Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore work

Description: work

Search

Read the Text Version

เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ม.๔

สารบญั กจิ กรรมที่ 7 การคน้ หาข้อมูล กิจกรรมที่ 8 โครงงานสร้างสรรค์ กิจกรรมท่ี 1 แนวคิดเชงิ คานวณ กจิ กรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน กิจกรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หา กจิ กรรมท่ี 3 การหารูปแบบและการคิดเชิงนามธรรม กิจกรรมที่ 10 การพัฒนาโครงงาน กิจกรรมท่ี 11 รายงานโครงงาน กจิ กรรมท่ี 4 การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์ กจิ กรรมที่ 12 Show Time กิจกรรมที่ 5 การออกแบบขั้นตอนวิธี กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรยี งข้อมลู

กจิ กรรมท่ี 1 แนวคดิ เชิงคานวณ

กิจกรรมท่ี 1 แนวคดิ เชิงคานวณ 1. ตวั ช้วี ดั 3. จุดประสงค์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ แ น ว คิ ด เ ชิ ง ค า น ว ณ ใ น ก า ร พั ฒ น า - อธิบายหลักการของแนวคิดเชงิ คานวณ - ปฏบิ ัตติ ามข้นั ตอนวิธีเปรยี บเทียบ วเิ คราะห์ขัน้ ตอนวิธกี าร โครงงานทีม่ กี ารบูรณาการกบั วิชาอ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์ เพื่อแกป้ ัญหาจากโจทยท์ ก่ี าหนด และเชือ่ มโยงกบั ชวี ติ จรงิ - ตระหนักถึงความสาคัญและประโยชน์ของขั้นตอนวิธีที่ เกี่ยวข้องกบั การแกป้ ัญหาชวี ิตประจาวัน 2. สาระการเรียนรู้ แนวคิดเชิงคานวณได้แก่ การคิดแบบแ ยก 4. ทักษะและกระบวนการ - ทักษะการคดิ เชิงคานวน ส่วนประกอบและการย่อยปัญหาการคิดเชิงนามธรรม - ทักษะการแกป้ ญั หา และการออกแบบข้ันตอนวิธกี ารในการแก้ปัญหา

8. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ -ผ้สู อนนาเข้าสบู่ ทเรยี น เรอ่ื งแนวคดิ เชงิ คานวณ โดยเล่าสถานการณแ์ ละตัง้ คาถามถามผู้เรียน แนวคดิ “นักเรยี นเดนิ หลงเข้าไปในป่ากบั เพ่อื น 3 คน และมีอปุ กรณ์ติดตัว ได้แก่ มดี และไฟฉาย ระหว่างทางที่เดนิ หาเสน้ ทางเดินออกจากปา่ นัน้ นักเรียนกไ็ ด้พบ กระต่าย และรงั ผึง้ จึงกับกระตา่ ยและเกบ็ น้าผง้ึ พกไปด้วย และเดินต่อจนพลบค่า แตแ่ ล้วส่งิ ท่ีไม่คาดคดิ ก็เกดิ ข้ึน มหี มปี รากฎขึ้น นกั เรียนจะทาอย่างไรให้สามารถถ่วงเวลาไม่ใหห้ มวี ิ่งเขา้ มาทารา้ ย และรอดจากการถูกจบั กนิ โดยใช้ทกุ อย่างทีม่ อี ยรู่ อบตัว” - ผสู้ อนใช้วิธสี ่มุ ผเู้ รียนหรอื หาอาสาสมคั ร 3 คน บอกหรือเขยี นวธิ กี ารท่ีจะทาใหต้ ัวเอง รอดจากการถกู หมจี บั กิน โดยอธบิ ายเป็นลาดบั ขั้นตอน(อาจ ใหผ้ ู้เรยี นทั้งสามคน เขยี นวิธกี ารบนกระดานแล้วให้เพือ่ นโหวตวธิ ีการทช่ี อบทีส่ ุด) - ผู้สอนอธบิ ายและสรปุ เพ่ือเช่ือมโยงไปถึงเรอ่ื งแนวคดิ เชงิ คานวณ - ผู้เรียนจบั คูก่ ันทาใบกจิ กรรมท่ี 1.1 บา้ นเธอ บา้ นฉนั - ผเู้ รยี นศึกษา การหาตัวหารร่วมมาก การหา ห.ร.ม.ของ 187 และ221 ในหนังสอื เรียน - ผเู้ รยี นจบั ค่กู นั ทาใบกิจกรรมที่ 1.2 หา ห.ร.ม. ง่ายกว่าที่คดิ เมือ่ ทาเสรจ็ แลว้ ทาใหแ้ ลกกันตรวจกบั เพื่อนคูอ่ น่ื - ผ้สู อนและผู้เรียนรว่ มกนั อภปิ ราย และสรุปประโยชนข์ องขัน้ ตอนวิธกี ารแกป้ ญั หาในชวี ิตประจาวนั

กจิ กรรมท่ี 2 การแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หา

กิจกรรมที่ 2 การแยกสว่ นประกอบและการยอ่ ยปญั หา 1. ตวั ช้ีวดั GOALS 3. จุดประสงค์ ให้ผูเ้ รียนสามารถ ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการ - วเิ คราะห์องคป์ ระกอบของสิง่ ต่างๆในการพัฒนา ผลงานใหม่ พัฒนาโครงงานท่ีมีบูรณาการกับวิชาอ่ืน - ใช้ทักษะการคิดแบบแยกส่วนประกอบและการ อยา่ งสร้างสรรค์และเชอ่ื มโยงกับชวี ิตจริง ย่อยปัญหาแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั 2. สาระการเรียนรู้ 4. ทักษะและกระบวนการ แนวคิดเชิงคานวณได้แก่การคิดแบบแยก - ทกั ษะการคิดเชิงคานวณ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ และสงั เคราะห์ ส่วนประกอบและการย่อยปัญหาการหารูปแบบ - ทกั ษะการแกป้ ัญหา ของปัญหา การคิดเชิงนามธรรม และการ -ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ออกแบบขัน้ ตอนวิธการในการแก้ปญั หา

8. แนวทางการจดั การเรยี นรู้ - ผูส้ อนนาเชา้ สรู่ ะบบโดยการนาเลา่ สถานการณห์ นึ่งจากสองสถานการณแ์ ละใหผ้ เู้ รียนวเิ คราะหแ์ ละหาคาตอบจากสถานการ์ทเ่ี ลอื ก สถานการณท์ ี่ 1 ชายผู้รา่ รวยคนหนง่ึ ตัดสนิ ใจมาใช้ชีวิตลาพังในกระท่อมกลางปา่ โดยใช้บรกิ ารจดั สง่ อาหาร หนังสอื พมิ พ์ และจดหมายตา่ งๆ เช้าวนั พฤหสั บุรษุ ไปรษณยี ์มาส่งจดหมายและ พบวา่ ประตูกระทอ่ มเปดิ อยู่ เมือ่ ชะโงกหน้าเข้าไปดูจึงเหน็ ชายคนนี้เป็นศพนอนจมกองเลอื ดเสียแล้วเม่ือตารวจมาถงึ ทีเ่ กิดเหตุ กเ็ ร่ิมสารวจไปรอบๆ กระท่อมและพบปิ่นโตอาหาร ทยี่ ังอุ่นอย่บู นระเบียงหน้ากระทอ่ ม หนงั สือพิมพ์ ฉบบั วันจนั ทร์ และจดหมายทย่ี งั ไมไ่ ด้เปิด หากนกั เรียนต้องสบื คดีนี้ นักเรยี นจะชว่ ยตารวจหาคนร้ายไดห้ รอื ไม่ว่าคนร้ายคือใคร สถานการณ์ท่ี 2 ชายวยั กลางคนขับรถมากบั ครอบครวั 4 คน พบกบั กล่มุ วัยร่นุ 10 คนที่โดยสารมากับรถตแู้ ละมีปากเสยี งเรื่องท่จี อดรถ กลมุ่ วัยรถ่นทัง้ หมดลุมล้อมรถมกี ารจะโกนด่าทอ และทุบรถ ชายวัยกลางคนจึงหยบิ ปืนทอี่ ยู่ในกระเป๋าออกมายิง 3 นัด กระสุนโดนกลุ่มวัยร่นุ จานวน 1 นัด ได้รับบาดเจบ็ และเสียชีวิตในเวลาตอ่ มาถามว่าชายกลางคนผดิ หรอื ไม่ นกั เรียนคดิ ว่าศาลควรสอบสวนหาข้อเทจ็ จริงดว้ ยกระบวนการใดเพ่ือให้การตัดสินเป็นธรรม(สืบสวนเพิม่ เติมโดยการแยกประเด็นในเร่ืองต่างๆเช่น สภาพแวดลอ้ ม พยาน หลักฐานตา่ งๆ)

- ผสู้ อนเช่ือมโยงสถานการณ์ข้างต้นกบั วิธคี ิดแบบแยกสว่ นประกอบและปัญหายอ่ ย - ผ้เู รียนทาใบกจิ กรรมท่ี 2.1 แยกส่วนและสรา้ งใหม่ - ผู้สอนส่มุ ผเู้ รียนหรอื หาอาสาสมคั รนาเสนอคาตอบจากใบกจิ กรรมที่ 2.1 - ผู้สอนแบง่ ผูเ้ รียนออกเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4 คน ทาใบกิจกรรมท่ี 2.2 ชีวติ ประจาวันกบั การแยกสว่ นประกอบ โดยผ้สู อนช้แี จงเกณฑก์ ารประเมินให้ ผเู้ รยี นลงมอื ทากิจกรรม - ผู้สอนสุ่มกลุม่ นาเสนอคาครบทุกกจิ กรรมและร่วมอภปิ รายกบั ผู้เรียนในประเดน็ เรอื่ งของเวลาโดยเชื่อมโยงใหเ้ หน็ ประโยชน์ของการแยกสว่ นประกอบ - ผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกนั สรุปแนวคดิ การแยกสว่ นประกอบและการย่อยปัญหาในดา้ นประโยชน์ของการใช้แก้ปญั หาในชวี ิตประจาวนั

กจิ กรรมท่ี 3 การหารปู แบบและการคดิ เชงิ นามธรรม

กิจกรรมท่ี 3 การหารูปแบบและการคดิ เชงิ นามธรรม 2. สาระการเรียนรู้ 3. จดุ ประสงค์ แนวคดิ เชงิ คานวณได้แกก่ ารคดิ แบบแยกส่วนประกอบ - อธบิ ายรูปแบบ และระบอุ งค์ประกอบสาคญั ที่สัมพันธก์ นั ของสิง่ ของหรือปัญหา - แยกคณุ ลักษณะท่ีสาคัญออกจากรายละเอียดในโจทย์ปญั หาหรืองานทก่ี าลังพจิ ารณา และการย่อยปัญหาการหารูปแบบของปัญหาการคิดเชิง - อธบิ ายสถานการณ์หรือปญั หาด้วยแบบจาลอง นามธรรมและการออกแบบข้ันตอนวธิ ใี นการแกป้ ญั หา 1. ตวั ชว้ี ัด 4. ทกั ษะและกระบวนการ ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคิดเชิงคานวณ - ทกั ษะการวเิ คราะห์ - ทักษะการแก้ปญั หา ในก ารพั ฒนา โ ครง งา นท่ี มี - ทกั ษะความคิดเชิงคานวณ การบูรณาการกับวิชาอื่นอย่าง สร้างสรรค์และเช่ือมโยงกับชีวิต จรงิ

8. แนวทางการจดั การเรียนรู้ การจัดเตรยี ม - ใบกิจกรรมท่ี 3.1-3.2 และ เกมสท์ ีใ่ ชใ้ นห้องเรยี น เชน่ เกมการ์ดดอกไม้ เกมสารานกุ รมไทย ขั้นตอนการดาเนนิ งาน - ผู้สอนนาเขา้ สู่บทเรียน อธิบายกติกาการเลน่ เกมการ์ดดอกไม้ และให้ผเู้ รียนเล่นเกมเป็นกลุม่ - ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั อภิปรายการเชือ่ มโยงรูปแบบท่เี หมอื น ๆ กันของดอกไม้ - ผูเ้ รียนศึกษา หวั ขอ้ ที่ 1.3-1.5 จากหนังสอื เรยี น - ผูเ้ รยี นทาใบกิจกรรมท่ี 3.1 จากนนั้ ผู้สอนก็ส่มุ นกั เรยี นออกมานาเสนอคาตอบ แล้วให้นักเรยี นยกตวั อยา่ งปญั หาอื่นๆทเี่ กิดซา้ ๆ ในชวี ติ ประจาวนั - ผู้สอนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5 คน และแจกบัตรเกมสารานุกรมไทยใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม โดยมีเน้ือหาเก่ียวกับพระราชกรณียกิจของในหลวงรัชกาล ท่ี 9 ในการจดั ทาโครงการสารานุกรมไทยสาหรับเยาวชน - ผู้เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทาความเข้าใจและสรปุ ใจความสาคญั ไม่เกิน 20คา ลงบนกระดาษแลว้ นามาติดหนา้ ชน้ั เรยี น - ผู้เรียนรว่ มกนั อภิปรายคาตอบ จากน้นั ผู้สอนเชือ่ มเขา้ ส่เู น้ือหา เรื่องการคิดเชิงนามธรรม - ผู้เรียนศกึ ษาหวั ขอ้ ที่ 1.4 ในหนังสือเรยี น - ผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มทากิจกรรมท่ี 1.6 ในหนังสือเรยี น โดยอภิปรายกนั ภายในกลุ่ม และผสู้ อนสุ่มออกมานาเสนอ - ผู้สอนจบั คู่ กันให้ทาใบกจิ กรรมท่ี 3.2 จากนนั้ ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกนั สรปุ และอภปิ รายเร่ืองท่ีเรยี นมาทั้งหมดทีส่ ามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน

กจิ กรรมที่ 4 การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพวิ เตอร์

กิจกรรมที่ 4 การแกป้ ญั หาดว้ ยคอมพิวเตอร์ ตวั ช้ีวดั 01 03 จุดประสงค์ ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณใน - วเิ คราะหป์ ัญหาโดยระบุขอ้ มูลเขา้ ขอ้ มูลออก การพัฒนาโครงงานที่มีการบูรณา และเงื่อนไขของปญั หา ก า ร กั บ วิ ช า อ่ื น อ ย่ า ง ส ร้ า ง ส ร ร ค์ - ออกแบบการแก้ปัญหาด้วยคอมพิวเตอร์ และเชือ่ มโยงกบั ชวี ิตจริง โดยใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณ สาระการเรยี นรู้ 02 04 ทักษะและกระบวนการ - ขอ้ มูลเขา้ ข้อมลู ออก และเงอื่ นไขของปัญหา - ทกั ษะการแก้ปญั หา - ทักษะการคดิ เชิงคานวณ - การแกป้ ัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์ - ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ - ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์

8. แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดเตรยี ม ใบกิจกรรมท่ี 4.1-4.2 และแบบประเมินใบกจิ กรรมท่ี 4.2 ตามจานวนกลุ่ม ข้ันตอนการดาเนินการ - ผูส้ อนยกตัวอยา่ งสถานการณ์หัวข้อที่ 2.1 เรอื่ ง การปัญหาดว้ ยคอมพิวเตอร์จากหนังสือเรยี น แลว้ รว่ มต้งั คาถามและอภปิ รายผเู้ รียนว่าคอมพิวเตอร์สามารถแกป้ ญั หาไดห้ รือไม่ - ผเู้ รยี นศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี 2.1.1 และ 2.1.2 จากหนังสอื เรยี น จากนนั้ ผ้สู อนรว่ มกันอภปิ รายหัวข้อท่ีนกั เรยี นไปศึกษา แบบไหนที่ทาใหค้ อมพิวเตอร์ทาตามคาสงั่ ได้ - ผู้เรยี นศึกษาโปรแกรมแชทบอท จากนนั้ ทดลองสนทนากบั โปรแกรม - ผู้เรยี นจับคูท่ าใบกิจกรรมที่ 2.1 ในหนังสือเรยี น แลว้ สังเกตวา่ ผเู้ รยี นสรา้ งเงอื่ นไขให้ เพอ่ื ให้เพอ่ื นตอบคาถามไดห้ รือไม่ - ผเู้ รียนศึกษาหนังสือที่ 2.1.3 ขัน้ ตอนการแก้ปัญหา และอธิบายตัวอย่างข้อมูลรายการอาหารกลางวันจากตารางท่ี 2.2 จากนั้นสุ่มผู้เรียนออกมาอธิบายขั้นตอนวิธีในการ เลือกอาหารในตัวอย่าง - ผเู้ รียนทาใบกจิ กรรมท่ี 4.1 คณะทใี่ ช้ ผู้สอนตัง้ คาถามจากใบกจิ กรรมท่ี 4.1 ผู้เรียนเลือกสาขาหรอื คณะไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ลหรือไม่ อย่างไร - ผสู้ อนแบ่งกลุม่ กล่มุ ละ 4 คน แลว้ ศึกษาหวั ข้อท่ี 2.1.4 และ 2.2 จากหนงั สือ โดยในหวั ข้อที่ 2.2 ให้สมาชกิ เลอื กศกึ ษาคนละ 1 ตัวอย่างไมซ่ ้ากัน แล้วออกมาอภิปราย - ผู้สอนแจกใบกจิ กรรมท่ี 4.2 ใหผ้ ู้เรยี นเลอื กหัวข้อ ระบบรถยนตอ์ ตั โนมตั ิ หรือ ระบบแปลภาอัตโนมตั ิ เลือกมาหัวข้อเดยี ว และผู้สอนช้ีแจงการประเมินใบกิจกรรมท่ี 4.2 - ผ้สู อนแตล่ ะกลมุ่ แลกกนั พจิ ารณาคาตอบใบกจิ กรรมที่ 4.2 ทาการประเมนิ ใบกิจกรรม แล้วส่งคืนเจ้าของเพ่ือพิจารณาข้อเสนอแนะ จากน้นั ผสู้ อนและผู้เรยี นรว่ มกันสรุป ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรมน้ี

6. ผู้เรยี นทาใบกจิ กรรมท่ี 4.1 คณะทีใ่ ช้ 7. ผู้สอนตัง้ คาถามจากใบกิจกรรมท่ี 4.1 ผู้เรยี นเลือกสาขาหรอื คณะได้อย่างมเี หตผุ ลหรอื ไม่ อยา่ งไร 8. ผู้สอนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน แลว้ ศกึ ษาหวั ขอ้ ท่ี 2.1.4 และ 2.2 จากหนังสือ โดยในหัวขอ้ ท่ี 2.2 ให้สมาชกิ เลือกศึกษาคนละ 1 ตัวอย่างไมซ่ ้ากนั แลว้ ออกมาอภิปรายหน้าชัน้ เรียน 9. ผู้สอนแจกใบกิจกรรมท่ี 4.2 ให้ผู้เรียนเลอื กหวั ขอ้ ระบบรถยนตอ์ ัตโนมัติ หรือ ระบบแปลภาอัตโนมตั ิ เลอื กมาหวั ข้อเดียว และผ้สู อน ชแี้ จงการประเมนิ ใบกิจกรรมที่ 4.2 10. ผสู้ อนแตล่ ะกลมุ่ แลกกนั พิจารณาคาตอบใบกิจกรรมที่ 4.2 ทาการประเมินใบกิจกรรม แล้วส่งคนื เจา้ ของเพอื่ พจิ ารณาขอ้ เสนอแนะ จากนนั้ ผูส้ อนและผู้เรยี นรว่ มกนั สรปุ ประโยชนท์ ่ีไดจ้ ากกจิ กรรมนี้

กจิ กรรมท่ี 5 การออกแบบขั้นตอนวธิ ี

กิจกรรมที่ 5 การออกแบบข้ันตอนวิธี ตัวชี้วัด จุดประสงค์ ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชงิ คานวณในการพฒั นา - ระบขุ ้อมูลเข้า ขอ้ มลู ออก และเงื่อนไขของปญั หา โครงงานท่มี กี ารบรู ณาการกบั วชิ าอน่ื อย่าง - ออกแบบขั้นตอนวิธีในการแกป้ ญั หาโดยใช้รปู แบบ การกาหนดเงือ่ นไข และการทาซา้ สรา้ งสรรค์ และเชือ่ มโยงกับชวี ิตจริง - เขียนขั้นตอนวธิ ตี ามทไ่ี ด้ออกแบบไว้ 01 02 03 04 สาระการเรยี นรู้ ทักษะและกระบวนการ การออกแบบข้นั ตอนวธิ ีในการแกป้ ัญหา - ทกั ษะการแก้ปัญหา โดยใช้รูปแบบการกาหนดเง่อื นไขและการทาซ้า - ทักษะการคิดเชิงคานวณ - ทักษะการโปรแกรม

8.แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดเตรียม - ใบกจิ กรรมที่ 5.1-5.3 ตามจานวนผเู้ รยี น ข้นั ตอนการดาเนนิ การ - ผสู้ อนทบทวนวธิ ีแกป้ ญั หาด้วยคอมพวิ เตอร์ควรระบขุ ้อมลู เข้า-ออก และเงื่อนไขของปัญหาที่ชดั เจน และทบทวนความรเู้ ร่อื งตัวแปรเม่อื ใชแ้ ทนขอ้ มลู - ผ้สู อนยกตัวอยา่ งจากหนังสือเรยี น ตัวอยา่ งท่ี 2.5 อธิบายให้นกั เรียนเห็นตัวอยา่ งของการเขยี นขั้นตอนแบบรหสั ลาลอง และผงั งาน - ผเู้ รยี นศกึ ษาหนงั สอื เรียน หวั ข้อท2่ี .3 จนถงึ ก่อนขึน้ หัวข้อที่ 2.3.2 พร้อมกบั ทาใบกจิ กรรมที่5.1 - ผู้เรยี นศึกษาหนงั สอื เรยี น หัวข้อที่ 2.3.2 ออกแบบและพจิ ารณาเงื่อนไข และใหผ้ เู้ รียนจบั คทู่ ากจิ กรรมที่ 5.2 - ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบกจิ กรรมที่ 5.2 - ผู้เรยี นศึกษาหนังสือเรยี น หวั ข้อที่ 2.4 การทาซ้า และให้ผ้เู รยี นจบั คู่ทากิจกรรมที่ 5.3 - ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบกจิ กรรมท่ี 5.3 - ผสู้ อนและผเู้ รียนรว่ มกนั สรปุ

กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรยี งขอ้ มลู

กจิ กรรมท่ี 6 การจดั เรยี งขอ้ มลู 3.จุดประสงค์ - อธิบายวิธกี ารจดั เรียงขอ้ มลู 1.ตวั ชวี้ ดั - ออกแบบขนั้ ตอนวิธีการจัดเรียงขอ้ มลู เพอ่ื ใช้ ประยุกตใ์ ชแ้ นวคดิ เชงิ คานวณใน แก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน การพฒั นาโครงงานที่มีการบูรณา การกับวิชาอืน่ อยา่ งสรา้ งสรรค์ 4.ทกั ษะและกระบวนการ และเชือ่ มโยงกบั ชีวิตจรงิ - ทกั ษะการแกป้ ัญหา - ทักษะการส่อื สารและรว่ มมอื 2.สาระการเรยี นรู้ ขน้ั ตอนวธิ ใี นการจดั ขอ้ มลู มหี ลาย วธิ เี ชน่ การจดั เรยี งข้อมลู แบบเลอื ก และการจัดเรียงขอ้ มลู แบบแทรก

8.แนวทางการจดั การเรยี นรู้ การจดั เตรยี ม - ใบกจิ กรรมที่ 6.1-6.2 และ บัตรตัวเลขจานวน 5 ชดุ ข้ันตอนการดาเนนิ การ - ผ้สู อนนาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยให้ผ้เู รียนยกตัวอยา่ งการจัดเรยี งขอ้ มลู ทเี่ คยพบในชีวิตประจาวนั จากน้ันถามผเู้ รียนวา่ ทาไมจงึ ต้องมกี ารจัดเรียงข้อมลู - ผเู้ รียนทากิจกรรมท่ี 2.8 เรยี งลาดบั จานวนเต็มในหนังสอื เรยี นจากน้ันจับคูอ่ ภิปรายแลกเปล่ยี นเรียนรเู้ กย่ี วกบั วิธีการจดั เรียงข้อมลู - ผูส้ อนสุม่ ใหผ้ ู้เรียนอธิบายวธิ ีจดั เรยี งทใ่ี ช้ - ผเู้ รียนศกึ ษาหนังสือเรียนหวั ข้อท่ี 2.5.1 การจดั เรยี งข้อมูลหลงั จากนั้นใหแ้ ต่ละคู่ทาใบกิจกรรมที่ 6.1 ขั้นตอนวิธจี ดั เรยี งขอ้ มูลและนาเสนอคาตอบ - ผสู้ อนแบง่ ผู้เรยี นออกเปน็ 5 กลมุ่ ให้ตัวแทนกลมุ่ ออกมารับชุดบตั รตวั เลข 30 ใบ - ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ทาใบกิจกรรมท่ี 6.2 จดั เรยี งข้อมูลตามใจฉนั จากนน้ั ใหผ้ เู้ รียนแต่ละกลมุ่ ศึกษาวิธกี ารจดั เรยี งข้อมูลจากเวบ็ ไซต์ visu algo เพือ่ ตรวจสอบวธิ กี ารจดั เรยี งของกลมุ่ วา่ เหมอื นหรอื แตกต่างจากขนั้ ตอนวธิ ีการจัดเรยี งในเว็บไซต์หรอื ไมอ่ ยา่ งไร - ผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวธิ ีการจดั เรียงขอ้ มลู ทก่ี ลุ่มใช้พร้อมบอกค่าเฉล่ียของจานวนคร้งั ในการเปรียบเทียบข้อมลู ของสมาชกิ ในกลุ่ม - ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกนั สรุปขนั้ ตอนวธิ ีการจัดเรยี งขอ้ มลู

กจิ กรรมท่ี 7 การคน้ หาขอ้ มลู

กจิ กรรมที่ 7 การค้นหาข้อมูล 1.ตวั ช้วี ัด 3.จดุ ประสงค์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ แ น ว คิ ด เ ชิ ง ค า น ว ณ ใ น ก า ร พั ฒ น า - อธิบายวิธีการคน้ ควา้ ขอ้ มูลแบบตามลาดับและแบบทวภิ าค โ ค ร ง ง า น ท่ี มี ก า ร บู ร ณ า ก า ร กั บ วิ ช า อื่ น อ ย่ า ง - ประยกุ ต์วิธกี ารคน้ คว้าข้อมลู เพอ่ื แกป้ ญั หาในชีวิตประจาวนั สรา้ งสรรค์และเชื่อมโยงกบั ชวี ิตจริง 4.ทกั ษะและกระบวนการ 2.สาระการเรยี นรู้ - ทักษะการแกป้ ัญหา ขัน้ ตอนวธิ กี ารคน้ คว้าข้อมลู เชน่ การค้นควา้ แบบ - ทกั ษะการสื่อสารและการรว่ มมอื ตามลาดับและการค้นควา้ แบบทวิภาค

8. แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม - ส่ือวสั ดุ เช่น ขวด หลอดกาแฟ ชดุ บัตรคา ขนั้ ตอนการดาเนิน - ผู้สอนจดั วางชุดสอื่ วสั ดุ 2 ชดุ ไวท้ ่ีมมุ ห้องมุมละชดุ ชดุ ที่ 1 จดั เรยี งขวดลาดบั จากสงู ไปต่า ชุดท่ี 2 วางขวดโดยไมเ่ รียงลาดับ - ผสู้ อนสุม่ ผเู้ รยี น และอธิบายกตกิ าการทากิจกรรมดงั นี้ ก. ตวั แทนกลมุ่ เลือกชุดขวดทีจ่ ะทากจิ กรรม ข. สมาชิกในกลุ่มไปหยบิ ขวดตามทผี่ สู้ อนกาหนด เพ่ือสงั เกตว่ากลมุ่ ไหนหาไดเ้ ร็วกวา่ เช่น -หาขวดที่สงู ท่สี ดุ หาขวดที่สงู เปน็ ลาดบั ท่ี 3

- ผเู้ รยี นทากจิ กรรม 3 ครงั้ โดยแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนมาคร้ังละ 1 คน คร้ังท่ี 1 ผู้แทนคู่ที่ 1 หาขวดท่สี งู เปน็ ลาดับท่ีสองเทียบจากขวดท่สี งู ท่ีสดุ คร้ังที่ 2 ผู้แทนคู่ท่ี 2 หาขวดท่ีสงู นอ้ ยท่สี ดุ จากขวดที่เหลืออยู่ ครั้งที่ 3 ผูแ้ ทนคู่ที่ 3 หาขวดทส่ี งู ท่สี ดุ จากขวดท่ีเหลืออยู่ - เมือ่ ทากจิ กรรมเสร็จแลว้ ผสู้ อนใหผ้ ู้เรยี นช่วยกนั อภปิ รายวา่ ทาไมกลุ่มทชี่ นะ สามารถคน้ หาขวดได้เรว็ กวา่ เพอื่ นาไปสกู่ ารสรุปในประเด็นท่ีควรมี การจดั เรยี งไว้แลว้ ดงั น้ันการคน้ หาขอ้ มลู ท่มี กี ารจัดเตรียมไวแ้ ลว้ จะทาให้สามารถค้นหาขอ้ มลู ไดถ้ กู ต้องในเวลาอนั รวดเร็ว - ผ้เู รยี นศึกษาหนังสอื เรียนการค้นหาขอ้ มลู จากน้ันผู้สอนแบ่งผู้เรยี นเป็นกล่มุ และแจกชุดบัตรควิ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ - ผเู้ รียนทาใบกจิ กรรมตามหาตวั เลขแบบลาดบั แบบ - ผู้เรยี นทุกกลุม่ ส่งผลการบันทกึ คา่ เฉลย่ี และทาใบกิจกรรมหาตวั เลขแบบทวภิ าค - ผสู้ อนนาค่าเฉลย่ี ของทกุ กลมุ่ จากการค้นคว้าหาตัวเลขท้งั สองกจิ กรรมมาหาคา่ เฉลย่ี เพ่อื เปรียบเทียบกัน - ผเู้ รียนแตล่ ะกลมุ่ อภิปรายในประเด็นในการคน้ หาแตล่ ะวธิ ตี า่ งๆวธิ ีใดนา่ จะมปี ระสทิ ธภิ าพดกี วา่ กนั และในกรณที มี่ จี านวนมากวิธใี ดน่าจะมีประสิทธภิ าพ ดกี วา่ กันเพราะเหตใุ ดในกรณคี น้ หาแล้วไมพ่ บหรอื กรณขี อ้ มลู ซา้ ผลการค้นหาจะเป็นอย่างไรจะมเี ทคนิคเพ่มิ เตมิ หรอื ไม่เพอื่ ใหค้ ้นหาได้เร็วขึ้นผู้เรียนยกตวั อยา่ ง สถานการณก์ ารนาวธิ ีคน้ หาขอ้ มลู ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั - ผู้เรียนทาใบกจิ กรรมค้นหาขอ้ มูลและแลกกันดว้ ยตรวจคาตอบ และร่วมกันสรปุ เกี่ยวกบั การคน้ หาข้อมูล

กจิ กรรมท่ี 8 โครงงานสร้างสรรค์

กิจกรรมท่ี 8 โครงงานสร้างสรรค์ 1.วตั ถุประสงค์ 3.จุดประสงค์ ประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการพฒั นาโครงงานท่ี - ระบปุ ัญหาในชีวติ ประจาวันทีส่ ามารถแก้ไขไดโ้ ดย มีการบูรณาการกับวิชาอนื่ อยา่ งสรา้ งสรรค์และ เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่ือมโยงกับชีวติ จรงิ - เลอื กหวั ข้อโครงงานที่เหมาะสมตอ่ การพัฒนา - การกาหนดจดุ ประสงคแ์ ละขอบเขตของโครงงานได้ GOALS อยา่ งเหมาะสม 2.สาระการเรยี นรู้ 4.ทักษะและกระบวนการ - การกาหนดปัญหา - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - การศึกษาและกาหนดขอบเขตของปัญหา - ทักษะการแกป้ ญั หา - การนาแนวคิดเชงิ คานวณไปพัฒนาโครงงานท่เี กีย่ วกบั ชีวิตประจาวนั - ทกั ษะการคดิ สร้างสรรค์ - ทักษะการสือ่ สารและการรว่ มมอื

8.แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรียม - ใบกิจกรรมที่ 8.1-8.2 และแบบประเมนิ ประเดน็ ปัญหา ตามจานวนกลมุ่ ขน้ั ตอนการดาเนนิ การ - ผู้สอนนาเข้าสบู่ ทเรยี นโดยตงั้ ประเด็นอภปิ รายร่วมกนั เก่ยี วกบั ปัญหาในชวี ิตประจาวนั ทีส่ ามารถแกไ้ ขไดโ้ ดยเทคโนโลยสี ารสนเทศเช่นสงิ่ ที่ชว่ ยอานวยความ สะดวกในชวี ิตประจาวนั และยกตัวอยา่ งโครงงานของเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในหนังสอื เรยี นบทท่ี 3 การพัฒนาโครงงานไดแ้ ก่โครงงานการ พัฒนาระบบสตั ว์การปรบั พฤติกรรมการเดนิ หลงโดยใชเ้ ทคนคิ กระแสข้อมลู ภมู สิ ารสนเทศและโครงงานเรียนรูก้ ารพดู ออกเสยี งและเขยี นภาษาองั กฤษ - ผสู้ อน ผสู้ อนแบง่ กลมุ่ ผเู้ รียนกลุ่มละ 3-4 คน ทากจิ กรรม 3.1 ศกึ ษาโครงงานในหนงั สอื เรียนอธบิ าย อภิปรายรว่ มกันในกลมุ่ - ผู้เรยี นศกึ ษาหวั ข้อที่3.1 การกาหนดปญั หาในหนงั สอื ในหนงั สือเรียน และทาใบกจิ กรรมท่ี8.1 รู้จกั ปัญหาจากนัน้ แตล่ ะกลมุ่ รว่ มกนั พิจารณาประเดน็ ปญั หา - ผสู้ อนแจกแบบประเมินประเดน็ ปญั หา เพ่ือใหผ้ ู้เรียนใชเ้ ป็นเครอื่ งมอื ประกอบการตดั สินใจเลอื กประเด็นปัญหาที่จะเปน็ หัวข้อโครงงานของกลุ่ม - ผ้เู รียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอประเดน็ ปัญหาทเ่ี ลอื กเป็นหวั ขอ้ โครงงานและแนวทางการตดั สนิ ใจ - ผ้เู รยี นศึกษาหวั ข้อท่ี 3.2 การศกึ ษาและกาหนดขอบเขตของปญั หาในหนังสือเรียนแลว้ แตล่ ะกลมุ่ ทา ท่ี 8.2 พัฒนาโครงงานกันเถอะ - ผสู้ อนและผ้เู รียนร่วมกนั สรปุ การทากจิ กรรมในขนั้ ตอนการพัฒนาการโครงงานที่ได้ดาเนนิ การสาเร็จการเรียบรอ้ ยแลว้

กจิ กรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน

กิจกรรมที่ 9 วางแผนและออกแบบโครงงาน 1.ตัวช้ีวัด 2.สาระการเรยี นรู้ ประยุกต์ใช้แนวคิดเชิงคานวณในการพัฒนาโครงงานทมี่ กี ารบูรณาการกบั -แนวทางและขอบเขตของโครงงาน วิชาอืน่ อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเชือ่ มโยงกับชวี ิตจรงิ -ขอ้ เสนอโครงงาน -การนาเสนอแนวคิดเชงิ คานวณชว่ ยในการพัฒนาโครงงานท่เี ก่ียวกับ 3.จุดประสงค์ ชีวติ ประจาวนั - วางแผนและออกแบบการพฒั นาโครงงาน -จัดทาขอ้ เสนอโครงงานโดยใชแ้ หลง่ ขอ้ มูล 4.ทกั ษะและกระบวนการ ทีม่ คี วามน่าเช่ือถอื และอา้ งองิ อยา่ งถูกตอ้ ง - ทกั ษะการวิเคราะห์ - ทกั ษะการสังเคราะห์ - ทกั ษะการแก้ปัญหา - ทักษะการสือ่ สารการร่วมมอื

8. แนวทางจัดการเรียนรู้ ช่ัวโมงที่ 1 - สอนเก่ียวกบั ความรเู้ บอ้ื งต้นในการทาโครงงานและขัน้ ตอนในการทาโครงงาน - ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ ในการทาใบกจิ กรรมที 9.1 วางแผนโครงงาน - ครูผู้สอนแจกใบความรู้ 9.1 เรอื่ ง เบ้ืองต้นของการทาโครงงานและขน้ั ตอนในการทาโครงงาน - ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั ทาใบกิจกรรมท่ี 9.1 ชั่วโมงที่ 2 - สอนเก่ยี วกับการเขียนเคา้ โครงของโครงงาน - ครผู ้สู อนตรวจสอบการวางแผนของโครงงานทกุ กลมุ่ - กลมุ่ ท่คี รูสอนได้ตรวจสอบการวางแผนโครงงานแล้ว ครผู สู้ อนจะแจกใบกจิ กรรมที่ 9.2 ให้ ขอ้ เสนอโครงงาน - ให้นักเรียนเร่ิมทาใบกิจกรรมที่ 9.2 ชว่ ยกนั ตอบขอ้ มลู เกยี่ วกบั โครงงาน

กจิ กรรมท่ี 10 การพฒั นาโครงงาน

กิจกรรมที่ 10 การพฒั นาโครงงาน ตัวชีว้ ัด 03 ประยุกตใ์ ช้แนวคดิ เชิงคานวณในการ 01 จุดประสงค์ - พฒั นาโครงงานตามท่ีวางแผนไว้ พฒั นาโครงงานทมี่ กี ารบรู ณาการกับวชิ า - แก้ปัญหาทเ่ี กิดขึ้นระหวา่ งการลงมอื พัฒนาโครงงาน อ่นื อยา่ งสรา้ งสรรค์ และเชอ่ื มโยงกบั - ทางานรว่ มกบั ผู้อื่น ชีวิตจริง 04 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะและกระบวนการ - การพัฒนาโครงงาน 02 - ทกั ษะการแก้ปญั หา - ทักษะการสังเคราะห์ - การนาแนวคดิ เชงิ คานวณไปใช้ในการ - ทักษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทักษะการสื่อสารและการรว่ มมอื พฒั นาโครงงานทเ่ี ก่ยี วกับชีวติ ประจาวนั

8.แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดเตรียม - กิจกรรมท่ี 10.1 จับกลุ่มกลุ่มละ 5 คน และนัดหมายการรายงานความกา้ วหนา้ การทาโครงงาน ขั้นตอนการดาเนินการ - ผ้เู รยี นลงมอื พัฒนาโครงงานโดยกาหนดระยะเวลาดาเนนิ การโครงงาน 18 ชัว่ โมง - ผู้เรยี นวางแผนรายงานความกา้ วหน้าการดาเนินการโครงงาน และรายงานก้าวหน้าเสนอตอ่ ครูที่ปรึกษา - ผูเ้ รยี นทากจิ กรรมท่ี10.1 ติดตามโครงงาน โดยบันทึกความคืบหน้าของการปฏบิ ัติงาน - ผูส้ อนตรวจสอบความกา้ วหน้าในการพัฒนาโครงงานของผเู้ รยี นเปน็ ระยะ และพูดคยุ กับผ้เู รยี นเก่ยี วกบั แนวทางในการปฏบิ ัตงิ าน เชน่ ปญั หาหรือ อุปสรรครวมทั้งบอกวิธีการแก้ไข - ผู้สอนแนะนา ชว่ ยเหลอื ผเู้ รยี นเพื่อให้ดาเนินการพฒั นาโครงงานสาเร็จตามแผน

กจิ กรรมท่ี 11 รายงานโครงงาน

กิจกรรมท่ี 11 รายงานโครงงาน ตวั ช้ีวัด 02 จดุ ประสงค์ 04 ประยุกต์ใชแ้ นวคดิ เชิงคานวณในการพัฒนา - เขยี นรายงานโครงงานฉบับสมบูรณ์ โครงงานท่มี ีการบรู ณาการกับวชิ าอ่ืนอย่าง สรา้ งสรรคแ์ ละเชื่อมโยงกบั ชีวติ จริง 03 01 สาระการเรยี นรู้ ทกั ษะและกระบวนการ - การสรุปผลเผยแพรโ่ ครงงาน - ทกั ษะการคดิ สรา้ งสรรค์ - ทกั ษะการส่ือสารและการรว่ มมอื

8.แนวทางการจัดการเรยี นรู้ การจดั เตรียม 6.1 ใบกจิ กรรม ขัน้ ตอนการดาเนนิ การ - ผู้สอนทบทวนขั้นตอนการทาโครงงานทไ่ี ดด้ าเนินการมาแลว้ 4 ขน้ั ตอนไดแ้ กก่ ารกาหนดปัญหาการศกึ ษาและกาหนดขอบเขตของปญั หาการวางแผนและออกแบบ โครงงานการดาเนินงานและเช่อื มโยงไปยังขั้นตอนสาคัญของการทาโครงงานคอื การเขยี นรายงานฉบับสมบรู ณ์ - ผ้เู รียนศกึ ษา และสรุปการเผยแพรผ่ ลงานเขยี นรายงานในหนังสือเรยี น - ผเู้ รียนแต่ละกลมุ่ ทาใบกิจกรรมการเขียนรายงานฉบบั สมบูรณ์ - ผูส้ อนแจง้ กาหนดการส่งรายงานฉบบั สมบูรณ์ใหแ้ กผ่ ู้เรยี นทราบ - ผู้สอนแจง้ ผู้เรยี นถึงการเตรยี มในการนาเสนอโครงงานเพ่ือเผยแพรซ่ ง่ึ เป็นกจิ กรรมสุดท้ายของการทาโครงงานในคาบเรยี น

กจิ กรรมท่ี 12 Show Time

กจิ กรรมที่ 12 Show Time 3.จุดประสงค์ - นาเสนอโครงงานได้อยา่ งนา่ สนใจ 1.ตวั ชวี้ ัด ประยุกต์ใชแ้ นวคิดเชิงคานวณในการพฒั นา โครงงานท่มี ีการบรู ณาการกับวิชาอืน่ อยา่ ง สรา้ งสรรค์และเชื่อมโยงกบั ชีวติ จรงิ 2.สาระการเรยี นรู้ 4.ทักษะและกระบวนการ - การสรุปผลและเผยแพรโ่ ครงงาน - ทกั ษะการคดิ อยา่ งมีวจิ ารญาณ - ทักษะการคิดสร้างสรรค์ - ทกั ษะการสอ่ื สารและการรว่ มมอื

8.แนวทางจัดการเรยี นรู้ การจัดเตรยี ม -ครผู สู้ อนไดจ้ ัดเตรียมใบกิจกรรมที่ 10.1 และใบนดั หมายหมายการรายงานความกา้ วหนา้ การทาโครงงาน ขน้ั ตอนการดาเนนิ การ -สอนเกยี่ วกับความรเู้ บอื้ งตน้ การปฏบิ ตั โิ ครงงาน การติดตาม -ครูผ้สู อนใหน้ ักเรยี นจับกลมุ่ ตามจานวนให้เทา่ ๆ กัน -ครผู สู้ อนแจกใบความรู้ท่ี 10.1 เร่ือง การปฏบิ ัติโครงงาน -ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั ทาใบกิจกรรมที่ 10.1 เรือ่ ง ติดตามโครงงาน ดังนี้ 1.ขัน้ ตอนการดาเนนิ การของผเู้ รยี น โดยกาหนดให้มีระยะเวลาดาเนนิ การ 18 ชั่วโมง 2.ผเู้ รียนวางแผนการรายงานความก้าวหนา้ การดาเนนิ การโครงงานวนั ไหน และนาเสนอข้อมลู ให้ครูทป่ี รกึ ษาโครงงาน 3.ผู้เรียนทาใบกิจกรรมท่ี 10.1 ติดตามโครงงานโดยบันทึกความคบื หนา้ ของการปฎบิ ัติตามแผน 4.ผู้สอนตรวจความคบื หน้าเปน็ ระยะและพดู คยุ กับผู้เรียนในประเด็นเกี่ยวกับแนวทางในการปฏบิ ตั งิ านท่ีใช้ปญั หาหรอื อปุ สรรคต่างๆ และวธิ แี ก้ไขปญั หา 5.ผ้สู อนใหค้ าแนะนาและช่วยเหลอื ผเู้ รียนเพื่อใหก้ ารพัฒนาโครงงานสาเรจ็ ไปได้ตามแบบแผน

เร่อื ง เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ม.๔ เสนอ อาจารย์ พงศธร ปาลี จดั ทาโดย นางสาวนา้ ทพิ ย์ ทบั สุข 61131114001 นางสาววนั ทการต์ พิบลู ยส์ วสั ดิ์ 61131114016 นางสาวเมยว์ ดี หยุ้ เวชศาสตร์ 61131114022 นางสาวไอรณิ ีย์ บัวศรี 61131114026 นางสาวอทติ ยา เทศนอก 61131114028 นางสาวสมใจ แพงหยบั 61131114035 สาขาเทคโนโลยกี ารศึกษาและคอมพวิ เตอร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฎั สวนสนุ นั ทา

Thanks! CREDITS: This presentation template was created by Slidesgo, including icons by Flaticon, and infographics & images by Freepik


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook