Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิจัยในชั้นเรียนปี61นิตยา

วิจัยในชั้นเรียนปี61นิตยา

Published by ครูนิด คิดเลข, 2020-08-28 06:15:04

Description: วิจัยในชั้นเรียนปี61

Search

Read the Text Version

รายงานการวิจยั ในชน้ั เรยี น (อยา่ งย่อ) โรงเรยี นบา้ นหนองใหญ่ ปีการศกึ ษา 2561 ชือ่ เร่ือง การพฒั นาผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนคณิตศาสตร์ เร่ือง ตัวประกอบและจานวนนับ ของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 โดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะ ช่ือผู้วจิ ยั นางสาวนติ ยา ชินทะนา กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รายวชิ า คณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค16101 ระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 1. ความเปน็ มาและความสาคญั ของปัญหา คณิตศาสตร์มบี ทบาทสาคัญิย่งต่อการพฒั นาความคดิ มนษุ ย์ ทาให้มนษุ ย์มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ คดิ อยา่ งมเี หตผุ ล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถวเิ คราะหป์ ัญหาหรอื สถานการณต์ า่ งๆ ได้อยา่ งถถี่ ว้ นรอบคอบ ช่วยใหค้ าดการณ์ วางแผนตดั สินใจแก้ปญั หาและนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม (กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2551, หน้า 56) คณิตศาสตรเ์ ปน็ รากฐานของวิทยาการหลายสาขา ความก้าวหน้าทาง เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ วศิ วกรรมศาสตร์ ฯลฯ ลว้ นแต่อาศยั คณติ ศาสตร์ทง้ั สิ้น (ยุพิน พิพิธกุล, 2536, หน้า 1) คณติ ศาสตรจ์ ึงมปี ระโยชนต์ อ่ การดาเนนิ ชีวิต ชว่ ยพฒั นาคุณภาพชวี ิตให้ดีขึ้น และสามารถอยรู่ ่วมกับผ้อู ื่นได้ อย่างมีความสขุ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551, หนา้ 56) เนอ่ื งจากคณิตศาสตรเ์ ปน็ วชิ าท่ีตอ้ งใชท้ กั ษะ เนื้อหาส่วนใหญเ่ ปน็ เรื่องที่เก่ยี วข้องกับนามธรรม ยาก แกก่ ารอธบิ ายและยกตัวอยา่ งให้เหน็ ชัดเจน (ชัยศักด์ิ ลีลาจรัสกลุ , 2543, หน้า 188) ครมู กั จะสอน คณติ ศาสตรบ์ นกระดานหรือผู้เรยี นเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์บนกระดาษอนั เป็นผลทาใหผ้ ู้เรยี นเรยี นแบบท่องจา (เพญ็ จันทร์ เงยี บประเสรฐิ , 2543, บทนา) ครูสว่ นใหญ่ยังคงใชว้ ธิ กี ารสอนแบบบรรยาย โดยไม่คานึงถงึ ความ แตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลของผเู้ รียนทาให้นกั เรียนที่เรียนรูไ้ ด้เร็วสามารถเข้าใจเน้ือหาได้ง่าย สว่ นผ้เู รียนทเ่ี รียนรู้ ช้าหรือฟงั บรรยายไม่ทนั หรือไม่เชา้ ใจเนอ้ื หาที่บรรยายก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ไมอ่ ยากเรียน เม่ือต้องเรียน เรื่องใหม่ยิ่งประสบปญั หามากขนึ้ เพราะขาดความร้คู วามเข้าใจในเรอื่ งเดิมท่เี ป็นพน้ื ฐาน ส่งผลใหผ้ ลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนตา่ ลง และมีเจตคตทิ ี่ไมด่ ีต่อการเรียนคณิตศาสตรใ์ นทีส่ ุด (ฟาฏนิ า วงศ์เลขา, 2553) จากการประเมนิ เร่อื ง ตัวประกอบและจานวนนบั ของนักเรยี นระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี น บ้านหนองใหญ่ ปีการศกึ ษา 2560 นักเรยี นมผี ลคะแนนใน เรือ่ ง ตวั ประกอบของจานวนนับ ไม่ผา่ นเกณฑ์ จานวน 6 คน จากนกั เรยี น 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 33.34 ของนักเรยี นทงั้ หมด ซ่ึงเป็นเน้อื หาทจี่ ะต้องใช้ต่อ ยอดความรูใ้ นการเรียนเร่ืองอ่ืนๆ ทางคณิตศาสตรใ์ นอนาคต

นักการศึกษาหลายท่านกล่าวว่า การจดั การเรยี นการสอนวชิ าคณติ ศาสตร์ให้ไดผ้ ลดีและชว่ ยให้ผเู้ รียน มีผลสมั ฤทธ์สิ ูงน้ัน ต้องกมีการจดั ระบบวางแผนการเรียนรู้อยา่ งดี รวมท้ังเลือกใช้กจิ กรรมการเรยี นให้เหมาะสม เพือ่ ใหบ้ รรลุจดุ ประสงค์ทตี่ ้ังไวก้ ิจกรรมท่ีได้เลอื กใชแ้ ละเหมาะสมมากท่สี ุดทที่ าใหน้ กั เรียนเกดิ การเรียนรู้มาก ที่สดุ คอื กจิ กรรมการเรียนการสอนทใ่ี ช้แบบฝกึ ทักษะ (กดิ านันท์ มลิทอง, 2543, หน้า 356) แบบฝึกทกั ษะ เปน็ สือ่ การเรียนการสอนประเภทหนง่ึ ท่ีได้รบั การออกแบบใหม้ ีลกั ษณะตอบสนองตอ่ ความแตกต่างระหว่าง บคุ คลมากที่สุด สามารถยว่ั ยใุ ห้นักเรยี นเกิดการเรียนรู้ กล่าวคอื แบบฝกึ ทักษะจะมขี ้ันตอนในการฝึกจากงา่ ย ไปหายาก ทาใหน้ ักเรยี นคงไว้ซง่ึ กิจกรรมการเรียนรู้ได้นาน (ถนอมพร เลาหจรัสแสง, 2541, หน้า 9) ในการให้ ผเู้ รียนได้ทาแบบฝึกทกั ษะมากๆ จะชว่ ยใหผ้ ้เู รียนมีพัฒนาการทางการเรยี นร้ใู นเนื้อหาไดด้ ีข้ึน เพราะนกั เรยี นมี โอกาสนาความรู้ที่เรียนมาแล้วมาฝึกให้เกดิ ความเขา้ ใจกวา้ งยิง่ ขน้ึ (วิมลรตั น์ สนุ ทรโรจน์, 2549, หนา้ 113) นอกจากนี้ยงั มีผู้สนใจในการนาแบบฝกึ ทักษะมาใชใ้ นการพัฒนาการเรยี นการสอนคณิตศาสตร์ในเนอ้ื หาตา่ งๆ ในทกุ ระดับ ซงึ่ ผลการศึกษาค้นคว้าสนบั สนุนในเห็นวา่ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้โู ดยใช้แบบฝกึ ทักษะเป็น วธิ ีการหนึ่งทีช่ ่วยใหน้ ักเรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นคณิตศาสตร์สูงข้ึนหรือสูงกว่านกั เรียนที่เรียนโดยวิธปี กติ (วนิดา ผลานสิ งฆ์, 2550) นักเรยี นมีความพึงพอใจตอ่ การเรียนโดยใช้แบบฝกึ ทกั ษะโดยรวมอยใู่ นระดับมาก ข้นึ ไป (วรี ะชัย เสรมิ พงศ์, 2554) จากความจาเปน็ ท่จี ะต้องปรบั ปรงุ การจัดการเรยี นการสอน เรอ่ื ง ตวั ประกอบของจานวนนับ นักเรยี น ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และข้อดีของแบบฝึกทักษะดงั ทกี่ ล่าวมา ผ้วู จิ ัยจึงสนใจที่จะพฒั นาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนคณิตศาสตร์ เร่อื ง ตัวระกอบของจานวนนบั นกั เรียนระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะ ซึ่งผลทไี่ ด้จากการวิจยั น้ีจะได้แบบฝกึ ทักษะคณติ ศาสตร์ทมี่ ีประสิทธภิ าพเพื่อใชใ้ นการเรยี นการสอน และทาให้ผู้เรียนได้รับประโยชนจ์ ากการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยใชแ้ บบฝึกทักษะ รวมทั้งจะได้แนวทางการ พฒั นากจิ กรรมการเรียนการสอนวชิ าคณติ ศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทกั ษะในเร่ืองอ่นื ๆ และในระดบั อ่นื ต่อไป 2. วตั ถุประสงค์/สมมติฐาน ของการวิจัย วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อเปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ตวั ประกอบของจานวนนับ ของ นกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ก่อนเรียนและหลงั เรยี นโดยใช้แบบฝึกทกั ษะ 2. เพ่ือศึกษาความพึงพอใจของนกั เรียนต่อการเรยี นรู้โดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะ เร่ือง ตัวประกอบขอ จานวนนบั สมมติฐาน นกั เรยี นทีไ่ ด้รบั การเรียนิรโ้ ดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะ เร่ือง ตวั ประกอบของจานวนนับ ระดบั ชั้น ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทางการเรยี นหลังการจดั การเรียนรูส้ งู กวา่ ก่อนการจัดการเรยี นรู้

3. ประชากร/กลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากร ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษาค้นควา้ ไดแ้ ก่ นกั เรยี นระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 จานวน 11 คน 4. ทฤษฎี/หลกั การ/งานวจิ ัยท่ีเกี่ยวขอ้ ง ในการพัฒนาผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ตวั ประกอบของจานวนนับ ของนกั เรยี นชั้น ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โดยใชแ้ บบฝึกทักษะ ผู้วิจยั ไดร้ วบรวมเอกสารท่เี กีย่ วข้อง ดงั นี้ 1. หลกั สตู รการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 2. หลักการสอนคณติ ศาสตร์ 3. การสรา้ งแบบฝกึ ทักษะ 4. การสรา้ งแบบสอบถามความพึงพอใจ 5. งานวจิ ยั ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการศกึ ษาค้นควา้ 5. เครื่องมือทใี่ ช้ในการวจิ ยั /นวตั กรรม 1. แผนการจัดการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ เร่ือง ตวั ประกอบของจานวนนับ 2. แบบฝึกทกั ษะ เรื่อง ตัวประกอบของจานวนนบั 3. แบบทดสอบผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรอ่ื ง ตวั ประกอบของจานวนนับ 4. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนรโู้ ดยใชแ้ บบฝึกทักษะ เร่อื ง ตัวประกอบของจานวนนับ 6. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล ในการวิจยั ครง้ั น้ี ผวู้ จิ ยั ดาเนนิ การเกบ็ รวบรวมข้อมูล โดยมรี ายละเอียด ดงั นี้ 1. ผ้วู จิ ยั ทาการทดสอบผลสัมฤทธ์ิก่อนเรยี น 2. ผวู้ จิ ยั ดาเนินการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ตัวประกอบของจานวนนบั 3. ผู้วจิ ยั ทาการทดสอบผลสัมฤทธ์หิ ลังเรยี น 4. ผ้วู จิ ัยในนักเรยี นทาแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรยี นรูโ้ ดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะ เร่ือง ตวั ประกอบของจานวนนบั 7. การวเิ คราะหข์ ้อมลู /สถติ ิทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั การวเิ คราะห์ข้อมลู 1. วเิ คราะหผ์ ลสัมฤทธท์ิ างการเรียนก่อนเรียนและหลังเรยี นโดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะ เร่ือง ตัวประกอบ ของจานวนนับ ของนักเรยี นระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 เปน็ ค่าเฉลย่ี และร้อยละ

2. วเิ คราะห์ความพงึ พอใจของนกั เรียนที่มีต่อการเรยี นร้โู ดยใช้แบบฝกึ ทักษะ เร่ือง ตัวประกอบของ จานวนนับ ดว้ ยคา่ เฉล่ีย และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ผ้วู ิจยั ใชส้ ถิตใิ นการวิจยั ครงั้ นี้ ดังนี้ 1. ค่ารอ้ ยละ 2. ค่าเฉล่ยี 3. คา่ ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน 8. ผลการวจิ ัย 1. นักเรยี นมคี ะแนนผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นก่อนเรียน เฉล่ยี 13.75 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิด เป็นรอ้ ยละ 45.83 และนกั เรียนมคี ะแนนผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นหลังเรียน เฉล่ยี 26.31 จากคะแนนเต็ม 30 คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ 87.7 จากการทดสอบทัง้ ก่อนเรยี นและหลงั เรียนผลปรากฎวา่ นกั เรยี นระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 จานวน 16 คน มีคะแนนความก้าวหน้าเพมิ่ ขน้ึ เฉลี่ย 12.56 คิดเป็นรอ้ ยละ 41.87 จึง แสดงให้เหน็ วา่ นกั เรียนทเี่ รียนโดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะคณิตศาสตร์ เร่อื ง ตัวประกอบของจานวนนบั มคี ะแนน ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นหลงั เรียนสงู กวา่ ิกอ่ นเรยี นซ่ึงเปน็ ไปตามสมมตฐิ านท่ไี ด้ต้ังไว้ 2. นกั เรยี นมีความพงึ พอใจต่อการเรยี นรโู้ ดยใชแ้ บบฝึกทักษะ เรือ่ ง ตวั ประกอบของจานวนนบั ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในระดบั มากทีส่ ุด โดยมคี ่าเฉล่ียเทา่ กบั 4.58 9. อภปิ รายผลการวจิ ัย การพฒั นาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนคณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ตัวประกอบของจานวนนบั ของนักเรยี นช้ัน ประถมศกึ ษาปีที่ 6 โดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะนบั วา่ ไดผ้ ลดี จะเหน็ ได้จาก ความสามารถในการศึกษา เรื่อง ตัว ประกอบของจานวนนบั ของนกั เรยี นระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 หลังเรยี นดขี ึ้นอย่างเหน็ ไดช้ ดั ซงึ่ สอดคล้อง กับทฤษฏีการเรียนรขู้ อง ธอร์นไดค์ เกี่ยวกบั กฎแหง่ การฝึกหัดเนอ่ื งจากนักเรียนได้ฝกึ ฝนทกุ วันทาใหเ้ กดิ ความ ชานาญ อีกท้ังนักเรยี นไดร้ ู้ผลลพั ธ์ทนั ทวี ่าถูกหรือผิด ทาให้เกดิ ความต้องการที่จะทาอกี เพื่อเอาชนะ นอกจากน้ีนกั เรยี นยงั พงึ พอใจในกจิ กรรมน้นี อกจากน้ียังต้องการใหม้ ีกิจกรรมแบบน้อี ีกและอยากให้ นาไปใชก้ บั เรื่องอืน่ ๆ อีกซงึ่ สอดคล้องกบั ผลการวิจัยของคณานติ ย์ ธนสุนทรสุทธิ์ และสมวงษ์ แปลงประสพโชค ซง่ึ นักเรียนเห็นวา่ การเรียนโดยใชแ้ บบฝกึ ทักษะเปน็ วธิ ฝี ึกที่ทาให้เกิดความรมู้ ากกว่าปกติไดค้ วามรู้เรว็ และเกิด ความกระตอื รือรน้ 9. ขอ้ เสนอแนะ 1. ควรมีการวจิ ยั แบบนีใ้ นเร่ืองอื่น ๆ อีก 2. ครูผู้สอนในระดับขนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 น้ี สามารถนาแบบฝึกทักษะนี้ไปใช้ในปตี ่อๆ ไป และมีการ พัฒนาอย่างตอ่ เน่ือง

ภาคผนวก






Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook