ราคา 120
คำนำหนงั สือเลม่ น้ีเป็นหนงั สือที่มีจุดประสงคท์ ่ีจดั ทำข้ึนเพ่ือส่งเสริมกำรอนุรักษป์ ะกำรังในทะเล ของช้นั มธั ยมศึกษำปี ที่ 2ท้งั น้ีในหนงั สือเล่มน้ีจะประกอบดว้ ยควำมรู้และเน้ือหำที่เกี่ยวขอ้ งกบั ปะกำรัง และหวงั วำ่ หนงั สือเลม่ น้ีจะเป็นประโยชน์แก่ผอู้ ่ำนๆท่ำน. ผจู้ ดั ทำ เดก็ หญิงวชิ ิดำ ชูแกว้
สำรบญั หนำ้1. กำเนิดปะกำรัง 12. แนวปะกำรังในประเทศไทย 23. ปะกำรัง 34. กำรสืบพนั ธุ์ของปะกำรัง 45. แนวปะกำรัง 56. ประเภทของปะกำรัง 67. ปะกำรังที่เรำรู้จกั กนั ดี 78. ปะกำรังออ่ นในทะเล 89. ประวตั ิวิวฒั นำกำร 910. ปะกำรังโบรำณ 1011. บรรณำนุกรม 11
กาเนิดปะการังปะการังกาเนิดมาบนโลกสีนา้ เงินใบนีก้ วา่ 500 ล้านปี ซงึ่ ถ้าเปรียบเทียบกบั มนษุ ย์แล้ว ถือว่าปะการังอยบู่ นโลกใบนีม้ านานกวา่พวกเรามากนกั ปะการังก็เหมือนกบั สง่ิ มีชีวติ อ่ืนๆ ที่ พยายามจะดารงเผ่าพนั ธ์ตุ วั เองไว้ จากรุ่นสรู่ ่นจากลกู สหู่ ลาน เม่ือปะการังเพิ่มจานวนขนึ ้ เรื่อยๆ จากตวั เป็นกลมุ่ ก้อน (colony) ก่อเกิดแนวการังขนึ ้ มา แล้วกระจายตวั ออกไปตามพืน้ ทตี่ ่างๆ จนในปัจจบุ นั เราสามารถพบเห็นแนวปะการังได้ทว่ั ไปโดยเฉพาะในเขตร้อนอย่างบ้านเรานนั้ เอง 1
แนวปะการังในประเทศไทยประเทศไทยพบแนวปะการังได้ทงั้ ทะเลฝั่งอา่ วไทยและอนั ดามนัมปี ะการังกวา่ 270 ชนิด จาก 1000 กวา่ ชนิดทว่ั โลก ซงึ่ เป็นท่ีอาศยั ของปลากวา่ 4,000 ชนิด รวมถงึ สง่ิ มีชีวติ อ่ืนๆ ในทะเลมากมาย แนวปะการังโดยทวั่ ไปพบได้ตงั้ แตผ่ ิวนา้ จนถงึ ประมาณ30 เมตร หรือในบริเวณแสงอาทติ ย์สอ่ งถงึ อณุ หภมู ปิ ระมาณ 20-32 องศาเซลเซยี ส และมกั จะเจริญเติบโตได้ดใี นบริเวณท่ีนา้คอ่ นข้างใส แตก่ ็มีบางชนิดที่ปรับตวั และอาศยั อย่ไู ด้ในบริเวณนา้ขนุ่ 2
ปะการัง“ปะการัง” กลา่ วถงึ พระเอกกนั สกั นิด ปะการังเป็นสตั ว์ไมม่ ีกระดกูสนั หลงั ในทะเลทีส่ ามารถดงึ แคลเซียมคาร์บอเนตจากนา้ ทะเลมาสร้างบ้านของตวั เองหรือโครงสร้างหินปนู ได้สามารถสบื พนั ธ์ุหรือเพ่ิมจานวนตวั ได้ 2 แบบ คอื โดยการอาศยั เพศและไมอ่ าศยั เพศเชน่ เดียวกบั สตั ว์หลายชนิดเช่น ต่างกบั คนเราท่ีสืบพนั ธ์ไุ ด้แบบเดียวคอื สบื พนั ธ์แุ บบอาศยั เพศ การสบื พนั ธ์แุ บบไมอ่ าศยั เพศในปะการังก็มหี ลายแบบคะ่ เช่น การแตกหกั จากก้อนปะการังเดมิ หรือการแตกหน่อ สว่ นการสืบพนั ธ์แุ บบอาศยั เพศซงึ่ มีทงั้ แบบทป่ี ลอ่ ยตวั อ่อนออกมาส่มู วลนา้ โดยตรงและแบบท่ีปะการังปลอ่ ยเซลล์สบื พนั ธ์ุ (ไข่และนา้ เชือ้ ) ออกมาผสมเกิดเป็นตวั ออ่ นในมวลนา้ หลงั จากนนั้ ตวัออ่ นปะการังจะดารงชีวิตเป็นแพลงก์ตอนคอื ลอ่ งลอยไปตามมวลนา้ซงึ่ ใช้ระยะเวลาในมวลนา้ แตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะชนิด เม่ือตวั ออ่ นปะการังพร้อมกจ็ ะเลือกลงเกาะในพืน้ ท่ีท่เี หมาะสม 3
การสบื พนั ธ์ขุ องปะการัง การสืบพนั ธ์ุ[แก้]ปะการังมีการแพร่พนั ธ์ขุ ยายถิ่นอาศยั ของตนออกไปหลากหลายวิธีโดยมสี องวิธีการหลกั ๆคอื การใช้เพศและการไมใ่ ช้เพศ การสบื พนั ธ์ุแบบใช้เพศเป็นไปได้ทงั้ ชนิดแยกเพศ (โกโนโชริสม์) และชนิดที่มีทงั้สองเพศในตวั เดียวกนั (เฮอร์มาโพรดิติสม์) โดยปะการังทงั้ สองชนิดดงั กลา่ วสามารถทาให้เกิดการสืบพนั ธ์ุทงั้ แบบใช้เพศและแบบไมใ่ ช้ เพศกไ็ ด้ 4
แนวปะการังแนวปะการังตาแหน่งของแนวปะการังดบู ทความหลกั ท:่ี แนวปะการังปะการังแข็ง (stony coral) ปรกตจิ ะพบในแนวปะการังซง่ึ เป็นโครงสร้างของสารแคลเซยี่ มคาร์บอเนตขนาดใหญ่พบบริเวณนา้ ตืน้ในเขตร้อน แนวปะการังถกู สร้างขนึ ้ มาจากโครงสร้างแข็งของปะการังที่ถกู รองรับด้วยชนั้ ของสารแคลเซี่ยมคาร์บอเนตที่ผลิตขนึ ้ มาโดยสาหร่ายคอรอลลีน แนวปะการังเป็นระบบนิเวศน์ท่ีมีความหลากหลายมาก ๆ ซง่ึ เป็นท่ีอยอู่ าศยั ของปลามากกวา่ 4,000 ชนิดชมุ ชนของไนดาเรียขนาดมหมึ า หอย ครัสตาเชียน และสตั ว์อ่ืน ๆ อีกเป็นจานวนมาก 5
ประเภทของปะการังปะการังชนิดที่สร้างแนวปะการังสามารถเปลยี่ นอาหารที่เหลอื เกินความจาเป็นตอ่ ปะการังเอง การเปลย่ี นอาหารที่เหลอื เกินความจาเป็นนีเ้กิดจากการช่วยของสาหร่ายซแู ซนทาลีไปเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตสร้างเป็นโครงสร้างแข็งของมนั ชนิดพนั ธ์ขุ องปะการังที่สร้างแนวปะการังประกอบด้วยสเคอร์แรคติเนีย มลิ เลพอรา ทบู ิพอรา และเฮลโิ อพอรา 6
ปะการังท่เี รารู้จกั กนั ดีปะการังสมอง ทส่ี ามารถมีความกว้างได้ถึง 1.8 เมตรท่มี ีลกั ษณะคล้ายสมองมนษุ ย์จงึ เป็นที่มาของช่ือปะการังเขากวางมีเจริญเตบิ โตได้อย่างรวดเร็วจนมขี นาดใหญ่ท่เี ป็นผ้สู ร้างแนวปะการังทีส่ าคญั ปะการังเขากวางมีก่ิงก้านของปะการังขนาดใหญ่เตบิ โตในพืน้ ที่ทีป่ รกติแล้วมคี ลืน่ ซดัปะการังดาวหรือ แกแลกซี ฟาสซิคลู าริส กเ็ ป็นปะการังนกั สร้างแนวปะการังอีกชนิดหนงึ่ปะการังพิลลาร์ ทาให้เกิดลกั ษณะเป็นแท่งทีส่ ามารถเติบโตได้สงู ถงึ3 เมตรปะการังหิน หรือ เลพทอพซอมเมยี ดเู หมือนวา่ จะพบทกุ หนทกุ แหง่ในทะเลแคริบเบียน 7
ปะการังอ่อนในทะเลปะการังอ่อนปะการังออ่ นในทะเลแคริบเบียนพบคอ่ นข้างน้อย (ประมาณ20 ชนิด) เมื่อเทียบกบั ปะการังหิน ปะการังกลมุ่ นีป้ ระกอบด้วยพวกฟองนา้ ทงั้ หลาย (เป็นที่อิงอาศยั ที่สาคญั ของสตั ว์ไร้หนามขนาดจิ๋วเพื่อหลบซอ่ นจากพวกปลา) รวมไปถงึ พวกที่มีความเก่ียวข้องกบั ปะการังทไ่ี มส่ ร้างแนวปะการังอกี หลายชนิด เช่นแส้ทะเล ขนนกทะเล และปากกาทะเล[ 8
ประวตั ิวิวฒั นาการประวตั วิ ิวฒั นาการซากดกึ ดาบรรพ์ปะการัง Grewingkiaแม้วา่ ปะการังจะปรากฏขนึ ้ มาครัง้ แรกในช่วงยคุ แคมเบรียนหรือ 542 ล้านปีมาแล้ว[16] some 542 ล้านปีก่อน, แตก่ ็พบเป็นซากดกึ ดาบรรพ์ในปริมาณท่ีน้อยมากตอ่ เนื่องจนไปถงึยคุ ออร์โดวเิ ชียนหรือประมาณ 100 ล้านปีให้หลงั จากนนั้ปะการังรูโกสและปะการังทาบเู ลตจึงปรากฏขนึ ้ มาอย่างแพร่หลาย 9
ปะการังโบราณ ปะการังกนิ อะไรภายในเนือ้ เย่ือปะการังนนั้ มีสาหร่ายเซลล์เดยี วขนาดเลก็ มาก อาศยั อยู่ สาหร่ายเซลล์เดยี วนีค้ อื ซแู ซนเทลล่ี (zooxanthellae) ซงึ่ สามารถสงั เคราะห์แสงได้ เชน่ เดียวกนั กบั พืชบนบกทว่ั ไป โดยใช้พลงั งานแสงอาทิตย์ ผลติ คาร์โบไฮเดรตและออกซิเจนออกมา คาร์โบไฮเดรตที่ซูแซนเทลล่ี ผลิตได้นนั้ จะสง่ ไปให้โพลปิ ปะการังประมาณ 90 % ซง่ึ จะเป็นอาหารและเป็นแหลง่ พลงั งานของโพลปิปะการัง พลงั งานนีป้ ะการังใช้เพ่ือการเติบโต สบื พนั ธ์ุ แขง่ ขนักบั ปะการังหรือสตั ว์ อ่นื ๆ และใช้ในการสะสมหินปนู เพ่ือสร้าง โครงร่างแขง็ ของปะการัง 10
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: