หนว่ ยท่ี 5 รางเดนิ สายและรางเคเบลิ การออกแบบระบบไฟฟา้ จโิ รษม์ วฒั นา แผนกวชิ าชา่ งไฟฟา้ กำลงั วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี
หน่วยที่ 5 รางเดนิ สายและรางเคเบิล รางเดินสายไฟฟ้าและรางเคเบิลเป็ นส่วนหน่ึงในการติดต้งั อุปกรณ์สายไฟฟ้า นิยมใช้ในการเดิน สายไฟฟ้าในงานอตุ สาหกรรม มีขอ้ ดีคอื การติดต้งั ง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถวางสายสาหรับการติดต้งั สายไฟฟ้าไดจ้ านวนมาก ๆ เนื่องจากมีขนาดที่กวา้ งกวา่ ท่อร้อยสาย ระบายอากาศไดด้ ี แต่รางเดินสายหากมี จานวนสายไม่เกิน 30 เส้น (ไม่นบั สายดิน) ไม่ตอ้ งใชต้ วั คูณลดทอนขนาดกระแส แต่หากรางเดินสายไฟฟ้า และรางเคเบิลมีจานวนสายไฟฟ้าเกิน 30 เส้น (ไม่นบั สายดิน) จาเป็นตอ้ งใชต้ วั คูณลดทอนขนาดกระแสเพอื่ ความปลอดภยั โดยจานวนสายที่สามารถติดต้งั ในรางเดินสายไดน้ ้ัน ตอ้ งมีพ้ืนท่ีหน้าตดั รวมฉนวนไม่เกิน ร้อยละ 20 ของพ้ืนท่ีหนา้ ตดั ราง ส่วนขนาดกระแสน้นั ใชต้ ารางเดียวกบั การเดินสายในทอ่ ร้อยสาย ขนาดของ รางเดินสายมีต้งั แต่กวา้ ง 75 ม.ม. ถึง 300 มม. แต่ขนาดที่กวา้ งกว่าน้ีก็สามารถสั่งโรงงานผลิตตามความ ตอ้ งการได้ ฝาปิ ดรางเดินสายจะมีท้งั แบบขนั สกรูและกดล็อค สถานท่ีติดต้งั รางเดินสายตอ้ งเป็ นท่ีเปิ ดโล่ง และตอ้ งมีการจบั ยึดรางตลอดช่วงความยาวอย่างแขง็ แรงรวมท้งั ที่ปลายของรางตอ้ งปิ ดเพื่อความปลอดภยั ใชไ้ ดท้ ้งั ระบบไฟฟ้าแรงดนั สูงปานกลางและแรงดนั ต่า รางเดินสายไฟฟ้าและรางเคเบิลทาดว้ ยเหล็กแผน่ บางเคลือบผิวได้หลายแบบให้เหมาะสมกับรางเดินสายไฟฟ้าและรางเคเบิลแต่ละชนิดได้แก่ Aluzinc, Electro galvanized, Hot dip galvanized, Epoxy powder paint และ Galvanized sheet ซ่ึงทาหนา้ ที่ป้องกนั การ เกิดสนิมไดด้ ี นอกจากรางเดินสายไฟฟ้าและรางเคเบิลแลว้ ยงั มีรางเคเบิลแบบบนั ได แบบมีช่องระบาย อากาศและแบบดา้ นล่างทึบ ซ่ึงรางเคเบิลแบบบนั ไดจะมีความกวา้ งต้งั แต่ 150 มม. ถึง 1000 ม. ชนิดของ สายไฟฟ้าและอปุ กรณ์ที่อนุญาตใหต้ ิดต้งั ในรางเคเบิล 1. สายเคเบิลชนิด MI (Mineral-Insulated, Metal-Sheathed Cable) สายไฟฟ้าชนิดน้ีจะมีเปลือก โลหะหุม้ ฉนวนอีกช้นั 2. สายเคเบิลชนิด MC (Metal-Clad Cable) สายไฟฟ้าชนิดน้ีจะมีเปลือกโลหะหุม้ ฉนวนอีกช้นั 3. สายเคเบิลชนิด AC (Armored Cable) สายไฟฟ้าชนิดน้ีจะมีเปลือกโลหะหุน้ ฉนวนอีกช้นั 4. สายเคเบิลแกนเดียวชนิดมีฉนวนและเปลือกนอก ขนาดไม่เลก็ กวา่ 50 ตร.มม เช่น สาย NYY 5. สายเคเบิลหลายแกนในระบบแรงต่าทุกขนาด 6. สายอื่นชนิดหลายแกนสาหรับควบคุมสญั ญาณ 7. สายเคเบิลแกนเดียวชนิดไมม่ ีเปลือกนอก ขนาดตวั นาไมเ่ ล็กกวา่ 50 ตร.มม เช่น สาย THW 8. ทอ่ สายชนิดต่างๆ
5.1 การเดินสายในรางเดนิ สาย (Wire way) รูป รางวายเวย์ ท่ีมา sirichaielectric.com/category/รางเดินสายไฟ-ตเู้ หลก็ -กล่องพกั สายไฟ การเดินสายในรางเดินสายน้นั เหมาะกบั กรณีท่ีมีสายไฟฟ้าจานวนหลายๆ เส้น หรือมีหลายวงจรอยู่ ในแนวเดินสายเดียวกนั หรือกรณีที่สายมีขนาดใหญ่ เช่น สายป้อนจากบริภณั ฑป์ ระธานถึงแผงย่อยประจา ช้นั และหรือวงจรย่อยในโรงงาน ซ่ึงมีความสะดวกในการติดต้งั และเดินสายรวมท้งั ค่าใชจ้ ่ายรวมจะต่ากวา่ กรณีท่ีใช้ท่อร้อยสาย เน่ืองจากรางเดินสายน้ีมีขนาดใหญ่กว่า ทาให้สามารถวางสายไฟฟ้าไดใ้ นจานวนที่ มากกวา่ โดยจะมีฝาคลอบปิ ดตลอดความยาวของรางเดินสาย ซ่ึงฝาปิ ดจะมีท้งั แบบขนั สกรูหรือแบบกดลอ็ ค ดงั น้นั ทาให้สามารถบารุงรักษาหรือตรวจสอบสายไฟฟ้าภายหลงั การติดต้งั ไดง้ ่ายกว่ารวมท้งั การเพิ่มวงจร ภายหลงั ดว้ ย รางเดินสายตอ้ งใช้งานในท่ีเปิ ดโล่งเท่าน้ัน ตอ้ งสามารถเขา้ ถึงไดห้ ลงั จากติดต้งั แลว้ ถา้ เป็ น ชนิดใชภ้ ายนอกอาคารตอ้ งกนั ฝนได้ และไม่ใชใ้ นท่ีท่ีมีอนั ตรายทางกายภาพ การติดต้งั รางเดินสายตอ้ งมีการ จบั ยึดท่ีมนั่ คงแข็งแรงทุกระยะห่างกนั ไม่เกิน 1.50 เมตร และไม่อนุญาตใหต้ ่อรางเดินสาย ณ จุดท่ีผ่านผนัง หรือพ้ืนและไม่อนุญาตให้ใชร้ างเดินสายเป็ นตวั นาสาหรับต่อลงดินสถานท่ีติดต้งั ส่วนใหญ่จะเป็ นภายใน อาคาร ลกั ษณะของรางเดินสายน้ันเหมือนกล่องโลหะที่ยาวทาดว้ ย Aluzinc sheet และ Galvanized sheet เคลือบผิวแบบพ่นดว้ ยสีฝ่ นุ Epoxy (Epoxy powder paint) วางสายเมนขนาดเลก็ และสายสัญญาณขนาดเล็ก ใชต้ ิดต้งั ภายในอาคาร ตามแสดงในรูปท่ี 5.1 ขนาดทว่ั ไปมีต้งั แต่สูง 50 มม. (2 นิ้ว) กวา้ ง 75 มม. (3 นิ้ว) ถึง สูง 200 มม. (8 นิ้ว) กวา้ ง 300 มม. (12 นิ้ว) หนา 1 ถึง 2 มม ความยาวแต่ละท่อน 4 ฟุต หรือ 8 ฟุต แต่ท้งั น้ี ขนาดอ่ืนก็สามารถสั่งโรงงานประกอบไดต้ ามตอ้ งการ
รูป การประกอบอุปกรณ์ไวยเ์ วย์ ที่มา http://www.iecm.co.th ในการเดินสายไฟฟ้าในรางเดินสายน้ันพ้ืนที่หน้าตดั ของตวั นาและฉนวนท้งั หมดทุกเส้นรวมกัน แลว้ ตอ้ งไมเ่ กินร้อยละ 20 ของพ้นื ท่ีหนา้ ตดั ภายในของรางเดินสาย ดงั น้นั ในการเลือกใชข้ นาดรางเดินสายจึง ตอ้ งคานวณจากขนาดของสายไฟฟ้าท่ีใช้ ส่วนขนาดกระแสของสายไฟฟ้าท่ีเดินในรางเดินสายน้นั ใหใ้ ชค้ ่า เดียวกบั กรณีเดินในท่อร้อยสายในขนาดสายไฟฟ้าท่ีเท่ากนั ซ่ึงหากว่าจานวนสายไฟฟ้าน้นั ไม่เกิน 30 เส้น ก็ ไม่ตอ้ งใชต้ วั คูณลดทอนคา่ ขนาดกระแส หากถา้ เกิน 30 เสน้ กส็ ามารถใชไ้ ดแ้ ต่ตอ้ งใชค้ ่าลดทอนกระแสตาม ตารางที่ 2.7 ในการนับจานวนสายไฟฟ้ากรณีน้ีให้นับเฉพาะสายไฟฟ้าท่ีมีกระแสไหลผ่านเท่าน้ัน ส่วน สายไฟฟ้าท่ีใชส้ าหรับวงจรควบคุมหรือสายสัญญาณต่างๆ ที่มีกระแสไหลผา่ นเป็นช่วงระยะเวลาส้ันๆ น้นั ไม่ตอ้ งนามานบั รวมดว้ ย เช่น ในวงจรควบคุมระหว่างมอเตอร์ กบั สตาร์ทเตอร์ท่ีใชเ้ ฉพาะช่วงเวลาสตาร์ท มอเตอร์ไม่ถือว่าเป็ นสายที่มีกระแสไหล ในการติดต้งั รางเดินสายจาเป็ นตอ้ งเลือกอุปกรณ์และขอ้ ต่อให้มี วามสอดคลอ้ งกนั กบั พ้ืนที่ที่ทาการติดต้งั เพ่ือความปลอดภยั ความสวยงามและความเป็ นระเบียบเรียบร้อย การเดินสายในรางเดินสายน้นั ยงั มีขอ้ กาหนดต่างๆ ดงั น้ีคือ
รูป ตวั อยา่ งการเดินงานไวยเ์ วย์ ที่มา http://www.iecm.co.th 5.1.1 การใชง้ าน รูป ตวั อยา่ งการเดินงานไวยเ์ วย์ ท่ีมา http://www.richard-ppower.com
- ใชก้ บั การเดินสายแบบเปิ ด รางเดินสายที่ติดต้งั ในสถานท่ีเปี ยกตอ้ งเป็นแบบกนั ฝน - หา้ มใชร้ างเดินสายโลหะในสถานที่ตอ่ ไปน้ี ก. ในที่ซ่ึงอาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ ข. ในที่มีไอที่ทาใหเ้ กิดการผกุ ร่อน ค. ในท่ีอนั ตราย 5.1.2 จานวนสายไฟฟ้าท่ีมีกระแสไหลในรางเดินสายต้องไม่เกิน 30 เส้น สายไฟฟ้าในวงจร สัญญาณหรือวงจรควบคุมระหว่างมอเตอร์กบั สตาร์ทเตอร์ที่ใชเ้ ฉพาะช่วงเวลาสตาร์ทมอเตอร์ไม่ถือว่าเป็ น สายไฟฟ้าท่ีมีกระแสไหล 5.1.3 พ้ืนท่ีหน้าตัดของตัวนาและฉนวนทุกเส้นในรางเดินสายรวมกันไม่เกินร้อยละ 20 ของ พ้นื ที่หนา้ ตดั ภายในรางเดินสาย 5.1.4 ขนาดกระแสของสายในรางเดินสาย ใหเ้ ป็นไปตามตารางท่ี 6-2 โดยไมต่ อ้ งใชต้ วั คูณลดเร่ือง จานวนสาย 5.1.5 ในกรณีที่จานวนสายไฟฟ้าที่มีกระแสไหลในรางเดินสายเกิน 30 เส้น ใหใ้ ชต้ วั คูณลดกระแส เร่ืองจานวนสาย แต่ท้งั น้ีพ้ืนที่หนา้ ตดั ของตวั นาและฉนวนทุกเส้นในรางเดินสายรวมกนั ตอ้ งไม่เกินร้อยละ 20 ของพ้ืนท่ีหนา้ ตดั ภายในรางเดินสาย 5.1.6 ขอ้ กาหนดเก่ียวกบั การติดต้งั - การต่อสายในรางเดินสายเฉพาะส่วนที่เขา้ ถึงได้ พ้ืนที่หนา้ ตดั ของสายและฉนวนรวมท้งั หวั ตอ่ รวมกนั แลว้ ตอ้ งไม่เกินร้อยละ 75 ของพ้ืนท่ีหนา้ ตดั ภายในของรางเดินสายบริเวณจุดต่อสาย - หา้ มตอ่ รางเดินสายตรงจุดที่ทะลุผา่ นผนงั หรือพ้ืน - จุดปลายทางของรางเดินสายตอ้ งปิ ด - ในรางเดินสาย ตรงตาแหน่งท่ีมีการตดั งอสาย เช่น ปลายทางตาแหน่งที่มีท่อสายเขา้ -ออก รางเดินสายตอ้ งจดั ใหม้ ีท่ีวา่ งสาหรับดดั งอสายอยา่ งเพียงพอและป้องกนั ไม่ใหส้ ่วนที่มีคมท่ีอาจบาดสายได้ - หา้ มใชร้ างเดินสายเป็นตวั นาแทนสายดิน - รางเดินสายตอ้ งมีการจบั ยึดทุกระยะไม่เกิน 1.50 เมตร และห่างจากปลายหรือจุดต่อไม่ เกิน 1.50 เมตร สาหรับรางเดินสายในแนวด่ิงตอ้ งมีการจบั ยึดทุกระยะ 4.50 เมตร และหา้ มมีจุดต่อเกิน 1 จุด ในแตล่ ะระยะจบั ยดึ -
5.2 การเดนิ สายในรางเคเบิล (Cable Tray) รูป รางเคเบิล ท่ีมา www.prathanonline.com/category/75/รางเดินสายไฟตอู้ เนกประสงคก์ ลอ่ งพกั สาย/รางเหลก็ ?tskp=2 การเดินสายในรางเคเบิลน้นั เหมาะสมกบั สายไฟฟ้าท่ีมีขนาดใหญ่หลายวงจรหรือหลายเส้นท่ีมีแนว เดินสายเดียวกนั คลา้ ยกบั กรณีของรางเดินสาย แตใ่ นรางเคเบิลน้นั จะมีขอ้ กาหนดที่มากกวา่ เพราะสามารถ ใชไ้ ดก้ บั สายไฟฟ้าบางชนิดและบางขนาดเท่าน้นั ดงั น้นั ในการเลือกใชง้ านจึงตอ้ งพิจารณาความเหมาะสม ดว้ ย การใช้งานส่วนใหญ่ใชก้ บั สายประธานจากหมอ้ แปลงไฟฟ้าถึงบริภณั ฑป์ ระธาน ซ่ึงเป็ นภายนอก อาคาร หรือในอาคารและโรงงานบริเวณท่ีไม่ตอ้ งการความสวยงามหรือปกปิ ดสายไฟฟ้ารางเคเบิลน้ันมี หลายลกั ษณะท้งั แบบบนั ได (Ladder) แบบมีช่องระบายอากาศ (Trough) แบบดา้ นล่างทึบ (Solid Bottom) โดย 2 แบบแรกจะมีการระบายความร้อนไดด้ ีกวา่ ทาใหส้ ามารถวางสายไฟฟ้าไดม้ ากกวา่ ในขนาดรางเคเบิล ท่ีเทา่ กนั ดงั แสดงในรูปที่ 5.2 ขนาดความกวา้ งของรางเคเบิลในแต่ละแบบน้นั จะเทา่ กนั ดงั แสดงตามตวั อยา่ งในตารางที่ 5.2 และ ความยาวแตล่ ะทอ่ นเท่ากบั 2.4 หรือ 3 เมตร ตวั อยา่ งการติดต้งั รางเคเบิลแสดงตามรูปที่ 5.3
5.3 การติดต้งั รางเคเบลิ รูป การติดต้งั รางเคเบิ้ล ท่ีมา http://www.iecm.co.th/iso_knowledge_ge.htm 1. รางเคเบิลตอ้ งมีความต่อเนื่องทางกล 2. รางเคเบิลท่ีเป็นโลหะตอ้ งมีความต่อเนื่องทางไฟฟ้า และตอ้ งต่อลงดิน 3. สายที่ติดต้งั บนรางเคเบิล เมื่อเดินแยกเขา้ ท่อสายอ่ืนตอ้ งมีการจบั ยดึ ใหม้ นั่ คง 4. หา้ มติดต้งั สายเคเบิลระบบแรงต่าในรางเคเบิลเดียวกบั เคเบิลระบบแรงสูง 5. รางเคเบิลตอ้ งติดต้งั ในท่ีเปิ ดโลง่ และเขา้ ถึงไดแ้ ละมีท่ีวา่ งพอเพยี งท่ีจะปฏิบตั ิงาน บารุงรักษาสาย เคเบิลไดส้ ะดวก 6. ในรางเคเบิลที่มีเคเบิลแกนเดียวหลายเสน้ ต่อขนานกนั เพื่อประกอบเป็นสายเฟสหรือสายนิวทรัล ของวงจร สายเคเบิลดงั กล่าวตอ้ งติดต้งั เป็นกลุ่มซ่ึงประกอบดว้ ยตวั นาไม่เกิน 1 เส้นต่อเฟสหรือนิวทรัล เพ่ือ ป้องกนั ไม่ให้เกิดกระแสไม่สมดุล เน่ืองจากการเหนี่ยวนาและตอ้ งผูกมดั ตวั นาแต่ละกลุ่มเพ่ือป้องกนั การ เคลื่อนตวั เมื่อเกิดการลดั วงจร 7. การต่อสายในรางเคเบิลตอ้ งทาให้ถูกตอ้ งตามวิธีการต่อสาย แต่จุดต่อสายตอ้ งอยู่ภายในราง เคเบิล และตอ้ งไมส่ ูงเลยขอบดา้ นขา้ งของรางเคเบิล 8. หา้ มใชร้ างเคเบิลเป็นตวั นาแทนสายดิน
5.4 ชนิดของสายไฟฟ้าท่ีสามารถใช้เดนิ ในรางเคเบลิ 1. สายเคเบิลชนิด M1 (Mineral – Insulated, Metal – Sheathed Cable) สายเคเบิลชนิด MA (Metal – Clad Cable) สายเคเบิลชนิด AC (Armored Cable) ซ่ึงสายไฟฟ้าเหลา่ น้ีจะมีเปลือกโลหะหุม้ ฉนวนอีกช้นั 2. สายเคเบิลแกนเดียวชนิดมีฉนวนและเปลือกนอก ขนาดไม่เล็กกว่า 50 ตร.มม. เช่น สาย NYY ชนิดแกนเดียว 3. สายเคเบิลหลายแกนในระบบแรงต่าทุกขนาด 4. สายอื่นชนิดหลายแกนสาหรับควบคุมสัญญาณ 5. สายเคเบิลแกนเดียวชนิดไม่มีเปลือกนอก ขนาดตวั นาไม่เล็กกว่า 50 ตร.มม. เช่น สาย THW สามารถใชไ้ ดเ้ ฉพาะในโรงงานที่มีบุคคลท่ีมีหนา้ ท่ีเก่ียวขอ้ ง เช่น ช่างไฟฟ้าประจาโรงงาน และใหใ้ ชก้ บั ราง เคเบิลแบบบนั ไดหรือแบบมีช่องระบายอากาศเทา่ น้นั 6. ท่อสายชนิดตา่ งๆ 5.5 จานวนสายเคเบิลหลายแกนในรางเคเบิล 5.5.1 กรณีรางแบบบนั ได หรือแบบมีช่องระบายอากาศ 1. สายเคเบิลต้งั แต่ 95 ตร.มม. ข้ึนไป ผลรวมของเส้นผา่ นศูนยก์ ลางของสายท้งั หมดตอ้ งไม่ เกินขนาดความกวา้ งของรางเคเบิล และใหว้ างเรียงไดช้ ้นั เดียวเทา่ น้นั 2. สายเคเบิลที่มีขนาดเล็กกว่า 95 ตร.มม. ผลรวมของพ้ืนท่ีหนา้ ตดั ของสายท้งั หมดตอ้ งไม่ มากกวา่ พ้นื ท่ีสูงสุด ที่อนุญาตใหว้ างสายได้ ตามท่ีกาหนดในตารางท่ี 1 ช่องที่ 1 3. สายที่มีขนาดตามขอ้ 1 และขอ้ 2 รวมกนั ผลรวมของพ้ืนท่ีหนา้ ตดั ของสายท่ีมีขนาดเล็ก กว่า 95 ตร.มม. ท้งั หมด ตอ้ งไม่เกินพ้ืนท่ีสูงสุดท่ีอนุญาตให้วางสายไดต้ ามท่ีกาหนดในตารางที่ 1 ช่องที่ 2 และสายเคเบิลที่มีขนาดต้งั แต่ 95 ตร.มม. ข้นึ ไป ตอ้ งวางเรียงกนั โดยไม่มีสายอ่ืนมาวางทบั 4. สายเคเบิลหลายแกนสาหรับควบคุมและ/หรือเคเบิลสัญญาณ วางในรางเคเบิลแบบบนั ได หรือแบบรางมีช่องระบายอากาศ ผลรวมพ้ืนท่ีหนา้ ตดั รวมฉนวนและเปลือกของสายท้งั หมดตอ้ งไม่เกินร้อย ละ 50 ของพ้ืนที่ภาคตดั ขวางภายในของรางเคเบิล สาหรับรางเคเบิลที่มีความลึกมากกวา่ 0.15 เมตร ใหใ้ ชค้ ่า ความลึก 0.15 เมตร ในการคานวณพ้นื ที่ภาคตดั ขวาง 5.5.2 กรณีรางแบบดา้ นล่างทึบ 1. สายเคเบิลต้งั แต่ 95 ตร.มม. ข้ึนไป ผลรวมของเส้นผ่านศูนยก์ ลางของสายท้งั หมดตอ้ งไม่ เกิน 90% ของขนาดความกวา้ งของรางเคเบิล และใหว้ างเรียนไดช้ ้นั เดียวเท่าน้นั 2. สายเคเบิลท่ีมีขนาดเล็กกว่า 95 ตร.มม. ผลรวมของพ้ืนท่ีหนา้ ตดั ของสายท้งั หมดตอ้ งไม่ มากกวา่ พ้นื ท่ีสูงสุดท่ีอนุญาตใหว้ างสายได้ ตามที่กาหนดในตารางท่ี 1 ช่องท่ี 3
3. สายท่ีมีขนาดตามขอ้ 1 และขอ้ 2 รวมกนั ผลรวมของพ้ืนที่หน้าตดั ของสายที่มีขนาดเล็ก กว่า 95 ตร.มม. ท้งั หมด ตอ้ งไม่เกินพ้ืนท่ีสูงสุดที่อนุญาตให้วางสายไดต้ ามท่ีกาหนดในตารางที่ 1 ช่องที่ 4 และสายเคเบิลที่มีขนาดต้งั แต่ 95 ตร.มม. ข้ึนไปตอ้ งวางเรียงกนั โดยไมม่ ีสายอ่ืนมาวางทบั 4. สายเคเบิลหลายแกนสาหรับควบคุมและ/หรือเคเบิลสัญญาณ วางในรางเคเบิลแบบ ด้านล่างทึบ ผลรวมพ้ืนท่ีหน้าตดั รวมฉนวน และเปลือกของสายท้งั หมดตอ้ งไม่เกินร้อยละ 40 ของพ้ืนท่ี ภาคตดั ขวางภายในของรางเคเบิล สาหรับรางเคเบิลที่มีความลึก มากกวา่ 0.15 เมตร ให้ใชค้ ่าความลึก 0.15 เมตร ในการคานวณพ้ืนที่ภาคตดั ขวาง 5.6 จานวนสายเคเบิลแกนเดียวในรางเคเบิล สามารถใชไ้ ดเ้ ฉพาะบนรางเคเบิลแบบบนั ไดและมีช่องระบายอากาศเทา่ น้นั 1. รางเคเบิลที่มีเฉพาะสายเคเบิลขนาดต้งั แต่ 400 มม.2 ข้ึนไป ผลรวมของเส้นผ่าศูนยก์ ลางรวม ฉนวนและเปลือกของสายท้งั หมด ตอ้ งไมเ่ กินขนาดความกวา้ งของรางเคเบิล 2. รางเคเบิลท่ีมีสายเคเบิลที่มีขนาดต้งั แต่ 120 มม.2 ถึง 300 มม.2 ผลรวมพ้ืนที่หนา้ ตดั รวมฉนวน และเปลือกของสายตอ้ งไมม่ ากกวา่ พ้นื ที่สูงสุดท่ีอนุญาตใหว้ างสายไดต้ ามที่กาหนดในตารางท่ี 5.4 ช่องที่ 1 3. รางเคเบิลท่ีมีสายเคเบิลท่ีมีสายเคเบิลท่ีมีขนาดต้งั แต่ 50 มม.2 ถึง 95 มม.2 ผลรวมของเส้นผ่าน ศนู ยก์ ลางรวมฉนวนและเปลือกของสายท้งั หมด ตอ้ งไมเ่ กินขนาดความกวา้ งของรางเคเบิล 4. รางเคเบิลที่มีสายเคเบิลท้งั ขนาดต้งั แต่ 400 มม.2 ข้ึนไปและเล็กกว่า 400 มม.2 รวมกันผลรวม พ้ืนท่ีหนา้ ตดั รวมฉนวนและเปลือกของสายที่มีขนาดเล็กกวา่ 400 มม.2 ท้งั หมดตอ้ งไม่มากกวพ่ ้ืนท่ีสูงสุดที่ กาหนดในตารางท่ี 5.4 ช่องที่ 2 5.7 Busway Busway หมายถึง อุปกรณ์สาเร็จรูปที่มีลกั ษณะเป็ นกลุ่มตวั นา ถูกห่อหุ้มอยภู่ ายในโครงโลหะ เพื่อ ใช้แทนการเดินสายไฟในราง เหมาะกบั บริเวณที่ตอ้ งการกระแสสูงๆ โดยโครงสร้างของ Busway น้ีจะ ประกอบไปด้วยตวั นาซ่ึงมีอยู่ 2 ชนิด คือ ทองแดงและอะลูมิเนียม ถา้ เป็ นทองแดงจะเคลือบผิวดว้ ยเงิน ขณะท่ีอะลูมิเนียมจะเคลือบผิวดว้ ยดีบุกเพ่ือป้องกนั การกดั กร่อน หากจาเป็ นตอ้ งต่อกบั ตวั นาต่างชนิดกนั สาหรับตวั นาอะลูมิเนียมจะมีน้าหนกั เบาและราคาถูกกวา่ ทองแดงมากจึงไดร้ ับความนิยมมากกวา่ พิกดั การ ทนกระแสของตวั นามีดังน้ีคือ 225, 400, 600, 800, 1,000, 1,200, 1,350, 1,600, 2,000, 2,500, 3,000, 4,000, 5,000 ampere ส่วนฉนวนที่ใชห้ ่อหุม้ ฉนวนจะมีอยดู่ ว้ ยกนั 2 ชนิดคอื Polyester film และ Epoxy coat ท้งั สอง มีคณุ สมบตั ิใกลเ้ คยี งกนั นอกจากน้ียงั แบง่ ฉนวนตามความสามารถในการทนอุณหภูมิสูงสุด ของฉนวนดว้ ย คือ
รูป บสั เวย์ ที่มา https://blog.rmutl.ac.th/montri/old/electrical2009/busway/feederbus2.jpg 1. class A (ทนอุณหภมู ิสูงสุด 105 องศาเซลเซียส) 2. class B (ทนอณุ หภูมิสูงสุด 130 องศาเซลเซียส) การเลือกใช้ฉนวนจึงควรพิจารณาอุณหภูมิใช้งานเป็ นสาคญั เพื่อความปลอดภยั และลดอนั ตรายที่ อาจจะเกิดข้ึนได้ส่วนโครงท่ีห่อหุ้มตัวนาใช้วสั ดุ 2 ชนิด คือ อะลูมิเนียมและ Epoxy paint steel และมี 2 รูปแบบ ไดแ้ ก่ 1. มีลกั ษณะเป็นตะแกรงโปร่ง ระบายความร้อนโดยอาศยั การไหลเวยี นของอากาศรอบๆ ตวั นา แต่ แบบน้ีไม่นิยมใชเ้ นื่องจากไม่สามารถป้องกนั ฝ่ ุนละอองและน้าที่จะเขา้ มาได้ ค่า reactance สูงทาใหแ้ รงดนั ตกมาก และทนกระแสลดั วงจรไดต้ ่า ดว้ ยสาเหตุดงั กล่าวน้ีจึงทาให้โครงท่ีใชห้ ่อหุม้ ตวั นาชนิดตะแกรงโปร่ง ไมไ่ ดร้ ับความนิยม 2. มีลกั ษณะเป็นโครงหุม้ เปิ ดทึบ ระบายความร้อนโดยการแผ่รังสี (Radiator) ปัจจุบนั โครงชนิดน้ี ไดร้ ับความนิยมมากเน่ืองจากมีขอ้ ดีมากกว่าชนิดแรกหลายประการไดแ้ ก่ มีความแข็งแรงสูง ทนการกัด กร่อนไดส้ ูง สามารถป้องกนั ฝ่ ุนละอองและน้าเขา้ ได้ เนื่องจากบสั บาร์มีการวางท่ีชิดกนั มากจึงทาให้คา reactance ต่าทาใหม้ ีการสูญเสียของแรงดนั นอ้ ยมาก
5.7.1 ขอ้ กาหนดในการติดต้งั บสั เวย์ (Busways) 5.7.1.1 การใชง้ าน 1. บสั เวยต์ อ้ งติดต้งั ในที่เปิ ดเผย มองเห็นไดแ้ ละสามารถเขา้ ถึงไดเ้ พ่ือการตรวจสอบ บารุงรักษาตลอดความยาวท้งั หมด ขอ้ ยกเวน้ ที่ 1 ยอมให้บสั เวยท์ ่ีติดต้งั หลงั ท่ีกาบงั เช่น เหนือเฝ้าเพดานโดยจะตอ้ งมี ทางเขา้ ถึงไดแ้ ละตอ้ งเป็นไปตามขอ้ กาหนดน้ีท้งั หมด ก. ไม่มีการติดต้งั เคร่ืองป้องกนั กระแสเกินท่ีบสั เวย์ นอกจากเครื่องป้องกนั กระแส เกินของดวงโคมหรือโหลดอื่นๆ เฉพาะจุด ข. ช่องวา่ งดา้ นหลงั ท่ีกาบงั ที่จะเขา้ ถึงไดต้ อ้ งไม่ใชเ้ ป็นช่องลมของเคร่ืองปรับอากาศ (Air-handing) ค. บสั เวยต์ อ้ งเป็นชนิดปิ ดมิดชิด ไมม่ ีการระบายอากาศ ง. จุดต่อระหวา่ งช่องและเคร่ืองประกอบตอ้ งเขา้ ถึงไดเ้ พ่ือการบารุงรักษา ขอ้ ยกเวน้ ที่ 2 ยอมใหบ้ สั เวยท์ ่ีติดต้งั หลงั ท่ีกาบงั ที่สามารถเขา้ ถึงไดแ้ ละท่ีจดั ให้เป็ นท่ี หมุนเวยี นอากาศดว้ ย ตอ้ งเป็นไปตามขอ้ กาหนดน้ีท้งั หมด ก. บสั เวยต์ อ้ งเป็นชนิดปิ ดมิดชิด ไม่มีการระบายอากาศ ข. ใชบ้ สั บาร์ชนิดหุม้ ฉนวน ค. ไมม่ ีจุดตอ่ แยกชนิด plug-in หา้ มใชบ้ สั เวย์ ในสถานท่ีตอ่ ไปน้ี ก. บริเวณท่ีอาจเกิดความเสียหายทางกายภาพอยา่ งรุนแรงหรือมีไอท่ีทาใหเ้ กิดการผุ กร่อน ข. ในปลอ่ งลิฟตห์ รือปลอ่ งขนของ ค. ในท่ีอนั ตราย ง. ภายนอกอาคาร ท่ีช้ืนหรือท่ีเปี ยก นอกจากจะเป็นชนิดท่ีออกแบบไวส้ าหรับงาน น้นั ๆ 5.7.1.2 ขอ้ กาหนดเกี่ยวกบั การติดต้งั ก. บสั เวยต์ อ้ งจบั ยึดอย่างมน่ั คง ระยะห่างระหว่างจุดจบั ยึดตอ้ งไม่เกิน 1.50 เมตร หรือตามการออกแบบของผผู้ ลิต ข. จุดปลายทางของบสั เวยต์ อ้ งปิ ด ค. การต่อแยกบสั เวย์ ตอ้ งต่อดว้ ยเครื่องประกอบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและตอ้ ง ติดต้งั เครื่องป้องกนั กระแสเกินที่จุดต่อแยก เพอื่ ใชป้ ้องกนั วงจรที่ตอ่ แยก นอกจากระบไุ วเ้ ป็นอยา่ งอื่น ง. เคร่ืองป้องกนั กระแสเกินของบสั เวย์ ตอ้ งเป็นไปตามท่ีกาหนดในบทที่ 3
จ. การลดขนาดของบสั เวยต์ อ้ งติดต้งั เครื่องป้องกันกระแสเกิน ยกเวน้ ในโรงงาน อุตสาหกรรม บสั เวยท์ ี่เลก็ ลงมีขนาดกระแสมากกว่าหรือเท่ากบั 1 ใน 3 และความยาวของบสั เวยท์ ี่มีขนาด เลก็ กวา่ ยาวไมเ่ กิน 15 เมตร ไม่ตอ้ งติดต้งั เครื่องป้องกนั กระแสเกิน ฉ. บสั เวยต์ อ้ งไม่ติดต้งั ใหส้ มั ผสั กบั วสั ดุท่ีติดไฟง่าย ช. เปลือกหุ้มที่เป็ นโลหะของบัสเวย์ ต้องต่อลงดินและให้ใช้แทนสายดินได้ถ้า บสั เวยไ์ ดอ้ อกแบบไวเ้ ช่นน้นั 5.8 การเดนิ สายเกาผนัง (Surface Wiring) การเดินสายเกาะผนงั หรือบนผิว (Surface Wiring) ใช้กบั สายชนิดวีเอเอฟหรือวีวีเอฟ สาหรับสาย แรงต่าภายในอาคารทวั่ ไป ส่วนใหญ่แลว้ ใช้กับบา้ นท่ีอยู่อาศยั ห้ามใช้กับอาคารชุดอาคารสูงและอาคาร ขนาดใหญพ่ ิเศษ การจบั ยดึ สายน้นั จะใชเ้ ขม็ ขดั รัดสาย (Clip) โดยมีระยะห่างสูงสุดไมเ่ กิน 20 ซม. ในการต่อ สายและตอ่ แยกใหท้ าในกล่องสาหรับงานไฟฟ้าเทา่ น้นั ในการเดินสายชนิดน้ีผ่านผนงั ตอ้ งมีการป้องกนั ความเสียหายต่อฉนวนหรือเปลือกนอก ซ่ึงอาจถูก บาดดว้ ยสิ่งที่แหลมคมได้ สายไฟฟ้าที่เดินน้นั ใหเ้ รียงกนั เป็นช้นั เดียวห้ามติดต้งั ซอ้ นกนั การเดินสายชนิดน้ี ไมเ่ หมาะกบั ใชภ้ ายนอกอาคารเพราะแสงแดดจะทาใหเ้ ปลือกนอกของสายวเี อเอฟกรอบและแตกได้
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: