Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book บทที่ 1-9

E-book บทที่ 1-9

Published by niareenee.kuta, 2020-06-06 14:02:05

Description: E-book บทที่ 1-9

Search

Read the Text Version

51 1. การซกั ประวตั ิผู้ปว่ ย โรคประจาตัวอน่ื ๆ รวมทั้งประวัติการผ่าตัด และประวตั กิ ารแพ้ ยา แพ้อาหารสารเคมีอืน่ ๆ 2. การซักประวตั ิเกี่ยวกบั การใชย้ า ตรวจสอบรายการยาประจาตวั ผู้ป่วยทีร่ ับประทาน โดยประสานงานกับเภสชั กรเพ่ือ Medication reconciliation และซักประวตั กิ ารหยุด ยา Anticoagulant 3-5 วันก่อนการผ่าตัด หรือยา Antiplatelet 5-7 วันก่อนการผา่ ตดั 3. การสง่ ตรวจทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ าร ไดแ้ ก่ การตรวจ CBC, Electrolyte, prothrombintime, partial Thromboplastin Time, BUN, Creatinine, Liver function test, Fasting blood sugar รวมไปถึงการตรวจคลน่ื ไฟฟา้ หัวใจ (EKG) และ เอกซเรยป์ อด (chest X-ray) 4. ตรวจสอบผลการตรวจพิเศษต่างๆ เช่น การสวนหัวใจและฉดี สดี หู ลอดเลือดหัวใจ (Coronary Angiography : CAG), ผลการตรวจคลนื่ สะท้อนหวั ใจ (Echocardiography) 5. ตรวจสอบสิทธิการรกั ษาของผปู้ ว่ ย 6. ผูป้ ่วยและญาติเซ็นใบยินยอมการเข้ารกั ษาในโรงพยาบาล และใบยนิ ยอมการผา่ ตดั 7. บันทึกและสง่ คาขอการผ่าตดั ผู้ปว่ ยไปห้องผา่ ตดั 8. จดั เตรยี มยา เวชภัณฑ์กอ่ นไปหอ้ งผ่าตดั การเตรยี มความพรอ้ มทางดา้ นจติ ใจ อารมณ์ สังคม และเศรษฐกิจก่อนเขา้ รบั การผ่าตดั 1. สร้างสมั พันธภาพพรอ้ มทง้ั แนะนาทมี สุขภาพ ส่ิงแวดลอ้ ม และกฎระเบียบของหอ ผปู้ ่วย 2. ประเมนิ ความพรอ้ มทางดา้ นจติ ใจและสถานะเศรษฐกิจของผปู้ ่วย 3. ทมี สหวชิ าชีพ ประกอบดว้ ย แพทย์ วสิ ญั ญแี พทย์ พยาบาล นักเทคโนโลยหี ัวใจและ ทรวงอกนักกายภาพบาบัด ให้ความรูแ้ ละคาแนะนาเก่ยี วกับ

52 - สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งผา่ ตดั - ขัน้ ตอนเกย่ี วกับการผ่าตดั - การใหย้ าระงับความร้สู ึก - การปฏิบตั ิตัวกอ่ นและหลังผ่าตัด การพยาบาลผู้ป่วยเม่อื สง่ ต่อขอ้ มูลผปู้ ่วยเมอ่ื ยา้ ยมายังหอผ้ปู ว่ ย การพยาบาลผู้ปว่ ยเมอ่ื สง่ ต่อขอ้ มูลผปู้ ว่ ยเมื่อยา้ ยมายงั หอผู้ป่วยไอซียูศลั ยกรรมหัวใจและ ทรวงอก 1. ประวัติผู้ปว่ ย ขอ้ มลู พื้นฐาน ไดแ้ ก่ ชือ่ เพศ 2. ชนิดของการผ่าตดั หรอื ความเรง่ ด่วนของการผา่ ตัด เชน่ ผ่าตดั โดยการมีวางแผน ล่วงหนา้ หรอื ผา่ ตัดฉกุ เฉนิ 3. ความสาเร็จของการผา่ ตัดหรือภาวะแทรกซอ้ นทเี่ กดิ ขนึ้ ระหวา่ งการผ่าตดั 4. ระยะเวลาในการผา่ ตดั วสั ดุอปุ กรณ์ท่ใี ชห้ ลอดเลอื ดเทยี ม 5. ตาแหน่งและชนิดของการผา่ ตัด การปดิ แผล สายสว่ นตา่ งๆ 6. ชนดิ ของสารน้า การใหเ้ ลือดหรือผลติ ภณั ฑ์ของเลอื ดท่ีผู้ป่วยได้รับ 7. ปรมิ าณเลือดท่อี อกขณะผา่ ตดั 8. สญั ญาณชีพ การใชเ้ ครอื่ งชว่ ยหายใจ และการใช้อปุ กรณเ์ ทียมต่างๆ ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด 1. ปรมิ าณเลอื ดออกจากหัวใจลดลง (Low Cardiac Output) ภาวะ Low cardiac output syndrome (LCOS) 1.1. Hypovolemia 1.2. Bleeding

53 1.3. Cardiac tamponade 2.ระบบทางเดินหายใจ การหายใจลม้ เหลว ภาวะแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจท่พี บบ่อยทส่ี ุดหลงั การ ผา่ ตัดก็คือ -ภาวะปอดแฟบ (Atelactasis) -ปอดอกั เสบ (Pneumonia) 3.ภาวะสบั สนเฉียบพลัน อาการเตอื นทต่ี ้องรีบมาพบแพทย์ เจ็บแน่นหนา้ อกเหมอื นกอ่ นการผ่าตัด เหนื่อยมากขึน้ หายใจลาบาก นอนราบไมไ่ ด้ มีไข้สงู แผลมกี ารอักเสบตดิ เชือ้ ชพี จรเตน้ ไม่สม่าเสมอ หน้ามืด เปน็ ลม อุจจาระมีสีดาหรอื แดง ปวดบวมขาขา้ งท่มี ีแผลผ่าตดั การพยาบาลผปู้ ่วยโรคลน้ิ หวั ใจ ความผดิ ปกตขิ องล้ินหัวใจ อาจเป็นเพยี งล้นิ เดียวหรือมากกว่า ทาให้มผี ลต่อการ ทางานของหวั ใจสง่ ผลตอ่ ระบบไหลเวยี นเลือดจนกระทั่งเกิดภาวะหวั ใจลม้ เหลวได้ โรค ลิ้นหวั ใจท่พี บบ่อยมกั จะเป็นล้ินหัวใจทางด้านหัวใจซกี ซ้าย คือ mitral valve และ aortic valve

54 ประเภทต่างๆ ของโรคล้ินหัวใจ 1.แบ่งตามรอยโรคเนื้อเย่อื -ตบี (Stenosis) -ร่วั (Regurgitation) -ทง้ั สองอยา่ งรว่ มกนั 2.บง่ ตามลิน้ ที่เกิดพยาธิสภาพ -พบบอ่ ยทส่ี ดุ คือ ลนิ้ ไม่ทรัล (mitral valve) -รองลงไปเปน็ ลนิ้ เอออร์ติค (aortic valve) -ไตรคัสปดิ และลนิ้ พลั โมนคิ (truscuspid and pulmonic) พบนอ้ ย โรคล้ินหวั ใจชนดิ ตา่ งๆ โรคของลน้ิ หวั ใจด้านซา้ ย (Lt.side valvular syndrome) -Mitral valve disease MS, MR -Aortic valve disease AS, AR โรคของลิน้ หัวใจดา้ นขวา (Rt.side valvular syndrome) -Tricuspid valve disease TS, TR -Pulmonic valve disease PS, PR โรคลนิ้ หวั ใจไมตรัลตีบ (Mitral stenosis) มกี ารตีบแคบของล้ินหวั ใจไมตรัลทาใหม้ ีกา ขัดขวางการไหลของเลือดลงสหู่ วั ใจห้องล่างซ้ายในขณะที่คลายตวั การเปลี่ยนแปลงของ ระบบไหลเวียนขึน้ อยกู่ ับความรนุ แรงของโรคการเปล่ยี นแปลงท่ีเกิดขน้ึ มีดังน้ี

55 1. ความดนั ในหวั ใจห้องบนซา้ ยเพิ่ม 2. มนี ้าในชอ่ งระหวา่ งเซลล์ 3. ความดนั หลอดเลือดในหลอดเลือดแดงปอด (PA) เพ่ิมมากหรือน้อยแลว้ แต่ความ รนุ แรงของโรค 4. หลอดเลือดท่ีปอดหดตัวทาให้เลอื ดผ่านไปทปี่ อดลดลง อาการและอาการแสดง 1.Pulmonary venous pressure เพม่ิ ทาให้มีอาการหายใจลาบากเม่ือออกแรง (DOE) -อาการหายใจลาบากเมื่อนอนราบ (Orthopnea) -หายใจลาบากเปน็ พักๆ ในตอนกลางคนื (Paroxysmal Noctunal Dyspnea:PND) 2. CO ลดลง ทาให้เหน่ือยง่าย ออ่ นเพลีย 3. อาจมภี าวะหัวใจเตน้ ผิดจังหวะแบบ AF ผู้ป่วยจะมีอาการใจส่ัน 4. อาจเกิดการอดุ ตนั ของหลอดเลือดในรา่ งกาย (Systemic embolism) โรคล้ินหัวใจไมตรลั รว่ั (Mitral regurgitation) อาการและอาการแสดงแตกต่างกนั ตามพยาธิสภาพอาการที่พบคือ 1.Pulmonary venous congestion ทาให้มีอาการ Dyspnea on exertion (DOE) Orthopnea PND 2. อาการทเ่ี กดิ จาก CO ลดลง คอื เหนอ่ื ยและเพลยี ง่าย 3. อาการของหวั ใจซกี ขวาวายคอื บวมเจบ็ บริเวณตบั หรือ เบ่อื อาหาร

56 โรคล้ินหัวใจหวั ใจเอออร์ตคิ ตบี Aortic stenosis เปน็ โรคท่มี ีการตบี แคบของลิ้นหวั ใจ เอออร์ติค ขดั ขวางการไหลของเลอื ดจากหัวใจห้องล่างซา้ ยไปสู่เอออรต์ าร์ในชว่ งการบีบ ตัว โรคลน้ิ หวั ใจเอออรต์ คิ รวั่ Aortic regurgitation เปน็ โรคท่มี กี ารร่วั ของปรมิ าณเลือดที่ สูบฉดี ออกทางหลอดเลือดแดงเอออรต์ าร์ไหลย้อนกลับเข้าสหู่ วั ใจห้องลา่ งซา้ ยในชว่ ง หัวใจคลายตวั อาการและอาการแสดงส่วนใหญจ่ ะไมม่ อี าการ เมอื่ มอี าการมากจะพบ -DOE -Angina -ถา้ เปน็ มากผู้ป่วยจะรสู้ ึกเหมือนมอี ะไรตบุ๊ ๆ อย่ทู ่ีคอหรอื ในหัวตลอดเวลา การตรวจร่างกายในผปู้ ่วยโรคล้ินหวั ใจ การถ่ายภาพรงั สีทรวงอก -พบภาวะหวั ใจโต หรือมีนา้ คง่ั ท่ปี อด -การตรวจหัวใจด้วยเสยี งสะท้อน (Echocardiogram) เป็นวธิ ีทช่ี ว่ ยในการวินจิ ฉยั โรคลิ้น หวั ใจได้อย่างมาก การตรวจสวนหัวใจ ชว่ ยในการประเมินวา่ ลิน้ หัวใจรวั่ หรือตีบมากแค่ไหน บอกสาเหตุที่แท้จริงของโรคล้ิน หวั ใจ คานวณขนาดลิ้นหัวใจ วดั ความดนั ในหอ้ งหวั ใจและมกั ทาก่อนการรักษาด้วยวธิ ี ผ่าตัด

57 การรกั ษาทางยา 1.มีเป้าหมายเพื่อช่วยใหห้ วั ใจทาหนา้ ทดี่ ขี นึ้ ช่วยกาจัดน้าท่เี กินออกจากร่างกาย โดยยา เพิ่มความสามารถในการบีบตัวของหัวใจ ยาลดแรงต้านในหลอดเลือด ยาขบั ปัสสาวะ ยา ท่ีใชส้ ่วนใหญ่เปน็ ยากลมุ่ เดียวกับที่รักษาภาวะหวั ใจวาย 2.การใชบ้ อลลูนขยายลิ้นหัวใจที่ตบี โดยการใช้บอลลูนขยายล้ินหัวใจ 3.การรกั ษาโดยการผ่าตัด (Surgical therapy) ทาในผปู้ ่วยท่มี ลี น้ิ หวั ใจพกิ ารระดับปาน กลางถึงมาก ล้นิ หวั ใจเทียม (Valvular prostheses) 1.ลิ้นหวั ใจเทยี มท่ีทาจากสิ่งสงั เคราะห์ (Mechanical prostheses) ข้อเสยี -เกิดลิ่มเลอื ดบริเวณลิ้นหัวใจเทียม -เม็ดเลอื ดแดงแตกทาใหเ้ กิดโลหิตจาง (ผปู้ ่วยท่ีไดร้ บั การผ่าตดั เปล่ยี นลิ้นหวั ใจเทียมจาเป็นต้องรับประทานยาละลายล่ิมเลือด คือ warfarin หรือ caumadin ไปตลอดชวี ิต) 2.ลิ้นหัวใจเทียมทที่ าจากเนอื้ เยอื่ คนหรอื สัตว์ (Tissue prostheses) เชน่ ลิ้นหวั ใจหมู ขอ้ ดคี อื ไมม่ ปี ญั หาเรือ่ งการเกิดลมิ่ เลือด มกั ใชใ้ นผสู้ งู อายุ หรือผ้ทู ่ไี ม่สามารถใหย้ า ละลายล่มิ เลอื ดได้ ข้อเสียคอื มีความคงทนนอ้ ยกวา่ ล้ินหวั ใจเทียมสังเคราะห์ ตวั อย่างข้อวินจิ ฉัยการพยาบาล 1.เส่ยี งต่ออนั ตรายจากภาวะหัวใจเต้นผิดจงั หวะจากล้ินหัวใจตีบหรือรั่ว 2.เสย่ี งต่อภาวะปรมิ าณเลือดที่ออกจากหัวใจใน 1 นาทลี ดลง

58 3.เสี่ยงตอ่ การเกิดลมิ่ เลอื ดอุดตันที่ลน้ิ หัวใจเทียมและหลอดเลอื ดทัว่ รา่ งกาย 4.เส่ียงต่อภาวะเลอื ดออกง่ายจากการไดร้ ับยาละลายลิม่ เลือด 5.ความทนต่อกจิ กรรมลดลง ขอ้ บ่งใชท้ ี่สาคัญ 1.หลังผา่ ตัดใสล่ ิ้นหัวใจเทยี ม 2.โรคล้ินหวั ใจรั่ว ลนิ้ หวั ใจตีบ โรคลิน้ หวั ใจรูมาติค 3.ภาวะหวั ใจเตน้ ผิดจังหวะ 4.ภาวะลม่ิ เลือดอุดตันเสน้ เลือดในปอด 5.เส้นเลือดแดง บรเิ วณแขน ขา หรือ เส้นเลอื ดดาใหญ่อุดตนั จากลิ่มเลือด 6.ผปู้ ่วยทม่ี ปี ระวัติ เส้นเลอื ดสมองอดุ ตันจากลิ่มเลือด 7.ภาวะการแข็งตัวของเลอื ดผดิ ปกติ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook