ประวตั คิ วามเป็นมาของผ้าลายสาเกต ความเป็นมาของผ้าลายสาเกต ผ้ า ที่ พ บ ใ น จั ง ห วั ด ร้ อ ย เ อ็ ด ส่ ว น ม า ก เ ป็ น ผ้าซิ่น ผ้าโสร่ง ผ้าสไบ ผ้าพื้น ผ้าขาวม้า และผ้าปูม (มัดหมี่) เป็นต้น โดยเฉพาะผ้าฝ้ายมัดหม่ีถือเป็นผ้าทีม่ ี ลวดลายอันสวยงาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวท่ีโดดเด่น โดยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดพบลายผ้ามัดหม่ีหลายลาย ท่ีทอสืบทอดมาตั้งแต่โบราณ เช่น ลายขอ ลายบักจับ ลายนาคน้อย ลายคองเอี้ย ลายโคมห้า ลายโคมเจ็ด ลายโคมเก้า เป็นต้น ซ่ึงแต่ละลายเป็นลายผ้าด้าย มดั หม่ีโบราณของทอ้ งถน่ิ ที่แยกกนั อยใู่ นผา้ แตล่ ะผืน ผ ้า ล า ย ส า เ ก ต ค า ว่ า ส า เ ก ต มาจากช่ือเมือง สาเกตนคร ซ่ึงก็คือช่ือเมืองโบราณ อันเปน็ ทต่ี งั้ ของเมืองร้อยเอ็ดในปัจจุบนั ลายผา้ พัฒนา ม า จ า ก ภู มิ ปั ญ ญ า ท้ อ ง ถ่ิ น ด้ั ง เ ดิ ม ข อ ง ช า ว เ มื อ ง ร้อยเอ็ด เป็นลายผ้าท่ีเป็นเอกลักษณ์ประจาจังหวัด ร้อยเอ็ด ได้มีการรวมเอาลายผ้ามัดหม่ีพ้ืนบ้าน ๕ ลาย ทีน่ ยิ มทอในกลุ่มชนทอี่ าศยั อยใู่ นเมอื งร้อยเอด็ ต่อกันรวมอยู่ในผ้าผืนเดียว ทอเป็นผ้าพื้นสลับกับลายผ้าโบราณท่ีทอรวมกันกลมกลืนอย่างลงตัว เ ป รี ย บ เ ส มื อ น เ ป็ น ก า ร ห ล่ อ ห ล อ ม ร ว ม เ อ า ค ว า ม ส า มั ค คี ข อ ง ช า ว ร้ อ ย เ อ็ ด ใ ห้ เ ป็ น ห น่ึ ง เ ดี ย ว ในการทอแต่ละลายจะทอค่ันด้วยผ้าสีพ้ืนสีดอกอินทนิลบก (สีชมพูอมม่วง) ซ่ึงเป็นดอกไม้ประจาจังหวัด ร้อยเอ็ด ลายมัดหมี่พ้ืนบ้าน ๕ ลายที่ประกอบในผ้าสาเกต ได้แก่ ลายโคมเจ็ด ลายนาคน้อย ลายคองเอ้ีย ลายหมากจับ ลายค้าเพา การเริ่มต้นทอ เริ่มจากลายโคมเจ็ด ลายนาคน้อย ลายคองเอ้ีย ลายค้าเพา และลายหมากจับ ได้มีการประกาศชื่อลายสาเกต เป็นผ้าเอกลักษณ์ประจาจังหวัดร้อยเ อ็ด เมอ่ื วันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๔๔
ลวดลายผา้ ลายสาเกต ความหมายของแต่ละลายบ่งบอกถึงวิถีชีวิตของชาวเมืองร้อยเอ็ดได้เป็นอย่างดี ๑. ลายโคมเจ็ด บ่งบอกถึงวิถีชีวิตชุมชนความ เป็นอยู่ที่ดีของชาวเมือง ความเพ่ิมพูนของผลผลิตทาง การเกษตร ความอุดมสมบูรณ์ ความสดใสในชีวิต เป็นเหมอื นโคมไฟส่องสวา่ งสคู่ วามเจรญิ รุ่งเรอื งมิรจู้ บ ๒. ลายนาคน้อย ลายที่มีลักษณะเป็นเหมือน พญานาคพ่นน้า มีความหมายว่าเป็นดินแดนท่ีมีความชุ่ม ชื้น ฝนตกต้องตามฤดูกาล ยังความอุดมสมบูรณ์ให้กับ ทอ้ งไร่และผืนนา ๓. ลายคองเอี้ย เป็นลายผ้าท่ีมีลักษณะเป็นเหมือน แม่น้าลาคลอง เปรียบเสมือนสายเลือดที่เอ้ืออานวย ต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพของชุมชน เกษตรกร ๔. ลายค้าเพา เป็นลายเส้นตรงท่ีปรากฏบน ผืนผ้า บ่งบอกถึงความมีจิตใจที่ซื่อตรง มุ่งม่ัน แน่วแน่ เข้มแข็ง มั่นคงและยั่งยืน อันเป็นอุปนิสัยโดดเด่น ของชาวอีสาน ๕.ลายหมากจับ หมากจับเป็นเมล็ดพันธุ์พืชชนิด ห นึ่ ง ช อ บ ติ ด ข า ก า ง เ ก ง เ ม่ื อ ติ ด แ ล้ ว แ ก ะ อ อ ก ย า ก ส่ือความหมายว่าใครเม่ือได้พบเห็น สัมพันธ์กับชาวเมือง รอ้ ยเอด็ แล้วจะเกดิ ความประทบั ใจไมร่ ้ลู มื
อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า ไนป่ันหลอดด้าย เป็นอุปกรณ์ที่แยกมาจาก ก่ีทอด้าย ใช้สาหรับปั่นด้ายเข้ากระสวย และป่ันด้ายยืน เขา้ ระหัดถักดา้ ย อัก เป็นเครื่องมือที่สาคัญชนิดหน่ึง มีลักษณะเป็น โครงส่ีเหล่ียมประกอบด้วยเสาหลัก 4 เสา ใช้สาหรับกวัก เ ส้ น ด้ า ย ก่ อ น ท่ี จ ะ น า เ ส้ น ด้ า ย ไ ป ค้ น แ ล ะ สื บ เ ส้ น ด้ า ย ยื น เพ่อื ทีจ่ ะทอผา้ ลายสาเกต ไม้คอนอัก เป็นอุปกรณ์สาคัญอย่างหนึ่งในการ ทอผ้าลายสาเกต มีลักษณะเป็นไม้ตั้งฉากและมีไม้หรือเหล็ก เสียบตรงกลางมีขนาดพอประมาณเอาไว้เพ่ือเสียบอักใช้ใน การกวักเสน้ ดา้ ยหรือปัน่ เสน้ ดา้ ย หลอดด้ายพุ่ง เป็นหลอดไม้ไผ่ที่บรรจุด้าย สีต่าง ๆ ซึ่งสอดอยู่ในรางของกระสวย เพ่ือใช้พุ่งไปขัด ด้ า ย ยื น ใ น ข ณ ะ ที่ ช่ า ง ท อ ก า ลัง ท อ ผ้ าห ลอ ด เ ส้น ด้ าย พุ่ง กจ็ ะพงุ่ ไปขัดกบั เส้นฝ้ายยืนเกดิ เป็นลายผ้าตามท่ีต้องการ กระสวย ไม้ทเี่ ปน็ รปู เรยี วตรงปลายทัง้ สองขา้ ง ตรง กลางใหญ่ และมีร่องสาหรับใส่หลอดด้ายพุ่ง ใช้สาหรับพุ่ง สอดไปในช่องฝ้ายเส้นยืนระหว่างการทอผ้าหลังจากท่ี ช่างทอเหยยี บคานเหยยี บใหเ้ ขาหูกแยกจากเสน้ ดา้ ยยืน
อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า เขาหูก ส่วนที่ใช้สอดด้ายเป็นด้ายยืน และแบ่ง ด้ายยืนออกเป็นหมู่ ๆ ตามต้องการ เพ่ือที่จะพุ่งกระสวยเข้า หากันได้สะดวก เขาหูกมีอยู่ ๒ อัน แต่ละอันเวลาสอดด้าย ตอ้ งสอดสลับกนั ไปเสน้ หน่ึงเวน้ เสน้ หนึ่งทเ่ี ขาหูกจะมีเชือกผูก แขวนไว้กับด้านบน โดยผกู เชือก เสน้ เดยี วสามารถ จะเลื่อนไปมาได้ส่วนล่างผูกเชือกติดกับคานเหยยี บหรอื ตีนเหยียบไว้เพ่ือเวลา ต้องการดึงด้ายให้เปน็ ช่องก็ใช้เท้าเหยียบคานเหยียบน้ี คานเหยียบจะเป็นตัวดึงเขาหูกให้เลื่อนขึ้นลง ถ้าหากต้องการทอ เป็นลาย ๆ ก็ต้องใช้คานเหยียบหลายอัน เช่น ลายสองใช้คานเหยียบ ๔ อัน จะเรียกว่าทอ ๔ ตะกอ ลายสามใช้คานเหยียบ ๖ อัน จะเรียกทอ ๖ ตะกอ ผ้าผืนใดท่ีทอหลายตะกอถือว่ามีคุณภาพดี มีลวดลายท่ลี ะเอยี ด ฟืม มีลักษณะคล้ายหวี ยาวเท่ากับความกว้าง ของหน้าผ้าทาด้วยโลหะ มีลักษณะเป็นซี่เล็ก ๆ มีกรอบ ทาด้วยไม้หรือโลหะ แต่ละซี่ของฟืม จะเป็นช่องสาหรับ สอดด้ายยืนเข้าไป เป็นการจัดเรียงด้ายยืนให้ห่างกันตาม ความละเอียดของเน้ือผ้า เป็นส่วนท่ีใช้กระทบให้เส้นด้าย ที่ทอเรียงติดกันแน่นเป็นผืนผ้า ฟืมสมัยโบราณทา ด้วยไม้ แกะสลักเป็นรูปนกหรือเป็นลวดลายต่าง ๆ สวยงามมาก กง เป็นอุปกรณ์ท่ีสาคัญอย่างหนึ่งมีลักษณะเป็นกง ล้อมลม แล้วมีไม้ ซีกเล็กๆค้ายันเพ่ือความแข็งแรง ในการใช้งาน และมีมือหนุนให้จับเวลาป่ันหลอด ใช้ในการ ป่ันเสน้ ดา้ ย และปน่ั หลอดดา้ ย
อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า โฮงค้นหม่ี เพ่ือการค้นเส้นด้ายหรือจัดระเบียบ การเรียงเส้นดา้ ย หลักเฝือ เป็นอุปกรณใ์ นการค้นเครอื เสน้ ยืน คานเหยียบ หรือ ตีนเหยียบ เป็นไม้ท่ีใช้สาหรับ เหยียบเครื่องบังคับตะกอ เพ่ือให้เชือกท่ีโยงต่อมาจากเขาหกู หรือตะกอดงึ ฝ้ายเสน้ ยืนให้แยกออกเป็นหมู่ ขณะทช่ี า่ งทอพุ่ง กระสวยด้ายเส้นพุ่ง เข้าไปขัดฝ้ายเส้นยืนให้เกิดเป็น ลวดลายตา่ ง ๆ แกนม้วนผ้า หรือ ไม้ก้าพั้น ใช้ม้วนผ้าท่ีทอ แลว้ ใช้ลาต้นไม้ที่มขี นาดสมา่ เสมอ และเหยียดตรง ไม้ไขว้ เป็นอุปกรณ์สาหรับขัดระหัดม้วนผ้าเพื่อ ไม่ให้ระหัดม้วนผ้าขยับเขยื้อนได้ ทาให้เส้นด้ายตึงอยู่ ตลอดเวลา เมอื่ ถงึ ข้ันตอนการทอผ้าก็จะง่ายข้นึ
อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า อุปกรณ์เตรียมด้าย/อุปกรณ์ทอผ้า ไม้หาบหูก เป็นไม้ไผ่ทรงกระบอกขนาดกลางยาว พาดคานไม้ เพื่อใช้ผูกเชือกโยงฟืมและรอกท่ีพยุงตะกอหรือ เขาเอาไว้ โฮงมัดหม่ี ใช้เตรียมด้ายเส้นพุ่งเพื่อมัดและ แกะเชือกมดั ไม้ไขว้ เป็นอุปกรณ์สาหรับขัดระหัดม้วนผ้าเพ่ือ ไม่ให้ระหัดม้วนผ้า ขยับเขย้ือนได้ ทาให้เส้นด้าย ตึง อย่ตู ลอดเวลา เม่อื ถงึ ข้นั ตอนการทอผ้ากจ็ ะง่ายขึ้น
การทอผ้าลายสาเกต การทอผ้าลายสาเกต การทอผ้าลายสาเกต นับเป็นงานศิลปหัตกรรม อ ย่ า ง ห น่ึ ง ที่ มี ม า ช้ า น า น แ ล้ ว ซึ่ ง แ ต่ เ ดิ ม มี ท า กั น เ ป็ น อุตสาหกรรมในครอบครัว ปัจจุบันแม้จะมีหลายๆแห่งได้ ขยายกิจการจนกลายเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แตก่ ารทอผา้ ลายสาเกตสว่ นใหญ่แล้วกย็ ังเป็นการทอด้วยมือ โดยใช้เครื่องมือเครื่องใช้พ้ืนเมืองแบบง่ายๆท่ีเรียกว่ า \"หูก และกี่กระตุก“ ดังน้ัน จึงจาเป็นต้องอาศัยฝีมือความรู้ ความชานาญ และความประณีต ในการทอเปน็ ผนื ผา้ ของแต่ ละคนไป ซ่งึ พอจะกล่าวใหท้ ราบไดด้ งั น้ี ๑. การเตรียมเสน้ ดา้ ย ๒. การยอ้ มสีเส้นด้าย ๓. การทอผืนผ้า การเตรียมเส้นด้าย การเตรียมเส้นด้ายก่อนการทอ ในการเตรียมเส้นด้ายก่อนการทอนั้น อาจแบ่ง เปน็ ๒ ประการ คือ ๑. เสน้ พงุ่ ๒. เสน้ ยืน
การย้อมสีเส้นด้าย การย้อมสีเส้นด้าย เมื่อเตรียมเส้นด้ายมาได้เป็นท่ีเรียบร้อยแล้ว ก็นา เส้นด้ายมาย้อมสีโดยจะต้องทาการฟอกเอากาวออก เสียก่อน วิธีการฟอกเส้นด้ายของชาวบ้านเดิมจะใช้ผักขม เหง้ากล้วย ใบกล้วย ก้านกล้วย งวงตาล ไม้ข้ีเหล็ก ใบเพกา อย่างใดอย่างหน่ึง มาหั่นบางๆนาไปตากแดดให้แห้ง แล้วนาไปเผาจนกระท่ังเป็นเถ้าจากน้ันก็นาเอาเถ้าท่ีไดม้ าใส่ แช่น้าทิ้งไว้ให้ตกตะกอนนอนก้น จึงเอาเส้นด้ายเตรียมไว้ลง ฟอก แต่ปัจจุบันนิยมใช้วิธีต้มกับน้าสบู่ผสมโซดาแอ๊ซ เป็นเวลา ๑ - ๒ ชั่วโมง จากนั้นก็นาไปซักน้าจนสะอาดแล้ว จึงนาไปย้อมสีที่ต้องการ ซึ่งก็มีกรรมวิธีพิเศษเฉพาะ เช่น การมัดหม่ี โดยใช้ปอกกลว้ ย มดั ตามลวดลายทีต่ ้องการ ก่อนการย้อมสี เพื่อป้องกันไม้ให้สีติดตรงที่มัดไว้ทาให้ไม่ สามารถยอ้ มหรอื แต้มสีทต่ี ้องการได้ สีจากธรรมชาติท่ีใช้ย้อมเส้นด้าย สีแดง ครง่ั (อังกฤษ: En:Lac) คอื แมลงจาพวกเพลย้ี หลายชนิด ท่ีอยู่ในวงศ์ Kerridae อาทิ Laccifer lacca[1] ถือว่าเป็นแมลงท่ี เป็นศัตรูต่อพืชตามธรรมชาติ ท่ีจะใช้งวงปากเจาะเพ่ือดูดน้าเล้ยี ง ของต้นไม้ ประเภทไม้เน้ือแข็ง แต่ว่ากลับเป็นแมลงที่มีประโยชน์ ต่อมนุษย์เปน็ อย่างมากนับจากอดีตจนถึงปจั จุบนั ดอกค้าฝอย จะออกเป็นช่อท่ีปลายยอด หนึ่งช่อ จะมีดอกย่อยขนาดเล็กจานวนมาก ดอกยาวประมาณ ๒.๕ - ๔ เซนติเมตร กลีบดอกรวมตัวเป็นกระจุก กลีบดอกขณะ เป็นดอกอ่อนจะออกสีเหลือ เม่ือแก่กลีบดอกจะออกสีแดงส้มถึง น้าตาลแเดง ดอกคาฝอยมีเกสรเพศผู้ ๕ อัน ละอองเรณูสีขาว เหลือง ยอดเกสรเพศเมียจะยาวกว่าตัวเกสรดอกคาฝอ ย จะมีกลิ่นเฉพาะ ส่วนรสชาติของดอกและเกสรจะมีรสหวานร้อน ออกขมเล็กน้อย ส่วนผลดอกคาฝอยจะเป็นผลแห้ง ไม่แตก เมลด็ เปน็ รูปสามเหลย่ี มขนาดเล็กสขี าว
สีจากธรรมชาติที่ใช้ย้อมเส้นด้าย สี จ า ก ธ ร ร ม ช า ติ ท่ี ใ ช้ ย้ อ ม เ ส้ น ด้ า ย สีนา้ เงิน ต้ น คราม จัดเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก แตกก่ิงก้านสาขามาก บ้างว่าแตกกิ่งก้านน้อย มีความสูง ของต้นประมาณ ๔ - ๖ ฟุต หรือสูงประมาณ ๑ - ๒ เมตร ลาต้นมีลักษณะกลมสีเขียว มักพาดเกาะตามส่ิงที่อยู่ใกล้กับ ลาต้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด โดยเป็นพรรณไม้ที่ ชอบแสงแดด ทนทานต่ออากาศร้อน ฝน และดินเค็มได้ดี พบขึ้นได้ตามป่าโปร่งทางภาคอีสานและทางภาคเหนือจะ นิยมปลูกต้นครามไว้เพ่ือใช้สาหรับทาสีย้อมผ้า และมักข้ึน เปน็ วชั พชื ทั่วไปตามสวน สีเหลือง ขมิ้นชัน เป็นพืชล้มลุกท่ีจัดอยู่ในตระกูลขิง มีเหง้าอยู่ใต้ดิน เน้ือในของเหง้าจะเป็นสีเหลือง มีกลิ่น หอมเฉพาะตัว มีต้ังแต่สีเหลืองเข้มจนถึงสีแสดจัด โดยถ่ิน กาเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีชื่ออ่ืน ๆ อกี เชน่ ขมน้ิ ชัน ขมนิ้ แกง ขม้ินหยอก ขมนิ้ หัว ขม้ี นิ้ หม้ิน ท้ังนี้ข้ึนอยู่กับแต่ละภาคและจังหวัดน้ัน ๆ นิยมนาไปใช้ใน การประกอบอาหาร แต่งสี แต่งกลิ่นอาหาร เช่น แกงไต ปลา แกงกะหร่ี เป็นตน้ แก่นขนุน ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง ๑๕ – ๓๐ เมตร ลาต้นและกิ่งเมื่อมีบาดแผลจะมีน้ายางสีขาวข้นคล้าย น้านมไหล ใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปรี ขนาดกว้าง ๕ - ๘ เซนติเมตร ยาว ๑๐ - ๑๕ เซนติเมตร ปลายใบทู่ ถึงแหลม โคนใบมน ผิวในด้านบนสีเขียวเข้ม เป็นมัน เน้ือใบหนาผิวใบด้านล่างจะสากมือ ดอกเป็นช่อ แบบช่อเชงิ สดแยกเพศอย่รู วมกัน ดอกเพศผ้เู รยี กว่า “ส่า” มักออกตามปลายก่ิง ดอกเพศเมียจะออกตามก่ิงใหญ่และ ตามลาต้นยอดเกสรเพศเมีย เป็นหนามแหลม ส่วนของ เน้ือที่รับประทานเจริญมาจากกลีบดอก ส่วนซัง คือ กลีบ เลยี้ ง ผลเปน็ ผลรวมมีขนาดใหญ่
การทอผืนผ้า การทอผืนผ้า การทอผ้าลายสาเกตนั้นต้องอาศัยฝีมือและความรู้ความชานาญของผู้ทอเป็นอย่างมาก จึงจะทาให้ผ้าสาเกตที่ได้มีลักษณะและลวดลายสมบูรณ์ตามต้องการดังเช่น ถ้าเป็นการทอผ้าท่ีมี ลวดลายพิสดาร เช่น ผ้ายกดอกทอง หรือดอกเงิน ก็ต้องทอหูกพื้นเมือง ท่ีใช้การทอนานมาก อาจใช้เวลาถึง ๒ - ๓ เดือน ก็เป็นได้จึงจะได้ผ้าท่ีมีลวดลายพิสดารมากๆ ๑ ยก นอกจากจะใช้ เวลานานแล้วคนทอยังต้องมีผู้ช่วยอีก ๒ คน สาหรับคอยช่วยยกตะกอให้ขณะที่ทอด้วย ส่วนการ ทอผ้าลายสาเกตผ้าชนิดนี้ทอด้วยเส้นพุ่งซึ่งย้อมเป็นแบบลวดลายตามต้องการและเส้นยืนท่ีย้อม เป็นสีเดียว เวลาทอต้องนาไปใช้ทอตามลาดับระวังมิให้สลับกัน ผู้ทอจึงต้องใช้ความระมัดระวัง เปน็ อย่างมากให้เสน้ พุ่งทุกเส้นทอให้ถูกที่และจะขาดไปไม่ได้แม้แตเ่ ส้นเดียว มิฉะน้ันและลวดลาย ผ้าที่ออกมาจะไม่ถูกต้องตามที่ต้องการสาหรับผ้าด้ายไทยท่ีทอแล้วสามารถแบ่งออกเป็นชนิด ต่างๆ ไดก้ วา้ งๆ ๖ ชนดิ คือ 1. ผ้าด้ายไทยชนิดบางมาก มีนา้ หนกั 51-85 กรัมต่อหนงึ่ ตารางเมตร เหมาะ ส้าหรับทา้ ผ้าพนั คอ ผา้ คลุมผมและเสือผ้าบางๆ 2. ผ้าด้ายไทยชนิดบาง มีน้าหนัก 86-120 กรัมต่อหน่ึงตารางเมตร ใช้ท้า เครื่องนุ่งห่มตา่ งๆ 3. ผา้ ดา้ ยไทยชนดิ หนา มนี า้ หนัก 121-179 กรมั ต่อหนง่ึ ตารางเมตร เหมาะ ส้าหรับตดั เสอื ผ้าใช้ในเขตประเทศเมอื งหนาว จึงเป็นท่นี ยิ มในตลาดต่างประเทศอยา่ งยง่ิ 4. ผ้าด้ายไทยชนิดหนามาก มีน้าหนัก 180-275 กรัมต่อหน่ึงตารางเมตร เหมาะส้าหรบั ตดั เสอื และกางเกงผู้ชาย หรือใช้ในตา่ งประเทศ 5. ผ้าด้ายไทยชนิดหนามากพิเศษ มีน้าหนัก 239 กรัมขึนไปต่อเนือที่หนึ่ง ตารางเมตร (แต่ใชเ้ สน้ ไหมยืนขนาดใหญ่กวา่ ) เหมาะสา้ หรบั ใชท้ า้ มา่ นหรือเคร่ืองประดับบ้านและ ตกแต่งสถานที่ 6. ผ้าด้ายไทยชนิดหนามากพิเศษ มีน้าหนัก 239 กรัมขึนไปต่อเนือท่ีหน่ึง ตารางเมตร เป็นชนิดที่ทอยาก และเสียเวลามาก จึงราคาสูงกว่าผ้าด้ายชนิดอ่ืนเหมาะส้าหรับใช้ ในการเครอ่ื งเรือน
ข้ันตอนการทอผืนผ้า ข้ันตอนการทอผืนผ้า สาหรบั ขน้ั ตอนการทอผ้าลายสาเกต ข้นั ตอนหลักอยู่ ๔ ขน้ั ตอน คอื ๑. การเตรียมด้ายเส้นยืน ประกอบด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ คือก่อนจะทอผ้า ช่างจะต้องนา เส้นด้าย นาไปกรอเข้าหลอดเพื่อใช้สาหรับการทอผ้า เมือเตรียมเครือหูกเสร็จก็นาไปขึงบนกี่ เพ่อื ใชใ้ นการทอตอ่ ไป ๒. เหยียบไม้เหยียบหูกให้เส้นฝ้ายแยกออกจากกัน โดยใช้เท้าเหยียบคานเหยียบท่ีอยู่ ข้างลา่ งเพอื่ เปิดช่องวา่ งสาหรบั ให้ฝา้ ยเส้นพงุ่ ผา่ นเข้าไปได้ ๓. การเตรียมเส้นพุ่ง เริ่มจากการที่ช่างทอกรอฝ้ายที่จะใช้เป็นด้ายพุ่งเข้ากระสวยแล้ว นากระสวยแต่ละสีไปใส่ในรางกระสวย โดยใช้มือพุ่งกระสวยด้ายพุ่งให้สอดไปตามระหว่าง เสน้ ด้ายที่มชี ่องสอดกระสวยซึ่งทาดว้ ยไม้ ๔. ลาดับข้ันการทอในกี่ให้เหยียบที่ไม้เหยียบหูกให้ด้ายยืนแยกออกจากกัน โดยมีที่ เหยีบอยู่ข้างล่าง (ใช้เท้าเหยียบ) เป็นการเปิดช่องว่างสาหรับฝ้ายพุ่งผ่านเข้าไปได้ ใช้มือพุ่ง กระสวยฝ้ายให้สอดไปตามระหว่างด้ายโดยมีชอ่ งสอดกระสวยซึ่งทาด้วยไม้ ปล่อยเท้าท่ีเหยียบไม้ เหยียบหูกซึ่งบังคับเขาหูก เพื่อให้เส้นด้ายพุ่งรวมเป็นหมู่เดียวกันตามเดิม กระทบฟันหวีโดยแรง ฟันหวีจะพาฝ้ายเส้นพุ่งให้เข้ามาชิดกันเป็นเส้นตรง เหยียบท่ีไม้เหยียบหูกอีกครั้งหนึ่ง การเหยียบไมเ้ หยยี บหกู ทง้ั ๕ ลายของผ้าลายสาเกตมี ดงั นี้ ลายหมากจับ ไม้เหยยี บหูก ๑๒ คร้ัง ๓ ลา ๔ สอด ลายโคมเจ็ด ไมเ้ หยียบหกู ๒๘ คร้ัง ๗ ลา ๔ สอด ลายนาคนอ้ ย ไม้เหยยี บหกู ๒๘ ครงั้ ๗ ลา ๔ สอด คองเอ้ีย ไม้เหยียบหกู ๒๘ ครั้ง ๗ ลา ๔ สอด คาเพา ไม้เหยยี บหูก ๒ คร้ัง สลบั กนั
การจัดการตลาดนัดเบ้ืองต้นและการบรรจุภัณฑ์ การตลาดนัดชุมชน การจัดการตลาดชุมชนโดยมีการนาสินค้าไปวางตามตลาด ชมุ ชนดังต่อไปน้ี ๑. ขายทบ่ี ้านใหก้ บั คนในชมุ ชน ๒. การไปจาหน่ายตามจุดจาหน่ายในชุมชนหรือได้รับการ สนับสนุนจากโครงการภาครัฐ เชน่ ศนู ย์ OTOP จังหวดั รอ้ ยเอ็ด ๓. แสดงสินค้าจาหน่ายตามงานประเพณีท่ีจัดข้ึนตามจังหวัดหรือ อาเภอต่าง ๆ เช่น เทศกาลบุญข้าวจี่อาเภอโพธิ์ชัย งานกาชาดประจา จงั หวดั รอ้ ยเอด็ งานบุญผะเหวดจงั หวัดร้อยเอ็ด ๔. ขายออนไลน์ผ่าน Facebook เพจ ศูนย์จาหน่ายสินค้าและ ผลิตภัณฑอ์ อนไลน์ OOCC กศน.ตาบลคาพอุง อาเภอโพธ์ิชัย
การจัดการตลาดนัดเบื้องต้นและการบรรจุภัณฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ มีการออกแบบแบบบรรจุภัณฑ์ต้นทุนต่า สาหรับผ้าลายสาเกต ตาบลคาพอุง อาเภอโพธ์ิชัย โดยมุ่งเน้นเร่ืองของการนาวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถนิ่ มาออกแบบบรรจุภัณฑ์ตามแนวความคิด ซึ่งวัสดใุ น การศึกษาทดลอง ได้แก่ กระดาษสา ผ้าด้ายดิบ เศษผ้า เชือกจากเส้นใยพืช ศึกษาการตัดเยบ็ การทาบล็อก อัดขึ้นรูปทรงท่ีต้องการกราฟิกบนบรรจุภัณฑ์ ศึกษาการพิมพ์สกรีน ตรายาง บล็อกป๊ัมลาย การพิมพ์แบบ อิงค์เจ็ทท่ัวไป ซ่ึงกระบวนการท้ังหมด กลุ่มชาวบ้านสามารถผลิตข้ึนเองได้ จากน้ันก็ทาการออกแบบพัฒนา บรรจุภัณฑจ์ นไดแ้ บบท่สี มบูรณ์ ๒ แบบ คอื ๑. แบบถงุ ๒. แบบกล่อง
การจัดการตลาดนัดเบื้องต้นและการบรรจุภัณฑ์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ผ้ า ล า ย ส า เ ก ต ข อ ง ก ศ น .ต า บ ล ค า พ อุ ง ได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ระดับจังหวัด ได้รางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๑ “การคัดเลือกผลติ ภัณฑ์/บรกิ าร กศน.พรีเมี่ยม” โดยโครงการคัดเลือกผลติ ภัณฑ์/บริการ กศน.ดีเด่น ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่ประชาชนผ่านการ ฝึกอาชีพจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ประจาปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ผลิตภัณฑ์ผ้าลายสาเกตของกศน.ตาบลคาพอุง ได้รับการคัดเลือกเป็นผลิตภัณฑ์ระดบั อาเภอ ได้รางวลั “ผลิตภัณฑ์/บริการ กศน.ดีเด่น” โดยโครงการ คัดเลือกผลิตภัณฑ์/บริการ กศน.ดีเด่น ประจาปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่ประชาชนผ่านการฝกึ อาชพี จากโครงการศูนย์ ฝกึ อาชีพชุมชน ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓
การจัดการตลาดนัดเบ้ืองต้นและการบรรจุภัณฑ์ การตลาดออนไลน์ ขายออนไลน์ผา่ น Facebook เพจ ศูนยจ์ าหน่ายสนิ ค้าและผลติ ภัณฑ์ออนไลน์ OOCC กศน.ตาบลคาพอุง อาเภอโพธ์ิชัย
การบริหารหนี้สินและบัญชีเบื้องต้น การค้านวณต้นทุนกา้ ไร คา่ วสั ดุ ( ผลิตได้ ๔๔ ผืน ) - เสน้ ดา้ ยระหนั (ทางตา่ ) ๑๐ กก. ราคามว้ นละ ๓๕๐ บาท รวมเป็น ๓,๕๐๐ บาท - ดา้ ยยนื ๑๐ กก. ราคาม้วนละ ๓๕๐ บาท รวมเป็น ๓,๕๐๐ บาท - สีกนั ตก ๔ กลอ่ ง กล่องละ ๕๐ บาท รวมเป็น ๒๐๐ บาท - สีย้อม ๘ กลอ่ ง กล่องละ ๕๐ บาท รวมเป็น ๘๐๐ บาท - เชอื กฟาง ๒๐ มว้ น มว้ นละ ๑๐ บาท รวมเป็นเงนิ ๒๐๐ บาท - คา่ แรง ๔,๐๐๐ บาท - คา่ ใชจ้ า่ ยในการผลิตอ่นื ๆ ๔๐๐บาท รวมทั้งส้ิน ๑๒,๘๐๐ บาท/๔๔ ผนื ราคาตน้ ทุนตอ่ ผนื ๒๙๐ บาท ราคาขายส่งตอ่ ผืน ๔๐๐ บาท กาไรตอ่ ผืน ๑๑๐ บาท ราคาขายปลกี ตอ่ ผืน ๔๕๐ บาท กาไรตอ่ ผนื ๑๖๐ บาท ๑ วันสามารถผลิตได้ ๒ ผืน คิดเป็นกาไร ๓๒๐ - ๖๔๐ บาท/วัน
การบริหารหน้ีสินและบัญชีเบื้องต้น แหล่งเงินทุนและการกู้ยืม แหล่งเงินทนุ และการกยู้ ืม ๑. ธนาคารออมสิน ๒. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส.)
การบริหารหนี้สินและบัญชีเบื้องต้น การบริหารหน้ีสินและการบริหารสัญญา การเป็นหน้ีไม่ใช่ส่ิงท่ีเลวร้ายเสมอไป เพราะบางครั้งเราอาจต้องใช้เงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ ที่จาเป็นต่อการดารงชีวิตและอนาคตแต่ยังมีเงินไม่พอในตอนน้ี เช่น บ้าน การทากิจการส่วนตัว ซึ่งหลักการสาคัญในการตัดสินใจเป็นหน้ีคือ ควรเลือกก่อหน้ีดีซึ่งได้แก่ หนี้ที่จะสร้างอนาคตหรือความ มนั่ คงระยะยาวและหลกี เลีย่ งการก่อหนี้ทีพ่ ึงระวังซ่ึงไดแ้ ก่ หนที้ ไ่ี ม่ก่อใหเ้ กดิ รายได้เพม่ิ หรือไม่ได้ชว่ ยเพ่ิม ความมั่นคงทางการเงิน เช่น หนี้เพื่อการอุปโภคบริโภค เป็นต้น เพราะเมื่อเป็นหน้ีแล้วเรามีหน้าท่ี ต้องใชค้ ืนเงนิ ตน้ รวมถงึ ดอกเบย้ี ค่าปรับ และคา่ ใช้จา่ ยอ่ืน ๆ ทจ่ี ะตามมาท้ังหมด
การบริหารหนี้สินและบัญชีเบ้ืองต้น การจัดท้าบัญชีครัวเรือน บัญชีครัวเรือน คือ การทาบัญชีเพ่ือบันทึกข้อมูลรายรับรายจ่ายประจาวันหรือบันทึกข้อมูลอื่น ๆ ในชีวิตและในครอบครัว เช่น บัญชีทรัพย์สิน พันธ์ุพืช พันธุ์ไม้ บัญชีความรู้ความคิดของเรา บัญชีผู้ทรงคุณ บัญชีเด็กและเยาชนของเรา หรือจะเป็นบัญชีภูมิปัญญาด้านต่างๆ ซึ่งเราสามารถ จดบนั ทึกเร่ืองราว สงิ่ หรอื เร่ืองราวในชีวิตไดเ้ ช่นกนั เรยี นรูก้ ารทา้ บญั ชีครัวเรือนกันเถอะ การทาบัญชีครัวเรือนถือเป็นวิธีหน่ึงท่ีจะช่วยให้เราได้ทราบข้อมูลต่าง ๆ ในการใช้จ่ายรวมถึง รายรับในแต่ละวัน เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินสภาวะของการเงินของเราเองว่าเป็นอย่างไร จะได้เป็น ข้อมูลในการวางแผนการดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั ข้อดใี นการท้าบัญชคี รัวเรอื น การทาบญั ชีครวั เรือนเปน็ การจดบันทึกรายการการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทงั้ รายรับทไ่ี ด้มากับ รายจ่าย ซ่ึงทาให้ทราบสถานะในสภาวะทางการเงิน ง่ายต่อการตรวจสอบ ช่วยควบคุมรักษาการใช้จา่ ย เพ่อื จะไดแ้ กไ้ ขปรบั ปรุงในการใชจ้ ่ายได้ทัน ชว่ ยในการวเิ คราะห์แกไ้ ขปญั หาหนี้สินตา่ ง ๆ ได้
การบริหารหน้ีสินและบัญชีเบื้องต้น การจัดทา้ บัญชีครัวเรือน เริ่มต้นท้าบัญชีครวั เรือนไดอ้ ย่างไร เราสามารถเร่มิ ตน้ ทาบัญชีครัวเรือนอยา่ งง่าย ๆ เพียงแคห่ าสมดุ มาหนึง่ เล่ม และหาปากกาหรือ ดนิ สอสาหรบั เขียนลงไปในสมุดบญั ชคี รวั เรือน ทาไดห้ ลากหลายรูปแบบ ปกติแลว้ ควรจดั ทาตารางเปน็ ๕ ชอ่ งดว้ ยกัน ประกอบด้วย ๑. วันเดือนปีท่เี กดิ รายการนนั้ ๆ ๒. รายการที่ปฏิบตั ิ ๓. รายรบั ๔. รายจา่ ย ๕. ยอดคงเหลือซึง่ เปน็ ช่องสรุปยอดเงินคงเหลือในแต่ละวัน ใชเ้ วลาต่อวนั ไมน่ าน ก็จะได้ทราบ ขอ้ มูลทางการเงินไว้สาหรับนาไปวางแผนการเงนิ ของครอบครวั ไดอ้ ยา่ งสบาย ๆ หลกั การในการบนั ทกึ บญั ชคี รัวเรือน มองภาพใหญข่ องปหี นึ่ง ๆ ก่อนวา่ มรี ายการอะไรบ้าง เช่น รายจ่ายท่ีค่อนขา้ งคงที่ พวกค่าเรียน หนังสือลูก ค่าอาหาร ค่าน้ามันรถ ค่าไฟฟ้า ฯลฯ ลาดับต่อไปมองภาพหนี้สนิ ที่เปน็ ภาพใหญ่เป็นภาระที่ ต้องชดใช้คืนในอนาคต เช่น การกู้ยืมเงินจากธนาคารต่าง ๆ การเช่าซื้อ การจานา การจานอง การขาย ฝาก เป็นต้นเงินคงเหลือ ที่เป็นรายการจากการนารายรับมาหักรายจ่ายแล้ว หากมีรายรับมากกว่า รายจ่ายจะเกิดเงินท่ีเรียกว่ากาไร แต่หากนารายรับหักรายจ่ายแล้วพบว่ารายจ่ายมากกว่ารายรับ และ ทาใหเ้ งนิ คงเหลอื ตดิ ลบ เราจะเรยี กวา่ ภาวะขาดทุน
การบริหารหน้ีสินและบัญชีเบ้ืองต้น การจัดทา้ บัญชีครัวเรือน
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: