age of discovery

การสารวจทางทะเลของชาวยโุ รปเกดิ จากความต้องการ พฒั นาเสน้ ทางทะเลตดิ ตอ่ ระหว่างยโุ รปกบั เอเชยี ส่งผล ใหเ้ กิดเส้นทางเดนิ เรือติดตอ่ ระหวา่ งดนิ แดนต่าง ๆ รอบ โลก ทาใหค้ ้นพบดินแดนใหม่ ๆ ซ่งึ ยงั ไมเ่ ป็นท่ีรูจ้ ักมา กอ่ น และทาใหเ้ กิดการเปลยี่ นแปลงประวัตศิ าสตร์ของ มนุษยชาตอิ ย่างกว้างขวาง

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยกี ารเดนิ เรอื การเปลย่ี นแปลงทางการเมืองในยุโรป การเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกิจในยโุ รป การขยายตวั ของประชากรยโุ รป

- เปน็ ชาตแิ รกทเ่ี ร่มิ สารวจทางทะเลตั้งแต่ต้นครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 15 - เจ้าชายเฮนรี (Henry the navigator) เปน็ ผู้สง่ เสรมิ การพฒั นาการ เดินเรือและฝกึ ฝนนกั เดินเรอื ของโปรตุเกส - ค.ศ.1460 โปรตเุ กสมีการสารวจลดั เลาะไปตามชายฝง่ั ของ ทวีปแอฟรกิ ามาถึงบรเิ วณคาเมรนู (Cameroon) บริเวณแอฟรกิ า ตะวนั ตก จงึ ได้มีการยดึ ครองดินแดนนแี้ ละต้งั สถานกี ารคา้ ขนึ้

นกั เดนิ เรอื ชาวโปรตุเกสคนสาคัญ (Team Portuguese) บาร์โธโลมวิ ไดแอส วาสโก ดา กามา เปโดร คาบาล (Bartolomeu Diaz) (Vasco Da Gama) (Pedro Cabral)

ไดเ้ ดนิ ทางไปถงึ ปลายสดุ ของทวปี แอฟรกิ า ในปี ค.ศ. 1488 เป็นบริเวณทบี่ รรจบกนั ของมหาสมุทร อินเดยี และมหาสมุทรแอตแลนตกิ ไดแอสเรยี กบรเิ วณนีว้ ่า “Cape of Storms” แต่ต่อมาพระเจ้าจอห์นที่ 2 แห่ง โปรตุเกสไดพ้ ระราชทานนามใหม่วา่ “Cape of Good Hope”

ไดเ้ ดนิ ทางไปตามเสน้ ทางของไดแอสและไดอ้ ้อมแหลมกู๊ดโฮปขึ้นไปทางเหนอื ลดั เลาะชายฝั่งตะวนั ออก ของแอฟรกิ า และได้จา้ งพอ่ ค้าชาวอาหรับนาทางจนไปถงึ ชายฝง่ั ของอินเดยี ในปี ค.ศ.1497

นากองเรอื ของโปรตุเกสบรรทกุ สนิ คา้ ออกเดนิ ทางตาม เสน้ ทางของวาสโก ดา กามา ไปอินเดยี แตก่ องเรือถกู พลดั ออกจากเสน้ ทาง จนเดินทางมาถึงชายฝั่งทะเลบราซิล ในปี 1500 และกไ็ ด้อ้างสิทธิในการครอบครองบราซิล ใหแ้ กก่ ษัตรยิ โ์ ปรตเุ กส

- ในอดีตเคยตกอย่ใู ต้การปกครองของพวกมวั ร์ - แต่ในปี ค.ศ.1469 มกี ารอภเิ ษกสมรสกนั ระหวา่ งรชั ทายาทของ 2 อาณาจกั รครสิ เตียน สเปนคือ เจ้าหญิงอสิ ซาเบลลาแห่งคาสติล (Isabella of Castile) และเจา้ ชาย เฟอร์ดนิ านแหง่ อรากอน (Ferdinand of Aragon) ซ่ึงถอื เป็นการวางรากฐาน ในการรวมชาติสเปนในเวลาตอ่ มา - ในปี 1492 ได้ยดึ ครองอาณาจกั รกรานาดา (Granada) ซึง่ เป็น ท่มี น่ั สุดท้ายของมวั ร์ สเปนจงึ เป็นปึกแผน่ และนาไปส่กู ารอปุ ถมั ภ์ การออกสารวจทางทะเลเพื่อเผยแพรค่ ริสตศ์ าสนาและแสวงหาเสน้ ทาง ติดต่อค้าขายเครือ่ งเทศกบั เอเชีย

นักเดินเรอื ชาวสเปนคนสาคญั (Team Spanish) ครสิ โตเฟอร์ โคลัมบสั พอนซ์ เดอ ลอี ง บลั บวั (Christopher Columbus) (Ponce de Leon) (Balboa) เฟอรด์ นิ านด์ มาเจลแลน ฟรานซสิ โก ปซิ ารโ์ ร (Ferdinand Magellan) (Francisco Pizarro)

นักเดนิ เรอื ชาวสเปนทไ่ี ดเ้ ดนิ ทางมาถึงบรเิ วณคอคอปานามา (Panama Istmus) และได้คน้ พบมหาสมทุ รแปซฟิ กิ ในเวลาตอ่ มา

ไดร้ บั การอปุ ถัมภ์จากพระราชนิ อี สิ ซาเบลลาแหง่ คาสตลิ ในปี ค.ศ.1492 ใหเ้ ดนิ ทางข้ามมหาสมทุ รแอตแลนติกไปสู่ทวีปเอเชีย โคลัมบัสเช่ือว่าโลกกลม เพราะฉะนน้ั ถ้าหากเดนิ ทางไปทางทศิ ตะวันตกก็ อาจจะเจอคน้ พบทวีปเอเชยี ได้

โคลมั บสั ออกทางสารวจดินแดน ทเ่ี ขาค้นพบถงึ 3 คร้ัง กอ่ นที่จะ เสียชีวิตในปี 1506 โดยที่เขาก็ ไมค่ ่อยจะแน่ใจวา่ ดนิ แดนที่เขา คน้ พบเปน็ ส่วนหนง่ึ ของเอเชีย

Christopher Columbus Statue Beheaded In Boston Amid Anti-Racism Protests

นกั เดินเรอื ชาวฟลอเรนซ์ ได้เดนิ ทางสารวจโลกถึง 3 คร้งั การเดินทาง 2 ครัง้ แรกเปน็ การรับจ้างกษตั ริยส์ เปนไปสารวจเสน้ ทางทโี่ คลมั บัสคน้ พบ โดย เวชปชุ ชไี ด้รายงานวา่ ดนิ แดนที่โคลมั บัสพบไมใ่ ช่ทวปี เอเชีย ส่วนการเดินทาง ครง้ั ท่ี 3 เปน็ การว่าจา้ งจากกษัตริย์โปรตุเกสให้สารวจบราซลิ มารต์ นิ ไวดซ์ ีมลู เลอร์ (Martin Waldseemuller) ใหเ้ กยี รตเิ วชปชุ ชี โดยการตง้ั ชอื่ ดนิ แดนแถบทเี่ ขาไปสารวจวา่ America ซึง่ ต่อมาชอ่ื ดังกลา่ วไดถ้ กู นาไปใช้เรยี กดนิ แดนในโลกใหมท่ ง้ั หมดวา่ ทวปี อเมรกิ า

จุดประสงค์ของมาเจลแลนคอื การคน้ หาเส้นทางเดนิ เรอื ไปสหู่ มเู่ กาะโมลุกกะ (Molucca Island) โดยออก เดินทางจากสเปนในปี ค.ศ. 1519 ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกผา่ นชอ่ งแคปตอนใตส้ ุดของทวีปอเมรกิ าใต้ เข้ามายงั มหาสมทุ รซึ่งเขาต้ังชื่อว่า “แปซิฟกิ ” เมอ่ื เดนิ ทางมาถึง หมเู่ กาะฟิลิปปินส์ ไดอ้ า้ งสทิ ธขิ องกษตั รยิ ส์ เปนเหนอื หมเู่ กาะดงั กลา่ ว กอ่ นท่จี ะปะทะกบั ชาวพน้ื เมอื งและถูกฆา่ ตายในปี ค.ศ.1521



ในปี ค.ศ.1519-1521 เข้ายดึ ครองดินแดนของ พวกแอสเทค (Aztec) ในเมก็ ซิโก (Mexico) ในปี ค.ศ.1533 นากองทัพเขา้ ยดึ ครองดินแดน ในปี ค.ศ.1513 ออกสารวจ ของพวกอินคา (Inca) ในเปรู (Peru) ดินแดนฟลอริดา (Florida)

สนั ตะปาปาอเลก็ ซานเดอรท์ ่ี 6 ทรงให้สเปนและโปรตุเกสตกลงนามใน สนธสิ ัญญาตอรเ์ ดซยิ าส โดยกาหนดให้เสน้ เมอรเิ ดียนท่ี 370 ทาง ตะวันตกของหม่เู กาะเวริ ด์ (Cape Verde Islands) ซึง่ โปรตุเกสประกาศ ยดึ ครองตงั้ แต่ 1460 เรยี กกันวา่ “เสน้ สนั ตะปาปา (Pope Line)” กาหนดใหส้ เปนมีสทิ ธสิ ารวจและยดึ ครองดินแดนทางตะวนั ตกของเสน้ นี้ สว่ นโปรตเุ กสไดส้ ทิ ธิทางตะวันออกของเส้นน้ี





- ปลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 15 คณะนกั สารวจขององั กฤษได้พบ ดนิ แดนชายฝงั่ หมเู่ กาะนวิ ฟาวด์แลนดท์ างตอนเหนอื ของทวีป อเมรกิ าเหนือ แต่ยงั ไมไ่ ดจ้ ัดตัง้ อาณานคิ ม - คร่งึ หลังของคริสตศ์ ตวรรษท่ี 16 องั กฤษเริ่มพัฒนากองเรือเพ่อื ทาลายความเขม้ แข็งทางการค้าทางทะเลของโปรตุเกสและสเปน - ต้นครสิ ต์ศตวรรษท่ี 17 รฐั บาลองั กฤษออกประทานบตั รให้จัดต้งั บรษิ ทั เอเชยี ตะวนั ออกขององั กฤษ ซ่งึ ไดจ้ ัดต้งั สถานกี ารค้าใน อนิ เดยี และคาบสมุทรมลายู

นกั เดินเรอื ชาวเจนัว ออกเดนิ ทางสารวจภายใตก้ ารอุปถมั ภ์ ของพระเจา้ เฮนรที ่ี 7 ได้เดนิ ทางมาถึงเกาะนวิ ฟาวแลนด์ (Newfoundland)

ในปี ค.ศ.1584 ไปสารวจบรเิ วณทวปี อเมริกาเหนือ บรเิ วณ แคโรไลนาเหนอื และตั้งชือ่ ดินแดนน้วี า่ “เวอร์จเิ นยี (Virginia)” เพื่อเปน็ เกยี รตแิ ก่พระราชนิ ีอลซิ าเบธที่ 1

ปลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 18 เจมส์ คุก ได้เดนิ เรอื ไปสารวจจนถงึ ทวีป ออสเตรเลยี และอา้ งสทิ ธขิ องอังกฤษเหนือดินแดน ดงั กล่าว



การสารวจทางทะเลสง่ ผลตอ่ พฒั นาการของยโุ รปทงั้ ทางการเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คม - ยุโรปกลายเป็นศนู ย์กลาง - ยุโรปเจรญิ มงั่ คงั่ - สถานะของพ่อค้าทเ่ี ปน็ ชน อานาจของโลก - เกิดการขยายตัวทาง ช้นั กลางได้รับการยอมรับ - การแขง่ ขนั ขยายอทิ ธพิ ล การคา้ มกี ารใชร้ ะบบเงินตรา จากชนชนั้ สงู มากขึน้ ในอาณานคิ มตา่ ง ๆ ธนาคารอย่างกว้างขวาง - ทาใหเ้ กิดการบรโิ ภคสนิ คา้ - เกดิ ความขัดแยง้ ทาง - ยโุ รปเป็นผูน้ าในการ จากเอเชีย การเมอื งในยุโรป ปฏิวตั อิ ุตสาหกรรม - เรยี นรูศ้ ลิ ปกรรมของ ชาวตะวนั ออก