Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ม.๔

หนังสือเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ม.๔

Description: หนังสือเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ม.๔

Search

Read the Text Version

หนงั สือเทคโนโลยีวทิ ยาการคานวณ ม.๔ (แนวทางการจดั การเรยี นการสอน) Link URL: https://online.pubhtml5.com/qdis/mkda/

สารบญั กจิ กรรมที่ 7 การคน้ หาข้อมูล กิจกรรมที่ 8 โครงงานสร้างสรรค์ กิจกรรมท่ี 1 แนวคิดเชงิ คานวณ กจิ กรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน กิจกรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หา กจิ กรรมท่ี 3 การหารูปแบบและการคิดเชิงนามธรรม กิจกรรมที่ 10 การพัฒนาโครงงาน กิจกรรมท่ี 11 รายงานโครงงาน กจิ กรรมท่ี 4 การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์ กจิ กรรมที่ 12 Show Time กิจกรรมที่ 5 การออกแบบขั้นตอนวิธี กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรยี งข้อมลู

สมาชกิ ในกลมุ่ นางสาวนา้ ทพิ ย์ ทับสุข 61131114001 นางสาววันทการต์ พิบูลย์สวสั ด์ิ 61131114016 นางสาวเมยว์ ดี หุ้ยเวชศาสตร์ 61131114022 นางสาวไอรณิ ีย์ บัวศรี 61131114026 นางสาวอทิตยา เทศนอก 61131114028 นางสาวสมใจ แพงหยับ 61131114035

กจิ กรรมที่ 1 แนวคิดเชงิ คานวณ สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาในหนงั สือ บทท่ี1 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 1 แนวคดิ เชิงคานวณ 1. ตวั ช้ีวดั 3. จุดประสงค์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ แ น ว คิ ด เ ชิ ง ค า น ว ณ ใ น ก า ร พั ฒ น า 3.1 อธิบายหลักการของแนวคดิ เชงิ คานวณ 3.2 ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีเปรียบเทียบ วิเคราะห์ขั้นตอน โครงงานทม่ี กี ารบูรณาการกับวิชาอน่ื อย่างสรา้ งสรรค์ วิธีการเพอื่ แกป้ ญั หาจากโจทย์ที่กาหนด และเช่ือมโยงกบั ชวี ิตจรงิ 3.3 ตระหนกั ถึงความสาคัญและประโยชน์ของขั้นตอนวิธีท่ี เกีย่ วขอ้ งกบั การแก้ปัญหาชวี ติ ประจาวัน 2. สาระการเรียนรู้ แนวคิดเชิงคานวณได้แก่ การคิดแบบแ ยก 4. ทักษะและกระบวนการ 4.1 ทกั ษะการคดิ เชงิ คานวน ส่วนประกอบและการย่อยปัญหาการคิดเชิงนามธรรม 4.2 ทักษะการแกป้ ญั หา และการออกแบบข้ันตอนวธิ กี ารในการแก้ปญั หา

5. แนวทางการจดั การเรยี นรู้ 5.1 ผู้สอนนาเข้าส่บู ทเรยี น เร่ืองแนวคิดเชงิ คานวณ โดยเล่าสถานการณแ์ ละตง้ั คาถามถามผเู้ รยี น แนวคิด “นกั เรยี นเดนิ หลงเขา้ ไปในป่ากับเพอ่ื น 3 คน และมอี ุปกรณ์ตดิ ตวั ไดแ้ ก่ มีด และไฟฉาย ระหวา่ งทางทเี่ ดนิ หาเสน้ ทางเดนิ ออกจากป่า นนั้ นักเรยี นก็ได้พบ กระต่าย และรงั ผึ้ง จงึ กับกระตา่ ยและเก็บนา้ ผ้งึ พกไปด้วย และเดนิ ตอ่ จนพลบค่า แตแ่ ล้วสงิ่ ท่ไี ม่คาดคดิ กเ็ กดิ ข้ึน มีหมปี รากฎข้นึ นักเรียนจะทาอยา่ งไรใหส้ ามารถถ่วงเวลาไม่ใหห้ มีว่ิงเข้ามาทารา้ ย และรอดจากการถกู จบั กนิ โดยใช้ทุกอย่างทม่ี อี ยรู่ อบตัว” 5.2 ผู้สอนใชว้ ิธีสมุ่ ผเู้ รียนหรือหาอาสาสมคั ร 3 คน บอกหรือเขียนวิธีการทจี่ ะทาให้ตัวเอง รอดจากการถกู หมีจบั กิน โดยอธิบายเปน็ ลาดบั ข้นั ตอน (อาจใหผ้ ู้เรียนทั้งสามคน เขยี นวิธกี ารบนกระดานแล้วใหเ้ พ่ือนโหวตวธิ ีการท่ีชอบที่สดุ ) 5.3 ผู้สอนอธิบายและสรุปเพอื่ เชือ่ มโยงไปถงึ เรื่องแนวคิดเชิงคานวณ 5.4 ผู้เรยี นจับคู่กันทาใบกิจกรรมท่ี 1.1 บ้านเธอ บ้านฉัน 5.5 ผเู้ รยี นศกึ ษา การหาตวั หารรว่ มมาก การหา ห.ร.ม.ของ 187 และ221 ในหนังสอื เรยี น 5.6 ผูเ้ รยี นจบั คู่กันทาใบกิจกรรมท่ี 1.2 หา ห.ร.ม. งา่ ยกว่าที่คิด เมื่อทาเสร็จแลว้ ทาใหแ้ ลกกนั ตรวจกบั เพื่อนคอู่ ่ืน 5.7 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกนั อภิปราย และสรปุ ประโยชนข์ องขน้ั ตอนวิธกี ารแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั

กจิ กรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการย่อยปญั หา สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาในหนงั สอื บทท่ี1 เวลา 2 ชวั่ โมง

กจิ กรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการย่อยปญั หา 1. ตวั ช้ีวัด GOALS 3. จดุ ประสงค์ ให้ผู้เรียนสามารถ ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการ 3.1 วิเคราะห์องค์ประกอบของส่ิงต่างๆในการ พัฒนาผลงานใหม่ พัฒนาโครงงานที่มีบูรณาการกับวิชาอ่ืน 3.2 ใช้ทักษะการคิดแบบแยกส่วนประกอบและ อย่างสร้างสรรคแ์ ละเชอ่ื มโยงกับชีวิตจรงิ การย่อยปญั หาแก้ปญั หาในชีวิตประจาวนั 2. สาระการเรียนรู้ 4. ทกั ษะและกระบวนการ แนวคิดเชิงคานวณได้แก่การคิดแบบแยก 4.1 ทักษะการคิดเชงิ คานวณ 4.2 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ และสงั เคราะห์ สว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หาการหารูปแบบ 4.3 ทกั ษะการแก้ปัญหา ของปัญหา การคิดเชิงนามธรรม และการ 4.4 ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ ออกแบบข้นั ตอนวิธการในการแกป้ ัญหา

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ 5.1 ผูส้ อนนาเชา้ สู่ระบบโดยการนาเล่าสถานการณห์ นึง่ จากสองสถานการณ์และใหผ้ ู้เรียนวเิ คราะห์และหาคาตอบจากสถานการท์ เ่ี ลอื ก สถานการณท์ ี่ 1 ชายผู้ร่ารวยคนหน่ึงตัดสินใจมาใช้ชีวติ ลาพังในกระท่อมกลางป่า โดยใช้บรกิ ารจดั สง่ อาหาร หนังสอื พิมพ์ และจดหมายตา่ งๆ เชา้ วนั พฤหัส บุรุษไปรษณียม์ าส่งจดหมายและ พบวา่ ประตกู ระทอ่ มเปิดอยู่ เมอื่ ชะโงกหนา้ เข้าไปดจู ึงเหน็ ชายคนนี้เป็นศพนอนจมกองเลือดเสียแลว้ เมื่อตารวจมาถงึ ที่เกดิ เหตุ ก็เริ่มสารวจไปรอบๆ กระทอ่ มและพบป่นิ โตอาหาร ทีย่ ังอุ่นอยบู่ นระเบียงหนา้ กระท่อม หนังสือพมิ พ์ ฉบับวันจนั ทร์ และจดหมายที่ยงั ไม่ไดเ้ ปดิ หากนักเรยี นต้องสืบคดนี ้ี นักเรียนจะชว่ ยตารวจหาคนร้ายไดห้ รือไม่วา่ คนรา้ ยคือใคร สถานการณท์ ่ี 2 ชายวยั กลางคนขบั รถมากับครอบครวั 4 คน พบกบั กล่มุ วยั รุ่น 10 คนท่โี ดยสารมากบั รถตแู้ ละมีปากเสียงเร่ืองทจี่ อดรถ กลมุ่ วัยรถ่นท้ังหมดลุมลอ้ มรถมีการจะโกนดา่ ทอ และทุบรถ ชายวัยกลางคนจงึ หยิบปืนท่ีอยู่ในกระเป๋าออกมายิง 3 นัด กระสุนโดนกลุม่ วยั รุน่ จานวน 1 นัด ไดร้ ับบาดเจบ็ และเสยี ชวี ติ ในเวลาต่อมาถามว่าชายกลางคนผิด หรือไม่ นักเรียนคิดว่าศาลควรสอบสวนหาขอ้ เทจ็ จริงดว้ ยกระบวนการใดเพ่ือให้การตัดสินเป็นธรรม(สบื สวนเพมิ่ เติมโดยการแยกประเด็นในเร่ืองต่างๆเชน่ สภาพแวดลอ้ ม พยาน หลกั ฐานตา่ งๆ)

5.2 ผ้สู อนเชอื่ มโยงสถานการณ์ขา้ งตน้ กับวิธีคิดแบบแยกสว่ นประกอบและปญั หายอ่ ย 5.3 ผเู้ รียนทาใบกิจกรรมท่ี 2.1 แยกส่วนและสร้างใหม่ 5.4 ผสู้ อนสุ่มผเู้ รยี นหรอื หาอาสาสมคั รนาเสนอคาตอบจากใบกิจกรรมท่ี 2.1 5.5 ผสู้ อนแบ่งผู้เรียนออกเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน ทาใบกจิ กรรมท่ี 2.2 ชีวติ ประจาวนั กบั การแยกสว่ นประกอบ โดยผ้สู อนชแี้ จงเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ผูเ้ รียนลงมอื ทากจิ กรรม 5.6 ผูส้ อนสมุ่ กลมุ่ นาเสนอคาครบทกุ กิจกรรมและรว่ มอภิปรายกบั ผู้เรยี นในประเด็นเรอื่ งของเวลาโดยเชอื่ มโยงใหเ้ ห็นประโยชน์ของการแยกสว่ นประกอบ 5.7 ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ แนวคิดการแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปัญหาในดา้ นประโยชน์ของการใช้แก้ปญั หาในชวี ิตประจาวนั

กจิ กรรมที่ 3 การหารปู แบบและการคดิ เชิงนามธรรม สอดคลอ้ งกับเนือ้ หาในหนงั สอื บทท่ี1 เวลา 2 ชวั่ โมง

กิจกรรมที่ 3 การหารปู แบบและการคิดเชิงนามธรรม 2. สาระการเรยี นรู้ 3. จดุ ประสงค์ แนวคดิ เชงิ คานวณได้แก่การคดิ แบบแยกส่วนประกอบ 3.1 อธิบายรูปแบบ และระบอุ งคป์ ระกอบสาคญั ทีส่ ัมพนั ธ์กนั ของสงิ่ ของหรือปญั หา 3.2 แยกคุณลกั ษณะทสี่ าคญั ออกจากรายละเอยี ดในโจทยป์ ญั หาหรอื งานทีก่ าลงั พจิ ารณา และการย่อยปัญหาการหารูปแบบของปัญหาการคิดเชิง 3.3 อธบิ ายสถานการณ์หรอื ปัญหาดว้ ยแบบจาลอง นามธรรมและการออกแบบขน้ั ตอนวิธีในการแกป้ ัญหา 1. ตวั ช้วี ัด 4. ทกั ษะและกระบวนการ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณ 4.1 ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.2 ทักษะการแก้ปัญหา ในก ารพั ฒนา โ ครง งา นท่ี มี 4.3 ทักษะความคดิ เชงิ คานวณ การบูรณาการกับวิชาอื่นอย่าง สร้างสรรค์และเช่ือมโยงกับชีวิต จริง

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดเตรียม ใบกิจกรรมที่ 3.1-3.2 และ เกมส์ที่ใช้ในหอ้ งเรยี น เชน่ เกมการด์ ดอกไม้ เกมสารานกุ รมไทย ขนั้ ตอนการดาเนินงาน 5.1 ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรยี น อธิบายกตกิ าการเลน่ เกมการด์ ดอกไม้ และใหผ้ ู้เรยี นเล่นเกมเป็นกลุ่ม 5.2 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกนั อภปิ รายการเชอ่ื มโยงรูปแบบทเี่ หมือน ๆ กันของดอกไม้ 5.3 ผู้เรยี นศึกษา หวั ขอ้ ที่ 1.3-1.5 จากหนังสอื เรียน 5.4 ผู้เรียนทาใบกจิ กรรมที่ 3.1 จากน้ันผู้สอนก็สุ่มนกั เรยี นออกมานาเสนอคาตอบ แล้วใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งปญั หาอ่ืนๆทเ่ี กดิ ซ้า ๆ ในชวี ติ ประจาวนั 5.5 ผู้สอนแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 5 คน และแจกบัตรเกมสารานุกรมไทยให้แต่ละกลุ่ม โดยมีเน้ือหาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาล ที่ 9 ในการจัดทาโครงการสารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชน 5.6 ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทาความเข้าใจและสรปุ ใจความสาคัญไมเ่ กนิ 20คา ลงบนกระดาษแลว้ นามาติดหน้าช้นั เรยี น 5.7 ผเู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายคาตอบ จากนัน้ ผสู้ อนเชื่อมเข้าสเู่ นอื้ หา เรอ่ื งการคดิ เชงิ นามธรรม 5.8 ผ้เู รียนศึกษาหัวขอ้ ที่ 1.4 ในหนังสอื เรียน 5.9 ผู้เรียนแต่ละกลุม่ ทากจิ กรรมท่ี 1.6 ในหนงั สือเรยี น โดยอภปิ รายกนั ภายในกลุม่ และผู้สอนสุม่ ออกมานาเสนอ 5.10 ผสู้ อนจบั คู่ กนั ให้ทาใบกิจกรรมที่ 3.2 จากนั้นผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ และอภิปรายเรอื่ งท่ีเรียนมาทัง้ หมดทีส่ ามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั

กจิ กรรมที่ 4 การแก้ปญั หาด้วยคอมพิวเตอร์ สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาในหนังสือ บทท่ี2 เวลา 2 ช่วั โมง

กจิ กรรมท่ี 4 การแกป้ ญั หาด้วยคอมพวิ เตอร์ ตวั ชีว้ ัด 01 03 จุดประสงค์ ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณใน 3.1 วเิ คราะห์ปญั หาโดยระบขุ ้อมูลเข้าข้อมูล การพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณา ออก และเงือ่ นไขของปัญหา ก า ร กั บ วิ ช า อ่ื น อ ย่ า ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ 3 . 2 อ อ ก แ บ บ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ด้ ว ย และเชอื่ มโยงกบั ชีวติ จริง คอมพวิ เตอร์โดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ สาระการเรียนรู้ 02 04 ทักษะและกระบวนการ 2.1 ขอ้ มูลเข้า ขอ้ มลู ออก และเงื่อนไขของปัญหา 4.1 ทักษะการแก้ปญั หา 4.2 ทักษะการคดิ เชงิ คานวณ 2.2 การแกป้ ัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ 4.3 ทักษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 4.4 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดเตรยี ม ใบกจิ กรรมที่ 4.1-4.2 และแบบประเมนิ ใบกิจกรรมท่ี 4.2 ตามจานวนกลุ่ม ข้นั ตอนการดาเนินการ 5.1 ผสู้ อนยกตัวอยา่ งสถานการณ์หวั ขอ้ ท่ี 2.1 เรอ่ื ง การปัญหาด้วยคอมพิวเตอรจ์ ากหนังสือเรียน แล้วรว่ มตง้ั คาถามและอภปิ รายผเู้ รยี นวา่ คอมพิวเตอรส์ ามารถแกป้ ญั หาได้หรือไม่ 5.2 ผูเ้ รยี นศึกษาหวั ขอ้ ท่ี 2.1.1 และ 2.1.2 จากหนังสือเรียน จากน้ันผูส้ อนร่วมกนั อภิปรายหัวข้อท่นี กั เรียนไปศกึ ษา แบบไหนทที่ าใหค้ อมพิวเตอร์ทาตามคาสง่ั ได้ 5.3 ผ้เู รียนศกึ ษาโปรแกรมแชทบอท จากนั้นทดลองสนทนากบั โปรแกรม 5.4 ผูเ้ รียนจบั คู่ทาใบกิจกรรมที่ 2.1 ในหนงั สอื เรยี น แล้วสงั เกตว่าผ้เู รยี นสร้างเงอื่ นไขให้ เพอื่ ใหเ้ พอ่ื นตอบคาถามได้หรอื ไม่ 5.5 ผ้เู รียนศึกษาหนังสอื ที่ 2.1.3 ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา และอธิบายตัวอยา่ งขอ้ มลู รายการอาหารกลางวันจากตารางที่ 2.2 จากนั้นสุ่มผู้เรียนออกมาอธิบายขั้นตอนวิธีในการเลือก อาหารในตวั อย่าง 5.6 ผู้เรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 4.1 คณะที่ใช้ ผสู้ อนตั้งคาถามจากใบกจิ กรรมท่ี 4.1 ผเู้ รยี นเลือกสาขาหรอื คณะไดอ้ ย่างมเี หตผุ ลหรือไม่ อย่างไร 5.7 ผสู้ อนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 4 คน แล้วศกึ ษาหัวขอ้ ที่ 2.1.4 และ 2.2 จากหนงั สือ โดยในหวั ข้อที่ 2.2 ใหส้ มาชิกเลือกศึกษาคนละ 1 ตวั อย่างไม่ซา้ กัน แลว้ ออกมาอภิปราย 5.8 ผสู้ อนแจกใบกจิ กรรมท่ี 4.2 ให้ผเู้ รยี นเลือกหวั ข้อ ระบบรถยนตอ์ ัตโนมัติ หรือ ระบบแปลภาอตั โนมตั ิ เลอื กมาหัวข้อเดยี ว และผู้สอนชแ้ี จงการประเมินใบกจิ กรรมท่ี 4.2 5.9 ผสู้ อนแตล่ ะกลุม่ แลกกนั พจิ ารณาคาตอบใบกจิ กรรมที่ 4.2 ทาการประเมินใบกจิ กรรม แล้วส่งคืนเจา้ ของเพอื่ พจิ ารณาข้อเสนอแนะ จากน้ันผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกนั สรุป ประโยชน์ท่ีไดจ้ ากกจิ กรรมน้ี

กิจกรรมท่ี 5 การออกแบบขั้นตอนวธิ ี สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาในหนงั สอื บทที่2 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 5 การออกแบบข้นั ตอนวิธี ตวั ชีว้ ดั จุดประสงค์ ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการพฒั นา 2.1 ระบขุ ้อมลู เขา้ ขอ้ มูลออก และเงอ่ื นไขของปัญหา โครงงานทีม่ ีการบรู ณาการกับวิชาอนื่ อย่าง 2.2 ออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหาโดยใช้รูปแบบ การกาหนดเง่ือนไข และการทาซ้า สรา้ งสรรค์ และเช่ือมโยงกับชีวติ จริง 2.3 เขยี นข้ันตอนวิธีตามท่ไี ด้ออกแบบไว้ 01 02 03 04 สาระการเรียนรู้ ทกั ษะและกระบวนการ การออกแบบข้ันตอนวธิ ใี นการแกป้ ญั หา 4.1 ทกั ษะการแก้ปัญหา โดยใช้รปู แบบการกาหนดเงื่อนไขและการทาซ้า 4.2 ทักษะการคิดเชิงคานวณ 4.3 ทกั ษะการโปรแกรม

5.แนวทางการจดั การเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกจิ กรรมที่ 5.1-5.3 ตามจานวนผเู้ รียน ข้นั ตอนการดาเนินการ 5.1 ผู้สอนทบทวนวิธีแก้ปญั หาด้วยคอมพวิ เตอรค์ วรระบขุ อ้ มลู เขา้ -ออก และเงอื่ นไขของปัญหาท่ีชดั เจน และทบทวนความรู้เร่ืองตวั แปรเมอื่ ใชแ้ ทนขอ้ มูล 5.2 ผสู้ อนยกตัวอยา่ งจากหนังสอื เรยี น ตวั อยา่ งท่ี 2.5 อธิบายใหน้ ักเรียนเหน็ ตัวอยา่ งของการเขยี นข้ันตอนแบบรหสั ลาลอง และผงั งาน 5.3 ผู้เรยี นศึกษาหนังสอื เรียน หวั ขอ้ ที่2.3 จนถึงก่อนขนึ้ หัวขอ้ ที่ 2.3.2 พร้อมกับทาใบกิจกรรมท่ี5.1 5.4 ผเู้ รียนศึกษาหนังสือเรยี น หวั ขอ้ ที่ 2.3.2 ออกแบบและพจิ ารณาเงอื่ นไข และให้ผเู้ รียนจับค่ทู ากจิ กรรมท่ี 5.2 5.5 ผู้สอนและผ้เู รยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบกจิ กรรมท่ี 5.2 5.6 ผู้เรียนศึกษาหนังสือเรียน หวั ขอ้ ที่ 2.4 การทาซา้ และใหผ้ ู้เรยี นจบั คทู่ ากจิ กรรมที่ 5.3 5.7 ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบกิจกรรมท่ี 5.3 5.8 ผูส้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ

กิจกรรมที่ 6 การจดั เรียงข้อมูล สอดคลอ้ งกับเน้ือหาในหนังสือ บทท่ี2 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรยี งขอ้ มลู 3.จดุ ประสงค์ 3.1 อธบิ ายวิธกี ารจดั เรียงข้อมลู 1.ตวั ช้วี ัด 3.2 ออกแบบขนั้ ตอนวิธีการจดั เรียงข้อมลู เพอ่ื ใช้ ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชงิ คานวณใน แก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวนั การพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณา การกับวิชาอ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.ทักษะและกระบวนการ และเช่อื มโยงกบั ชวี ติ จรงิ 4.1 ทักษะการแก้ปญั หา 4.2 ทักษะการสอ่ื สารและรว่ มมอื 2.สาระการเรียนรู้ ขั้นตอนวธิ ีในการจดั ขอ้ มลู มหี ลาย วธิ เี ช่นการจัดเรยี งข้อมลู แบบเลอื ก และการจัดเรียงขอ้ มลู แบบแทรก

5.แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจดั เตรียม - ใบกิจกรรมท่ี 6.1-6.2 และ บัตรตวั เลขจานวน 5 ชดุ ขน้ั ตอนการดาเนินการ 5.1 ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียนโดยใหผ้ ู้เรียนยกตวั อย่างการจัดเรยี งขอ้ มลู ที่เคยพบในชีวิตประจาวนั จากนนั้ ถามผเู้ รยี นวา่ ทาไมจึงตอ้ งมกี ารจดั เรียงข้อมูล 5.2 ผู้เรียนทากจิ กรรมท่ี 2.8 เรียงลาดบั จานวนเต็มในหนังสอื เรยี นจากนั้นจบั คูอ่ ภิปรายแลกเปลี่ยนเรยี นรู้เกยี่ วกับวธิ กี ารจดั เรียงข้อมลู 5.3 ผู้สอนสุ่มให้ผเู้ รยี นอธบิ ายวธิ จี ัดเรียงที่ใช้ 5.4 ผู้เรียนศึกษาหนงั สอื เรยี นหวั ขอ้ ท่ี 2.5.1 การจดั เรยี งขอ้ มูลหลงั จากนัน้ ให้แต่ละคทู่ าใบกิจกรรมที่ 6.1 ขั้นตอนวิธจี ดั เรียงข้อมลู และนาเสนอคาตอบ 5.5 ผสู้ อนแบ่งผเู้ รยี นออกเป็น 5 กลุม่ ให้ตวั แทนกลมุ่ ออกมารับชุดบตั รตวั เลข 30 ใบ 5.6 ผเู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ ทาใบกิจกรรมท่ี 6.2 จดั เรยี งข้อมูลตามใจฉนั จากนนั้ ให้ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ศกึ ษาวธิ กี ารจดั เรียงขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ visu algo เพ่ือ ตรวจสอบวธิ ีการจดั เรียงของกลมุ่ วา่ เหมอื นหรือแตกตา่ งจากขนั้ ตอนวธิ ีการจัดเรียงในเว็บไซต์หรอื ไมอ่ ยา่ งไร 5.7 ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวธิ ีการจดั เรียงข้อมลู ท่กี ล่มุ ใชพ้ ร้อมบอกคา่ เฉล่ยี ของจานวนคร้ังในการเปรียบเทยี บข้อมลู ของสมาชกิ ในกล่มุ 5.8 ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ ข้ันตอนวิธกี ารจดั เรยี งขอ้ มูล

กิจกรรมที่ 7 การค้นหาขอ้ มลู สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในหนังสอื บทที่2 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมที่ 7 การค้นหาข้อมูล 1.ตัวชี้วดั 3.จุดประสงค์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ แ น ว คิ ด เ ชิ ง ค า น ว ณ ใ น ก า ร พั ฒ น า 3.1 อธบิ ายวิธกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู แบบตามลาดับและแบบทวิภาค โ ค ร ง ง า น ท่ี มี ก า ร บู ร ณ า ก า ร กั บ วิ ช า อ่ื น อ ย่ า ง 3.2 ประยุกต์วิธกี ารคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพอ่ื แกป้ ัญหาในชีวิตประจาวัน สรา้ งสรรค์และเชื่อมโยงกับชวี ติ จริง 4.ทักษะและกระบวนการ 2.สาระการเรียนรู้ 4.1 ทกั ษะการแก้ปญั หา ขน้ั ตอนวิธกี ารค้นคว้าข้อมลู เชน่ การค้นคว้าแบบ 4.2 ทกั ษะการสอื่ สารและการร่วมมอื ตามลาดบั และการคน้ คว้าแบบทวภิ าค

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจดั เตรียม - สือ่ วสั ดุ เช่น ขวด หลอดกาแฟ ชุดบตั รคา ข้ันตอนการดาเนนิ 5.1 ผู้สอนจัดวางชดุ สอื่ วสั ดุ 2 ชุดไวท้ ม่ี มุ หอ้ งมมุ ละชุด ชุดที่ 1 จดั เรยี งขวดลาดบั จากสงู ไปต่า ชุดท่ี 2 วางขวดโดยไมเ่ รยี งลาดับ 5.2 ผู้สอนสุ่มผเู้ รียน และอธิบายกตกิ าการทากิจกรรมดงั น้ี ก. ตวั แทนกล่มุ เลอื กชุดขวดทจ่ี ะทากจิ กรรม ข. สมาชกิ ในกล่มุ ไปหยิบขวดตามท่ผี ้สู อนกาหนด เพื่อสงั เกตว่ากลมุ่ ไหนหาไดเ้ ร็วกวา่ เช่น -หาขวดที่สงู ท่สี ดุ หาขวดที่สงู เปน็ ลาดบั ท่ี 3

5.3 ผเู้ รยี นทากจิ กรรม 3 ครงั้ โดยแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมาครง้ั ละ 1 คน ครั้งที่ 1 ผู้แทนคทู่ ่ี 1 หาขวดทสี่ งู เปน็ ลาดบั ท่ีสองเทยี บจากขวดท่ีสงู ทีส่ ดุ ครง้ั ท่ี 2 ผ้แู ทนคูท่ ่ี 2 หาขวดท่สี งู น้อยทส่ี ดุ จากขวดทเ่ี หลืออยู่ ครงั้ ท่ี 3 ผ้แู ทนคูท่ ่ี 3 หาขวดท่ีสงู ท่ีสดุ จากขวดทเี่ หลืออยู่ 5.4 เมอื่ ทากิจกรรมเสรจ็ แลว้ ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นช่วยกนั อภปิ รายวา่ ทาไมกลุ่มทช่ี นะ สามารถค้นหาขวดได้เรว็ กวา่ เพอื่ นาไปสู่การสรุปในประเด็นท่ี ควรมีการจดั เรียงไว้แล้ว ดังน้นั การค้นหาขอ้ มลู ท่ีมกี ารจดั เตรียมไวแ้ ล้ว จะทาให้สามารถค้นหาขอ้ มลู ไดถ้ กู ตอ้ งในเวลาอนั รวดเรว็ 5.5 ผ้เู รียนศกึ ษาหนงั สอื เรยี นการคน้ หาขอ้ มลู จากน้ันผสู้ อนแบง่ ผเู้ รยี นเป็นกลุ่ม และแจกชดุ บตั รควิ ให้แตล่ ะกลุม่ 5.6 ผเู้ รียนทาใบกิจกรรมตามหาตัวเลขแบบลาดบั แบบ 5.7 ผเู้ รียนทกุ กลุ่มส่งผลการบันทึกคา่ เฉล่ยี และทาใบกจิ กรรมหาตัวเลขแบบทวิภาค 5.8 ผสู้ อนนาคา่ เฉลี่ยของทุกกลมุ่ จากการคน้ คว้าหาตัวเลขทง้ั สองกจิ กรรมมาหาคา่ เฉลย่ี เพื่อเปรียบเทยี บกัน 5.9 ผ้เู รยี นแต่ละกลมุ่ อภิปรายในประเด็นในการค้นหาแต่ละวธิ ีตา่ งๆวธิ ใี ดน่าจะมีประสทิ ธภิ าพดกี วา่ กนั และในกรณีที่มจี านวนมากวธิ ีใดน่าจะมีประสทิ ธิภาพ ดีกวา่ กันเพราะเหตใุ ดในกรณีค้นหาแล้วไม่พบหรอื กรณขี ้อมลู ซ้าผลการคน้ หาจะเปน็ อย่างไรจะมเี ทคนคิ เพิ่มเตมิ หรอื ไมเ่ พอ่ื ให้คน้ หาได้เร็วขึ้นผู้เรยี นยกตวั อยา่ ง สถานการณ์การนาวธิ คี ้นหาขอ้ มูลไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 5.10 ผเู้ รยี นทาใบกิจกรรมคน้ หาขอ้ มลู และแลกกนั ด้วยตรวจคาตอบ และรว่ มกนั สรปุ เกีย่ วกบั การคน้ หาขอ้ มลู

กิจกรรมที่ 8 โครงงานสรา้ งสรรค์ สอดคลอ้ งกับเนื้อหาในหนังสือ บทที่3 เวลา 2 ช่วั โมง

กจิ กรรมท่ี 8 โครงงานสร้างสรรค์ 1.วัตถปุ ระสงค์ 3.จดุ ประสงค์ ประยกุ ต์ใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการพัฒนาโครงงานท่ี 3.1 ระบุปัญหาในชีวติ ประจาวันท่สี ามารถแกไ้ ขไดโ้ ดย มีการบูรณาการกับวชิ าอน่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์และ เทคโนโลยีสารสนเทศ เชือ่ มโยงกับชวี ติ จริง 3.2 เลอื กหวั ข้อโครงงานท่ีเหมาะสมตอ่ การพฒั นา 3.3 การกาหนดจดุ ประสงค์และขอบเขตของโครงงาน GOALS ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.สาระการเรยี นรู้ 4.ทักษะและกระบวนการ 2.1 การกาหนดปญั หา 4.1 ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.2 การศึกษาและกาหนดขอบเขตของปญั หา 4.2 ทักษะการแก้ปัญหา 2.3 การนาแนวคิดเชิงคานวณไปพัฒนาโครงงานทเี่ ก่ยี วกบั ชวี ติ ประจาวนั 4.3 ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ 4.4 ทักษะการสื่อสารและการร่วมมือ

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกจิ กรรมท่ี 8.1-8.2 และแบบประเมินประเด็นปัญหา ตามจานวนกลมุ่ ข้ันตอนการดาเนนิ การ 5.1 ผู้สอนนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยต้ังประเด็นอภิปรายรว่ มกนั เกย่ี วกบั ปัญหาในชีวิตประจาวนั ทส่ี ามารถแก้ไขได้โดยเทคโนโลยสี ารสนเทศเช่นสิ่งท่ชี ่วยอานวยความ สะดวกในชวี ติ ประจาวนั และยกตัวอยา่ งโครงงานของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในหนังสอื เรียนบทที่ 3 การพัฒนาโครงงานได้แกโ่ ครงงานการ พัฒนาระบบสตั ว์การปรับพฤตกิ รรมการเดินหลงโดยใชเ้ ทคนคิ กระแสข้อมลู ภมู สิ ารสนเทศและโครงงานเรียนร้กู ารพูดออกเสยี งและเขียนภาษาองั กฤษ 5.2 ผสู้ อน ผูส้ อนแบ่งกลมุ่ ผเู้ รียนกลุม่ ละ 3-4 คน ทากจิ กรรม 3.1 ศกึ ษาโครงงานในหนงั สอื เรยี นอธบิ าย อภิปรายร่วมกันในกลุ่ม 5.3 ผเู้ รียนศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี3.1 การกาหนดปญั หาในหนงั สอื ในหนงั สอื เรียน และทาใบกิจกรรมที่8.1 รูจ้ กั ปัญหาจากนัน้ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั พิจารณาประเดน็ ปญั หา 5.4 ผูส้ อนแจกแบบประเมินประเด็นปญั หา เพื่อใหผ้ ้เู รยี นใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมือประกอบการตัดสนิ ใจเลือกประเดน็ ปัญหาท่จี ะเปน็ หัวขอ้ โครงงานของกลมุ่ 5.5 ผ้เู รียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอประเดน็ ปญั หาทเ่ี ลือกเปน็ หวั ขอ้ โครงงานและแนวทางการตดั สนิ ใจ 5.6 ผเู้ รียนศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี 3.2 การศกึ ษาและกาหนดขอบเขตของปญั หาในหนงั สอื เรยี นแลว้ แต่ละกลมุ่ ทา ที่ 8.2 พฒั นาโครงงานกันเถอะ 5.7 ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปการทากิจกรรมในขัน้ ตอนการพัฒนาการโครงงานทไี่ ดด้ าเนินการสาเร็จการเรยี บร้อยแล้ว

กจิ กรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในหนงั สอื บทที่3 เวลา 2 ช่วั โมง

กิจกรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน 1.ตวั ช้วี ัด 2.สาระการเรียนรู้ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการพฒั นาโครงงานทมี่ กี ารบูรณาการกับ 2.1 แนวทางและขอบเขตของโครงงาน วชิ าอ่ืนอย่างสร้างสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกับชวี ติ จรงิ 2.2 ข้อเสนอโครงงาน 2.3 การนาเสนอแนวคิดเชงิ คานวณชว่ ยในการพฒั นาโครงงานท่ี 3.จดุ ประสงค์ เกี่ยวกับชวี ิตประจาวนั 3.1 วางแผนและออกแบบการพฒั นาโครงงาน 3.2 จัดทาข้อเสนอโครงงานโดยใช้แหล่งขอ้ มลู 4.ทักษะและกระบวนการ ทีม่ คี วามนา่ เชือ่ ถอื และอ้างองิ อยา่ งถกู ตอ้ ง 4.1 ทกั ษะการวิเคราะห์ 4.2 ทักษะการสังเคราะห์ 4.3 ทักษะการแกป้ ญั หา 4.4 ทักษะการส่ือสารการร่วมมอื

5. แนวทางจัดการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 5.1 สอนเกีย่ วกบั ความรูเ้ บ้อื งตน้ ในการทาโครงงานและขน้ั ตอนในการทาโครงงาน 5.2 ให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ในการทาใบกจิ กรรมที 9.1 วางแผนโครงงาน 5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ 9.1 เรอ่ื ง เบอ้ื งตน้ ของการทาโครงงานและขน้ั ตอนในการทาโครงงาน 5.4 ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ทาใบกจิ กรรมที่ 9.1 ชว่ั โมงที่ 2 5.5 สอนเก่ยี วกบั การเขยี นเคา้ โครงของโครงงาน 5.6 ครผู สู้ อนตรวจสอบการวางแผนของโครงงานทุกกล่มุ 5.7 กลมุ่ ทีค่ รูสอนได้ตรวจสอบการวางแผนโครงงานแล้ว ครผู สู้ อนจะแจกใบกจิ กรรมที่ 9.2 ให้ ข้อเสนอโครงงาน 5.8 ให้นกั เรยี นเริ่มทาใบกิจกรรมที่ 9.2 ช่วยกนั ตอบขอ้ มูลเกีย่ วกบั โครงงาน

กจิ กรรมที่ 10 การพฒั นาโครงงาน สอดคล้องกบั เนอ้ื หาในหนังสอื บทที่3 เวลา 18 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 10 การพัฒนาโครงงาน ตัวช้ีวัด 03 ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการ 01 จุดประสงค์ 3.1 พฒั นาโครงงานตามที่วางแผนไว้ พัฒนาโครงงานทม่ี กี ารบรู ณาการกบั วิชา 3.2 แกป้ ญั หาที่เกิดข้นึ ระหวา่ งการลงมอื พฒั นา อน่ื อยา่ งสร้างสรรค์ และเชือ่ มโยงกบั โครงงาน ชีวิตจริง 3.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื สาระการเรียนรู้ 02 04 2.1 การพัฒนาโครงงาน ทักษะและกระบวนการ 2.2 การนาแนวคิดเชิงคานวณไปใชใ้ นการ 4.1 ทักษะการแกป้ ญั หา 4.2 ทกั ษะการสังเคราะห์ พฒั นาโครงงานทเ่ี กีย่ วกับชีวติ ประจาวนั 4.3 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 4.4 ทักษะการสอื่ สารและการรว่ มมือ

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - กจิ กรรมที่ 10.1 จบั กลุ่มกลุ่มละ 5 คน และนดั หมายการรายงานความก้าวหน้าการทาโครงงาน ข้ันตอนการดาเนินการ 5.1 ผเู้ รยี นลงมือพฒั นาโครงงานโดยกาหนดระยะเวลาดาเนินการโครงงาน 18 ชวั่ โมง 5.2 ผู้เรียนวางแผนรายงานความกา้ วหน้าการดาเนินการโครงงาน และรายงานกา้ วหนา้ เสนอตอ่ ครูท่ีปรึกษา 5.3 ผู้เรยี นทากจิ กรรมท่ี10.1 ติดตามโครงงาน โดยบันทึกความคบื หน้าของการปฏิบตั งิ าน 5.4 ผ้สู อนตรวจสอบความกา้ วหนา้ ในการพฒั นาโครงงานของผ้เู รยี นเป็นระยะ และพดู คยุ กับผ้เู รยี นเกย่ี วกบั แนวทางในการปฏิบตั งิ าน เชน่ ปัญหาหรอื อปุ สรรครวมท้งั บอกวิธกี ารแก้ไข 5.5 ผสู้ อนแนะนา ช่วยเหลือผเู้ รยี นเพ่อื ใหด้ าเนนิ การพัฒนาโครงงานสาเรจ็ ตามแผน

กิจกรรมที่ 11 รายงานโครงงาน สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาในหนงั สือ บทท่ี3 เวลา 2 ชั่วโมง

กิจกรรมที่ 11 รายงานโครงงาน ตัวชีว้ ัด 02 จุดประสงค์ 04 ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชงิ คานวณในการพัฒนา 3.1 เขยี นรายงานโครงงานฉบับสมบรู ณ์ โครงงานท่มี ีการบูรณาการกับวชิ าอน่ื อย่าง สรา้ งสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกบั ชวี ติ จริง 03 01 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะและกระบวนการ 2.1 การสรุปผลเผยแพรโ่ ครงงาน 4.1 ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ 4.2 ทักษะการสื่อสารและการร่วมมอื

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจดั เตรียม - ใบกจิ กรรม 11.1 ตามจานวนนักเรยี น ขนั้ ตอนการดาเนนิ การ 5.1 ผสู้ อนทบทวนข้นั ตอนการทาโครงงานทีไ่ ด้ดาเนินการมาแล้ว 4 ขัน้ ตอนไดแ้ กก่ ารกาหนดปัญหาการศึกษาและกาหนดขอบเขตของปญั หาการวางแผนและ ออกแบบโครงงานการดาเนนิ งานและเชอ่ื มโยงไปยังขนั้ ตอนสาคญั ของการทาโครงงานคือการเขียนรายงานฉบบั สมบูรณ์ 5.2 ผเู้ รียนศึกษา และสรปุ การเผยแพร่ผลงานเขียนรายงานในหนังสือเรียน 5.3 ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ ทาใบกจิ กรรมการเขียนรายงานฉบับสมบรู ณ์ 5.4 ผ้สู อนแจ้งกาหนดการส่งรายงานฉบับสมบรู ณ์ใหแ้ ก่ผ้เู รียนทราบ 5.5 ผู้สอนแจ้งผเู้ รียนถงึ การเตรยี มในการนาเสนอโครงงานเพื่อเผยแพร่ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมสุดทา้ ยของการทาโครงงานในคาบเรยี น

กจิ กรรมท่ี 12 Show Time สอดคล้องกบั เนื้อหาในหนงั สือ บทที่3 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมที่ 12 Show Time 3.จุดประสงค์ 3.1 นาเสนอโครงงานไดอ้ ยา่ งนา่ สนใจ 1.ตัวชีว้ ัด ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการพัฒนา โครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอนื่ อยา่ ง สร้างสรรค์และเชอ่ื มโยงกบั ชวี ติ จริง 2.สาระการเรียนรู้ 4.ทกั ษะและกระบวนการ 2.1 การสรปุ ผลและเผยแพร่โครงงาน 4.1ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารญาณ 4.2 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 4.3 ทักษะการส่ือสารและการร่วมมอื

5. แนวทางจดั การเรียนรู้ การจดั เตรียม -ครูผู้สอนไดจ้ ดั เตรียมใบกจิ กรรมท่ี 10.1 และใบนัดหมายหมายการรายงานความกา้ วหน้าการทาโครงงาน ข้นั ตอนการดาเนินการ 5.1 สอนเกี่ยวกบั ความรเู้ บื้องต้นการปฏบิ ตั ิโครงงาน การติดตาม 5.2 ครูผ้สู อนใหน้ กั เรียนจับกลุม่ ตามจานวนใหเ้ ท่าๆ กนั 5.3 ครูผสู้ อนแจกใบความรู้ท่ี 10.1 เร่อื ง การปฏบิ ัติโครงงาน 5.4 ให้นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ช่วยกนั ทาใบกิจกรรมที่ 10.1 เร่ือง ติดตามโครงงาน ดังนี้ 5.4.1 ข้ันตอนการดาเนินการของผเู้ รียน โดยกาหนดใหม้ รี ะยะเวลาดาเนนิ การ 18 ชัว่ โมง 5.4.2 ผ้เู รียนวางแผนการรายงานความก้าวหน้าการดาเนนิ การโครงงานวนั ไหน และนาเสนอขอ้ มลู ให้ครูท่ีปรึกษาโครงงาน 5.4.3 ผเู้ รยี นทาใบกจิ กรรมที่ 10.1 ตดิ ตามโครงงานโดยบันทึกความคบื หน้าของการปฎบิ ัติตามแผน 5.4.4ผสู้ อนตรวจความคบื หน้าเปน็ ระยะและพดู คุยกบั ผเู้ รยี นในประเดน็ เกย่ี วกบั แนวทางในการปฏิบัติงานท่ีใชป้ ัญหาหรอื อุปสรรคต่างๆ และวิธแี กไ้ ขปญั หา 5.4.5 ผูส้ อนให้คาแนะนาและช่วยเหลอื ผเู้ รียนเพื่อให้การพฒั นาโครงงานสาเร็จไปได้ตามแบบแผน

Thanks! CREDITS: This presentation template was created by Slidesgo, including icons by Flaticon, and infographics & images by Freepik