อนั ตรายที่เกดิ จากงานเชื่อมไฟฟ้ า งานเช่ือมและโลหะแผน่ เบ้ืองตน้ (20100-1004) อาจารยผ์ สู้ อน วรญั ญา ช่ืนเมือง
อนั ตรายท่ีเกดิ จากงานเชื่อมไฟฟ้ า
สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ กิดอบุ ตั ิเหต ุ 1. สาเหตจุ ากการกระทาท่ีไมป่ ลอดภยั ของบคุ คล (Unsafe Act) ถือเป็ นสาเหตใุ หญ่ คิดจานวนเป็ น 85% ของการเกดิ อบุ ตั ิเหตทุ ง้ั หมด แบ่งสาเหตทุ ี่เกิดจากความผิดพลาดของมนษุ ย์ ได้ 2 สาเหต ุคือ • การไม่ตง้ั ใจกระทา การพลงั้ เผลอ เป็ นสาเหตทุ ่ีเมื่อเกดิ ข้ึนแลว้ สามารถแกไ้ ขไดท้ นั เช่น หยบิ น็อตผิด/ขนั ไมเ่ ขา้ การหลงลืม เป็ นสาเหตทุ ี่เมื่อเกิดข้ึนแลว้ ไม่สามารถแกไ้ ขไดท้ นั เชน่ ลืมขนั น็อต/เครอ่ื งพงั
สาเหตทุ ี่ทาใหเ้ กดิ อบุ ตั ิเหต ุ • การตง้ั ใจกระทา เป็ นสาเหตทุ ี่เม่ือเกดิ ข้ึนแลว้ ไม่สามารถแกไ้ ขไดท้ นั การทาผิด คือความไม่รวู้ ่าสิ่งท่ีตง้ั ใจทานนั้ ผิด เป็ นสาเหตทุ ่ีเมื่อเกิดข้ึนแลว้ ไม่สามารถแกไ้ ขไดท้ นั การฝ่ าฝื น คือการตงั้ ใจทาอนั ตรายรา้ ยแรง (ผฝู้ ่ าฝื นมิไดม้ ีเจตนาจะกอ่ ใหเ้ กดิ อบุ ตั ิเหต)ุ เชน่ การฝ่ าฝื นไม่สวมหมวกนิรภยั ในการปฏิบตั ิงาน
สาเหตทุ ่ีทาใหเ้ กิดอบุ ตั ิเหต ุ ตวั อยา่ งเชน่ การสวมใส่ชดุ ทางานหรือ ชดุ ปฏิบัติ การที่ ไม่รัดกมุ หรอื ใสเ่ ครอ่ื งประดบั ท่ีเอ้ือให้ เกิดอบุ ตั ิเหต ุ
สาเหตทุ ่ีทาใหเ้ กิดอบุ ตั ิเหต ุ 2. สาเหตจุ ากสภาพการณท์ ่ีไมป่ ลอดภยั (Unsafe Condition) ถือเป็ นสาเหตรุ อง คิดจานวนเป็ น 15% ของการเกดิ อบุ ตั ิเหตทุ ง้ั หมด สาเหตเุ กิดจากสภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั ิงานเอ้ือต่อการเกดิ อบุ ตั ิเหต ุ ตวั อยา่ งเชน่ • พ้ืนในบริเวณปฏิบัติงานมีน้า หรอื น้ามนั หกอยู่ • การจดั ต้ังเครื่องมือ/อปุ กรณ์ ไมเ่ ป็ นระเบียบ
ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั “ความปลอดภยั ”หมายถึง สภาวะการปราศจากอบุ ัติเหตหุ รือ การพน้ ภยั รวมถึงการปราศจากอนั ตราย การบาดเจ็บ การเสี่ยงภยั หรือ การสญู เสยี “อาชีวอนามยั ”หมายถึง ศาสตรแ์ ละศิลป์ ท่ีเก่ียวกบั การป้ องกนั ส่งเสริม คมุ้ ครองและธารงไวใ้ หผ้ ปู้ ระกอบวิชาชีพมีสภาวอนามยั ท่ีสมบรู ณ์ ทงั้ รา่ งกายและปัจจยั ทางดา้ นสงั คม สภาพแวดลอ้ มในการปฏิบตั ิงาน
ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั “ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั ” หมายถึง ความปลอดภัยในการทางานโดยคานึงถึงสขุ ภาพอนามยั ของ ผปู้ ฏบิ ตั ิงานใหป้ ลอดภยั จากมลพิษต่างๆ โดยมีการนาเครอื่ งหมายความปลอดภยั มาใชใ้ นประกอบการปฏิบตั ิงานเพื่อ ส่อื ความหมายใหช้ ดั เจน ง่ายต่อความเขา้ ใจและง่ายต่อการปฏิบตั ิงาน
ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั
ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั
ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั
ความปลอดภยั ตามหลกั อาชีวอนามยั
อนั ตรายที่เกิดจากงานเชื่อมไฟฟ้ า อนั ตรายที่เกิดจากงานเช่ือมและส่ิงที่ผปู้ ฏิบัติจะตอ้ งใหค้ วามสาคญั อย่างยิ่งและศึกษารวมทั้งควรปฏิบัติตามอย่างถกู ต้องเคร่งครดั เพ่ือ ป้ องกนั มีให้เกิดอันตราย ซ่ึงจะนาความสญู เสียชีวิต ทรพั ยส์ ิน ท้ังของ ตนเองและผอู้ ่ืน อนั ตรายท่ีอาจจะเกิดข้ึนไดก้ บั ผปู้ ฏิบตั ิงานเชื่อมและเพื่อน รว่ มงาน ไดแ้ ก่
อนั ตรายจากไฟฟ้ าดดู
อนั ตรายจากไฟฟ้ าดดู การเชื่อมไฟฟ้ าหรือการใชอ้ ปุ กรณช์ ่วยงานที่ตอ้ งใช้ไฟฟ้ า บางครงั้ ผปู้ ฏิบตั ิงานไม่ระมดั ระวงั ในการใชง้ าน อาจจะนา อปุ กรณห์ รือเครื่องมือไฟฟ้ าท่ีชารดุ มาใชง้ าน ซึ่งจะมีผลทา ใหไ้ ฟฟ้ าดดู ได้ การปฏิบตั ิงานเชื่อมบางครงั้ ตอ้ งทาในบริวณ ท่ีข้ึนหรือเปี ยก ดงั นนั้ ควรสวมรองเทา้ ที่พ้ืนเป็ นยาง หรือหา อปุ กรณส์ าหรบั รองรบั
ความรอ้ นจากการเช่ือมและการกระเด็นของสะเกด็ โลหะ ขณะทาการเช่ือมช้ินงานจะเกิดความรอ้ นที่อณุ หภมู ิสงู จนทาให้โลหะเกิด การหลอมเหลว ผลของความรอ้ นจะแพรก่ ระจายไปรอบ ๆ งานเช่ือม ซ่ึงมี ผลโดยตรงต่อรา่ งกาย ผิวหนงั ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายขณะเดียวกนั จะมี สะเกด็ โลหะกระเด็นออกมาดว้ ยดงั นนั้ กอ่ น ปฏิบตั ิงานควรสวมชดุ ป้ องกนั ความรอ้ นซ่ึง ไดแ้ ก่ เส้ือกนั ความรอ้ น ปลอกแขน ถงุ มือ หนา้ กากเช่ือมเพื่อป้ องกนั อนั ตรายที่เกิดข้ึน จากงาน
อนั ตรายจากรงั สเี ชื่อม เป็ นการจดั สภาพแวดลอ้ มในการทางานไม่ใหเ้ กิดมลพิษหรือเป็ นอนั ตราย ต่อผปู้ ฏิบตั ิงาน รงั สีที่เกิดข้ึนจากการเชื่อมไฟฟ้ ามี 3 ชนิด ดงั น้ี • รงั สีอลั ตราไวโอเลต (Ultraviolet)เป็ นรงั สีท่ีมีลกั ษณะเป็ นแสงม่วง ถา้ มี ความเขม้ สงู จะมีผลทาใหเ้ น้ือเย่ือบนุ ยั นต์ าและผิวหนงั ไหมอ้ ย่างรวดเร็ว ซ่ึงอาจส่งผลใหเ้ กิดเย่ือตาเกิดการอกั เสบและอาจเกิดมะเร็งผิวหนงั ได้ ดงั นนั้ ช่างเช่ือมตอ้ งสวมเคร่ืองป้ องกนั ใบหนา้ แขน คอและส่วนต่างๆ ของรา่ งกาย
อนั ตรายจากรงั สีเชื่อม • รงั สีอินฟราเรด (Infrared Rays) เป็ นรงั สีที่มีลกั ษณะเป็ นแสงสแี ดงเขม้ ถา้ เขา้ ส่นู ยั นต์ าจะทาใหเ้ ย่ือตาเกิดการอกั เสบและถา้ สะสมนาน ๆ เขา้ จะมีผลทาให้ เกิดเป็ นตอ้ กระจก รงั สอี ินฟราเรดจะมีอนั ตรายรา้ ยแรงท่ีสดุ
อนั ตรายจากรงั สเี ชื่อม • แสง เป็ นแสงที่ไม่สามารถมองเห็นไดด้ ว้ ยตาเปล่า เมื่อมีการอาร์กและ ไม่มีการป้ องกนั ที่ดีจะเขา้ ส่นู ยั นต์ า ทาให้ตาพร่ามัวและมองไม่เห็น ชว่ั ขณะ รงั สีท่ีกล่าวมาน้ี ตอ้ งเกิดทกุ ครง้ั ในขณะที่ปฏิบตั ิงานเช่ือม เพ่ือเป็ น การป้ องกนั และลดอนั ตรายใหน้ อ้ ยลง ควรสวมใสอ่ ปุ กรณป์ ้ องกนั การเกิด รงั สีจากการเชื่อม
อนั ตรายจากการระเบิดของช้ินงาน ช้ินงานที่จะนามาเชื่อมบางครง้ั จะมีส่ิงท่ีติดไฟ หรอื สิ่งท่ีทาใหร้ ะเบิดได้ เช่น ถงั บรรจเุ ช้ือเพลิง เป็ นตน้ เนื่องจากก่อนการเช่ือมลา้ งทาความสะอาดไม่ดี พอ การหลกี เล่ียงจากการระเบิดสามารถปฏบิ ตั ิไดด้ งั น้ี “โดยวิธีการเติมน้าในถงั แทนท่ีอากาศ ” ถ้าเป็ นถัง ท่ีมีขนาดใหญ่ จะเช่ือมไดใ้ นบางส่วนเท่านนั้ แต่ถา้ เป็ นถงั ขนาดเล็กสามารถ พลกิ ใหแ้ นวเชื่อมอยใู่ นตาแหนง่ สามารถเชื่อมไดถ้ นดั ในขณะเช่ือมตอ้ งมีช่อง ระบายอากาศที่อยภู่ ายในถงั ตลอดเวลา
อนั ตรายจากการระเบิดของช้ินงาน “การอดั แกส๊ เฉื่อยเขา้ ถงั กอ่ นการเชื่อม ” ในกรณีท่ีวสั ดเุ ช้ือเพลิงเบากว่าอากาศใหอ้ ดั แกส๊ เฉื่อยเขา้ ดา้ นบนและมีช่อง ระบายอากาศอยดู่ า้ นบนเช่นเดียวกนั ในกรณีท่ีวสั ดเุ ช้ือเพลิงหนักกว่าอากาศ ช่องอัดแก๊สเฉื่อยควรอย่ดู ้านล่างและช่องระบายอากาศควรอย่ดู ้าน บน ลกั ษณะการอดั แกส๊ เฉื่อย
อนั ตรายจากควนั พิษ การเช่ือมโลหะหลายชนิดจะก่อใหเ้ กิดแกส๊ และควนั ท่ีเป็ นอนั ตราย ซึ่งเป็ น ออกไซดเ์ ล็ก ๆ ท่ีเกิดจากการเช่ือม นอกจากนน้ั แลว้ ฟลกั ซห์ ้มุ ลวดเชื่อม แกส๊ ที่ใชใ้ นการเช่ือมก็จะกอ่ ใหเ้ กดิ แกส๊ พิษ ท่ีมีกลิ่นเหม็นกอ่ ความราคาญ และทาอันตรายต่อสขุ ภาพเช่นกัน ชนิดของควันพิษท่ีอันตรายจาก ควนั พิษเกิดจากการเช่ือมโลหะ
เครอื่ งมือและอปุ กรณใ์ นการเช่ือมไฟฟ้ า หวั จบั ลวดเช่ือม หนา้ กากเชื่อม สายเช่ือม แปรงลวด คีมจบั งานรอ้ น คอ้ นเคาะสแลก ชดุ อปุ กรณป์ ้ องกนั รา่ งกาย เครอ่ื งเชื่อม
หวั จบั ลวดเชื่อม ใชส้ าหรบั จบั ลวดเชื่อมใหอ้ ยู่ ในตาแหน่งท่ีต้องการ และ เป็ นมือถือขณะทาการเช่ือม พ ร้ อ ม ทั้ ง เ ป็ น ตั ว น า กระแสไฟฟ้ าจากสายเชื่อม นาไปสลู่ วดเชื่อม
หนา้ กากเช่ือมไฟฟ้ า ป้ องกนั นยั นต์ า ป้ องกนั หนา้ และป้ องกนั ศีรษะจากสะเก็ด โลหะหรอื ประกายไฟจากการ เชื่อม ทาจากวัสดทุ นความ รอ้ น น้าหนกั เบา
สายเชื่อม เป็ นสายท่ีต่อจากเครอ่ื งเชื่อม ไ ป สู่ช้ิ น ง า น มี ห น้า ที่ น า ก ร ะ แ ส ไ ฟ ฟ้ า ท่ี ผ ลิ ต จ า ก เคร่อื งเชื่อมไปส่บู รเิ วณอารก์ แ ล ะ ส า ย เ ชื่ อ ม ที่ ใ ช ้ใ น ว ง จ ร เชื่อมนนั้ มีอยู่ 2 สาย คือ สาย ดิน และสายเช่ือม
แปรงลวด ใ ช้ส า ห รับ ขัด ช้ิ น ง า น ใ ห้ สะอาดท้ังก่อนและหลงั การ เชื่อม เพ่ือขจัดส่ิงสกปรก ส แ ล ก ท่ี ต ก ค ้า ง ใ ห ้เ ห็ น แ น ว เชื่อมไดช้ ดั เจน ขนแปรงทา ดว้ ยเหล็กหรอื ทองเหลือง
คีมจบั งานรอ้ น ใช้สาหรับคีบงานรอ้ นจาก การเชื่อม เพราะช้ินงานจะ รอ้ นมาก ไม่สามารถจบั ดว้ ย มื อ คี ม จั บ ง า น ร้ อ น จึ ง ออกแบบใหม้ ีลกั ษณะคมยาว
คอ้ นเคาะสแลก ใช้ทาการเคาะสแลกเม่ื อ ส้ินสดุ จากการเช่ือม ปลาย ดา้ นหน่ึงแบนคลา้ ยสกดั และ อีกด้านหนึ่ งแหลมเพื่อใ ช้ เคาะสแลกท่ีฝั งตัวอย่ลู ึกใน แนวเช่ือม ด้ามจับทาด้วย เหลก็ สปรงิ
ชดุ อปุ กรณป์ ้ องกนั เป็ นชดุ ที่สวมใส่เพ่ือป้ องกนั อัน ต ร า ย ที่ เ กิ ด ข้ ึ น จ า ก ก า ร เช่ือม ประกอบด้วยถงุ มือ หนัง เส้ือหนัง ปลอกแขน สนบั แขง้ หนงั รองเทา้ นิรภยั กางเกงหนงั หมวกหนงั
การป้ องกนั อนั ตรายจากการปฏบิ ตั ิงาน ช่างเชื่อมไฟฟ้ า ตอ้ งไม่ประมาทกบั ไฟฟ้ า การไหลของกระแสไฟฟ้ าจะเกิดข้ึนเมื่อวงจรไฟฟ้ าถกู เช่ือมเขา้ ดว้ ยกนั ความแรงของกระแสไฟฟ้ าท่ีไหลผ่านนนั้ ข้ึนอย่กู บั ความตา้ นทานของตวั นา หากความตา้ นทานต่า กระแสจะสงู ตราบใดที่ประกายไฟอารก์ ติดอย่แู สดงว่าวงจรไฟฟ้ าถกู ต่อเช่ือมเขา้ ดว้ ยกนั อนั ตรายจะไม่เกิดแก่ผู้เชื่อม แต่เมื่อ ประกายไฟอารก์ หยดุ ลงและเครื่องเชื่อมยงั คงทางานอยู่ แมว้ ่าเครื่องเช่ือมไฟฟ้ ากระแสสลบั จะมีแรงดนั ประมาณ 70 V หรอื เครื่องเชื่อมไฟฟ้ ากระแสตรง จะมีแรงดนั ไฟประมาณ 100 V (อาจสงู กว่า) การเช่ือมดว้ ยหมอ้ แปลงไฟ กระแสสลบั ซึ่งขวั้ ไฟเปลยี่ นแปลงตลอด เวลานน้ั อนั ตรายมากกว่ากระแสตรง อาจถึงแกช่ ีวิตเมื่อมีการสมั ผสั กบั ลวด เช่ือม โดยเฉพาะอยา่ งย่ิง หากรา่ งกายของผสู้ มั ผสั เปี ยกแฉะดว้ ยเหงื่อหรือน้า และยืนอยบู่ นพ้ืนซึ่งเป็ นตวั นาไฟฟ้ าท่ี ไปเช่ือมต่อกบั ขว้ั สายดินของเคร่ือง ซึ่งทาใหเ้ กดิ การต่อเช่ือมวงจรเขา้ ดว้ ยกนั เราไม่ควรใหน้ ้าหนกั กบั อนั ตรายไปอยู่ ที่แรงดนั ไฟฟ้ าต่าอยา่ งเดียว แต่ควรตระหนกั เรอื่ งกระแสไฟฟ้ าสงู ดว้ ย แรงดนั ไฟฟ้ าเพียง 70 V อาจสง่ ผลถึงชีวิต ได้ ถา้ รา่ งกายเปี ยกช้ืน เพราะจะมีความตา้ นทานต่า มาตรการป้ องกนั ง่ายๆ คือ หาแผน่ ยางหรอื แผน่ ไมม้ ารองรบั เพื่อตดั การเช่ือมต่อวงจรไฟฟ้ า ผปู้ ฏิบตั ิงานควรสวม ถงุ มือท่ีแหง้ เป็ นประจา เพราะมือที่เปี ยกช้ืน เป็ นส่ือนาไฟฟ้ าที่ดีกว่า ควรใชส้ ายไฟที่ฉนวนห้มุ ไม่เสียหายชารดุ ไม่ เฉพาะกบั สายที่ต่อจากไฟบา้ นเขา้ เครอ่ื ง แต่สายเช่ือมก็ตอ้ งดีดว้ ย และควรหลกี เลย่ี งงานเชื่อมกลางฝน
เครอื่ งมือชว่ ยงานที่ใชใ้ นงานเช่ือม การปฏิบตั ิงานเชื่อมจะตอ้ งมีเครือ่ งมือท่ีใชส้ าหรบั ช่วยงาน เพ่ือใชเ้ ตรียมงาน ก่อนการเชื่อม เน่ืองจากบางครง้ั ช้ินงานท่ีจะทาการเช่ือมอาจจะต้องตกแต่ง หรือ เตรียมผิวหนา้ ใหก้ ารเช่ือมทาไดง้ ่ายและมีคณุ ภาพสงู เช่นการเตรียมให้ ไดต้ ามขนาดในแบบ การทาความสะอาดผิวงาน การเตรียม หรอื ตกแต่งรอ่ ง บาก เป็ นตน้ ดงั นนั้ จึงจาเป็ นตอ้ งมีเครื่องมือช่วยงานใหค้ รบถ้วน เครื่องมือ ชว่ ยงานมีหลายชนิด ท่ีใชก้ นั อยเู่ ป็ นประจามีดงั น้ี
ตะไบแบน (Flat Files) เหมาะสาหรบั การตะไบงานที่ มีพ้ืนที่ผิวงานกว้าง ๆ โดย ใชต้ ะไบ ลดขนาดช้ินงานหรือ ตะไบปรับแต่งผิวหน้าของ ช้ินงานใหเ้ รยี บ
เครอ่ื งเจียรนยั มือ (Grinding) เครื่องเจียรนยั มือจะมีหลาย ขนาด ตอ้ งเลือกใหเ้ หมาะสม กบั ลกั ษณะงาน ขณะไม่ควร ถอดการด์ ป้ องกันสะเก็ดฟ ออก เนื่ องจากสะเก็ดไฟ อาจจะกระเต็นโดนร่างกาย เข้าส่นู ัยต้องสวมแว่นตา นิรภยั ขณะใชห้ ินเจียรนยั ดว้ ย
เทคนิคการประกอบเครอื่ งเช่ือม 1. เตรยี มเครอื่ งเชื่อมท่ีใช้ 2. เตรยี มอปุ กรณป์ ระกอบเครอื่ งเช่ือม 3. เตรยี มอปุ กรณป์ ้ องกนั อนั ตรายสว่ นบคุ คล 4. เตรยี มช้ินงานทดลองการอารก์ 5. เตรยี มเครอ่ื งมือชว่ ยงาน 6. การต่อวงจรเชื่อมแบบ DCEN 7. การต่อวงจรแบบ DCEP
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: