Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore # e-book เล่ม 2 พระบรมศาสดาของเรา final

# e-book เล่ม 2 พระบรมศาสดาของเรา final

Published by Kasem S. Kdmbooks, 2022-06-26 08:31:56

Description: # e-book เล่ม 2 พระบรมศาสดาของเรา final

Search

Read the Text Version

หน้า ก คานา เอกสารประกอบการเรียน ชุด พระพุทธศาสนาน่ารู้ กลุ่มสาระ การเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 จัดทาข้ึนเพ่ือ ประกอบการเรียนรายวิชาพระพุทธศาสนา ตามจุดมุ่งหมายของ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานพุทธศักราช 2551 โดยมุ่งให้ นั ก เ รี ย น เ กิ ด ค ว า ม ศ รั ท ธ า ใ น พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า แ ล ะ น า ห ลั ก ธ ร ร ม ทางพระพุทธศาสนาไปปฏบิ ัตใิ นการดาเนินชวี ิต เอกสารประกอบการเรียนชุด พระพุทธศาสนาน่ารู้ เล่มท่ี 2 เร่ือง พระบรมศาสดาของเรา ประกอบด้วยเนื้อหา ภาพประกอบ กิจกรรมการเรียนรู้และแบบทดสอบ ท่ีเหมาะสมกับพัฒนาการ ของนักเรียนและสอดคล้องกับสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและ จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้นนักเรียนเป็นสาคัญ ฝึกทักษะและปฏิบัติได้ ด้วยตนเอง สามารถศึกษา ค้นคว้า แสวงหาความรู้ ความเข้าใจ และ สามารถนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ได้ ผู้จัดทาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ี จ ะ เ ป็ น โ ย ช น์ แ ล ะ พั ฒ น า นั ก เ รี ย น ใ ห้ ไ ด้ รั บ ค ว า ม รู้ แ ล ะ เ ป็ น แ น ว ท า ง ให้ผู้ที่มีความสนใจใช้ในการจัดการเรียนการสอนต่อไปขอขอบพระคุณ ผู้ให้คาปรึกษา แนะนา ตรวจสอบในการจัดทาเอกสารประกอบ การเรียนเลม่ นจ้ี นสาเรจ็ ลลุ ่วงดว้ ยดี ราตรี องิ ม่ัน

สารบญั หน้า คาชแี้ จง ข คาแนะนาการใช้สาหรับครู คาแนะนาการใช้สาหรบั นักเรยี น หน้า สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชวี้ ดั สาระสาคัญ 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 3 ใบความรู้ เรอ่ื ง พระบรมศาสดาของเรา 4 กิจกรรมการเรยี นรูท้ ี่ 1 5 กิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 2 6 กจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 3 9 กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 4 21 แบบทดสอบหลังเรียน 22 คาศัพท์น่ารู้ 23 ภาคผนวก 24 บรรณานุกรม 25 29 30 36

ห1น้า คาชแี้ จง เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) สาหรับ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ของนักเรียนซ่ึงช่วย ให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ โดยทากิจกรรมตามคาช้ีแจงในเอกสาร ประกอบการเรยี นรู้ทาให้นักเรยี นเกิดความรู้ความเขา้ ใจในเน้ือหาทเ่ี รียน เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ ที่ 2 พระบรมศาสดาของเรา มสี ว่ นประกอบ ดังนี้ ชือ่ เรื่อง คาช้แี จง คาแนะนาการใช้สาหรับครู คาแนะนาการใชส้ าหรบั นกั เรยี น สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวดั สาระสาคญั จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน ใบความรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ แบบทดสอบหลังเรยี น ภาคผนวก บรรณานกุ รม

ห2น้า คาแนะนาการใชส้ าหรับครู 1. ศกึ ษาเอกสารประกอบการเรียนรู้ก่อนนาไปใชส้ อนนกั เรยี น 2. เตรยี มเอกสารประกอบการเรยี นรู้และการทากิจกรรม การเรียนรู้ของนกั เรยี นให้พรอ้ ม กอ่ นใช้ทุกครั้ง 3. บอกจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ หน้ กั เรียนทราบก่อนทจ่ี ะเรยี น 4. ชแ้ี จงใหน้ ักเรยี นทราบถงึ ข้ันตอนและวธิ ีทาเอกสารประกอบ การเรียนรูใ้ ห้ชัดเจน 5. สังเกตการทางานของนกั เรียน และแนะนานักเรียน เมื่อนกั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจ 6. ประเมินผลและเสรมิ แรงแกน่ กั เรยี นเป็นระยะ 7. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น 8. สรปุ ผลคะแนนในแบบบนั ทกึ เพ่อื ทราบผลการเรยี นและ ผลการพัฒนา

ห3น้า คาแนะนาการใชส้ าหรับนกั เรียน เอกสารประกอบการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศา ส นา แล ะวั ฒ นธร รม (ส า ร ะศา สนา ศี ลธร รม จริ ย ธร รม ) ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 3 เลม่ ท่ี 2 พระบรมศาสดาของเรา เพ่อื ให้นักเรียน พัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้ันตอนในการใช้เอกสาร ประกอบการเรียนรู้ มีวธิ กี ารดาเนินการ ดังน้ี 1. นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพ่ือทดสอบความรู้ พน้ื ฐานของนกั เรยี น จานวน 10 ข้อ 2. นักเรียนลงมือฝึกปฏิบัติตามคาช้ีแจงในเอกสารประกอบ การเรียนร้ตู ามลาดับขัน้ ตอน ถ้าไม่เข้าใจใหข้ อคาแนะนาจากครผู ู้สอน 3. เมอ่ื ทาเอกสารประกอบการเรียนรู้เรียบร้อยแต่ละกิจกรรม การเรียนรู้ ให้นักเรียนนาเอกสารประกอบการเรียนรู้ส่งให้แก่ครู เพอื่ ตรวจและบนั ทกึ คะแนน 4. เมอื่ ทากจิ กรรมการเรียนรู้ครบแล้ว ให้นักเรียนทาแบบทดสอบ หลงั เรยี น จานวน 10 ข้อ

หน้า 4 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชว้ี ัด สาระท่ี 1 ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส 1.1 รูแ้ ละเข้าใจประวัติความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดมั่น และ ปฏบิ ัตติ ามหลักธรรม เพื่ออยรู่ ว่ มกนั อย่างสันตสิ ุข ตวั ชี้วดั ป.3/2 สรปุ พุทธประวัติต้งั แตก่ ารบาเพญ็ เพียรจนถงึ ปรินิพพาน หรอื ประวตั ขิ องศาสดาท่ตี นนับถือตามทกี่ าหนด สาระสาคัญ พุทธประวัติคือเหตุการณ์สาคัญท่ีเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า ผู้เป็น ศาสดาของพระพุทธศาสนา ซึ่งชาวพุทธควรได้ศึกษาและนาไปเป็น แบบอยา่ งในการดาเนินชวี ิต

หน้า 5 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ จุดประสงค์ของการทาเอกสารประกอบการเรยี นรู้ หลังจากศึกษาเอกสารประกอบการเรียนรู้ และทาเอกสาร ประกอบการเรียนรู้ เล่มที่ 2 พระบรมศาสดาของเรา เล่มนี้ เป็นเอกสารท่ีจัดทาข้ึนเพื่อใช้เป็นสื่อประกอบการเรียนการสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 มคี วามรู้ความสามารถ ดังน้ี 1. นักเรียนอธิบายพุทธประวัติตั้งแต่การบาเพ็ญเพียรจนถึง ปรินพิ พาน หรือประวัตขิ องศาสดาทตี่ นนบั ถอื ได้ถูกต้อง (K) 2. นักเรียนนาข้อคิดท่ีได้จากการศึกษาพุทธประวัติและสามารถ นาไปเป็นแบบอยา่ งในการดาเนินชีวติ ไดถ้ กู ตอ้ ง (P) 3. นักเรยี นมคี วามสนใจใฝ่เรยี นรูแ้ ละม่งุ ม่ันในการทางาน (A)

หน้า 6 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (สาระศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม) ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่มท่ี 2 พระศาสดาของเรา จานวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นทาเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ ง ก ข ค และ ง ท่ีเปน็ คาตอบที่ถูกต้องลงในกระดาษคาตอบ 1. ศาสดาของศาสนาพุทธ คือใคร ก. พระเยซู ข. พระมฮู มั มดั ค. พระพุทธเจ้า ง. พระนารายณ์ 2. หลงั ตรัสรูแ้ ลว้ พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ไปทรงเทศนาโปรดใครกอ่ น ก. ครูวศิ วามติ ร ข. พระเจ้าพมิ พิสาร ค. ปญั จวัคคยี ์ ง. พระเจ้าสุทโธทนะ

หน้า 7 3. คาว่า “ปฐมเทศนา” หมายถึงอะไร ก. การเลา่ นิทานให้ฟังครัง้ แรก ข. การคน้ พบธรรมคร้งั แรก ค. การตรัสรู้ครั้งแรก ง. การแสดงธรรมครง้ั แรก 4. พระพุทธเจา้ ทรงตรัสรดู้ ้วยวิธีการใด ก. กัดฟนั ข. กลน้ั ลมหายใจ ค. อดอาหาร ง. นงั่ สมาธิ 5. เจ้าชายสทิ ธตั ถะทรงเสดจ็ ออกผนวชเพื่อจุดประสงคใ์ ด ก. ทาตามธรรมเนียมโบราณ ข. หนีความวุ่นวายในพระราชวงั ค. ต้องการค้นหาหนทางดับทุกข์ ง. ทดแทนพระคุณพระราชบิดาและพระราชมารดา 6. หลักธรรมท่พี ระพทุ ธเจา้ ทรงคน้ พบด้วยพระองคเ์ องคอื อะไร ก. สงั คหวตั ถุ 4 ข. อริยสจั 4 ค. อทิ ธบิ าท 4 ง. ฆราวาสธรรม 4

หน้า 8 7. พระพทุ ธเจ้าทรงเอาชนะพญามารไดด้ ว้ ยวิธีใด ก. ดว้ ยกุศลธรรมบท 10 ประการ ข. พระปญั จวัคคีย์เข้ามาช่วย ค. มีเทวดามาชว่ ย ง. ด้วยบารมี 10 ประการ 8. เหตุใดปัญจวัคคีย์จงึ หนจี ากพระพทุ ธเจ้า ก. เหน็ ว่าพระองคท์ รงเลกิ ความเพียร ข. เหน็ วา่ พระองคไ์ มซ่ ื่อสัตย์ ค. เหน็ ว่าพระองคไ์ มเ่ ปน็ ทีพ่ ง่ึ ได้แลว้ ง. เหน็ วา่ พระองค์ไมม่ ีวนั ตรัสรไู้ ด้แลว้ 9. สถานทใ่ี ดเป็นทปี่ รนิ พิ พานของพระพุทธเจา้ ก. เมอื งพาราณสี ข. เมืองมคธ ค. เมืองราชคฤห์ ง. เมืองกสุ ินารา 10. พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดบั ขันธ์ปรนิ ิพพานในวันใด ก. วนั แรม 15 คา่ เดือน 6 ข. วันข้ึน 15 คา่ เดอื น 8 ค. วนั ขึ้น 15 คา่ เดอื น 6 ง. วนั แรม 15 ค่า เดอื น 8

หน้า 9 ใบความรู้ เรื่อง พระบรมศาสดาของเรา ความหมายของศาสดา ศาสดา คือ ผู้ก่อตั้งศาสนา หรือผู้คิดค้น ริเร่ิมในการนา คาสอนไปเผยแผ่ เช่น พระพุทธศาสนามีพระพุทธเจ้าเป็นศาสดา ศาสนายดู าหม์ ีโมเสสเปน็ ศาสดา เป็นต้น พทุ ธประวตั ิ พุทธประวตั ิ คือ ประวตั ิของพระพทุ ธเจ้า การศกึ ษาเรยี นรู้พทุ ธประวัติ จะทาให้เขา้ ใจประวัตขิ องพระพุทธเจา้ และเกดิ ความศรทั ธาในพระพุทธศาสนา อันนาไปสกู่ ารปฏบิ ตั ติ ามคาสอน ของพระพุทธเจ้าไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

หนา้ 10 ประสูติ พระพุทธเจ้ามีพระนามเดิมว่า “สิทธัตถะ“ เป็นพระราชโอรส ของพระเจ้าสุทโธทนะและพระนางสิริมหามายา แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ แควน้ สักกะ พระองค์ทรงถือกาเนิดในศากยวงค์ สกุลโคตรมะ ประสูติใน วันศุกร์ ขึ้น 15 ค่า เดือน 6 (เดือนวิสาขะ) ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ณ สวนลุมพินีวัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกรุงกบิลพัสด์ุ แคว้นสักกะกับ กรงุ เทวทหะ แคว้นโกลยิ ะ (ปัจจุบนั คอื ตาบลรุมมินเด ประเทศเนปาล) เจ้าชายสทิ ธตั ถะประสูติ ณ สวนลมุ พินีวัน ทมี่ า : https://i1.wp.com/www.zabzaa.com/ event/images/visaka_born.jpg

หน้า 11 เมื่อ เ จ้า ช า ย สิท ธัต ถ ะประสูติได้ 7 วัน พ ระรา ช มา รดา ก็ เสดจ็ สวรรคต พระเจ้าสุทโธทนะทรงมอบหมายให้พระนางมหาปชาบดีโคตมี ซ่ึงเป็นพระกนิษฐา (น้องสาว) ของพระนางสิริมหามายา เป็นผู้ถวาย อภิบาลเลี้ยงดู เมื่อสิทธัตถะทรงเจริญพระชนมายุได้ 8 พรรษา ได้ทรง ศึกษาในสานักอาจารย์วิศวามิตร ซ่ึงเป็นผู้มีช่ือเสียง เพราะเปิดสอน ศิลปวิทยาถึง 18 สาขา เจ้าชายสิทธัตถะทรงศึกษาศิลปวิทยาเหล่านี้ ไดอ้ ย่างรวดเร็ว และเช่ียวชาญจนหมดความสามารถของพระอาจารย์ ด้วยพระราชบิดามีพระราชประสงค์ที่จะให้เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงครองเพศฆราวาสเป็นพระจักรพรรดิผู้ทรงธรรม จึงพระราชทาน ความสุขเกษมสาราญ แวดล้อมด้วยความบันเทิงนานาประการแก่ พระราชโอรสเพ่ือผูกพระทัยให้ม่ันคงในทางโลก เม่ือเจ้าชายสิทธัตถะ เจริญพระชนมายุได้ 16 พรรษา พระเจ้าสุทโธทนะมีพระราชดาริว่า พระราชโอรสสมควรจะได้อภิเษกสมรส จึงโปรดให้สร้างปราสาท อันวิจิตรงดงามขึ้น 3 หลัง สาหรับประทับอย่างเกษมสาราญตาม ฤดกู าลท้งั 3 คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดหู นาว แล้วตั้งช่ือปราสาทน้ันว่า รมยปราสาท สุรมยปราสาท และสุภปราสาท ตามลาดับ และทรงสู่ขอ เจ้าหญิงพิมพาหรือยโสธรา พระราชธิดาของพระเจ้าสุปปพุทธะและ พระนางอมิตา แห่งเทวทหะนคร ในตระกูลโกลิยวงค์ ให้อภิเษกด้วย เจ้าชายสิทธัตถะได้เสวยสุขสมบัติ จนพระชนมายุได้ 29 พรรษา พระ น า ง พิ ม พ า ย จึ ง ป ร ะ สู ติ พ ร ะ โ อ ร ส เ มื่ อ พ ร ะ อ ง ค์ ท ร ง ท ร า บ ถึ ง การประสูตขิ องพระโอรสทรงตรสั วา่ “ราหลุ ชาโต, พันธนชาต, บ่วงเกิด แล้ว, เคร่อื งจองจาเกดิ แล้ว”

หน้า 12 ออกบรรพชา เจา้ ชายสทิ ธัตถะทรงมีพระทัยฝักใฝ่ใคร่ครวญถึงสัจธรรมท่ีจะเป็น เครื่องนาทางซึง่ ความพ้นทกุ ขอ์ ยเู่ สมอ วันหนงึ่ พระองค์ได้เสด็จประพาส อุทยาน ได้ทอดพระเนตรเห็นเทวทูตท้ัง 4 คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต พระองค์จึงสังเวชพระทัยในชีวิต และพอพระทัยในเพศบรรชิต จึงตัดสินพระทัยเสด็จออกทรงผนวช เพ่ือแสวงหาทางดับทุกข์ พ้นจาก วัฏสงสารไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก โดยพระองค์ทรงม้ากัณฐกะ พร้อมด้วยนายฉันนะ มุ่งสู่แคว้นมัลละ รวมระยะทาง 30 โยชน์ (ประมาณ 480 กิโลเมตร) เสด็จข้ามฝง่ั แมน่ า้ อโนมานทีแลว้ ทรงอธษิ ฐาน เพศเป็นบรรพชิตท่ีนั่น และทรงมอบหมายให้นายฉันนะนาเคร่ือง อาภรณแ์ ละม้ากัณฐกะกลบั นครกบลิ พัสด์ุ ทอดพระเนตรเทวทูตทง้ั 4 ทมี่ า : https://dhamaprateep9.files.wordpress.com/2014/03/buddha-08.jpg

หน้า 13 การบาเพ็ญเพียร เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกผนวช เม่ือพระชนมายุ 29 พรรษา ได้ศึกษาอยู่ในสานักของอาจารย์อาฬารดาบส และอุทกดาบสจนสาเร็จ แต่ก็ยังไม่บรรลุธรรมที่ต้องการได้ จึงเปล่ียนวิธีไปเป็น การบาเพ็ญ ทุกรกิริยา (“ทุกรกิริยา” หมายถึง การกระทากิจท่ีทาได้ยากย่ิง ได้แก่ การบาเพ็ญเพียรเพอ่ื บรรลุธรรมข้นั สงู ) ทรงบาเพญ็ ทกุ รกริ ิยา ทมี่ า : https://lh3.googleusercontent.com/proxy/kQ3pGLOJ1KrswMEvuQMZwOA bu6_UF_4PWanEzna7GbNfL7ajiFZFOmN_XgUCKm3NrgHxn2XIxzj7frR7kthjxN1q ณ ทิวเขาดงคสิริ ใกล้ลุ่มแม่น้าเนรัญชราน้ัน พระองค์ได้ทรง บาเพ็ญทุกรกิริยา คือ การบาเพ็ญอย่างย่ิงยวดในลักษณะต่าง ๆ เช่น การอดพระกระยาหาร จนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก โดยการทรมาน พระวรกาย การกลั้นพระอัสสาสะ ปัสสาสะ (กลั้นลมหายใจเข้า-ออก) การกดพระทนต์ (การกดฟันกับฟัน) การกดพระตาลุ (เพดาน) ด้วย พระชิวหา (ลน้ิ ) เป็นต้น

หน้า 14 พระองค์ได้ทรงบาเพ็ญทุกรกริ ิยาเปน็ เวลาถึง 6 ปี ก็ยังมิได้ค้นพบ สัจธรรม อันเ ป็นท างห ลุดพ้ นจา กทุก ข์ จึงทรงเลิกกา รบา เพ็ ญ ทุกรกิริยา แล้วกลับมาเสวยพระกระยาหารเพ่ือบารุงพระวรกายให้ แข็งแรง ทาให้ปัญจวัคคีย์ คือ พราหมณ์ทั้ง 5 คน ได้แก่ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ ซงึ่ เป็นผูค้ อยปฏิบัติรับใช้ ด้วยหวังว่า พระองคต์ รัสรแู้ ล้ว พวกตนจะได้รับการสั่งสอนถ่ายทอดความรู้บ้าง และ เม่ือพระองค์เลิกล้มการบาเพ็ญทุกรกิริยาแล้ว ปัญจัคคีย์ก็ได้ชวนกัน ละทง้ิ พระองคไ์ ปอยู่ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน นครพาราณสี เป็นผลให้ พระองค์ได้ประทับอยู่ตามลาพังในที่อันสงบเงียบ ปราศจากส่ิงรบกวน ทั้งปวง ผจญมาร เมื่อพระวรกายของพระสิทธัตถะทรงมีกาลังขึ้นได้อย่างเดิมแล้ว ทรงดาริว่า ความสุขและทุกข์นั้นเกิดขึ้นได้จากภายใน หาใช่การทรมาน ทางกาย จึงทรงเร่ิมกระทาความเพียรทางจิต ให้จิตเป็นสมาธิแน่วแน่ ดว้ ยวธิ ีของพระองคเ์ อง เรยี กวา่ มัชฌิมาปฏิปทา ซึ่งเป็นทางสายกลาง คอื ไมท่ รมานตนเองจนเกินไป และไมส่ ุขสบายจนเกนิ ไป ในขณะนั้น พญามาร เสนามาร และธิดามารท่ีมีความเห็นผิด ไม่ต้องการให้สัตว์ทั้งหลายหลุดพ้นไปจากสังสารวัฏ (การเวียนว่าย ตายเกิด) นี้ จึงพยายามท่ีจะทาให้พระสิทธัตถะเลิกการบาเพ็ญเพียร และพยายามท่ีจะเข้าทาร้ายพระองค์ด้วยศั สตราวุธอันร้ายแรง แต่พระองคท์ รงระลกึ พระบารมี 10 ประการท่ีบาเพญ็ มา คอื 1. ทาน 2. ศีล 3. เนกขัมมะ (การออกบวช) 4. ปัญญา 5. วริ ิยะ (ความเพยี ร) 6.ขนั ติ (ความอดทน)

หน้า 15 7. สจั จะ (ความจริงใจ) 8. อธิษฐาน (ความต้ังใจมนั่ ) 9. เมตตา 10. อเุ บกขา (การวางใจเป็นกลาง) ด้วยบารมี 10 ประการ พญามาร เสนามารจึงไม่อาจเข้าใกล้พระ พุทธองค์ได้ แต่ก็พยายามจะทาร้ายพระองค์ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น บันดาล ใหเ้ กิดพายใุ หญพ่ ดั เขา้ มา และมหี า่ ฝนตกลงมา มนี า้ ไหลนองไปท่ัว ทาให้ ห่าฝนหิน เปลวไฟ หา่ ฝนทรายกรดอันละเอียด เป็นควันเป็นเปลวตกลง จากอากาศ แต่สิ่งต่าง ๆ เหลา่ นนั้ กลบั กลายเป็นดอกไม้ทิพย์มาบูชาพระ พุทธองค์ พญามารพยายามที่จะให้พระองค์ลุกข้ึนจากบัลลังก์ให้จงได้ แต่ก็ ทาไม่สาเร็จ เพราะบัลลังก์นั้นเกิดจากการตั้งสัตยาธิษฐาน อันเกิดจาก ผลบุญของพระองค์ อีกท้ังพระองค์ทรงมีพระบารมี 30 เป็นกาลัง มีพระแม่ธรณีมาเป็นสักขีพยานด้วยการบิดมวยผมท่ีชุ่มไปด้วยน้า ทักษิโณทกท่ีพระองค์ทรงหล่ังลงเหนือพื้นดิน ในการทาบุญทุกคร้ัง ในขณะน้นั เกิดแผ่นดินไหวและเกิดฟา้ ผ่าลงมา พญามารตอ้ งแตกพ่ายไป พระพทุ ธเจ้าผจญมาร ท่ีมา : https://sites.google.com/site/ isthabuy/rayngan

หนา้ 16 ตรัสรู้ เวลารุ่งอรุณ ในวันเพ็ญเดือน 6 (เดือนวิสาขะ) ปีระกา ก่อน พุทธศักราช 45 ปี นางสุชาดาได้นาข้าวมธุปายาส (ข้าวหุงด้วยน้านมและ น้าผึ้ง) เพื่อไปบวงสรวงเทวดา คร้ันเห็นพระมหาบุรุษประทับที่โคน ต้นอชปาลนิโครธ (ต้นไทร) ด้วยอาการอันสงบ นางคิดว่าเป็นเทวดา จึงถวายข้าวมธุปายาสพระองค์ แล้วเสด็จไปสู่ท่าสุปดิษฐ์ริมฝ่ังแม่น้า เนรัญชรา ทรงวางถาดทองคาบรรจุข้าวมธุปายาสแล้วลงสรงสนาน ชาระล้างพระวรกาย แล้วทรงผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยของ พระอรหันตสมั มาสัมพทุ ธเจา้ ทกุ พระองค์ นางสุชาดาได้ถวายขา้ วมธปุ ายาส ท่มี า : https://www.w-nikro.com/images/column_1418242580/DSCF0035.JPG หลังจากเสวยแล้วพระองค์ทรงจับถาดทองคาขึ้นมาอธิษฐานว่ า ถ้าเราจักสามารถตรัสรู้ได้ในวันนี้ ก็ขอให้ถาดทองคาใบน้ีจงลอย ทวนกระแสน้าไป แต่ถ้ามิได้เป็นดังน้ันก็ขอให้ถาดทองคาใบน้ีจงลอยไป ตามกระแสนา้ เถิด แลว้ ทรงปล่อยถาดทองคาลงไปในแม่น้า ถาดทองคา นั้นลอยได้ ลอยทวนกระแสน้าขึ้นไปไกลถึง 80 ศอก จึงจมลงตรงท่ี กระแสน้าวน ในเวลาเย็นพระองค์เสด็จกลับมายังต้นโพธ์ิท่ีประทับ คนหาบหญ้าชื่อโสตถิยะได้ ถวายหญ้าปูลาดท่ีประทับ ณ ใต้ต้นโพธ์ิ แลว้ ทรงอธิษฐานวา่ ถ้าไม่บรรลธุ รรมวิเศษจะไมล่ ุกจากทน่ี ง่ั น้ี

หนา้ 17 อธิษฐานลอยถาดทองคา แลว้ ลอยทวนกระแสนา้ ท่มี า : https://lh3.googleusercontent.com/ จิตของพระองค์หลุดพ้นจากกามสวะ ภวาสวะ และอวิชชาสวะ ทรงรู้ชัดว่าชาติส้ินแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว ทากิจที่ควรทาเสร็จแล้ว ไม่มกี ิจอืน่ เพื่อความเป็นอย่างนี้อีกต่อไป พระองคท์ รงบรรลุวชิ ชาที่ 3 คือ อาสวกั ขยญาณ ในปจั ฉมิ ยามราตรีน้ันตรสั รู้ เปน็ พระอรหนั ตสัมมาสัมพุทธเจ้า ในวันเพ็ญเดือน 6 ปีระกา ขณะพระชนมายุได้ 35 พรรษา นับแต่วันท่ี เสด็จออกผนวชจนถงึ วันตรัสรู้ธรรม รวมเป็นเวลา 6 ปี ตรัสรู้ อริยสัจ 4 (ความจริงอันประเสริฐ) ซง่ึ ประกอบดว้ ย ทกุ ข์ สมทุ ยั นโิ รธ มรรค

หนา้ 18 ปฐมเทศนา หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว ทรงพิจารณาธรรม ท่ีพระองค์ตรัสรู้มาเป็นเวลา 7 สัปดาห์ และทรงเห็นว่าพระธรรมน้ัน ยากต่อบุคคลท่ัวไปท่ีจะเข้าใจและปฏิบัติได้ พระองค์จึงทรงพิจารณาว่า บุคคลในโลกน้ีมหี ลายจาพวกเหมือนอย่างบวั 4 เหล่า ท่ีมีท้ังผู้ท่ีสอนได้ง่าย และผทู้ สี่ อนไดย้ าก พระองคจ์ งึ ทรงระลกึ ถงึ อาฬารดาบสและอุทกดาบส ผู้เป็นพระอาจารย์ แต่ท้ังสองท่านเสียชีวิตแล้ว พระองค์จึงทรงระลึก ถึงปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 ท่ีเคยมาเฝ้ารับใช้ จึงได้เสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ ท่ปี ่าอิสปิ ตนมฤคทายวนั เมอื งพาราณสี พระองค์ทรงแสดง คือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” แปลว่า สูตร ของการหมุนวงล้อแห่งพระธรรมให้เป็นไป ท่ีกล่าวถึงที่สุด 2 อย่าง ซ่ึง ถือเปน็ การแสดงพระธรรมเทศนาครงั้ แรก ในวันเพ็ญ ข้ึน 15 ค่า เดือน 8 ซ่ึงตรงกบั วันอาสาฬหบูชา แสดงปฐมเทศนาแก่ปัญจวัคคยี ์ ทีม่ า : https://www.phutthathum.com/ ในการนี้พระโกณฑัญญะได้ธรรมจักษุ คือดวงตาเห็นธรรมเป็น คนแรก พระพุทธองค์จึงทรงเปล่งวาจาว่า “อัญญาสิ วตโกณฑัญโญ” แปลว่า โก ณ ฑัญ ญะได้รู้แล้ว ท่า นโก ณ ฑัญญ ะ จึง ได้สม ญ า ว่า

หน้า 19 อัญญาโกณฑัญญะ และได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์รูปแรกใน พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า โ ด ย เ รี ย ก ก า ร บ ว ช ที่ พ ร ะ พุ ท ธ เ จ้ า บ ว ช ใ ห้ วา่ \"เอหิภกิ ขุอุปสัมปทา\" หลังจากปัญจวัคคีย์อุปสมบททั้งหมดแล้ว พุทธองค์จึงทรงเทศน์ อนตั ตลักขณสตู ร ปัญจวัคคียจ์ งึ สาเร็จเปน็ อรหนั ต์ในเวลาต่อมา ปรนิ พิ พาน พระพุทธเจ้าทรงบาเพ็ญพุทธกิจอยู่ 45 พรรษา จนพระชนมายุ 80 พรรษา พระองค์เสดจ็ จาพรรษาสดุ ทา้ ย ณ เมืองเวสาลี ในวาระน้ัน พระพุทธองค์ ได้เสด็จจากเวสาลีสู่เมืองกุสินารา พระองค์ได้หันกลับไป ทอดพระเนตรเมืองเวสาลซี ึง่ เคยเปน็ ท่ปี ระทับเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเสด็จ ตอ่ ไปยังเมืองปาวา เสวยพระกระยาหารเป็นครั้งสุดท้ายที่บ้านนายจุนทะ บุตรนายช่างทอง แล้วพระองค์ทรงพระประชวรหนัก ทรงข่มอาพาธ ประคองพระองค์เสด็จถึงสาลวโนทยาน (ป่าสาละ) ของเจ้ามัลละ เมืองกสุ ินารา เสด็จดบั ขันธ์ปรนิ ิพพาน ทมี่ า : https://sites.google.com/site/karkaneidphraphuththsasna/sedc-dab-khanth- priniphphan

หนา้ 20 ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานพระองค์ได้อุปสมบทแก่ พระสุภัททะ ปรพิ าชา นับเป็นสาวกองคส์ ดุ ทา้ ยทพ่ี ระพทุ ธองค์ทรงบวชให้ ในทา่ มกลาง คณะสงฆ์ทั้งท่ีเป็นพระอรหันต์และปุถุชน พระราชา ชาวเมืองกุสินารา และจากแคว้นต่าง ๆ รวมท้ังเทวดาทั่วหม่ืนโลกธาตุ พระพุทธองค์ได้มี พระดารัสคร้ังสาคัญว่า โยโว อานันทะ มะยา ธัมโม จะ วินะโย จะเทสิโต, ปัญญัตโต, โสโว มะมัจจะเยนะ สัตถา อันแปลว่า ดูก่อน อานนท์ ธรรมและวินัยอันที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมวนิ ยั น้นั จกั เป็นศาสดาของเธอทงั้ หลาย เมื่อเราลว่ งลับไปแลว้ และพระพทุ ธองคไ์ ด้แสดงปัจฉิมโอวาทแก่พระภิกษุสงฆ์ว่า ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย น้ีเป็นวาจาครั้งสุดท้าย ที่เราจะกล่าวแก่ท่านทั้งหลาย สงั ขารท้ังหลายท้ังปวงมคี วามสิ้นไปและเสอ่ื มไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลาย จงทาความรอดพน้ ใหบ้ ริบูรณถ์ งึ ท่ีสุด ด้วยความไมป่ ระมาทเถิด แม้เวลา ล่ ว ง ม า ถึ ง ศ ต ว ร ร ษ ที่ 2 5 แ ล้ ว นั บ ตั้ ง แ ต่ พ ร ะ อ ง ค์ ต รั ส รู้ เ ป็ น พ ร ะ อ ร หั น ต สั ม ม า สั ม พุ ท ธ เ จ้ า แ ล ะ เ ส ด็ จ ดั บ ขั น ธ ป ริ นิ พ พ า น ท่ีนอกเมืองกุสินารา ในประเทศอินเดีย แต่คาส่ังสอนอันประเสริฐของ พ ร ะ อ ง ค์ ห า ไ ด้ ล่ วง ลั บไ ป ด้ วย ไ ม่ ค า สั่ ง ส อ นเ ห ล่ า นั้ น ยั ง ค ง อ ยู่ เป็นเครื่องนาบุคคลให้ข้ามพ้นจากความมีชีวิต ขึ้นไปสู่ซึ่งคุณค่ายิ่งกว่า ชวี ิต คือการพน้ จากวัฏสงสารนัน่ เอง หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว สาวกของ พระองค์ทั้งที่เป็นพระอรหันต์และมิใช่พระอรหันต์ได้ช่วยบาเพ็ญ กรณียกิจเผยแผ่พระพุทธวัจนะอันประเสริฐไปทั่วประเทศอินเดีย และ ขยายออกไปทั่วโลก เป็นท่ียอมรับว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่ง ความเป็นจริง มีเหตุผลเช่ือถือได้และ เป็นศาสนาแห่งสันติภาพและ เสรภี าพอย่างแทจ้ ริง

หนา้ 21 กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 1 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพุทธประวตั ติ ั้งแต่การบาเพญ็ เพียรจนถงึ ปรินิพพาน หรือประวตั ิของศาสดาทต่ี นนับถือตามท่ีกาหนด คาชแี้ จง นกั เรียนเตมิ คาตอบใหถ้ กู ตอ้ ง 1. พระพุทธเจ้ามีพระนามเดมิ วา่ 2. พระราชบดิ าของพระพทุ ธเจ้า พระนามวา่ 3. พระราชมารดาของพระพุทธเจา้ พระนามว่า 4. พระพุทธเจ้าประสูติเม่ือ 5. เมอื่ ทรงเป็นเจ้าชายสทิ ธัตถะ พระองค์ไดอ้ ภเิ ษก(แตง่ งาน) เม่อื พระชนมายุ ปี โดยทรงอภเิ ษกกับ 6. เจ้าชายสทิ ธตั ถะมพี ระโอรส พระนามวา่ แปลได้ว่า 7. พระองคต์ ดั สินพระทยั ออกผนวช เม่อื พระชนมายุ พรรษา ด้วยเหตผุ ลในการออกผนวช คือ 8. พระสิทธตั ถะได้บาเพญ็ ทางจิตโดยการเจริญสมาธิ และตรสั รู้ดว้ ย พระองคเ์ องเปน็ พระสัมมาสมั พทุ ธเจ้าด้วยหลักธรรมใด 9. เมือ่ พระพทุ ธเจ้าได้ตรสั รู้แล้ว ไดเ้ สดจ็ ไปแสดงธรรมเทศนา เพอ่ื โปรด ปญั จวัคคยี ์ ด้วยหลกั ธรรมใด 10. พระพทุ ธเจ้าไดป้ ระกาศศาสนาเปน็ เวลา พรรษา และพระองคม์ ีพระชนมายุ พรรษา จึงได้เสดจ็ ดบั ขันธ์ ปรนิ ิพพาน

หน้า 22 กิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 2 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพุทธประวัตติ ั้งแต่การบาเพ็ญเพียรจนถึงปรินพิ พาน หรือประวัตขิ องศาสดาท่ตี นนับถือตามทีก่ าหนด คาชแ้ี จง นักเรยี นนาคาท่กี าหนดไปเติมในช่องว่างให้สมั พันธก์ บั เนอื้ หา เวฬุวัน ทกุ ข,์ สมทุ ยั ,นิโรธ,มรรค ทุกรกิริยา กเิ ลส กุสนิ ารา เทวดาผูห้ ลงผดิ อาฬารดาบส 45 โสตถิยะ ปญั จวคั คยี ์ อริยสจั 4 6 1. มารทีม่ าผจญพระพทุ ธเจ้า คือ 2. แมท้ รงชนะมารแล้วแตพ่ ระองคท์ รงภาวนาต่อไปเพอ่ื เอาชนะ 3. ผถู้ วายหญ้าคาแด่พระพุทธเจ้าคอื ใคร 4. เมอื่ ตรสั รูค้ ร้งั แรกพระองคท์ รงต้องการไปแสดงธรรมให้ ฟงั 5. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ออกเผยแพรธ่ รรมะอยู่ ปี จึงเสด็จปรนิ ิพพาน 6. พระพุทธเจ้าทรงบาเพญ็ เพียรเป็นเวลา ปี 7. หลกั ธรรมที่พระพทุ ธเจา้ ตรัสรคู้ ือ ประกอบด้วย 8. ตรสั ร้แู ล้วพระพุทธเจา้ แสดงธรรมแก่ เปน็ ครัง้ แรก 9. วัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา คอื วัด 10. พระพทุ ธเจา้ เสดจ็ ปรนิ พิ พานอยู่ท่ีเมอื ง

หน้า 23 กจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 3 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพทุ ธประวตั ติ ัง้ แตก่ ารบาเพ็ญเพียรจนถึงปรนิ พิ พาน หรอื ประวตั ิของศาสดาท่ตี นนับถอื ตามทีก่ าหนด คาชี้แจง นักเรยี นนาพยัญชนะทางขวามอื ไปเตมิ หนา้ ข้อความ ท่ีมเี นอ้ื หาสัมพนั ธก์ ัน _____ 1. ตรสั รู้ ก. ธมั มจกั กัปปวัตนสตู ร _____ 2. ทุกรกริ ิยา ข. รูแ้ จ้งในธรรมทง้ั ปวง _____ 3. ปฐมเทศนา ค. พระอัญญาโกณฑญั ญะ _____ 4. พระสัมมาสมั พุทธเจา้ ง. ทรงบาเพ็ญเพยี ร _____ 5. ปรนิ ิพพาน จ. ขา้ วมธปุ ายาส _____ 6. ราหลุ ฉ. ผ้ตู รัสร้ชู อบด้วยพระองค์เอง _____ 7. มัชฌมิ าปฏปิ ทา ช. พระโอรส _____ 8. นางสชุ าดา ซ. วันเพญ็ เดือน 6 _____ 9. ปฐมสาวก ฌ.ความจริง 4 ประการ _____ 10. อริยสัจ 4 ญ.ทางสายกลาง

หนา้ 24 กิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 4 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพทุ ธประวัตติ ง้ั แต่การบาเพญ็ เพยี รจนถงึ ปรินพิ พาน หรือประวัติของศาสดาที่ตนนับถอื ตามท่ีกาหนด คาช้ีแจง นกั เรยี นวเิ คราะหว์ ่าขอ้ ความใดถกู ให้ทาเครื่องหมาย  ส่วนขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ งใหท้ าเครื่องหมาย  _____ 1. พระพทุ ธเจา้ กว่าจะสาเรจ็ พระอรหนั ต์ตอ้ งบาเพญ็ เพยี รดว้ ย วิธตี ่าง ๆ _____ 2. ทรงสง่ั สอนประชาชนนานถงึ 45 ปี _____ 3. วัดเวฬุวัน คอื วดั แหง่ แรกในพระพุทธศาสนา _____ 4. ปฐมสาวกคือพระอัญญาโกณฑัญญะ _____ 5. ปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวตั นสตู ร _____ 6. พทุ ธสาวกท่ีควรเป็นตวั อยา่ งได้จะต้องปฏิบตั ดิ ี นาคาสอนไป ปฏิบัตไิ ด้ _____ 7. พระพทุ ธเจ้าตรสั รไู้ ด้ด้วยพระองคเ์ อง _____ 8. หลกั ธรรมท่พี ระพทุ ธเจ้าตรัสรู้ คอื อทิ ธิบาท 4 _____ 9. อรยิ สัจ 4 คอื ทกุ ข์ สมุทยั นโิ รธ มรรค _____ 10. การบาเพ็ญทุกรกริ ิยาทาใหพ้ ระพทุ ธองค์ตรสั รเู้ ปน็ พระอรหนั ต์

หนา้ 25 แบบทดสอบหลงั เรียน กล่มุ สาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม (สาระศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม) ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เล่มที่ 2 พระศาสดาของเรา จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน คาชแ้ี จง ให้นกั เรยี นทาเครอ่ื งหมาย  ในชอ่ ง ก ข ค และ ง ทีเ่ ปน็ คาตอบทถี่ กู ตอ้ งลงในกระดาษคาตอบ 1. หลงั ตรสั ร้แู ลว้ พระพุทธเจ้าเสด็จไปทรงเทศนาโปรดใครก่อน ก. ครูวศิ วามิตร ข. พระเจ้าพมิ พสิ าร ค. ปญั จวคั คีย์ ง. พระเจ้าสุทโธทนะ 2. ศาสดาของศาสนาพุทธ คือใคร ก. พระเยซู ข. พระมูฮมั มัด ค. พระพทุ ธเจา้ ง. พระนารายณ์

หน้า 26 3. พระพทุ ธเจ้าทรงตรัสรู้ด้วยวธิ ีการใด ก. กัดฟนั ข. กล้นั ลมหายใจ ค. อดอาหาร ง. นั่งสมาธิ 4. เจา้ ชายสิทธตั ถะทรงเสดจ็ ออกผนวชเพ่อื จุดประสงคใ์ ด ก. ทาตามธรรมเนยี มโบราณ ข. หนคี วามวุ่นวายในพระราชวงั ค. ต้องการคน้ หาหนทางดับทกุ ข์ ง. ทดแทนพระคณุ พระราชบดิ าและพระราชมารดา 5. หลกั ธรรมที่พระพุทธเจา้ ทรงค้นพบด้วยพระองคเ์ องคืออะไร ก. สงั คหวตั ถุ 4 ข. อรยิ สจั 4 ค. อทิ ธิบาท 4 ง. ฆราวาสธรรม 4 6. คาว่า “ปฐมเทศนา” หมายถงึ อะไร ก. การเลา่ นทิ านให้ฟงั คร้งั แรก ข. การค้นพบธรรมครัง้ แรก ค. การตรสั รู้ครงั้ แรก ง. การแสดงธรรมครง้ั แรก

หน้า 27 7. เหตใุ ดปัญจวคั คยี จ์ งึ หนีจากพระพทุ ธเจา้ ก. เห็นวา่ พระองคท์ รงเลกิ ความเพียร ข. เหน็ วา่ พระองคไ์ มซ่ ือ่ สัตย์ ค. เห็นว่าพระองคไ์ ม่เป็นทพ่ี ่งึ ได้แล้ว ง. เห็นว่าพระองคไ์ มม่ ีวันตรสั รู้ได้แล้ว 8. สถานที่ใดเปน็ ทปี่ รินพิ พานของพระพทุ ธเจ้า ก. เมืองพาราณสี ข. เมอื งมคธ ค. เมอื งราชคฤห์ ง. เมอื งกุสนิ ารา 9. พระพุทธเจ้าทรงเสด็จดบั ขันธ์ปรนิ ิพพานในวันใด ก. วันแรม 15 ค่า เดอื น 6 ข. วันขึ้น 15 คา่ เดือน 8 ค. วนั ขนึ้ 15 ค่า เดอื น 6 ง. วันแรม 15 ค่า เดอื น 8 10. พระพทุ ธเจ้าทรงเอาชนะพญามารได้ด้วยวธิ ีใด ก. ดว้ ยกุศลธรรมบท 10 ประการ ข. พระปญั จวัคคยี ์เข้ามาช่วย ค. มีเทวดามาช่วย ง. ด้วยบารมี 10 ประการ

หน้า 28 กระดาษคาตอบ ชอื่ สกลุ เลขที่ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1. 1. 2. 2. 3. 3. 4. 4. 5. 5. 6. 6. 7. 7. 8. 8. 9. 9. 10. 10. คะแนนทไี่ ด้ คะแนนทีไ่ ด้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน ผา่ น คะแนน ไม่ผา่ น ทดสอบก่อนเรยี นได้ คะแนน คะแนน ทดสอบหลงั เรยี นได้ คะแนนพฒั นา

หน้า 29 คาศัพท์นา่ รู้ คาศัพท์ คาอ่าน ความหมาย กตัญญู กาลเทศะ กะ-ตนั -ยู ร้อู ปุ การะทที่ ่านทาให้ รู้คุณท่าน ศีลธรรม กา-ละ-เท-สะ ความเหมาะสม,ความสมควร,ความ เหมาะเจาะ พทุ ธศาสนิกชน สีน-ทา, สี-ละ-ทา ความประพฤตทิ ่ดี ที ี่ชอบ ศลี และธรรม พระกนิษฐา ธรรมในระดบั ศีล พระราชโอรส อภิเษกสมรส พุด-ทะ-สา-สะ-นิก- ผู้ท่นี บั ถอื พระพุทธศาสนา ประสูติ บรรพชา กะ-ชน ผนวช พระ-กะ-นิด-ถา น้องสาว ปฐมเทศนา พระ-ราด-ชะ-โอ-รด ลูกชาย ตรัสรู้ อะ-ภ-ิ เสก-สม-รด แตง่ งาน ประ-สดู การเกิด การคลอด บนั -พะ-ชา , การบวช บบั -พะ-ชา ผะ-หนวด บวช,อปุ สมบท,บรรพชา ปะ-ถม-มะ-เทด-สะ การแสดงธรรมครั้งแรก -หนา ตรดั -สะ-รู้ รูแ้ จ้ง (ใชเ้ ฉพาะพระพทุ ธเจ้า)

หน้า 30 ภาคผนวก

หน้า 31 เฉลยกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 1 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพุทธประวัตติ ง้ั แต่การบาเพ็ญเพียรจนถึงปรนิ ิพพาน หรือประวัติของศาสดาทีต่ นนับถือตามทีก่ าหนด คาช้แี จง นักเรียนเติมคาตอบให้ถกู ต้อง 1. พระพุทธเจา้ มีพระนามเดมิ ว่า สทิ ธตั ถะ 2. พระบิดาของพระพุทธเจ้า พระนามว่า พระเจ้าสทุ โธทนะ 3. พระมารดาของพระพุทธเจ้า พระนามว่า พระนางสริ มิ หามายา 4. พระพทุ ธเจ้าประสูติเมอ่ื วนั ขนึ้ 15 คา่ เดือน 6 5. เมอื่ ทรงเปน็ เจ้าชายสทิ ธตั ถะ พระองคไ์ ด้อภิเษก(แตง่ งาน) เม่ือพระชนมายุ 16 ปี โดยทรงอภเิ ษกกับ พระนางพมิ พา 6. เจ้าชายสทิ ธตั ถะมีพระโอรส พระนามว่า ราหุล แปลได้วา่ บ่วงเกดิ แลว้ , เครื่องจองจาเกิดแลว้ 7. พระองคต์ ัดสินพระทัยออกผนวช เมอ่ื พระชนมายุ 29 พรรษา ด้วยเหตผุ ลในการออกผนวช คือ สังเวชพระทัยในชวี ิต 8. พระสิทธตั ถะไดบ้ าเพ็ญทางจิตโดยการเจริญสมาธิ และตรัสรู้ดว้ ย พระองคเ์ องเป็นพระสัมมาสมั พุทธเจา้ ดว้ ยหลักธรรมใด อรยิ สจั 4 9. เม่ือพระพุทธเจ้าได้ตรสั รแู้ ล้ว ไดเ้ สด็จไปแสดงธรรมเทศนา เพอ่ื โปรด ปัญจวคั คยี ์ ด้วยหลักธรรมใด ธัมมจักกัปปวตั ตนสูตร 10. พระพทุ ธเจ้าไดป้ ระกาศศาสนาเป็นเวลา 45 พรรษา และพระองค์ มพี ระชนมายุ 80 พรรษา จึงได้เสดจ็ ดับขันธป์ รนิ ิพพาน

หนา้ 32 เฉลยกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 2 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพทุ ธประวตั ติ งั้ แต่การบาเพญ็ เพียรจนถึงปรินพิ พาน หรือประวตั ขิ องศาสดาทต่ี นนับถือตามทก่ี าหนด คาชีแ้ จง นกั เรียนนาคาทกี่ าหนดไปเติมในชอ่ งวา่ งใหส้ มั พนั ธ์กบั เนือ้ หา เวฬวุ นั ทุกข์,สมุทยั ,นิโรธ,มรรค ทุกรกริ ยิ า กเิ ลส กุสินารา เทวดาผหู้ ลงผิด อาฬารดาบส 45 โสตถิยะ ปญั จวคั คีย์ อริยสจั 4 6 1. มารทีม่ าผจญพระพทุ ธเจา้ คอื เทวดาผหู้ ลงผดิ 2. แมท้ รงชนะมารแล้วแต่พระองค์ทรงภาวนาตอ่ ไปเพอ่ื เอาชนะ กเิ ลส 3. ผูถ้ วายหญา้ คาแด่พระพุทธเจา้ คือใคร โสตถยิ ะ 4. เมือ่ ตรัสร้คู รงั้ แรกพระองคท์ รงตอ้ งการไปแสดงธรรมให้ อาฬารดาบส ฟัง 5. พระพุทธเจ้าเสดจ็ ออกเผยแพร่ธรรมะอยู่ 45 ปี จงึ เสด็จปรนิ ิพพาน 6. พระพทุ ธเจ้าทรงบาเพญ็ เพียรเป็นเวลา 6 ปี 7. หลักธรรมทพี่ ระพทุ ธเจา้ ตรัสร้คู ือ อรยิ สัจ 4 ประกอบดว้ ย ทกุ ข์,สมุทัย,นโิ รธ,มรรค 8. ตรสั ร้แู ล้วพระพุทธเจ้าแสดงธรรมแก่ ปัญจวคั คยี ์ เป็นครงั้ แรก 9. วัดแหง่ แรกในพระพทุ ธศาสนา คือ วดั เวฬวุ ัน 10. พระพุทธเจ้าเสด็จปรนิ ิพพานอย่ทู เ่ี มอื ง กุสนิ ารา

หนา้ 33 เฉลยกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี 3 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพทุ ธประวัตติ ้งั แต่การบาเพญ็ เพียรจนถึงปรนิ ิพพาน หรอื ประวตั ิของศาสดาท่ีตนนับถอื ตามที่กาหนด คาชี้แจง นักเรียนนาพยัญชนะทางขวามือไปเตมิ หนา้ ขอ้ ความ ที่มเี นอื้ หาสัมพนั ธ์กนั ข 1. ตรสั รู้ ก. ธัมมจักกปั ปวัตนสตู ร ง 2. ทกุ รกิรยิ า ข. รแู้ จ้งในธรรมทั้งปวง ก 3. ปฐมเทศนา ค. พระอัญญาโกณฑญั ญะ ฉ 4. พระสัมมาสมั พุทธเจา้ ง. ทรงบาเพ็ญเพียร ซ 5. ปรนิ พิ พาน จ. ขา้ วมธปุ ายาส ช 6. ราหลุ ฉ. ผ้ตู รัสรู้ชอบดว้ ยพระองค์เอง ญ 7. มัชฌิมาปฏิปทา ช. พระโอรส จ 8. นางสุชาดา ซ. วนั เพ็ญ เดอื น 6 ค 9. ปฐมสาวก ฌ.ความจรงิ 4 ประการ ฌ 10. อรยิ สัจ 4 ญ.ทางสายกลาง

หน้า 34 เฉลยกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 4 ส 1.1 ป.3/2 สรุปพุทธประวัติตง้ั แตก่ ารบาเพ็ญเพียรจนถงึ ปรินพิ พาน หรอื ประวตั ิของศาสดาทต่ี นนับถอื ตามทีก่ าหนด คาชี้แจง นักเรียนวเิ คราะห์วา่ ขอ้ ความใดถกู ใหท้ าเคร่อื งหมาย  ส่วนขอ้ ใดไม่ถกู ต้องใหท้ าเครือ่ งหมาย   1. พระพุทธเจ้ากว่าจะสาเรจ็ พระอรหนั ตต์ ้องบาเพญ็ เพียรดว้ ย วธิ ตี ่าง ๆ  2. ทรงสงั่ สอนประชาชนนานถงึ 45 ปี  3. วดั เวฬุวนั คือ วดั แหง่ แรกในพระพุทธศาสนา  4. ปฐมสาวกคอื พระอัญญาโกณฑญั ญะ  5. ปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกปั ปวตั นสตู ร  6. พทุ ธสาวกทีค่ วรเป็นตวั อยา่ งได้จะต้องปฏิบตั ดิ ี นาคาสอนไป ปฏิบตั ิได้  7. พระพุทธเจ้าตรสั รู้ไดด้ ้วยพระองคเ์ อง  8. หลกั ธรรมทีพ่ ระพุทธเจ้าตรัสรู้ คือ อิทธิบาท 4  9. อริยสัจ 4 คือ ทุกข์ สมทุ ัย นิโรธ มรรค  10. การบาเพญ็ ทุกรกริ ยิ าทาใหพ้ ระพทุ ธองค์ตรัสรูเ้ ปน็ พระอรหันต์

หน้า 35 เฉลยแบบทดสอบ ชอื่ สกุล เลขที่ แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1.  1.  2.  2.  3.  3.  4.  4.  5.  5.  6.  6.  7.  7.  8.  8.  9.  9.  10.  10.  คะแนนที่ได้ คะแนนท่ีได้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน ผ่าน คะแนน ไม่ผา่ น ทดสอบก่อนเรียนได้ คะแนน คะแนน ทดสอบหลังเรยี นได้ คะแนนพัฒนา

หน้า 36 บรรณานกุ รม จงจรสั แจ่มจันทร.์ (2563). หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ไทยรม่ เกล้า. ไตรรตั น์ เอี่ยมพนั ธ.์ (2563). แบบฝึกปฏิบัติทกั ษะรวบยอด พระพุทธศาสนา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ไทยร่มเกล้า. ราชบณั ฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ.2554. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑติ ยสถาน. ศรชัย ทา้ วมติ ร. (2563). หนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน พระพุทธศาสนา ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3 กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.). สาลี รกั สทุ ธ.ี (2556). แบบฝกึ เสรมิ รายวชิ าพระพุทธศาสนา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 3. กรงุ เทพฯ: เพ่ิมทรพั ย์การพมิ พ.์ เอกรนิ ทร์ สมี่ หาศาล (2563). สือ่ การเรียนรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน ชดุ แมบ่ ท พื้นฐาน Active Learning สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3. กรุงเทพฯ: ไทยรม่ เกล้า. เอกรนิ ทร์ สม่ี หาศาล และคณะ. (2563). สอ่ื การเรยี นรู้ รายวิชาพ้นื ฐาน ชดุ แมบ่ ทพนื้ ฐาน หลักสูตรแกนกลางฯ พระพทุ ธศาสนา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551. กรงุ เทพฯ: ไทยร่มเกลา้ .

หนา้ 37 บรรณานุกรมภาพ เจ้าชายสทิ ธัตถะประสตู ิ ณ สวนลุมพินีวัน https://i1.wp.com/ www.zabzaa.com/event/images/visaka_born.jpg ทอดพระเนตรเทวทูตทงั้ 4 https://dhamaprateep9.files. wordpress.com/2014/03/buddha-08.jpg ทรงบาเพ็ญทกุ รกิรยิ า https://lh3.googleusercontent.com/proxy/ kQ3pGLOJ1KrswMEvuQMZwOAbu6_UF_4PWanEzna7GbNfL7ajiFZF OmN_XgUCKm3NrgHxn2XIxzj7frR7kthjxN1q พระพุทธเจา้ ผจญมาร https://sites.google.com/site/ isthabuy/rayngan นางสุชาดาได้ถวายขา้ วมธปุ ายาส https://www.w-nikro.com/images/ column_1418242580/DSCF0035.JPG อธิษฐานลอยถาดทองคา แลว้ ลอยทวนกระแสนา้ https://lh3.googleusercontencom/ แสดงปฐมเทศนาแก่ปญั จวัคคยี ์ https://www.phutthathum.com/ เสด็จดบั ขันธ์ปรินพิ พาน https://sites.google.com/site/ karkaneidphraphuththsasna/sedc-dab-khanth-priniphphan




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook