Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 07_ch2

07_ch2

Published by wawa srip, 2021-03-02 12:59:48

Description: 07_ch2

Search

Read the Text Version

บทที 2 ทฤษฎแี ละหลกั การ 2.1 ความรู้พนื ฐานเกยี วกบั ระบบ CCTV รูปที 2.1 ห้องควบคุมระบบ CCTV กลอ้ งวงจรปิ ด หรือ CCTV ยอ่ มาจากคาํ วา่ \"Closed Circuit Television\" หรือเรียกอีกอยา่ งวา่ \"Video Surveillance System\" คือ ระบบการบนั ทึกภาพจากกลอ้ งทีเป็ นระบบรักษาความปลอดภยั หรือทีใชเ้ พือการ สอดส่องดูแลเหตุการณ์ สถานการณ์ต่างๆทีเกิดขึน ระบบกลอ้ งวงจรปิ ด (CCTV) เกิดขึนครังแรกทีเยอรมนี ใน ค.ศ. 1942 และกลอ้ งวงจรปิ ด (CCTV) เป็ นสิงทีจาํ เป็ นสําหรับสถานทีต่างๆ เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล อาคาร สาํ นกั งาน วดั สถานทีทอ่ งเทียว หรือสถานทีราชการ อืนๆ เมือสมยั ก่อนกลอ้ งวงจรปิ ด (CCTV) มีไว้ เพือจบั ผิด เฝ้ าระวงั สอดส่องดูแล แต่สมยั นีบทบาทของกลอ้ งวงจรปิ ด (CCTV) มีมากกวา่ ทีกล่าวมาขา้ งตน้ และยงั สามารถติดกลอ้ งวงจรปิ ด (CCTV) เพือใหก้ ลอ้ งวงจรปิ ด (CCTV) ทาํ งานแทนมนุษย์ และยงั สามารถ ดูการทาํ งานของพนงั งานได้ และสะดวกในการบริหารจดั การ ปัจจุบนั นีถา้ มี Internet ก็สามารถเชือต่อกบั กลอ้ งวงจรปิ ดไดท้ งั หมด ในส่วนของตวั กลอ้ งวงจรปิ ดยงั ถูกแบ่งแยกประเภท ตามชนิดของการส่งสัญญาณอีกเป็ น 2 แบบ หลกั ๆ คือ  กลอ้ งวงจรปิ ดทีส่งสัญญาณแบบอนาล็อก (Analog CCTV Camera) เป็ นกลอ้ งวงจรปิ ดทีนิยมใชท้ วั ไป ราคา ถูกความคมชดั สูง  กลอ้ งวงจรปิ ดทีส่งสัญญาณแบบดิจิตอล (IP Camera) เป็ นกลอ้ งวงจรปิ ดสมยั ใหม่ นิยมใช้เฉพาะกลุ่ม มี ฟังชนั หลากหลาย ราคาสูง ยงั ไมเ่ ป็นทีนิยมในทวั ไปมากนกั นอกจากนีกลอ้ งวงจรปิ ดยงั สามารถแบ่งแยกประเภท ตามรูปร่างการทาํ งานของตวั กลอ้ งออกเป็น 3 ประเภทหลกั คือ

4 1. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบมาตรฐาน 2. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบอินฟราเรด 3. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบโดม 2.2 โครงสร้างพนื ฐานของระบบ CCTV การทาํ งานของ CCTV เริมจากตวั กลอ้ งทีเป็ นตวั รับสัญญาณภาพจะรับภาพไดน้ นั จะตอ้ งมีแสงส่อง ไปยงั ทีวตั ถุทีตอ้ งการและแสงนันจะตกกระทบวตั ถุแลว้ จึงสะทอ้ นกลบั ออกมา (ประสิทธิภาพกล้องนัน ขึนอยูก่ บั ความไวแสง ซึงจะส่งผลให้คุณภาพของการทาํ งานแตกต่างกนั ออกไป) และภายในนนั จะมีตวั ที แปลงสัญญาณภาพเป็ นสัญญาณไฟฟ้ า เพือส่งต่อสัญญาณตามสายทีเชือมจากกลอ้ งไปสู้เครืองรับสัญญาณ ภาพ (DVR) แล้วส่งต่อไปยงั จอรับภาพ (Monitor) เพือแสดงภาพทีได้จากตวั กล้อง โดยปกติแล้วนัน ตวั กล้องและจอภาพจะอย่ตู ่างสถานทีกนั ซึงหลกั การทาํ งานของระบบกล้องวงจรปิ ดจะไม่ซับซ้อนมาก ถา้ ตอ้ งการใหภ้ าพออกมาดีตอ้ งประกอบดว้ ย องคป์ ระกอบหลายอยา่ ง การทาํ งานของกล้องวงจรปิ ด (CCTV) ตงั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั และการเชือมต่อระบบของกลอ้ ง วงจรปิ ด (CCTV Connections) ยคุ ที1 กลอ้ งวงจรปิ ดเป็นแค่การตอ่ กลอ้ งวงจรปิ ดไปยงั จอภาพเท่านนั รูปที2.2 ยุคแรกของกล้องวงจรปิ ด ยคุ ที2 กลอ้ งวงจรปิ ดเมือกลอ้ งมีการบนั ทึกภาพเก็บเอาไวด้ ู รูปที2.3 ยคุ ที 2 ของกล้องวงจรปิ ด ยคุ ที3 กลอ้ งวงจรปิ ดเมือตอ้ งการบนั ทึกภาพและต่อกลอ้ งวงจรปิ ดมากกวา่ 1 ตวั

5 รูปที2.4 ยคุ ที 3 ของกล้องวงจรปิ ด ยคุ ที4 กลอ้ งวงจรปิ ดเมือการบนั ทึกภาพดว้ ย Digital Video Recorder (DVR) ซึงเป็นยคุ ปัจจุบนั รูปที 2.5 ยคุ ที 4 ของกล้องวงจรปิ ด

6 2.3 ส่วนประกอบต่างๆของระบบกล้องวงจรปิ ด (CCTV) 2.3.1 กล้อง(Camera) กล้องวงจรปิ ดทีใช้ในปัจจุบันสามารถแยกประเภทออกได้ 6 ประเภทด้วยกันซึงในแต่ละประเภทมี รายละเอียดและคุณสมบตั ิทีตา่ งกนั ออกไปกลอ้ งวงจรปิ ดทงั 6 ประเภทนีไดแ้ ก่ 1. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบมาตรฐาน (Standard Camera) กลอ้ งวงจรปิ ดแบบมาตรฐานเป็ นกลอ้ งชนิดทีมีราคาไม่แพง ขึนอยกู่ บั รุ่นและความคมชดั ของกลอ้ งมีจุดเด่น คือการสามารถเปลียนเลนส์ เพือปรับมุมมองของภาพ เหมาะสําหรับพืนทีทีมีแสงสว่าง มีทงั แบบใช้ใน อาคาร Housing Indoor และแบบใชน้ อกอาคาร Housing Outdoor กลอ้ งวงจรปิ ดแบบมาตรฐานติดตงั ไดง้ ่าย คา่ บาํ รุงรักษาตาํ มีความแขง็ แรงและทนทานสูง และในบางรุ่นมีไมโครโฟนสาํ หรับบนั ทึกเสียง รูปที 2.6 กล้องวงจรปิ ดแบบมาตรฐาน (Standard Camera) 2. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบอินฟราเรด (Inferred Camera) กลอ้ งวงจรปิ ดแบบอินฟราเรดเป็ นกลอ้ งทีทาํ จากวสั ดุทีทนทานสามารถใชง้ านไดท้ งั กลางวนั และกลางคืนมี คุณสมบตั ิในการจบั ภาพในทีมืดสนิทได้ ตวั กลอ้ งจะแสดงภาพเป็นเป็นภาพสีในตอนกลางวนั และเปลียนไป แสดงภาพขาว-ดาํ อตั โนมตั ิในตอนกลางคืน การเลือกกล้องวงจรปิ ดแบบอินฟราเรดควรเลือกตามระยะ อินฟราเรดทีจาํ เป็ นตอ้ งใช้ เช่น10 เมตร 20 เมตร 30 เมตร และกล้องวงจรปิ ดแบบอินฟราเรดจะมีหลอด LED อินฟราเรดทีจะส่งแสงสวา่ งอตั โนมตั ิในตอนกลางคืน เหมาะกบั การใชง้ านในสถานทีๆคอ่ นขา้ งมืด รูปที 2.7 กล้องวงจรปิ ดแบบอนิ ฟราเรด (Inferred Camera)

7 3. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบโดม (Dome Camera) กล้องวงจรปิ ดแบบ โดมเป็ นกลอ้ งทีถูกออกแบบให้มีขนาดเล็กกะทดั รัด สวยงาม เรียบร้อย ไม่สะดุดตา กลมกลืนเขา้ กบั เพดาน สามารถหมุนปรับมุมกลอ้ งได้ 360 องศา กลอ้ งชนิดนีเหมาะสําหรับพืนทีทีมีแสง สว่างตลอดเวลา รูปลกั ษณ์ครึงวงกลมคล้ายโดมสามารถป้ องกันการโยนผา้ ปิ ดหน้ากลอ้ งได้เป็ นอย่างดี กลอ้ งชนิดนีไม่เหมาะสําหรับติดตงั นอกอาคาร เพราะตวั กลอ้ งวงจรปิ ดรุ่นนีไม่ได้ออกแบบมาให้กนั นํา สถานทีๆนิยมใชง้ าน คือ โรงแรม,คอนโดม,อาคารสาํ นกั งาน,ธนาคาร ต่างๆ รูปที 2.8 กล้องวงจรปิ ดแบบโดม (Dome Camera) 4. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบซูม (Zoom Camera) กลอ้ งวงจรปิ ดแบบซูมมีความสามารถในการซูมได้ หมุนรอบตวั เอง กม้ เงยไดแ้ ละสามารถตงั กลอ้ งให้หมุน ไปตามจุดทีกาํ หนดไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ มีทงั ทีติดตงั ภายในอาคารและแบบภายนอกอาคาร ในสถานทีจะติดตงั กลอ้ งวงจรปิ ดสามารถติดกล้องแบบ Zoom หรือ Speed Dome ไดม้ ากกวา่ 1 ตวั กลอ้ งวงจรปิ ดแบบซูมใช้ คียบ์ อร์ดในการบงั คบั ปัจจุบนั กลอ้ งวงจรปิ ดแบบนี เรียกวา่ กลอ้ ง Speed Dome รูปที 2.9 กล้องวงจรปิ ดแบบซูม (Zoom Camera) 5. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบแอบซ่อน (Hidden Camera) กลอ้ งวงจรปิ ดแบบแอบซ่อนจุดประสงคห์ ลกั เพืองานทีเป็ นความลบั และไม่ตอ้ งการให้รู้วา่ มีกลอ้ งติดตงั อยู่ จุดไหนบา้ ง กลอ้ งวงจรปิ ดแบบแอบซ่อนส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กกะทดั รัด รูปร่างแตกต่างกนั ออกไปเช่น กลอ้ งรูเข็มทีมีขายตามทอ้ งตลาดความละเอียดภาพไม่ค่อยสูงมาก สถานทีทีนิยมติดตงั กลอ้ งวงจรปิ ดแบบ แอบซ่อน คือ ร้านคา้ มินิมาร์ค,โรงงาน,โรงแรม,หา้ งสรรพสินคา้ ,ธนาคาร,สาํ นกั งาน เป็นตน้

8 รูปที 2.10 กล้องวงจรปิ ดแบบแอบซ่อน (Hidden Camera) 6. กลอ้ งวงจรปิ ดแบบไอพี (IP Camera) กล้องวงจรปิ ดแบบไอพีสามารถควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ได้โดยตรงสามารถทําการบันทึกภาพที คอมพิวเตอร์เครืองใดก็ได้ทีต่ออยู่ในวง LAN หรือ WAN กล้องวงจรปิ ดแบบไอพีมี LAN Card อยู่ในตวั กลอ้ งและเป็ นWeb Server ในตวั มีทงั แบบใช้สาย (wired) และไร้สาย (wireless) บางรุ่นมีคุณสมบตั ิในการ ซูม หมุนรอบตวั เอง กม้ เงยไดเ้ ช่นเดียวกบั Speed Dom กลอ้ งวงจรปิ ดแบบไอพีบางรุ่นยงั สามารถนาํ มาทาํ Video Conference ไดเ้ ลยทีเดียว รูปที 2.11 กล้องวงจรปิ ดแบบไอพี (IP Camera) ขอ้ ควรพจิ ารณาในการเลือกใชก้ ลอ้ งวงปิ ด 1.สถานทีติดตงั มีแสงไม่มีแสง มีการเปลียนแปลงของแสงบริเวณนนั มากหรือนอ้ ย 2.ติดตงั ภายนอกหรือภายในมาตรฐาน IP เช่น IP66,IP67,IP666 3.ความละเอียดของภาพเช่น 420TVL,480TVL,520TVL,540TVL ยงิ มากความละเอียดของภาพยงิ มาก 4.CCD เช่น 1/3,1/4 ขนาด 1/3 (ใหญ่กวา่ ดีกวา่ ) 5.CCD ของแต่ละยหี อ้ เช่น Sony (เนน้ ภาพธรรมชาติ) Panasonic (เนน้ สีสดใส) Sharp (เนน้ ราคา) 6.DSP ตวั ประกอบมวลผลภาพ ภาพสวยหรือไมส่ วยอยทู่ ีตวั นี 7.Lens ทีใชเ้ ป็นแบบใดเช่น Auto Iris Fixed,Vari Fo Cal,เลนส์แกว้ หรือพลาสติก 8.Feature ตา่ งๆเช่น Linelock,BLC,AI,AGC,SDI2,VD2ABF

9 2.3.2 เลนส์ (Lens) การเลือกใช้ขนาดของเลนส์ (Lens Format )ในอดีตไดม้ ีการสร้างกลอ้ งโทรทศั น์วงจรปิ ดดว้ ยการใชต้ วั รับ ภาพหลายขนาดตงั แต่ขนาด 1 นิว 2/3 นิว และ 1/2 นิว ต่อมามีการพฒั นาจากหลอดวดิ คอนเป็ นแผน่ รับภาพ (CCD) ก็มีหลายขนาด โดยเริมจากขนาด 2/3 นิว 1/2 นิว 1/3 นิวและ1/4 นิว การสร้างเลนส์จึงมีหลายขนาด เพือใหม้ ีขนาดทีพอดีกบั ขนาดของตวั รับภาพและเป็ นการประหยดั ดงั นนั การเลือกใชเ้ ลนส์ควรจะใหม้ ีขนาด เท่ากบั ขนาดของตวั รับภาพแต่วา่ เลนส์ทีใชก้ บั ตวั รับภาพทีมีขนาดใหญ่กวา่ สามารถนาํ มาใชก้ บั ตวั รับภาพที ขนาดเล็กกวา่ ได้ เช่น เลนส์สําหรับตวั รับภาพขนาด 2/3 นิว สามารถนาํ มาใชก้ บั ตวั รับภาพขนาด 1/2 นิวได้ แต่ในทางกลบั กนั ไม่สามารถทีจะนาํ เลนส์ทีใชก้ บั ตวั รับภาพทีเล็กกวา่ มาใชก้ บั ตวั รับภาพทีมีขนาดใหญ่กวา่ ได้ เลนส์จะมีขอ้ ต่อทีใชก้ บั กลอ้ งโทรทศั น์วงจรปิ ดอยู่ 2 แบบคือ C-Mount และ CS-Mount ขอ้ ต่อแบบ C- mount จะมีความยาวช่วงทา้ ยเลนส์ ถึงหน้าตวั รับภาพ 17.5 ม.ม. และขอ้ ต่อแบบ CS-Mount จะมีความยาว ช่วงทา้ ยเลนส์ถึงหนา้ ตวั รับภาพ 12.5 ม.ม. รูปที 2.12 กล้องทมี ีข้อต่อแบบ CS-Mount ดงั นนั การเลือกใชเ้ ลนส์ตอ้ งเลือกให้ถูกคือ กลอ้ งทีมีขอ้ ต่อแบบ CS-Mount ก็ควรจะใชเ้ ลนส์ทีมีขอ้ ต่อเป็ น แบบ CS-Mount กลอ้ งทีมีขอ้ ต่อแบบ C-Mount ก็ควรใชเ้ ลนส์ทีมีขอ้ ต่อเป็ น แบบ C-Mount แต่เลนส์ทีมีขอ้ ต่อเลนส์แบบ C-Mount สามารถทีจะใช้กบั กลอ้ งทีมีขอ้ ต่อแบบ CS-Mount ได้โดยใช้แหวนขอ้ ต่อ 5 mm, (Adapter Ring) ต่อกลางระหวา่ งเลนส์กบั กลอ้ ง ถา้ นาํ เลนส์ทีมีขอ้ ต่อแบบC-Mount ไปต่อเขา้ กบั กลอ้ งทีมีขอ้ ต่อแบบ CS-Mount โดยตรงโดยไม่ใชแ้ หวนขอ้ ต่ออาจจะทาํ ให้หนา้ ตวั รับภาพเกิดความเสียหายได้ เพราะ ความยาวช่วงทา้ ยเลนส์ของเลนส์แบบ C-Mount มีความยาวมากกวา่ แบบ CS-Mount รูรับแสง (Aperture) และการเปิ ด-ปิ ดม่านรับแสง (Iris) รูรับแสงคือ จุดทีให้แสงผา่ นเขา้ ไปในเลนส์ ขนาดของรูรับแสงสามารถเปลียนไปไดด้ ว้ ยกนั เปิ ด-ปิ ดม่านรับแสง (Iris) การเปิ ด-ปิ ด มา่ นรับแสงของเลนส์ มี 2 ชนิดคือ

10 รูปที 2.13 รูรับแสงของเลนส์ 1. เปิ ด-ปิ ด ดว้ ยมือ (Manual Iris) การปรับขนาดของม่านแสง เพือให้ขนาดของรูรับแสงเปลียนแปลงใชม้ ือ หมุนวงแหวนปรับขนาดม่านแสง (Iris Ring) ทีตวั เลนส์ ตวั เลขค่ามาก เช่น 16 ขนาดของรูจะเล็กปริมาณแสง จะผา่ นไดน้ อ้ ยตวั เลขค่านอ้ ยเช่น 1.2 ขนาดของรูจะใหญ่ปริมาณแสงจะผา่ นไดม้ าก 2. เปิ ด-ปิ ดอตั โนมตั ิ (Auto-Iris) การปรับขนาดม่านแสง ทาํ งานอตั โนมตั ิร่วมกบั การทาํ งานของกลอ้ ง กลอ้ ง จะมีวงจรไฟฟ้ าเพือจ่ายไฟฟ้ าใหก้ บั เลนส์ชนิดนี วงจรไฟฟ้ าทีกลอ้ งจะจ่ายไฟฟ้ าให้กบั เลนส์มี 2 แบบ คือ แบบสัญญาณภาพ (Video Type) และแบบไฟตรง (DC Type) แบบสัญญาณภาพ (Video Type) กลอ้ งจะจา่ ยไฟฟ้ าไปใหเ้ ลนส์ในลกั ษณะของสัญญาณภาพโดย จะมีความเขม้ ของสัญญาณภาพแตกต่างกนั ไป เลนส์ทีใช้กบั กล้องทีจ่ายไฟฟ้ าแบบนีจะตอ้ งมีวงจรขยาย (Amplifier) เพือเปลียนความเขม้ ของสัญญาณภาพเป็ นไฟฟ้ าเพือใหอ้ ุปกรณ์ตวั เล็กๆทีเรียกวา่ กลั วานมิเตอร์ (Galvanometer) หรือ ทาํ หน้าทีคล้ายๆกบั มอเตอร์ทาํ งานเพือให้ม่านแสงเปลียนขนาดใหญ่-เล็ก ตามการ เปลียนแปลงของแสง ในรูปของความเขม้ ของสัญญาณภาพ เลนส์ชนิดนี โดยจะมีสายสําหรับต่อกบั กลอ้ ง โดยจะปล่อยปลายสายไว้ แบบไฟตรง (DC Type) กล้องจะมีวงจรไฟฟ้ าจ่ายไฟกระแสตรง (DC) ให้กับ เลนส์โดยตรงเลย เลนส์ทีใชก้ บั กลอ้ งแบบนี ไม่ตอ้ งมีวงจรขยาย การเปลียนแปลงขนาดของม่านแสง ทาํ งาน ไปตามการเปลียนแปลงของไฟฟ้ า ซึงจะเปลียนไปตามการเปลียนแปลงของแสง จากการทาํ งานของกลอ้ ง เลนส์ชนิดนี ส่วนมากจะมีสายพร้อมปลกั ๔ ขา (Pin) เพือต่อกบั กลอ้ ง ปลกั ๔ ขานีในอดีตเรียกว่า 4 Pin plug Panasonic standard ซึงโรงงานทีผลิตกลอ้ งเกือบทุกโรงงานจะใชเ้ ป็ นมาตรฐานเดียวกนั คือสามารถนาํ เลนส์ชนิด DC Type ไปใชไ้ ดก้ บั กลอ้ งได้ เกือบทุกผผู้ ลิต ดงั นนั การเลือกใช้ เลนส์อตั โนมตั ิ จะตอ้ งทราบวา่ ใชง้ านกบั กลอ้ งทีจา่ ยไฟฟ้ า ให้กบั เลนส์แบบใด โดยศึกษา จากคู่มือของกลอ้ ง เพราะถา้ ใชเ้ ลนส์ผิดประเภทกบั การจ่ายไฟของกลอ้ ง เลนส์จะไม่ทาํ งาน อาจจะเสียหาย ได้ เพราะแรงดนั เคลือนไฟฟ้ า (Voltage) ทีกลอ้ งจา่ ยให้กบั เลนส์ ทงั สองแบบ มีความแตกต่างกนั มาก และถา้ ใชเ้ ลนส์ผดิ ชนิดจะไม่มีภาพ เพราะเลนส์ไม่เปิ ดรับแสง

11 2.3.3 เครืองบันทกึ วดี ีโอแบบดิจิตอล (Digital Video Recorder, DVR) เครืองบนั ทึกวดี ีโอแบบดิจิตอล หรือ DVR ยอ่ ยมาจาก Digital Video Recorder เป็ นอุปกรณ์ทีสาํ คญั ในระบบ กล้องวงจรปิ ดอย่างหนึงโดย DVR ทาํ หน้าทีรับสัญญาณภาพขาออกจากอุปกรณ์ (กล้องวงจรปิ ด) เพือ เชือมต่อสัญญาณและทาํ การบนั ทึกภาพในระบบ Digital โดยจะบนั ทึกขอ้ มูลลงใน HDD ซึงมีลกั ษณะการ บนั ทึกเหมือนเครือง Computer ทวั ๆไปสามารถบนั ทึกภาพไดม้ ากหรือน้อยขึนอยกู่ บั ขนาดของ HDD และ การตงั คา่ ความละเอียดในการบนั ทึก และยงั สามารถดูยอ้ นหลงั ไดโ้ ดยกาํ หนดวนั เวลาในการเรียกดูขอ้ มูลได้ อย่างรวดเร็วและสามารถดูอุปกรณ์ทีใช้ในการตรวจจบั การบุกรุกในขณะทีไม่ไดอ้ ยู่ในทีเกิดเหตุไดแ้ ละ คุณสมบตั ิอีกขอ้ ทีเป็ นจุดเด่นของเครืองบนั ทึก DVR ในปัจจุบนั คือสามารถติดต่อกบั ระบบเครือข่ายเช่น LAN,WAN หรือใชง้ านผา่ นโทรศพั ทม์ ือถือได้ รูปที 2.14 เครืองบันทกึ วดี ีโอแบบดิจิตอล (Digital Video Recorder, DVR) การทาํ งานหลกั ๆของ Digital Video Recorder คือการนาํ ภาพวีดิโอมาประมวลผลแลว้ ทาํ การบนั ทึกภาพที ประมวลผลในหน่วยความจาํ เช่น ฮาร์ดดิสก์ หรือหน่วยความจาํ อืนๆ แบง่ ไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะคือ 1. Analog/Digital คือ ทาํ งานแบบ อนาล็อกเป็นดิจิตอล เช่น กลอ้ งวงจรปิ ดทีเป็นอนาล็อก ตอ่ เขา้ กบั เครืองบนั ทึกภาพทีเป็นระบบดิจิตอล 2. Digital/Digital คือ การทาํ งานแบบ ดิจิตอลเป็ นดิจิตอล เช่น กลอ้ งวงจรปิ ดทีเป็ นกลอ้ ง Network Camera หรือเรียกว่ากล้องไอพี ต่อเข้ากับเครืองบันทึกภาพ (Network Video Recorder, NVR) ทีระบบ ดิจิตอลผา่ นทางเครือข่ายโปรโตคอล (Network Protocol) TCP/IP การเลือกใชร้ ะบบกลอ้ งวงจรปิ ดใหเ้ หมาะสมตอ่ การใชง้ าน การใชง้ านในลกั ษณะ Analog/Digital จะนิยมใช้งานมากกว่า เพราะจะมีราคาทีถูกและการติดตงั ที ง่าย เนืองจากระบบอนาลอ็ กเป็นดิจิตอลเป็นระบบทีง่ายต่อการติดตงั , การใชง้ าน และมีตน้ ทุนทีถูกกกวา่ เมือ เทียบกบั ระบบ Digital/Digital ซึงเป็ นระบบทียงุ่ ยากและซบั ซอ้ นกวา่ ส่วนใหญ่จะใชใ้ นระบบกลอ้ งวงจรปิ ด ขนาดใหญ่ เช่น ทางด่วน,ท่าอากาศยาน,หรือระบบทีติดตงั อยตู่ ามสถานทีต่างๆทีอยไู่ กลคนและต่างจงั หวดั , ตา่ งประเทศ,หรือคนละทวีปแตร่ ะบบสามารถเชือมต่อและบนั ทึกภาพจากจุดเดียวหรือหลายๆจุดไดแ้ ละการ ทาํ งานในลกั ษณะดงั กล่าวจะเป็ นแบบอตั โนมตั ิและสามารถติดตงั ระบบตรวจจบั เช่น การป้ องกนั การก่อ

12 การร้ายขา้ มชาติโดยการจดจาํ ใบหน้า (Face recognition System) เพือส่งขอ้ มูลไปให้กบั ตาํ รวจสากลเพือ ติดตามคนร้ายจากใบหน้าผ่านระบบ กล้องวงจรปิ ด เป็ นตน้ แต่ในปัจจุบนั ระบบ Analog/Digital ก็ได้ถูก พฒั นาเพือเชือต่อกบั ระบบเครือข่ายดว้ ยเช่นกนั จึงไดม้ ีการออกแบบระบบใหม่ขึนมาใชเ้ รียกวา่ ระบบแบบ ไฮบริดจ์ (Hybrid CCTV System) ซึงจะรวมกนั ทงั 2 ระบบนีไวด้ ว้ ยกนั 2.3.4 จอแสดงผล (Monitor) รูปที 2.15 จอแสดงผล (Monitor) จอภาพ (Monitor) เป็ นอุปกรณ์ทีรับสัญญาณจากการ์ดแสดงผลมาแสดงเป็ นภาพบนจอภาพซึงเทคโนโลยี จอภาพในปัจจุบนั คงจะเป็ นจอภาพแบบ Trinitron และ Flat Screen (จอแบน) ไม่วา่ จะเป็ น CRT (monitor ทวั ไป) หรือ LCD (จอทีมีลกั ษณะแบนเรียบทงั ตวั เครือง) จอแบนจะมีประสิทธิภาพในการแสดงผลมากกวา่ จอปกติเพราะสามารถลดแสงสะทอ้ นไดด้ ีกวา่ ทาํ ใหไ้ ม่เกิดอาการเมือยลา้ และปวดตาเมือตอ้ งทาํ งานนานๆ แต่ราคาของจอแบนยงั มีราคาสูงกวา่ จอปกติ ทาํ ใหย้ งั ไม่เป็ นทีนิยมมากแต่ในอนาคตอนั ใกลจ้ อแบนคงจะมี ราคาทีถูกกวา่ และเป็นมาตรฐานของจอภาพคอมพวิ เตอร์ในอนาคต การทีผใู้ ชม้ องเห็นสิงต่างๆปรากฏบนจอภาพไดน้ นั เป็นเพราะฮาร์ดแวร์อีกตวั หนึงทีทาํ งานควบคูก่ บั จอภาพ เรียกวา่ การ์ดสาํ หรับแสดงผลจอภาพ (Display Adapter Card) เป็ นวงจรภายใน เครืองคอมพิวเตอร์ทีทาํ งาน ร่วมกบั จอภาพจาํ นวนสีทีสามารถแสดงบนจอภาพได้นันเป็ นตวั กาํ หนดว่าภาพบนจอจะมีสีสันสมจริง เพียงใดโดยจอ VGA (Video Graphics Array) แสดงผลในโหมดความละเอียด 640X480 พิกเซลจอ SVGA (Super Video Graphics Array) แสดงผลในโหมดความละเอียด 800X600 พิกเซล จอภาพในปัจจุบนั เกือบ ทงั หมดใช้จอระดบั นี จอภาพทีแสดงจาํ นวนสี 65,536 หรือ 16 บิตสีจะแสดงความสมจริงไดด้ ีพอสมควร เหมาะสําหรับงานการฟิ ก มลั ติมีเดียและสิงพิมพส์ ่วนจอภาพทีแสดงจาํ นวนสี 16,777,216 สีจะให้สีสมจริง ตามธรรมชาติ สีระดบั นีเหมาะสาํ หรับงานตกแตง่ ภาพและงานสิงพิมพร์ ะดบั สูง

13 2.3.5 อปุ กรณ์เสริมต่างๆ (Accessories) 1. Housing คือ อุปกรณ์เสริมทีติดตงั เพือปกป้ องกลอ้ งวงจรปิ ดทีอยดู่ า้ นในไม่วา่ จะปกป้ องกลอ้ งจากสาเหตุ อนั ใดก็ตาม เช่น ป้ องกนั ความร้อนป้ องกนั ความเยน็ ป้ องกนั ไอนาํ ป้ องกนั การทุบตี ป้ องกนั จากแรงระเบิด หรือแมก้ ระทงั ป้ องกนั สะเก็ดไฟทีอาจเกิดขึนจากตวั กล้องไม่ให้เล็ดลอดออกมาด้านนอก โดยปกติหาก ตอ้ งการ Housing จะตอ้ งจ่ายเงินซือเพิมต่างหาก (ไม่ไดม้ าพร้อมกลอ้ ง) แตส่ าํ หรับบางรุ่นกม็ ี Housing มาใน ตวั ควรเลือกใชต้ วั Housing วา่ จะเอามาเพือปกป้ องอะไรเช่น Housing ทีระบุวา่ กนั แดดจะไม่สามารถกนั นาํ ได้ ควรเลือกการใชง้ านใหเ้ หมาะสม ประเภทของ Housing - Housing กนั นาํ คือ Housing ทีเอาไวก้ นั นาํ กนั ฝน กนั ความชืน รูปที 2.16 Housing แบบกนั นํา - Housing กนั แดด คือ Housing ทีเอาไวร้ ะบายความร้อนโดยส่วนมากจะมีช่องระบายความร้อน และพดั ลม เพอื ถ่ายเทอากาศภายใน Housing รูปที 2.17 Housing แบบกนั แดด

14 - Housing ทีมี Heater คือ Housing ทีมีฮิตเตอร์เพือละลายฝ้ าไม่ใหม้ าจบั ทีหนา้ เลนส์ (เป็ นฝ้ าจะมอง ไมเ่ ห็นภาพ) รูปที 2.18 Housing แบบมี Heater - Housing ทีมี Infrared คือ Housing ทีมีแสงอินฟราเรดช่วยส่องแสงในการถ่ายภาพในทีมืด ซึงแสง Infrared นี ตาปกติของมนุษยจ์ ะมองไมเ่ ห็น รูปที 2.19 Housing แบบมี Infrared - Housing แบบพิเศษทงั หลาย เช่น กนั ระเบิด ทุบไม่แตก ทนตอ้ งการกระแทกมีการใชโ้ ลหะทีดีขึน รูปที 2.20 Housing แบบพเิ ศษ

15 2. ขายดึ กลอ้ ง - ขาตงั กล้องเหล็กขนาดใหญ่ ใช้ติดตงั แบบมีกล่องครอบกล้องกนั นาํ กนั กระแทกไดเ้ ป็ นอยา่ งดี ติดตงั ง่าย ทนทาน ติดตงั ไดท้ งั ภายใน และภายนอก รูปที 2.21 ขายดึ กล้องแบบเหลก็ - ขาตงั กลอ้ งพลาสติก สามารถติดตงั กบั กลอ้ งทุกชนิดติดตงั ง่าย ปรับมุมกลอ้ งง่าย ทนทาน ติดตงั ได้ ทงั ภายใน และภายนอก รูปที 2.22 ขายดึ กล้องแบบพลาสติก - ขาตงั กลอ้ งอลูมิเนียม สามารถติดตงั ซ่อนสายภายในขาตงั กลอ้ งได้ สามารถติดตงั ขาตงั กลอ้ งเพือ ยนื ออกไปภายนอกได้ ติดตงั ง่ายปรับมุมกลอ้ งง่าย ทนทาน ติดตงั ไดท้ งั ภายในและภายนอก รูปที 2.23 ขายดึ กล้องแบบอลูมิเนียม

16 3.สายแลน (LAN) สายทีใช้สําหรับการเชือมต่อคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ทีเรียกว่า Switch หรือ HUB (แต่สามารถ เชือมต่อระหวา่ งคอมพิวเตอร์ไดด้ ว้ ยเช่นกนั ) สายแลนมีอยหู่ ลายประเภท แต่ละประเภทจะมีความสามารถ ในการรับ-ส่งสัญญาณแตกต่างกนั ออกไป สําหรับปัจจุบนั สายแลนทีนิยมใชก้ นั มากคือ UTP (UNSHIELD TWISTED PAIR) คือ สายตีเกลียวทีไมม่ ีตวั ป้ องกนั ส่วนหวั ทีใชใ้ นการเชือมตอ่ สายแลนเรียกวา่ RJ45 รูปที 2.24 สายแลน (LAN) ประเภทของสาย UTP - UTP CAT5 คือ สายแลนทีเป็นสายทองแดงทีมีความเร็วทีตาํ ความเร็วสูงสุดอยทู่ ี 100 Mbps (ไม่เป็นทีนิยม ใชก้ นั แลว้ ) - UTP CAT5e คือ สายแลนทีเป็นสายทองแดงทีมีความเร็วทีตาํ ความเร็วสูงสุดอยทู่ ี 1 GMbps - UTP CAT6 คือ สายแลนทีเป็ นสายทองแดงทีมีความเร็วทีตาํ ความเร็วสูงสุดอยทู่ ี 10 GMbps BANWIDTH อยทู่ ี 250MHz - UTP CAT7 คือ สายแลนทีเป็ นสายทองแดงทีมีความเร็ วทีตํา ความเร็วสู งสุ ดอยู่ที 100 GMbps BANWIDTH อยทู่ ี 600MHz การเลือกสายแลนเพือนาํ มาใช้ แนะนาํ ใหเ้ ลือกควบคู่กบั อุปกรณ์ Switch หรือ HUB ดว้ ย (Switch ส่วนใหญ่ ในปัจจุบันมีความเร็ว (10/100/1000 Mbps) เพราะเป็ นอุปกรณ์ทีต้องใช้เชือมต่อกันตลอดเวลาสําหรับ ประเภทของสายแลนขนั ตาํ ทีเลือกคือ UTP CAT5e หรือ UTP CAT6 ส่วนสาย UTP CAT7 ยงั ไม่เป็ นทีนิยม ใชก้ นั ในปัจจุบนั

17 4. หวั ตอ่ RJ45 เป็นหวั ต่อทีมีลกั ษณะปิ ดคือ โครงสร้างภายนอกเป็ นพลาสติกใสฝังขวั ทองแดงภายใน 8 อนั เท่ากบั จาํ นวนสาย(ถา้ เขา้ หวั เสียจะไม่สามารถนาํ กลบั มาใชใ้ หม่ได)้ หวั ต่อ RJ-45 หวั ต่อตวั ผเู้ ป็นอุปกรณ์สําหรับใส่ ทีปลายสาย UTP มีลกั ษณะเป็ นพลาสติกสีเหลียมคลา้ ยหัวต่อโทรศพั ท์มีช่องสําหรับเสียบสายทีดา้ นหลงั ดา้ นล่างเรียบส่วนดา้ นบนมีตวั ล๊อด ถา้ หนั หนา้ เขา้ ดา้ นหนา้ ของหวั ต่อพิน 1 จะอยทู่ างดา้ นซา้ ยมือของเราใน ขณะทีพิน 8 จะอยทู่ างขวามือดงั รูปที 2.25 หวั ต่อตวั ผอู้ าจมีการเรียกไดห้ ลายแบบเช่น RJ-45 Connecter หรือ RJ-45 Jack Plug รูปที 2.25 หวั ต่อ RJ-45 ตัวผู้ (ซ้าย) และตัวเมีย (ขวา) สาํ หรับหวั ตอ่ ตวั เมียเป็นเบา้ เสียบสําหรับหวั ต่อ RJ-45 ตวั ผู้ เมือมองจากดา้ นทีจะนาํ หวั ตอ่ ตวั ผเู้ สียบพิน 8 จะ อยู่ทางซ้ายส่วนพิน 1 จะอยู่ทางขวาหัวต่อตวั เมียจะมีลกั ษณะเป็ นกล่องมีช่องสําหรับเสียบหัวต่อด้านใน กล่องจะมีขวั ซึงจะเป็ นส่วนทีเชือมกบั สายนาํ สัญญาณจริงๆ ดงั รูปที 2.26และ2.27 หัวต่อตวั เมียอาจเรียกวา่ Female Outlet ก็ไดห้ รืออาจเรียกวา่ Jack Face รูปที 2.26 หวั ต่อ RJ45 รูปที 2.27 หัวต่อตัวเมียส่วนทตี ่อกบั ผนัง

18 5. สาย RG6 รูปที 2.28 สาย RG6 สาย RG-6 สายชนิดนีเป็ นสายนาํ สัญญาณภาพทีไดร้ ับความนิยมนาํ มาใชง้ านในระบบนาํ สัญญาณ ภาพแบบต่างๆทงั TV เคเบิลดาวเทียมหรือระบบ Audio/Video ส่วนใหญ่ก็นิยมนาํ สายชนิดนีมาใชง้ านและ สายชนิดนียงั นิยมนาํ มาใชง้ านกบั ระบบกลอ้ งวงจรปิ ด CCTV มากทีสุดอีกดว้ ยซึงสาย RG6 ในปัจจุบนั มีอยู่ หลายเกรดด้วยกนั แต่สาย RG6 ทีควรนํามาใช้งานในระบบกล้องวงจรปิ ดนันควรจะเป็ นสาย RG6 ทีมี คุณภาพสูงมี Shield ป้ องกนั สัญญาณสูง 95% เพราะหากนาํ สายทีมีคุณภาพตาํ มี Shield แค่ 60%-80% มาใช้ งานอาจจะทาํ ใหไ้ ดค้ ุณภาพของภาพจากกลอ้ งวงจรปิ ดออกมาไมด่ ี และเมือใชง้ านไปนานๆแลว้ อาจจะทาํ ให้ เกิดปัญหาดา้ นสายสัญญาณภาพในภายหลงั ไดส้ าย RG6 จะมีทงั แบบทีเป็ น Shield ทองแดงและแบบทีเป็ น Shield อลูมิเนียมทงั นีขึนอยสู่ ถานทีและตาํ แห่นงกลอ้ งวงจรปิ ดทีจะใช้ในการติดตงั วา่ อยู่ ณ จุดใดหากเป็ น จุดทีเดินสายในระยะไกลประมาณ 400-700 เมตรขึนไปก็ควรจะใช้สายทีเป็ น Shield ทองแดงแต่ถา้ หาก กลอ้ งวงจรปิ ดในจุดนนั เดินสายไกลไม่เกิน 400 เมตร ก็ใชส้ ายทีเป็ น Shield อะลูมิเนียมไดส้ าย RG6 จะมีทงั สีแดงและสีขาวซึงสายสีขาวจะนิยมใชง้ านภายในอาคารเพราะสายสีขาวไม่ทนทานต่อแสงแดงสาย RG6 สี ขาวส่วนใหญ่จะเป็ นสายเกรดตาํ ฉนวนหุ้มสายทีเป็ นสีขาวนนั เปื อย-ขาดไดง้ ่ายส่วนสาย RG6 ทีเป็ นสีดาํ นนั จะเป็ นสายทีมีเกรดสูงกวา่ สายสีขาวทนทานต่อแดดได้ดีไม่เปื อยไม่ขาดง่ายทนต่อความร้อนไดแ้ ต่ก็จะมี ราคาแพงกวา่ สายสีขาวสายทีนิยมมาใชใ้ นระบบกลอ้ งวงจรปิ ดนนั จะใชส้ ายสีดาํ เป็ นทงั ภายในและภายนอก อาคารเนืองจากมีอายกุ ารใชง้ านทียาวนานและทนทานมากกวา่ สาย RG6 สีขาว รูปที 2.29 สาย RG ขนาดต่างๆ

19 6. หวั BNC หวั ต่อบีเอ็นซี (องั กฤษ:BNC connector) เป็ นขวั ต่อสัญญาณความถีวทิ ยุ (RF) แบบหนึงใชส้ ําหรับ เชือมต่อสายเคเบิลแบบโคแอกเชียรขวั ต่อนีตงั ชือตามกลไกการล็อดแบบ Bayonet และผปู้ ระดิษฐ์คิดคน้ สอง คนคือ Neill และ Concelman ขวั ต่อ BNC นันมีใช้สําหรับการเชือมต่อสัญญาณภาพระดับมืออาชีพทัง สัญญาณอะนาล็อกและอินเตอร์เฟสดิจิตอลแบบอนุกรม (Serial Digital Interface) กานเชือมต่อสายอากาศ วทิ ยสุ มคั รเล่นและอุปกรณ์ทดสอบทางอิเล็กทรอนิกส์แทบจะทุกอยา่ งนบั เวลากวา่ ปี แลว้ ขวั ต่อแบบนีถือ เป็ นทางเลือกหนึงของขวั ต่อแบบอาร์ซีเอ (RCA) เมือใช้สําหรับสัญญาณภาพคอมโพสิตวิดีโอ (Composite video) ในอุปกรณ์แหล่งสัญญาณภาพทวั ไปอยา่ งไรก็ตามอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จาํ นวนมากทีมีแจ็คอาร์ซีเอ ก็สามารถใช้แจ็ค BNC ได้โดยผ่านตวั แปลงนอกจากนีขวั ต่อ BNC ยงั นิยมใช้กนั ในเครือข่ายอีเธอร์เน็ต BASE ทงั การเชือมต่อแบบสายเคเบิลและการ์ดเครือข่ายซึงลา้ สมยั ไปรุ่นย่อยของขวั ต่อ BNC เรียกว่า ขวั ต่อทีเอ็นซี (TNC ย่อจาก Threaded Neill-Concelman) มีประสิทธิภาพทีสูงกวา่ BNC แบบเดิมใชส้ ําหรับ ช่วงความถีไมโครเวฟ ขัวต่อ BNC นันมักจะใช้ในงานอิเล็กทรอนิกส์ NIM (Nuclear Instrumentation Module) แต่ปัจจุบนั มกั จะถูกแทนทีดว้ ยขวั ต่อ LEMO ซึงมีขนาดจิวและมีความหนาแน่นสูงกวา่ รูปที 2.30 หวั BNC หวั BNC สําหรับเขา้ สาย RG6 สาํ หรับใชใ้ นงานติดตงั ระบบกลอ้ งวงจรปิ ด หวั BNC Connector ทีนิยมใชก้ นั ปัจจุบนั มีการผสมผสานใช้กนั ระหว่างหัว BNC กบั แบบเป็ นขนั เกลียวหัว-ทา้ ย เรียกว่า เอฟไทด์ F Type Connector ขอ้ ดีของเอฟไทดค์ ือติดตงั ง่ายแค่หมุนเกลียวรับกบั จุดเชือมต่อต่างๆทีเป็ นรุ่นเอฟไทด์ดว้ ยกนั ไม่ ตอ้ งใช้เครืองมือยาํ เขา้ หัว BNC (Crimp Tool for BNC) แต่ขอ้ เสียของรุ่น เอฟไทด์ F-Type Connector หาก ขนั เกลียวรับกนั ไม่แน่นก็อาจจะไม่มีสัญญาณภาพออกจากกลอ้ งวงจรปิ ด CCTV ได้ ตอ้ งตรวจดูให้ดีทุกๆ ครังเมือติดตงั กลอ้ งวงจรปิ ด

20 7. ท่อทีในงานระบบ CCTV การใชท้ ่อร้อยสายไฟฟ้ าในงานไฟฟ้ ามีจุดประสงคเ์ พือป้ องกนั อนั ตรายทีอาจเกิดกบั สายไฟและใหเ้ หมาะสม กบั การเดินสายในแตล่ ะพืนทีทอ่ ทีนิยมใชแ้ บง่ ออกเป็น 2 กลุ่มคือทอ่ โลหะและทอ่ อโลหะซึงประกอบดว้ ย ท่อโลหะบาง ( Electrical Metallic Tubing; EMT ) ท่อโลหะหนาปานกลาง ( Intermediate Metal Conduit; IMC ) ทอ่ โลหะหนา ( Rigid Steel Conduit; RSC ) ทอ่ โลหะออ่ น ( Flexible Metal Conduit ) - ท่อโลหะบาง (Electrical Metallic Tubing) เป็ นท่อร้ายสายไฟฟ้ าทีทาํ ดว้ ยแผ่นเหล็กกลา้ ชนิดรีดร้อนหรือ รีดเย็นหรือแผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสีผิวภายในเคลือบด้วยอีนาเมลทาํ ให้ผิวท่อเรียบทังภายในและ ภายนอกท่อและมีความมนั วาวปลายท่อเรียบทัง 2 ด้านไม่สามารถทาํ เกลียวได้มาตรฐานกาํ หนดให้ใช้ ตวั อกั ษรสีเขียวระบุชนิดและขนาดของท่อเรียกกนั ทวั ไปวา่ ท่อ EMT ปัจจุบนั มีขนาดตงั แต่ 1/2\" - 2\" และ ยาวท่อนละ 10 ฟุตหรือประมาณ 3 เมตรทอ่ EMT ใชเ้ ดินลอยในอากาศหรือฝังในผนงั คอนกรีตไดแ้ ต่หา้ มฝัง ดินหรือฝังในพืนคอนกรีตในสถานทีอนั ตรายระบบแรงสูงหรือบริเวณทีอาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ ขนาดท่อทีมีขายในทอ้ งตลาดคือ 1/2\" , 3/4\" , 1\" , 1 1/4\" , 1 1/2\" , 2\" การดดั ท่อชนิดนีใช้ Bender ทีมีขนาด เท่ากบั ขนาดท่อสาํ หรับท่อทีมีขนาดใหญ่ อาจใชข้ อ้ โคง้ สําเร็จรูป (Elbow) ได้ เช่น ขอ้ โคง้ 90 องศา ตวั อยา่ ง ขอ้ มูลทอ่ EMT แสดงดงั ตารางที 2.1 ตวั อยา่ งขอ้ มูลท่อ EMT ตารางที 2.1 ตัวอย่างข้อมูลท่อ EMT

21 - ท่อโลหะหนาปานกลาง (Intermediate Metal Conduit) เป็ นท่อร้อยสายไฟฟ้ าทาํ ดว้ ยแผน่ เหล็กกลา้ ชนิดรีด ร้อนหรือรีดเยน็ หรือแผน่ เหล็กกลา้ เคลือบสังกะสีผิวภายในเคลือบดว้ ยอีนาเมลทาํ ให้ผิวท่อเรียบทงั ภายใน และภายนอกท่อและมีความมนั วาวมีความหนากว่าท่อ EMT ปลายท่อทาํ เกลียวไวท้ ัง 2 ด้านมาตรฐาน กาํ หนดให้ใช้ตวั อกั ษรสีส้ม (บางครังอาจเห็นเป็ นสีแดง) ระบุชนิดและขนาดของท่อเรียกกนั ทวั ไปว่าท่อ IMC มีขนาดตงั แต่ 1/2\" - 4\" และยาวท่อนละ 10 ฟุตหรือประมาณ 3 เมตรท่อ IMC ใชเ้ ดินนอกอาคารหรือฝัง ในผนงั -พืนคอนกรีตไดข้ นาดท่อทีมีขายในทอ้ งตลาดคือ 1/2\" , 3/4\" , 1\" , 1 1/4\" , 1 1/2\" , 2\" , 2 1/2\" , 3\" , 3 1/2\" และ 4\" การดดั ท่อชนิดนีใช้ Hickey ทีมีขนาดเทา่ กนั สําหรับท่อทีมีขนาดใหญ่อาจใชข้ อ้ โคง้ สาํ เร็จรูปได้ เช่นขอ้ โคง้ 90 องศาตวั อยา่ งขอ้ มูลท่อ IMC แสดงดงั ตารางที 2.2 ตวั อยา่ งขอ้ มูลทอ่ IMC ตารางที 2.2 ตวั อย่างข้อมูลท่อ IMC

22 - ท่อโลหะหนา (Rigid Steel Conduit) เป็ นท่อร้อยสายไฟฟ้ าทีทาํ ดว้ ยแผน่ เหล็กกลา้ ชนิดรีดร้อนหรือรีดเยน็ หรือแผน่ เหล็กกลา้ เคลือบสังกะสีทงั ผวิ ภายนอกและภายในทาํ ใหผ้ วิ ท่อเรียบทงั ภายในและภายนอกท่อแตผ่ วิ จะดา้ นกวา่ และหนากวา่ ท่อ EMT และ IMC ปลายท่อทาํ เกลียวไวท้ งั 2 ดา้ น มาตรฐานกาํ หนดใหใ้ ชต้ วั อกั ษร สีดาํ ระบุชนิดและขนาดของท่อเรียกกนั ทวั ไปวา่ ทอ่ RSC มีขนาดตงั แต่ 1/2\" - 6\" และยาวท่อนละ 10 ฟุตหรือ ประมาณ 3 เมตรท่อ RSC ใชเ้ ดินนอกอาคารหรือฝังในผนงั -พืนคอนกรีตได้ ขนาดท่อทีมีขายในทอ้ งตลาด คือ 1/2\" , 3/4\" , 1\" , 1 1/4\" , 1 1/2\" , 2\" , 2 1/2\" , 3\" , 3 1/2\", 4\" ,5\" และ 6\" การดดั ท่อชนิดนีใช้ Hickey หรือ เครืองดดั ท่อไฮโดลิกทีมีขนาดเท่ากนั สําหรับท่อทีมีขนาดใหญ่ อาจใช้ขอ้ โคง้ สําเร็จรูปคล้ายกบั ขอ้ โคง้ สาํ เร็จรูปของท่อ IMC ได้ เช่น ขอ้ โคง้ 90 องศา เป็นตน้ ตวั อยา่ งขอ้ มลู ทอ่ RSC แสดงดงั ตารางที 2.3 ตวั อยา่ ง ขอ้ มูลท่อ RSC ตารางที 2.3 ตวั อย่างข้อมูลท่อ RSC

23 - ท่อโลหะอ่อน (Flexible Metal Conduit) เป็ นท่อร้อยสายไฟฟ้ าทีทาํ ดว้ ยแผน่ เหล็กกลา้ เคลือบสังกะสีทงั ผวิ ภายนอกและภายในเป็ นท่อทีมีความอ่อนตวั โคง้ งอไปมาไดเ้ หมาะสําหรับต่อเขา้ กบั ดวงโคม มอเตอร์หรือ เครืองจกั รกลทีมีการสันสะเทือน ท่อโลหะอ่อนใช้เดินในสถานทีแห้งและเขา้ ถึงไดห้ ้ามใชเ้ ดินในสถานที เปี ยก,ในช่องขึนลง,ในห้องเก็บแบตเตอรี,ในสถานทีอนั ตราย,ฝังดินหรือฝังในคอนกรีตขนาดท่อทีมีขายใน ทอ้ งตลาดคือ 1/2\" , 3/4\" , 1\" , 1 1/4\" , 1 1/2\" , 2\" , 2 1/2\" ,3\" และ 4\" ท่อโลหะอ่อนทีใช้ตอ้ งมีขนาดไม่เล็ก กวา่ 1/2\" ยกเวน้ ท่อโลหะอ่อนทีประกอบมากบั ขวั หลอดไฟฟ้ าและมีความยาวไม่เกิน 180 เซนติเมตรการจบั ยึดท่อชนิดนีต้องมีระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ไม่เกิน 1.50 เมตรและห่างจากกล่องต่อสายไม่เกิน 30 เซนติเมตรและหา้ มใชท้ ่อโลหะออ่ นเป็นตวั นาํ แทนสายดิน รูปที 2.31 ท่อโลหะอ่อน (Flexible Metal Conduit) - ท่อโลหะอ่อนกนั นาํ เป็ นท่อโลหะอ่อนทีมีเปลือก PVC หุ้มดา้ นนอกเพอื กนั ความชืนไม่ใหเ้ ขา้ ไปภายในท่อ ไดใ้ ชง้ านในบริเวณทีตอ้ งการความอ่อนตวั ของท่อเพือป้ องกนั สายไฟฟ้ าชาํ รุดจากไอของเหลวหรือของแข็ง หรือในทีอนั ตรายหา้ มใชใ้ นบริเวณทีอุณหภูมิใชง้ านของสายไฟฟ้ าสูงมากจนทาํ ให้ท่อเสียหายมีขนาดตงั แต่ 1/2\" - 4\" การตดั ทอ่ ชนิดนีใชเ้ ลือยตดั เหลก็ ทวั ไปตดั ตรงๆ รูปที 2.32 ท่อโลหะอ่อนกนั นํา

24 2.4 อปุ กรณ์การควบคุมระบบกล้องวงจรปิ ด CCTV 2.4.1 หม้อแปลง รูปที 2.33 หม้อแปลงไฟฟ้ า หม้อแปลง 12V Power Switching เป็ นอุปกรณ์ทีสามารถเปลียนขนาดแรงดันไฟฟ้ าจาก 220V เปลียนเป็ น 12V ได้ คุณสมบตั ิสําคญั ของหม้อแปลงทีจะตอ้ งเจาะลึกคือค่าหน่วยของแอมป์ (Amp) ทีจะ นาํ มาใชง้ าน แอมแปร์หรือทีเรียกสันๆ วา่ แอมป์ (สัญลกั ษณ์:A) เป็ นหน่วยวดั กระแสไฟฟ้ าหรือปริมาณของ ประจุไฟฟ้ า หมอ้ แปลงทีมีแอมป์ เยอะกจ็ ะสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้ าไดม้ ากยงิ ขึน (วตั ต)์ (W) สูตรการคิดง่ายๆคือ W/12=Amp (12 คือจาํ นวน V ของหมอ้ แปลง) ตวั อย่าง(a) ไฟเส้น 3528 ใช้กาํ ลงั ไฟฟ้ า 4.8 วตั ต์ต่อเมตร ในหนึงมว้ นมี 5 เมตร วิธีการคิดคือเอา 4.8 x 5( เมตร) = 24W แลว้ นาํ เอาผลทีไดม้ าใส่ในสูตรขา้ งบน 24W/12V=2A สรุปไดว้ า่ ตอ้ งใชห้ มอ้ แปลงทีมีค่า2A ขึนไป(3A) วงจรอินเวอร์เตอร์นีจะแปลงไฟ 12VDC เป็น 220VAC กาํ ลงั ไฟฟ้ าขาออกที 180W ความถี 50Hz ซึงเพิมกระแสไฟให้สู งขึนโดยใช้ 2N3055 เพือขับหม้อแปลงเอาท์พุท 220V 50HZ จากแหล่งจ่าย แรงดนั ไฟฟ้ า 12V 10A Amp Volt Watt 3A 12v 36W 5A 12v 60W 10A 12v 120W 20A 12v 240W 30A 12v 360W ตารางท2ี .4 ขนาดของหม้อแปลงไฟฟ้ า

25 2.4.2 อแดปเตอร์ (Adapter) อแดปเตอร์ (Adapter) คือหมอ้ แปลงไฟฟ้ าจากไฟฟ้ ากระแสสลับ (AC) ทีใช้ทวั ๆไปตามบา้ นทีมี ความต่างศักย์ 220 โวลต์ ให้เป็ นไฟฟ้ ากระแสตรง (DC) ทีมีความต่างศักย์ตาํ ลง เพือให้สามารถจ่าย กระแสไฟฟ้ ากบั เครืองใชไ้ ฟฟ้ าไดห้ รือจ่ายไฟใหก้ บั ตวั กลอ้ งวงจรปิ ด รูปที 2.34 อแดปเตอร์ (Adapter) - สิงทีตอ้ งคาํ นึงเลือกใช้ Adaptor กระแสไฟฟ้ าทีจ่ายให้กับตวั กล้อง 12VDC 1A มีการจ่ายไฟเกินหรือไฟขาดหรือไม่สามารถจ่ายไฟได้ คุณภาพคงทีหรือไม่ เพราะปกติของกลอ้ งวงจรปิ ด ถา้ เป็ นกลอ้ งของ AVTECH นนั ส่วนใหญ่แลว้ จะให้ค่า เพมิ หรือลดไดไ้ มเ่ กิน 10% คา่ ตวั เลขก็คือ ไม่ควรเกิน 13.1V และไม่ควรตาํ กวา่ 10.8V - ความร้อนทีเกิดขึนจากการใชง้ าน อุปกรณ์ไฟฟ้ าทุกอย่างมีความร้อนและตวั อแดปเตอร์ถา้ เป็ นแบบคุณภาพตาํ ตวั Case ของอแดปเตอร์ทีเป็ น พลาสติก สามารถติดไฟไดง้ ่ายๆ เหมือนกนั ดงั นนั ควรเลือกซืออแดปเตอร์จากแหล่งผลิตทีไวใ้ จได้ - มาตรฐานวสั ดุอุปกรณ์ทีใช้ บางครังก็ไม่สามารถรู้ไดว้ ่าอุปกรณ์ทีใชข้ า้ งในเป็ นแบบไหนเป็ นของแทห้ รือเปล่าหรือบางครังจากการที ตรวจเช็ดและดูตามทอ้ งตลาดตอนนีมีการพฒั นาการ Copy จะมีตงั แต่ Copy เกรด A B C D และหน้าตา เหมือนกนั มาก

26 2.4.3 เทอร์โมสตัต (Thermostat) เทอร์โมสตทั (Thermostat) คือเครืองมือสําหรับใชค้ วบคุมอุณหภูมิของระบบเพือทีวา่ อุณหภูมิของ ระบบจะถูกคงไวม้ ีค่าใกลเ้ คียงกบั ค่าของอุณหภูมิ ณ จุดทีกาํ หนดไว้ ดงั นนั เทอร์โมสตทั จะทาํ หนา้ ทีควบคุม อุณหภมู ิความร้อนหรือความเยน็ ทีตอ้ งการรักษาไวอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง รูปที 2.35 เทอร์โมสตัต (Thermostat) คุณสมบตั ิการใชง้ าน - อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิภายในตูค้ วบคุมไฟฟ้ าเพือยดื อายกุ ารใชง้ านของพดั ลมทีใชร้ ะบายอากาศสําหรับ ตูค้ วบคุมไฟฟ้ าทีทาํ หนา้ ทีระบายความร้อนภายในตูท้ าํ ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆภายในตูม้ ีอายุการใช้ งานทียาวนานยงิ ขึน อุปกรณ์จะทาํ หนา้ ทีตดั ตอ่ การทาํ งานของพดั ลมให้รักษาระดบั อุณหภูมิภายในตูค้ วบคุม ไฟฟ้ าให้เหมาะสม อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิภายในตูค้ วบคุมไฟฟ้ ารุ่นนีสามารถติดตงั โดยตรงกบั รางแบบ Din Rail ทาํ ให้สะดวกในการติดตงั การใชง้ านง่ายเพียงแค่หมุนป่ ุมปรับอุณหภูมิให้ตวั ชี ชีไปยงั อุณหภูมิที ตอ้ งการนอกจากนีตวั อุปกรณ์ยงั มีเซนเซอร์วดั อุณหภมู ิภายในตวั อีกดว้ ย

27 2.4.4 เซอร์กติ เบรกเกอร์ รูปที 2.36 เซอร์กติ เบรกเกอร์ เซอร์กิตเบรกเกอร์เป็ นอุปกรณ์ป้ องกนั ทางไฟฟ้ าทีทาํ หน้าทีในการป้ องกนั การใช้ไฟฟ้ าเกินพิกดั (Overload) และกระแสลดั วงจร (Short Circuit) กล่าวคือเมือใดก็ตามทีมีการใช้กระแสไฟฟ้ าสูงเกินกว่าที สายไฟฟ้ าจะทนไดจ้ นเกิดความร้อนสะสมขึนอาจทาํ ความเสียหายต่อสายไฟฟ้ าและอุปกรณ์ไฟฟ้ ารวมถึง เมือเกิดกระแสไฟฟ้ าลดั วงจรเซอร์กิตเบรกเกอร์จะทาํ การตดั กระแสไฟฟ้ าออกจากระบบโดยอตั โนมตั ิเพือ ป้ องกนั ไม่ให้เกิดความเสียหายทีอาจนาํ ไปสู่การเกิดอคั คีภยั ในทีสุด ดงั นนั การเลือกใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ ตอ้ งคาํ นึงถึงค่าความสามารถในการตดั กระแสไฟฟ้ าลดั วงจรตอ้ งสูงกวา่ ค่ากระแสไฟฟ้ าลดั วงจรของระบบ ไฟฟ้ าทีตาํ แหน่งติดตงั และค่ากระแสพิกดั จะตอ้ งนอ้ ยกวา่ คา่ กระแสไฟฟ้ าทีสายไฟจะทนได้ 2.4.5 ลกู ย่อยป้ องกนั ไฟดูด/ไฟรัว RCBO ลูกย่อยป้ องกันไฟดูด/ไฟรัว RCBO ได้ IEC 61009 และ มอก. 909-2548 ซึงเป็ นมาตรฐานของ อุปกรณ์ไฟดูดตรงตามมาตรฐานการติดตงั ทางไฟฟ้ าสาํ หรับประเทศไทย ใชก้ บั คอนซูมเมอร์ยนู ิคและโหลด เซ็นเตอร์ป้ องกนั ครบทงั สามอย่างคือ ไฟช็อด,ไฟเกิน,ไฟดูด/ไฟรัวป้ องกนั ไฟรัวมีให้เลือกทงั 10 และ 3 มิ ลิแอมป์ ตดั วงจรรวดเร็วภายในเวลา 0.04 วินาที สะดวก ปลอดภยั มีขนาด 10-45 แอมแปร์ ป้ องกนั เฉพาะ ส่วน ไฟไมด่ บั ทงั บา้ นมีป่ ุมทดสอบการทาํ งานในตวั (Test Trip) วงจรยอ่ ยสําหรับเครืองใชไ้ ฟฟ้ าดงั ต่อไปนีนอกจากจะมีสายดินบริภณั ฑแ์ ละติดตงั ตอ้ งมีการป้ องกนั โดยใช้ เครืองตดั ไฟรัวขนาดไม่เกิน 30 mA เพิมเติมไดแ้ ก่เครืองทาํ นาํ อุ่น เครืองทาํ นาํ ร้อน อ่างนาํ วน ประโยชนข์ อง เครืองตดั ไฟรัวป้ องกนั อนั ตรายจากไฟดูด (ตดั ไฟรัวทีไหลผ่านร่างกาย) ป้ องกนั อคั คีภยั (ตดั ไฟรัวทีไหลลง ดินทีอุปกรณ์ไฟฟ้ าหรือสายไฟฟ้ าในกรณีทีเครืองป้ องกนั กระแสเกิน เช่น ฟิ วส์ หรือเบรกเกอร์ไม่ทาํ งาน หรือทาํ งานชา้ เนืองจากปริมาณกระแสไฟรัวมีค่าตาํ แต่อาจทาํ ใหเ้ กิดอคั คีภยั ได)้

28 รูปที 2.37 ลูกย่อยป้ องกนั ไฟดูด/ไฟรัว RCBO ประเภทเครืองตดั ไฟรัว เครืองตดั ไฟรัวจะมีอยหู่ ลายประเภทในทีนีแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ เครืองตดั ไฟ รัวทีตดั กระแสลดั วงจรได้ (RCBO) สามารถใช้ตดั ได้ทงั ไฟรัวและกระแสลัดวงจร เครืองตดั ไฟรัวทีไม่ สามารถตดั กระแสลดั วงจร (RCCB) จึงตอ้ งใชร้ ่วมกบั ฟิ วส์หรือเบรกเกอร์ดว้ ยทุกครัง เครืองตดั ไฟรัวกบั สาย ดิน สายดินเป็ นความจาํ เป็ นอนั ดบั แรกทีผูใ้ ช้ไฟฟ้ าจะตอ้ งมีสําหรับป้ องกนั ไฟฟ้ าดูดเพือให้กระแสไฟฟ้ า รัวไหลลงสายดินไดโ้ ดยสะดวก โดยไม่ผา่ นร่างกาย (ไฟไม่ดูด) และทาํ ให้เครืองตดั ไฟอตั โนมตั ิตดั ไฟออก ไดท้ นั ที เครืองตดั ไฟรัว เมือใช้กับระบบไฟทีมีสายดินจะเป็ นมาตรการเสริมความปลอดภยั อีกชันหนึง เพอื ใหม้ ีการตดั ไฟรัวก่อนทีจะเป็ นอนั ตรายกบั ระบบไฟฟ้ า (ไฟไหม)้ หรือกบั มนุษย์ (ไฟดูด) เครืองใชไ้ ฟฟ้ า ทีมีสายดินตอ้ งใชป้ ลกั ไฟทีมีเฉพาะ 3 ขา เท่านนั หรือ ไม่จาํ เป็ นตอ้ งใชป้ ลกั ไฟ 3 ขา ปลกั ไฟทีมีสายดินของ เครืองใชไ้ ฟฟ้ าส่วนใหญใ่ นทอ้ งตลาดจะมี เพียง 2 ขา โดยมีขวั สายดิน 2 แถบ อยดู่ า้ นขา้ งของตวั ปลกั ดงั นนั การติดตงั เต้ารับทีมี 3 รู จึงไม่เกิดประโยชน์ต่อการต่อลงดินและยงั เป็ นการส่งเสริมให้มีการผลิตและใช้ อุปกรณ์ทีไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล อีกดว้ ย เครืองตดั ไฟรัวในระบบไฟทีไม่มีสายดิน เครืองตดั ไฟรัวจะ ทาํ งานก็ต่อเมือมีไฟรัวไหลผา่ นร่างกายแลว้ (ตอ้ งถูกไฟดูดก่อน) ดงั นนั ความปลอดภยั จึงขึนอยกู่ บั ความไว ในการตดั กระแสไฟฟ้ า ระบบไฟฟ้ าทีดีจึงควรมีทงั ระบบสายดินและเครืองตดั ไฟรัว เพือเสริมการทาํ งานซึง กนั และกนั ใหเ้ กิดความปลอดภยั ทงั จากอคั คีภยั และการ ถูกไฟฟ้ าดูด เครืองตดั ไฟรัวทีใชป้ ้ องกนั ไฟดูดตอ้ งมีคุณสมบตั ิและการใชง้ านดงั นี พกิ ดั ขนาดกระแสไฟฟ้ ารัวตอ้ งไมเ่ กิน 30 mA และตดั ไฟไดภ้ ายในระยะเวลา 0.04 วินาที เมือมีไฟรัวขนาด 5 เท่าของพิกดั (=150 mA) ควร ติดตงั ใชง้ านเฉพาะจุด เช่น วงจรเตา้ รับในห้องครัว,ห้องนาํ ,ห้องเด็กๆ หรือ วงจรเตา้ รับ/สายไฟทีต่อไปใชง้ านนอกอาคารทงั ชวั คราวและถาวร ถา้ จะติดตงั รวมทีเมนสวทิ ช์จะตอ้ งแยก วงจรทีมีค่าไฟรัวตามธรรมชาติมากออกไป เช่น อุปกรณ์ป้ องกนั ฟ้ าผ่า, เครืองปรับอากาศ, อุปกรณ์ทีมี โอกาสเปี ยกชืน เมือตอ้ งการใหเ้ ครืองตดั ไฟรัวสามารถป้ องกนั ทุกวงจรทีเมนสวทิ ช์ (ใช้ไดเ้ ฉพาะระบบทีมี สายดิน เป็นมาตรการเสริมป้ องกนั อคั คีภยั และไฟฟ้ าดูด) ใหใ้ ชข้ นาดตงั แต่ 100 mA เป็ นตน้ ไป โดยอาจเป็ น 300 mA หรือ 500 mA ก็ได้ ขึนอยกู่ บั สําหรับขนาด 30 mA นนั ก็ยงั คงใชร้ ่วมกนั ในวงจรยอ่ ยซึงอาจใชห้ ลาย

29 ตวั ก็ไดแ้ ละหากมีปัญหาการทาํ งานพร้อมกนั ให้เลือกชนิดทีมีการหน่วงเวลา (Type S) สาํ หรับเครืองตดั ไฟ รัวทีเมนสวทิ ช์จะรู้ไดว้ า่ เครืองตดั ไฟรัวทีมีอยปู่ ลอดภยั หรือไม่ ก็สามารถตรวจสอบการทาํ งานของเครืองตดั ไฟรัวไดด้ ว้ ยเครืองตรวจสอบการทาํ งานของเครืองตดั ไฟรัว การกดป่ ุมทดสอบเป็ นประจาํ เป็ นเพยี งการบอก ว่าการรับสัญญาณและกลไกสามารถทาํ งานได้อย่างไร ความปลอดภยั ยงั ขึนอยู่กับการติดตงั ว่าถูกต้อง หรือไมด่ ว้ ย 2.4.6 พดั ลมระบายอากาศ รูปที 2.38 พดั ลมระบายอากาศ พดั ลมระบายอากาศแรงดันไฟฟ้ าVolt 220 V/240Vac 50/60Hz หรือ 48 Vdc Heavy-Duty design and heavy duty opera ting กระแสไฟฟ้ า 0.06/0.05 Amp ความเร็วรอบ 2,250 รอบ/นาทีอตั ราการไหลของ อากาศ 2.3 ลูกบาศกเ์ มตร/นาที ทาํ งานในสภาวะปกติทีอุณหภูมิ +25 ถึง+72 องศาเซลเซียส เสียงเงียบขณะใช้ งานสายไฟยาว 1.5 เมตรพร้อมปลกั เสียบสามารถติดตงั ไดท้ งั ดา้ นบนหลงั คาและดา้ นล่างของตู้ Rack หรือที ฝาดา้ นขา้ งสาํ หรับการระบายอากาศ ติดตงั ไดม้ ากสุด 6 ตวั (1x4”,2x4”,3x4”) ใบพดั พลาสติก AB ขนาด 4นิว ตวั โครงทาํ จากอลูมิเนียมหล่อและมีตะแกรงเหล็กชุบโครมเมียมมาตรฐานความปลอกภยั UL/CE,CSA

30 2.4.7 เต้าเสียบปลกั ไฟฟ้ า (Plug Service) รูปที 2.39 เต้าเสียบปลกั ไฟฟ้ า (Plug Service) รู ปที 3.16 ตัวอย่างเต้าเสี ยบปลักไฟฟ้ าแบบมาตรฐานชนิ ดมีสายดิน โดยใน 1 ชุ ดจะมี 3 รู คือ 1. Line (L : Hot) รูแคบ รูนีเป็ นรูทีต่อกบั สายไฟทีมีกระแสไฟฟ้ าวงิ มาจากโรงงานไฟฟ้ า ถา้ เอาไขควงวดั ไฟ เช็คทีรูนีจะมีไฟสวา่ งขึนหมายถึงถา้ เอามือจบั ไฟทีรูนีช็อดแน่ๆ 2. Neutral (N) รูกวา้ ง รูนีเป็ นรูทีต่อกบั สายไฟทีวงิ กลบั ไฟยงั โรงงานไฟฟ้ าหรือกลบั ไปทีหมอ้ แปลงไฟฟ้ าที เป็ นแหล่งส่ งไฟฟ้ ามาทีปลักนี รู นีถ้าวัดด้วยไขควงวัดไฟจะไม่มีไฟติด ก็คือรู นีไม่มีไฟนันเอง 3. Ground (GND) หรือสายดิน รูขา้ ง รูนีเป็นสายทีต่อไวก้ บั ทุ่นโลหะทีตอกลงไปใตด้ ินตามมาตรฐานเพือใช้ เป็ นสายดินของอาคาร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook