ส่วนท่ี ๒ แบบประเมินผลการสอน คณะอนุกรรมการเพอ่ื ประเมนิ ผลการสอน ในการประชุมครงั้ ท.่ี ....../.......เมอ่ื วนั ท.่ี ........ ซง่ึ ไดร้ บั มอบอานาจจากคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ ........(มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั )........ ไดป้ ระเมนิ ผลการสอนรหสั วชิ า......................รายวชิ า........................................ของ นาย/นาง/นางสาว ...................................................แลว้ เหน็ ว่า บคุ คลดงั กลา่ วเป็นผมู้ คี วาม....(ชานาญ/ชานาญพเิ ศษ)..... ในการสอน มคี ุณภาพ...(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ....ในหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารตามทส่ี ภาสถาบนั กาหนด ลงช่อื ........................................................... (...................................................) ตาแหน่ง ประธานคณะอนุกรรมการเพอ่ื ประเมนิ ผลการสอน วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. ........ 99
ส่วนที่ ๓ แบบสรปุ ผลการประเมินผลงานทางวิชาการ ตอนที่ ๑ การพิจารณาของคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิเพ่ือทาหน้าท่ีประเมินผลงาน ทางวิชาการและจริยธรรมและจรรยาบรรณทางวิชาการ คณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ เิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและ จรรยาบรรณทางวชิ าการ (ดา้ น...............) โดยวธิ .ี ....................ในสาขาวชิ า............................................... ในการประชุมครงั้ ท.่ี ......../............. เมอ่ื วนั ท.่ี ............................รวม..........ครงั้ ประเมนิ ผลงานทางวชิ าการ ของ นาย/นาง/นางสาว................... ซง่ึ ขอกาหนดตาแหน่งเป็น..(ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ /รองศาสตราจารย์ / ศาสตราจารย)์ ....(ดา้ น...............) โดยวธิ .ี ....................ในสาขาวชิ า..............แลว้ เหน็ ว่า ๑) ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม............เรอ่ื ง คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ. กาหนด.........เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ ๑.๑).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๑.๒).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๒) ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ............รายการ คุณภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ.กาหนด.........รายการ ไดแ้ ก่ ๒.๑).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๒.๒).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๓) ผลงานการสอน............เรอ่ื ง คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด .........เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ ๓.๑).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๓.๒).............................................................. คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............... ๔) ผลงานนวตั กรรม............เรอ่ื ง คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด .........เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ ๔.๑).............................................................. คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ............... ๔.๒).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๕) ผลงานศาสนา............เร่อื ง คณุ ภาพ..(อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด........เรอ่ื ง ไดแ้ ก่ ๕.๑).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... ๕.๒).............................................................. คุณภาพอยใู่ นระดบั ............... 100
ผลงานทางวชิ าการทกุ ประเภท ใหเ้ สนอโดยเขยี นตามหลกั ของการเขยี นเอกสารอา้ งองิ อนั ประกอบดว้ ยช่อื ผแู้ ต่ง ปี พ.ศ. ช่อื เรอ่ื ง แหลง่ พมิ พ์ จานวนหน้า เป็นตน้ โดยระบบุ ทบาทหน้าท่ี ของผลงานแต่ละประเภท ตามลกั ษณะการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามเอกสารแนบทา้ ย ประกาศ ก.พ.อ. ในกรณที เ่ี สนอผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม ผลงานการสอน และผลงานนวตั กรรม ซง่ึ มผี เู้ ขยี นรว่ มหลายคน จะตอ้ งระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องผรู้ ว่ มงานทุกคนวา่ ทาในสว่ นไหนอยา่ งไร และลงนามรบั รองโดยผขู้ อ ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) และผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย ในกรณที เ่ี สนอผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสนุ ทรยี ะ ศลิ ปะ และผลงานศาสนา ซ่งึ มผี เู้ ขยี น รว่ มหลายคน ใหผ้ เู้ ขยี นรว่ มลงนามรบั รองวา่ มสี ่วนรว่ มในผลงานเทา่ ใดมาเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย สรปุ ผลการประเมินผลงานทางวิชาการ (ประกอบด้วย: ผลงานมเี นื้อหาเกี่ยวกบั เร่อื งอะไร ผลที่ได้รบั การนาไปใช้ประโยชน์ และแสดงให้เหน็ ถึงความเช่ียวชาญอย่างไร ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื .......................................................... (.......................................................) ตาแหน่ง ประธานคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ เพอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการ และจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. ......... 101
ตอนท่ี ๒ การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาตาแหน่งทางวิชาการ กรณที ค่ี ณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ...(มหาวทิ ยาลยั /สถาบนั ).... ในการประชุมครงั้ ท.่ี ............เมอ่ื วนั ท.่ี ...................พจิ ารณาผลการประเมนิ ผลงานทางวชิ าการของ นาย/นาง/นางสาว................... ตามทค่ี ณะกรรมการผทู้ รงคุณวุฒเิ พ่อื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทาง วชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการเสนอ แลว้ เหน็ วา่ ..(ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม/ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสนุ ทรยี ะ ศลิ ปะ/ผลงานการสอน/ผลงานนวตั กรรม/ผลงานศาสนา)...คุณภาพ... (อย/ู่ ไมอ่ ย)ู่ ..ในเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ.กาหนด และเป็นผมู้ จี รยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการตามเกณฑ์ ท่ี ก.พ.อ.กาหนด จงึ เหน็ ...(สมควร/ไมส่ มควร)...ใหก้ าหนดตาแหน่ง นาย/นาง/นางสาว .............................. เป็นตาแหน่ง..........(ผชู้ ่วยศาสตราจารย/์ รองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย)์ ... (ดา้ น....................) โดยวธิ .ี ................ในสาขาวชิ า........................ไดต้ งั้ แต่วนั ท.่ี ................................. ซง่ึ เป็นวนั ทส่ี ภาสถาบนั ...(ไดร้ บั เรอ่ื ง/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ปรบั ปรงุ สมบูรณ์/ อ่นื ๆ ระบ.ุ ...) และใหน้ าเสนอ ทป่ี ระชุมสภาสถาบนั อุดมศกึ ษาพจิ ารณาใหค้ วามเหน็ ชอบต่อไป ลงช่อื ....................................................... (.......................................................) ตาแหน่ง ประธาน/ เลขานุการคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. .......... 102
ส่วนท่ี ๔ มติสภาสถาบนั อดุ มศึกษา สภามหาวทิ ยาลยั /สถาบนั .............................. ในการประชุมครงั้ ท.่ี .../......... เมอ่ื วนั ท.่ี .. เดอื น.......................พ.ศ. ....พจิ ารณาแลว้ มมี ต.ิ ..... (อนุมตั /ิ ไมอ่ นุมตั )ิ .... ๑. ใหแ้ ต่งตงั้ นาย/นาง/นางสาว................................ใหด้ ารงตาแหน่ง (ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย/์ รองศาสตราจารย/์ ศาสตราจารย)์ (ดา้ น....................) โดยวธิ .ี ................ในสาขาวชิ า............................ ไดต้ งั้ แต่วนั ท.่ี ..................... ซง่ึ เป็นวนั ทส่ี ภาสถาบนั ...(ไดร้ บั เรอ่ื ง/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ปรบั ปรุงสมบูรณ์/ อ่นื ๆ ระบุ....) ๒. สาหรบั ตาแหน่งผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ และรองศาสตราจารย์ ใหอ้ ธกิ ารบดอี อกคาสงั่ แต่งตงั้ บุคคลดงั กล่าวในขอ้ ๑ และแจง้ ให้ ก.พ.อ. ทราบภายในสามสบิ วนั นับแต่วนั ทอ่ี อกคาสงั่ แต่งตงั้ พรอ้ มส่งสาเนา คาสงั่ แต่งตงั้ คณะกรรมการผทู้ รงคุณวฒุ เิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณ ทางวชิ าการ แบบคาขอ (แบบ ก.พ.อ. ๐๗) ผลงานทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการ พจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชุมสภาสถาบนั อุดมศกึ ษา พรอ้ มเอกสารหลกั ฐาน ประกอบการพจิ ารณากาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด สาหรบั ตาแหน่งศาสตราจารย์ ใหเ้ สนอ ก.พ.อ. ใหค้ วามเหน็ เพ่อื เสนอรฐั มนตรี เพอ่ื นาเสนอนายกรฐั มนตรนี าความกราบบงั คมทลู เพอ่ื ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตงั้ นาย/นาง/นางสาว.................................... ใหด้ ารงตาแหน่งศาสตราจารย์ (ดา้ น....................) โดยวธิ .ี ................ในสาขาวชิ า........................ ไดต้ งั้ แต่วนั ท.่ี ................................ ซง่ึ เป็นวนั ทส่ี ภาสถาบนั ... (ไดร้ บั เรอ่ื ง/ ไดร้ บั ผลงานฉบบั ปรบั ปรงุ สมบูรณ์/ อ่นื ๆ ระบุ....) พรอ้ มสง่ สาเนาคาสงั่ แต่งตงั้ คณะกรรมการ ผทู้ รงคุณวฒุ เิ พ่อื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการ แบบคาขอ (แบบ ก.พ.อ. ๐๗) ผลงานทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชุมคณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่ง ทางวชิ าการ สาเนารายงานการประชมุ สภาสถาบนั อุดมศกึ ษา พรอ้ มเอกสารหลกั ฐานประกอบ การพจิ ารณากาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตามท่ี ก.พ.อ. กาหนด ลงช่อื ......................................................... (........................................................) ตาแหน่ง นายกสภาสถาบนั /เลขานุการสภาสถาบนั วนั ท.่ี .....เดอื น...................พ.ศ. .......... 103
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เร่อื ง หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------- ๓. ลกั ษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการทวั่ ไป ๓.๑ ผลงานทางวชิ าการทเ่ี สนอเพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาตอ้ งเป็นงานทผ่ี ขู้ อตอ้ งเป็นผปู้ ระพนั ธ์ อนั ดบั แรก (first author) หรอื ผมู้ สี ว่ นสาคญั ทางปัญญา (essentially intellectual contributor) หรอื ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) หมายถงึ ผทู้ ม่ี ชี ่อื ในผลงานวชิ าการเป็นชอ่ื แรก รบั ผดิ ชอบการทาผลงานวชิ าการ และเขยี นต้นฉบบั (manuscript) ชน้ิ นัน้ ดว้ ยตนเอง ผมู้ สี ่วนสาคญั ทางปัญญา (essentially intellectual contributor) หมายถงึ บุคคลทม่ี บี ทบาท มสี ว่ นสาคญั ทางปัญญา (essentially intellectual contribution) ดว้ ยความเชย่ี วชาญจาเพาะในสาขาวชิ า ของตนเอง และความรบั ผดิ ชอบสาคญั ในการออกแบบการวจิ ยั (research design) หรอื การออกแบบงาน วชิ าการนนั้ ๆ รวมทงั้ วเิ คราะหข์ อ้ มลู (data analysis) สรุปผลและใหข้ อ้ เสนอแนะ ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) หมายถงึ บุคคลทม่ี บี ทบาทและ ความรบั ผดิ ชอบในการเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั หรอื ผลงานทางวชิ าการ ใหเ้ กดิ การถ่ายทอดเป็นเรอ่ื งราว แสดงใหเ้ หน็ ถงึ คุณคา่ ทางวชิ าการทป่ี ระกอบดว้ ย การแสดงขอ้ มลู หลกั ฐาน ขอ้ คดิ เหน็ และประสบการณ์ รวมทงั้ ทาหน้าทร่ี บั ผดิ ชอบตดิ ต่อกบั บรรณาธกิ าร ๓.๒ ถา้ เป็นงานทผ่ี ขู้ อมสี ่วนร่วมในผลงานทางวชิ าการ ตอ้ งมลี กั ษณะดงั น้ี ๓.๒.๑. กรณีงานวจิ ยั ผขู้ อจะตอ้ งเป็นผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) หรอื ผมู้ สี ่วนสาคญั ทางปัญญา (essentially intellectual contributor) หรอื ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ในเรอ่ื งนนั้ ๓.๒.๒. กรณผี ลงานทางวชิ าการกลุ่มอ่นื ทม่ี ใิ ช่งานวจิ ยั ผขู้ อจะตอ้ งเป็นผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) หรอื ผมู้ สี ่วนสาคญั ทางปัญญา (essentially intellectual contributor) ในเรอ่ื งนนั้ ๓.๓ ผขู้ อกาหนดตาแหน่งจะตอ้ งยน่ื แบบแสดงหลกั ฐานการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการ สาหรบั ผลงานทางวชิ าการทุกผลงาน ๓.๔ การลงนามรบั รองการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการ ตอ้ งมกี ารลงนามโดยผขู้ อ ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) และผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) เพ่อื รบั รอง บทบาทหน้าท่ี การปฏบิ ตั งิ าน และความรบั ผดิ ชอบในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานของผรู้ ว่ มงานทุกคน ว่าทาในส่วนไหนอยา่ งไร การลงนามรบั รองการมสี ่วนรว่ มในผลงานแต่ละเรอ่ื ง เม่อื ไดล้ งนามรบั รองแลว้ จะเปลย่ี นแปลงไมไ่ ด้ หากตรวจสอบพบภายหลงั ว่าผขู้ อกาหนดตาแหน่งระบุการมสี ว่ นรว่ มไมต่ รงกบั ความเป็นจรงิ จะถอื ว่าการกระทาของผนู้ นั้ เขา้ ขา่ ยผดิ จรยิ ธรรมไม่เหมาะสมทจ่ี ะไดร้ บั การพจิ ารณาแต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่ง ทางวชิ าการ โดยใหส้ ถาบนั อุดมศกึ ษาสอบหาขอ้ เทจ็ จรงิ และดาเนินการทางวนิ ยั ต่อไป 104
๓.๕ กรณเี สนอผลงานรบั ใชท้ อ้ งถนิ่ และสงั คม ซง่ึ มกี ารดาเนินงานเป็นหมคู่ ณะ หรอื เป็นงานทม่ี ี การบรู ณาการหลายสาขาวชิ า ผขู้ อตอ้ งมบี ทบาทในขนั้ ตอนการทางานในสาขาวชิ าทเ่ี สนอขอกาหนด ตาแหน่ง อยา่ งน้อย ๓ ขนั้ ตอน ดงั น้ี ก. การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ก่อนเรมิ่ กจิ กรรมรบั ใช้ทอ้ งถนิ่ และสงั คม ข. การออกแบบหรอื พฒั นาชน้ิ งานหรอื แนวคดิ หรอื กจิ กรรม ค. การประเมนิ ผลลพั ธแ์ ละสรปุ แนวทางในการนาไปขยายผลหรอื ปรบั ปรงุ ใหผ้ ขู้ อระบุบทบาทหน้าท่ี การปฏบิ ตั งิ านและความรบั ผดิ ชอบในผลงานนนั้ ของผรู้ ว่ ม โครงการทุกคนและบทบาทหน้าทห่ี ลกั ของผขู้ อ โดยใหผ้ ทู้ ท่ี าหน้าทห่ี ลกั ในแต่ละโครงการลงนามรบั รอง ๓.๖ กรณงี านวจิ ยั ทเ่ี ผยแพร่อนั เป็นผลมาจากวทิ ยานิพนธข์ องนกั ศกึ ษาทผ่ี ขู้ อทาหน้าทเ่ี ป็นอาจารย์ ทป่ี รกึ ษา ผขู้ อตอ้ งเป็นผรู้ เิ รม่ิ กากบั ดแู ล และมบี ทบาทสาคญั ในการวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหผ์ ลการวจิ ยั นนั้ 105
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------------------ แบบแสดงหลกั ฐานการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการทวั่ ไป ก. ช่อื ผลงาน ................................................ ข. สถานะผขู้ อในผลงาน ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (first author) ผมู้ สี ว่ นสาคญั ทางปัญญา (essentially intellectual contributor) ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (corresponding author) ค. ประเภทของผลงาน กลมุ่ ท่ี ๑ งานวจิ ยั กลมุ่ ท่ี ๒ ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื ผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม กรณศี กึ ษา (Case Study) ผลงานวชิ าการเพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู้ งานแปล ผลงานวชิ าการเพอ่ื พฒั นานโยบายสาธารณะ สทิ ธบิ ตั ร ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ซอฟตแ์ วร์ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการในลกั ษณะเดยี วกนั ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ ผลงานนวตั กรรม ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม กลมุ่ ท่ี ๓ ตารา หนงั สอื บทความทางวชิ าการ 106
ส่วนท่ี ๑ รายละเอยี ดของการมสี ่วนรว่ ม ผขู้ อกาหนดตาแหน่งตอ้ งกรอกรายละเอยี ดใหค้ รบถว้ น (เน่อื งจากไมม่ กี ารแบง่ ส่วนรว่ มใน ผลงานทางวชิ าการ ดงั นนั้ บทบาทหน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบตามทผ่ี ขู้ อระบุจะมผี ลต่อการพจิ ารณาผลงาน ทางวชิ าการ) รายละเอียดการมสี ่วนร่วม บทบาทและหน้าที่ความรบั ผิดชอบ ก. ความคดิ รเิ รม่ิ (idea) และ สมมตุ ฐิ าน ข. การปฏบิ ตั กิ ารวจิ ยั การมสี ว่ นรว่ มในการ ออกแบบ การทดลอง การทดสอบ เครอ่ื งมอื วดั วธิ กี ารเกบ็ ขอ้ มลู และ criteria ค. การจดั เกบ็ ขอ้ มลู การวเิ คราะหข์ อ้ มลู การแปรผล ง. การวพิ ากษ์วจิ ารณ์ผล การแสดง การเปรยี บเทยี บกบั ขอ้ สรุปหรอื องคค์ วามรหู้ รอื ทฤษฎเี ดมิ จ. การมสี ว่ นรว่ มในการเขยี น manuscript ผลงานสรา้ งสรรค์ นวตั กรรม สง่ิ ประดษิ ฐ์ เป็นตน้ ฉ. การใหก้ ารสนบั สนุน specimens, study cohort, โลจสิ ตกิ ส์ ทนุ วจิ ยั (โปรดระบุแหล่งทุน เงนิ ทุน และปีทไ่ี ดร้ บั ) เครอ่ื งมอื หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร ครภุ ณั ฑ์ ช. อ่นื ๆ 107
ส่วนท่ี ๒ รายละเอยี ดของการนาผลงานไปแสดง การถ่ายทอดเทคโนโลยี หรอื การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ ตอ้ งแนบเอกสารหลกั ฐานเพ่อื ประกอบการพจิ ารณา ก. ตพี มิ พใ์ นวารสาร journal Impact factor จานวนครงั้ ของการอา้ งองิ (ฐานขอ้ มลู ) ข. สทิ ธบิ ตั ร ประเภท ปีทไ่ี ดร้ บั การจด จดแบบ ครอบคลุมประเทศ ค. ถา้ เป็น technical report หรอื รายงานวจิ ยั ผใู้ ชง้ านคอื ใคร ง. การเผยแพรง่ านวจิ ยั ไดร้ บั การนาเสนอแบบโปสเตอร์ หรอื oral presentation (โปรดระบุ session เช่น plenary, symposium หรอื oral session) หรอื สจู บิ ตั ร ในการประชมุ หรอื การจดั แสดง หรอื จดั นิทรรศการ (ชอ่ื สถานทจ่ี ดั ประชุม หรอื จดั แสดง หรอื จดั นิทรรศการ และประเทศ) หรอื ในกรณีทเ่ี ป็นหนงั สอื (โปรดระบุ ชอ่ื สานกั พมิ พ์ ปีทต่ี พี มิ พ)์ จ. ประวตั กิ ารไดร้ บั ทุนวจิ ยั โครงการทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผลงานชน้ิ น้ี ฉ. หากงานวจิ ยั ไดร้ บั การถ่ายทอดเทคโนโลยี ผวู้ จิ ยั ไดร้ บั คา่ ธรรมเนยี มใบอนุญาต (Licesing Fees) รวมเท่าใด (โปรดแสดงหลกั ฐานสญั ญา) ลงช่อื ............................................. (......................................) ผขู้ อกาหนดตาแหน่ง ลงชอ่ื ............................................. (......................................) ผปู้ ระพนั ธอ์ นั ดบั แรก (First author) ลงช่อื ............................................. (......................................) ผปู้ ระพนั ธบ์ รรณกจิ (Corresponding author) 108
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรื่อง หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------- ๔. ลกั ษณะการมีส่วนร่วมในผลงานทางวิชาการเฉพาะด้าน ๔.๑ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม ผลงานการสอน และผลงานนวตั กรรม ใหใ้ ชล้ กั ษณะการมสี ่วนรว่ ม และแบบแสดงหลกั ฐานการมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวชิ าการ ตามขอ้ ๓ ๔.๒ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสนุ ทรยี ะ ศลิ ปะ และผลงานศาสนา ผขู้ อตอ้ งเป็นผดู้ าเนินการหลกั และมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการตามหลกั เกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด ผดู้ าเนนิ การหลกั (main author) หมายถงึ บคุ คลซง่ึ มบี ทบาทและความรบั ผดิ ชอบสาคญั ในการออกแบบงานวชิ าการนนั้ กาหนดโครงรา่ งเน้อื หาสาระสาคญั ของงาน และควบคมุ การดาเนินการ หรอื ในกรณผี ลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ ใหห้ มายความรวมถงึ ผลู้ งมอื ดาเนินการดว้ ยตนเองดว้ ย ๔.๓ การลงนามรบั รองการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการ หากมกี ารเสนอผลงานทางวชิ าการ ทม่ี ผี รู้ ว่ มงานหลายคนจะตอ้ งใหผ้ รู้ ว่ มงานทุกคนลงนามรบั รองวา่ แต่ละคนมสี ว่ นรว่ มในผลงานเรอ่ื งนนั้ รอ้ ยละเท่าใด รวมทงั้ ระบุบทบาทหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบในผลงานนัน้ ทงั้ น้ี หากไมส่ ามารถตดิ ต่อ ผรู้ ว่ มงานใหล้ งนามรบั รองไดค้ รบทกุ คนใหด้ าเนินการดงั น้ี (๑) ในกรณที ไ่ี มส่ ามารถตดิ ต่อผรู้ ว่ มงานทกุ คนใหล้ งนามรบั รองได้ ใหร้ ะบุจานวนผรู้ ว่ มงาน ทุกคน และใหถ้ อื ว่าผรู้ ว่ มงานทุกคนมสี ว่ นรว่ มในผลงานทางวชิ าการเทา่ เทยี มกนั (๒) ในกรณผี รู้ ว่ มงานบางคนไมส่ ามารถลงนามรบั รองการมสี ่วนรว่ มในผลงานทางวชิ าการ ไดใ้ หม้ กี ารลงนามรบั รองโดยหวั หน้าภาควชิ าหรอื คณบดี และผขู้ อเป็นอยา่ งน้อย พรอ้ มทงั้ ชแ้ี จงเหตุผล ความจาเป็นทผ่ี นู้ นั้ ไมส่ ามารถลงนามได้ หรอื เหตุผลทไ่ี มส่ ามารถระบุการมสี ่วนรว่ มของผนู้ นั้ ใหช้ ดั เจน เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาดว้ ย ทงั้ น้ี ใหค้ ณะกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒเิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการ และจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการเป็นผพู้ จิ ารณาเหตุผลความจาเป็นดงั กล่าว การลงนามรบั รองการมสี ่วนรว่ มในผลงานแต่ละเรอ่ื ง เมอ่ื ไดล้ งนามรบั รองแลว้ จะเปล่ยี นแปลง ไมไ่ ด้ หากตรวจสอบพบภายหลงั ว่าผขู้ อกาหนดตาแหน่งระบุการมสี ว่ นรว่ มไม่ตรงกบั ความเป็นจรงิ จะถอื ว่าการกระทาของผนู้ นั้ เขา้ ขา่ ยผดิ จรยิ ธรรมไมเ่ หมาะสมทจ่ี ะไดร้ บั การพจิ ารณาแต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่ง ทางวชิ าการ โดยใหส้ ถาบนั อุดมศกึ ษาสอบหาขอ้ เทจ็ จรงิ และดาเนินการทางวนิ ยั ต่อไป 109
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรอ่ื งหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------------------ แบบแสดงหลกั ฐานการมีส่วนรว่ มในผลงานทางวิชาการเฉพาะด้าน (แบบร้อยละ) ผลงานทางวชิ าการเฉพาะดา้ น ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสนุ ทรยี ะ ศลิ ปะ ผลงานศาสนา เรอ่ื ง.................................................................................................................................................... ผรู้ ว่ มงานจานวน........คน แต่ละคนมสี ่วนรว่ มดงั น้ี : (๑) (๒) (๓) ช่ือผรู้ ว่ มงาน ปริมาณงานร้อยละ รายละเอียดบทบาทและหน้าที่ ความรบั ผิดชอบ ลงช่อื ............................................. (......................................) ลงช่อื ............................................. (......................................) ลงชอ่ื ............................................. (......................................) ลงชอ่ื ............................................. (......................................) 110
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรือ่ งหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------- ๕. แนวทางการประเมินผลการสอน หลกั เกณฑ์ ใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการประเมนิ ผลการสอนว่าผขู้ อมคี วามสามารถ ในการสอนใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคข์ องวชิ าทส่ี อน ตามความเหมาะสมกบั ลกั ษณะวชิ า ทส่ี อนโดยใชแ้ นวทาง ในการประเมนิ ตามความเหมาะสม ดงั ต่อไปน้ี ๑. มกี ารวางแผนการสอนอยา่ งเป็นระบบ โดยกาหนดจุดมงุ่ หมายของการสอนใหช้ ดั เจน และคดั เลอื กการเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสม เพ่อื ใหผ้ ลลพั ธก์ ารสอนเป็นไปตามจุดมงุ่ หมายทว่ี างไว้ โดยเสนอเอกสารหลกั ฐานทส่ี ามารถประเมนิ ไดใ้ นทุกหวั ขอ้ ทผ่ี ขู้ อเป็นผสู้ อน (คานยิ ามรปู แบบการเผยแพร่ และลกั ษณะคุณภาพดงั ตารางแนบทา้ ย) ซง่ึ มกี ารอา้ งองิ แหล่งทม่ี า อย่างถูกตอ้ งตามหลกั วชิ าการ และกฎหมาย ๒. มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคนิควธิ สี อนประกอบกบั ส่อื การสอนทท่ี นั สมยั ต่างๆ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี น เกดิ ความสนใจและตดิ ตามการสอนตลอดเวลา เช่น ใชภ้ าษาทเ่ี ขา้ ใจงา่ ย ยกตวั อยา่ งประกอบ สอดแทรก ประสบการณ์จรงิ ใชค้ าถามเพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นคดิ และตอบคาถามใหเ้ ขา้ ใจไดช้ ดั เจน หรอื ใชส้ ่อื ปฏสิ มั พนั ธ์ แบบดจิ ทิ ลั (digital interactive media) ๓. มคี วามสามารถทจ่ี ะสอนใหผ้ เู้ รยี นสามารถเสาะแสวงหาความรแู้ ละพฒั นาองคค์ วามรู้ ไดด้ ว้ ยตนเอง ดว้ ยความมวี จิ ารณญาณ รวู้ ่าแหล่งความรใู้ ดทค่ี วรเช่อื ถอื สามารถเป็นผเู้ รยี นรอู้ ยา่ งต่อเน่ือง ตลอดชวี ติ (lifelong learner) ๔. มคี วามสามารถสอนใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหค์ วามรอู้ ย่างมเี หตุผลในวชิ าทส่ี อน ๕. มคี วามสามารถใหผ้ เู้ รยี นมองเหน็ ความสมั พนั ธข์ องวชิ าทเ่ี รยี นกบั วชิ าอ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๖. มคี วามสามารถจดั ใหผ้ เู้ รยี นแสดงความคดิ เหน็ และแลกเปลย่ี นประสบการณ์ตามความ เหมาะสม ๗. มคี วามสามารถในการใชส้ อ่ื การสอน อุปกรณ์ และสอ่ื ปฏสิ มั พนั ธแ์ บบดจิ ทิ ลั (digital interactive media) ทท่ี นั สมยั และเหมาะสมเป็นอยา่ งดี สามารถจาลองสถานการณ์สมมตเิ พอ่ื ใหผ้ เู้ รยี น เขา้ รว่ มอยา่ งกระตอื รอื รน้ ๘. มคี วามสามารถทจ่ี ะสอดแทรกเทคนิคการมปี ฏสิ มั พนั ธ์ การรว่ มงาน (interpersonal skill) ความสามารถในการแสดงออก การแกป้ ัญหา การปรบั (adaptability) และรบั ความคดิ เหน็ ๙. มคี วามสามารถในการประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นในวชิ าทส่ี อน 111
กรณที ส่ี ภาสถาบนั อุดมศกึ ษาพจิ ารณาเหน็ ว่า สถาบนั อุดมศกึ ษามรี ะบบการประเมนิ ผลการสอน ของคณาจารยป์ ระจาปีทค่ี รอบคลมุ ประเดน็ ต่างๆ ตามทก่ี าหนดไวข้ า้ งตน้ อยา่ งเป็นรปู ธรรม เทย่ี งตรง และเชอ่ื ถอื ได้ คณะกรรมการอาจใหใ้ ชร้ ะบบการประเมนิ ผลการสอนดงั กล่าวนนั้ แทนแนวทางการประเมนิ ผลการสอนตามท่ี ก.พ.อ. กาหนดได้ นอกจากน้คี ณะกรรมการอาจกาหนดแนวทางในการประเมนิ เพม่ิ เตมิ ขน้ึ อกี กไ็ ด้ โดยจดั ทาเป็นประกาศใหเ้ ป็นทท่ี ราบทวั่ กนั ก่อนการประเมนิ วิธีการ ๑. ใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชาชนั้ ตน้ (หวั หน้าสาขาวชิ า/หวั หน้าภาควชิ า/คณบด)ี ประเมนิ ผลการสอนในชนั้ ต้น ว่าผขู้ อมผี ลการสอนอยใู่ นเกณฑท์ ก่ี าหนดไวห้ รอื ไม่ ๒. ใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาตาแหน่งทางวชิ าการประเมนิ ผลการสอนของผขู้ อว่าอยใู่ นเกณฑ์ ทก่ี าหนดไวห้ รอื ไม่ ทงั้ น้ี อาจแต่งตงั้ คณะอนุกรรมการเพ่อื ประเมนิ ผลการสอนไดต้ ามความเหมาะสม 112
ตวั อย่างเอกสารหลกั ฐานท่ีใช้ในการประเมินผลการสอน นยิ าม แบบท่ี ๑ รปู แบบ ผลงานทางวชิ าการทเ่ี ป็นเอกสารทใ่ี ชป้ ระกอบในการประเมนิ ผลการ สอนวชิ าใดวชิ าหน่งึ ตามหลกั สตู รของสถาบนั อุดมศกึ ษาทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ การเผยแพร่ เน้อื หาวชิ าและวธิ กี ารสอนอยา่ งเป็นระบบจดั เป็นเครอ่ื งมอื สาคญั ของ ลกั ษณะคุณภาพ ผสู้ อนในการใชป้ ระกอบการสอน เป็นเอกสารหรอื สอ่ื อ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในวชิ าทต่ี นสอน ประกอบดว้ ย แผนการสอน หวั ขอ้ บรรยาย (มรี ายละเอยี ดประกอบพอสมควร) และ อาจมสี ง่ิ ต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้เี พมิ่ ขน้ึ อกี กไ็ ด้ เช่น รายช่อื บทความหรอื หนงั สอื อ่านประกอบ บทเรยี บเรยี งคดั ยอ่ เอกสารทเ่ี กย่ี วเน่อื ง แผนภูมิ (chart) แถบเสยี ง (tape) ภาพเคล่อื นไหว (video) ภาพเลอ่ื น (slide) ส่อื การสอนออนไลน์ หรอื สอ่ื ปฏสิ มั พนั ธแ์ บบดจิ ทิ ลั อ่นื ๆ ซง่ึ มกี ารอา้ งองิ แหลง่ ทม่ี าอยา่ งถูกตอ้ งตามกฎหมาย อาจเป็นเอกสารทจ่ี ดั ทาเป็นรปู เลม่ หรอื ถ่ายสาเนาเยบ็ เล่มหรอื เป็นสอ่ื อ่นื ๆ อาทิ ซดี รี อม ทไ่ี ดใ้ ชป้ ระกอบการสอนวชิ าใดวชิ าหน่งึ ในหลกั สตู รของสถาบนั อุดมศกึ ษามาแลว้ อยใู่ นดุลยพนิ ิจของสภาสถาบนั อุดมศกึ ษาทจ่ี ะกาหนดเป็นขอ้ บงั คบั 113
ตวั อย่างเอกสารหลกั ฐานท่ีใช้ในการประเมินผลการสอน (ต่อ) นยิ าม แบบท่ี ๒ รปู แบบ ผลงานทางวชิ าการทใ่ี ชส้ อนวชิ าใดวชิ าหน่งึ ตามหลกั สตู รของ สถาบนั อุดมศกึ ษาทส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ เน้อื หาวชิ าทส่ี อนและวธิ กี ารสอน อยา่ งเป็นระบบ โดยอาจพฒั นาขน้ึ จากเอกสารประกอบการสอน จนมคี วามสมบูรณ์กวา่ เอกสารประกอบการสอน จดั เป็นเครอ่ื งมอื สาคญั ของผเู้ รยี นทน่ี าไปศกึ ษาดว้ ยตนเองหรอื เพม่ิ เตมิ ขน้ึ จากการเรยี น ในวชิ านนั้ ๆ เป็นเอกสารรปู เล่มหรอื ส่อื อ่นื ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในวชิ าทต่ี นสอน ประกอบดว้ ย แผนการสอน หวั ขอ้ บรรยาย (มรี ายละเอยี ดประกอบ พอสมควร) และมสี งิ่ ต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้เี พม่ิ ขน้ึ เช่น รายช่อื บทความ หรอื หนงั สอื อ่านประกอบบทเรยี บเรยี งคดั ยอ่ เอกสารทเ่ี ก่ยี วเน่อื ง แผนภูมิ (chart) แถบเสยี ง (tape) ภาพเคลอ่ื นไหว (video) ภาพเลอ่ื น (slide) สอ่ื ออนไลน์ ส่อื ปฏสิ มั พนั ธแ์ บบดจิ ทิ ลั ตวั อยา่ ง หรอื กรณศี กึ ษาทใ่ี ชป้ ระกอบการอธบิ ายภาพ แบบฝึกปฏบิ ตั ิ รวมทงั้ การอา้ งองิ เพ่อื ขยายความทม่ี าของสาระและขอ้ มลู และบรรณานุกรม ทท่ี นั สมยั และถกู ตอ้ งตามกฎหมาย การเผยแพร่ ตอ้ งไดร้ บั การจดั ทาเป็นรปู เลม่ ดว้ ยการพมิ พ์ หรอื ถ่ายสาเนาเยบ็ เลม่ ลกั ษณะคณุ ภาพ หรอื ส่อื อ่นื ๆ ทแ่ี สดงหลกั ฐานว่าไดเ้ ผยแพรโ่ ดยใชเ้ ป็น “คาสอน” ใหแ้ ก่ผเู้ รยี นในวชิ านนั้ ๆ มาแลว้ อยใู่ นดลุ ยพนิ ิจของสภาสถาบนั อุดมศกึ ษาทจ่ี ะกาหนดเป็นขอ้ บงั คบั 114
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรอื่ งหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------- ๖. แนวทางการประเมินผลงานทางวิชาการของผทู้ รงคณุ วฒุ ิ การประเมนิ ผลงานทางวชิ าการของผทู้ รงคณุ วุฒติ อ้ งดาเนินการใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และมาตรฐานจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณสาหรบั ผทู้ รงคุณวุฒเิ พ่อื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงาน ทางวชิ าการและจรยิ ธรรมและจรรยาบรรณทางวชิ าการของสถาบนั อุดมศกึ ษาท่ี ก.พ.อ. กาหนด รวมทงั้ ควรคานงึ ถงึ องคป์ ระกอบอ่นื ๆ เพอ่ื ประกอบการพจิ ารณาตดั สนิ ดงั น้ี ๑. ผลงานทางวชิ าการตอ้ งไดร้ บั การเผยแพรใ่ นวงวชิ าการอยา่ งกวา้ งขวาง และสามารถ สบื คน้ (visibility) และเขา้ ถงึ (avalibility) ผลงานทางวชิ าการได้ ๒. ควรคานงึ ถงึ Journal ranking ของวารสารทเ่ี ผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการดว้ ย ตวั อยา่ งเช่น ผลงานทต่ี พี มิ พใ์ นวารสารทอ่ี ยใู่ น Quartiles1 ของ Science Journal Ranking (SJR) สว่ นใหญ่จะเป็นผลงานทม่ี คี ุณภาพ ๓. ควรคานึงถงึ จานวนครงั้ ในการอา้ งองิ ของผลงานทางวชิ าการ โดยเฉพาะการอา้ งองิ จากต่างประเทศ ๔. impact factor (จากฐานขอ้ มลู Scopus) ของวารสารทเ่ี ผยแพรผ่ ลงานทางวชิ าการ สามารถสะทอ้ นถงึ คุณภาพของผลงานทางวชิ าการได้ ๕. ประโยชน์ของผลงานทางวชิ าการ ทส่ี ามารถสรา้ งผลกระทบไดใ้ นระดบั ใด ต่อวงวชิ าการระดบั นานาชาติ หรอื สรา้ งผลกระทบในดา้ นเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ ๖. จรยิ ธรรมในการทาวจิ ยั หรอื research misconduct เช่น falsification, fabrication และ plagiarism ๗. การไดร้ บั รางวลั ระดบั ชาตแิ ละระดบั นานาชาตขิ องผลงานทางวชิ าการ 115
ประเภทของผลงานทางวิชาการ ตามเอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. กลมุ่ ๑ งานวจิ ยั กลุ่ม ๒ ผลงานทางวชิ าการในลกั ษณะอ่นื ๒.๑ ผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม ๒.๒ ผลงานวชิ าการเพอ่ื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู้ ๒.๓ ผลงานวชิ าการเพ่อื พฒั นานโยบายสาธารณะ ๒.๔ กรณศี กึ ษา (case study) ๒.๕ งานแปล ๒.๖ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการอ่นื ในลกั ษณะเดยี วกนั ๒.๗ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๒.๘ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสนุ ทรยี ะ ศลิ ปะ (ใหใ้ ชค้ าจากดั ความตาม ๗.๔.๒) ๒.๙ สทิ ธบิ ตั ร ๒.๑๐ ซอฟตแ์ วร์ ๒.๑๑ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม (ใหใ้ ชค้ าจากดั ความตาม ๗.๔.๑) ๒.๑๒ ผลงานนวตั กรรม (ใหใ้ ชค้ าจากดั ความตาม ๗.๔.๔) กลุม่ ๓ ๓.๑ ตารา ๓.๒ หนงั สอื ๓.๓ บทความทางวชิ าการ กลมุ่ ๔ ๔.๑ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม ๔.๒ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ ๔.๓ ผลงานการสอน ๔.๔ ผลงานนวตั กรรม ๔.๕ ผลงานศาสนา 116
เอกสารแนบท้ายประกาศ ก.พ.อ. เรอื่ งหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการพิจารณาแต่งตงั้ บคุ คลให้ดารงตาแหน่งผชู้ ่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. ๒๕๖๔ ------------------- ๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ ผลงานวชิ าการสาหรบั การเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการ สามารถจาแนกได้ ๔ กลุ่ม ดงั น้ี ๗.๑ งานวิจยั ๗.๑ งานวิจยั นิยาม ผลงานวชิ าการทเ่ี ป็นงานศกึ ษาหรอื งานคน้ ควา้ อย่างมรี ะบบ ดว้ ยวธิ วี ทิ ยาการวจิ ยั ทเ่ี ป็นทย่ี อมรบั ในสาขาวชิ านนั้ ๆ และมที ม่ี าและวตั ถุประสงคท์ ช่ี ดั เจน เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ ขอ้ มลู คาตอบหรอื ขอ้ สรปุ รวม ทจ่ี ะนาไปส่คู วามกา้ วหน้าทางวชิ าการ (งานวจิ ยั พน้ื ฐาน) หรอื การนาวชิ าการนัน้ มาใชป้ ระโยชน์ (งานวจิ ยั ประยกุ ต์-Applied research) หรอื งานวจิ ยั สรา้ งสรรค์ (Creative research) หรอื การพฒั นาอุปกรณ์ หรอื กระบวนการใหม่ ทเ่ี กดิ ประโยชน์ รปู แบบ อาจจดั ไดเ้ ป็น ๓ รปู แบบ ดงั น้ี ๑. รายงานการวจิ ยั ทม่ี คี วามครบถว้ นสมบรู ณ์และชดั เจนตลอดทงั้ กระบวนการวจิ ยั (research process) อาทิ การกาหนดประเดน็ ปัญหา วตั ถุประสงค์ การทาวรรณกรรม ปรทิ ศั น์ โจทยห์ รอื สมมตฐิ าน การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู การพสิ จู น์โจทยห์ รอื สมมตฐิ าน การวเิ คราะหข์ อ้ มลู การประมวลสรปุ ผลและใหข้ อ้ เสนอแนะ การอา้ งองิ และอ่นื ๆ แสดงใหเ้ หน็ ว่าไดน้ าความรจู้ ากงานวจิ ยั มาตอบโจทยแ์ ละแกป้ ัญหาเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่ึง ๒. บทความวจิ ยั ทป่ี ระมวลสรปุ กระบวนการวจิ ยั ในผลงานวจิ ยั นนั้ ใหม้ คี วามกระชบั และสนั้ สาหรบั การนาเสนอในการประชมุ ทางวชิ าการ หรอื ในวารสารทางวชิ าการ ๓. ในรปู ของหนงั สอื (monograph) ซง่ึ นางานวจิ ยั มาใชป้ ระกอบการเขยี น การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานว่าไดผ้ ่านการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. เผยแพรใ่ นรปู ของบทความวจิ ยั ในวารสารวชิ าการ ดงั ต่อไปน้ี ๑.๑ วารสารวชิ าการระดบั ชาตนิ นั้ ตอ้ งเป็นวารสารทม่ี คี ุณภาพและเป็นทย่ี อมรบั ในวงวชิ าการในสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง โดยวารสารวชิ าการนัน้ ตอ้ งมกี ารตพี มิ พอ์ ยา่ งต่อเน่ืองสม่าเสมอ เป็นระยะเวลาอยา่ งน้อย ๓ ปี และมกี าร ตรวจสอบคณุ ภาพของบทความโดยผทู้ รงคุณวุฒติ รวจสอบบทความ (peer reviewer) ซง่ึ เป็นบคุ คลภายนอกจากหลากหลายสถาบนั อยา่ งน้อย ๓ คน ทงั้ น้ี วารสารวชิ าการนนั้ อาจเผยแพรเ่ ป็นรปู เล่มสงิ่ พมิ พ์ หรอื เป็นส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทม่ี กี าหนดการเผยแพร่ อยา่ งแน่นอนชดั เจน 117
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๑ งานวิจยั (ต่อ) การเผยแพร่ ๑.๒ วารสารวชิ าการระดบั นานาชาตนิ นั้ ตอ้ งเป็นวารสารทอ่ี ยใู่ นฐานขอ้ มลู (ต่อ) ท่ี ก.พ.อ. กาหนด ไดแ้ ก่ ERIC, MathsciNet, Pubmed, Scopus, Web of Science (เฉพาะในฐานขอ้ มลู SCIE, SSCI และ AHCI เทา่ นนั้ ), JSTOR และ Project Muse ทงั้ น้ี วารสารวชิ าการนัน้ อาจเผยแพรเ่ ป็นรปู เล่มสงิ่ พมิ พ์ หรอื เป็นส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ๒. เผยแพรใ่ นหนงั สอื รวมบทความวจิ ยั ทไ่ี ดม้ กี ารบรรณาธกิ าร โดยคณะ ผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ (peer reviewer) ประเมนิ คณุ ภาพ ๓. นาเสนอเป็นบทความวจิ ยั ต่อทป่ี ระชมุ ทางวชิ าการทเ่ี ป็นฉบบั เตม็ ของการประชุม ระดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาติ โดยตอ้ งมคี ณะผทู้ รงคณุ วุฒหิ รอื คณะกรรมการ คดั เลอื กบทความซง่ึ เป็นผทู้ รงคุณวฒุ ทิ อ่ี ยใู่ นวงวชิ าการนนั้ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ทาหน้าทค่ี ดั สรรกลนั่ กรอง รวมถงึ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง การใชภ้ าษา และแกไ้ ขถอ้ ยคา หรอื รปู แบบการนาเสนอทถ่ี ูกตอ้ งก่อนการเผยแพรใ่ นหนงั สอื ประมวลบทความในการ ประชุมทางวชิ าการ (proceedings) ทม่ี าจากการประชุมโดยสมาคมวชิ าการหรอื วชิ าชพี โดยไม่รวมถงึ การประชมุ วชิ าการของสถาบนั อุดมศกึ ษา และจดั อยา่ งต่อเน่อื งไมน่ ้อย กวา่ ๕ ปี ซง่ึ อาจอยใู่ นรปู แบบหนงั สอื หรอื สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และอาจเผยแพรก่ ่อนหรอื หลงั การประชมุ กไ็ ด้ ทงั้ น้ี คณะผทู้ รงคณุ วุฒหิ รอื คณะกรรมการคดั เลอื กบทความดงั กลา่ ว จะตอ้ งมผี ทู้ รงคณุ วุฒทิ อ่ี ยใู่ นวงวชิ าการสาขาวชิ านนั้ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ งจาก หลากหลายสถาบนั ๔. เผยแพรใ่ นรปู ของรายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ พรอ้ มหลกั ฐานว่าไดเ้ ผยแพร่ ไปยงั วงวชิ าการและวชิ าชพี ในสาขาวชิ านนั้ และสาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งกวา้ งขวาง ตามทส่ี ภาสถาบนั อุดมศกึ ษากาหนด ทงั้ น้ี คณะผทู้ รงคุณวุฒิ (peer reviewer) จะตอ้ งไมใ่ ชค่ ณะกรรมการตรวจรบั ทนุ หรอื ตรวจรบั งานจา้ งเพ่อื ใหง้ านวจิ ยั นนั้ เป็นไปตาม วตั ถุประสงคห์ รอื ขอ้ กาหนดของสญั ญาจา้ งเทา่ นนั้ ๕. เผยแพรใ่ นรปู ของหนงั สอื (monograph) พรอ้ มหลกั ฐานว่าไดเ้ ผยแพร่ ไปยงั วงวชิ าการและวชิ าชพี ในสาขาวชิ านนั้ และสาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งกวา้ งขวาง ตามทส่ี ภาสถาบนั อุดมศกึ ษากาหนด เมอ่ื ไดเ้ ผยแพร่ “งานวจิ ยั ” ตามลกั ษณะขา้ งตน้ แลว้ การนา “งานวจิ ยั ” นนั้ มาแกไ้ ข ปรบั ปรงุ หรอื เพมิ่ เตมิ ส่วนใดส่วนหน่งึ เพ่อื นามาเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการ และใหม้ กี ารประเมนิ คุณภาพ “งานวจิ ยั ” นนั้ อกี ครงั้ หน่งึ จะกระทาไมไ่ ด้ 118
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๑ งานวิจยั (ต่อ) ลกั ษณะ ระดบั B เป็นงานวจิ ยั ทม่ี กี ระบวนการวจิ ยั ทุกขนั้ ตอนถกู ตอ้ งเหมาะสมในระเบยี บวธิ วี จิ ยั คุณภาพ ซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการหรอื นาไปใชป้ ระโยชน์ได้ ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ งเป็นผลงานทแ่ี สดงถงึ การวเิ คราะหแ์ ละ นาเสนอผลเป็นความรใู้ หมท่ ล่ี กึ ซง้ึ กวา่ งานเดมิ ทเ่ี คยมผี ศู้ กึ ษาแลว้ และตอ้ งเป็นทย่ี อมรบั หรอื ไดร้ บั การอา้ งองิ ในฐานขอ้ มลู ระดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาติ หรอื สามารถนาไปใช้ ประโยชน์ไดอ้ ยา่ งแพรห่ ลาย โดยมหี ลกั ฐานทแ่ี สดงการวเิ คราะหใ์ หเ้ หน็ ถงึ คณุ ประโยชน์ ในดา้ นสงั คมหรอื มลู คา่ ทางเศรษฐกจิ จากนิตบิ ุคคลองคก์ รทส่ี าม (Third Party) ทไ่ี มม่ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งเป็นทย่ี อมรบั อยา่ งโดดเดน่ (outstanding) รวมทงั้ ไดร้ บั การอา้ งองิ อย่างกวา้ งขวางในฐานขอ้ มลู ระดบั แนวหน้านานาชาติ ของสาขาวชิ า นนั้ ๆ หรอื สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ไดแ้ พรห่ ลายเป็นอยา่ งมาก โดยมหี ลกั ฐานทแ่ี สดงการ วเิ คราะหใ์ หเ้ หน็ ถงึ ผลกระทบอยา่ งกวา้ งขวางและก่อใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในวงวชิ าการ และวงวชิ าชพี จากนิตบิ คุ คลองคก์ รทส่ี าม (Third Party) ทไ่ี มม่ สี ่วนไดส้ ว่ นเสยี 119
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒ ผลงานทางวิชาการในลกั ษณะอื่น ๑๒ ประเภท ดงั นี้ ๗.๒.๑. ผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม ๗.๒.๒ ผลงานวชิ าการเพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนและการเรยี นรู้ ๗.๒.๓ ผลงานวชิ าการเพอ่ื พฒั นานโยบายสาธารณะ ๗.๒.๔ กรณศี กึ ษา (Case Study) ๗.๒.๕ งานแปล ๗.๒.๖ พจนานุกรม สารานุกรม นามานุกรม และงานวชิ าการอ่นื ในลกั ษณะเดยี วกนั ๗.๒.๗ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ๗.๒.๘ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นสุนทรยี ะ ศลิ ปะ ๗.๒.๙ สทิ ธบิ ตั ร ๗.๒.๑๐ซอฟตแ์ วร์ ๗.๒.๑๑ ผลงานรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คม ๗.๒.๑๒ ผลงานนวตั กรรม 120
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๑ ผลงานวิชาการเพ่ืออตุ สาหกรรม นยิ าม ผลงานวชิ าการทเ่ี ป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมทม่ี หี ่วงโซค่ ณุ ค่า (Value Chain) ส่วนใหญ่อยภู่ ายในประเทศ เป็นผลใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ เพ่อื ตอบสนอง ต่อการพฒั นาหรอื การแก้ปัญหาของอุตสาหกรรม รปู แบบ จดั ทาเป็นเอกสาร โดยมคี าอธบิ ายอยา่ งชดั เจนประกอบผลงานนนั้ เพ่อื ชใ้ี หเ้ หน็ วา่ เป็นผลงานทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรม มคี วามเปลย่ี นแปลงทด่ี ขี น้ึ และเกดิ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการในประเดน็ ต่อไปน้ี ขอ้ มลู ของสถานการณ์ปัญหาก่อนการดาเนนิ การ หลกั ฐานการมสี ่วนรว่ มและการยอมรบั ของผใู้ ช้ คาอธบิ ายกระบวนการแก้ปัญหาทางอุตสาหกรรม (solution method) คาอธบิ ายถงึ ความรคู้ วามเชย่ี วชาญทใ่ี ช้ และการนาเทคโนโลยอี ุตสาหกรรม ทเ่ี กย่ี วขอ้ งมาใช้ คาอธบิ ายถงึ ความรหู้ รอื องคค์ วามรใู้ หมท่ เ่ี กดิ ขน้ึ ภายหลงั เสรจ็ สน้ิ การวจิ ยั คาอธบิ ายถงึ ผลลพั ธห์ รอื ผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ ต่อผใู้ ช้ หรอื ต่อบางสว่ นของห่วงโซ่ คุณค่า (value chain) ของอุตสาหกรรมนนั้ หรอื ต่อทงั้ วงการอุตสาหกรรมนนั้ คาอธบิ ายถงึ วธิ ี และคุณภาพ/ประสทิ ธภิ าพ ในการนากลบั มาใชใ้ นการเรยี นการสอน เช่น การเขยี นตารา หรอื การปรบั ปรงุ เน้อื หาในรายวชิ าทส่ี อน หรอื ใชเ้ ป็นหวั ขอ้ วทิ ยานิพนธห์ รอื ปัญหาพเิ ศษของนกั ศกึ ษา 121
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๑ ผลงานวิชาการเพื่ออตุ สาหกรรม (ต่อ) การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ า่ นการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะผทู้ รงคุณวฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. บทความวจิ ยั ในวารสารวชิ าการ หนงั สอื รวมบทความวชิ าการ หรอื การประชุม วชิ าการทม่ี หี นงั สอื ประมวลบทความในการประชุมทางวชิ าการ (proceedings) ทงั้ น้ี บทความดงั กลา่ วจะตอ้ งมผี แู้ ต่งรว่ มเป็นบคุ ลากรจากอุตสาหกรรม หรอื หากไม่มี จะตอ้ งมี เอกสารยนื ยนั การใชป้ ระโยชน์จากงานวจิ ยั ดงั กล่าวโดยอุตสาหกรรม เช่น สญั ญารว่ มทนุ วจิ ยั หรอื หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษใ์ นการนาผลงานวจิ ยั ไปใชป้ ระโยชน์ หมายเหตุ กรณกี ารเผยแพรบ่ ทความวจิ ยั ในวารสารวชิ าการ หนงั สอื รวมบทความ วชิ าการ หรอื การประชุมวชิ าการทม่ี หี นงั สอื ประมวลบทความในการประชุมทางวชิ าการ (proceedings) ใหใ้ ชล้ กั ษณะการเผยแพรต่ าม ๗.๑ งานวจิ ยั ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ และขอ้ ๓ ๒. รายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ทม่ี เี น้อื หาหรอื มเี อกสารประกอบทม่ี เี น้อื หา ตามรปู แบบของผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม และมกี ารประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคณุ วุฒิ ในสาขาวชิ านนั้ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ งจากหลากหลายสถาบนั ๓. เอกสารแสดงทรพั ยส์ นิ ทางปัญญาทเ่ี กดิ จากผลงานดงั กลา่ ว เชน่ สทิ ธบิ ตั ร อนุสทิ ธบิ ตั ร ขอ้ ตกลงอนุญาตใหใ้ ชส้ ทิ ธิ (licensing agreement) โดยมเี อกสารประกอบ ทม่ี เี น้อื หาตามรปู แบบของผลงานวชิ าการเพ่อื อุตสาหกรรม ๔. รายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ทไ่ี มไ่ ดร้ บั อนุญาตใหเ้ ปิดเผย โดยมเี น้อื หา หรอื มเี อกสารประกอบท่มี เี น้ือหาตามรปู แบบของผลงานวชิ าการเพ่อื อุตสาหกรรม และตอ้ งมหี ลกั ฐานแสดงเหตุผลทไ่ี มส่ ามารถเปิดเผยต่อสาธารณะได้ แต่มหี ลกั ฐานรบั รอง ว่าไดน้ าไปใชป้ ระโยชน์แลว้ ๕. รายงานการประเมนิ จากหน่วยงานภายนอกทแ่ี สดงถงึ ผลกระทบทเ่ี กดิ จากการวจิ ยั หรอื กจิ กรรมทางวชิ าการทเ่ี ช่อื มโยงกบั ภาคอุตสาหกรรม โดยผเู้ สนอตอ้ งจดั ทาเอกสาร ประกอบทม่ี เี น้อื หาตามรปู แบบของผลงานวชิ าการเพอ่ื อุตสาหกรรม 122
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๑ ผลงานวิชาการเพื่ออตุ สาหกรรม (ต่อ) ลกั ษณะ ระดบั B มกี ารรวบรวมขอ้ มลู และสารสนเทศทช่ี ดั เจน มกี ารระบปุ ัญหาหรอื ความ คุณภาพ ตอ้ งการโดยการมสี ่วนรว่ มของอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย มกี ารวเิ คราะหห์ รอื สงั เคราะห์ ความรทู้ ส่ี ามารถแกไ้ ขปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ หรอื ทาความเขา้ ใจสถานการณ์ จนมแี นวโน้ม ทาใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ อยา่ งเป็นทป่ี ระจกั ษ์ หรอื มแี นวโน้มก่อใหเ้ กดิ การพฒั นาอุตสาหกรรมนนั้ ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ งสามารถนาไปใชเ้ ป็นตวั อยา่ งในการ แกป้ ัญหาหรอื ทาความเขา้ ใจสถานการณ์ จนเกดิ การเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ อยา่ งเป็นทป่ี ระจกั ษ์ หรอื ก่อใหเ้ กดิ การพฒั นาใหก้ บั อุตสาหกรรมอ่นื ได้ หรอื ก่อใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงเชงิ นโยบายในวงกวา้ งในระดบั จงั หวดั หรอื ประเทศอยา่ งเป็นรปู ธรรม ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งสง่ ผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมหรอื แวดวงวชิ าการอยา่ งกวา้ งขวางอยา่ งมนี ยั สาคญั เป็นท่ียอมรบั ในระดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาติ หรอื ไดร้ บั รางวลั จากองคก์ รทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั ในระดบั นานาชาติ หมายเหตุ แนวทางการประเมนิ ผลงานทางวชิ าการส่ภู าคอุตสาหกรรม ใหค้ ณะกรรมการผทู้ รงคณุ วุฒเิ พอ่ื ทาหน้าทป่ี ระเมนิ ผลงานทางวชิ าการและจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณทางวชิ าการ ประเมนิ ผลงานทางวชิ าการโดยใชแ้ นวทางในการประเมนิ ดงั ต่อไปน้ี ๑. ประเมนิ จากเอกสารและหลกั ฐานประกอบการเสนอผลงาน ๒. ประเมนิ จากหลกั ฐานอ่นื ๆทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เชน่ ขอ้ มลู จากอุตสาหกรรม การสมั ภาษณ์ ผเู้ กย่ี วขอ้ ง หรอื สารสนเทศจากหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เป็นตน้ ๓. นอกจากการประเมนิ เอกสารและหลกั ฐานตามขอ้ ๑ และขอ้ ๒ แลว้ อาจประเมนิ จากการตรวจสอบสภาพจรงิ ในอุตสาหกรรมรว่ มดว้ ย ซง่ึ คณะกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ จะตรวจสอบดว้ ยตนเองหรอื แต่งตงั้ ผแู้ ทนใหไ้ ปตรวจสอบแทนกไ็ ด้ 123
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๒ ผลงานวิชาการเพื่อพฒั นาการเรยี นการสอนและการเรียนรู้ คานิยาม ผลงานวชิ าการซง่ึ อาจดาเนินงานในรปู การศกึ ษาหรอื การวจิ ยั เชงิ ทดลองหรอื การวจิ ยั และพฒั นา มเี ป้าหมายเพอ่ื สง่ เสรมิ พฒั นาคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ หรอื แกไ้ ขปัญหาดา้ นการ เรยี นรขู้ องผเู้ รยี น องคป์ ระกอบของผลงานประกอบดว้ ยคาอธบิ ายหรอื ขอ้ มลู หลกั ฐานสาคญั ไดแ้ ก่ (๑) สภาพปัญหาทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั การเรยี นการสอน (๒) แนวคดิ ทฤษฎี หลกั การ และเหตุผล หรอื ความเช่อื ทผ่ี สู้ อนใชใ้ นการออกแบบการเรยี นการสอนทเ่ี ป็นนวตั กรรม เพ่อื ส่งเสรมิ พฒั นาผเู้ รยี นหรอื แกไ้ ขปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ ทงั้ น้ี นวตั กรรมดงั กล่าวอาจเป็น รปู แบบใหมข่ องการสอนหรอื เป็นการสอนแนวใหม่ หรอื เป็นงานประดษิ ฐค์ ดิ คน้ ทพ่ี ฒั นา ขน้ึ ใหม่ หรอื ปรบั ประยกุ ตจ์ ากของเดมิ อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เชน่ เป็นบทเรยี นแบบใหม่ กจิ กรรมใหม่ หรอื เทคนิคใหมใ่ นการจดั การเรยี นการสอน สอ่ื ทใ่ี ชใ้ นการเรยี นการสอน และ (๓) กระบวนการและผลลพั ธใ์ นการนานวตั กรรมนนั้ ไปทดลองใชก้ บั ผเู้ รยี น ในสถานการณ์จรงิ แสดงผลในการพฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ โดยมขี อ้ มลู หลกั ฐานรองรบั วา่ ไดเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในผเู้ รยี นในทศิ ทางทพ่ี งึ ประสงค์ ก่อใหเ้ กดิ การเรยี นรูท้ งั้ ในผเู้ รยี นและผสู้ อน รปู แบบ ๑. ผลงานวชิ าการในรปู ของรายงานผลการศกึ ษา บทความวจิ ยั หรอื ๒. ผลผลติ จากการศกึ ษาทเ่ี ป็นบทเรยี น กจิ กรรม ส่อื การเรยี นการสอน โดยมกี ารอธบิ าย แนวคดิ ในการพฒั นาและผลการใชก้ บั ผเู้ รยี นประกอบดว้ ย อาจจดั ทาเป็นเอกสาร หรอื สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ ่านการประเมนิ คุณภาพ โดยคณะผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจาก หลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. เผยแพร่เป็นรายงานการศกึ ษาฉบบั สมบูรณ์ และมกี ารประเมนิ คณุ ภาพโดยคณะผทู้ รงคุณวุฒิ และมหี ลกั ฐานการเผยแพร่ผลงานไปยงั วงวชิ าการและวชิ าชพี ในสาขาวชิ านนั้ และสาขาวชิ า ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๒. เผยแพรใ่ นรปู ของบทความวจิ ยั ในวารสารทางวชิ าการ ทงั้ น้ี วารสารทางวชิ าการนัน้ อาจ เผยแพรเ่ ป็นรปู เลม่ สง่ิ พมิ พ์ หรอื ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๓. เผยแพรใ่ นหนงั สอื รวมบทความทม่ี กี ารบรรณาธกิ ารโดยคณะผทู้ รงคุณวุฒดิ า้ นการพฒั นา การเรยี นการสอน และมกี ารประเมนิ คุณภาพ ๔. เผยแพรใ่ นรปู ของบทความวจิ ยั ต่อทป่ี ระชุมทางวชิ าการทม่ี หี นงั สอื ประมวลบทความ ในการประชุมทางวชิ าการ (proceedings) หมายเหตุ กรณกี ารเผยแพรบ่ ทความวจิ ยั ในวารสารวชิ าการ หนงั สอื รวมบทความ วชิ าการ หรอื การประชุมวชิ าการทม่ี หี นงั สอื ประมวลบทความในการประชุมทางวชิ าการ (proceedings) ใหใ้ ชล้ กั ษณะการเผยแพรต่ าม ๗.๑ งานวจิ ยั ขอ้ ๑ ขอ้ ๒ และขอ้ ๓ ๕. เผยแพรใ่ นรปู ของผลผลติ ของงานการศกึ ษาแบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยมคี าอธบิ ายแนวคดิ การพฒั นานวตั กรรมการเรยี นการสอน วธิ กี ารใช้ และผลทเ่ี กดิ กบั ผเู้ รยี น 124
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๒ ผลงานวิชาการเพื่อพฒั นาการเรยี นการสอนและการเรียนรู้ (ต่อ) ลกั ษณะ ระดบั B คุณภาพ ๑. แนวคดิ การออกแบบนวตั กรรมการเรยี นการสอนเป็นงานรเิ รมิ่ สรา้ งสรรคท์ ป่ี รบั จาก แนวคดิ เดมิ หรอื เป็นแนวคดิ ใหม่ ๒. มขี อ้ มลู หลกั ฐานชดั เจนวา่ ผลงานการศกึ ษาทพ่ี ฒั นาขน้ึ นาไปส่กู ารพฒั นาการเรยี นรู้ หรอื คุณลกั ษณะของผเู้ รยี นทพ่ี งึ ประสงคไ์ ดจ้ รงิ ระดบั A ๑. มคี ุณลกั ษณะเหมอื นระดบั B และ ๒. มขี อ้ มลู หลกั ฐานชดั เจนวา่ ผลงานการศกึ ษาสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์กบั การพฒั นา ผเู้ รยี นกลุ่มอ่นื ได้ ๓. ผลงานไดร้ บั การตพี มิ พใ์ นวารสารวชิ าการทเ่ี กย่ี วกบั การพฒั นาการเรยี นการสอน ทม่ี ี impact factors ระดบั A+ ๑. มคี ณุ ลกั ษณะเหมอื นระดบั A และ ๒. ผลงานไดร้ บั รางวลั หรอื การยกยอ่ งดา้ นการพฒั นาการเรยี นการสอน/งานการศกึ ษา หรอื งานประดษิ ฐค์ ดิ คน้ ในระดบั ชาตแิ ละ/หรอื ระดบั นานาชาติ 125
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๓ ผลงานวิชาการเพ่ือพฒั นานโยบายสาธารณะ นิยาม เป็นผลงานทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาวจิ ยั หรอื วเิ คราะห์ สงั เคราะหท์ างเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื งการปกครอง สง่ิ แวดลอ้ ม หรอื ดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ หรอื ทาง วชิ าการดา้ นอ่นื อนั นาไปส่ขู อ้ เสนอนโยบายสาธารณะใหม่ หรอื ขอ้ เสนอแนะเชงิ ความคดิ หรอื เชงิ ประจกั ษ์เกย่ี วกบั นโยบายสาธารณะหรอื การนานโยบายนนั้ ไปปฏบิ ตั ิ เพ่อื ให้ ภาครฐั นาไปใชก้ าหนดนโยบาย กฎหมาย แผน คาสงั่ หรอื มาตรการอ่นื ใด ทงั้ น้ี เพอ่ื แกป้ ัญหาทม่ี อี ยหู่ รอื พฒั นาใหเ้ กดิ ผลดตี ่อสาธารณะไมว่ ่าระดบั ชาติ ทอ้ งถน่ิ หรอื นานาชาติ รปู แบบ จดั ทาเป็นเอกสาร โดยมคี าอธบิ ายทางวชิ าการ ประกอบดว้ ย การวเิ คราะห์ สงั เคราะหส์ ภาพปัญหาทางเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื งการปกครอง สงิ่ แวดลอ้ ม หรอื ดา้ นอ่นื ทต่ี อ้ งการแกไ้ ข โดยมเี หตุผลหลกั ฐานและขอ้ มลู สนบั สนุนแนวทางแกไ้ ข ปัญหาดงั กล่าวตามหลกั วชิ าการ ทงั้ น้โี ดยมนี โยบาย ร่างกฎหมาย รา่ งกฎ แผน คาสงั่ หรอื มาตรการอ่นื ใด เป็นผลผลติ (output) รวมทงั้ มกี ารคาดการผลลพั ธ์ (outcome) และผลกระทบ (impact) ต่อสงั คมในระดบั ทอ้ งถนิ่ ระดบั ชาติ หรอื ระดบั นานาชาตดิ ว้ ย การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานว่าไดผ้ ่านการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะผทู้ รงคุณวฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ลกั ษณะ (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี คณุ ภาพ ๑. ไดม้ กี ารนาเสนอนโยบาย กฎหมาย แผน คาสงั่ หรอื มาตรการอ่นื ใด พรอ้ มคาอธบิ ายต่อผมู้ สี ่วนไดเ้ สยี และเจา้ หน้าทผ่ี รู้ บั ผดิ ชอบในนโยบายสาธารณะนนั้ ๆ ทงั้ ไดม้ กี ารนาไปสกู่ ารพจิ ารณาหรอื ดาเนินการโดยผมู้ หี น้าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ๒. ไดม้ กี ารเผยแพร่นโยบายสาธารณะนนั้ ไปยงั ผเู้ กย่ี วขอ้ ง ระดบั B เป็นผลงานทแ่ี สดงการวเิ คราะหส์ งั เคราะหท์ ม่ี หี ลกั ฐานขอ้ มลู หรอื เหตุผลสนบั สนุน ซง่ึ แสดงความกา้ วหน้าทางวชิ าการ ระดบั A เป็นเกณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B แต่ตอ้ งเป็นขอ้ เสนอใหมท่ ค่ี รอบคลุม การแกป้ ัญหา หรอื พฒั นาทก่ี วา้ งขวางกวา่ ขอ้ เสนอเดมิ โดยตอ้ งมรี ่างกฎหมาย รา่ งนโยบาย รา่ งแผน ฯลฯ ทม่ี คี ณุ ภาพระดบั ดมี าก และมกี ารอา้ งองิ โดยผเู้ กย่ี วขอ้ ง ระดบั A+ เป็นเกณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งไดร้ บั การอา้ งองิ อภปิ รายอยา่ งกวา้ งขวางในสงั คม หรอื ไดร้ บั การนาไปใชโ้ ดยผรู้ บั ผดิ ชอบ ในนโยบายสาธารณะนนั้ และเกดิ ประโยชน์ 126
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๔ กรณีศึกษา (case study) นิยาม งานเขยี นทเ่ี กดิ จากการศกึ ษาบคุ คลหรอื สถาบนั (หน่วยงานภาครฐั ภาคเอกชน รฐั บาล ฯลฯ) ศกึ ษาเหตุการณ์ การบรหิ ารจดั การ คดี หรอื กรณที เ่ี กดิ ขน้ึ จรงิ มาจดั ทาเป็น กรณศี กึ ษาเพอ่ื ใชใ้ นการสอน (teaching case study) ทงั้ น้ี โดยเป็นการรวบรวมขอ้ มลู และวเิ คราะหต์ ามหลกั วชิ าการถงึ สาเหตุของปัญหาและปัจจยั อ่นื ๆ นามาประกอบ การตดั สนิ ใจและกาหนดทางเลอื กในการแกป้ ัญหาตามหลกั วชิ า หรอื ทาขอ้ เสนอในการ พฒั นาองคก์ ร หรอื เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในพฤตกิ รรมของบคุ คลหรอื พฤตกิ รรมของ องคก์ รเพ่อื กระตุน้ ใหผ้ เู้ รยี นคดิ วเิ คราะหห์ าเหตุผลและแนวทางในการตดั สนิ ใจ ตามหลกั วชิ าการ หรอื เพอ่ื วเิ คราะหข์ อ้ เทจ็ จรงิ และการใชด้ ลุ พนิ ิจตดั สนิ ในคดนี นั้ ๆ รปู แบบ เอกสารทต่ี พี มิ พห์ รอื เป็นสงิ่ พมิ พอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ประกอบดว้ ยคมู่ อื การสอน (teaching notes) และใชป้ ระกอบการเรยี นการสอนมาแลว้ มอี งคป์ ระกอบครบถว้ น คอื บทนา เน้อื หา และบทส่งทา้ ย จานวนกรณศี กึ ษาทจ่ี ะนามาเสนอขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการตอ้ งมจี านวน อยา่ งน้อย ๕ กรณศี กึ ษา และมจี านวนหน้ารวมกนั แลว้ ไมน่ ้อยกวา่ ๘๐ หน้า โดยเน้ือหา สาระจะตอ้ งไมซ่ า้ ซอ้ นกนั และอยใู่ นขอบขา่ ยสาขาวชิ าทเ่ี สนอขอตาแหน่งทางวชิ าการ สาหรบั การประเมนิ คณุ ภาพจะตอ้ งประเมนิ คณุ ภาพโดยรวมทงั้ หมด การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะของสง่ิ ตพี มิ พห์ รอื สง่ิ พมิ พอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ โดยตอ้ งมคี ณะผทู้ รงคุณวฒุ ิ ทส่ี ถาบนั อุดมศกึ ษานนั้ แต่งตงั้ หรอื เผยแพรใ่ นหนังสอื หรอื แหลง่ รวบรวมกรณศี กึ ษาทม่ี ี การบรรณาธกิ ารโดยมคี ณะผทู้ รงคุณวุฒปิ ระเมนิ คณุ ภาพ ทงั้ น้ี ตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ า่ นการประเมนิ คณุ ภาพโดยคณะผทู้ รงคณุ วุฒิ ในสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ลกั ษณะ ระดบั B คุณภาพ ๑. เป็นกรณศี กึ ษาทม่ี อี งคป์ ระกอบครบถว้ น คอื บทนา เน้อื หา บทส่งทา้ ย รายละเอยี ดขอ้ มลู ทงั้ เชงิ ปรมิ าณและเชงิ คุณภาพ เชน่ ตาราง และรปู ภาพ ๒. เป็นกรณศี กึ ษาทม่ี เี น้อื หาและการนาเสนอทช่ี ดั เจนเป็นประโยชน์ต่อการเรยี น การสอนในระดบั อุดมศกึ ษา ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ ง เป็นกรณศี กึ ษาทม่ี กี ารเสนอเน้อื หาและการวเิ คราะหท์ ท่ี นั ต่อความกา้ วหน้า ทางวชิ าการ เป็นประโยชน์ดา้ นวชิ าการอยา่ งกวา้ งขวาง หรอื สามารถนาไปประยกุ ต์ ใชไ้ ดอ้ ยา่ งแพรห่ ลาย ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ ง ๑. เป็นกรณศี กึ ษาทบ่ี ุกเบกิ ทางวชิ าการ นาเสนอปัญหาหรอื ประเดน็ ทไ่ี มเ่ คยมี ผศู้ กึ ษามาก่อน มกี ารสงั เคราะหข์ อ้ มลู อยา่ งลกึ ซง้ึ และสรา้ งความรใู้ หมใ่ นเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ ทท่ี าใหเ้ กดิ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการอยา่ งชดั เจน ๒. เป็นกรณศี กึ ษาทก่ี ระตุน้ ใหเ้ กดิ ความคดิ และคน้ ควา้ ในวชิ าการ หรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติ 127
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๕ งานแปล นิยาม งานแปลจากตวั งานตน้ แบบทเ่ี ป็นงานวรรณกรรม หรอื งานวชิ าการทม่ี คี วามสาคญั และ ทรงคณุ ค่าในสาขานนั้ ๆ ซง่ึ เมอ่ื นามาแปลแลว้ จะเป็นการเสรมิ ความก้าวหน้าทางวชิ าการ ทป่ี ระจกั ษช์ ดั เป็นการแปลจากภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย หรอื จากภาษาไทยเป็น ภาษาต่างประเทศ หรอื แปลจากภาษาต่างประเทศหน่งึ เป็นภาษาต่างประเทศอกี ภาษาหน่งึ รปู แบบ งานแปลพรอ้ มบทวเิ คราะหห์ รอื อรรถาธบิ ายเชงิ วชิ าการทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่าเป็นผลงาน ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาและความกา้ วหน้าทางวชิ าการ หรอื เสรมิ สรา้ งความรู้ หรอื ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อสาขาวชิ านนั้ ๆ ไดอ้ ยา่ งไร ในแงใ่ ด การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานว่าไดผ้ ่านการประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคุณวุฒใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. การเผยแพรด่ ว้ ยวธิ กี ารพมิ พ์ ๒. การเผยแพรโ่ ดยสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ ่นื ๆ อาทิ การเผยแพรใ่ นรปู ของซดี รี อม ฯลฯ การเผยแพรด่ งั กลา่ วนนั้ จะตอ้ งเป็นไปอยา่ งกวา้ งขวางมากกวา่ การใชใ้ นการเรยี น การสอนวชิ าต่าง ๆ ในหลกั สตู ร ซง่ึ จานวนพมิ พเ์ ป็นดชั นีหน่งึ ทอ่ี าจแสดงการเผยแพร่ อยา่ งกวา้ งขวางได้ แต่อาจใชด้ ชั นีอ่นื วดั ความกวา้ งขวางในการเผยแพรไ่ ดเ้ ชน่ กนั กรณที อ่ี ยใู่ นระหวา่ งกระบวนการพจิ ารณา หากคณะผทู้ รงคณุ วุฒมิ มี ตใิ หป้ รบั ปรงุ งานแปลซง่ึ อยใู่ นวสิ ยั ทส่ี ามารถปรบั ปรงุ แกไ้ ขใหส้ มบูรณ์ยงิ่ ขน้ึ ได้ ทงั้ น้ี เมอ่ื ไดแ้ กไ้ ข ปรบั ปรงุ งานแปลดงั กล่าวเรยี บรอ้ ยแลว้ ใหเ้ สนอคณะผทู้ รงคุณวฒุ พิ จิ ารณา โดยไมต่ อ้ งนา งานแปลดงั กล่าวไปเผยแพร่ใหมอ่ กี ครงั้ หน่งึ กรณที ไ่ี ดม้ กี ารพจิ ารณาประเมนิ คุณภาพของงานแปลแลว้ ไมอ่ ยใู่ นเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด การนางานแปลนนั้ ไปแกไ้ ขปรบั ปรงุ หรอื เพม่ิ เตมิ เน้อื หาในงานแปลเพ่อื นามาเสนอ ขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการครงั้ ใหม่ สามารถกระทาได้ แต่ใหม้ กี ารประเมนิ คุณภาพ งานแปลทไ่ี ดร้ บั การปรบั ปรงุ แกไ้ ขนนั้ ใหมอ่ กี ครงั้ หน่งึ 128
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๕ งานแปล (ต่อ) ลกั ษณะ ระดบั B เป็นการถ่ายทอดเน้อื หาจากตน้ ฉบบั เดมิ ไดส้ มบรู ณ์พรอ้ มทงั้ มบี ทนาของผแู้ ปล คุณภาพ ทใ่ี หข้ อ้ มลู ครบถว้ นเก่ยี วกบั เอกสารทแ่ี ปล ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ งมกี ารใชภ้ าษาทส่ี ละสลวย และอ่านเขา้ ใจงา่ ย ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งมบี ทนาเชงิ วเิ คราะหท์ แ่ี สดงความรคู้ วาม เขา้ ใจของผแู้ ปลในเรอ่ื งนนั้ ๆ และเรอ่ื งอ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกนั หรอื มกี ารคน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ ของผแู้ ปล ใสไ่ วใ้ นบทนา หรอื ในเชงิ อรรถ แลว้ แต่กรณี สาหรบั สาขาวชิ าทางสงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ ใหใ้ ชล้ กั ษณะคณุ ภาพ ดงั ต่อไปน้ี ระดบั B เป็นงานแปลทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเขา้ ใจในตวั บทแบบแผนทางความคดิ หรอื วฒั นธรรมตน้ กาเนิด และบง่ ชค้ี วามสามารถในการส่อื ความหมายไดอ้ ยา่ งดี มกี ารศกึ ษา วเิ คราะหแ์ ละตคี วามทงั้ ตวั บทและบรบิ ทของตวั งานในลกั ษณะทเ่ี ทยี บไดก้ บั งานวจิ ยั มกี ารใหอ้ รรถาธบิ ายเชงิ วชิ าการในรปู แบบต่างๆอนั เหมาะสมทงั้ ในระดบั จลุ ภาคและ มหภาค ระดบั A เป็นงานแปลทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเขา้ ใจอนั ลกึ ซง้ึ ในตวั บทแบบแผน ทางความคดิ หรอื วฒั นธรรมตน้ กาเนิดและบ่งชถ้ี งึ ความสามารถในการส่อื ความหมาย ในระดบั สงู มาก มกี ารศกึ ษาวเิ คราะหแ์ ละตคี วามทงั้ ตวั บทและบรบิ ทของตวั งาน อยา่ งละเอยี ดลกึ ซง้ึ ในลกั ษณะทเ่ี ทยี บไดก้ บั งานวจิ ยั ของผสู้ นั ทดั กรณี มกี ารให้ อรรถาธบิ ายเชงิ วชิ าการในรปู แบบต่างๆ อนั เหมาะสมทงั้ ในระดบั จลุ ภาคและมหภาค ระดบั A+ ใหข้ อ้ สรปุ ของวธิ กี ารแปลและทฤษฎกี ารแปล ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A โดยมขี อ้ กาหนดเพม่ิ เตมิ ดงั น้ี ๑. เป็นงานทแ่ี ปลมาจากตน้ แบบทม่ี คี วามสาคญั ในระดบั ทม่ี ผี ลใหเ้ กดิ การ เปลย่ี นแปลงในทางวชิ าการ ๒. เป็นงานทแ่ี ปลอยใู่ นระดบั ทพ่ี งึ ยดึ ถอื เป็นแบบฉบบั ได้ ๓. มกี ารใหข้ อ้ สรุปของวธิ กี ารแปลและทฤษฎกี ารแปลทม่ี ลี กั ษณะเป็นการบุกเบกิ ทางวชิ าการ 129
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๖ พจนานุกรม (dictionary) สารานุกรม (encyclopedia) นามานุกรม (directory) และงานวิชาการอ่ืนในลกั ษณะเดียวกนั นิยาม งานอา้ งองิ ทอ่ี ธบิ าย และใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั คา หรอื หวั ขอ้ หรอื หน่วยยอ่ ย ในลกั ษณะอ่นื ๆ อนั เป็นผลของการศกึ ษาคน้ ควา้ อยา่ งเป็นระบบ และมหี ลกั วชิ า รวมทงั้ แสดงสถานะล่าสุด ทางวชิ าการ (state-of-the-art) ของสาขาวชิ านนั้ ๆ เป็นการรวบรวมคา หรอื หวั ขอ้ หรอื หน่วยยอ่ ย จดั ระบบอา้ งองิ โดยเป็นงานของนกั วชิ าการคนเดยี ว มคี านาทช่ี แ้ี จง หลกั การ หลกั วชิ า หรอื ทฤษฎที น่ี ามาใช้ รวมทงั้ อธบิ ายวธิ กี ารใช้ และมบี รรณานุกรมรวม หรอื บรรณานุกรมแยกส่วนตามหน่วยยอ่ ย รวมทงั้ ดชั นีคน้ คา ในกรณีทจ่ี าเป็น รปู แบบ ประกอบดว้ ยบทวเิ คราะหห์ รอื อรรถาธบิ ายเชงิ วชิ าการทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่าเป็นผลงาน ทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาและความกา้ วหน้าทางวชิ าการ หรอื เสรมิ สรา้ งความรู้ หรอื ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อสาขาวชิ านนั้ ๆ ไดอ้ ยา่ งไร ในแงใ่ ด การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานว่าไดผ้ ่านการประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคุณวฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. การเผยแพรด่ ว้ ยวธิ กี ารพมิ พ์ หรอื ๒. การเผยแพรโ่ ดยส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ลกั ษณะ ระดบั B เป็นงานอา้ งองิ ทใ่ี หค้ วามรพู้ น้ื ฐานอนั ถูกตอ้ งและทนั สมยั ครอบคลุมเน้อื หา คุณภาพ ทก่ี วา้ งขวางตามทย่ี อมรบั กนั ในวงวชิ าการ ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ งมกี ารใหข้ อ้ มลู และทศั นะทช่ี ใ้ี หเ้ หน็ ถงึ ววิ ฒั นาการของศพั ท์ หวั ขอ้ หรอื หน่วยยอ่ ยและ/หรอื สาขาวชิ านนั้ ๆ ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งมกี ารชท้ี างใหผ้ อู้ ่าน หรอื ผใู้ ชเ้ กดิ ความคดิ เชงิ วพิ ากษ์และ/หรอื เกดิ ความสนใจ ทจ่ี ะศกึ ษาคน้ ควา้ ต่อไป 130
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ(ต่อ) ๗.๒.๗ ผลงานสร้างสรรคด์ ้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี คานิยาม ผลงานวชิ าการทเ่ี ป็นการประดษิ ฐค์ ดิ คน้ เครอ่ื งมอื เครอ่ื งทนุ่ แรง ผลงานการ สรา้ งสรรคพ์ ชื หรอื สตั วพ์ นั ธุใ์ หม่ หรอื จลุ นิ ทรยี ท์ ม่ี คี ณุ สมบตั พิ เิ ศษสาหรบั การใชป้ ระโยชน์ เฉพาะดา้ น วคั ซนี ผลติ ภณั ฑห์ รอื สง่ิ ประดษิ ฐอ์ ่นื ๆ ทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกจิ และสงั คม ซง่ึ พฒั นาขน้ึ จากการประยกุ ตใ์ ชอ้ งคค์ วามรทู้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลยี โดยวธิ วี ทิ ยาทเ่ี ป็นทย่ี อมรบั ในสาขาวชิ านนั้ ๆ รปู แบบ ผลงานสรา้ งสรรคพ์ รอ้ มดว้ ยสงิ่ ตพี มิ พห์ รอื เอกสารทางวชิ าการ ทแ่ี สดงถงึ แนวคดิ ในการวจิ ยั คน้ ควา้ และพฒั นางานนัน้ ๆ กระบวนการในการวจิ ยั และพฒั นา ผลการทดสอบคุณสมบตั ติ ่าง ๆ ทงั้ ทเ่ี ป็นคณุ สมบตั พิ น้ื ฐานและคุณสมบตั พิ เิ ศษ ทเ่ี ป็นขอ้ เด่น ผลการทดสอบในสภาพของการนาไปใชจ้ รงิ ในสภาพทเ่ี หมาะสม และศกั ยภาพของผลกระทบจากการนาไปใชใ้ นแงเ่ ศรษฐกจิ หรอื สงั คม การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ ่านการประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคุณวฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. การจดั นิทรรศการ การจดั แสดง การจดั การแสดง การแสดงสาธารณะ การบนั ทกึ ภาพ การบนั ทกึ เสยี ง ภาพถ่าย แถบบนั ทกึ ภาพ ๒. เอกสารประกอบ ตอ้ งพมิ พเ์ ผยแพร่ หรอื เผยแพรโ่ ดยสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ลกั ษณะ ระดบั B เป็นผลงานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความคดิ สรา้ งสรรคซ์ ง่ึ ตอ้ งใชค้ วามรเู้ ชงิ วชิ าการ คณุ ภาพ มผี ลการทดสอบตามหลกั วชิ าทช่ี ดั เจน เชอ่ื ถอื ได้ และการนาผลงานนัน้ ไปใชม้ ศี กั ยภาพ ในการสง่ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ หรอื ทางสงั คมในระดบั ปานกลาง ระดบั A เป็นผลงานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความคดิ สรา้ งสรรคซ์ ง่ึ ตอ้ งใชค้ วามรู้ เชงิ วชิ าการมากขน้ึ มผี ลการทดสอบตามหลกั วชิ าทช่ี ดั เจน เชอ่ื ถอื ได้ และการนาผลงานนนั้ ไปใชม้ ศี กั ยภาพในการสง่ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ หรอื ทางสงั คมในระดบั สงู ระดบั A+ เป็นผลงานทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ ความคดิ สรา้ งสรรคซ์ ง่ึ ตอ้ งใชค้ วามรู้ เชงิ วชิ าการทล่ี กึ ซง้ึ มผี ลการทดสอบตามหลกั วชิ าทช่ี ดั เจน เช่อื ถอื ได้ ผลงานมคี ุณสมบตั ิ โดดเดน่ และมศี กั ยภาพสงู ในการนาไปใชป้ ระโยชน์ หรอื ก่อใหเ้ กดิ การใชป้ ระโยชน์ ในแนวทางหรอื รปู แบบใหม่ๆ ทจ่ี ะมผี ลกระทบทางเศรษฐกจิ หรอื ทางสงั คมในระดบั สงู 131
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๘ ผลงานสรา้ งสรรคด์ ้านสนุ ทรียะ ศิลปะ (ให้ใช้คาจากดั ความตาม ๗.๔.๒) 132
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๙ สิทธิบตั ร (patent) นยิ าม สทิ ธบิ ตั รตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสทิ ธบิ ตั ร รปู แบบ อาจจดั ทาไดห้ ลายรปู แบบ ทงั้ ทเ่ี ป็นรปู เลม่ หรอื ส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ๑. มบี ทวเิ คราะหท์ อ่ี ธบิ าย/ชแ้ี จงโดยชดั เจนประกอบผลงานนนั้ เพอ่ื ชใ้ี หเ้ หน็ วา่ เป็นผลงานทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาและความกา้ วหน้าทางวชิ าการ หรอื เสรมิ สรา้ งความรู้ หรอื ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อสาขาวชิ านนั้ ๆ ไดอ้ ยา่ งไร ในแงใ่ ด ๒. ตอ้ งผา่ นการพสิ ูจน์ หรอื แสดงหลกั ฐานเป็นรายละเอยี ดใหค้ รบถว้ นทแ่ี สดง ถงึ คุณคา่ ของผลงานนนั้ ดว้ ย การเผยแพร่ มหี ลกั ฐานการนาสทิ ธบิ ตั รไปใชห้ รอื ประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งแพรห่ ลายในวงวชิ าการ หรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ ่านการประเมนิ ลกั ษณะ โดยคณะผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) คณุ ภาพ ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ระดบั B เป็นสทิ ธบิ ตั รทไ่ี ดร้ บั การขน้ึ ทะเบยี นและพสิ จู น์ไดว้ ่ามผี นู้ าไปวจิ ยั หรอื พฒั นา ต่อยอด ระดบั A เป็นสทิ ธบิ ตั รทไ่ี ดร้ บั การขน้ึ ทะเบยี นและพสิ จู น์ไดว้ ่ามผี นู้ าไปใชป้ ระโยชน์ ในเชงิ พาณิชยร์ ะดบั ชาติ ระดบั A+ เป็นสทิ ธบิ ตั รทไ่ี ดร้ บั การขน้ึ ทะเบยี นแลว้ และพสิ จู น์ไดว้ ่ามผี นู้ าไปใชป้ ระโยชน์ ในระดบั นานาชาติ และมหี ลกั ฐานวา่ ไดน้ าไปใชป้ ระโยชน์เชงิ พาณชิ ยห์ รอื เชงิ สาธารณประโยชน์อยา่ งกวา้ งขวาง 133
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ(ต่อ) ๗.๒.๑๐ ซอฟตแ์ วร์ (software) นยิ าม หมายความถงึ โปรแกรมคอมพวิ เตอรต์ ามความหมายของกฎหมายว่าดว้ ยลขิ สทิ ธิ ์ รปู แบบ ซง่ึ เป็นผลงานทไ่ี ดจ้ ากการวจิ ยั หรอื การประดษิ ฐค์ ดิ คน้ ใหมห่ รอื การสรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ ทม่ี หี ลกั วชิ าอนั สามารถอธบิ ายไดอ้ ยา่ งชดั เจน รวมถงึ ซอฟตแ์ วรท์ เ่ี ป็นการประยกุ ต์ หลกั วชิ า เพ่อื ประโยชน์ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ต่าง ๆ ในเชงิ วชิ าการ โดยตอ้ งมลี กั ษณะใด ลกั ษณะหน่งึ ดงั น้ี ๑. การดาเนินงานโครงการทม่ี ลี กั ษณะการพฒั นาซอฟตแ์ วรโ์ ดยใชร้ ะเบยี บวธิ ี เชงิ ตวั เลข (numerical method) หรอื การดาเนินงานลกั ษณะ engineering design ซง่ึ เป็นการปรบั ปรงุ กระบวนการออกแบบโดยตรง ๒. งานทม่ี ลี กั ษณะการปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลง และพฒั นาในระดบั แฟ้มขอ้ มลู ตน้ ฉบบั (source code) เพ่อื พฒั นาระบบการทางานใหด้ ขี น้ึ โดยมกี ารปรบั ปรงุ ระบบอยา่ งมี นยั สาคญั ๓. โครงการทม่ี กี ารเกบ็ ขอ้ มลู เชงิ ประสทิ ธภิ าพและประเมนิ ผลเพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั และพฒั นาเทคโนโลยี จะตอ้ งแสดงใหเ้ หน็ ชดั เจนวา่ หลงั จากการนาเทคโนโลยี สารสนเทศและซอฟตแ์ วรม์ าใชพ้ ฒั นาแลว้ ระบบการทางานดขี น้ึ ไดอ้ ย่างไร โดยตอ้ งมกี าร ปรบั ปรงุ ระบบหรอื สารวจความตอ้ งการ รวมถงึ แสดงผลลพั ธห์ รอื ตวั ชว้ี ดั ทช่ี ดั เจน ซง่ึ มไิ ดน้ าเขา้ มาเพอ่ื ทดแทนระบบเดมิ เพยี งอยา่ งเดยี ว ทงั้ น้ี ผลลพั ธท์ ไ่ี ดจ้ ะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ลกั ษณะงานวจิ ยั และพฒั นา อาจจดั ทาไดห้ ลายรปู แบบ ทงั้ ทเ่ี ป็นรปู เลม่ หรอื ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ซง่ึ ประกอบดว้ ย ๑. มคี าอธบิ าย/ชแ้ี จงโดยชดั เจนประกอบผลงานนนั้ เช่น ค่มู อื ทอ่ี ธบิ ายการใชง้ าน หลกั การของวธิ กี ารทางานและหน้าทข่ี องซอฟตแ์ วรด์ งั กล่าวอยา่ งละเอยี ดและชดั เจน เพอ่ื แสดงใหเ้ หน็ วา่ เป็นผลงานทท่ี าใหเ้ กดิ การพฒั นาและความกา้ วหน้าทางวชิ าการ หรอื เสรมิ สรา้ งความรหู้ รอื ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์ต่อสาขาวชิ านนั้ ๆ ไดอ้ ยา่ งไร ในแงใ่ ด ๒. ตอ้ งผา่ นการพสิ ูจน์ หรอื แสดงหลกั ฐานเป็นรายละเอยี ดใหค้ รบถว้ นทแ่ี สดงถงึ คุณคา่ ของผลงานนนั้ ดว้ ย การเผยแพร่ มหี ลกั ฐานการนาซอฟตแ์ วรไ์ ปใชห้ รอื ประยกุ ตใ์ ชอ้ ย่างแพรห่ ลายต่อวงวชิ าการ หรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานว่าไดผ้ ่านการประเมนิ คณุ ภาพ โดยคณะผทู้ รงคุณวุฒใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั 134
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๑๐ ซอฟตแ์ วร์ (software) (ต่อ) ลกั ษณะ ระดบั B เป็นงานทม่ี กี ระบวนการวจิ ยั ทกุ ขนั้ ตอน ถกู ตอ้ ง เหมาะสมตามระเบยี บวธิ วี จิ ยั คณุ ภาพ ซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการหรอื นาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ ง ๑. เป็นผลงานทแ่ี สดงถงึ การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอผลเป็นความรใู้ หมท่ ล่ี กึ ซง้ึ กวา่ งานเดมิ ทเ่ี คยมผี ศู้ กึ ษามาแลว้ ๒. เป็นประโยชน์ดา้ นวชิ าการอยา่ งกวา้ งขวาง หรอื สามารถนาไปประยกุ ตไ์ ด้ อยา่ งแพรห่ ลาย ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งไดร้ บั การอา้ งองิ และใชง้ าน อยา่ งกวา้ งขวางในวงวชิ าการหรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั ชาติ 135
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๑๑ ผลงานรบั ใช้ท้องถิ่นและสงั คม (ให้ใช้คาจากดั ความตาม ๗.๔.๑) 136
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๒.๑๒ ผลงานนวตั กรรม (ให้ใช้คาจากดั ความตาม ๗.๔.๔) 137
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๓.๑ ตารา นิยาม งานวชิ าการทใ่ี ชส้ าหรบั การเรยี นการสอนทงั้ วชิ า หรอื เป็นสว่ นหน่งึ ของวชิ า ซง่ึ เกดิ จาก รปู แบบ การนาขอ้ คน้ พบจากทฤษฎี จากงานวจิ ยั ของผขู้ อ หรอื ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการคน้ ควา้ ศกึ ษา มาวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ รวบรวมและเรยี บเรยี ง โดยมมี โนทศั น์ทผ่ี เู้ ขยี นกาหนดใหเ้ ป็น แกนกลาง ซง่ึ สมั พนั ธก์ บั มโนทศั น์ยอ่ ยอ่นื อยา่ งเป็นระบบ มเี อกภาพสมั พนั ธภาพและ สารตั ถภาพตามหลกั การเขยี นทด่ี ี ใชภ้ าษาทเ่ี ป็นมาตรฐานทางวชิ าการ และใหค้ วามรใู้ หม่ อนั เป็นความรสู้ าคญั ทม่ี ผี ลใหเ้ กดิ ความเปลย่ี นแปลงต่อวงการวชิ าการนนั้ ๆ เน้อื หาสาระของตาราตอ้ งมคี วามทนั สมยั เมอ่ื พจิ ารณาถงึ วนั ทผ่ี ขู้ อยน่ื เสนอขอกาหนด ตาแหน่งทางวชิ าการ ทงั้ น้ี ผขู้ อกาหนดตาแหน่งจะตอ้ งระบุวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ งในหลกั สตู รทใ่ี ชต้ าราเล่มทเ่ี สนอขอ ตาแหน่งทางวชิ าการดว้ ย ผลงานทางวชิ าการทเ่ี ป็น “ตารา” น้อี าจไดร้ บั การพฒั นาขน้ึ จากเอกสารคาสอนจนถงึ ระดบั ทม่ี คี วามสมบรู ณ์ทส่ี ุด ซง่ึ ผอู้ ่านอาจเป็นบุคคลอ่นื ทม่ี ใิ ชผ่ เู้ รยี นในวชิ านนั้ แต่สามารถ อ่านและทาความเขา้ ใจในสาระของตารานนั้ ดว้ ยตนเองไดโ้ ดยไมต่ อ้ งเขา้ ศกึ ษาในวชิ านนั้ หากผลงานทางวชิ าการทเ่ี คยเสนอเป็นเอกสารประกอบการสอนหรอื เอกสารคาสอน ไปแลว้ จะนามาเสนอเป็นตาราไมไ่ ด้ เวน้ แต่จะมกี ารพฒั นาจนเหน็ ไดช้ ดั วา่ เป็นตารา เป็นรปู เลม่ ทป่ี ระกอบดว้ ยคานา สารบญั เน้อื เรอ่ื ง การอธบิ ายหรอื การวเิ คราะห์ การสรุป การอ้างองิ บรรณานุกรม และดชั นคี น้ คา ทงั้ น้คี วรมกี ารอ้างองิ แหล่งขอ้ มลู ทท่ี นั สมยั และ ครบถว้ นสมบรู ณ์ การอธบิ ายสาระสาคญั มคี วามชดั เจน โดยอาจใชข้ อ้ มลู แผนภาพ ตวั อยา่ ง หรอื กรณศี กึ ษาประกอบจนผอู้ ่านสามารถทาความเขา้ ใจในสาระสาคญั นนั้ ไดโ้ ดยเบด็ เสรจ็ การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานว่าไดผ้ ่านการประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคุณวุฒใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. การเผยแพรด่ ว้ ยวธิ กี ารตพี มิ พ์ หรอื ๒. การเผยแพรโ่ ดยสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ่นื ๆ เชน่ การเผยแพรใ่ นรปู ของซดี รี อม, e-learning, online learning ๓. การเผยแพรเ่ ป็น e-book โดยสานกั พมิ พซ์ ง่ึ เป็นทย่ี อมรบั การเผยแพรด่ งั กล่าวนนั้ จะตอ้ งเป็นไปอย่างกวา้ งขวางมากกว่าการใชใ้ นการเรยี นการสอน วชิ าต่าง ๆ ในหลกั สตู รเท่านนั้ จานวนพมิ พเ์ ป็นดชั นหี น่งึ ทอ่ี าจแสดงการเผยแพร่ อยา่ งกวา้ งขวางได้ แต่อาจใชด้ ชั นีอ่นื วดั ความกวา้ งขวางในการเผยแพร่ไดเ้ ช่นกนั 138
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๓.๑ ตารา (ต่อ) การเผยแพร่ กรณีทไ่ี ดม้ กี ารพจิ ารณาประเมนิ คุณภาพของตาราแลว้ ไมอ่ ยใู่ นเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด (ต่อ) การนาตารานนั้ ไปแกไ้ ขปรบั ปรงุ หรอื เพมิ่ เตมิ เน้อื หาในตาราเพอ่ื นามาเสนอขอกาหนด ตาแหน่งทางวชิ าการครงั้ ใหม่ สามารถกระทาได้ แต่ใหม้ กี ารประเมนิ คุณภาพตารา ทไ่ี ดร้ บั การปรบั ปรงุ แกไ้ ขนนั้ ใหมอ่ กี ครงั้ หน่งึ ลกั ษณะ ระดบั B เป็นตาราทม่ี เี น้อื หาสาระทางวชิ าการถูกตอ้ งสมบรู ณ์และทนั สมยั มแี นวคดิ คุณภาพ และการนาเสนอทช่ี ดั เจนเป็นประโยชน์ต่อการเรยี นการสอนในระดบั อุดมศกึ ษา ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ ง ๑. มกี ารวเิ คราะหแ์ ละเสนอความรหู้ รอื วธิ กี ารทท่ี นั สมยั ต่อความกา้ วหน้าทางวชิ าการ และเป็นประโยชน์ต่อวงวชิ าการ ๒. มกี ารสอดแทรกความคดิ รเิ รมิ่ และประสบการณ์หรอื ผลงานวจิ ยั ของผเู้ ขยี น ทเ่ี ป็นการแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความรทู้ เ่ี ป็นประโยชน์ต่อการเรยี นการสอน ๓. สามารถนาไปใชอ้ ้างองิ อยา่ งกวา้ งขวางต่อวงวชิ าการระดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาติ มคี วามละเอยี ดและความลมุ่ ลกึ ทางวชิ าการในระดบั สงู ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ ง ๑. มลี กั ษณะเป็นงานทม่ี กี ารสงั เคราะห์ และสรา้ งสรรคอ์ งคค์ วามรใู้ หม่ (Body of Knowledge) หรอื ทฤษฎใี หมท่ างวชิ าการในเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ ๒. มกี ารกระตุน้ ใหเ้ กดิ ความคดิ และคน้ ควา้ อยา่ งต่อเน่ือง โดยพจิ ารณาจากการไดร้ บั การอา้ งองิ อย่างกวา้ งขวางในระดบั นานาชาติ ๓. เป็นทเ่ี ช่อื ถอื และยอมรบั ในวงวชิ าการหรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั นานาชาติ 139
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๓.๒ หนังสือ นยิ าม งานวชิ าการทเ่ี กดิ จากการคน้ ควา้ ศกึ ษาความรใู้ นเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ อยา่ งรอบดา้ นและ ลกึ ซง้ึ มกี ารวเิ คราะห์ สงั เคราะหแ์ ละเรยี บเรยี งอย่างเป็นระบบ ประกอบดว้ ยมโนทศั น์หลกั ทเ่ี ป็นแกนกลางและมโนทศั น์ยอ่ ยทส่ี มั พนั ธก์ นั มคี วามละเอยี ดลกึ ซง้ึ ใชภ้ าษาทเ่ี ป็น มาตรฐานทางวชิ าการ ใหท้ ศั นะของผเู้ ขยี นทส่ี รา้ งเสรมิ ปัญญาความคดิ และสรา้ งความ แขง็ แกรง่ ทางวชิ าการใหแ้ ก่สาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง เน้อื หาของหนงั สอื ไมจ่ าเป็นตอ้ งสอดคลอ้ งหรอื เป็นไปตามขอ้ กาหนดของหลกั สตู รหรอื ของวชิ าใดวชิ าหน่งึ ในหลกั สตู ร และไม่จาเป็นตอ้ งนาไปใชป้ ระกอบการเรยี นการสอนในวชิ าใดวชิ าหน่ึง เน้อื หาสาระของหนังสอื ตอ้ งมคี วามทนั สมยั เมอ่ื พจิ ารณาถงึ วนั ทผ่ี ขู้ อยน่ื เสนอขอ กาหนดตาแหน่งทางวชิ าการ หากผลงานทางวชิ าการทเ่ี คยเสนอเป็นเอกสารประกอบการสอนหรอื เอกสารคาสอน ไปแลว้ จะนามาเสนอเป็นหนงั สอื ไมไ่ ด้ รปู แบบ เป็นรปู เล่มทป่ี ระกอบดว้ ย คานา สารบญั เน้อื เรอ่ื ง การวเิ คราะห์ การสรปุ การอา้ งองิ บรรณานุกรม และดชั นีคน้ คา ทท่ี นั สมยั และครบถว้ นสมบรู ณ์ โดยอาจมขี อ้ มลู แผนภาพ ตวั อยา่ ง หรอื กรณศี กึ ษาประกอบดว้ ยกไ็ ด้ ตามรปู แบบอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ ต่อไปน้ี ๑. เป็นงานทน่ี กั วชิ าการเขยี นทงั้ เลม่ (authored book) คอื เอกสารทผ่ี เู้ ขยี นเรยี บเรยี ง ขน้ึ ทงั้ เล่มอยา่ งมเี อกภาพ มรี ากฐานทางวชิ าการทม่ี นั่ คง และใหท้ ศั นะของผเู้ ขยี นทส่ี รา้ ง เสรมิ ปัญญา ความคดิ และสรา้ งความแขง็ แกรง่ ทางวชิ าการ ๒. เป็นงานวชิ าการบางบทหรอื ส่วนหน่งึ ในหนงั สอื ทม่ี ผี เู้ ขยี นหลายคน (book chapter) โดยจะตอ้ งมคี วามเป็นเอกภาพของเน้อื หาวชิ าการ ซง่ึ ผอู้ ่านสามารถทาความเขา้ ใจ ในสาระสาคญั นนั้ ไดโ้ ดยเบด็ เสรจ็ ในแต่ละบท และเป็นงานศกึ ษาคน้ ควา้ อย่างมรี ะบบ มกี ารวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวธิ วี ทิ ยาอนั เป็นทย่ี อมรบั จนไดข้ อ้ สรปุ ทท่ี าใหเ้ กดิ ความกา้ วหน้าทางวชิ าการ หรอื นาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้ กรณที ใ่ี นแต่ละบทมผี เู้ ขยี นหลายคน จะตอ้ งระบุบทบาทหน้าทข่ี องแต่ละคนอยา่ งชดั เจน จานวนบททจ่ี ะนามาแทนหนงั สอื ๑ เลม่ ตอ้ งมจี านวนอยา่ งน้อย ๕ บท และมจี านวนหน้ารวมกนั แลว้ ไมน่ ้อยกวา่ ๘๐ หน้า โดยเน้อื หาสาระของบทในหนงั สอื ทงั้ ๕ บท จะตอ้ งไม่ซ้าซอ้ นกนั และอยใู่ นขอบขา่ ยสาขาวชิ าทเ่ี สนอขอกาหนดตาแหน่ง ทางวชิ าการ ทงั้ น้ี อาจอยใู่ นหนงั สอื เล่มเดยี วกนั หรอื หลายเลม่ กไ็ ด้ และสาหรบั การประเมนิ คณุ ภาพจะตอ้ งประเมนิ คุณภาพโดยรวมทงั้ หมด 140
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๓.๒ หนังสือ (ต่อ) การเผยแพร่ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ ่านการประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคณุ วุฒใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. การเผยแพรด่ ว้ ยวธิ กี ารตพี มิ พ์ ๒. การเผยแพรโ่ ดยสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ อาทิ การเผยแพรใ่ นรปู ของซดี รี อม ๓. การเผยแพรเ่ ป็น e-book โดยสานกั พมิ พซ์ ง่ึ เป็นทย่ี อมรบั การเผยแพรด่ งั กล่าวนนั้ จะตอ้ งเป็นไปอย่างกว้างขวาง โดยจานวนพมิ พเ์ ป็นดชั นีหน่งึ ทอ่ี าจแสดงการเผยแพรอ่ ยา่ งกวา้ งขวางได้ แต่อาจใชด้ ชั นอี ่นื วดั ความกวา้ งขวาง ในการเผยแพรไ่ ดเ้ ช่นกนั กรณีทไ่ี ดม้ กี ารพจิ ารณาประเมนิ คุณภาพของหนงั สอื แลว้ ไมอ่ ยใู่ นเกณฑท์ ่ี ก.พ.อ. กาหนด การนาหนงั สอื นนั้ ไปแกไ้ ขปรบั ปรงุ หรอื เพม่ิ เตมิ เน้อื หาในหนงั สอื เพ่อื นามาเสนอขอกาหนด ตาแหน่งทางวชิ าการครงั้ ใหม่ สามารถกระทาได้ แต่ใหม้ กี ารประเมนิ คุณภาพหนงั สอื ทไ่ี ดร้ บั การปรบั ปรงุ แกไ้ ขนนั้ ใหมอ่ กี ครงั้ หน่งึ ลกั ษณะ ระดบั B เป็นหนงั สอื ทม่ี เี น้ือหาสาระทางวชิ าการถูกตอ้ งสมบรู ณ์และทนั สมยั มแี นวคดิ และ คณุ ภาพ การนาเสนอทช่ี ดั เจนเป็นประโยชน์ต่อวงวชิ าการ ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ ง ๑. มกี ารวเิ คราะหแ์ ละเสนอความรหู้ รอื วธิ กี ารทท่ี นั สมยั ต่อความกา้ วหน้าทางวชิ าการ และเป็นประโยชน์ต่อวงวชิ าการ ๒. มกี ารสอดแทรกความคดิ รเิ รม่ิ และประสบการณ์หรอื ผลงานวจิ ยั ทเ่ี ป็นการแสดง ใหเ้ หน็ ถงึ ความรทู้ เ่ี ป็นประโยชน์ต่อวงวชิ าการ ๓. สามารถนาไปใชอ้ า้ งองิ อยา่ งกวา้ งขวางต่อวงวชิ าการระดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาติ มคี วามละเอยี ดและความลุ่มลกึ ทางวชิ าการในระดบั สงู ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ ง ๑. มลี กั ษณะเป็นงานทม่ี กี ารสงั เคราะห์ และสรา้ งสรรคอ์ งคค์ วามรใู้ หม่ (Body of Knowledge) หรอื ทฤษฎใี หมท่ างวชิ าการในเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ ๒. มกี ารกระตุน้ ใหเ้ กดิ ความคดิ และคน้ ควา้ อย่างต่อเน่ือง โดยพจิ ารณาจากการไดร้ บั การอา้ งองิ อยา่ งกวา้ งขวางในระดบั นานาชาติ ๓. เป็นทเ่ี ช่อื ถอื และยอมรบั ในวงวชิ าการหรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั นานาชาติ 141
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๓.๓ บทความทางวิชาการ นิยาม งานเขยี นทางวชิ าการซง่ึ มกี ารกาหนดประเดน็ ทต่ี อ้ งการอธบิ ายหรอื วเิ คราะห์ อยา่ งชดั เจน ทงั้ น้ี มกี ารวเิ คราะหป์ ระเดน็ ดงั กล่าวตามหลกั วชิ าการ โดยมกี ารสารวจ วรรณกรรมเพอ่ื สนบั สนุนจนสามารถสรุปผลการวเิ คราะหใ์ นประเดน็ นนั้ ได้ อาจเป็นการนา ความรจู้ ากแหล่งต่าง ๆ มาประมวลรอ้ ยเรยี งเพอ่ื วเิ คราะหอ์ ยา่ งเป็นระบบ โดยทผ่ี เู้ ขยี น แสดงทศั นะทางวชิ าการของตนไวอ้ ยา่ งชดั เจนดว้ ย รปู แบบ ประกอบดว้ ยการนาความทแ่ี สดงเหตุผลหรอื ทม่ี าของประเดน็ ทต่ี อ้ งการอธบิ ายหรอื การเผยแพร่ วเิ คราะห์ กระบวนการอธบิ ายหรอื วเิ คราะหแ์ ละบทสรปุ มกี ารอา้ งองิ และบรรณานุกรม ทค่ี รบถว้ นและสมบรู ณ์ เผยแพรใ่ นลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ ่านการประเมนิ โดยคณะผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ดงั น้ี ๑. เผยแพรใ่ นรปู ของบทความวจิ ยั ในวารสารวชิ าการ ดงั ต่อไปน้ี ๑.๑ วารสารวชิ าการระดบั ชาตนิ นั้ ตอ้ งเป็นวารสารทม่ี คี ณุ ภาพและเป็นทย่ี อมรบั ใน วงวชิ าการในสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง โดยวารสารวชิ าการนัน้ ตอ้ งมกี าร ตพี มิ พอ์ ยา่ งต่อเน่อื งสม่าเสมอ เป็นระยะเวลาอยา่ งน้อย ๓ ปี และมกี ารตรวจสอบคุณภาพ ของบทความโดยผทู้ รงคุณวุฒติ รวจสอบบทความ (peer reviewer) ซง่ึ เป็นบคุ คลภายนอก จากหลากหลายสถาบนั อยา่ งน้อย ๓ คน ทงั้ น้ี วารสารวชิ าการนัน้ อาจเผยแพรเ่ ป็นรปู เล่มสงิ่ พมิ พ์ หรอื เป็นส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ทม่ี กี าหนดการเผยแพร่ อยา่ งแน่นอนชดั เจน ๑.๒ วารสารวชิ าการระดบั นานาชาตนิ นั้ ตอ้ งเป็นวารสารทอ่ี ยใู่ นฐานขอ้ มลู ท่ี ก.พ.อ. กาหนด ไดแ้ ก่ ERIC, MathsciNet, Pubmed, Scopus, Web of Science (เฉพาะในฐานขอ้ มลู SCIE, SSCI และ AHCI เทา่ นนั้ ), JSTOR และ Project Muse ทงั้ น้ี วารสารวชิ าการนัน้ อาจเผยแพรเ่ ป็นรปู เลม่ สงิ่ พมิ พ์ หรอื เป็นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ๒. เผยแพรใ่ นหนงั สอื รวมบทความในรปู แบบอ่นื ทม่ี กี ารบรรณาธกิ าร โดยคณะผทู้ รงคุณวฒุ ใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ (Peer Reviewer) ประเมนิ คุณภาพ เมอ่ื ไดเ้ ผยแพร่ “บทความวชิ าการ” ตามลกั ษณะขา้ งตน้ แลว้ การนา “บทความวชิ าการ” นนั้ มาแกไ้ ขปรบั ปรงุ หรอื เพม่ิ เตมิ ส่วนใดส่วนหน่ึงเพ่อื นามาเสนอขอกาหนดตาแหน่ง ทางวชิ าการและใหม้ กี ารประเมนิ คณุ ภาพ “บทความวชิ าการ” นนั้ อกี ครงั้ หน่งึ จะกระทาไมไ่ ด้ 142
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพ ของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๓.๓ บทความทางวิชาการ (ต่อ) ลกั ษณะ ระดบั B เป็นบทความทางวชิ าการทม่ี เี น้อื หาสาระทางวชิ าการถูกตอ้ งสมบรู ณ์และทนั สมยั คุณภาพ มแี นวคดิ และการนาเสนอทช่ี ดั เจนเป็นประโยชน์ต่อวงวชิ าการหรอื วชิ าชพี ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ ง ๑. มกี ารวเิ คราะหแ์ ละเสนอความรหู้ รอื วธิ กี ารทท่ี นั สมยั ต่อความกา้ วหน้าทางวชิ าการ และเป็นประโยชน์ต่อวงวชิ าการหรอื วชิ าชพี ๒. สามารถนาไปอา้ งองิ ในฐานขอ้ มลู อยา่ งกวา้ งขวางในระดบั ชาติ มคี วามละเอยี ดและ ความลุ่มลกึ ทางวชิ าการในระดบั สงู ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ ง ๑. มลี กั ษณะเป็นงานทม่ี กี ารสงั เคราะห์ และสรา้ งสรรคอ์ งคค์ วามรใู้ หม่ (Body of Knowledge) ทางวชิ าการในเรอ่ื งใดเรอ่ื งหน่งึ ๒. มกี ารกระตุน้ ใหเ้ กดิ ความความคดิ และคน้ ควา้ อยา่ งต่อเน่อื ง เป็นทเ่ี ช่อื ถอื และยอมรบั ในวงวชิ าการหรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติ 143
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๔.๑ ผลงานรบั ใช้ท้องถิ่นและสงั คม นยิ าม ผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อสงั คมหรอื ทอ้ งถนิ่ ทเ่ี กดิ ขน้ึ โดยใชค้ วามเชย่ี วชาญ ในสาขาวชิ าอยา่ งน้อยหน่งึ สาขาวชิ า และปรากฏผลทส่ี ามารถประเมนิ ไดเ้ ป็นรปู ธรรม โดยประจกั ษ์ต่อสาธารณะ ผลงานทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อทอ้ งถน่ิ และสงั คมน้ตี อ้ งเป็นผลใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ ทางดา้ นใดดา้ นหน่งึ หรอื หลายดา้ น เกย่ี วกบั ชมุ ชน วถิ ชี วี ติ การศกึ ษา ศลิ ปวฒั นธรรม สงิ่ แวดลอ้ ม อาชพี เศรษฐกจิ การเมอื งการปกครอง คุณภาพชวี ติ หรอื สขุ ภาพ หรอื เป็นผลงานทน่ี าไปส่กู ารจดทะเบยี นสทิ ธบิ ตั รหรอื ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา ในรปู แบบอ่นื ทส่ี ามารถแสดงไดเ้ ป็นทป่ี ระจกั ษว์ า่ สามารถใชแ้ กป้ ัญหาหรอื พฒั นาสงั คม และก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์อยา่ งชดั เจน หรอื เป็นการเปลย่ี นแปลงในความตระหนกั และการรบั รู้ ในปัญหาและแนวทางแกไ้ ขของชมุ ชน ทงั้ น้ี ไมน่ บั รวมงานทแ่ี สวงหากาไรและไดร้ บั ผลตอบแทนสว่ นบุคคลในเชงิ ธุรกจิ รปู แบบ จดั ทาเป็นเอกสารและมคี าอธบิ ายหรอื คาช้แี จงท่ชี ดั เจน รายละเอยี ดเน้ือหา ของเอกสารแสดงใหเ้ หน็ ถงึ องค์ประกอบอย่างน้อยประกอบดว้ ย ๑. การมสี ่วนร่วมและการยอมรบั ของท้องถนิ่ และสงั คมเป้าหมาย ๒. สภาพการณ์ของทอ้ งถน่ิ และสงั คมก่อนการเปล่ยี นแปลงท่เี กดิ ขน้ึ ๓. กระบวนการทท่ี าใหท้ อ้ งถน่ิ และสงั คมเกดิ การเปลย่ี นแปลงทด่ี ขี น้ึ ๔. ความรหู้ รอื ความเชย่ี วชาญท่ใี ชใ้ นการทาให้เกดิ การเปลย่ี นแปลง ๕. การคาดการณ์สงิ่ ทจ่ี ะตามมาหลงั จากการเปลย่ี นแปลงไดเ้ กดิ ขน้ึ แลว้ ๖. การประเมนิ ผลลพั ธ์การเปล่ยี นแปลงทเ่ี กดิ ขน้ึ จากความรู้ หรอื ความเชย่ี วชาญจากสาขาของผู้ย่นื ขอ ๗. แนวทางการตดิ ตามและธารงรกั ษาพฒั นาการท่เี กดิ ขน้ึ ให้คงอย่ตู ่อไป การจดั ทาเอกสารผลงานตอ้ งสามารถแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การมสี ่วนรว่ มและการยอมรบั ของ กล่มุ เป้าหมายหรอื ทอ้ งถนิ่ นอกจากเอกสารแสดงผลงานดงั กล่าวขา้ งตน้ แลว้ อาจแสดง หลกั ฐานเพมิ่ เตมิ อ่นื ๆ เกย่ี วกบั ผลงาน เช่น รปู ภาพ หรอื การบนั ทกึ เป็นวดี ทิ ศั น์ ภาพยนตร์ แถบเสยี ง การพฒั นาหรอื การแกป้ ัญหาในพน้ื ทท่ี ม่ี กี ารบูรณาการศาสตรห์ ลายสาขา สามารถ ขอกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการรบั ใชท้ อ้ งถน่ิ และสงั คมไดจ้ ากผลความสาเรจ็ ของทุกสาขา โดยผขู้ อกาหนดตาแหน่งทางวชิ าการจะตอ้ งแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเชย่ี วชาญในการใชศ้ าสตร์ นนั้ ๆ เพ่อื รว่ มพฒั นาหรอื แก้ปัญหาจนทาใหพ้ น้ื ทน่ี นั้ เกดิ การเปลย่ี นแปลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั เจน 144
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๔.๑ ผลงานรบั ใช้ท้องถิ่นและสงั คม (ต่อ) การเผยแพร่ การเผยแพรผ่ ลงานวชิ าการรบั ใชท้ อ้ งถนิ่ และสงั คมทาไดโ้ ดยการจดั เวทนี าเสนอผลงาน ในพน้ื ทห่ี รอื การเปิดใหเ้ ยย่ี มชมพน้ื ทแ่ี ละจะตอ้ งมกี ารเผยแพรส่ สู่ าธารณะอยา่ งกวา้ งขวาง ในลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ผลงาน โดยการเผยแพร่นนั้ จะตอ้ งมกี ารบนั ทกึ เอกสารหรอื เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรทส่ี ามารถใชอ้ ้างองิ ได้ หรอื ศกึ ษาคน้ ควา้ ต่อไปได้ ทงั้ น้ี ตอ้ งแสดงหลกั ฐานวา่ ไดผ้ ่านการประเมนิ คุณภาพ โดยคณะผทู้ รงคุณวุฒิ ในสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี กย่ี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี าจากหลากหลายสถาบนั ลกั ษณะ ระดบั B ลกั ษณะของผลงานตอ้ งแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเชย่ี วชาญในสาขาของผยู้ น่ื ขอ มกี าร คณุ ภาพ แสดงกระบวนการรวบรวมขอ้ มลู และสารสนเทศทช่ี ดั เจน มกี ารระบุปัญหาหรอื ความตอ้ งการ ทม่ี าจากการมสี ่วนรว่ มของกลมุ่ เป้าหมาย มกี ารแสดงการวเิ คราะหห์ รอื สงั เคราะหค์ วามรู้ ท่ี สามารถแกไ้ ขปัญหาทเ่ี กดิ ขน้ึ หรอื ทาความเขา้ ใจสถานการณ์จนเกดิ การเปลย่ี นแปลง ทด่ี ขี น้ึ อยา่ งเป็นทป่ี ระจกั ษ์ หรอื ก่อใหเ้ กดิ การพฒั นาชุมชน ทอ้ งถน่ิ หรอื สงั คมนนั้ ระดบั A ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และคณุ ภาพผลงานทย่ี น่ื ขอจะตอ้ งสามารถนาไป เป็นแบบอยา่ งใหก้ บั ทอ้ งถนิ่ หรอื สงั คมอ่นื ได้ หรอื ก่อใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงเชงิ นโยบาย หรอื ถูกนาไปใชเ้ ป็นนโยบายในระดบั จงั หวดั หรอื ประเทศอยา่ งเป็นรปู ธรรม ระดบั A+ ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A ผลงานตอ้ งส่งผลกระทบต่อสงั คม หรอื แวดวงวชิ าการ อยา่ งกวา้ งขวาง เป็นทย่ี อมรบั ในระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติ หรอื ไดร้ บั รางวลั จากองคก์ ร ทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั ในระดบั นานาชาติ 145
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๔.๒ ผลงานสร้างสรรคด์ ้านสนุ ทรยี ะ ศิลปะ นิยาม ผลงานหรอื ชุดของผลงานสรา้ งสรรคท์ แ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ คุณค่าทางสุนทรยี ะ ศลิ ปะ โดยผลงานดงั กล่าวตอ้ งแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความสามารถในการสรา้ งสรรคข์ อง เจา้ ของผลงาน และตอ้ งอธบิ ายไดว้ า่ มแี นวคดิ จากปรชั ญา จรยิ ธรรม สุนทรยี ภาพ ซง่ึ สะท้อนให้เหน็ ถงึ คุณค่าของความจรงิ ความดี ความงาม พรอ้ มคาอธบิ าย อนั กอปรดว้ ยหลกั วชิ าทเ่ี ออ้ื ต่อการสรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจ ความหมายและ คณุ คา่ ของงาน เชน่ ผลงานสรา้ งสรรคด์ า้ นวรรณกรรม ดา้ นศลิ ปะการแสดง ดา้ นดนตรี ดา้ นสถาปัตยกรรม การออกแบบ จติ รกรรม ประตมิ ากรรม ภาพพมิ พ์ หรอื ศลิ ปะดา้ นอ่นื ๆ รปู แบบ งานสรา้ งสรรค์ พรอ้ มบทวเิ คราะหท์ อ่ี ธบิ ายหลกั การ หลกั วชิ า และ/หรอื การเผยแพร่ ความคดิ เชงิ ทฤษฏี รวมทงั้ กระบวนการและ/หรอื เทคนิคในการสรา้ งงาน การวเิ คราะห์ สงั เคราะหใ์ หเ้ หน็ ความรใู้ นการพฒั นาต่อยอดผลงาน การนาเสนอความรใู้ หมท่ ม่ี คี ุณคา่ ต่อการพฒั นาสาขาวชิ าชพี และการศกึ ษา ตลอดจนการแสดงคณุ ค่าของผลงานทเ่ี ออ้ื ใหเ้ กดิ การตคี วามและการประเมนิ คณุ ค่าในหม่ขู องผรู้ บั งาน เผยแพรส่ สู่ าธารณชนในลกั ษณะใดลกั ษณะหน่งึ อย่างกวา้ งขวางมาแลว้ ไมน่ ้อยกวา่ สเ่ี ดอื น โดยตอ้ งแสดงหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ว่า ไดผ้ า่ นการประเมนิ จาก คณะผทู้ รงคุณวุฒใิ นสาขาวชิ านนั้ ๆ หรอื สาขาวชิ าทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง (peer reviewer) ทม่ี า จากหลากหลายสถาบนั จานวนไมน่ ้อยกว่าสามคนสาหรบั ระดบั ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ และไมน่ ้อยกวา่ หา้ คนสาหรบั ระดบั รองศาสตราจารยแ์ ละระดบั ศาสตราจารย์ โดยการ ตดั สนิ ของทป่ี ระชุมตอ้ งไดร้ บั คะแนนเสยี งไม่น้อยกว่าสองในสามเสยี งสาหรบั ระดบั ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ไมน่ ้อยกวา่ สามในหา้ เสยี งในระดบั รองศาสตราจารย์ และไมน่ ้อยกว่าสใ่ี นหา้ เสยี งในระดบั ศาสตราจารย์ ทงั้ น้ี ผทู้ รงคุณวฒุ ฯิ (peer reviewer) ตอ้ งมไิ ดส้ งั กดั เดยี วกนั กบั ผขู้ อจานวนไมน่ ้อยกวา่ ก่งึ หน่งึ วธิ กี ารเผยแพร่ ๑. วรรณกรรมตน้ แบบหรอื ผลงานสรา้ งสรรคต์ น้ แบบ และเอกสาร ประกอบตอ้ งพมิ พเ์ ผยแพร่ หรอื เผยแพรโ่ ดยสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ๒. การจดั นทิ รรศการ การจดั แสดง การแสดงสาธารณะ การบนั ทกึ ภาพ การบนั ทกึ เสยี ง ภาพถ่าย แถบบนั ทกึ ภาพ หรอื การแสดงผา่ นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 146
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๔.๒ ผลงานสร้างสรรคด์ ้านสนุ ทรียะ ศิลปะ (ต่อ) การเผยแพร่ ๓. การเผยแพรท่ เ่ี กดิ จากการใชง้ านจรงิ ทไ่ี ดร้ บั การยอมรบั ในระดบั ชาติ (ต่อ) หรอื นานาชาติ ตลอดจนการเผยแพรท่ เ่ี กดิ จากการไดร้ บั เชญิ ไปบรรยายหรอื ในการ ประชุมวชิ าการงานศลิ ป์ หรอื วชิ าชพี ในต่างประเทศ สาหรบั ศลิ ปะการแสดงตอ้ ง แสดงในกจิ กรรมทจ่ี ดั โดยองคก์ รระดบั ประเทศ ซง่ึ เป็นทย่ี อมรบั ในวงวชิ าชพี ของสาขาวชิ านนั้ ๆ ของประเทศไทยหรอื นานาชาติ สถานทน่ี าเสนอผลงาน สรา้ งสรรคร์ ะดบั ชาตหิ รอื ระดบั นานาชาตติ อ้ งเป็นทย่ี อมรบั ในวงการวชิ าชพี นนั้ ๆ และตอ้ งดาเนินกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วเน่อื งโดยเป็นเวทแี สดงผลงานอยา่ งต่อเน่อื งมาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า ๕ ปี หมายเหตุ : คุณสมบตั ขิ องผทู้ ท่ี าหน้าทเ่ี ป็น peer reviewer ผทู้ รงคุณวุฒภิ ายใน หมายถงึ ผมู้ คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญในสาขาวชิ านนั้ หรอื สาขาวชิ าใกลเ้ คยี ง ซง่ึ ปัจจุบนั มสี ถานภาพเป็นบคุ ลากรประจา เช่น อาจารยป์ ระจา ผมู้ คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญทย่ี งั คงปฏบิ ตั งิ านหรอื ปฏบิ ตั หิ น้าท่ี ประจาในสถาบนั เดยี วกบั ผไู้ ดร้ บั การประเมนิ เป็นตน้ ผทู้ รงคณุ วุฒภิ ายนอก หมายถงึ ผมู้ คี วามรคู้ วามเชย่ี วชาญในสาขาวชิ านนั้ หรอื สาขาวชิ าใกลเ้ คยี ง โดยตอ้ งเป็นบคุ คลทม่ี ใิ ชบ่ ุคลากรของสถาบนั อุดมศกึ ษาทผ่ี ขู้ อสงั กดั และไมไ่ ดอ้ ยใู่ นบงั คบั บญั ชาของสถาบนั อุดมศกึ ษานนั้ ลกั ษณะคุณภาพ ระดบั B: เป็นผลงานทม่ี คี ุณภาพทางการสรา้ งสรรค์ โดยสามารถอธบิ าย หลกั การ แนวคดิ กระบวนการ เทคนิค รวมถงึ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ และสรุปผล เพ่อื ส่อื ความใหก้ บั ผรู้ บั ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความกา้ วหน้า ทางวชิ าการดา้ นงานสรา้ งสรรคแ์ ละการศกึ ษาของศลิ ปะแขนงนนั้ ๆ และก่อใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงหรอื ส่งผลกระทบต่อบคุ คลหรอื องคก์ ร ระดบั A: ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั B และตอ้ งเป็นตวั อยา่ งอนั ดี ทย่ี งั ประโยชน์เด่นชดั ต่อวชิ าการดา้ นงานสรา้ งสรรคแ์ ละการศกึ ษาแขนงนนั้ ๆ ๑. เป็นผลงานทแ่ี สดงถงึ การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ นาเสนอผลเป็น ความรใู้ หมท่ ล่ี กึ ซง้ึ กว่างานเดมิ ทเ่ี คยมผี ศู้ กึ ษาหรอื สรา้ งสรรคม์ าแลว้ ๒. เป็นประโยชน์ดา้ นวชิ าการอยา่ งกวา้ งขวาง และก่อใหเ้ กดิ การ เปลย่ี นแปลงหรอื สง่ ผลกระทบต่อบุคคล องคก์ ร ชมุ ชน หรอื สงั คม หรอื สามารถ นาไปใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ย่างแพรห่ ลาย หรอื ไดร้ บั การจดสทิ ธบิ ตั รและมกี ารนาไปใช้ อา้ งองิ ในผลงานอ่นื ๆ เป็นทย่ี อมรบั ในระดบั ชาตหิ รอื นานาชาติ 147
๗. คาจากดั ความ รปู แบบ การเผยแพร่ และลกั ษณะคณุ ภาพของผลงานทางวิชาการ (ต่อ) ๗.๔.๒ ผลงานสร้างสรรคด์ ้านสนุ ทรยี ะ ศิลปะ (ต่อ) ลกั ษณะคณุ ภาพ ระดบั A+: ใชเ้ กณฑเ์ ดยี วกบั ระดบั A และตอ้ งเป็นงานทส่ี รา้ งองคค์ วามรใู้ หม่ (ต่อ) หรอื นาเสนอสงิ่ ใหมใ่ นดา้ นการสรา้ งสรรคส์ นุ ทรยี ะ ศลิ ปะ ๑. เป็นงานบกุ เบกิ ทม่ี คี ุณค่ายง่ิ มกี ารวเิ คราะห์ สงั เคราะหอ์ ย่างลกึ ซง้ึ จนทาใหเ้ กดิ การสรา้ งความรใู้ หม่ ทาใหเ้ กดิ ความก้าวหน้า เกดิ การใชป้ ระโยชน์ ในแนวทางหรอื รปู แบบใหมๆ่ ก่อใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงหรอื ส่งผลกระทบต่อ ชุมชนหรอื สงั คม หรอื ไดร้ บั การจดสทิ ธบิ ตั รและมหี ลกั ฐานการนาสทิ ธบิ ตั รไปใช้ หรอื ประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ๒. เป็นทย่ี อมรบั และไดร้ บั การอา้ งองิ ถงึ อยา่ งกวา้ งขวางในวงวชิ าการ หรอื วชิ าชพี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งในระดบั นานาชาติ 148
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166