INDUSTRIAL REVOLUTION อาจารยส์ อง : Taweesak Kunyochai : Satit UP
การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม INDUSTRIAL REVOLUTION อาจารยส์ อง : Taweesak Kunyochai
การปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรม (Industrial revolution) เรมิ่ เกดิ เมอ่ื ใด ? เรมิ่ ขน้ึ ทท่ี วปี ใด ? ประเทศใด ?
Origins Industrial revolution : When In England ปลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 18 ต่อต้น คริสตศ์ ตวรรษที่ 19
Origins Industrial revolution : Where ?
Origins Industrial revolution : Why England ?
England Great Britain British United States United Kingdom The Sun Never Set The Midnight Sun
องั กฤษ ( England ) บรเิ ตนใหญ่ ( Great Britain ) บรติ ชิ ( British ) สหราชอาณาจกั ร ( United Kingdom ) “ดนิ แดนพระอาทติ ยไ์ มเ่ คยตกดนิ ( The sun never set ) สหรฐั ( United States ) \"ดนิ แดนพระอาทติ ยเ์ ทย่ี งคนื \" ( The Midnight Sun )
องั กฤษ (England) ธงขององั กฤษ องั กฤษ (England) เป็นดนิ แดนบนเกาะเกรตบรเิ ตน(Great Britain) เป็นชอ่ื เรยี ก ประเทศทค่ี นไทยรจู้ กั กนั มาตงั้ แต่อดตี โดยคาวา่ องั กฤษ ปจั จบุ นั น้เี ป็นดนิ แดน ใน 4 สว่ น ของ ประเทศทเ่ี รยี กวา่ “ สหราชอาณาจกั ร “ (United Kingdom) โดยองั เป็นเป็นดนิ แดน ทใ่ี หญ่ทส่ี ดุ และสาคญั ทส่ี ดุ มบี ทบาททางการเมอื งและเศรษฐกจิ มาอย่างยาวนาน มปี ระวตั ศิ าสตรย์ าวนานและมศี นู ยก์ ลางการปกครองทก่ี รงุ ลอนดอน ดงั นนั้ คนไทยจงึ มกั นยิ มเรยี กองั กฤษ เพราะเขา้ ใจมากกว่า คาวา่ “ สหราชอาณาจกั ร “ (United Kingdom : U.K.) ทเ่ี ป็นช่อื เรยี กอย่างเป็นทางการ
สหราชอาณาจกั ร ( United Kingdom : U.K. ) เน้อื ท่ี : 243,121 ตร.กม. ประชากร : 64.5 ลา้ น องั กฤษ (England) เน้อื ท่ี : 130,279 ตร.กม.(รอ้ ยละ 53.6 ของ U.K.) ประชากร : 54.3 ลา้ น (รอ้ ยละ 84.2 ของ U.K.) สกอตแลนด์ (Scotland) เน้อื ท่ี : 77,933 ตร.กม.(รอ้ ยละ 32.1 ของ U.K.) ประชากร : 5.3 ลา้ น (รอ้ ยละ 8.2 ของ U.K.) เวลส์ (Wales) เน้อื ท่ี : 20,779 ตร.กม.(รอ้ ยละ 8.5 ของ U.K.) ประชากร : 3.1 ลา้ น (รอ้ ยละ 4.8 ของ U.K.) ไอรแ์ ลนดเ์ หนอื (Northern Ireland) เน้อื ท่ี : 14,130 ตร.กม.(รอ้ ยละ 5.8 ของ U.K.) ประชากร : 1.8 ลา้ น (รอ้ ยละ 2.8 ของ U.K.)
บรเิ ตนใหญ่ (Great Britain) เกาะ Great Britain ประกอบดนิ แดน : Great Britain เป็นชอ่ื ทห่ี มายถงึ เกาะเกาะหน่ึง England, Scotland, Wales เกาะ Great Britain เป็นเกาะทม่ี เี น้อื ทใ่ี หญ่เป็นอนั ดบั 9 ของโลก และเป็นเกาะทใ่ี หญ่ทส่ี ดุ ของทวปี ยโุ รป 1. เกาะกรนี แลนด์ (เดนมารก์ ) 2. เกาะนิวกนิ ี (ปาปวั นิวกนิ ี และ อนิ โดนีเซยี ) 3. เกาะบอรเ์ นียว (อนิ โดนีเซยี , มาเลเซยี และ บรไู น) 4. เกาะมาดากสั การ์ (มาดากสั การ)์ 5. เกาะแปฟฟิน (แคนาดา) 6. เกาะสมุ าตรา (อนิ โดนีเซยี ) 7. เกาะฮอนชู (ญ่ปี นุ่ ) 8. เกาะวกิ ตอเรยี (แคนาดา) เกาะ Great Britain เป็นเกาะทม่ี ปี ระชากรอาศยั มากอนั ดบั 3 ของโลกรองจาก เกาะชวา(140 ลา้ น) ของอนิ โดนีเซยี และเกาะฮอนชู(Honshu) (104 ลา้ นคน) ของญ่ปี นุ่ เกาะ Great Britain มจี านวนประชากร : 62.8 ลา้ นคน U.K. 64.7 ลา้ นคน Great Britain 62.8 ลา้ นคน (คดิ เป็นรอ้ ยละ 97 ของประชากรทงั ่ หมดของ U.K.) เกาะ Great Britain มเี น้อื ท่ี : 209,331 km2 U.K. 242,495 km2 Great Britain 209,331 ตร.กม. (คดิ เป็นรอ้ ยละ 86.3 ของเน้ือทข่ี อง U.K.)
The sun never set in the British Empire “ ดนิ แดนพระอาทติ ยไ์ มเ่ คยตกดนิ ” หรอื “ ดนิ แดนทพ่ี ระอาทติ ยไ์ มเ่ คยลบั ขอบฟ้า ” “ ดนิ แดนพระอาทติ ยไ์ มเ่ คยตกดนิ ” เป็นช่อื ทห่ี มายช่อื สหราชอาณาจกั ร กลา่ วคอื สหราชอาณาจกั ร หรอื องั กฤษ เป็น ประเทศทเ่ี ป็นหน่ึงในประเทศเจา้ อาณานิคมทม่ี ดี นิ แดนอาณานิคม ทวั ่ โลก และเป็นประเทศทม่ี อี าณานิคมมากทส่ี ดุ ในโลกในยคุ ท่จี กั รวรรดอิ งั กฤษเรอื งอานาจในเวลานนั้ จงึ มคี าเปรยี บเปรยวา่ ไปไปสว่ นไหนก็ลว้ นแต่พบกบั ดนิ แดนองั กฤษจนเปรยี บเหมอื น พระอาทติ ยไ์ มเ่ คยตกดนิ นอกจากดนิ แดนทงั้ 4 ของสหราชอาณาจกั ร แลว้ จากความยง่ิ ใหญ่เป็นเกรยี งไกรทาง ทะเลและกองทพั เรอื ทาใหส้ หราชอาณาจกั รมดี นิ แดนทถ่ี กู ยดึ ครองยเป็นอาณานคิ ม สมยั จกั รวรรดนิ ยิ มเฟ่ืองฟูจนมดี นิ แดนต่าง ๆ ทถ่ี กู ปกครองจากสหราชอาณาจกั รทวั่ โลก และเป็นประเทศทม่ี อี าณานิคมมากทส่ี ดุ ในโลก ดงั นนั้ สหราชอาณาจกั รจงึ ดนิ แดน ภายใตก้ ารปกครองอน่ื ๆ กระจายอยไู่ ปทวั่ โลก ซง่ึ กเ็ ป็นทม่ี าของชอ่ื “ดนิ แดนพระ อาทติ ยไ์ ม่เคยตกดนิ (The sun never set in the British Empire)” นนั่ เอง ปจั จุบนั สหราชอาณาจกั รยงั มดี นิ แดนโพน้ ทะเล และดนิ แดนใตก้ ารปกครองอน่ื ๆ กระจายอยู่ ทวั่ โลกทย่ี งั ไมไ่ ดเ้ อกราชและอยภู่ ายใตก้ าร ปกครองของสหราชอาณาจกั ร สว่ นดนิ แดน ประเทศต่าง ๆ ปจั จบุ นั ทไ่ี ดร้ บั เอกราชจากส หราชอาณาจกั รแลว้ นนั้ หลายประเทศยงั คงเป็น เป็นประเทศในเครอื จกั รภพ (Commonwealth) ซง่ึ มพี ระประมุของคเ์ ดยี วกบั สหราชอาณาจกั ร
ดนิ แดนทเ่ี คยอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของสหราชอาณาจกั รมาก่อนในอดตี ในสมยั ทย่ี คุ การลา่ อาณานิคม หรอื ยคุ จกั รวรรดนิ ยิ มเฟ่ืองฟู่ (ปจั จบุ นั ประเทศ สว่ นใหญ่ไดร้ บั เอกราชจากสหราชอาณาจกั รแลว้ ตงั้ แต่หลงั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 แต่ยงั มหี ลายดนิ แดนทย่ี งั ไมไ่ ดร้ บั เอกราชและยงั คงเป็นดนิ แดนโพน้ ทะเลทอ่ี ยภู่ ายใตก้ ารปกครองของสหราชอาณาจกั รอยู่ โดยสว่ นใหญ่เป็นหมเู่ กาะเลก็ ๆ กระจายอยทู่ วั่ โลก
ปจั จยั สง่ เสรมิ การปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม ในองั กฤษ
Origins Industrial revolution : Why England ? ในระหวา่ งครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 17-18 องั กฤษมอี าณานิคม สภาพทางภมู ศิ าสตรท์ เ่ี ป็นเกาะ ทอ่ี ยโู่ พน้ ทะเลทเ่ี ป็นแหลง่ วตั ถุดบิ และตลาดทงั้ ใน (Island geography) ทวปี เอเชยี และอเมรกิ า จนในทส่ี ดุ การคา้ ไดก้ ลายเป็น ไมม่ คี วามขดั แยง้ หรอื สงครามกลางเมอื งภายในประเทศ นโยบายหลกั ของประเทศ ผคู้ นอาศยั ในบรเิ วณ 20 ไมล์ จากลาน้า เรอื รบขององั กฤษ ทาหน้าทร่ี กั ษาเสน้ ทางทางการ (Everyone lived within 20 miles of navigable river) คา้ ทางทะเล และใหค้ วามคมุ้ ครองแก่เรอื พาณิชยท์ ่ี มกี ารเคล่อื นยา้ ยประชากรจากชนบทเขา้ สเู่ มอื ง เดนิ ทางไปคา้ ขายทวั ่ โลก องั กฤษเพราะองั กฤษมปี จั จยั สนบั สนุนการ ขยายตวั ทาง อุตสาหกรรมครบถว้ น คอื มที นุ วตั ถุดบิ แรงงาน และตลาดการคา้ สนบั สนุนระบบเศรษฐกจิ เสรี ( Laissez faire ) พระราชบญั ญตั วิ า่ ดว้ ยสทิ ธิ (Bill of Right (ค.ศ. 1689) : การปฏริ ปู ทางการเมอื งทท่ี าให้ รฐั สนบั สนุนการคา้ ( Government favored trade ) โครงสรา้ งอานาจในสงั คมเปลย่ี นแปลงไป ชนชนั้ กลางเป็นกลมุ่ ใหญ่และมคี วามเขม้ แขง็ ( Large middle class ) การปฏวิ ตั แิ กษตรกรรม(Agriculture revolution) ใน ศตวรรษท่ี 17 (วธิ กี ารลอ้ มรวั้ (Enclosure),เครอ่ื ง หวา่ นเมลด็ พชื ของเจโทร ทลั (Jethro Tull ) สมาคมพอ่ คา้ ช่างฝีมอื ออ่ นแอ่ลง นิยมการศกึ ษาทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ ( Weak guilds ) (Tradition of experimental science) การปฏริ ปู การศกึ ษา : เกดิ นกั ประดษิ ฐค์ ดิ คน้ และมกี ารคมุ้ ครองผลงานโดย มกี ารเรยี นการสอนวทิ ยาศาสตร์ : มหาวทิ ยาลยั เคมบรดิ จ์ ระบบสทิ ธบิ ตั รเหนือทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา (University of Cambridge) เปลย่ี นเป็นศูนยก์ ลางของวชิ า คานวณและวทิ ยาศาสตรแ์ ทนตรรกศาสตร์ และปรชั ญาศาสนา
กระบวนการผลิตก่อนยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลติ แบบอุตสาหกรรมภายในครวั เรอื น (Domestic System) หรอื ระบบจ่ายงานไปทางานบา้ น (Putting – Out System) การผลติ แบบอุตสาหกรรมภายในครวั เรอื น (Domestic System) หรอื ระบบจา่ ยงานไปทางานบา้ น (Putting – Out System) เป็น กระบวนการเปลย่ี นแปลงใน วธิ กี ารผลติ และระบบการผลติ จากเดมิ ระบบการผลติ มกั ทากนั ภายในครอบครวั พอ่ คา้ มกั เป็น นายทุนซอ้ื วตั ถุดบิ แลว้ แจกจา่ ยใหแ้ ต่ละครอบครวั รบั มาทา แลว้ พ่อคา้ จะรบั ผลติ ภณั ฑท์ ส่ี าเรจ็ แลว้ ไปขาย คนงานกจ็ ะไดค้ า่ จา้ งเป็นการตอบแทน การผลติ สนิ คา้ เดมิ ใช้ แรงงานคน แรงงานสตั ว์ รวมทงั้ พลงั งานจากธรรมชาติ เครอ่ื งมอื แบบงา่ ยๆ - เป็นการผลติ ทน่ี ายจา้ งเป็นผอู้ อกค่าวตั ถุดบิ ใหล้ กู จา้ งนาไปทาการผลติ ภายในครวั เรอื นของลกู จา้ งเอง โดยทล่ี กู จา้ งจะเป็นเจา้ ของของเคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ น การผลติ และไดร้ บั ค่าตอบแทนจากจานวนการผลติ ทต่ี นผลติ ขน้ึ เป็นรายชน้ิ - เป็นการผลติ จากการใชแ้ รงงานของคน สตั ว์ และพลงั งานธรรมชาติ เป็นปจั จยั หลกั
กระบวนการผลิต ก่อนยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม ขององั กฤษ
กระบวนการผลิตก่อนยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลติ แบบอุตสาหกรรมภายในครวั เรอื น (Domestic System) หรอื ระบบจ่ายงานไปทางานบา้ น (Putting – Out System)
กระบวนการผลิต ยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรม ขององั กฤษ
กระบวนการผลิตยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลติ ในระบบโรงงาน (Factory System) - นายจา้ งจะเป็นนายทุนคอื เป็นเจา้ ของวตั ถุดบิ ทใ่ี ชแ้ ละเป็นเจา้ ของทุนและเครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั รทใ่ี ชใ้ นการผลติ ทงั้ หมด - การเปลย่ี นแปลงดงั กล่าวขา้ งตน้ ทาใหว้ ถิ กี ารผลติ แบบเศรษฐกจิ แบบดงั่ เดมิ ของยโุ รปทม่ี อี ยอู่ ยา่ งยาวนานตงั้ แต่สมยั ยคุ กลางหมดบทบาทไป - มกี ารผลติ สนิ คา้ โดยนาเทคโนโลยสี มยั ใหมเ่ ขา้ มาใช้ โดยเฉพาะระบบสายพาน ทาใหก้ ารผลติ สนิ คา้ ผลติ ออกมาไดจ้ านวนมาก แบบทเ่ี รยี กว่า ระบบ การผลติ เป็นจานวนมาก “ Mass Production “ - การใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคแ์ บบประณตี แบบการผลติ แบบรายชน้ิ (Creative economy) แบบดงั้ เดมิ ลดลง ในการผลติ ชน้ิ งานใหมไ่ มม่ เี พราะกาลงั สมอง ถูกบนั่ ทอนไปกบั ปรมิ าณสนิ คา้ ทต่ี อ้ งผลติ ตามเป้าหมายของนายทุน - สนิ คา้ แต่ละชน้ิ ถกู ผลติ โดนเครอ่ื งจกั รทาใหน้ ายทุนสามารถควบคมุ ปรมิ าณมากน้อยไดต้ ามตอ้ งการ - ชวี ติ การทางานของผใู้ ชแ้ รงงานตกอยภู่ ายใตอ้ ทิ ธพิ ลของชนชนั้ นายทนุ - ลกู จา้ งหรอื แรงงานจะตอ้ งเขา้ ทางานในโรงงานแบบเชา้ ไปเยน็ กลบั หรอื อาจจะพกั คา้ งอยใู่ นบรเิ วณโรงงานนนั้ เลยและจะไดค้ ่าจา้ งเป็นรายวนั - ชวี ติ แรงงานอยแู่ บบแรน้ แคน้ และมสี ุขลกั ษณะการใชช้ วี ติ ในโรงงานทย่ี ่าแย่
กระบวนการผลิตยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลติ ในระบบโรงงาน (Factory System) - ความสาเรจ็ ของการปฏวิ ตั ทิ างวทิ ยาศาสตรม์ ปี ฏสิ มั พนั ธ์ โดยตรงต่อพฒั นาการความกา้ วหน้าทางเทคโนโลยี และ วทิ ยาการดา้ นตา่ งๆ ไดม้ กี ารนาเอาทฤษฎคี วามรทู้ าง วทิ ยาศาสตรไ์ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประดษิ ฐเ์ ครอ่ื งมอื เครอ่ื งใช้ เพอ่ื เออ้ื ประโยชน์ตอ่ การดารงชพี ของมนุษยม์ ากขน้ึ การ พฒั นาเคร่อื งจกั รกล และเทคโนโลยกี ารผลติ จงึ เกดิ ขน้ึ พรอ้ มๆกบั ความเจรญิ กา้ วหน้าทางวทิ ยาศาสตร์ จนในทส่ี ุด ในกลางครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 18 เกดิ การเปลย่ี นแปลงในวธิ กี าร และระบบผลติ ดงั้ เดมิ จากการใชแ้ รงงานของคน สตั ว์ และ พลงั งานธรรมชาติ มาเป็นการใชเ้ ครอ่ื งมอื และเคร่อื งจกั รกล ในระบบโรงงานแทนระบบการจา่ ยงานใหไ้ ปทาตามบา้ น ( putting-out system ) เพอ่ื ตอบสนองต่อการผลติ สนิ คา้ ชนิด เดยี วกนั จานวนมาก - กระบวนการผลติ แบบโรงงานดงั กลา่ วน้ี ทาใหเ้ กดิ ระบบอตุ สาหกรรมนิยม (Industrialism)ขน้ึ หรอื เรยี กอกี อยา่ งหน่ึงวา่ การปฏวิ ตั ิ อุตสาหกรรม ซง่ึ เกดิ ขน้ึ อยา่ งชา้ ๆแตต่ ่อเน่ือง เป็นเวลานานนบั ศตวรรษ เชน่ เดยี วกบั การปฏวิ ตั ทิ างวทิ ยาศาสตร์ โดยเกดิ ขน้ึ เป็นครงั้ แรกในประเทศองั กฤษ และต่อมาไดแ้ พรห่ ลายไปในประเทศตะวนั ตกตา่ งๆ และสว่ นอน่ื ๆของโลก
กระบวนการผลิตยคุ การปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลติ ในระบบโรงงาน (Factory System) การผลติ ในระบบโรงงาน (Factory System) เป็นกระบวนการเปลย่ี นแปลงใน วธิ กี ารผลติ และระบบการผลติ จากเดมิ ทเ่ี ป็นระบบการผลติ มกั ทากนั ภายในครอบครวั การผลติ สนิ คา้ เดมิ ใชแ้ รงงานคน แรงงานสตั ว์ รวมทงั้ พลงั งานจากธรรมชาติ เครอ่ื งมอื แบบงา่ ยๆ มาเป็นการใชเ้ ครอ่ื งจกั รกล แทน เรมิ่ จากแบบ งา่ ยๆ จนถงึ แบบซบั ซอ้ นทม่ี กี าลงั ผลติ สงู จนเกดิ เป็นการผลติ ในระบบโรงงาน (Factory system) จนการผลติ ภายในครอบครวั ก็ ค่อยๆ หมดไป และผคู้ นจานวนมากตามชนบทตอ้ งอพยพเขา้ มาทางาน เป็นกรรมกรในโรงงานในเวลาต่อมา
พฒั นาการกระบวนการผลิตอตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลิตแบบอตุ สาหกรรมภายในครวั เรือน (Domestic System) หรือ ระบบการจ่ายงานไปทางานบ้าน (Putting – Out System) กระบวนการผลิตก่อนยคุ การ ปฏิวตั ิอตุ สาหกรรมขององั กฤษ กระบวนการผลิตยคุ การปฏิวตั ิ อตุ สาหกรรมขององั กฤษ การผลิตในระบบโรงงาน (Factory System)
การพฒั นาอุตสาหกรรมในองั กฤษ อตุ สาหกรรมทอผา้ อตุ สาหกรรมทอผา้ ฝ้ าย(cotton textile industry) อตุ สาหกรรมผา้ ขนสตั ว(์ woollen industry) การใช้เครื่องจกั รในงานอตุ สาหกรรมท่อผา้ กระสวยทอผา้ เครอ่ื งปัน้ ฝ้ าย เครื่องปัน้ ฝ้ ายพลงั งานน้า เคร่อื งทอผา้ ผลงั งานน้า อตุ สาหกรรมถ่านหิน เหมอื งถ่านหิน 2 ระบบคือหน้าดิน และใต้ดิน การพฒั นาตะเกียงนิรภยั (safety lamp) การใช้เคร่ืองจกั รไอน้าในการลาเลียงถ่านหิน อตุ สาหกรรมเหลก็ และเหลก็ กล้า(iron and steel industry) วิธีการในการถลงุ เหลก็ กระบวนการเยสซเมอร์ และการแยกฟอสฟอรสั ออกจาก เหลก็ ทาให้ได้เหลก็ ท่ีมีคณุ ภาพสงู ที่ เรียกว่า “เหลก็ กล้า”
กระบวนการผลิตจาก Factory System
Factory Production Concentrates production in one place (materials, labor) Located near sources of power (rather than labor or markets) Requires a lot of capital investment (factory, machines, etc.) morethan skilled labor.
Mass Production
Mass Production การผลติ จานวนมาก (Mass Production) คอื การผลติ สนิ คา้ รปู แบบเดยี วกนั ใน ปรมิ าณมหาศาล โดยมกั ใชเ้ ทคโนโลยกี ารผลติ แบบเครอ่ื งจกั รกลในโรงงานอุตสาหกรรม เชน่ การใช้ สายพานเพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการผลติ ลดการใชแ้ รงงาน และทาใหต้ น้ ทุนตอ่ หน่วยถกู ลง เชน่ การ ใชเ้ ครนเหนอื หวั ขนาดใหญ่ซง่ึ สามารถแทนทค่ี นงานมากถงึ 36 คนเพอ่ื ขนยา้ ยของหนกั เป็นตน้ คาวา่ “การผลติ ” ในภาษาองั กฤษมกี ารใชค้ าอยู่ 2 คาคอื Manufacturing และ Production ซง่ึ มคี วามหมายตา่ งกนั ดงั น้ี “ Manufacturing ” หมายถงึ กระบวนการเปลย่ี นแปลงวตั ถุดบิ หรอื วสั ดุใหก้ ลายเป็นผลติ ภณั ฑห์ รอื สนิ คา้ ทส่ี ามารถจบั ตอ้ งได้ “ Production “ หมายถงึ กระบวนการเปลย่ี นแปลงวตั ถดุ บิ หรอื วสั ดใุ หก้ ลายเป็นผลติ ภณั ฑส์ าเรจ็ ( Production มคี วามหมายเชน่ เดยี วกนั กบั คาว่า Manufacturing แตแ่ ตกตา่ งกนั ตรงท่ี Production จะรวมเอางานบรกิ ารตา่ งๆ เขา้ ไปดว้ ย )
Mass Production การผลติ จานวนมาก (Mass Production) ทเ่ี ป็นผลจากการพฒั นาเครอ่ื งจกั รไอน้าของเจมส์ วตั ต์ (James Watt) และนามาส่กู ารปฏวิ ตั ิ อุตสาหกรรมในองั กฤษ จนทาใหป้ ระเทศตะวนั ตก กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรม สรา้ งความมงั่ คงั่ ใหก้ บั ระบบเศรษฐกจิ และความเปลย่ี นแปลงทาง สงั คมขนานใหญ่ การผลติ จานวนมากเกดิ ขน้ึ อย่างกา้ วกระโดด การปฏวิ ตั อิ ุตสาหกรรมชว่ งศตวรรษท่ี 19 ในองั กฤษทาใหส้ นิ คา้ หลายประเภทมตี น้ ทุนถูกลง ตงั้ แต่สนิ คา้ ปฐมภมู อิ ยา่ งเหลก็ เหลก็ กลา้ ชน้ิ ส่วนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ไปจนถงึ สนิ คา้ สาหรบั อุปโภคบรโิ ภคอยา่ งเสอ้ื ผา้ ซง่ึ ผบู้ รโิ ภคหลกั ของสนิ คา้ เหล่าน้ี กค็ อื ชนชนั้ กลางและชนชนั้ แรงงานทไ่ี ดร้ บั ค่าจา้ งจากระบบการผลติ รปู แบบน้นี นั่ เอง และ จากราคาทถ่ี กู ลงจากระบบการผลติ ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ ชนชนั้ ระดบั ล่างเรมิ่ เขา้ ถงึ และบรโิ ภคสนิ คา้ ต่างๆ ไดง้ า่ ยขน้ึ ความสามารถในการผลติ ครงั้ ละมากๆ ถูกใชใ้ นทางการเมอื งในศตวรรษท่ี 20 ใน ลกั ษณะต่างๆ กนั สหรฐั ฯ ผลติ อุตสาหกรรมทางวฒั นธรรม (Cultural Industry) ดว้ ย การทาใหว้ ฒั นธรรมเป็นของประชาชนผ่านอุตสาหกรรมบนั เทงิ อย่าง ภาพยนตร์ ดนตรี และวทิ ยุ ในเยอรมนี โฆษณาชวนเช่อื แนวคดิ นาซ(ี NAZI)ผ่านการผลติ รถเต่า (Volkswagen) ทาให้ “มวลชน” สามารถเป็นเจา้ ของได้ กว็ างอยบู่ นเงอ่ื นไขการผลติ น้เี ชน่ กนั
ระบบโรงงาน ( The Factory System ) - Rigid schedule. - 12-14 hour day. - Dangerous conditions. - Mind-numbing monotony
ผลด้านลบจากการผลิตของ ระบบโรงงาน
ผลด้านลบจากการผลิตของระบบโรงงาน ( Manufacturing Negatives ) - เงือ่ นไขการทางานที่ยากลาบาก ยา่ แย่ ในโรงงาน - ชีวิตท่ีอย่อู าศยั ที่แออดั ในเขตโรงงาน - การใช้แรงงานเดก็ (Children supplied labour) - ส่ิงแวดล้อมเสื่อมโทรมลง
ผลด้านลบจากการผลิตของระบบโรงงาน การใชแ้ รงงานเดก็ (Children supplied labour)
Child Labor in the Mines Child “ hurriers ”
ผลด้านลบจากการผลิตของระบบโรงงาน สง่ิ แวดลอ้ มเสอ่ื มโทรมลง(แมน่ ้าเทมส(์ Thames)ในลอนดอนขน้ึ ช่อื เรอ่ื งความเน่าเหมน็ เน่อื งจากน้าเสยี จากโรงงานอุตสาหกรรม นามาซง่ึ คาถามสาคญั ในเวลาต่อ มาถงึ การสรา้ งสมดลุ ยร์ ะหว่างความเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ กบั การควบคุมของเสยี ทเ่ี กดิ จากโรงงานอุตสาหกรรม )
ผลด้านลบจากการผลิตของระบบโรงงาน สง่ิ แวดลอ้ มเสอ่ื มโทรมลง(แมน่ ้าเทมส(์ Thames)ในลอนดอนขน้ึ ช่อื เรอ่ื งความเน่าเหมน็ เน่อื งจากน้าเสยี จากโรงงานอุตสาหกรรม นามาซง่ึ คาถามสาคญั ในเวลาต่อ มาถงึ การสรา้ งสมดลุ ยร์ ะหว่างความเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ กบั การควบคุมของเสยี ทเ่ี กดิ จากโรงงานอุตสาหกรรม )
ผลด้านลบจากการผลิตของระบบโรงงาน เงอ่ื นไขการทางานทย่ี ากลาบาก ย่าแย่ ในโรงงาน และคณุ ภาพชวี ติ ทย่ี าแยใ่ นชมุ ชนเมอื งทแ่ี ออดั
Search
Read the Text Version
- 1 - 37
Pages: