แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าพลศกึ ษา (เซปกั ตะกร้อ) ระดบั ช้นั ม.4กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา โดย นายวีรวชิ ญ์ สถิตทา่ ผาพฒั นา ตาแหนง่ ครคู ศ1 โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ สานักบริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
บนั ทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 อาเภอแม่แจ่ม จังหวดั เชียงใหม่ ท่ี ................................................................... วนั ที่ ................................................................ เรือ่ ง การเสนอแผนการจัดการเรยี นรู้ เพอื่ อนญุ าตใชใ้ นการเรยี นการสอน เรียน ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นรำชประชำนเุ ครำะห์ 31 ขำ้ พเจ้ำนำยวีรวิชญ์ สถิตท่ำผำพัฒนำ ตำแหน่ง ครคู ศ1 กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ ไดจ้ ัดทำกำร วิเครำะห์และกำรออกแบบกำรเรียนรู้ รำยวิชำพลศึกษำ (ตะกร้อ) รหัสวิชำ ……………………… ช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี 4ภำค เรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564 ดังรำยละเอียดท่ีแนบมำพรอ้ มนี้ จึงเรยี นมำเพื่อโปรดทรำบและพิจำรณำ ลงชือ่ …………………………….. ครผู ู้สอนประจำวชิ ำ (นำยวรี วชิ ญ์ สถิตทำ่ ผำพฒั นำ) …………/………………./…………. ความเห็นของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา (วิชาพลศึกษา) ได้ทำกำรตรวจสอบ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้หน่วยท่ี 1 รำยวิชำพลศึกษำ (ตะกร้อ) รหัสวชิ ำ ................... ของนำย อนุชำ สถติ ท่ำผำพัฒนำ แล้วมคี วำมคิดเห็นดังนี้ 1. เปน็ แผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนร้ทู ่ี ดีมำก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. กิจกรรมกำรเรยี นรไู้ ด้นำเอำกระบวนกำรเรยี นรู้ ท่เี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญมำใชใ้ นกำรจัดกิจกรรมไดอ้ ยำ่ งเหมำะสม ที่ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนำตอ่ ไป 3. เปน็ แผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จรงิ ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะ ........................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ลงชื่อ ……………………………………………….. (นำยวรี วชิ ญ์ สถิตทำ่ ผำพฒั นำ) …………/………………./………….
ความเห็นของรองผู้อานวยการฝา่ ยวชิ าการ ไดท้ ำกำรตรวจสอบ แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้หน่วยท่ี 1 รำยวชิ ำพลศกึ ษำ (ตะกร้อ) รหัสวิชำ ................... ของ นำยวี รวิชญ์ สถิตทำ่ ผำพัฒนำ แล้ว มคี วำมคดิ เห็นดงั น้ี 1. เป็นแผนกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ท่ี ดีมำก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรุง 2. กจิ กรรมกำรเรียนรไู้ ด้นำเอำกระบวนกำรเรยี นรู้ ท่ีเนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั มำใช้ในกำรจัดกิจกรรมไดอ้ ย่ำงเหมำะสม ที่ยงั ไม่เนน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นำตอ่ ไป 3. เป็นแผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จรงิ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้ 4. ขอ้ เสนอแนะ ......................................................................................................................................................................................... .............................................................................................................................................. ลงชอื่ ……………………………………………….. (นำยวิเศษ ฟองตำ) …………/………………./…………. ความเหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศึกษา อนุญำตให้ใช้แผนกำรเรยี นรู้น้ไี ด้ ไมอ่ นุญำต เพรำะ ………………………………………………………………………………. ลงชอื่ ……………………………………………….. (นำยอดิสร แดงเรือน) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนรำชประชำนุเครำะห์ 31
แบบตรวจสอบและประเมนิ แผนจดั การเรยี นรู้ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ อาเภอแม่แจม่ จงั หวัดเชียงใหม่ รายวชิ าพลศกึ ษา (ตะกรอ้ ) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา จานวน ๑ นก./นน. เวลาเรยี น ๒ ชัว่ โมง/สัปดาห์ เวลาทีใ่ ช้ในการจดั การเรียนรูใ้ นหน่วยนี้ ๔ ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ เรอ่ื ง ประวตั ิตะกร้อ ตอนท่ี ๑ แบบตรวจสอบการจดั แผนการจัดการเรยี นรู้ คาอธบิ าย ใหค้ รผู ู้สอนพจิ ำรณำตรวจสอบแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ตำมรำยกำรตรวจสอบแลว้ เขยี น เครอื่ งหมำย / ลงในชอ่ งผลกำรตรวจสอบตำมสภำพจริง ที่ รายการตรวจสอบ ผลการ ครผู ้สู อน ผลการ หวั หนา้ กลุ่ม รองผู้อานวย ผอู้ านวยการ หมายเหตุ ตรวจสอบ ตรวจสอบ สาระการ การกลมุ่ โรงเรยี น 1 มีกำรระบหุ นว่ ย เรียนรู้ บรหิ ารงาน กำรเรียนรแู้ ละชอ่ื มี ไมม่ ี มี ไม่มี วิชาการ หนว่ ยกำรเรียนรู้ 2 มีกำรระบุชอื่ รำยวิชำ รหสั วชิ ำ ระดบั ชัน้ ท่สี อน 3 มีกำรระบเุ วลำทใ่ี ช้ แผนกำรจัดกำร เรียนรู้(ภำคเรยี นท/ี่ ปีกำรศกึ ษำ/ นำ้ หนกั เวลำเรียน/ เวลำเรยี นแตล่ ะ สัปดำห์/เวลำท่ีใช้ จดั กิจกรรมตำม หนว่ ยกำรเรียนรู้ 4 มีกำรระบสุ ำระของ หน่วยกำรเรียนรู้
ที่ รายการตรวจสอบ ผลการ ครูผสู้ อน ผลการ หวั หน้ากลุ่ม รองผ้อู านวย ผ้อู านวยการ หมายเหตุ ตรวจสอบ ตรวจสอบ สาระการ การกลุม่ โรงเรียน 5 มีกำรระบุเปำ้ หมำย เรยี นรู้ บรหิ ารงาน กำรเรยี นรู้ ดังนี้ มี ไม่มี มี ไม่มี วิชาการ 5.1 มกี ำระบุ ตัวชว้ี ัด (วิชำ พนื้ ฐำน) 5.2 มีกำรระบผุ ล กำรเรียนร้(ู วชิ ำ เพมิ่ เติม) 6 มีกำรระบุกำร เรียนรดู้ ังน้ี 6.1 เนื้อหำสำระ หลัก (นร.ต้องรู้ อะไร) 6.2 ทกั ษะ กระบวนกำร (นร.ต้องทำอะไร) 7 มกี ำรระบุ คุณลักษณะดงั นี้ 7.1 คณุ ลกั ษณะ ของรำยวิชำ 7.2 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ที่ รายการตรวจสอบ ผลการ ครูผสู้ อน ผลการ หวั หนา้ กลุ่ม รองผู้อานวย ผอู้ านวยการ หมายเหตุ ตรวจสอบ ตรวจสอบ สาระการ การกลุ่ม โรงเรียน 8 มกี ำรระบจุ ุดเน้น เรียนรู้ บรหิ ารงาน ของโรงเรยี น ดงั นี้ มี ไม่มี มี ไม่มี วิชาการ 8.1 หลกั ปรชั ญำ เศรษฐกิจพอเพยี ง (ทุกหน่วยกำร เรียนรู้ตอ้ งระบุ) 8.2 กจิ กรรมสวน พฤกษศำสตร์ใน รร. 9 มกี ำรระบภุ ำระงำน หรือชิ้นงำน ดงั นี้ 9.1 ตำมตวั ช้ีวัด หรือผลกำรเรียนรู้ 9.2 รวบยอด 10 มกี ำระบุกจิ กรรม กำรเรยี นรดู้ ังนี้ 10.1 ขน้ั ต้ังคำถำม 10.2 ขั้นกำร เตรยี มกำรคน้ หำ คำตอบ 10.3 ขั้น ดำเนนิ กำรค้นหำ คำตอบและ ตรวจสอบคำตอบ 10.4 กำรสรปุ และ นำเสนอผลกำร คน้ หำคำตอบ
ที่ รายการตรวจสอบ ผลการ ครูผสู้ อน ผลการ หัวหน้ากล่มุ รองผอู้ านวย ผูอ้ านวยการ หมายเหตุ ตรวจสอบ ตรวจสอบ สาระการ การกลุ่ม โรงเรียน 10.5 มกี ำรระบุ เรยี นรู้ บรหิ ารงาน เวลำดำเนินกำร มี ไมม่ ี มี ไม่มี วิชาการ ตำมขอ้ 10.1 ถงึ 10.4 ทเ่ี หมำะสม กับกิจกรรม 11 มกี ำรระบสุ อ่ื อุปกรณห์ รือแหล่ง เรียนรู้ 12 มีกำรระบุกำรวดั และประเมนิ ผล ดังนี้ 12.1 เป้ำหมำย กำรเรียนรู้ทตี่ ้องวัด และประเมินผล 12.2 ภำระงำน หรือชนิ้ งำนทต่ี อ้ ง วดั และประเมนิ 12.3 วธิ ีกำรวัดที่ สอดคล้องตำม 12.1 และ12.2 12.4 เครอื่ งมือ วัดผลสอดคล้อง ตำม 11.1ถงึ 11.3
ท่ี รายการตรวจสอบ ผลการ ครผู ู้สอน ผลการ หวั หน้ากล่มุ รองผ้อู านวย ผ้อู านวยการ หมายเหตุ ตรวจสอบ ตรวจสอบ สาระการ การกล่มุ โรงเรยี น 12.5 กำหนด เรียนรู้ บริหารงาน ประเด็นหรอื เกณฑ์ มี ไมม่ ี มี ไม่มี วิชาการ กำรวดั ผล สอดคล้องตำม 12.1ถึง12.4 12.6 กำหนด เกณฑ์กำร ประเมินผลเพอ่ื ตัดสนิ ผลกำร เรยี นรปู้ ระจำหนว่ ย กำรเรียนรู้ 13 มเี อกสำรใบควำมรู้ และใบงำน(ถำ้ ไมม่ ี ใหร้ ะบุเหตผุ ล) 14 มเี อกสำรประกอบ ตำมข้อ12 (ต้องมี ทุกประเดน็ )
คาอธิบายรายวชิ า รายวิชาพลศึกษา(เซปักตะกร้อ) 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ (20 ชั่วโมง/ภาคเรยี น) ศกึ ษำและปฏบิ ัติเก่ียวกบั วิชำเซปักตะกรอ้ ซ่ึงเปน็ วิชำทีเ่ ก่ียวกับศิลปะกำรต่อสู้ และกำรแสดงของคนสมัยกอ่ น ท่ี สำคัญเปน็ วชิ ำทค่ี นไทยได้คดิ ค้นข้ึนมำเอง โดดเดน่ ทำงดำ้ นศลิ ปะกำรต่อส้แู ละเป็นกำรอนรุ ักษศ์ ิลปวัฒนธรรมไทย กำรเรียนกำรสอนของรำยวิชำเซปักตะกร้อจะเรียนรู้ท้ังองค์ควำมรู้และกำรปฎิบัติ และทักษะกำรอยู่ร่วมกันใน สังคมและนอ้ มนำปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งมำประยกุ ษเ์ ขำ้ กบั กำรเรยี นกำรสอน เพ่ือให้มีควำมรู้ให้มีควำมซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่ำงพอเพียง มุ่งม่ันในกำรทำงำน รักควำมเป็นไทย พร้อมกับมีจิตใจสำธำรณะและใช้องค์ควำมรู้ที่ไดจ้ ำกกำรเรียนวิชำเซปักตะกร้อด้วยควำมพอเพียง และมีเหตุผล ตำมหลัก ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียง ผลการเรยี นรู้ 1. นักเรยี นสำมำรถบอกประวตั ิควำมเปน็ มำของเซปักตะกรอ้ 2. นกั เรียนสำมำรถบอกประโยชน์ของเซปักตะกรอ้ ได้ 3. นักเรยี นสำมำรถบอกทกั ษะกำรเล่นตะกร้อได้ 4. นักเรยี นสำมำรถบอกกำรเล่นเป็นทมี ได้ 5. นกั เรยี นสำมำรถบอกกติกำเซปักตะกร้อได้
โครงสร้างรายวชิ า รหัสวิชา …… ระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ช้ันมัธยมศกึ ษา หน่วยที่ ชอ่ื หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง เรยี นรู้ 1 การปฐมนเิ ทศ 1. ครผู ูส้ อนแนะนำตัวเองและทำควำมรู้จัก กับนกั เรียน เป 2. เพอ่ื สร้ำงควำมสมั พันธ์ทด่ี ีระหว่ำง ร ครูผ้สู อนกับนักเรยี น อ เพ 3. นักเรยี นมีควำมกล้ำแสดงออกในกำร ป แนะนำตัวเองในชน้ั เรยี น 2 การบริหารร่า 1. นักเรียนสำมำรถทำกิจกรรมกำรบรหิ ำร พ กาย รำ่ งกำยได้อยำ่ งถกู ต้องและปลอดภยั ก ก 3 ป ระวัติค วา ม 2. นักเรยี นเห็นควำมสำคัญของกำรบรหิ ำร เป เป็ น ม า ข อ ง รำ่ งกำย ก 3. นกั เรยี นสำมำรถบอกประโยชนข์ องกำร ป บริหำรร่ำงกำยได้อยำ่ งถูกต้อง 4. นกั เรยี นสำมำรถนำกิจกรรมดังกล่ำวไปใช้ใน ชีวติ ประจำวนั ได้ 1. นักเรียนมีควำมรู้เก่ยี วกับประวตั คิ วำมเป็นมำ ของกีฬำเซปกั ตะกรอ้
าพลศกึ ษา (เซปักตะกร้อ) ……………… าปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 จานวน 0.5 หน่วยกิต สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั (ชว่ั โมง) คะแนน กำรสรำ้ งควำมสัมพันธ์ท่ดี ีและทำควำมรจู้ ักเพื่อควำม ปน็ กนั เอง,ควำมคนุ้ เคยระหว่ำงครูผู้สอนกบั นักเรยี น 1 - รวมถึงกำรอธบิ ำยถงึ ขอ้ ตกลงและกฎกติกำในกำรเรียน, อธบิ ำยเกย่ี วกับอัตรำสว่ นของคะแนนในรำยวชิ ำดงั กล่ำว พอ่ื ทำใหน้ ักเรยี น เรียนวิชำดงั กล่ำวได้อย่ำงมี ประสิทธภิ ำพและบรรลตุ ำมจดุ ประสงค์ทวี่ ำงไว้ กำรบรหิ ำรรำ่ งกำยเป็นส่ิงทีส่ ำคัญมำกในกำรเรียนวิชำ 1 10 พลศกึ ษำและกำรเลน่ กฬี ำทุกชนดิ ไม่วำ่ จะเปน็ ก่อนและหลัง กำรทำกจิ กรรมดังกล่ำว เพรำะเปน็ กำรเตรียมร่ำงกำยใหพ้ รอ้ ม ก่อนท่จี ะทำกิจกรรมในกำรเรยี นและทสี่ ำคัญกำรบรหิ ำรร่ำงกำย ปน็ กำรปอ้ งกันกำรบำดเจบ็ ทอี่ ำจจะเกิดขึ้นในระหวำ่ งกำรเรียน กำรสอน ในกำรเรียนเซปักตะกรอ้ เพอ่ื ใหก้ ำรเรยี นกำรสอน 1 20 ประสบผลสำเร็จและบรรลุตำมจุดประสงค์ท่ีตั้งไว้ นักเรยี น
หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วยการ ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง เรียนรู้ เซปักตะกรอ้ 2. นกั เรียนมีควำมรู้เก่ียวกับมำรยำทของผเู้ ลน่ จ เซปกั ตะกรอ้ ที่ดี ก 3. นกั เรียนมคี วำมรู้เกี่ยวกบั มำรยำทของผ้ดู ูเซปกั ตะกรอ้ ทดี่ ี 4. นักเรียนมีควำมรูเ้ ก่ียวกบั กฎ-กติกำของกีฬำ เซปกั ตะกร้อ 4 ทักษะการเดาะ 1.นักเรยี นสำมำรถบอกทกั ษะของกำรเล่นกีฬำกำร ใน ลกู ตะกรอ้ เดำะด้วยขำ้ งเซปกั ตะกรอ้ ท ป หนว่ ยที่ ชื่อหนว่ ยการ ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง เรียนรู้ 1.นกั เรยี นสำมำรถบอกควำมหมำยของกำรเสิร์ฟและ 5 การเสิร์ฟ ปฎบิ ตั ิได้ 2.นกั เรียนสำมำรถบอกขน้ั ตอนของเสริ ฟ์ และปฎบิ ัติได้
สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั (ชว่ั โมง) คะแนน จะตอ้ งรถู้ ึงประวัตคิ วำมเป็นมำของกฬี ำเซปกั ตะกร้อ รูถ้ ึง กฎกติกำมำรยำทของผู้เลน่ และผูด้ ูทดี่ ี นกำรเรยี นเซปักตะกรอ้ ทกั ษะเปน็ กำรเล่นทป่ี ฎิบัติด้วย 1 20 ทกั ษะที่ถกู ตอ้ ง เพือ่ ใหก้ ำรเลน่ กีฬำน้นั เซปกั ตะกรอ้ นนั้ มี ประสิทธิภำพมำกขน้ึ และเล่นไดดีลดกำรบำดเจ็บ สาระสาคัญ เวลา น้าหนัก (ชว่ั โมง) คะแนน กำรกำรเสริ ฟ์ และปฎบิ ัติจัดว่ำเป็นกำรเลน่ ท่ีสำคญั ย่ิง ขัน้ ตอนหนง่ึ ซง่ึ จะละเว้นไมไ่ ด้ ถึงวำ่ สำคัญท่ีสุด 2 20
หน่วยท่ี ชือ่ หนว่ ยการ ผลการเรยี นรูท้ ี่คาดหวัง เรียนรู้ 6 การเล่นเปน็ ทมี 1.นักเรยี นสำมำรถบอกควำมหมำยของกำรเล่นเป็นทีมได้ 2.นกั เรียนสำมำรถเลน่ เป็นทีมได้ รวมตลอดภาคเรียน
สาระสาคัญ เวลา น้าหนกั (ชั่วโมง) คะแนน กำรเลน่ กีฬำเซปักตะกร้อน้ัน เปน็ กีฬำท่ีเลน่ เปน็ ทีม ซงึ่ กำรเล่นเป็นทมี นน้ั กม็ หี ลำยตำแหน่ง เพรำะฉน้นั นักเรยี น 14 30 ก็ต้องรูแ้ ละเข้ำใจในกำรเล่นเป็นทมี เพอื่ ให้ประสิทธภิ ำพ และไดผ้ ลดี 20 100
ผังมโนทศั น์ รายวชิ าพลศกึ ษา (เซปกั ตะกรอ้ ) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 กำรปฐมนเิ ทศ จำนวน 1 ช่ัวโมง กำรบริหำรรำ่ งกำย ประวัตคิ วำมเป็นมำ จำนวน 1 ชว่ั โมง จำนวน 1 ชั่วโมง รายวิชาพลศึกษา (เซปักตะกรอ้ ) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 จานวน 0.5 หน่วยกติ รวมตลอดภาคเรยี น จานวน 20 ช่ัวโมง ทกั ษะกำรเลน่ ตะกรอ้ กำรเลน่ เปน็ ทมี จำนวน 7 ช่ัวโมง จำนวน 7 ชั่วโมง กำรเสริ ฟ์ จำนวน 3 ช่วั โมง
ผงั มโนทัศน์ รายวชิ าพลศกึ ษา (เซปักตะกรอ้ ) ระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ ท่ี1-9 วิชาเซปกั ตะกรอ้ กำรปฐมนเิ ทศ จำนวน 1 ช่ัวโมง ประวัตคิ วำมเปน็ มำ จำนวน 1 ชั่วโมง กำรบริหำรร่ำงกำย จำนวน 1 ชัว่ โมง ทกั ษะกำรเลน่ จำนวน 7 ชั่วโมง กำรเสิรฟ์ จำนวน 3 ชว่ั โมง กำรเลน่ ทีม จำนวน 7 ชวั่ โมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรือ่ ง การปฐมนิเทศ เวลาเรยี น 1 ชม./สัปดาห์ รายวชิ า พลศึกษา รหสั วิชา ………………. ระดับชน้ั ม.4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกิต เวลาเรียนที่ใช้ในการจดั กจิ กรรม 1 ช่วั โมง 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจคงทน) กำรสร้ำงควำมสัมพันธ์ท่ีดแี ละทำควำมรจู้ ักเพื่อควำมเป็นกันเอง,ควำมค้นุ เคยระหว่ำง ครูผู้สอนกับนกั เรียน รวมถงึ กำรอธิบำยถงึ ข้อตกลงและกฎกติกำในกำรเรียน,อธิบำยเกยี่ วกบั อัตรำสว่ นของคะแนนในรำยวิชำ ดังกลำ่ ว เพื่อทำใหน้ ักเรียน เรียนวิชำดงั กลำ่ วไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพและบรรลุตำมจดุ ประสงคท์ ี่วำงไว้ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั ช้นั ปี / ผลการเรยี นรู้ 1. เข้ำใจมที ักษะในกำรเคลอื่ นไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเล่นเกม และกีฬำ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอื้ หาสาระหลัก : Knowledge 4. ครูผูส้ อนแนะนำตัวเองและทำควำมรู้จกั กับนักเรยี น 5. เพ่อื สร้ำงควำมสมั พนั ธท์ ด่ี รี ะหวำ่ งครูผสู้ อนกบั นักเรยี น 3. นักเรียนมคี วำมกลำ้ แสดงออกในกำรแนะนำตัวเองในชัน้ เรียน 3.2 ทักษะ / กระบวนการ : Process 1. ครูแนะนำตวั เองและใหน้ ักเรียนแนะนำตวั เอง 2. ครชู ้ีแจงเกีย่ วกบั กฎระเบียบและกติกำในกำรเรยี นวชิ ำกระบี่ 3. ครชู ี้แจงเก่ยี วกบั อตั รำส่วนของคะแนนในรำยวชิ ำกระบ่แี ละบอกถึงผลกำรเรยี นร้ทู ค่ี ำดหวัง 4. ครูให้นักเรยี นชักถำมเก่ยี วกบั รำยระเอียดตำ่ งๆ 4. สมรรถนะสาคัญ 1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด (วิเครำะห์ สังเครำะห)์ 3. ควำมสำมำรถในกำรอยรู่ ว่ มกนั ในสังคม 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. เพ่ือสร้ำงควำมสัมพนั ธ์ทีด่ ี 2. มีส่วนร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็น 3. มีควำมกลำ้ แสดงออก 6. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มั่นในกำรทำงำน 7. ภาระงาน / ชิ้นงาน 7.1 ตามตัวช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้ 1. เหน็ คุณคำ่ ในตนเองมคี วำมมั่นใจกลำ้ แสดงออกอยำ่ งเหมำะสม 2. มีมนุษย์สมั พนั ธ์ทด่ี แี ละใหเ้ กียรตผิ ้อู ่ืน
7.2 รวบยอด 1. ทดสอบกอ่ นเรยี น 2. กำรทำกจิ กรรมตำ่ งๆรว่ มกับผอู้ ื่น 3. ทดสอบหลงั เรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูแนะนำตัวเองและใหน้ ักเรยี นแนะนำตัวเอง 2. ครูช้ีแจงเกยี่ วกับกฎระเบียบและกติกำในกำรเรียนวชิ ำกระบกี่ ระบอง 3. ครชู ้ีแจงเกย่ี วกบั อตั รำส่วนของคะแนนในรำยวิชำกระบีแ่ ละบอกถงึ ผลกำรเรียนร้ทู ี่คำดหวงั 4. ครใู หน้ กั เรยี นชักถำมเกยี่ วกบั รำยระเอยี ดต่ำงๆ 9. ใบงาน - 10. ส่อื , อปุ กรณ์และแหล่งการเรียนรู้ 1. ในห้องเรียน
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง การบริหารร่างกาย เวลาเรียน 1 ชม./สัปดาห์ รายวชิ า พลศกึ ษา รหัสวชิ า ………………. ระดบั ชั้น ม. 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกติ เวลาเรยี นทใี่ ชใ้ นการจดั กจิ กรรม 1 ชัว่ โมง 1. สาระสาคญั (ความเขา้ ใจคงทน) กำรบริหำรรำ่ งกำยเปน็ ส่ิงที่สำคัญมำกในกำรเรียนวิชำพลศึกษำและกำรเลน่ กฬี ำทุกชนิด ไม่ วำ่ จะเปน็ ก่อนและหลงั กำรทำกจิ กรรมดังกลำ่ ว เพรำะเป็นกำรเตรยี มร่ำงกำยใหพ้ รอ้ มก่อนทจ่ี ะทำกิจกรรมในกำรเรยี นและที่ สำคัญกำรบริหำรรำ่ งกำยเปน็ กำรป้องกนั กำรบำดเจ็บท่อี ำจจะเกิดขึน้ ในระหวำ่ งกำรเรียนกำรสอน 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชี้วดั ชน้ั ปี / ผลการเรยี นรู้ 1.เขำ้ ใจมที ักษะในกำรเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเล่นเกม และกีฬำ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge 1. กำรกระโดดตบใต้ขำ 2. กำรลกุ น่งั 3. กำรกระโดดตบ 4. กำรวิ่งอยูก่ บั ที่ 5. กำรหมุนข้อต่อต่ำงๆของกลำ้ มเน้ือ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ : Process 1. ครใู หน้ ักเรยี นเข้ำแถวเปน็ รปู วงกลม 1 วง 2.ครูให้นกั เรียนเปล่ยี นกันออกมำนำกำรบรหิ ำรร่ำงกำยและใหน้ กั เรียนทอี่ ยใู่ นแถวปฏบิ ัติตำม คนละ 1 ท่ำ/ท่ำละ 30 ครัง้ 3.ครูคอยดแู ลและให้คำแนะนำ สมรรถนะสาคัญ 1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด (วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์) 3. ควำมสำมำรถในกำรอยู่รว่ มกันในสงั คม 5. คุณลกั ษณะของวชิ า 1. เพ่ือสรำ้ งควำมสมั พนั ธท์ ่ดี ี 2. มสี ว่ นร่วมในกำรแสดงควำมคิดเหน็ 3. มีควำมกลำ้ แสดงออก 6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งุ มนั่ ในกำรทำงำน 7. ภาระงาน / ชน้ิ งาน
7.1 ตามตวั ช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้ 1. มีสุขนิสยั ในกำรดูแลสุขภำพและออกกำลงั กำยสมำ่ เสมอ 2. มมี นุษย์สมั พนั ธท์ ่ดี แี ละใหเ้ กียรติผอู้ ืน่ 7.2 รวบยอด 1. ทดสอบกอ่ นเรียน 2. กำรทำกิจกรรมต่ำงๆรว่ มกบั ผู้อน่ื 3. ทดสอบหลงั เรยี น 8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู ห้นกั เรยี นเข้ำแถวตอนลกึ 4 แถว เพื่อ -สำรวจรำยชือ่ -สำรวจกำรแต่งกำย -สำรวจสุขภำพ -อบอุ่นร่ำงกำย 1. ครอู ธบิ ำยเนือ้ หำที่จะเรยี น ครใู หน้ กั เรียนจดั แถวตอนลึก 2. ครูอธิบำยถงึ วิธกี ำรบรหิ ำรร่ำงกำยพร้อมท้งั ทำกำรสำธติ ใหน้ ักเรยี นดแู ละให้ตัวแทนของนักเรยี นออกมำสำธติ ให้เพ่ือนใน ห้องดู 3.ครูคอยแนะนำและบอกข้อผิดพลำดตำ่ งๆของเพือ่ นเพื่อแกไ้ ข 9. ใบงาน - 10. ส่อื , อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ 1. ในห้องเรียน
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอ่ื ง ประวตั คิ วามเป็นมาของกฬี าเซปกั ตะกรอ้ เวลาเรยี น 1 ชม./สปั ดาห์ รายวิชา พลศกึ ษา รหสั วชิ า ………………. ระดับชนั้ ม. 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกติ เวลาเรียนทใี่ ช้ในการจัดกจิ กรรม 1 ชัว่ โมง 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจคงทน) ในกำรเรยี นวิชำเซปักตะกร้อ เพือ่ ใหก้ ำรเรียนกำรสอนประสบผลสำเร็จและบรรลุตำม จุดประสงคท์ ่ตี ั้งไว้ นักเรยี นจะตอ้ งรูถ้ งึ ประวัตคิ วำมเปน็ มำของกีฬำเซปกั ตะกรอ้ ทัง้ ในและตำ่ งประเทศ รูถ้ งึ กฎกติกำมำรยำท ของผูเ้ ลน่ และผูด้ ูท่ีดี 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้วี ดั ชน้ั ปี / ผลการเรียนรู้ 2. เขำ้ ใจมที ักษะในกำรเคล่อื นไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกฬี ำ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1.นกั เรยี นมคี วำมรเู้ กี่ยวกบั ประวตั ิควำมเปน็ มำของกีฬำเซปักตะกร้อ ในตำ่ งประเทศ 2.นักเรียนมีควำมร้เู กีย่ วกบั ประวตั ิควำมเป็นมำของกีฬำเซปักตะกร้อ ในประเทศไทย 3.นักเรยี นมีควำมรู้เกย่ี วกบั มำรยำทของผู้เลน่ กีฬำเซปักตะกร้อ ทด่ี ี 4.นักเรียนมคี วำมรู้เกี่ยวกบั มำรยำทของผู้ดูกีฬำเซปักตะกร้อ ทด่ี ี 5.นกั เรียนมคี วำมรเู้ กย่ี วกบั กฎ-กตกิ ำของกฬี ำเซปกั ตะกร้อ 3.3 ทกั ษะ / กระบวนการ : Process 1. ครูใหน้ ักเรียนจดั แถวตอนลึก 4 แถว เพ่อื - สำรวจรำยชื่อ - สำรวจกำรแต่งกำย - สำรวจสุขภำพ - อบอุ่นร่ำงกำย สมรรถนะสาคัญ 1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด (วิเครำะห์ สังเครำะห์) 3. ควำมสำมำรถในกำรอย่รู ว่ มกันในสังคม 5. คุณลักษณะของวิชา 1. เพื่อสรำ้ งควำมสมั พนั ธ์ที่ดี 2. มสี ว่ นรว่ มในกำรแสดงควำมคิดเหน็ 3. มีควำมกลำ้ แสดงออก 6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุง่ ม่นั ในกำรทำงำน
7. ภาระงาน / ช้ินงาน 7.1 ตามตวั ชี้วัด / ผลการเรียนรู้ 1. มสี ขุ นสิ ยั ในกำรดแู ลสขุ ภำพและออกกำลังกำยสม่ำเสมอ 2. มมี นุษย์สัมพนั ธท์ ด่ี แี ละให้เกียรตผิ ้อู นื่ 7.2 รวบยอด 1. ทดสอบก่อนเรยี น 2. กำรทำกิจกรรมตำ่ งๆร่วมกับผูอ้ ื่น 3. ทดสอบหลังเรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครูให้นักเรยี นจัดแถวตอนลกึ 4 แถว เพอ่ื - สำรวจรำยช่อื - สำรวจกำรแตง่ กำย - สำรวจสุขภำพ - อบอุน่ ร่ำงกำย 2. ครแู จง้ เรื่องทจี่ ะเรียนและจดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 3. ครมู อบหมำยงำน ให้นักเรยี นทำรำยงำนตำมหวั ขอ้ ดังนี้ - ประวัตคิ วำมเปน็ มำของกฬี ำเซปกั ตะกรอ้ ท้งั ในประเทศไทยและตำ่ งประเทศ - กฎ-กตกิ ำ ของกีฬำเซปกั ตะกรอ้ - มำรยำทของผเู้ ล่นและผู้ดูกีฬำฟตุ บอลท่ดี ี 4. ครูอบรมเรือ่ งควำมมีวินยั 5. ครูนดั หมำยเกี่ยวกับกำรส่งรำยงำน 6 .ครูสัง่ เลิกแถว 9. ใบงาน - 10. สอื่ , อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้ 1. สอ่ื กีฬำเซปักตะกรอ้ 2. ในหอ้ งเรยี น
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่อื ง การเดาะลกู ตะกรอ้ ด้วยหลังเท้า เวลาเรยี น 2 ชม./สัปดาห์ รายวิชา พลศึกษา รหัสวิชา ………………. ระดับชั้น ม. 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนกั เวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกิต เวลาเรยี นทใี่ ช้ในการจดั กจิ กรรม 2 ช่วั โมง 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจคงทนทักษะกำรเดำะลูกตะกร้อดว้ ยหลังเท้ำ นับวำ่ เป็นทักษะสำคญั อยำ่ งยง่ิ กำรเดำะลูกตะกรอ้ ด้วย หลงั เทำ้ เป็นทกั ษะวิธีหนง่ึ ทผี่ ูเ้ ล่นทมี่ คี วำมชำนำญแลว้ จะเลอื กกำรเดำะลกู ตะกรอ้ ดว้ ยหลังเท้ำให้เหมำะสมกับโอกำสนน้ั ๆ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัดชนั้ ปี / ผลการเรียนรู้ 3. เข้ำใจมีทักษะในกำรเคลื่อนไหว กิจกรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกฬี ำ 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge 1.ทักษะกำรเดำะลูกตะกร้อดว้ ยหลังเทำ้ 2.ประโยชนข์ องกำรเดำะลกู ตะกร้อดว้ ยหลงั เท้ำ 3.วธิ ีกำรเดำะลูกตะกรอ้ ด้วยหลังเท้ำ 3.2 ทักษะ / กระบวนการ : Process -ครใู ห้นักเรียนเขำ้ แถวตอนลึก 4 แถว เพือ่ -สำรวจรำยช่ือ -สำรวจกำรแต่งกำย -สำรวจสุขภำพ -อบอ่นุ รำ่ งกำย -ครอู ธิบำยเน้ือหำท่ีจะเรียน สมรรถนะสาคญั 1. ควำมสำมำรถในกำรปฎิบตั ิ 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ (วิเครำะห์ สงั เครำะห์) 3. ควำมสำมำรถในกำรอยู่ร่วมกนั ในสงั คม 5. คณุ ลักษณะของวิชา 1. เพือ่ สรำ้ งควำมสมั พันธ์ที่ดี 2. มีส่วนรว่ มในกำรแสดงควำมคิดเหน็ 3. มคี วำมกลำ้ แสดงออก 6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในกำรทำงำน
7. ภาระงาน / ช้นิ งาน 7.1 ตามตวั ช้วี ดั / ผลการเรียนรู้ 1. มีสขุ นสิ ยั ในกำรดแู ลสุขภำพและออกกำลังกำยสมำ่ เสมอ 2. มมี นษุ ย์สมั พนั ธ์ทีด่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ ้อู ่นื 7.2 รวบยอด 1. ทดสอบก่อนเรยี น 2. กำรทำกจิ กรรมต่ำงๆร่วมกบั ผู้อ่ืน 3. ทดสอบหลังเรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้นกั เรียนจดั แถวตอนลึก 4 แถว เพื่อ - สำรวจรำยชือ่ - สำรวจกำรแตง่ กำย - สำรวจสุขภำพ - อบอนุ่ รำ่ งกำย -ครอู ธิบำยควำมหมำยของกำรเดำะลกู ตะกรอ้ ด้วยหลงั เท้ำ -ครอู ธบิ ำยขน้ั ตอนของกำรเดำะลูกตะกร้อดว้ ยหลังเทำ้ -ครูสำธติ กำรขน้ั ตอนของกำรเดำะลกู ตะกร้อด้วยหลังเทำ้ -ครูใหต้ ัวแทนนกั เรยี นออกมำเป็นหนุ่ สำธติ ให้เพ่ือนๆดู ครคู อยอธบิ ำยเป็นข้นั ตอน -ครูใหน้ กั เรยี นทกุ คนทำกำรฝึก -ครเู ปน็ ผู้อธบิ ำยไปเปน็ ขัน้ ตอน -ครใู ห้นกั เรียนฝึกโดยกำรแบ่งออกเปน็ กลุ่มแยก -ครูใหน้ ักเรยี นทดสอบกำรเดำะลูกตะกรอ้ ดว้ ยหลังเทำ้ ทีละคน -ครเู รยี กนกั เรียนเขำ้ แถวรวม เพ่อื - สรุปเน้ือหำท่ีเรียนในแต่ครง้ั - อธบิ ำยถงึ ขอ้ บกพรอ่ ง,ปัญหำท่ีเกดิ ขน้ึ และวิธีกำรแก้ไขปญั หำ -ให้นักเรียนบนั ทกึ เกี่ยวกับปัญหำและวธิ กี ำรปรบั ปรุงแกไ้ ขขอ้ เสนอแนะในกำรเรียน -ครูอบรมเร่ืองกำรดแู ลสขุ ภำพและควำมสะอำดของตวั เอง -ครนู ัดหมำยในเนอ้ื หำที่จะเรียนในคร้งั ต่อไป -สั่งเลิกแถว 9. ใบงาน - 10. สือ่ , อปุ กรณ์และแหล่งการเรียนรู้ -นกหวีด -ลกู ตะกร้อ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 5 การเดาะลูกตะกร้อดว้ ยหนา้ ขา เวลาเรยี น 2 ชม./สัปดาห์ รายวชิ า พลศึกษา รหสั วิชา ………………. ระดบั ช้นั ม. 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกติ เวลาเรยี นทีใ่ ช้ในการจดั กจิ กรรม 2 ชั่วโมง 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจคงทน)ทกั ษะกำรเดำะลูกตะกร้อดว้ ยหน้ำขำ นับวำ่ เปน็ ทักษะสำคัญอยำ่ งยิ่ง กำรเดำะลกู ตะกร้อด้วย หนำ้ ขำ เปน็ ทกั ษะวิธหี น่งึ ท่ีผู้เลน่ ท่ีมีควำมชำนำญแลว้ จะเลือกกำรเดำะลูกตะกรอ้ ด้วยหนำ้ ขำ ใหเ้ หมำะสมกับโอกำสนัน้ ๆ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวช้ีวดั ชนั้ ปี / ผลการเรียนรู้ 4. เขำ้ ใจมีทักษะในกำรเคล่ือนไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกฬี ำ 3. สาระการเรยี นรู้ 4.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge 1.ทกั ษะกำรเดำะลกู ตะกรอ้ ด้วยหนำ้ ขำ 2.ประโยชนข์ องกำรเดำะลกู ตะกร้อดว้ ยหน้ำขำ 3.วธิ ีกำรเดำะลูกตะกรอ้ ดว้ ยหนำ้ ขำ 4.2 ทักษะ / กระบวนการ : Process -ครูให้นกั เรียนเข้ำแถวตอนลึก 4 แถว เพื่อ -สำรวจรำยชอื่ -สำรวจกำรแต่งกำย -สำรวจสุขภำพ -อบอ่นุ รำ่ งกำย -ครอู ธบิ ำยเนอื้ หำที่จะเรยี น สมรรถนะสาคัญ 1. ควำมสำมำรถในกำรปฎิบตั ิ 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ (วิเครำะห์ สงั เครำะห)์ 3. ควำมสำมำรถในกำรอยู่รว่ มกนั ในสงั คม 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. เพื่อสร้ำงควำมสัมพนั ธ์ทีด่ ี 2. มีสว่ นร่วมในกำรแสดงควำมคดิ เห็น 3. มคี วำมกลำ้ แสดงออก 6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งม่นั ในกำรทำงำน 7. ภาระงาน / ช้นิ งาน 7.1 ตามตัวชี้วดั / ผลการเรยี นรู้ 1. มสี ขุ นสิ ยั ในกำรดูแลสุขภำพและออกกำลงั กำยสมำ่ เสมอ 2. มีมนษุ ย์สมั พันธท์ ่ดี แี ละให้เกียรตผิ ู้อนื่
7.2 รวบยอด 1. ทดสอบก่อนเรยี น 2. กำรทำกจิ กรรมต่ำงๆรว่ มกับผู้อ่ืน 3. ทดสอบหลงั เรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 1. ครใู ห้นกั เรียนจัดแถวตอนลึก 4 แถว เพอ่ื - สำรวจรำยชื่อ - สำรวจกำรแต่งกำย - สำรวจสุขภำพ - อบอุ่นร่ำงกำย -ครอู ธบิ ำยควำมหมำยของกำรเดำะลูกตะกร้อด้วยหนำ้ ขำ -ครูอธิบำยขั้นตอนของกำรเดำะลูกตะกรอ้ ด้วยหน้ำขำ -ครูสำธติ กำรขั้นตอนของกำรเดำะลูกตะกร้อด้วยหนำ้ ขำ -ครูใหต้ วั แทนนักเรยี นออกมำเปน็ หุ่นสำธิตใหเ้ พอ่ื นๆดู ครูคอยอธิบำยเปน็ ข้นั ตอน -ครูใหน้ กั เรยี นทุกคนทำกำรฝกึ -ครเู ป็นผูอ้ ธบิ ำยไปเปน็ ขั้นตอน -ครูให้นักเรียนฝกึ โดยกำรแบ่งออกเป็นกลมุ่ แยก -ครูให้นกั เรียนทดสอบกำรเดำะลูกตะกร้อด้วยหน้ำขำทลี ะคน -ครูเรียกนกั เรยี นเข้ำแถวรวม เพอื่ - สรปุ เนื้อหำทเี่ รยี นในแต่คร้ัง - อธิบำยถึงขอ้ บกพร่อง,ปญั หำที่เกดิ ขนึ้ และวิธกี ำรแกไ้ ขปัญหำ -ใหน้ ักเรยี นบนั ทึกเก่ียวกบั ปัญหำและวิธีกำรปรับปรงุ แก้ไขข้อเสนอแนะในกำรเรยี น -ครูอบรมเรอื่ งกำรดแู ลสุขภำพและควำมสะอำดของตวั เอง -ครูนดั หมำยในเนือ้ หำที่จะเรียนในครั้งต่อไป -ส่งั เลิกแถว 9. ใบงาน - 10. สื่อ , อปุ กรณแ์ ละแหลง่ การเรียนรู้ - เอกสำรหนังสอื วชิ ำเซปักตะกร้อ -นกหวดี -ลูกตะกร้อ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 การเดาะลูกตะกร้อด้วยศีรษะ เวลาเรียน 3 ชม./สปั ดาห์ รายวชิ า พลศึกษา รหัสวิชา ………………. ระดบั ชน้ั ม. 4 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 นา้ หนกั เวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกติ เวลาเรยี นทีใ่ ชใ้ นการจัดกิจกรรม 3 ช่วั โมง 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจคงทน)ทกั ษะกำรเดำะลูกตะกรอ้ ด้วยศรี ษะ นับวำ่ เป็นทักษะสำคัญอย่ำงยงิ่ กำรเดำะลูกตะกร้อดว้ ย ศรี ษะเป็นทกั ษะวธิ หี นง่ึ ท่ีผ้เู ล่นท่ีมีควำมชำนำญแลว้ จะเลอื กกำรเดำะลกู ตะกรอ้ ดว้ ยศรี ษะ ใหเ้ หมำะสมกับโอกำสนัน้ ๆ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชีว้ ัดชน้ั ปี / ผลการเรยี นรู้ 5. เขำ้ ใจมีทกั ษะในกำรเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกีฬำ 3. สาระการเรยี นรู้ 5.1 เนื้อหาสาระหลกั : Knowledge 1.ทักษะกำรเดำะลูกตะกรอ้ ดว้ ยศรี ษะ 2.ประโยชนข์ องกำรเดำะลูกตะกร้อดว้ ยศรี ษะ 3.วิธกี ำรเดำะลกู ตะกรอ้ ด้วยศรี ษะ 5.2 ทกั ษะ / กระบวนการ : Process -ครใู ห้นักเรยี นเข้ำแถวตอนลึก 4 แถว เพือ่ -สำรวจรำยชื่อ -สำรวจกำรแต่งกำย -สำรวจสุขภำพ -อบอนุ่ ร่ำงกำย -ครูอธิบำยเน้อื หำท่ีจะเรียน สมรรถนะสาคัญ 1. ควำมสำมำรถในกำรปฎิบัติ 2. ควำมสำมำรถในกำรคิด (วิเครำะห์ สงั เครำะห)์ 3. ควำมสำมำรถในกำรอยู่รว่ มกันในสังคม 5. คุณลกั ษณะของวชิ า 1. เพ่อื สรำ้ งควำมสมั พันธท์ ีด่ ี 2. มสี ่วนร่วมในกำรแสดงควำมคิดเห็น 3. มีควำมกล้ำแสดงออก 6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งมั่นในกำรทำงำน
7. ภาระงาน / ชน้ิ งาน 7.1 ตามตัวชีว้ ัด / ผลการเรียนรู้ 1. มีสขุ นสิ ยั ในกำรดูแลสขุ ภำพและออกกำลงั กำยสม่ำเสมอ 2. มมี นษุ ย์สัมพันธ์ท่ดี แี ละให้เกียรติผอู้ นื่ 7.2 รวบยอด 1. ทดสอบก่อนเรยี น 2. กำรทำกจิ กรรมตำ่ งๆร่วมกบั ผูอ้ ่นื 3. ทดสอบหลงั เรียน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู หน้ กั เรียนจัดแถวตอนลกึ 4 แถว เพื่อ - สำรวจรำยชื่อ - สำรวจกำรแต่งกำย - สำรวจสุขภำพ - อบอนุ่ ร่ำงกำย -ครูอธบิ ำยควำมหมำยของกำรเดำะลูกตะกร้อด้วยศรี ษะ -ครูอธิบำยข้ันตอนของกำรเดำะลูกตะกรอ้ ด้วยศรี ษะ -ครสู ำธติ กำรขน้ั ตอนของกำรเดำะลูกตะกร้อด้วยศีรษะ -ครใู หต้ วั แทนนกั เรียนออกมำเป็นหุ่นสำธิตให้เพ่อื นๆดู ครคู อยอธบิ ำยเป็นขัน้ ตอน -ครใู หน้ กั เรยี นทุกคนทำกำรฝกึ -ครูเปน็ ผ้อู ธิบำยไปเป็นข้นั ตอน -ครูให้นักเรียนฝึกโดยกำรแบ่งออกเป็นกลุ่มแยก -ครูใหน้ ักเรียนทดสอบกำรเดำะลกู ตะกรอ้ ด้วยศรี ษะทลี ะคน -ครเู รียกนกั เรยี นเข้ำแถวรวม เพอ่ื - สรปุ เน้ือหำท่ีเรียนในแต่ครัง้ - อธบิ ำยถงึ ข้อบกพร่อง,ปัญหำทเ่ี กิดข้นึ และวิธีกำรแก้ไขปญั หำ -ใหน้ กั เรยี นบนั ทกึ เก่ียวกบั ปัญหำและวธิ ีกำรปรบั ปรงุ แกไ้ ขข้อเสนอแนะในกำรเรียน -ครูอบรมเร่อื งกำรดแู ลสุขภำพและควำมสะอำดของตัวเอง -ครูนดั หมำยในเนือ้ หำที่จะเรียนในครัง้ ตอ่ ไป -สงั่ เลกิ แถว 9. ใบงาน - 10. ส่ือ , อุปกรณ์และแหล่งการเรียนรู้ - เอกสำรหนงั สอื วิชำเซปักตะกร้อ -นกหวดี -ลกู ตะกรอ้
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 การเสริ ์ฟ เวลาเรียน 3 ชม./สปั ดาห์ รายวชิ า พลศกึ ษา รหสั วชิ า ………………. ระดบั ชนั้ ม. 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 0.5 หนว่ ยกิต เวลาเรียนทใ่ี ชใ้ นการจัดกจิ กรรม 3 ชว่ั โมง 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจคงทน)ทักษะกำรเสิร์ฟนับว่ำเป็นทักษะสำคัญอย่ำงยิ่งที่สำมำรถทำคะแนนได้ กำรเสิร์ฟมีอยู่หลำย แบบหลำยวธิ ีผ้เู ล่นที่มคี วำมชำนำญแลว้ จะเลอื กกำรเสิรฟ์ ด้วยวิธใี ดกไ็ ดท้ ่ีเหน็ ว่ำเหมำะสมกบั โอกำสน้นั ๆ 2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชวี้ ัดชนั้ ปี / ผลการเรียนรู้ เขำ้ ใจมีทักษะในกำรเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเล่นเกม และกีฬำ 3. สาระการเรยี นรู้ เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge 1.ทักษะกำรเสิร์ฟในลกั ษณะตำ่ งๆ 2.ประโยชน์ของกำรเสิรฟ์ ในลักษณะตำ่ งๆ 3.กำรเสริ ฟ์ ในลกั ษณะตำ่ งๆ ทักษะ / กระบวนการ : Process -ครูใหน้ ักเรยี นเข้ำแถวตอนลกึ 4 แถว เพอ่ื -สำรวจรำยช่ือ -สำรวจกำรแตง่ กำย -สำรวจสุขภำพ -อบอนุ่ ร่ำงกำย -ครอู ธบิ ำยเนอื้ หำที่จะเรียน 4.สมรรถนะสาคญั 1. ควำมสำมำรถในกำรปฎบิ ตั ิ 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ (วเิ ครำะห์ สงั เครำะห์) 3. ควำมสำมำรถในกำรอยู่รว่ มกนั ในสังคม 5. คณุ ลักษณะของวิชา 1. เพอื่ สรำ้ งควำมสัมพนั ธท์ ่ดี ี 2. มีสว่ นรว่ มในกำรแสดงควำมคิดเหน็ 3. มีควำมกล้ำแสดงออก 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งุ มั่นในกำรทำงำน
7. ภาระงาน / ชิ้นงาน 7.1 ตามตวั ชว้ี ดั / ผลการเรียนรู้ 1. มีสขุ นิสัยในกำรดูแลสขุ ภำพและออกกำลงั กำยสมำ่ เสมอ 2. มีมนุษย์สมั พนั ธท์ ด่ี แี ละใหเ้ กียรติผู้อ่นื 7.2 รวบยอด 1. ทดสอบกอ่ นเรยี น 2. กำรทำกจิ กรรมตำ่ งๆรว่ มกับผอู้ ืน่ 3. ทดสอบหลงั เรียน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ครใู ห้นกั เรียนจดั แถวตอนลกึ 4 แถว เพื่อ - สำรวจรำยช่อื - สำรวจกำรแตง่ กำย - สำรวจสุขภำพ - อบอนุ่ ร่ำงกำย -ครอู ธิบำยควำมหมำยของกำรเสริ ฟ์ ในลกั ษณะตำ่ งๆ -ครอู ธิบำยข้นั ตอนของกำรเสริ ์ฟในลักษณะตำ่ งๆ -ครูสำธิตกำรขัน้ ตอนของกำรเสริ ์ฟในลกั ษณะตำ่ งๆ -ครูให้ตัวแทนนักเรียนออกมำเป็นหุ่นสำธติ ใหเ้ พ่ือนๆดู ครคู อยอธิบำยเป็นขนั้ ตอน -ครูใหน้ กั เรียนทกุ คนทำกำรฝกึ กำรเสิรฟ์ ในลักษณะ -ครูเป็นผ้อู ธิบำยไปเป็นขัน้ ตอน -ครใู ห้นกั เรียนฝกึ โดยกำรแบ่งออกเปน็ กลุม่ -ครูให้นักเรียนทดสอบกำรเสริ ์ฟในลักษณะต่ำงๆตำมควำมถนัดของตนเองถนัดมำกที่สุด โดยกำรทดสอบทีละคนให้คนละ 10 ลูก ทำสองครั้งเอำคร้งั ท่ที ำไดม้ ำกท่สี ุด -ครูเรียกนกั เรียนเขำ้ แถวรวม เพอ่ื - สรุปเน้ือหำที่เรียนในแต่คร้ัง - อธิบำยถงึ ขอ้ บกพร่อง,ปัญหำท่ีเกดิ ข้ึนและวธิ ีกำรแก้ไขปญั หำ -ใหน้ กั เรียนบนั ทึกเกย่ี วกบั ปัญหำและวิธีกำรปรบั ปรุงแก้ไขข้อเสนอแนะในกำรเรยี น -ครูอบรมเรือ่ งกำรดูแลสุขภำพและควำมสะอำดของตัวเอง -ครูนัดหมำยในเน้ือหำท่ีจะเรียนในคร้ังตอ่ ไป -สงั่ เลกิ แถว 9. ใบงาน - 10. สอ่ื , อปุ กรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ -นกหวีด -ลูกบอล
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 การเล่นเป็นทมี เวลาเรียน 7 ชม./สัปดาห์ รายวชิ า พลศึกษา รหสั วชิ า ………………. ระดบั ชน้ั ม.4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรยี น 0.5 หนว่ ยกิต เวลาเรียนที่ใช้ในการจดั กิจกรรม 7 ช่วั โมง 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจคงทน)ในกำรเล่นตะกร้อจะแบ่งออกเป็นสองฝ่ำยฝ่ำยละ 5 คน ซ่ึงหน้ำท่ีโดยทั่วไปของผู้เล่นแต่ละ ตำแหน่งสำคัญและมีควำมจำเปน็ อยำ่ งย่ิง ผู้เลน่ ต้องร้วู ่ำแตล่ ะตำแหนง่ มหี น้ำที่ของตนอย่ำงไร 2. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั ช้ันปี / ผลการเรยี นรู้ 6. เขำ้ ใจมีทกั ษะในกำรเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเลน่ เกม และกฬี ำ 3. สาระการเรียนรู้ 6.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge 1.ตำแหน่งของผู้เล่นภำยในทีม 2.หน้ำทีข่ องผูเ้ ล่นภำยในทมี ในแตล่ ะตำแหน่ง 3.เทคนิคกำรเลน่ เปน็ ทมี 6.2 ทักษะ / กระบวนการ : Process -ครูใหน้ กั เรยี นเขำ้ แถวตอนลึก 4 แถว เพือ่ -สำรวจรำยช่อื -สำรวจกำรแตง่ กำย -สำรวจสุขภำพ -อบอุน่ ร่ำงกำย -ครูอธบิ ำยเนอื้ หำที่จะเรียน
สมรรถนะสาคัญ 1. ควำมสำมำรถในกำรปฎิบัติ 2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ (วิเครำะห์ สังเครำะห)์ 3. ควำมสำมำรถในกำรอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คม 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา 1. เพอ่ื สรำ้ งควำมสมั พันธ์ท่ีดี 2. มสี ่วนรว่ มในกำรแสดงควำมคิดเหน็ 3. มีควำมกลำ้ แสดงออก 6. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน 7. ภาระงาน / ช้ินงาน 7.1 ตามตวั ช้วี ดั / ผลการเรียนรู้ 1. มีสุขนิสยั ในกำรดูแลสุขภำพและออกกำลงั กำยสม่ำเสมอ 2. มมี นุษย์สมั พนั ธท์ ี่ดีและให้เกยี รตผิ อู้ ืน่ 7.2 รวบยอด 1. ทดสอบก่อนเรยี น 2. กำรทำกิจกรรมตำ่ งๆรว่ มกับผู้อ่นื 3. ทดสอบหลงั เรียน 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. ครูใหน้ ักเรยี นจดั แถวตอนลกึ 4 แถว เพ่ือ - สำรวจรำยชอื่ - สำรวจกำรแต่งกำย - สำรวจสุขภำพ - อบอ่นุ ร่ำงกำย -ครูอธิบำยตำแหนง่ ของผู้เลน่ ภำยในทีม -ครอู ธิบำยหนำ้ ที่ของผู้เล่นภำยในทีมในแต่ละตำแหนง่ -ครูอธบิ ำยเทคนิคกำรเล่นเปน็ ทีม -ครูใหต้ วั แทนนักเรียนออกมำสำธิตให้เพอ่ื นๆดใู นกำรเล่นเปน็ ทีม ครคู อยอธบิ ำยเป็นขน้ั ตอน -ครใู หน้ ักเรียนทกุ คนทำกำรฝกึ กำรเลน่ เป็นทมี โดยแบ่งออกเปน็ ทมี ทมี ละ 5 คน -ครเู ป็นผูอ้ ธิบำยไปเป็นขัน้ ตอน -ครใู ห้นักเรียนฝึกโดยกำรแบ่งออกเปน็ ทมี -ครูใหน้ กั เรียนทดสอบกำรเลน่ เป็นทมี โดยแบง่ ออกเป็นทมี ทมี ละ 5 คน -ครูเรียกนักเรียนเข้ำแถวรวม เพ่อื - สรุปเนือ้ หำท่ีเรียนในแต่ครัง้ - อธิบำยถึงข้อบกพร่อง,ปัญหำทเ่ี กดิ ขึน้ และวิธกี ำรแกไ้ ขปญั หำ
-ใหน้ กั เรยี นบนั ทึกเกี่ยวกับปญั หำและวธิ ีกำรปรับปรุงแกไ้ ขข้อเสนอแนะในกำรเรยี น -ครอู บรมเรอื่ งกำรดูแลสุขภำพและควำมสะอำดของตวั เอง -ครนู ดั หมำยในเน้ือหำที่จะเรียนในครง้ั ต่อไป -ส่ังเลิกแถว 9. ใบงาน - 10. ส่ือ , อปุ กรณ์และแหลง่ การเรยี นรู้ -นกหวีด -ลกู ตะกรอ้
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: