เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๑ชนิดของ คำ ในไวยำกรณ์ไทย คำทป่ี ระกอบกนั เขำ้ เป็นประโยค แยกเป็นชนิดต่ำง ๆ คอื ๑. คำนำม ๒. คำสรรพนำม๓. คำกรยิ ำ ๔. คำวเิ ศษณ์ ๕. คำบพุ บท ๖.คำสนั ธำน ๗. คำอุทำนคำนำม คำนำม คอื คำทใ่ี ชเ้ รยี กชอ่ื คน สตั ว์ สงิ่ ของ สถำนท่ี อำคำร สภำพ และลกั ษณะทงั้ สงิ่ มชี วี ติและไมม่ ชี วี ติ ทงั้ ทเ่ี ป็นรปู ธรรมและนำมธรรม คำนำมแบ่งออกเป็น ๕ ชนิด คอื ๑. คำนำมสำมญั ทใ่ี ชเ้ ป็นช่อื ทวั่ ไป หรอื เป็นคำเรยี กสงิ่ ต่ำงๆ โดยทวั่ ไป ไมช่ เ้ี ฉพำะเจำะจงหรอื สำมำนยนำม เช่น คน , รถ , หนงั สอื , กลว้ ย เป็นตน้ สำมำนยนำมบำงคำมคี ำยอ่ ยเพอ่ื บอกชนิดยอ่ ยๆของสง่ิ ต่ำงๆ เรยี กวำ่ สำมำนยนำมยอ่ ย เช่น คนไทย , รถจกั รำยำน , หนงั สอื แบบเรยี น ,กลว้ ยหอม เป็นตน้ ตวั อยำ่ งเช่น ดอกไมอ้ ยใู่ นแจกนั แมวชอบกนิ ปลำ ๒. คำนำมทเ่ี ป็นช่อื เฉพำะของคน สตั ว์ สถำนท่ี หรอื เป็นคำเรยี กบคุ คล สถำนทเ่ี พ่อื เจำะจงว่ำเป็นคนไหน สง่ิ ใด หรอื วิสำมำนยนำม เชน่ ธรรมศำสตร์ , วดั มหำธำตุ , รำมเกยี รติ ์เป็นตน้ตวั อยำ่ งเชน่ นิดและน้อยเป็นพน่ี ้องกนั อเิ หนำไดร้ บั กำรยกยอ่ งว่ำเป็นยอดของกลอนบทละคร ๓. คำนำมทท่ี ำหน้ำทป่ี ระกอบนำมอ่นื เพ่อื บอกรปู ร่ำง ลกั ษณะ ขนำดหรอื ปรมิ ำณของนำมนนั้ใหช้ ดั เจนขน้ึ หรอื ลกั ษณนำม เช่น รปู , องค์ , กระบอก เป็นตน้ ตวั อยำ่ งเช่น คน ๖ คน นงั่ รถ ๒ คนั ผำ้ ๒๐ ผนื เรยี กว่ำ ๑ กุลี ๔. คำนำมบอกหมวดหมขู่ องสำมำนยนำม และวสิ ำมำนยนำมทร่ี วมกนั มำกๆ หรอื สมหุ นำมเช่น ฝงู ผง้ึ , โขลงชำ้ ง , กองทหำร เป็นตน้ ตวั อยำ่ งเชน่ กองยวุ กำชำดมำตงั้ ค่ำยอย่ทู น่ี ่ี พวกเรำไปตอ้ นรบั คณะรฐั มนตรี
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๒๕. คำเรยี กสง่ิ ทไ่ี มม่ รี ปู รำ่ ง ไมม่ ขี นำด จะมคี ำวำ่ \"กำร\" และ \"ควำม\" นำหน้ำ หรอื อำกำรนำม เช่น กำรกนิ , กรำนอน , กำรเรยี น , ควำมสวย , ควำมคดิ , ควำมดี เป็นตน้ ตวั อย่ำงเชน่กำรวง่ิ เพ่อื สขุ ภำพไมต่ อ้ งใชค้ วำมเรว็กำรเรยี นช่วยใหม้ คี วำมรู้ ข้อสงั เกต คำว่ำ \"กำร\" และ \"ควำม\" ถำ้ นำหน้ำคำชนิดอ่นื ทไ่ี มใ่ ช่คำกรยิ ำ หรอื วเิ ศษณ์จะไม่นบั ว่ำเป็นอำกำรนำม เช่น กำรรถไฟ , กำรประปำ , ควำมแพ่ง เป็นต้น คำเหล่ำน้ีจดั เป็นสำมำนยนำมคำสรรพนำม คำสรรพนำม คอื คำทใ่ี ชแ้ ทนนำมในประโยคส่อื สำร เรำใชค้ ำสรรพนำมเพ่อื ไมต่ อ้ งกล่ำวคำนำมซ้ำๆชนิดของคำสรรพนำม แบง่ เป็น ๗ ประเภท ดงั น้ี ๑. สรรพนำมที่ใช้ในกำรพดู (บรุ ษุ สรรพนำม) เป็นสรรพนำมทใ่ี ชใ้ นกำรพดู จำ ส่อื สำรกนัระหวำ่ งผสู้ ง่ สำร (ผพู้ ดู ) ผรู้ บั สำร (ผฟู้ ัง) และผทู้ เ่ี รำกล่ำวถงึ มี ๓ ชนดิ ดงั น้ี๑) สรรพนำมบุรษุ ท่ี ๑ ใชแ้ ทนผสู้ ่งสำร (ผพู้ ดู ) เช่น ฉนั ดฉิ นั ผม ขำ้ พเจำ้ เรำ หนู เป็นตน้๒) สรรพนำมบรุ ษุ ท่ี ๒ ใชแ้ ทนผรู้ บั สำร (ผทู้ พ่ี ดู ดว้ ย) เชน่ ท่ำน คณุ เธอ แก ใตเ้ ทำ้ เป็นตน้๓) สรรพนำมบุรษุ ท่ี ๓ ใชแ้ ทนผทู้ ก่ี ล่ำวถงึ เชน่ ท่ำน เขำ มนั เธอ แก เป็นตน้ ๒. สรรพนำมที่ใช้เช่ือมประโยค (ประพนั ธสรรพนำม)สรรพนำมน้ใี ชแ้ ทนนำมหรอื สรรพนำมทอ่ี ยขู่ ำ้ งหน้ำและตอ้ งกำรจะกลำ่ วซำ้ อกี ครงั้ หน่งึ นอกจำกน้ียงั ใชเ้ ชอ่ื มประโยคสองประโยคเขำ้ดว้ ยกนั ตวั อยำ่ งเชน่ บำ้ นท่ีทำสขี ำวเป็นบำ้ นของเธอ(ที่ แทนบำ้ น เช่อื มประโยคท่ี ๑บำ้ นทำสขี ำว กบั ประโยคท่ี ๒ บำ้ นของเธอ) ๓. สรรพนำมบอกควำมชี้ซำ้ (วภิ ำคสรรพนำม) เป็นสรรพนำมทใ่ี ชแ้ ทนนำมทอ่ี ยขู่ ำ้ งหน้ำเมอ่ื ตอ้ งกำรเอ่ยซ้ำ โดยทไ่ี มต่ อ้ งเอ่ยนำมนัน้ ซ้ำอกี และเพอ่ื แสดงควำมหมำยแยกออกเป็นส่วนๆ ไดแ้ ก่คำว่ำ บำ้ ง ต่ำง กนั ตวั อยำ่ งเช่น
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๓ นกั ศกึ ษำต่ำงแสดงควำมคดิ เหน็ สตรกี ลุ่มนนั้ ทกั ทำยกนั นกั กฬี ำตวั น้อยบำ้ งกว็ งิ่ บำ้ งกก็ ระโดดดว้ ยควำมสนุกสนำน ๔. สรรพนำมชี้เฉพำะ (นิยมสรรพนำม) เป็นสรรพนำมทใ่ี ชแ้ ทนคำนำมทก่ี ล่ำวถงึ ทอ่ี ยู่ เพอ่ืระบใุ หช้ ดั เจนยงิ่ ขน้ึ ไดแ้ ก่คำว่ำ น่ี นนั่ โน่น โน้น ตวั อยำ่ งเชน่น่เี ป็นหนงั สอื ทไ่ี ดร้ บั รำงวลั ซไี รตใ์ นปีน้ีนนั่ รถจกั รำยำนยนตข์ องเธอ ๕. สรรพนำมบอกควำมไม่เจำะจง (อนยิ มสรรพนำม) คอื สรรพนำมทใ่ี ชแ้ ทนนำมท่ีกลำ่ วถงึ โดยไมต่ อ้ งกำรคำตอบไมช่ เ้ี ฉพำะเจำะจง ไดแ้ ก่คำว่ำ ใคร อะไร ทไ่ี หน ผใู้ ด สง่ิ ใด ใครๆอะไรๆๆ ใดๆ ตวั อยำ่ งเชน่ใครๆกพ็ ดู เช่นนัน้ , ใครกไ็ ดช้ ่วยชงกำแฟใหห้ น่อยใดๆในโลกลว้ นอนจิ จงั , ไมม่ อี ะไรทเ่ี รำทำไมไ่ ด้ ๖. สรรพนำมท่ีเป็นคำถำม (ปฤจฉำสรรพนำม) คอื สรรพนำมทใ่ี ชแ้ ทนนำมเป็นกำรถำมท่ีตอ้ งกำรคำตอบ ไดแ้ ก่คำวำ่ ใคร อะไร ไหน ผใู้ ด ตวั อยำ่ งเช่นใครหยบิ หนงั สอื บนโต๊ะไป, อะไรวำงอยบู่ นเกำ้ อ้,ี ไหนปำกกำของฉนัผใู้ ดเป็นคนรบั โทรศพั ท์ ๗. สรรพนำมท่ีเน้นตำมควำมร้สู ึกของผพู้ ดู สรรพนำมชนิดน้ใี ชห้ ลกั คำนำมเพ่อื บอกควำมรสู้ กึ ของผพู้ ดู ทม่ี ตี ่อบุคคลทก่ี ลำ่ วถงึ ตวั อยำ่ งเชน่คุณพอ่ ท่ำนเป็นคนอำรมณ์ดี (บอกควำมรสู้ กึ ยกยอ่ ง)คุณจติ ตมิ ำเธอเป็นคนอยำ่ งงแ้ี หละ (บอกควำมรสู้ กึ ธรรมดำ)หน้ำที่ของคำสรรพนำม๑. ทำหน้ำทเ่ี ป็นประธำนของประโยค เช่น ใครมำ แกมำจำกไหน นนั่ ของฉนั นะ เป็นตน้ ๒. ทำหน้ำทเ่ี ป็นกรรมของประโยค เช่น เธอดนู ่สี ิ สวยไหม เป็นตน้ ๓. ทำหน้ำทเ่ี ป็นสว่ นเตมิ เตม็ เช่น เสอ้ื ของฉนั คอื น่ี สฟี ้ำใสเหน็ ไหม เป็นตน้ ๔. ทำหน้ำทต่ี ำมหลงั บพุ บท เชน่ เธอเรยี นทไ่ี หน เป็นตน้
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๔คำกริยำ คำกริยำ คอื คำทแ่ี สดงอำกำร สภำพ หรอื กำรกระทำของคำนำม และคำสรรพนำมในประโยค คำกรยิ ำบำงคำอำจมีควำมหมำยสมบูรณ์ในตวั เอง บำงคำตอ้ งมคี ำอ่นื มำประกอบ และบำงคำตอ้ งไปประกอบคำอ่นื เพอ่ื ขยำยควำมชนิดของคำกริยำ คำกรยิ ำแบ่งออกเป็น ๕ ชนดิ ดงั น้ี ๑. กริยำที่ไม่ต้องมีกรรมมำรบั (อกรรมกรยิ ำ) เป็นกรยิ ำทม่ี คี วำมหมำยสมบรู ณ์ ชดั เจนในตวั เอง เช่น ครยู นื น้องนงั่ บนเกำ้ อ้ี ฝนตกหนกั เดก็ ๆหวั เรำะ คุณลุงกำลงั นอน ๒. กริยำท่ีต้องมีกรรมมำรองรบั (สกรรมกรยิ ำ) เป็นกรยิ ำทต่ี อ้ งมกี รรมมำรบั จงึ จะได้ใจควำมสมบูรณ์ เช่น แมค่ ำ้ ขำยผลไม้ น้องตดั กระดำษ ฉนั เหน็ งเู ห่ำ พอ่ ซอ้ื ของเลน่ มำใหน้ ้อง ๓. กริยำท่ีต้องมีคำมำรบั คำทม่ี ำรบั ไมใ่ ช่กรรมแต่เป็นสว่ นเตมิ เตม็ (วกิ ตรรถกรยิ ำ) คอืคำกรยิ ำนนั้ ตอ้ งมคี ำนำมหรอื สรรพนำมมำชว่ ยขยำยควำมหมำยใหส้ มบรู ณ์ เช่นคำวำ่ เป็น เหมอื นคลำ้ ย เทำ่ คอื เสมอื น ดุจ เช่น พช่ี ำยของฉนั เป็นตำรวจ เธอคอื นกั แสดงทย่ี งิ่ ใหญ่ ลกู ดุจแกว้ ตำของพ่อแม่ แมวคลำ้ ยเสอื ๔. กริยำช่วย (กรยิ ำนุเครำะห)์ เป็นคำทเ่ี ตมิ หน้ำคำกรยิ ำหลกั ในประโยคเพ่อื ชว่ ยขยำยควำมหมำยของคำกรยิ ำสำคญั ใหช้ ดั เจนยงิ่ ขน้ึ เชน่ คำว่ำ กำลงั จะ ได้ แลว้ ตอ้ ง อยำ่ จง โปรด ชว่ ยควร คงจะ อำจจะ เป็นต้น เช่นเขำไปแลว้ โปรดฟังทำงน้ี เธออำจจะถกู ตำหนิ ลกู ควรเตรยี มตวัใหพ้ รอ้ ม เขำคงจะมำจงแกไ้ ขงำนใหเ้ รยี บรอ้ ย ข้อสงั เกต กรยิ ำคำวำ่ ถูก ตำมปกตจิ ะใชก้ บั กรยิ ำทม่ี คี วำมหมำยไปในทำงไมด่ ี เช่น ถกู ตี ถูกดุถกู ตำหนิ ถำ้ ควำมหมำยในทำงดอี ำจใชค้ ำว่ำ ไดร้ บั เช่น ไดร้ บั คำชมเชย ไดร้ บั เชญิ เป็นตน้ ๕. กริยำที่ทำหน้ำที่คล้ำยนำม (กรยิ ำสภำวมำลำ) เป็นคำกรยิ ำทท่ี ำหน้ำทค่ี ลำ้ ยกบั คำนำมอำจเป็นประธำน เป็นกรรม หรอื บทขยำยของประโยคกไ็ ด้ เช่น เขำชอบออกกำลงั กำย (ออกกำลงั กำยเป็นคำกรยิ ำทท่ี ำหน้ำทค่ี ลำ้ ยนำม เป็นกรรมของประโยค) กนิ มำกทำใหอ้ ว้ น (กนิ มำกเป็นกรยิ ำทท่ี ำหน้ำทเ่ี ป็นประธำนของประโยค) นอนเป็นกำรพกั ผ่อนทด่ี ี (นอนเป็นกรยิ ำทำหน้ำทเ่ี ป็นประธำนของประโยค)
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๕คำวิเศษณ์ คำวิเศษณ์ คอื คำทใ่ี ชข้ ยำยคำอ่นื ไดแ้ ก่ คำนำม คำสรรพนำม คำกรยิ ำ หรอื คำวเิ ศษณ์ ใหม้ ีควำมหมำยชดั เจนขน้ึ แบง่ ออกเป็น ๙ ชนดิ คอื ๑. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกลกั ษณะ ชนดิ ขนำด สี เสยี ง กลนิ่ รส อำกำร เป็นตน้ (สกั ษณวิเศษณ์)เชน่ ดอกจำปีมกี ลนิ่ หอม เจย๊ี บมรี ถยนตค์ นั ใหม่ น้อยหน่ำมดี อกไมส้ แี ดง แมวตวั น้มี ขี นนุ่ม ๒. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกเวลำ อดตี ปัจจบุ นั อนำคต เชำ้ สำย บำ่ ย ค่ำ เป็นต้น (กำลวิเศษณ์)เช่นเงำะจะดลู ะครบำ่ ยน้ี ครนั้ เวลำค่ำลมกพ็ ดั แรง คนโบรำณชอบดหู นงั ตะลุง ๓. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกสถำนทห่ี รอื ระยะทำง ไดแ้ ก่คำวำ่ ใกล้ ไกล เหนอื ใต้ ขวำ ซำ้ ย หน้ำ บนหลงั เป็นตน้ (สถำนวิเศษณ์) เช่น โรงเรยี นอยไู่ กล เขำอำศยั อย่ชู นั้ ลำ่ ง บอยเดนิ ไปทำงทศิ เหนอื ๔. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกจำนวนหรอื ปรมิ ำณ ไดแ้ ก่คำวำ่ มำก น้อย หมด หน่งึ สอง หลำยทงั้ หมด จุ เป็นตน้ (ประมำณวิเศษณ์) เช่น สนุ ขั ทเ่ี ลย้ี งไวก้ นิ จทุ งั้ สน้ิ มำโนชมเี รอื หลำยลำ ๕. นิยมวิเศษณ์ คอื คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกควำมชเ้ี ฉพำะแน่นอน ไดแ้ ก่คำว่ำ น่ี โน่น นนั่ น้ี นนั้โน้น แน่ เอง ทงั้ น้ี ทงั้ นนั้ อยำ่ งน้ี เป็นตน้ เช่น กระเป๋ ำน้ฉี นั ทำเอง พรกิ เองเป็นคนเล่ำใหเ้ พอ่ื นฟังแกว้ น้ตี อ้ งทำควำมสะอำดอยำ่ งน้ี ตกึ น้มี คี นขำยแลว้ ๖. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกควำมไมช่ เ้ี ฉพำะ ไมแ่ น่นอน ไดแ้ ก่คำวำ่ อนั ใด อ่นื ใด ไย ไหน อะไร เชน่ไร เป็นตน้ (อนิยมวิเศษณ์) เช่น คนไหนอำบน้ำก่อนกไ็ ด้ ซอ้ื ขนมอะไรมำโฟกสั กนิ ไดท้ งั้ สนิตจ่ี ะหวั เรำะทำไมกช็ ำ่ งเขำเถอะ คนอ่นื ๆกลบั บำ้ นไปหมดแลว้ ๗. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกเน้ือควำมเป็นคำถำมหรอื ควำมสงสยั ไดแ้ ก่คำวำ่ ใด อะไร ไหน ทำไมเป็นตน้ (ปฤจฉำวิเศษณ์) เช่น ผลไมอ้ ะไรทแ่ี น็คซอ้ื มำใหฉ้ นั สุนขั ใครน่ำรกั จงั นกั รอ้ งคนไหนไม่ชอบรอ้ งเพลง กำรเลน่ ฟุตบอลมกี ตกิ ำอยำ่ งไร ๘. คำวเิ ศษณ์ทแ่ี สดงถงึ กำรขำนรบั ในกำรเจรจำโตต้ อบกนั ไดแ้ ก่คำว่ำ จำ๋ ค่ะ ครบั ขอรบัขำ วะ จะ๊ เป็นตน้ (ประติชญำวิเศษณ์) เช่น หนูจะ๊ รถทวั รจ์ ะออกเดยี๋ วน้แี ลว้ คุณตดั เสอ้ื เองหรอื ค่ะคุณแมข่ ำหนูทำจำนแตกค่ะ ผมจะไปพบท่ำนขอรบั ๙. คำวเิ ศษณ์ทบ่ี อกควำมปฏเิ สธไมย่ อมรบั ไดแ้ ก่คำวำ่ ไม่ ไมไ่ ด้ หำมไิ ด้ บ่ เป็นตน้(ประติวิเศษณ์) เช่น เขำตำมหำหล่อนแต่ไมพ่ บ พไ่ี มไ่ ดแ้ กลง้ น้องนะ ควำมรมู้ ใิ ชข่ องหำงำ่ ยนะเธอ
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๖คำบพุ บท คำบพุ บท คอื คำทเ่ี ช่อื มคำหรอื กลมุ่ คำใหส้ มั พนั ธก์ นั และเมอ่ื เชอ่ื มแลว้ ทำใหท้ รำบว่ำ คำ หรอืกล่มุ คำทเ่ี ช่อื มกนั นนั้ มคี วำมสมั พนั ธก์ นั อย่ำงไร ไดแ้ ก่ ใน แก่ จน ของ ดว้ ย โดย ฯลฯหน้ำท่ีในกำรแสดงควำมสมั พนั ธข์ องคำบพุ บท๑. แสดงควำมสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั สถำนท่ี เช่น คนในเมอื ง๒. แสดงควำมสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั เวลำ เชน่ เขำเปิดไฟจนสวำ่ ง๓. แสดงควำมสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั กำรเป็นเจำ้ ของ เช่น แหวนวงน้เี ป็นของฉนั๔. แสดงควำมสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั เจตนำหรอื สง่ิ ทม่ี ุง่ หวงั เช่น เขำทำเพอ่ื ลกู๕. แสดงควำมสมั พนั ธเ์ กย่ี วกบั อำกำร เชน่ เรำเดนิ ไปตำมถนนหลกั กำรใช้คำบพุ บทบำงคำ\" กบั \" ใชแ้ สดงอำกำรกระชบั อำกำรรว่ ม อำกำรกำกบั กนั อำกำรเทยี บกนั และแสดงระดบั เช่น ฉนั เหน็กบั ตำ\"แก่\" ใชน้ ำหน้ำคำทเ่ี ป็นฝ่ำยรบั อำกำร เช่น ครใู หร้ ำงวลั แก่นกั เรยี น\"แด่\" ใชแ้ ทนตำว่ำ \"แก่\" ในทเ่ี คำรพ เช่น นกั เรยี นมอบพวงมำลยั แดอ่ ำจำรย์\"แต่\" ใชใ้ นควำมหมำยวำ่ จำก ตงั้ แต่ เฉพำะ เชน่ เขำมำแต่บำ้ น\"ต่อ\" ใชน้ ำหน้ำแสดงควำมเกย่ี วขอ้ งกนั ตดิ ต่อกนั เฉพำะหน้ำถดั ไป เทยี บจำนวน เป็นตน้ เช่น เขำย่นืคำรอ้ งต่อศำล คำบุพบท เป็นคำทใ่ี ชห้ น้ำคำนำม คำสรรพนำม หรอื คำกรยิ ำสภำวมำลำ เพอ่ื แสดงควำมสมั พนั ธข์ องคำ และประโยคทอ่ี ยหู่ ลงั คำบพุ บทว่ำมคี วำมเกย่ี วขอ้ งกบั คำหรอื ประโยคทอ่ี ยขู่ ำ้ งหน้ำอยำ่ งไร เช่น ลกู ชำยของนำยแดงเรยี นหนงั สอื ไมเ่ ก่ง แต่ลกู สำวของนำยดำเรยี นเก่งครทู ำงำนเพ่อื นกั เรยี น เขำเลย้ี งนกเขำสำหรบั ฟังเสยี งขนัข้อสงั เกตกำรใช้คำบพุ บท๑. คำบพุ บทตอ้ งนำหน้ำคำนำม คำสรรพนำม หรอื คำกรยิ ำสภำวมำลำ เช่นเขำมงุ่ หน้ำสเู่ รอื น ป้ำกนิ ขำ้ วดว้ ยมอื ทุกคนควรซ่อื สตั ยต์ ่อหน้ำท่ี๒. คำบุพบทสำมำรถละได้ และควำมหมำยยงั คงเดมิ เชน่ เขำเป็นลกู ฉนั ( เขำเป็นลกู ของฉนั )แมใ่ หเ้ งนิ ลกู ( แมใ่ หเ้ งนิ แก่ลกู ) ครคู นน้เี ชย่ี วชำญภำษำไทยมำก ( ครคู นน้เี ชย่ี วชำญทำงภำษำไทยมำก )
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๗๓. ถำ้ ไม่มคี ำนำม หรอื คำสรรพนำมตำมหลงั คำนนั้ จะเป็นคำวเิ ศษณ์ เช่น เธออยใู่ น พอ่ ยนื อยรู่ มิเขำนงั่ หน้ำ ใครมำก่อน ฉนั อยใู่ กลแ้ คน่ ้เี อง ตำแหน่งของคำบพุ บท ตำแหน่งของคำบพุ บท เป็นคำทใ่ี ชน้ ำหน้ำคำอ่นื หรอื ประโยค เพ่อื ให้รวู้ ่ำคำ หรอื ประโยคทอ่ี ยหู่ ลงั คำบุพบท มคี วำมสมั พนั ธก์ บั คำหรอื ประโยคขำ้ งหน้ำ ดงั นนั้ คำบุพบทจะอยู่หน้ำคำต่ำงๆ ดงั น้ี๑. นำหน้ำคำนำม เขำเขยี นจดหมำยดว้ ยปำกกำ เขำอยทู่ บ่ี ำ้ นของฉนั๒. นำหน้ำคำสรรพนำม เขำอยกู่ บั ฉันตลอดเวลำ เขำพดู กบั ท่ำนเมอ่ื คนื น้แี ลว้๓. นำหน้ำคำกรยิ ำ เขำเหน็ แก่กนิ โต๊ะตวั น้จี ดั สำหรบั อภปิ รำยคนื น้ี๔. นำหน้ำคำวเิ ศษณ์ เขำวงิ่ มำโดยเรว็ เธอกล่ำวโดยซ่อืคำสนั ธำน คำสนั ธำน คอื คำทท่ี ำหน้ำทเ่ี ช่อื มคำกบั คำ เชอ่ื มประโยคกบั ประโยค เช่อื มขอ้ ควำมกบัขอ้ ควำม หรอื ขอ้ ควำมใหส้ ละสลวย มี ๔ ชนดิ คอื ๑.เช่ือมใจควำมท่ีคล้อยตำมกนั ไดแ้ ก่คำว่ำ กบั และ , ทงั้ …และ , ทงั้ …ก็ , ครนั้ …ก็ ,ครนั้ …จงึ , พอ…ก็ ตวั อยำ่ งเชน่ พออ่ำนหนงั สอื เสรจ็ กเ็ ขำ้ นอน พอ่ และแมท่ ำงำนเพอ่ื ลกู ฉนั ชอบทงั้ ทะเลและน้ำตก ครนั้ ไดเ้ วลำเธอจงึ ไปขน้ึ เครอ่ื งบนิ ๒.เชื่อมใจควำมที่ขดั แย้งกนั ไดแ้ ก่คำวำ่ แต่ , แต่ว่ำ , ถงึ …ก็ , กวำ่ …ก็ ตวั อยำ่ งเช่น กว่ำตำรวจจะมำคนรำ้ ยกห็ นีไปแลว้ เขำอยำกมเี งนิ แต่ไมท่ ำงำน ถงึ เขำจะโกรธแต่ฉนั กไ็ มก่ ลวั เธอไมส่ วยแต่วำ่ นิสยั ดี ๓.เชื่อมใจควำมเป็นเหตเุ ป็นผลกนั ไดแ้ ก่คำว่ำ จงึ , เพรำะ…จงึ , เพรำะฉะนนั้ …จงึตวั อยำ่ งเช่น
เอกสารประกอบการจดั การเรียนรู้ รายวชิ า ท๔๐๑๐๕ หลกั ภาษาไทยในชีวติ ประจาวนั หนา้ ๘ เขำวง่ิ เรว็ จงึ หกลม้ ฉนั กลวั รถตดิ เพรำะฉะนนั้ ฉันจงึ ออกจำกบำ้ นแต่เชำ้ เพรำะเธอเรยี นดคี รจู งึ รกั เขำไวใ้ จเรำใหท้ ำงำนน้เี พรำะฉะนนั้ เรำจะเหลวไหลไมไ่ ด้ ๔.เชื่อมใจควำมให้เลือกอย่ำงใดอย่ำงหน่ึง ไดแ้ ก่คำวำ่ หรอื หรอื ไมก่ ็ , ไมเ่ ช่นนนั้ ,มฉิ ะนนั้ ตวั อยำ่ งเชน่ เธอตอ้ งทำงำนมฉิ ะนนั้ เธอจะถูกไลอ่ อก ไมเ่ ธอกฉ็ นั ตอ้ งกวำดบำ้ น นกั เรยี นจะทำกำรบำ้ นหรอื ไมก่ อ็ ่ำนหนงั สอื คุณจะทำนขำ้ วหรอื ก๋วยเตยี๋ วคำอทุ ำน คำอทุ ำน คอื คำทเ่ี ปล่งออกมำเพ่อื แสดงอำรมณ์หรอื ควำมรสู้ กึ ของผพู้ ดู มกั จะเป็นคำทไ่ี มม่ ีควำมหมำย แต่เน้นควำมรสู้ กึ และอำรมณ์ของผพู้ ดู เสยี งทเ่ี ปล่งออกมำเป็นคำอุทำนน้ีแบ่งเป็น ๓ ลกั ษณะ ๑. เป็นคำ เช่น โอ๊ย วำ้ ย แหม โถ เป็นตน้ ๒. เป็นวลี เช่น พุทโธ่เอ๋ย คณุ พระช่วย ตำยล่ะวำ้ เป็นตน้ ๓. เป็นประโยค เชน่ ไฟไหมเ้ จำ้ ขำ้ เฮย้ ป้ำถูกรถชน เป็นตน้ คำอุทำนแบ่งออกเป็น ๒ ชนดิ คอื ๑. อทุ ำนบอกอำกำร ใชเ้ ปล่งเสยี งเพอ่ื บอกอำกำรและควำมรสู้ กึ ต่ำงๆ ของผพู้ ดู เชน่รอ้ งเรยี ก หรอื บอกเพอ่ื ใหร้ สู้ กึ ตวั ( แน่ะ เฮ้ โวย้ ) โกรธเคอื ง (ชชิ ะ ปัดโธ่ ) ตกใจ ( ตำยจรงิ วำ้ ย)สงสำร ( อนิจจำ โถ) โล่งใจ ( เฮ่อ เฮอ ) ขนุ่ เคอื ง ( อุวะ แลว้ กนั ) ทกั ทว้ ง( ฮำ่ ไฮ้ ) เยำะเยย้ (หนอยชะ ) ประหมำ่ (เอ่อ อำ้ ) ชกั ชวน (น่ำ นะ) ๒. อทุ ำนเสริมบท คอื คำพดู เสรมิ ขน้ึ มำโดยไมม่ คี วำมหมำย อำจอยหู่ น้ำคำ หลงั คำหรอืแทรกกลำงคำ เพอ่ื เน้นควำมหมำย ของคำทจ่ี ะพดู ใหช้ ดั เจนขน้ึ เชน่ อำบน้ำอำบท่ำ ลมื หลู มื ตำ กนิ น้ำกนิ ท่ำ ถำ้ เน้อื ควำมมคี วำมหมำยในทำงเดยี วกนั เช่น ไมด่ ไู มแ่ ล รอ้ งรำทำเพลง เรำเรยี กคำเหลำ่ น้วี ่ำคำซอ้ น ***************
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: