Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Unit 6

Unit 6

Published by 6032040010, 2018-08-28 04:31:40

Description: Unit 6

Search

Read the Text Version

การด์ (Lan)เคร่ืองพีซีจะเช่ือมตอ่ กันเป็นระบบ LAN ข้ึนมานั้น แต่ละเคร่ืองตอ้ งติดต้ังการ์ด LAN เคร่ืองรุ่นใหม่ๆอาจจะมีการ์ด LAN ฝังตัวอยู่ในบอร์ดให้แล้ว (Lan Onboard) หรือในโน๊ตบุ๊คใหม่ๆก็มักจะมีพอร์ตLAN มาใหแ้ ล้ว โดยสว่ นใหญ่จะมีความเร็ว 1000หรือ100 เมกกะบติ (ถ้าเปน็ รุ่นเก่าจะมีความเร็วเพียง10 เมกกะบิตต่อวินาทีเท่าน้ัน) เรียกว่าเป็น Fast Ethernet และบางแบบก็อาจใช้ได้ท้ัง 2 ความเร็วโดยสามารถปรับแบบอัตโนมัตแิ ล้วแต่จะไปเช่อื มตอ่ กับอุปกรณ์ Hub หรือ Switch แบบใดการ์ด LANรุ่นใหม่จะมีคุณสมบัติ Plug&Play หรือ PnP มักเสียบเข้ากับสล๊อตแบบ PCI (การ์ดรุ่นเก่าจะใชก้ ับสล๊อตแบบ ISA ซ่งึ ไมค่ อ่ ยพบแล้ว จึงไม่ขอกลา่ วถึง) โดยมชี อ่ งด้านหลังเครอ่ื งให้เสียบสายได้



ฮบั (hub) เป็นอปุ กรณ์ท่ีรวมสัญญาณท่ีมาจากอุปกรณ์รับส่งหลายๆ สถานี เข้าด้วยกัน ฮับเปรียบเสมือนเป็นบัสท่ีรวมอยู่ท่ีจุดเดียวกัน ฮับที่ใช้งานอยู่ภายใต้มาตรฐานการรับส่งแบบอีเทอร์เน็ตหรือ IEEE802.3 ข้อมูลที่รับส่งผ่านฮับจากเคร่ืองหน่ึงจะกระจายไปยังทุกสถานีท่ีต่ออยู่บนฮับน้ันดังน้นั ทุกสถานีจะรับสัญญาณข้อมูลที่กระจายมาไดท้ ั้งหมด แต่จะเลือกคัดลอกเฉพาะข้อมูลท่ีส่งมาถึงตนเท่าน้ัน การตรวจสอบข้อมลู จึงต้องดูทแี่ อดเดรส(address)ทีก่ ากบั มาในกลุ่มของขอ้ มูลหรอื แพ็กเก็ต



สวิตซ์(switch) เป็นอุปกรณ์รวมสัญญาณที่มาจากอุปกรณ์รับส่งหลายสถานีเช่นเดยี วกับฮับ แต่มีข้อแตกต่างจากฮับ กล่าวคือ การรับส่งข้อมูลจากสถานี (อปุ กรณ์) ตัวหน่ึง จะไม่กระจายไปยังทุกสถานี (อุปกรณ์) เหมือนฮับ ท้ังนี้เพราะสวิตช์จะรับกลุ่มข้อมูล(แพ็กเก็ต) มาตรวจสอบก่อน แล้วดูว่ามา แอดเดรสของสถานีปลายทางไปท่ีใด สวิตช์จะนาแพก็ เกต็ หรือกล่มุ ขอ้ มลู นั้นส่งต่อไปยังสถานี (อปุ กรณ)์ เป้าหมายให้อย่างอัตโนมัติ สวิตช์จะลดปญั หาการชนกนั ของขอ้ มลู เพราะไม่ต้องกระจายข้อมูลไปทุกสถานี และยังมีข้อดีในเรื่องการป้องกันการดักจบั ข้อมลู ทกี่ ระจายไปในเครอื ขา่ ย



เราเตอร์ (router) ในการเช่ือมโยงเครือข่ายหลายๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน หรือเช่ือมโยงอุปกรณ์หลายอย่างเข้าด้วยกัน ดังน้ันจึงมีเส้นทางการเข้าออกของข้อมูลได้หลายเส้นทาง และแต่ละเส้นทางอาจใช้เทคโนโลยีเครือข่ายท่ีต่างกัน อุปกรณ์จัดเส้นทางจะหาเสน้ ทางที่เหมาะสมใหก้ ารท่อี ปุ กรณจ์ ัดหาเสน้ ทางเลอื กเสน้ ทางได้ถกู ต้องเพราะแต่ละสถานีภายในเครือข่ายมีแอดเดรสกากับ อุปกรณ์จัดเส้นทางต้องรับรู้ตาแหน่งและสามารถนาข้อมูลออกทางเส้นทางได้ถูกต้องตามตาแหน่งแอดเดรสท่ีกากับอยู่ในเส้นทางน้ัน รวมท้ังการจัดรูปแบบและนาเสนอขอ้ มูล



สาย UTP (Unshield Twisted Pair) สายที่ใช้กับ LAN เรียกวา่ สาย UTP (UnshieldTwisted Pair) ซึ่งใช้หัวต่อแบบ RJ-45 ซง่ึ มที ง้ั หมด 8 ขา สายแบบน้ีท่ีเข้าหัวไวแ้ ล้วจะหาซ้ือไดต้ ามร้านขายอปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป หรือจะซื้อแบบเปน็ ม้วนมาตัดเข้าหัวเองก็ได้ แตต่ ้องมีเคร่ืองมือหรือคีมเข้าหัว RJ-45 โดยเฉพาะ มีข้อจากัดคือ จะต้องยาวไม่เกิน 100 เมตร จากเคร่ืองไปยังSwitch และแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทตามลักษณะการใชง้ าน คือ• สายตรง (Straight-through Cable) คือสายปกติที่ใช้เช่ือมระหว่างการ์ด LAN และ Hub /Switch• สายไขว้ (Crossover Cable) ใชต้ ่อการ์ด LAN บนคอมพวิ เตอร์ 2 เครื่องหรือพอร์ตของ Hubหรอื Switch 2 ตวั โดยตรง เพอื่ เพมิ่ ขยายพอร์ต ซึง่ วธิ กี ารเข้าหัวจะต่างจากปกติ



บริดจ์ (Bridge) คือ อุปกรณ์ท่ีเหมาะสมกับเครือข่ายหลาย ๆ กลุ่มท่ีเช่ือมต่อกันเนื่องจากสามารถแบ่งเครือข่ายที่เช่ือมต่อกันหลาย ๆ เซ็กเมนต์แยกออกจากกันได้ ทาให้ข้อมูลในแต่ละเซ็กเมนต์ไม่ต้องวิง่ ไปทั่วทั้งเครือข่าย กล่าวคือ บริดจ์สามารถอ่านเฟรมข้อมูลท่ีส่งมาได้ว่ามาจากเคร่ืองในเซก็ เมนตใ์ ด จากน้นั จะทาการสง่ ขอ้ มูลไปยงั เครื่องซึ่งอาจอยู่ในเซ็กเมนต์เดียวกันหรือต่างเซ็กเมนต์ก็ได้ซึ่งความสามารถดังกลา่ วทาให้ชว่ ยลดปัญหาความคับคงั่ ของขอ้ มลู ในระบบได้



รีพตี เตอร์ (Repeater) คือ อุปกรณ์ทวนสัญญาณเพอ่ื ใหส้ ามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ระยะไกลขึ้น คือ รีพีตเตอร์จะปรับรูปแบบเดิม เพ่ือได้สัญญาณสามารถส่งต่อไปได้อีกเชน่ การเชอ่ื มต่อเครือขา่ ยแลนหลาย ๆ เซก็ เมนต์ ซง่ึ ความยาวของแต่ละเซก็ เมนต์น้ันจะมีระยะทางที่จากัด ดงั นัน้ อุปกรณ์อยา่ งรีพีตเตอร์จะชว่ ยแกไ้ ขปญั หาเหล่าน้ีได้



โมเด็ม (Modem) คือ อุปกรณ์ที่ทาหน้าท่ีแปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ให้สามารถเชื่อมคอมพิวเตอร์ที่อยู่ระยะไกลเข้าหากันได้ด้วยการผ่านสายโทรศัพท์ โดยโมเด็มจะทาหน้าท่ีแปลงสัญญาณ ซ่ึงแบ่งออกเป็นทั้งภาคส่งและภาครับ โดยภาคส่งจะทาการแปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณโทรศัพท์ (Digital to Analog) ในขณะที่ภาครับนั้นจะทาการแปลงสัญญาณโทรศัพท์กลับมาเปน็ สัญญาณคอมพวิ เตอร์ (Analog to Digital) ดังน้ัน ในการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกลๆเช่น อนิ เทอร์เน็ต จึงจาเปน็ ตอ้ งใชโ้ มเด็ม โดยโมเด็มมีทั้งแบบภายใน (Internal Modem) ท่ีมีลักษณะเป็นการ์ด โมเด็มภายนอก (External Modem) ที่มีลักษณะเป็นกล่องแยกออกต่างหาก และรวมถึงโมเด็มทเี่ ปน็ PCMCIA ท่มี ักใชก้ ับเครอ่ื งคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค



เกตเวย์ (Gateway) คือ อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยในการส่ือสารข้อมูล หน้าที่หลักของเกตเวย์ คือ ชว่ ยทาให้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่าย หรือมากกวา่ ท่ีมีลักษณะไม่เหมือนกัน คือลักษณะของการเช่ือต่อ (Connectivity) ของเครือข่ายที่แตกต่างกัยน และมีโพรโตคอลสาหรับการส่ง - รับข้อมูลตา่ งกัน เช่น LAN เครือหน่ึงเป็นแบบ Ethernet และ โพรโตคอลแบบอะซิงโครนัสส่วน LAN อีกเครือข่ายหนึ่งเป็นแบบ Token Ring และใชโ้ พรโตคอลแบบซิงโครนสั เพื่อให้สามารถติดต่อกันได้เสมือนเป็นเครือข่ายเดียวกัน เพื่อกาจัดวงให้แคบลงมา เกตเวย์โดยท่ัวไปจะใช้เป็นเครื่องมือส่ง - รับข้อมูลกันระหวา่ ง LAN 2 เครือข่ายหรือ LAN กับเครื่องคอมพวิ เตอร์เมนเฟรมหรือระหว่าง LAN กับ WAN โดยผ่านเครือข่ายโทรศัพท์สาธารณะ เช่น X.25 แพ็กเกจสวิตซ์เครือขา่ ย ISDN เทเล็กซ์ หรอื เครอื ขา่ ยทางไกลอน่ื



1. ใหน้ กั ศึกษาอธบิ ายเก่ียวกบั รูปแบบเครอื ขา่ ย 2 ประเภท 1.1. Client/Server เครือข่ายประเทน้ีมีเคร่ืองศูนย์บริการ ท่ีเรียกวา่ เคร่ืองเซิร์ฟเวอร์ และมีเคร่ืองลูกข่ายต่างๆเช่ือมต่อโดยเครือข่ายหน่ึงๆ อาจมีเคร่ืองเซิร์ฟเวอร์มากว่าหน่ึงตัวเช่ือมต่อภายในวงแลนเดียวกันก็ได้ซง่ึ เซิรฟ์ เวอร์แตล่ ะตวั ก็รับหนา้ ที่แตกตา่ งกันข้อดี - ให้ประสิทธภิ าพในการแบ่งปันการใชง้ านทรัพยากรแกไ่ คลเอนตไ์ ดด้ กี ว่า เนื่องจากคอมพวิ เตอร์ทถ่ี ูกนามาใชเ้ ป็นเซิร์ฟเวอรม์ ักเปน็ เครื่องท่ีมีประสิทธิภาพสงู - การรักษาความปลอดภัยสามารถทาไดด้ กี วา่ เนื่องจากการดูแลความปลอดภยั เปน็ ไปในรปู แบบรวมศนู ย์ (Centralized) ผู้ใชง้ านทจ่ี ะเขา้ มาสูเ่ ครอื ขา่ ยเพ่ือใช้งานเซริ ์ฟเวอรจ์ ะต้องไดร้ บั อนุญาตเสียก่อนข้อเสยี - ค่าใชจ้ ่ายในการติดต้งั เซิร์ฟเวอร์ 1 ตัวสงู กวา่ คอมพิวเตอร์ท่ัวไป อกี ทงั้ ผู้ดแู ลจะต้องมคี วามรู้พอสมควร - จะตอ้ งมีผดู้ แู ลและจดั การเซริ ์ฟเวอร์เป็นการเฉพาะ

เครื่องท่จี ดั เก็บขอ้ มลู ดา้ นเวบ็ เพจขององคก์ ร เพื่อใหผ้ ู้ท่องเท่ียวอนิ เทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงเวบ็ขององคก์ รได้

เครื่องที่ทาหน้าท่ีจัดเก็บข้อมูลด้านจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-mail ที่มีการรบั สง่ ระหว่างกนั ภายในเครอื ข่าย

เซิร์ฟเวอร์จะเป็นผู้จัดการระบบไฟล์บนดิสก์บนเครื่องของตนเอง โดยรับคาสั่งจากผู้ขอใช้บรกิ ารหรือ Client วา่ จะอ่านหรือบันทึก ข้อมูลกับไฟล์ใด แล้วจึงจัดการกับไฟล์ในดสิ ก์ หรือส่งข้อมูลกลบั ตามทถ่ี ูกขอมา

เคร่ืองที่ทาหน้าท่ีบริการงานพิมพ์ให้แก่เครื่องลูกข่าย โดยบันทึกงานพิมพ์เก็บไว้ในรูปแบบของสพลู และดาเนินการพมิ พ์งานตามลาดับควิ



เครือข่ายประเภทนี้ เคร่ืองคอมพิวเตอร์บนเครือข่ายจะมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีเคร่ืองใดเคร่ืองหนงึ่ ทาหน้าท่เี ป็นเซิร์ฟเวอรโ์ ดยเฉพาะ โดยสามารถเป็นไดท้ ้ังคู่บริการ ละผูข้ อบริการในขณะเดียวกัน ทั้งนี้ข้ึนอยู่กับการติดต้ังเพื่อใช้งานตามลักษณะเป็นสาคัญ จุดประสงค์ของเครือข่ายแบบเพียร์ ทู เพียร์คือ ต้องการแชร์ข้อมูลเพ่ือใช้งานภายในเครือข่ายเปน็ หลักสาคัญดังนั้นเครือข่ายประเภทนี้จึงไม่ได้มุ่งเน้นศักยภาพด้านระบบความปลอดภัยเช่นเดียวกับเครือข่ายแบบไคลแอนต์/เซริ ฟ์ เวอร์

ข้อดี - ลงทนุ ตา่ เหมาะสาหรบั เครอื ข่ายขนาดเล็ก จานวน 10-20 เครอื่ ง - ไม่จาเป็นตอ้ งพ่งึ พาผู้ดูแลระบบ โดยผู้ใช่แต่ล่ะคนสามารถกาหนดสทิ ธิเพ่ือแชร์ใชง้ านบนเครือข่ายได้ด้วย ตนเอง - ไมจ่ าเปน็ ต้องใชร้ ะบบเครอื ขา่ ย เน่อื งจากสามารถสร้างเครือขา่ ยประเทนี้ได้จาระบบปฏิบัติการวินโดวส์ท่วั ไปทนั ทีขอ้ เสยี - ไม่เหมาะกบั เครอื ขา่ ยขนาดใหญ่ - หากเครื่องที่ถูกแชร์ถูกเครือข่ายอื่นๆ บนเครือข่ายเข้าถึงข้อมูลด้วยจานวนความถค่ี ราวล่ะมากๆ เครื่องดังกล่าวจะทางานสะดุดหรอื ช้าลงอยา่ งเหน็ ไดช้ ัด - มรี ะบบความปลอดภัยที่คอ่ นข้างต่า

2. ระบบเครอื ข่ายท้องถ่นิ (LOCAL AREA NETWORK :LAN) ท่นี ิยม สงู สดุ มอี ยู่ 3 ชนดิ คอื2.1 อีเทอร์เนต็ (Ethernet) เป็นช่ือที่เรียกวิธีการส่ือสารในระดับล่างหรือที่เราเรียกว่า โปรโตคอล (Protocol)ในระบบ LAN ชนดิ หนึง่ ทพ่ี ฒั นาขึ้นโดย 3 บรษิ ัทใหญ่2.1.1 10Base5 - อตั ราความเร็วในการส่งข้อมูล 10 Mbps - ใช้สญั ญาณส่งขอ้ มูลแบบ Baseband - ระยะการสง่ สงู สุด 500 m/segment2.1.2 10Base2 - อัตราความเรว็ ในการส่งข้อมลู 10 Mbps - ใชส้ ัญญาณส่งขอ้ มูลแบบ Baseband - ระยะการส่งสงู สุด 185 m/segment

2.1.3 10BaseT - อัตราความเรว็ ในการส่งขอ้ มูล 10 Mbps - ใชส้ ญั ญาณส่งข้อมลู แบบ Baseband - ใชส้ าย Twisted-Pair แบบ UTP ชนิด CAT5 และใชค้ อนเน็ค เตอร์RJ-45

โปรโตคอล CSMA/CD ท่ใี ช้งานบนเครอื ข่ายอีเทอร์เน็ต เป็นกลไกการส่งข้อมูลบนเครือข่ายที่มีโอกาสเกิดการชนกันของกลุ่มข้อมูลสูงเม่ือการจราจรบนเครือข่ายหนาแน่น ในขณะเดียวกันโปรโตคอล Token Passingท่ีใช้งานบนเครือขา่ ยโทเค็นริงน้ันจะไมก่ อ่ ให้เกิดการชนกันของกลุม่ ขอ้ มูลเลย

เอฟดีดีไอ หรือเรียกอกี ชื่อเต็มว่า Fiber Distributed Data Interface:FDDI คือหน่วยงาน ANSI ได้ทาการกาหนดโปรโตรคอลที่ใช้งานบนเครือข่ายท้องถิ่น โดยมีการควบคุมแบบโทเค็นริง ด้วยการส่งข้อมูลท่ีมีความเร็วถึง 100 เมกะบิตต่อวินาทีบนสายเคเบิลใยแก้วนาแสง กลไกการส่งข้อมูลบนเครือข่ายเอฟดีดีไอจะใช้ Token Passingเช่นเดียวกับไอบีเอ็มโทเค็นริง แต่เอฟดีดีไอ (FDDI) จะทางานด้วยความเร็วท่ีสูงกว่าประกอบ กับเครือข่ายเอฟดีดีไอยังสามารถที่จะออกแบบเพ่ือรอบรับในความเสียหาของระบบได้ดี ด้วยการเพ่ิมวงแหวนในระบบเครือข่ายอีก รวมเป็น 2 วงแหวนด้วยกัน ซ่ึงประกอบดว้ ยวงแหวนปฐมภูมแิ ละวงแหวนทุติยภมู ิ



1. โครงการ IEEE 802 เปน็ โครงการเก่ยี วกับอะไร และจดั ต้งั ขน้ึ เพอ่ื จดุ ประสงค์ใด ?ตอบ โครงการหมายเลข 802 (Project 802)ในปี ค.ศ. 1985 ทางสถาบนั IEEE ไดร้ เิ ร่มิ โครงการสาคัญโครงการหน่ึง โดยตง้ั ชอ่ื โครงการน้วี า่โครงการหมายเลข 802 หรอื Project 802 โดยโครงการดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเพ่ือตอ้ งการใหผ้ ลติ ภณั ฑ์อปุ กรณ์สือ่ สารท่ีมาจากแหลง่ ผผู้ ลติ ต่าง ๆ สามารถสือ่ สารใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานเดียวกนั แต่โครงการน้ีมไิ ด้มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ นามาใชท้ ดแทนมาตรฐาน OSI โมเดลทท่ี างหน่วยงาน ISO จัดตั้งข้นึ แต่อย่างใด เนอ่ื งจากโครงการหมายเลข 802 มีวัตถุประสงค์เพ่ือกาหนดหน้าท่ีและรายละเอียดของช้ันส่ือสารฟิสิคัล ดาต้าลิงก์และมีสว่ นขยายเพ่มิ เติมบางส่วนอกี เลก็ น้อย ทน่ี ามาใช้งานเพอ่ื การเช่อื มตอ่ เครอื ขา่ ยทอ้ งถ่นิ เป็นหลักสาคญั



เครือข่ายอีเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายท่ีตอ้ งอยู่บนพ้นื ฐานเครือข่ายแบบบสั ที่ใชว้ ิธีการส่งข้อมูลแบบเบสแบนด์ และดว้ ยการมีชอ่ งทางการสอ่ื สารเพียงช่องทางเดียว แตอ่ นญุ าตใหค้ อมพวิ เตอร์หลาย ๆ เครอื่ งบนเครือข่ายใช้สายส่งข้อมูลร่วมกันได้ ท้ังนี้หากโหนดใดมีการส่งข้อมูล โหนดอ่นื ๆ ท่ีต้องการส่งก็จะต้องรอ ดงั น้ันจงึ จาเปน็ ตอ้ งมกี ารกาหนดว่า แลว้ ใครจะเป็นผูส้ ง่ ขอ้ มลู ไดใ้ นลาดับถัดไป

ลาดับชั้นย่อย LLC เป็นชั้นสื่อสารย่อยที่รับผิดชอบงานด้านพ้ืนฐานเก่ียวกับลอจิคัลแอดเดรส การควบคมุ ผิดพลาด รวมถงึ เปน็ สว่ นเชอื่ มต่อกบั ชน้ั สอื่ สารเนต็ เวิร์ก



การ์ดเครอื ข่ายมีลกั ษณะเป็นแผงวงจร ทีเ่ สยี บเข้ากับสลอ็ ตภายในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ และถอื เปน็ สว่ นสาคัญในการส่งแพ็กเกต็ จริงๆ ผ่านสื่อกลาง ซ่ึงเครือขา่ ยทอ้ งถิ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเปน็ อีเทอร์เน็ต โทเค็นริงหรอื FDDI จาเปน็ ตอ้ งใช้การด์ เครอื ขา่ ยทัง้ สน้ิ โดยการ์ดเครือข่ายจะมหี มายเลยแมคแอดเดรสท่ใี ช้อ้างองิ ตาแหน่งที่อยู่เพ่ือรบั สง่ขอ้ มลู บนเครือข่าย โดยชุดหมายเลขแมคแอดเดรสน้จี ะถกู บรรจุไว้ในหนว่ ยความจารอมบนการเครือขา่ ยท่ถี กู บรรจุพร้อมเสรจ็ มาจากโรงงาน และเมื่อเริ่มต้นทางาน ชดุ หมายเลขแมคแอดเดรสนกี้ ็จะถกู คดั ลอกไว้ในหนว่ ยความจาหลัก เพอ่ื นาไปใชอ้ า้ งองิ ตอ่ ไป

ทอ่ี ยู่ IP และที่อยู่ MAC จะตอบสนองวัตถุประสงคข์ องการมอบรหัสเฉพาะในเครือขา่ ยใหก้ บั โฮสต์ แตข่ ึน้ อยู่กับสถานะและฟังกช์ นั ทัง้ สองมีความแตกตา่ งกนั เมื่อทางานเลเยอร์ของแอดเดรสถกู เรยี กใช้ในขณะทฟ่ี งั ก์ชัน MAC Address ใน Data LinkLayer, IP แอดเดรสจะทางานใน Network Layer

5 ปัจจุบันมาตรฐาน IEEE 802.3 ได้เข้ามาแทนที่มาตรฐานด้ังเดิมของอีเทอร์เน็ตอย่างสมบูรณ์แล้วกล่าวคือ คาว่าอีเทอร์เน็ตจะอ้างอิงถึงเครือข่ายท่ีต้ังอยู่บนพ้ืนฐานของมาตรฐานIEEE 802.3 แต่ในบางครั้งอาจกล่าวไดว้ ่า IEEE 802.3 และอีเทอร์เน็ตมิใช่ส่ิงเดียวกัน ซ่ึงในเชิงเทคนคิ แล้วคาตอบนีถ้ อื ว่าไมผ่ ดิ แต่อย่างใด โดยในช่วงหลายปที ี่ผ่านมาอีเทอร์เน็ตเป็นมาตรฐานดั้งเดิมของบริษัทซีร็อก แต่ในช่วงราวปี ค.ศ.1985 ทาง IEEE ก็ได้เร่ิมพัฒนาโครงการ 802ข้ึนมา และได้มีการประกาศนามาตรฐาน 802.3 ออกมาใช้ซึง่ มาตรฐาน IEEE 802.3 น้ันมีขอ้ งแตกต่างเพียงเล็กน้อยในด้านรายละเอียดเม่ือเทียบกับมาตรฐาน อีเทอร์เน็ตเดิมจากบริษัทซีร็อกซ์ ดังนั้นปัจจบุ ันจึงมักมีการใช้คาว่าอีเทอร์เน็ตและ IEEE 802.3 ร่วมกัน ซง่ึ หมายถงึ เป็นคาที่สามารถใช้แทนความหมายเดียวกันได้ กล่าวคืออีเทอร์เน็ตจะอ้างถึงมาตรฐานของ IEEE802.3 นนั้ เอง

อีเธอร์เน็ตในระยะแรกใชส้ าย Coaxial เป็นหลัก ตอ่ มาไดพ้ ัฒนาไปใช้สายแบบ UTP มากข้ึนเรื่อยๆ ซ่ึงในช่วงแรกสามารถท่ีจะส่งผ่านข้อมูลด้วยความเร็ว 10 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps) แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ท่ีเรียกว่า Fast Ethernet และ Gigabit Ethernet ที่ทาความเร็วได้ถึง 100 เมกะบิตต่อวนิ าที(Mbps) หรอื 1 Gbps และ 1000 เมกะบิตตอ่ วินาที (Mbps) หรือ 10 GbE ตามลาดับ ในปัจจุบนั ลักษณะสาคัญแต่เดมิ ของ Ethernet คือข้อมูลทุกอย่างจะส่งผ่านตัวกลางหรือ Ether ที่เช่ือมระหว่างทุกๆ node ซ่ึงในท่ีนี้ก็คือสาย Coaxial นั่นเอง ดังน้ัน Ethernet ในยุคแรกจึงใช้การตอ่ สายแบบ Bus ที่ว่ิงผ่านทุกเครื่อง และต่อมาค่อยๆเปลี่ยนไปสู่การต่อแบบ Star ที่รวมสายเข้าศูนย์กลางเมื่อมีการใช้สาย UTP ที่ต่อผ่านอุปกรณ์HUB เกิดขึ้นมาตรฐานของระบบ Ethernet เป็นไปตามมาตรฐานท่ีชอื่ IEEE 802.3 ซ่ึงในในการตอ่ สายแบบท่ีเช่ือมทุกเครื่องถึงกันโดยตรง โดยมีกฎเกณฑ์หรือโปรโตคอลแบบ CSMA/CD ซ่ึงชื่อมาตรฐานของ Ethernet น้ันจะแยกแยะได้ด้วยรหัส

Gigabit Ethernet หรือเรียกกันเป็น 1000Base-T (สาย UTP) หรือ 1000Base-F(Fiber Optic) เปน็ เทคโนโลยีใหม่ทีจ่ ะทาใหส้ ามารถส่งขอ้ มูลได้ในระดับความเร็ว 1,000 Mbpsหรือ 1 Gigabit per second (1 Gbps) ซ่ึงกาลงั จะเป็นมาตรฐานใหม่ของเครือขา่ ยระดับhigh-end สาหรับงานท่ีตอ้ งการความเร็วสงู มาก เช่น งานกราฟกิ หรือใช้เช่ือมตอ่ ตรงช่วงที่เข้าเครือ่ งเซิร์ฟเวอร์ เพอ่ื ให้สามารถรองรบั งานจากเครอ่ื งอน่ื ๆ ได้มากพร้อมๆ กัน สายท่ีใช้ก็จะมีได้ท้งั แบบท่เี ปน็ UTP (แต่ความยาวไม่มากนัก) และ Fiber Optic

10 Gigabit Ethernet เป็นเทคโนโลยใี หม่ซง่ึ จะสามารถรบั ส่งข้อมูลไดใ้ นระดบัความเรว็ 10,000 Mbps หรือ 10 Gbps คาดว่าระยะแรกจะใช้กบั การเชื่อมตอ่ ระหว่างเมอื งหรือ WAN

Token Bus เป็นระบบเครือข่ายท่ี เปดิ โอกาสให้สถานีต่างๆ ผลัดเปล่ียนหมุนเวียนกันส่งเฟรมข้อมูลของตนเองโดยสามารถคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสุดไดล้ ่วงหนา้ ถ้าสมมุตใิ ห้มีสถานีจานวน Aแห่งอยู่ในระบบ แต่ละสถานีใชเ้ วลาในการส่งเฟรมข้อมูลคร้ังละ S วินาที เวลาสูงสุดท่ีแต่ละสถานีจะต้องรอคอย คือ A x S วินาที ผู้ที่อยู่ในวงการคอมพิวเตอร์สาหรับโรงงานจึงชอบแนวความคิดของระบบเครือข่ายแบบวงแหวนแตก่ ็ไม่ชอบลักษณะการเชื่อมต่อทางกายภาพเพราะการเสียหายของเคเบิลที่จุดใดก็ตามจะทาให้ระบบทั้งระบบใช้การไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นการเดินสายเคเบิลแบบวงแหวนก็ไม่เหมาะกับลักษณะสายการผลิตภายในโรงงานผลที่ไดร้ ับคือ การพฒั นามาตรฐานใหม่เรียกวา่ IEEE 802.4 (ไอ อี อี อี 802.4)ท่ีนาจุดเด่นของระบบ IEEE802.3 (ไอ อี อี อี 802.3)มารวมเข้ากับความสามารถในการคานวณระยะเวลาการรอคอยสูงสดุ ได้ลว่ งหน้าของระบบวงแหวน

โทเคน็ รงิ (token ring) เป็นเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ท่ีบริษัทไอบีเอ็มไดพ้ ัฒนาขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทั้งหมดใช้รูปแบบวงแหวน โดยด้านหน่ึงเป็นตัวรับสัญญาณ และอีกด้านหน่ึงเป็นตัวส่งสัญญาณการเชื่อมต่อแบบนี้ทาให้คอมพิวเตอร์ทุกเคร่ืองสามารถส่งข้อมูลถึงกันได้ โดยผ่านไปในเส้นทางวงแหวนน้ัน การส่งผ่านข้อมูลจะเวียนไปในทิศทางเดียวกัน การติดต่อส่ือสารระหว่างกันนี้จะมีการจัดลาดับให้ผลัดกันส่งเพือ่ วา่ การรับส่งข้อมูลจะไดไ้ ม่สับสนและมีรูปแบบที่ชัดเจน เครือข่ายโทเค็นริงท่ีใช้กันอยู่ในขณะน้ีมีความเร็ว ในการรับส่งสัญญาณ 16 ล้านบิตต่อวินาทีข้อมูลจะไม่ชนกัน เพราะการรบั สง่ มีลาดบั แนน่ อนขอ้ มลู ที่รบั ส่งจะมีลักษณะเปน็ ชุดๆ แตล่ ะชดุ มีการกาหนดตาแหนง่ แนน่ อนวา่ มาจากสถานีใด จะสง่ ไปยงั สถานีปลายทางทใ่ี ด ดงั น้ันถา้ สถานใี ดพบข้อมูลท่ีมีการระบุตาแหน่งปลายทางมาเป็นของตัวเอง กส็ ามารถคดั ลอกข้อมลู น้ันเข้าไปได้ และตอบรับวา่ ไดร้ ับขอ้ มลู นน้ั แล้ว

เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีบริษัทไอบีเอ็มได้พัฒนาขึ้นโดยการเชื่อมโยงเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ทง้ั หมดใช้รปู แบบวงแหวน

เครือข่ายความเร็วสงู รุ่นใหม่ Fiber Distributed Data Interface การเชื่อมตอ่ จะมีความเร็วประมาณ 100-200 เมกะบิตต่อวินาที เครือข่าย FDDI จะใช้สายใยแก้วนาแสงโดยแปลงจาก โทโปโลยีแบบวงแหวนเพียงแต่มีวงแหวน 2 วง นิยมใช้สาหรับงานด้านท่ีต้องการเทคโนโลยสี งู เช่น วีดิทศั น์แบบดจิ ิทัล , กราฟกิ ความละเอียดสงู

จดั ทาโดย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook