The Scientific Revolution การปฏวิ ัตทิ างวทิ ยาศาสตร์
ปัจจยั ส่งเสริม การปฏิวตั ิวิทยาศาสตร์ การใชห้ ลกั เหตุผลในการแสวงหาความจรงิ การฟนื้ ฟวู ิทยาการสมยั คลาสสคิ นกั วิทยาศาสตรช์ าวยโุ รปเรยี นรู้ความคดิ ที่กา้ วหน้าและ การใช้หลกั เหตุผลของนักปราชญ์ชาวกรกี และโรมัน ทา ใหห้ ลดุ ออกจากกรอบความคดิ ที่ถกู กาหนดโดยศาสนา การเกดิ ขึ้นของวทิ ยาการการพมิ พโ์ ดย โยฮนั เนส กเู ตนเบิรก์
นกั วิทยาศาสตรค์ นสาคัญสมัยปฏิวัติวทิ ยาศาสตร์ Nicholas Galileo Sir Francis Johannes Reneé Sir Isaac Copernicus Galilei Bacon Kepler Descartes Newton (1473-1543) (1564-1642) (1561-1626) (1571-1630) (1596-1650) (1642-1727)
คน้ พบทฤษฎีสรุ ิยจกั รวาล พบวา่ โลกมสี ณั ฐานกลม และเปน็ ดาวดวงหนึ่งในระบบสรุ ยิ จกั รวาล ยนื ยนั ตามทฤษฎีของคอเปอร์นคิ สั โดยใช้กลอ้ งโทรทรรศนใ์ นการศึกษา คน้ พบดวงจนั ทร์ของดาวฤกษ์ วงแหวนของดาวเสาร์ จดุ ดบั บนดวงอาทิตย์ ศกึ ษาการแกวง่ ของตุม้ นาฬิกา ศกึ ษาเกย่ี วกบั มวลของวตั ถุ
ใชค้ ณติ ศาสตรใ์ นการคานวณการโคจรของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ิยจกั รวาล ค้นพบกฎการเคลอ่ื นที่ของดวงดาว ส่งเสริมการศกึ ษาวทิ ยาศาสตร์โดยวธิ ีการศึกษาแบบอปุ นยั เชอ่ื ว่าความร้ขู องมนุษยเ์ กิดจากประสบการณ์ วธิ กี ารไดม้ าซง่ึ ประสบการณค์ อื ศึกษาขอ้ มลู ทม่ี อี ยจู่ รงิ ในธรรมชาติ รวบรวม ขอ้ มูลเหลา่ นน้ั กอ่ นนามาวเิ คราะหแ์ ละสรปุ เปน็ องคค์ วามรหู้ รอื ทฤษฎี วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Method)
ความรแู้ ละความคดิ ของมนษุ ยต์ อ้ งตงั้ อยบู่ นหลกั ของเหตผุ ลทอี่ ธบิ ายและตรวจสอบได้ เชน่ เดยี วกบั หลกั คณติ ศาสตร์ ดังน้ันหากความรแู้ ละความเชอ่ื ใดทย่ี อมรบั กนั ตอ่ ๆ มาไมน่ ่าเชอื่ ถอื เพราะไมส่ ามารถ อธบิ ายดว้ ยหลกั เหตผุ ล มนุษย์กต็ ้องแสวงหาความรใู้ หมท่ ไี่ ดร้ บั การยอมรับ เรขาคณติ วเิ คราะห์ (Analytic Geometry) คน้ พบแรงโนม้ ถว่ งของโลก และใหข้ อ้ สรุปเกี่ยวกบั การโคจรและการเคลอื่ นไหวใน ระบบสรุ ยิ จกั รวาลวา่ เปน็ ไปตามกฎแห่งความโนม้ ถ่วง (Law of Gravitation) แคลคลู สั (Calculus) ทฤษฎสี ี (Newton's theory of color)
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: