เรื่ อง นอนๆ
สารบัญ ความสำคัญของการนอน..................1 ความเข้าใจเกี่ยวกับการนอนหลับ.......2 ปัญหาการนอนหลับ.........................3 หลักการทั่วไปเกี่ยวกับการนอนหลับ...4 ระยะเวลาในการนอน........................5 คุณภาพของการนอน......................6 เวลาเข้านอน-ตื่นนอน......................7 อาการนอนหลับผิดปกติ..................8 รักษาอาการ ................................15
ความสำคัญของการนอน การนอนหลับมีความสำคัญต่อร่างกาย สมอง แม้กระทั่งจิตใจ โดยเราจะสังเกตได้ว่า วันใดก็ตามที่เราอดนอน สมองจะไม่ค่อย แล่น คิดอะไรไม่ค่อยออก มักใช้เวลานานกว่า ปกติในการทำอะไรก็ตาม ส่วนเรื่องอารมณ์ก็ ไม่ค่อยจะปกตินัก โดยอาจมีเรื่องไม่เข้าใจกัน กับคนในบ้านโดยไม่สมเหตุสมผล
ความเข้าใจเกี่ยวกับการ นอนหลับ ความเข้าใจเกี่ยวกับการนอนหลับ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคนเรานอนเพียงแค่เพื่อการ พักผ่อนหลังจากทำงานมาเหน็ดเหนื่อยทั้งวัน ด้วยเหตุผลนี้จึงมีคนหลายคนนอนกลางวันหลัง จากอ่อนเพลียจากการทำงานช่วงเช้า โดยไม่รู้ว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการนอน หลับในช่วงกลางคืน บางคนเข้าใจผิดว่ายิ่งนอน มากยิ่งดี อันที่จริงการนอนมากเกินไปกลับมีผล เสียด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลนี้การทำความเข้าใจเกี่ยว กับการนอนหลับน่าจะมีผลดีในการนำความรู้ดัง กล่าวไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ปัญหาการนอนหลับ ปัญหาการนอนหลับโดยทั่วไปพบได้ค่อนข้างบ่อย โดยบางนครรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ลอสแองเจลิส พบอัตราความชุกของ การนอน หลับผิดปกติ (sleep disorders) ถึง 52.1% โดยพบภาวะนอนไม่หลับ (insomnia) ถึง 42.5% นอกจากนั้นยังพบนอนหลับฝันร้าย (nightmares) 11.2% และ ง่วงนอนผิดปกติ (excessive sleep) 7.1% โดยอาการนอนไม่ หลับพบบ่อยในคนไข้สูงอายุโดยเฉพาะอย่างยิ่งใน เพศหญิง ส่วนในประเทศไทยเองก็ได้มีการศึกษา ความชุกของการเกิดปัญหาเกี่ยวกับการนอน หลับของชาวไทยที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยอ.ดร.ปุณฑริกา สุวรรณประเทศ ภาควิชา สรีรวิทยา ศูนย์นิทรรักษ์ศิริราช คณะ แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ผลการศึกษาพบ การหยุดหายใจเนื่องจากการอุดกั้นทางเดิน หายใจในขณะนอนหลับ (sleep disordered breathing) 4% ของผู้ที่ได้รับการสัมภาษณ์
หลักการทั่วไปเกี่ยวกับการ นอนหลับ การนอนหลับไม่ได้ขึ้นอยู่แค่จำนวนชั่วโมงในการนอน ความลึก ของการนอนหลับกับเวลาที่เข้านอนก็มีความสำคัญ ยก ตัวอย่างง่าย ๆ บางคนอาจเคยสังเกตว่า ถึงแม้จะนอนเป็น ระยะเวลาที่เพียงพอ แต่ถ้านอนหลับ ๆ ตื่น ๆ กลิ้งไปกลิ้งมาทั้ง คืน ตื่นขึ้นมาก็ไม่ได้รู้สึกสดชื่นเท่าที่ควร มาดูเรื่องสำคัญเกี่ยว กับการนอน ได้แก่ ระยะเวลาในการนอน (duration) คุณภาพของการนอน (quality) เวลาเข้านอน – ตื่นนอน (sleep – wake time)
ระยะเวลาในการนอน โดยทั่วไประยะเวลาในการนอนที่เหมาะสมนอกจาก จะขึ้นอยู่กับอายุแล้ว ยังแตกต่างกันในแต่ละ บุคคล โดยทั่วไปเด็กต้องการระยะเวลาในการ นอนมากกว่าผู้ใหญ่
คุณภาพของการนอน ถ้าคนเรานอนหลับไม่ลึกพอ โดยส่วนใหญ่จะรู้สึก ไม่สดชื่นเวลาตื่นขึ้นมาตอนเช้า (unrested sleep) ระบบความจำอาจไม่สามารถทำงานได้ อย่างเต็มที่ ทำให้จำอะไรที่เรียนรู้มาไม่ค่อยได้ดี นัก
เวลาเข้านอน – ตื่นนอน บางคนที่เปลี่ยนเวลาเข้านอนบ่อย เช่น นอนดึก ตื่นสายช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ มักจะมีปัญหา เรื่องการนอนในวันที่เริ่มทำงาน ในช่วงต้นของ สัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันจันทร์ เนื่องจากจะ ต้องปรับตัวให้ตื่นเช้าขึ้น โดยอาจส่งผลให้มี อาการง่วงนอนในช่วงเวลาทำงานในตอนกลางวัน และถ้าในวันนั้นง่วงมากทนไม่ไหวจนต้องนอน หลับในช่วงเย็นก็อาจมีผลให้นอนไม่ค่อยหลับใน คืนนั้น
อาการนอนหลับผิดปกติ นอนกรน (Snoring) ถึงแม้ว่าคนเราอาจมี แค่อาการกรนอย่างเดียวโดยไม่มีอาการอื่ น ๆ ร่วมด้วย (primary snoring) อาการกรน เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนไข้ obstructive sleep apnea ซึ่งมีผลต่อ สุขภาพร่างกายในระยะยาว เช่น cardiovascular problems, metabolic syndrome และอื่น ๆ
หยุดหายใจในขณะนอนหลับ (Sleep Apnea)เป็นอาการที่พบในคนไข้ obstructive sleep apnea ที่สำคัญ อาการนี้อาจจะสังเกตได้ยาก ถ้าไม่มีอาการ อื่นร่วมด้วย เช่น สำลักขณะนอนหลับ (waking up choking) ตื่นขึ้นมากลางดึก อย่างกะทันหันเพื่อหายใจ (waking up gasping) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าคนไข้นอน คนเดียวไม่มีคนนอนข้าง ๆ ค่อยสังเกตให้
ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อปัสสาวะ (Nocturnal Urination) ถึงแม้อาการนี้พบได้บ่อยใน คนไข้เบาหวาน อาการนี้ก็สามารถพบได้เช่น กันในคนไข้ obstructive sleep apnea โดยเชื่อว่าอาจจะเกิดจากหัวใจสูบฉีดเลือด เพิ่มขึ้นหลังคนไข้ดังกล่าวหยุดหายใจ ซึ่ง เป็นการตอบสนองอย่างหนึ่งในช่วงดังกล่าว (bradycardia-tachycardia) ด้วยเหตุนี้ เลือดไปที่ไตเพิ่มขึ้น จึงมีผลทำให้มีน้ำ ปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะมากขึ้นในขณะ นอนหลับ โดยในขณะเดียวกัน obstructive sleep apnea เอง ก็ทำให้คนไข้นอนหลับไม่ ค่อยลึกพอ จึงทำให้คนไข้สามารถรับรู้ถึง อาการปวดปัสสาวะ
ปวดศีรษะหลังจากเพิ่งตื่นนอนตอนเช้า (Morning Headache) คนไข้ที่มีอาการ hypoventilation ขณะนอนหลับจะไม่ สามารถขับถ่าย carbon dioxide ออกจาก ร่างกายได้อย่างเพียงพอ มีผลทำให้เส้น เลือดเเดงในสมองขยายตัวจาก respiratory acidosis จึงทำให้มีอาการ ปวดศีรษะซึ้งอาการดังกล่าวจะเห็นได้ชัดใน ช่วงเช้า ๆ
ขาขยุกขยิก (Restless Legs) พบได้ในคนไข้ Restless leg syndrome โดยคนไข้ใน กลุ่มนี้จะมีความรู้สึกผิดปกติที่ขา ทำให้ต้อง ขยับไปมา เพื่อทำให้อาการดังกล่าวทุเลาลง อาการนี้มักเกิดในช่วงค่ำ ๆ โดยอาจพบ อาการนี้ได้ในคนไข้โลหิตจาง (Iron deficiency) ในช่วงขณะตั้งครรภ์ (pregnancy) คนไข้โรคไตวาย (chronic renal failure) และโรคอื่น ๆ
ขาขยับไปมาขณะนอนหลับ (Periodic Limb Movement During Sleep) เป็นอาการที่ ไม่เฉพาะเจาะจง สามารถพบร่วมได้ในคนไข้ Restless leg syndrome, Narcolepsy, Obstructive sleep apnea และโรคอื่น ๆ
ง่วงนอนผิดปกติในช่วงเวลากลางวัน (Excessive Daytime Sleepiness) เป็น อาการที่มีความสำคัญมากที่ต้องรีบตรวจหา สาเหตุและรับการรักษา เนื่องจากอาการนี้ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ยาน พาหนะ หรือจากการทำงาน อาการนี้โดย ทั่วไปพบได้ในโรคอะไรก็ตามที่ทำให้คนไข้นอน หลับพักผ่อนได้ไม่เพียงพอหรือไม่ลึกพอ (sleep fragmentation) ซึ่งสามารถเกิดได้ ในโรคต่าง ๆ เช่น insomnia, obstructive sleep apnea, narcolepsy และอื่น ๆ
Cognitive Dysfunctions คนไข้ที่นอนไม่ เพียงพอหรือมีปัญหาเรื่องการนอนหลับอาจ มีผลต่อหน้าที่การทำงานของสมอง รวมทั้ง ความทรงจำทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวถ้า ไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
รักษาอาการและโรคการ นอนหลับผิดปกติ การรักษาอาการและโรคการนอนหลับผิดปกติ (Treatment) ขึ้น อยู่กับชนิดของโรคการนอนหลับผิดปกติ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ วินิจฉัยสาเหตุของโรคและรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ อย่างไรก็ตามความ ผิดปกติบางอย่าง นอกจากต้องรักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจต้องการ รักษาที่ตัวอาการด้วยอาการดังกล่าว ได้แก่ อาการนอนไม่หลับ เรื้อรัง (chronic insomnia) การรักษาความผิดปกติเกี่ยวกับการ นอนหลับมีหลักการเหมือนกับการรักษาโรคอื่น ๆ
การรักษาโดยไม่ใช้ยา (Non-pharmacologic therapy) การรักษาโดยใช้ยา (Pharmacologic therapy) หรืออาจสามารถแบ่งเป็น การรักษาที่สาเหตุ (specific treatment) การรักษาอี่น ๆ ร่วมด้วย (supportive treatment)
ในขณะที่ได้รับการรักษา สิ่งที่สำคัญพอ ๆ กันคือ ความสม่ำเสมอของการรักษา (treatment compliance) และการติดตามการรักษาอย่าง ต่อเนื่อง (regular follow-up) ยกตัวอย่างเช่น การรักษาคนไข้ obstructive sleep apnea ด้วย positive airway pressure therapy ได้แก่ CPAP ปัญหาที่สำคัญคือ คนไข้ส่วนหนึ่งไม่ ค่อยรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง (non- adherence) เนื่องจากเหตุใดก็ตาม เช่น คนไข้ บางคนรู้สึกอึกอัดในขณะสวมหน้ากากของเครื่อง CPAP จึงไม่ใช้เครื่อง CPAP อีกต่อไป โดยไม่ ทราบว่ามีวิธีแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น เปลี่ยน ชนิดของหน้ากากให้เหมาะสม หรือในบางคนการ สวมหน้ากากก่อนนอนระยะหนึ่งโดยยังไม่เปิด เครื่อง CPAP สามารถช่วยให้คนไข้รู้สึกคุ้นเคย กับสภาวะดังกล่าว ในขณะที่นอนหลับโดยเครื่อง CPAP กำลังทำงาน
zzzzzzzzzz
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: