แมพ่ ิมพ์ยางระบบทางว่งิ เยน็ Cold Runner System of Rubber Mold โดย อาจารย์คันธพจน์ ศรสี ถติ ย์ กลมุ่ วจิ ัยคาทพิ (C3ATIP) ภาควิชาวิศวกรรมเครอ่ื งกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยมี หานคร1. บทนํา ในโลกของระบบการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม มักจะมีมาตรวัดประสิทธิภาพการผลิต ว่าอยู่ในระดับใดด้วยเสมอๆ ซ่ึงมาตรวัดดังกล่าว ก็มีการอ้างอิงปัจจัยช้ีวัดหลายอย่าง แต่เมื่อกล่ันกรองให้ถึงที่สุดแล้ว จะพบว่าแทบทุกมาตรวัดมักจะใช้ปัจจัยช้ีวัดอย่างน้อย 3 ปัจจัย ซ่ึงได้แก่ QCD โดย Q (Quality) หมายถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ C (Cost) หมายถึง ต้นทุนการผลิต และ D (Delivery) หมายถึง การส่งมอบ จึงอาจกล่าวได้ว่า QCD คือ หัวใจของระบบการผลิตนั่นเอง ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทย ได้มีการนําหลักการของ QCD มาใช้ในระบบการออกแบบและผลิตมายาวนานแล้ว จนปัจจุบัน QCD เป็นสิ่งท่ีคุ้นชินและกลายเป็นส่ิงท่ีรู้จักกันในวงกว้าง โดยเฉพาะวงการอุตสาหกรรมแม่พิมพ์ บทความน้ีจะหยิบยกตัวอย่างหลักการประยุกต์ใช้ QCD ในการออกแบบแม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็น เพื่อช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการผลติ ใหด้ ีขน้ึ และสอดคล้องกับท่ตี ้องการ2. แมพ่ มิ พย์ างระบบทางวงิ่ เย็น ประเทศไทยจัดให้อุตสาหกรรมแม่พิมพ์เป็นอุตสาหกรรมสนับสนุน ให้กับอุตสาหกรรมหลักหลายประเภท ทงั้ นีอ้ ุตสาหกรรมแมพ่ ิมพ์ทส่ี าํ คัญยังแบง่ ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มแม่พิมพ์โลหะ กลุ่มแม่พิมพ์พลาสติก และกลุ่มแม่พิมพ์ยาง ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มน้ีต่างก็มีความสําคัญกับการผลิตช้ินส่วนและอุปกรณ์ต่างๆ ให้กับท้ังอุตสาหกรรมยานยนต์ การก่อสร้าง ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ ปิโตรเคมี ตลอดจนอาหารและเคร่ืองด่ืม เป็นต้น ปัจจุบันเทคโนโลยีการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ของทั้ง 3 กลุ่มได้มีการพัฒนาไปมาก โดยอาศัยหลักการของ QCD ที่เป็นหัวใจของระบบการผลิต มาใช้ในแทบทุกขั้นตอน เพ่ือให้สามารถแข่งขันในตลาดได้รูปที่ 1 ประเภทแม่พิมพข์ น้ึ รปู ผลติ ภณั ฑ์ยางกบั พลาสตกิ หน้า 1 จาก 7
ในท่ีน้ีจะกล่าวถึงกลุ่มแม่พิมพ์พลาสติกและกลุ่มแม่พิมพ์ยาง ซ่ึงมีลักษณะการขึ้นรูปหลายอย่างใกล้เคียงกัน ดังรูปที่ 1 และหากพิจารณากระบวนการฉีดข้ึนรูปผลิตภัณฑ์ตามวัฏจักรการฉีด จะพบจุดท่ีแตกต่างกันอยา่ งเดน่ ชดั ที่สุด คอื พลาสตกิ จะมีการคงรูปด้วยการระบายความร้อน (Cooling) ในขณะท่ียางจะมีการคงรูปดว้ ยการใหค้ วามรอ้ น (Heating) ดังรปู ท่ี 2 เกดิ เปน็ ผลติ ภัณฑย์ างในลกั ษณะต่างๆ ดงั รปู ท่ี 3 (ข) พลาสตกิ การเตรยี มแม่พิมพ์ แม่พิมพ์ปดิการปลดช้นิ งาน กระบวนการฉีด แมพ่ มิ พเ์ ปดิ กระบวนการ ฉดี ขึ้นรูป ผลิตภณั ฑยาง การคงรปู : การให้ความรอ้ น (ก) ยางรปู ที่ 2 วัฏจกั รการฉีดข้นึ รูปผลิตภัณฑพ์ ลาสติกและยางรปู ที่ 3 ตัวอยา่ งผลิตภณั ฑย์ าง หนา้ 2 จาก 7
ดังท่ีได้กล่าวแล้วว่าการออกแบบและผลิตแม่พิมพ์ปัจจุบันได้มีการพัฒนาไปมาก กลุ่มแม่พิมพ์พลาสติกและกลุ่มแม่พิมพ์ยางก็ได้มีการคิดค้นระบบทางว่ิงแบบใหม่ข้ึน เพื่อลดทอนข้อด้อยของระบบทางว่ิงแบบด้ังเดิมให้ได้มากที่สุด และเมื่อเปรียบเทียบข้อมูลระบบทางว่ิงแบบใหม่ของท้ังสองแม่พิมพ์นี้จะได้ดังตารางที่ 1 ซึ่งมีหลักการคล้ายคลึงกันและจะได้กล่าวต่อไป ดังน้ันในช้ันต้นน้ี อาจจะกล่าวได้แบบหลวมๆ ว่า “แม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเยน็ สามารถเทียบเคียงได้กับแม่พมิ พพ์ ลาสตกิ ระบบทางวง่ิ รอ้ น” นัน่ เองตารางท่ี 1 เปรยี บเทียบระบบทางวงิ่ ของแม่พิมพพ์ ลาสติกและยางประเภทแม่พมิ พ์ ระบบทางวิ่ง (Runner System) แบบด้ังเดิม (สว่ นใหญ่) แบบใหม่ (เริม่ มใี ชม้ ากขึน้ )แมพ่ ิมพพ์ ลาสตกิ ระบบทางวง่ิ เย็น ระบบทางว่งิ ร้อนแมพ่ มิ พ์ยาง ระบบทางวง่ิ ร้อน ระบบทางวิ่งเย็น2.1 ข้อเดน่ ของแมพ่ มิ พ์ยางระบบทางวิง่ เย็น ข้อเด่นของแม่พมิ พ์ยางระบบทางว่งิ เย็น (หรือแมพ่ มิ พพ์ ลาสตกิ ระบบทางว่งิ รอ้ น) มหี ลายประการ ดังน้ี • เพ่ิมประสิทธิผลของกระบวนการผลิตชิ้นงานหรือส่วนประกอบให้มีความถูกต้องแม่นยํา (Accurate) มากข้นึ • ช่วยให้เวลาในแต่ละรอบของการผลิต (Cycle time) ลดลง • ช่วยลดความส้นิ เปลอื งหรอื สญู เสียวัสดยุ างคอมพาวนด์ (Rubber Compound) ลงได้มาก • ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีลักษณะที่สอดคล้องกับความต้องการ เช่น ความแข็งแรง หรือความอ่อนน่ิม ยดื หยนุ่ ใหต้ ัวได้ • ตน้ ทนุ ต่อหนว่ ยในระยะยาวจะถูกลงอย่างมาก2.2 ขอ้ ด้อยของแม่พิมพย์ างระบบทางวงิ่ เย็น ข้อดอ้ ยของแมพ่ มิ พย์ างระบบทางวิ่งเย็น (หรอื แม่พมิ พพ์ ลาสตกิ ระบบทางว่งิ ร้อน) มีหลายประการ ดงั น้ี • จาํ เป็นตอ้ งมีการลงทนุ ดา้ นอุปกรณเ์ พิม่ เตมิ จากระบบเดิมทม่ี ีอยู่ ทาํ ให้ระยะแรกต้นทุนจะสงู • จาํ เป็นต้องใช้บคุ ลากรที่มคี วามร้แู ละความเขา้ ใจในการออกแบบแมพ่ ิมพ์ • จําเปน็ ตอ้ งมกี ารฝกึ อบรมพนักงานฉดี ขึ้นรปู ใหร้ จู้ กั และเขา้ ใจระบบแม่พิมพ์ • จําเป็นต้องมีการเอาใจใส่และบํารุงรักษาส่วนประกอบสําคัญ เพ่ือให้ทํางานได้เป็นอย่างดีตลอดอายุ การใชง้ าน3. สว่ นประกอบสําคัญของแม่พิมพ์ยางระบบทางวิ่งเยน็ ส่วนประกอบสาํ คญั ของแมพ่ มิ พ์ยางระบบทางว่งิ เยน็ ดงั นี้ (ดงั รปู ท่ี 4) • ชุดทางวิ่งเย็น (Cold runner block) ทําหน้าที่เป็นชุดทางว่ิงนํายางคอมพาวนด์เหลว เตรียมไหล เข้าสูเ่ บา้ แม่พมิ พ์ ทอ่ี ยู่ใตแ้ ผ่นฉนวนความรอ้ น • หวั ฉดี (Nozzle) ทาํ หนา้ ท่คี วบคุมปริมาณการฉีดยางคอมพาวนด์เหลวเข้าสู่เบ้าแม่พิมพ์ ที่อยู่ใต้แผ่น ฉนวนความรอ้ น หน้า 3 จาก 7
• เส้นทางระบายความร้อน (Cooling line) ทําหน้าที่เป็นเส้นทางเดินของสารหล่อเย็นให้กับชุดทาง วงิ่ เย็น • สารหล่อเย็น (Coolant) ทําหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนความร้อนจากชุดทางวิ่งเย็น เพื่อ ป้องกันไมใ่ ชย่ างคอมพาวนด์เหลวเกดิ การคงรูปก่อนการฉดี ในวฏั จกั รถดั ไป และจะไหลไปตามเส้นทาง ระบายความร้อน ด้วยอัตราการไหลท่ีเหมาะสมขึ้นกับขนาดช้ินงาน จํานวนคาวิต้ี และชนิดของยาง คอมพาวนด์ • แผ่นฉนวนความรอ้ น (Thermal insulation plate) ทําหนา้ ทีเ่ ปน็ ฉนวนความร้อนให้กับชุดทางวิ่ง เย็น โดยความร้อนน้ีจะเกิดขึ้นบริเวณใต้แผ่นฉนวนความร้อน ซ่ึงมาจากฮีตเตอร์ในแม่พิมพ์ส่วนล่าง เพ่อื ทาํ ให้ยางเกิดการคงรูปเป็นช้ินงานตามต้องการ และนําไปตกแต่งต่อกลายเป็นผลิตภัณฑ์ยางส่งให้ ลูกค้าต่อไป รูปที่ 4 สว่ นประกอบสาํ คัญของแมพ่ ิมพ์ยางระบบทางวิ่งเย็น5. หลกั การสําคญั ของแม่พมิ พย์ างระบบทางวิ่งเย็น การออกแบบแม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็นให้สามารถทํางานได้ตามความต้องการ มีหลักการท่ีต้องคาํ นึงถงึ หลายอย่างดังน้ี 1. Layout ของแมพ่ ิมพ:์ การวาง Layout ของแมพ่ มิ พ์ตอ้ งคาํ นึงถงึ หลักของความสมดุลความดัน ฉดี ใหไ้ ดม้ ากท่ีสดุ 2. ความเรียบของทางว่ิง: ทางวิ่งต้องเรียบ ไม่ขรุขระ เพ่ือให้ยางคอมพาวนด์ไหลตัวได้อย่างดี ไม่ เกิดเศษตกค้างในระบบ และลบคมตรงมุมเลี้ยวของทางว่ิง เพ่ือลดความเสียดทานเนื่องจากไหล อันจะก่อให้เกิดความร้อนสะสมในเน้ือยางคอมพาวนด์ขึ้นเร่ือยๆ ไปตลอดทางว่ิง จนเข้าสู้เบ้า แม่พิมพ์ และเมอื่ เข้าสเู่ ฟสของการคงรูป อาจจะทําให้ยางคอมพาวนด์เกิดการคงรูปไม่สม่ําเสมอ และกอ่ ใหเ้ กิดความบกพร่องทีไ่ มพ่ งึ ประสงค์อยา่ งอ่ืนตามมาอกี หลายประการได้ 3. การระบายความร้อนให้กับชุดทางว่ิงเย็น: การฉีดยางคอมพาวนด์เหลวจากปลายหัวฉีดเข้าสู่ แกนรูฉีด ไหลไปตามทางว่ิง และเข้าสู่เบ้าแม่พิมพ์ จําเป็นต้องคํานึงถึงชนิดของยางคอมพาวนด์ เน่ืองจากมีค่าความแข็งยางที่แตกต่างกัน การไหลตัวก็จะแตกต่างกันไปด้วย นอกจากนี้ยังต้อง พิจารณาถึงจํานวนคาวิตี้ ความหนาของช้ินงาน และปริมาตรของเบ้าแม่พิมพ์ ซ่ึงท่ีกล่าวมา ท้ังหมดน้ีจะเก่ียวข้องโดยตรงกับปริมาณของความร้อนที่จะเพิ่มสูงขึ้นในแม่พิมพ์ โดยต้องมี หลักการอยู่ว่า แม่พิมพ์ส่วนบน คือ ชุดทางว่ิงเย็นจะมีความร้อนสะสมจากฮีตเตอร์ ความเค้น เฉือนจากชุดสกรูลําเลียง ความเสียดทานเนื่องจากการไหลผ่านหัวฉีด แกนรูฉีด และทางว่ิง หน้า 4 จาก 7
ความร้อนที่สะสมมานี้เอง หากมีการระบายไปสู่สารหล่อเย็นในอัตราท่ีน้อยกว่า ก็อาจจะเกิด การสกอร์ช (Scorch) ส่งผลให้ยางคอมพาวนด์ในระบบทางวิ่งเกิดการคงรูปก่อนได้ ซ่ึงหากเป็น เช่นนั้น แสดงว่าการออกแบบแม่พิมพ์ยางระบบทางวิ่งเย็นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ดังน้ันเพ่ือไม่ให้ เกิดปัญหาดังกล่าว ผู้ออกแบบจําเป็นต้องคํานวณหาปริมาณความร้อนสะสมที่เกิดขึ้นในชุดทาง วิ่งเย็น เพ่ือจะได้ออกแบบการระบายความร้อนได้อย่างเหมาะสม เป็นต้นว่า คํานวณหาขนาด และทิศทางของเส้นทางระบายความร้อน เลือกสารหล่อเย็นที่มีค่าความจุความร้อนท่ีพอเหมาะ กบั เงื่อนไขการออกแบบ รวมทง้ั คาํ นวณหาอัตราการไหลของสารหลอ่ เย็นใหเ้ หมาะสม จึงจะเกิด ผลดีต่อการนําระบบทางว่ิงเย็นมาใช้ กล่าวคือ หากสารหล่อเย็นมีอัตราการไหลมากจนเกินไป อาจจะมีการถ่ายโอนความร้อนระหว่างยางคอมพาวนด์ในทางว่ิงไปสู่สารหล่อเย็นไม่ทัน ความ ร้อนก็ยังคงสะสมอยู่ในระบบต่อไป หรือถ้าความร้อนมีการถ่ายโอนได้ทันกับการไหล ก็จะมีการ ดึงความร้อนออกจากระบบมากจนเกินไป ทําให้ยางคอมพาวนด์ไม่อยู่ในสภาพท่ีไหลตัวได้ และ เกิดความหนืดขึ้น ส่งผลให้ต้องใช้ความดันฉีดที่สูงขึ้น หรือต้องรอเวลาให้อุณหภูมิยางคอมพา วนด์สูงข้ึนจนถึงจุดท่ีสามารถไหลตัวได้ ระยะเวลาที่รอนี้เอง จะทําให้เวลาต่อการฉีดหน่ึงรอบ (Cycle time) สูงขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าหากสารหล่อเย็นมีอัตราการไหลน้อยจนเกินไป ยางคอม พาวนด์อาจจะเกิดการคงรูปในระบบทางว่ิงได้เช่นกัน ซ่ึงจะส่งผลให้ยางไม่ไหลสู่เบ้าแม่พิมพ์ เป็นต้น 4. การเลือกใช้แผ่นฉนวนความร้อน: สําหรับแม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็น จะแบ่งการพิจารณา ออกเปน็ 2 ส่วน คือ ส่วนบนเปน็ ชุดทางวิ่งเยน็ และสว่ นล่างเป็นชดุ ชิ้นงานท่ีต้องมีการคงรูปด้วย ความร้อน ดังน้ันการคํานวณหาความหนาและชนิดของแผ่นฉนวนความร้อนจึงเป็นส่ิงที่จําเป็น มาก เพื่อป้องกันไม่ใช่เกิดการถ่ายโอนความร้อนจากส่วนล่างไปยังส่วนบนได้ หากผู้ออกแบบ แม่พิมพ์ยางระบบทางวิ่งเย็นเลือกใช้แผ่นฉนวนความร้อนท่ีไม่เหมาะสมกับกรณี จะเกิดผลเสีย ตามมา คือ ความร้อนจากส่วนล่างจะถูกถ่ายโอนไปรบกวนส่วนบน ทําให้เป็นการเพ่ิมภาระของ สารหล่อเย็น และในขณะเดียวกันหากเมื่อความร้อนจากส่วนล่างมีการถ่ายโอนไปแล้ว จะทําให้ อุณหภูมิในบริเวณน้ันลดต่ําลง ส่งผลให้การคงรูปของยางไม่ทั่วถึงหรือไม่สมํ่าเสมอ เกิดปัญหา เร่อื งรอยเช่อื มประสาน และอื่นๆ ตามมาได้อกี 5. การกําหนดตาํ แหนง่ ขาดของระบบทางวงิ่ เย็น: สําหรับข้อน้ีถือว่าเป็นหลักการท่ีดีและจัดอยู่ใน ข้ันที่ยุ่งยากซับซ้อนกว่าเงื่อนไขการทํางานของแม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็นแบบธรรมดาทั่วไป เน่ืองจากผู้ออกแบบจะต้องอาศัยความรู้หลายอย่างประกอบกัน อาทิ วิทยาการการไหล (Rheology) ของยางคอมพาวนด์แต่ละชนิด กลศาสตร์การไหลของสารหล่อเย็น และการถ่าย โอนความร้อน รวมท้ังระบบกลไกการเปิดแม่พิมพ์ในเวลาท่ีเหมาะสม ในทางอุดมคติแล้ว หาก ผู้ออกแบบได้คํานึงถึงหัวข้อต่างๆ ข้างต้น และออกแบบได้ถูกหลักการของความสมดุล ก็จะทํา ให้สามารถกําหนดตําแหน่งขาดของระบบทางวิ่งเย็นได้ แต่ในทางปฏิบัติยังต้องมีการศึกษา คน้ คว้าและทําวจิ ยั เพิม่ เตมิ เพื่อสร้างความร้แู ละความเขา้ ในเรอื่ งนใี้ ห้เดน่ ชัดมากขนึ้ หมายเหตุ ในขณะนี้มีนักวิจัยจากหลายสํานัก ให้ความสนใจอย่างมากท่ีจะทําวิจัยในประเด็นการกําหนดตําแหน่งขาดของระบบทางว่ิงเย็นให้ได้ ซ่ึงในทัศนะของผู้เขียนแล้ว ควรมีการใช้ซอฟต์แวร์เพ่ือจําลองการไหลของยางคอมพาวนด์ ควบคู่ไปกับการศึกษาเชิงทดลอง เพื่อสร้างแบบจําลองทางคณิตศาสตร์ แล้วหาสมการใน หนา้ 5 จาก 7
เชิงความสัมพันธ์ของพารามิเตอร์ต่างๆ ของแม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็นให้ครบถ้วน และมีการทดลองซํ้าเพื่อทดสอบความสมั พนั ธ์ท่ีได้มาน้นั พร้อมกบั ปรบั ปรงุ แบบจาํ ลองทางคณติ ศาสตรไ์ ปพร้อมๆ กับการศึกษาเชิงการทดลอง ก็จะทําให้การทํานายตําแหน่งการขาดของระบบทางว่ิงเย็นได้ถูกต้องแม่นยํามากย่ิงขึ้น ซ่ึงหากผู้ประกอบการท่านใด หรือกลุ่มใด มีความประสงค์ที่จะร่วมมือวิจัยในประเด็นน้ี ผู้เขียนกับคณะทํางานก็ยินดีทุกเมื่อทีจ่ ะดาํ เนินการวจิ ัยให้สาํ เร็จลุล่วง สรา้ งองค์ความร้เู รือ่ งแมพ่ ิมพย์ างให้กับประเทศชาติต่อไป6. เปรียบเทยี บแม่พิมพ์ยางระบบทางว่งิ เยน็ กับแม่พิมพพ์ ลาสติกระบบทางว่งิ ร้อน ดังท่ีได้กล่าวไว้ในตอนต้นว่า “แม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็นสามารถเทียบเคียงได้กับแม่พิมพ์พลาสติกระบบทางวิ่งรอ้ น” ดังนั้นในหัวข้อนี้จะเปรียบเทียบแม่พิมพ์ยางระบบทางว่ิงเย็นกับแม่พิมพ์พลาสติกระบบทางวงิ่ รอ้ น ดังตารางที่ 2ตารางท่ี 2 เปรียบเทยี บแม่พมิ พย์ างระบบทางวิ่งเย็นกับแมพ่ ิมพ์พลาสติกระบบทางว่ิงรอ้ นแมพ่ มิ พย์ างระบบทางวง่ิ เยน็ แม่พิมพพ์ ลาสตกิ ระบบทางวง่ิ รอ้ น1. ชดุ ทางว่งิ เย็น (Cold runner block) 1. ชุดแมนโิ ฟลด์ (Manifold set)2. หวั ฉดี (Nozzle หรือ Flow control) 2. หัวฉีด (Nozzle หรอื Flow control)3. เสน้ ทางระบายความรอ้ น (Cooling line) 3. ช่องวางฮีตเตอร์ (Heater slot)4. สารหล่อเย็น (Coolant) 4. ฮตี เตอร์ (Heater)5. แผ่นฉนวนความร้อน 5. แผน่ ฉนวนความร้อน(Thermal insulation plate) (Thermal insulation plate)7. บทสรุป ระบบทางวิ่งของแม่พิมพ์ยางแบบด้ังเดิม ซึ่งมีใช้กันเป็นส่วนใหญ่เป็นระบบทางว่ิงร้อน เม่ือปลดชิ้นงานออกแล้ว ส่วนท่ีเป็นแกนรูฉีด ทางว่ิง รวมทั้งทางเข้า จะเกิดการคงรูป กลายเป็นเศษยางส่วนท่ีไม่พึงประสงค์จําเป็นต้องขายทิ้ง หรือย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อนําไปผสมรวมกับวัสดุต่างๆ ในการผลิตชิ้นงานในกระบวนการผลิตอ่ืนๆ เช่น ผสมกับยางมะตอยทําถนน แต่จะไม่สามารถนําเศษยางดังกล่าว หลอมคืนกลับมาใช้ใหม่ในการผลิตรอบถัดไปได้ เน่ืองจากยางจัดเป็นพอลิเมอร์กลุ่มเทอร์โมเซ็ต (Thermoset) ดังน้ันจึงต้องมีการออกแบบระบบทางว่ิงของแม่พิมพ์ยางด้วยเทคนิคใหม่ เรียกว่าระบบทางวิ่งเย็น เพ่ือให้การปลดชิ้นงานในแต่ละรอบของการฉีดขึ้นรูป ไม่มีการสูญเสียเน้ือยางคอมพาวนด์ด้วย ถึงกระนั้นก็ดี แม้เทคนิคใหม่นี้จําเป็นต้องมีการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถของบุคลากรให้สูงขึ้น ประกอบกับต้องมีการลงทุนด้านอุปกรณ์เพ่ิมเติมจากระบบเดิมท่ีมีอยู่ อีกทั้งยังต้องให้ความใส่ใจกับการบํารุงรักษาส่วนประกอบสําคญั เป็นพิเศษ ทําใหต้ น้ ทุนการผลติ สูงขึ้นอยู่ในระยะแรกก็ตาม ก็มีผู้ประกอบการในประเทศไทย ก็เริ่มสนใจและหันมาใช้งานกันมากขึ้น เนื่องจากเมื่อเลยจุดคุ้มทุนแล้ว แม่พิมพ์ยางระบบทางวิ่งเย็นนี้ สามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ สามารถผลิตภัณฑ์ได้เป็นจํานวนมากและมีคุณภาพดีกว่าเดิม ส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าไดท้ นั เวลา และถอื วา่ เทคนิคนีต้ อบโจทย์หัวใจของระบบกระบวนการผลิตด้าน QCD ไดเ้ ป็นอย่างดี หน้า 6 จาก 7
8. เอกสารอา้ งอิง[1] Simtec-silicone, [เอกสารออนไลน์]. สืบคน้ ได้จาก: <http://www.simtec-silicone.com/injection- molding-feeding-systems-hot-runner-molds-vs-cold-runner-molds/>. 26 พฤษภาคม 2559.[2] Mastip, [เอกสารออนไลน์]. สืบคน้ ได้จาก: <http://www.mastip.com/ENG/Downloads/Technical_Specifications_V1.01w.pdf>. 28 พฤษภาคม 2559.[3] Aspemferramentaria, [เอกสารออนไลน์]. สืบค้นไดจ้ าก: <http://www.aspemferramentaria.com.br/assets/images/cont-moldes.jpg>. 20 เมษายน 2559.[4] Aspemferramentaria, [เอกสารออนไลน์]. สบื คน้ ไดจ้ าก: <http://www.aspemferramentaria.com.br/assets/images/cont-blocos-7(1).jpg>. 3 มนี าคม 2559. หน้า 7 จาก 7
Search
Read the Text Version
- 1 - 7
Pages: