การเรียนการสอนตามแนวคดิ ของ โดย ครภู คั ธดา วงษส์ กลุ ครชู านาญการ โรงเรยี นวดั ทองทั่ว(เอครพานิช)
คอื การจดั การศึกษา ท่ีบรู ณาการศาสตรท์ ั้ง 5 ศาสตร์ ในการเรยี นรู้ ได้แก่ วทิ ยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี(Technology) วิศวกรรมศาสตร(์ Engineering) ศิลปะ(Art) และ คณติ ศาสตร์ (Mathematics) โดยคานงึ ถึงพฒั นาการของผเู้ รียน ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลและ ทสี่ าคัญใหผ้ ้เู รยี นได้ลงมือปฏิบัติ ร้จู ักสืบคน้ ขอ้ มลู มกี ารออกแบบช้นิ งาน เพื่อให้เกิดการเรียนร้ทู ่ีย่ังยืน
วิทยาศาสตร์ (Science) เน้นความเข้าใจในธรรมชาติ ดว้ ยกระบวนการสบื เสาะ แก้ปัญหา มีการถามคาถาม พัฒนาและ ใช้แบบจาลอง วางแผนและทาการสารวจตรวจสอบ วิเคราะห์ และตีความหมายข้อมูล สร้างคาอธิบาย ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการ อภิปรายถกเถียงเก่ียวกับหลักฐาน รวบรวม ประเมินผลและ นาเสนอสื่อสารข้อมูล
เทคโนโลยี(Technology) เป็นวิชาที่เกี่ยวกับการ แก้ปัญหา ปรับปรุง พัฒนาส่ิงต่างๆ หรือกระบวนการต่าง ๆ เพ่ือ ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ โดยผ่านกระบวนการทางาน ทางเทคโนโลยี เรียนรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างมี ประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ใช้ข้อมูลประกอบการ ตัดสินใจ และตระหนักถงึ ความสัมพนั ธ์กับสังคมและสง่ิ แวดลอ้ ม
วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) เป็นวิชาท่ีว่าด้วยการ คิดสร้างสรรค์ พัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ โดยใช้ความรู้ทาง วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี มีการระบุปัญหา พัฒนาการใช้แบบจาลอง วางแผน สารวจ วิเคราะห์ ตีความ คิด คานวณ ออกแบบแก้ปัญหา ถกเถียง รวบรวม ประเมินผล และ นาเสนอสอ่ื สารข้อมลู
ศลิ ปะ(Art) เป็นเรื่องของการใช้ทักษะศลิ ปะ ใช้องคป์ ระกอบศลิ ป์ (เสน้ สี แสง เงา รปู ร่าง รูปทรง พ้ืนผวิ ) ใชห้ ลักการของประกอบศิลป์ (สัดสว่ น ความสมดุล จดุ เดน่ ) ลงมือปฏิบัติงานศิลปะ (วาด ป้ัน ปะติด ประดิษฐ์สร้างสรรค์ ชนิ้ งาน) นาเสนอคุณค่าทางศิลปะ (ด้านเนื้อหา ด้านรูปร่าง รูปทรง ความคิดสร้างสรรค)์
คณิตศาสตร์(Mathematics) มิได้หมายถึงการนับ จานวนเท่าน้ัน แต่เก่ียวกับ กระบวนการคิดคณิตศาสตร์ การ เปรียบเทียบ จาแนก จัดกลุ่ม บอกรูปร่าง คุณสมบัติ สามารถ ถ่ายทอดความคิดหรือความเข้าใจ มากกว่า น้อยกว่า เกิดการ ส่งเสริมความคิด เข้าใจปัญหา มุ่งม่ันในการแก้ปัญหา ให้ ความสาคัญกับความถูกต้องแม่นยา ใช้เหตุผลเชิงนามธรรมและเชิง ปริมาณได้
ประโยชน์ของการเรียนรู้ ได้เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ เกดิ การพฒั นาท่มี ี ประสิทธิภาพ เกดิ องค์ความรู้ ใช้ส่งิ ของวัตถุรอบตัวมา สร้างสรรค์ ทาให้การเรียนรู้เป็ นรูปธรรมมากขึน้ บรู ณาการกับชีวติ ประจาวัน ปรับประยุกต์ใช้ได้จริง เหน็ ความสาคญั ของศาสตร์ทงั้ 5 ศาสตร์
1. ผู้เรียนร่วมกันวเิ คราะห์สถานการณ์ ปัญหาท่คี รูนาเสนอ ใบกจิ กรรม1 สถานการณ์ปัญหา............................. จากปัญหา นักเรียนสามารถวิเคราะห์-สรุป...........
2. ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหาหรือความต้องการท่ี จะแก้ไขปัญหาเพ่อื กาหนดกรอบของปัญหาให้ชัดเจน ใบกจิ กรรม2 วธิ ีการ/เคร่ืองมอื วธิ ีท่ี 1............................. วิธีท่ี 2.............................
3. รวบรวมข้อมลู ท่เี ก่ยี วข้องกบั การแก้ปัญหา หรือความต้องการจากแหล่งข้อมลู ท่เี ช่ือถือได้ ตารางสรุปท่ใี ช้ในการแก้ปัญหา วธิ ีการแก้ปัญหา ข้อดี ข้อเสีย
4. เลือกวธิ ีการท่เี หมาะสมจากแนวทางท่ไี ด้ทา การรวบรวมข้อมูลมา จากตารางวเิ คราะห์การแก้ปัญหา แนวทางท่ตี ัดสนิ ใจเลือกคอื ........................ เพราะ................................................
5. ออกแบบและสร้างชิน้ งานจากวัสดุท่ี เหมาะสม ตามท่ไี ด้ออกแบบชนิ้ งาน ใบกจิ กรรมท่ี 3 การออกแบบชิน้ งาน ช่ือผลงาน ………………................... ขัน้ ตอนการสร้าง วัสดุอุปกรณ์............... ............... .......... ภาพร่างชนิ้ งาน............................................
6. ทาการทดสอบและทดลองใช้ชิน้ งานท่ี ออกแบบ บันทกึ ผล นาเสนอ และศกึ ษาข้อบกพร่อง ใบกจิ กรรมท่ี 4 การตรวจสอบชนิ้ งาน ช่อื ผลงาน ………………................... ผลงานออกแบบ ครัง้ ท่ี รวม 123 การนาชนิ้ งานใน การทดสอบ
ขอให้นกั เรยี นเรยี นรู้อยา่ งมคี วามสขุ คะ่
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: