Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แหลมผักเบี้ย1

แหลมผักเบี้ย1

Published by thanchanokk60, 2017-11-20 07:43:34

Description: แหลมผักเบี้ย1

Search

Read the Text Version

โครงการศึกษาวจิ ัยและพฒั นาส่ิงแวดล้อมแหลมผกั เบยี้The Leamparkbia Environmental study, research and development projectนางสาวดุจดาว วรสิทธ์ิ 60560443นางสาวทรัพย์สิดี สิงห์กรุง 60560450นางสาวทศั นีย์ คาแก้ว 60560467นายเทดิ เกียรติ เจริญสุข 60560474นายธนวฒั น์ เหม็ ภาค 60560481นางสาวธนัญญา สนั่นเออื้ 60560498นางสาวธมลวรรณ ประทุมโช 60560504นางสาวธัญชนก เกงเขตร์ 60560511นางสาวธัญชนก สายทอง 60560528นางสาวนนธิญา กณุ ะแสงคา 60560535โครงการนีเ้ สนอเป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์ เพอ่ื การศึกษาค้นคว้า 001221 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2560 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร

นางสาวดุจดาว วรสิทธ์ิ 60560443นางสาวทรัพย์สิดี สิงห์กรุง 60560450นางสาวทศั นีย์ คาแก้ว 60560467นายเทดิ เกียรติ เจริญสุข 60560474นายธนวฒั น์ เหม็ ภาค 60560481นางสาวธนัญญา สน่ันเออื้ 60560498นางสาวธมลวรรณ ประทมุ โช 60560504นางสาวธัญชนก เกงเขตร์ 60560511นางสาวธัญชนก สายทอง 60560528นางสาวนนธิญา กุณะแสงคา 60560535โครงการนีเ้ สนอเป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์ เพอื่ การศึกษาค้นคว้า 001221 ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2560 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร

ก ใบรับรองโครงงานชื่อหัวข้อโครงงาน โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ียผ้ดู าเนินโครงงาน นางสาวดุจดาว วรสิทธ์ิ 60560443 นางสาวทรัพยส์ ิดี สิงห์กรุง 60560450 นางสาวทศั นีย์ คาแกว้ 60560467 นายเทิดเกียรติ เจริญสุข 60560474 นายธนวฒั น์ เห็มภาค 60560481 นางสาวธนญั ญา สนน่ั เอ้ือ 60560498 นางสาวธมลวรรณ ประทุมโช 60560504 นางสาวธญั ชนก เกงเขตร์ 60560511 นางสาวธญั ชนก สายทอง 60560528 นางสาวนนธิญา กุณะแสงคา 60560535ปี การศึกษา 2560.................................................................................................................................................................... คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร อนุมตั ิใหโ้ ครงงานฉบบั น้ีเป็นส่วนหน่ึงของการศึกษาตามรายวชิ าสารสนเทศศาสตร์เพือ่ การศึกษาคน้ ควา้

ขชื่อหวั ข้อโครงงาน โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ียผ้ดู าเนินโครงงาน นางสาวดุจดาว วรสิทธ์ิ 60560443 นางสาวทรัพยส์ ิดี สิงห์กรุง 60560450 นางสาวทศั นีย์ คาแกว้ 60560467 นายเทิดเกียรติ เจริญสุข 60560474 นายธนวฒั น์ เห็มภาค 60560481 นางสาวธนญั ญา สนนั่ เอ้ือ 60560498 นางสาวธมลวรรณ ประทุมโช 60560504 นางสาวธญั ชนก เกงเขตร์ 60560511 นางสาวธญั ชนก สายทอง 60560528 นางสาวนนธิญา กณุ ะแสงคา 60560535ปี การศึกษา 2560.................................................................................................................................................................... บทคดั ย่อ ในปัจจุบนั ประเทศไทยของเราเกิดปัญหาสิ่งแวดลอ้ มตา่ งๆมากมาย เช่น หมอกควนั ไฟป่ า น้าเน่าเสีย เป็นตน้ ซ่ึงปัญหาเหล่าน้ีเกิดจากการกระทาของมนุษยเ์ องเป็นส่วนใหญห่ ากไมม่ ีการแกไ้ ขก็จะทาให้เกิดผลเสียตามมาอยา่ งมาก ดว้ ยเหตุผลดงั กล่าวทางคณะผจู้ ดั ทาจึงไดจ้ ดั ทารายงาน เรื่อง โครงการศึกษาวจิ ยัและพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ีย ที่เป็นพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 9 ท่ีมุง่แกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มที่เก่ียวกบั ขยะมูลฝอย น้าเสีย และการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติรวมท้งั เพื่อใหผ้ อู้ ่าน ผสู้ นใจที่ไดเ้ ห็นรายงานฉบบั น้ีตระหนกั และเห็นคุณค่าของปัญหาสิ่งแวดลอ้ มในประเทศไทยรวมท้งั ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9

คProject title The Leamparkbia Environmental study, research and development projectName Miss Dutdao Worasir ID 60560443 Miss Sapsidee Singkrung ID 60560450 Miss Thatsanee Kamkaew ID 60560467 Mr. Terdkiat Charousuk ID 60560474 Mr. Tanawat Hempak ID 60560481 Miss Thanunya Sanunaua ID 60560498 Miss Tamonwan Prathumcoh ID 60560504 Miss Thanchanok Kengkhet ID 60560511 Miss Thanchanok Saithong ID 60560528 Miss Nonthiya Kunasengkam ID 60560535Academic year 2560................................................................................................................................................................... Abstract Currently our country Thailand caused many environmental problems such as forest fire hazespoiling these problem is caused by the actions of human beings is mainly, if not corrected, it will causeso much damage. For that reason, the way group has prepared the report. The research and developmentproject environment is in the render to his Majesty the King Rama 9 aimed at environmental-relatedwaste, waste water, and to maintain the natural way, mangrove forest, including to readers who've seenthis report recognizes and appreciates the country's environmental problems in Thailand, including atribute to Lord krunathikhun of his Majesty the King Rama 9.

งกติ ตกิ รรมประกาศ โครงการ เร่ือง พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 เรื่อง แหลมผกั เบ้ียเป็นโครงการหน่ึงที่จะทาให้นิสิตไดฝ้ ึกใชท้ กั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูลเน้ือหาสารสนเทศต่างๆตามที่ไดเ้ รียนและศึกษามาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพมากท่ีสุด ซ่ึงทกั ษะน้ีสามารถนามาปรับใชก้ บั ชีวติ ประจาหรือนาทกั ษะน้ีไปใชไ้ ดใ้ นโอกาสอื่นอีกต่อไป การจดั ทาโครงการในคร้ังน้ี สาเร็จลุล่วงไปไดด้ ว้ ยดีเน่ืองจากไดร้ ับความอนุเคราะห์และการสนบั สนุนดว้ ยดีจากอาจารยป์ ระจารายวชิ าสารสนเทศเพ่ือการศึกษาคน้ ควา้ ทุกทา่ นท่ีใหค้ าปรึกษา พร้อมกบัช้ีแนะแนวทางในการสืบคน้ ขอ้ มูล รวมถึงวธิ ีการจดั ทารายงานท่ีเป็นส่วนสาคญั ท่ีทาใหร้ ายงานฉบบั น้ีสมบรู ณ์ยง่ิ ข้ึนและขอขอบคุณเจา้ หนา้ ที่สานกั งานหอสมุดมหาวทิ ยาลยั นเรศวรทุกคนที่ช่วยช้ีแนะแหล่งขอ้ มลู ท่ีมีประโยชน์ต่อการทาโครงการในคร้ังน้ี คณะผจู้ ดั ทากลุ่มที่ 19

จ คานา รายงานเรื่องน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวชิ า 001221 สารสนเทศศาสตร์เพื่อการศึกษาคน้ ควา้ โดยมีจุดประสงคเ์ พ่ือการศึกษาคน้ ควา้ เร่ือง แหลมผกั เบ้ีย ซ่ึงเป็ นหน่ึงในโครงการเน่ืองในพระราชดาริของในหลวงรัชกาลท่ี 9 เป็นแนวทางการดาเนินชีวติ อยา่ งพอเพยี ง ซ่ึงโครงการแหลมผกั เบ้ียเป็นโครงการท่ีมุ่งแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มที่เกี่ยวกบั ขยะมูลฝอย น้าเสียและการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติ คณะผจู้ ดั ทาไดจ้ ดั ทาเร่ืองน้ีข้ึน เนื่องจากเป็นเรื่องท่ีมีเน้ือหาท่ีน่าสนใจและเป็นโครงการตามแนวพระราชดาริซ่ึงเป็นหลกั เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีประโยชน์ อีกท้งั ยงั ทาใหเ้ ห็นถึงความฉลาดและความสามารถของในหลวงรัชกาลที่ 9 คณะผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานฉบบั น้ีจะให้ความรู้และเป็นระโยชน์แก่ผอู้ า่ นทุกๆทา่ น จดั ทาโดย คณะผจู้ ดั ทา พฤศจิกายน 2560

ฉ สารบัญเร่ือง หน้าใบรับรองผลงาน.........................................................................................................................................กบทคดั ยอ่ ภาษาไทย.....................................................................................................................................ขบทคดั ยอ่ ภาษาองั กฤษ................................................................................................................................คกิตติกรรมประกาศ..................................................................................................................................... งคานา.......................................................................................................................................................... จสารบญั .......................................................................................................................................................ฉสารบญั รูปภาพ...........................................................................................................................................ชสารบญั สัญลกั ษณ์และอกั ษรยอ่ ..................................................................................................................ซบทที่ 1 บทนา.............................................................................................................................................1 ความเป็นมาและความสาคญั ของโครงการ...................................................................................1 วตั ถุประสงคข์ องโครงการ........................................................................................................... 1 ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ...........................................................................................................2 ขอบเขตการดาเนินงาน................................................................................................................ 2 ข้นั ตอนการดาเนินงาน................................................................................................................. 2บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง..........................................................................................................................3 พระราชดาริ .................................................................................................................................. 3 ประวตั ิความเป็นมา...................................................................................................................... 4 เทคโนโลยกี ารบาบดั น้าเสีย..........................................................................................................4 น้าเสีย........................................................................................................................................... 9บทที่ 3 วธิ ีการดาเนินงาน........................................................................................................................... 14 วสั ดุ อุปกรณ์ โปรแกรมที่ใชใ้ นการทางาน.................................................................................. 14 ข้นั ตอนการดาเนินงาน................................................................................................................. 14บทท่ี 4 ผลการดาเนินงาน...........................................................................................................................15บทท่ี 5 สรุป............................................................................................................................................... 16เอกสารอา้ งอิง.............................................................................................................................................17ประวตั ิผดู้ าเนินโครงงาน.............................................................................................................................ญ

ช สารบญั รูปภาพรูป หน้า1 ป่ าชายเลน จงั หวดั เพชรบุรี........................................................................................................12 โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ีย มลู นิธิชยั พฒั นา..................................33 โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ีย จ.เพชรบุรี.......................................... 44 แหลมผกั เบ้ีย ป่ าชายเลน จ.เพชรบุรี...........................................................................................55 แหลมผกั เบ้ีย ป่ าชายเลน จ.เพชรบุรี...........................................................................................66 แผนผงั พ้นื ท่ีโครงการแหลมผกั เบ้ีย จ.เพชรบุรี...................................................................................67 น้าเน่าเสีย...................................................................................................................................78 น้าเน่าเสียที่เกิดจากการทิง้ ขยะลงแมน่ ้า.....................................................................................109 ระบบกรองไส้อากาศ.................................................................................................................1210 ถงั กรองไร้อากาศ.....................................................................................................................12

ซ สารบัญสัญลกั ษณ์และอกั ษรย่อกปร. = สานกั งานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาริCO₂ = คาร์บอนไดออกไซด์NH₃ = แอมโมเนียH₂S = ไฮโดรเจนซลั ไฟด์CH₄ = มีเทนH₂O = น้าpH = คา่ ท่ีแสดงถึงความเขม้ ขน้ ของไฮโดรเจนไอออนหรือไฮโดรเนียมไอออน

1 บทท่ี 1 บทนาทมี่ าและความสาคัญ ในปัจจุบนั ประเทศไทยของเราเกิดปัญหาส่ิงแวดลอ้ มต่างๆมากมาย เช่น หมอกควนั ไฟป่ า ฝนไมต่ กตามฤดูกาล น้าเน่าเสีย น้าท่วม เป็นตน้ ซ่ึงปัญหาเหล่าน้ีเกิดจากการกระทาของมนุษยเ์ องเป็นส่วนใหญ่หากไม่มีการแกไ้ ขปัญหาเหล่าน้ีก็จะทาใหเ้ กิดผลเสียตามมาอยา่ งมาก ซ่ึงไมใ่ ช่เร่ืองง่ายๆท่ีจะทาตอ้ งมีการคิดอยา่ งรอบคอบและวางแผนอยา่ งเป็นระบบในการแกไ้ ขปัญหาแลว้ ใครเล่าที่ช่วยแกไ้ ขคิดวธิ ีหาทางออกจากปัญหาเหล่าน้ีไดถ้ า้ ไมใ่ ช่พระปรีชาสามารถและพระอจั ฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 9ท่ีทรงมีพระราชดาริสานกั งาน กปร. และกรมชลประทานร่วมกนั ศึกษาหาวธิ ีแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มที่เกี่ยวกบั ขยะมลู ฝอย น้าเสีย และการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีการทางธรรมชาติ โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ียอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ต้งั อยทู่ ี่ตาบลแหลมผกั เบ้ีย อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบุรี ท่ีมุง่ แกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มท่ีเก่ียวกบั ขยะมูลฝอย น้าเสียและการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติ พอสิ่งแวดลอ้ มฟ้ื นตวั ดีข้ึน ส่ิงมีชีวติ ตา่ งๆรวมท้งั ตน้ ไม้กก็ ลบั คืนมา ท้งั แหล่งอนุบาลตามธรรมชาติของสัตวน์ ้า ป่ าชายเลน และขาดไม่ไดค้ ือ บรรดานกสารพดั ชนิดโดยเฉพาะนกน้าที่หาดูไดเ้ กือบจะทุกท่ีในพ้ืนที่น้ี ดว้ ยเหตุผลดงั กล่าวทางคณะผจู้ ดั ทาจึงไดจ้ ดั ทารายงาน เรื่อง แหลมผกั เบ้ีย ท่ีเป็ นพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 เพอ่ื ใหผ้ อู้ ่าน ผสู้ นใจที่ไดเ้ ห็นรายงานฉบบั น้ีตระหนกั และเห็นคุณค่าของปัญหาสิ่งแวดลอ้ มในประเทศไทยรวมท้งั ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 สืบตอ่ ไปวตั ถุประสงค์ 1.เพอ่ื ใหค้ วามรู้เก่ียวกบั การแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มท่ีเกี่ยวกบั ขยะมลู ฝอย น้าเสียและการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติ

2 2.เพื่อใหผ้ อู้ ่าน ผสู้ นใจท่ีไดเ้ ห็นรายงานฉบบั น้ีตระหนกั และเห็นคุณคา่ ของปัญหาสิ่งแวดลอ้ มในประเทศไทยรวมท้งั ระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 9ประโยชน์ทค่ี าดว่าจะได้รับ โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ียน้ีทาใหร้ ู้วธิ ีการแกไ้ ขปัญหาขยะมูลฝอย น้าเสียและการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติ ที่สามารถนามาปรับใชก้ บั ชีวติ ประจาหรือนาทกั ษะน้ีไปใชไ้ ดใ้ นโอกาสอ่ืนอีกต่อไป รวมท้งั ทาใหน้ ิสิตไดฝ้ ึกใชท้ กั ษะการสืบคน้ ขอ้ มลู เน้ือหาสารสนเทศต่างๆตามท่ีไดเ้ รียนและศึกษามาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซ่ึงทกั ษะน้ีสามารถนามาปรับใชก้ บัชีวติ ประจาหรือนาทกั ษะน้ีไปใชไ้ ดใ้ นโอกาสอื่นอีกต่อไปขอบเขตการดาเนินงาน การศึกษาในเรื่อง โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ีย ซ่ึงไดศ้ ึกษาถึงข้นั ตอนตามเทคโนโลยกี ารบาบดั น้าเสียตามแนวพระราชดาริท่ีไดน้ ามาใชใ้ นแหลมผกั เบ้ียท้งั หมด 4 ระบบความหมายและนิยามของน้าเสียข้นั ตอนการดาเนินงาน แบง่ หนา้ ที่ใหส้ มาชิกในกลุ่มโดยมี หนา้ ที่ทารูปเล่ม ทา power point นาเสนอ และคนนาเสนอ แลว้นามารวบรวมเพ่ือส่งเป็น E-book

3 บทท่ี 2เอกสารและงานวจิ ยัเอกสารทเ่ี กย่ี วข้องโครงการแหลมผกั เบีย้พระราชดาริ “..ปัญหาสาคัญ คือ เรื่องส่ิงแวดล้อม เร่ืองน้าเสียกบั ขยะ ได้ศึกษามาแล้วเหมอื นกนั ทาไม่ยากนัก ในทางเทคโนโลยที าได้ แล้วในเมืองไทยเองก็ทาได้.. ” “..โครงการทจ่ี ะทานี้ไม่ยากนัก คือว่า กม็ าเอาสิ่งทเ่ี ป็ นพษิ ออก พวกโลหะหนักต่างๆเอาออก ซ่ึงมีวิธีทา ต่อจากน้ันกม็ าฟอกใส่อากาศ บางทกี อ็ าจไม่ต้องใส่อากาศ แล้วกม็ าเฉลี่ยใส่ในบงึ หรือเอาน้าไปใส่ในทุ่งหญ้าแล้วกเ็ ปล่ียนสภาพของท่งุ หญ้าเป็ นทุ่งหญ้าเลยี้ งสัตว์ ส่วนหนึ่งเป็ นทส่ี าหรับปลกู พชื ปลกู ต้นไม้..” “.. แล้วกต็ ้องทาการเรียกว่า การกรองน้า ให้ทาน้าน้ันไม่ให้โสโครก แล้วกป็ ล่อยน้าลงมาทเี่ ป็ นทีท่ าการเพาะปลกู หรือทาท่งุ หญ้า หลังจากน้ันน้าทเี่ หลือกล็ งทะเล โดยทไี่ ม่ทาให้น้าน้ันเสีย..” กระแสพระราชดารัส เมื่อวนั ท่ี 12 กนั ยายน 2533โครงการแหลมผกั เบีย้ แหลมผกั เบ้ีย ช่ือน้ีคุน้ เคยกนั ดีในหมู่นักดูนกและเป็ นที่รู้จกั กนั ดีของชาวบา้ นแหลม จ.เพชรบุรีเพราะเป็ นพ้ืนท่ีในโครงการพระราชดาริ “โครงการศึกษาวิจยั และพฒั นาสิ่งแวดล้อมแหลมผกั เบ้ีย อนัเน่ืองมาจากพระราชดาริ” ท่ีมุง่ แกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มท่ีเก่ียวกบั ขยะมูลฝอย น้าเสีย และการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติ พอสิ่งแวดลอ้ มฟ้ื นตวั ดีข้ึน ส่ิงมีชีวติ ต่างๆรวมท้งั ตน้ ไมก้ ็กลบั คืนมา ท้งั แหล่งอนุบาลตามธรรมชาติของสตั วน์ ้า ป่ าชายเลน และขาดไมไ่ ดค้ ือ บรรดานกสารพดั ชนิด โดยเฉพาะนกน้าท่ีหาดูไดเ้ กือบจะทุกที่ในพ้ืนท่ีน้ีประวตั ิความเป็ นมา พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ฯ ทรงพระราชทานพระราชดาริ เม่ือปี 2533 ใหส้ านกั งาน กปร. และกรมชลประทานร่วมกนั ศึกษาหาวธิ ีแกไ้ ขปัญหาส่ิงแวดลอ้ มที่เกี่ยวกบั ขยะมูลฝอย น้าเสีย และการรักษา

4สภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีการทางธรรมชาติ จึงไดม้ ีการจดั ทากรอบแนวความคิด ของโครงการข้ึนทูลเกลา้ถวายและทรงมีพระบรมราชวนิ ิจฉยั เห็นดว้ ยกบั รูปแบบและแนวความคิดดงั กล่าว จากน้นั สานกั งาน กปร.และกรมชลประทาน จึงไดร้ ่วมกนั จดั ทาแผนปฏิบตั ิการโดยใชส้ ถานที่บริเวณ ต.แหลมผกั เบ้ีย อ.บา้ นแหลมเป็นพ้นื ท่ีสาธารณประโยชน์ จานวน 1,135 ไร่ เป็นพ้ืนที่ศึกษาวจิ ยั ของโครงการ โครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ียอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ ต้งั อยทู่ ่ีตาบลแหลมผกั เบ้ีย อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบุรี มีพ้ืนท่ี 1,135 ไร่ สามารถบาบดั น้าเสียได้ 1 ใน 5 ของเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี ซ่ึงมีประชากรประมาณ 40,000 คน โดยน้าเสียจะถูกส่งมาตามทอ่ ดว้ ยความยาวกวา่ 18กิโลเมตร ตามจงั หวดั เพชรบุรี เพอ่ื เขา้ สู่ระบบบาบดั ท่ีไม่ตอ้ งพ่ึงพาเทคโนโลยชี ้นั สูง และเป็นยงั มิตรต่อสิ่งแวดลอ้ ม ซ่ึงมีหน่วยงานรับผดิ ชอบดงั ต่อไปน้ี  มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ (วทิ ยาลยั ส่ิงแวดลอ้ ม )  กรมชลประทาน  กระทรวงเกษตรและสหกรณ์  เทศบาลเมืองเพชรบุรี เทคโนโลยกี ารบาบดั น้าเสียตามแนวพระราชดาริที่ไดน้ ามาใชใ้ นแหลมผกั เบ้ียมีท้งั หมด 4 ระบบไดแ้ ก่ 1. ระบบบ่อบาบดั นา้ เสีย เป็นระบบท่ีอาศยั การกกั พกั น้าเสียไวใ้ นระยะเวลาที่เหมาะสมกบั ความสกปรกของน้า เติมออกซิเจนดว้ ยการสังเคราะห์แสงของแพลงกต์ อน และสาหร่าย อาศยั แรงลมช่วยในการเติมอากาศเพอื่ ช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพการยอ่ ยสลายสารอินทรียด์ ว้ ยจุลินทรีย์ และกกั พกั น้าในแตล่ ะบ่อเป็นเวลา 7 วนั น้าเสียแตล่ ะบอ่ จะไหลลน้ จากดา้ นบน และไหลลงสู่ดา้ นล่างของบ่อถดั ไป 2. ระบบพชื และหญ้ากรองนาเสีย เป็นระบบท่ีใหพ้ ชื หญา้ อาหารสัตว์ ช่วยดูดซบั ธาตุอาหารจากการยอ่ ยสลายสารอินทรียใ์ นดิน โดยมีระยะเวลาในการขงั น้าเสีย 5 วนั สลบั ปล่อยแหง้ 2 วนั ท่ีใชใ้ นการบาบดัแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ หญา้ อาหารสัตว์ ไดแ้ ก่ หญา้ สตาร์ หญา้ คาลลา และหญา้ โคสครอส พชื ทว่ั ไป ไดแ้ ก่ธูปฤาษี กกกลมและหญา้ แฝกพนั ธุ์อินโดนีเซีย เมื่อครบตามระยะเวลาก็จะตดั พชื ออก แลว้ กน็ าไปใหก้ ลุ่มแม่บา้ นทาเครื่องสานเพอ่ื เพมิ่ ประโยชน์และสามารถสร้างรายไดใ้ หก้ บั กลุ่มแมบ่ า้ นไดด้ ว้ ย 3. ระบบพนื้ ทช่ี ุ่มนา้ เทยี ม เป็นระบบท่ีใชก้ ลไกการบาบดั เช่นเดียวกบั ระบบพืช และหญา้ กรอง จะแตกตา่ งกนั ท่ีวธิ ีการ คือ จะเติมน้าเสียลงสู่ระบบอยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดวนั โดยอตั ราการไหลของนา้ เสียเท่ากบั

5ปริมาณน้าเสียใหมท่ ่ีสามารถผลกั ดนั ไล่น้าเสียเก่าออกจากระบบหมดในเวลา 1 วนั พชื ที่ใชก้ เ็ ป็นชนิดเดียวกนั กบั ระบบก่อนหนา้ 4. ระบบแปลงพชื ป่ าชายเลน ระบบน้ีจะใหธ้ รรมชาติบาบดั ดว้ ยตวั ของมนั เองตามระยะเวลาการข้ึนลงของน้าทะเลในแตล่ ะวนั อาศยั ระบบรากของพชื ป่ าชายเลนช่วยปล่อยก๊าซออกซิเจนเติมใหก้ บั น้าเสียและจุลินทรียใ์ นดิน หรับสัดส่วนในการผสมระหวา่ งน้าเสียและน้าทะเลจะมีสัดส่วนมากนอ้ ยเพียงใดข้ึนอยกู่ บัค่าความสกปรกของน้าเสีย โครงการแหลมผกั เบ้ียฯ น้ีนบั วา่ เป็ นแบบอยา่ งแก่ชุมชนทวั่ ประเทศในการแกไ้ ขปัญหาน้าเสียได้เป็นอยา่ งดีเพราะนอกจากจะเป็นแบบที่เรียบง่าย แลว้ ยงั เขา้ ใจง่าย จึงสามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ิตามไดง้ ่าย มีคา่ ใชจ้ ่ายที่ไมแ่ พง และใชเ้ ทคโนโลยที ี่ไม่สูงนกั ซ่ึงความเรียบง่ายน้ีเองท่ีจะนาชุมชนพฒั นาไปสู่คุณภาพชีวติ ท่ีดีข้ึนความสุขยง่ั ยนื ไดใ้ นท่ีสุด ตามท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงต้งั พระราชปณิธานไว้โครงการแหลมผกั เบ้ียฯ ปัจจุบนั ประโยชน์ภายในโครงการน้นั บ่อบาบดั น้าเสียสามารถเล้ียงปลากินพืชได้โดยไมต่ อ้ งใหอ้ าหาร ป๋ ุยหมกั จากขยะและน้าชะจากขยะสามารถนามาปลูกพืชเกษตรได้ สุดทา้ ยน้าเสียและน้าที่ผา่ นการบาบดั แลว้ สามารถนามาปลูกพืชเกษตรได้ และผลท่ีเกิดกบั ประชาชนในจงั หวดั เพชรบุรีสามารถช่วยฟ้ื นฟูแมน่ ้าเพชรบุรีใหม้ ีคุณภาพน้าท่ีดีข้ึน ระบบนิเวศป่ าชายเลนมีความอุดมสมบูรณ์มากข้ึนและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีสตั วน์ ้าที่สาคญั ทางเศรษฐกิจเป็นจานวนมากท้งั ชนิดและปริมาณสร้างอาชีพ สร้างรายไดใ้ หก้ บั ชุมชนโดยรอบโครงการฯ เสน่ห์ของสถานท่ีแห่งน้ีไม่ใช่เพียงแค่การศึกษาวิจยั พฒั นาสิ่งแวดลอ้ มอย่างเดียว แต่ยงั มีเส้นทางเพือ่ ศึกษาในเรื่องของระบบนิเวศป่ าชายเลนท่ีมีทางเดินลดั เลาะเขา้ ไปยงั ป่ าชายเลน เพื่อให้ไดร้ ับบรรยากาศและเขา้ ใจถึงระบบนิเวศป่ าชายเลนอยา่ งแทจ้ ริงอีกดว้ ย ซ่ึงนกั ท่องเท่ียวสามารถเดินชมระบบนิเวศป่ าชายเลน มีหอชมววิ จากมุมสูง ที่เผยใหเ้ ห็นภมู ิทศั นท์ ้งั หมดของป่ าชายเลน ตลอดจนการไดส้ ัมผสั วถิ ีชีวติ ของคนในพ้นื ที่ นอกจากน้ีที่น่ียงั เป็นแหล่งดูนกหลากหลายสายพนั ธุ์ท้งั ไทยและต่างประเทศ ที่ต่างบินวนเวียนโฉบเฉี่ยวหาอาหาร อนั เป็ นส่ิงที่สะทอ้ นถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้งั คุณภาพน้าและป่ าชายเลนไดเ้ ป็ นอย่างดี อีกหน่ึงส่ิงของการมาเยอื นท่ีน่ีก็คือการไดเ้ ห็นผกั เบ้ียทะเลของจริงที่ข้ึนอยบู่ ริเวณป่ าชายเลนรอบนอกเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่ าชายเลนแหลมผกั เบยี้ เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่ าชายเลน โครงการพระราชดาริแหลมผกั เบ้ีย ต้งั อยทู่ ี่ อาเภอบา้ นแหลมจงั หวดั เพชรบุรี ถือเป็ นอีกหน่ึง สถานท่ีท่ีไดร้ ับความสนใจจากนกั ทอ่ งเท่ียวและนกั ดูนกจานวนมาก ที่เดินทางเขา้ มาเท่ียวชมและศึกษาเรียนรู้เรื่อง ของระบบนิเวศ ป่ าชายเลนท่ีอุดมสมบรู ณ์ อีกท้งั ยงั แหล่งดูนกท่ีสาคญั และหายากอีกแห่งหน่ึงของประเทศ ตลอดสองขา้ งทางในการเดินศึกษาเส้นทาง ธรรมชาติป่ าชายเลน

6นกั ทอ่ งเท่ียวสามารถใชส้ ะพานไมซ้ ่ึงมีระยะทางประมาณ 850 เมตร เดินชมธรรมชาติไปเร่ือยๆ จนไปถึงปากอ่าว ระหวา่ งทางเดินเตม็ ไปดว้ ยตน้ แสมและโกงกางที่ข้ึนอยา่ งหนาแน่น มีความร่มรื่น เยน็ สบาย และชุกชุมไปดว้ ยสตั วน์ ้า สัตวห์ นา้ ดิน เช่น ปลาตีน ปูแสมและปูกา้ มดา้ ม ท่ีแสดงถึงความสมบูรณ์ของธรรมชาติอีกท้งั ระหวา่ งทางเดินจะมีขอ้ มลู ความรู้เกี่ยว กบั ป่ าชายเลนอยเู่ ป็นระยะ เช่น ความสาคญั ของป่ าชายเลนในการบาบดั น้าเสียชุมชนและความรู้ทว่ั ไปเกี่ยวกบั ระบบนิเวศน์ป่ าชายเลน สภาพพ้ืนที่ป่ าชายเลน รวมท้งั ช่ือชนิดพนั ธุ์ไมแ้ ละสัตวห์ นา้ ดินท่ีพบมากในบริเวณน้นั ๆ นอกจากน้ีพ้นื ที่แห่งน้ี ยงั เป็ นแหล่งดูนกท่ีสาคญัและหายากนานาชนิด จึงเป็นท่ีตื่นตาต่ืนใจของนกั ดูนก เช่น นกยาง, นกอีเสือหวั ดา, นกอีแพรดแถบอกดา,นกกระเตน็ อกขาว, นกกาน้าเลก็ นกกระจอ้ ยป่ าโกงกาง นกกางเขนบา้ น, นกกินเปร้ียว, นกกรีดน้า ,นกเดา้ ดิน ,นกยางเปี ย ท่ีมีสีสันสวยงามและออกหากิน บริเวณป่ าชายเลนซ่ึงถือเป็นพ้ืนที่ชุ่มน้าที่มีความอุดมสมบรู ณ์ จนสถานที่แห่งน้ีไดร้ ับการขนานนามวา่ เป็น 1 ใน 10 สถานท่ีดูนก ที่ดีท่ีสุดของประเทศไทยแผนผงั พนื้ ที่โครงการ รูปท่ี 6 แผนผงั พ้นื ท่ีโครงการแหลมผกั เบ้ีย จ.เพชรบุรี

7นา้ เสีย 1.นิยามและความหมาย เกษม จนั ทร์แกว้ (2541) ไดใ้ หน้ ิยามของน้าเสียวา่ น้าเสีย คือ น้าท่ีมีการปนเป้ื อนของมลสารสารเคมีท่ีเป็นพิษหรือมีสัดส่วนขององคป์ ระกอบผดิ ไปจากธรรมชาติ จนมีผลกระทบต่อสุขภาพและอนามยัของมนุษย์ สัตว์ และพชื 2.กระบวนการเกิดน้าเสีย เกษม จนั ทร์แกว้ (2541) กล่าวถึงกระบวนการเกิดน้าเสียวา่ การเกิดน้าเสียเริมจากการปนเป้ื อนหรือเกิดการทิ้งของเสียท้งั ของเหลวและของแขง็ ลงสู่แหล่งน้า สิ่งเหล่าน้ีเป็นอาหารของจุลินทรีย์ โดยผา่ นกระบวนการยอ่ ยสลายในสองกระบวนการ กระบวนการแรกเป็นกระบวนการยอ่ ยสลายท่ีใชอ้ อกซิเจน และกระบวนการที่สองเป็นกระบวนการยอ่ ยสลายที่ไม่ใชอ้ อกซิเจน จะเห็นวา่ กระบวนการยอ่ ยสลายที่ใชอ้ อกซิเจน ผลท่ีได้ คือ คาร์บอนไดออกไซดแ์ ละน้า รวมไปถึงธาตุอาหารดว้ ย เช่น ไนเตรทและฟอสเฟต เป็นตน้ กระบวนการท่ีจุลินทรียใ์ ชอ้ อกซิเจนในการยอ่ ยสลายสารอินทรียน์ ้นั จาทาใหป้ ริมาณออกซิเจนละลายในน้าลดลงเรื่อยๆ เม่ือคา่ ปริมาณออกซิเจนละลายในน้าเป็นศูนยห์ รือหมดไปแลว้ จะทาใหส้ ิ่งมีชีวติ ที่ตอ้ งการออกซิเจนตาย และนอกจากน้ียงั ทาใหเ้ กิดกระบวนการยอ่ ยสลายที่ไมใ่ ชอ้ อกซิเจนตามมาซ่ึงจะทาใหส้ ารอินทรียเ์ ปล่ียนไปเป็นกรดอินทรียแ์ ละแอลกอฮอลโ์ ดยจุลินทรียท์ ่ีไมใ่ ชอ้ อกซิเจน และกระบวนการไม่ใชอ้ อกซิเจนจะดาเนินต่อไป ทาใหเ้ กิด CO₂,NH₃,H₂S,CH₄ และ H₂O เป็นตน้ กระบวนการท่ีสองส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวติ เป็นอเนกประการ เช่นการเพิม่ ข้ึนของ H₂S ก่อใหเ้ กิดปัญหากล่ินเหมน็ และแก๊ส และยงั ทาลายระบบของรากพืชโดยเฉพาะขา้ ว(Tisdale and Nelson,1986)3.แหล่งกาเนิดน้าเสีย แหล่งกาเนิดน้าเสีย หมายถึง ผทู้ ่ีทาใหม้ ีการปนเป้ื อนมลสารลงในน้าทาใหอ้ งคป์ ระกอบของน้าผดิไปจากธรรมชาติ มีผลตอ่ สุขภาพและอนามยั ของมนุษย์ สตั ว์ และพืช และมีการปลดปล่อยลงสู่แหล่งน้าโดยตรง แหล่งกาเนิดน้าเสียแบง่ ออกเป็ น 3 ประเภทใหญๆ่ ที่สอดคลอ้ งกนั ไดแ้ ก่ 3.1 น้าเสียชุมชน ไดแ้ ก่ น้าเสียที่เกิดจากกิจกกรมต่างๆ ในการดารงชีวติ และการประกอบอาชีพของประชาชนท่ีอยอู่ าศยั ในชุมชน เช่น น้าเสียจากบา้ นเรือน ที่พกั อาศยั ร้านคา้ ตลาด โรงแรม โรงพยาบาลโรงเรียน สานกั งาน เป็นตน้

8 3.2 น้าเสียอุตสาหกรรม ไดแ้ ก่ น้าที่เกิดจากกิจกกรมต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรมทุกประเภท เช่นน้าเสียจากกระบวนการผลิต เช่น การลา้ งวตั ถุดิบ การทาความสะอาดเคร่ืองจกั ร หรือการทาความสะอาดโรงงาน เป็นตน้ น้าเสียจากอุตสาหกรรมแตล่ ะประเภทจะมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั ไปตามประเภทของกิจการวตั ถุดิบที่ใช้ กระบวนการผลิต ระบบควบคุมและบารุงรักษา อาจกล่าวโดยรวมไดว้ า่ น้าเสียอุตสาหกรรมส่วนใหญจ่ ะมีส่ิงสกปรกที่เจือปนอยใู่ นรูปของสารอินทรียแ์ ละสารอนินทรีย์ เช่น สารอินทรียเ์ คมี สารเคมีและโลหะหนกั เป็นตน้ 3.3 น้าเสียเกษตรกรรม ไดแ้ ก่ น้าเสียที่เกิดจากกิจกรรมต่างๆ ทางการเกษตรรวมท้งั การเพาะปลูกและการเล้ียวสตั ว์ น้าเสียประเภทน้ีจะมีสิ่งสกปรกท่ีเจือปนอยทู่ ้งั ในรูปของสารอินทรียแ์ ละสารอนินทรีย์ข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะการใชน้ ้า การใชป้ ๋ ุย และสารเคมีต่างๆ ถา้ หากเป็นน้าเสียจากพ้นื ท่ีเพาะปลูก จะพบสารอาหารจาพวกไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และสารพษิ ตา่ งๆ ในปริมาณสูง แต่ถา้ เป็นน้าเสียจากกิจกการเล้ียงสตั วจ์ ะพบสิ่งปฏิกลู ในรูปของสารอินทรียเ์ ป็ นส่วนมาก 4.ปริมาณน้าเสีย ปริมาณน้าเสียท่ีแน่นนอนของแต่ละแหล่งจะตอ้ งไดม้ าจากการตรวจวดั ณ แหล่งน้นัโดยตรงโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ณ วนั เวลาท่ีเป็ นตวั แทนของปริมาณน้าเสียปกติของแหล่งน้นั แต่โดยส่วนใหญ่แลว้ มกั มีอุปสรรคท่ีทาใหไ้ ม่สามารถตรวจวดั ไดโ้ ดยตรงใหแ้ มน่ ยาไดโ้ ดยเฉพาะอยา่ งย่ิงแหล่งท่ียงั ไมม่ ีระบบรวบรวมหรือระบบบาบดั น้าเสีย ในกรณีเช่นน้ี นิยมใชว้ ธิ ีประเมินจากขอ้ มลู ของแหล่งอื่นที่คาดวา่ มีอตั ราการไหลของน้าเสียใกลเ้ คียงกนั5.ลกั ษณะของน้าเสีย กรมควบคุมมลพิษ (2537) แบ่งลกั ษณะน้าเสียตามคุณภาพของน้าท่ีมีการปนเป้ื อนจากมลสาร ซ่ึงเกิดจากแหล่งต่างๆ และแบ่งออกเป็น 13 ลกั ษณะ ดงั น้ี 5.1 สารอินทรีย์ ไดแ้ ก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมนั เช่น เศษขา้ ว ก๋วยเตี๋ยว น้าแกงเศษใบไม้ ตอง พชื ผกั ชิ้นเน้ือ ฯลฯ ซ่ึงถูกยอ่ ยสลายไดโ้ ดยสารจุลินทรียท์ ี่ใชอ้ อกซิเจนทาใหร้ ะดบั ออกซิเจนละลายในน้าลดลง เกิดสภาพเน่าเหมน็ ได้ ปริมาณของสารอินทรียใ์ นน้านิยมวดั ดว้ ยคา่ บีโอดี เม่ือค่าบีโอดีในน้าสูงแสดงวา่ มีสารอินทรียป์ ะปนอยใู่ นน้ามากและสภาพน้าเหมน็ เน่าจะเกิดข้ึนไดง้ ่าย

9 5.2 สารอนินทรีย์ ไดแ้ ก่ แร่ธาตุต่างๆท่ีอาจไมท่ าให้เกิดน้าเน่าเหม็นแต่อาจจะเป็นอนั ตรายตอ่ สิ่งมีชีวติ หรือเป็นอุปสรรคในกระบวนการผลิตน้าประปา สารเหล่าน้ี ไดแ้ ก่ คลอไรด์ ไนโตรเจนฟอสฟอรัส และซลั เฟอร์ เป็ นตน้ 5.3 โลหะหนกั และสารพิษอ่ืนๆ อาจอยใู่ นรูปของสารประกอบอินทรียห์ รืออนินทรีย์และสามารถสะสมอยใู่ นวงจรอาหารเกิดเป็นอนั ตรายต่อสิ่งมีชีวติ เช่น ปรอท โครเมียม ทองแดง ปกติจะปนเป้ื อนในน้าเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และสารเคมีที่ใชใ้ นการกาจดั ศตั รูพืชที่ปนมากบั น้าทิ้งจากการเกษตร สาหรับในเขตชุมชนอาจมีสารพษิ น้ีมาจากอุตสาหกรรมในครัวเรือนบางประเภท เช่น ร้านชุบโลหะ อซู่ ิอมรถ เป็นตน้ 5.4 น้ามนั และสารลอยน้าต่างๆ เป็นอุปสรรคต์ ่อการสังเคราะห์แสง และกีดขวางการละลายออกซิเจนจากอากาศลงสู่น้า นอกจากน้นั ยงั ทาให้เกิดสภาพไมน่ ่าดูและเกิดอนั ตรายจากอคั คีภยั ได้ดว้ ย 5.5 ความร้อน ทาใหเ้ กิดการแบง่ ช้นั ของลาน้า เร่งปฏิกิริยาการใชอ้ อกซิเจนของจุลินทรีย์และการลดระดบั การละลายของออกซิเจนในน้า สามารถทาใหเ้ กิดสภาพเน่าเหมน็ ข้ึนได้ อุณหภูมิของน้าท่ีเหมาะสม ควรอยปู่ ระมาณ 25-35 องศาเซลเซียส 5.6 ของแขง็ ประกอบดว้ ยสารแขวนลอย ตะกอนหนกั และของแขง็ ละลาย เมื่อจมตวั ลงสู่กน้ ลาน้า ทาใหเ้ กิดสภาพไร้ออกซิเจนที่ทอ้ งน้า แหล่งน้าต้ืนเขินมีความขุ่นสูง ส่งผลกระทบต่อการดารงชีวิตของสตั วน์ ้า และการนาน้าไปใชป้ ระโยชน์ 5.7 สีและความข่นุ มกั เกิดจากอุตสาหกรรมประเภทสิ่งทอ กระดาษ ฟอกหนงั และโรงฆา่สัตว์ สีและความขนุ่ จะขดั ขวางกระบวนการสงั เคราะห์แสงในลาน้า 5.8 กรดและด่าง วดั ค่าไดโ้ ดย pH คา่ pH สูงกวา่ 7 หมายถึง ความเป็นด่าง คา่ pH ต่ากวา่ 7หมายถึง ความเป็นกรด น้าสะอาดจะมีคา่ pH อยปู่ ระมาณ 7 pH มีผลตอ่ การดารงชีวติ ของสิ่งมีชีวติ ในน้าและการนาน้าไปใชป้ ระโยชน์ pH ของน้าทิ้งท่ีเหมาะสมควรอยรู่ ะหวา่ ง 5-9 5.9 สารก่อใหเ้ กิดฟอง/สารซกั ฟอก ไดแ้ ก่ ผงซกั ฟอกและสบู่ เป็นตน้ ซ่ึงฟองจะกีดกนั การละลายของออกซิเจนในอากาศสู่น้าทาใหป้ ริมาณออกซิเจนละลายในน้าไดน้ อ้ ยลง ยงิ่ กวา่ น้นั สารซกั ฟอกอาจเป็ นอนั ตรายต่อปลา 5.10 จุลินทรีย์ น้าเสียจากโรงฟอกหนงั โรงฆ่าสตั ว์ หรือโรงงานอาหารกระป๋ องจะมีจุลินทรียเ์ ป็นจานวนมาก จุลินทรียเ์ หล่าน้ีตอ้ งการออกซิเจนในการดารงชีวติ ทาใหร้ ะดบั ของปริมาณ

10ออกซิเจนในน้าลดลง เกิดสภาพเน่าเหมน็ จุลินทรียบ์ างชนิดอาจเป็นเช้ือโรคท่ีเป็นอนั ตรายต่อมนุษย์ เช่นจุลินทรียใ์ นน้าเสียจากโรงพยาบาล เป็นตน้ 5.11 สารกมั มนั ตรังสี อาจมาจากโรงพยาบาลหรือองคก์ รของรัฐบางประเภทเป็นสารอนั ตรายเมื่อสะสมอยใู่ นส่ิงมีชีวติ จะก่อให้เกิดมะเร็งได้ 5.12 ธาตุอาหาร ไดแ้ ก่ ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส เม่ือมีปริมาณสูงจะทาใหเ้ กิดการเจริญเติบโตของสาหร่ายเกินขีด ทาใหร้ ะดบั ของออกซิเจนในน้าลดลงช่วงกลางคืนและวชั พชื น้าเจริญเติบโตมากข้ึน ก่อใหเ้ กิดปัญหาแก่การสญั จรทางน้าและการนาน้าไปใช้ 5.13 กล่ิน เกิดจากกา๊ ซไนโตรเจนซลั ไฟด์ ซ่ึงเกิดจากการยอ่ ยสลายของสารอินทรีย์ แบบไร้อากาศ หรือกล่ินอื่นๆ จากโรงงานอุสาหกรรมตา่ งๆ เช่น โรงงานทาปลาป่ น และโรงฆา่ สัตว์ เป็นต้ระบบบาบดั นา้ เสีย 1.นิยามและความหมาย ระบบบาบดั น้าเสีย คือ กลุ่มงานในพ้ืนที่หน่วยหน่ึงที่เก่ียวขอ้ งกบั การบาบดั น้าเสีย ประกอบดว้ ยแหล่งกาเนิดน้าเสีย ทอ่ ระบายน้า บ่อพกั น้า บ่อตกตะกอน บอ่ บาบดั บ่อขดั แตง่ ระบบแผนงานและเอกสารซ่ึงแตล่ ะส่วนของโครงสร้างมีกลไกการทางานของตนเอง แต่เป็นไปแบบผสมกลมกลืนจนไดผ้ ลิตผลจากการทางานของระบบออกมา ถา้ ประสิทธิภาพการทางานของระบบเป็ นไปไดด้ ว้ ยดี น้าทิง้ ท่ีออกจากระบบยอ่ มมีคุณภาพดีตามไปดว้ ย แตถ่ า้ ประสิทธิภาพการทางานของระบบเป็ นไปไมเ่ ตม็ ท่ี จะทาใหน้ ้าทิ้งออกมาไม่ไดต้ ามที่กาหนดไว้ (เกษม จนั ทร์แกว้ ,2541) 2.ลกั ษณะของระบบบาบดั น้าเสีย ระบบน้าเสียแตล่ ะระบบจะมีหลกั การพ้นื ฐานในการบาบดั แตกตา่ งกนั ไป โดยจะมีการเลือกใชว้ ธิ ีบาบดั ทางกายภาพ เตมี และชีวภาพ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงหรือถูกวธิ ี เพือ่ ใหร้ ะบบบาบดั น้าเสียน้นั ทางานอยา่ งมีประสิทธิภาพ (เกษม จนั ทร์แกว้ ,2541) ไดแ้ บ่งลกั ษณะของระบบบาบดั น้าสียออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ 2.1 ระบบที่อาศยั ธรรมชาติ กล่าวคือ การใชก้ ารอยรู่ ่วมกนั ของสาหร่ายและแบคทีเรียในการเติมออกซิเจนใหน้ ้า โดยสาหร่ายจะใชป้ ฏิกิริยาการสังเคราะห์แสงในการสร้างเซลลใ์ หมแ่ ละผลิตออกซิเจนให้เพยี งพอกบั ความตอ้ งการของแบคทีเรียเพื่อใชใ้ นการยอ่ ยสลายสารอินทรียใ์ นน้าเสีย ท้งั น้ีสาหร่ายจะไดก้ า๊ ซคาร์บอนไดออกไซดท์ ี่ใชใ้ นการสังเคราะห์แสงจากผลผลิตของปฏิกิริยาการยอ่ ยสลายสารอินทรียโ์ ดยแบคทีเรีย นอกจากน้ีแลว้ ระบบที่อาศยั ธรรมชาติยงั สามารถไดร้ ับออกซิเจนจากการสัมผสั กบั อากาศโดยตรงและลมก็ยงั เป็นอีกปัจจยั หน่ึงที่ช่วยเพมิ่ ออกซิเจนใหก้ บั น้า

11 2.2 ระบบท่ีใชเ้ ทคโนโลยี กล่าวคือ มีการนาเคร่ืองมือ อุปกรณ์สารเคมี และแผนดาเนินงานบาบดัน้าเสียมาใชซ้ ่ึงอาจจะใชอ้ ยา่ งใดอยา่ งหน่ึงหรือทุกอยา่ งไดแ้ ลว้ แตค่ วามเหมาะสม เช่น มีการใชเ้ คร่ืองเติมอากาศ ติดต้งั ในบอ่ บาบดั น้าเสีย หรือ การเติมสารเคมีเพ่ือใหเ้ กิดการตกตะกอนของสารแขวนลอยท่ีเป็นของแขง็ เร็วข้ึน เป็นตน้ 3.ประเภทของระบบบาบดั น้าเสีย ในปัจจุบนั มีระบบบาบดั น้าเสียใหเ้ ลือกใชม้ ากมายหลายรูปแบบ แตก่ ารท่ีเลือกใชร้ ะบบบาบดั น้าเสียแบบใดจะตอ้ งคานึงปัจจยั หลายๆดา้ น เช่น ลกั ษณะของน้าเสีย ระดบั ของการบาบดั และสภาพทอ้ งถ่ินเป็นตน้ ระบบที่เลือกใชจ้ ะตอ้ งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและราคาประหยดั (มน่ั สิน ตณั ทุลเวศม,์ 2538) ในท่ีน้ีจะเนน้ ระบบทางชีวภาพเป็นหลกั ซ่ึงนิรุติ คูณผล (2539) ไดแ้ บ่งประเภทของระบบบาบดั น้าเสียออกเป็น2 ประเภท ดงั น้ี 3.1 ระบบบาบดั น้าเสียแบบใชอ้ ากาศ ระบบบาบดั น้าเสียแบบใชอ้ ากาศที่นิยมใชก้ นั ในปัจจุบนั มีอยู่ 5 ระบบ คือ - ระบบบ่อผ่งึ น้า - ระบบบอ่ เติมอากาศ - ระบบเอเอส - ระบบโปรบกรอง - ระบบอาร์บีซี 3.2 ระบบบาบดั น้าเสียแบบไม่ใชอ้ ากาศ ระบบบาบดั น้าเสียแบบไมใ่ ชอ้ ากาศท่ีนิยมใชก้ นั ในปัจจุบนั มีอยู่ 2 ระบบ คือ - ระบบยเู อเอสบี - ระบบกรองไส้อากาศ

12 บทท่ี 3วธิ ีการดาเนินงาน ในการจดั ทาโครงงานในหวั ขอ้ เรื่องแหลมผกั เบ้ียของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ ๙ คณะผจู้ ดั ทาไดท้ าโครงงานตามข้นั ตอนดงั น้ี3.1 วสั ดุ อุปกรณ์ โปรแกรมท่ีใชใ้ นการทางาน 3.1.1 โปรแกรมสาหรับนาเสนอ Microsoft PowerPoint 2010 3.1.2 โปรแกรมสาหรับทารูปเล่มรายงาน Microsoft Word 2016 3.1.3 เครื่องคอมพิวเตอร์Notebookสาหรับทางาน3.2 ข้นั ตอนการดาเนินงาน 3.2.1 ประชุมงานกลุ่มเพ่ือแบง่ งานใหก้ บั สมาชิก 3.2.2 ศึกษาและคน้ ควา้ เก่ียวกบั โครงการแหลมผกั เบ้ีย จากหอ้ งสมุดและอินเทอร์เน็ต 3.2.3 รวบรวมขอ้ มูลจากท่ีคน้ ควา้ และตรวจสอบความถูกตอ้ ง 3.2.4 จดั ทารูปเล่มโครงการ และจดั ทารูปเล่มโครงงานในรูปแบบหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ (E-book) 3.2.5 จดั ทาการนาเสนอในรูปแบบ PowerPoint 3.2.6 ศึกษาทาความเขา้ ใจเก่ียวกบั PowerPoint เตรียมการนาเสนอ

13 บทที่ 4ผลการดาเนินงาน การจัดทาโครงงานเร่ืองแหลมผกั เบ้ียของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี ๙ มีวตั ถุประสงคเ์ พื่อให้ความรู้เก่ียวกบั เรื่องแหลมผกั เบ้ียและเพื่อให้ผอู้ ่าน ผทู้ ่ีสนใจหรือปะชาชนชาวไทยได้ตระหนักถึงการรักษาส่ิงแวดล้อมและธรรมชาติ สามารถนาไปปรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั และการศึกษา พร้อมกบั ลาลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวฯ รัชกาลท่ี 9 ซ่ึงมีผลการดาเนินงาน ดงั น้ีผลการดาเนินงาน โครงการพระราชดาริแหลมผกั เบ้ียของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 9 น้ี หลงั จากผจู้ ดั ทาไดเ้ ร่ิมดาเนินการตามข้นั ตอนการดาเนินงานนาเสนอในบทที่ 3 แลว้ คือ ขอ้ มูลโครงการแหลมผกั เบ้ียจะมีเน้ือหาเกี่ยวกบั ดา้ นพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม โดยการบาบดั น้าเสียและพฒั นาป่ าชายเลนให้มีความสมบูรณ์มากย่ิงข้ึน ทางคณะผจู้ ดั ทาไดเ้ รียบเรียงขอ้ มูลและนาเสนอในรูปแบบ PowerPoint และการนาเสนอในรูปแบบหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เป็นการเผยแพร่แบบสาธารณะ เพือ่ ความสะดวกในการศึกษาตอ่ ผทู้ ่ีสนใจ

14 บทที่ 5 สรุป แหลมผกั เบ้ียหรือโครงการศึกษาวจิ ยั และพฒั นาสิ่งแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ียอนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ ต้งั อยทู่ ่ีตาบลแหลมผกั เบ้ีย อาเภอบา้ นแหลม จงั หวดั เพชรบุรี ท่ีมุ่งแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มที่เกี่ยวกบั ขยะมลู ฝอย น้าเสีย และการรักษาสภาพป่ าชายเลนดว้ ยวธิ ีทางธรรมชาติ พอส่ิงแวดลอ้ มฟ้ื นตวั ดีข้ึนสิ่งมีชีวติ ต่างๆรวมท้งั ตน้ ไมก้ ็กลบั คืนมา ท้งั แหล่งอนุบาลตามธรรมชาติของสัตวน์ ้า ป่ าชายเลน และขาดไม่ไดค้ ือ บรรดานกสารพดั ชนิด โดยเฉพาะนกน้าที่หาดูไดเ้ กือบจะทุกท่ีในพ้นื ที่น้ี ซ่ึงโครงการน้ีมีวธิ ีการบาบดั น้าเป็นข้นั ตอนตามเทคโนโลยกี ารบาบดั น้าเสียตามแนวพระราชดาริที่ไดน้ ามาใชใ้ นแหลมผกั เบ้ียมีท้งั หมด 4 ระบบ ไดแ้ ก่ ระบบบ่อบาบดั น้าเสีย ระบบพืชและหญา้ กรองนาเสียระบบพ้ืนที่ชุ่มน้าเทียม และระบบแปลงพืชป่ าชายเลน โครงการแหลมผกั เบ้ียฯ น้ีนบั วา่ เป็นแบบอยา่ งแก่ชุมชนทวั่ ประเทศในการแกไ้ ขปัญหาน้าเสียไดเ้ ป็นอยา่ งดีเพราะนอกจากจะเป็ นแบบท่ีเรียบง่าย แลว้ ยงั เขา้ ใจง่าย จึงสามารถนาไปใชป้ ฏิบตั ิตามได้ มีค่าใชจ้ า่ ยท่ีไม่แพง และใชเ้ ทคโนโลยที ่ีไมส่ ูงมากนกั ปัจจุบนั ประโยชน์ภายในโครงการน้นั บ่อบาบดั น้าเสียสามารถเล้ียงปลากินพชื ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งให้อาหาร ป๋ ุยหมกั จากขยะและน้าชะจากขยะสามารถนามาปลูกพืชเกษตรได้ สุดทา้ ยน้าเสียและน้าท่ีผา่ นการบาบดั แลว้ สามารถนามาปลูกพชื เกษตรได้ และผลท่ีเกิดกบั ประชาชนในจงั หวดั เพชรบุรี สามารถช่วยฟ้ื นฟูแม่น้าเพชรบุรีใหม้ ีคุณภาพน้าท่ีดีข้ึน ระบบนิเวศป่ าชายเลนมีความอุดมสมบูรณ์มากข้ึนและมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มสี ัตวน์ ้าที่สาคญั ทางเศรษฐกิจเป็นจานวนมากท้งั ชนิดและปริมาณ สร้างอาชีพสร้างรายไดใ้ หก้ บั ชุมชนโดยรอบโครงการฯ

15 เอกสารอ้างองิเกษม จนั ทร์แกว้ และคณาจารยว์ ทิ ยาลยั ส่ิงแวดลอ้ ม มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. (ม.ป.ป.). โครงการ ศึกษาวจิ ัยและพฒั นาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบยี้ อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ตาบลแหลม ผกั เบีย้ อาเภอบ้านแหลม จังหวดั เพชรบุรี. สืบคน้ เม่ือ 18 ตุลาคม 2560, จาก http://www3.rdi.ku.ac.th/exhibition/52/01-celebrate/kasem/celebrate_00.htmlโครงการพระราชดาแหลมผกั เบีย้ . (ม.ป.ป.). สืบคน้ เมื่อ 18 ตุลาคม 2560, จาก http://www.paiduaykan.com/province/central/phetchaburi/laemphakbia.htmlโครงการศึกษาวจิ ัยและพฒั นาส่ิงแวดล้อมแหลมผกั เบยี้ อันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ บ้านแหลม จังหวดั เพชรบุรี. (ม.ป.ป.). สืบคน้ เมื่อ 18 ตุลาคม 2560, จาก http://www.chaipat.or.th/royal-projects-in-various- regions/central/659-2011-03-17-05- 03-44.htmlณพาภรณ์ ปรีเสม. (12 พฤษภาคม 2557). โครงการฯ “แหลมผกั เบ้ีย” อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ ฟ้ื นฟู “แหล่งน้า” ชาวเพชรฯ. สานักข่าวเจ้าพระยา. สืบคน้ เม่ือ 18 ตุลาคม 2560, จาก www.chaoprayanews.comแป้ ง จีรภา. (10 เมษายม 2558). ตามรอยโครงการแหลมผกั เบ้ียฯ ตน้ แบบเทคโนโลยกี ารบาบดั น้าเสียตาม แนวพระราชดาริ. EITPRBlog วศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ Blog ของวศิ วกรรมสถานแห่งประเทศไทย. สืบคน้ เม่ือ 18 ตุลาคม 2560, จาก http://eitprblog.blogspot.com/2015/04/blog-post.html?m=1ศรัญญา โรจน์พทิ กั ษช์ ีพ. (ม.ป.ป.). ตามรอยโครงการพฒั นาตามพระราชดาริ ตอน...โครงการศึกษาวจิ ยั และ พฒั นาส่ิงแวดลอ้ มแหลมผกั เบ้ีย อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ จงั หวดั เพชรบุรี. เทย่ี วชม โครงการพระราชดาริแหลมผกั เบีย้ จ.เพชรบุรี. สืบคน้ เมื่อ 18 ตุลาคม 2560, จาก https://travel.kapook.com/view45351.htmlศุลีพร บุญบงการ. (ม.ป.ป.). แหลมผกั เบ้ีย.มูลนิธิชัยพฒั นา. สืบคน้ เมื่อ 18 ตุลาคม 2560, จาก http://www.chaipat.or.th/search/40-17/48-8.htmlสตรีไทย สถิติ. (2544). ระยะเวลาและจานวนบ่อผงึ่ ทเ่ี หมาะสมในการบาบดั นา้ เสียจากเทศบาลเมืองเพชรบุรี ตาบลแหลมผกั เบยี้ อาเภอบ้านแหลม จังหวดั เพชรบุรี. วทิ ยานิพนธ์ วท.ม., มหาวทิ ยาลยั นเรศวร, พิษณุโลก.

16Aommon Kijkul. ( 9 มีนาคม 2560). ตามรอย \"พ่อ\" ไป \"โครงการศึกษาวจิ ัยและพฒั นาส่ิงแวดล้อมแหลม ผกั เบีย้ อนั เนื่องมาจากพระราชดาริ\". สืบคน้ ม่ือ 18 ตุลาคม 2560, จาก www.thetrippacker.com/th/review

ญประวตั ผิ ู้จดั ทาโครงงาน ช่ือ นางสาวดุจดาว วรสิทธ์ิ ภมู ิลาเนา 256/1 ม.2 ต.วงั โบสถ์ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนหนองไผ่ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected] ชื่อ นางสาวทรัพยส์ ิดี สิงห์กรุง ภมู ิลาเนา 87 ม.1 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กาแพงเพชร ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนกาแพงเพชรพทิ ยาคม- ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected] ชื่อ นางสาวทศั นีย์ คาแกว้ ภูมิลาเนา 19/2 ม. 6 ต.ลานกระบือ อ.ลานกระบือ จ.กาแพงเพชร ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั กาแพงเพชร - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected]

ฎ ชื่อ นายเทอดเกียรติ เจริญสุข ภูมิลาเนา 26/55 ซอย 17 ต.ในเมือง อเมือง จ.พษิ ณุโลกประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนพษิ ณุโลกพทิ ยาคม - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected]ช่ือ นายธนวฒั น์ เห็มภาคภูมิลาเนา 269 ม.9 ต.กระสงั อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนกระสงั พทิ ยาคม - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected]ช่ือ นางสาวธนญั ญา สนนั่ เอ้ือภมู ิลาเนา 101 หมู่ 3 ต.แก่งโสภา อ.วงั ทอง จ.พิษณุโลกประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนผดุงราษฎร์ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]

ฏ ช่ือ นางสาวธมนวรรณ ประทุมโช ภูมิลาเนา 199 ม.7 ต.ช่องลม อ.ลานกระบือ จ.กาแพงเพชร ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนลานกระบือวทิ ยา - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected]ชื่อ นางสาวธญั ชนก เกงเขตร์ภูมิลาเนา 220/4 ถ.รักการดี ต.อุทยั ใหม่ อ.เมือง จ.อุทยั ธานีประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนพุทธมงคลวทิ ยา - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]ชื่อ นางสาวธญั ชนก สายทองภมู ิลาเนา 6 หมู่ 11 ต. บา้ นหนุน อ.สอง จ.แพร่ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนนารีรัตน์จงั หวดั แพร่ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร E-mail : [email protected]

ฐชื่อ นางสาวนนธิญา กุณะแสงคาภมู ิลาเนา 69 หมู่ 4 ต.ปงตา อ.ไชยปราการ จ. เชียงใหม่ประวตั ิการศึกษา - จบมธั ยมศึกษาจากโรงเรียนไชยปราการ - ปัจจุบนั กาลงั ศึกษาในระดบั ปริญญาตรีช้นั ปี ท่ี 1 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวรE-mail : [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook