Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เทคโนโลยีดิจิตัล

เทคโนโลยีดิจิตัล

Published by Nutdanai Tora, 2021-04-29 04:34:50

Description: 1. ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิตัล
2. Big Data
3. IOT
ณัฐดนัย โทรา ส.1-12 เลขที่ 10

Search

Read the Text Version

เทคโนโลยดี ิจิทลั (Digital literacy) คอื อะไร ทกั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทลั หรือ Digital literacy หมายถงึ ทกั ษะในการนาเครื่องมือ อปุ กรณ์ และ เทคโนโลยีดิจิทลั ท่ีมีอยใู่ นปัจจบุ นั เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์ แทปเลต โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ และสอ่ื ออนไลน์ มาใช้ให้เกิด ประโยชน์สงู สดุ ในการสอ่ื สาร การปฏบิ ตั งิ าน และการทางาน ร่วมกนั หรือใช้เพื่อพฒั นากระบวนการทางาน หรือระบบงานใน องค์กรให้มีความทนั สมยั และมีประสทิ ธิภาพ

School ทกั ษะดงั กลา่ วครอบคลมุ ความสามารถ ๔ มิติ ๑. การใช้ (Use) ๒. เข้าใจ (Understand) ๓.การสร้าง (create) ๔.เข้าถงึ (Access) เทคโนโลยีดจิ ิทลั ได้อยา่ ง มีประสทิ ธิภาพ

ระบบดจิ ิตอลคอื อะไร? อนั ดบั แรกเรามาทาความเขา้ ใจคาวา่ ระบบหรือ system ในทางวศิ วกรรมไฟฟ้ า ก่อนคือ การรวมอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น ความตา้ นทาน ตวั เกบ็ ประจุ ทรานซิสเตอร์ วงจรรวม (IC) เพ่ือทาหนา้ ท่ีประมวลสญั ญาณท่ีเขา้ มา (input) ใหม้ ีคุณลกั ษณะตามที่เราตอ้ งการ แลว้ ส่งออกไป(Output) เช่น ระบบขยายเสียง ระบบเครื่องรับวทิ ยุ ระบบควบคุม เป็นตน้ ในทางวิศวกรรมไฟฟ้ า แบ่งระบบไดเ้ ป็นสองชนิดคือ ระบบอนาลอก (Analog) และระบบดิจิตอล (Digital) ระบบดิจิตอลจริง ๆ แลว้ กย็ งั อยบู่ นพ้ืนฐานของระบบอนาลอก คือมี เซนเซอร์รับสัญญาณจากภายนอกเขา้ มาทาการประมวลสญั ญาณ(เช่น เพ่มิ ขนาด หน่วงเวลา ดีมอดเู ลท) แลว้ กส็ ่งสัญญาณที่ประมวลแลว้ กลบั ออกไปตวั อยา่ งเช่น ระบบขยายเสียง (amplifier) มีไมโครโฟนเป็นเซนเซอร์ทาหนา้ ท่ีเปล่ียน สญั ญาณเสียง (อนาลอก) ใหเ้ ป็นสัญญาณไฟฟ้ า (กระแส) ส่งเขา้ ไปในวงจรขยาย เสียง(ประกอบดว้ ย ทรานซิสเตอร์ ตวั เกบ็ ประจุความตา้ นทาน อ่ืน ๆ) เพื่อเพิม่ ขนาด ของสัญญาณกระแสใหส้ ูงข้ึน (ประมวลผล) จากน้นั กเ็ ปล่ียนสัญญาณกระแสกลบั เป็นสัญญาณเสียงดว้ ยลาโพงตามภาพ ท้งั น้ีกเ็ พ่ือใหไ้ ดเ้ สียงท่ีมีคุณภาพดีข้ึน (ดงั ข้ึน)

Compact Disk (CD) การเกบ็ ขอ้ มลู ดว้ ยแผน่ ซีดีเป็นการปฏิวตั ิการเกบ็ ขอ้ มูลในอดีตอยา่ งไม่มียคุ ไหนทามาก่อน ขอ้ มลู ท่ีจะถูกเกบ็ เช่น เสียงเพลง จะถูกเปลี่ยนเป็นดิจิตอลหรือไบนารี (๐ หรือ ๑) แลว้ ไป ควบคุมลาแสงเลเซอร์ใหท้ าการยงิ หรือไม่ยงิ แสงลงบนแผน่ ซีดีที่ทาจากพลาสติกชนิดโพลี คาร์บอร์เนต ลาแสงเลเซอร์จะไปทาใหเ้ กิดร่อง (pits) ร่องเหล่าน้ีมีขนาดเลก็ มากกวา้ ง ประมาณ ๐.๕ ไมครอน (๑ ไมครอน = หน่ึงในลา้ นเมตร) ยาว ๐.๘๓ ไมครอน และลึก๑๒๕ นาโนเมตร (๑ นาโนเมตร = หน่ึงในพนั ลา้ นเมตร) โดยแต่ละร่องห่างกนั ๑.๖ ไมครอนใน การอ่านขอ้ มูลจะใชเ้ ลเซอร์ความยาวคล่ืนเดียวกบั ท่ีเขียน โดยโฟกสั แสงเลเซอร์ไปบนแผน่ ซีดี ลาแสงเลเซอร์ที่โฟกสั จะมีขนาดเลก็ ใกลเ้ คียงกบั ร่องท่ีถกู บนั ทึก เมื่อแสงเลเซอร์ตก กระทบร่องจะไม่มีการสะทอ้ นกลบั ออกมา(เพราะแสงที่สะทอ้ นภายในร่องมีเฟสต่างกบั แสงที่ตกกระทบ ๑๘๐ องศาทาใหห้ กั ลา้ งกนั ) ความหนาแน่นขอ้ มลู ท่ีบนั ทึกข้ึนอยกู่ บั ขนาด ของร่อง (pit) หากใชแ้ สงที่มีความยาวคลื่นส้นั กจ็ ะทาใหร้ ่องมีขนาดเลก็ ลงส่งผลใหแ้ ผน่ ซีดีบรรจุขอ้ มูลไดม้ ากข้ึน แผน่ ซีดีโดยทว่ั ไปมีความจุประมาณ ๗๐๐ MB (Megabytes) ส่วนดีวดี ีท่ีใชส้ าหรับเกบ็ ภาพยนตร์มีความจุ๔.๗ GB หรือ ๗ เท่าของ แผน่ ซีดี นอกจากน้ียงั มีแผน่ บลเู รย์ (Blue ray) ท่ีใชเ้ ลเซอร์ยา่ นสีน้าเงิน (Blue laser) ในการบนั ทึก/อ่าน ซ่ึงมีความจุประมาณ ๒๕ GB ต่อหน่ึงช้นั หรือจุเป็น ๕ เท่า ของแผน่ ดีวีดี

การสื่อสาร (Communication) ระบบดิจิตอลไดป้ ฏิวตั ิการติดต่อส่ือสารของมวลมนุษยโ์ ดยสิ้นเชิง ท้งั แบบใชส้ าย (wired communication) เช่น ระบบโทรศพั ทบ์ า้ นระบบอินเตอร์เนท และแบบ ไร้สาย (wireless communication) เช่น ระบบโทรศพั ทไ์ ร้สายหรือท่ีเราเรียก กนั วา่ มือถือ ระบบดิจิตอลช่วยใหก้ ารส่งขอ้ มลู (ไบนารี) ง่าย สะดวกและผดิ พลาดนอ้ ยมาก รวมถึงการรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มูลท่ีระบบอนาลอกทาไม่ไดห้ ากใชแ้ สงเลเซอร์ใน การส่งจะทาใหส้ ามารถมีความเร็วเป็นกิกะบิทต่อวินาที (กิกะ= พนั ลา้ น) ระบบอินเตอร์เนท กเ็ ป็นผลพวงของระบบดิจิตอล เป็นการรับ-ส่งขอ้ มลู ดิจิตอลระหวา่ งคอมพิวเตอร์กบั คอมพิวเตอร์ผา่ นสายส่ง พฒั นาโดยหน่วยงานวจิ ยั ช้นั สูงของสหรัฐอเมริกา หรือ Advanced Research Projects Agency (ARPA) เพื่อแลกเปล่ียนขอ้ มูล ทางการวจิ ยั ในกลุ่มหน่วยงานรัฐบาลและมหาวทิ ยาลยั ต่อมาไดข้ ยายความนิยมมากข้ึนจน แพร่กระจายไปทว่ั โลก และถกู นาไปในวงการต่าง ๆ มากมายไม่วา่ จะเป็นดา้ นการคา้ การ ธนาคาร ท่ีสามารถทาธุรกรรมทางการเงินในเวลาอนั รวดเร็ว และปลอดภยั ดา้ นการวิจยั และพฒั นาที่สามารถสืบคน้ ขอ้ มลู ต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นสิทธิบตั รต่าง ๆ เอกสารวจิ ยั หนงั สือ ภายในเวลาอนั รวดเร็ว ไม่ตอ้ งออกไปยมื ท่ีหอ้ งสมดุ ดา้ นความบนั เทิงท่านสามารถเลือก เพลงโปรดหรือดูตวั อยา่ งภาพยนตร์จากน้นั กส็ งั่ ซ้ือผา่ นอินเตอร์เนทไดโ้ ดยไม่ตอ้ งออกไปที่ ธนาคาร

ประโยชน์สาหรับข้าราชการ ประโยชน์ สาหรับส่ วนราชการและหน่ วยงาน 1. ทางานไดร้ วดเร็วลดขอ้ ผดิ พลาดและมีความมนั่ ใจ ของรัฐ ในการทางานมากข้ึน 2. มีความภาคภูมิใจในผลงานที่สามารถสร้างสรรค์ 1. หน่วยงานไดร้ ับการยอมรับวา่ มีความทนั สมยั เปิ ด ไดเ้ อง กวา้ ง และเป็นที่ยอมรับ ซ่ึงจะช่วยดึงดูดและรักษาคน 3. สามารถแกไ้ ขปัญหาที่เกิดข้ึนในการทางานไดม้ ี รุ่นใหม่ที่มีศกั ยภาพสูง มาทางานกบั องคก์ รดว้ ย ประสิทธิภาพมากข้ึน 4. สามารถระบุทางเลือกและตดั สินใจไดอ้ ยา่ งมี 2. หน่วยงานไดร้ ับความเช่ือมนั่ และไวว้ างใจจาก ประสิทธิภาพมากข้ึน ประชาชนและผรู้ ับบริการมากข้ึน 5. สามารถบริหารจดั การงานและเวลาไดด้ ีมากข้ึน 3. คนในองคก์ รสามารถใชศ้ กั ยภาพในการทางานท่ี และช่วยสร้างสมดุลในชีวิตและการทางาน มีมลู คา่ สูง (High Value Job) มากข้ึน 6. มีเคร่ืองมือช่วยในการเรียนรู้และเติบโตอยา่ ง 4. กระบวนการทางานและการสื่อสารของงองคก์ ร เหมาะสม กระชบั ข้ึน คล่องตวั มากข้ึน และมีประสิทธิภาพมาก ข้ึน 5. หน่วยงานสามารถประหยดั ทรัพยากร (งบประมาณและกาลงั คน) ในการดาเนินงานไดม้ าก ข้ึน



Big Data คอื อะไร Big Data คือ ขอ้ มูลขนาดใหญ่/ปริมาณมาก หรือ ขอ้ มลู จานวนมาก มหาศาล ทุกเร่ือง ทุกแง่มุม ทุกรูปแบบ ซ่ึงอาจเป็นขอ้ มลู ท่ีมีโครงสร้าง ชดั เจน (Structured Data) เช่น ขอ้ มูลท่ีเกบ็ อยใู่ นตารางขอ้ มูลต่างๆ หรืออาจเป็นขอ้ มูลก่ึงมีโครงสร้าง (Semi-Structured Data) เช่น ลอ็ กไฟล์ (Log files) หรือแมก้ ระทง่ั ขอ้ มูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) เช่น ขอ้ มลู การโตต้ อบปฏิสมั พนั ธผ์ า่ นสงั คม เครือข่าย (Social Network) เช่น Facebook, twitter หรือ ไฟลจ์ าพวกมีเดีย เป็นตน้ ซ่ึงอาจจะเป็นขอ้ มูลภายในองคก์ รและภายนอก ที่มาจากการติดต่อระหวา่ งองคก์ ร หรือจากทุกช่องทางการติดต่อกบั ลกู คา้ แต่ท้งั หมดน้ีกย็ งั คงเป็นเพยี งขอ้ มูลดิบท่ีรอการนามาประมวลและวเิ คราะห์ เพอื่ นาผลที่ไดม้ าสร้างมลู ค่าทางธุรกิจ ขอ้ มูลเหล่าน้ีอาจจะไม่ไดอ้ ยใู่ น รูปแบบท่ีองคก์ รสามารถนาไปใชไ้ ดท้ นั ที แต่อาจมีขอ้ มูลท่ีเป็นประโยชน์ต่อ องคก์ รบางอยา่ งแฝงอยู่

Big Data มีคุณลกั ษณะสาคญั อยู่ 4 อยา่ ง คือ 1. ปริมาตร (Volume) หมายถึง ขอ้ มูลน้นั มนั ตอ้ งมีขนาดใหญ่มาก ซ่ึงไม่ สามารถประมวลผลปริมาณของขอ้ มลู ดว้ ยระบบฐานขอ้ มูลได้ จาเป็นตอ้ งใช้ คลงั ขอ้ มลู (Data Warehouse) และซอฟตแ์ วร์ฮาดูป (Hadoop) ทางาน ประสานกนั ในการบริหารจดั การขอ้ มลู 2. ความเร็ว (Velocity) หมายถึง ขอ้ มลู ดงั กล่าวตอ้ งมีอตั ราการเพมิ่ ข้ึนอยา่ ง รวดเร็ว เช่น ขอ้ มูลจากภาพถา่ ยโทรศพั ทท์ ่ีถกู อบั โหลดข้ึน ขอ้ มูลการพมิ พส์ นทนา ขอ้ มูลวดิ ีโอ รวมไปถึงขอ้ มูลการส่ังซ้ือสิ้นคา้ พดู ง่าย ๆ คือ ขอ้ มลู ท่ีมีการเพิม่ ข้ึน ตลอดเวลาแบบไม่มีหยดุ ย้งั นน่ั แหละ 3. ความหลากหลาย (Variety) หมายถึง รูปแบบขอ้ มลู ตอ้ งมีความหลากหลาย อาจจะเป็นขอ้ มลู ท่ีมีโครงสร้าง ไม่มีโครงสร้าง และก่ึงมีโครงสร้าง ซ่ึงผมไม่ขอลง ลึกนะเพราะมนั ซบั ซอ้ นมาก แต่เอาเป็นวา่ รูปแบบขอ้ มูลของ Big Data มนั มีทุก อยา่ ง ไม่ไดจ้ ากดั แค่พวกขอ้ ความ อีเมล์ รูปภาพ ฯลฯ เท่าน้นั 4. Veracity ไม่สามารถนามาใชเ้ ป็นขอ้ มูลที่สมบูรณ์ เพ่ือการประกอบการ พิจารณาได้

การใช้ประโยชน์จาก Big Data ในปัจจุบนั น้ี การนา Big Data มาใชใ้ นภาครัฐ เพอ่ื แกป้ ัญหาความ เดือดร้อนและลดความเหล่ือมล้า โดยนาขอ้ มูลในระบบราชการจากหลาย หน่วยงาน เช่น ขอ้ มูลสาธารณสุข ทะเบียนราษฎ์ ท่ีต้งั ของธุรกิจ โรงพยาบาล สถานบาบดั สถานการณ์จา้ งงานฯ มาวเิ คราะห์และการ เช่ือมโยงกนั เกิดเป็นขอ้ มูลขนาดใหญ่ Big Data ของภาครัฐ ผา่ น กระบวนการวเิ คราะห์เชื่อมโยงเพอื่ ตอบการใหบ้ ริการของภาครัฐ ตวั อยา่ งเช่น รัฐบาลตอ้ งการช่วยเหลือผมู้ ีรายไดน้ อ้ ย แต่แทนท่ีจะช่วยเหลือ โดยใหเ้ งินอุดหนุนท่ีเท่าๆ กนั แบบปูพรมท้งั ประเทศ กน็ า Big Data ซ่ึง เป็นขอ้ มลู จากแหล่งต่างๆมาใชช้ ้ีจาเพาะวา่ บุคคลใดท่ีถือวา่ มีรายไดน้ อ้ ย พร้อมท้งั กาหนดระดบั และลกั ษณะความช่วยเหลือท่ีแตกต่างกนั เช่น ผมู้ ี รายไดน้ อ้ ยท่ีสูงอายุ เป็นผพู้ ิการ อยกู่ บั บา้ น ใหล้ ูกหลานดูแล รัฐอาจช่วยโดย สนบั สนุนขาเทียม ใหค้ ูปองเขา้ รับการทากายภาพบาบดั พร้อมท้งั เลือก อาชีพท่ีเหมาะสมกบั กายภาพของผสู้ ูงอายุ



Internet of Things หรือ IoT คอื อะไร Internet of Things (IoT) คือ การที่อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงหรือส่งขอ้ มูลถึงกนั ไดด้ ว้ ยอินเทอร์เน็ต โดยไม่ตอ้ งป้ อน ขอ้ มลู การเช่ือมโยงน้ีง่ายจนทาใหเ้ ราสามารถสง่ั การควบคุมการใชง้ าน อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ต่างๆ ผา่ นทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้ ไปจนถึงการ เช่ือมโยงการใชง้ านอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ต่างๆ ผา่ นทางเครือข่าย อินเตอร์เน็ตเขา้ กบั การใชง้ านอื่นๆ จนเกิดเป็นบรรดา Smart ต่างๆ ไดแ้ ก่ Smart Device, Smart Grid, Smart Home, Smart Network, Smart Intelligent Transportation ท้งั หลายที่เราเคยไดย้ นิ นนั่ เอง ซ่ึงแตกต่างจากในอดีตที่อุปกรณ์ อิเลก็ ทรอนิกส์เป็นเพยี งส่ือกลางในการส่งและแสดงขอ้ มูลเท่าน้นั

แนวคดิ Internet of Things เดิมมาจาก Kevin Ashton บิดาแห่ง Internet of Things ในปี 1999 ในขณะท่ีทางานวจิ ยั อยทู่ ี่มหาวทิ ยาลยั Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT เขาไดถ้ ูกเชิญใหไ้ ปบรรยาย เรื่องน้ีใหก้ บั บริษทั Procter & Gamble (P&G) เขาไดน้ าเสนอ โครงการที่ช่ือวา่ Auto-ID Center ต่อยอดมาจากเทคโนโลยี RFID ที่ในขณะน้นั ถือเป็นมาตรฐานโลกสาหรับการจบั สญั ญาณเซ็นเซอร์ต่างๆ( RFID Sensors) วา่ ตวั เซ็นเซอร์เหล่าน้นั สามารถทาใหม้ นั พดู คุย เช่ือมต่อกนั ไดผ้ า่ นระบบ Auto-ID ของเขา โดยการบรรยายใหก้ บั P&G ในคร้ังน้นั Kevin กไ็ ดใ้ ชค้ าวา่ Internet of Things ใน สไลดก์ ารบรรยายของเขาเป็นคร้ังแรก โดย Kevin นิยามเอาไวต้ อนน้นั วา่ อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ใดๆกต็ ามที่สามารถส่ือสารกนั ไดก้ ถ็ ือเป็น “internet-like” หรือพดู ง่ายๆกค็ ืออุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ที่ส่ือสาร แบบเดียวกนั กบั ระบบอินเตอร์เน็ตนนั่ เอง โดยคาวา่ “Things” กค็ ือคาใช้ แทนอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ต่างๆเหล่าน้นั

Internet of Things และ Big Data สัมพนั ธ์กนั อย่างไร ปัจจุบนั Internet of Things สามารถตอบสนองความตอ้ งการ ทางดา้ นการใชง้ านของเราไดม้ ากข้ึน สาเหตุเพราะอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ ต่างๆมีราคาถูกลง ทาใหเ้ กิดการใชง้ านจริงมากข้ึน มีการคน้ พบ Use Case ใหม่ๆในธุรกิจ ทาใหผ้ ผู้ ลิตไดเ้ รียนรู้และคอยแกโ้ จทย์ เพอื่ เพ่มิ ประสิทธิภาพใหต้ รงใจผใู้ ช้ ก่อใหเ้ กิดนวตั กรรมใหม่ๆ ยงิ่ ไปกวา่ น้นั Internet of Things มีการเช่ือมโยงกนั อยา่ งเป็นระบบ เราจึงเร่ิมเห็น ธุรกิจที่หนั มาใหค้ วามสนใจ Internet of Things ในแง่ท่ีมนั สามารถ ช่วยแกป้ ัญหาทางธุรกิจ ทางสงั คม และช่วยแกไ้ ขปัญหาชีวติ ประจาวนั ได้ โดยการนาเอาขอ้ มูลหรือ Big Data เขา้ มาใชใ้ นการพฒั นาเพ่ือ ตอบสนองความตอ้ งการของแต่ละรูปแบบ ถึงตรงน้ีแลว้ คงจะสงสยั ใช่ม้ยั คะ วา่ Big data เกี่ยวขอ้ งอยา่ งไรกบั Internet of Things

ประโยชน์และความเสี่ยง เทคโนโลยี Internet of Things มีประโยชน์ในหลายดา้ นท้งั เร่ือง การเกบ็ ขอ้ มลู ท่ีแม่นยาและเป็นปัจจุบนั ช่วยลดตน้ ทุน แถมยงั ช่วยเพมิ่ ผลผลิตของพนกั งานหรือผใู้ ชง้ านได้ แมว้ า่ แนวโนม้ ของ IoT มีแต่จะ เพม่ิ ข้ึนดว้ ยคุณาประโยชน์ตามท่ีไดก้ ล่าวมาแลว้ แต่ประโยชน์ใดๆน้นั กม็ า พร้อมกบั ความเส่ียง เพราะความทา้ ทายในการรักษาความปลอดภยั ของ เครือข่ายใหม่ท่ีเกิดข้ึนน้นั จะผลกั ดนั ใหผ้ เู้ ชี่ยวชาญมีการรับมือทางดา้ น ความปลอดภยั มากข้ึน ในทางตรงกนั ขา้ มแฮกเกอร์หรือผไู้ ม่หวงั ดีกท็ างาน หนกั เพอื่ ที่จะเขา้ ควบคุม โจมตีเครือข่าย หรือเรียกค่าไถ่ในช่องโหวท่ ี่ IoT มีอยู่ ฉะน้นั ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นความปลอดภยั ทาง IoT จึงจาเป็นตอ้ งพฒั นา มาตรการ และระบบรักษาความปลอดภยั ไอทีควบคู่กนั ไป เพื่อใหธ้ ุรกิจและ การใชง้ าน IoT สามารถขบั เคล่ือนต่อไปได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook