Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 4 การขยายพันธุ์พืช

หน่วยที่ 4 การขยายพันธุ์พืช

Published by sirinan khanyot, 2021-05-26 18:13:21

Description: หน่วยที่ 4 การขยายพันธุ์พืช

Search

Read the Text Version

1 หน่วยที่ 4 การขยายพนั ธ์ุพืช หน่วยท่ี 4 การขยายพนั ธ์ุพืช ส่วนประกอบเมลด็ มีส่วนประกอบที่สำคญั ดงั น้ี 1. เปลือกเมลด็ เป็นส่วนประกอบช้นั นอกสุดของเมลด็ เปล่ียนแปลงมำจำกผนงั ออวลุ (integument) ส่วนมำกมี 2 ช้นั 1.1 เปลือกเมลด็ ช้นั นอก เจริญมำจำกผนงั ช้นั นอกของออวลุ (outer integument) จะแขง็ หรือเหนียว ทำหนำ้ ท่ีป้องกนั กำรระเหยของน้ำ และป้องกนั อนั ตรำยต่ำง ๆ เช่น แมลง เช้ือโรค และป้องกนั อนั ตรำยต่อ ส่ิงแวดลอ้ มภำยนอก เช่น ลมฟ้ำอำกำศ เป็นตน้ 1.2 เปลือกเมลด็ ช้นั ใน เจริญมำจำกผนงั ช้นั ในของออวลุ (entegument) ส่วนมำก มีลกั ษณะเป็นเยอื่ บำง ๆ สีขำว อ่อนนุ่มเปลือกเมลด็ บำงชนิดอำจเชื่อมติดกนั เป็นช้นั เดียว เช่น ถว่ั ชนิดต่ำง ๆเปลือกเมลด็ บำง ชนิดเปลี่ยนสภำพไปหลำยรูปแบบ เช่น เป็นใยสีขำวทำใหเ้ มลด็ ปลิวไปตำมลมได้ เช่น ฝ้ำย หรือผนงั ช้นั นอก ของออวลุ ของเมลด็ บำงชนิด เปลี่ยนเป็นเน้ือนุ่ม ๆ รับประทำนได้ เช่น เงำะ ลำไย เป็นตน้ 2. เอม็ บริโอ (embryo) เป็นส่วนที่จะเจริญไปเป็นตน้ พืชเอม็ บริโอเกิดจำกกำรผสมกนั ระหวำ่ งเซลลไ์ ข่และ เซลลส์ เปิ ร์ม เอม็ บริโอประกอบดว้ ยส่วนประกอบ ดงั น้ี 2.1 ใบเล้ียง (cotyledon) พืชใบเล้ียงคู่ มีใบเล้ียงสองใบ ส่วนพชื ใบเล้ียงเด่ียวมี ใบเล้ียงหน่ึงใบ ใบ เล้ียงของพชื ใบเล้ียงเด่ียว จะมีลกั ษณะเป็นแผน่ ขำวๆ บำง ๆ เรียกวำ่ ใบเล้ียงธญั พืช (scutellum) กำรงอกของเมลด็ (วิดีโอกำรงอกของเมลด็ ) กำรงอกของเมลด็ หมำยถึง กำรเจริญเติบโตของเอม็ บริโอ ซ่ึงอยภู่ ำยในเมลด็ งอกออกจำกเมลด็ เป็น ตน้ ใหม่ โดยส่วนประกอบของเมลด็ ท่ีโผล่พน้ เมลด็ เป็นอนั ดบั แรก คือ รำกแรกเกิด (radicle) ปัจจยั ในกำรงอกของเมลด็ 1. น้ำ เม่ือเมลด็ ถูกน้ำ น้ำจะผำ่ นเปลือกนอกของเมลด็ เขำ้ ไปทำใหต้ น้ อ่อนเจริญเติบโต รำกของเมลด็ จะแทง ออกมำไดง้ ่ำย จำกน้นั เมลด็ จะเริ่มพองตวั และมีแรงดนั ภำยในมำกข้ึนจนทำใหเ้ ปลือกเมลด็ แตกออกตน้ อ่อน กจ็ ะเจริญออกมำนอกเมลด็ 2. แก๊สออกซิเจน ขณะท่ีเมลด็ เร่ิมงอกจะตอ้ งกำรออกซิเจนในปริมำณมำกเพอ่ื นำไปใชใ้ นกระบวนกำร หำยใจ และสร้ำงพลงั งำนมำใชใ้ นกำรเจริญเติบโตของตน้ อ่อน 3. อุณหภูมิท่ีเหมำะสม เมลด็ จะเจริญงอกงำมไดด้ ีในที่ที่มีอุณหภูมิประมำณ 20-30 องศำเซลเซียส ท้งั น้ี เพรำะอุณหภูมิท่ีเหมำะน้ีจะช่วยทำใหเ้ อนไซมย์ อ่ ยอำหำรในเอนโดสเปริมไ์ ดอ้ ยำ่ งเตม็ ท่ี 4. อำหำร แหลง่ อำหำรของเมลด็ ท่ีงอกใหม่ๆจะอยทู่ ่ีเอนโดสเปิ ร์มหรือใบเล้ียง วธิ ีการขยายพนั ธ์ุพืชโดยใช้เมลด็ โดยทว่ั ไปมักจัดทากนั อยู่ ๓ แบบ คือ 1.เพำะเมลด็ ในแปลงเพำะ หรือในภำชนะเพำะ 2. เพำะหรือปลูกเมลด็ ในแปลงปลูกโดยตรง 3. เพำะหรือปลูกเมลด็ ในภำชนะเดี่ยว

2 หน่วยที่ 4 การขยายพนั ธ์ุพืช 1. กำรเพำะเมลด็ ในภำชนะเพำะ กำรปลูกพืชหรือเพำะเมลด็ โดยวธิ ีน้ี เป็นกำรเตรียมกลำ้ พืช เพือ่ ใชป้ ลกู ก่อนที่จะปลูกในแปลง หรือ ในกระถำงถำวร โดยเพำะเมลด็ ในเน้ือท่ีแคบๆ จนกระทง่ั ตน้ พชื ท่ีเพำะ หรือที่เรียกวำ่ \"กลำ้ \" หรือ\"เบ้ีย\" มี ขนำดโตพอจึงถอนยำ้ ยไปปลูก กำรเพำะเมลด็ ในกระบะเพำะ 1. ควรเลือกกระบะที่มีขนำดกะทดั รัด เหมำะแก่กำร ปฏิบตั ิงำน เช่น ขนำด 30 ´ 40 ´ 10 เซนติเมตร มีน้ำหนกั เบำ แขง็ แรงทนทำน และรำคำ พอสมควร จะตอ้ งมีช่องระบำยน้ำและถ่ำยเทอำกำศเพยี งพอ เช่น กระบะพลำสติก กระบะไม้ หรืออำจจะ ใชภ้ ำชนะเหลือใชท้ ี่ชำรุดและสำมำรถหำไดภ้ ำยในบริเวณบำ้ น เช่น กะละมงั ถำด จำน กระทะ เป็น ตน้ แต่ตอ้ งเจำะรูที่กน้ ภำชนะเหล่ำน้ีใหม้ ีจำนวนเพยี งพอแก่กำรระบำยน้ำ และอำกำศเพอื่ ป้องกนั ไม่ใหน้ ้ำ ขงั เวลำรดน้ำ กระบะเพำะเมลด็ ท่ีมีน้ำหนกั เบำ เคลื่อนยำ้ ยไดส้ ะดวกทนทำนและมีช่องระบำยน้ำ ถ่ำยเทอำกำศไดด้ ี 2. ดินที่ใชเ้ พำะควรเป็นดินที่ร่วนซุย โปร่ง มีน้ำหนกั เบำ ระบำยน้ำไดด้ ี มีแร่ธำตุอำหำรพชื บำ้ ง พอสมควร จะตอ้ งเป็นดินท่ีไม่มีเช้ือโรคและวชั พืชปะปน โดยทว่ั ไปอำจจะใชด้ ินร่วนธรรมดำกไ็ ด้ หรือ อำจจะใชด้ ินท่ีมีส่วนผสมของวสั ดุต่ำง ๆ ในอตั รำส่วนที่กำหนด เช่น ทรำยหยำบ : ขยุ มะพร้ำวใน อตั รำ 1:1 ทรำยหยำบ : ถ่ำนแกลบในอตั รำ 1:1 ดิน : ป๋ ุยคอกเก่ำ : ทรำยในอตั รำ 2:1:2 กไ็ ด้ เช่นเดียวกนั วตั ถุที่ใชเ้ พำะ

3 หน่วยท่ี 4 การขยายพนั ธ์ุพืช วตั ถุที่ใชเ้ พำะโดยปกติ หมำยถึง ดินท่ีใชเ้ พำะเมลด็ ควรจะมีคุณสมบตั ิ เหมำะกบั กำรงอกและกำร เจริญของกลำ้ พืช สำหรับดินท่ีมีคุณสมบตั ิเหมำะในกำรใชเ้ พำะเมลด็ พืช ควรมีลกั ษณะดงั น้ี ก. ดินจะตอ้ งโปร่ง และมีอำกำศถ่ำยเทดี อมุ้ น้ำไดม้ ำกพอสมควร และระบำยน้ำไดง้ ่ำย ข. มีธำตุอำหำรสำหรับพืชเพยี งพอใชช้ ่วง อำยขุ องกลำ้ พชื ตำมปกติ คือ ประมำณ ๓๐-๔๕ วนั ค. เบำหรือคอ่ นขำ้ งเบำ สำมำรถเคลื่อน ยำ้ ยและหยบิ ยกไดส้ ะดวก ง. ปรำศจำกโรค แมลง หรือสำรอ่ืนใด ท่ีเป็นพษิ จ. ไม่เป็นกรดหรือด่ำงจดั จนทำใหก้ ลำ้ พชื ไม่เจริญเท่ำที่ควร กำรหวำ่ นหรือโรยเมลด็ พนั ธุพ์ ชื ลงในกระบะเพำะ 3. เม่ือตน้ กลำ้ เจริญเติบโตแขง็ แรงดีแลว้ จึงยำ้ ยลงปลูกต่อไป เมลด็ ทจ่ี ะนามาเพาะ ควรจะเป็นเมลด็ ท่ีไดจ้ ำกตน้ แม่ท่ีแขง็ แรง เมลด็ ท่ีควำมสมบูรณ์ดี คือ เมลด็ เต่งและมีน้ำหนกั ดี เป็น เมลด็ ท่ีไม่อยใู่ นระยะพกั ตวั งอกไดม้ ำก หรือมีเปอร์เซ็นตค์ วำมงอกสูง งอกไดเ้ ร็วและสม่ำเสมอ ไม่มีวตั ถุอ่ืน เจือปนมำกบั เมลด็ เป็นเมลด็ ท่ีปรำศจำกเช้ือโรค หรือผำ่ นกำรคลุกยำฆ่ำเช้ือโรคมำแลว้

4 หน่วยท่ี 4 การขยายพนั ธ์ุพืช 2.กำรเพำะเมลด็ ในแปลงเพำะ ส่วนมำกเป็น กำรเพำะเมลด็ ในฤดูกำลตำมปกติ ซ่ึงมีดินฟ้ำอำกำศอำนวย ฉะน้นั งำนใดท่ีตอ้ งใชก้ ลำ้ จำนวนมำกๆ จึงมกั จะใชก้ ำรเพำะเมลด็ โดยวธิ ีน้ี ควำมสำเร็จของ กำรเพำะเมลด็ ในแปลงเพำะส่วนใหญ่ มกั จะข้ึนอยู่ กบั กำรเลือกสภำพพ้ืนท่ี และวธิ ีกำรเตรียมแปลง ส่วนกำรดูแลรักษำตน้ กลำ้ น้นั ทำไดง้ ่ำยในฤดู น้ี กำรเพำะหรือปลูกเมลด็ โดยตรงในแปลงปลูก กำรปลูกพชื โดยหวำ่ นเมลด็ โดยตรงในแปลงปลูก เป็นวธิ ีกำรขยำยพนั ธุ์พืชดว้ ยเมลด็ แบบหน่ึง ซ่ึง มกั จะใชก้ บั กำรปลูกพืชไร่ และธญั พืช รวมท้งั กำรปลูกผกั เป็นกำรคำ้ โดยปกติแลว้ กำรปลูกพชื โดยวธิ ีน้ีเป็น กำรประหยดั คำ่ ใชจ้ ่ำยไดม้ ำก เพรำะไม่ตอ้ งใชเ้ ครื่องมือ หรืออุปกรณ์มำก กำรปลูกพชื จำนวนมำกๆ จึง มกั จะใชว้ ิธีน้ี ซ่ึงเป็นวิธีท่ีทำไดง้ ่ำยและสะดวก จึงเป็นวธิ ีท่ีนิยมอยำ่ งกวำ้ งขวำงในหมูช่ ำวไร่ชำวสวนทวั่ ไป เพรำะตน้ พืชจะเจริญติดต่อกนั ไปรวดเดียวโดยไม่ชะงกั กำรเจริญเติบโต 3.กำรเพำะเมลด็ ในภำชนะเดี่ยว กำรเพำะเมลด็ ในภำชนะเดี่ยว หมำยถึง กำรปลูกพชื โดยกำรเพำะเมลด็ ก่อนเช่นเดียวกบั กำรเพำะ เมลด็ ในแปลงเพำะ หรือในกระบะเพำะ แต่แทนที่จะเพำะรวมๆ กนั ดว้ ยวธิ ีดงั กล่ำว กลบั เพำะแยกกนั โดยให้ แต่ภำชนะท่ีเพำะ มีตน้ พืชท่ีเพำะเพียงตน้ เดียว และเมื่อตน้ พืชท่ีเพำะมีขนำดโตพอ จึงยำ้ ยปลูกอีกทีหน่ึง กำร ปลูกพืชโดยวธิ ีน้ีมกั ใชก้ บั พชื ที่มีรำกเจริญยำก เม่ือรำกขำดหรือถูกทำลำย กจ็ ะมีผลทำใหก้ ำรต้งั ตวั ของตน้

5 หน่วยที่ 4 การขยายพนั ธ์ุพืช พชื ชำ้ ไปดว้ ย ฉะน้นั ในพืชอำยสุ ้นั ท่ีจำเป็นตอ้ งเพำะเมลด็ ก่อนที่จะปลกู ในแปลง จึงตอ้ งใชว้ ิธีน้ี ไดแ้ ก่ พืช จำพวกฟัก แฟง แตงชนิดต่ำงๆ บวบ น้ำเตำ้ ถวั่ ชนิดต่ำงๆ ขำ้ วโพด รวมท้งั ไมผ้ ลบำงชนิดท่ีเมลด็ มีขนำดโต สำมำรถเพำะในภำชนะเดี่ยวไดง้ ่ำย โดยเฉพำะพืชท่ีนิยมใชท้ ำเป็นตน้ ตอ เช่น มะมว่ ง ขนุน มงั คุด และ ทุเรียน เป็นตน้ ข้อดีและข้อเสียของการขยายพนั ธ์ุพืชโดยการใช้เมลด็ ข้อดขี องการเพาะเมลด็ 1.ทำไดง้ ่ำยและปริมำณมำกเพรำะสะดวกในกำรปฏิบตั ิ 2.เสียคำ่ ใชจ้ ่ำยนอ้ ยเพรำะไม่ตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือมำกมำย 3.สะดวกในกำรขนส่งระยะทำงไกลๆสะดวกบรรจุหีบห่อหรือหยบิ ยก 4.เกบ็ รักษำไดน้ ำน เพรำะไมต่ อ้ งกำรส่ิงแวดลอ้ มในกำรดำรงชีวติ มำก 5.ไดต้ น้ พืชที่มีระบบรำกดี เพรำะมีรำกแกว้ ดงั น้นั จีงมีรำกหยง่ั ลึก ยอ่ มส่งผลทำให้ ก.ทนแลง้ ไดด้ ี เพรำะสำมำรถดูดน้ำระดบั ลึก ข.หำกินเก่ง ค.ตน้ พชื เจริญเติบโตดี เพรำะมีอำหำรพชื สมบูรณ์ ง.อำยยุ นื 6.ตน้ พชื ท่ีไดไ้ ม่ติดโรคไวรัส (Virus)จำกตน้ แม่เพรำะไมส่ มำรถถ่ำยทอดจำกตน้ แม่มำยงั ลูกโดย อำศยั เมลด็ เป็นพำหะไดแ้ ตก่ อ็ ำจติดโรคน้ีไดภ้ ำยหลงั ท่ีงอกเป็นตน้ พืชได้ ข้อเสียของการเพาะเมลด็ 1.กลำยพนั ธุไ์ ดง้ ่ำย เพรำะตน้ ท่ีไดเ้ กิดจำกกำรผสมพนั ธุ์ เวน้ แต่เมลด็ พชื บำงชนิดท่ีงอกไดห้ ลำยตน้ ใน 1 เมลด็ ซ่ึงอำจจะมีตน้ ที่ไม่กลำยพนั ธุ์ได้ 2.ลำตน้ สูงใหญ่ ไม่สะดวกในกำรเกบ็ เก่ียวและดูแลรักษำ 3.ตน้ มีโอกำสรับแรงปะทะลมไดม้ ำก ทำใหด้ อกและผลร่วงหล่นเสียหำยมำก 4.มกั ใหผ้ ลผลิตชำ้ ตอ้ งใชเ้ วลำในกำรเล้ียงดูนำน กวำ่ จะใหผ้ ลตอบแทน 5.ปลูกไดน้ อ้ ยตน้ ในเน้ือท่ีเท่ำกนั เพรำะทรงพมุ่ ใหญ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook