Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ตะลุยหลักภาษากับมัดไหมและผองเพื่อน

ตะลุยหลักภาษากับมัดไหมและผองเพื่อน

Published by chattawan.madmai, 2020-06-14 04:28:53

Description: ชนิดของคำ เล่มที่ 13 การแต่งกาพย์

Search

Read the Text Version

เล่มที่ ๑๓ โดย นางฉัตรตะวนั เตียงทอง โรงเรยี นสิรนิ ธร จังหวัดสุรนิ ทร์ สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๓๓

คำนำ หนงั สอื อ่านเพ่มิ เติม ชุด หลักภาษาพาเพลนิ เล่มที่ ๑๓ ตะลุยหลกั ภาษาไปกับ มดั ไหมและผองเพื่อน ตอน การแต่งคำประพนั ธ์ (กาพย์ยานี ๑๑) กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ในการจดั ทำหนงั สืออา่ นเพิ่มเติมครัง้ น้ี ผ้เู ขยี นมีจุดมุ่งหมายเพ่อื เปน็ ส่อื ประกอบ การเรียนการสอน และใช้ศกึ ษาหาความรใู้ นเรอ่ื งหลกั ภาษา และการใชภ้ าษา ซง่ึ เปน็ ประโยชน์ต่อผู้เรียน ในการศึกษาหาความรเู้ พิม่ เตมิ เกยี่ วกบั การแตง่ คำประพนั ธ์ (กาพยย์ านี ๑๑) ผ้เู ขียนหวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ หนงั สอื อา่ นเพ่ิมเตมิ ชดุ หลักภาษาพาเพลิน เล่มท่ี ๑๓ ตะลุยหลกั ภาษาไปกับมดั ไหมและผองเพ่ือน ตอน การแต่งคำประพันธ์ (กาพยย์ านี ๑๑) จะเปน็ ประโยชนใ์ นดา้ นการจัด กจิ กรรมการเรียนการสอนของครผู ูส้ อน และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ตอ่ การพัฒนาผ้เู รียนใหม้ คี วามรตู้ าม เป้าหมายและวัตถปุ ระสงค์ของหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ต่อไป ขอขอบคณุ คณะครโู รงเรยี นสิรินธร จงั หวัดสุรินทร์ ผบู้ ริหารโรงเรียน ผูท้ รงคุณวุฒิ ทีก่ รุณาช่วยเหลือแนะนำจนการจดั ทำหนังสือสำเรจ็ ลลุ ่วงไปดว้ ยดี ฉตั รตะวนั เตียงทอง

สารบัญ หนา้ คำนำ ก คำช้ีแจงการใชห้ นงั สืออ่านเพ่ิมเติม ข สาระการเรียนรู้ / มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด ข คำชี้แจงการใช้หนังสืออา่ นเพิ่มเติมสำหรับครู ค คำชี้แจงการใชห้ นังสืออ่านเพ่ิมเตมิ สำหรับนกั เรยี น ค แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๑ แนะนำตวั ละคร ๓ ๔ เนอื้ เร่ือง ๑๗ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะที่ ๑๓.๑ ๑๙ แบบฝกึ เสรมิ ทักษะที่ ๑๓.๒ ๒๐ แบบฝกึ เสริมทักษะที่ ๑๓.๓ ๒๒ แบบทดสอบหลังเรียน ๒๔ บรรณานกุ รม ๒๕ ภาคผนวก ๒๖ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน ๒๗ เฉลย แบบฝกึ เสรมิ ทกั ษะที่ ๑๓.๑ ๒๗ เฉลยแบบฝกึ เสรมิ ทักษะที่ ๑๓.๒ ๒๗ เฉลยแบบฝึกเสรมิ ทักษะท่ี ๑๓.๓ ๓๐ กระดาษคำตอบ

ข สาระการเรยี นรู้ สาระที่ ๔ หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของ ภาษาและพลังของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติ ของชาติ ตัวชี้วัดท่ี ท ๔.๑ ม.๑/๕ แต่งบทรอ้ ยกรอง จดุ ประสงคป์ ลายทาง นกั เรียนเขา้ ใจและสามารถแต่งกาพยย์ านี ๑๑ ได้อย่างถูกต้องตามฉันทลกั ษณ์ และ มีความไพเราะ จดุ ประสงค์นำทาง ๑. อธิบายลกั ษณะและฉันทลักษณ์ของคำประพันธป์ ระเภทกาพย์ยานี ๑๑ ได้ (K) ๒. แตง่ คำประพันธ์ประเภทกาพย์ยานี ๑๑ ได้ (P) ๓. เหน็ คณุ คา่ ของภาษาไทย (A) คำชี้แจงการใช้หนงั สืออา่ นเพ่มิ เติม หนงั สอื อ่านเพ่ิมเติม ชุดหลักภาษาพาเพลนิ จดั ทำข้นึ เพื่อใชป้ ระกอบการเรยี นการสอน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ เพอื่ ให้นักเรียนได้ศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง มจี ำนวนทงั้ หมด ๑๓ เล่ม ดังน้ี เล่มที่ ๑ เรอื่ ง ตะลุยหลักภาษาไปกับมัดไหมและผองเพ่ือน ตอน เสียงในภาษา เสียงสระ เลม่ ท่ี ๒ เร่ือง ตะลยุ หลักภาษาไปกบั มัดไหมและผองเพ่ือน ตอน เสยี งในภาษา เสียงพยญั ชนะ เล่มท่ี ๓ เรื่อง ตะลุยหลักภาษาไปกบั มดั ไหมและผองเพ่ือน ตอน เสียงในภาษา เสียงวรรณยุกต์ เลม่ ท่ี ๔ เรอ่ื ง ตะลุยหลกั ภาษาไปกบั มัดไหมและผองเพื่อน ตอน ชนดิ ของคำ คำนาม เลม่ ท่ี ๕ เรอ่ื ง ตะลยุ หลกั ภาษาไปกับมัดไหมและผองเพ่ือน ตอน ชนดิ ของคำ คำสรรพนาม เล่มที่ ๖ เรื่อง ตะลยุ หลักภาษาไปกับมดั ไหมและผองเพื่อน ตอน ชนดิ ของคำ คำกรยิ า เลม่ ที่ ๗ เรื่อง ตะลยุ หลักภาษาไปกับมัดไหมและผองเพื่อน ตอน ชนดิ ของคำ คำวเิ ศษณ์ เล่มที่ ๘ เรอ่ื ง ตะลุยหลักภาษาไปกบั มดั ไหมและผองเพ่ือน ตอน ชนิดของคำ คำบพุ บท เล่มท่ี ๙ เรอื่ ง ตะลยุ หลักภาษาไปกบั มัดไหมและผองเพ่ือน ตอน ชนดิ ของคำ คำสันธาน เลม่ ที่ ๑๐ เรื่อง ตะลุยหลกั ภาษาไปกับมดั ไหมและผองเพื่อน ตอน ชนิดของคำ คำอุทาน เล่มท่ี ๑๑ เรื่อง ตะลยุ หลกั ภาษาไปกับมดั ไหมและผองเพ่ือน ตอน การสรา้ งคำในภาษาไทย คำมลู คำซำ้ คำซ้อน เล่มที่ ๑๒ เรื่อง ตะลยุ หลกั ภาษาไปกบั มัดไหมและผองเพ่ือน ตอน การสรา้ งคำในภาษาไทย คำประสม เล่มที่ ๑๓ เรอ่ื ง ตะลุยหลักภาษาไปกบั มดั ไหมและผองเพ่ือน ตอน การแต่งคำประพนั ธ์ กาพย์ยานี ๑๑

ค คำชแ้ี จงการใชห้ นังสอื อา่ นเพ่มิ เตมิ สำหรบั ครผู ูส้ อน ๑. หนงั สือเลม่ น้ีใชค้ ู่กับแผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑๙ ๒. ศึกษาและปฏบิ ัตติ ามแผนการจดั การเรยี นรู้ทกุ ประการ ๓. ครอู า่ นหนงั สือเลม่ นี้และทำความเข้าใจก่อนทจี่ ะนำมาใช้กับผ้เู รียน ๔. สรา้ งขอ้ ตกลงในการใช้หนงั สือแนะนำวิธกี ารใชห้ นังสอื อ่านเพม่ิ เติมให้นกั เรยี น เข้าใจก่อนนำไปใช้ ๕. แจกหนงั สือให้กบั นักเรียนทุกคน ควรดูแลนกั เรยี นอยา่ งใกล้ชดิ และ คอยใหค้ ำปรึกษาแกน่ กั เรียนเม่ือมปี ัญหา ๖. ให้นักเรียนศึกษาหนงั สืออา่ นเพิม่ เติมน้ีด้วยตัวเอง โดยกำหนดเวลาใหเ้ หมาะสม ตามความสามารถของนักเรียน ๗. ครแู จกกระดาษคำตอบ หรอื อุปกรณ์สำหรับทำแบบทดสอบท้ายบทเรียน คำชี้แจงการใช้หนังสืออ่านเพ่มิ เตมิ สำหรับนักเรียน ๑. หนงั สอื อา่ นเพิ่มเตมิ ชุด หลักภาษาพาเพลนิ ที่จัดทำขน้ึ เพ่ือใช้ประกอบ การเรียนการสอนกลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ โดยนกั เรยี น สามารถศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเองและนำไปปฏบิ ัติจริง นักเรยี นจะได้ประโยชน์จากบทเรยี น ตามจุดประสงค์การเรยี นรู้ท่กี ำหนดไว้ดว้ ยการปฏิบตั งิ านตามขัน้ ตอน ดงั น้ี ๒. นักเรยี นอ่านคำช้แี จงให้เขา้ ใจ ๓. ไมท่ ำเคร่ืองหมายหรอื ขีดเขยี นใด ๆ ลงในหนงั สอื ๔. ส่งหนังสือคนื ครหู ลงั จากเรยี นจบในแตล่ ะเลม่ ๕. เมอื่ อา่ นจบแลว้ นกั เรียนทำแบบฝึกเสริมทกั ษะทา้ ยบทเรยี น

๑ แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง การแตง่ คำประพันธ์ (กาพยย์ านี ๑๑) คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบทีถ่ ูกทสี่ ดุ แล้วทำเคร่อื งหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ หา้ มทำ เคร่ืองหมายใด ๆ ลงในกระดาษคำถาม ๑. คำประพันธ์ประเภทบทรอ้ ยกรองของไทยสามารถแบ่งไดก้ ีป่ ระเภท ก. ๓ ประเภท ข. ๔ ประเภท ค. ๕ ประเภท ง. ๖ ประเภท ๒. บทรอ้ ยกรองทีเ่ กา่ แก่ท่สี ุด คือ ก. โคลง ข. ฉนั ท์ ค.กาพย์ ง. กลอน ๓. กาพย์มที ่มี าจากประเทศอะไร ก. อินเดยี ข. เขมร ค. พมา่ ง. ศรลี งั กา ๔. ข้อใดเปน็ การกล่าวถึงฉนั ทลกั ษณข์ องกาพยย์ านี๑๑ได้ถูกตอ้ ง ก. กาพย์ยานี๑๑ ๑ บท มี ๒ บาท ข. กาพยย์ าน๑ี ๑ ๑ บท มี ๓ วรรค ค. กาพยย์ าน๑ี ๑ ๑ บท มี ๕ วรรค ง. กาพยย์ านี๑๑ ๑ บท มี ๒ วรรค ๕. “เพราะครูผนู้ ำทางใชเ่ รอื จ้างรบั เงนิ ตราพุ่มพานจึงนำมากราบบูชาพระคุณครู” เม่ือจัดเรยี งประโยค แบ่งวรรคตอนแลว้ จะเป็นคำประพันธป์ ระเภทใด ก. อนิ ทรวเิ ชียรฉันท์ ข. กาพย์ยานี ๑๑ ค. โคลงสส่ี ภุ าพ ง. กลอนแปด ๖. คำประพันธห์ รอื บทร้อยกรองปรากฏเป็นหลกั ฐานครง้ั แรกในวรรณคดเี รื่องอะไร ก. ลลิ ติ โองการแช่งน้ำ ข. พระอภยั มณี ค. ลิลติ พระลอ ง. ขนุ ชา้ งขนุ แผน ๗. ขอ้ ความใดคือสิ่งสำคัญท่ีสุดของการเขียนร้อยกรองที่จะสือ่ สารกับผู้อ่ืนได้ ก. ควรศกึ ษาสภาพสงั คมว่าผู้อา่ นเป็นกลมุ่ ใดบ้าง ข. ควรอา่ นบทรอ้ ยกรองจากผ้เู ขยี นทีช่ ่นื ชอบ ค. สามารถรใู้ จผู้อา่ นวา่ ชอบร้อยกรองประเภทใด ง. จดจำฉนั ทลกั ษณ์ของร้อยกรองแตล่ ะชนดิ ได้ถกู ต้อง ๘. ร้อยกรองประเภทใด ท่มี กี ารบังคบั ครุ ลหุ ก. ร่าย ข. กาพย์ ค. โคลง ง. ฉันท์

๙. “เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชำเลืองแลดหู น้าน้ำตาไหล ๒ แลว้ กราบกรานมารดาดว้ ยอาลยั ลกู เติบใหญค่ งจะมาหาแม่คุณ แต่ครั้งนี้มีกรรมจะจำจาก ตอ้ งพลัดพรากแม่ไปเพราะอา้ ยขนุ เที่ยวหาพอ่ ขอให้ปะเดชะบญุ ไมล่ ืมคุณมารดาจะมาเยอื น” บทกลอนนี้ ให้ความงามในสุนทรยี ลีลาดา้ นใด ก. นารีปราโมทย์ ข. พโิ รธวาทัง ค.สลั ลาปังคพิสัย ง. เสาวรจนยี ์ ๑๐. ขอ้ ใดไม่เกยี่ วข้องกบั คำว่า “ คณะ ” ก. วรรค ข. บาท ค. บท ง. สมั ผสั

๓ ครูดาว สอนวิชาภาษาไทยชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ นะคะ มัดไหมค่ะ มัดหมคี่ ะ่ ใบหม่อนครบั พิมพด์ าวค่ะ

๔ เชา้ วนั อาทติ ย์ มัดไหมนดั กบั พมิ พ์ดาวและใบหม่อน มาทำหนงั สอื เล่มเล็กวชิ าภาษาไทยท่ี โรงเรียนเมื่อมาถึงโรงเรียน เหน็ พิมพด์ าวและใบหม่อนนัง่ รอที่ม้าน่งั หน้าอาคาร ๖ พรอ้ มกบั เอกสาร กองโต มัดไหมถือถุงใสก่ ระดาษและอปุ กรณ์ในการประดษิ ฐห์ นงั สือเลน่ เลก็ เขา้ มานั่ง พี่มัดหมถ่ี อื ถุง ขนมและของวา่ งมา มดั ไหม “สวัสดีค่ะใบหม่อน พิมพ์ดาว ขอโทษนะคะ ไหมมาชา้ เพราะตอ้ ง ไปซือ้ อุปกรณ์ในการทำงานและขนมเพอื่ มารบั ประทาน” ใบหม่อน “ไมเ่ ป็นไรครบั ยังไมถ่ ึงเวลานดั เลย ถือว่าไมส่ าย ไหนมีอะไรกินบา้ งครบั คุณแม่ ผมฝากขนมกลว้ ยกบั ขนมฟักทองมาให้รบั ประทานเหมือนกนั ครบั ”

๕ พิมพด์ าว “คณุ แม่พมิ พ์กฝ็ ากผลไม้มา แปลว่าวันน้ีของรับประทานมากมาย ถา้ อย่างนั้น เกบ็ งานไว้กอ่ นแลว้ มารับประทานของวา่ ง เพราะ กองทัพตอ้ งเดินดว้ ยท้อง” ทกุ คนชว่ ยกันแกะขนม และผลไม้ใส่จานรบั ประทาน เมอ่ื รับประทานเสร็จแลว้ จงึ เรมิ่ ลงมอื ทำงานกลุ่ม พมิ พ์ดาว “ไหมได้รวบรวมขอ้ มูลมาไหมคะ่ พิมพ์อาสาวาดรปู ใบหมอ่ นเขียนนะคะ ส่วนไหม ดรู ายละเอยี ดรูปเล่มและตรวจสอบข้อมูล ส่วนขอ้ มลู และการแต่งเรื่อง เราชว่ ยกันทุกคน” มัดไหม “ไดค้ ะ่ ไหมได้รวบรวมมาบ้างแลว้ รายละเอียดมดี งั น้ี ๑. ลักษณะทัว่ ไปของคำประพนั ธไ์ ทย ๒. ลักษณะทวั่ ไปของกาพย์ ๓. กาพยย์ านี ๑๑ รปู แบบและฉันทลกั ษณ์ ๔. ตวั อย่างกาพย์ยานี ๑๑ สดุ ทา้ ยคือ ผลงานทเ่ี ราชว่ ยกนั แต่งกาพย์ ใบหม่อนค่ะ คณุ ครูดาวให้แตง่ กบ่ี ทแลว้ เรือ่ งอะไรคะ่ ไหม จดไม่ทัน” ใบหม่อน “เด่ยี วผมดใู นบันทกึ กอ่ นนะครบั เจอแลว้ คุณครูใหแ้ ตง่ ๘ บทเรอื่ ง โรงเรยี นของ เราครับ”

หนา้ ๓ ๖ พิมพด์ าว “ถ้าอยา่ งนัน้ เราลงมือกันเลยค่ะ” มดั ไหม “ ลกั ษณะทั่วไปของคำประพนั ธ์ ไหมได้ไปรวบรวมมาแล้วนะคะ รบกวนพมิ พก์ บั ใบ หมอ่ นชว่ ยตรวจสอบไดไ้ หมคะ่ ” ใบหมอ่ น “ไดค้ รับ ไหนดูสคิ รับ ลกั ษณะทั่วไปของคำประพันธ์ ความหมายของคำประพันธไ์ ทย หมายถึง ถอ้ ยคำท่เี รยี บเรียงใหเ้ ป็นระเบยี บตามบัญญัตแิ หง่ ฉนั ทลกั ษณ์ โดยมกี ำหนด ข้อบังคบั ตา่ ง ๆ เพ่อื ให้เกิดความครึกคร้นื และมีความไพเราะแตกต่างไปปจากถอ้ ยคำธรรมดา ความเป็นมาของคำประพันธ์ไทย คำประพนั ธห์ รือบทรอ้ ยกรอง ปรากฏเปน็ หลักฐานครั้งแรก ในวรรณคดีเร่อื ง “ลิลติ โองการ แช่งนำ้ ” หรอื “ประกาศแชง่ นำ้ โคลงห้า” ซ่ึงเช่ือกนั ว่า แต่งในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ ๑ เป็น คำประพันธป์ ระเภทโคลงกับรา่ ย ฉนั ทลักษณ์ของคำประพันธ์ ฉนั ทลักษณ์ แปลว่า ตำราว่าดว้ ยคำประพันธ์ หมายถึงระเบียบและขอ้ บังคับต่าง ๆ ท่ีใช้ใน การแตง่ คำประพันธช์ นิดตา่ ง ๆ รูปแบบของคำประพันธไ์ ทย จำแนกออกเปน็ ประเภทใหญ่ ๆ ได้เป็น ๕ ประเภท คือ กลอน โคลง รา่ ย กาพย์ ฉนั ท์”ข้อมูลนจี้ ัดใหอ้ ยู่หน้าแรกๆเลยนะครับ มัดไหมครับมแี คน่ ้ีใช่ไหมครับ”

๗ มดั ไหม “มอี ีกนะคะ ไหมรวบรวมมา อยู่กับใบหมอ่ นกี่แผน่ คะ่ ” ใบหม่อน “ สองแผน่ ครบั ” มัดไหม “มที ้ังหมด สามแผ่นนะคะ เดย่ี วไหมหาก่อน อยู่น่เี อง ติดมากบั เร่อื งรูปแบบทวั่ ไป ของกาพย์”มดั ไหมยืน่ เอกสารให้กบั ใบหม่อน ใบหมอ่ น “ขอบคุณมากครบั งั้นตอ่ นะครับ ลกั ษณะบังคบั ของคำประพันธ์ ๑. คณะ คือข้อกำหนดเกยี่ วกับรูปแบบของคำประพันธแ์ ตล่ ะชนิด วา่ จะตอ้ งประกอบด้วย ส่วนย่อย ๆ อะไรบา้ ง คำท่ีเปน็ ส่วนย่อยของคณะได้แก่ บท บาท วรรค คำ ๒. พยางค์ คอื เสยี งทเี่ ปลง่ ออกมาครง้ั หน่งึ ๆ บางทีก็มคี วามหมาย บางทกี ไ็ มม่ คี วามหมาย แต่เปน็ ส่วนหน่งึ ของคำ ๓. สัมผัส คือลกั ษณะทีบ่ งั คบั ให้ใช้คำคลอ้ งจองกัน สมั ผัส เป็นลักษณะทส่ี ำคัญท่สี ดุ ในคำ ประพันธ์ ชนิดของสมั ผัสทค่ี วรรู้มี ๔ อย่าง ดงั นี้ ๑. สมั ผสั สระ ได้แก่คำทมี่ ีเสียงสระตรงกนั ถา้ มีตัวสะกดตอ้ งเปน็ ตัวสะกดในมาตรา เดียวกัน * ขอ้ ควรจำ อย่าใช้สระเสยี งสั้นสัมผัสกับสระเสียงยาวแม้จะมีตวั สะกดเดยี วกนั

๘ ๒. สัมผัสอกั ษร ไดแ้ ก่ คำท่ีใชพ้ ยัญชนะต้นเสียงเสียงเดียวกนั อาจเป็นตัวอกั ษรท่ีเป็น พยัญชนะต้น เสียงเดียวกัน หรอื พยญั ชนะท่มี ีเสยี งสูงตำ่ เขา้ ค่กู นั หรอื พยญั ชนะควบชดุ เดยี วกนั ๓. สัมผสั นอก เปน็ สมั ผัสบังคบั ทจ่ี ะต้องมใี นบทประพันธต์ า่ ง ๆ ไดแ้ ก่สมั ผสั ทสี่ ง่ และ รับกนั ระหวา่ งวรรค ระหว่างบาท และระหว่างบท และต้องเนสัมผสั สระ ๔. สมั ผสั ใน เป็นสัมผัสไม่บังคับ ไดแ้ ก่ สมั ผัสทค่ี ล้องจองกนั อยภู่ ายในวรรคเดียวกนั อาจเป็นสัมผัสสระหรอื สัมผัสอกั ษรกไ็ ด้ สมั ผัสในน้นั จะชว่ ยใหบ้ ทประพนั ธ์มคี วามไพเราะขึ้น พิมพ์ดาว “ใบหม่อน รับประทานนำ้ ก่อนนะคะ นา่ จะเจบ็ คอ อ่านยาวเลย” ใบหมอ่ น “ขอบคณุ ครบั กำลังคอแห้งเลย ก็งานทมี่ ัดไหมเตรยี มมานน้ั สมบูรณ์แลว้ หลังจาก ท่ีเรารวบรวมเสรจ็ แล้วง้ันเราคอ่ ยมาจดั หน้ากนั นะครบั ถา้ อยา่ งน้นั ผมอา่ นต่อเลยนะครบั ” ใบหม่อน “ต่อไปเร่อื ง ๕. คำเอก คำโท หมายถึงพยางค์ท่ีบงั คับดว้ ยไมเ้ อก และ ไม้โท สำหรับใช้กับคำประพันธ์ ประเภทโคลงเทา่ นัน้ มีข้อกำหนดดงั นี้ ๕.๑ คำเอก ได้แก่ พยางคท์ ไี่ มเ้ อกบังคับทงั้ หมด เช่น จ่า ต่อ และพยางค์ท่ีเป็นคำตาย ทัง้ หมด จะมีเสยี งวรรณยกุ ต์ใดก็ได้

๙ ๕.๒ คำเอกโทษ คือคำทไี่ มเ่ คยใชไ้ ม้เอก แต่เอามาแปลงใชโ้ ดยเปลยี่ นวรรณยุกตเ์ ป็นเอก เพอ่ื ใหไ้ ด้เสยี งเอกตามบงั คับ ๕.๓ คำโท ได้แกพ่ ยางค์ทีม่ ไี มโ้ ทบงั คับทัง้ หมด ๕.๔ คำโทโทษ คือคำท่ีไม่เคยใช้ไมโ้ ท แตเ่ อามาแปลงใชโ้ ดยเปลย่ี นวรรณยกุ ตเ์ ปน็ โทเพอื่ ให้ ไดเ้ สียงโทตามบงั คบั ๖. คำเปน็ คำตาย คำเป็น ได้แก่ พยางค์ทผี่ สมดว้ ยสระเสียงยาว ในมาตรา แม่ ก.กา กบั พยางค์ที่ประสมดว้ ย สระอำ ไอ ใอ เอา และพยางค์ทสี่ ะกดดว้ ยมาตรา กง กน กม เกย เกอว คำตาย ไดแ้ ก่พยางค์ ท่ีผสมด้วยสระเสยี งส้ัน ในมาตราแม่ ก.กา และพยางค์ท่สี ะกดด้วย มาตรา แม่ กด กก กบ ๗. เสยี งวรรณยุกต์ หมายถึงคำทมี่ ีเสียงวรรณยกุ ตท์ ง้ั ๕ เสยี ง เสียงวรรณยุกต์นี้เป็นลกั ษณะสำคัญทใี่ ช้บังคับใน กลอนและ กาพย์บางชนดิ เชน่ กลอนสุภาพ ๘. คำนำ หมายถงึ คำท่ีใช้ข้นึ ต้นสำหรบั คำประพนั ธ์บางประเภท เชน่ กลอนบทละคร กลอน ดอกสรอ้ ย กลอนสักวา ๙. คำสรอ้ ย คือคำทใ่ี ช้เติมลงทา้ ยวรรค ท้ายบาท หรือท้ายบท เพ่ือความไพเราะหรือเพือ่ ให้ครบ จำนวนตามลักษณะบังคับบางแห่งก็ใชเ้ นคำถาม หรือใช้ย้ำความ คำสร้อยน้ี ใช้เฉพาะในโคลงและรา่ ยและมักจะเปน็ คำเป็น

๑๐ ใบหมอ่ น “ มัดไหม พมิ พ์ ผมวา่ ขอ้ มลู ที่ผมอา่ นมานี้ เราจะจัดให้อยหู่ น้าแรก ๆ ของหนงั สอื เลม่ เล็กเรานะครบั น่าจะได้ ๓ หน้า พมิ พค์ ิดรปู แบบ เรือ่ งภาพประกอบหรือยังครับ” พมิ พด์ าว “ พมิ พว์ ่าจะใช้ภาพประกอบใหส้ วยงามก่อนนะคะเช่น ภาพดอกไม้ ดอกกุหลาบ ดอกจำปี ให้ผลงานไม่น่าเบื่อ คะ แล้วพิมพ์คดิ วา่ แต่ละหน้า ใหใ้ บหม่อนเขียนตวั หนงั สือไม่ตอ้ งใหญ่ มาก จะไดม้ พี น้ื ที่สำหรับวาดรปู มากขึน้ คะ่ ” มัดไหม “ไหมเห็นด้วยกบั พิมพค์ ่ะใบหมอ่ น” ใบหม่อน “งั้นผมคัดลงกระดาษเลยนะครบั ผมวานใหม้ ดั ไหมกบั พิมพ์ช่วยกันหาขอ้ มูลท่ี เหลือตอ่ นะครับ” มดั ไหม “ได้ค่ะ ระหวา่ งท่ีรอใบหม่อนเขียนพิมพช์ ว่ ยไหมหาข้อมูลตอ่ นะคะ ถ้าใบหมอ่ นเขียน เสร็จพิมพ์ค่อยไปวาดภาพประกอบ” พิมพ์ดาว “ไดค้ ่ะ” พมิ พ์ดาวกับมัดไหมชว่ ยกันหาข้อมูลต่อ สว่ นใบหม่อนก็กำลงั ขะมักเขม้น คดั ลายมือลงบน กระดาษ มดั ไหม “ พิมพ์นไ่ี หมเจอแล้วข้อมลู ต่อไป เรื่อง ของกาพยย์ านีเลยคะ พมิ พด์ าว “โอโ้ ห ! ละเอียดดีจัง ต่อไปก็เปน็ เรอื่ งกาพย์ แลว้ ใช่ไหมคะ่ มดั ไหม” มดั ไหม “ใช่ค่ะ ไหมเตรียมมาแลว้ ไปเจอหนังสือในห้องสมุดโรงเรียนเราพอดคี ะ” พิมพด์ าว “มัดไหมสุดยอดเลยค่ะ ไหนพิมพ์ดูหน่อยสิคะ่

๑๑ ลกั ษณะท่ัวไปของกาพย์ มดี งั นี้ กาพย์ เปน็ คำประพันธช์ นดิ หน่ึงทบ่ี งั คบั จำนวนคำและสมั ผัส จัดวรรคตา่ งจากกลอนและไม่ บังคับเสยี งวรรณยกุ ตท์ า้ ยวรรค ไมม่ บี ังคบั เอก-โทเหมือนโคลง และไม่มบี ังคบั ครแุ ละลหุเหมอื นฉันท์ มดั ไหม “ถา้ อยา่ งนน้ั กาพย์ก็บังคบั แค่จำนวนคำใชไ่ หมค่ะ” พิมพด์ าว “คงจะใช่ เดย๋ี วพิมพอ์ ่านให้ละเอียดกอ่ นนะคะ ต่อไปก็ ความเปน็ มาความเปน็ มา ของกาพย์ กาพย์ มีทมี่ าไม่ทราบแนช่ ัดว่าเป็นคำประพันธเ์ ดิมของไทย หรอื รับมาจากชาตอิ ื่น ตำรา กาพยเ์ กา่ แกท่ ีม่ ีอยู่ในปจั จุบนั คือ กาพย์สารวลิ าสนิ ี และ กาพยค์ ันถะ แต่งเปน็ ภาษาบาลี ไมท่ ราบช่อื ผแู้ ต่ง แตส่ นั นิษฐานกันว่าแต่งข้นึ ในลา้ นนาสมัยพระเจา้ ตโิ ลกราชแห่งลา้ นนา ซ่งึ ตรงกบั สมัยสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยธุ ยาและเปลยี่ นแปลงมาจากกาพยม์ คธเปน็ กาพยไ์ ทยโดยบรบิ รู ณ์ ประมาณรชั สมัยสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั บรมโกศแหง่ กรงุ ศรีอยุธยา” มัดไหม “พิมพ์เหน่อื ยหรือยงั ค่ะ เด่ยี วไหมอา่ นตอ่ กไ็ ดส้ ลับกนั ต่อไปเป็นความหมายของ กาพยเ์ ลยไหมค่ะ กาพย์ แปลตามรูปศพั ท์ว่า เหล่ากอแห่งกวี หรอื ประกอบด้วย คุณแห่งกวี หรือ คำทีก่ วี ไดร้ ้อยกรองไว้ กาพยม์ าจากคำว่า กาวฺย หรือ กาพฺย และคำว่า กาวยฺ หรอื กาพยฺ มาจาก คำว่า กวกี วอี อกมาจากคำเดมิ ในภาษาบาลี และสนั สกฤต กวิ แปลวา่ ผู้คงแก่เรยี น ผู้เฉลียวฉลาด ผู้ มปี ญั ญาเปรอื่ งปราด ผู้ประพันธ์กาพย์กลอน คำว่า กวิ หรือ กวี มาจากรากศัพทเ์ ดมิ คอื กุธาตุ แปลว่า เสียง วา่ ทำให้เกิดเสียงวา่ ร้อง ว่ารอ้ งระงม วา่ คราง ว่ารอ้ งเหมอื นเสียงนก หรอื เสียงแมลงผ้ึง กาพย์ ตามความหมายเดมิ มคี วามหมายกวา้ งกว่าทเี่ ข้าใจกัน ในภาษาไทย คือ บรรดาบท นิพนธ์ ทก่ี วไี ด้ รอ้ ยกรองขึ้น ไมว่ า่ จะเปน็ โคลง ฉันท์ กาพย์ หรอื รา่ ย นบั ว่าเป็นกาพย์ ทง้ั น้นั แต่ ไทยเรา หมายความวา่ แคบหรอื หมายความถงึ คำประพนั ธช์ นดิ หน่งึ ของกวีเท่านั้น” ใบหมอ่ น “กาพย์น่าสนใจมาก แล้วกาพยน์ ้แี บ่งได้ก่ชี นดิ ครับ” มดั ไหม “กาพย์ที่นิยมใชอ้ ย่ใู นภาษาไทย มี ๕ ชนดิ คอื ๑. กาพย์ยานี ๑๑ ๒. กาพยฉ์ บัง ๑๖ ๓. กาพย์สุรางคนางค์ มีอยู่ ๓ ชนดิ คือ กาพย์สรุ างคนางค์ ๒๘ กาพย์สุรางคนางค์ ๓๒ กาพย์สุรางคนางค์ ๓๖ (กาพย์ ขับไม)้ ๔. กาพยห์ อ่ โคลง ๕. กาพยข์ บั ไม้หอ่ โคลง ใบหม่อนคะ ครูดาวใหท้ ำเฉพาะแคเ่ รือ่ งกาพยย์ านี ๑๑ ใช่ไหมคะ”

๑๒ ใบหม่อน “ครับมดั ไหม งานลักษณะทั่วไปของคำประพนั ธ์ไทย เสรจ็ แล้วครับ ๓ หน้า พิมพ์ เอาไปวาดภาพประกอบนะครับ ผมจะชว่ ยมดั ไหมหาข้อมูล กาพย์ยานี ๑๑ ต่อครบั ” มัดไหม “ ใบหมอ่ นไมต่ อ้ งชว่ ยไหมหรอกคะ่ เพราะวา่ ลกั ษณะทั่วไปของกาพย์ไดข้ อ้ มลู ครบ แล้ว ใบหมอ่ นเขียนตอ่ เถอะ พมิ พก์ ว็ าดภาพนะ สว่ นไหมจะหาข้อมลู เอง ไม่ยากหรอก แบง่ งานกัน ทำจะไดเ้ สรจ็ เรว็ ๆ เพราะเราจะตอ้ งมาชว่ ยกัน แต่งกาพยย์ านีอกี ๘ บทนะคะ” หนา้ ๘ พิมพด์ าวกบั ใบหม่อนรับคำแลว้ ทำงานในหน้าทขี่ องตนอย่างตัง้ ใจ มัดไหม “ ตอ่ ไป กาพยย์ านี ๑๑ เป็นคำประพนั ธ์ไทยประเภทกาพย์ที่กวีนยิ มแต่งมากท่ีสุด มีท้ังแต่งสลับกับคำประพนั ธป์ ระเภทอ่นื และแตง่ เพยี งลำพัง กาพย์ยานบี ทหน่ึงมีสองบาท บาทละ ๑๑ คำ คนทว่ั ไปจึงนิยมเรยี กว่า กาพยย์ านี ๑๑ อ๋อ อยา่ งนี้นี่เองเรียกตามจำนวนคำ ต่อไปก็ กฎเกณฑ์บงั คบั ๑ . บทหนงึ่ มี ๒ บาท บาทหนึ่งมี ๒ วรรค วรรคแรกมี ๕ คำ วรรคหลงั มี ๖ คำ รวมเป็น ๑๑ คำ จงึ เรียกว่า กาพย์ยานี ๑๑ ๒. สมั ผัส มดี งั น้ี คำสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี ๑ สมั ผสั กบั คำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ (เล่ือนมาคำท่ี๑ หรือ ๒ ก็ได)้ คำสดุ ทา้ ยของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำสุดทา้ ยของวรรคสดุ ท้ายของวรรคท่ี ๑ ถ้าแตง่ บท ตอ่ ไป จะตอ้ งใหค้ ำสดุ ทา้ ยของบทต้น สัมผสั กบั คำสุดทา้ ยของวรรคท่ี ๒ ของบทตอ่ ไป ซ่งึ ถือเปน็ สัมผสั ระหว่างบท ในการแตง่ กาพย์ยานี ๑๑ นนั้ ถ้าจะให้คำสุดท้ายของวรรคท่ี๓ สัมผัสกับคาท่ี ๑ หรอื ๒ หรือ ๓ ของวรรคที่ ๔ ด้วย กจ็ ะเปน็ การเพิ่มความไพเราะยง่ิ ขึน้ ซ่ึงในปัจจบุ นั นน้ี ยิ มให้สมั ผัส กันด้วย

๑๓ ๓. ถอ้ ยคำท่ใี ช้ในวรรคเดียวกนั นิยมให้มสี มั ผัสในเหมอื นกลอนจงึ จะไพเราะ ๔. คำสุดท้ายของบท ห้ามใช้คำตายหรือคำที่มรี ูปวรรณยกุ ต์ และนิยมใชเ้ สียงวรรณยกุ ต์ สามญั หรือจัตวา ๕. กาพย์ยานีน้ัน อาจเรยี กว่า กาพยย์ านีลำนำ หรอื กาพย์ ๑๑ กไ็ ด้ เหตุทีเ่ รยี กวา่ กาพย์ยานี นัน้ เข้าใจว่าเป็นกาพยท์ ีแ่ ปลงมาจากฉนั ท์บาลใี น “รตนสูตร” ซ่งึ ขน้ึ ตน้ ด้วยคำว่า“ยานี” ซ่งึ เรียกช่ือ ตามคำขึน้ ตน้ นนั้ ๖. กาพยย์ านี มักนยิ มแต่งเป็นบทสวด บทเห่เรอื บทพากยโ์ ขน และบทสรภัญญะท่ีใชใ้ นบท ละคร และมกั นยิ มแต่งเกย่ี วกบั ตอนทีเ่ ปน็ บทพรรณนาโวหาร หรือตอนทช่ี มสงิ่ ตา่ ง ๆ หรอื ตอนท่ี โศกเศร้า คร่ำครวญ” มัดไหม “พิมพ์ นไี่ งผงั ภมู ขิ องกาพยย์ านี ๑๑ พิมพ์วาดตามเลยนะ พิมพด์ าว “ไดค้ ่ะมัดไหม” ใบหมอ่ น “เนื้อหา ครบแล้วใช่ไหมครบั ต่อไปก็งานยากของพวกเรา แตง่ กาพย์ยานี ๑๑ ๘ บท โรงเรียนของเรา” มดั ไหม “ไม่ยากเกนิ ไปหรอกคะ่ เรามกี ันต้ังสามคนช่วยกันออกความคิดเห็น ไม่นานก็เสรจ็ คะ แตไ่ หมวา่ เรารับประทานอาหารกลางวนั กนั ก่อนดไี หมคะ ตอนนก้ี เ็ ทีย่ งแลว้ ” ใบหมอ่ น “มนิ า่ หล่ะ ท้องผมรอ้ งจ้อก ๆ เลย” เมอ่ื ใบหมอ่ นพูดจบ เพอ่ื นก็พากันหวั เราะแลว้ จงึ เดนิ ไปหยบิ กลอ่ งขา้ วของตนมารับประทาน ด้วยกนั จากนัน้ กน็ ง่ั พูดคยุ เรือ่ งสัพเพเหระ เวลาผ่านไปสักระยะ จงึ เร่ิมลงมือทำงานทง้ั สามชว่ ยกันคิด กาพยย์ านี ๑๑

๑๔ มดั ไหม “น่ไี งผลงานของเรา เดยี๋ วไหมจะอ่านใหฟ้ ังนะคะ โรงเรียนสริ นิ ธร ๑. โรงเรียนของหนนู ี้ ชื่อเพราะดีสริ นิ ธร คณุ ครูใส่ใจสอน หอ้ งไม่รอ้ นเพราะติดแอร์ ๒. โรงเรียนแสนสะอาด ต่างเก็บกวาดช่วยดูแล คุณครชู ่ืนใจแน่ เพราะมแี ตเ่ ด็กน่ารัก ๓. เดก็ เด็กหมนั่ อ่านเขยี น ผลการเรียนเหน็ ประจักษ์ ย้ิมง่ายคืออัตลักษณ์ ไหว้งามนกั รู้ทกั ทาย ๔. เสาธงสูงเสียดฟา้ และมปี ลาวา่ ยแหวกวา่ ย อาคารตง้ั เรยี งราย มดี อกไมส้ วยงามตา ๕. มีซุ้มขายอาหาร บริการตลอดเวลา มีโดมอย่ดู า้ นหน้า ท่หี ลงั คาเป็นทรงไทย ๖. อาคารหลากสีสัน บัสสามคันสีสดใส นักเรยี นมีวินยั และใส่ใจในการเรยี น ๗. กจิ กรรมโรงเรียนเด่น ท้ังสอนเนน้ เรือ่ งอ่านเขียน กฬี าเราก็เซียน เดก็ พากเพียรเรยี นวชิ า ๘. โรงเรียนของเรานี้ นักเรียนดคี รูเก่งกล้า หนึง่ ในถน่ิ ไอยรา คือคุณค่าสริ ินธร ครมู ณี นรสาร ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๐

๑๕ รายงาน ผลงานการแต่งคำประพันธ์ การแต่งคำประพนั ธ์ “กาพย์ยานี ๑๑” โรงเรยี นสิรนิ ธร โดย ด.ช. ใบหม่อน ๑. โรงเรียนของหนูนี้ ชอ่ื เพราะดสี ิรนิ ธร ด.ญ.มดั ไหม ด.ญ.พมิ พด์ าว คณุ ครูใส่ใจสอน ห้องไมร่ ้อนเพราะตดิ แอร์ เสนอ ๒. โรงเรียนแสนสะอาด ต่างเก็บกวาดชว่ ยดแู ล ครูดาว โรงเรยี นสริ นิ ธร คุณครชู ่นื ใจแน่ เพราะมแี ต่เดก็ น่ารัก สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๓๓ กระทรวงศึกษาธกิ าร ๓. เดก็ เดก็ หม่นั อ่านเขยี น ผลการเรียนเหน็ ประจักษ์ ย้ิมง่ายคอื อตั ลักษณ์ ไหวง้ ามนักรู้ทกั ทาย ๔. เสาธงสูงเสียดฟ้า และมีปลาวา่ ยแหวกวา่ ย อาคารตัง้ เรยี งราย มดี อกไม้สวยงามตา ๕. มซี มุ้ ขายอาหาร บริการตลอดเวลา มีโดมอยู่ด้านหน้า ที่หลงั คาเปน็ ทรงไทย ๖. อาคารหลากสสี นั บัสสามคนั สสี ดใส นกั เรียนมวี นิ ยั และใส่ใจในการเรียน ๗. กิจกรรมโรงเรียนเดน่ ทัง้ สอนเน้นเรื่องอ่านเขยี น กีฬาเรากเ็ ซยี น เด็กพากเพยี รเรียนวิชา ๘. โรงเรยี นของเรานี้ นกั เรียนดคี รเู ก่งกล้า หนึง่ ในถิน่ ไอยรา คือคณุ คา่ สริ ินธร ครมู ณี นรสาร ๑๙ มิถุนายน ๒๕๖๐ ใบหม่อน “ผลงานของเราก็ไพเราะดเี หมอื นกนั นะครบั งัน้ เรามาช่วยกนั ทำรปู เลม่ ใหส้ มบูรณ์ ดีกวา่ ครบั อย่าลมื ว่าเราต้องทำแบบฝกึ เสรมิ ทักษะเรื่อง การแตง่ กาพย์ ของคุณครูดาวอกี นะครับ” ทกุ คนชว่ ยงานกนั จนผลงานสำเร็จสมบรู ณ์สวยงาม จากนั้นกล็ งมอื ทำแบบฝกึ เสรมิ ทักษะของ คุณครดู าว พีม่ ัดหม่ีเดนิ เข้ามาหา มดั หม่ี “สวสั ดคี ่ะนอ้ ง ขยันจงั เลยค่ะ ไหนพี่ดหู น่อยสคิ ่ะผลงานเปน็ อย่างไรบ้าง” พมิ พด์ าว “สวสั ดีคะ” ใบหมอ่ น “ สวสั ดีครับพ่มี ัดหม่ี นี่ครับผลงานของเรา เพ่งิ เย็บเล่มเสรจ็ สกั ครนู่ ่ีเองครับ” มัดหมี่หยบิ ผลงานของนอ้ ง ๆ ขน้ึ มาดู “สวยจงั รายละเอียดชดั เจนดี ใครแต่งกาพยค์ ะ่ ไพเราะจัง”

๑๖ มัดไหม “พวกเราชว่ ยกนั แต่งและก็เกลาขอ้ ความค่ะพ่ีมัดหมี่” มัดหม่ี “พีค่ ดิ วา่ ผลงานของน้อง ๆ น่าจะได้คะแนนเตม็ ตอนนีเ้ สร็จงานหรือยงั หรอื วา่ ยงั เหลอื อะไรคะ่ ” มดั ไหม “เหลือเก็บของค่ะ พ่มี ัดหม่ี พีจ่ ะชว่ ยน้องเก็บไหมคะ จะได้รบี กลบั บ้าน” มดั หมี่ ชว่ ยนอ้ ง ๆ เกบ็ ของ และเกบ็ ขยะทำความสะอาดบริเวณที่น่ังทำงาน จากนนั้ จงึ แยก ย้ายกนั กลับบ้าน มัดไหม “พมิ พ์ ใบหม่อน เจอกันวนั จนั ทร์นะคะ”

๑๗ แบบฝึกเสริมทักษะ ท่ี ๑๓.๑ การแตง่ คำประพนั ธ์ กาพย์ยานี ๑๑ คำชแ้ี จง แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ เรื่อง การแต่งคำประพนั ธ์ เล่มท่ี ๑๓ กาพย์ยานี ๑๑ มที ้ังหมด ๓ ตอน ทัง้ หมด ๓๐ ขอ้ ๓๐ คะแนน แบบฝึกเสรมิ ทักษะท่ี ๑๓.๑ ประนยั ๔ ตวั เลอื ก ๑๐ ขอ้ แบบฝึกเสรมิ ทักษะท่ี ๑๓.๒ เลือกข้อถูก/ผดิ ๑๐ ข้อ แบบฝกึ เสริมทักษะท่ี ๑๓.๓ เขียนตอบคำถามสัน้ ๆ ๑๐ ข้อ ปรนัย ๔ ตวั เลือก ให้นกั เรยี นเลือกคำตอบท่ถี ูกทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดยี ว หา้ มทำเคร่ืองหมายใด ๆ ลงในกระดาษคำถาม ท้งั หมด ๑๐ ขอ้ ๑๐ คะแนน ๑. คำประพันธ์ประเภทบทร้อยกรองของไทยสามารถแบ่งได้กี่ประเภท ก. ๓ ประเภท ข. ๔ ประเภท ค. ๕ ประเภท ง. ๖ ประเภท ๒. บทรอ้ ยกรองที่เกา่ แกท่ ่สี ุด คือ ก. โคลง ข. ฉันท์ ค.กาพย์ ง. กลอน ๓. “เพราะครผู ู้นำทางใชเ่ รอื จ้างรบั เงนิ ตราพุ่มพานจึงนำมากราบบชู าพระคุณครู” เม่ือจัดเรยี งประโยคแบ่งวรรค ตอนแล้วจะเป็นคำประพนั ธ์ประเภทใด ก. อินทรวเิ ชยี รฉนั ท์ ข. กาพย์ยานี ๑๑ ค. โคลงสี่สุภาพ ง. กลอนแปด ๔. ขอ้ ใดเป็นการกล่าวถึงฉนั ทลกั ษณข์ องกาพยย์ าน๑ี ๑ไดถ้ ูกตอ้ ง ก. กาพย์ยาน๑ี ๑ ๑ บท มี ๒ บาท ข. กาพยย์ าน๑ี ๑ ๑ บท มี ๓ วรรค ค. กาพย์ยานี๑๑ ๑ บท มี ๕ วรรค ง. กาพย์ยานี๑๑ ๑ บท มี ๒ วรรค ๕. ข้อความใดมจี ำนวนพยางค์เทา่ กบั วรรคแรกและวรรคที่ 3 ของกาพย์ยานี ๑๑ ก.เสน่ห์ซ้งึ หว้ งหทัย ข. ยามเชา้ ภกู ระดงึ ค. เมฆหมอกยัว่ หยอกไมไ้ หว ง. อยากฝันใฝ่ไปทุกเยี่ยมเยียน ๖. ข้อใดมจี ำนวนพยางคเ์ ท่ากับวรรคท่ี ๒ และ ๔ ของกาพย์ยานี ๑๑ ก. ท้องฟา้ ทะเลสีคราม ข. หาดงามยามเยน็ ยำ่ ค.. ถิน่ ใดไหนงดงาม ง. ขา้ มฝั่งยงั ทะเล ๗. ข้อความใดเติมในชอ่ งวา่ งต่อไปน้ีไดถ้ ูกต้องสมบูรณ์ที่สุด งามไมด้ อกออกช่อ ……………?…………… น้ำหวานซา่ นอารมณ์ คอยยว่ั เยา้ เฝ้าเวียนวน ก. ผเี สือ้ คอยเคลียคลอ ข. หลากสีมีหลายกอ ค. ภมรบินหามาเลน่ ลอ้ ง. ผเี สอื้ ลอ้ เลน่ ดอมดม

๑๘ ๘. บทรอ้ ยกรองขอ้ ใดเป็น “กาพย์ยานี ๑๑” ก. นกนอ้ ยนอนแนบน้ำ ในนา ตมเตอะตดิ เต็มตา ตำ่ ตอ้ ย ข. เขาสูงฝูงหงส์ลงเรยี ง เริงรอ้ งซ้องเสียง สำเนยี งนา่ ฟงั วงั เวง ค. วังเอ๋ยวงั เวง หงา่ งเหงง่ ย่ำคำ่ ระฆังขาน ฝูงวัวควายเฝา้ ลาทิวากาล มุ่งกลบั บา้ นชานเรือนท้องถนิ่ ตน ง. สุพรรณหงสท์ รงสู่ห้อย งามชดชอ้ ยลอยหลังสนิ ธ์ุ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลนิ ลาศเลือ่ นเตือนตาชม ๙. ข้อใดเปน็ คำประพนั ธข์ องสุนทรภู่ ก. ราชาธริ าช ข. กาพย์เหเ่ รือ ค. นริ าศภูเขาทอง ง. ลิลิตตะเลงพา่ ย ๑๐. กาพยย์ านี ๑๑ ต่างจากอินทรวิเชยี รฉันท์ ๑ ตามข้อใด ก. คำเอก – คำโท ข. จำนวนคำ ค. คำครุ – ลหุ ง. คำสร้อย

๑๙ แบบฝึกเสรมิ ทักษะ ท่ี ๑๓.๒ การแต่งคำประพนั ธ์ กาพย์ยานี ๑๑ คำช้แี จง แบบฝึกเสรมิ ทักษะ เรื่อง การแตง่ คำประพันธ์ เลม่ ที่ ๑๓ กาพยย์ านี ๑๑ มที ้งั หมด ๓ ตอน ทัง้ หมด ๓๐ ข้อ ๓๐ คะแนน แบบฝึกเสรมิ ทักษะท่ี ๑๓.๑ ประนยั ๔ ตัวเลือก ๑๐ ข้อ แบบฝกึ เสริมทักษะที่ ๑๓.๒ เลือกข้อถูก/ผดิ ๑๐ ข้อ แบบฝกึ เสริมทักษะที่ ๑๓.๓ เขยี นตอบคำถามส้ัน ๆ ๑๐ ข้อ เลอื กข้อ ถูก / ผิด ใหน้ กั เรียนทำเคร่อื งหมาย √ หนา้ ขอ้ ท่ีถกู และทำเคร่ืองหมาย × หนา้ ขอ้ ทผี่ ิด ................... ๑. กาพยห์ มายถึง เจรญิ รุ่งเรือง ................... ๒. กาพยม์ ีท่ีมาจากประเทศ สหรฐั อเมรกิ า ................... ๓. กาพย์แผลงมาจากคำวา่ กวี ................... ๔. กาพยย์ านี ๑๑ หนงึ่ บท มี ๔ บาท ๓ วรรค ................... ๕. กาพยย์ านี ๑๑ บงั คับคำเอก คำโท ................... ๖. กาพยย์ านี ๑๑ มีจำนวน คำ วรรคหน้า ๕ วรรคหลงั ๖ ................... ๗. คำประพันธ์บทร้อยกรอง คอื การนำถอ้ ยคำมาแต่งตามลักษณะ ................... ข้อบงั คับของคำประพนั ธ์บทร้อยกรองนนั้ ๆ และมีสมั ผสั คล้องจอง ................... ตา่ งกับคำประพนั ธ์บทร้อยแกว้ ................... ๘. “คำ” ในความหมายของบทร้อยกรองมีความหมายเดยี วกบั “พยางค์” ๙. บทเศรา้ โศกในคำประพันธ์ เรียกว่า สัลลาปงั คพสิ ยั ๑๐. ฉันทลกั ษณ์ แปลวา่ ตำราว่าด้วยคำประพนั ธ์ หมายถงึ ระเบียบและ ข้อบังคบั ตา่ ง ๆ ทใ่ี ชใ้ นการแต่งคำประพันธ์ชนดิ ต่าง ๆ

แบบฝกึ เสรมิ ทักษะ ท่ี ๑๓.๓ ๒๐ การแตง่ คำประพนั ธ์ กาพย์ยานี ๑๑ คำช้ีแจง แบบฝึกเสริมทกั ษะ เรื่อง การแตง่ คำประพนั ธ์ เล่มท่ี ๑๓ กาพยย์ านี ๑๑ มที ั้งหมด ๓ ตอน ท้ังหมด ๓๐ ขอ้ ๓๐ คะแนน แบบฝกึ เสริมทักษะท่ี ๑๓.๑ ประนัย ๔ ตวั เลอื ก ๑๐ ข้อ แบบฝึกเสริมทักษะที่ ๑๓.๒ เลือกข้อถูก/ผิด ๑๐ ขอ้ แบบฝึกเสรมิ ทักษะที่ ๑๓.๓ เขยี นตอบคำถามส้นั ๆ ๑๐ ข้อ ตอนท่ี ๓ เขยี นตอบคำถามสน้ั ๆ ใหน้ ักเรียนคำตอบท่ีถูกต้อง ลงในช่องว่าง ให้ไดใ้ จความสมบูรณ์ดว้ ยตัวบรรจง อา่ นง่าย ๑. รูปแบบของคำประพันธ์ไทย แบง่ ได้ ........... รูปแบบ ๒. คำประพันธ์ชนิดใดที่บังคบั เอก - โท คอื ........................................... ๓. คำประพนั ธช์ นดิ ใดที่บังคับ ครุ- ลหุ คือ .......................................... ๔. คำประพันธป์ ระเภท โคลง บังคับอะไรบ้าง ..................................... ๕. “เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชำเลืองแลดหู น้านำ้ ตาไหล แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลูกเติบใหญ่คงจะมาหาแม่คุณ แตค่ รง้ั น้ีมีกรรมจะจำจาก ตอ้ งพลัดพรากแม่ไปเพราะอา้ ยขุน เทีย่ วหาพ่อขอให้ปะเดชะบญุ ไม่ลมื คุณมารดาจะมาเยือน” บทกลอนน้ี ให้ความงามในสุนทรยี ลีลาด้านใด ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................................ ๖. กาพย์ยานี ๑๑ มรี ูปแบบ ฉันทลักษณ์ อย่างไรบา้ ง ............................................................................................................................. ................. ....................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ............... ๗. จงเขยี นแผนภูมิ กาพย์ยานี ๑๑ .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............... ............................................................................................................................. ................. ................................................................................................................. ...........................

๒๑ ๘. กาพย์ยานี ๑๑ นิยมแตง่ เปน็ ....................................................................................... เพราะ........................................................................................................................ ... ๙. ความหมายของกาพย์ คอื ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................. ............... ................................................................................................................... ........................... ............................................................................................................................. ............... ๑๐. จงแต่งกาพย์ยานี ๑๑ จำนวน ๒ บท เรอื่ ง ความฝนั ของฉัน .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............... .................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ .................... ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ................. ............................................................................................................................................

๒๒ แบบทดสอบหลังเรียน เรอื่ ง การแต่งคำประพันธ์ (กาพยย์ านี ๑๑) คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกทสี่ ดุ แลว้ ทำเครือ่ งหมาย × ลงในกระดาษคำตอบ ห้ามทำเคร่อื งหมายใด ๆ ลงใน กระดาษคำถาม ๑. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ คณะ ” ก. วรรค ข. บาท ค. บท ง. สัมผัส ๒. “เจ้าพลายงามความแสนสงสารแม่ ชำเลอื งแลดูหนา้ น้ำตาไหล แลว้ กราบกรานมารดาด้วยอาลัย ลูกเตบิ ใหญค่ งจะมาหาแม่คุณ แตค่ ร้งั นี้มกี รรมจะจำจาก ต้องพลดั พรากแม่ไปเพราะอ้ายขุน เท่ยี วหาพ่อขอใหป้ ะเดชะบุญ ไมล่ มื คุณมารดาจะมาเยือน” บทกลอนนี้ ให้ความงามในสนุ ทรียลีลาด้านใด ก. นารีปราโมทย์ ข. พิโรธวาทัง ค.สลั ลาปงั คพสิ ัย ง. เสาวรจนยี ์ ๓. ร้อยกรองประเภทใด ทมี่ ีการบังคับครุ ลหุ ก. รา่ ย ข. กาพย์ ค. โคลง ง. ฉนั ท์ ๔. ข้อใดคือสิง่ สำคญั ทส่ี ุดของการเขยี นร้อยกรองทีจ่ ะสื่อสารกบั ผ้อู ื่นได้ ก. ควรศกึ ษาสภาพสงั คมวา่ ผู้อา่ นเป็นกลุ่มใดบา้ ง ข. ควรอ่านบทร้อยกรองจากผู้เขียนท่ีช่นื ชอบ ค. สามารถรใู้ จผู้อ่านว่าชอบร้อยกรองประเภทใด ง. จดจำฉนั ทลักษณ์ของร้อยกรองแต่ละชนดิ ได้ถูกตอ้ ง ๕. คำประพนั ธป์ ระเภทบทร้อยกรองของไทยสามารถแบ่งไดก้ ปี่ ระเภท ก. ๓ ประเภท ข. ๔ ประเภท ค. ๕ ประเภท ง. ๖ ประเภท ๖. บทร้อยกรองท่ีเก่าแก่ท่ีสุด คอื ก. โคลง ข. ฉนั ท์ ค.กาพย์ ง. กลอน ๗. กาพยม์ ที ่มี าจากประเทศอะไร ก. อนิ เดีย ข. เขมร ค. พมา่ ง. ศรลี ังกา

๒๓ ๘. ขอ้ ใดเป็นการกล่าวถึงฉนั ทลักษณ์ของกาพย์ยาน๑ี ๑ได้ถูกตอ้ ง ก. กาพยย์ าน๑ี ๑ ๑ บท มี ๒ บาท ข. กาพย์ยานี๑๑ ๑ บท มี ๓ วรรค ค. กาพย์ยาน๑ี ๑ ๑ บท มี ๕ วรรค ง. กาพย์ยานี๑๑ ๑ บท มี ๒ วรรค ๙. “เพราะครูผู้นำทางใชเ่ รือจา้ งรับเงินตราพุ่มพานจึงนำมากราบบชู าพระคุณครู” เมื่อจัดเรยี งประโยค แบง่ วรรคตอนแล้วจะเปน็ คำประพนั ธ์ประเภทใด ก. อินทรวิเชียรฉนั ท์ ข. กาพยย์ านี ๑๑ ค. โคลงสีส่ ภุ าพ ง. กลอนแปด ๑๐. คำประพนั ธ์หรอื บทร้อยกรองปรากฏเป็นหลักฐานคร้ังแรกในวรรณคดเี ร่ืองอะไร ก.ลิลิตพระลอ ข. พระอภยั มณี ค.ลลิ ติ โองการแช่งนำ้ ง. ขุนชา้ งขนุ แผน

๒๔ บรรณานุกรม กำชัย ทองหลอ่ . หลักภาษาไทย. พิมพ์ครงั้ ท่ี ๕๓. กรุงเทพมหานคร: รวมสาสน์ ,๒๕๕๔. จงจิต นิมมานนรเทพ . คมู่ อื หลักและการใช้ภาษาไทย ฉบับสมบรู ณ.์ กรุงเทพมหานคร: เดอะบุคส์,๒๕๕๑ นฤมล วิจิตรรัตนะ.คูม่ อื เตรียมสอบภาษาไทย วรรณคดีวิจกั ษ์ วิวธิ ภาษา ม.๑. กรงุ เทพฯ: ไฮเอ็ดพับลิซชิ่ง,๒๕๕๔. ฟองจันทร์ สุขยิง่ .รายวิชาพืน้ ฐานภาษาไทยหลักภาษาและการใช้ภาษา ม.๑.พมิ พค์ รง้ั ที่ ๔กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทศั น์, ๒๕๕๑ ราชบณั ฑิตยสถาน.พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔.พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรงุ เทพฯ: ราชบัณฑติ ยสถาน,๒๕๕๖. เรงิ ชัย ทองหล่อ . หลักภาษาไทย.กรุงเทพมหานคร:ไฮเอ็ดพับลชิ ชิง่ ,๒๕๕๖ วเิ ชียร เกษประทมุ .ลกั ษณะคำประพันธ์ไทย ฉันทลักษณ์. กรงุ เทพฯ: พ.ศ.พฒั นา,๒๕๕๔ วิเชยี ร เกษประทุม.หลกั ภาษาไทย (ฉบับสมบรู ณ์) คมู่ ือการเรยี นการสอนภาษาไทยทุกระดบั .กรงุ เทพฯ: พ.ศ.พฒั นา,๒๕๖๑

๒๕ ภาคผนวก

๒๖ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น / หลงั เรียน ขอ้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน ง ขอ้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ง ๑ กขค ๑ กขค × ๒ × × ๒ ๓ × × ๓ × × ๔ × × ๔ × ๕ × ๕ × ๖ × ๖ × ๗ × ๗ × ๘ ๘ × ๙ × ๙ ๑๐ ๑๐ × คะแนน × แบบทดสอบ คะแนนเตม็ คะแนนทีไ่ ด้ ก่อนเรียน แบบทดสอบ คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ หลงั เรียน เกณฑ์คะแนน ดมี าก ดี รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ปานกลาง ร้อยละ ๗๐ – ๗๙ พอใช้ รอ้ ยละ ๖๐ – ๖๙ ปรับปรงุ ร้อยละ ๕๐ – ๕๙ ร้อยละ ๑ - ๔๙

๒๗ เฉลย แบบฝกึ เสริมทักษะ ท่ี ๑๓ การแตง่ คำประพนั ธ์ กาพย์ยานี ๑๑ เฉลยแบบฝกึ เสริมทักษะ ๑๓.๑ ๑. ค ๒. ก ๓. ข ๔. ก ๕. ข ๖. ก ๗. ง ๘. ง ๙. ค ๑๐. ค เฉลยแบบฝึกเสริมทักษะ ๑๓. ๒ เลือกข้อ ถูก / ผดิ ใหน้ กั เรียนทำเครื่องหมาย √ หนา้ ขอ้ ท่ีถูก และทำเครื่องหมาย × หน้าข้อท่ผี ดิ ........×........ ๑. กาพย์หมายถงึ เจรญิ รุ่งเรือง ...... ×........ ๒. กาพยม์ ีที่มาจากประเทศ สหรฐั อเมรกิ า ........√......... ๓. กาพย์แผลงมาจากคำว่า กวี ....... ×........ ๔. กาพย์ยานี ๑๑ หน่ึงบท มี ๔ บาท ๓ วรรค ...... ×.......... ๕. กาพย์ยานี ๑๑ บังคับคำเอก คำโท .........√......... ๖. กาพยย์ านี ๑๑ มจี ำนวน คำ วรรคหน้า ๕ วรรคหลงั ๖ ........√....... ๗. คำประพนั ธบ์ ทร้อยกรอง คือ การนำถอ้ ยคำมาแตง่ ตามลกั ษณะ ........√....... ข้อบงั คบั ของคำประพนั ธบ์ ทรอ้ ยกรองน้นั ๆ และมีสมั ผสั คลอ้ งจอง .......×........... ต่างกับคำประพันธ์บทรอ้ ยแก้ว ........√......... ๘. “คำ” ในความหมายของบทรอ้ ยกรองมีความหมายเดียวกับ “พยางค”์ ๙. บทเศรา้ โศกในคำประพันธ์ เรียกว่า พิโรธวาทัง ๑๐. ฉนั ทลกั ษณ์ แปลวา่ ตำราวา่ ด้วยคำประพันธ์ หมายถึงระเบียบและ ข้อบงั คับตา่ ง ๆ ทใี่ ช้ในการแต่งคำประพนั ธช์ นิดตา่ ง ๆ

๒๘ เฉลยแบบฝกึ เสริมทกั ษะ ๑๓.๓ ๑. รูปแบบของคำประพนั ธ์ไทย แบ่ง ได้ ... ๕ .. รปู แบบ ๒. คำประพันธ์ชนิดใดที่บงั คับเอก - โท คอื .....โคลง.......... ๓. คำประพันธช์ นดิ ใดท่บี ังคับ ครุ- ลหุ คอื ........ฉันท.์ ................ ๔. คำประพนั ธป์ ระเภท โคลง บังคับอะไรบ้าง .....จำนวนคำ คำเอก คำโท สัมผัส .. ๕. “เจา้ พลายงามความแสนสงสารแม่ ชำเลอื งแลดหู น้าน้ำตาไหล แล้วกราบกรานมารดาด้วยอาลยั ลกู เติบใหญ่คงจะมาหาแม่คณุ แตค่ รั้งนีม้ ีกรรมจะจำจาก ต้องพลัดพรากแม่ไปเพราะอา้ ยขนุ เท่ยี วหาพอ่ ขอใหป้ ะเดชะบุญ ไม่ลมื คุณมารดาจะมาเยอื น” บทกลอนน้ี ให้ความงามในสนุ ทรียลีลาด้านใด แนวคำตอบ สัลลาปงั คพิสยั คือ กระบวนความเศรา้ โศก ครำ่ ครวญ อาลยั อาวรณ์ ๖. กาพย์ยานี ๑๑ มีรูปแบบ ฉันทลักษณ์ อยา่ งไรบา้ ง แนวคำตอบ บทหนึง่ มี ๒ บาท บาทหน่ึงมี ๒ วรรค วรรคแรกมี 5 คำ วรรคหลงั มี 6 คำ รวมเปน็ ๑๑ คำ จึงเรยี กว่า กาพยย์ านี ๑๑ ๒. สมั ผัส มีดังน้ี คำสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี ๑ สมั ผัสกบั คำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ (เลื่อนมาคำท๑ี่ หรือ ๒ ก็ได)้ คำสดุ ทา้ ยของวรรคท่ี ๒ สมั ผัสกับคำสุดท้ายของวรรคสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ถ้าแต่งบทต่อไป จะต้องให้คำสุดท้ายของบทตน้ สัมผัสกับคำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ของบทตอ่ ไป ซึง่ ถือเปน็ สัมผสั ระหว่างบท ในการแตง่ กาพย์ยานี ๑๑ นั้น ถ้าจะให้คำสุดท้ายของวรรคที่๓ สัมผสั กบั คำท่ี ๑ หรอื ๒ หรือ ๓ ของ วรรคที่ ๔ ด้วย ก็จะเปน็ การเพ่ิมความไพเราะย่ิงขน้ึ ซง่ึ ในปัจจุบันนนี้ ยิ มใหส้ มั ผสั กันดว้ ย ๗. จงเขียนแผนภมู ิ กาพยย์ านี ๑๑ ๘. กาพย์ยานี ๑๑ นยิ มแตง่ เป็น แนวคำตอบ นิยมแต่งเปน็ บทสวด บทเหเ่ รอื บทพากยโ์ ขน และบทสรภญั ญะทใ่ี ช้ในบทละคร และมักนิยมแตง่ เก่ียวกับตอนที่เป็นบทพรรณนาโวหาร หรือตอนทช่ี มสิง่ ตา่ งๆหรือตอนท่ีโศกเศร้า คร่ำครวญ ๙. ความหมายของกาพย์ คอื แนวคำตอบ .แปลตามรปู ศัพท์วา่ เหลา่ กอแหง่ กวี หรอื ประกอบดว้ ย คณุ แห่งกวี หรือ คำทก่ี วี ได้รอ้ ยกรองไว้ กาพย์มาจากคำวา่ กาวยฺ หรอื กาพยฺ และคำวา่ กาวยฺ หรอื กาพฺย มาจากคำวา่ กวี กวีออกมาจากคำเดมิ ในภาษาบาลี และสันสกฤต กวิ แปลวา่ ผคู้ งแก่เรยี น ผ้เู ฉลยี วฉลาด ผู้มีปญั ญา

๒๙ เปร่อื งปราด ผู้ประพนั ธ์กาพย์กลอน คำว่า กวิ หรือ กวี มาจากรากศัพท์เดมิ คือ กธุ าตุ แปลวา่ เสยี ง วา่ ทำให้ เกดิ เสียงว่าร้อง ว่ารอ้ งระงม ว่าคราง ว่าร้องเหมือนเสยี งนก หรือเสียงแมลงผ้ึง กาพย์ ตามความหมายเดมิ มคี วามหมายกว้างกว่าท่ีเข้าใจกนั ในภาษาไทย คือ บรรดาบทนิพนธ์ ท่ีกวีได้ ร้อย กรองขึ้น ไมว่ า่ จะเปน็ โคลง ฉันท์ กาพย์ หรอื ร่าย นบั ว่าเปน็ กาพย์ ท้ังนัน้ แตไ่ ทยเรา หมายความวา่ แคบหรือ หมายความถึง คำประพนั ธช์ นดิ หน่ึง ของกวีเทา่ นั้น ๑๐.จงแตง่ กาพย์ยานี ๑๑ จำนวน ๒ บท เร่ือง ความฝนั ของฉนั .................................................................................... ......................................................................... ... ...................แนวคำตอบ ข้ึนอยู่กบั ดุลยพินจิ ของครผู สู้ อน ………………………………………… เกณฑก์ ารตดั สนิ คะแนนรายข้อ แบบ ๐/๑ เกณฑ์การผ่าน ๒๔ ขอ้ จาก ๓๐ ข้อ คิดเป็นร้อยละ ๘๐

๓๐ กระดาษคำตอบ แบบฝึกเสริมทักษะ ที่ ๑๓.๑ การแตง่ คำประพันธ์ (กาพย์ยานี ๑๑) ตอนท่ี ๑ ชื่อ ........................................................................................ ชั้น ................. เลขท่ี ................ แบบฝกึ เสริมทักษะ ตอนที่ ๑ ง ข้อ ก ข ค ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐

๓๑ กระดาษคำตอบ ก่อนเรียน การแตง่ คำประพันธ์ (กาพย์ยานี ๑๑) ชอ่ื ........................................................................................ ชน้ั ................. เลขท่ี ................ กระดาษคำตอบ ก่อนเรียน ง ข้อ ก ข ค ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ หน้า ๒๙

๓๒ กระดาษคำตอบ หลงั เรยี น การแต่งคำประพันธ์ (กาพย์ยานี ๑๑) ชอ่ื ........................................................................................ ชั้น ................. เลขท่ี ................ กระดาษคำตอบหลังเรียน ง ข้อ ก ข ค ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook