สารบัญ หน้า เรอ่ื ง 1 จังหวัดเชียงราย 2 ประวตั ิสมยั ราชวงศ์มงั ราย 3-5 การเปลี่ยนแปลงเขตจังหวดั 6-9 ภูมิศาสตร์ 9-11 ทรพั ยากรธรรมชาติแหล่งแร่ 12-14 เศรษฐกจิ และการเมืองการปกครอง 15-20 การปกครองสว่ นท้องถ่ิน 21-22 การเลืองตัง้ 23-30 วฒั นธรรมและประเพณี 31-34 สถานท่ีทอ่ งเทย่ี ว
1 จงั หวดั เชียงราย เป็นจงั หวดั ท่ีต้งั อยใู่ นภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ต้งั อยทู่ างทิศเหนือสุด ของประเทศไทยในเชิงภูมิศาสตร์ มีอาณาเขตติดต่อกบั ประเทศพม่าและประเทศลาว ทางตอน เหนือและตะวนั ออก, จงั หวดั พะเยา และ จงั หวดั ลาํ ปาง ทางทิศใต้ และจงั หวดั เชียงใหม่ ทางทิศ ตะวนั ตก จงั หวดั เชียงรายเป็นพ้นื ที่ด้งั เดิมของชาวไทยวน ปัจจุบนั พ้ืนท่ีของจงั หวดั เชียงราย ประกอบดว้ ยเมืองท่ีมีความสาํ คญั ทางประวตั ิศาสตร์มาต้งั แต่ยคุ ก่อต้งั หิรัญนครเงินยางเชียง แสน และ อาณาจกั รลา้ นนา เช่น เมืองเงินยาง เมืองเชียงแสน และ เมืองเชียงราย[3] ปัจจุบนั จงั หวดั เชียงรายแบ่งการปกครองออกเป็น 18 อาํ เภอ มีแม่น้าํ กก แม่น้าํ อิง แม่น้าํ รวก และแม่น้าํ โขง เป็นแม่น้าํ สายสาํ คญั ทาํ เลท่ีต้งั ของจงั หวดั เชียงรายอยบู่ ริเวณรอยต่อระหวา่ ง 3 ประเทศ คือ ประเทศไทย ประเทศพม่า และประเทศลาว หรือรู้จกั กนั ในนามของดินแดนสามเหล่ียม ทองคาํ ในอดีตเคยเป็นแหล่งผลิตและขนส่งฝ่ิ นที่สาํ คญั ของโลก ปัจจุบนั จงั หวดั เชียงรายเป็น หน่ึงในสถานท่ีท่องเที่ยวสาํ คญั ของประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2561 มีจาํ นวนนกั ท่องเท่ียวรวม มากเป็นอนั ดบั สองในภาคเหนือ รองจากจงั หวดั เชียงใหม่ จาํ นวนราว 3,600,000 คน คิดเป็น ชาวต่างชาติราว 620,000 คน สร้างรายไดใ้ หก้ บั จงั หวดั ราว 28,500 ลา้ นบาท โดยมีท่าอากาศยาน ประจาํ จงั หวดั คือท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้ าหลวง[4] เศรษฐกิจของจงั หวดั เชียงรายมาจาก เกษตรกรรมเป็นหลกั โดยมาจากการเกษตร การป่ าไม้ และประมง ซ่ึงมีมลู ค่ารวมกวา่ 32,500 ลา้ นบาท
2 ประวตั ิศาสตร์สมยั ราชวงศม์ งั ราย พงศาวดารโยนกวา่ พญามงั รายสร้างข้ึน ณ ท่ีซ่ึงเดิมเป็นเวยี งไชยนารายณ์ เมื่อ พ.ศ. 1805 และครองราชสมบตั ิอยู่ ณ เมืองเชียงรายจนถึง พ.ศ. 1839 จึงไปสร้างเมืองเชียงใหม่ข้ึนในทอ้ งท่ี ระหวา่ งดอยสุเทพกบั แม่น้าํ ปิ ง และครองราชสมบตั ิอยู่ ณ เมืองเชียงใหม่จนถึง พ.ศ. 1860 ส่วน ตาํ นานพ้นื เมืองเชียงใหม่ระบุวา่ พญามงั รายทรงเสดจ็ ตามชา้ งมาทางทิศตะวนั ออกแลว้ เห็น ชยั ภูมิเหมาะแก่การสร้างเมืองริมฝั่งน้าํ แม่กก จึงสร้างเป็นเวยี งลอ้ มรอบดอยจอมทองไวใ้ นปี พ.ศ. 1805 สาํ หรับเมืองเชียงรายน้นั เมื่อพญามงั รายยา้ ยไปครองราชสมบตั ิที่เมืองเชียงใหม่แลว้ พระ ราชโอรสคือ ขนุ ครามหรืออีกชื่อหน่ึงวา่ พญาไชยสงครามกไ็ ดค้ รองราชสมบตั ิสืบต่อมา นบั แต่ น้นั เมืองเชียงรายกข็ ้ึนต่อเมืองเชียงใหม่ สมยั ลา้ นนาภายใตก้ ารปกครองของพม่า คร้ันต่อมาเมื่อลา้ นนาตกไปอยใู่ นปกครองของพม่า ในปี พ.ศ. 2101 พม่าไดต้ ้งั ขนุ นาง ปกครองเมืองเชียงรายเร่ือยมา หลงั จากน้นั พ.ศ. 2317 เจา้ กาวลิ ะแห่งลาํ ปางไดส้ วามิภกั ด์ิต่อ กรุงเทพฯ ทาํ ใหห้ วั เมืองลา้ นนาฝ่ ายใตต้ กเป็นประเทศราชของสยาม ขณะที่เชียงรายและหวั เมือง ลา้ นนาฝ่ านเหนืออื่น ๆ ยงั คงอยใู่ ตอ้ าํ นาจพม่า ลา้ นนากลายเป็นพ้นื ที่แยง่ ชิงอาํ นาจระหวา่ งสยาม กบั พม่า ในช่วงเวลาดงั กล่าวเมืองเชียงรายเริ่มร้างผคู้ น ประชาชนอพยพหนีภยั สงครามไปอยู่ เมืองอ่ืน บา้ งกถ็ กู กวาดตอ้ นลงไปทางใต้ พ.ศ. 2247 เมืองเชียงแสนฐานท่ีมน่ั สุดทา้ ยของพม่า ถูก กองทพั เชียงใหม่ ลาํ ปาง และน่าน ตีแตก เมืองเชียงรายจึงกลายสภาพเป็นเมืองร้างตามเมืองเชียง แสนสมยั ลา้ นนาภายใตก้ ารปกครองของสยาม
3 การเปลี่ยนแปลงเขตจงั หวดั ต้งั แต่มีการต้งั จงั หวดั เชียงราย อาณาเขตของจงั หวดั เชียงรายมีการเปลี่ยนแปลงมาเป็น ลาํ ดบั โดยมีการโอนพ้นื ที่บางส่วน ไปข้ึนกบั จงั หวดั ขา้ งง และโอนพ้ืนที่จงั หวดั ขา้ งเคียง เขา้ มา รวมกบั จงั หวดั เชียงราย รวมถึงการแบ่งพ้นื ที่บางส่วน ต้งั เป็นจงั หวดั ใหม่ ดงั น้ี การโอนอาํ เภอเมืองฝาง ไปข้ึนกบั จงั หวดั เชียงใหม่ มีประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง โอนอาํ เภอเมืองฝาง จงั หวดั เชียงรายไปข้ึนจงั หวดั เชียงใหม่ ในปี พ.ศ. 2468 เน่ืองจากความ ลาํ บากในการเดินทางติดต่อราชการ ปัจจุบนั คือ อาํ เภอฝาง อาํ เภอแม่อาย และอาํ เภอไชย ปราการ จงั หวดั เชียงใหม่ การโอนหมู่ 7 ตาํ บลป่ าตึง อาํ เภอเชียงแสน ไปข้ึนกบั จงั หวดั เชียงใหม่ พระราชบญั ญตั ิ เปล่ียนแปลงเขตจงั หวดั พุทธศกั ราช 2479 ไดม้ ีการโอนพ้ืนที่เหนือลาํ น้าํ แม่งามในเขตตาํ บลป่ า ตึง อาํ เภอเชียงแสนในขณะน้นั (อาํ เภอแม่จนั ในปัจจุบนั )ไปข้ึนตาํ บลแม่อาย อาํ เภอฝาง จงั หวดั เชียงใหม่ ปัจจุบนั อยใู่ นเขต ตาํ บลท่าตอน อาํ เภอแม่อาย จงั หวดั เชียงใหม่ การโอนอาํ เภอปง จงั หวดั น่าน มาข้ึนกบั จงั หวดั เชียงราย ตามพระราชบญั ญตั ิเปล่ียนแปลง เขตจงั หวดั น่าน จงั หวดั เชียงราย และจงั หวดั แพร่ พ.ศ. 2495 ไดม้ ีการโอนอาํ เภอปงจงั หวดั น่าน ยกเวน้ ตาํ บลสวด (อาํ เภอบา้ นหลวง ในปัจจุบนั ) มาข้ึนกบั จงั หวดั เชียงราย (สีเขียว) และ โอนตาํ บลสะเอียบ (สีส้ม) อาํ เภอปง ไปข้ึนกบั อาํ เภอสอง จงั หวดั แพร่ การโอนหม่บู า้ นหมู่ที่ 10 ตาํ บลควน อาํ เภอปง จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนตาํ บลป่ าคา อาํ เภอ ท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน และโอนตาํ บลยอด อาํ เภอปง จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนอาํ เภอเชียงกลาง จงั หวดั น่าน ตามประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ 137 ซ่ึงมีสถานะเทียบเท่าพระราชบญั ญตั ิ แกไ้ ข เพิ่มเติมพระราชบญั ญตั ิซ่ึงออกตามความในมาตรา 32 แห่งพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหาร ราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2495 กาํ หนดใหเ้ ปล่ียนแปลงเขตจงั หวดั เชียงรายและจงั หวดั น่าน โดยโอน หมู่บา้ นหม่ทู ่ี 10 ตาํ บลควน อาํ เภอปง จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน และโอนตาํ บลยอด อาํ เภอปง จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนอาํ เภอเชียงกลาง จงั หวดั น่าน การแบ่งพ้นื ท่ีบางส่วนต้งั เป็นจงั หวดั พะเยา เมื่อวนั ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ไดแ้ บ่งแยก พ้นื ที่บางส่วนทางตอนใตข้ องจงั หวดั จดั ต้งั ข้ึนเป็นจงั หวดั พะเยา
4 ปี ท่ี การเปลี่ยนแปลง แผนที่ เปล่ียนแปลง (พ.ศ.) 2453-2468 แผนท่ีจงั หวดั เชียงราย พ.ศ. 2453-2468 2468 การโอนพ้ืนที่อาํ เภอเมืองฝาง (สีแดง) จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนกบั จงั หวดั เชียงใหม่ การโอนพ้ืนที่หมู่ท่ี 7 ตาํ บลป่ าตึง อาํ เภอเชียง 2479 แสน จงั หวดั เชียงราย ในขณะน้นั (สีแดง) ไปข้ึนกบั จงั หวดั เชียงใหม่ การโอนพ้ืนที่อาํ เภอปง จงั หวดั น่าน ยกเวน้ ตาํ บลสวด 2495 (สีเขียว) มาข้ึนกบั จงั หวดั เชียงราย และโอนตาํ บล สะเอียบ (สีสม้ ) ไปข้ึนกบั อาํ เภอสอง จงั หวดั แพร่
5 โอนหม่บู า้ นหมู่ที่ 10 ตาํ บลควน อาํ เภอปง (สีฟ้ า) 2515 จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนตาํ บลป่ าคา อาํ เภอท่าวงั ผา จงั หวดั น่าน และโอนตาํ บลยอด (สีแดง) อาํ เภอ ปง จงั หวดั เชียงราย ไปข้ึนอาํ เภอเชียงกลาง จงั หวดั น่าน การแบ่งพ้ืนท่ี 7 อาํ เภอ ไดแ้ ก่ อาํ เภอพะเยา อาํ เภอแม่ 2520 ใจ อาํ เภอดอกคาํ ใต้ อาํ เภอจุน อาํ เภอปง อาํ เภอเชียง ม่วน และอาํ เภอเชียงคาํ ไปต้งั เป็นจงั หวดั พะเยา
6 ภมู ิศาสตร์ ที่ต้งั และอาณาเขต จงั หวดั เชียงรายต้งั อยตู่ อนเหนือสุดของประเทศไทย อยรู่ ะหวา่ งเส้นรุ้งท่ี 19 องศาเหนือ ถึง 20 องศา 30 ลิปดาเหนือ และเส้นแวงท่ี 99 องศา 15 ลิปดา ถึง 100 องศา 45 ลิปดาตะวนั ออก ทิศเหนือ ติดต่อกบั เมืองสาดและจงั หวดั ท่าข้ีเหลก็ ของรัฐชาน ประเทศพม่า และแขวงบ่อ แกว้ ประเทศลาว ทิศตะวนั ออก ติดต่อกบั แขวงอุดมไซ ประเทศลาว ทิศใต้ ติดต่อกบั อาํ เภอภูซาง อาํ เภอจุน อาํ เภอดอกคาํ ใต้ อาํ เภอภกู ามยาว อาํ เภอแม่ ใจ จงั หวดั พะเยา อาํ เภอเมืองปาน อาํ เภอวงั เหนือ จงั หวดั ลาํ ปาง และอาํ เภอดอย สะเกด็ จงั หวดั เชียงใหม่ ทิศตะวนั ตก ติดกบั อาํ เภอดอยสะเกด็ อาํ เภอพร้าว อาํ เภอไชยปราการ อาํ เภอฝาง และ อาํ เภอแม่อาย จงั หวดั เชียงใหม่ และเมืองสาด รัฐชาน ประเทศพม่า จงั หวดั เชียงรายมีชายแดนติดกบั ประเทศพม่าประมาณ 130 กิโลเมตร และมีชายแดน ติดต่อกบั ประเทศลาวประมาณ 180 กิโลเมตร ภมู ิประเทศ ดอยนางนอน ภูเขาหินปูนในเขตอาํ เภอแม่สายจงั หวดั เชียงราย จงั หวดั เชียงราย มีพ้ืนท่ี 11,678.369 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 7,290,000 ไร่ มีภมู ิ ประเทศเป็นเทือกเขาสูงในทวปี ตอนเหนือ(North Continental Highland) มีพ้นื ท่ีราบสูงเป็น หยอ่ ม ๆ ในเขตอาํ เภอแม่สรวย อาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า และอาํ เภอเชียงของ บริเวณเทือกเขาจะมีความ สูงประมาณ 1,500-2,000 เมตรจากระดบั น้าํ ทะเล โดยมีดอยลงั กาหลวง เป็นยอดเขาที่สูงท่ีสุดใน
7 จงั หวดั มีความสูง 2,031 เมตร[15]บริเวณส่วนที่ราบตามลุ่มแม่น้าํ สาํ คญั ในตอนกลางของพ้ืนท่ี ไดแ้ ก่ อาํ เภอพาน อาํ เภอเมืองเชียงราย อาํ เภอแม่จนั อาํ เภอแม่สายอาํ เภอเชียงแสน และอาํ เภอ เชียงของ มีความสูงประมาณ 410-580 เมตร จากระดบั น้าํ ทะเล ลกั ษณะพ้ืนท่ีส่วนใหญ่เป็นภเู ขา สูง มีป่ าไมป้ กคลุม บริเวณเทือกเขามีช้นั ความสูง 1,500-2,000 เมตร จากระดบั น้าํ ทะเล มีที่ราบ เป็นหยอ่ ม ๆ ในระหวา่ งหุบเขา และตามลุ่มน้าํ สาํ คญั จงั หวดั เชียงรายมีภูเขาลอ้ มรอบโดยเฉพาะ ทางทิศตะวนั ตกเป็นแนวเทือกเขาผปี ันน้าํ ติดต่อกนั ไปเป็นพดื ตลอดเขตจงั หวดั ภูมิอากาศ จงั หวดั เชียงรายมีอุณหภมู ิเฉล่ียตลอดปี ประมาณ 24 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน เร่ิมจาก กลางเดือน(กมุ ภาพนั ธ์-กลางเดือนพฤษภาคม) มีอุณหภมู ิเฉลียประมาณ 32 องศาเซลเซียส ฤดู ฝน เริ่มจากกลางเดือน(พฤษภาคม-กลางเดือนตุลาคม) มีอุณหภมู ิเฉลี่ยประมาณ 27 องศา เซลเซียส ปริมาณน้าํ ฝนเฉล่ียปี ละ 1,768 มิลลิเมตร มากท่ีสุดในปี 2544 จาํ นวน 2,287.60 มิลลิเมตรนอ้ ยที่สุดในปี 2546 จาํ นวน 1,404.10 มิลลิเมตร จาํ นวนวนั ท่ีมีฝนตกเฉลี่ย 143 วนั ต่อ ปี ฤดหู นาว (พฤศจิกายน – กมุ ภาพนั ธ์) จงั หวดั เชียงรายมีอุณหภูมิเฉล่ียประมาณ 15.0 องศา เซลเซียส อุณหภูมิต่าํ สุด 0.9 - 1.0 องศาเซลเซียส 2542 สภาพอากาศของจงั หวดั เชียงราย ถือวา่ หนาวจดั ในพ้ืนที่ราบ อุณหภมู ิจะอยทู่ ่ี 7-9 องศาเซลเซียส ส่วนบนยอดดอย อุณหภูมิต่าํ สุดจะอยู่ ท่ี 0-5 องศาเซลเซียส อุณหภมู ิ -1.5 องศาท่ีภชู ้ีฟ้ า ปลายปี 2556 จึงทาํ ใหอ้ ากาศท่ีเชียงรายในช่วง ฤดูหนาว เป็นพ้ืนท่ีๆ นกั ท่องเที่ยวอยากมาเป็นอยา่ งยง่ิ ทรัพยากรป่ าไม้ ยอดภชู ้ีฟ้ า แหล่งท่องเท่ียวที่มีช่ือเสียง ในเขตอาํ เภอเทิง
8 พ้ืนท่ีจงั หวดั เชียงรายมีท้งั สิ้น 11.678.369 ตารางกิโลเมตร หรือ 7,298,981 ไร่ ในปี 2542 มีพ้ืนที่ป่ าไมจ้ าํ นวน 2,365,967 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 32.42 ของพ้ืนท่ีท้งั หมด พ้นื ท่ีป่ าไมแ้ บ่ง ออกเป็นประเภทต่างๆ ดงั น้ี อุทยานแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เน้ือท่ี 731,250 ไร่ ครอบคลุมพ้นื ที่อาํ เภอพาน อาํ เภอแม่ สรวย อาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า จงั หวดั เชียงราย อาํ เภอแม่ใจ อาํ เภอเมืองพะเยา จงั หวดั พะเยา อาํ เภอวงั เหนือ และอาํ เภองาว จงั หวดั ลาํ ปาง อุทยานแห่งชาติลาํ น้าํ กก มีเน้ือท่ี 467,185 ไร่ ครอบคลุมพ้นื ท่ีอาํ เภอเมืองเชียงราย อาํ เภอ แม่จนั อาํ เภอแม่ลาว อาํ เภอแม่สรวยจงั หวดั เชียงราย อุทยานแห่งชาติแม่ปื ม มีเน้ือที่ 227,312 ไร่ ครอบคลุมพ้นื ท่ีอาํ เภอเมืองเชียงราย อาํ เภอ พาน อาํ เภอป่ าแดด จงั หวดั เชียงราย, อาํ เภอแม่ใจ อาํ เภอเมืองพะเยา อาํ เภอภกู าม ยาว จงั หวดั พะเยา อุทยานแห่งชาติภซู าง เน้ือที่ 178,050 ไร่ ครอบคลุมพ้นื ท่ีอาํ เภอเทิง จงั หวดั เชียงราย อาํ เภอเชียงคาํ และอาํ เภอภูซาง จงั หวดั พะเยา อุทยานแห่งชาติขนุ แจ มีเน้ือท่ี 168,750 ไร่ ครอบคลุมพ้ืนท่ีอาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า จงั หวดั เชียงราย วนอุทยาน จงั หวดั เชียงราย มีวนอุทยาน (Forest Park) ซ่ึงเป็นแหล่งธรรมชาติที่รัฐจดั ไว้ ใหเ้ ป็น สถานที่พกั ผอ่ นหยอ่ นใจของประชาชน และสามารถพฒั นาเป็นแหล่งท่องเท่ียวของจงั หวดั จาํ นวน 27 แห่ง ดงั น้ี นอกจากน้ี ยงั มีพ้นื ท่ีป่ าไมร้ ูปแบบอื่นอีก ดงั ต่อไปน้ี สวนรุกขชาติ (Arboretum) - มีเพยี งแห่งเดียว คือสวนรุกชาติโป่ งสลี เทศบาลตาํ บลสนั ทราย อาํ เภอเมืองเชียงราย มีพ้ืนที่ 668.75 ไร่ พนั ธุ์ไมส้ ่วนใหญ่เป็นไมส้ ักขนาดใหญ่ ซ่ึง เป็นป่ าเดิมที่เหลืออยแู่ ละมีการปลูกตน้ ไมอ้ ่ืน ๆ แทรกบา้ ง ป่ าสงวนแห่งชาติ (National Reserved Forest) - มีท้งั หมด 30 แห่ง มีพ้ืนที่รวม 4,485,966 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 61.46 ของพ้นื ท่ีจงั หวดั แบ่งเป็นพ้นื ท่ีเพื่อการอนุรักษ์ จาํ นวน
9 3,525,896 ไร่ พ้ืนที่มอบ สปก. จาํ นวน 960,070 ไร่ แยกออกเป็นพ้ืนท่ีป่ าเศรษฐกิจ 513,683 ไร่ ป่ าเพื่อการเกษตร 425,832 ไร่ และพ้นื ท่ีกนั คืนกรมป่ าไม้ 20,555 ไร่ ป่ าชุมชน (Community Forest) - เป็นป่ าธรรมชาติ ท่ีชาวบา้ นช่วยกนั ป้ องกนั รักษาเอาไว้ สาํ หรับเป็นแหล่งซบั น้าํ และใชส้ อย ปัจจุบนั มีการสร้างป่ าชุมชนข้ึนในพ้นื ท่ีสาธารณะ เพอ่ื ใชป้ ระโยชนข์ องชุมชน เขตหา้ มล่าสัตวป์ ่ า - มีเพยี งแห่งเดียวคือ พ้ืนที่ชุ่มน้าํ เขตหา้ มล่าสัตวป์ ่ าหนองบงคาย อาํ เภอเชียง แสน มีพ้นื ท่ี 2,711 ไร่ ทรัพยากรธรรมชาติ แหล่งแร่ ทงั สเตน หรือ วลุ แฟรม แร่ทงั สเตนเป็นแร่ที่พบในเทือกเขาดา้ นตะวนั ตกของจงั หวดั ในเขต อาํ เภอแม่สรวย และอาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า ซ่ึงอาจเกิดเป็นแหล่งแร่อิสระเช่นซีไลทแ์ ละวลุ แฟรม หรือ อาจเกิดรวมกบั แร่อ่ืน ๆ เช่น ดีบุก และพลวง ดีบุกและพลวง แร่ท้งั สองประเภทเป็นแร่ในกลุ่มโลหะพ้นื ฐาน อาจเกิดร่วมกบั แร่ทงั สเตน มีอยมู่ ากในเทือกเขาดา้ นตะวนั ตก เช่นกนั แต่มีปริมาณและการผลิตนอ้ ยกวา่ ทงั สเตน แมงกานีส เป็นแหล่งแร่ที่มีขนาดเลก็ เคยมีการผลิตในเขตอาํ เภอเทิง ปัจจุบนั มีแปลง ประทาน ในเขตอาํ เภอพญาเมง็ ราย แต่ไม่มีการผลิต ไพโรฟิ ลไลต์ และกลั ก์ เป็นแร่ที่พบกระจายในเขตอาํ เภอเทิงและอาํ เภอเชียงของ แต่ไม่มี การผลิต ดินขาว และบอลเคลย์ เป็นแร่ท่ีพบกระจายในอาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า มีผลผลิตจาํ นวนนอ้ ย ปัจจุบนั ยงั คงมีการผลิตบอลเคลยจ์ ากเหมือง หินปูนอุตสาหกรรม เป็นหินปนู ท่ีใชใ้ นอุตสาหกรรมปนู ซีเมนต์ ใชท้ าํ ปูนขาวสาํ หรับ อุตสาหกรรมฟอกหนงั และอุตสาหกรรมน้าํ ตาล มีการผลิตหินปนู ในเขตอาํ เภอเมือง เชียงราย อาํ เภอป่ าแดด และอาํ เภอเวยี งชยั
10 ทรัพยากรน้าํ แม่น้าํ โขงในเขตอาํ เภอเชียงของ น้าํ แม่กก แม่น้าํ สายสาํ คญั ของจงั หวดั เชียงราย แม่น้าํ โขง/สามเหล่ียมทองคาํ น้าํ แม่กก มีตน้ กาํ เนิดในประเทศพม่า ไหลเขา้ สู่ประเทศไทยในเขตจงั หวดั เชียงใหม่ ไหล ผา่ นอาํ เภอเมืองเชียงราย อาํ เภอเวยี งชยั อาํ เภอแม่จนั อาํ เภอดอยหลวง อาํ เภอเชียงแสน แลว้ ไหลไปบรรจบแม่น้าํ โขงท่ีหมู่ท่ี 7 บา้ นสบกก ตาํ บลบา้ นแซว อาํ เภอเชียงแสน มี ความยาวประมาณ 145 กิโลเมตร น้าํ แม่ลาว ตน้ กาํ เนิดจากภูเขาในเขตอาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า แลว้ ไหลผา่ นอาํ เภอแม่สรวย อาํ เภอ พาน อาํ เภอเมืองเชียงราย อาํ เภอเวยี งชยั ไปบรรจบกบั น้าํ แม่กกท่ีอาํ เภอเวยี งชยั จงั หวดั เชียงราย มีความยาวประมาณ 137 กิโลเมตร
11 น้าํ แม่อิง ตน้ น้าํ เกิดจากหนองเลง็ ทรายก่อนเขา้ กวา๊ นพะเยา ไหลผา่ นอาํ เภอเทิง แลว้ ไหล ไปบรรจบแม่น้าํ โขงที่อาํ เภอเชียงของ ส่วนท่ีไหลผ่าน จงั หวดั เชียงราย ยาวประมาณ 136 กิโลเมตร น้าํ แม่จนั ตน้ น้าํ เกิดจากภเู ขาสามเสา้ ทางดา้ นทิศตะวนั ตกของอาํ เภอแม่จนั ติดกบั รัฐชาน (ประเทศพม่า) แลว้ ไหลไปทางทิศตะวนั ออกเฉียงเหนือ ร่วมกบั แม่น้าํ คาํ ไหลไปบรรจบ แม่น้าํ โขง มีความยาวประมาณ 100 กิโลเมตร แม่น้าํ โขง มีตน้ กาํ เนิดจากภูเขาหิมาลยั ไหลเขา้ สู่ประเทศไทยท่ีหมู่ที่ 1 บา้ นสบรวก ตาํ บล เวยี ง อาํ เภอเชียงแสน จงั หวดั เชียงราย แลว้ ไหลผา่ นอาํ เภอเชียงของ และอาํ เภอเวยี งแก่น รวมความยาวที่ผา่ นจงั หวดั เชียงราย ประมาณ 94 กิโลเมตร น้าํ แม่คาํ ตน้ น้าํ เกิดจากภูเขาในเขตอาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง แลว้ ไหลผา่ นอาํ เภอแมจ่ นั อาํ เภอ เชียงแสน อาํ เภอแม่สาย แลว้ ไหลไปบรรจบแม่น้าํ โขงที่หมู่ที่ 5 บา้ นสบคาํ ตาํ บลเวยี ง อาํ เภอเชียงแสน จงั หวดั เชียงราย มีความยาวท้งั สิ้น ประมาณ 85 กิโลเมตร
12 เศรษฐกิจ โครงสร้างเศรษฐกิจของจงั หวดั เชียงรายมาจากการเกษตร ป่ าไม้ และการประมงเป็นหลกั พชื สาํ คญั ทางเศรษฐกิจของจงั หวดั เชียงราย ไดแ้ ก่ ขา้ วจา้ ว ขา้ วโพดเล้ียงสัตว์ สัปปะรด มนั สัมปะหลงั ส้มโอ ลาํ ไย และลิ้นจี่ ซ่ึงท้งั คู่เป็นผลไมส้ าํ คญั ท่ีสามารถปลกู ไดใ้ นทุกอาํ เภอของ จงั หวดั นอกจากน้ีจงั หวดั เชียงรายยงั ข้ึนช่ือสาํ หรับการเพาะปลูกชา อนั เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ ของจงั หวดั เชียงรายในปี พ.ศ. 2561[5] นอกจากน้ีจงั หวดั เชียงรายยงั เป็นจงั หวดั ท่ีมีความสาํ คญั ในเชิงการท่องเที่ยว มีจาํ นวนผเู้ ยยี่ มเยยี นจงั หวดั เชียงรายท้งั หมดราว 3,600,000 คนในปี 2561 มากเป็นอนั ดบั ท่ีสองนภาคเหนือ รองจากจงั หวดั เชียงใหม่ การท่องเท่ียวสร้างรายไดใ้ หก้ บั จงั หวดั มากกวา่ 28,500 บาท การเมืองการปกครอง สัญลกั ษณ์ประจาํ จงั หวดั ตราประจาํ จงั หวดั : รูปชา้ งสีขาวใตเ้ มฆ หมายถึง นิมิตของความรุ่งเรืองในอดีต เพราะ พญามงั รายเคยใชช้ า้ งเป็นกาํ ลงั สาํ คญั ในการทาํ ศึกปราบศตั รูจนไดช้ ยั ชนะ นอกจากน้ี ชา้ ง ยงั เป็นชนวนใหพ้ ญามงั รายมาก่อร่างสร้างเมืองน้ีข้ึนอีกดว้ ย โดยวา่ กนั วา่ หายไปจากหลกั ที่ผกู ไว้ พญามงั รายติดตามไปจนถึงภมู ิประเทศอนั บริบูรณ์ริมน้าํ กก จึงโปรดใหต้ ้งั เมือง เชียงรายข้ึน ณ ท่ีน้นั ดอกไมป้ ระจาํ จงั หวดั : ดอกพวงแสด (Pyrostegia venusta) ตน้ ไมป้ ระจาํ จงั หวดั : กาซะลองคาํ (Radermachera ignea) โดยเป็นไมท้ ี่สมเด็จพระนาง เจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานใหเ้ ป็นไมป้ ระจาํ จงั หวดั เมื่อวนั ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบตั ิครบ 50 ปี หน่วยการปกครอง การปกครองส่วนภมู ิภาค การปกครองส่วนภูมิภาคแบ่งออกเป็นระดบั อาํ เภอ จาํ นวน 18 อาํ เภอ ระดบั ตาํ บล จาํ นวน 124 ตาํ บล และระดบั หมู่บา้ น จาํ นวน 1,751 หม่บู า้ น ไดแ้ ก่
13 แผนท่ีอาํ เภอในจงั หวดั เชียงราย ท่ี ช่ืออาํ เภอ ตวั เมือง อกั ษรโรมนั จาํ นวนตาํ บล จาํ นวนประชากร[19] 1. เมืองเชียงราย Mueang Chiang Rai 16 223,725 2. เวยี งชยั Wiang Chai 5 44,036 3. เชียงของ Chiang Khong 7 62,328 4. เทิง Thoeng 10 84,018 5. พาน Phan 15 124,364 6. ป่ าแดด Pa Daet 5 26,362
14 7. แม่จนั Mae Chan 11 99,273 8. เชียงแสน 50,323 9. แม่สาย Chiang Saen 6 85,266 10. แม่สรวย 79,938 11. เวยี งป่ าเป้ า Mae Sai 8 67,092 12. พญาเมง็ ราย 41,952 13. เวยี งแก่น Mae Suai 7 31,254 14. ขนุ ตาล 32,341 15. แม่ฟ้ าหลวง Wiang Pa Pao 7 69,567 16. แม่ลาว 30,631 17. เวยี งเชียงรุ้ง Phaya Mengrai 5 26,740 18. ดอยหลวง 19,008 Wiang Kaen 4 Khun Tan 3 Mae Fa Luang 4 Mae Lao 5 Wiang Chiang Rung 3 Doi Luang 3
15 การปกครองส่วนทอ้ งถิ่น องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นในพ้ืนที่จงั หวดั เชียงราย มี 1 เทศบาลนคร 1 องคก์ ารบริหาร ส่วนจงั หวดั เทศบาลตาํ บลและองคก์ ารบริหารส่วนตาํ บลจาํ แนกตามอาํ เภอ ดงั น้ี อาํ เภอ เทศบาลตาํ บล องคก์ ารบริหารส่วนตาํ บล รวม เมืองเชียงราย 10 5 15 แม่จนั 8 5 13 แม่สาย 4 6 10 เชียงแสน 5 2 7 เชียงของ 7 1 8 เทิง 6 6 12 ป่ าแดด 5 - 5 พาน 2 14 16 เวยี งชยั 5 1 6 แม่สรวย 3 6 9
เวยี งป่ าเป้ า 4 5 16 พญาเมง็ ราย 3 3 แม่ลาว 3 4 9 ขนุ ตาล 3 1 6 เวยี งเชียงรุ้ง 1 3 7 เวยี งแก่น 3 1 4 แม่ฟ้ าหลวง - 4 4 ดอยหลวง - 3 4 รวมท้งั สิ้น 50 92 4 3 144
17 รายช่ือเจา้ เมืองและผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เชียงราย รายชื่อเจา้ เมืองและผวู้ า่ ราชการจงั หวดั เชียงราย ลาํ ดบั รายช่ือ ระยะเวลาการดาํ รง ตาํ แหน่ง 1 พระยารัตนาณาเขต (เจา้ หลวงธรรมลงั กา พ.ศ. 2386-2407 ตาํ แหน่งเจา้ เมือง) 2 พระยารัตนาณาเขต (เจา้ หลวงอุ่นเรือน พ.ศ. 2407-2419 ตาํ แหน่งเจา้ เมือง) 3 พระยารัตนาณาเขต (เจา้ หลวงสุริยะ พ.ศ. 2419-2433 ตาํ แหน่งเจา้ เมือง) 4 พระยารัตนาณาเขต (เจา้ นอ้ ยมหาไชย พ.ศ. 2433-2442 ตาํ แหน่งผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ) 5 พระพลอาษา พ.ศ. 2442-2445 6 หลวงอาษาภูธร พ.ศ. 2445-2446 7 พระยารามราชภกั ดี พ.ศ. 2447-2450 8 พระยาอุดรกิจพจิ ารณ์ พ.ศ. 2450-2453 9 พระยารามราชเดช (ศุข ดิษยบุตร) พ.ศ. 2453-2458 10 พระราชยา (เจิม ปันยารชุน) พ.ศ. 2458-2460 11 พระยาราชดาํ รง (ผล ศรุตานนท)์ พ.ศ. 2460-2479 12 พระพนมครานุรักษ์ (ฮกไถ่ พศิ าลบุตร) พ.ศ. 2479-2482 13 พนั ตาํ รวจเอก พระยานรากรบริรักษ์ พ.ศ. 2482-2485
18 14 หลวงรักษน์ ราธร (โชค ชมธวชั ) พ.ศ. 2485-2487 15 ขนุ ไตรกิตยานุกลู (อมั พร กิตยานุกลุ ) พ.ศ. 2487-2489 16 นายชลอ จารุจินดา พ.ศ. 2489-2490 พ.ศ. 2490-2491 17 ขนุ วสิ ิฐอุดรการ (กรี วสิ ิฐอุดรการ) พ.ศ. 2491-2491 พ.ศ. 2491-2492 18 ขนุ สนิทประชาราษฏร์ พ.ศ. 2492-2493 19 นายชลอ จารุจินดา พ.ศ. 2493-2497 20 พนั ตาํ รวจโทขนุ วรี เดชกาํ แหง (ชม จารุ พ.ศ. 2497-2498 สิ ทธ์ ิ) พ.ศ. 2498-2500 พ.ศ. 2500-2501 21 พนั ตรีเลก็ ทองสุนทร พ.ศ. 2501-2504 พ.ศ. 2504-2512 22 พนั เอกจาํ รูญ จาํ รูญรณสิทธ์ิ 20 พฤษภาคม 2512-30 เมษายน 2513 23 พนั ตาํ รวจเอกเลื่อน กฤษณามระ 1 พฤษภาคม 2513-20 กนั ยายน 2513 24 พนั ตาํ รวจเอกเนื่อง รายะนาค 1 ตุลาคม 2513-30 กนั ยายน 2514 25 นายเครือ สุวรรณสิงห์ 1 ตุลาคม 2514-30 26 นายชูสง่า ไชยพนั ธุ์ (ฤทธิประศาสน)์ 27 นายสิทธ์ิ สงวนนอ้ ย 28 นายประหยดั สมานมิตร 29 นายศรศกั ด์ิ สุวรรณเทศ 30 พลตรีวทิ ย์ นิ่มนวล
19 31 นายชุ่ม บุญเรือง กนั ยายน 2516 32 นายศกั ดา ออ้ พงษ์ 33 นายมนตรี ตระหง่าน 1 ตุลาคม 2516-27 34 นายอร่าม เอ่ียมอรุณ สิงหาคม 2522] 35 นายบรรณสิทธ์ิ สลบั แสง 36 นายคาํ รณ บุณเชิด 1 ตุลาคม 2522-30 37 นายวจิ ารณ์ ไชยนนั ทน์ กรกฎาคม 2525 38 นายสาํ เริง ปุณโยปกรณ์ 39 นายรุ่งฤทธ์ิ มกรพงศ์ 1 ตุลาคม 2525-30 40 นายนรินทร์ พานิชกิจ กนั ยายน 2528 41 นายวรเกียรติ สมสร้อย 1 ตุลาคม 2528-30 กนั ยายน 2531 1 ตุลาคม 2531-30 เมษายน 2534 1 ตุลาคม 2534-30 กนั ยายน 2539 1 ตุลาคม 2539-30 กนั ยายน 2542 1 ตุลาคม 2542-30 กนั ยายน 2544 1 ตุลาคม 2544-27 ตุลาคม 2545 28 ตุลาคม 2545-30 กนั ยายน 2547 1 ตุลาคม 2547-28 กมุ ภาพนั ธ์ 2549
20 42 นายอุดม พวั สกลุ 5 มิถุนายน 2549-30 43 นายอมรพนั ธุ์ นิมานนั ท์ กนั ยายน 2549 44 นายปรีชา กมลบุตร 45 นายไตรสิทธ์ิ สินสมบรู ณ์ทอง 1 ตุลาคม 2549-30 46 นายสุเมธ แสงนิ่มนวล กนั ยายน 2550 47 นายสมชยั ฐ์ หทยะตนั ยต์ ิ 48 นายธานินทร์ สุภาแสน 1 ตุลาคม 2550-30 49 นายพงษศ์ กั ด์ิ วงั เสมอ กนั ยายน 2551 50 นายบุญส่ง เตชะมณีสถิตย์ 51 นายณรงคศ์ กั ด์ิ โอสถธนากร 1 พฤษภาคม 2551-31 52 นายประจญ ปรัชญส์ กลุ มีนาคม 2552 1 เม.ย. 2552-30 กนั ยายน 2553 1 ตุลาคม 2553-30 กนั ยายน 2554 1 ตุลาคม 2554-30 กนั ยายน 2555 1 ตุลาคม 2555-30 กนั ยายน 2558 1 ตุลาคม 2558-4 เมษายน 2560 4 เมษายน 2560-4 กรกฎาคม 2561 4 กรกฎาคม 2561- ปัจจุบนั
21 การเลือกต้งั ในการเลือกต้งั ทว่ั ไป พ.ศ. 2554 จงั หวดั เชียงรายแบ่งเขตเลือกต้งั ออกเป็น 7 เขต มีจาํ นวน สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรท้งั สิ้น 7 คน โดยแต่ละเขตแบ่งออกดงั น้ี เขต 1 ประกอบดว้ ย อาํ เภอเมืองเชียงราย เขต 2 ประกอบดว้ ย อาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า อาํ เภอแม่สรวย และอาํ เภอแม่ลาว เขต 3 ประกอบดว้ ย อาํ เภอพาน เขต 4 ประกอบดว้ ย อาํ เภอเทิง อาํ เภอเวียงชยั และอาํ เภอป่ าแดด เขต 5 ประกอบดว้ ย อาํ เภอเชียงของ อาํ เภอเวยี งแก่น อาํ เภอพญาเมง็ ราย และ อาํ เภอขนุ ตาล เขต 6 ประกอบดว้ ย อาํ เภอแม่สาย อาํ เภอเชียงแสน อาํ เภอดอยหลวง และอาํ เภอเวยี งเชียง รุ้ง เขต 7 ประกอบดว้ ย อาํ เภอแม่จนั และอาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง ประชากร สถิติประชากรตามทะเบียนราษฎรจงั หวดั เชียงราย ปี ประชากร ±% 2522 922,850 — 2525 946,188 +2.5% 2528 981,124 +3.7% 2531 1,009,608 +2.9% 2534 1,048,299 +3.8% 2537 1,251,581 +19.4%
22 2540 1,261,138 +0.8% 2543 1,259,988 −0.1% 2546 1,214,981 −3.6% 2549 1,225,713 +0.9% 2552 1,194,933 −2.5% 2555 1,200,423 +0.5% 2558 1,277,950 +6.5% 2561 1,292,130 +1.1%
23 วฒั นธรรมและประเพณี แห่พระแวดเวยี ง ประเพณีอญั เชิญพระพทุ ธรูปแวดเวยี งเชียงราย ซ่ึงมีพ้นื ฐานความคิดมา จากตาํ นานพระเจา้ เลียบโลก ดว้ ยมีจุดมุ่งหมาย ใหป้ ระชาชนไดม้ ีโอกาสสักการบชู า พระพุทธรูปศกั ด์ิสิทธ์ิคู่บา้ นคู่เมือง ซ่ึงประดิษฐานอยตู่ ามวดั วาอารามต่าง ๆ ในตวั เมือง เชียงราย เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวติ ในวาระของการส่งทา้ ยปี เก่า ตอ้ นรับปี ใหม่ โดยการ อญั เชิญพระพทุ ธรูปศกั ด์ิสิทธ์ิคู่บา้ นคู่เมืองเชียงราย มาประดิษฐานบนบุษบกที่ไดส้ ร้างข้ึน โดยช่างศลิ ปิ นที่มีช่ือเสียงของจงั หวดั เชียงราย จดั ต้งั เป็นขบวนอญั เชิญไปรอบเมือง เชียงราย ใหพ้ ทุ ธศาสนิกชนไดม้ ีโอกาสกราบไหวส้ ักการบชู าดว้ ย ขา้ วตอก ดอกไม้ เป็น การเริ่มตน้ ปี ใหม่ท่ีเป็นสิริมงคลยงิ่ นกั ปอยหลวง งานบุญปอยหลวงเป็นเอกลกั ษณ์ของชาวลา้ นนาซ่ึงเป็นผลดีต่อสภาพทาง สังคมหลายประการ นบั ต้งั แต่ชาวบา้ นไดม้ าทาํ บุญร่วมกนั ร่วมกนั จดั งานทาํ ใหเ้ กิดความ สามคั คีในการทาํ งาน งานทาํ บุญปอยหลวงยงั เป็นการรวมญาติพนี่ อ้ งที่อยตู่ ่างถิ่นไดม้ ี โอกาสทาํ บุญร่วมกนั และมีการสืบทอดประเพณีท่ีเคยปฏิบตั ิกนั มาคร้ังแต่บรรพชนไม่ให้ สูญหายไปจากสงั คม ช่วงเวลา จากเดือน 5 จนถึงเดือน 7 เหนือ (ตรงกบั เดือนกมุ ภาพนั ธ์ ถึงเดือนเมษายนหรือเดือนพฤษภาคมของทุกปี ) ระยะเวลาประมาณ 3-7 วนั ป๋ าเวณี ป๋ี ใหม่เมือง งานประเพณีสงกรานต์ จดั ข้ึนประมาณกลางเดือนเมษายน ในงานมี ขบวนแห่และสรงน้าํ พระเจา้ ลา้ นทอง การแข่งเรือ และการละเล่นพ้นื เมืองและมหรสพ จดั บริเวณตวั เมืองเชียงราย และอาํ เภอเชียงแสน งานเทศกาลลิ้นจี่และของดีเมืองเชียงราย เทศกาลท่ีชาวเกษตรกรต่างนาํ ผลผลิตทางการ เกษตรของตนมาออกร้าน โดยเฉพาะลิ้นจ่ีท่ีมีช่ือเสียงมากของเชียงราย จดั ข้ึนประมาณ กลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ภายในงานมีการประกวดขบวนรถและธิดาลิ้นจี่ และการ ออกร้าน บริเวณสนามกีฬากลางจงั หวดั เชียงราย งานไหวส้ าพญามงั ราย จดั ใหม้ ีพิธีบวงสรวงพญามงั ราย มีการออกร้าน จดั นิทรรศการของ ส่วนราชการและเอกชน และงานรื่นเริงอ่ืน ๆ จดั วนั ท่ี 23 มกราคม-1 กมุ ภาพนั ธ์
24 เป็งป๊ ุด หรือ เพญ็ พุธ เป็นประเพณีตกั บาตรเท่ียงคืนค่อนรุ่งเขา้ สู่วนั เพญ็ ข้ึน15 ค่าํ ท่ีตรงกบั วนั พธุ ตามวฒั นธรรมและความเช่ือของบรรพบุรุษลา้ นนาไทย ที่เชื่อกนั วา่ พระอุปคุตซ่ึง พระอรหนั ตอ์ งคห์ น่ึงแปลงกายเป็นสามเณรนอ้ ยมาบิณฑบาตโปรดสัตวโ์ ลกในยามเท่ียง คืน และชาวลา้ นนาในอดีตเช่ือวา่ การทาํ บุญตกั บาตรถวายพระอุปคุตในวนั เป็งป๊ ุดกจ็ ะได้ ช่ือวา่ เป็นผมู้ ีบุญ มีโชคลาภและร่าํ รวย บงั เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ชีวติ โดยบรรพบุรุษ ชาวลา้ นนาเชื่อวา่ ทุกคืนที่ยา่ งเขา้ สู่วนั พธุ ข้ึน 15 ค่าํ เป็นวนั เป็งป๊ ุด และจะมีประชาชนชาว ลา้ นนาจาํ นวนมากมารอเพือ่ ประกอบพธิ ีทาํ บุญตกั บาตรพระภิกษุสามเณร งานอนุรักษม์ รดกไทยลา้ นนา จดั ในเดือนเมษายน มีการจดั นิทรรศการและการแสดงแบบ ไทยลา้ นนา มีการสาธิตงานศลิ ปะ บริเวณหอวฒั นธรรมนิทศั น์ อาํ เภอเมือง งานประเพณีข้ึนพระธาตุดอยตุง จดั ข้ึนในวนั ข้ึน 14-15 ค่าํ เดือนหกเหนือ หรือเดือน มีนาคม เป็นประเพณีของชาว ลา้ นนา รวมท้งั ชาวไทยใหญ่ในพม่าท่ีปฏิบตั ิสืบต่อกนั มา โดยชาวบา้ นและพระสงฆ์ จะเดินข้ึนพระธาตุในตอนกลางคืน เมื่อมาถึงกจ็ ะพากนั นมสั การองคพ์ ระธาตุก่อน จากน้นั จึงหาพ้ืนท่ีประกอบอาหารเพือ่ ตกั บาตรในตอนเชา้ หลงั จากตกั บาตรแลว้ จะ ช่วยกนั บูรณะบริเวณองคพ์ ระธาตุ เมื่อถึงยามค่าํ คืนกม็ ารวมกนั ท่ี ปะราํ พิธีเพ่ือฟังเทศน์ ประเพณีบวงสรวงเจา้ พอ่ ปลาบึก เป็นประเพณีเก่ียวกบั ความเชื่อของผคู้ นท่ีอยรู่ ิมแม่น้าํ โขง โดยเฉพาะชาวประมง ในเขตบา้ นหาดไคร้ ตาํ บลเวยี ง อาํ เภอเชียงของ เกี่ยวกบั ปลา บึกซ่ึงเป็นปลาขนาด ใหญ่อาศยั อยใู่ นแม่น้าํ โขงวา่ เป็นปลาศกั ด์ิสิทธ์ิ มีเทพเจา้ คุม้ ครอง ก่อนที่ชาวประมง จะจบั ปลาบึกตอ้ งมีการบวงสรวงก่อน ฤดูกาลจบั ปลาบึกระหวา่ งเดือน เมษายน-พฤษภาคม ประเพณีโลช้ ิงชา้ ของชาวอีกอ้ หรือที่เรียกตนเองวา่ \"อาข่า\" มีเช้ือสายจากจีน-ทิเบต เดินทางอพยพมาอยบู่ ริเวณ ชายแดนไทย-พม่า แถบตอนเหนือของลาํ น้าํ กก โดยเฉพาะ อาํ เภอแม่จนั และแม่สาย การโลช้ ิงชา้ เป็นการข้ึนไปขอพรและแสดงความราํ ลึกถึง พระคุณของเทพธิดาแห่ง สรวงสวรรค์ ผปู้ ระทานความชุ่มช่ืนอุดมสมบูรณ์ใหก้ บั พชื พนั ธุ์ ธญั ญาหารและ ยงั เป็นการเซ่นไหวบ้ รรพบุรุษอีกดว้ ย จดั ในช่วงเดือนสิงหาคม
25 ภาษา ภาษาพดู ใชพ้ ดู จากนั เรียกวา่ คาํ เมือง เนื่องจากเชียงรายเคยเป็นเมืองร้างผคู้ นนานเกือบ ร้อยปี ไดม้ ีการฟ้ื นฟูบา้ นเมืองข้ึนมาใหม่เมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2384 โดยไดเ้ กณฑร์ าษฎร จากเชียงใหม่ ลาํ พนู ลาํ ปาง ตาก แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ และชนเผา่ ไตใหญ่ ไตล้ือ ไตยอง และไตขืน (เขิน) ซ่ึงอพยพจากเชียงตุง และสิบสองปันนา รวมท้งั ชาวลาวจากประเทศลาว ไดเ้ ขา้ มาอาศยั อยรู่ วมกนั ดงั น้นั สาํ เนียงพดู ของชาวเชียงรายจึงมีความหลากหลายทาง สาํ เนียงในพ้ืนที่ต่างๆ ภาษาเขียน เชียงรายกเ็ ช่นเดียวกนั กบั จงั หวดั ทางภาคเหนืออื่น ๆ คือมีภาษาเขยี นท่ีเรียกวา่ อกั ขระลา้ นนา หรือตวั เมือง อกั ษรลา้ นนามีววิ ฒั นาการมาจากอกั ษรพราหมีของอินเดีย มี การจดั ระบบของหลกั ภาษาคลา้ ยกบั ภาษาบาลี อกั ษรลา้ นนามีรูปทรงกลมป้ อมคลา้ ยอกั ษร พม่าและมอญ แต่หลกั การทางภาษาไม่เหมือนกนั การจดั ต้งั อาํ เภอและจงั หวดั การแบ่งพ้นื ที่บางอาํ เภอในอดีต เพื่อต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอ และอาํ เภอต่างๆ แผนท่ีจงั หวดั เชียงราย แสดงสีตาม 7 อาํ เภอเดิม แบ่งพ้นื ท่ีอาํ เภอแม่จนั ต้งั เป็นอาํ เภอเชียงแสน อาํ เภอแม่สาย อาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง และอาํ เภอ ดอยหลวง
26 อาํ เภอแม่จนั เดิมชื่อวา่ อาํ เภอเชียงแสน[28] มีพ้นื ที่อยทู่ างตอนเหนือของจงั หวดั เชียงราย (พ้ืนที่สีเขียวในแผนที่ ในรูป 2) ต่อมาถกู แบ่งพ้ืนที่บางส่วนเพือ่ ต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอและอาํ เภอต่างๆ ไดแ้ ก่ อาํ เภอเชียงแสน อาํ เภอแม่สาย อาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง และอาํ เภอดอยหลวง ตามลาํ ดบั เดิมมีการแยกพ้นื ท่ีตาํ บลในเวยี ง ตาํ บลบา้ นแซว และตาํ บลป่ าสัก อาํ เภอเชียง แสน (หมายเลข 1 ในรูป 2) [29] เพอื่ ต้งั เป็น ก่ิงเชียงแสน เนื่องจากการคมนาคมระหวา่ ง พ้ืนท่ีดงั กล่าวกบั ตวั อาํ เภอยากลาํ บาก แต่ภายหลงั เม่ือการคมนาคมสะดวกมากข้ึนก่ิงเชียง แสนจึงถกู ยบุ รวมเขา้ กบั อาํ เภอเชียงแสนตามเดิมในปี พ.ศ. 2468 [30] แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2470 เมื่อประชากรมากข้ึนเพ่ือเป็นการสะดวกแก่การติดต่อราชการจึงมีการประกาศต้งั ก่ิง อาํ เภออีกคร้ัง โดยช่ือวา่ ก่ิงอาํ เภอเชียงแสนหลวง ในปี พ.ศ. 2470 [31] ต่อมามีการเปล่ียน ช่ือ กิ่งอาํ เภอเชียงแสนหลวง เป็นก่ิงอาํ เภอเชียงแสน พร้อมกบั เปลี่ยนช่ืออาํ เภอเชียงแสน เป็นอาํ เภอแม่จนั เพอ่ื ใหส้ อดคลองกบั ท่ีต้งั ทางภมู ิศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2480 [32] และอีก 30 ปี ต่อมา กิ่งอาํ เภอเชียงแสนไดย้ กฐานะเป็นอาํ เภอเชียงแสน ในปี พ.ศ. 2500 ในปี พ.ศ. 2481 มีการแยกตาํ บลแม่สายและตาํ บลโป่ งผา เพือ่ ต้งั เป็นก่ิงอาํ เภอแม่สาย (หมายเลข 2 ในรูป 2)[33]เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นและเป็นทาํ เลคา้ ขาย ต่อมาไดย้ ก ฐานะข้ึนเป็นอาํ เภอแม่สายในปี พ.ศ. 2493[34] ในปี พ.ศ. 2535 ไดม้ ีการแยกตาํ บลเทอดไทย ตาํ บลแม่สลองนอก และตาํ บลแม่สลองใน เพอ่ื ต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง (หมายเลข 7 ในรูป 2)[35] เน่ืองจากเป็นพ้ืนที่ห่างไกลและ เพ่อื เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงต้งั ช่ืออาํ เภอวา่ แม่ฟ้ าหลวง ตามพระสมญั ญานาม ต่อมาไดย้ กฐานะเป็นอาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง ในปี พ.ศ. 2539[36] ในปี พ.ศ. 2539 ไดแ้ ยกตาํ บลปงนอ้ ย ตาํ บลโชคชยั และตาํ บลหนองป่ าก่อ เพื่อต้งั เป็นก่ิง อาํ เภอดอยหลวง (หมายเลข 11 ในรูป 2)[37]และต่อมาไดย้ กฐานะเป็นอาํ เภอดอยหลวงในปี พ.ศ. 2550[38] แบ่งพ้นื ที่อาํ เภอเมืองเชียงรายเพ่ือต้งั เป็นอาํ เภอเวยี งชยั และอาํ เภอแม่ลาว
27 อาํ เภอเมืองเชียงรายเป็นที่ต้งั ของศนู ยร์ าชการของจงั หวดั เดิมมีพ้ืนท่ีครอบคลุมลุ่มน้าํ แม่ กกส่วนใหญ่ (พ้นื ที่สีสม้ ในแผนที่ ในรูป 2) ต่อมาแยกเป็น อาํ เภอเวยี งชยั และอาํ เภอแม่ลาวและ ต่อมาอาํ เภอเวยี งชยั ไดแ้ ยกพ้นื ที่บางส่วนเพือ่ ต้งั เป็นอาํ เภอเวยี งเชียงรุ้งตามลาํ ดบั ในปี พ.ศ. 2517 ไดม้ ีการแบ่งพ้ืนที่ตาํ บลเวยี งชยั ตาํ บลทุ่งก่อ และตาํ บลผางาม ออกจาก อาํ เภอเมืองเชียงราย เพอื่ ต้งั เป็นก่ิงอาํ เภอเวียงชยั (หมายเลข 3 และ 10 ในรูป 2)[39] และ ต่อมายกฐานะเป็นอาํ เภอเวยี งชยั ในปี พ.ศ. 2522[40] ในปี พ.ศ. 2536 มีการแบ่งพ้นื ที่ตาํ บลดงมะดะ ตาํ บลจอมหมอกแกว้ ตาํ บลโป่ งแพร่ ตาํ บล ป่ าก่อดาํ และตาํ บลบวั สลี ออกจากอาํ เภอเมืองเชียงรายเพอ่ื ต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอแม่ลาว (หมายเลข 9 ในรูป 2)[41] และยกฐานะเป็นอาํ เภอแม่ลาวในปี พ.ศ. 2539[42] แบ่งพ้นื ท่ีอาํ เภอเวยี งชยั เพื่อต้งั เป็นอาํ เภอเวยี งเชียงรุ้ง ในปี พ.ศ. 2538 มีการแบ่งพ้นื ที่ตาํ บลป่ าซาง ตาํ บลดงมหาวณั และตาํ บลทุ่งก่อ ออกจาก อาํ เภอเวยี งชยั เพ่อื ต้งั เป็นก่ิงอาํ เภอเชียงรุ้ง (หมายเลข 10 ในรูป 2)[43] แต่ต่อมาไดม้ ีการ เปลี่ยนช่ือเป็นกิ่งอาํ เภอเวียงเชียงรุ้ง เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ประวตั ิศาสตร์ทอ้ งถ่ิน และยก ฐานะเป็นอาํ เภอเวยี งเชียงรุ้งในปี พ.ศ. 2550[44] แบ่งพ้นื ที่อาํ เภอพานเพ่อื ต้งั อาํ เภอป่ าแดด อาํ เภอพาน ต้งั อยทู่ างตอนใตข้ องจงั หวดั เขียงราย (พ้นื ท่ีสีฟ้ าในแผนท่ี ในรูป 2) ต่อมาได้ แยกพ้นื ท่ีตาํ บลป่ าแดดเพอื่ ต้งั เป็นก่ิงอาํ เภอป่ าแดด (หมายเลข 4 ในรูป 2)ในปี พ.ศ. 2512[45] และ ยกฐานะเป็นอาํ เภอป่ าแดดในปี พ.ศ. 2518[46] แบ่งพ้นื ที่อาํ เภอเชียงของเพื่อต้งั อาํ เภอเวยี งแก่น อาํ เภอเชียงของ ต้งั อยทู่ างตะวนั ออกเฉียงเหนือของจงั หวดั เชียงราย (พ้นื ที่สีม่วงอ่อนใน แผนที่ ในรูป 2) ต่อมาไดแ้ ยกตาํ บลปอ ตาํ บลหล่ายงาว และตาํ บลม่วงยายเพ่ือต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอ เวยี งแก่น(หมายเลข 6) ในปี พ.ศ. 2530[47] และยกฐานะเป็นอาํ เภอเวยี งแก่นในปี พ.ศ. 2538[48] แบ่งพ้ืนที่อาํ เภอเทิงเพอื่ ต้งั อาํ เภอพญาเมง็ รายและอาํ เภอขนุ ตาล อาํ เภอเทิงเป็นอาํ เภอท่ีมีพ้ืนท่ีกวา้ งขวางต้งั อยทู่ ิศตะวตั ออกเฉียงใตข้ องตวั จงั หวดั (สีแดง ในรูป 2) ต่อมาไดแ้ บ่งพ้ืนท่ีบางส่วนต้งั เป็นอาํ เภอพญาเมง็ ราย และอาํ เภอขนุ ตาล ตามลาํ ดบั
28 ในปี พ.ศ. 2524 ไดแ้ ยกตาํ บลแม่เปา ตาํ บลแม่ต๋าํ และตาํ บลไมย้ า ออกจากอาํ เภอเทิงเพอ่ื ต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอพญาเมง็ ราย (หมายเลข 5 ในรูป 2) และยกฐานะเป็นอาํ เภอพญาเมง็ รายใน ปี พ.ศ. 2530 ในปี พ.ศ. 2524 ไดแ้ ยกตาํ บลป่ าตาล ตาํ บลตา้ และตาํ บลยางฮอม ออกจากอาํ เภอเทิง เพ่ือ ต้งั เป็นก่ิงอาํ เภอขนุ ตาล (หมายเลข 8 ในรูป 2 และยกฐานะข้ึนเป็นอาํ เภอขนุ ตาลในปี พ.ศ. 2539 การเสนอโครงการจดั ต้งั กิ่งอาํ เภอต่างๆ ในช่วงปี พ.ศ. 2539-ปัจจุบนั แผนท่ีจงั หวดั เชียงราย แสดงพ้นื ที่ซ่ึงเคยมีการเสนอ ใหม้ ีการจดั ต้งั กิ่งอาํ เภอข้ึน ดงั น้ี 1.ก่ิงอาํ เภอ แม่เจดีย์ 2.ก่ิงอาํ เภอวาวี 3.กิ่งอาํ เภอดอยสัก 4.กิ่งอาํ เภอปลอ้ ง 5.ก่ิงอาํ เภอแม่ออ้ หรือ ก่ิงอาํ เภอ พชั รกิติยาภา 6.กิ่งอาํ เภอเรืองนคร เน่ืองจากบางอาํ เภอของจงั หวดั เชียงรายมีพ้นื ที่กวา้ งใหญ่ แมว้ า่ การคมนาคมจะสะดวก ง่ายดายแต่กใ็ ชเ้ วลานานในการเดินทางติดต่อราชการ รวมถึงบางพ้ืนที่ไดม้ ีมีประชากรหนาแน่น ข้ึนและมีความเจริญมากข้ึนเป็นลาํ ดบั จึงมีการเสนอโครงการจดั ต้งั ก่ิงอาํ เภอต่างๆในหลายพ้ืนที่ ต้งั แต่ปี พ.ศ. 2539 (ดงั รูป 3) ดงั น้ี เสนอใหแ้ ยกตาํ บลแม่เจดีย์ ตาํ บลแม่เจดียใ์ หม่ และตาํ บลเวยี งกาหลง ออกจากอาํ เภอเวยี ง ป่ าเป้ าในปี พ.ศ. 2539 เพอื่ ต้งั เป็น กิ่งอาํ เภอแม่ขะจาน อาํ เภอเวยี งป่ าเป้ า เน่ืองจากแม่ขะ จานไกลจากตวั เมืองเวยี งป่ าเป้ าแต่มีความเจริญและประชากรเริ่มหนาแน่นกวา่ อยา่ งไรก็ ตาม ชื่อก่ิงอาํ เภอแม่ขะจานยงั ปรากฏตามเวบ็ ไซตต์ ่างๆอยา่ งไม่เป็นทางการอาจสร้าง ความสบั สนกบั ผอู้ ่านได้
29 เสนอใหแ้ ยกตาํ บลวาวี ออกจากอาํ เภอแม่สรวยในปี พ.ศ. 2539 เพอื่ ต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอวา วี แต่โครงการไดถ้ กู ระงบั เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณ อยา่ งไรกต็ าม ไดม้ กี ารร้ืนฟ้ื น อีกคร้ังหลงั จากมีการเสนอร่างพระราชบญั ญตั ิจดั ต้งั จงั หวดั ฝางข้ึนโดยมีการอา้ งวา่ เป็น ความตอ้ งการของประชาชนในตาํ บลวาวเี นื่องจากเดินทางติดต่อกบั ตวั อาํ เภอฝางสะดวก มากกวา่ ติดต่อกบั จงั หวดั เชียงราย เสนอใหแ้ ยกตาํ บลหว้ ยสักและตาํ บลดอยลานออกจากอาํ เภอเมืองเชียงรายเพ่อื ต้งั ก่ิงอาํ เภอ ดอยสกั ในปี พ.ศ. 2539 แต่โครงการไดถ้ ูกระงบั เนื่องจากขาดแคลนงบประมาณเช่นกนั แต่เนื่องจากมีการเตรียมสถานที่สาํ หรับเป็นท่ีวา่ การกิ่งอาํ เภอชวั่ คราวและมีการข้ึนป้ าย แลว้ จึงทาํ ใหเ้ กิดขอ้ สงสัยสาํ หรับผทู้ ่ีพบเห็นป้ ายในสมยั หลงั [57] เสนอใหแ้ ยกตาํ บลปลอ้ ง ตาํ บลแม่ลอย ตาํ บลศรีดอนชยั และตาํ บลเชียงเคี่ยน ออกจาก อาํ เภอเทิง เพื่อต้งั เป็นก่ิงอาํ เภอปลอ้ ง เสนอใหแ้ ยกตาํ บลแม่ออ้ และตาํ บลสันมะเคด็ ออกจากอาํ เภอพาน เพ่ือต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอแม่ ออ้ ในปี พ.ศ. 2539 แต่กไ็ ดถ้ ูกระงบั ไปเช่นกนั จนกระทง่ั ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2556 ก็ ไดม้ ีข่าวการทาํ ประชาคมเพอ่ื เสนอโครงการจดั ต้งั กิ่งอาํ เภออีกคร้ังโดยใชช้ ื่อก่ิงอาํ เภอพชั ร กิติยาภา โดยพบวา่ เกิดความขดั แยง้ ระหวา่ ง 2 ตาํ บลในการเสนอพ้ืนที่ที่เหมาะสมในการ ต้งั ศนู ยร์ าชการของอาํ เภอใหม่[58] ท้งั ยงั ก่อใหเ้ กิดขอ้ ถกเถียงเกี่ยวกบั ความเหมาะสมของ ช่ืออาํ เภอวา่ จะเป็นช่ือทอ้ งถ่ินหรือเป็นช่ือพระราชทานอีกดว้ ย เสนอใหแ้ ยกตาํ บลคร่ึง ตาํ บลหว้ ยซอ้ และตาํ บลบุญเรือง ออกจากอาํ เภอเชียงของเพือ่ ต้งั เป็นกิ่งอาํ เภอเรืองนคร แต่โครงการน้ีไดถ้ กู ระงบั ไปเช่นกนั การเสนอโครงการจดั ต้งั จงั หวดั เทิงนคร ในช่วงปี พ.ศ. 2540-2545 หลงั จากไดม้ ีการจดั ต้งั หน่วยงานราชการระดบั จงั หวดั เช่น เรือนจาํ จงั หวดั เทิง ศาลจงั หวดั เทิงสาํ นกั งานอยั การจงั หวดั เทิง สาํ นกั งานขนส่งจงั หวดั เชียงราย สาขาเทิง จึงไดม้ ีกระแสการเสนอรณรงคเ์ พ่อื เสนอโครงการจดั ต้งั จงั หวดั เทิงข้ึนโดยนกั การเมือง ในเขตอาํ เภอเทิง โดยใชช้ ่ือที่ใชใ้ นการรณรงคใ์ นขณะน้นั วา่ จงั หวดั เทิงนคร โดยเสนอท่ีจะ แยก อาํ เภอเทิง อาํ เภอเชียงของ อาํ เภอป่ าแดด อาํ เภอพญาเมง็ ราย อาํ เภอขนุ ตาล และอาํ เภอเวยี ง
30 แก่น จงั หวดั เชียงราย ข้ึนเป็นจงั หวดั ใหม่ แต่โครงการน้ีไดเ้ งียบไปแและเป็นท่ีกล่าวถึงใหม่เป็น ระยะๆบนกระดานสนทนาต่างๆบนอินเทอร์เน็ต การเสนอโครงการจดั ต้งั จงั หวดั เชียงของ หลงั จากมีการก่อสร้าง สะพานขา้ มแม่น้าํ โขงแห่งท่ี 4 (เชียงของ-หว้ ยทราย) ข้ึนท่ีอาํ เภอ เชียงของ ]ในปี พ.ศ. 2554 และมีโครงการเชียงของเมืองใหม่ข้ึนมารับการพฒั นาที่จะตามมาตาม ทางหลวงเอเชียสาย 3 (AH3) หรือเสน้ ทาง R3A จึงมีแนวคิดที่จะเสนอโครงการจดั ต้งั จงั หวดั เชียงของ โดยแยกอาํ เภอเชียงแสน อาํ เภอดอยหลวง อาํ เภอเทิง อาํ เภอเชียงของ อาํ เภอป่ า แดด อาํ เภอพญาเมง็ ราย อาํ เภอขนุ ตาล และอาํ เภอเวยี งแก่น จงั หวดั เชียงราย ข้ึนเป็นจงั หวดั ใหม่ และก่อใหเ้ กิดขอ้ ถกเถียงบนกระดานข่าวในอินเทอร์เน็ตอยรู่ ะยะหน่ึงหลงั จากมีข่าวลงใน หนงั สือพิมพท์ อ้ งถิ่นในปี พ.ศ. 2554 อยา่ งไรกต็ ามโครงการดงั กล่าวไดเ้ งียบไปหลงั จากน้นั ไม่ นาน แผนท่ี โครงการจดั ต้งั จงั หวดั ใหม่ แผนท่ีแสดง 6 อาํ เภอ ไดแ้ ก่ อาํ เภอป่ าแดด อาํ เภอเทิง อาํ เภอพญาเมง็ ราย อาํ เภอขนุ ตาล อาํ เภอเวยี งแก่น และ อาํ เภอเชียงของ ที่มีการเสนอ โครงการจดั ต้งั จงั หวดั เทิงนคร
31 สถานทท่ี อ่ งเทย่ี ว 1. สิงห์ ปาร์ค สิงห์ ปาร์ค (Singha Park) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกวา่ ไร่บุญรอด ต้งั อยรู่ ิมถนนสายเด่นหา้ - ดงมะดะ อาํ เภอเมือง ห่างจากเขตชุมชนเมืองเชียงราย ประมาณ 9 กิโลเมตร ในพ้นื ที่ประมาณ 8,000 ไร่ ครอบคลุม 4 ตาํ บล ไดแ้ ก่ ตาํ บลดอยฮาง ตาํ บลรอบเวยี ง ตาํ บลป่ าออ้ ดอนชยั และ ตาํ บลแม่กรณ์ ความสูงของพ้นื ที่เฉล่ีย 450 เมตร เหนือจากระดบั น้าํ ทะเล ในฤดูหนาวอากาศ ค่อนขา้ งเยน็ สบาย 2. พระธาตุดอยตุง พระธาตุดอยตุง ต้งั อยบู่ ริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 บนทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นท่ีบรรจุ พระรากขวญั เบ้ืองซา้ ย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพทุ ธเจา้ นาํ มาจากมธั ยประเทศ นบั เป็นคร้ัง แรกท่ีพระพุทธศาสนาลทั ธิลงั กาวงศไ์ ดม้ าประดิษฐานท่ีลา้ นนาไทย เม่ือก่อสร้างพระสถูปบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุน้ี ไดท้ าํ ธงตะขาบ (ภาษาพ้ืนเมืองเรียกวา่ ตุง) ใหญ่ยาวถึงพนั วา ปักไวบ้ น ยอดดอย ถา้ หากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน กจ็ ะกาํ หนดเป็นฐานพระสถูป เหตุน้ีดอยซ่ึง เป็นท่ีประดิษฐานปฐมเจดียแ์ ห่งลา้ นนาไทย จึงปรากฏนามวา่ ดอยตุง
32 3. พระตาํ หนกั ดอยตุงและสวนแม่ฟ้ าหลวง พระตาํ หนกั ดอยตุง ต้งั อยใู่ นเขตอาํ เภอแม่ฟ้ าหลวง ห่างจากตวั เมืองเชียงรายประมาณ 60 กิโลเมตร พระตาํ หนกั ดอยตุงเคยเป็นที่ประทบั แปรพระราชฐานเพ่ือทรงงานของสมเดจ็ พระศรี นครินทราบรมราชชนนี มีรูปทรงผสมผสานระหวา่ งศิลปะลา้ นนากบั ชาเลยข์ องประเทศ สวติ เซอร์แลนด์ มีการแกะสลกั ไมต้ ามกาแล เชิงชายและขอบหนา้ ต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ โดย ฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตาํ หนกั มีสวนดอกไมห้ ลากพนั ธุ์ หลายสี ใหค้ วามสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ บริเวณยอดเขารอบพระตาํ หนกั มีเจา้ หนา้ ที่นาํ ชมเป็น รอบ รอบละ 20 นาที เปิ ดใหเ้ ขา้ ชมทุกวนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: