ความรู้หลกั การนวัตกรรม และ เทคโนโลยีการศกึ ษา ในศตวรรษท่ี 21
ความรเู้ บื้องต้นเกย่ี วกับเทคโนโลยกี ารศึกษา ความหมายของเทคโนโลยีการศึกษา เทคโนโลยกี ารศึกษา หมายถงึ การนาเอาหลักแนวคดิ วธิ ีการตา่ ง ๆ ท่ตี ้งั อยู่บน พ้นื ฐานทางวิทยาศาตร์ มาประยุกต์ใชใ้ หก้ บั กระบวนการการจัดการศึกษา องค์ประกอบของเทคโนโลยที างการศึกษา 1. บคุ ลากร เป็นองค์ประกอบที่สาคญั มากเพราะบคุ ลากรเปน็ ผ้ทู ่ีดาเนนิ งานใน กระบวนการเทคโนโลยกี ารศึกษาท้งั หมด
ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกับเทคโนโลยีการศกึ ษา ความหมายของเทคโนโลยกี ารศกึ ษา เทคโนโลยีการศึกษา หมายถึง การนาเอาหลักแนวคดิ วิธกี ารต่าง ๆ ทต่ี ั้งอย่บู น พน้ื ฐานทางวทิ ยาศาสตร์ มาประยกุ ต์ใชใ้ หก้ บั กระบวนการการจัดการศกึ ษา องค์ประกอบของเทคโนโลยีทางการศึกษา 1. บคุ ลากร เป็นองคป์ ระกอบทีส่ าคญั มากเพราะบุคลากรเป็นผู้ท่ดี าเนินงานใน กระบวนการเทคโนโลยีการศึกษาท้ังหมด
ความรเู้ บอ้ื งต้นเก่ยี วกบั เทคโนโลยีการศึกษา องคป์ ระกอบของเทคโนโลยที างการศึกษา (ตอ่ ) 2. การเรยี นรู้ 2.1 วัสดุ คือ อปุ กรณห์ รือเคร่อื งมอื ที่นามาเป็นองค์ประกอบในกระบวนการสืบคน้ 2.2 เคร่อื งกลไก คอื กระบวนการในการทางาน การสบื ค้นหาข้อมูลในการเรยี นรู้ตามข้ัน ท่ไี ด้มีการวางแผน 2.3 เทคนิค คือ ในการเรยี นรู้ การทางานตามกระบวนการต่าง ๆ ตอ้ งมีเทคนิคในการ ทางาน 2.4 อาคารสถานท่ี คือ องคป์ ระกอบหนึง่ ท่ขี าดไมไ่ ด้ของเทคโนโลยีทางการศกึ ษา 2.5 เน้อื หาวิชา คือ ผูเ้ รยี นต้องมีความเขา้ ใจในเนือ้ หา
ความรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกบั เทคโนโลยกี ารศกึ ษา องค์ประกอบของเทคโนโลยีทางการศกึ ษา (ตอ่ ) 3. การพัฒนาแหล่งการเรยี นรู้ คอื การปรับปรุงหรือการเปล่ยี นแปลงแหล่งการเรยี นรใู้ ห้ดี ข้ึน และมปี ระสิทธิภาพมากยง่ิ ขน้ึ กว่าเดมิ 3.1 การวจิ ัย คอื การคน้ คว้าหาข้อมูล กระบวนการในการศกึ ษาอย่างมหี ลักการ เพือ่ ให้ ไดค้ วามรู้เป็นจริง 3.2 การออกแบบ คอื การคดิ คน้ 3.3 การผลติ คอื การคิด สรา้ งสรรค์ ผลงาน 3.4 การประเมิน คือ การหาขอ้ สรุป 3.5 การใหค้ วามช่วยเหลอื คือ การชว่ ยเหลือในรปู แบบต่าง ๆ 3.6 การใช้ คอื การนาเอากระบวนการ การผลติ และการพฒั นา 4. การจัดการ คือ การวางแผน ควบคมุ จดั การสอื่ ให้เป็นแบบแผน วิธกี าร กระบวนการ นาเทคโนโลยที างการศึกษา
ความรเู้ บือ้ งตน้ เกย่ี วกับเทคโนโลยกี ารศกึ ษา เป้าหมายของเทคโนโลยกี ารศึกษา 1. การขยายพิสยั ของทรพั ยากรของการเรียนรู้ กลา่ วคอื แหล่งทรพั ยากรการเรยี นรู้ มิไดห้ มายถึงแต่ เพยี งตารา ครู และอปุ กรณ์การสอน ท่โี รงเรยี นมอี ยเู่ ท่าน้นั แนวคดิ ทางเทคโนโลยที างการศึกษา ต้องการใหผ้ ้เู รียนมีโอกาสเรยี นจากแหลง่ ความรทู้ ก่ี วา้ งขวางออกไปอีก แหล่งทรพั ยากรการเรียนรู้ ครอบคลุมถงึ เร่อื งตา่ งๆ เชน่ 1.1 คน คนเป็นแหลง่ ทรัพยากรการเรียนรู้ทส่ี าคัญซง่ึ ไดแ้ ก่ ครู และวิทยากรอืน่ ซึ่งอย่นู อก โรงเรียน เชน่ เกษตรกร ตารวจ บรุ ุษไปรษณยี ์ เป็นต้น
ความร้เู บอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั เทคโนโลยกี ารศึกษา เปา้ หมายของเทคโนโลยกี ารศึกษา (ต่อ) 1.2 วสั ดแุ ละเคร่อื งมือ ได้แก่ โสตทศั นวสั ดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ วิทยุ โทรทศั น์ เครอื่ งวดิ โี อเทป ของจริงของจาลองสง่ิ พมิ พ์ รวมไปถึงการใช้ส่ือมวลชนต่างๆ 1.3 เทคนิค-วธิ ีการ แต่เดมิ นั้นการเรยี นการสอนส่วนมาก ใช้วิธใี หค้ รูเป็นคนบอกเน้อื หา แก่ผู้เรียนปัจจบุ ันนัน้ เปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นได้ศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเองไดม้ ากทีส่ ดุ ครู เปน็ เพยี ง ผวู้ างแผนแนะแนวทางเท่านัน้ 1.4 สถานที่ อันได้แก่ โรงเรยี น หอ้ งปฏบิ ตั ิการทดลอง โรงฝกึ งาน ไรน่ า ฟาร์ม ท่ที าการ รัฐบาล ภเู ขา แม่นา้ ทะเล หรอื สถานทใี่ ด ๆ ที่ชว่ ยเพ่มิ ประสบการณ์ทดี่ ีแกผ่ ูเ้ รยี นได้
ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกับเทคโนโลยกี ารศึกษา เป้าหมายของเทคโนโลยีการศึกษา (ต่อ) 2. การเน้นการเรียนร้แู บบเอกตั บุคคล ถึงแม้นกั เรยี นจะลน้ ชั้น และกระจัดกระจาย ยากแก่ การจดั การศกึ ษาตามความแตกต่างระหว่างบุคคลได้ นกั การศกึ ษาและนักจิตวทิ ยาได้พยายามคดิ หาวิธนี าเอาระบบการเรยี นแบบตัวต่อตัวมาใช้ แตแ่ ทนที่จะใชค้ รสู อนนกั เรยี นทีละคน เขากค็ ิด ‘แบบเรียนโปรแกรม’ ซ่งึ ทาหนา้ ทสี่ อน ซงึ่ เหมอื นกบั ครูมาสอน นักเรียนจะเรียนด้วยตนเอง จาก แบบเรยี นดว้ ยตนเองในรปู แบบเรยี นเป็นเล่ม หรอื เครื่องสอนหรอื สื่อประสมหลายๆ อยา่ ง จะเรยี น ช้าหรอื เร็วก็ทาไดต้ ามความสามารถของผเู้ รยี นแตล่ ะคน
ความรเู้ บือ้ งต้นเกีย่ วกบั เทคโนโลยีการศกึ ษา เปา้ หมายของเทคโนโลยีการศึกษา (ต่อ) 3. การใช้วธิ ีวิเคราะหร์ ะบบในการศึกษา การใช้วิธีระบบ ในการปฏิบตั ิหรือแก้ปัญหา เป็น วธิ กี ารที่เป็นวิทยาศาสตร์ ทีเ่ ช่อื ถอื ไดว้ า่ จะสามารถแกป้ ัญหา หรอื ชว่ ยให้งานบรรลุเป้าหมายได้ เนอ่ื งจากกระบวนการของวิธรี ะบบ เป็นการวเิ คราะห์องค์ประกอบของงานหรอื ของระบบ อยา่ งมี เหตุผล หาทางให้สว่ นต่าง ๆ ของระบบทางาน ประสานสัมพันธ์กนั อย่างมปี ระสิทธิภาพ 4. พฒั นาเคร่อื งมือ-วัสดอุ ุปกรณท์ างการศกึ ษา วัสดแุ ละเครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ ที่ใชใ้ นการศึกษา หรือการเรียนการสอนปจั จบุ ันจะต้องมกี ารพฒั นา ให้มีศกั ยภาพ หรือขีดความสามารถในการทางาน ให้สูงยิ่งขึน้ ไปอกี
ความสัมพันธร์ ะหวา่ งเทคโนโลยีกบั นวัตกรรม คาว่า นวัตกรรม เป็นคาทีใ่ ช้ควบคู่กบั เทคโนโลยี เสมอๆ ในภาษาอังกฤษใชค้ าว่า Innotech ความจรงิ แล้วนวัตกรรมและเทคโนโลยนี น้ั มคี วามสัมพันธก์ ันอย่างใกลช้ ิดเนื่องจาก นวัตกรรมเปน็ เรือ่ งของการคดิ ค้นหรือการกระทาใหม่ ๆเพื่อใหเ้ กดิ การเปลยี่ นแปลงในทางท่ีดขี ้ึนซึง่ อาจจะอยใู่ นขนั้ ของการเสนอความคิดหรือในข้ันของการทดลองอยกู่ ็ได้ ยังไมเ่ ป็นท่คี นุ้ เคยของสงั คม ส่วนเทคโนโลยีนัน้ มุ่งไปทกี่ ารนาส่งิ ต่าง ๆรวมทงั้ วิธกี ารเข้ามาประยกุ ตใ์ ช้กับการทางาน หรอื แกป้ ัญหาใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากที่สุด ถา้ หากพจิ ารณาว่านวัตกรรมหรือส่งิ ท่ีเกดิ ขึ้นใหม่น้นี ่าจะ นามาใช้ การนาเอานวตั กรรมเข้ามาใชน้ ี้ ก็จัดได้วา่ เปน็ เทคโนโลยดี ้วย และในการใช้เทคโนโลยีน้ีถ้า เราทาให้เกิดวิธีการหรือสิง่ ใหม่ ๆ ขึ้น สง่ิ นัน้ ก็เรยี กวา่ เป็นนวตั กรรม เราจงึ มักเห็นคา นวัตกรรมและ เทคโนโลยี อยู่ควบคกู่ ันเสมอ
ขอบขา่ ยของเทคโนโลยีการศึกษา ขอบข่ายเทคโนโลยกี ารศกึ ษา 1. แนวคดิ ของสมาคมสื่อสารและเทคโนโลยกี ารศกึ ษาแห่งสหรฐั อเมรกิ า (Association for Educational Communications and Technology: AECT, 1994) ไดแ้ บ่งขอบข่ายเทคโนโลยีการศกึ ษาตาม Seels anตd Richey ไดศ้ ึกษาไว้
ขอบข่ายของเทคโนโลยีการศกึ ษา ขอบขา่ ยเทคโนโลยกี ารศกึ ษา (ตอ่ ) ประกอบด้วย 5 ขอบข่ายใหญแ่ ละแต่ละขอบข่ายแยกเปน็ 4 ขอบขา่ ยยอ่ ย รวมเป็น ขอบขา่ ยย่อยท้ังหมด 20 ขอบขา่ ย ดังนี้ 1.1 การออกแบบ (design) คอื กระบวนการในการกาหนดสภาพของการเรียนรู้ 1.1.1 การออกแบบระบบการสอน (instructional systems design) 1.1.2 ออกแบบสาร (message design) 1.1.3 กลยุทธก์ ารสอน (instructional strategies) 1.1.4 ลักษณะผ้เู รียน (learner characteristics)
ขอบขา่ ยของเทคโนโลยีการศกึ ษา ขอบข่ายเทคโนโลยีการศกึ ษา (ต่อ) 1.2 การพฒั นา (development) 1.2.1 เทคโนโลยีสิง่ พิมพ์ (print technologies) 1.2.2 เทคโนโลยโี สตทัศนูปกรณ์ (audiovisual technologies) 1.2.3 เทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ (computer – based technologies) 1.2.4 เทคโนโลยบี รู ณาการ (integrated technologies)
ขอบข่ายของเทคโนโลยีการศกึ ษา ขอบข่ายเทคโนโลยกี ารศกึ ษา (ต่อ) 1.3 การใช้ (utilization) 1.3.1 การใชส้ อ่ื (media utilization) 1.3.2 การแพรก่ ระจายนวตั กรรม (diffusion of innovations) 1.3.3 วธิ กี ารนาไปใช้ และการจัดการ (implementation and institutionalization) 1.3.4 นโยบาย หลักการและกฎระเบยี บขอ้ บงั คับ (policies and regulations)
ขอบข่ายของเทคโนโลยีการศกึ ษา ขอบข่ายเทคโนโลยีการศึกษา (ตอ่ ) 1.4 การจดั การ (management) 1.4.1 การจัดการโครงการ (project management) 1.4.2 การจัดการแหล่งทรพั ยากร (resource management) 1.4.3 การจดั การระบบสง่ ถ่าย (delivery system management) 1.4.5 การจัดการสารสนเทศ (information management)
ขอบขา่ ยของเทคโนโลยกี ารศึกษา ขอบขา่ ยเทคโนโลยีการศกึ ษา (ต่อ) 1.5 การประเมิน (evaluation) 1.5.1 การวิเคราะห์ปญั หา (problem analysis) 1.5.2 เกณฑก์ ารประเมนิ (criterion – reference measurement) 1.5.3 การประเมินความกา้ วหน้า (formative evaluation) 1.5.4 การประเมนิ ผลสรุป (summative evaluation)
การจัดประเภทและประโยชนข์ องเทคโนโลยีการศึกษา การจดั ประเภทของเทคโนโลยีการศกึ ษา ประเภทของเทคโนโลยที างการศกึ ษา แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. วัสดุอปุ กรณ์ (Hardware) เช่น ชอลค์ ดินสอ กระดาษ ฟลิ ์ม ภาพยนตร์ วดิ ทิ ศั น์ สไลด์ เคร่อื งฉายข้ามศรีษะ คอมพวิ เตอร์ เครื่องบนั ทกึ เสยี ง 2. นวตั กรรมท่เี ปน็ เครอื่ งมือ เช่น ชุดฝกึ อบรมด้วยตนเอง
การจัดประเภทและประโยชนข์ องเทคโนโลยกี ารศึกษา ประเภทของเทคโนโลยที างการศึกษา (ต่อ) 3. นวัตกรรมและเทคโนโลยีทเี่ ปน็ วธิ ีการ เช่น การสอนแบบตา่ ง แบบเรียน สาเรจ็ รปู RIT - เครอ่ื งมือ (Hardware) ซงึ่ เป็นผลผลติ ทีเ่ กดิ จากการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ และอุตสาหกรรม เปน็ เคร่อื งมือทจี่ ะนาเสนอเนื้อหาสาระ หรอื เปน็ เครอ่ื งมือท่ชี ่วย ในการ ผลติ - วสั ดุ (Software) เป็นสว่ นทเี่ ก็บสาระ เนื้อหาไว้ในตวั ของมันเอง อาจจะ นาเสนอโดยตัวของมันเองกไ็ ด้ หรือนาเสนอผ่านเครอ่ื งมือก็ได้ - วธิ ีการ เปน็ เทคโนโลยีท่มี ีลักษณะเป็นนามธรรม ไมเ่ ปน็ วตั ถุ แต่เป็นลักษณะ การเสนอ การกระทา อาจใชร้ วมกบั เคร่ืองมอื หรือวัสดุ มักจะอยใู่ นรปู ของกจิ กรรม
การจดั ประเภทและประโยชน์ของเทคโนโลยีการศึกษา ประโยชนข์ องเทคโนโลยกี ารศกึ ษา ประโยชน์ของเทคโนโลยีการศึกษา สามารถแบ่งออกได้เปน็ ดา้ น ๆ ดงั นี้ 1. ประโยชน์สาหรับผเู้ รยี น ผู้เรียนจะไดร้ ับประโยชนด์ ังนี้ 1.1 ทาให้ผ้เู รยี นมีโอกาสใช้ความสามารถของตนเองในการเรียนรอู้ ย่างเตม็ ที่ 1.2 ผเู้ รยี นมโี อกาสตัดสนิ ใจในการเลอื กเรียนตามชอ่ งทางทเ่ี หมาะกับ ความสามารถของตนเอง 1.3 ทาใหก้ ระบวนการเรยี นร้งู ่ายขึ้น 1.4 ผู้เรียนมีอสิ ระในการเลือก
การจดั ประเภทและประโยชนข์ องเทคโนโลยีการศึกษา ประโยชนข์ องเทคโนโลยกี ารศกึ ษา (ต่อ) 1. ประโยชน์สาหรบั ผู้เรยี น ผู้เรียนจะได้รบั ประโยชนด์ ังน้ี (ตอ่ ) 1.5 ผู้เรยี นสามารถเรียนรู้ในทุกเวลา ทุกสถานที่ 1.6 ทาให้การเรยี นมีประสิทธิภาพมากขนึ้ 1.7 ลดเวลาในการเรยี นรแู้ ละผ้เู รยี นสามารถเรยี นรูไ้ ดม้ ากกว่าเดมิ ในเวลาเทา่ กนั 1.8 ทาใหผ้ ้เู รียนสามารถเรียนรู้ไดท้ ้งั ในแนวกว้างและแนวลึก 1.9 ช่วยใหผ้ ้เู รยี นรู้จกั เสาะหาแหล่งการเรียนรู้ 1.10 ฝึกใหผ้ ู้เรยี น คดิ เปน็ และสามารถแก้ปัญหาด้วยตนเองได้
การจัดประเภทและประโยชน์ของเทคโนโลยีการศึกษา ประโยชนข์ องเทคโนโลยีการศกึ ษา 2) ประโยชนส์ าหรับผสู้ อน ผู้สอนจะไดป้ ระโยชนด์ งั น้ี 2.1 ทาใหป้ ระสทิ ธิภาพของการสอนสูงขน้ึ 2.2 ผู้สอนสามารถจดั กจิ กรรมไดห้ ลากหลาย 2.3 ทาให้ผูส้ อนมเี วลามากขึน้ จงึ ใช้เวลาท่ีเหลอื ในการเตรยี มการสอนไดเ้ ตม็ ที่ 2.4 ทาใหก้ ระบวนการสอนงา่ ยขึน้
การจัดประเภทและประโยชน์ของเทคโนโลยกี ารศึกษา ประโยชนข์ องเทคโนโลยีการศกึ ษา (ตอ่ ) 2. ประโยชน์สาหรบั ผ้สู อน ผูส้ อนจะไดป้ ระโยชน์ดงั นี้ (ต่อ) 2.5 ลดเวลาในการสอนน้อยลง 2.6 สามารถเพมิ่ เนื้อหาและจดุ มงุ่ หมายในการสอนมากขนึ้ 2.7 ผ้สู อนไม่ต้องใช้เวลาสอนท้ังหมดอยใู่ นชน้ั เรียนเพราะบทบาทส่วนหน่งึ ผู้เรยี นทาเอง 2.8 ผสู้ อนสามารถแกป้ ัญหาความไมถ่ นดั ของตนเองได้ 2.9 ผู้สอนสามารถสอนผเู้ รียนไดเ้ น้อื หาทีก่ ว้างและลึกซ้ึงกวา่ เดมิ 2.10 ง่ายในการประเมนิ เพราะการใช้เทคโนโลยี มงุ่ ให้ผเู้ รียนประเมินตนเองดว้ ย
การจดั ประเภทและประโยชนข์ องเทคโนโลยกี ารศกึ ษา ประโยชน์ของเทคโนโลยีการศกึ ษา (ต่อ) 3 ประโยชนต์ อ่ การจัดการศกึ ษา ในแงข่ องการจัดการศกึ ษาจะไดร้ ับประโยชน์ดังน้ี 3.1 สามารถเปดิ โอกาสของการเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง 3.2 ทาใหล้ ดชอ่ งวา่ งทางการศกึ ษาให้น้อยลง 3.3 สามารถสร้างผู้เรยี นทมี่ ีประสทิ ธิภาพมากกว่าเดมิ 3.4 ทาให้การจัดการและการบรหิ ารเปน็ ระบบมากข้นึ 3.5 ทาใหล้ ดการใชง้ บประมาณและสามารถใชง้ บประมาณทม่ี อี ยใู่ หค้ ุ้มค่า 3.6 สามารถแก้ปญั หาทางการศึกษาได้หลายประการ
ความหมายของนวัตกรรมการศึกษา “นวัตกรรมทางการศึกษา” (Educational Innovation) หมายถึง การ นาเอาสิ่งใหมซ่ ่ึงอาจจะอยูใ่ นรูปของความคิดหรือการกระทา รวมทง้ั ส่งิ ประดษิ ฐ์ก็ ตามเขา้ มาใช้ในระบบการศึกษา เพอ่ื มุ่งหวงั ทีจ่ ะเปลยี่ นแปลงสงิ่ ทีม่ อี ยูเ่ ดิมให้ระบบ การจัดการศึกษามีประสทิ ธิภาพย่งิ ขน้ึ ทาใหผ้ ้เู รยี นสามารถเกดิ การเรียนรไู้ ดอ้ ยา่ ง รวดเรว็ เกดิ แรงจูงใจในการเรียน และช่วยให้ประหยดั เวลาในการเรียน เชน่ การ สอนโดยใชค้ อมพิวเตอรช์ ว่ ยสอน การใชว้ ีดิทัศนเ์ ชิงโต้ตอบ(Interactive Video) ส่ือหลายมติ ิ (Hypermedia) และอนิ เตอร์เน็ต เหล่าน้ีเป็นต้น
ประเภทของนวัตกรรมทางการศึกษา ประเภทของนวัตกรรมการศึกษา มี 5 ประเภทไดแ้ ก่ 1. นวตั กรรมดา้ นสอ่ื สารการสอน เนอ่ื งจากมคี วามก้าวหน้าของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เครอื ข่ายและเทคโนโลยีโทรคมนาคม ทาให้นักการศกึ ษาพยายามนาศักยภาพของ เทคโนโลยเี หล่านมี้ าใชใ้ นการผลิตสอ่ื การเรยี นการสอนใหมๆ่ จานวนมากมาย ทั้งการเรยี นดว้ ย ตนเอง การเรียนเปน็ กลมุ่ และการเรยี นแบบมวลชน ตลอดจนส่อื ท่ใี ชเ้ พือ่ สนับสนุนการฝกึ อบรม ผา่ นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เชน่ บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หนังสอื อเิ ล็คทรอนคิ ส์ บทเรยี น CD/VCD ค่มู ือการทางานกลมุ่ เปน็ ตน้
ประเภทของนวตั กรรมทางการศึกษา ประเภทของนวัตกรรมการศึกษา มี 5 ประเภทได้แก่ 2. นวตั กรรมด้านวิธกี ารจัดการเรยี นการสอน เป็นการใช้วธิ ีระบบในการ ปรบั ปรงุ และคิดคน้ พัฒนาวิธสี อนแบบใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองการเรียนรายบคุ คล การสอนแบบผเู้ รียนเปน็ ศนู ยก์ ลาง การเรยี นแบบมีส่วนร่วม การเรยี นรู้แบบ แกป้ ัญหา การพฒั นาวิธสี อนจาเปน็ ต้องอาศยั วิธกี ารและเทคโนโลยีใหมๆ่ เขา้ มาจดั การ และสนับสนนุ การเรยี นการสอน เชน่ การสอนแบบร่วมมอื การสอนแบบอภิปราย วธิ ี สอนแบบบทบาทสมมุติ การสอนดว้ ยรูปแบบการเรยี นเปน็ คู่ เป็นตน้
ประเภทของนวตั กรรมทางการศกึ ษา ประเภทของนวัตกรรมการศกึ ษา มี 5 ประเภทไดแ้ ก่ 3. นวัตกรรมด้านหลักสูตร เปน็ การใช้วธิ ีการใหม่ๆในการพัฒนาหลักสูตรให้ สอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มในท้องถน่ิ และตอบสนองความตอ้ งการสอนบุคคลใหม้ าก ขึ้น เนื่องจากหลกั สูตรจะตอ้ งมีการเปลี่ยนแปลงอยูเ่ สมอ เพอ่ื ให้สอดคล้องกบั ความก้าวหนา้ ทางดา้ นเทคโนโลยี เศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศและของ โลก นวตั กรรมทางดา้ นหลักสูตรได้แก่ การพฒั นาหลกั สตู รบรู ณาการ หลักสตู ร รายบคุ คล หลกั สตู รกิจกรรมและประสบการณ์ และหลกั สูตรท้องถน่ิ
ประเภทของนวัตกรรมทางการศึกษา ประเภทของนวตั กรรมการศึกษา มี 5 ประเภทไดแ้ ก่ 4. นวัตกรรมดา้ นการวัดและการประเมินผล เปน็ นวัตกรรมท่ใี ชเ้ ป็นเครื่องมอื เพอื่ การ วดั ผลและประเมนิ ผลไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพและทาได้อย่างรวดเรว็ รวมไปถึงการวิจยั ทาง การศกึ ษาการวจิ ัยสถาบัน ด้วยการประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์มาสนบั สนนุ การวดั ผล ประเมนิ ผลของสถานศึกษา ครู อาจารย์ เชน่ การสร้างแบบวัดตา่ งๆ การสร้าง เครอื่ งมือ การประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น แนวทางในการสรา้ งแบบวัดผลและ ประเมินผล เช่น การสร้างแบบวัดแววครู การพฒั นาคลงั ข้อสอบ การสรา้ งแบบวัดความมี วนิ ัยในตนเอง
ประเภทของนวัตกรรมทางการศกึ ษา ประเภทของนวัตกรรมการศกึ ษา มี 5 ประเภทไดแ้ ก่ 5. นวัตกรรมดา้ นการบรหิ ารจดั การ เปน็ การใชน้ วัตกรรมท่ีเก่ยี วขอ้ งกับการใชส้ ารสนเทศ มาชว่ ยในการบริหารจดั การ เพอ่ื การตัดสินใจของผบู้ ริหารการศกึ ษาให้มีความรวดเร็วทันเหตุการณ์ ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก นวัตกรรมการศึกษาที่นามาใชท้ างด้านการบรหิ ารจะเกี่ยวข้องกับ ระบบการจดั การฐานข้อมลู ในหนว่ ยงานสถานศึกษา เชน่ การบริหารเชงิ ระบบ การบริหารเชงิ กล ยุทธ์ การบรหิ ารเชงิ บูรณาการ เป็นต้น
การพิจารณานวัตกรรมและลกั ษณะของนวัตกรรม การพจิ ารณาว่าสิ่งใดเปน็ นวตั กรรม มเี กณฑ์ 4 ประการ คือ 1.นวัตกรรมจะต้องเปน็ ส่ิงใหม่ทง้ั หมด หรือบางส่วนอาจเป็นของเกา่ ใชไ้ มไ่ ดผ้ ลในอดีต แต่ นามาปรบั ปรงุ ใหม่ หรือเปน็ ของปจั จุบันทีเ่ รานามาปรับปรงุ ให้ดขี ึ้น 2.มกี ารนาวธิ กี ารจัดระบบมาใช้ โดยพจิ ารณาองคป์ ระกอบทั้งสว่ นขอ้ มูลท่นี าเข้าไปใน กระบวนการและผลลพั ธ์ โดยกาหนดขน้ั ตอนการดาเนินการให้เหมาะสมก่อนทจ่ี ะทาการ เปลีย่ นแปลง
การพิจารณานวัตกรรมและลกั ษณะของนวัตกรรม การพิจารณาวา่ ส่ิงใดเปน็ นวัตกรรม มเี กณฑ์ 4 ประการ คอื 3.มีการพสิ จู นด์ ว้ ยการวจิ ยั หรืออยรู่ ะหวา่ งการวจิ ยั วา่ \"สงิ่ ใหม่\"นั้นจะช่วย แกป้ ัญหาและการดาเนินงานบางอยา่ งไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพสงู ขึ้นกว่าเดมิ 4.ยังไมเ่ ป็นสว่ นหนงึ่ ของระบบงานในปจั จุบันหาก \"สงิ่ ใหม่\" น้ัน ไดร้ บั การ เผยแพรแ่ ละยอมรับจนกลายเปน็ ส่วนหนึ่งของระบบงานทีด่ าเนนิ อยู่ในขณะนน้ั ไม่ถอื ว่าสง่ิ ใหมน่ นั้ เปน็ นวตั กรรมแตจ่ ะเปลย่ี นสภาพเปน็ เทคโนโลยีอย่างเตม็ ท่ี
การพจิ ารณานวัตกรรมและลกั ษณะของนวตั กรรม ลกั ษณะของนวตั กรรม 1. เป็นสงิ่ ประดิษฐห์ รือวิธกี ารใหม่ – คิดหรอื ทาข้ึนใหม่ – เกา่ จากที่อื่นพึ่งนาเขา้ – คดั แปลงปรับปรุงของเดิม – เดมิ ไมเ่ หมาะแต่ปัจจุบนั ใชไ้ ด้ดี – สถานการณเ์ อ้ืออานวยทาใหเ้ กดิ สิ่งใหม่ 2.เป็นส่ิงได้รบั การตรวจสอบหรอื ทดลองและพฒั นา 3.นามาใช่หรอื ปฏิบัตไิ ดด้ ี 4.มกี ารแพรก่ ระจายออกสู่ชมุ ชน
นวตั กรรมการเรยี นการสอนยคุ ปฏริ ปู การศกึ ษา กับพัฒนาทักษะในศตวรรษท่ี 21 ห้องเรยี นกลับด้าน Flipped Classroom “การเรียนร้ทู ีด่ ีกวา่ ไมไ่ ด้มาจากการทค่ี รูคน้ พบ วิธกี ารสอนทีด่ ีกวา่ แต่เกดิ จากการท่คี รูไดใ้ ห้ โอกาสที่ดกี ว่าแกผ่ ูเ้ รียนรใู้ ห้สามารถสร้างองคค์ วามรู้ไดด้ ้วยตัวเอง” (Prof. Seymour Papert แห่ง Media Lab, Massachusetts Institute of Technology (MIT))
นวัตกรรมการเรียนการสอนยคุ ปฏริ ปู การศึกษา กับพัฒนาทกั ษะในศตวรรษที่ 21 วงการศกึ ษาของไทยไดม้ ีการคิดค้นเพ่อื พฒั นารปู แบบนวัตกรรมทางการเรยี นรู้และรปู แบบการ สอน ตามหลักสตู รเพื่อกา้ วทนั กับความเปลีย่ นแปลงกบั บรบิ ทเชงิ สงั คม ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงกบั โลกแห่ง ความก้าวหน้าทางวทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยที เี่ ข้ามามีบทบาทตอ่ การจัดการศึกษาค่อนข้างสูง ภายใต้กระแสแหง่ การปฏริ ูปการศึกษาไทยในปัจจุบันท่มี ่งุ พัฒนาการศกึ ษาใหบ้ รรลผุ ลตามเจตนารมณ์ ของการจดั การศกึ ษา โดยรวม เปน็ ไปตามปรัชญาแนวคิดของการพัฒนาโดยมงุ่ เน้นท่ผี ูเ้ รียนเปน็ สาคญั (Learners Center) กา้ วสู่
นวตั กรรมการเรียนการสอนยุคปฏริ ปู การศึกษา กบั พัฒนาทักษะในศตวรรษท่ี 21 การพฒั นาท่ียง่ั ยืนต่อไปในอนาคต “หอ้ งเรยี นกลับด้าน” จึงกลายเป็นนวัตกรรมและ มมุ มองหน่งึ ทเี่ ป็น วิธีการใชห้ อ้ งเรยี นใหเ้ กดิ คณุ คา่ แก่เด็กโดยใชฝ้ ึกประยกุ ต์ความรใู้ น สถานการณต์ า่ งๆเพอื่ ใหเ้ กดิ การเรียนรแู้ บบ “รู้จริง (Mastery Learning)” ด้วยแนวคดิ “เรียนท่ี บา้ น ท าการบา้ นที่โรงเรยี น” กล่าวคอื การจดั การเรียน การสอนแบบหอ้ งเรยี นกลับทางน้นั จะ มุ่งเนน้ การสร้างสรรคอ์ งค์ความรดู้ ว้ ยตวั ผู้เรยี นเองตามทักษะ ความรู้ ความสามารถและ สตปิ ญั ญาของเอกตั บุคคล (Individualized Competency) ตามอตั ราความสามารถ ทางการ เรยี นแต่ละคนจากมวลประสบการณท์ ค่ี รูจดั ให้ผ่านสอ่ื เทคโนโลยีICT หลากหลายนอกชัน้ เรียน อย่าง อิสระท้งั ดา้ นความคิดและวธิ ปี ฏิบตั ิ
แนวโน้มของสอื่ และเทคโนโลยีการศึกษาในอนาคต เทคโนโลยใี นปัจจุบนั มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอยา่ งรวดเร็ว ทาให้มีวสั ดุ อุปกรณ์ และเทคนคิ วิธกี ารใหม่ๆ เพื่อนามาใช้ประโยชน์อยา่ งไมม่ ีขดี จากัดในทกุ วงการ เชน่ เดยี วกับวงการศึกษาทน่ี าเทคโนโลยเี หลา่ นี้มาใช้เพื่อเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการเรยี นการสอน และการบรหิ ารจดั การ รวมถึงใชใ้ นการกาหนดแนวโน้มของการใช้เทคโนโลยีเพอื่ ความ เปลีย่ นแปลงในอนาคตวา่ ควรมกี ารปรับปรงุ เปลีย่ นแปลงอยา่ งไรบา้ งเพ่ือให้มกี ารใช้ เทคโนโลยีอยา่ งไดผ้ ล นกั เทคโนโลยีการศึกษาจงึ ควรทราบถึงพฒั นาการของเทคโนโลยีและ แนวโนม้ ในอนาคตในการเรยี นการสอน
พฒั นาการของเทคโนโลยีและแนวโน้มในอนาคตในการเรยี นการสอน ดังน้ี - พัฒนาการของเทคโนโลยแี ละการเรยี นการสอน - การบรรจบกนั ของเทคโนโลยีและสอื่ การสอน - ศกั ยภาพของการสอ่ื สารในสถาบันการศกึ ษา - พฒั นาการของอเี ลิรน์ นิ่ง : Learning Object - Grid Computing
พัฒนาการของเทคโนโลยีและแนวโนม้ ในอนาคตในการเรยี นการสอน (ตอ่ ) ดงั นี้ - ความเป็นจริงเสมอื นและสภาพแวดลอ้ มเชิงเสมอื น - การร้จู าคาพดู และการส่ือสาร - บทสรปุ : วงการศึกษาและความเปลย่ี นแปลงในอนาคต - คอมพวิ เตอร์ : อปุ กรณ์หลักในการเรียนการสอน - ไอซที แี ละการบรู ณาการการเรยี นการสอน - การเรียนในสภาพแวดล้อมการเรยี นร้เู ชิงเสมอื น - การเปลยี่ นบทบาทของผู้สอนและผเู้ รียน - สถานศกึ ษาอเิ ล็กทรอนกิ ส์
อา้ งอิง 1. https://chantaradee.blogspot.com/p/blog- page_4.html?m=1&fbclid=IwAR1cc66L7zpkmxuHj0mi- 48CGon0L3fPUMxoLY3I16QiaWoQarkoW9Kod9s (ขอ้ 1) 2. https://ceit.sut.ac.th/km/?p=138&fbclid=IwAR0F3D5q- lpEjBgLPbYbtwa2BqF9lAFIWP_T17ZAshHb-vlf7cwbVhoWeyU (ข้อ 1) 3. https://sites.google.com/site/educationtechnology56/thekhnoloyi-kar-suksa/khwam- samphanth-rahwang-thekhnoloyi-kab-nwatkrrm (ข้อ 2) 4. https://mintchompoonuch.wordpress.com/%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%9A%E0%B8% 82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82 %E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B2% E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/?fbclid=IwAR3Ju8GMWncRAwyH1KOlc4yC2 uIZs9z1LpKJEZPdOYKX-nlC6ibvscGzGbY (ขอ้ 3)
อ้างอิง ตอ่ 4.https://supapon52.wordpress.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0% B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8% B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B6 %E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E 0%B8%A0%E0%B8%97%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B 8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B8%9 7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81/?fbclid=IwAR1QBHbE2YSJza6jkKlUnLzh1BH3udcMlN0Q OgQtCKXzatp0hIFfaveB1oQ (ข้อ 4) https://www.gotoknow.org/posts/103620?fbclid=IwAR24CkzR2rYKue4uYqjiTiAgDXaYgatSFup9PV1 3KvO9KKaIuSPsoHT4V3M (ข้อ 4)
อ้างองิ ตอ่ 5. http://kob1991041.blogspot.com/2012/02/blog-post_3262.html (ขอ้ 4 ตอ่ เรือ่ งประโยชน์) 6.https://ceit.sut.ac.th/km/?p=138&fbclid=IwAR39mkfGJYl01rwoW6EdkKeTGxdu- lpAfRMkBY9HB1ynFR4qsR2MvNKYZ8s (ขอ้ 5) 7.https://thanetsupong.wordpress.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8% AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2- %E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8% B1%E0%B8%8D- %E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%9B/?fbclid=IwAR224Fh2qx8bl0j9RbXWq ByQvTmM-NGPci1XfD3MhTzRkKLdiERczJd2QI0 (ข้อ 6)
อ้างองิ (ตอ่ ) 7.https://innovationforkm.weebly.com/362636363656359136513604364836113655360936093623363 336053585361936193617.html?fbclid=IwAR1cc66L7zpkmxuHj0mi- 48CGon0L3fPUMxoLY3I16QiaWoQarkoW9Kod9s (ข้อ 7) 8.https://tawanintiya.wordpress.com/%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8% 81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0% B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%B2/%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9 %E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8 %B1%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1/?fbclid=IwAR3oshcBfHd3tV0C dEWrseeE2zkx4f4lRAx0lO2mrJVerKNRBnGbaYsRE78 (ข้อ 7)
อ้างองิ ตอ่ 9. https://sites.google.com/site/fpheaathukh87ngi/3 (ข้อ 8) 10. https://sites.google.com/site/fpheaathukh87ngi/3 (ขอ้ 9)
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: