล่วงหน้า ข้อมูลและโครงสร้างพ้ืนฐานภายในองค์การเพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวก ในการใช้ ระบบการใช้ข้อมูลร่วมกันและ การติดต่อส่ือสาร การบริหารโครงการ การพัฒนาระบบสารสนเทศจึงเป็นส่ิง สำคัญในการพฒั นาเพือ่ ป้องกันไม่ใหก้ ารพฒั นาล่าช้าและเกินงบประมาณ สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกบั ขนั้ ตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ ด้านความรู้และทักษะ 1. บอกความหมายของการพฒั นาระบบสารสนเทศไดถ้ ูกต้อง

16 2. บอกขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศได้ถกู ตอ้ ง 3. อธบิ ายความสำคัญของการวิเคราะห์ระบบ ไดถ้ ูกตอ้ ง 4. บอกวงจรชวี ิตของระบบสารสนเทศได้ถกู ตอ้ ง 5. อธิบายรูปแบบและวธิ กี ารพฒั นาระบบสารสนเทศได้ถกู ต้อง 6. บอกแนวทางการปฏิบัติ (Methodologies) ได้ถูกต้อง เนือ้ หาสาระ 1.1 ความหมายของการพฒั นาระบบสารสนเทศ 1.2 ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 1.2.1 วงจรชีวิตของระบบสารสนเทศ 1.2.2 ขั้นตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 1.2.3 รปู แบบและวิธีการพัฒนาระบบสารสนเทศ 1.2.4 แนวทางการปฏบิ ัติ (Methodologies ส่ือการเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รปู UML Diagram โดยเข้าเวบ็ www.draw.io 2. วชิ า การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วัตถุ รหสั วชิ า 30204-2003 ผูเ้ รยี บเรียง วราภรณ์ อุ้มอังวะ บรษิ ทั ศนู ยห์ นังสอื เมืองไทย จำกดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 1/18) เวลาโดยประมาณ กิจกรรม 10 นาที 15 นาที 1. ครูขานชอ่ื นกั เรียน 15 นาที 2. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) 120 นาที 3. ข้ันนำ รว่ มสนทนาเกี่ยวกบั เร่ือง ข้ันตอนการพฒั นาระบบสารสนเทศ 30 นาที 50 นาที 4. ขั้นสอน บอกจุดประสงค์การเรียน บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธีการปฏิบัติ ในแตล่ ะหวั ขอ้ การเรยี น และใหน้ กั ศึกษาปฏิบตั ิไปพรอ้ มกนั 240 นาที 5. นักเรียนอภปิ รายรว่ มกนั ในประเด็น ขนั้ ตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ 6. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดหน่วยที่ 1 หลังนกั เรียนทำเสร็จแล้วเฉลย แบบฝึกหดั และให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หน่วยท่ี 1 รวม การวัดผลและประเมนิ ผล การประเมินผล การวดั ผล (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) (ใชเ้ ครอ่ื งมอื ) (ไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลังเรยี น) เกณฑผ์ ่าน 50% 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) หน่วยที่ 1 เกณฑ์ผา่ น 50% 2. แบบฝกึ หัดหน่วยที่ 1 เกณฑ์ผา่ น 50% 3. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หนว่ ยท่ี 1 4. แบบประเมนิ คณุ ธรรม จริยธรรม ตามสภาพจริง

17 งานทม่ี อบหมาย ค้นคว้าเร่อื ง ขน้ั ตอนการพัฒนาระบบสารสนเทศ ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสำเรจ็ ของผ้เู รียน 1. คะแนนจากแบบฝึกหัดหน่วยท่ี 1 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หน่วยที่ 1 3. รายงานทไ่ี ด้จากการค้นควา้ เอกสารอา้ งอิง 1. การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวชิ า 30204-2003 ผเู้ รยี บเรยี ง วราภรณ์ อุ้มอังวะ บรษิ ทั ศนู ยห์ นังสือเมอื งไทย จำกดั 2. เว็บไซต์ที่เกีย่ วข้อง www.draw.io

18 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

19 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 หน่วยที่ 2 ชื่อวิชา การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 เวลาเรยี นรวม 72 คาบ สอนคร้ังที่ 2/18 ช่ือหน่วย หลักการพน้ื ฐานและแนวคดิ เชงิ วัตถุ จำนวน 4 คาบ ชือ่ เร่อื ง หลักการพื้นฐานและแนวคิดเชิงวัตถุ หวั ขอ้ เรอ่ื ง 2.1 OOP (Object Oriented Program) 2.2 แนวคิดแบบ OOP 2.3 ความรเู้ ก่ยี วกบั OOP 2.3.1 การเชอ่ื มตอ่ (Interface) 2.3.2 การนำวตั ถุมาใช้ใหม่ (Reuse Object) 2.3.3 การพอ้ งรูป (Polymorphism) 2.4 ประโยชนข์ องการโปรแกรม OOP สาระสำคญั /แนวคดิ สำคัญ หลักการพ้ืนฐานและแนวคิดเชิงวัตถุ โดยหลักการวิเคราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ จากปัญหาหรือ ข้อจำกัดของการพัฒนาเชิงกระบวนการ (Procedural approach) คือวิธีการขั้นตอนซ่ึงจะต้องมีการระบุ เฉพาะเจาะจงถึงขั้นตอนของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทีละขน้ั ตอน ทำให้โปรแกรมเมอร์ตอ้ งสนใจในรายละเอียด แต่ละข้ันเป็นอย่างมาก โปรแกรมที่ได้ก็จะให้ผลที่ดีกับงานเฉพาะด้านเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้กับงาน ประเภทอ่ืนๆ ได้ ดงั น้นั แนวคิดเชิงวตั ถุจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างเหมาะสมกับโลก แหง่ ความจรงิ โดยจะใช้ได้กบั งานหลากหลายประเภท การวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวัตถุ จะพิจารณาระบบเป็นกล่มุ ของวัตถุโดยประกอบด้วย ขอ้ มูล ฟังชัน ตัวดำเนินการ ทำให้สามารถโยกยา้ ยปรับเปลย่ี นแต่ละวัตถุโดยไมก่ ระทบสว่ นอ่นื ทำให้สามารถนำแตล่ ะวัตถุไป ใช้กับโครงการอนื่ ได้ โดยทแี่ นวคิดเชิงวตั ถุ ก็คือหนึ่งในรปู แบบการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ี่ให้ความสำคัญ กับวัตถุ ซ่ึงสามารถนำมาประกอบกนั และนำมาทำงานรวมกันได้ โดยมีความสมั พนั ธก์ ันในแตล่ ะส่วน สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกับหลกั การพ้นื ฐานและแนวคิดเชงิ วตั ถุ จดุ ประสงคก์ ารปฏิบัติ 1. บอก OOP (Object Oriented Program) ได้ถูกตอ้ ง 2. บอกแนวคดิ แบบ OOP ได้ถกู ตอ้ ง

3. บอกความรู้เก่ียวกบั OOP ได้ถูกตอ้ ง 20 4. บอกการเชื่อมตอ่ (Interface) ไดถ้ ูกต้อง 5. บอกการนำวัตถมุ าใช้ใหม่ (Reuse Object) ได้ถูกตอ้ ง เวลาโดยประมาณ 6. บอกการพ้องรูป (Polymorphism) ได้ถกู ตอ้ ง 10 นาที 7. บอกประโยชนข์ องการโปรแกรม OOP ไดถ้ กู ตอ้ ง 15 นาที 15 นาที เนือ้ หาสาระ 60 นาที - 2.1 OOP (Object Oriented Program) 50 นาที 2.2 แนวคดิ แบบ OOP 240 นาที 2.3 ความรู้เก่ยี วกับ OOP 2.3.1 การเช่อื มต่อ (Interface) 2.3.2 การนำวัตถุมาใช้ใหม่ (Reuse Object) 2.3.3 การพอ้ งรปู (Polymorphism) 2.4 ประโยชนข์ องการโปรแกรม OOP ส่ือการเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รูป UML Diagram โดยเข้าเว็บ www.draw.io 2. วชิ า การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหัสวิชา 30204-2003 ผู้เรียบเรยี ง วราภรณ์ อุ้มอังวะ บรษิ ทั ศูนย์หนงั สือเมอื งไทย จำกัด กิจกรรมการเรยี นรู้ (สัปดาหท์ ่ี 2/18) กิจกรรม 1. ครูขานช่อื นกั เรยี น 2. ครูให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) 3. ขั้นนำ ครนู ำเข้าสูบ่ ทเรยี นด้วยการสนทนา เก่ียวกับหลักการพน้ื ฐานและแนวคดิ เชิงวัตถุ 4. ข้ันสอน บอกจุดประสงค์การเรียน บรรยาย อธิบาย ยกตวั อยา่ ง แสดงวิธกี ารปฏบิ ัติ ในแตล่ ะหัวขอ้ การเรียน และใหน้ ักศกึ ษาปฏบิ ัตไิ ปพรอ้ มกนั 5. นกั เรยี นปฏบิ ัติโดยใชใ้ บงานที่ - 6. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั หน่วยที่ 2 หลังนกั เรียนทำเสร็จแล้วเฉลย แบบฝึกหดั และใหท้ ำแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หน่วยท่ี 2 รวม

21 การวัดผลและประเมินผล การประเมนิ ผล การวัดผล (นำผลเทียบกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) (ใช้เคร่อื งมือ) (ไว้เปรยี บเทยี บกับคะแนนสอบหลงั เรียน) เกณฑผ์ า่ น 50% 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) หนว่ ยที่ 2 เกณฑ์ผ่าน 50% 2. แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 2 สำเร็จ/ไมส่ ำเรจ็ 3. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หน่วยท่ี 2 4. โปรแกรมท่ไี ดจ้ ากใบงาน งานทม่ี อบหมาย งานทม่ี อบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ไม่มี ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น 1. แบบฝึกหดั หน่วยที่ 2 2. คะแนนแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 2 เอกสารอา้ งอิง 1. การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหัสวิชา 30204-2003 2. เว็บไซตท์ เี่ ก่ยี วข้อง www.draw.io ผ้เู รียบเรยี ง วราภรณ์ อุม้ องั วะ บรษิ ัท ศูนย์หนังสอื เมอื งไทย จำกัด

22 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

23 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 หน่วยที่ 3 ชอ่ื วชิ า การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชอ่ื หนว่ ย กระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ สอนครั้งที่ 3/18 ช่ือเรื่อง กระบวนการวิเคราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ จำนวน 4 คาบ หวั ขอ้ เรือ่ ง 3.1 ความหมายของหลกั การวเิ คราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ 3.2 กระบวนการวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชิงวัตถุ 3.2.1 กระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชงิ วัตถุ 3.2.2 ออบเจ็กต์ (Object) 3.2.3 คลาส (Class) 3.2.4 แอดตรบิ ิวต์ (Attributes) 3.2.5 การดำเนินการหรอื โอเปอเรชน่ั (Operation) หรือ เมธอด (Method) 3.2.6 การสืบทอดคุณสมบัติ (Inheritance) 3.2.7 โพลมิ อรฟ์ สิ ซึม (Polymorphism) 3.2.8 เอน็ แคปซูเลชัน (Encapsulation) 3.2.9 แอ็บสเตรคชั่น (Abstraction) แนวคดิ สำคัญ การวเิ คราะห์และออกแบบเชงิ วตั ถุ จะพิจารณาระบบเปน็ กลุ่มของวัตถุโดยประกอบด้วย ขอ้ มลู ฟงั ชัน ตวั ดำเนินการ ทำให้สามารถโยกย้ายปรับเปล่ียนแต่ละวัตถุโดยไม่กระทบส่วนอ่ืน ทำให้สามารถนำแต่ละวัตถุไปใช้กับโครงการอ่ืนได้ โดยท่ี แนวคิดเชิงวัตถุ ก็คือหนึ่งในรปู แบบการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ่ีให้ความสำคญั กบั วตั ถุ ซ่งึ สามารถนำมาประกอบกนั และ นำมาทำงานรวมกันได้ โดยมีความสัมพันธ์กันในแต่ละส่วน จากแนวคิดดังกล่าวได้นำมาใช้ในกระบวนการวิเคราะห์และ ออกแบบเชงิ วัตถุ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความร้เู กี่ยวกบั กระบวนการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชิงวัตถุ จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ตั ิ 1. บอกหลักการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชิงวัตถุ ไดถ้ กู ต้อง 2. บอกความหมายออบเจ็กต์ (Object) ได้ถูกตอ้ ง 3. บอกความหมายคลาส (Class) ได้ถกู ตอ้ ง 4. บอกความหมายแอดตรบิ วิ ต์ (Attributes) ได้ถกู ตอ้ ง 5. บอกการดำเนินการหรือโอเปอเรช่นั (Operation) หรือ เมธอด (Method) ไดถ้ ูกตอ้ ง

24 6. บอกการสบื ทอดคุณสมบัติ (Inheritance) ได้ถกู ตอ้ ง 7. บอกโพลมิ อร์ฟิสซึม (Polymorphism) ได้ถกู ตอ้ ง 8. บอกเอ็นแคปซเู ลชัน (Encapsulation) ไดถ้ กู ต้อง 9. บอกแอ็บสเตรคช่นั (Abstraction) ได้ถูกต้อง 10. บอกกระบวนการวเิ คราะห์และออกแบบเชิงวตั ถุ ได้ถูกต้อง เนื้อหาสาระ 3.1 ความหมายของหลกั การวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วัตถุ 3.2 กระบวนการวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วัตถุ 3.2.1 กระบวนการวิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วัตถุ 3.2.2 ออบเจก็ ต์ (Object) 3.2.3 คลาส (Class) 3.2.4 แอดตรบิ วิ ต์ (Attributes) 3.2.5 การดำเนนิ การหรือโอเปอเรชั่น (Operation) หรอื เมธอด (Method) 3.2.6 การสืบทอดคุณสมบัติ (Inheritance) 3.2.7 โพลิมอรฟ์ สิ ซึม (Polymorphism) 3.2.8 เอน็ แคปซเู ลชนั (Encapsulation) 3.2.9 แอ็บสเตรคชั่น (Abstraction) ส่ือการเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รูป UML Diagram โดยเข้าเว็บ www.draw.io 2. วชิ า การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวชิ า 30204-2003 ผูเ้ รียบเรียง วราภรณ์ อุ้มองั วะ บริษทั ศูนย์หนงั สอื เมอื งไทย จำกดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ที่ 3/18) กิจกรรม เวลาโดยประมาณ 1. ครขู านช่ือนักเรียน 10 นาที 2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) 15 นาที 3. ข้ันนำ ครูนำเข้าสู่บทเรยี นด้วยการสนทนา การซกั ถาม 15 นาที 4. ข้ันสอน บอกจุดประสงคก์ ารเรียน บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อย่าง แสดงวิธีการปฏิบัติ 100 นาที ในแต่ละหัวขอ้ การเรยี น และใหน้ กั ศกึ ษาปฏิบัติไปพร้อมกัน เรื่องของกระบวนการ วิเคราะหแ์ ละออกแบบเชงิ วัตถุ 60 นาที 5. นักเรยี นปฏบิ ตั โิ ดยใชใ้ บงานที่ 3 โดยคำแนะนำของครู 40 นาที 6. ขั้นสรุป ครูแนะนำสรปุ ความสำคัญของกระบวนการวเิ คราะหแ์ ละออกแบบเชิง 240 นาที วตั ถใุ ห้นกั เรียนเขา้ ใจ รวม

25 การวัดผลและประเมินผล การประเมนิ ผล (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) การวดั ผล (ไว้เปรียบเทยี บกบั คะแนนสอบหลังเรียน) (ใช้เครื่องมอื ) สำเร็จ/ไม่สำเรจ็ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) หน่วยที่ 3 เกณฑผ์ ่าน 50% 2. โปรแกรมท่ไี ด้จากใบงาน - เกณฑผ์ ่าน 50% 3. แบบฝกึ หดั หน่วยท่ี 3 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หนว่ ยท่ี 3 งานทม่ี อบหมาย งานท่มี อบหมายนอกเหนอื เวลาเรยี น ไม่มี ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รียน แบบฝึกหดั คะแนนแบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หน่วยท่ี 3 เอกสารอา้ งอิง 1. การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวิชา 30204-2003 2. เวบ็ ไซตท์ ่เี ก่ียวข้อง www.draw.io ผู้เรียบเรียง วราภรณ์ อ้มุ องั วะ บริษัท ศูนย์หนงั สอื เมอื งไทย จำกดั

26 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

27 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 หน่วยท่ี 4 ช่อื วชิ า การวเิ คราะห์และออกแบบระบบเชงิ วัตถุ รหสั วิชา 30204-2003 เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชื่อหนว่ ย โมเดลท่ีใชอ้ อกแบบเชิงวตั ถุ สอนครงั้ ท่ี 4-5/18 ชอ่ื เร่ือง โมเดลทใ่ี ช้ออกแบบเชงิ วตั ถุ จำนวน 8 คาบ หวั ข้อเรอ่ื ง 4.1 ภาษา UML 4.2 องคป์ ระกอบของ UML 4.2.1. สญั ลกั ษณ์ท่ัวไป (Things) 4.2.2 ความสมั พันธ์ (Relationship) 4.2.3 ไดอะแกรมตา่ ง ๆ (Diagram) 4.3 ชนิดของไดอาแกรมใน UML 4.3.1 Use Case Diagrams 4.3.2 Class Diagrams 4.3.3 Sequence Diagrams 4.3.4 Collaboration Diagrams 4.3.5 State Diagrams (statechart) 4.3.6 Activity Diagram 4.3.7 Component Diagram 4.3.8 Deployment Diagram 4.3.9 Object Diagram แนวคดิ สำคญั การสร้างแบบจำลอง (Modeling) เปน็ วธิ กี ารวิเคราะห์ และออกแบบ (Analysis and Design) วิธีการหนึ่งท่ีเน้นการ สร้างแบบจำลอง เพื่อให้สามารถเข้าใจในปัญหาของระบบใช้เป็นเคร่ืองมือในการส่ือสาร แนวคิดในการพฒั นาระบบกับบุคคล อื่นๆ จะใช้ Visual Modeling คือใชส้ ญั ลักษณ์รูปภาพในการสรา้ งแบบจำลอง สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู้เก่ยี วกบั โมเดลท่ใี ช้ออกแบบเชิงวตั ถุ จุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ 1. บอกภาษา UML ได้ถูกตอ้ ง 2. บอกข้อดีของ UML ได้ถกู ตอ้ ง 3. บอกชนิดของไดอาแกรมใน UML ไดถ้ ูกต้อง 4. บอกความหมาย Use Case Diagrams ได้ถกู ต้อง 5. บอกความหมาย Class Diagrams ได้ถูกต้อง 6. บอกความหมาย Sequence Diagrams ได้ถูกต้อง

28 7. บอกความหมาย Collaboration Diagrams ได้ถูกต้อง 8. บอกความหมาย State Diagrams (statechart) ไดถ้ ูกต้อง 9. บอกความหมาย Activity Diagram ได้ถกู ตอ้ ง 10. บอกความหมาย Component Diagram ได้ถกู ตอ้ ง 11. บอกความหมาย Deployment Diagram ไดถ้ ูกตอ้ ง 12. บอกความหมาย Object Diagram ไดถ้ กู ตอ้ ง เนอ้ื หาสาระ 4.1 ภาษา UML 4.2 องคป์ ระกอบของ UML 4.2.1. สัญลกั ษณ์ทวั่ ไป (Things) 4.2.2 ความสัมพันธ์ (Relationship) 4.2.3 ไดอะแกรมต่าง ๆ (Diagram) 4.3 ชนดิ ของไดอาแกรมใน UML 4.3.1 Use Case Diagrams 4.3.2 Class Diagrams 4.3.3 Sequence Diagrams 4.3.4 Collaboration Diagrams 4.3.5 State Diagrams (statechart) 4.3.6 Activity Diagram 4.3.7 Component Diagram 4.3.8 Deployment Diagram 4.3.9 Object Diagram สื่อการเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รปู UML Diagram โดยเข้าเวบ็ www.draw.io 2. วชิ า การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหัสวชิ า 30204-2003 ผเู้ รียบเรียง วราภรณ์ อมุ้ องั วะ บรษิ ทั ศนู ย์หนงั สือเมืองไทย จำกัด

29 กิจกรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 4-5/18) กจิ กรรม เวลาโดยประมาณ 1. ครูขานช่อื นกั เรียน 10 นาที 2. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) 15 นาที 3. ขน้ั นำ ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นดว้ ยการสนทนา ทบทวนหน่วยการเรียนท่ผี า่ น 15 นาที มาแลว้ 4. ขัน้ สอน บอกจุดประสงคก์ ารเรยี น บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดง 90 นาที วธิ ีการปฏบิ ัตใิ นแตล่ ะหวั ข้อการเรยี น และใหน้ ักศึกษาปฏบิ ตั ไิ ปพร้อมกนั 5. ครูใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ิ - 90 นาที 6. ครูสรุปเนอ้ื หาร่วมกบั นักเรยี น 20 นาที 240 นาที รวม การวัดผลและประเมินผล การวัดผล การประเมนิ ผล (ใชเ้ ครอ่ื งมือ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑแ์ ละแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น (Pre-test) หนว่ ยที่ 4 (ไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลงั เรยี น) 2. แบบฝึกหัดหน่วยท่ี 4 เกณฑผ์ ่าน 50% 3. แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test) หนว่ ยท่ี 4 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. โปรแกรมท่ีได้ - สำเร็จ/ไมส่ ำเรจ็ งานทีม่ อบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนอื เวลาไม่มี ผลงาน/ช้ินงาน/ความสำเร็จของผูเ้ รยี น เอกสารอา้ งอิง 1. การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชงิ วัตถุ รหัสวชิ า 30204-2003 2. เว็บไซตท์ ่ีเกยี่ วขอ้ ง www.draw.io ผู้เรียบเรยี ง วราภรณ์ อมุ้ อังวะ บริษัท ศนู ยห์ นังสือเมอื งไทย จำกัด

30 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

31 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 5 หนว่ ยท่ี 5 ช่อื วชิ า การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วิชา 30204-2003 เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ช่ือหน่วย หลักการ UML Modeling สอนครง้ั ท่ี 6/18 ชื่อเรอ่ื ง หลกั การ UML Modeling จำนวน 4 คาบ หัวข้อเร่อื ง 5.1 หลักการ UML Modeling แนวคิดสำคญั หลกั การพัฒนาระบบเชิงวัตถุ จะประกอบไปดว้ ยกล่มุ ของวัตถุ (Class of Object) ตา่ งๆ ท่ีทำงานร่วมกัน โดยแบ่ง บทบาทหน้าที่ความรบั ผิดชอบ ซึ่งใช้หลักการจัดแบ่งประเภทของวัตถใุ นลักษณะทางนามธรรม (Abstract) ออกเป็นกลมุ่ ๆ ที่ เรยี กวา่ คลาส (Class) แต่ละคลาสกจ็ ะมสี ถานะ (States) รวมทั้งพฤติกรรม (Behavior) ตามบทบาทของคน โดยมขี ้อมูลรายล เอียดหรือคุณสมบัติ (Characteristic) ท่ีเก็บซ้อน (Encapsulate) ในคลาสของตน และไม่มกี ารปะปนกับคลาสอ่ืนๆ แต่ในด้าน การติดต่อสอื่ สารหรอื การร้องขอใช้บริการ จะสามารถตดิ ต่อสื่อสารกนั ได้ดว้ ยข่าวสารหรอื เมสเสจ (Massage) หลักการดงั กล่าว คอื หลักการของ UML Modeling นัน่ เอง สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การ UML Modeling จุดประสงคก์ ารปฏิบัติ 1. บอกความหมายของ OOA (Object-Oriented Analysis) ได้ถูกต้อง 2. บอกความหมายของ OOD (Object-Oriented Design) ไดถ้ ูกต้อง 3. บอกความหมายของ OOP (Object-Oriented Programming) ได้ถกู ต้อง 4. บอก Concept ของส่งิ ต่างๆ ในโลกของวัตถทุ างคอมพวิ เตอร์ กับ วัตถใุ นโลกความจริง ไดถ้ ูกตอ้ ง เนอื้ หาสาระ 5.1 หลักการ UML Modeling สือ่ การเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รปู UML Diagram โดยเข้าเวบ็ www.draw.io 2. วิชา การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหสั วชิ า 30204-2003 ผูเ้ รยี บเรยี ง วราภรณ์ อุ้มองั วะ บรษิ ทั ศูนยห์ นงั สอื เมอื งไทย จำกัด

32 กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 6/18) กจิ กรรม เวลาโดยประมาณ 1. ครูขานชือ่ นักเรยี น 10 นาที 2. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) 15 นาที 3. ข้ันนำ ครูนำเข้าสบู่ ทเรียนด้วยการสนทนา การซักถาม ทบทวนเน้อื หาท่ีเรียน 15 นาที 4. ขั้นสอน บอกจุดประสงคก์ ารเรยี น บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อยา่ ง แสดงวิธีการปฏิบตั ิ 90 นาที ในแต่ละหวั ขอ้ การเรยี น และใหน้ ักศึกษาปฏบิ ัติไปพรอ้ มกนั 5. ครูใหน้ ักเรียนปฏบิ ตั ิ - 90 นาที 6. ขั้นสรปุ ครสู รปุ เน้ือหาร่วมกับนักเรียน 20 นาที 240 นาที รวม การวัดผลและประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมินผล (ใช้เครื่องมือ) (นำผลเทียบกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) หนว่ ยท่ี 5 (ไวเ้ ปรียบเทยี บกับคะแนนสอบหลงั เรยี น) 2. แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 5 เกณฑผ์ า่ น 50% 3. โปรแกรมทไ่ี ดจ้ ากใบงาน - สำเรจ็ /ไมส่ ำเรจ็ 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หน่วยที่ 5 เกณฑผ์ ่าน 50% งานที่มอบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ไมม่ ี ผลงาน/ชนิ้ งาน/ความสำเร็จของผู้เรียน - เอกสารอา้ งองิ 1. การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 2. เว็บไซตท์ เ่ี กยี่ วข้อง www.draw.io ผเู้ รียบเรียง วราภรณ์ อุ้มองั วะ บริษทั ศนู ยห์ นงั สอื เมอื งไทย จำกัด

33 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

34 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 6 หนว่ ยที่ 6 ชอ่ื วชิ า การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชงิ วัตถุ รหสั วิชา 30204-2003 เวลาเรยี นรวม 72 คาบ ชื่อหน่วย การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ดว้ ย Use Case Diagram สอนครั้งที่ 7–10/18 ชอื่ เรื่อง การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ดว้ ย Use Case Diagram จำนวน 16 คาบ หวั ข้อเรอื่ ง 6.1 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ดว้ ย Use Case Diagram 6.1.1 ความหมายของ Use Case Diagram 6.1.2 สัญลักษณ์ Use Case Diagram 6.1.3 ความสมั พนั ธ์ใน Use Case Diagram 6.1.4 ขั้นตอนการสร้าง Use Case Diagram 6.2 ตัวอย่างการเขียน Use Case Diagram โปรแกรมทางธรุ กจิ - ตัวอยา่ งท่ี 1 Use Case Diagram โปรแกรมค่าคอมมิสช่นั - ตัวอย่างที่ 2 Use Case Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตัวอยา่ งท่ี 3 Use Case Diagram โปรแกรมการสงั่ ซือ้ พสั ดุ–ครภุ ัณฑ์ - ตัวอย่างท่ี 4 Use Case Diagram โปรแกรมตวั แทนขายประกนั ภยั รถยนตภ์ าคบงั คบั (พ.ร.บ.) - ตัวอย่างที่ 5 Use Case Diagram โปรแกรมใบเสร็จรับเงนิ แนวคดิ สำคญั ปัจจุบัน UML กไ็ ด้รบั การยอมรับใหเ้ ป็นมาตรฐานหน่งึ ของ ISO ทางซอฟแวร์ ซงึ่ นอกจากจะใช้บรรยายองคป์ ระกอบ ของซอฟแวร์แล้ว ในอนาคต UML ยังขยายรูปสัญลักษณ์ให้ครอบคลุมไปถึงการบรรยายในเรื่องอ่ืน ๆ ท่ีไม่เกี่ยวข้องกับ ซอฟแวร์โดยตรงอกี ดว้ ย เช่น Business Process หรอื Workflow ก็สามารถใช้ UML บรรยายใหเ้ หน็ เปน็ รปู ภาพได้ สำหรับ Use case Diagram ท่ีไม่ได้จัดให้อยู่ในประเภท Static หรือ Dynamic เน่ืองจาก Use case ไม่ได้มี วัตถุประสงค์เพอื่ ใช้ออกแบบองค์ประกอบในระบบ แต่ใช้สำหรบั บรรยายถึงความตอ้ งการของระบบวา่ ระบบท่ีเราจะสร้างข้นึ มี ความสามารถอะไรทผี่ ใู้ ชส้ ามารถใชง้ านได้ Use case Diagram มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อแสดงใหเ้ ห็นสถานการณต์ า่ ง ๆ ท่ผี ใู้ ช้สามารถใช้งานระบบแตล่ ะสถานการณ์ ท่ีระบบสามารถบริการให้ผู้ใช้สำเร็จลุล่วงตามที่ต้องการได้ เราเรียกว่า Use case ในแต่ละ Use case จะมีลำดับเหตุการณ์ (Scenario) ที่สามารถบรรยายไดว้ ่าผูใ้ ช้ (Actor) โต้ตอบกับระบบอย่างไรบ้าง สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับการวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ด้วย Use Case Diagram จุดประสงคก์ ารปฏิบตั ิ 1. บอกความหมายของ Use Case Diagram ไดถ้ ูกต้อง 2. เขียนสัญลกั ษณ์ Use Case Diagram ได้ถกู ต้อง 3. บอกความสมั พนั ธ์ใน Use Case Diagram ได้ถูกต้อง

35 4. อธบิ ายขั้นตอนการสร้าง Use Case Diagram ได้ถกู ต้อง 5. ออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ดว้ ย Use Case Diagram ไดถ้ กู ต้อง เน้อื หาสาระ 6.1 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ด้วย Use Case Diagram 6.1.1 ความหมายของ Use Case Diagram 6.1.2 สญั ลักษณ์ Use Case Diagram 6.1.3 ความสมั พันธ์ใน Use Case Diagram 6.1.4 ขนั้ ตอนการสร้าง Use Case Diagram 6.2 ตัวอย่างการเขียน Use Case Diagram โปรแกรมทางธุรกิจ - ตัวอยา่ งที่ 1 Use Case Diagram โปรแกรมคา่ คอมมิสช่นั - ตัวอย่างที่ 2 Use Case Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตัวอย่างท่ี 3 Use Case Diagram โปรแกรมการสั่งซอื้ พัสดุ–ครุภัณฑ์ - ตัวอยา่ งที่ 4 Use Case Diagram โปรแกรมตัวแทนขายประกันภัยรถยนตภ์ าคบงั คบั (พ.ร.บ.) - ตัวอย่างที่ 5 Use Case Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รบั เงิน สอ่ื การเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รูป UML Diagram โดยเข้าเวบ็ www.draw.io 2. วชิ า การวเิ คราะห์และออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 ผเู้ รียบเรียง วราภรณ์ อุ้มองั วะ บริษทั ศูนย์หนงั สือเมอื งไทย จำกดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สัปดาห์ที่ 7-10/18) กจิ กรรม เวลาโดยประมาณ 1. ครูขานชอื่ นกั เรียน 10 นาที 2. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) 15 นาที 3. ข้ันนำ ครูนำเข้าสูบ่ ทเรยี นด้วยการสนทนา การซักถาม ทบทวนเน้ือหาทเี่ รยี น 15 นาที 4. ขั้นสอน บอกจุดประสงค์การเรียน บรรยาย อธิบาย ยกตวั อยา่ ง แสดงวิธกี ารปฏบิ ตั ิ 120 นาที ในแตล่ ะหวั ข้อการเรยี น และให้นกั ศึกษาปฏิบตั ิไปพร้อมกัน ตามตัวอย่างการเขียน Use Case Diagram โปรแกรมทางธุรกจิ ตวั อยา่ งท่ี 1-5 60 นาที 5. ครูให้นกั เรียนปฏบิ ตั ิตามใบงานข้อท่ี 1-8 20 นาที 6. ข้ันสรปุ ครูสรุปเน้อื หาร่วมกับนกั เรยี น 240 นาที รวม

36 การวัดผลและประเมนิ ผล การวดั ผล การประเมนิ ผล (ใช้เคร่อื งมอื ) (นำผลเทียบกับเกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบกอ่ นเรียน (Pre-test) หนว่ ยท่ี 6 (ไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนสอบหลังเรยี น) 2. แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 6 เกณฑผ์ า่ น 50% 3. ภาพ Use Case Diagram ได้จากใบงานข้อที่ 1-8 สำเร็จ/ไมส่ ำเรจ็ 4. แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test) หน่วยที่ 6 เกณฑผ์ า่ น 50% งานที่มอบหมาย งานทมี่ อบหมายนอกเหนือเวลาเรียน ให้นกั เรยี น เขยี น Use Case Diagram โปรแกรมทางธุรกจิ ตามใบงานข้อท่ี 1-8 ผลงาน/ชิ้นงาน/ความสำเร็จของผเู้ รยี น ภาพ Use Case Diagram ไดจ้ ากใบงานข้อที่ 1-8 เอกสารอา้ งอิง 1. การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วัตถุ รหสั วชิ า 30204-2003 2. เวบ็ ไซตท์ ี่เกยี่ วข้อง www.draw.io ผูเ้ รยี บเรยี ง วราภรณ์ อมุ้ อังวะ บริษัท ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย จำกัด

37 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

38 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 7 หน่วยท่ี 7 ช่ือวชิ า การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 เวลาเรียนรวม 72 คาบ ชอ่ื หน่วย การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ด้วย Sequence Diagram สอนครงั้ ท่ี 11-12/18 ช่ือเรอ่ื ง ช่อื หนว่ ย การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ดว้ ย Sequence Diagram จำนวน 8 คาบ หวั ข้อเรื่อง 7.1 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ดว้ ย Sequence Diagram 7.1.1 ความหมายของ Sequence Diagram 7.1.2 สญั ลักษณ์ Sequence Diagram 7.1.3 ความสมั พันธใ์ น Sequence Diagram 7.1.4 ขัน้ ตอนการสร้าง Sequence Diagram 7.2 ตัวอย่างการเขียน Sequence Diagram โปรแกรมทางธุรกจิ - ตัวอยา่ งท่ี 1 Sequence Diagram โปรแกรมค่าคอมมสิ ช่นั - ตัวอยา่ งท่ี 2 Sequence Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตัวอย่างท่ี 3 Sequence Diagram โปรแกรมการสงั่ ซื้อ พัสดุ–ครภุ ณั ฑ์ - ตัวอย่างที่ 4 Sequence Diagram โปรแกรมตวั แทนขายประกันภยั รถยนตภ์ าคบงั คับ (พ.ร.บ.) - ตัวอยา่ งท่ี 5 Sequence Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รบั เงิน แนวคิดสำคัญ ปจั จุบนั UML ก็ไดร้ บั การยอมรบั ใหเ้ ป็นมาตรฐานหนง่ึ ของ ISO ทางซอฟแวร์ ซง่ึ นอกจากจะใชบ้ รรยายองคป์ ระกอบ ของซอฟแวร์แลว้ ในอนาคต UML ยังขยายรปู สัญลกั ษณ์ให้ครอบคลมุ ไปถงึ การบรรยายในเร่อื งอืน่ ๆ ท่ไี มเ่ ก่ียวข้องกบั ซอฟแวร์โดยตรงอีกด้วย เชน่ Business Process หรอื Workflow กส็ ามารถใช้ UML บรรยายใหเ้ ห็นเป็นรปู ภาพได้ Sequence Diagram เป็นหน่ึงในแผนผงั การทำงานแบบ Unified Modeling Language (UML) ใชส้ ำหรับการสร้าง แบบจำลองเชิงวัตถุ สมรรถนะยอ่ ย 1. แสดงความรู้เกย่ี วกบั การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ดว้ ย Sequence Diagram จุดประสงคก์ ารปฏิบัติ 1. บอกความหมายของ Sequence Diagram ได้ถกู ต้อง 2. เขยี นสัญลักษณ์ Sequence Diagram ไดถ้ กู ตอ้ ง 3. บอกความสัมพนั ธใ์ น Sequence Diagram ได้ถูกต้อง 4. อธิบายขนั้ ตอนการสรา้ ง Sequence Diagram ไดถ้ กู ตอ้ ง 5. ออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ดว้ ย Sequence Diagram ได้ถกู ตอ้ ง

39 เน้ือหาสาระ 7.1 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ด้วย Sequence Diagram 7.1.1 ความหมายของ Sequence Diagram 7.1.2 สัญลกั ษณ์ Sequence Diagram 7.1.3 ความสัมพันธ์ใน Sequence Diagram 7.1.4 ขนั้ ตอนการสรา้ ง Sequence Diagram 7.2 ตัวอยา่ งการเขียน Sequence Diagram โปรแกรมทางธุรกจิ - ตัวอย่างที่ 1 Sequence Diagram โปรแกรมคา่ คอมมิสช่ัน - ตัวอยา่ งที่ 2 Sequence Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตัวอยา่ งท่ี 3 Sequence Diagram โปรแกรมการสงั่ ซื้อ พัสดุ–ครุภณั ฑ์ - ตัวอย่างท่ี 4 Sequence Diagram โปรแกรมตัวแทนขายประกนั ภยั รถยนตภ์ าคบังคับ (พ.ร.บ.) - ตัวอยา่ งท่ี 5 Sequence Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รบั เงนิ สอ่ื การเรยี นการสอน 1. โปรแกรมวาด รปู UML Diagram โดยเข้าเวบ็ www.draw.io 2. วชิ า การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วิชา 30204-2003 ผ้เู รยี บเรียง วราภรณ์ อมุ้ องั วะ บรษิ ัท ศูนยห์ นงั สอื เมืองไทย จำกัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาห์ท่ี 11-12/18) กิจกรรม เวลาโดยประมาณ 1. ครขู านชอ่ื นักเรยี น 10 นาที 2. ครูให้นกั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) 15 นาที 3. ขั้นนำ ครูนำเขา้ สู่บทเรียนด้วยการสนทนา การซกั ถาม ทบทวนเนื้อหาที่เรียน 15 นาที 4. ขั้นสอน บอกจุดประสงคก์ ารเรยี น บรรยาย อธิบาย ยกตัวอย่าง แสดงวิธกี ารปฏบิ ัติ 120 นาที ในแต่ละหวั ขอ้ การเรยี น และให้นกั ศกึ ษาปฏบิ ัตไิ ปพร้อมกัน ตามตัวอยา่ ง การเขียน Sequence Diagram โปรแกรมทางธรุ กิจ ตวั อย่างที่ 1-5 60 นาที 5. ครูให้นักเรียนปฏบิ ตั ติ ามใบงานข้อที่ 1-8 20 นาที 6. ขั้นสรปุ ครสู รปุ เนือ้ หาร่วมกบั นกั เรียน 240 นาที รวม

40 การวัดผลและประเมนิ ผล การวัดผล การประเมนิ ผล (ใช้เครือ่ งมอื ) (นำผลเทยี บกบั เกณฑ์และแปลความหมาย) 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) หน่วยที่ 7 2. แบบฝกึ หัดหน่วยที่ 7 - 3. ภาพ Sequence Diagram ไดจ้ ากใบงานขอ้ ท่ี 1-8 เกณฑ์ผา่ น 50% 4. แบบทดสอบหลังเรียน (Post-test) หน่วยที่ 7 สำเรจ็ /ไม่สำเรจ็ - งานทีม่ อบหมาย งานท่มี อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ใหน้ กั เรยี น เขยี น Sequence Diagram โปรแกรมทางธรุ กิจ ตามใบงานข้อท่ี 1-8 ผลงาน/ชิน้ งาน/ความสำเรจ็ ของผูเ้ รยี น ภาพ Sequence Diagram ได้จากใบงานข้อท่ี 1-8 เอกสารอา้ งอิง 1. การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวิชา 30204-2003 2. เว็บไซตท์ ่ีเกย่ี วข้อง www.draw.io ผูเ้ รียบเรยี ง วราภรณ์ อมุ้ อังวะ บรษิ ทั ศนู ย์หนังสอื เมอื งไทย จำกัด

41 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

42 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 หน่วยที่ 8 ชื่อวิชา การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 เวลาเรียนรวม 72 คาบ ช่ือหน่วย การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ดว้ ย Activity Diagram สอนคร้งั ท่ี 13-14/18 ชอ่ื เร่ือง การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ดว้ ย Activity Diagram จำนวน 8 คาบ หวั ขอ้ เรอ่ื ง 8.1 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ดว้ ย Activity Diagram 8.1.1 ความหมายของ Activity Diagram 8.1.2 สญั ลกั ษณ์ Activity Diagram 8.1.3 ความสมั พันธใ์ น Activity Diagram 8.1.4 ข้ันตอนการสรา้ ง Activity Diagram 8.2 ตวั อยา่ งการเขยี น Activity Diagram โปรแกรมทางธุรกิจ - ตัวอย่างท่ี 1 Activity Diagram โปรแกรมค่าคอมมิสช่นั - ตัวอย่างที่ 2 Activity Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตัวอยา่ งท่ี 3 Activity Diagram โปรแกรมการสัง่ ซือ้ พสั ดุ–ครุภัณฑ์ - ตวั อยา่ งที่ 4 Activity Diagram โปรแกรมตัวแทนขายประกนั ภยั รถยนตภ์ าคบงั คับ (พ.ร.บ.) - ตวั อยา่ งที่ 5 Activity Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รบั เงิน แนวคิดสำคญั ปัจจุบัน UML ก็ได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐานหน่ึงของ ISO ทางซอฟแวร์ ซึ่งนอกจากจะใช้บรรยาย องค์ประกอบของซอฟแวร์แล้ว ในอนาคต UML ยังขยายรูปสัญลักษณ์ให้ครอบคลุมไปถึงการบรรยายในเร่ืองอ่ืน ๆ ที่ไม่ เกี่ยวข้องกับซอฟแวร์โดยตรงอกี ด้วย เช่น Business Process หรือ Workflow กส็ ามารถใช้ UML บรรยายให้เห็นเป็นรปู ภาพ ได้ Activity Diagram เป็นหนึ่งในแผนผังการทำงานแบบ Unified Modeling Language (UML) ใช้สำหรับการสร้าง แบบจำลองเชงิ วตั ถุ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั การวิเคราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกจิ ด้วย Activity Diagram จดุ ประสงคก์ ารปฏบิ ัติ 1. บอกความหมายของ Activity Diagram ได้ถูกต้อง 2. เขียนสญั ลักษณ์ Activity Diagram ได้ถูกตอ้ ง 3. บอกความสัมพนั ธ์ Activity Diagram ได้ถูกต้อง 4. อธบิ ายขั้นตอนการสร้าง Activity Diagram ไดถ้ ูกต้อง 5. ออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Activity Diagram ได้ถูกตอ้ ง

43 เน้อื หาสาระ 8.1 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ดว้ ย Activity Diagram 8.1.1 ความหมายของ Activity Diagram 8.1.2 สญั ลักษณ์ Activity Diagram 8.1.3 ความสัมพันธ์ใน Activity Diagram 8.1.4 ข้นั ตอนการสรา้ ง Activity Diagram 8.2 ตัวอย่างการเขียน Activity Diagram โปรแกรมทางธุรกิจ - ตวั อยา่ งท่ี 1 Activity Diagram โปรแกรมค่าคอมมสิ ชัน่ - ตัวอยา่ งที่ 2 Activity Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตวั อยา่ งที่ 3 Activity Diagram โปรแกรมการส่ังซื้อ พสั ดุ–ครุภณั ฑ์ - ตัวอย่างที่ 4 Activity Diagram โปรแกรมตวั แทนขายประกนั ภัยรถยนตภ์ าคบังคับ (พ.ร.บ.) - ตัวอย่างท่ี 5 Activity Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รับเงิน ส่ือการเรียนการสอน 1. โปรแกรมวาด รูป UML Diagram โดยเข้าเว็บ www.draw.io 2. วิชา การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหสั วชิ า 30204-2003 ผู้เรียบเรียง วราภรณ์ อมุ้ องั วะ บรษิ ทั ศนู ยห์ นงั สอื เมืองไทย จำกัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สปั ดาหท์ ่ี 13-14/18) เวลาโดยประมาณ กจิ กรรม 10 นาที 15 นาที 1. ครขู านชือ่ นกั เรยี น 15 นาที 2. ครูให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test) 120 นาที 3. ขั้นนำ ครนู ำเข้าสบู่ ทเรียนด้วยการสนทนา การซักถาม ทบทวนเนอ้ื หาท่เี รยี น 4. ขั้นสอน บอกจดุ ประสงค์การเรียน บรรยาย อธบิ าย ยกตวั อย่าง แสดงวิธีการปฏบิ ตั ิ 60 นาที ในแตล่ ะหวั ข้อการเรียน และใหน้ ักศึกษาปฏิบัตไิ ปพรอ้ มกนั ตามตัวอย่าง การเขียน 20 นาที Activity Diagram โปรแกรมทางธุรกจิ ตัวอย่างที่ 1-5 240 นาที 5. ครูใหน้ ักเรียนปฏบิ ัติตามใบงานข้อที่ 1-8 6. ขั้นสรปุ ครสู รปุ เนื้อหาร่วมกับนกั เรยี น รวม การวดั ผลและประเมนิ ผล การประเมินผล การวดั ผล (นำผลเทยี บกับเกณฑ์และแปลความหมาย) (ใช้เครือ่ งมือ) (ไว้เปรียบเทยี บกับคะแนนสอบหลังเรียน) เกณฑ์ผา่ น 50% 1. แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-test) หนว่ ยที่ 8 สำเรจ็ /ไมส่ ำเรจ็ 2. แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 8 3. ภาพ Sequence Diagram ได้จากใบงานข้อท่ี 1-8 - 4. แบบทดสอบหลงั เรียน (Post-test) หนว่ ยท่ี 8

44 งานทีม่ อบหมาย งานทีม่ อบหมายนอกเหนอื เวลาเรียน ให้นักเรยี น เขียน Activity Diagram โปรแกรมทางธุรกิจ ตามใบงานขอ้ ที่ 1-8 ผลงาน/ช้นิ งาน/ความสำเร็จของผู้เรียน ภาพ Activity Diagram ได้จากใบงานข้อที่ 1-8 เอกสารอา้ งอิง 1. การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ รหสั วชิ า 30204-2003 2. เว็บไซตท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ ง www.draw.io ผเู้ รยี บเรียง วราภรณ์ อุ้มอังวะ บรษิ ัท ศูนยห์ นงั สอื เมอื งไทย จำกัด

45 บันทกึ หลงั การสอน 1. ผลการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 2. ผลการเรยี นของนกั เรียน/ผลการสอนของครู/ปัญหาท่พี บ ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... 3. แนวทางการแกป้ ัญหา ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................... ลงช่อื ............................................... (...............................................) (.............................................) ตัวแทนนักเรยี น ครูผสู้ อน

46 แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 9 หนว่ ยท่ี 9 ชอ่ื การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวัตถุ รหัสวิชา 30204-2003 เวลาเรียนรวม 72 คาบ ชอื่ หนว่ ย การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กิจ ด้วย Class Diagram สอนครง้ั ที่ 15-17/18 ช่ือเรื่อง การวิเคราะหแ์ ละออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ดว้ ย Class Diagram จำนวน 12 คาบ หัวขอ้ เรื่อง 9.1 การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ดว้ ย Class Diagram 9.1.1 ความหมายของ Class Diagram 9.1.2 องคป์ ระกอบของ Class Diagram 9.1.3 ความสมั พันธ์ใน Class Diagram 9.1.4 ขน้ั ตอนการสร้าง Class Diagram จาก ตัวอยา่ งการสร้าง Class Diagram โปรแกรมทางธรุ กิจ - ตวั อยา่ งที่ 1 Class Diagram โปรแกรมค่าคอมมสิ ชนั่ - ตัวอยา่ งท่ี 2 Class Diagram โปรแกรมคำนวณเกรด - ตวั อย่างที่ 3 Class Diagram โปรแกรมการสง่ั ซ้อื พสั ดุ–ครุภณั ฑ์ - ตัวอย่างที่ 4 Class Diagram โปรแกรมตัวแทนขายประกันภัยรถยนต์ภาคบงั คบั (พ.ร.บ.) - ตัวอย่างท่ี 5 Class Diagram โปรแกรมใบเสรจ็ รบั เงนิ แนวคิดสำคญั ปัจจุบัน UML กไ็ ด้รับการยอมรับใหเ้ ป็นมาตรฐานหนง่ึ ของ ISO ทางซอฟแวร์ ซง่ึ นอกจากจะใชบ้ รรยายองคป์ ระกอบ ของซอฟแวร์แล้ว ในอนาคต UML ยังขยายรูปสัญลักษณ์ให้ครอบคลุมไปถึงการบรรยายในเร่ืองอื่น ๆ ท่ีไม่เกี่ยวข้องกับ ซอฟแวร์โดยตรงอีกด้วย เช่น Business Process หรือ Workflow ก็สามารถใช้ UML บรรยายให้เห็นเป็นรูปภาพได้ Class Diagram เปน็ หนง่ึ ในแผนผงั การทำงานแบบ Unified Modeling Language (UML) ใชส้ ำหรับการสร้างแบบจำลองเชงิ วตั ถุ สมรรถนะย่อย 1. แสดงความรู้เกีย่ วกบั การวเิ คราะห์และออกแบบโปรแกรมทางธุรกิจ ด้วย Class Diagram จุดประสงค์การปฏบิ ตั ิ 1. บอกความหมายของ Class Diagram ไดถ้ ูกต้อง 2. เขยี นสญั ลักษณ์ Class Diagram ได้ถูกตอ้ ง 3. บอกความสมั พันธ์ Class Diagram ได้ถูกต้อง 4. อธบิ ายขัน้ ตอนการสรา้ ง Class Diagram ไดถ้ ูกต้อง 5. ออกแบบโปรแกรมทางธรุ กจิ ดว้ ย Class Diagram ได้ถกู ตอ้ ง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook