Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ม.4

หนังสือเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ม.4

Description: หนังสือเทคโนโลยีวิทยาการคำนวณ ม.4

Search

Read the Text Version

หนงั สือเทคโนโลยีวทิ ยาการคานวณ ม.๔ (แนวทางการจดั การเรยี นการสอน) Link URL: https://online.pubhtml5.com/qdis/tymv/

สารบญั บทที่ 3 การพัฒนาโครงงาน บทที่ 1 แนวคิดเชิงคานวณ กจิ กรรมที่ 8 โครงงานสร้างสรรค์ กจิ กรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน กิจกรรมท่ี 1 แนวคดิ เชงิ คานวณ กจิ กรรมท่ี 10 การพัฒนาโครงงาน กิจกรรมท่ี 2 การแยกส่วนประกอบและการยอ่ ยปัญหา กจิ กรรมที่ 11 รายงานโครงงาน กจิ กรรมที่ 3 การหารปู แบบและการคิดเชงิ นามธรรม กจิ กรรมที่ 12 Show Time บทที่ 2 การแกป้ ญั หาและขั้นตอนวิธี กิจกรรมที่ 4 การแก้ปัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ กิจกรรมที่ 5 การออกแบบขัน้ ตอนวธิ ี กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรียงข้อมูล กิจกรรมที่ 7 การค้นหาข้อมลู

สมาชกิ ในกลมุ่ นางสาวนา้ ทพิ ย์ ทับสุข 61131114001 นางสาววันทการต์ พิบูลย์สวสั ด์ิ 61131114016 นางสาวเมยว์ ดี หุ้ยเวชศาสตร์ 61131114022 นางสาวไอรณิ ีย์ บัวศรี 61131114026 นางสาวอทิตยา เทศนอก 61131114028 นางสาวสมใจ แพงหยับ 61131114035

กจิ กรรมที่ 1 แนวคิดเชงิ คานวณ สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาในหนงั สือ บทท่ี1 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 1 แนวคดิ เชิงคานวณ 1. ตวั ช้ีวดั 3. จุดประสงค์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ แ น ว คิ ด เ ชิ ง ค า น ว ณ ใ น ก า ร พั ฒ น า 3.1 อธิบายหลักการของแนวคดิ เชงิ คานวณ 3.2 ปฏิบัติตามขั้นตอนวิธีเปรียบเทียบ วิเคราะห์ขั้นตอน โครงงานทม่ี กี ารบูรณาการกับวิชาอน่ื อย่างสรา้ งสรรค์ วิธีการเพอื่ แกป้ ญั หาจากโจทย์ที่กาหนด และเช่ือมโยงกบั ชวี ิตจรงิ 3.3 ตระหนกั ถึงความสาคัญและประโยชน์ของขั้นตอนวิธีท่ี เกีย่ วขอ้ งกบั การแก้ปัญหาชวี ติ ประจาวัน 2. สาระการเรียนรู้ แนวคิดเชิงคานวณได้แก่ การคิดแบบแ ยก 4. ทักษะและกระบวนการ 4.1 ทกั ษะการคดิ เชงิ คานวน ส่วนประกอบและการย่อยปัญหาการคิดเชิงนามธรรม 4.2 ทักษะการแกป้ ญั หา และการออกแบบข้ันตอนวธิ กี ารในการแก้ปญั หา

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ 5.1 ผสู้ อนนาเขา้ สบู่ ทเรียน เรือ่ งแนวคิดเชิงคานวณ โดยเล่าสถานการณแ์ ละตงั้ คาถามถามผเู้ รียน แนวคิด “นกั เรียนเดนิ หลงเขา้ ไปในปา่ กบั เพ่ือน 3 คน และมอี ุปกรณ์ติดตัว ไดแ้ ก่ มดี และไฟฉาย ระหว่างทางท่เี ดินหาเส้นทางเดนิ ออกจากป่า น้ัน นักเรียนกไ็ ดพ้ บ กระตา่ ย และรงั ผง้ึ จงึ กบั กระต่ายและเกบ็ นา้ ผ้ึงพกไปด้วย และเดนิ ตอ่ จนพลบค่า แตแ่ ล้วสิง่ ท่ไี ม่คาดคดิ กเ็ กดิ ข้ึน มีหมีปรากฎข้ึน นักเรยี นจะทาอยา่ งไรใหส้ ามารถถ่วงเวลาไม่ให้หมีว่ิงเข้ามาทารา้ ย และรอดจากการถูกจบั กินโดยใช้ทกุ อย่างทม่ี อี ยรู่ อบตัว” 5.2 ผู้สอนใช้วิธสี ่มุ ผเู้ รยี นหรือหาอาสาสมคั ร 3 คน บอกหรอื เขียนวธิ กี ารท่จี ะทาให้ตัวเอง รอดจากการถกู หมจี ับกิน โดยอธิบายเปน็ ลาดบั ข้นั ตอน (อาจให้ผู้เรียนทง้ั สามคน เขียนวธิ กี ารบนกระดานแล้วให้เพื่อนโหวตวธิ ีการทชี่ อบท่สี ดุ ) 5.3 ผู้สอนอธบิ ายและสรปุ เพ่ือเชอ่ื มโยงไปถึงเรื่องแนวคดิ เชิงคานวณ 5.4 ผ้เู รียนจับคกู่ นั ทาใบกจิ กรรมที่ 1.1 บา้ นเธอ บา้ นฉนั 5.5 ผ้เู รียนศกึ ษา การหาตวั หารร่วมมาก การหา ห.ร.ม.ของ 187 และ221 ในหนงั สือเรยี น 5.6 ผเู้ รยี นจบั ค่กู ันทาใบกิจกรรมท่ี 1.2 หา ห.ร.ม. ง่ายกวา่ ทีค่ ิด เม่ือทาเสรจ็ แลว้ ทาให้แลกกนั ตรวจกบั เพือ่ นคอู่ ่ืน 5.7 ผูส้ อนและผู้เรียนรว่ มกนั อภิปราย และสรปุ ประโยชนข์ องขน้ั ตอนวิธกี ารแกป้ ัญหาในชีวติ ประจาวนั

กจิ กรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการย่อยปญั หา สอดคลอ้ งกับเนอ้ื หาในหนงั สอื บทท่ี1 เวลา 2 ชวั่ โมง

กจิ กรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการย่อยปญั หา 1. ตวั ช้ีวัด GOALS 3. จดุ ประสงค์ ให้ผู้เรียนสามารถ ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการ 3.1 วิเคราะห์องค์ประกอบของส่ิงต่างๆในการ พัฒนาผลงานใหม่ พัฒนาโครงงานที่มีบูรณาการกับวิชาอ่ืน 3.2 ใช้ทักษะการคิดแบบแยกส่วนประกอบและ อย่างสร้างสรรคแ์ ละเชอ่ื มโยงกับชีวิตจรงิ การย่อยปญั หาแก้ปญั หาในชีวิตประจาวนั 2. สาระการเรียนรู้ 4. ทกั ษะและกระบวนการ แนวคิดเชิงคานวณได้แก่การคิดแบบแยก 4.1 ทักษะการคิดเชงิ คานวณ 4.2 ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ และสงั เคราะห์ สว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หาการหารูปแบบ 4.3 ทกั ษะการแก้ปัญหา ของปัญหา การคิดเชิงนามธรรม และการ 4.4 ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ ออกแบบข้นั ตอนวิธการในการแกป้ ัญหา

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ 5.1 ผูส้ อนนาเช้าสู่ระบบโดยการนาเล่าสถานการณห์ นึง่ จากสองสถานการณ์และให้ผู้เรียนวเิ คราะหแ์ ละหาคาตอบจากสถานการท์ เ่ี ลอื ก สถานการณท์ ่ี 1 ชายผู้ร่ารวยคนหน่ึงตัดสินใจมาใช้ชีวติ ลาพังในกระทอ่ มกลางป่า โดยใช้บริการจดั สง่ อาหาร หนงั สือพมิ พ์ และจดหมายต่างๆ เชา้ วนั พฤหัส บุรุษไปรษณียม์ าส่งจดหมายและ พบวา่ ประตกู ระทอ่ มเปิดอยู่ เมอื่ ชะโงกหนา้ เข้าไปดจู ึงเหน็ ชายคนนี้เป็นศพนอนจมกองเลือดเสียแล้วเม่ือตารวจมาถงึ ท่เี กิดเหตุ ก็เริ่มสารวจไปรอบๆ กระทอ่ มและพบป่นิ โตอาหาร ทีย่ ังอุ่นอยบู่ นระเบียงหนา้ กระท่อม หนังสอื พมิ พ์ ฉบับวันจนั ทร์ และจดหมายที่ยงั ไม่ไดเ้ ปดิ หากนักเรยี นต้องสืบคดนี ้ี นักเรียนจะช่วยตารวจหาคนร้ายไดห้ รือไม่วา่ คนรา้ ยคือใคร สถานการณท์ ่ี 2 ชายวยั กลางคนขับรถมากับครอบครวั 4 คน พบกบั กล่มุ วยั รุ่น 10 คนทโี่ ดยสารมากบั รถตู้และมปี ากเสยี งเร่ืองท่ีจอดรถ กลมุ่ วัยรถ่นท้ังหมดลุมลอ้ มรถมีการจะโกนดา่ ทอ และทุบรถ ชายวัยกลางคนจงึ หยิบปืนท่ีอยู่ในกระเป๋าออกมายิง 3 นดั กระสุนโดนกลุ่มวยั รนุ่ จานวน 1 นัด ไดร้ บั บาดเจบ็ และเสยี ชวี ติ ในเวลาต่อมาถามว่าชายกลางคนผิด หรือไม่ นักเรียนคิดว่าศาลควรสอบสวนหาขอ้ เทจ็ จริงดว้ ยกระบวนการใดเพ่ือให้การตัดสนิ เปน็ ธรรม(สืบสวนเพิม่ เตมิ โดยการแยกประเด็นในเร่ืองต่างๆเชน่ สภาพแวดลอ้ ม พยาน หลกั ฐานตา่ งๆ)

5.2 ผ้สู อนเช่ือมโยงสถานการณข์ า้ งตน้ กับวิธคี ิดแบบแยกสว่ นประกอบและปัญหายอ่ ย 5.3 ผเู้ รียนทาใบกจิ กรรมที่ 2.1 แยกส่วนและสร้างใหม่ 5.4 ผสู้ อนสุ่มผเู้ รียนหรอื หาอาสาสมคั รนาเสนอคาตอบจากใบกจิ กรรมที่ 2.1 5.5 ผสู้ อนแบ่งผเู้ รยี นออกเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน ทาใบกจิ กรรมที่ 2.2 ชีวติ ประจาวนั กับการแยกสว่ นประกอบ โดยผ้สู อนชี้แจงเกณฑก์ ารประเมนิ ใหผ้ ูเ้ รยี นลงมอื ทากิจกรรม 5.6 ผูส้ อนสมุ่ กลมุ่ นาเสนอคาครบทุกกิจกรรมและรว่ มอภิปรายกับผู้เรยี นในประเด็นเรื่องของเวลาโดยเช่ือมโยงใหเ้ ห็นประโยชนข์ องการแยกสว่ นประกอบ 5.7 ผู้สอนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรุปแนวคดิ การแยกสว่ นประกอบและการย่อยปญั หาในดา้ นประโยชน์ของการใชแ้ กป้ ัญหาในชีวิตประจาวนั

กจิ กรรมที่ 3 การหารปู แบบและการคดิ เชิงนามธรรม สอดคลอ้ งกับเนือ้ หาในหนงั สอื บทท่ี1 เวลา 2 ชวั่ โมง

กิจกรรมที่ 3 การหารปู แบบและการคิดเชิงนามธรรม 2. สาระการเรยี นรู้ 3. จดุ ประสงค์ แนวคดิ เชงิ คานวณได้แก่การคดิ แบบแยกส่วนประกอบ 3.1 อธิบายรูปแบบ และระบอุ งคป์ ระกอบสาคญั ทีส่ ัมพนั ธ์กนั ของสงิ่ ของหรือปญั หา 3.2 แยกคุณลกั ษณะทสี่ าคญั ออกจากรายละเอยี ดในโจทยป์ ญั หาหรอื งานทีก่ าลงั พจิ ารณา และการย่อยปัญหาการหารูปแบบของปัญหาการคิดเชิง 3.3 อธบิ ายสถานการณ์หรอื ปัญหาดว้ ยแบบจาลอง นามธรรมและการออกแบบขน้ั ตอนวิธีในการแกป้ ัญหา 1. ตวั ช้วี ัด 4. ทกั ษะและกระบวนการ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชงิ คานวณ 4.1 ทกั ษะการวเิ คราะห์ 4.2 ทักษะการแก้ปัญหา ในก ารพั ฒนา โ ครง งา นท่ี มี 4.3 ทักษะความคดิ เชงิ คานวณ การบูรณาการกับวิชาอื่นอย่าง สร้างสรรค์และเช่ือมโยงกับชีวิต จริง

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรียม ใบกิจกรรมที่ 3.1-3.2 และ เกมส์ท่ใี ชใ้ นหอ้ งเรียน เชน่ เกมการด์ ดอกไม้ เกมสารานกุ รมไทย ขนั้ ตอนการดาเนินงาน 5.1 ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียน อธบิ ายกติกาการเลน่ เกมการด์ ดอกไม้ และใหผ้ ู้เรยี นเล่นเกมเป็นกลุ่ม 5.2 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกนั อภิปรายการเช่อื มโยงรปู แบบทเี่ หมอื น ๆ กันของดอกไม้ 5.3 ผู้เรยี นศึกษา หวั ขอ้ ที่ 1.3-1.5 จากหนังสือเรยี น 5.4 ผู้เรียนทาใบกจิ กรรมท่ี 3.1 จากนั้นผู้สอนกส็ ่มุ นกั เรยี นออกมานาเสนอคาตอบ แล้วใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งปญั หาอ่ืนๆทเ่ี กดิ ซ้า ๆ ในชวี ติ ประจาวนั 5.5 ผู้สอนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5 คน และแจกบัตรเกมสารานุกรมไทยให้แต่ละกลุ่ม โดยมีเน้ือหาเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาล ที่ 9 ในการจัดทาโครงการสารานุกรมไทยสาหรบั เยาวชน 5.6 ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันทาความเข้าใจและสรปุ ใจความสาคัญไมเ่ กนิ 20คา ลงบนกระดาษแลว้ นามาติดหน้าช้นั เรยี น 5.7 ผเู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายคาตอบ จากน้ันผ้สู อนเชือ่ มเข้าสเู่ นอื้ หา เรอ่ื งการคดิ เชงิ นามธรรม 5.8 ผ้เู รียนศึกษาหัวขอ้ ที่ 1.4 ในหนงั สอื เรยี น 5.9 ผู้เรียนแต่ละกลุม่ ทากจิ กรรมท่ี 1.6 ในหนงั สือเรียน โดยอภปิ รายกนั ภายในกลุม่ และผู้สอนสุม่ ออกมานาเสนอ 5.10 ผสู้ อนจบั คู่ กนั ใหท้ าใบกิจกรรมท่ี 3.2 จากน้นั ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ และอภิปรายเรอื่ งท่ีเรียนมาทัง้ หมดทีส่ ามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั

กจิ กรรมที่ 4 การแก้ปญั หาด้วยคอมพิวเตอร์ สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาในหนังสือ บทท่ี2 เวลา 2 ช่วั โมง

กจิ กรรมท่ี 4 การแกป้ ญั หาด้วยคอมพวิ เตอร์ ตวั ชีว้ ัด 01 03 จุดประสงค์ ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณใน 3.1 วเิ คราะห์ปญั หาโดยระบขุ ้อมูลเข้าข้อมูล การพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณา ออก และเงือ่ นไขของปัญหา ก า ร กั บ วิ ช า อ่ื น อ ย่ า ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ 3 . 2 อ อ ก แ บ บ ก า ร แ ก้ ปั ญ ห า ด้ ว ย และเชอื่ มโยงกบั ชีวติ จริง คอมพวิ เตอร์โดยใช้แนวคิดเชิงคานวณ สาระการเรียนรู้ 02 04 ทักษะและกระบวนการ 2.1 ขอ้ มูลเข้า ขอ้ มลู ออก และเงื่อนไขของปัญหา 4.1 ทักษะการแก้ปญั หา 4.2 ทักษะการคดิ เชงิ คานวณ 2.2 การแกป้ ัญหาด้วยคอมพวิ เตอร์ 4.3 ทักษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ 4.4 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม ใบกจิ กรรมที่ 4.1-4.2 และแบบประเมนิ ใบกจิ กรรมท่ี 4.2 ตามจานวนกลุม่ ข้นั ตอนการดาเนินการ 5.1 ผสู้ อนยกตวั อย่างสถานการณ์หวั ขอ้ ท่ี 2.1 เรอ่ื ง การปญั หาดว้ ยคอมพิวเตอรจ์ ากหนังสือเรียน แล้วรว่ มตง้ั คาถามและอภปิ รายผเู้ รยี นวา่ คอมพิวเตอรส์ ามารถแกป้ ญั หาได้หรือไม่ 5.2 ผูเ้ รยี นศึกษาหัวขอ้ ท่ี 2.1.1 และ 2.1.2 จากหนงั สือเรียน จากนั้นผ้สู อนรว่ มกนั อภิปรายหัวข้อท่นี กั เรียนไปศกึ ษา แบบไหนทที่ าใหค้ อมพิวเตอร์ทาตามคาสง่ั ได้ 5.3 ผ้เู รียนศกึ ษาโปรแกรมแชทบอท จากนั้นทดลองสนทนากับโปรแกรม 5.4 ผูเ้ รียนจบั คู่ทาใบกจิ กรรมที่ 2.1 ในหนังสอื เรียน แลว้ สังเกตวา่ ผเู้ รียนสร้างเงอื่ นไขให้ เพอื่ ใหเ้ พอ่ื นตอบคาถามได้หรอื ไม่ 5.5 ผ้เู รียนศึกษาหนังสอื ท่ี 2.1.3 ข้นั ตอนการแก้ปญั หา และอธิบายตัวอย่างขอ้ มลู รายการอาหารกลางวันจากตารางที่ 2.2 จากนั้นสุ่มผู้เรียนออกมาอธิบายขั้นตอนวิธีในการเลือก อาหารในตวั อย่าง 5.6 ผู้เรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 4.1 คณะที่ใช้ ผู้สอนตัง้ คาถามจากใบกจิ กรรมท่ี 4.1 ผเู้ รยี นเลือกสาขาหรอื คณะไดอ้ ย่างมเี หตผุ ลหรือไม่ อย่างไร 5.7 ผสู้ อนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน แล้วศกึ ษาหวั ข้อที่ 2.1.4 และ 2.2 จากหนงั สือ โดยในหวั ข้อที่ 2.2 ใหส้ มาชิกเลือกศึกษาคนละ 1 ตวั อย่างไม่ซา้ กัน แลว้ ออกมาอภิปราย 5.8 ผสู้ อนแจกใบกิจกรรมท่ี 4.2 ให้ผเู้ รยี นเลือกหวั ข้อ ระบบรถยนต์อัตโนมัติ หรือ ระบบแปลภาอตั โนมตั ิ เลอื กมาหัวข้อเดยี ว และผู้สอนชแ้ี จงการประเมินใบกจิ กรรมท่ี 4.2 5.9 ผสู้ อนแตล่ ะกลมุ่ แลกกนั พจิ ารณาคาตอบใบกจิ กรรมที่ 4.2 ทาการประเมนิ ใบกจิ กรรม แล้วส่งคืนเจา้ ของเพอื่ พจิ ารณาข้อเสนอแนะ จากน้ันผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกนั สรุป ประโยชน์ท่ีไดจ้ ากกจิ กรรมน้ี

กิจกรรมท่ี 5 การออกแบบขั้นตอนวธิ ี สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาในหนงั สอื บทที่2 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 5 การออกแบบข้นั ตอนวิธี ตวั ชีว้ ดั จุดประสงค์ ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการพฒั นา 2.1 ระบขุ ้อมลู เขา้ ขอ้ มูลออก และเงอ่ื นไขของปัญหา โครงงานทีม่ ีการบรู ณาการกับวิชาอนื่ อย่าง 2.2 ออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหาโดยใช้รูปแบบ การกาหนดเง่ือนไข และการทาซ้า สรา้ งสรรค์ และเช่ือมโยงกับชีวติ จริง 2.3 เขยี นข้ันตอนวิธีตามท่ไี ด้ออกแบบไว้ 01 02 03 04 สาระการเรียนรู้ ทกั ษะและกระบวนการ การออกแบบข้ันตอนวธิ ใี นการแกป้ ญั หา 4.1 ทกั ษะการแก้ปัญหา โดยใช้รปู แบบการกาหนดเงื่อนไขและการทาซ้า 4.2 ทักษะการคิดเชิงคานวณ 4.3 ทกั ษะการโปรแกรม

5.แนวทางการจดั การเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกจิ กรรมที่ 5.1-5.3 ตามจานวนผเู้ รียน ข้นั ตอนการดาเนินการ 5.1 ผู้สอนทบทวนวิธีแก้ปญั หาด้วยคอมพวิ เตอรค์ วรระบุขอ้ มลู เขา้ -ออก และเงอื่ นไขของปัญหาท่ีชดั เจน และทบทวนความรู้เร่ืองตวั แปรเมอื่ ใชแ้ ทนขอ้ มูล 5.2 ผสู้ อนยกตวั อยา่ งจากหนังสอื เรยี น ตัวอยา่ งที่ 2.5 อธิบายใหน้ ักเรียนเหน็ ตัวอยา่ งของการเขยี นข้ันตอนแบบรหสั ลาลอง และผงั งาน 5.3 ผู้เรยี นศกึ ษาหนังสอื เรียน หวั ขอ้ ท่ี2.3 จนถงึ กอ่ นขน้ึ หัวขอ้ ที่ 2.3.2 พร้อมกับทาใบกิจกรรมท่ี5.1 5.4 ผเู้ รียนศกึ ษาหนังสือเรยี น หวั ข้อที่ 2.3.2 ออกแบบและพจิ ารณาเงอื่ นไข และให้ผเู้ รียนจับค่ทู ากจิ กรรมท่ี 5.2 5.5 ผู้สอนและผ้เู รยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบกิจกรรมที่ 5.2 5.6 ผู้เรียนศกึ ษาหนังสือเรียน หัวขอ้ ท่ี 2.4 การทาซ้า และใหผ้ ู้เรยี นจบั คทู่ ากจิ กรรมที่ 5.3 5.7 ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบกิจกรรมที่ 5.3 5.8 ผูส้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ

กิจกรรมที่ 6 การจดั เรียงข้อมูล สอดคลอ้ งกับเน้ือหาในหนังสือ บทท่ี2 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรยี งขอ้ มลู 3.จดุ ประสงค์ 3.1 อธบิ ายวิธกี ารจดั เรียงข้อมลู 1.ตวั ช้วี ัด 3.2 ออกแบบขนั้ ตอนวิธีการจดั เรียงข้อมลู เพอ่ื ใช้ ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชงิ คานวณใน แก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวนั การพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณา การกับวิชาอ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.ทักษะและกระบวนการ และเช่อื มโยงกบั ชวี ติ จรงิ 4.1 ทักษะการแก้ปญั หา 4.2 ทักษะการสอ่ื สารและรว่ มมอื 2.สาระการเรียนรู้ ขั้นตอนวธิ ีในการจดั ขอ้ มลู มหี ลาย วธิ เี ช่นการจัดเรยี งข้อมลู แบบเลอื ก และการจัดเรียงขอ้ มลู แบบแทรก

5.แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจดั เตรียม - ใบกิจกรรมท่ี 6.1-6.2 และ บัตรตวั เลขจานวน 5 ชดุ ขน้ั ตอนการดาเนินการ 5.1 ผู้สอนนาเข้าสู่บทเรียนโดยใหผ้ ู้เรียนยกตวั อยา่ งการจัดเรยี งขอ้ มลู ที่เคยพบในชีวิตประจาวนั จากน้นั ถามผเู้ รยี นวา่ ทาไมจึงตอ้ งมกี ารจัดเรียงข้อมูล 5.2 ผู้เรียนทากจิ กรรมท่ี 2.8 เรียงลาดบั จานวนเต็มในหนังสอื เรยี นจากนั้นจบั คูอ่ ภิปรายแลกเปล่ียนเรยี นรู้เกยี่ วกับวธิ กี ารจดั เรียงข้อมลู 5.3 ผู้สอนสุ่มให้ผเู้ รียนอธบิ ายวธิ จี ัดเรียงที่ใช้ 5.4 ผู้เรียนศกึ ษาหนงั สอื เรยี นหวั ขอ้ ท่ี 2.5.1 การจดั เรยี งขอ้ มูลหลงั จากนัน้ ให้แต่ละคทู่ าใบกิจกรรมที่ 6.1 ขั้นตอนวิธจี ดั เรียงข้อมลู และนาเสนอคาตอบ 5.5 ผสู้ อนแบ่งผเู้ รยี นออกเป็น 5 กลุม่ ให้ตวั แทนกลมุ่ ออกมารับชุดบตั รตวั เลข 30 ใบ 5.6 ผเู้ รยี นแตล่ ะกลุ่มทาใบกิจกรรมท่ี 6.2 จัดเรยี งข้อมลู ตามใจฉนั จากนนั้ ให้ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ศึกษาวธิ กี ารจดั เรียงขอ้ มลู จากเวบ็ ไซต์ visu algo เพ่ือ ตรวจสอบวธิ ีการจดั เรียงของกลมุ่ วา่ เหมอื นหรือแตกตา่ งจากขนั้ ตอนวธิ ีการจัดเรียงในเว็บไซต์หรือไมอ่ ยา่ งไร 5.7 ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวธิ ีการจดั เรียงขอ้ มลู ท่กี ล่มุ ใช้พร้อมบอกคา่ เฉล่ยี ของจานวนคร้ังในการเปรียบเทยี บข้อมลู ของสมาชกิ ในกล่มุ 5.8 ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ ข้ันตอนวิธกี ารจัดเรยี งข้อมูล

กิจกรรมที่ 7 การค้นหาขอ้ มลู สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในหนังสอื บทที่2 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมที่ 7 การค้นหาข้อมูล 1.ตัวชี้วดั 3.จุดประสงค์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ แ น ว คิ ด เ ชิ ง ค า น ว ณ ใ น ก า ร พั ฒ น า 3.1 อธบิ ายวิธกี ารคน้ ควา้ ข้อมลู แบบตามลาดับและแบบทวิภาค โ ค ร ง ง า น ท่ี มี ก า ร บู ร ณ า ก า ร กั บ วิ ช า อ่ื น อ ย่ า ง 3.2 ประยุกต์วิธกี ารคน้ ควา้ ขอ้ มลู เพอ่ื แกป้ ัญหาในชีวิตประจาวัน สรา้ งสรรค์และเชื่อมโยงกับชวี ติ จริง 4.ทักษะและกระบวนการ 2.สาระการเรียนรู้ 4.1 ทกั ษะการแก้ปญั หา ขน้ั ตอนวิธกี ารค้นคว้าข้อมลู เชน่ การค้นคว้าแบบ 4.2 ทกั ษะการสอื่ สารและการร่วมมอื ตามลาดบั และการคน้ คว้าแบบทวภิ าค

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจดั เตรียม - ส่อื วสั ดุ เช่น ขวด หลอดกาแฟ ชุดบตั รคา ขั้นตอนการดาเนนิ 5.1 ผู้สอนจัดวางชดุ สอื่ วสั ดุ 2 ชุดไวท้ ม่ี มุ หอ้ งมมุ ละชุด ชดุ ท่ี 1 จดั เรยี งขวดลาดบั จากสงู ไปต่า ชุดที่ 2 วางขวดโดยไมเ่ รยี งลาดับ 5.2 ผู้สอนสุ่มผเู้ รียน และอธิบายกตกิ าการทากิจกรรมดงั น้ี ก. ตวั แทนกล่มุ เลอื กชุดขวดทจ่ี ะทากจิ กรรม ข. สมาชกิ ในกล่มุ ไปหยิบขวดตามท่ผี ้สู อนกาหนด เพื่อสงั เกตว่ากลมุ่ ไหนหาไดเ้ ร็วกวา่ เช่น -หาขวดที่สงู ท่สี ดุ หาขวดที่สงู เปน็ ลาดบั ท่ี 3

5.3 ผเู้ รยี นทากจิ กรรม 3 ครงั้ โดยแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนมาครง้ั ละ 1 คน ครั้งท่ี 1 ผู้แทนคทู่ ่ี 1 หาขวดท่สี ูงเปน็ ลาดบั ท่ีสองเทยี บจากขวดท่สี งู ทส่ี ดุ ครง้ั ท่ี 2 ผ้แู ทนคูท่ ่ี 2 หาขวดทีส่ งู นอ้ ยท่สี ดุ จากขวดทเ่ี หลืออยู่ ครงั้ ที่ 3 ผ้แู ทนคูท่ ่ี 3 หาขวดทีส่ งู ที่สดุ จากขวดทเี่ หลืออยู่ 5.4 เมอื่ ทากิจกรรมเสรจ็ แลว้ ผสู้ อนให้ผ้เู รยี นช่วยกนั อภปิ รายวา่ ทาไมกลุ่มท่ชี นะ สามารถคน้ หาขวดไดเ้ รว็ กวา่ เพอ่ื นาไปสู่การสรุปในประเด็นท่ี ควรมีการจดั เรยี งไว้แล้ว ดังน้นั การค้นหาขอ้ มลู ท่มี กี ารจดั เตรียมไวแ้ ล้ว จะทาใหส้ ามารถคน้ หาขอ้ มลู ได้ถกู ตอ้ งในเวลาอนั รวดเร็ว 5.5 ผ้เู รียนศกึ ษาหนงั สอื เรยี นการคน้ หาขอ้ มลู จากนน้ั ผู้สอนแบง่ ผเู้ รยี นเป็นกล่มุ และแจกชดุ บัตรควิ ใหแ้ ต่ละกลุม่ 5.6 ผเู้ รียนทาใบกิจกรรมตามหาตัวเลขแบบลาดบั แบบ 5.7 ผเู้ รียนทุกกลุ่มส่งผลการบันทึกคา่ เฉล่ยี และทาใบกิจกรรมหาตัวเลขแบบทวิภาค 5.8 ผสู้ อนนาคา่ เฉลี่ยของทุกกลมุ่ จากการคน้ ควา้ หาตัวเลขทงั้ สองกจิ กรรมมาหาคา่ เฉล่ยี เพื่อเปรียบเทียบกนั 5.9 ผ้เู รยี นแตล่ ะกลมุ่ อภิปรายในประเด็นในการค้นหาแต่ละวธิ ีตา่ งๆวธิ ใี ดน่าจะมปี ระสทิ ธภิ าพดกี วา่ กนั และในกรณีที่มจี านวนมากวธิ ใี ดน่าจะมีประสทิ ธิภาพ ดีกวา่ กันเพราะเหตใุ ดในกรณคี ้นหาแล้วไม่พบหรอื กรณขี อ้ มลู ซ้าผลการคน้ หาจะเป็นอย่างไรจะมเี ทคนิคเพ่ิมเตมิ หรอื ไมเ่ พอื่ ให้คน้ หาได้เร็วขึ้นผเู้ รียนยกตวั อยา่ ง สถานการณก์ ารนาวธิ คี น้ หาขอ้ มูลไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน 5.10 ผเู้ รยี นทาใบกิจกรรมค้นหาขอ้ มลู และแลกกนั ดว้ ยตรวจคาตอบ และรว่ มกนั สรปุ เกี่ยวกบั การคน้ หาขอ้ มลู

กิจกรรมที่ 8 โครงงานสรา้ งสรรค์ สอดคลอ้ งกับเนื้อหาในหนังสือ บทที่3 เวลา 2 ช่วั โมง

กจิ กรรมท่ี 8 โครงงานสร้างสรรค์ 1.วัตถปุ ระสงค์ 3.จดุ ประสงค์ ประยกุ ต์ใช้แนวคดิ เชงิ คานวณในการพัฒนาโครงงานท่ี 3.1 ระบุปัญหาในชีวติ ประจาวันท่สี ามารถแกไ้ ขไดโ้ ดย มีการบูรณาการกับวชิ าอน่ื อยา่ งสรา้ งสรรค์และ เทคโนโลยีสารสนเทศ เชือ่ มโยงกับชวี ติ จริง 3.2 เลอื กหวั ข้อโครงงานท่ีเหมาะสมตอ่ การพฒั นา 3.3 การกาหนดจดุ ประสงค์และขอบเขตของโครงงาน GOALS ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2.สาระการเรยี นรู้ 4.ทักษะและกระบวนการ 2.1 การกาหนดปญั หา 4.1 ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.2 การศึกษาและกาหนดขอบเขตของปญั หา 4.2 ทักษะการแก้ปัญหา 2.3 การนาแนวคิดเชิงคานวณไปพัฒนาโครงงานทเี่ ก่ยี วกบั ชวี ติ ประจาวนั 4.3 ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ 4.4 ทักษะการสื่อสารและการร่วมมือ

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกจิ กรรมท่ี 8.1-8.2 และแบบประเมินประเด็นปัญหา ตามจานวนกลมุ่ ข้ันตอนการดาเนนิ การ 5.1 ผู้สอนนาเขา้ สบู่ ทเรียนโดยต้ังประเด็นอภิปรายรว่ มกนั เกย่ี วกบั ปัญหาในชีวติ ประจาวนั ทส่ี ามารถแก้ไขได้โดยเทคโนโลยสี ารสนเทศเชน่ สิ่งที่ชว่ ยอานวยความ สะดวกในชวี ติ ประจาวนั และยกตัวอยา่ งโครงงานของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในหนังสอื เรียนบทที่ 3 การพัฒนาโครงงานไดแ้ กโ่ ครงงานการ พัฒนาระบบสตั ว์การปรับพฤตกิ รรมการเดินหลงโดยใชเ้ ทคนคิ กระแสข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศและโครงงานเรียนร้กู ารพูดออกเสยี งและเขียนภาษาองั กฤษ 5.2 ผสู้ อน ผูส้ อนแบ่งกลมุ่ ผเู้ รียนกลมุ่ ละ 3-4 คน ทากจิ กรรม 3.1 ศกึ ษาโครงงานในหนังสอื เรยี นอธบิ าย อภิปรายร่วมกันในกลุม่ 5.3 ผเู้ รียนศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี3.1 การกาหนดปญั หาในหนงั สอื ในหนงั สอื เรียน และทาใบกิจกรรมที่8.1 รูจ้ กั ปัญหาจากนัน้ แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั พิจารณาประเด็น ปัญหา 5.4 ผูส้ อนแจกแบบประเมินประเด็นปญั หา เพื่อใหผ้ ้เู รยี นใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมือประกอบการตดั สนิ ใจเลือกประเดน็ ปัญหาท่จี ะเปน็ หวั ขอ้ โครงงานของกลมุ่ 5.5 ผ้เู รียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอประเดน็ ปญั หาทีเ่ ลือกเปน็ หวั ขอ้ โครงงานและแนวทางการตดั สนิ ใจ 5.6 ผเู้ รียนศกึ ษาหัวขอ้ ท่ี 3.2 การศกึ ษาและกาหนดขอบเขตของปญั หาในหนงั สอื เรยี นแลว้ แต่ละกลมุ่ ทา ที่ 8.2 พฒั นาโครงงานกันเถอะ 5.7 ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปการทากิจกรรมในขัน้ ตอนการพัฒนาการโครงงานทไี่ ด้ดาเนินการสาเร็จการเรยี บร้อยแล้ว

กจิ กรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน สอดคลอ้ งกบั เนอ้ื หาในหนงั สอื บทที่3 เวลา 2 ช่วั โมง

กิจกรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน 1.ตวั ช้วี ัด 2.สาระการเรียนรู้ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการพฒั นาโครงงานทมี่ กี ารบูรณาการกับ 2.1 แนวทางและขอบเขตของโครงงาน วชิ าอ่ืนอย่างสร้างสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกับชวี ติ จรงิ 2.2 ข้อเสนอโครงงาน 2.3 การนาเสนอแนวคิดเชงิ คานวณชว่ ยในการพฒั นาโครงงานท่ี 3.จดุ ประสงค์ เกี่ยวกับชวี ิตประจาวนั 3.1 วางแผนและออกแบบการพฒั นาโครงงาน 3.2 จัดทาข้อเสนอโครงงานโดยใช้แหล่งขอ้ มลู 4.ทักษะและกระบวนการ ทีม่ คี วามนา่ เชือ่ ถอื และอ้างองิ อยา่ งถกู ตอ้ ง 4.1 ทกั ษะการวิเคราะห์ 4.2 ทักษะการสังเคราะห์ 4.3 ทักษะการแกป้ ญั หา 4.4 ทักษะการส่ือสารการร่วมมอื

5. แนวทางจัดการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1 5.1 สอนเกีย่ วกบั ความรูเ้ บ้อื งตน้ ในการทาโครงงานและขนั้ ตอนในการทาโครงงาน 5.2 ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ในการทาใบกิจกรรมที 9.1 วางแผนโครงงาน 5.3 ครูผู้สอนแจกใบความรู้ 9.1 เรือ่ ง เบ้ืองตน้ ของการทาโครงงานและขน้ั ตอนในการทาโครงงาน 5.4 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันทาใบกิจกรรมที่ 9.1 ช่ัวโมงที่ 2 5.5 สอนเก่ยี วกบั การเขยี นเคา้ โครงของโครงงาน 5.6 ครผู สู้ อนตรวจสอบการวางแผนของโครงงานทกุ กล่มุ 5.7 กลมุ่ ทีค่ รูสอนได้ตรวจสอบการวางแผนโครงงานแลว้ ครผู สู้ อนจะแจกใบกจิ กรรมที่ 9.2 ให้ ข้อเสนอโครงงาน 5.8 ใหน้ กั เรยี นเริ่มทาใบกิจกรรมที่ 9.2 ช่วยกันตอบข้อมูลเกี่ยวกบั โครงงาน

กจิ กรรมที่ 10 การพฒั นาโครงงาน สอดคล้องกบั เนอ้ื หาในหนังสอื บทที่3 เวลา 18 ชั่วโมง

กจิ กรรมท่ี 10 การพัฒนาโครงงาน ตัวช้ีวัด 03 ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณในการ 01 จุดประสงค์ 3.1 พฒั นาโครงงานตามที่วางแผนไว้ พัฒนาโครงงานทม่ี กี ารบรู ณาการกบั วิชา 3.2 แกป้ ญั หาที่เกิดข้นึ ระหวา่ งการลงมอื พฒั นา อน่ื อยา่ งสร้างสรรค์ และเชือ่ มโยงกบั โครงงาน ชีวิตจริง 3.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ น่ื สาระการเรียนรู้ 02 04 2.1 การพัฒนาโครงงาน ทักษะและกระบวนการ 2.2 การนาแนวคิดเชิงคานวณไปใชใ้ นการ 4.1 ทักษะการแกป้ ญั หา 4.2 ทกั ษะการสังเคราะห์ พฒั นาโครงงานทเ่ี กีย่ วกับชีวติ ประจาวนั 4.3 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 4.4 ทักษะการสอื่ สารและการรว่ มมือ

5. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - กจิ กรรมที่ 10.1 จับกลุ่มกลุ่มละ 5 คน และนดั หมายการรายงานความก้าวหน้าการทาโครงงาน ข้ันตอนการดาเนินการ 5.1 ผเู้ รยี นลงมือพฒั นาโครงงานโดยกาหนดระยะเวลาดาเนินการโครงงาน 18 ชวั่ โมง 5.2 ผู้เรียนวางแผนรายงานความกา้ วหน้าการดาเนินการโครงงาน และรายงานกา้ วหนา้ เสนอตอ่ ครูท่ีปรึกษา 5.3 ผู้เรยี นทากจิ กรรมท่ี10.1 ติดตามโครงงาน โดยบันทึกความคบื หน้าของการปฏิบตั งิ าน 5.4 ผ้สู อนตรวจสอบความกา้ วหนา้ ในการพฒั นาโครงงานของผ้เู รยี นเป็นระยะ และพดู คยุ กับผ้เู รยี นเกย่ี วกบั แนวทางในการปฏิบตั งิ าน เชน่ ปัญหาหรือ อปุ สรรครวมท้งั บอกวิธกี ารแก้ไข 5.5 ผสู้ อนแนะนา ช่วยเหลือผเู้ รยี นเพ่อื ใหด้ าเนนิ การพัฒนาโครงงานสาเรจ็ ตามแผน

กิจกรรมที่ 11 รายงานโครงงาน สอดคลอ้ งกบั เนือ้ หาในหนงั สือ บทท่ี3 เวลา 2 ชั่วโมง

กิจกรรมที่ 11 รายงานโครงงาน ตัวชีว้ ัด 02 จุดประสงค์ 04 ประยุกตใ์ ช้แนวคิดเชงิ คานวณในการพัฒนา 3.1 เขยี นรายงานโครงงานฉบับสมบรู ณ์ โครงงานท่มี ีการบูรณาการกับวชิ าอน่ื อย่าง สรา้ งสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกบั ชวี ติ จริง 03 01 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะและกระบวนการ 2.1 การสรุปผลเผยแพรโ่ ครงงาน 4.1 ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์ 4.2 ทักษะการสื่อสารและการร่วมมอื

5. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจดั เตรียม - ใบกจิ กรรม 11.1 ตามจานวนนักเรยี น ขนั้ ตอนการดาเนนิ การ 5.1 ผสู้ อนทบทวนข้นั ตอนการทาโครงงานทีไ่ ด้ดาเนินการมาแล้ว 4 ขัน้ ตอนไดแ้ กก่ ารกาหนดปัญหาการศึกษาและกาหนดขอบเขตของปญั หาการวางแผนและ ออกแบบโครงงานการดาเนนิ งานและเชอ่ื มโยงไปยังขนั้ ตอนสาคญั ของการทาโครงงานคือการเขียนรายงานฉบบั สมบูรณ์ 5.2 ผเู้ รียนศึกษา และสรปุ การเผยแพร่ผลงานเขียนรายงานในหนังสือเรียน 5.3 ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ ทาใบกจิ กรรมการเขียนรายงานฉบับสมบรู ณ์ 5.4 ผ้สู อนแจ้งกาหนดการส่งรายงานฉบับสมบรู ณ์ใหแ้ กผ่ ้เู รียนทราบ 5.5 ผู้สอนแจ้งผเู้ รียนถงึ การเตรยี มในการนาเสนอโครงงานเพื่อเผยแพร่ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมสุดทา้ ยของการทาโครงงานในคาบเรยี น

กจิ กรรมท่ี 12 Show Time สอดคล้องกบั เนื้อหาในหนงั สือ บทที่3 เวลา 2 ชั่วโมง

กจิ กรรมที่ 12 Show Time 3.จุดประสงค์ 3.1 นาเสนอโครงงานไดอ้ ยา่ งนา่ สนใจ 1.ตัวชีว้ ัด ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการพัฒนา โครงงานที่มีการบูรณาการกับวิชาอนื่ อยา่ ง สร้างสรรค์และเชอ่ื มโยงกบั ชวี ติ จริง 2.สาระการเรียนรู้ 4.ทกั ษะและกระบวนการ 2.1 การสรปุ ผลและเผยแพร่โครงงาน 4.1ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารญาณ 4.2 ทักษะการคดิ สร้างสรรค์ 4.3 ทักษะการส่ือสารและการร่วมมอื

5. แนวทางจัดการเรียนรู้ การจดั เตรียม - แบบประเมินโครงงานของแตล่ ะกลมุ่ - แบบประเมินการนาเสนอโครงงาน - แบบประเมินตนเองในการจัดทาโครงงาน ตามจานวนผเู้ รียน ขนั้ ตอนการดาเนินการ 5.1 ครผู ูส้ อนได้จัดเตรยี มใบกจิ กรรมท่ี 12.1 5.2 ใบนดั หมายหมายการรายงานความกา้ วหนา้ การทาโครงงาน ตามจานวนกลมุ่ ท่จี ัดไว้ 1.สอนเกย่ี วกบั ความรู้เบ้ืองตน้ การปฏบิ ตั โิ ครงงาน การติดตาม 2.ครผู ู้สอนให้นกั เรยี นจับกล่มุ ตามจานวนให้เทา่ ๆกนั 3.ครูผสู้ อนแจกใบความรู้ที่ 12.1 เรอ่ื ง การปฏิบตั โิ ครงงาน 4.ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ทาใบกจิ กรรมท่ี 12.1 เรอ่ื ง ติดตามโครงงาน

-ครูผูส้ อนพดู คุยกบั นกั เรยี นเร่ืองการทาโครงงานในขั้นตอนสุดท้ายของโครงงาน -ผูเ้ รยี นนาเสนอผลงานทีไ่ ด้จัดทาของตนเอง ภายในเวลาที่กาหนด จนครบทกุ กล่มุ -ระหว่างกลุ่มทน่ี าแสนอผลงาน กลุ่มอ่ืนๆจะช่วยกันประเมนิ โครงงานของเพอื่ นทีน่ าเสนอ โดยจดั ให้แบบประเมนิ กลุ่มละ 1-2 ชดุ -ครผู ู้สอนประเมินโครงงานของแตล่ ะกลุม่ -ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มนาผลการประเมินของกลมุ่ เพอื่ นแตล่ ะกลุ่มมาคดิ คานวณหาคา่ เฉลยี่ แลว้ อภิปรายผลรวมกนั -ผเู้ รียนทาแบบประเมินตนเองในการทาโครงงาน และส่งให้ครูผู้สอนประเมินผลลพั ธ์ -ผู้สอนและผเู้ รียนร่วมกันสรปุ เก่ียวกับการพัฒนาโครงงาน ใหเ้ กิดความคิดสร้างสรรค์

Thanks! CREDITS: This presentation template was created by Slidesgo, including icons by Flaticon, and infographics & images by Freepik