โครงการหน่วยที่8

หน่วยท8ี่ สงิ่ เสพตดิ และกฎหมายทคี่ วรรู ้

หัวข้อเร่ือง (Topics) 8.1 การระบาดของยาเสพติด 8.2 สภาพปัญหายาเสพติดในประเทศไทย 8.3 สาเหตุการติดยาเสพติด 8.4 ปัญหาในการดาเนินการป้องกนั ยาเสพติด 8.5 แนวทางในการแกป้ ัญหา 8.6 กฎหมายส่ิงเสพติดที่ควรรู้ แนวคดิ สำคญั (Main idea) ยาเสพติดในปัจจุบนั มีมากมายหลายรูปแบบทาใหเ้ กิดปัญหาสิ่งเสพติดท่ีระบาดอยใู่ นปัจจุบนั เป็นปัญหาที่ตอ้ งแกไ้ ขอยา่ งเร่งด่วน ซ่ึงวยั รุ่นควรที่จะทราบถึงประเภทยาและโทษของยาเสพ ติด

สมรรถนะย่อย (Element of Competency) แสดงความรเู้ กย่ี วกบั สง่ิ เสพตดิ ในยคุ ปัจจุบนั วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤติกรรม (Behavioral Objectives) 1. บอกสง่ิ เสพตดิ ในยคุ ปัจจบุ นั และการระบาดได้ 2. บอกสภาพปัญหายาเสพตดิ ในประเทศไทยได้ 3. อธบิ ายสาเหตุการตดิ ยาเสพตดิ ได้ 4. บอกปัญหาในการดาเนินการป้องกนั ยาเสพตดิ ไว้ 5. อธบิ ายแนวทางในการแกไ้ ขปัญหาได้ 6. บอกกฎหมายสงิ่ เสพตดิ ทค่ี วรรู้

8.1 กำรระบำดของยำเสพตดิ การระบาดของยาเสพติดที่แพร่หลายอยใู่ นประเทศไทยขณะน้ีเป็นปัญหาท่ีดู เหมือนวา่ จะไม่มีทางแกไ้ ขไดส้ าเร็จ การปราบปรามอยา่ งรุนแรงท้งั ดว้ ยอาวธุ ของ ตารวจและดว้ ยการเจรจาของนกั การเมืองไม่มีทีท่าวา่ จะหยดุ ย้งั การแพร่กระจาย ของยาเสพติดท่ีแทรกแซงเขา้ ไปยงั ประชากรทุกหมู่เหล่า ทุกเพศทุกวยั ได้ ปริมาณ ยาเสพติดท่ียดึ ไดห้ ากนามารวมกนั ท้งั หมดต้งั แต่อดีตถึงปัจจุบนั อาจนาไปใชถ้ ม ท่ีดินเพ่อื ก่อสร้างสนามบินแห่งที่สอง เป็นการประหยดั ทรายไดม้ ิใช่นอ้ ย ปัญหา ยาเสพติดมิใช่ปัญหาของบา้ นเราเท่าน้นั แต่เป็นปัญหาของทุกประเทศในโลก ต่างกนั แต่เพยี งระดบั ความรุนแรงและประเภทของยาเสพติดเท่าน้นั การแกป้ ัญหา ยาเสพติดจาเป็นตอ้ งเขา้ ใจสาเหตุและกลไกการเกิดปัญหา เพือ่ ท่ีจะไดห้ า ทางแกไ้ ขไดค้ รบวงจร มิใช่ไปเนน้ ท่ีจุดใดจุดหน่ึงเท่าน้นั ปัญหายาเสพติดเป็น เรื่องที่สลบั ซบั ซอ้ น มีความเก่ียวขอ้ งท้งั ดา้ นชีววทิ ยาสุขภาพจิต อาชญากรรม การเมือง เศรษฐกิจและสงั คม

8.2 สภาพปัญหายาเสพตดิ ในประเทศไทย ประเทศไทยประสบกบั ปัญหาเสพตดิ ทงั้ ในดา้ นการ เป็นพน้ื ทผ่ี ลติ การเป็นพน้ื ทก่ี ารคา้ การเป็นพน้ื ทแ่ี พรร่ ะบาด และการเป็นทางผา่ นยาเสพตดิ โดย มตี วั ยาหลกั ทป่ี ระสบปัญหาคอื ฝัน เฮโรอนั กญั ชา ยาบา้ สารระเหย โคเคน เอค็ ซต์ าซี และสาร เสพตดิ ประเภทวตั ถุออกฤทธบิ์ างชนิด ประเทศไทยมกี ารคา้ ยาเสพตดิ ทส่ี าคญั 3 ชนิด คอื การคา้ เฮโรอนี การคา้ กญั ชา การคา้ ยาบา้ 1. การคา้ เฮโรอนี กระจายอยบู่ รเิ วณพน้ื ทภ่ี าคเหนือ ของประเทศไทยบรเิ วณตดิ กบั สามเหลย่ี มทองคา พน้ื ท่ี กทม. ภาคใต้ และขา่ ยงานต่างประเทศ ซง่ึ เช่อื มโยงกบั ขา่ ยงานภายในประเทศ รวมทงั้ ชนกลมุ่ น้อยในพน้ื ทส่ี ามเหลย่ี มทองคา เฮโรอนี สว่ นใหญ่จะถูกลาเลยี งไปยงั ต่างประเทศ แต่บางสว่ นจาหน่ายในตลาดไทย ในปัจจุบนั เครอื ขา่ ย เฮโรอ่นื ถกู เจา้ หน้าทจ่ี บั กมุ และทาลายลงในเครอื ขา่ ย บางกลุ่มหยดุ ดาเนินบางกลมุ่ ไปคา้ ยาบา้ แทน2. การคา้ กญั ชา อยใู่ นพน้ื ทภ่ี าคอสี าน กทม. ภาคใต้ พน้ื ทด่ี าเนินการสว่ นใหญอ่ ยทู่ างภาค อสี านกญั ชาทร่ี วบรวมไดจ้ ะสง่ ออกไปต่างประเทศหลกั ปัจจบุ นั กล่าวไดว้ า่ การคา้ กญั ชาลด น้อยลงมาก กลุ่มผคู้ า้ จะไปดาเนินการในประเทศเพอ่ื นบา้ น การคา้ ในประเทศสว่ นใหญเ่ พอ่ื ใช้ เสพภายในประเทศ3. การคา้ ยาบา้ ยาบา้ ไดแ้ พรก่ ระจายอยใู่ นทกุ ภูมภิ าค ผคู้ า้ มกี ระจายในพน้ื ท่ี ต่าง ๆ ตงั้ แต่ระดบั รายใหญ่ ระดบั กลาง และระดบั ยอ่ ยในพน้ื ทแ่ี พรร่ ะบาด เครอื ขา่ ยการคา้ ยาบา้ ไมม่ กี ารจดั องคก์ รทช่ี ดั เจนเหมอื นกบั เฮโรอนี และกญั ชา แมแ้ ต่นกั คา้ รายยอ่ ยบางครงั้ กส็ ามารถ ไปจดั หายาเสพตดิ จากพน้ื ทผ่ี ลติ บรเิ วณสามเหลย่ี มทองคาครงั้ ละเป็นปรมิ าณมากได้

8.3 สาเหตุการตดิ ยาเสพตดิ สาเหตุทเ่ี กดิ จากความรเู้ ทา่ ไมถ่ งึ การณ์ 1. อยากทดลอง เกดิ จากความอยากรอู้ ยากเหน็ ซง่ึ เป็นนิสยั โดยทวั่ ไป และโดยทไ่ี มค่ ดิ ว่าตนจะตดิ สงิ่ เสพตดิ น้ีไดจ้ งึ ไปทาการทดลองใชส้ ง่ิ เสพตดิ นนั้ ในการทดลองใชค้ รงั้ แรก ๆ อาจมคี วามรสู้ กึ ดหี รอื ไม่ ดกี ต็ าม ถา้ ยงั ไมต่ ดิ สงิ่ เสพตดิ นนั้ กอ็ าจประมาท ไปทดลองใชส้ งิ่ เสพตดิ นนั้ อกี จนในทส่ี ดุ กต็ ดิ สงิ่ เสพตดิ นนั้ หรอื ถา้ ไปทดลองใชส้ ง่ิ เสพตดิ บางชนดิ เช่น เฮโรอนี แมเ้ สพเพยี งครงั้ เดยี ว กอ็ าจทาให้ ตดิ ได้ 2. ความคกึ คะนอง บางคนมคี วามคกึ คะนอง ชอบพดู อวดเก่งเป็นนิสยั โดยเฉพาะวยั รนุ่ มกั จะมนี ิสยั ดงั กล่าว คนพวกน้ีอาจแสดงความเกง่ กลา้ ของตน ในกลุ่มเพอ่ื นโดยการแสดงการใชส้ ง่ิ เสพตดิ ชนิดต่าง ๆ เพราะเหน็ แก่ความสนุกสนาน ต่นื เตน้ และใหเ้ พอ่ื นฝงู ยอมรบั วา่ ตนเก่ง โดยมไิ ดค้ านึงถงึ ผลเสยี หรอื อนั ตรายทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในภายหลงั แต่อยา่ งไร ในทส่ี ดุ ตนเองกก็ ลายเป็นคนตดิ สง่ิ เสพตดิ นนั้ 3. การชกั ชวนของคนอน่ื อาจเกดิ จากการเชอ่ื ตามคาชกั ชวนโฆษณาของผขู้ ายสนิ คา้ ทเ่ี ป็นสงิ่ เสพตดิ บาง ชนิด เชน่ ยากระตุน้ ประสาทต่าง ๆ ยาขยนั ยามา้ ยาบา้ เป็นตน้ โดยผขู้ ายโฆษณาสรรพคุณของสง่ิ เสพ ตดิ นนั้ วา่ มคี ณุ ภาพดสี ารพดั อยา่ ง เช่น ทาใหม้ กี าลงั วงั ชา ทาใหม้ จี ติ ใจแจ่มใส ทาใหม้ สี ขุ ภาพดที าใหม้ ี สตปิ ัญญาดี สามารถรกั ษาโรคไดบ้ างชนิด เป็นตน้

8.4 ปัญหาในการดาเนนิ การป้องกนั ยาเสพตดิ สาหรบั โรงเรยี นและสถาบนั การศกึ ษาต่าง ๆ ซง่ึ เป็นองคก์ รหลกั ในการดาเนินงานดา้ นการป้องกนั ใหแ้ ก่เดก็ และเยาวชน มปี ัญหา อุปสรรคในการดาเนินงานหลายประการ เช่น 1. วสิ ยั ทศั น์ในเชงิ การป้องกนั ของโรงเรยี น สถาบนั การศกึ ษายงั มนี ้อย เพราะผบู้ รหิ าร โรงเรยี นมกั มคี วามเหน็ ว่ายงั ไมม่ ปี ัญหาเกดิ ขน้ึ ในโรงเรยี นของตน 2. ความตระหนกั และการยอมรบั สภาพปัญหารวมทงั้ ความเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ งในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาของผบู้ รหิ าร ครู อาจารย์ ยงั มนี ้อย มโี รงเรยี นจานวนมากทย่ี งั ไมย่ อมรบั วา่ มปี ัญหาเกดิ ขน้ึ ในโรงเรยี น หรอื มกี ารปกปิดกลบเกลอ่ื นปัญหาเพอ่ื รกั ษาช่อื เสยี ง นอกจากน้ี ยงั มกั ใชม้ าตรการไลน่ กั เรยี นทม่ี ปี ัญหายาเสพตดิ ออกจากสถานศกึ ษาซง่ึ เป็นการผลกั และ เพม่ิ ปัญหาใหแ้ ก่สงั คมโดยรวม

8.5 แนวทางในการแกป้ ัญหา ปัญหายาเสพตดิ นนั้ ไมส่ ามารถขจดั ใหห้ มดสน้ิ ไปโดยสน้ิ เชงิ แต่สามารถ ควบคุมโดยกลไกและกระบวนการทางสงั คมทเ่ี ขา้ มามสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหาทกุ ระดบั โดยเฉพาะกลไกระดบั ครอบครวั และชุมชนซง่ึ เป็นรากฐานสาคญั ของปัญหา การแกไ้ ขปัญหาในระยะยาว เป็นการปรบั ปรงุ แกไ้ ขดา้ นนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ รวมถงึ การปรบั บทบาท หน้าท่ี องคก์ รในภาครฐั ต่าง ๆ ท่ี เกย่ี วขอ้ งใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ การแกไ้ ขปัญหาในระยะสนั้ เป็นการแกไ้ ขปรบั ปรงุ การบรหิ ารและการ จดั การเพอ่ื ใหเ้ กดิ ผลในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพตดิ ทร่ี วดเรว็ มปี ระสทิ ธภิ าพขอ้ เสนอแนะในการแกไ้ ข ปัญหาในสถานศกึ ษา 1. สถานศกึ ษาตอ้ งมรี ะบบขอ้ มลู ทเ่ี ออ้ื อานวยใหผ้ บู้ รหิ าร ครอู าจารยส์ ามารถใชว้ เิ คราะหใ์ หท้ ราบปัญหาได้ ทกุ มติ แิ ละทกุ ระดบั 2. สถานศกึ ษาตอ้ งจดั ใหม้ รี ะบบการใหค้ าปรกึ ษาแก่นกั เรยี นในทกุ เรอ่ื งอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 3. กระบวนการแกไ้ ขปัญหาควรมบี ุคลากรหลายฝ่ายเขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง เช่น กลุม่ เพอ่ื น อาจารยท์ ป่ี รกึ ษา อาจารยแ์ นะแนว หรอื อาจารยอ์ น่ื ทม่ี คี วามสามารถทจ่ี ะชว่ ยเหลอื นกั เรยี นได้

8.6 กฎหมายสง่ิ เสพตดิ ทค่ี วรรู้ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ หมายถงึ สารเคมหี รอื วตั ถุใด ๆ ซง่ึ เมอ่ื เสพเขา้ สรู่ า่ งกาย ไมว่ ่าจะโดยการกนิ ดม สบู ฉดี หรอื ดว้ ยวธิ กี ารใด ๆ แลว้ จะทาให้ เกดิ ผลต่อรา่ งกายและจติ ใจ รวมตลอดถงึ พชื ทเ่ี ป็นหรอื ใหผ้ ลผลติ เป็นหรอื อาจใชผ้ ลติ เป็น ยาเสพตดิ และสารเคมที ใ่ี ชใ้ นการผลติ ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษดว้ ยแบ่งตามแหล่งทเ่ี กดิ ซง่ึ จะแบง่ ออกเป็น 2 ประเภท คอื 1. ยาเสพตดิ ธรรมชาติ (Natural Drugs) คอื ยาเสพตดิ ทผ่ี ลติ มาจากพชื เช่น ฝืน กระทอ่ ม กญั ชาเป็นตน้ เฮโรอนี ยาบา้ 2. ยาเสพตดิ สงั เคราะห์ (Synthetic Drugs) คอื ยาเสพตดิ ทผ่ี ลติ ขน้ึ ดว้ ยกรรมวธิ ที าง เคมี เช่น เฮโรอ่นื แอมเฟตามนี เป็นตน้