การพัฒนาการตีลูกตบของกีฬาแบดมินตัน

การพฒั นาการตลี กู ตบของกฬี าแบดมนิ ตนั นักเรียนมธั ยมศึกษาช้ันปี ที่ 4/1 นาย วรี วชิ ญ์ สถิตท่าผาพฒั นา วจิ ยั นเี้ ป็ นส่วนหน่งึ ในการศึกษาวชิ าการวจิ ัยในช้ันเรียน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ปี การศึกษา 2561

1.ความเปน็ มาและความสาคญั กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาท่ีบุคคลท่ัวไปนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลายมากในภูมิภาคหรือในโลก เพราะว่ากีฬา แบดมินตันนั้นใครก็สามารถเล่นได้โดยพยายามตีลูกขนไก่ด้วยแร็กเกตให้ข้ามตาข่ายภายในสนามท่ีจัดทาข้ึน และสามารถเล่นได้ตลอดเวลา ท้ังกลางแจง้ และในร่มขึ้นอยู่กับสภาพของสนามและความเหมาะสม จะทา ให้ เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เพราะได้พบปะกับบุคคล ทา ให้เป็นผู้ที่มีสังคม ถ้าหากเล่นแบดมินตันเป็น ประจาสมา่ เสมอ จะทา ให้เป็นผู้ท่ีมสี ขุ ภาพสมบูรณ์แข็งแรงมพี ลานามยั ดีเพราะเป็นการออกกาลงั กายท่ีดีอย่าง หน่ึงด้วย ในการเล่นแบดมินตันทักษะเบ้ืองต้นนั้นเป็นส่ิงสาคัญมาก เพราะเป็นองค์ประกอบแรกเร่ิมของการ เล่นกฬี าแบดมินตัน ไม่ว่าจะเล่นเพื่อสขุ ภาพหรือการ แข่งขนั ก็ตาม จา เป็นมากท่ตี อ้ งฝึกให้เกดิ ความเชี่ยวชาญ เข้าใจในหลักการฝึกที่ถูกต้อง จึงจะทา ให้ผู้เล่น เล่นถูกวิธีและมีความสนุกสนาน รากฐานท่ีสาคัญในการเล่น แบดมินตันต้ังแต่เริม่ หัดเลน่ ไปจนถึงเป็นนกั กีฬาแบดมินตนั ฝีมือดีระดบั โลก คือ ทักษะขั้นพ้ืนฐาน ซง่ึ ตอ้ งได้รับ การฝึกอย่างถูกต้อง โดยผู้ฝึกสอนท่ีมีความรู้ความสามารถ มีความละเอียดถ่ีถ้วนและประณีตในการฝึกแต่ละ ทักษะคอยให้คาชแี้ นะและฝกึ แก้ไขให้เกดิ ความถูกต้องมากที่สุดจะทาใหผ้ ู้เล่นเกิดการพฒั นาทักษะและการเล่น ไดอ้ ยา่ งสมบูรณ์แบบและมีประสทิ ธิภาพ 2.วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือศกึ ษาแบบฝึกทกั ษะการพฒั นาการตีลูกตบของกฬี าแบดมนิ ตนั 2. เพือ่ พัฒนาทกั ษะการพฒั นาการตลี ูกตบของกีฬาแบดมนิ ตนั 3. เพอ่ื เปรยี บเทยี บผลการฝึกทกั ษะการพฒั นาการตลี กู ตบของกฬี าแบดมินตนั ของนกั ศึกษา กอ่ นเรียนและหลงั เรยี น 4. เพ่อื วเิ คราะหแ์ บบประเมนิ คุณภาพแบบฝกึ ทกั ษะการพฒั นาการตลี ูกตบของกีฬาแบดมนิ ตัน 3.สมมตุ ฐิ าน 1. นกั ศกึ ษามคี วามสามารถตบลูกแบดมินตนั หลงั เรียนดีกว่าก่อนเรียน 2. นักศกึ ษามที ักษะการตบลูกแบดมินตนั หลงั เรยี นดกี วา่ ก่อนเรยี น 4.ขอบเขต 1. ประชากรท่ีใช้ในการวจิ ยั ครงั้ น้ี นกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 2. กลมุ่ ตัวอยา่ งในการวจิ ยั ครัง้ นี้ นักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 จานวน 3 คน 5.ตวั แปรทีศ่ ึกษา 1. ตัวแปรตน้ โปรแกรมการตบลูกแบดมินตัน 2. ตวั แปรตาม ความชานาญในการตบลูกแบดมินตัน 6.ระยะเวลา/ชว่ งทศ่ี ึกษา ตุลาคม 2561 – มีนาคม 2562

7.เครื่องมอื ทใี่ ช้ 1. แบบฝกึ ก่อนเรียน-หลังเรียน 2. แบบฝึกปฏิบัติ 8.คาจากดั ความทีใ่ ช้ 1. ลูกตบ หมายถึง ลูกที่ตีจากระดบั สูงใหพ้ งุ่ ลงตา่ อยา่ งรุนแรงและรวดเรว็ เปน็ ลูกสาคญั ทีใ่ ชใ้ นการรกุ เปน็ ลูกท่ีใชใ้ นการทาคะแนน ลูกตบทดี่ ีตอ้ งสามารถตีได้อยา่ งหนักหนว่ ง รนุ แรง และรวดเร็ว มีความแมน่ ยาเขา้ เป้าหมายด้วยการเหว่ียงแขน สะบัดข้อมอื และปรบั หน้าไม้เพ่ือใหส้ มั ผสั ลูกขนไก่ในลักษณะ เตม็ หนา้ ไม้ การตีลกู ตบทค่ี วรจะเคล่อื นท่เี ข้าหาลูกทกุ ครงั้ ทจ่ี ะตี และกาหนดจุดสัมผัสอย่ขู ้างหน้าเหนือศีรษะเสมอ 2. นักเรยี น หมายถงึ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 จานวน 3 คน 9.ประโยชน์ 1. ช่วยเสริมสรา้ งสมรรถภาพทางดา้ นรา่ งกาย ทาให้กลา้ มเนอื้ แขง็ แรง มีความคล่องแคล่วว่องไว 2. ชว่ ยใหอ้ ารมณ์ดีและจติ ใจแจม่ ใส 3. ไดร้ ู้ทกั ษะการตบลูกแบดมินตันทถ่ี ูกต้อง 1.การตีลกู ตบกฬี าแบดมนิ ตนั ลูกตบเปน็ ลกู ที่ตจี ากระดบั สงู ให้พุ่งลงต่าอยา่ งรุนแรงและรวดเรว็ เป็นลูกสาคัญที่ใช้ในการรุกเปน็ ลูกทใ่ี ช้ในการทาคะแนน ลูกตบทดี่ ตี อ้ งสามารถตีไดอ้ ยา่ งหนักหนว่ ง รุนแรง และรวดเรว็ มีความแม่นยาเข้าเป้าหมายด้วยการเหว่ยี งแขน สะบัดข้อมอื และปรับหน้าไม้เพอ่ื ใหส้ ัมผัสลกู ขนไกใ่ นลกั ษณะเต็มหน้าไม้ การตีลูกตบท่ีควรจะเคลอื่ นทเี่ ข้าหาลกู ทกุ ครง้ั ท่ีจะตี และกาหนด จุดสมั ผัสอยู่ข้างหน้าเหนอื ศีรษะเสมอ ลกู ตบทใ่ี ช้กันมากในการเลน่ แบดมินตันท้ังในประเภทเดี่ยวและประเภทคู่ มี 5 ชนดิ ดว้ ยกัน 1.ลูกตบส้ัน (Short smash ) คอื การตีลูกทไ่ี ม่รนุ แรงมากเปน็ ลกู ท่ตี ดี ้วยความเรว็ มากกว่าความรุนแรง ใช้การตวักของข้อมือ มากกวา่ การใช้แรงเหวยี่ งของแขน ตบใหล้ กู ตกใกลต้ าข่ายคล้ายลกู ตัดหยอดแต่แรงกวา่ มากวิถขี องลกู จะเปน็ ลกั ษณะทแยงมมุ ใช้ไดผ้ ลดกี ับคู่แข่งท่ีชอบยืนรับลูกตบท้ายสนาม เพราะเป็นจดุ ที่ไมค่ ่อยระวังทาใหค้ แู่ ข่งรบั ไมท่ ันหรอื ถา้ รบั ไดก้ ็ต้องเอือ้ มมารบั ลกู ท่รี ับกลับมาโยนไม่ถึงหลังทาให้เรามโี อกาสตบซ้าใกลต้ าข่ายมากขึน้ เปา้ หมายการตลี ูกตบส้ันบรเิ วณเสน้ สง่ ลูกส้นั ท้ังสองขา้ ง ถึงก่ึงกลางสนาม ซ่ึงเป็นเป้าหมายทไ่ี ด้ผลดีมา 2. ลกู ตบยาว ( Long Smash ) เป็นการตบลูกท่ตี ดี ้วยความหนักหน่วงรนุ แรงและจงั หวะผลเต็มที่ซ่ึงต้องผสมผสาน แรงเหวยี่ งของแขน แรงตวดั ขอ้ มอื การถา่ ยนา้ หนักตัวและจับจงั หวะของการเคลอื่ นทีใ่ ห้ถูกตอ้ ง เป้าหมายในการตบลูกยาว น้ีอยบู่ รเิ วณสนามด้านข้างทง้ั สองดา้ น ตง้ั แตก่ งึ่ กลางสนามไปถึงท้ายสนาม ลูกตบยาวนสี้ ามารถแยกได้เป็น 2 วิธี คอื 2.1 ลูกตบยาวต่า (Long Low Smash) เปน็ การตบที่ใช้แรงตบรนุ แรงเตม็ ทีท่ ่เี ราเหน็ ตบกันทว่ั ๆไป ทศิ ทางทค่ี วร จะตบลงจุดใดจุดหนึ่งนั้นสว่ นใหญ่เขาจะตบลงที่จดุ ระหวา่ งกลางของผรู้ บั ทงั้ สองคนในกรณีทก่ี ารเลน่ ประเภทคู่ แต่กต็ อ้ งคอยสงั เกตดว้ ยวา่ ไดผ้ ลแคไ่ หน และขณะทต่ี บไปเรื่อยๆ กต็ ้องคอยดูแลวา่ ผรู้ ับคนไหนรับลกู ตบได้ไม่ดี ก็ต้องตบ ลงตรงคนนน้ั มากหน่อย นอกจากน้นั ยังตอ้ งคอยดวู ่าผรู้ บั แต่ละคนมจี ดุ รับการตบลงจุดน้นั เรื่องทกี่ ลา่ วนส้ี าคญั มาก เพราะบางครง้ั เราอาจจะแพค้ ู่แข่งขนั ไดก้ เ็ พราะจดุ น้ีเหมือนกันท้งั ทเ่ี ราฝีมอื ดีกว่า

2.2 ลูกตบยาวสงู (Long high Smash) คอื การตบลูกให้ข้ามตาขา่ ยไปในระดบั อกหรือคอหรอื หน้าของคู่แข่งขัน เพราะในบ้างคร้ังลูกตบยาวต่าค่แู ข่งขันถนัดและรบั ได้อยเู่ สมอจึงต้องเปลีย่ นวธิ ขี องลกู ตบดว้ ยวธิ ีการตบเหมอื นกับ การตบลกู ยาวต่าแต่ไม่กดหน้าไมแ้ บดมนิ ตนั มาก 3. ลูกคร่งึ ตบครึ่งตดั ( Cut Smash ) ลูกครงึ่ ตบคร่ึงตดั เป็นการตบทแยงสนามเป็นสว่ นมาก ตบตวักลูกจากซ้าย ไปขวาและจากขวาไปซา้ ยผเู้ ลน่ ตอ้ งตบลูกในระดับสูงซง่ึ บางครัง้ อาจจะตอ้ งกระโดดเพื่อเพิม่ ความเร็วและความสงู ทาให้มุมของลกู มคี วามลึกมากยง่ิ ข้นึ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในวนิ าทที ีค่ ู่แขง่ กาลังเสียการทรงตวั ทักษะพน้ื ฐานท่ใี ช้ใน การเล่นลูกคร่งึ ตบครึ่งตดั เหมอื นกบั การตลี กู ธรรมดา นอกจากว่าในขณะที่เหว่ียงไม้แบดมนิ ตนั มาถงึ จุดกระทบลูก หน้าไม้แบดมนิ ตนั จะสมั ผัสกับบริเวณหัวหรอื ฐานของลกู ในลักษณะเฉือนลงมาด้านล่าง ในลักษณะนห้ี น้าไม้แบดมินตนั จะกระทบด้านขา้ งของลูก ฉะนั้นความเรว็ ของลูกกจ็ ะลดลงและตาแหนง่ การตกของลกู จะใกล้กวา่ การตบลูกธรรมดา ประโยชนข์ องลกู ครง่ึ ตบคร่ึงตดั คือ ใช้เปน็ การหลอกล่อทที่ าใหค้ แู่ ขง่ ขนั เห็นว่าผตู้ ีใชแ้ รงตบเต็มที่ แต่ท่จี ริงแล้วลูกจะไป ชา้ และสน้ั กวา่ ลูกตบธรรมดา ทาให้คู่แข่งขนั ไมส่ ามารถเคล่อื นท่ีมาขา้ งหนา้ เพ่ือรับลกู ได้ทนั ที หรือถ้าทนั ก็ชา้ และเป็นลกั ษณะ การตีโดยงดั โยนกลบั ไปไมใ่ ช่การโจมตี สว่ นมากจะใช้ลกู คร่งึ ตบคร่ึงตัดในการเลน่ ประเภทเดี่ยว (เจยี มศกั ด์ิ พานิชชยั กุล 2530 : 34) 4. ลกู ตบออ้ มศรี ษะ (Round the Head Smash )ลูกตบออ้ มศรี ษะเปน็ ลกู ที่ใชโ้ จมตีได้อย่างรวดเร็ว และจะใช้ เมือ่ คู่แขง่ ขนั สง่ ลูกโยนโดง่ หรือเลน่ มาทางด้านซา้ ยมือของผเู้ ลน่ ตามปกตซิ ้ายมอื จะเป็นจุดอ่อนของเกอื บทกุ คนและต้อง โตต้ อบกลบั มาดว้ ยการตีลูกหลังมอื แต่ถา้ ลกู มาเร็วจะรับหรือถอยไปใช้ลกู หลังมือไม่ทนั หรอื ทนั กอ็ าจจะเป็นลูกทท่ี าให้ คู่แขง่ ขนั ตบกลบั มาไดจ้ ึงใชก้ ารตบอ้อมศรี ษะแทนเพอ่ื หลีกเลย่ี งการใชล้ กู หลังมอื และเปลี่ยนสถานการณ์ จากฝา่ ยรบั เปน็ ฝา่ ยรุกทันที สาหรบั เป้าหมายของลกู ตบออ้ มศีรษะ ได้แก่ การตบขนานเส้นข้างและตบทแยงมมุ (วาสนา คุณาอภิสิทธ์ิ 2536:42 ; ไพวัลย์ ตันลาพุฒ 2525 : 34) 5. ลกู กระโดดตบ (The Jumping Smash)การกระโดดตบมีทักษะพ้นื ฐานเหมือนกบั การตบลกู ธรรมดาเว้นแตใ่ น ขณะทไี่ ม้แบดมินตันกระทบลูก ผตู้ ตี ้องกระโดดขนึ้ ด้วยเท้าท้งั สอง เพ่อื จะไดเ้ ข้าถึงลกู และตบได้เรว็ ลูกกระโดดตบมี ประโยชน์และไดเ้ ปรียบกวา่ ลูกตบธรรมดา เพราะสามารถเพิ่มความสงู ของการตบให้มากขึ้นอีก ทาให้ผู้รับลาบากมากขึ้น หรอื รับไมท่ ัน แต่อยา่ งไรก็ดี การกระโดดตบแตล่ ะครัง้ ตอ้ งสิน้ เปลืองแรงมากกวา่ ปกติเพราะต้องใชแ้ รงในการกระโดมากขน้ึ (วาสนา คณุ าอภสิ ทิ ธิ์ 2536 : 43 ; หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมพลศึกษา 2533 : 44 )

2.แบบฝึกทักษะการพัฒนาการตลี กู ตบของกีฬาแบดมนิ ตัน แบบฝกึ ทักษะท่ี 1 เรอื่ งการตีลูกหนา้ มอื วธิ ีปฏบิ ตั ิ รปู แบบการฝึก ท่าเตรยี ม 1.พนื้ ท่ใี นการฝึก 44 x 20 ฟตุ 1.ยนื ในทา่ เตรยี ม 2.ผูเ้ ลน่ 2 คนตอ่ 1 พนื้ ท่ี 2.เริ่มต้นเหมือนการโยนโด่งแบบหนา้ มอื 3.วตั ถปุ ระสงคเ์ พือ่ เรยี นรูว้ ธิ ีการตีลูกหน้ามืออย่างถกู ต้อง 3.หนั ด้านข้างดา้ นซ้ายลาตัวเขา้ หาทางท่ีลูกขนไก่ พ่งุ มา 4.ข้อมือหกั ข้นึ ใหห้ วั ไมแ้ บดมินตันหอ้ ยต่าลง วิธปี ฏบิ ตั ิ 1.เลง็ เปา้ หมายทีจ่ ะเหว่ียงไม้ข้นึ ตี 2.จดุ ประทะของลูกต้องอย่หู น้าลาตวั 3. เร่ิมเหวี่ยงหัวไมแ้ บดมินตันข้ึนหาลกู ขนไกโ่ ดย เหว่ียงขอ้ มอื ขึ้นนา 4.เพิ่มแรงจับไมใ้ ห้แน่น 5.แขนคอ่ ยๆเหยียดออกมือเคลื่อนทไ่ี ปขา้ งหนา้ 6.หัวไมแ้ บดมินตันเคล่ือนที่ด้วยความเร็วเต็มท่ีไป ตลี กู ขนไก่ตอนบน 7.ขณะท่ีตี หนา้ ไม้จะกดใหล้ ูกขนไก่พงุ่ ลงยงั พนื้ 8. ตวดั ขอ้ มือให้มากทสี่ ุด 9.ไม้แบดมนิ ตันส่งตามทางใหล้ กู ขนไก่เคลอ่ื นทไี่ ป ตามธรรมชาตจิ นแขนตกลงมาข้างลาตัวแล้ว กลบั ไปอยูใ่ นท่าเตรยี ม

แบบฝึกทกั ษะท่ี 2 เรอ่ื งการตลี กู หลงั มือ วิธปี ฏบิ ัติ รปู แบบการฝึก ท่าเตรยี ม 1.พ้นื ทใ่ี นการฝกึ 44 x 20 ฟุต 1.ยืนในทา่ เตรียม 2.ผเู้ ล่น 2 คนตอ่ 1 พื้นท่ี 2.ยกไม้แบดมนิ ตนั ในทางดา้ นหลงั 3.วตั ถปุ ระสงค์เพ่ือเรียนรู้วิธีการตลี กู หลงั มอื อยา่ ง 3.กา้ วเทา้ ซา้ ยถอยหลงั 1 ก้าว บิดลาตัวไปทางซ้ายจนหนั ถกู ตอ้ ง หลงั ให้ตาขา่ ยปลายเท้าขนานกับตาข่าย 4.น้าหนกั ตัวตกลงบนเท้าซา้ ย ยกแขนข้ึนขอ้ ศอกต้งั ช้ไี ปยัง จุดท่จี ะตีลูก วธิ กี ารฝึก 1.เหวย่ี งแขนข้นึ ศอกนากอ่ นแล้วเหยียดแขนตรงสะบดั ข้อมอื ไปขา้ งหน้าอย่างรวดเรว็ และรุนแรง 2.ขณะตีลกู หน้าไม้จะคว่าลง ตีลกู ขนไกท่ ีอ่ ยู่ด้านหนา้ ของ ลาตัวอย่างแรงเต็มที่ ลูกขนไกจ่ ะพงุ่ ลงลกึ อยา่ งรวดเร็ว 3.เหว่ยี งแขนตามลกู อย่างธรรมชาตแิ ละกลบั มาอยใู่ นท่า เตรียมพรอ้ ม แบบฝึกทกั ษะท่ี 3 เรื่องการตีลูกตบออ้ มศีรษะ วิธีปฏบิ ตั ิ รูปแบบการฝกึ ทา่ เตรียม 1.พื้นท่ีในการฝกึ 44 x 20 ฟตุ 1.กา้ วเท้าซา้ ยมาทางซา้ ยให้มากข้ึนเพ่อื ช่วยในการ 2.ผเู้ ลน่ 2 คนตอ่ 1 พนื้ ท่ี 3.วัตถปุ ระสงคเ์ พื่อเรยี นร้วู ธิ ีการตลี กู ตบอ้อมศีรษะ อยา่ ง ทรงตวั ย่อเข่าลงเล็กนอ้ ยเอียงตวั มาทางด้านซ้าย คอ่ นไปทางขา้ งหลัง เหวย่ี งไมแ้ บดมนิ ตันขน้ึ ไป ถูกตอ้ ง ทางด้านหลงั เหมือนกับการตบลูก 2.หวั ไม้แบดมินตนั ช้ีไปทางดา้ นซา้ ย ตามองดูลกู กะ ท่หี มายทจ่ี ะตีซง่ึ อยเู่ หลอื ไหล่ซา้ ยไปทางด้านหน้า เล็กนอ้ ย วิธกี ารฝึก1.เหวี่ยงแขนข้ามศรี ษะข้อมอื จะขา้ มตรง ศรี ษะพอดี ข้อมือหักไปทางด้านหลังแขนท่ีข้ามมา จะได้โค้งงอเพื่อให้เหวย่ี งไมแ้ บดมินตนั ไดส้ ะดวก2. ก่อนหนา้ ไมก้ ระทบลกู สะบัดข้อมอื เขา้ หาลูกเป็น จังหวะเดยี วกบั การเหวี่ยงแขนขา้ มศีรษะมา จดุ ที่ตี จะอยคู่ ่อนขา้ งมาทางซ้าย ระดับต่าลงกว่าการตีลกู ธรรมดา3.เมอื่ ตแี ลว้ เหว่ียงแขนตามลกู ไปทางด้าน ขวามอื วถิ ีของลกู จะพงุ่ ขา้ มเป็นแนวทแยงสนาม มากกว่าจะพงุ่ ไปตรง



3.การวัดและประเมินผลการพฒั นาการตีลูกตบของกีฬาแบดมนิ ตนั แบบทดสอบทักษะ เร่อื งการพัฒนาการตลี กู ตบของกฬี าแบดมนิ ตนั คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นปฏิบตั ดิ งั นี้ 1. ป้อนลกู ขนไก่ให้นักเรยี นตใี นระยะ 8 เมตร 2. สงั เกตบันทกึ ผลและเปรยี บเทียบกับเกณฑ์การให้คะแนน การปฏิบัติ คะแนน คะแนนทีไ่ ด้ การเตรียมพร้อม ( 2 คะแนน ) 2 1. -ผถู้ ูกทดสอบมีการยนื แยกเท้า 0 -ผถู้ กู ทดสอบไม่ยนื แยกเท้า 2 0 การปฏิบตั ิ ( 4 คะแนน ) 2 2. -ตามองเป้าหมายและลูกขนไกท่ ี่ลอยมาข้างหนา้ 0 -ไมด่ ูสิ่งใดสิง่ หนงึ่ 2 3. -เม่อื ตีลูกไปแลว้ เหว่ยี งแขนตามลกู 2 1 -ไม่เหว่ยี งแขน 3 ระเบียบวนิ ยั ( 5 คะแนน ) 1 4. เข้าเรยี นตรงต่อเวลาแตง่ กายเรยี บร้อย 15 5. อปุ กรณใ์ นการเรยี น 6. มาสาย แตง่ กายเรยี บรอ้ ย ทัศนคติ ( 4 คะแนน ) 7. เขา้ ร่วมกจิ กรรมอย่างมีความสุข 8. ไม่กระตือรอื รน้ ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม รวม 1.ประชากร ประชากรทใ่ี ช้ในการศึกษาในครง้ั นคี้ ือ นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 จานวน 3 คน 2.เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการวจิ ยั 1. แบบฝกึ กอ่ นเรียน-หลังเรยี น 2. แบบฝึกปฏิบัติ

3.การวิเคราะห์ขอ้ มูล 1. หาค่าเฉลีย่ เลขาคณติ 2. ค่าสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) 3. t-test ของคะแนนที่ไดจ้ ากการทดสอบทักษะแบดมินตนั เรือ่ ง การพฒั นาการตลี กู ตบแบดมินตนั แตล่ ะรายการ 1.ผลการศกึ ษาทกั ษะการพฒั นาการตีลกู ตบกฬี าแบดมินตนั กอ่ นเรยี นและหลังเรียน จากการฝึกทกั ษะการพัฒนาการตีลกู ตบของกฬี าแบดมินตนั แบบฝกึ ในระยะเวลา ระหว่าง ตุลาคม – มนี าคม 2562 เวลาตงั้ แต่ 17.00-18.00น. กลุม่ ตวั อย่างมกี ารพฒั นาดงั นี้ ตารางท่ี 1 ศึกษาทักษะการพฒั นาการตลี ูกตบของกีฬาแบดมินตนั ก่อนเรียน-หลงั เรยี น นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ื่ 4/1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 คนท่ี คะแนนทฤษฎี คะแนนปฏิบัติ รวม รอ้ ยละ (10) (30) 1 9 27 37 92.5 2 8 27 35 87.5 3 8 26 34 85 รวม 25 80 106 265 เฉล่ีย 8.33 26.66 35.33 88.32 จากตารางที่ 1 พบว่านักศกึ ษามีความสามรถในการพัฒนาการตีลูกตบของกฬี าแบดมนิ ตันโดยเฉล่ีย เทา่ กบั 35.33 คะแนน คดิ เป็นร้อยละ 88.32 2.การพฒั นาความสามรถด้านทกั ษะพัฒนาการตีลกู ตบกฬี าแบดมนิ ตนั ของนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ื 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ตารางท่ี 2 ผลการพัฒนาความสามารถด้านทักษะการพฒั นาการตลี ูกตบของกีฬาแบดมนิ ตนั ของนกั เรียน ช้ันมธั ยมศึกษาปีทื่ 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 คนที่ คะแนนก่อนฝกึ คะแนนหลงั ฝกึ ความก้าวหนา้ ร้อยละ (15) (15) ความก้าวหน้า 1 12 15 3 20 2 12 15 3 20 3 11 15 4 26.66 รวม 35 45 10 เฉลี่ย 11.66 15 3.33 22.2 จากตารางที่ 2 พบวา่ ของนกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ื่ 4/1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 มีความพัฒนาความสามารถทกั ษะการพัฒนาการตีลกู ตบของกฬี าแบดมนิ ตนั ทีด่ ขี ึน้ เฉลี่ย เท่ากับ 3.33 คิดเป็นรอ้ ยละ 22.2 3.ผลการเปรียบเทียบผลการฝกึ ทักษะการพฒั นาการตีลกู ตบของกีฬาแบดมนิ ตัน ของนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ื 4/1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31

ตารางที่ 3 การเปรียบเทยี บทกั ษะการพัฒนาการตลี ูกตบของกีฬาแบดมินตันก่อนและหลงั เรียน ของนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ื 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 รายการ ค่าเฉลี่ย S.D t - test sig .010 จานวน ทดสอบก่อน 3 11.66 .57 10 ทดสอบหลงั 3 15 .00 จากตารางท่ี 3 ผลการเปรียบเทียบทักษะการพัฒนาการตลี ูกตบของกฬี าแบดมนิ ตนั ก่อนฝึกและหลังฝกึ ทกั ษะ การพฒั นาการตลี ูกตบของกฬี าแบดมนิ ตันพบว่า ทดสอบก่อนฝึก โดยเฉลี่ย เท่ากับ 11.66 สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน เทา่ กบั .57 ทดสอบหลังฝึก โดยเฉลย่ี เท่ากับ 15 ส่วนเบยี่ งเบนมาตรฐาน เทา่ กบั .00 และค่า t-test เท่ากบั 10 คา่ sig เท่ากบั .010 4.ผลการวเิ คราะห์แบบประเมินคุณภาพแบบฝึกทกั ษะการพัฒนาการตลี ูกตบของกฬี าแบดมนิ ตัน ของนกั เรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ื 4/1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตารางท่ี 4 ผลการวิเคราะหแ์ บบประเมนิ คณุ ภาพแบบฝึกทักษะการพัฒนาการตลี ูกตบของกีฬาแบดมินตัน ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ื 4/1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 รายการประเมิน คา่ เฉลยี่ S.D. ระดับความพึงพอใจ 1. มเี น้อื หาสาระครบถ้วนตามวัตถุประสงค์ 5.00 .00 ดมี าก 2. วตั ถุประสงคค์ รอบคลุมตามทกั ษะ 5.00 .00 ดีมาก 3. คาแนะนาการใชม้ ีความชดั เจนปฏบิ ัตไิ ด้ 5.00 .00 ดมี าก 4. แบบทดสอบครอบคลุมตามเน้ือหาสาระ 5.00 .00 ดีมาก 5. แบบฝกึ ถูกต้องตามขนั้ ตอนการฝกึ 5.00 .00 ดีมาก 6. แบบฝกึ สามารถฝึกในทกั ษะนีไ้ ด้ 5.00 .00 ดีมาก 7. กิจกรรมที่ปฏิบตั ิสอดคลอ้ งตามทักษะ 5.00 .00 ดีมาก 8. ระยะเวลาที่ใช้ในการฝึกเหมาะสม 5.00 .00 ดมี าก 9. แบบฝึกมคี วามน่าสนใจ 4.66 .57 ดีมาก 1.สรุปผลการวจิ ยั

จากการวจิ ยั เร่อื งการพัฒนาทักษะการตลี กู ตบของกีฬาแบดมนิ ตนั ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ื่ 4/1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31จานวน 3 คน โดยระยะเวลาในการทาวิจัย 10 วัน โดยเริ่มต่งั แต่ ตลุ าคม 2561 – มีนาคม 2562 สรุปผลการวจิ ัยได้ดังน้ี 1.นักศกึ ษามีความสามารถในการพฒั นาการตลี กู ตบกีฬาแบดมินตนั โดยเฉล่ยี เทา่ กบั 35.33คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 88.32 2.นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ื 4/1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31มีความพฒั นาความสามารถทักษะ การพฒั นาการตลี กู ตบของกีฬาแบดมินตันท่ดี ขี ้นึ เฉลีย่ เท่ากบั 3.33 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 22.2 3.ผลการเปรียบเทียบทักษะการพัฒนาการตีลกู ตบกีฬาแบดมินตันกอ่ นฝึกและหลังฝกึ ทักษะการพัฒนาการ ตลี กู ตบกฬี าแบดมนิ ตันพบวา่ ทดสอบกอ่ นฝึก โดยเฉลีย่ เทา่ กับ 11.66สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ .57ทดสอบหลังฝึก โดยเฉลย่ี เทา่ กับ 15 ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน เทา่ กบั .00 และค่า t-test เท่ากบั 10 ค่า sig เทา่ กบั .010 4.ผลการวิเคราะหแ์ บบประเมินคณุ ภาพแบบฝกึ ทักษะการพัฒนาการตลี กู ตบกฬี าแบดมินตนั ของนกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ื 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31อย่ใู นเกณฑ์ทดี่ ีมาก 2.ข้อเสนอแนะ นกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีทื่ 4/1 โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31มีความสามารถในการตีลกู ตบเพ่ิมขึน้ ซ่งึ เม่อื พิจารณาความกา้ วหนา้ ในการฝกึ ของนกั ศกึ ษาพบวา่ มีการพัฒนาขึ้นตามระยะเวลา