Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้

แผนการจัดการเรียนรู้

Published by Nattaworakan Chaiyaban, 2023-07-06 22:03:16

Description: แผนการจัดการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

ตวั ช้วี ดั และสาระการเรียนรู้ วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตจริงอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน และ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทนั และมีจริยธรรม ลำดับ ตัวชี้วัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง 1 ป.6/1 ใชเ้ หตผุ ล • การแกป้ ญั หาอยา่ งเป็นข้ันตอนจะชว่ ยให้แก้ปญั หาได้อย่าง มปี ระสิทธภิ าพ เชิงตรรกะในการ • การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรือเงอ่ื นไข ท่คี รอบคลมุ ทุก อธบิ ายและออกแบบ กรณีมาใชพ้ ิจารณาในการแก้ปญั หา วิธีการแกป้ ัญหาที่พบใน • แนวคดิ ของการทำงานแบบวนซ้ำและเง่ือนไข ชวี ิตประจำวัน • การพิจารณากระบวนการทำงานทมี่ ีการทำงานแบบวนซ้ำ หรอื เงอ่ื นไข เป็นวิธีการที่จะชว่ ยใหก้ ารออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาเปน็ ไปอย่างมี ประสิทธิภาพ • ตวั อย่างปญั หา เชน่ การคน้ หาเลขหนา้ ทีต่ อ้ งการใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ การทายเลข 1-1,000,000 โดยตอบใหถ้ ูกภายใน 20 คำถาม การคำนวณเวลาในการ เดนิ ทาง โดยคำนึงถึง ระยะทาง เวลา จุดหยุดพัก 2 ป.6/2 ออกแบบ • การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียนเป็นข้อความหรือผังงาน และเขียนโปรแกรม • การออกแบบและเขียนโปรแกรมท่มี ีการใช้ตัวแปร การวนซ้ำ การ อย่างง่าย เพอ่ื แก้ปญั หา ตรวจสอบเงือ่ นไข ในชีวติ ประจำวัน • หากมีข้อผดิ พลาดให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำส่งั เมื่อพบ จุดที่ทำใหผ้ ล ตรวจหา ข้อผดิ พลาด ลัพธไ์ มถ่ ูกต้อง ให้ทำการแกไ้ ขจนกว่าจะได้ ผลลพั ธ์ทถ่ี ูกตอ้ ง ของโปรแกรม และ • การฝกึ ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดจากโปรแกรมของผู้อื่นจะช่วย พฒั นาทกั ษะ แกไ้ ข การหาสาเหตขุ องปญั หาได้ดีย่ิงข้นึ

• ตัวอย่างปัญหา เช่น โปรแกรมเกม โปรแกรมหาคา่ ค.ร.น เกมฝกึ พมิ พ์ • ซอฟต์แวรท์ ่ใี ช้ในการเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, logo 3 ป.6/3 ใช้ • การค้นหาอย่างมีประสทิ ธิภาพ เป็นการคน้ หาข้อมูลท่ีได้ตรงตามความ อินเทอรเ์ นต็ ในการ ต้องการ ในเวลาท่ีรวดเร็ว จากแหล่งข้อมลู ท่นี ่าเช่ือถือหลายแหลง่ และข้อมูล คน้ หาขอ้ มลู อย่างมี มคี วามสอดคลอ้ งกนั ประสิทธิภาพ • การใชเ้ ทคนิคการคน้ หาขั้นสูง เชน่ การใช้ตัวดำเนนิ การ การระบุรูปแบบ ของข้อมูล หรือชนิดของไฟล์ • การจดั ลำดับผลลพั ธ์จากการคน้ หาของโปรแกรมคน้ หา • การเรียบเรียง สรปุ สาระสำคัญ (บรู ณาการกบั วิชาภาษาไทย) 4 ป.6/4 ใช้ • อนั ตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ แนวทางในการ เทคโนโลยีสารสนเทศ ป้องกนั ทำงานร่วมกนั อย่าง • วธิ ีกำหนดรหัสผ่าน ปลอดภัยเข้าใจสทิ ธิและ • การกำหนดสทิ ธิก์ ารใชง้ าน(สิทธใ์ิ นการเขา้ ถงึ ) หน้าที่ของตนเคารพใน • แนวทางการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวร์ สทิ ธขิ องผู้อน่ื แจ้ง • อนั ตรายจากการติดตงั้ ซอฟต์แวร์ทีอ่ ย่บู นอินเทอรเ์ น็ต ผเู้ กี่ยวข้องเม่อื พบข้อมูล หรอื บคุ คลที่ไม่ เหมาะสม

โครงสร้างรายวชิ า รายวิชา วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่6 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ติ จริงอยา่ งเป็นขน้ั ตอน และ เป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปญั หาได้อย่างมี ประสทิ ธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมีจรยิ ธรรม มาตรฐาน สาระการเรียนรู้ จำนวน นำ้ หนัก ลำดับ หนว่ ยการ การเรียนรู/้ ชว่ั โมง คะแนน ท่ี เรยี นรู้/เรื่อง ตวั ชีว้ ดั 1 แนวคดิ การ ว 4.2 ป.6/1 - แนวคิดการแกป้ ัญหาแบบลำดบั 8 20 16 20 แกป้ ัญหาด้วย เปน็ ขั้นตอนกอ่ นและหลงั ชัดเจน เหตผุ ลเชิงตรรกะ เพ่อื ให้ได้ผลลพั ธ์ตรงตามต้องการ - แนวคดิ การแก้ปัญหาแบบวนซำ้ ใช้หลกั การหรือวธิ ีการเดิมซ้ำกนั หลาย ๆ ครงั้ เพ่อื ให้ได้ผลลัพธ์ตรง ตามต้องการ - แนวคดิ การแก้ปญั หาแบบมี เงอ่ื นไข โดยมีกฎเกณฑห์ รือ เง่ือนไขเปน็ ตวั กำหนด 2 การออกบบและ ว 4.2 ป.6/2 - การออกแบบโปรแกรม เพ่ือ เขยี นโปรแกรม ลำดบั ขน้ั ตอนการแก้ปญั หา โดย อย่างงา่ ย แสดงขั้นตอนการทำงานของ โปรแกรมด้วยวิธีการต่าง ๆ - การเขียนโปรแกรมภาษา scratch เป็นโปรแกรมทน่ี ำบลอ็ ก

คำส่งั มาวางต่อกนั แทนการพิมพ์ คำสัง่ - การตรวจสอบและแกไ้ ข ข้อผิดพลาดของโปรแกรม เพื่อ แก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดข้ึนจาก การเขยี นโปรแกรม 3 การใช้งาน ว 4.2 ป.6/3 - เทคนคิ การค้นหาข้อมูล เช่น 8 15 8 15 อินเทอร์เนต็ การใชค้ ำสำคัญ การใช้เคร่ืองหมาย 40 100 หรือสญั ลกั ษณ์ อีกทง้ั ยงั จะตอ้ งมี การจัดลำดับผลลัพธก์ ารคน้ หาและ ประเมินความน่าเชือ่ ถือของข้อมูล - ความน่าเชอ่ื ถือของข้อมลู การ เปรียบเทียบเพ่ือดคู วามสอดคลอ้ ง กนั ของข้อมลู 4 การใชเ้ ทคโนโลยี ว 4.2 ป.6/4 - การตั้งค่าความปลอดภยั เช่น สารสนเทศอยา่ ง การกำหนดรหัสผา่ น ปลอดภัย - การใชง้ านอินเทอร์เน็ตอยา่ ง ปลอดภัย การร้ถู ึงอนั ตรายจาก การแลกเปลีย่ นข้อมูล การ ตดิ ต่อส่ือสาร - การตดิ ตง้ั ซอฟต์แวร์อยา่ ง ปลอดภัย รวม

คำอธิบายรายวชิ าพ้นื ฐาน รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่6 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต การใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา การ ออกแบบ การเขยี น โปรแกรม และการตรวจหาข้อผดิ พลาด การคน้ หาข้อมลู ในอนิ เทอร์เน็ตอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ การใชเ้ ทคโนโลยี สารสนเทศใน การทำงานร่วมกัน ใช้การสืบเสาะหาความรสู้ งั เกต รวบรวมข้อมลู จดั ทำและสื่อความหมาย ขอ้ มูล สร้าง แบบจำลอง และอธบิ ายผลการสำรวจตรวจสอบ เพ่อื ใหเ้ กิดความรคู้ วามเข้าใจ มที กั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรข์ ัน้ พ้ืนฐานและทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ ๒๑ ในด้านการ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารเบอ้ื งตน้ สามารถสอ่ื สารสิ่งท่ีเรยี นร้มู ีความคิดสร้างสรรคส์ ามารถ ทำงาน ร่วมกบั ผ้อู นื่ อธบิ ายและออกแบบวธิ กี าร แก้ปญั หาโดยใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย เพื่อแกป้ ัญหา และตรวจหาขอ้ ผิดพลาดของ โปรแกรม ค้นหาข้อมูลในอนิ เทอรเ์ นต็ อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำงานรว่ มกนั ตระหนักถึงคณุ คา่ ของความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีและใช้ความรแู้ ละกระบวนการ ทาง วทิ ยาศาสตร์ในการดำรงชีวติ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศรว่ มกันอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหน้าทขี่ องตน เคารพ ในสิทธิของผู้อ่ืน มจี ติ วิทยาศาสตร์จริยธรรม คุณธรรม และค่านยิ มที่เหมาะสม ตวั ชีว้ ดั รวม 4 ตัวชี้วัด ว 4.2 ป.6/1, ป.6/2, ป.6/3, ป.6/4

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การแก้ปัญหาโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เวลา 8 ชัว่ โมง เรอ่ื ง เหตุผลเชิงตรรกะกับการการแกป้ ัญหา เวลา 1 ช่ัวโมง รายวชิ าวิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 สอนโดย นางสาวณัฐวรกาญจน์ ไชยบนั วนั ที่ เดือน ปี 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชี้วัด สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและ เป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ รู้เท่าทนั และมีจริยธรรม ตวั ชีว้ ดั ป.6/1 ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบ วธิ กี ารแกป้ ัญหาทพี่ บในชวี ติ ประจำวัน 2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ออกแบบการแก้ปญั หาในชีวติ ประจำวนั ได้ โดยใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ (K,P) 2. ยกตวั อยา่ งการแกป้ ัญหาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะในชีวิตประจำวันได้ (A) 3. สาระสำคัญ เหตุผลเชิงตรรกะกับการแก้ปัญหา เป็นการนำหลกั การ กฎเกณฑห์ รือเง่ือนไขท่ีครอบคลุมทุกกรณีมาใช้เพ่ือ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลหรือพจิ ารณาความเป็นไปได้ของการมุง่ หาคำตอบและแก้ปัญหา 4. สาระการเรยี นรู้ เหตุผลเชิงตรรกะกับการแก้ปญั หา 5. รปู แบบการสอน/วิธีการสอน 1. วธิ ีการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) 2. วธิ กี ารสอนแบบกระบวนการกลุม่ 3. เทคนิคตามแนวคดิ เชงิ คำนวณ 6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น - ความสามารถในการสือ่ สาร - ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการแก้ปญั หา - ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 7. ทกั ษะ 4 Cs - ทกั ษะการคดิ วจิ ารณญาณ (Critical Thinking) - ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน (Collaboration Skill) - ทักษะการส่อื สาร (Communication Skill) - ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) 8. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ใฝเ่ รยี นรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน 9. การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ข้นั นำ (5 นาท)ี กระต้นุ ความสนใจ 1. ครใู หน้ กั เรยี นทำกจิ กรรมลองทำดู ในแบบฝกึ เล่นเกม ซูโดกุ 6X6 2. ครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายถึงวิธีการแก้ปัญหาของกจิ กรรมลองทำดู จนได้ข้อสรุปว่าใชเ้ หตุผล เชงิ ตรรกะในการแกป้ ัญหา 3. ครถู ามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ กบั นักเรียนวา่ เหตผุ ลเชิงตรรกะสามารถนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ไดอ้ ย่างไร จากนั้นให้นักเรยี นลองยกตวั อย่างการใช้เหตุผลเชงิ ตรรกะในชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรียน ขน้ั สอน (45 นาที) สำรวจคน้ หา 4. ครใู หน้ ักเรยี นจบั กลุ่ม 3 - 4 คน เพือ่ ศึกษาและสังเกตสถานการณต์ ัวอย่างท่ีกำหนดให้ เกี่ยวกบั ผล การแขง่ ขันตอบปญั หาภาษาไทย โดยให้นกั เรียนอ่านบทสัมภาษณข์ องตัวแทนนักเรียนแต่ละคน 5. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะหบ์ ทสัมภาษณแ์ ละพจิ ารณาตดั สง่ิ ท่ีเป็นไปไม่ได้ออก จนได้ข้อสรปุ วา่ ตัวแทน นักเรยี นแต่ละคนแข่งขนั ไดล้ ำดบั ท่ีเท่าไร 6. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ พิจารณาสถานการณ์ตัวอย่างอีกครั้ง เพือ่ ถอดกระบวนการ แนวคิด หรอื วิธีการแก้ปญั หาของสถานการณ์ จากนั้นเขยี นแนวคิดหรอื วิธีการแก้ปัญหาและตอบคำถามลงในใบ งานทม่ี อบให้

อธบิ ายความรู้ 7. ครใู หน้ กั เรียนแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานจากการทำใบงานกจิ กรรม โดยแสดงถงึ วิธีการ พิจารณาสถานการณ์ เง่อื นไขต่าง ๆ แนวคิดหรือวิธีการแก้ปญั หาโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะตามทแี่ ตล่ ะ กลุม่ ไดร้ ะดมความคิดเห็นร่วมกนั ในการทำกิจกรรมกลุ่ม พร้อมยกตัวอย่างปัญหาในชีวติ ประจำวัน และการใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะแกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวนั มากลุ่มละ 1 ตวั อย่าง ขั้นสรุป (10 นาที) 8. ครูและนักเรยี นร่วมกันอภิปรายถึงแนวคิดหรือวิธีการแก้ปัญหา และการตอบคำถามของนกั เรียนแต่ ละกลมุ่ ว่ามคี วามแตกตา่ งกนั อย่างไร และหาข้อสรุปรว่ มกัน 10. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 1. แบบฝึกเล่นเกม ซูโดกุ 6X6 2. ใบงานกิจกรรมฝึกทักษะ 3. เครอ่ื งมือสีบคน้ อินเทอรเ์ น็ต 4. เวบ็ ไซต์บทเรียนออนไลน์ 11. การวดั และการประเมนิ ผล จุดประสงค์ วิธกี ารประเมิน เคร่ืองมอื การประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน - แบบประเมนิ - สามารถแก้ปัญหา ออกแบบการแก้ปัญหา - ตรวจกจิ กรรมฝกึ ใบงานกิจกรรม ฝกึ ทักษะและ ไดถ้ ูกต้องตาม ในชวี ิตประจำวนั ได้ ทกั ษะแบบฝกึ เลน่ การนำเสนอ เงื่อนไข 60% ขนึ้ งาน ไป โดยใช้เหตุผลเชงิ เกม ซูโดกุ 6X6 - สามารถออกแบบ การแกป้ ัญหาโดยใช้ ตรรกะ (K,P) - ตรวจ ใบงาน เหตุผลเชิงตรรกะ ระดับคุณภาพพอใช้ กจิ กรรมฝึกทักษะ ขน้ึ ไป - สามารถนำเสนอ ยกตัวอยา่ งการ - ประเมนิ การ - แบบประเมนิ เรือ่ ง การใชเ้ หตผุ ล แกป้ ญั หาโดยใชเ้ หตผุ ล นำเสนองาน งานกลมุ่ เชิงตรรกะใน ชีวติ ประจำวนั เชิงตรรกะใน ระดบั คุณภาพระดับ ชวี ิตประจำวันได้ (A) พอใช้ข้ึนไป

12. กจิ กรรมเสนอแนะเพม่ิ เติม ถา้ ผเู้ รยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ทางด้านความรู้หรือดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ให้นักเรียนศึกษาเน้ือหาจากแหล่ง เรียนร้อู อนไลน์นอกเวลาเรยี น และนักเรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑแ์ บบทดสอบ ก่อน – หลงั เรียน ให้ศึกษาเน้ือหาจาก บทเรียนออนไลนแ์ ละประเมนิ อีกครั้งจนกว่าจะผ่านเกณฑต์ ามทกี่ ำหนด และฝกึ ปฏบิ ัตงิ านนอกเวลาเรยี นตามที่ ได้รับมอบหมาย ลงชอื่ .......................................ผสู้ อน (....................................................) .........../....................../.................

แบบประเมินใบงานกจิ กรรมฝึกทกั ษะ คำช้ีแจง ใหค้ รผู สู้ อนประเมินใบงานของนักเรยี นแล้วให้ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับระดับคะแนน ลำดบั ช่ือ – สกลุ ความ ความ ความถกู ต้อง การตรงต่อ รวม ท่ี สอดคล้อง ครอบคลมุ ของเนอ้ื หา เวลา 20 ของเนอ้ื หา กบั คะแนน จดุ ประสงค์ 4321432143214321 1 2 3 4 5 ลงช่อื .......................................ผูป้ ระเมนิ (....................................................) . ........../....................../................. เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 2 คะแนน 18-20 ดีมาก ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน 14-17 ดี 10-13 พอใช้ ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง

เกณฑ์การวดั และประเมนิ ผล ประเด็นการ 4 เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1 ประเมิน 32 ความสอดคล้อง ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคล้องกบั ผลงานไม่สอดคลอ้ ง กับจดุ ประสงค์ จุดประสงค์ทุกประเดน็ จดุ ประสงค์เป็น จดุ ประสงค์บาง กบั จดุ ประสงค์ ส่วนใหญ่ ประเดน็ ความครอบคลุม การนำเสนอเปน็ ไป การนำเสนอเป็นไป การนำเสนอเป็นไป การนำเสนอเปน็ ไป ของเนื้อหา ตามลำดับข้ันตอน ตามลำดับขนั้ ตอน ตามลำดับข้นั ตอน ตามลำดับขัน้ ตอน ความถกู ตอ้ งของ ความถูกต้องของ ความถกู ตอ้ งของ ความถูกต้องของ ความถูกตอ้ งของ เนอ้ื หา 100% เนอื้ หา 80% เนือ้ หา 70% เนอื้ หา 50% เนือ้ หา เนอื้ หาสาระของผลงาน เนอื้ หาสาระของผลงาน เนอื้ หาสาระของผลงาน เนอื้ หาสาระของ ความตรงต่อเวลา ถกู ตอ้ งครบถว้ น ถกู ตอ้ งเป็นส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ งบางประเด็น ผลงาน ไม่ถกู ตอ้ งเป็น ส่วนใหญ่ สง่ งานครบถ้วนตรง ส่งงานครบถ้วนแตช่ า้ ส่งงานครบถ้วนแต่ชา้ ตามเวลาทีก่ ำหนด กวา่ เวลาทกี่ ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด ส่งงานครบถว้ นแต่ 1-2 วนั 3-4 วนั ชา้ กวา่ เวลาที่ กำหนด 5 วนั ขน้ึ ไป หรือไม่ส่ง

แบบประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ ชอื่ กลุม่ ……………………………………………………………………………… ชัน้ ………………………... รายชือ่ สมาชกิ 1……………………………………………………………………………………………… 2……………………………………………………………………………………………… 3……………………………………………………………………………………………… ข้อที่ รายการประเมนิ คะแนน หมายเหตุ 32 1 1 การมีส่วนร่วมของสมาชกิ 2 การแบ่งหน้าท่รี ับผิดชอบ 3 การปฏิบตั ิตามหนา้ ทท่ี ่ไี ดร้ บั มอบหมาย 4 การประเมนิ และปรบั ปรุงงาน รวม ลงชอ่ื .......................................ผปู้ ระเมนิ (....................................................) .........../....................../................

เกณฑก์ ารประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ 1. การมสี ว่ นร่วมของสมาชิก 3 คะแนน = สมาชกิ ทุกคนมสี ่วนรว่ มในการกำหนดเปา้ หมายการทำงานอย่างชดั เจน 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงาน 1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนน้อยมีสว่ นร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงาน 2. การแบง่ หน้าท่ีรับผิดชอบ 3 คะแนน = การกระจายงานได้ท่วั ถึง และตรงตามความสามารถของสมาชกิ 2 คะแนน = การกระจายงานได้ทว่ั ถงึ และไมต่ รงตามความสามารถ 1 คะแนน = การกระจายงานไมท่ ั่วถงึ 3. การปฏิบัตติ ามหนา้ ท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมายตรงเวลาที่กำหนด 2 คะแนน = ทำงานไดส้ ำเรจ็ ตามเป้าหมาย ชา้ กวา่ เวลาที่กำหนด 1 คะแนน = ทำงานไมส่ ำเรจ็ ตามเป้าหมาย 4. การประเมินและปรบั ปรงุ งาน 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนร่วมมือปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงาน เปน็ ระยะ 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญ่ร่วมมือปรึกษาหารือ ตดิ ตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงาน เปน็ ระยะ 1 คะแนน = สมาชกิ ส่วนนอ้ ยรว่ มมอื ปรกึ ษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรบั ปรุงงาน เปน็ ระยะ

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน ช่ือกลมุ่ ……………………………………………………………………………… ชั้น………………………... รายช่ือสมาชกิ 1……………………………………………………………………………………………… 2……………………………………………………………………………………………… 3……………………………………………………………………………………………… ขอ้ ที่ รายการประเมิน คะแนน หมายเหตุ 32 1 1 การเตรยี มความพร้อม 2 เน้ือหาสาระ 3 รูปแบบการนำเสนอ 4 การมสี ่วนรว่ มของสมาชกิ ในกลุ่ม 5 การรกั ษาเวลา 6 ความสนใจของผูฟ้ งั รวม ลงช่ือ.......................................ผปู้ ระเมนิ (....................................................) .........../....................../................

เกณฑ์การประเมินการนำเสนอผลงาน 1. การเตรยี มความพรอ้ ม 3 คะแนน = มีการจัดเตรียมสถานท่ี สือ่ /อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง 2 คะแนน = มีสื่อ/อปุ กรณ์พร้อม ขาดการจัดเตรยี มสถานท่ี 1 คะแนน = สือ่ /อุปกรณไ์ ม่เพยี งพอ ขาดการจัดเตรียมสถานที่ 2. เน้ือหาสาระ 3 คะแนน = สาระสำคัญครบถ้วน ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไมค่ รบ ตรงตามจดุ ประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบ ไม่ตรงตามจดุ ประสงค์ 3. รปู แบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรปู แบบการนำเสนอท่ีเหมาะสม ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี อ่ื และใชเ้ ทคโนโลยี ประกอบการนำเสนอ นำวสั ดุในท้องถนิ่ มาประยุกต์ใช้อยา่ งคุ้มคา่ และประหยัด 2 คะแนน = ใช้เทคนิคแปลกใหม่ มสี อ่ื และใชเ้ ทคโนโลยีประกอบการนำเสนอ ขาดการ ประยกุ ต์ใช้วสั ดใุ นท้องถิน่ 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม ไมน่ ่าสนใจ 4. การมสี ่วนรว่ มของสมาชิกในกล่มุ 3 คะแนน = สมาชกิ ทกุ คนมีบทบาทและมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมกล่มุ 2 คะแนน = สมาชกิ ส่วนใหญ่มบี ทบาทและมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมกลมุ่ 1 คะแนน = สมาชกิ สว่ นน้อยมีบทบาทและมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมกลุ่ม 5. การรักษาเวลา 3 คะแนน = ดำเนินกจิ กรรมได้ตามเวลาท่ีกำหนด 2 คะแนน = ดำเนนิ กิจกรรมเรว็ กว่าเวลาทกี่ ำหนด 1 คะแนน = ดำเนินกจิ กรรมชา้ กวา่ เวลาท่กี ำหนด 6. ความสนใจของผู้ฟงั 3 คะแนน = ผฟู้ ังมากกว่าร้อยละ 80 สนใจ และให้ความร่วมมอื 2 คะแนน = ผฟู้ งั ร้อยละ 70 - 80 สนใจ และใหค้ วามร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟงั น้อยกวา่ ร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ชอื่ – สกุล..........................เลขท.่ี ..................ช้ัน...........................ปกี ารศึกษา................ คำชแ้ี จง ใหพ้ จิ ารณาตวั ชว้ี ัดต่อไปนี้แล้วใหร้ ะดับคะแนนที่ตรงกบั การปฏบิ ัติของนกั เรียนตามความเป็นจริง ระดบั คะแนน 5 หมายถึง ปฏิบัตเิ ป็นประจำทุกคร้งั ระดบั คะแนน 4 หมายถงึ ปฏิบตั ิบ่อยครั้ง ระดบั คะแนน 3 หมายถงึ ปฏบิ ตั บิ างครั้ง ระดับคะแนน 2 หมายถงึ ปฏิบตั ินอ้ ย ระดบั คะแนน 1 หมายถงึ มีพฤติกรรมไม่ชดั เจนหรอื ไม่มีหลักฐานทน่ี า่ เชื่อถือ ตัวชี้วดั คะแนน 54321 ใฝเ่ รยี นรู้ 1 ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 2 แสวงหาความร้จู าก แหลง่ เรยี นร้ตู า่ งๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรยี น ดว้ ยการ เลือกใชส้ ือ่ อย่างเหมาะสม สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได้ รวมคะแนน มงุ่ มั่นในการทำงาน 1 ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ัติหนา้ ท่กี ารงาน 2 ทำงานดว้ ย ความเพยี ร พยายาม และ อดทนเพื่อให้งานสำเร็จตามเปา้ หมาย รวมคะแนน เกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สรุปเกณฑ์การประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 3 หมายถึง ระดบั คุณภาพ ดี ค่าเฉลย่ี 2.6 - 5.00 ไดร้ ะดับคุณภาพ ดี 2 หมายถึง ระดบั คุณภาพ พอใช้ ค่าเฉล่ีย 1.6 - 2.5 ไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ (ผ่าน) 1 หมายถึง ระดับคุณภาพ ปรับปรุง ค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.5 ไดร้ ะดับคุณภาพ ปรบั ปรุง สรปุ ผลการประเมิน  ผา่ น ระดับ  ดี  พอใช้  ผ่านเกณฑ์การประเมิน  ไม่ผ่าน ระดบั  ปรับปรุง

เกณฑก์ ารประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ รายการประเมิน ดี ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ ใฝเ่ รียนรู้ (3) พอใช้ (1) (2) มงุ่ มน่ั ในการทำงาน เขา้ เรียนตรงตามเวลา ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่และ เขา้ เรยี นตรงตามเวลา เข้าเรียนตรงตามเวลา มีความเพียร พยายาม ตงั้ ใจเรียน เอาใจใส่และ ไม่ค่อยต้ังใจเรียน ในการเรียนรู้ มีส่วนร่วม มีความเพียร พยายาม ไม่เอาใจใส่ในการเรียน ในการเรยี นรู้ ร่วม ในการเรียนรู้ มีสว่ นรว่ ม มีส่วนรว่ มในการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ ละ ในการเรียนรูแ้ ละรว่ ม และร่วมกิจกรรมการ เป็นแบบอย่างท่ดี ี กิจกรรมการเรยี นรู้ เรยี นรูบ้ างคร้งั ทำงานด้วยความขยนั บอ่ ยครั้ง อดทนและให้งานสำเร็จ ทำงานดว้ ยความขยัน ไมข่ ยัน อดทน ตามเปา้ หมายกอ่ นเวลาที่ อดทนและพยายามให้ ในการทำงาน กำหนด ไมย่ ่อท้อต่อต่อ งานสำเร็จตามเปา้ หมาย ทำงานไม่สำเรจ็ ปญั หา และชนื่ ชมผลงาน บางคราวและ ตามเป้าหมาย ดว้ ยความภาคภมู ิใจ ชน่ื ชมผลงานดว้ ย ความภาคภมู ิใจ

แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ชอื่ ....................................................นามสกุล...................................ชนั้ ................เลขที.่ ....................... คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี น และขีด  ลงในชอ่ งที่ตรงกับคะแนน สมรรถนะด้าน รายการประเมนิ ดมี าก ระดบั คณุ ภาพ (3) ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ 1. ความสามารถ 1.1 มีความสามารถในการรับ-ส่งสาร (2) (1) (0) ในการสอ่ื สาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม 2. ความสามารถ 1.3 ใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สารท่ีเหมาะสม มปี ระสทิ ธภิ าพ ในการคิด 1.4 เจรจาตอ่ รองเพ่ือขจัดและลดปญั หาความ ขดั แยง้ ต่าง ๆ ได้ 1.5 เลือกรับและไมร่ ับขอ้ มูลขา่ วสารด้วยเหตผุ ล และถูกต้อง สรปุ ผลการประเมนิ 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอยา่ งสรา้ งสรรค์ 2.3 สามารถคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 2.4 มคี วามสามารถในการสร้างองคค์ วามรู้ 2.5 ตดั สินใจแกป้ ัญหาเก่ยี วกับตนเองได้อย่าง เหมาะสม สรุปผลการประเมิน

สมรรถนะดา้ น รายการประเมิน ดีมาก ระดับคุณภาพ ปรบั ปรงุ (3) ดี พอใช้ (0) (2) (1) 3.1 สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่ีเผชญิ ได้ 3.2 ใช้เหตุผลในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถ 3.3 เข้าใจความสมั พนั ธ์และการเปล่ยี นแปลงใน ในการแก้ปัญหา สังคม 3.4 แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความรมู้ าใชใ้ นการ ป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา 3.5 สามารติดสินใจได้เหมาะสมตามวัย สรุปผลการประเมิน 4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเองได้เหมาะสมตามวยั 4.2 สามารถทำงานกลุ่มรว่ มกับผอู้ ่ืนได้ 4. ความสามารถ 4.3 นำความรูท้ ่ีได้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน ในการใช้ทักษะ 4.4 จัดการปัญหาและความขดั แยง้ ไดเ้ หมาะสม ชวี ติ 4.5 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์ท่สี ่งผล กระทบต่อตนเอง สรุปผลการประเมิน

เกณฑค์ ุณภาพในการประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น (Rubric) สมรรถนะท่ี 1 ความสามารถในการสอ่ื สาร ตัวชวี้ ัดที่ 1 ใชภ้ าษาถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ ความคดิ ความรู้สกึ และทศั นะของตนเองดว้ ยการพูดและการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) พอใช/้ ผ่านเกณฑข์ ัน้ ตำ่ ปรบั ปรงุ (0) (1) 1. พูดถา่ ยทอดความรู้ พูดถา่ ยทอดความรู้ ความ พูดถ่ายทอดความรู้ ความ พูดถา่ ยทอดความรู้ พูดถา่ ยทอดความรู้ ความเข้าใจจากสารที่ เข้าใจจากสารที่อา่ น ฟัง เขา้ ใจจากสาร ทีอ่ ่าน ฟงั ความเขา้ ใจจากสารที่ ความเขา้ ใจจากสารท่ี อา่ น ฟงั หรอื ดตู ามที หรอื ดู ตามทก่ี ำหนดได้ หรือดู ตามทกี่ ำหนดได้ อา่ น ฟัง หรอื ดู ตามที่ อา่ น ฟัง หรือดู ตามที่ กำหนดได้ อย่างถูกตอ้ ง ครบถ้วน อย่างถูกต้อง ครบถว้ น กำหนดได้ไม่ชดั เจน กำหนดไมไ่ ด้ ชัดเจน และม่นั ใจ ชัดเจน 2. พูดถา่ ยทอด พูดถา่ ยทอดความคดิ พดู ถ่ายทอดความคดิ พดู ถา่ ยทอดความคดิ พดู ถา่ ยทอดความคดิ ความรสู้ กึ และทัศนะ ความคิด ความรู้สึก ความรสู้ ึกและทศั นะ ความรสู้ ึกและทัศนะจาก ความรสู้ ึก และทศั นะ จากสาร ทีอ่ ่าน ฟงั หรือดู ตามท่ี และทศั นะของตนเอง จากสารทีอ่ า่ น ฟัง หรือดู สารท่ีอ่าน ฟงั หรือดู จากสารทอ่ี า่ น ฟงั หรือ กำหนดให้ไมไ่ ด้ จากสาร ที่ ตามท่กี ำหนดได้อย่าง ตามทีก่ ำหนด ไดอ้ ย่างมี ดู ตามทีก่ ำหนด โดยมี เขยี นถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจจากสารท่ี อ่าน ฟงั หรอื ดู ตาม ท่ี สมเหตุสมผล ชัดเจน เหตผุ ล เหตผุ ลไม่เพียงพอ อา่ น ฟังหรอื ดู ตามที่กำหนดไมไ่ ด้ กำหนดได้ และมน่ั ใจ 3. เขยี นถ่ายทอด เขยี นถ่ายทอดความรู้ เขียนถา่ ยทอดความรู้ เขยี นถา่ ยทอดความรู้ ความรู้ ความเข้าใจ จาก ความเข้าใจจากสารทอ่ี า่ น ความเขา้ ใจจากสารท่ี ความเข้าใจจากสารที่ สารที่อ่าน ฟังหรือดู ฟังหรือดูตามที่กำหนดได้ อา่ น ฟงั หรือดู ตามที่ อ่าน ฟงั หรือดูตามท่ี ตามท่ีกำหนดไดอ้ ยา่ ง อยา่ งถูกตอ้ งครบถ้วน มี กำหนดได้ และ มี กำหนดได้ ถกู ตอ้ ง ครบถว้ น มี ขอ้ บกพร่องในการใช้ภาษา ข้อบกพรอ่ งในการใช้ ขอ้ บกพร่องในการใช้ วรรคตอน และการเขียน ภาษา วรรคตอน และ ภาษา วรรคตอนและการ คำต้ังแต่3 แหง่ แต่ไมเ่ กิน การเขียนคำตง้ั แต่ 6 เขยี นคำไม่เกิน 2 แห่ง 5 แห่ง แหง่ ข้นึ ไป 4. เขียนถ่ายทอด เขียนถ่ายทอดความคดิ เขยี นถ่ายทอดความคดิ เขยี นถา่ ยทอดความคดิ เขียนถา่ ยทอดความคดิ ความคดิ ความรู้สึก ความรสู้ ึก และทศั นะ ความรสู้ กึ และทศั นะของ ความรสู้ กึ และทศั นะ ความรสู้ กึ และทศั นะ และทัศนะของตนเอง ของตนเองจากสารทีอ่ า่ น ตนเองจากสารที่อ่าน ฟงั ของตนเองจากสารที่ ของตนเองจากสารที่ จากสารทอี่ ่าน ฟังหรือ ฟงั หรือดู ได้อย่าง หรือดู ไดอ้ ย่างมีเหตุผล มี อา่ น ฟงั หรือดู ที่ อ่าน ฟงั หรอื ดทู ี่ ดูจาก ที่ สมเหตสุ มผล มี ขอ้ บกพร่องในการใช้ภาษา กำหนดให้ โดยมีเหตผุ ล กำหนดใหไ้ มไ่ ด้ กำหนดได้ ขอ้ บกพรอ่ งในการใช้ วรรคตอนและการเขยี นคำ ไมเ่ พียงพอ และ มี ภาษา วรรคตอนและการ ตั้งแต่ 3 แห่ง แต่ไม่เกนิ ข้อบกพรอ่ งในการใช้ เขยี นคำไมเ่ กิน 2 แหง่ 5 แหง่ ภาษา วรรคตอน และ การเขียนคำตง้ั แต่ 6 แหง่ ข้นึ ไป

ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2 พูดเจรจาต่อรอง ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม(3) ดี(2) พอใช้/ผ่านเกณฑข์ ัน้ ปรบั ปรงุ (0) ต่ำ(1) พดู โน้มน้าวให้ผู้อื่น 1. พดู เจรจา โนม้ นา้ ว พูดโนม้ น้าวใหผ้ ู้อืน่ คล้อย พดู โน้มนา้ วใหผ้ ู้อื่นคลอ้ ย พดู โน้มนา้ วได้สำเร็จ คลอ้ ยตามไมไ่ ด้ ไดอ้ ย่างเหมาะสมตาม ตามได้สำเร็จ โดยไมเ่ กิด ตามได้สำเรจ็ ในทกุ บางสถานการณ์ สถานการณเ์ พือ่ ขจัด ผลกระทบตอ่ ผู้อ่นื ทกุ สถานการณ์ แต่เกิดผล และลดปญั หาความ สถานการณ์ กระทบต่อผอู้ ่ืนบาง ขัดแย้งต่าง ๆ สถานการณ์ 2. พูดเจรจาต่อรองได้ พูดเจรจาตอ่ รองเพือ่ ยตุ ิ พดู เจรจาตอ่ รองเพ่อื ลด พดู เจรจาต่อรองยุติ พูดเจรจาต่อรองไมไ่ ด้ อย่างเหมาะสมตาม ปญั หาไดต้ ามความ ปญั หาไดต้ ามความ หรือลดปญั หาได้ในบาง สถานการณเ์ พื่อขจดั ตอ้ งการทุกสถานการณ์ ต้องการทุกสถานการณ์ สถานการณ์ และลดปัญหาความ ขดั แยง้ ต่าง ๆ ตัวชว้ี ดั ที่ 3 เลอื กรับหรอื ไมร่ บั ขอ้ มูลข่าวสาร ระดับคณุ ภาพ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยีย่ ม(3) ด(ี 2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ขน้ั ปรับปรงุ (0) ต่ำ(1) 1. รบั รู้ข้อมูลข่าวสารที่ รบั รขู้ อ้ มลู ข่าวสารทีเ่ ปน็ รบั รู้ข้อมลู ข่าวสารท่เี ปน็ รับรู้ข้อมลู ขา่ วสารท่ี ไม่รับรขู้ ้อมูลขา่ วสาร เปน็ ประโยชน์ ประโยชน์จากแหลง่ ตา่ ง ประโยชนจ์ ากแหล่งตา่ ง ๆ เป็นประโยชนจ์ าก ท่เี ป็นประโยชน์จาก ๆ ไดถ้ ูกตอ้ งและ ได้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม แหล่งตา่ งๆ ตามท่ี แหลง่ ตา่ ง ๆ 2. ตดั สนิ ใจเลอื กรับ เหมาะสมดว้ ยตนเองทุก ดว้ ยตนเองเป็นบางคร้งั ไดร้ บั มอบหมาย หรอื ไมร่ บั ข้อมูลข่าวสาร ครั้ง ตดั สินใจเลอื กรับ ไดอ้ ย่างมเี หตผุ ล ตดั สนิ ใจเลอื กรับ หรอื ไม่ ตดั สนิ ใจเลือกรับ หรือไม่ ตดั สนิ ใจเลือกรับ หรอื ไมร่ ับ ขอ้ มูล รับ ขอ้ มูลข่าวสาร จาก รับ ข้อมูลขา่ วสาร จาก หรือไมร่ ับ ข้อมลู ข่าวสาร จากแหลง่ แหลง่ ตา่ งๆ โดยระบุ แหลง่ ตา่ งๆ โดยระบุ ขา่ วสาร จากแหล่ง ต่างๆ โดยไม่ เหตผุ ลได้อยา่ ง เหตผุ ลได้อย่าง ต่างๆ โดยระบุ คำนึงถงึ เหตุผล สมเหตสุ มผลทุกครั้ง สมเหตุสมผลเกอื บทุกครง้ั เหตผุ ลไดอ้ ย่าง สมเหตุสมผลบางคร้ัง

ตัวช้วี ดั ที่ 4 เลอื กใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สาร ระดบั คณุ ภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม(3) ดี (2) พอใช้/ผา่ นเกณฑ์ขั้น ปรบั ปรุง(0) ต่ำ(1) ไมส่ ามารถเลอื กใช้ 1. เลือกใช้วธิ กี าร เลอื กใชว้ ิธีการสื่อสาร ท่ี เลอื กใชว้ ิธีการสื่อสาร ที่ เลอื กใชว้ ิธกี ารสื่อสาร วิธกี ารสือ่ สาร ได้ สื่อสารทม่ี ี ทำใหเ้ กิดความเหมาะสม ทำใหเ้ กดิ ความเหมาะสม ไดโ้ ดยไมเ่ กดิ ประสิทธภิ าพ โดย และคมุ้ ค่าโดยไมเ่ กิด โดยไม่เกดิ ผลกระทบตอ่ ผลกระทบตอ่ ตนเอง คำนงึ ถึงผลกระทบท่มี ี ผลกระทบต่อตนเองและ ตนเองและสังคม หรอื สังคม ต่อตนเองและสังคม สังคม สมรรถนะที่ 2 ความสามารถในการคิด ตวั ชว้ี ัดที่ 1 คิดพนื้ ฐาน (การคิดวิเคราะห์) ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ย่ียม (3) ดี(2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ข้ัน ปรบั ปรงุ (0) ตำ่ (1) 1. จำแนกขอ้ มูล จัด มพี ฤติกรรมบ่งชี้ ดงั นี้ มพี ฤติกรรมบง่ ช้ี 3 มพี ฤติกรรมบ่งชี้ 1 หมวดหมู่ จดั ลำดบั 1. จำแนกขอ้ มูลได้ พฤตกิ รรม มีพฤตกิ รรมบ่งชี้ 2 พฤติกรรม หรือไมม่ ี ความสำคญั ของขอ้ มูล 2. จัดหมวดหมู่ขอ้ มลู ได้ พฤติกรรม เลย และเปรยี บเทียบ 3. จัดลำดับความสำคญั ขอ้ มูลในบรบิ ททเ่ี ป็น ของขอ้ มูลได้ เชือ่ มโยงความสัมพนั ธข์ อง เชอ่ื มโยงความสัมพนั ธ์ เชอื่ มโยง สง่ิ ใกลต้ วั 4. เปรียบเทยี บขอ้ มลู ได้ ความสัมพนั ธข์ อง 2. เชื่อมโยง เชอ่ื มโยงความสัมพนั ธ์ ข้อมลู ต่าง ๆ กับ ของขอ้ มลู ตา่ ง ๆ กับ ขอ้ มลู ต่าง ๆ กบั ความสมั พนั ธ์ ของข้อมูล ต่าง ๆ กบั เหตุการณ์ ทพ่ี บเห็น ของข้อมลู ท่พี บเหน็ ใน เหตุการณท์ ีพ่ บเห็นใน เหตกุ ารณ์ทพ่ี บเห็นใน เหตกุ ารณ์ท่พี บเห็นใน ใชวี ิตประจำวันตำ่ บริบททเี่ ป็นสง่ิ ใกลต้ ัว ชวี ิตประจำวนั ไดอ้ ย่าง กวา่ รอ้ ยละ 40 ของ ถกู ตอ้ ง ร้อยละ 80 ขึ้น ชีวติ ประจำวันไดไ้ ดร้ อ้ ยละ ชีวติ ประจำวันได้รอ้ ย จำนวนครง้ั ทีป่ ฏิบตั ิ ไปของจำนวนคร้ังที่ ปฏิบตั ิ 60-79 ของจำนวนครงั้ ท่ี ละ 40-59 ของ ปฏิบัติ จำนวนคร้งั ทป่ี ฏิบตั ิ

ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม (3) ดี(2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ข้นั ปรับปรุง(0) ต่ำ(1) 3. ระบรุ ายละเอยี ด ระบรุ ายละเอียด ระบุรายละเอยี ด ระบุรายละเอยี ด คณุ ลกั ษณะ และ คณุ ลักษณะ และ คณุ ลักษณะ และ ระบุรายละเอียด คณุ ลกั ษณะ และ ความคดิ รวบยอดของ ความคดิ รวบยอดของ ความคดิ รวบยอดของ คณุ ลกั ษณะ ความคิดรวบยอดของ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ทพี่ บเหน็ ข้อมูลตา่ งๆ ท่พี บเห็นใน ขอ้ มูลตา่ งๆ ทพ่ี บเห็นใน และความคิดรวบยอด ข้อมูลตา่ งๆ ทพ่ี บเหน็ ในบรบิ ทท่ีเป็นส่ิงใกล้ ชวี ติ ประจำวนั ได้ถูกตอ้ ง ชวี ติ ประจำวันไดถ้ ูกตอ้ ง ของขอ้ มูลต่างๆ ทีพ่ บ ในชวี ติ ประจำวัน ตัว และครบถ้วน แต่ไม่ครบถว้ น เห็นในชีวิตประจำวนั ไมไ่ ด้ ได้ถกู ต้องเป็นบางส่วน และไมค่ รบถ้วน ตวั ชว้ี ดั ท่ี 2 คดิ ขั้นสงู (การคิดสงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ) ระดับคุณภาพ พฤติกรรมบง่ ชี้ ดีเย่ียม(3) ดี(2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ข้ัน ปรับปรุง(0) ตำ่ (1) รวบรวมขอ้ มลู จดั กระทำขอ้ มูล และนำ 1. คิดสงั เคราะห์ เพ่อื รวบรวมข้อมลู จัด รวบรวมข้อมลู จัดกระทำ รวบรวมข้อมลู จัด ขอ้ มลู ที่เกีย่ วข้อง นำไปสู่ การสรา้ งองค์ กระทำขอ้ มูล และนำ ข้อมลู และนำข้อมลู ที่ กระทำข้อมลู และนำ มาหลอมรวมกนั ไมไ่ ด้ ความรู้ หรอื ข้อมูลทเ่ี กย่ี วข้องมา เกยี่ วขอ้ งมาหลอมรวม ข้อมูลท่เี ก่ียวขอ้ ง สารสนเทศ หลอมรวม สรปุ เปน็ องค์ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ หรอื มาหลอมรวมกนั ได้ คิดริเรมิ่ สรา้ งสรรคส์ งิ่ ประกอบการตดั สินใจ ความรู้ หรอื สารสนเทศ สารสนเทศ เพ่อื วางแผน แปลกใหมใ่ นทางบวก เก่ียวกบั ตนเอง และ เพือ่ วางแผน ประกอบการตัดสินใจที่ คดิ รเิ ริ่มสร้างสรรคส์ งิ่ ไมไ่ ด้ หรือประยุกต์ สังคมได้ อยา่ ง ประกอบการตัดสินใจ เก่ียวกบั ตนเองหรือสงั คม แปลกใหมไ่ ด้ นำไปใชไ้ มไ่ ด้ เหมาะสม ท่ีเกยี่ วกับตนเองและ ได้ สังคมได้ 2. คดิ อยา่ งสรา้ งสรรค์ คดิ ริเรม่ิ สร้างสรรคส์ ิ่ง คิดรเิ รม่ิ สร้างสรรคส์ ง่ิ เพือ่ นำไปสู่การสรา้ ง แปลกใหมใ่ นทางบวก ที่ แปลกใหมใ่ นทางบวก ที่ใช้ องคค์ วามรูใ้ หม่ หรอื ใชห้ รอื นำไปประยกุ ต์ใช้ หรือนำไปประยกุ ต์ใช้ สารสนเทศ เพื่อประโยชนต์ ่อตนเอง เพ่ือประโยชน์ต่อตนเอง ประกอบการตัดสินใจ และสงั คมได้ หรือสังคมได้ เกี่ยวกบั ตนเองและ สงั คมไดอ้ ย่าง เหมาะสม

ระดบั คุณภาพ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดเี ยีย่ ม(3) ดี(2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ขน้ั ปรบั ปรงุ (0) ต่ำ(1) 3. คิดอยา่ งมี คดิ แบบองคร์ วมโดยใช้ คิดแบบองคร์ วมโดย วิจารณญาณ เหตุผล หลักฐานเชิง คดิ แบบองค์รวมโดยใช้ คิดแบบองคร์ วมโดยใช้ ใชเ้ หตผุ ล หลักฐาน เพอ่ื นำไปสู่การสร้าง ตรรกะ มาวิเคราะหส์ ิง่ เหตุผล หลกั ฐานเชงิ เหตผุ ล หลักฐานเชงิ เชิงตรรกะ มา องคค์ วามร้หู รือ ตา่ ง ๆ ให้แน่ชดั อยา่ ง ตรรกะ มาวเิ คราะหส์ ่ิงตา่ ง ตรรกะ มาวิเคราะหส์ ง่ิ วิเคราะหส์ ่งิ ตา่ ง ๆ สารสนเทศ สมเหตสุ มผล และสรุป/ ๆ อยา่ งสมเหตสุ มผล แต่ ต่าง ๆ แตไ่ ม่ อย่างสมเหตุสมผล ประกอบการตัดสินใจ ตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื ก ไม่ครอบคลมุ ทุกด้าน สมเหตสุ มผล ไม่ได้ เก่ียวกับตนเองและ ทเ่ี หมาะสมตอ่ ตนเอง สังคมไดอ้ ย่าง และสังคมได้ เหมาะสม สมรรถนะที่ 3 ความสามารถในการแกป้ ญั หา ตัวชว้ี ัดที่ 1 ใช้กระบวนการแกป้ ัญหาโดยวเิ คราะห์ปญั หา วางแผนในการแก้ปัญหา ดำเนนิ การแกป้ ญั หา ตรวจสอบแลสรปุ ผล ระดบั คณุ ภาพ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดีเยย่ี ม(3) ดี(2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ขนั้ ต่ำ ปรับปรงุ (0) 1. วิเคราะห์ปัญหา ระบปุ ัญหาต่าง ๆ ท่ีเกดิ ระบปุ ัญหาตา่ ง ๆ ที่เกิด (1) ระบปุ ัญหาท่เี กดิ ขึน้ กบั 1.1 ระบปุ ญั หาท่ี ขนึ้ กบั ตนเองทตี่ รงกับ ขน้ึ กบั ตนเองท่ตี รงกบั ตนเองไมไ่ ดห้ รอื ระบุ เกิดข้ึนกับตนเอง สภาพปัญหามากกวา่ 2 สภาพปญั หา 2 ปญั หา ระบุปญั หาต่าง ๆ ท่ีเกิด ปัญหาไดแ้ ตไ่ มต่ รง ปัญหา ขึ้นกับตนเอง ท่ี สภาพปัญหา ตรงตามสภาพปญั หา 1 ปัญหา 1.2 ระบุปัญหาที่ ระบปุ ัญหาต่าง ๆ ทเี่ กิด ระบุปญั หาตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ระบุปญั หาตา่ ง ๆ ที่เกิด ระบุปัญหาท่เี กดิ ขนึ้ กับ เกดิ ข้ึนกับบุคคลใกล้ ข้นึ กับบุคคลใกลต้ วั ท่ี ข้ึนกบั บุคคลใกลต้ วั ทต่ี รง ข้นึ กบั บคุ คลใกล้ตัวทต่ี รง บคุ คลใกลต้ วั ไมไ่ ด้หรอื ตัว ตรงกับสภาพปญั หา กับสภาพปัญหาได้ 2 กับสภาพปญั หาได้ 1 ระบปุ ญั หาไดแ้ ตไ่ ม่ตรง มากกวา่ 2 ปัญหา ปญั หา ปญั หา สภาพปญั หา 1.3 ระบุสาเหตุ ระบุสาเหตุของปญั หา ระบสุ าเหตุของปญั หาต่าง ระบสุ าเหตุของปัญหา ระบุสาเหตุของปญั หา ของปัญหา ตา่ ง ๆ ทเี่ กดิ ข้นึ ได้ ๆ ที่เกิดขน้ึ ไดส้ อดคล้อง ตา่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขึน้ ได้ ตา่ ง ๆ ท่ีเกดิ ขนึ้ ไม่ได้ สอดคลอ้ งกบั ปญั หา กับปัญหา 2 สาเหตุ สอดคล้องกับปญั หา 1 หรอื ระบสุ าเหตไุ ด้ มากกว่า สาเหตุ แต่ไมส่ อดคลอ้ ง กับ 2 สาเหตุ ปัญหา

ระดับคณุ ภาพ พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ดเี ยี่ยม(3) ดี(2) พอใช้/ผา่ นเกณฑข์ ั้นต่ำ ปรบั ปรงุ (0) (1) 1.4 จดั ระบขอ้ มลู จำแนกและจดั หมวดหมู่ จำแนกและจดั หมวดหมู่ จำแนกและจดั หมวดหมู่ จำแนกและจดั สาเหตุของปัญหาได้ สาเหตขุ องปญั หาได้ สาเหตุของปัญหาได้ หมวดหมสู่ าเหตุ 1.4.1. การจำแนก ถูกต้องทุกสาเหตุ ถูกต้อง 2 ใน 3 สาเหตุ ถูกต้อง 1 ใน 3 สาเหตุ ของปัญหาไมไ่ ดห้ รือไม่ มีการ จัด หมวดหมู่ 1.4.2. กาจดั ลำดบั มกี ารจดั ลำดบั มกี ารจัดลำดบั มีการจดั ลำดบั ไม่มีการจดั ลำดบั ความสำคญั สาเหตุของ ความสำคญั สาเหตขุ อง ความสำคญั สาเหตขุ อง ความสำคญั สาเหตขุ อง ปญั หาไดอ้ ย่าง ปัญหาไดอ้ ยา่ ง ปัญหาไดอ้ ยา่ ง ปัญหาหรอื จดั ได้ไม่ สมเหตุสมผลทกุ สาเหตุ สมเหตุสมผล 2 ใน 3 สมเหตสุ มผล 1 ใน 3 สมเหตุสมผล สาเหตุ สาเหตุ 1.4.3. เชื่อมโยง แสดงการเช่อื มโยง แสดงการเช่อื มโยง แสดงการเชอ่ื มโยง ไมม่ ีการแสดงการ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ความสมั พนั ธร์ ะหว่าง เชอ่ื มโยงความสมั พันธ์ สาเหตขุ องปัญหาและ สาเหตุของปญั หาและผล สาเหตุของปัญหาและผล ระหว่างสาเหตุ ผล ท่จี ะ ท่จี ะเกดิ ขึ้นได้โดยมขี ้อมลู ทจี่ ะเกดิ ข้ึนได้โดยมี ของปัญหาและผลที่จะ เกดิ ขึน้ ไดโ้ ดยมขี ้อมลู สนับสนุนอย่าง ขอ้ มลู สนับสนนุ อย่าง เกดิ ขน้ึ สนบั สนุนอยา่ ง สมเหตุสมผล 2 ใน 3 สมเหตสุ มผล 1 ใน 3 สมเหตสุ มผลทุกสาเหตุ สาเหตุ สาเหตุ 1.5 กำหนด กำหนดทางเลือกในการ กำหนดทางเลอื กในการ กำหนดทางเลอื กในการ กำหนดทางเลือกใน ทางเลอื ก แก้ปญั หาที่มีความเปน็ ไป แกป้ ัญหาทมี่ ีความเป็นไป แก้ปัญหาทีม่ คี วาม การแกป้ ญั หาไมไ่ ด้ ได้มากกว่า 2 วิธี ได้ 2 วิธี เปน็ ไปได้ 1 วธิ ี หรือไมม่ ีความเปน็ ไป ได้ 1.6 การตดั สนิ ใจ ตดั สนิ ใจเลอื กวิธกี าร ตดั สินใจเลอื กวธิ ีการ ตดั สนิ ใจเลือกวธิ ีการ ตดั สินใจเลือกวิธกี าร เลอื กวิธีการ แกป้ ญั หาโดยพิจารณาขอ้ ดี แกป้ ญั หาโดยพจิ ารณา แกป้ ัญหาโดยพจิ ารณา แก้ปัญหาโดยไม่ และข้อจำกัดซ่ึงไมเ่ กดิ ผล ข้อดแี ละขอ้ จำกดั และมี ขอ้ ดแี ละข้อจำกัดและมี พิจารณาขอ้ ดแี ละ กระทบในทางลบแก่ตนเอง ผลกระทบในทางลบแก่ ผลกระทบในทางลบแก่ ข้อจำกดั ทำให้เกดิ ผล และผอู้ น่ื ตนเองและผู้อ่นื ไมเ่ กิน 1 ตนเองและผอู้ ่นื 2 กระทบในทางลบแก่ ประเด็น ประเด็น ตนเองและผอู้ ื่น มากกว่า 2 ประเดน็

พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดับคุณภาพ 2. การวางแผนใน ดเี ยย่ี ม(3) ด(ี 2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑข์ น้ั ปรับปรุง(0) การแก้ปญั หา ตำ่ (1) ไมม่ ีการวางแผนใน มีการวางแผนในการ มกี ารวางแผนในการ การแกป้ ัญหา 3. การดำเนินการ แก้ปญั หาโดยใช้ขอ้ มลู และ แก้ปญั หาโดยใช้ข้อมูล มกี ารวางแผนในการ ในแกป้ ัญหา รายละเอียดประกอบการ และรายละเอยี ด แกป้ ญั หาโดยใช้ข้อมูล ไมม่ ีการปฏิบตั ิตาม วางแผนมีข้นั ตอนของ ประกอบการวางแผน และรายละเอียด แผนการแก้ปญั หาท่ี 3.1 การปฏบิ ัติ แผนงานอย่างชัดเจน และ และมีขนั้ ตอนของ ประกอบการวางแผน วางไว้ ตามแผน มขี อ้ มลู เพยี งพอ แผนงาน ปฏบิ ตั ิตามแผนการ ปฏิบตั ติ ามแผนการ ปฏิบตั ติ ามแผนการ ไมม่ ีการตรวจสอบ 3.2 การ แกป้ ญั หาทก่ี ำหนดไว้ทุก แก้ปญั หาท่ีกำหนดไว้ 2 แก้ปัญหาทีก่ ำหนดไว้ ทบทวน ตรวจสอบทบทวน ขนั้ ตอนมีข้อมูลสนับสนนุ ใน 3 ของขั้นตอนและมี 1 ใน 3 ของข้ันตอน แผน ครบถว้ นสมบรู ณ์ ข้อมูลสนับสนนุ สมบรู ณ์ และมีข้อมลู สนับสนุน ไมม่ ีการบันทึกผลการ สมบรู ณ์ ปฏิบัตงิ าน 3.3 การ มีการตรวจสอบทบทวน มกี ารตรวจสอบทบทวน มีการตรวจสอบ ไม่มกี ารสรปุ และ บนั ทึกผลการปฏิบัติ แผนและมกี ารปรับปรุง แผน และมี ทบทวนแผน รายงานผล แก้ไขข้อบกพร่องครบถ้วน การแก้ไขข้อบกพรอ่ งแต่ 4. สรปุ ผลและ สมบูรณ์ ไม่สมบรู ณ์ มกี ารบนั ทึกผลการ รายงาน บนั ทกึ ผลการปฏิบตั ิงานทกุ บนั ทึกผลการปฏบิ ตั งิ าน ปฏิบัติงานไมค่ รบทุก ข้ันตอนและ มีความชัดเจน ทกุ ข้ันตอน แต่ไม่ ขนั้ ตอน คอ่ ยชัดเจน มกี ารสรปุ ผลการ มกี ารสรปุ ผลและจัดทำ มกี ารสรุปผลและจดั ทำ ดำเนนิ งานแตไ่ ม่ได้ รายงานอย่างถูกตอ้ ง รายงาน จดั ทำรายงาน สมบูรณ์ ชดั เจน

ตวั ชว้ี ดั ที่ 2 ผลลัพธ์ของการแก้ปัญหา ระดบั คณุ ภาพ พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยยี่ ม(3) ด(ี 2) พอใช/้ ผ่านเกณฑข์ น้ั ปรบั ปรงุ (0) ตำ่ (1) 1. ผลลัพธ์ของการ ผลงาน/ชิน้ งานท่เี กิด ผลงาน/ช้ินงานทีเ่ กิดจาก ผลงาน/ช้ินงานท่เี กดิ ผลงาน/ชิ้นงานทเ่ี กดิ แกป้ ัญหา จากการแก้ปัญหามี การแกป้ ญั หามคี วาม จากการแกป้ ัญหามี จากการแก้ปญั หามี ความถกู ต้องเหมาะสม ถกู ต้องเหมาะสมบน ความถูกตอ้ ง ความถกู ต้อง บนพื้นฐานของหลกั พ้ืนฐานของหลกั เหตผุ ล เหมาะสมบนพ้นื ฐาน เหมาะสมบนพนื้ ฐาน เหตุผลและคณุ ธรรม และคณุ ธรรมอย่างนอ้ ย ของหลกั เหตผุ ลและ ของหลักเหตผุ ลและ อย่างนอ้ ยรอ้ ยละ 80 ร้อยละ 70-79 ของ คณุ ธรรมรอ้ ยละ 50- คณุ ธรรมต่ำกวา่ ร้อย ขึ้นไปของปัญหา ปญั หาท่ีแกไ้ ข 69 ของปญั หาที่ ละ 50 ลงมาของ ที่แกไ้ ข แกไ้ ข ปัญหาท่ีแกไ้ ข สมรรถนะท่ี 4 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ตัวช้วี ดั ท่ี 1 นำกระบวนการเรยี นรูท้ ่ีหลากหลายไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยีย่ ม(3) ดี(2) พอใช้/ผ่านเกณฑข์ ัน้ ปรบั ปรุง(0) ต่ำ(1) 1. นำความรู้ ทักษะ ช้นิ งาน/สิง่ ของ/เครอื่ งใช้ ชิ้นงาน/สิง่ ของ/เครือ่ งใช้ ชน้ิ งาน/ส่ิงของ/ ช้ินงาน/สง่ิ ของ/ และกระบวนการที่ ทีส่ ร้างสะท้อนถงึ การนำ เคร่อื งใช้ ทสี่ รา้ ง ไม่ หลากหลาย มาสรา้ ง หลักการ ความรู้ ทักษะ ท่ีสร้างสะท้อนถึงการนำ เครอื่ งใช้ ที่สร้าง สามารถนำมาใช้ ช้ินงาน/ส่งิ ของ/ กระบวนการท่ี แกป้ ัญหา เคร่ืองใช้ และ หลากหลายสามารถ หลักการ ความรู้ ทกั ษะ นำมาใช้แก้ปญั หาใน ในการดำเนิน สามารถนำมา นำมาใช้แก้ปญั หาในการ ชวี ิตประจำวนั ได้ แก้ปญั หา ดำเนนิ ชวี ิตประจำวันได้ กระบวนการท่ีหลากหลาย การดำเนนิ ในการดำเนนิ เหมาะสม ชวี ติ ประจำวัน และมคี ณุ ภาพ สามารถนำมาใชแ้ กป้ ัญหา ชวี ติ ประจำวนั ได้แตไ่ ม่ ได้อยา่ งเหมาะสม ในการดำเนิน สะท้อน ถงึ ชวี ติ ประจำวนั ได้เหมาะสม การนำกระบวนการ ความรู้ ท่ีหลากหลายมาใช้

ตวั ชี้วดั ที่ 2 เรยี นร้ดู ว้ ยตนเองและเรียนรอู้ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ระดับคณุ ภาพ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดีเย่ียม(3) ด(ี 2) พอใช/้ ผ่านเกณฑ์ขัน้ ปรับปรงุ (0) 1. มที กั ษะในการ คัดลอกผลงานของ แสวงหาความรู้ สบื ค้นความรู้ ข้อมูล สบื คน้ ความรู้ ขอ้ มูล ต่ำ(1) ผู้อ่ืน หรือไม่มขี ้อมลู ขอ้ มลู ข่าวสาร ข่าวสารจากแหล่งเรียนรู้ ข่าวสารจากแหลง่ เรียนรู้ จาการสบื ค้นขอ้ มลู ตา่ ง ๆ และได้ข้อมลู ตา่ ง ๆ และได้ข้อมูล สืบคน้ ความรู้ ข้อมูล ขา่ วสาร จากแหล่ง 2. เชื่อมโยงความรู้ อา้ งอิงจากแหล่งเรยี นรู้ อ้างองิ จาก ข่าวสารจากแหล่ง เรยี นรู้ มากกว่า 3 รายการ แหลง่ เรียนรูม้ ากกว่า 2 เรยี นรตู้ า่ ง และได้ 3. มีวธิ ีการใน ภายในเวลาทก่ี ำหนด รายการ ภายในเวลาท่ี ขอ้ มูลอา้ งองิ จากแหลง่ คดั ลอกความรู้ ข้อมูล การศกึ ษาความรู้ กำหนด อ้างอิงมากกว่า ขา่ วสาร ที่ไม่ เพม่ิ เตมิ เพอ่ื ขยาย มกี ารจดั กลุ่มความรู้ 1 รายการ ภายในเวลา แตกต่างจากต้นฉบับ ประสบการณไ์ ปสู่ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ท่ีได้ มีการจดั กลุม่ ความรู้ ทีก่ ำหนด การเรยี นรสู้ ิ่งใหม่ จากการสบื คน้ จำแนก ขอ้ มลู ข่าวสาร ทไ่ี ดจ้ าก มกี ารจดั กลมุ่ ความรู้ ไมป่ รากฏพฤติกรรม ตามความสนใจ เป็นประเด็นความร้เู ดมิ การสบื คน้ จำแนกเป็น ข้อมูล ข่าวสาร ทไ่ี ด้ ทีแ่ สดงถึงความ กบั ประเดน็ ทีเ่ ป็นความรู้ ประเดน็ ความรเู้ ดมิ กบั จากการสืบค้นหรือมี ต้องการในการเรยี นรู้ ใหม่ หรอื นำเสนอ ประเด็นทเี่ ปน็ ความรู้ใหม่ การนำเสนอประเดน็ ท่ี เพ่มิ เตมิ ประเดน็ ท่ีเปน็ หรอื นำเสนอประเดน็ ที่ เปน็ สาระสำคัญของ สาระสำคญั ได้อย่าง เป็นสาระสำคัญไดอ้ ยา่ ง ความรู้ข้อมลู ข่าวสาร สอดคลอ้ งนา่ เชื่อถอื ทกุ สอดคล้องน่าเชือ่ ถอื ในบาง แตไ่ มม่ ีการจำแนก ประเดน็ ประเดน็ ประเด็นความรเู้ ดมิ สบื ค้นความรู้ ข้อมูล สบื คน้ ความรู้ ขอ้ มลู กบั ประเด็นที่เปน็ ขา่ วสารเพม่ิ เตมิ จากการ ข่าวสารเพมิ่ เตมิ จากการ ความรูใ้ หม่ เรยี นร้ใู นบทเรยี น ใน เรียนรู้ในบทเรียน ใน สืบคน้ ความรู้ ข้อมูล ประเดน็ ที่สนใจด้วย ประเดน็ ท่ีสนใจ ดว้ ย ขา่ วสารเพมิ่ เตมิ จาก วธิ กี ารท่หี ลากหลาย วิธีการท่ีหลากหลาย แตไ่ ม่ การเรยี นร้ใู นบทเรยี น และนำเสนอผลการ มกี ารนำเสนอผลการ โดยการสอบถามครู สืบค้นเปน็ องค์ความรู้ สืบคน้ เปน็ องค์ความรู้ หรือผู้รเู้ พอื่ ให้ได้ เพมิ่ เตมิ จากบทเรยี น เพมิ่ เตมิ จากบทเรยี น คำตอบโดยเรว็

ตวั ชีว้ ัดท่ี 3 ทำงานและอยรู่ ่วมกันในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ระดับคุณภาพ พฤติกรรมบง่ ช้ี ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ขัน้ ปรบั ปรุง (0) 1. ทำงานด้วยตนเอง ปฏิบตั งิ านของตนโดย ปฏิบัตงิ านของตนเองได้ ตำ่ (1) ปฏบิ ตั งิ านของ สำเรจ็ โดยมีผูแ้ นะนำ ตนเองไมส่ ำเร็จ ไดส้ ำเรจ็ ตนเองไดส้ ำเรจ็ ปฏบิ ัตงิ านของตนเอง โดยมผี ูอ้ นื่ ช่วยเหลอื จนสำเร็จ 2. ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน แสดงความคดิ เหน็ ของ แสดงความคดิ เหน็ ของ รบั ฟังความคดิ เหน็ ของ มีพฤติกรรมท่ีไม่ สามารถแสดงความ ตนเอง รับฟังความ คดิ เห็นและยอมรับ คิดเห็นของผู้อนื่ ตนเอง รบั ฟังความคดิ เหน็ ผู้อน่ื สนใจรับฟังความ ความคิดเป็นผ้อู ่นื สนับสนุนหรอื คัดคา้ น ของผู้อ่นื เมือ่ ทำงาน เมอ่ื ทำงานรว่ มกบั ผู้อน่ื คดิ เห็นของผอู้ ่ืน เมือ่ ความคิดเห็นของผู้อ่นื ด้วยกิริยาวาจาท่ีสภุ าพ รว่ มกับผอู้ นื่ ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่นื และใหเ้ กยี รติ เมอ่ื ทำงานร่วมกับผู้อืน่ 3. เห็นคณุ คา่ ของการ มผี ลงานหรือการ มผี ลงานหรอื การ มผี ลงานหรือการ ผลงานหรอื การ มีชวี ิตและครอบครัวที่ แสดงออก ทสี่ ะท้อนถึง แสดงออก ที่สะท้อนถงึ แสดงออก ท่สี ะทอ้ น แสดงออกไมส่ ะท้อน อบอุ่น เปน็ สขุ ความภาคภมู ิใจของ ความภาคภมู ใิ จใน ถงึ ความภาคภมู ิใจใน ถึงความภาคภมู ิใจใน ตนเอง โดยระบปุ ระเด็น ครอบครัวของตนเอง 2 ครอบครัวของตนเอง ครอบครัวของตนเอง ทปี่ ระทับใจ ดงั นี้ ประเด็น 1 ประเดน็ 1. งานทช่ี ่วยแบง่ เบา ภาระในครอบครวั 2. ตง้ั ใจเรียนหนงั สือ โดยปฏบิ ัติงานที่ไดร้ บั มอบหมายได้อยา่ งสำเรจ็ 3. แสดงออกถึงความรัก ความกตัญญูตอ่ ผู้ปกครองในโอกาสที่ เหมาะสม

ตวั ชว้ี ัดที่ 4 จดั การกบั ปัญหาและความขดั แยง้ ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม ระดับคณุ ภาพ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยีย่ ม(3) ดี(2) พอใช้/ผ่านเกณฑ์ขน้ั ปรับปรงุ (0) ต่ำ(1) 1. รบั ร้สู าเหตุและ รับรปู้ ญั หา/ความขัดแย้ง รบั รปู้ ัญหา/ความขดั แยง้ ท่ี รบั รูป้ ญั หา/ความ ไมย่ อมรบั ปัญหา จดั การแก้ปญั หา/ ทีก่ ำลังประสบ สามารถ กำลังประสบ สามารถ ขัดแย้งทีก่ ำลังประสบ ความขดั แย้ง ความขัดแย้งได้ แกไ้ ขปัญหา ยุตคิ วาม แกไ้ ขปัญหา ลดความ ลดปญั หา ลดความ ทป่ี ระสบ ประสบความสำเรจ็ ขัดแย้งไดส้ ำเร็จดว้ ย ขดั แย้งดว้ ยตนเองโดย ขัดแยง้ โดยการใหผ้ อู้ ื่น ตนเองโดยใช้วธิ กี ารเชิง วธิ กี ารเชิงบวก ชว่ ยเหลอื บวก ตัวชี้วัดท่ี 5 ปรับตัวตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางสงั คมและสภาพแวดลอ้ ม ระดับคุณภาพ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยยี่ ม(3) ดี(2) พอใช้/ผา่ นเกณฑข์ ้ัน ปรบั ปรงุ (0) ต่ำ(1) 1. ตดิ ตามขา่ วสาร ติดตามขา่ วสารความ ไม่สนใจในการ เหตุการณป์ จั จบุ นั ของ เปล่ียนแปลงทางสงั คม ตดิ ตามข่าวสารความ ติดตามขา่ วสาร และ ติดตามขอ้ มูลขา่ วสาร สังคม และวทิ ยาการใหมๆ่ ทกุ เปลี่ยนแปลงทางสงั คม เหตกุ ารณ์ เหตกุ ารณป์ จั จบุ นั ดา้ น และวิทยาการใหม่ๆท่ีเป็น จากสอ่ื สง่ิ พมิ พ์ แล้ว ใดๆ จากส่อื ทีห่ ลากหลาย ประโยชน์ตอ่ การเรยี นจาก นำเสนอ แลว้ นำมาเสนอ ส่อื แลว้ นำมา ให้เพอ่ื นๆ รบั รตู้ ามที่ สนทนา แลกเปลย่ี น เสนอให้เพอ่ื นๆ รับรู้ ครกู ำหนด ความคดิ อย่างสมำ่ เสมอ กบั บุคคลอ่นื หรอื ผรู้ ู้ อย่างสม่ำเสมอ 2. เขา้ ใจ ยอมรับ เขา้ ใจ ยอมรบั และ ยอมรบั ความเปลยี่ นแปลง รบั รู้ความเปลยี่ นแปลง ไม่รับรคู้ วาม และปรบั ตวั ตอ่ การ ปรบั ตวั ต่อการ ทางสงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม ทางสงั คม สิ่งแวดล้อม เปลี่ยนแปลงของ เปล่ยี นแปลงทาง เปล่ยี นแปลงทางสงั คม ดำรงตนอยรู่ ว่ มกบั ผ้อู ืน่ ใน ดำรงตนอยู่กบั ผู้อน่ื ใน สังคมสภาพแวดล้อม สงั คม สภาพแวดล้อม ส่ิงแวดล้อม ดำรงตนอยู่ สงั คม ทมี่ กี าร สังคมได้ หรอื ดำรงตนตาม อยา่ งเหมาะสม รว่ มกบั ผูอ้ น่ื ในสงั คม ท่ี เปล่ียนแปลงอย่าง กระแสสังคม มีการเปล่ียนแปลงอย่าง เหมาะสมกับวัฒนธรรม ทีเ่ ปลยี่ นแปลง เหมาะสมกบั วฒั นธรรม ไทย ไทย

ตวั ช้วี ัดท่ี 6 หลกี เล่ยี งพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผู้อ่นื ระดบั คุณภาพ พฤติกรรมบง่ ชี้ ดเี ยี่ยม(3) ดี(2) พอใช/้ ผา่ นเกณฑ์ขั้น ปรับปรงุ (0) ต่ำ(1) 1. รู้จักป้องกนั เปน็ ผูม้ พี ฤตกิ รรม เป็นผู้มีพฤติกรรม ตามขอ้ เป็นผมู้ ีพฤตกิ รรม ตาม เป็นผมู้ ีพฤติกรรมไม่ หลกี เล่ียงพฤติกรรม ต่อไปนี้ 1-4 และ ขอ้ 5 หรอื ข้อ ข้อ 1-4 ครบ เสี่ยงตอ่ การเกดิ ปญั หา 1. ดูแลสขุ ภาพร่างกาย 6 หรือข้อ 7 ขอ้ ใดข้อ ตามขอ้ 1-4 สุขภาพ การลว่ ง ของตนตามหลักของ สุข หน่ึง ละเมิดทางเพศ บญั ญตั ิ อบุ ตั เิ หตุ สารเสพตดิ 2. ไมใ่ ช้สารเสพตดิ ใดๆ และความรนุ แรง ทัง้ ส้ิน 3. ไม่ก่อเหตทุ น่ี ำไปสู่ การทะเละววิ าทและ ความรนุ แรง 4. ไมม่ ีพฤติกรรมทาง เพศ 5. ประเมนิ สถานการณ์ คาดคะเน ความเสย่ี งใน สถานการณ์ตา่ งๆ อยู่เสมอ 6. มีความยดื หยุ่นทาง ความคดิ 7. มสี ุขภาพจติ ท่ีดี มี มุมมองเชิงบวก 2. จดั การกับอารมณ์ ควบคุมอารมณ์ โดยไม่ ควบคมุ อารมณ์ โดยไม่ ควบคมุ อารมณ์ โดยไม่ ควบคมุ อารมณ์ และความเครยี ดได้ แสดงความฉนุ เฉียว แสดงความฉนุ เฉียว แสดงความฉนุ เฉยี ว ความรสู้ ึก ของ ดว้ ยวธิ ีการทเ่ี หมาะสม หรือไม่พอใจดว้ ยคำพูด หรอื ไมพ่ อใจดว้ ยคำพูด หรอื ไม่พอใจดว้ ยคำพูด ตนเองไมไ่ ด้ แสดง กริ ยิ าอาการ ตอ่ หนา้ อารมณ์ ความรสู้ ึก กิริยาอาการต่อหนา้ ผูอ้ ่ืน กิรยิ าอาการ ตอ่ หนา้ ผ้อู ื่น ผู้อนื่ เมือ่ มผี ูช้ ้แี นะท้วง ของตนเองอยา่ ง ใชเ้ วลาวา่ งในการปฏิบตั ิ ใช้เวลาวา่ งเพ่ือ ผอ่ น ติง ไม่เหมาะสม กิจกรรมท่ีเป็นประโยชน์ คลายความเครยี ด เพ่ือผ่อนคลาย ความเครยี ดได้

13. การตรวจสอบ/ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะ แผนการจดั การเรยี นรู้ เพ่ือลงนามอนุมตั ิสอน ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ...................................................... .................................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ....................................................... ลงชือ่ .....................................................ผสู้ อน (นางสาวณฐั วรกาญจน์ ไชยบนั ) ............/......................../........... 14. สรปุ ผลการเรียนรู้ 1. ด้านความรู้ (พุทธิพิสัย) ผ่านเกณฑ์ คน ................% ไม่ผ่าน คน ...............................% ปญั หา อุปสรรค ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................... ................. แนวทางแก้ไข ...................................................................................................... .............................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 2. ดา้ นทกั ษะ กระบวนการ (ทักษะพิสยั ) ผา่ นเกณฑ์ คน ................% ไมผ่ ่าน คน ..................% ปัญหา อุปสรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................. .................. ................................................................................................................. ...................................................................

แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (จติ พิสัย) ผา่ นเกณฑ์ คน ................% ไมผ่ า่ น คน ..................% ปัญหา อุปสรรค ........................................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... .......................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 4. ด้านอนื่ ๆ พฤติกรรมนักเรยี น ปญั หา อปุ สรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... ......................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ............................................................................

รปู แบบ เทคนิค กจิ กรรม วธิ ีการจดั การเรียนรู้ ปญั หา อปุ สรรค ......................................................................................................................... ........................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................................. ...................................... แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... สือ่ การเรียน ปัญหา อปุ สรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... .......................................................................................................................................................... .......................... ......................................................................................................... ........................................................................... แหลง่ เรยี นรู้ ปัญหา อปุ สรรค ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................................................. .......

แนวทางแก้ไข .............................................................................................................. ...................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................... ................................................. การจดั สภาพแวดลอ้ มทางการเรยี น ปัญหา อุปสรรค ................................................................................................................................................................... ................. .................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... การวดั ผลประเมนิ ผล ปัญหา อุปสรรค ............................................................................................................................. ....................................................... .......................................................................................................................................... .......................................... ......................................................................................... ........................................................................................... แนวทางแก้ไข ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................................................................. ...... ลงชื่อ...................................................ผสู้ อน (นางสาวณัฐวรกาญจน์ ไชยบัน) ............/......................../...........










Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook