1
ก2 คำนำ ข้อมูลสารสนเทศของครูอาสาสมัคร กศน.เล่มน้ี ประกอบด้วย 1) ข้อมูลพ้ืนฐานตาบล ตาบลห้วยยาง ตาบล แสงอรุณ และตาบลเขาล้าน 2) ข้อมูลผู้ไม่รู้หนังสือ 3) ข้อมูลแหล่งเรียนรู้ 4) ข้อมูลภูมิปัญญา 5) ข้อมูลความต้องการ ของคนในชุมชน จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ1) ได้ทราบข้อมูลพ้ืนฐานที่จาเป็นพ้ืนที่ตาบลห้วยยาง ตาบลแสงอรุณ ตาบลเขาล้าน 2) เพ่ือเป็นการนาข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการทางาน 3) เพื่อให้แผนท่ีวางไว้มีความเป็นไปได้และ ใกล้เคยี งกบั การทจ่ี ะปฏบิ ตั จิ ริงใหม้ ากทส่ี ดุ ผู้จดั ทาหวังว่าเอกสารเลม่ น้ีจะเป็นแหล่งข้อมูลสาคัญอันหนึ่ง และแนวทางในการปฏิบัติงานและพัฒนางานให้ดี ย่ิง ๆ ข้ึนไป ขอขอบคุณพนักงานองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง พนักงานองค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรุณ พนักงานองค์การบริหารส่วนตาบลเขาลา้ น ผู้นาชมุ ชน ภูมปิ ัญญา ครกู ศน.ตาบลในพืน้ ที่ ทีม่ ีส่วนสนบั สนุนให้รายงานฉบับ น้สี าเร็จลลุ ่วงด้วยดี (นางสมุ ติ รา สุขอวบอ่อง) ครูอาสาสมคั ร กศน. 2 กันยายน 2564
ข3 สำรบญั หนำ้ คานา…………………………………………………………………………………….……………………………………… ก สารบญั ....................................................................................................................... .................. ข สว่ นท่ี 1 ข้อมลู พื้นฐานตาบลในพ้นื ทร่ี บั ผิดชอบ.......................................................................... 1 สว่ นที่ 2 ข้อมลู ผู้ไมร่ ูห้ นงั สือ........................................................................................................ 22 ส่วนที่ 3 ภูมปิ ัญญาท้องถิ่น…………………………………………………………………………..………………... 25 ส่วนที่ 4 แหล่งเรยี นร้.ู ........................................………………………………………………………………... 30 สว่ นท่ี 5 ความตอ้ งการของคนในชุมชน...................................................................................... 45 ภำคผนวก คณะผู้จดั ทา
1 สว่ นท่ี 1 ขอ้ มูลพนื้ ฐำนของตำบลในพน้ื ที่รับผดิ ชอบ สภำพทัว่ ไปชองตำบลห้วยยำง 1. ด้ำนกำยภำพ 1.1 ทตี่ ้ังของหมูบ่ ำ้ นหรือชุมชนหรือตำบล ตาบลหว้ ยยางเปน็ ตาบล 1 ใน 6 ตาบลของอาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้ังอยู่ทางทิศเหนือสุด ของอาเภอทับสะแก ห่างจากที่ว่าการอาเภอทับสะแก ประมาณ 13 กิโลเมตร อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงไปทางทิศใต้ ประมาณ 30 กิโลเมตร มีเน้ือที่ 98.8 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 61,750 ไร่ อาณาเขตของตาบลหว้ ยยาง ทศิ เหนือ ติดตอ่ กับตาบลห้วยทราย อาเภอเมอื งประจวบครี ขี ันธ์ ทิศใต้ ตดิ ตอ่ กับตาบลแสงอรุณ ทศิ ตะวนั ออก ตดิ ทะเลอา่ วไทย ทิศตะวันตก ติดต่อเทือกเขาตะนาวศรี ซ่ึงกั้นพรมแดนระหว่างประเทศไทย กับประเทศ สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมาร์ 1.2 ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ ภูมปิ ระเทศ ลกั ษณะท่ัวไป เป็นพ้ืนที่ราบเชิงเขาตะนาวศรี ลาดเอียงจากทิศตะวันตก ไปทางด้านทิศ ตะวันออก ติดทะเลอ่าวไทย เป็นพ้ืนท่ีอุดมสมบูรณ์ เหมาะกับการปลูกมะพร้าว และเลี้ยงสัตว์ สภาพอากาศร้อนชื้น ฝนตกชุกเกอื บตลอดปี มี 3 ดกู าล (ฤดรู ้อน ฤดฝู น ฤดูหนาว) 1.3 ลกั ษณะภูมิอำกำศ ลกั ษณะอากาศมลี ักษณะร้อนช่นื อากาศเปล่ียนแปลงไปตามฤดู ซึง่ มี 3 ฤดู ดงั น้ี ฤดูร้อน เริม่ ตั้งแต่เดือนกมุ ภาพันธไ์ ปจนถงึ เดอื นพฤษภาคม อากาศร้อนและแห้งแร้งแต่บางครั้งอาจมีอากาศเย็น บ้าง ครั้งเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนทุกปี เรียกว่า “พายุฤดูร้อน” อากาศร้อน จะมีอณุ หภูมริ ะหวา่ ง 35 – 39.9 องศาเซลเซียส ร้อนจดั มีอุณหภมู ิประมาณ 40 องศาเซลเซียสขึน้ ไป ฤดูฝน เริ่มต้ังแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน แต่อาจเกิด“ช่วงฝนทิ้ง” ซ่ึงอาจนาน ประมาณ 1 – 2 สัปดาหห์ รอื บางปอี าจเกิดข้ึนรุนแรงและมฝี นนอ้ ยนานนบั เดือน ฤดูหนาว เริม่ ตัง้ แต่เดอื นธนั วาคมถงึ เดือนมกราคม ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนานราว 1-2 สัปดาห์ เปน็ ชว่ งเปลยี่ นฤดจู ากฤดฝู นเป็นฤดหู นาว อากาศแปรปรวนไม่แนน่ อน อาจเรม่ิ มีอากาศเย็นหรืออาจยังมีฝนฟ้าคะนอง 1.4 ลกั ษณะของดิน ลักษณะของดินในพ้ืนเขตพ้ืนท่ตี าบลหว้ ยยาง สว่ นใหญเ่ ป็นดนิ รว่ นปนทราย ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในการ เพาะปลกู พืช
2 1.5 ลักษณะของแหล่งนำ้ แหลง่ น้ำธรรมชำติ 1. คลองห้วยยาง มีต้นน้าบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณน้าตกห้วยยางโดยไหลผ่านหมู่ท่ี 11, 4, 3, 9, 2 และหม่ทู ่ี 7 ลงสู่อ่าวไทย 2. คลองหินจวง มีต้นน้าบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณน้าตกบัวสวรรค์โดยไหลผ่าน หมู่ที่ 10 และหมู่ที่ 12 ลงสอู่ ่าวไทย แหล่งน้ำท่ีสร้ำงข้ึน 1. ฝาย จานวน 5 แห่ง 2. บ่อน้าตืน้ จานวน 30 แห่ง 3. บอ่ นา้ บาดาล จานวน 25 แห่ง 4. ประปาหม่บู ้าน จานวน 12 แหง่ 5. อ่างเกบ็ น้า จานวน 12 แหง่ - อ่างเกบ็ นา้ หว้ ยมะปรางค์ หมู่ที่ 4 - อา่ งเกบ็ น้าบา้ นหัวเขา หม่ทู ่ี 10 6. สระเก็บน้าประชาชน/สาธารณะ จานวน 20 แหง่ 1.6 ลกั ษณะของไม้และป่าไม้ ตาบลห้วยยาง มีลักษณะของป่าไม้เป็น ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา และป่าดิบแล้ง มีพันธ์ุไม้จาพวก ตะเคียน เสลา ตะแบก ยาง ยูง ยมหอม ยมป่า ขนาน ไข่เน่า ไทร พชื พ้นื ลา่ งเปน็ ไผ่ชนิดต่างๆ 2. ด้ำนกำรเมอื ง/กำรปกครอง 2.1 เขตกำรปกครอง องค์การบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยางเป็นองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลขนาดกลาง เปลี่ยนแปลง ฐานะจากสภาตาบล จัดตั้งเป็นองค์การบริหารส่วนตาบล เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2538 มีพ้ืนที่ครอบคลุมตาบลห้วยยาง แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 หมู่บ้าน ประกอบดว้ ย หมู่ที่ 1 บา้ นตลาดห้วยยาง หมทู่ ่ี 2 บา้ นบน หมู่ท่ี 3 บ้านทุ่งยาว หมทู่ ี่ 4 บ้านห้วยมะปรางค์ หมทู่ ี่ 5 บา้ นทุ่งกว้าง หมู่ท่ี 6 บ้านเนินดนิ แดง หมู่ที่ 7 บ้านชายทะเล หมู่ที่ 8 บ้านคอกมา้ หมทู่ ่ี 9 บ้านหนองพลับ หมู่ที่ 10 บ้านหัวเขา หมู่ที่ 11 บา้ นนา้ ตกสาย 1 หมทู่ ่ี 12 บ้านคลองหินจวง หมู่ท่ี 13 บ้านจัน่ เสอื
3 คณะผู้บริหารองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลห้วยยาง จานวน 4 คน 1. นายธวชั ชยั แดงฉา่ นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบลหว้ ยยาง 2. นายโกมล หอมท่วั รองนายกองค์การบริหารสว่ นตาบลห้วยยาง 3. นายพจิ ติ ศกั ดิ์ สุวรรณโมลี รองนายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบลหว้ ยยาง 4. นายทพิ ากร ชมุ ตรนี อก เลขานกุ ารนายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลห้วยยาง สมาชิกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง จานวน 26 คน 1. นายแสวง แดงฉา่ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง 2. นายมานสั แกว้ ลอ้ ม รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง 3. นางอาไพ วงศจ์ ันทร์ทอง สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง หม่ทู ี่ 1 4. นายกาเนิด จาจด สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมู่ท่ี 1 5. นางสาเนา บุญธรรม สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง หมู่ท่ี 2 6. นางวันเพ็ญ บญุ ธรรม สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลห้วยยาง หมทู่ ่ี 2 7. นายสมศกั ดิ์ ถา้ ลอย สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง หมู่ท่ี 3 8. นายเสนห่ ์ มิง่ แมน้ สมาชิกสภาองค์การบริหารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมทู่ ่ี 3 9. นางรชยา หมยุ จนิ ดา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง หมู่ท่ี 4 10. นายนันทวฒั น์ มุสิกานนท์ สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลหว้ ยยาง หมูท่ ี่ 4 11. นางส้ัน สินธุ สมาชกิ สภาองค์การบริหารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมู่ที่ 5 12. นายสงคราม เกตุประยูร สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง หมู่ท่ี 6 13. นางวนดิ า สายทอง สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลหว้ ยยาง หมทู่ ี่ 6 14. นางบังอร แจม่ ใส สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง หมู่ท่ี 7 15. นายประเสรฐิ ชืน่ ชูกล่ิน สมาชิกสภาองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมู่ท่ี 8 16. นายลาไย เกศเทศ สมาชิกสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลห้วยยาง หมทู่ ี่ 8 17. นางจะเรียม พลู สวัสดิ์ สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง หมทู่ ี่ 9 18. นางทพิ วรรณ ทอดสนิท สมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง หมทู่ ่ี 9 19. นายนภดล ภ่ทู อง สมาชิกสภาองค์การบริหารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมทู่ ี่ 10 20. - สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบลหว้ ยยาง หม่ทู ่ี10 21. นายกาจัด มง่ิ แม้น สมาชกิ สภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมู่ท่ี 11 22. นายทวศี ักดิ์ ศรีแตงออ่ น สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง หมทู่ ี่ 11 23. นางวลั วสิ า บรหิ ารพานิช สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลห้วยยาง หมทู่ ี่ 12 24. - สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง หมูท่ ี่ 12 25. นายสมจิตร ขินแก้ว สมาชิกสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลหว้ ยยาง หมู่ท่ี 13 26. นายสุขสันต์ ชูศรี สมาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง หมู่ที่ 13
4 3. ประชำกร 3.1 ข้อมูลเกีย่ วกบั จำนวนประชำกร จานวนประชากร (ข้อมูลจากสานักทะเบียนราษฎร์อาเภอทับสะแก ณ เดือนพฤษภาคม 2563) องค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง มีจานวนประชากรท้ังสิ้น จานวน 9,071 คน แยกเป็นชาย 4,428 คน หญิง 4,643 คน จานวนครัวเรือน ท้ังส้ิน 3,841 ครัวเรือน มีความหนาแน่นเฉลี่ยของประชากร 92 คน/ตาราง กิโลเมตร โดยแยกเปน็ รายตาบลและชมุ ชน ดงั น้ี หมทู่ ่ี ช่อื หมู่บ้ำน ชำย (คน) หญงิ (คน) รวม (คน) ครวั เรือน 1 บา้ นตลาดหว้ ยยาง 153 170 323 185 2 บา้ นบน 386 402 788 271 3 บ้านท่งุ ยาว 540 533 1,073 390 4 บ้านห้วยมะปรางค์ 298 310 608 200 5 บ้านทุ่งกว้าง 413 441 854 444 6 บ้านเนนิ ดนิ แดง 297 298 595 219 7 บ้านชายทะเล 750 772 1,522 1,009 8 บา้ นคอกมา้ 190 196 386 124 9 บ้านหนองพลบั 344 373 717 285 10 บา้ นหัวเขา 206 252 458 152 11 บ้านนา้ ตกหว้ ยยาง สาย 1 289 290 579 190 12 บา้ นคลองหินจวง 274 320 594 213 13 บา้ นจ่ันเสือ 288 286 574 166 3.2 ช่วงอำยุและจำนวนประชำกร (ข้อมลู จากสานักทะเบยี นราษฎรอ์ าเภอทบั สะแก ณ เดือน พฤษภาคม 2563) ช่วงอำยุ ชำย หญงิ รวม เดก็ 0 – 6 ปี 275 247 522 เด็กโต 7 – 12 ปี 268 250 518 เดก็ รนุ่ 13 – 17 ปี 257 226 483 ผใู้ หญ่ 18 – 59 ปี 2,641 2,794 5,435 ผู้สูงอายุ 60 ปีขน้ึ ไป 685 534 1,549 รวม 4,126 4,351 8,507
5 4. สภำพทำงสงั คม 4.1 กำรศกึ ษำ สังกัด จำนวนโรงเรียน (แห่ง) จำนวนหอ้ งเรยี น ครู นกั เรียน (ห้อง) (คน) (คน) สานกั งาน 1.โรงเรียนบา้ นหว้ ยยางมิตรภาพท่ี 35 คณะกรรมการ 14 22 407 การศกึ ษาขั้น 2.โรงเรียนบ้านทงุ่ ยาว พ้ืนฐาน (สพฐ.) 3.โรงเรียนบ้านเนนิ ดนิ แดง 9 12 108 4.โรงเรียนประชาพิทกั ษ์ 9 8 105 รวม 5.โรงเรียนหว้ ยยางวิทยา 9 11 149 10 19 161 5 51 72 930 จำนวนศูนยพ์ ัฒนำเดก็ เลก็ ครู นกั เรยี น (คน) (คน) 1. ศูนย์พฒั นาเดก็ เล็กบา้ นหวั เขา 2 12 2. ศนู ยพ์ ัฒนาเด็กเล็กบา้ นทุ่งกว้าง 3. ศนู ยอ์ บรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดเนนิ ดินแดง 2 26 2 15 รวม 6 42 ข้อมลู ณ เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2563 - ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตาบลห้วยยาง จานวน 1 แหง่ - ศนู ย์ดแู ลเดก็ ก่อนวยั เรียน จานวน 3 แหง่ - บ้านหนงั สือชมุ ชน จานวน 2 แหง่ 4.2 สำธำรณสุข จานวน 2 แห่ง - โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพชมุ ชน จานวน 4 แหง่ - คลนิ กิ เอกชน 4.3 อำชญำกรรม ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยยางมีการรกั ษาความสงบเรียบร้อยครอบคลุมพื้นที่และ ไม่มปี ัญหาดา้ นอาชญากรรม 4.4 ยำเสพตดิ องค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยางได้จัดทาโครงการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดใน โรงเรียนและชมุ ชน การจดั คา่ ยครอบครวั อบอุ่น การจัดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ด้าน ดนตรี เพือ่ ใหเ้ ด็ก เยาวชนห่างไกลยาเสพติดการ ส่วนแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนตาบลสามารถทาได้เฉพาะ ตามอานาจหน้าที่เท่าน้ัน เช่น การณรงค์ การประชาสัมพันธ์ การแจ้งเบาะแส การฝึกอบรมให้ความรู้ ถ้า นอกเหนือจากอานาจหน้าที่ ก็เป็นเร่ืองของอาเภอหรือตารวจแล้วแต่กรณี ท้ังน้ี องค์การบริหารส่วนตาบลก็ได้ให้ ความร่วมมือมาโดยตลอด
6 4.5 กำรสังคมสงเครำะห์ องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลห้วยยางได้จัดสวัสดิการสงเคราะห์ ดังน้ี 1. ดาเนนิ การจ่ายเบย้ี ยงั ชพี ให้กับผูส้ ูงอายุ ผพู้ ิการ ผ้ปู ว่ ยเอดส์ 2. รับลงทะเบียนและประสานโครงการเงินอุดหนนุ เพ่ือการเล้ยี งดเู ดก็ แรกเกิด 3. ประสานการทาบตั รผู้พกิ าร 4. ต้ังโครงการช่วยเหลอื ผู้ยากจน ยากไร้ รายไดน้ ้อย และผู้ด้อยโอกาสไร้ท่ีพงึ่ 5. ต้งั โครงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านคนจน 6. จดั หาเครื่องสขุ ภณั ฑท์ ่เี หมาะสมและเพยี งพอแก่ผสู้ ูงอายุและผู้ยากไร้ 7. การจดั สวสั ดิการช่วยเหลอื ผูส้ ูงอายุและผ้ปู ่วยทีม่ ปี ญั หาด้านการเคลื่อนไหว ดว้ ยการ จัดหา ไม้เท้าช่วยพยุง รถโยก รถเข็น ให้เพียงพอต่อความต้องการ และจัดหาอาหาร เคร่ืองนุ่งห่ม ยารักษาโรคที่ จาเปน็ ในการดารงชวี ติ 5. ระบบบรกิ ำรพืน้ ฐำน 5.1 กำรคมนำคมขนส่ง 1. ทางหลวงแผน่ ดนิ หมายเลข 4 หรอื ถนนเพชรเกษม 2. ถนนทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม – อทุ ยานแห่งชาติน้าตกหว้ ยยาง 3. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - หนองขา้ วเหนยี ว 4. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - บ้านหัวเขา 5. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - คลองหนิ จวง 6. ทางหลวงชนบทสายเพชรเกษม - วดั สมทุ ทาราม 7. ทางรถไฟ 5.2 กำรไฟฟ้ำ การขยายเขตไฟฟ้า ปัจจุบันมีไฟฟ้าใช้ทุกครัวเรือน คิดเป็น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ปัญหาคือ ไฟฟ้าส่องสว่างทางหรือท่ีสาธารณะยังไม่สามารถดาเนินการครอบคลุมพื้นท่ีได้ท้ังหมด เนื่องจากงบประมาณที่ไม่ เพยี งพอ จึงไม่สามารถดาเนินการได้อย่างทวั่ ถงึ 5.3 กำรประปำ พ้นื ทข่ี ององค์การบริหารสว่ นตาบลหว้ ยยางใชน้ ้าอุปโภคโดยอาศยั แหลง่ นา้ ดิบจากธรรมชาติ และนา้ ดบิ จากแหลง่ นา้ ทส่ี รา้ งขึ้น เช่น อา่ งเกบ็ น้า/ฝาย ประสบปญั หาการขาดแคลนน้าในช่วงฤดูแล้ง 5.4 โทรศัพท์ 1. เสารับสัญญาณโทรศพั ท์ จานวน 2 แห่ง 3. โทรศัพท์ของสานักงานองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง จานวน 2 หมายเลข (สว่ นกลาง) 5.5 ไปรษณยี ์หรือกำรสอื่ สำรหรือกำรขนส่ง และวัสดุ ครภุ ัณฑ์ 1. ต้กู ดเงนิ สด ATM ธนาคารออมสิน จานวน 2 แหง่ 2. ตกู้ ดเงินสด ATM ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณก์ ารเกษตร จานวน 1 แห่ง 3. ตู้กดเงินสด ATM ธนาคารกสิกรไทย จานวน 2 แหง่ 4. ตูก้ ดเงินสด ATM ธนาคารกรงุ เทพ จานวน 1 แห่ง
7 5. มไี ปรษณีย์ จานวน 1 แห่ง ให้บริการ เวลา 08.00 – 16.00 น. ในวันจันทร์ ถึงวันเสาร์ (วันเสาร์คร่งึ วนั ) หยดุ วันอาทิตย์ 6. ระบบเสียงตามสายครอบคลุมพนื้ ท่ี โดยใชร้ ะบบเสียงตามสายแบบมีสายและแบบไร้สาย 6. ระบบเศรษฐกิจ ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลห้วยยาง ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับ การเกษตร ประมาณร้อยละ 65.57 อาชีพปศุสัตว์ ประมาณร้อยละ 12.92 อาชีพประมงชายฝั่ง ประมาณร้อยละ 5.09 อาชีพรับจา้ ง รอ้ ยละ 15.06 อาชพี อนื่ ๆประมาณ รอ้ ยละ 1.36 6.1 กำรเกษตร พนื้ ท่ีในเขตองคก์ ารบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง พืน้ ที่สว่ นใหญเ่ ป็นดินร่วนปนทรายเหมาะกับการ ทาการเกษตรกรรม อาชีพหลักเป็นอาชีพเกษตรกร พืชเศรษฐกิจของตาบลห้วยยาง คือ มะพร้าว สับปะรด ข้าว ยางพารา 6.2 กำรประมง ประชาชนในเขตองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลหว้ ยยางสว่ นใหญ่จะทาการประมงชายฝั่ง ปล่อยอวน ดักจบั ปลาทะเล 6.3 กำรปศุสัตว์ ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลหว้ ยยาง มีสภาพพืน้ ทที่ เ่ี หมาะกับการเลี้ยง สตั ว์ สตั ว์เศรษฐกจิ ไดแ้ ก่ โคเนื้อ โคนม โคขนุ ปลา ไก่ แพะ สุกร 6.4 กำรบรกิ ำร 1. ร้านเบเกอรี่ 7 แห่ง 2. ร้านเสรมิ สวย 12 แหง่ 3. รา้ นตัดผมชาย 4 แหง่ 4. ร้านซกั อบ รีด 8 แหง่ 5. ร้านจาหนา่ ยน้าแข็ง 1 แหง่ 6. ร้านนวด 8 แห่ง 6.5 กำรท่องเที่ยว สามารถสง่ เสริมและพัฒนาฟ้ืนฟูแหลง่ ท่องเที่ยวในพ้ืนท่ีให้ย่งั ยืน รวมถึงการท่องเท่ียวเชิงนเิ วศน์ ทาให้ส่งผลให้ชุมชนมเี ศรษฐกิจดีข้ึนจากการท่องเที่ยว แหลง่ ท่องเที่ยวที่สำคัญ 1. อุทยานแหง่ ชาตนิ ้าตกห้วยยาง อทุ ยานแหง่ ชาตินา้ ตกหว้ ยยาง มีพน้ื ที่ครอบคลมุ ทอ้ งทอ่ี าเภอบางสะพาน อาเภอทบั สะแก และ อาเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ซ่ึงได้รวมจุดเด่นรอบๆ อุทยานน้าตกห้วยยาง ผนวกเข้าด้วยกัน ซ่ึงได้แก่ น้าตกที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่พร้อมด้วย ป่าเขา น้าตก ชายหาด รวมมี เน้ือท่ีประมาณ 100,625 ไร่ หรือ 161 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยาง ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 แล้ว ประกอบด้วยพ้ืนท่ี ท้ังหมด 100,625 ไร่ โดยได้ตราพระราชกฤษฎีกากาหนดที่ดินป่าทับสะแก ในท้องที่ตาบลห้วยยาง ตาบลเขาล้าน ตาบลแสงอรุณ ตาบลนาหูกวาง ตาบลอ่างทอง อาเภอทับสะแก และตาบลชัยเกษม อาเภอบางสะพาน จังหวัด
8 ประจวบคีรีขันธ์ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108 ตอนท่ี 215 ลงวันท่ี 8 ธันวาคม 2534 เป็นอุทยานแห่งชาติ ลาดับที่ 70 ของประเทศไทย 2. อุทยานแหง่ ชาตหิ าดวนกร อุทยานแห่งชาตหิ าดวนกร มที ท่ี าการอยู่รมิ ทะเลห่างจากตวั จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์ ประมาณ 22 กิโลเมตร ระหวา่ งกิโลเมตรท่ี 345 - 346 ถนนเพชรเกษม แยกจากถนนเพชรเกษม ตามถนนลาดยางเข้า ไปประมาณ 3 กโิ ลเมตร มที างรถไฟสายใตผ้ า่ นตอนกลาง ของพื้นท่ี อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ชายหาดอันลือช่ือของ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ทอดตัวเป็นแนวยาวลงไปในทะเล ทิวทัศน์ท่ีเงียบสงบ หาดทรายขาวสะอาด บนฝั่งมีทิวสน ทะเลและสนประดิพัทธ์เปน็ แนวขนานกบั ทะเล มีพ้ืนที่ทั้งหมด ประมาณ 23,750 ไร่ หรือ 38 ตารางกิโลเมตร ในเขต ตาบลห้วยทราย ตาบลคลองวาฬ อาเภอเมือง และตาบลห้วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พันธุ์ไม้ สว่ นใหญเ่ ป็นไม้ทีป่ ลกู ข้นึ ใหม่ได้แก่ สนทะเล สนประดิพัทธ์ สะเดา เป็นต้น อุทยานแห่งชาติหาดวนกร แต่เดิมเป็นป่า สงวนแห่งชาติปา่ วังดว้ นและปา่ ห้วยยาง เป็นทีต่ ้งั ของสวนปา่ ห้วยทราย ท้องทอี่ าเภอเมอื งประจวบคีรขี นั ธ์ สวนป่าห้วย ยาง สวนรุกขชาติห้วยยาง และสถานีวนกรรมห้วยยาง ท้องที่อาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาสถานี วนกรรมห้วยยางได้ถกู ยกเลิกไป เมอ่ื ทางกรมปา่ ไม้มีนโยบายทจ่ี ะจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ จึงได้โอนพื้นท่ีแห่งน้ีมาให้กอง อุทยานแห่งชาติดาเนินการต้ังแต่ปีงบประมาณ 2532 เป็นต้นมา และได้มีพระราชกฤษฎีกากาหนดบริเวณที่ดินป่าวัง ด้วน ปา่ ห้วยยาง และเกาะใกล้เคียง ในทอ้ งที่ตาบลห้วยทราย อาเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และตาบลห้วยยาง อาเภอ ทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รวมเนื้อที่ 38 ตารางกิโลเมตร โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 109 ตอนท่ี 126 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2535 นับเป็นอุทยานแหง่ ชาติลาดบั ท่ี 76 ของประเทศไทย 3. ชายทะเลวดั สมุทรธาราม เป็นแนวยาวลงไปในทะเล ทิวทัศนท์ ่เี งยี บสงบ หาดทรายขาวสะอาด บนฝั่งมที วิ สนทะเล และสนประดิพทั ธเ์ ป็นแนวขนานกับทะเล 4. น้าตกบวั สวรรค์ น้ำตกบัวสวรรค์ มชี ้นั นา้ ตกท่ีสวยงามอยู่ 6 ช้ัน ทา่ มกลางสภาพธรรมชาตโิ ดย รอบทเี่ ขยี วชอุ่มดู สวยงามแปลกตา อนั เปน็ เสนห่ ข์ องนา้ ตกแห่งนี้ อยู่หา่ งจากทท่ี าการอทุ ยาน แหง่ ชาตินา้ ตกห้วยยางไปทางทิศเหนอื ประมาณ 20 กโิ ลเมตร สามารถเดนิ ทางตามถนนเพชรเกษมเสน้ ทางบา้ นสอง กะลอน 6.6 อุตสำหกรรม - สถานบี ริการน้ามัน จานวน 2 แหง่ - โรงสขี ้าว จานวน 1 แห่ง โรงงานอตุ สาหกรรม 8 แหง่ ดังน้ี 1. โรงงานผลิตเส้นใยมะพรา้ ว หม่ทู ่ี 3 2. โรงงานผลติ เสน้ ใยมะพรา้ ว หม่ทู ่ี 5 3. โรงงานทานา้ แขง็ หมู่ที่ 1 4. โรงงานทาน้าดื่ม หมทู่ ี่ 2 โรงงานทานา้ ด่ืม หมทู่ ่ี 3 5. โรงงานทาน้าดืม่ หม่ทู ี่ 7
9 6.7 กำรพำณชิ ยแ์ ละกลุ่มอำชีพ 1. สถานที่จาหน่ายอาหาร/รา้ นอาหาร 42 แหง่ 2. สถานที่สะสมอาหาร 2 แหง่ 3. กิจการทเี่ ป็นอันตรายต่อสุขภาพ 78 แห่ง 4. ร้านคา้ วสั ดกุ อ่ สรา้ ง 2 แห่ง 5. ร้านโต๊ะสนุกเกอร์ 2 แหง่ 6. ร้านซ่อมคอมพวิ เตอร์ 2 แหง่ 7. ร้านซอ่ มเคร่ืองยนต์ 18 แหง่ 8. รา้ นค้าแกส๊ หุงตม้ 14 แห่ง 9. ร้านรบั ซอ้ื ของเก่า 5 แหง่ 10. ร้านทาน้าดืม่ 3 แหง่ 11. กจิ การลา้ งรถ 2 แห่ง 12. กิจการบา้ นเช่า 11 แหง่ 13. กิจการโฮมสเตย์ 1 แหง่ 6.8 แรงงำน จากการสารวจขอ้ มลู พนื้ ฐานพบวา่ ประชากรที่มอี ายุ 75-60 ปี อยู่ในกาลัง แรงงาน ร้อยละ 95 เม่ือเทียบกับอัตราส่วนกับจังหวัด ร้อยละ 73.99 แต่ค่าแรงในพื้นที่ต่ากว่าระดับจังหวัด โดยเฉพาะแรงงานดา้ นการเกษตร ประชากรอายุระหว่าง 25-50 ปี บางส่วน ไปรบั จ้างทางานนอกพน้ื ที่ 7. เศรษฐกจิ พอเพียงท้องถ่นิ (ดำ้ นกำรเกษตรและแหล่งน้ำ) 7.1 ข้อมูลพื้นฐำนของหมูบ่ ้ำนหรอื ชมุ ชน หมู่ที่ 1 บ้านตลาดหว้ ยยาง หมู่ท่ี 2 บ้านบน หมู่ที่ 3 บา้ นทุ่งยาว หมูท่ ่ี 4 บา้ นหว้ ยมะปรางค์ หม่ทู ่ี 5 บ้านทงุ่ กว้าง หมูท่ ี่ 6 บ้านเนนิ ดนิ แดง หมู่ท่ี 7 บา้ นชายทะเล หมูท่ ่ี 8 บา้ นคอกม้า หม่ทู ่ี 9 บา้ นหนองพลบั หมทู่ ่ี 10 บ้านหัวเขา หมูท่ ่ี 11 บา้ นน้าตกสาย 1 หมู่ท่ี 12 บา้ นคลองหนิ จวง หมู่ท่ี 13 บา้ นจน่ั เสือ 7.2 ข้อมูลดำ้ นกำรเกษตร การผลติ พืช - ปลูกมะพร้าว รอ้ ยละ 58.0 ของพน้ื ท่ีทาการเกษตร โดยปลกู มะพร้าวแก่มาเป็นเวลานาน ขณะนี้ อายุไมต่ า่ กวา่ 25-30 ปี ยังให้ผลผลิตดี ข้นึ อยกู่ บั การดูแลรักษา ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ผลผลติ มะพรา้ วมีราคาดี ทาให้
10 เกษตรกรหันมาสนใจการดูแลสวนมะพร้าวกนั มากขน้ึ และเลี้ยงสตั วใ์ นสวนมะพร้าว ปลูก สับปะรดแซมมะพรา้ ว ทาให้มีรายได้เพ่ิมขน้ึ - ปลกู สบั ปะรด ร้อยละ 19.38 ของพนื้ ทที่ าการเกษตร โดยปลกู สับปะรดพนั ธปุ์ ตั ตาเวยี แต่เดิมเกษตรกรจะปลูกแถวเดี่ยว ใช้หน่อพนั ธไุ์ รล่ ะ 3,500 หนอ่ จากการปฏิบตั ิตดิ ต่อกนั มาเป็นเวลานาน ทาให้พบว่า ตน้ ทุนการผลติ คอ่ นข้างสูง ไมค่ มุ้ กบั การลงทุนผลใหญเ่ กินความ ต้องการของโรงงาน จึงมีการเปลี่ยนจากการปลูกแถว เดี่ยว เป็นแถวคู่ใช้หน่อพันธุ์ 6,000 ถึง 8,000 หน่อ ต้นทุนการผลิตจะใกล้เคียงกัน แต่ผลผลิตท่ีได้จะมากกวาเดิม ค่อนข้างมาก และคุณภาพของผลผลติ กต็ รงตามความตอ้ งการของโรงงานรบั ซ้ือ - ปลูกไม้ผล/ไม้ยืนต้นอื่นๆ ยกเว้นมะพร้าว ร้อยละ 9.27 ของพื้นที่ทาการเกษตรส่วนใหญ่ปลูก ยางพารา ปาล์มนา้ มนั กล้วยนา้ วา้ ฯลฯ - รอ้ ยละ 9.67 ได้แก่ พนื้ ทปี่ ลูกหญา้ เนเปียเพอ่ื ส่งเขา้ สหกรณ์ การผลิตสัตว์ เกษตรกรมกี ารเลีย้ งสัตว์เพม่ิ มากขึ้น โดยเฉพาะโคเน้ือ โคขุน แพะ เนอ่ื งจากภาวะ เศรษฐกิจถดถอย ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ถ้าเกษตรกรปลูกพืชอย่างเดียวรายได้ไม่เพียงพอ จึงหันมาเลี้ยงสัตว์ในสวน มะพรา้ วกันส่วนใหญ่ ส่วนเกษตรกรที่มีพ้ืนที่มากพอก็จะทาการปลูกหญ้าเนเปียเพ่ือใช้เลี้ยงโคขุน ส่วนเป็ดไก่จะมีการ เล้ียงไวเ้ พ่ือบรโิ ภคเกือบทกุ ครัวเรอื น เพ่อื ลดค่าใช้จ่ายในการครองชพี การผลิตดา้ นการประมง ท่ผี า่ นมาไมม่ ีการเล้ยี งปลาเพ่ือบรโิ ภค สว่ นใหญ่จะหาจับเอาตามห้วย หนอง คลอง บึงแต่ในปัจจบุ ัน เกษตรกรจะมีการซ้ือพันธ์ุปลานา้ จดื มาปลอ่ ยตามสระนา้ ในพน้ื ที่ของตนเอง เล้ียงเพ่ือจาหน่ายและบริโภคภายใน ครัวเรือน เชน่ ปลานลิ ปลาดุก ปลาตะเพียน ซึง่ ไม่ต้องดแู ลเอาใจใสม่ ากนัก นอกจากนี้ยังมีอาชีพทาประมงน้าเคม็ ใน พ้ืนทตี่ ิดชายทะเล หมูท่ ่ี 7 7.3 ข้อมูลดำ้ นแหล่งน้ำทำงกำรเกษตร การทาการเกษตรในพนื้ ท่ีตาบลหว้ ยยางโดยสว่ นใหญ่แลว้ จะใช้นา้ จากแหลง่ น้าธรรมชาติ และจากสระเก็บน้าในท่ีดนิ ของตนเอง และจากอา่ งเก็บนา้ /ฝายในพื้นที่ 7.4 ข้อมูลด้ำนแหล่งน้ำกิน น้ำใช้ (หรอื นำ้ เพ่อื กำรอุปโภค บรโิ ภค) ประชาชนส่วนใหญใ่ นพนื้ ที่ตาบลห้วยยาง บริโภคน้าจากนา้ ฝนซึ่งได้จากธรรมชาติ และประชาชนอีก ส่วนบริโภคนา้ จากการซอื้ น้าดมื่ ส่วนนา้ ที่ใช้ในการอุปโภคมาจากแหลง่ น้าต่างๆ ดงั นี้ แหลง่ นำ้ ธรรมชำติ 1. คลองห้วยยาง 2. คลองหนิ จวง แหลง่ นำ้ ที่สร้ำงขน้ึ 1. ฝาย จานวน 5 แห่ง 2. บ่อน้าตน้ื จานวน 30 แห่ง 3. บ่อนา้ บาดาล จานวน 25 แห่ง 4. ประปาหมู่บ้าน จานวน 12 แหง่ 5. อา่ งเก็บน้า จานวน 12 แหง่ - อา่ งเกบ็ น้าหว้ ยมะปรางค์ หม่ทู ่ี 4 - อ่างเก็บน้าบา้ นหัวเขา หมู่ท่ี 10 6. สระเกบ็ นา้ ประชาชน/สาธารณะ จานวน 20 แห่ง
11 7. ศำสนำ ประเพณี วฒั นธรรม 7.1 กำรนับถอื ศำสนำ ประชาชนในเขตองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลหว้ ยยาง สว่ นใหญ่นับถือศาสนาพทุ ธ จะมีนับถือศาสนาอื่น เช่น ศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลามบ้างเล็กน้อย ก็เพราะการย้ายถ่ินมาพักอาศัยอยู่เพ่ือการ ประกอบอาชีพเปน็ ครง้ั คราวเทา่ นัน้ วัดในเขตองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบลห้วยยาง มีจานวน 5 วัด 2 สานกั สงฆ์ ประกอบดว้ ย 1. วดั หว้ ยยาง หม่ทู ี่ 2 ตาบลหว้ ยยาง อาเภอทบั สะแก จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ 2. วดั ทุ่งยาว หมทู่ ี่ 3 ตาบลห้วยยาง อาเภอทบั สะแก จังหวัดประจวบครี ขี นั ธ์ 3. วัดสมุททราราม หมู่ท่ี 7 ตาบลห้วยยาง อาเภอทับสะแก จังหวดั ประจวบครี ขี ันธ์ 4. วัดประชาสนธิ หม่ทู ี่ 11 ตาบลหว้ ยยาง อาเภอทบั สะแก จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ 5. วดั เนนิ ดินแดง หมทู่ ี่ 6 ตาบลห้วยยาง อาเภอทบั สะแก จงั หวัดประจวบครี ีขันธ์ 6. สานักสงฆเ์ พ็งสว่างพิทักษ์ธรรม หมู่ที่ 13 ตาบลห้วยยาง อาเภอทับสะแก จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ 7. สานักสงฆ์จิตตภาวัน หม่ทู ่ี 9 ตาบลหว้ ยยาง อาเภอทับสะแก จงั หวดั ประจวบครี ีขันธ์ 7.2 ประเพณแี ละงำนประจำปี 1. ประเพณลี อยกระทง ในวันขึ้น 15 คา่ เดือน 12 ของทกุ ปี 2. ประเพณีสงกรานต์ ในวันที่ 17 เดือนเมษายนของทกุ ปี 3. ประเพณที าบุญตักบาตรในวันสาคัญทางพุทธศาสนาและวนั สาคญั ของชาติ 4. ประเพณกี ารแขง่ ขนั กีฬา อบต. ในช่วงเดอื นเมษายน 7.3 ภมู ปิ ญั ญำท้องถิน่ การทาไม้กวาดทางมะพร้าว การทากลว้ ยตากพลังแสงอาทิตย์ มะพร้าวอบน้าผง้ึ 7.4 สนิ คำ้ พนื้ เมืองและของท่รี ะลึก กลว้ ยตากพลังแสงอาทติ ย์ มะพรา้ วอบน้าผ้งึ 8. ทรัพยำกรธรรมชำติ 8.1 น้ำ ที่ใช่ในการอุปโภค-บริโภค เป็นน้าที่ได้จากน้าฝน และน้าดิบจากแหล่งน้า ธรรมชาติ ซ่งึ จะตอ้ งนามาผา่ นกระบวนการของระบบประปา สาหรับน้าใต้ดินมปี ริมาณนอ้ ย ไม่สามารถนาข้ึนมาใช้ให้ พอเพียงได้ ไมส่ ามารถใช้ด่ืมและอุปโภคได้ 8.2 ปำ่ ไม้ มีลกั ษณะของปา่ ไมเ้ ป็น ป่าเบญจพรรณ ปา่ ดบิ เขา และป่าดิบแลง้ มีพันธุ์ไม้ จาพวก ตะเคียน เสลา ตะแบก ยาง ยูง ยมหอม ยมป่า ขนาน ไขเ่ นา่ ไทร พชื พ้ืนลา่ งเป็นไผช่ นดิ ตา่ งๆ 8.3 ภูเขำ ในพนื้ ทต่ี าบลห้วยยางมีเทือกเขาตะนาวศรที อดยาวตลอดแนว
12 สภำพท่ัวไปของ กศน.ตำบลแสงอรุณ ลักษณะทำงกำยภำพ เนอื้ ท่ี ตาบลแสงอรณุ มีเนือ้ ทที่ ้ังหมดประมาณ 49.28 ตารางกิโลเมตร หรอื 30,800 ไร่ ภูมปิ ระเทศ ลักษณะพนื้ ท่ีส่วนใหญ่เป็นที่ราบลาดเอยี งจากทิศตะวันตก ซึ่งเป็นเทือกเขาตะนาวศรี ลาดเอียงไปทางทศิ ตะวันออกซึ่งเปน็ อ่าวไทย สภาพดนิ โดยทั่วไปเป็นดินรว่ มปนทราย 1.1 ที่ตงั้ ของหมบู่ า้ น/ชุมชน/ตาบลตาบลแสงอรุณเปน็ หมบู่ า้ นในเขตการปกครองของ อาเภอทับสะแก ซงึ่ แยกมาจากตาบลเขาล้านและตาบลห้วยยาง โดยกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศจดั ต้งั ตาบลแสงอรุณเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมพ.ศ.2531 แบ่งการปกครองออกเป็น 6 หมู่บ้าน เป็นตาบล 1 ใน 6 ตาบลของ อาเภอทับสะแกและได้รับการจัดตั้งจากสภาตาบลแสงอรุณเป็นองค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรุณเม่ือปี พ.ศ.2539 ตาบลแสงอรุณมีอาณาเขตพ้ืนท่ีอยู่ตดิ กันท้องถิน่ ใกลเ้ คียงดงั น้ี ทิศเหนอื ตดิ ตาบลหว้ ยยาง ทศิ ตะวันออก ตดิ ทะเลอ่าวไทยฝงั่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทิศใต้ ตดิ ตาบลทับสะแกและตาบลเขาล้าน ทศิ ตะวนั ตก ตดิ ตาบลเขาลา้ นและตาบลห้วยยาง โดยตาบลแสงอรณุ ตั้งอยู่ห่างจากตัวอาเภอระยะทาง 32 กโิ ลเมตรตาบลแสงอรุณ มพี ืน้ ท่ีประมาณ 49.28 ตารางกิโลเมตร หรอื 30,800 ไร่ โดยมีพ้นื ท่ีแยกเป็นรายหมูบ่ ้านดงั น้ี หมทู่ ่ี ช่ือหมู่บำ้ น เน้อื ทีอ่ นั ดบั 1 ไรใ่ น 1 2 แสงทอง 6 3 ยุบหวาย 3 4 แสงอรณุ 2 5 หินเทิน 4 6 ต้นกระโดน,สามหนอง(ซงั ชะมวง) 5
13 แผนทอ่ี งค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบลแสงอรณุ อำเภอทับสะแกจังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ ขอ้ มูลเกีย่ วกับศักยภาพขององคก์ ารบริหารสว่ นตาบลแสงอรุณ คณะผู้บรหิ ำรองคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นตำบลแสงอรุณ 1. นายสรุ ศิลป์ ยนปลัดยศ นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลแสงอรณุ 2. นายสุนนั ท์ ร้ิวงาม รองนายกองค์การบรหิ ารสว่ นตาบลแสงอรณุ 3. นายวิทยา ศรีพรหมสขุ รองนายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลแสงอรณุ 4. นายเชิตชาติ เล่าโรจนถาวร เลขานกุ ารนายกองคก์ ารบริหารสว่ นตาบลแสงอรณุ โครงสรำ้ งคณะผบู้ รหิ ำร นายก อบต. รองนายก อบต. รองนายก อบต. เลขานกุ ารนายก อบต.
14 ข้อมูลด้ำนกำรศกึ ษำคณะผบู้ ริหำร คณะผบู้ ริหำร ระดับกำรศึกษำ นายกองค์การบริหารสว่ นตาบล มธั ยมศึกษาตอนปลาย รองนายกองคก์ ารบริหารส่วนตาบล มัธยมศึกษาตอนปลาย รองนายกองค์การบริหารส่วนตาบล เลขานุการนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบล ปรญิ ญาตรี มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรณุ 1. นายอานาจ นอ้ ยแสง ประธานสภา/สมาชิกสภา อบต.แสงอรุณ หมู่ที่ 1 2. นายสมเดช ทมิ พทิ ักษ์ สมาชกิ สภา อบต.แสงอรณุ หมทู่ ่ี 1 3. นายสุชิน รว้ิ งาม สมาชกิ สภา อบต.แสงอรุณ หมู่ที่ 2 4.นายชน ซุ่นบวบ สมาชกิ สภา อบต.แสงอรณุ หมู่ท่ี 2 5. นายสงั เวช ศรเี อยี่ ม สมาชกิ สภา อบต.แสงอรณุ หมู่ท่ี 3 6. นายยศศกั ด์ ทองแคลว้ สมาชกิ สภา อบต.แสงอรณุ หมูท่ ่ี 3 7. นางสาวเอื้อ แตส่ ุวรรณ สมาชิกสภา อบต.แสงอรณุ หมู่ท่ี 4 8. นายกัมพล พันธบ์ วั สมาชิกสภา อบต.แสงอรณุ หมูท่ ี่ 4 9. นางกรุณา อินทรวมิ ล สมาชกิ สภา อบต.แสงอรุณ หมู่ท่ี 5 10.นายจิรายุ ดีสนุ่ สมาชกิ สภา อบต.แสงอรุณ หมู่ท่ี 5 11.นายจรัล แสงช่วง รองประธาน/สมาชิกสภา อบต.แสงอรุณ หมทู่ ี่ 6 12.นายสุทธศิ ักดิ์ เมืองชู สมาชกิ สภา อบต.แสงอรุณ หมู่ท่ี 6 ลกั ษณะภูมิประเทศประเทศ 1.2 ลักษณะภูมิประเทศสภาพพื้นท่ีทั่วไปขององค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรุณมีสภาพทั่วไปของพ้ืนที่เป็น ท่รี าบมลี ักษณะลาดเอยี งจากทศิ ตะวนั ตกอนั เปน็ แนวเทือกเขาตะนาวศรีไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นทะเลอา่ วไทย 1.3 ลักษณะภมู อิ ากาศสภาพอากาศท่วั ไปของเขตพ้นื ทตี่ าบลแสงอรุณมีลักษณะภูมิอากาศแบบมรสุมจาแนก ได้ดงั นี้ ฤดูร้อน เริ่มต้นระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม อากาศร้อนจัดและแล้งจัดติดต่อเป็นระยะ เวลานานความชื้นในอากาศมีน้อยและมีพายุฤดูร้อนเป็นบางช่วงท่ีมีคลื่นความร้อนปกคลุม อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 35-40 องศาเซลเซียส ฤดูฝน เริ่มต้นระหว่างเดือนพฤษภาคม - ตุลาคมอากาศร้อนและมีพายุลมฝนฟ้าคะนองลมแรง ปริมาณน้าฝนเกณฑ์เฉล่ียตัง้ แต่ต้นปี 179.7 มลิ ลิเมตรตอ่ ปี ฤดหู นำว เรม่ิ ตน้ ระหวา่ ง เดือนพฤศจิกายน - มกราคม อณุ หภมู ติ ่าสดุ ประมาณ 21องศาเซลเซียส 1.4 ลกั ษณะของดนิ สภาพดินในเขตตาบลแสงอรณุ จานวน ร้อยละ 90 มีลักษณะเป็นดินร่วนปนทรายจึงไม่ สามารถเก็บกักน้าได้ พ้ืนท่ีเพาะปลูกส่วนใหญ่ เป็นพืชไร่และพืชหมุนเวียนประกอบกับเป็นบริเวณที่มีช้ันเกลืออยู่ชั้น ลา่ ง ทาใหเ้ ป็นดนิ เคม็ จาแนกพ้ืนทต่ี ามความเค็มได้ 4 ประเภท คือ
15 (1) บริเวณที่มีดินเค็มจัดมีคราบเกลือปรากฏบนผิว ประมาณร้อยละ 10 ของพ้ืนที่พบบริเวณทิศใต้ และทิศตะวนั ออกของตาบล (2) บริเวณท่ีดนิ เค็มเล็กนอ้ ย มีคราบเกลอื ร้อยละ 1- 10 พบบรเิ วณใตบ้ ้านหว้ ยชงโค หมู่ท่ี 1 (3) บรเิ วณท่ีราบต่ามีศักยภาพเป็นเค็ม พบบริเวณบา้ นวังแร่ หมู่ท่ี 5 (4) บรเิ วณทสี่ งู มีชน้ั หินเกลืออย่ขู ้างลา่ งพบบรเิ วณบา้ นโนนทองหลางหมูท่ ี่ 4 สาหรับประเภทของดนิ ในเขตพื้นทต่ี าบลแสงอรุณทางด้านกายภาพประกอบด้วย 6 ชุดดิน คือชุดดิน รอ้ ยเอด็ อยทู่ างทิศใต้ของตาบล มีประมาณ ร้อยละ 10 ชุดดินร้อยเอ็ดท่ีมีเกลือสูง มีประมาณร้อยละ 10 อยู่ทางทิศตะวันตกและทิศตะวันออกของตาบล ประมาณรอ้ ยละ 25 ชุดดินสตึกอยู่ในตอนกลางทางทิศตะวันออกของตาบล มีประมาณร้อยละ 25 ชุดดินจตุรัส อยู่ทาง ทศิ ใต้ของตาบล มีประมาณร้อยละ 25 ชดุ ดนิ ร้อยเอ็ดท่ีมเี นื้อดนิ ร่วน อยทู่ างทิศเหนือของตาบลมีประมาณร้อยละ 5 1.5 ลักษณะของแหลง่ น้ำ มแี หล่งน้าทใ่ี ช้สาหรบั อุปโภค-บรโิ ภค เป็นแหล่งน้าที่เกิดข้ึนตามธรรมชาติและ องค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรุณได้ดาเนินการขุดลอกแหล่งน้าและก่อสร้างฝายก้ันน้าเพื่อเพียงพอกับการอุปโภค และบรโิ ภคของประชาชน ดังน้ี หม่ทู ่ี 1 ลาห้วย 3 แห่ง สระนา้ 9 แห่ง หนองน้า - แหง่ บอ่ นา้ ตนื้ - แห่ง ลาคลอง 4 แห่ง บอ่ บาดาล 1 แหง่ บึง - แห่ง อ่างเก็บน้า - แหง่ แม่นา้ - แหง่ ฝาย 4 แหง่ อ่นื ๆ (ระบุ) - แหง่ เหมือง - แห่ง 1.6 ลักษณะของไม้/ป่าไม้ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรุณไม่มีป่าไม้ แต่มีต้นไม้ที่ชาวบ้านปลูก ลักษณะของไม้เปน็ ไมย้ ืนต้นผลดั ใบ และทางราชการปลกู ในวนั สาคัญของชาติ 2. ด้ำนกำรเมือง/กำรปกครอง 2.1 เขตกำรปกครององคก์ ารบริหารส่วนตาบลแสงอรุณประกอบด้วยหมู่บ้าน 6หมู่บ้านมีพ้ืนที่อยู่ในองค์การ บริหารส่วนตาบลทง้ั หมด 6หมบู่ ้าน ดังนี้ หมทู่ ี่ 1 บ้านไรใ่ น ผู้ปกครองนายบุญเรือง อนิ สวัสดิ์ ผู้ใหญบ่ า้ น หมูท่ ่ี 2 บา้ นแสงทอง ผู้ปกครอง นายววิ ัฒน์ ศิรินาวินวรวทิ ย์ ผูใ้ หญบ่ า้ น หมู่ท่ี 3 บ้านยบุ หวาย ผู้ปกครอง นายไสว หดั มี ผ้ใู หญบ่ า้ น หมทู่ ่ี 4 บ้านแสงอรุณ ผู้ปกครอง นางโนรี ฉัตรบรรยงค์ ผใู้ หญบ่ ้าน หมทู่ ี่ 5 บา้ นหนิ เทิน ผู้ปกครองนายภัทรดนัย สมศรี กานัน หมู่ที่ 6 บ้านต้นกระโดน ผู้ปกครองนางกาญจนา แนบสนทิ ผใู้ หญบ่ ้าน
16 3. ประชำกร 3.1 ข้อมูลเก่ยี วกับจำนวนประชำกร จำนวน ๖ หมบู่ ้ำน(ปี พ.ศ. ๒๕๖๓) หมูท่ ี่ ชือ่ หมูบ่ ้ำน จำนวนครัวเรือน หญงิ (คน) ชำย(คน) รวม 494 1,017 ๑ ไรใ่ น 359 523 222 489 265 553 ๒ แสงทอง 189 267 373 843 289 580 ๓ ยบุ หวาย 163 288 203 456 ๔ แสงอรณุ 329 470 3,938 1,846 ๕ หนิ เทิน 172 291 ๖ ตน้ กระโดน,สามหนอง(ซงั ชะมวง) 159 253 รวมท้ังสิ้น 1,371 2,092 หมำยเหตุ : ขอ้ มูล ณ เดือน 31 กรกฎำคม พ.ศ. 2563 4. สภำพทำงสงั คม ด้านการศกึ ษาในเขตองค์การบรหิ ารส่วนตาบลแสงอรุณ มีการจัดการด้านการศึกษา โดยมีศูนย์ พัฒนาเด็กเล็กขององค์การบริหารส่วนตาบลแสงอรุณ จานวน 1 แห่ง มีโรงเรียนสังกัด สานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน (สพฐ.) จานวน 2 แหง่ โรงเรียนสงั กัดสานักงานการศึกษาเอกชน จานวน 1 แห่ง ตามข้อมูล ดงั น้ี ศนู ยพ์ ฒั นำเดก็ เล็กก่อนวัยเรยี นประจำปีกำรศกึ ษำ พ.ศ. 2563 ท่ี ช่ือศูนยพ์ ัฒนำเดก็ เลก็ ท่ีตง้ั พ.ศ. 25๖๒ จำนวนนักเรยี น หมทู่ ี่ ชำย หญงิ รวม 1 ศนู ย์พัฒนาเด็กเล็กตาบลแสงอรณุ 4 10 13 18 ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เลก็ ตาบลแสงอรุณ - มีครผู ู้ดูแลเด็ก จานวน 1 คน คน - มผี ู้ชว่ ยครผู ู้ดแู ลเดก็ จานวน 1
17 ขอ้ มูลโรงเรยี นสังกดั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขัน้ พน้ื ฐำน (สพฐ.) จำนวนนกั เรยี น ชอื่ สถำนศึกษำ อนบุ ำล ประถมศึกษำ รวม อนุบำล1 อนุบำล2 อนุบำล3 ป.1 ป.2 ป.3 ป.4 ป.5 ป.6 ๑. โรงเรยี นบ้านไร่ใน 3 4 1 4 4 8 8 8 5 45 ๒. โรงเรียนบ้านหนิ เทนิ 0 6 11 11 5 9 9 11 10 72 รวมทั้งส้ิน 3 21 20 22 20 29 24 35 25 199 หมำยเหตุ : ข้อมูล ณ วนั ท่ี 21 พฤษภำคม 2563 กศน.ตำบล แสงอรณุ 1 แห่ง ตง้ั อยู่ หมูท่ ี่ 2 ตำบลแสงอรุณ 4.2 สำธำรณสขุ - โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล จานวน 1 แหง่ ตง้ั อย่บู า้ นหนิ เทินหมทู่ ี่ 5 - อตั ราการใช้สว้ มราดนา้ ร้อยละ 100
18 ขอ้ มูลทั่วไปตำบลเขำล้ำน เดิมเป็นหมู่บ้านขึ้นอยู่กับตาบลทับสะแก ต่อมามีประชากรเพ่ิมขึ้นจึงถูกจัดตั้งเป็นตาบลเมื่อปี พ.ศ.2513 ชื่อวา่ ตาบลเขาลา้ น สาเหตทุ ่เี รยี กว่า\"เขาล้าน\" เน่ืองจากมีภูเขาลูกหนึ่งในหมู่ท่ี 5 เป็นลักษณะโล่งเตียน เมื่อจัดต้ังครั้ง แรกตาบลน้ีมี 10 หมบู่ ้านตอ่ มาในปี พ.ศ. 2527 ได้แยกหมู่บา้ นเพ่ิมเปน็ 2 หมบู่ า้ นรวมเปน็ 12 หมู่บ้าน ต่อมาปี 2531 อาเภอได้จัดตั้งตาบลอีก 1 ตาบล ซ่ึงได้รวมเอาหมู่บ้านของตาบลเขาล้านไปบางส่วน ปัจจุบันตาบลเขาล้านมี 11 หมู่บ้าน โดยแบ่งการบริหารงานออกเป็น 2 ส่วน โดยหมู่ที่ 7 เป็นหมู่บ้านในเขตเทศบาล นอกนั้นเป็นส่วน รบั ผดิ ชอบของ อบต.เขาลา้ น ตาบลเขาล้านเป็นตาบล 1 ใน 6 ตาบลของอาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากท่ีว่า การอาเภอทับสะแกทางทิศตะวันตกประมาณ 7 กิโลเมตร มีพื้นที่ท้ังหมดประมาณ 98 ตารางกิโลเมตร หรือ ประมาณ 61,250 ไร่ อยู่ห่างจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มาทางทิศใต้ประมาณ41 กิโลเมตรห่างจากอาเภอ ทับสะแกประมาณ 7 กิโลเมตร มีอาณาเขตตดิ ตอ่ กันดังน้ี ท่ตี ง้ั และอาณาเขต ทิศเหนอื พน้ื ที่ตาบลแสงอรุณและตาบลทบั สะแก ทศิ ใต้ ตาบลนาหูกวาง ทิศตะวนั ออก ตาบลทบั สะแก ทิศตะวันตก เทอื กเขาตะนาวศรี ลกั ษณะภมู ิประเทศ สภาพภูมิศาสตร์โดยท่ัวไปของตาบลเขาล้านเป็นพื้นท่ีลาดเอียงจากด้านทิศตะวันตกบริเวณเทือกเขา ตะนาวศรีไปทางทิศตะวันออกพนื้ ทสี่ ่วนใหญ่ เป็นดินรว่ นปนทราย พนื้ ทตี่ าบลมีลักษณะเป็นภูเขาอยู่ทางทิศตะวันตก เป็นบางส่วนมีที่เป็นที่ดอน หมู่ที่ 3 เป็นพื้นท่ีที่ต่าที่สุด และนอกจากน้ียังมีพื้นที่ดอนสลับกับท่ีราบลุ่มบริเวณทิศใต้ ของตาบล ลกั ษณะภูมิอำกำศ ฤดูร้อนจะร้อนและแห้งแล้ง ฤดูฝน ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทาให้มีลมแรงฝนตกไม่ สม่าเสมอ ฤดหู นาวไม่หนาวจดั ทรพั ยากรธรรมชาติ เน่ืองจากตาบลเขาล้านมีพ้ืนที่ติดต่อกับเทือกเขาตะนาวศรีจึงทา ให้ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ และยังมีพื้นท่ีส่วนใหญ่ในการทาเกษตรกรรม ทางด้านของแหล่งน้า ธรรมชาติมีทง้ั คลอง ลาห้วย หนองน้า กระจายอยู่ทั่วท้ังตาบล แหล่งท่ีสาคัญมีดังน้ี คลองสวนส้ม ห้วยบ่อ ห้วยดอน ใจดี หนองปลา เป็นต้น แหล่งน้าธรรมชาตินี้จะมีน้ามากเฉพาะฤดูฝนส่วนฤดูอื่นจะมีน้าขังอยู่บ้าง และไม่สามารถ นามาใชใ้ นดา้ นการเกษตรในฤดแู ลง้ ได้ อาชีพ อาชีพหลกั ทาสวนมะพร้าว
19 สำธำรณปู โภค มคี รัวเรือนที่มไี ฟฟ้าใช้ประมาณรอ้ ยละ 90 จาก ครวั เรือนทั้งหมด มีโทรศพั ท์สาธารณะ 3 แหง่ แหล่งน้ามที ั้งทมี่ าจากธรรมชาติและท่ีสร้างขน้ึ กำรเดนิ ทำง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) ผ่านสมุทรสงครามแล้วเล้ียวซ้ายเข้า เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่านเพชรบุรีเข้าสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑล นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ถึงประจวบคีรีขันธ์ แล้วเดินทางต่อมุ่งหน้าชุมพรระยะทาง ประมาณ 42 กิโลเมตรจากตัวเมอื งก็จะเข้าสตู่ าบลเขาลา้ น ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน ไมก้ วาด – ยาหมอ่ งน้า – หัตถกรรมจากกะลา - ผา้ ทอกี่กระตุก เขตกำรปกครอง แบ่งการปกครองออกเป็น 11 หมู่บา้ น ( หมูท่ ่ี 7 บ้านกลาง อยใู่ นเขตเทศบาลตาบลทับสะแก ) หมู่ท่ี 1 บ้านห้วยแห้ง ที่มา : สมัยก่อนบ้านห้วยแห้งมีช่ือว่าปากคาน และห้วยแห้งเป็นช่ือของหมู่ท่ี 2 ต่อมาไ การแยกหมู่บา้ นและได้มกี ารจัดตัง้ ช่ือกนั ใหม่ทกุ หมบู่ ้าน หมู่บา้ นปากคานเห็นวา่ แถวหมู่บา้ นมหี ้วยที่มนี ้าแห้งอยู่มาก จึงใช้เป็น หมบู่ า้ น จงึ เรยี กวา่ “บา้ นหว้ ยแหง้ ” หมทู่ ี่ 2 บา้ นนาตาปะขาว ท่ีมา : สมยั ก่อนทดี่ ินสว่ นมากเป็นทนี่ าแล้วมตี าคนหนง่ึ ชอื่ ตาปะขาวมาบวชชีพราหมณ์ ต่อมาก็หายไป ตั้งแต่บัดนัน้ ชาวบ้านจึงได้เรียกว่า “บ้านนาตาปะขาว” หมทู่ ี่ 3 บา้ นนาล้อม ทมี่ า : เดมิ ช่อื วา่ บ้านทุ่งโป่งต่อมาในสมัย ผใู้ หญอ่ รรถ ชนะภยั ไดเ้ ปลี่ยนชื่อเป็นบา้ นนา ลอ้ มโดยถอื เอา สภาพภูมปิ ระเทศ ที่มีนาล้อมรอบและหมู่บ้านอย่ตู รงกลาง จึงเรียกว่า “บ้านนาลอ้ ม” หมทู่ ี่ 4 บ้านพุตะแบก ทีม่ า : เดิมนั้นชมุ ชนนี้เป็นเส้นทางเกวียนและลายทางจะมีตน้ ตะแบกอยมู่ ากมายและได้ม ปัญหาเกวยี นลงพุ ( เกวียนตดิ หลมุ ) เลยเรยี กรวมกันว่า “พุตะแบก” หมู่ที่ 5 บ้านมะเด่ือทอง ที่มา : เดิมที่ดินเป็นป่าดงดิบและเม่ือมีคนเข้ามาอยู่อาศัยก็ได้มีการตัดไม้ทาลายป่า กลายเป็นภูเขาหัวล้าน และเรียกว่า “บ้านเขาล้าน” ข้ึนอยู่กับหมู่ 10 บ้านสวนขนุน ตาบลทับสะแกต่อมานายเชือน ส สกล เป็นผู้ใหญ่บ้าน ด้มีการแบ่งแยกหมู่บ้านข้ึนในเขตพ้ืนที่น้ันมีต้นมะเด่ืออยู่มากจะมีสีเหลืองเหมือนทอง จึงเรียกว่า “บ มะเดือ่ ทอง” หมู่ท่ี 6 บา้ นทุ่งกลาง ทีม่ า : สมัยก่อนบ้านทุ่งกลางเป็นป่าดงดิบต่อมามีคนเข้ามาจับจองท่ีดินทามาหากินและพื้น มีลกั ษณะพิเศษ คอื บรเิ วณลอ้ มรอบเปน็ ปา่ ดงดบิ แตต่ รงกลางมีลักษณะเป็นทุ่งโลง่ จงึ เรยี กหมู่บ้านนี้วา่ “บ้านทงุ่ กลาง” หมทู่ ี่ 7 บ้านกลาง ทีม่ า : เดิมเรยี กหมบู่ ้านน้วี ่า “บา้ นพตุ ะแบก” ต่อมามีการแยกหมูบ่ า้ นแบ่งเขตการปกครองให จึงมกี ารต้งั หมู่บา้ นใหม่เรยี กว่า “บา้ นกลาง” หมู่ท่ี 8 บ้านดอนใจดี ที่มา : มาจากการท่ีคนในหมู่บ้านมีจิตใจดีชอบช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน เช่นเวลามีการสร วัดหรอื โรงเรียนทกุ คนในหมูบ่ ้านก็ชว่ ยกนั สร้างและบริจาคสง่ิ ของจงึ เรยี กชอ่ื วา่ “บ้านดอนใจดี ” หมทู่ ี่ 9 บา้ นสวนสม้ ทมี่ า : เดิมชื่อบา้ นคลองช่องลมข้นึ อยู่กบั หมู่ 5 บ้านมะเด่ือทอง ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2528 ได้มี การแยกจากหมู่ 5 ชาวบา้ นในหมูบ่ า้ นมีการทาสวนส้มกนั มากจงึ นามาตงั้ ชอ่ื หม่บู ้านเรยี กว่า “บ้านสวนสม้ ” หมทู่ ี่ 10 บ้านสวนขนนุ ท่ีมา : เดมิ บา้ นสวนขนนุ มีพน้ื ท่เี ป็นปา่ รกทบึ และมปี า่ ขนนุ โบราณซึ่งมีจานวนมากชาวบ้า
20 จึงเรียกกนั ว่า “บา้ นสวนขนุน” หมูท่ ่ี 11 บ้านหว้ ยนา้ ทรพั ย์ ทีม่ า : สมัยก่อนหมู่บ้านน้ีบริเวณห้วยมนี า้ ไหลตลอดทงั้ ปีจงึ เรียกวา่ “บ้านห้วยน้าทรัพย ประชำกร สถติ บิ ้านและประชากร พื้นที่ ตาบลเขาลา้ น อาเภอ: ทบั สะแก จงั หวดั : ประจวบคีรีขนั ธ์ ระหวา่ งวันที่ 1 ถึง 18 ตลุ าคม 2563 หมทู่ ่ี ครัวเรือน ชาย หญิง รวม 01 00 0 1 171 283 276 559 2 247 373 395 768 3 56 96 112 208 4 295 386 420 806 5 326 497 527 1,024 6 201 316 326 642 8 351 645 668 1,313 9 301 582 548 1,130 10 174 440 399 839 11 170 314 313 627 รวม 2,293 3,932 3,984 7,916 ลักษณะภูมิประเทศ สภาพภมู ิศาสตรโ์ ดยทั่วไปของตาบลเขาล้านเปน็ พื้นทล่ี าดเอยี งจาก ด้านทศิ ตะวันตกบริเวณเทือกเขาตะนาวศรีไปทางทิศ ตะวนั ออกพนื้ ท่สี ่วนใหญเ่ ปน็ ดินร่วนปนทราย พน้ื ที่ตาบลมีลกั ษณะเปน็ ภเู ขาอยทู่ างทศิ ตะวันตกเป็นบางส่วนมีที่เปน็ ทด่ี อนหมู่ 3 เป็น พื้นท่ที ่ตี ่าทส่ี ุด และนอกจากนี้ยงั มีพืน้ ที่ดอนสลับกับที่ราบลุ่มบรเิ วณทิศใต้ของตาบล ลกั ษณะภูมอิ ากาศ ฤดรู อ้ นจะร้อนและแหง้ แล้ง ฤดฝู นได้รับอทิ ธิพลจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทาใหม้ ีลมแรงฝนตกไม่สม่าเสมอ ฤดูหนาวไม่หนาว จดั ทรัพยากรธรรมชาติเนื่องจากตาบลเขาลา้ นมพี ืน้ ท่ีติดต่อกบั เทือกเขาตะนาวศรจี ึงทาใหท้ รพั ยากรธรรมชาตมิ คี วามอดุ มสมบูรณ์และยังมี พืน้ ที่ส่วนใหญใ่ นการทาเกษตรกรรม ทางดา้ นของแหล่งน้าธรรมชาตมิ ีทัง้ คลอง ลาหว้ ย หนองน้า กระจายอยู่ท่ัวทงั้ ตาบลแหลง่ ทสี่ าคญั มีดังน้ี คลองสวนส้ม หว้ ยบ่อ หว้ ยดอนใจ ดี หนองปลา เปน็ ต้นแหล่งน้า ธรรมชาติน้จี ะมีนา้ มากเฉพาะฤดฝู นสว่ นฤดูอนื่ จะมนี ้าขงั อยบู่ ้าง และไม่สามารถนามาใช้ในดา้ นการเกษตรใน ฤดูแลง้ ได้ สภำพทำงเศรษฐกิจ อำชพี ของรำษฎร (ข้อมลู จากผลการจดั เกบ็ ข้อมลู ความจาเปน็ พื้นฐานระดบั ตาบล (จปฐ.2) ปี 25)
21 อาชีพ เพศชาย เพศหญงิ รวม ( คน ) ( คน ) ( คน ) เกษตรกรรม – ทานา เกษตรกรรม – ทาไร่ 9 6 15 เกษตรกรรม – ทาสวน 35 33 68 เกษตรกรรม – ประมง 403 564 967 เกษตรกรรม – ปศุสตั ว์ - - - รบั ราชการ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั 6 3 9 พนักงานรฐั วสิ าหกิจ 36 44 80 พนักงานบริษัท - - - รับจา้ งท่ัวไป 1 4 5 ค้าขาย 1,250 1,120 2,370 ธรุ กจิ ส่วนตัว 130 229 359 อาชีพอ่นื (นอกเหนือท่กี ล่าวแลว้ ) 67 51 118 กาลงั ศกึ ษา 6 27 33 ไม่มีอาชพี 575 560 1,135 92 128 220 รวมทั้งหมด 2,610 2,769 5,379 กำรบรกิ ำรทำงสงั คม แหลง่ นำ้ ธรรมชำติ 1. ลาน้า ลาหว้ ย 7 สาย บึง , หนองและอนื่ ๆ 16 แหง่ คลองสวนส้ม ( คลองช่องลม) คลองน้าตกเขาลา้ น 2. คลองหว้ ยเกตุ 5. คลองห้วยแห้ง 3. หว้ ยน้าทรพั ย์ 6. หว้ ยกระแทก 4. ห้วยคลองหอย แหล่งน้าท่ีสร้างข้นึ - ฝาย 8 แหง่ - บ่อน้าตืน้ 49 แหง่ - บ่อบาดาล 48 แหง่ - อา่ งเก็บนา้ 1 แห่ง ( อา่ งเก็บนา้ คลองช่องลม หมู่ที่ 9 บ้านสวนสม้ ) ทรพั ยำกรธรรมชำตทิ ่ีสำคัญ ป่าไม้ อทุ ยานน้าตกเขาลา้ น , เขตป่าไม้หมู่ท่ี 9 ทีส่ าธารณประโยชน์ มจี านวนท้ังสิน้ 16 แหง่ พืน้ ทรี่ วมทง้ั หมด 139 ไร่ 2 งาน 56 ตารางวา ประชาชนใชป้ ระโยชน์ รว่ มกนั จานวน 8 หมบู่ า้ น อยู่ในความดูแลรักษาของกระทรวงมหาดไทย
22 2.ข้อมูลของผไู้ ม่รหู้ นงั สอื
23 ขอ้ มูลของผไู้ ม่รู้หนังสือ ตำบลแสงอรุณ ครวั เรือนที่ตกเกณฑร์ ำยตัวช้ีวัดท่ี 19 ตำบลแสงอรุณ ข้อมลู ความจาเป็นพนื้ ฐาน ระดับอาเภอ ปี 2562 อายุ 15 - 59 ปี อ่าน เขยี นภาษาไทย และคดิ เลขอยา่ งง่ายได้ อาเภอ ทบั สะแก จานวน 17 คน ใน 14 ครวั เรอื น ตาบล แสงอรุณ จานวน 3 คน ใน 3 ครวั เรอื น หมู่ 05 บา้ น หินเทิน จานวน 2 คน ใน 2 ครวั เรอื น 1. บ้านเลขท่ี 170/8 นาย เตี้ย พลปู ระเสรฐิ 2. บา้ นเลขท่ี 9999/2 นางสาว สมคดิ ใจตรง ตาบล แสงอรณุ จานวน 3 คน ใน 3 ครัวเรือน หมู่ 05 บ้าน หนิ เทนิ จานวน 2 คน ใน 2 ครวั เรอื น 3. บำ้ นเลขท่ี 169 นำงสำว ปลิว แขวงทับจำก ตำบล แสงอรุณ หมู่ 06 บ้ำน ซงั ชะมวง จำนวน
24 1 คน ใน 1 ครวั เรอื น ข้อมูลของผูไ้ ม่รู้หนังสือ ตำบลเขำลำ้ น ครัวเรือนท่ีตกเกณฑ์รำยตัวช้ีวัดท่ี 19 ตำบลเขำลำ้ น ครัวเรือนท่ีตกเกณฑ์รายตัวช้ีวัด 19 ข้อมูลความจาเป็นพื้นฐาน ระดับอาเภอ ปี 2562 อายุ 15 - 59 ปี อ่าน เขียน ภาษาไทย และคดิ เลขอยา่ งง่ายได้ อาเภอ ทับสะแก ตาบล เขาลา้ น จานวน 1 คน ใน 1 ครัวเรือน หมู่ 01 บ้าน ห้วย แหง้ จานวน 1 คน ใน 1 ครัวเรอื น บ้านเลขท่ี 5/3 นาง ถนอม ฤกษ์ยาม
25 3.ข้อมลู ภูมปิ ญั ญำ ภำคเี ครือขำ่ ย
26 ภูมิปญั ญำตำบลแสงอรณุ ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ความรคู้ วามสามารถ ทอี่ ยู่ คุณชาลี สทุ ธา การทาเมย่ี งคา คุณกบ 153/3 หมู่ 3 คุณชัยศรี ตนประเสริฐ คุณสายันต์ ถว้ ยทอง ตาบลแสงอรณุ อาเภอทับ คุณครรไลลกั ษณ์ โกมล สะแก คุณณรงค์ สขุ สี จงั หวัดประจวบคีรขี ันธ์ คณุ สมาน บุญมีสง่า การทาวูด๊ เวเนการ์ (นา้ ส้มควันไม้) หมู่ 5 ตาบลแสงอรุณ อาเภอทบั สะแก จงั หวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ การทาน้าตาลมะพร้าว 103/1 หม่ทู ี่ 5 บ้านหินเทนิ ตาบลแสงอรณุ อาเภอทับสะแก จงั หวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ การทากลว้ ยอบชุบน้าผึง้ วรรณารตั น์ 41 / 1 หมู่ 4 ตาบลแสงอรุณ อาเภอทบั สะแก จงั หวัดประจวบครี ขี นั ธ์ ด้านศลิ ปหตั ถกรรม หมทู่ ่ี 3 บา้ นยุบหวาย ตาบลแสงอรณุ อาเภอทบั สะแก จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์ ด้านการเกษตร 145 หมทู่ ี่ 3 บา้ นยุบหวาย ตาบลแสงอรุณ อาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์
27 ภูมปิ ญั ญำตำบลเขำลำ้ น ชอ่ื ภูมปิ ญั ญำ นำยฉลวย มีศักด์ิ 1. รำยละเอียดผปู้ ระกอบอำชพี (ข้อมูลสว่ นตวั ) 1.1 ชอ่ื – สกลุ นายฉลวย มีศกั ดิ์ 1.2 อายุ 65 ปี เกิดวันท่ี 4 สิงหาคม 2498 1.3 ท่ีอยู่ 28 ม.6ต.เขาลา้ นอาเภอทบั สะแก จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ 1.4 เบอร์โทร 085-669-9427 2. สถำนที่ ท่ตี ั้ง (พกิ ดั ) ของผู้ประกอบอำชพี , , พกิ ดั ทางภมู ิศาสตร์ ค่า X11.528848พิกดั ทางภมู ิศาสตร์ คา่ Y 99.604959 3. หลักสตู รที่ไดร้ ับกำรอนุมตั ิ - 4. กระบวนกำร/ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ กำร ร่วมกิจกรรมอบรมการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กับหน่วยงานต่าง และ กศน. จึงเร่ิมเห็นแนวทางในการ ทางาน การใช้ชีวิต โดยเริ่มทากับสวนของตนเอง จนเห็นผลและยินดีแบ่งบันความความรู้ให้กับชุมชนจึงเริ่ม ดาเนนิ การศูนย์เรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง ส่อื ประกอบ
28 ฐำนกำรเรียนรู้
29 ภูมิปญั ญำตำบลห้วยยำง ประเภทบคุ คล ไดแ้ ก่ ควำมรคู้ วำมสำมำรถ ทอ่ี ยู่ ภูมิปญั ญำท้องถนิ่ พธิ ีการทางศาสนา ม.7 ตาบลหว้ ยยางอาเภอทบั สะแก นายบารุง เอี่ยมมีศลิ ป์ นางพวงเงนิ เจนเซน่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายประทปี ทบั จติ ร์ นางทิพวรรณ ทอดสนิท นวดแผนไทย ม.7 ตาบลหว้ ยยางอาเภอทับสะแก นางมะลิ หว่ันวดี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เศรษฐกิจพอเพียง ม.10 ตาบลห้วยยางอาเภอทับ สะแก จ.ประจวบคีรีขนั ธ์ กลวั ยอบน้าผงึ้ พลังงานแสงอาทิตย์ ม.9 ตาบลห้วยยางอาเภอทบั สะแก มะพรา้ วอบนา้ ผึ้ง จ.ประจวบคีรขี นั ธ์ กลวั ยอบนา้ ผง้ึ พลงั งานแสงอาทติ ย์ ม.11 ตาบลห้วยยางอาเภอทับ สะแก จ.ประจวบคีรีขนั ธ์
30 4. แหลง่ เรยี นรใู้ นชุมชน
31 แหล่งเรียนรู้ในชมุ ชนตำบลเขำล้ำน แหลง่ เรียนร้ใู นชมุ ชน และทุนด้านงบประมาณทส่ี ามารถนามาใช้ประโยชนเ์ พ่ือการจดั การศกึ ษา ประเภทบุคคล ประเภทสถานที่และองค์กร ประเภททรัพยากรธรรมชาติ ประเภทกจิ กรรมทางสังคม- วัฒนธรรมและตน้ ทนุ งบประมาณ 1. แหล่งเรียนรปู้ ระเภทบุคคล ได้แก่ ภมู ิปัญญาท้องถนิ่ ความรูค้ วามสามารถ ท่ีอยู่ นายสญั ชพี สายทองสุข หมอง/ู สมนุ ไพรพ้นื บา้ น ม. 10 ตาบลเขาล้าน นายธนศู ักดิ์ เสียงเพราะ วิทยากรการทาปุ๋ยหมกั ม.10 ตาบลเขาลา้ น นายฉลวย มศี กั ด์ิ หมอดิน 28 ม.6 ตาบลเขาลา้ น นางแสวง เสยี งเพราะ ผ้าทอก่ีกระตุก ม.4 ตาบลเขาลา้ น นางสาวนสิ านาถ มศี ักด์ิ จดั ดอกไม้ในงานพธิ ี/จกั สาน 28 ม.6 ตาบลเขาล้าน นางสาวสาเนยี ง ชสู าย กลองยาว 67/2 ม.5 ตาบลเขาล้าน นายชชั วาล เกดิ มาก อาหาร ม 4 ตาบลเขาล้าน นางชศู รี ยี่แพร ผ้าทอก่ีกระตุก ม.4 ตาบลเขาล้าน 2. แหล่งเรียนรู้ประเภทสถานท/่ี ชุมชน/กลมุ่ ทางเศรษฐกิจ/สังคม ไดแ้ ก่ ชือ่ แหล่งเรียนรู้ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ ที่ตัง้ 1.กลุ่มผ้าทอกี่กระตกุ ผลิตภัณฑ์พ้นื บ้าน ม.4 บา้ นพุตะแบก ต.เขาลา้ น 2 แหลง่ เรยี นรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกิจพอเพียง ม.6 บา้ นทุ่งกลาง ต.เขาล้าน 3 ศูนยเ์ รยี นรู้เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพยี ง ม.3 บา้ นนาล้อม ต.เขาลา้ น 3 ศนู ยเ์ รียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพยี ง ม.5 บา้ นมะเดื่อทอง ต.เขาล้าน 3.แหลง่ สนับสนุน ทุน/งบประมาณ ประเภทองค์กร ได้แก่ ภาคีเครอื ข่าย การสนบั สนนุ ที่อย่/ู ท่ตี ้ัง 1 องค์การบริหารส่วนตาบล รว่ มบูรณาในการมสี ว่ นร่วมในการ หมู่ 4 บา้ นพตุ ะแบกต. เขาล้าน เขาล้าน 2. สหกรณเ์ ครดติ พฒั นาชมุ ชน จัดกิจกรรม บ้านพตุ ะแบก กลอ้ งวงจรปิด พ.ศ.2553 หมู่ 4 บ้านพตุ ะแบกต.เขาล้าน
32 ขอ้ มูลแหลง่ เรียนรู้ดำ้ นธรรมชำติตำบลเขำล้ำน เขื่อนช่องลม ประวตั ิและควำมเป็นมำ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ภมู ิพลอดลุ ยเดชฯ ทรงมีพระกระแสรบั สัง่ กับอธิบดกี รมชลประทาน เมื่อวนั ท่ี 20 กมุ ภาพันธ์ 2520 ใหพ้ จิ ารณาจัดแหลง่ น้าเพอื่ ช่วยเหลอื ราษฎร ในเขตอาเภอทบั สะแก ซ่ึงกรม ชลประทานได้พิจารณาแลว้ เหน็ ว่า โครงการอ่างคลองช่องลม สามารถดาเนินการได้ ซึ่งพิจารณามาจาก ภมู ิศาสตรข์ องอาเภอทบั สะแก โดยเฉพาะตาบลเขาล้านท่ีอยู่ติดกบั คลองช่องลม มีความเดือดร้อนมากหน้าแล้ง ไม่มีนา้ สาหรับอุปโภค บริโภค และโดยเฉพาะในการทาการเกษตร และหนา้ ฝนก็เกิดปญั หาเร่อื งอุทกภยั นา้ ทว่ ม ดังนจ้ี งึ ดาเนนิ การกอ่ สร้างอา่ ง ฯ ชอ่ งลมข้นึ ในปีงบประมาณ 2533 และแล้วเสรจ็ ใน ปีงบประมาณ 2533 ทีต่ ้งั เขอ่ื นช่องลม ตั้งอยู่ท่หี มู่ท่ี 9 บ้านสวนสม้ ตาบลเขาล้าน อาเภอทับสะแก จงั หวัด ประจวบคีรขี ันธ์ หรอื ทีจ่ ดุ พกิ ัด 47 P – NN 580 – 784 ระวาง 4832 ตามแผนท่ีภมู ิประเทศ ลักษณะท่ัวไปของเข่ือน - เปน็ เขือ่ นดิน สงู 25 เมตร ยาว 655 หลงั ทานบดนิ กวา้ ง 8 เมตร - ความจขุ องอ่าง ทร่ี ะดับนา้ เก็บกัก 5.5 ลา้ นมลิ - มคี วามระบายนา้ ลน้ ( Spillway ) 1 แหง่ ต้ังอย่ทู างดา้ นขวาของทานบดนิ สามารถระบายน้าได้ 76 ม.3 / วินาที - มอี าคารระบายน้า ( River Outlet ) 1 แห่ง ต้งั อยู่ทางดา้ นซา้ ยขอทานบ ขนาด 0.60 เมตร - ส่วนตรงกลางของเข่ือนมเี กาะอยกู่ ลางเข่อื น - รอบ ๆ เขอื่ นครอบคลุมไปดว้ ยปา่ มะพรา้ ว ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั 1. สามารถบรรเทาอุทกภยั แกพ่ ้นื ที่ทา้ ยอ่าง ฯ รวมถงึ อาเภอทบั สะแก 2. สามารถช่วยเหลอื พ้ืนท่ีเพาะปลูกบรเิ วณใกลเ้ คยี ง ในฤดฝู นประมาณ 4,000 ไร่ ฤดแู ลง้ 1,000 ไร่ 3. ช่วยเหลือการอุปโภค – บรโิ ภค แก่ราษฎรบรเิ วณทา้ ยอา่ ง ฯ และบริเวณใกล้เคียง 4. เปน็ แหล่งเพาะพันธ์ปุ ลาและสัตวน์ ้าจดื และเปน็ ที่พักผ่อนหยอ่ นใจ
33 นำ้ ตกเขำล้ำน ประวตั คิ วำมเป็นมำ น้าตกเขาล้านเป็นน้าตกที่มีต้นกาเนิดมาจากเขาล้านที่อยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งแต่เดิมน้ันน้าตก เขาล้านเป็นแค่คลองเล็ก ๆต่อมาได้เกิดน้าป่าไหลลงมาทาให้ต้นไม้ที่ถูกตัดไว้บนป่าไหลตามน้าลงมากระแทกกับ ก้อนหินจึงทาให้คลองเล็ก ๆ กลายเป็นน้าตกจนถึงทุกวันน้ี เมื่อปี พ.ศ. 2513 มีชาวบ้านที่เข้าไปหาของป่าได้ พบเห็นนา้ ตกกไ็ ดเ้ ปดิ ใหค้ นทัว่ ไปเขา้ ชมเม่ือปลายปี พ.ศ. 2538 สถำนทต่ี ง้ั ทศิ เหนือ ติดกบั เทือกเขาตะนาวศรี ทศิ ใต้ ติดกบั หมู่ท่ี 5 บ้านมะเด่ือทอง ทิศตะวนั ออก ติดกบั หมู่ท่ี 11 บา้ นห้วยน้าทรพั ย์ ทิศตะวันตก ติดกับหมู่ที่ 9 บา้ นสวนสม้
34 เส้นทำงคมนำคม ใช้เส้นทางแยกจากถนนเพชรเกษมบริเวณถนนสายบ้านพุตะแบก – บ้านเขาล้าน ระยะทาง ประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงส่ีแยกตลาดเขาล้านเล้ียวขวา อีกประมาณ 5 กิโลเมตร ถึงน้าตกเขาล้านพื้นท่ีสองข้าง ทางเปน็ พ้ืนทีท่ ากนิ ของเกษตรกร ส่วนใหญจ่ ะเป็นสวนมะพร้าวทีอ่ ยูอ่ าศยั ของราษฎรอยใู่ นพ้ืนท่ีของตนเอง ควำมสำคัญของนำ้ ตกในกำรพฒั นำเป็นแหล่งท่องเที่ยว จากลกั ษณะธรรมชาตขิ องน้าตกซึ่งเปน็ สง่ิ ทธี่ รรมชาติได้สรา้ งสรรค์ อนั มีความงามทน่ี ่ามหัศจรรย์ ซงึ่ มี แรงดงึ ดูดต่อมนุษยท์ าใหเ้ กดิ ความสนใจ อยากรู้อยากเหน็ ใคร่ที่จะไดไ้ ปชมสมั ผัสเพ่อื ให้เกดิ ความสุขไดท้ ัง้ กายและใจ จึงนบั ได้วา่ น้าตกเปน็ แหล่งพักผ่อนทมี่ ี คุณคา่ มากอีกประการหนง่ึ ซ่งึ มศี ักยภาพทจ่ี ะพฒั นาเปน็ แหล่งทอ่ งเทยี่ วที่สาคญั ได้ โดยที่การพฒั นานัน้ ต้องกระทาตามแนวทาง และหลกั การท่ีได้ วางไว้อย่างถูกต้อง โดยมแี นวทางทสี่ อดคล้องกับวิธีการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติประเภทนา้ ตกอย่างชาญฉลาด ซ่ึงจะเปน็ การสง่ เสริม ความงามของน้าตกสภาพธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ มทสี่ วยงามให้คงอยู่เปน็ สงิ่ ดึงดูดเดินทางเข้ามาในแหลง่ ท่องเท่ียวน้ไี ดต้ ลอดไป นอกจากนยี้ ังมศี าลเจ้าแม่ทองคาทช่ี าวบ้านให้ความเคารพนับถือมาช้านาน ต้ังอยู่ระหว่างหมู่ท่ี 1 และ หมู่ท่ี 7 ของตาบลเขาล้านคนที่ประสบผลสาเร็จจากการบนบานศาลกล่าวก็จะมาแก้บน โดยการนามโนราห์มารา ถวาย เพราะเจ้าแม่ทองคาพ้ืนเพเป็นคนปัตตานี จึงโปรดปรานการ รามโนราห์มาก และได้จัดให้มีงานบวงสรวง ศาลเจ้าแม่ทองคาแห่งน้ี ในเดือน 6 ขึ้น 6 ค่า ของทุกปี ซึ่งสามารถท่ีจะเข้าไปชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในตาบล เขาลา้ นได้
35 ผลิตภัณฑ์ ที่ชาวบ้านในตาบลเขาล้านทาขึ้นมา นอกจากการแปรรูปมะพร้าวแล้วยังมีผลิตภัณฑ์ผ้า ทอก่ีกระตุก ซ่ึงเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มแม่บ้านหมู่ท่ี 4 บ้านพุตะแบก ผ้าทอที่กลุ่มแม่บ้านทาขึ้นมามีลักษณะ เด่น คือ ผ้าทอท่ีปักเป็นตัวอักษรได้ตามที่ลูกค้าต้องการ นอกจากนี้ยังมีการทอผ้าพ้ืนและผ้าขาวม้าโดยวัตถุดิบท่ี นามาใช้ในกระบวนการผลิต คือ ดา้ ยโทเรย์ และไหมประดษิ ฐ์ เมอ่ื นาผ้าทอท่ไี ดไ้ ปตัดเย็บเสื้อผ้าแล้วจะทาให้สวมใส่ สบาย สามารถเทยี่ วชม และซอ้ื ของติดไมต้ ดิ มอื กลับบ้านได้
36 แหล่งเรยี นรู้ตำบลแสงอรณุ ประเภทแหลง่ เรยี นรู้ : กำรเลีย้ งผ้ึงโพรง ประวตั ิความเป็นมาของแหลง่ เรยี นรู้ : เมื่อปี พ.ศ. 2519 ไดม้ ภี มู ปิ ัญญากลมุ่ เลยี้ งผ้งึ รนุ่ แรกของตาบลแสงอรณุ คือ กลุ่มทุ่งแสงอรุณ มี สมาชกิ ประมาณ 30 คน ได้มีการผลิตนา้ ผง้ึ ขาย ตลาดหลักๆ คอื กลว้ ยอบชบุ นา้ ผ้ึงของวรรณารตั น์ ราคาประมาณ ขวดละ 50 บาท ต่อมากล่มุ ได้มีการสลายตัว เนอื่ งจากราคาน้าผึง้ มรี าคาถกู ความนิยมยังไมม่ าก ประกอบด้วยผ้งึ ปา่ ยงั หาได้อยู่ คนจงึ ไมน่ ิยมเลีย้ งผึง้ โพรง และเม่ือปี พ.ศ. 2561 ไดม้ ีโครงการ 9102 ของเกษตร ชอ่ื ว่า โครงการ เสริมสร้างรายได้เกษตรกรรายยอ่ ย ของตาบลแสงอรณุ จึงได้มกี ารรวมกลุ่มกนั อีกคร้งั โดยนาภมู ิปัญญาด้านการเล้ียง ผ้ึงโพรงกลับมาใช้ โดยมีการใหค้ วามรแู้ ก่คนในชมุ ชน และผทู้ ่ีสนใจศกึ ษา จงึ เกิดแหลง่ เรียนรู้การเลย้ี งผง้ึ โพรงน้ีข้ึน สถานที่ ทีต่ ง้ั (พิกดั ) ของแหล่งเรยี นรู้ : ม.5 บ้านหินเทนิ ต.แสงอรณุ อ.ทบั สะแก จ.ประจวบครี ีขันธ์ 11.567015, 99.607761 ส่ือประกอบ : ใบความรู้ แผ่นพับ
37 ประเภทแหล่งเรียนรู้ : กำรทำน้ำตำลมะพร้ำว ประวัติความเป็นมาของแหล่งเรียนรู้ : การทาน้าตาลมะพรา้ วในตาบลแสงอรณุ เกดิ ข้ึนเมื่อ พ.ศ.2515 เปน็ ตน้ มา เนือ่ งจากชาวบ้านในพ้ืนท่ี ตาบลแสงอรณุ มีภลู าเนาเดิมมาจากแม่กลอง จ.สมทุ รสงคราม ซงึ่ มภี มู ปิ ัญญาด้านการทาน้าตาลมะพร้าวอยู่แล้วในแรก ๆ หม่บู า้ นหินเทินมคี นทาน้าตาลมะพรา้ วประมาณ 30 ราย และปัจจุบันลดเหลือ 5 ราย โดยนายสายันต์ ถ้วยทอง ซึ่ง เปน็ เจา้ ของแหล่งเรียนรู้การทานา้ ตาลมะพร้าวของหม่บู า้ นหินเทนิ นี้ เดมิ ทที าแต่รุ่นพ่อจนมาถึงรุ่นนายสายันต์ ซึ่งพันธ์ุ มะพร้าวท่ีนามาทาน้าตาลมะพร้าวนั้นได้นาพันธ์ุมาจากแม่กลอง เพราะเป็นพันธุ์ที่ทาน้าตาลโดยเฉพาะ ซ่ึงให้ผลผลิต มากกกว่าพันธ์ุพื้นเมือง และแหล่งเรียนรู้การทาน้าตาลมะพร้าวแห่งนี้ เป็นที่สนใจของประชาชนและนักศึกษา มีการ มาศึกษาดงู านเปน็ ประจาถึงจนปจั จบุ นั น้ี สถานท่ี ทต่ี ง้ั (พิกดั ) ของแหลง่ เรยี นรู้ : ม.5 บ้านหินเทนิ ต.แสงอรุณ อ.ทบั สะแก จ.ประจวบคีรขี นั ธ์11.572554, 99.602611 สอ่ื ประกอบ :ใบความรู้ แผ่นพบั
38 ประเภทแหลง่ เรียนรู้ : กำรทำผลติ ภณั ฑจ์ ำกกะลำมะพรำ้ ว ประวตั ิความเป็นมาของแหล่งเรยี นรู้ : อาชีพสว่ นใหญ่ของตาบลแสงอรณุ คอื เกษตรกร ทาสวนปลูกมะพร้าว ซ่ึงมะพร้าว ทับสะแกถือ วา่ เปน็ พืชพรรณล้าคา่ เป็นพืชทีค่ ู่ครวั คนทับสะแก มชี ่ือเสียงมานานตงั้ แต่อดตี จนถึงปจั จบุ ัน มกี ารปลูกสืบทอดกันมา ยาวนาน มะพร้าวถือว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมาก ทุกส่วนสามารถนามาใช้ประโยชน์ได้ทั้งส้ิน ไม่ว่าจะเป็นลาต้น ผล กา้ น ใบ เปลือก และกะลามะพร้าว ตาบลแสงอรุณได้มีภูมิปัญญา คือนายตุ้ม สืบมี ซึ่งเป็นภูมิปัญญาเก่ียวกับการทา ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวมีการนากะลามะพร้าวมาขัดและออกแบบตามท่ีต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเคร่ืองใช้ใน ครวั เรือน เครื่องประดบั ตกแต่งและอ่ืน ๆ อีกมากมาย แหล่งเรียนรู้แห่งน้ีเป็นท่ีสนใจแก่ประชาชนทั้งในพ้ืนที่และนอก พื้นที่เป็นอย่างมาก เพราะเป็นสร้างนาส่ิงท่ีมีในชุมชนมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังสร้าง มลู ค่าเพิ่มข้นึ สรา้ งรายได้ให้แกค่ รอบครัวอีกด้วย สถานท่ี ที่ต้งั (พิกดั ) ของแหล่งเรยี นรู้ : ทตี่ ้งั ม.1 บ้านไร่ใน ต.แสงอรณุ อ.ทับสะแก จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ 7713011.597152, 99.631523 ส่ือประกอบ : ใบความรู้ แผ่นพับ
39 แหลง่ เรยี นรู้ตำบลห้วยยำง แหล่งเรียนรู้ประเภทสถำนท่ี/ชมุ ชน/กลุ่มทำงเศรษฐกจิ /สงั คม ไดแ้ ก่ ช่อื แหล่งเรียนรู้ ประเภทแหล่งเรยี นรู้ ท่ีต้ัง แหล่งเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียงบา้ น การปลกู พชื ผสมผสาน เกษตร หมู่ 10 บ้านหัวเขา ตาบลหว้ ยยาง หวั เขา อนิ ทรยี ์ ผกั ปลอดสารพิษ อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบคีรขี ันธ์ อทุ ยานแห่งชาตหิ าดวนกร ศกึ ษาแห่งธรรมชาติ หม7ู่ บา้ นชายทะเล อทุ ยานแห่งชาตนิ ้าตกหว้ ยยาง ศกึ ษาแหง่ ธรรมชาติ ตาบลหว้ ยยาง อาเภอทับสะแก วัดสมทุ รทาราม ศึกษาทางศาสนา จ.ประจวบครี ีขันธ์ วัดประชาสนธิ (วดั นา้ ตกหว้ ยยาง) ศึกษาทางศาสนา หม่1ู 1 ตาบลหว้ ยยาง อาเภอทับสะแก แหลง่ เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพยี ง การปลูกพชื ผสมผสาน เกษตร จ.ประจวบครี ีขนั ธ์ บา้ นหัวเขา อินทรีย์ ผกั ปลอดสารพษิ หมู่7 บ้านชายทะเล ตาบลห้วยยาง อาเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรขี ันธ์ หม1ู่ 1 ตาบลหว้ ยยาง อาเภอทบั สะแก จ.ประจวบครี ีขันธ์ หมู่ 10 บ้านหวั เขา ตาบลห้วยยาง อาเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์
40 นำ้ ตกหว้ ยยำง (Namtok Huai Yang) ที่ตงั้ และแผนท่ี สถำนท่ีติดต่อ : อุทยานแห่งชาตนิ ้าตกหว้ ยยาง ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบครี ขี นั ธ์ 77130 โทรศัพท์ : 084 701 2795, 098 312 6808 E-mail : [email protected] อัตรำค่ำบรกิ ำรเข้ำอทุ ยำนแหง่ ชำติ ชาวไทย : ผใู้ หญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวตา่ งชาติ : ผใู้ หญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท อตั รำคำ่ บรกิ ำรสำหรบั ยำนพำหนะ : คลกิ **หมายเหตุ เมื่อชาระคา่ บริการเข้าอุทยานแห่งชาติแลว้ กรุณาพกบัตรคา่ บริการติดตวั ขณะท่องเท่ยี วในอทุ ยาน แหง่ ชาติเพื่อการตรวจสอบ รา้ นค้าสวสั ดกิ าร มรี า้ นอาหาร เปิดบริการเวลา 08.00 - 16.30 น. สญั ญำณโทรศพั ทใ์ นพื้นท่ี 1. บรเิ วณทที่ าการอทุ ยานแหง่ ชาติ : AIS, TRUE 2. บรเิ วณนา้ ตกเขาลา้ น : AIS, TRUE 3. บรเิ วณนา้ ตกขาออ่ น : AIS อุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยาง มีพื้นท่ีครอบคลุมท้องที่อาเภอบางสะพาน อาเภอทับสะแก และอาเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในส่วนที่แคบที่สุดของประเทศ ซ่ึงได้รวมจุดเด่นรอบๆ วนอุทยานน้าตกห้วยยางผนวกเข้า ด้วยกัน ซ่ึงได้แก่ น้าตกที่สวยงามหลายแห่ง ตลอดจนมีสัตว์ป่านานาชนิด เป็นอุทยานแห่งชาติที่พร้อมด้วยป่าเขา น้าตก ชายหาด รวมมี เน้ือท่ีประมาณ 100,625 ไร่ หรือ 161 ตารางกิโลเมตร ในปี 2530 กรมป่าไม้ได้รับแจ้งจาก สานักงานป่าไม้เขตเพชรบุรีตามหนังสือ ท่ี กษ 0714 (พบ)/825 ลงวันท่ี 14 พฤษภาคม 2530 แจ้งว่า ได้รับหนังสือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ ปจ 0009/940 ลงวันท่ี 16 มกราคม 2530 ส่ง รายงานการตรวจดูแลป่าสงวนแห่งชาติของ สานักงานป่าไม้อาเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ว่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับสะแก มีน้าตกท่ีสวยงาม 2 แห่ง สมควรจัดตั้งเป็นวนอุทยาน สานักงานป่าไม้เขตเพชรบุรีจึงได้ให้เจ้าหน้าท่ีหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปจ.3 (ทับ สะแก) ออกไปสารวจข้อมลู รายละเอียดแล้ว ปรากฏวา่ พื้นท่ดี ังกล่าวมนี ้าตกขาออ่ น (ทับมอญ) และน้าตกห้วยหินดาด เหมาะสมจัดต้ังเป็นวนอุทยานเพื่อรักษาสภาพป่าไม้และต้นน้าลาธารอันสวยงามนี้ไว้ ซ่ึง นายธามรงค์ ประกอบบุญ ผู้อานวยการกองอุทยานแห่งชาติ ได้มีบันทึกลงวันท่ี 28 พฤษภาคม 2530 เสนอกรมป่าไม้เห็นควรจัดต้ังเป็นอุทยาน แห่งชาติ เพ่ือค้มุ ครองรักษาตน้ นา้ ลาธารนีไ้ ว้
41 กองอุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือท่ี กษ 0713/1673 ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2530 ให้ นายสินธุ์ มะลิวัลย์ เจ้าหน้าท่ีป่าไม้ 4 หัวหน้าวนอทุ ยานนา้ ตกห้วยยาง ทาการสารวจเบื้องต้นบรเิ วณน้าตกทั้ง 2 แหง่ ผลการสารวจตามหนังสือวนอุทยาน น้าตกห้วยยาง ท่ี กษ 0713(หย)/161 ลงวันที่ 14 กันยายน 2530 เห็นควรผนวกป่าและน้าตกท้ัง 2 แห่ง เข้ากับวน อุทยานน้าตกห้วยยาง จัดตัง้ เป็นอทุ ยานแห่งชาติ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ ยืนนานต่อไป ต่อมากอง อุทยานแห่งชาติได้มีหนังสือท่ี กษ0713/2613 ลงวันท่ี 8 กรกฎาคม 2531 ให้ วนอุทยานน้าตกห้วยยางสารวจพ้ืนท่ี หาดวนกรเพื่อผนวกเป็นอุทยานแห่งชาติด้วย ตามคาแนะนาของ นายกษม รัตนไชย ผู้ช่วยป่าไม้เขตเพชรบุรี ผลการ สารวจตามหนังสือวนอุทยานท่ี กษ 0713(หย)/148 ลงวันท่ี 29 พฤศจิกายน 2531 เห็นควรผนวกป่าวังด้วนและป่า หว้ ยยาง (หาดวนกร) เขา้ กับพนื้ ที่ทั้งหมดจดั ตง้ั เปน็ อุทยานแห่งชาตเิ ชน่ กนั จากการไปตรวจราชการในท้องที่สานักงาน ป่าไม้เขตเพชรบุรีของ นายยุกติ สาริกะภูติ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมป่าไม้ ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2531 - 2 มกราคม 2532 ได้สั่งการให้รวมพ้ืนท่ีบริเวณหาดวนกรเข้าเป็นอุทยานแห่งชาติ และในการประชุมผู้อานวยการกองในสังกัดกรมป่าไม้ เม่ือวันท่ี 5 มกราคม 2532 ได้พิจารณาให้ผนวกพื้นท่ีป่าห้วย ยางและสวนปา่ หว้ ยยาง (พืน้ ท่ีตดิ ต่อกบั หาดวนกร) กองอุทยานแห่งชาติจึงได้ดาเนินการผนวกบริเวณพื้นที่ป่าน้าตกขาอ่อน น้าตกห้วยหินดาษ และวนอุทยาน น้าตกห้วยยางในป่าทับสะแก ท้องท่ีตาบลธงไชย อาเภอบางสะพาน ตาบลอ่างทอง อาเภอทับสะแก จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ และป่าวังด้วน ป่าห้วยยาง ท้องที่ตาบลห้วยทราย อาเภอเมือง และตาบลห้วยยาง อาเภอทับสะแก จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ รวมเน้อื ที่ ทัง้ หมดประมาณ 124,300 ไร่ หรือ 198.88 ตารางกิโลเมตร (ท้ังนี้รวมท่ีเป็นพื้นน้า ด้วย 15.36 ตารางกิโลเมตร) ให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ต่อมากอง อุทยานแห่งชาติมีความเห็นว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยางซึ่งมีบริเวณน้าตกขาอ่อน น้าตกห้วยหินดาษ และ วนอุทยานน้าตกห้วยยางมพี ้ืนทีเ่ ช่ือมติดต่อกันโดยตลอด ส่วนบริเวณป่าวังด้วนและป่าห้วยยาง (หาดวนกร) มีพ้ืนท่ีไม่ ติดต่อกัน เพื่อความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ในการดูแลรักษาและควบคุม จึงให้แยกเป็น 2 อุทยานแห่งชาติ คืออุทยาน แหง่ ชาติน้าตกหว้ ยยาง และอุทยานแห่งชาติหาดวนกร เพื่อคุ้มครองรักษาต้นน้าลาธารไว้และอนุรักษ์ทรัพยากรให้ยืน นานต่อไป ปัจจุบันอุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยาง ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตามพระราชบัญญัติ อุทยานแหง่ ชาติ พ.ศ. 2504 แลว้ ประกอบดว้ ยพน้ื ทที่ ั้งหมด 100,625 ไร่ โดยได้ตราพระราชกฤษฎีกากาหนดท่ีดินป่า ทับสะแก ในทอ้ งที่ตาบลหว้ ยยาง ตาบลเขาล้าน ตาบลแสงอรุณ ตาบล นาหูกวาง ตาบลอ่างทอง อาเภอทับสะแก และตาบลชยั เกษม อาเภอบางสะพาน จังหวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 108 ตอนที่ 215 ลง วนั ที่ 8 ธนั วาคม 2534 เป็นอุทยานแหง่ ชาตลิ าดับท่ี 70 ของประเทศไทย ภาพแผนที่
42 ขนำดพ้ืนที่ 100625.00 ไร่ หน่วยงำนในพืน้ ท่ี ทท่ี าการอทุ ยานแหง่ ชาตนิ า้ ตกหว้ ยยาง หน่วยพิทกั ษ์อุทยานแหง่ ชาติที่ หย.1 (เขาลา้ น) หนว่ ยพิทกั ษ์อทุ ยานแหง่ ชาติที่ หย.2 (ขาอ่อน) ลกั ษณะภมู ิประเทศ อุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยางประกอบด้วยเทือกเขาสูงติดต่อกัน มีพ้ืนที่อยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ส่วนใหญ่ จะเป็นเนินเขาสูงจากระดับน้าทะเลประมาณ 100-1,200 เมตร โดยมียอดเขาหลวงเป็นยอดเขาท่ีสูงที่สุด เป็น แหล่งกาเนิดต้นน้าที่เกิดจากสันเขากั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า ได้แก่ คลองอ่างทอง คลองแก่ง คลองทับสะแก คลองจะกระ คลองไข่เน่า คลองตาเกล็ด คลอง ห้วยยาง คลองห้วยมา และคลองหินจวง ลักษณะดินเป็นดินร่วนปนทราย และหินเป็นหินแกรนิตและหินลูกรัง ส่วนด้านทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ราบและ ชายทะเลอ่าวไทย อาณาเขตติดต่อด้านทิศเหนือ:อาเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาณาเขตติดต่อด้านทิศใต้:บ้าน หนองหอย และบ้านเขามัน อาเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาณาเขตติดต่อด้านทิศตะวันออก:ทะเลอ่าว ไทย เขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อาณาเขตตดิ ตอ่ ดา้ นทิศตะวนั ตก: อาเภอปกเป้ียน สหภาพเมียรม่า ลกั ษณะภูมิอำกำศ พ้ืนที่อุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยางตั้งอยู่ในเขตภาคใต้ของประเทศไทย และมีพื้นท่ีอยู่ใกล้ทะเล ลักษณะใน แต่ละฤดูกาลจึงไม่แตกต่างกันมากนัก สภาพภูมิอากาศแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล คือ ฤดูฝน เริ่มต้นเดือนพฤษภาคมถึง กลางเดือนตลุ าคม เปน็ ช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใตพ้ ดั ปกคลุมประเทศไทย และยังมีร่องความกดอากาศต่าพัดผ่าน ภาคใตเ้ ป็นระยะๆ ตอ่ จากน้ันถงึ เดือนพฤศจกิ ายนซง่ึ เปน็ ระยะแรกที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศ ไทย ทาให้ยังคงมีฝนตกชุกต่อเนื่องจนถึงเดือนธันวาคม ปริมาณน้าฝนเฉลี่ยตลอดปีมากกว่า 1,100 มิลลิเมตร ฤดู หนาว เร่ิมตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ซ่ึงเป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทย ทาให้อุณหภูมิลดลงท่ัวไป และมีอากาศหนาวเย็นเป็นคร้ังคราว โดยอุณหภูมิจะลดลงต่าสุดในเดือนธันวาคมและ มกราคม แต่เน่ืองจากพ้ืนท่ีอุทยานแห่งชาติอยู่ด้านซ้ายฝ่ังตะวันออกของภาคใต้ อุณหภูมิจึงลดลงเพียงเล็กน้อย อุณหภูมิเฉลี่ยต่าสุดในเดือนมกราคม 20 อาศาเซลเซียส ฤดูร้อน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเปลี่ยนฤดู ระยะน้ีเป็นช่องว่างของลมมรสุมหลังจากส้ินฤดูมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะเร่ิมสูงข้ึน อากาศจะเริ่มร้อนโดยเฉพาะในเดือนมีมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดในเดือนเมษายนประมาณ 29 อาศาเซลเซยี ส อุณหภมู ิเฉล่ียตลอดปี 27 อาศาเซลเซยี ส พืชพรรณและสัตว์ป่า ประเภทของป่าท่ีพบในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยางประกอบด้วย ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบเขา และป่า ดิบแล้ง มีพันธ์ุไม้จาพวก ตะเคียน เสลา ตะแบก ยาง ยูง ยมหอม ยมป่า ขนาน ไข่เน่า ไทร พืชพ้ืนล่างเป็นไผ่ชนิด ต่างๆ พื้นท่ีอุทยานแห่งชาติน้าตกห้วยยางซึ่งเป็นภูเขาลาดชันเป็นเนินเขาสูงติดต่อกัน มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ ท่ัวไป ได้แก่ ช้างป่า หมีควาย หมีหมา เลียงผา เสือดา ค่าง ชะนี ลิงกัง หมูป่า เม่น เก้ง กระรอก ค้างคาว และนก
43 นานาชนิด ได้แก่ ไก่ป่า ไก่ฟ้า นกกาฮัง นกเขาเปล้า นกขุนทอง นกปรอด ฯลฯ นอกจากนี้บนยอดเขาหลวงยังมีปูเจ้า ฟา้ ( Phricotelphrsa sirinthorn ) กำรเดินทำง รถยนต์ จากกรุงเทพฯ โดยทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ถึงหลกั กโิ ลเมตรท่ี 350-351 บริเวณตลาดห้วยยาง (ก่อนถงึ อาเภอทับสะแกประมาณ 20 กโิ ลเมตร) แลว้ เล้ยี วขวาไปตามถน
44 5.ขอ้ มูลควำมต้องกำร กำรเรยี นรู้ของคนในชุมชน
45 ขอ้ มลู ควำมตอ้ งกำร กำรเรียนรขู้ องคนในชมุ ชนโดยภำพรวม 1. ประชาชนในพ้นื ที่มีความตอ้ งการด้านสาธารณูปโภค เชน่ น้าไมเ่ พียงพอในฤดูแล้งตอ้ งการ ขยายระบบนา้ ไฟส่องขา้ งทาง เนื่องจากไฟส่องสว่างไม่เพยี งพอ ตอ้ งการกล้องวงจรปดิ เพื่อความปลอดภัย ในชวี ติ และทรพั ยส์ ิน 2. ไม่มนี า้ ใชใ้ นการเกษตร ไม่มีแหลง่ นา้ ขนาดใหญ่ท่ีเพียงพอ 3. มปี ัญหายาเสพติดในพื้นที่ แนวทางแกไ้ ขต้องการสร้างภูมิคมุ้ กันคอื ชว่ ยกนั สอดส่องดแู ลใน หมบู่ า้ น 4. ทรพั ยากรป่าไมถ้ กู ทาลายตอ้ งการพนั ธ์ุไมป้ ลูกซ่อมแซมปา่ 5. รายไดไ้ มเ่ พียงพอในการครองชพี เน่อื งจากตกงาน 6. โครงการส่งเสริมการฝึกอาชีพเพื่อสร้างรายไดแ้ ก่ประชาชน 7. ความปลอดภยั ในด้านดูแลรักษาสขุ ภาพจากโรคต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดโรคโควดิ -19 ในชมุ ชน
46 ภำคผนวก
47 คณะผจู้ ัดทำ ทปี่ รกึ ษำ นางมณีรัตน์ อัจฉริยพนั ธกุล ผอู้ านวยการกศน.อาเภอทับสะแก คณะผู้จดั ทำ ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรยี น นางสุมติ รา สขุ อวบอ่อง รวบรวม/เรยี บเรียง ครอู าสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน นางสมุ ิตรา สขุ อวบอ่อง ออกแบบปกรูปเล่มและพิมพ์ นางสมุ ติ รา สขุ อวบอ่อง บรรณำธิกำร 1. นายสุรพงษ์ อนันตธ์ นสาร 2. นางสาวภิชชากร ชูรัตน์
Search