แนวทางการบรรยายประกอบคลิป Computational Thinking ที่ใช้สอน คาบแรก

แนวทางการบรรยายประก [พิมพ์ช่ือเร่ื องรอง อบคลปิ เอกสาร] COMPUTATIONAL THINKING [ ]

แนวทางการบรรยายประกอบคลปิ Computational Thinking https://www.youtube.com/watch?v=mUXo-S7gzds ท่ีใชใ้ นการสอนคาบแรกเก่ียวกับทักษะการคดิ เชิงคานวณ Computational Thinking เป็นการคิดที่คลา้ ยกับความคดิ ของหุ่นยนต์ หรือการเขียนโปรแกรม มปี ระโยชน์ อย่างมากมาย โดยเนน้ ไปทที่ ักษะการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณ การคิดอยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล หรอื อาจจะเรียกว่า เป็นทักษะการแก้ปัญหาท่ีลึกซ้ึงมากข้นึ โดยจะมองปญั หา และแก้ปัญหาอย่างเปน็ ระบบ โดยแนวทางการ แก้ปญั หาน้นั มนุษยแ์ ละคอมพิวเตอรส์ ามารถเข้าใจไดเ้ หมือนๆ กนั โดยถือเปน็ กระบวนการข้ันสงู ของการ แกป้ ญั หา computational Thinking แบ่งองค์ประกอบไดเ้ ป็น 4 วธิ ีคิด - Decomposition - Pattern recognition - Abstraction - Algorithm Decomposition เปน็ การแตกปัญหาท่ีใหญห่ รอื ยุง่ ยาก ใหเ้ ปน็ ปญั หายอ่ ยๆ เพื่อใหส้ ามารถแก้ไขได้ง่าย Pattern Recognition เป็นการมองเหน็ ปัญหา หรือรูปแบบของปัญหาท่ีแตกตา่ งกันแต่มสี ่งิ ท่มี ีความ คลา้ ยคลงึ กัน (ในรปู เปน็ การมองเห็นรปู แบบของการท่ีทาให้ยานพาหนะแต่ละแบบเคลื่อนที่ได้ด้วยความเรว็ ต้องมสี ่วนของความโค้ง) Abstraction เปน็ การเลือกเฉพาะสง่ิ ทส่ี าคัญ เพ่ือเห็นโครงสร้างโดยรวม Algorithmic Thinking เปน็ วธิ ีคดิ ทเ่ี ปน็ ลาดบั ข้ันตอน เชน่ ทาส่ิงใดส่งิ หน่ึง เราสามารถสรา้ งเป็นเซท็ ของ วิธกี าร และคนอนื่ สามารถใช้วธิ ีการของเราในการแก้ปัญหานั้นๆ ไดเ้ หมือนกัน มาดตู วั อยา่ งของปญั หาท่ีใชก้ ารคดิ แบบ computational thinking

สมมติว่ารถของ max เกดิ ยางแบนขนึ้ มา แต่โชคดีท่ีเคา้ เป็นคนท่มี ีความคิดแบบ computational thinking เขาจะแก้ปญั หาน้ีอย่างไร รถของ max ไมส่ ามารถเคลอื่ นยา้ ยได้ ซ่ึงรถเคา้ ตอนน้มี ีปัญหาเกิดข้ึนสองอย่างคือ นา้ มันใกลจ้ ะหมด และยาง แบนไป 1 ล้อ นน่ั คือการคิดแบบ decomposition (แยกไดว้ ่ามปี ญั หาอะไรบ้าง) จากนั้น max เคยมี ประสบการณเ์ จอปญั หาลักษณะใกลเ้ คียงกันนมี้ ากอ่ น เช่น รถนา้ มันหมด หรือยางแบน เคา้ คิดวา่ เคา้ ควรจะ เปลีย่ นยางที่แบนก่อน นน่ั คือการคิดแบบ pattern recognition (เคยเจอปญั หาในรูปแบบนม้ี าก่อน คาด เดาได้วา่ ควรแก้ด้วยวธิ ีการแบบใด) รถเค้าน้ามันเหลือน้อย แต่กย็ ังเพียงพอท่ีจะขับไปยงั ปัม๊ ที่ใกล้ทส่ี ุด แต่เคา้ ก็ ตดั สินใจทจ่ี ะเปล่ียนยางล้อท่ีแบนก่อน นน่ั คอื การคิดแบบ abstraction (เลือกทาในสิ่งท่ีสาคัญ และสามารถ จาลองความคดิ ได้วา่ จากระยะทางท่ีอยู่ถงึ ปัม๊ รถจะไปถึงได้หรือไม่) สุดทา้ ยการคดิ แบบ algorithm คอื การ เปล่ียนยางลอ้ ตอ้ งใช้แมแ่ รงเพือ่ ยกรถขึน้ จากนั้นจึงค่อยเปล่ียนลอ้ ที่แบนออก แลว้ เอาล้ออะไหลเ่ ปลี่ยนแทน (คิดอย่างเป็นขนั้ ตอน ต้องทาอะไรบ้าง) ทั้งหมดน้ีคือ computational thinking ทไ่ี มใ่ ช่เฉพาะโปรแกรมเมอร์เท่านั้นท่ตี ้องใชว้ ธิ ีคดิ แบบน้ี แต่ใน ความเป็นจรงิ พวกเราทุกคนก็จาเป็นต้องคิดแบบนไ้ี ม่ว่าจะประกอบอาชีพใดๆ กต็ าม ทาไม computational thinking จึงสาคญั ตามกฎของมวั ร์ กล่าวถงึ ประสทิ ธิภาพของคอมพวิ เตอร์ ทจ่ี ะ สามารถประมวลผลไดอ้ ย่างรวดเร็วเพิ่มข้ึนเร่อื ยๆ และมนุษย์กม็ ีความจาเป็นต้องใชค้ อมพิวเตอร์น้เี พ่อื อานวย ความสะดวกตา่ งๆ และชว่ ยแกป้ ัญหาให้ไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพท่สี ุด เรามีเคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์ คอมพิวเตอรต์ ่างๆ เหลา่ น้นั เพือ่ การใชง้ าน แตเ่ รากจ็ าเปน็ อยา่ งยิง่ ที่จะต้องรู้วา่ ทาอย่างไร เราถึงจะส่งั ให้ อุปกรณ์ตา่ งๆ เหล่านั้นทางานหรือแก้ปัญหาตามความต้องการของเราได้ น่ันคือต้องใชท้ ักษะการคดิ แบบ computational thinking นนั่ เอง