การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบข้อมูลท้งั ตาราง (Format As Table) 1. คลิกเลือกป่ ุมเคร่ืองมือ Format As Table จากแทบ็ Home 2. เลือกรูปแบบตารางท่ีตอ้ งการ 3. เลือกกลุม่ เซลล์ 4. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบข้อมูลท้งั ตาราง (Format As Table) o การปรับแต่งตาราง 1. คลิกเลือกเซลลภ์ ายในตาราง 2. คลิกเลือกแทบ็ Design ของเครื่องมือ Table Tools 3. กลุ่มคาสง่ั Table Styles เลือกรูปแบบตารางท่ีตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล• การผสานและแยกเซลล์1. คลิกเลือกกลุม่ เซลลท์ ี่ตอ้ งการรวมกนั2. คลิกป่ ุม Merge & Center จากแทบ็ Home3. เลือกลกั ษณะการรวมท่ีตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล• การผสานและแยกเซลล์คาส่ังการรวมเซลล์– Merge & Center รวมเซลลแ์ ละจดั ขอ้ มลู ใหอ้ ยกู่ ่ึงกลาง– Merge Across รวมเซลลใ์ นแนวนอน (แนวบรรทดั )– Merge Cells รวมเซลลแ์ ต่ไม่จดั ตาแหน่งขอ้ มลู– Unmerge Cells ยกเลิกการรวมเซลล์ ในกรณีที่ตอ้ งการแยกเซลลท์ ่ีทาการรวมไวแ้ ลว้ สามารถคลิกท่ีเซลท์ ี่ทาการรวมไว้ และคลิกป่ ุมคาสง่ั Unmerge CellsMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบตวั อกั ษร (Font) 1. คลิกเลือกเซลลห์ รือกลุม่ เซลลท์ ่ีตอ้ งการจดั รูปแบบ 2. คลิกเลือกคาสงั่ จากกลุ่มคาสง่ั Font บนแทบ็ HomeMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบตวั อกั ษร (Font) หากตอ้ งการจดั รูปแบบตวั อกั ษรท่ีมากข้ึนกวา่ ที่เคร่ืองมือการจดั รูปแบบมีให้ จะตอ้ งคลิกคาส่ังยอ่ ยเพื่อเขา้ สู่หนา้ ต่างการจดั รูปแบบตวั อกั ษรMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบข้อมูลตัวเลข (Number) 1. คลิกเลือกเซลลห์ รือกลุ่มเซลลต์ วั เลขท่ีตอ้ งการจดั รูปแบบ 2. ใส่เครื่องหมายจุลภาคMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบข้อมูลตวั เลข (Number) สาหรับการจดั รูปแบบตวั เลขน้นั สามารถจดั รูปแบบเพ่ิมเติมไดอ้ ีก โดยการ คลิกคาสง่ั ยอ่ ย เพอื่ เรียกหนา้ ต่าง Number สาหรับใชใ้ นการจดั รูปแบบMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบข้อมูลตัวเลขแบบกาหนดเอง (Custom Number) 1. คลิกเลือก หรือลากคลุมเซลลท์ ่ีตอ้ งการปรับแต่ง 2. คลิกขวาเลือกคาสัง่ Format Cells… 3. ที่ป้ าย Number เลือก Custom 4. ท่ีช่อง Type พมิ พร์ ูปแบบใหม่ท่ีตอ้ งการลงไป 5. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบข้อมูลตัวเลขแบบกาหนดเอง (Custom Number)Microsoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบอย่างมเี ง่ือนไข (Conditional Formatting) 1. เลือกกลุ่มเซลลท์ ี่ตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเคร่ืองมือ Condition Formatting ที่แทบ็ Home บน Ribbon ที่กลุ่มคาสงั่ Styles 3. เลือกรูปแบบเง่ือนไขที่ตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมีเงอื่ นไข (Conditional Formatting) o การเปรียบเทยี บค่า (Compare) 1. เลือกกลุ่มเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเครื่องมือ Conditional Formatting ท่ีแทบ็ Home บน Ribbon ท่ีกลุ่มคาสั่ง Styles 3. เลือก Highlight Cells Rules 4.เลือกเง่ือนไขในการเปรียบเทียบที่ตอ้ งการ 5. กาหนดค่าที่ตอ้ งการเปรียบเทียบ 6. เลือกลกั ษณะการจดั รูปแบบ 7. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี งอ่ื นไข (Conditional Formatting) o การเปรียบเทยี บค่า (Compare)Microsoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบอย่างมเี งื่อนไข (Conditional Formatting) o การหาค่าสูงสุด/ตา่ สุด (Top/Bottom) 1. เลือกกลุ่มเซลลท์ ี่ตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเคร่ืองมือ Conditional Formatting ที่แทบ็ Home 3. เลือก Top/Bottom Rules 4. เลือกเง่ือนไขท่ีตอ้ งการ 5. กาหนดค่าท่ีตอ้ งการสรุป 6. เลือกลกั ษณะการจดั รูปแบบ 7. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบอย่างมเี งอ่ื นไข (Conditional Formatting) o การหาค่าสูงสุด/ตา่ สุด (Top/Bottom)Microsoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบอย่างมเี งอ่ื นไข (Conditional Formatting) o การสรุปผลข้อมูลโดยใช้เฉดสี (Data Bar) 1. เลือกกลุ่มเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกป่ ุมเครื่องมือ Conditional Formatting ท่ีแทบ็ Home 3. เลือก Data Bar 4. เลือกเฉดสีที่ตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี งอื่ นไข (Conditional Formatting) o การสรุปผลข้อมูลโดยใช้สี (Color Scale) 1. เลือกกลุ่มเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเคร่ืองมือ Conditional Formatting ที่แทบ็ Home 4. เลือก Color Scales 5. เลือกเฉดสีที่ตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี งอ่ื นไข (Conditional Formatting) o การสรุปผลข้อมูลโดยใช้รูปภาพ (Icon Sets) 1. เลือกกลุ่มเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเคร่ืองมือ Conditional Formatting ที่แทบ็ Home 3. เลือก Icon Sets 4. เลือกรูป Icon ท่ีตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี งอื่ นไข (Conditional Formatting) o การสร้างกฏเงอ่ื นไขใหม่ (New Rule) 1. เลือกกลุม่ เซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเครื่องมือ Conditional Formatting ที่แทบ็ Home 3. เลือกคาส่ัง New Rule…Microsoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี งอื่ นไข (Conditional Formatting) o การสร้างกฏเงอ่ื นไขใหม่ (New Rule) 4. เลือกชนิดของกฏ 5. เลือกการจดั รูปแบบใหก้ ฏ 6. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี งื่อนไข (Conditional Formatting) o การแก้ไขรูปแบบทสี่ ร้างตามเงือ่ นไข (Edit Rules) 1. เลือกกลุม่ เซลลท์ ี่ตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเครื่องมือ Conditional Formatting ที่แทบ็ Home 3. เลือกคาสั่ง Manage Rules… 4. คลิกป่ ุม Edit Rule…Microsoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมีเงื่อนไข (Conditional Formatting) o การแก้ไขรูปแบบทส่ี ร้างตามเง่ือนไข (Edit Rules) 5. เลือกชนิดของกฏใหม่ 6. เปล่ียนแปลงเงื่อนไขเซลล์ 7. คลิกป่ ุม OK 8. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบอย่างมเี ง่ือนไข (Conditional Formatting) o การลบเงอื่ นไข (Clear Rules) 1. เลือกกลุม่ เซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกเครื่องมือ Conditional Formatting ที่แทบ็ Home 3. เลือกคาส่งั Clear Rules 4. เลือกรูปแบบการลบMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบเซลล์อตั โนมตั ิ Auto Format 1. คลิกแทบ็ File 2. เลือกคาสง่ั Option 3. เลือกคาสั่ง Customize Ribbon 4. ช่อง Customize the Ribbon: 5. เลือกแทบ็ Ribbon ที่ตอ้ งการใหค้ าส่ังไปแทรก 6. คลิกป่ ุม New Group เพือ่ สร้างกลุม่ คาส่งั 7. ช่อง Choose commands from: 8. เลือกคาสง่ั AutoFormat… 9. คลิกป่ ุม Add >> เพ่อื เรียกคาส่งั เขา้ กลุ่ม 10. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจัดรูปแบบเซลล์อตั โนมัติ Auto FormatMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การจดั รูปแบบเซลล์อตั โนมตั ิ Auto Format 1. คลิกเลือกเซลลห์ รือกลุ่มเซลลท์ ่ีตอ้ งการ 2. คลิกเลือกคาสั่ง Auto Format 3. เลือกรูปแบบที่ตอ้ งการ 4. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การจดั รูปแบบเซลล์และข้อมูล • การใช้รูปแบบสาเร็จในการตกแต่งข้อมูล (Themes) 1. เลือกช่วงขอ้ มูลท่ีตอ้ งการตกแต่ง 2. เลือกแทบ็ Page Layout 3. คลิกป่ ุมคาสั่ง (Themes) 4. เลือกรูปแบบที่ตอ้ งการMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • ระดับความสาคญั ของตัวดาเนินการMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การสร้างสูตรคานวณ (Formula) การใส่สูตรลงในเซลลท์ าไดโ้ ดยคลิกเซลลท์ ่ีตอ้ งการ แลว้ พิมพส์ ูตรลงไปใน เซลลโ์ ดยตรง หรือพิมพบ์ นแถบสูตร (Formula Bar) ซ่ึงมีการใชง้ านดงั น้ีMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การต้งั ช่ือเซลล์และกล่มุ เซลล์ o การต้งั ชื่อเซลล์หรือกล่มุ เซลล์ด้วย Name Box 1. คลิกเลือกเซลลห์ รือกลุม่ เซลลท์ ่ีตอ้ งการต้งั ชื่อ 2. พมิ พช์ ื่อลงไปใน Name Box และกดป่ ุม Enter ท่ีคียบ์ อร์ดMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การต้ังช่ือเซลล์และกล่มุ เซลล์ o การต้งั ช่ือเซลล์หรือกล่มุ เซลล์ด้วย Define Name Define Nameใชใ้ นการต้งั ช่ือกลุ่มเซลล์ โดยการกาหนดขอบเขตการใชง้ านและใส่ ขอ้ คิดเห็นเพม่ิ เติมซ่ึงสามารถทาไดด้ งั น้ี 1. คลิกเลือกเซลลห์ รือกลุ่มเซลลท์ ี่ตอ้ งการต้งั ชื่อ 2. เลือกแทบ็ Formulas 3. คลิกป่ ุม Define NameMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การต้ังช่ือเซลล์และกล่มุ เซลล์ o การต้งั ช่ือเซลล์หรือกล่มุ เซลล์ด้วย Define Name 4. ท่ีช่อง Scope เลือกขอบเขตการเรียกใชง้ านช่ือเซลล์ 5. หรือคลิกที่ Refers to เพื่ออา้ งอิงกลุ่มเซลลใ์ หม่ 6. ท่ีช่อง Comment ระบุขอ้ คิดเห็นเพิ่มเติม 7. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การต้งั ชื่อเซลล์และกล่มุ เซลล์ o การต้งั ช่ือเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ตามหัวคอลมั น์หรือหัวแถว 1. คลิกกลุม่ เซลลท์ ้งั หมดพร้อมหวั รายการ 2. เลือกแทบ็ Formulas 3. คลิกป่ ุม Create from SelectionMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การต้ังช่ือเซลล์และกลุ่มเซลล์ o การต้งั ช่ือเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ตามหัวคอลมั น์หรือหัวแถว 4. คลิกเลือกค่าจากเซลลด์ า้ นที่จะนามาทาชื่อเซลล์ 5. คลิกป่ ุม OKMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การต้ังชื่อเซลล์และกล่มุ เซลล์ o การแก้ไขชื่อหรือช่วงของเซลล์หรือกลุ่มเซลล์ 1. คลิกป่ ุม (Name Manager) บนแทบ็ Formulas 2. คลิกเลือกช่ือเซลลท์ ่ีต้งั ไวเ้ พือ่ ทาการแกไ้ ข 3. คลิกป่ ุม Edit เพอ่ื แกไ้ ข 4. หรือคลิกป่ ุม Delete เพื่อลบ 5. ทาการแกไ้ ขชื่อเซลลห์ รือรายละเอียดอื่น ๆ 6. คลิกป่ ุม OK 7. คลิกป่ ุม CloseMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การต้งั ช่ือเซลล์และกล่มุ เซลล์ o การแก้ไขช่ือหรือช่วงของเซลล์หรือกล่มุ เซลล์Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o การพมิ พ์ฟังก์ชันลงในเซลล์ 1. คลิกในเซลลใ์ ส่เครื่องหมาย = 2. แสดงตวั ช่วยใส่สูตรอตั โนมตั ิ Formula Auto Complete ทาการดบั เบิลคลิกท่ีฟังกช์ นั ท่ีจะใช้ 3. ใส่วงเลบ็ เปิ ด 4. พมิ พห์ รือเลือกช่วงเซลลท์ ี่จะใชเ้ ป็นค่าอาร์กิวเมนต์ (ช่วงเซลล์ G3:G11) 5. กดป่ ุม EnterMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o การพมิ พ์ฟังก์ชันลงในเซลล์Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ (Math & Trig) ใชค้ านวณหาคา่ ทางคณิตศาสตร์หรือ ตรีโกณมิติ เช่นค่าผลรวม คา่ จานวนเตม็ คา่ รากที่สอง เป็นตน้Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o ฟังก์ชันทางสถิติ (Statistical) เป็ นฟังก์ชันการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ใช้ คานวณหาคา่ ทางสถิติต่าง ๆ เช่นค่าเฉล่ีย ค่าสูงสุด คา่ ต่าสุด การนบั ตวั เลข เป็นตน้Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o ฟังก์ชันทางวนั ที่และเวลา (Date & Time) ใชค้ านวณหาวนั เวลา แสดงวนั ที่ปัจจุบนั เป็น ตน้Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o ฟังก์ชันทางการเงนิ (Financial) ใชค้ านวณหาค่าทางการเงินต่าง ๆ เช่นมลู คา่ เงิน ในอนาคต อตั ราดอกเบ้ีย เป็นตน้ ฟังกช์ นั ทางการเงินมีหลากหลายฟังกช์ นั แต่ใน บทน้ีไดย้ กตวั อยา่ ง ฟังกช์ นั PMT ซ่ึงเป็นฟังกช์ นั ที่ทาหนา้ ที่คานวณหาค่าอตั ราการ ผอ่ นชาระเป็นงวดๆ ซ่ึงมีการใชง้ านดงั น้ีMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน o ฟังก์ชันทางข้อความ (Text) ใชส้ าหรับจดั การขอ้ มลู ท้งั ตวั เลขและตวั อกั ษรใน ลกั ษณะตา่ ง ๆเช่น แปลงตวั เลขใหเ้ ป็นขอ้ ความ, คน้ หาและแทนที่ขอ้ ความ เป็นตน้Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน • ฟังก์ชันค้นหาและอ้างองิ ฟังกช์ นั VLOOKUP คน้ หาขอ้ มลู ตามแนวคอลมั น์ ฟังกช์ นั น้ีจะใชส้ าหรับ การคน้ หาขอ้ มูลแบบคอลมั น์(Vertical) โดยเร่ิมจากคอลมั นซ์ า้ ยสุดของตาราง หรือฐานขอ้ มูลหากพบขอ้ มลู ตามค่าท่ีส่งไป กจ็ ะส่งกลบั ค่าในแถวเดียวกนั จาก คอลมั น์ท่ีระบุไวใ้ นตารางMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน • ฟังก์ชันค้นหาและอ้างองิ สาหรับการใช้ Vlookup น้นั จะตอ้ งมีส่วนประกอบท่ีสาคญั 2 ส่วนดว้ ยกนั คือ 1. ตารางขอ้ มูลหลกั 2. ขอ้ มลู ที่ตอ้ งการนาไปคน้ หาจากตารางหลกัMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน • ฟังก์ชันค้นหาและอ้างองิ รูปแบบ =VLOOKUP (lookup_value, table_array, col_index_num, range_lookup) โดยที่ lookup_value คือ ค่าท่ีจะนาไปคน้ หาในตารางขอ้ มลู (เซลลท์ ี่เป็นคีย)์ table_array คือ ตาแหน่งของตารางหลกั col_index_num คือ ลาดบั คอลมั น์ท่ีตอ้ งการนาขอ้ มลู มาแสดง โดยการนบั ลาดบั คอลมั น์น้นั จะเร่ิมนบั จากคอลมั นซ์ า้ ยสุดเป็น 1 และไล่เรียงไปตามลาดบั range_lookup คือ คา่ ตรรรกะท่ีระบุลงไปให้ Vlookup เลือกวา่ จะส่งค่าใดกลบั จากผล การคน้ หา เช่น True, False หรือไม่ใส่ค่าอะไรMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน • ฟังก์ชันค้นหาและอ้างองิ ฟังกช์ นั HLOOKUP คน้ หาขอ้ มูลตามแนวแถว จะคน้ หาขม้ มูลในลกั ษณะ เป็นแถวแนวนอน (Horizontal) โดยจะคน้ หาจากแถวที่ 1 คือแถวบนสุด หากพบ ขอ้ มูลท่ีตรงกบั ค่าที่คน้ หา กจ็ ะนาค่าที่อยใู่ นแถวถดั ไปมาแสดงMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอ่ื การคานวณ • การใช้งานฟังก์ชัน • ฟังก์ชันค้นหาและอ้างองิ รูปแบบ =HLOOKUP (lookup_value, table_array, row_index_num, range_lookup) โดยที่ lookup_value คือ คา่ ที่จะนาไปคน้ หาในตารางขอ้ มลู (เซลลท์ ่ีเป็นคีย)์ table_array คือ ตาแหน่งของตารางหลกั row_index_numคือ ลาดบั แถวท่ีตอ้ งการนาขอ้ มูลมาแสดง โดยการนบั ลาดบั แถวน้นั จะ เริ่มนบั จากแถวบนสุดเป็น 1 และไล่เรียงไปตามลาดบั range_lookup คือ คา่ ตรรรกะท่ีระบุลงไปให้ Hlookup เลือกวา่ จะส่งคา่ ใดกลบั จากผล การคน้ หา เช่น True, False หรือไม่ใส่ค่าอะไรMicrosoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • เรียนรู้และการใช้ Scenario Scenario เป็ นการกาหนดค่าให้กบั กรณีต่างๆ จากน้นั จะคานวณค่าโดยอิง ตามตารางแลว้ แสดงผลออกมาซ่ึงจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์ขอ้ มูลไดง้ ่ายและ รวดเร็วกว่าการแยกตารางคานวณในแต่ละกรณีในการวิเคราะห์ต่างๆ บางคร้ัง อาจจะตอ้ งมีการเปรียบเทียบค่าในกรณีต่างๆ เช่นมีสินคา้ อยอู่ ยา่ งละ 100 ชิ้นใน การวิเคราะห์กาไรจากการขาย อาจแบ่งยอดขายไดห้ ลายกรณีเช่น กรณี (Case) ต่างๆ ต้งั แต่ขายดี (Best Case) ขายหมดทุกชิ้น, กรณีขายไม่ค่อยดี (Worst Case) ขายไดค้ ร่ึงหน่ึง และกรณีท่ีน่าจะเป็น (Most Likely) ขายได้ 80%Microsoft Excel 2010
การใช้สูตรและฟังก์ชันเพอื่ การคานวณ • เรียนรู้และการใช้ Scenario ตวั อยา่ งตารางขอ้ มูลสาหรับคานวณโดยใช้ Scenario 1. เลือกแทบ็ Data เลือกคาสงั่ What-if Analysis เลือกคาส่งั Scenario ManagerMicrosoft Excel 2010
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248