renaissance

ยาค็อบ บุรค์ ฮารด์ (Jacob Burckhardt) นกั วชิ าการคนแรกทมี่ องเหน็ การเปลยี่ นแปลงและทาวจิ ยั เรื่อง “The Civilization of the Renaissance in Italy” 2

การฟ้ืนฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) หมายถงึ การเกดิ ใหม่ (Rebirth) หรอื การรื้อฟื้น (Revival) ศลิ ปวทิ ยาการจากกรีกและโรมนั พรอ้ ม ๆ กัน การพัฒนาความคิด การคดิ คน้ และการประดษิ ฐส์ ง่ิ ใหม่ ๆ

ระยะคลาสสคิ ระยะมนษุ ยนยิ ม ระยะศาสนา Classic Humanistic Religious “การยอ้ นกลบั ไปสู่โรม” “การยอ้ นกลบั ไปสเู่ อเธนส์” “การยอ้ นกลบั ไปสู่เยรซู าเลม็ ” เนน้ เรอื่ งราวเกยี่ วกบั เสรภี าพ โดย โรมเป็นแหลง่ สบื คน้ ศกึ ษา ย้อนกลบั ไปศกึ ษาตน้ ตอของศลิ ป ศึกษาเรอ่ื งราวของศาสนา มีการตาหนิ วทิ ยาการปกครอง วรรณคดี และ และวพิ ากษว์ จิ ารณค์ วามเส่อื มของ ศลิ ปกรรม ท่เี ป็นเรอ่ื งราวของศิลปะ วิทยาการทเ่ี อเธนส์ ศาสนากอ่ นทจ่ี ะมกี ารปฏริ ปู ศาสนาใน เพอื่ ศิลปะ C.16 4



1. กองทัพครเู สด มลี ักษณะเปน็ กองทพั นานาชาติ ทาใหท้ หารทมี่ าจาก ดินแดนทตี่ า่ งกนั ไดแ้ ลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ ซง่ึ กนั และกนั 2. กลุ่มชนช้ันกลางใหเ้ งนิ สนับสนุนกษตั รยิ ใ์ นการสร้างรฐั ชาติ ซึ่งมีผลต่อ การฟื้นฟูศลิ ปวทิ ยาการทจ่ี ะขยายอทิ ธพิ ลไปในกลมุ่ รฐั ชาตทิ เี่ กิดขนึ้ ใหม่ 3. การขยายตวั ทางการคา้ ระหว่างยุโรปตะวนั ตกกบั ยโุ รปตะวันออก 4. กองทัพครูเสดไดไ้ ปสมั ผสั และรับเอาอารยธรรมมสุ ลมิ ท่ีเจริญกว่าเขา้ มา

ระหว่างศตวรรษท่ี 14 – 16 ศนู ยก์ ลางของวฒั นธรรมไดเ้ ปล่ยี น จากวดั หรอื ปราสาทขนุ นางมาอยใู่ นราชสานกั ของกษัตรยิ ์ โดยเฉพาะในราชสานักบริเวณแหลมอติ าลมี ผี ู้ปกครองทร่ี ่ารวยจากการค้าขาย ใช้อทิ ธิพลทางการเงินของตนเองในการอุปถมั ภง์ านดา้ นศิลปวทิ ยาการตา่ ง ๆ “House of Sforza” “House of Medici” ตระกลู สฟอรซ์ า ตระกลู เมดชิ ี แห่งเมอื งมลิ าน แห่งเมอื งฟลอเรนซ์

ในปี ค.ศ.1453 คอนสแตนตโิ นเปลิ ศูนยก์ ลางไบแซนไทน์ถูก ออตโตมันทนี่ ับถอื อิสลามเขา้ ยึดครอง ทาให้พวกนักปราชญท์ ่มี ีความรคู้ วามเชยี่ วชาญในอารยธรรม คลาสสิค (กรกี -โรมัน) อพยพลี้ภัยยา้ ยมาอาศัยในยโุ รปตะวันตก นักปราชญ์เหล่าน้กี ไ็ ดถ้ ่ายทอดศิลปวทิ ยาการเพื่อเติมเต็มการฟ้นื ฟู ศลิ ปวิทยาการซ่งึ เกิดข้นึ มากอ่ นหน้าให้สมบรู ณม์ ากขนึ้

9

สาเหตุ 1. อิตาลีเปน็ แหลง่ กาเนดิ ของอารยธรรมโบราณ 2. สันตะปาปาและศาสนจกั รทโี่ รมตอ้ งการฟน้ื ฟอู านาจของพระท้ัง ในทางโลกและทางธรรม 3. สภาพเศรษฐกจิ และภมู ศิ าสตรม์ คี วามเหมาะสม 4. ชาวอติ าเลยี นยดึ คณุ คา่ ทางศีลธรรมแบบพวกนอกศาสนา (Pagans) 5. ทัศนคตแิ ละอปุ นสิ ยั ของชาวอติ าเลยี น



เปน็ ขบวนการสาคญั ซงึ่ เปน็ ปจั จยั หนงึ่ ที่ทาใหเ้ กดิ การฟน้ื ฟศู ลิ ปวทิ ยาการ ขึ้นมา โดยเนน้ การศกึ ษาทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั มนษุ ย์ ตามแบบอย่าง ชาวกรกี และชาวโรมนั ในยคุ โบราณ

เพทราค (Francesco Petrarch) “บิดาแห่งมนษุ ยนยิ ม” Sonnet : ซอนเนท เปน็ บทเพลงรกั สั้น ๆ กล่าวถึงความรักอนั บรสิ ทุ ธ์ิ ที่มีตอ่ ลอรา (Loura) ซ่งึ แสดงให้เหน็ ถงึ ลักษณะของลทั ธิมนุษยนยิ มท่มี องโลกในแง่ดี

บอคคซั ซโิ อ (Giovanni Boccaccio) เปน็ ชาวอิตาเลยี น ชนชั้นกลางยคุ ใหม่ Decameron : นิยายเสยี ดสสี งั คม พยายามวางแบบฉบับตามธรรมชาติ ค่านิยม และ ปลกู ฝังทศั นคตใิ หม่ ๆ ใหแ้ ก่ชนชน้ั กลางทจี่ ะกา้ วเข้า มาทาหนา้ ท่ีเช่นเดยี วกับชนช้นั สูง

อีราสมุส (Desiderius Erasmus) สมญานาม “เจ้าชายแห่งนกั มนษุ ยนยิ ม” เปน็ คนแรกท่แี ปลและพมิ พค์ มั ภีรไ์ บเบิลฉบบั ภาษากรกี และเปน็ บคุ คลสาคญั ในการวางรากฐานปฏิรปู ศาสนาให้แกม่ ารต์ นิ ลูเธอร์ Praise of Folly: การสรรเสรญิ ความโง่ เสยี ดสสี ังคม ถากถางความบา้ คลั่งงมงายของนักบวช เรียกรอ้ งให้คนมีใจกวา้ ง มีเหตผุ ลและเคารพสิทธิผอู้ ื่น

เซอรโ์ ทมสั มอร์ (Sir Thomas More) นกั มนษุ ยนยิ มชาวองั กฤษ Utopia: รัฐอดุ มคติ กล่าวถงึ รฐั ทม่ี ีความอดุ มสมบูรณ์ ปราศจากความชั่วร้าย ใด ๆ ทรัพย์สมบตั ิท้งั หมดเป็นของสงั คมท่ีประชาชนมี สิทธิใชเ้ ทา่ เทยี มกัน เขียนขึน้ เพือ่ เสยี ดสใี หเ้ หน็ ถึง ความเปน็ จรงิ ทีเ่ กดิ ขึ้นในชนบทอังกฤษ

แมคคีอาเวลลี (Nicolo Machiavelli) นักปรชั ญาการเมอื งชาวฟลอเรนซ์ The Prince : เจ้าผปู้ กครอง กล่าวถึง ทฤษฎกี ารปกครองและคณุ สมบตั ขิ องผู้นา ลกั ษณะของรัฐท่เี ขม้ แข็งท่ีต้องปกครองโดยคนเดียว ผนู้ าทมี่ สี ง่างาม กลา้ หาญเหมอื นสงิ โต และมเี ลห่ ์ เล่ียมแกมโกงเหมอื นสุนัขจงิ้ จอก



1. เนน้ ความสวยงามตามแบบกรกี /โรมนั 2. เน้นความเหมอื นจรงิ เปน็ ธรรมชาติ 3. ใหค้ วามสาคญั กบั แสงและเงาเปน็ สามมติ ิ 4. มกี ารใชเ้ ทคนคิ ใหม่ ๆ ในการผสมสี ใช้สนี า้ และการวาด ภาพลงบนกาแพง (ภาพสปี นู เปียก Fresco painting) 5. ให้ความสนใจในเรอื่ งการจัดภาพทมี่ สี ดั สว่ นถกู ตอ้ ง

เลโอนาโด ดาวินชี (Leonardo Da Vinci) Mona Lisa: โมนาลซิ า

The Last Supper : พระกระยาหารมอ้ื สดุ ทา้ ย



ไมเคลิ แองเจโล (Michael Angelo) 23

The Last Judgement : การพพิ ากษาครง้ั สดุ ทา้ ย

The Creation of Adams

ราฟาเอล (Raphael) The School of Athens

บอทตเิ ชลลี (Sandro Botticelli) The Birth of Venus

Dante’s Divine Comedy



มหากาพย์ นยิ ายรกั หวานช่ืน บทเพลงรัก นยิ ายลอ้ เลยี นสงั คม (Epic) (Comedy) (Lyric) (Fabliaux)

นกั ประพนั ธ์ชาวอิตาเลียน ผลงานท่มี ชี ือ่ เสียงคือ “ดไิ วน์ คอมเมด้ี (Devine Comedy)” เรอื่ งราวการเดินทางไป นรก สวรรค์ ของดนั เต้

นักประพนั ธ์ชาวองั กฤษ ผลงานของเชคสเปียรส์ มอี ิทธพิ ลและเป็นแบบ ฉบบั นาไปแสดงในประเทศต่าง ๆ ท่ัวโลก งานของเขาจะเน้นความเปน็ เอกภาพ (Unity) ของ 3 อย่าง ไดแ้ ก่ - เอกภาพของเวลา (Unity of Time) - เอกภาพของสถานท่ี (Unity of Place) - เอกภาพของการกระทา (Unity of Action)

ผลงานของเชคสเปยี รส์ มหี ลายเรอ่ื งหลายรส ประวัตศิ าสตร์ การตอ่ สูข้ อง ความรกั อติ าลี มนษุ ยภ์ ายใต้ โรแมนตกิ ความกดดัน ความริษยา ความทะเยอทะยาน



ค.ศ.1450 โยฮันเนสก์ กูเตนเบริ ก์ (Johannes Gutenberg) ได้ประดิษฐ์ตัวพิมพโ์ ลหะแบบ เคลื่อนทไ่ี ด้

๐ ทาให้เกดิ การผลติ หนงั สอื และเอกสารตา่ ง ๆ ได้เปน็ จานวนมาก ราคาถูกและรวดเรว็ ๐ การพิมพ์ชว่ ยในการปกครอง รัฐบาลสามารถเผยแพร่ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทางราชการไดง้ า่ ยขน้ึ และรวดเรว็ ในขณะเดยี วกนั ประชาชนสามารถ วพิ ากษว์ จิ ารณ์รฐั บาลไดง้ ่าย ๐ ทาให้เกดิ วรรณคดขี องชาติ นาเอกลักษณข์ องแต่ละชาติ ซ่ึงแต่เดมิ เป็นเพยี งภาษาพูดมาใชเ้ ปน็ ภาพเขยี นดว้ ย ๐ ทาให้เกดิ ความรทู้ างศาสนา โดยเฉพาะการตีพิมพ์คมั ภีร์ไบเบลิ ชว่ ยให้ประชาชนมสี ิทธิเรยี นรู้คาสอนศาสนาดว้ ยตนเอง

เกดิ จากการแลกเปลีย่ นวทิ ยาการกบั โลก ตะวนั ออก การพัฒนาอุปกรณ์การเดินเรือ พวกเข็มทศิ แผนทแ่ี ละเรอื เดินทางไกล ส่งผลให้เกิดการเดินเรือสารวจเส้นทาง ทะเลใหม่ ๆ ทาใหค้ ้นพบดนิ แดนใหม่ ๆ



ผลกระทบของการฟื้นฟูศิลปวทิ ยาการ ยคุ แสงสวา่ งแหง่ ปัญญา การปฏิรูปศาสนา (Age of Enlightenment) (The Reformation) การปฏิวตั ิวทิ ยาศาสตร์ การออกสารวจทางทะเล (Scientific Revolution) (The Age of Discovery)

เอกสารท่ใี ชอ้ ้างองิ มยุรี เจริญ. (2559). ประวตั ศิ าสตรย์ ุโรป 1. พิมพค์ ร้ังที่ 6. กรงุ เทพฯ: สานักพมิ พ์มหาวิทยาลัยรามคาแหง. วงเดือน นาราสจั จ์. (2558). เอกสารประกอบการสอนอารยธรรมตะวันตกและประวตั ิศาสตรย์ ุโรป. ภาควชิ า ประวตั ศิ าสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ. รวบรวมโดยนายสุภยศ สริ โิ ชคดกี ลุ ศฤงคาร พนั ธพุ งศ์. (2560). ประวัติศาสตร์ยโุ รปตน้ ยุคใหม่ ค.ศ.1450-1789. พิมพค์ รงั้ ที่ 2. กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพม์ หาวิทยาลยั รามคาแหง. อนนั ตชัย เลาหะพันธุ. (2554). ยโุ รปสมัยใหม่ ค.ศ.1492-1815. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ศกั ดโิ สภาการพิมพ์.

นยิ ายแนะนาเพอื่ การศึกษาพร้อมความบนั เทงิ ใหข้ อ้ มูลประวัติศาสตร์, ศลิ ปะ ให้ข้อมูลประวัติศาสตรใ์ นยุคกลาง ใหข้ อ้ มูลประวัตศิ าสตรใ์ นยุคกลาง คริสตศ์ าสนา, สถานทส่ี าคญั ความเชอ่ื ทางคริสต์ศาสนา,ศิลปะ, ภาพนรกของดนั เต้, สถานทสี่ าคัญ ในนครรัฐวาติกัน สถานท่ีสาคัญในฝรงั่ เศส ในกรงุ อิสตันบูล