Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore AL edit3

AL edit3

Published by Puvadon Buabangplu, 2019-08-30 02:17:22

Description: AL edit3

Search

Read the Text Version

การจัดกระบวนการเรยี นรู้ เพื่อยกระดับคณุ ภาพการศกึ ษา โรงเรียนชุมชนบ้านเขาสมงิ ด ร . ภูวด ล บั วบ าง พลู ผู้อา น วย ก ารสานั กวิท ยบ ริ การและเทคโ นโ ลยี สารสน เท ศ ม ห าวิท ย าลั ยราช ภั ฏราไพพรรณี

เน้อื หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ การออกแบบการจัดการเรยี นรู้ 1. บทบาทของผู้สอนและผเู้ รยี น 2. ยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา 4.0 3. ตวั อยา่ ง Application 4. 5.

การเรยี นรู้ (Learning) เปลยี่ นแปลงพฤติกรรมของบุคคล ท่ีอาจมีผลสบื เนอื่ งจาก ประสบการณ์ หรือการฝึกฝน โดยมเี ป้าหมาย คือ วัตถปุ ระสงค์ ตอบสนองความตอ้ งการ หรอื แก้ปัญหากต็ าม การเรยี นรู้จะเกดิ ขน้ึ ได้ ใน 3 ดา้ น คอื ความรู้ ทักษะ และความร้สู ึก

การจดั การเรียนรู้ ส่กู ิจกรรม ที่เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ สาคัญ 1. การซกั ถาม : ต้งั คาถามใหช้ ่วยกนั ตอบ รายบคุ คล/กลุ่ม/ชั้นเรยี น เกยี่ วกบั เรอื่ งท่ี เรียนหรือกิจกรรม

การจัดการเรยี นรู้ ส่กู ิจกรรม ท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ 2. การอภิปราย : อธบิ ายแสดงเหตุผลสนับสนนุ /โตแ้ ย้ง โดยไมแ่ บง่ ฝา่ ย ไมม่ กี ารลงมติ อาจใหท้ ุกคนเขียนสรุปผลการอภิปราย

การจดั การเรยี นรู้ สกู่ จิ กรรม ท่ีเนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ 3. การแสดงความคดิ เหน็ เพ่ือแก้ปญั หา : การต้ังข้อสงั เกตหรอื บอกวธิ แี กป้ ญั หา อาจพูด/เขียนบรรยาย/แสดงทา่ ทาง

การจดั การเรียนรู้ สูก่ ิจกรรม ท่ีเนน้ ผูเ้ รียนเป็นสาคญั 4. การคน้ หา : การศึกษาคน้ ควา้ หาขอ้ เทจ็ จรงิ /ขอ้ มูลสารสนเทศ/ทกั ษะกระบวนการ อาจทาโดยการรวบรวม การสังเกต การทดลอง การตรวจสอบ หรอื การฝึกฝน เช่น ◦ รวบรวมหรอื สบื ค้นขอ้ มลู ทางประวัตศิ าสตร์และสงั คมวัฒนธรรม ◦ การทดลองวทิ ยาศาสตร์ ◦ การตรวจสอบกฎหรือทฤษฏที างวทิ ยาศาสตร์/สาขาวิชาต่างๆ ◦ การหาคาตอบคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหาในชีวติ ประจาวัน

การจดั การเรยี นรู้ สู่กิจกรรม ท่ีเน้นผู้เรยี นเปน็ สาคัญ 5. ลงมือปฏิบตั ดิ ้วยตนเอง : รวมถงึ การรวบรวมปรับปรุงจากผลงานท่ีมผี ทู้ าไว้ เช่น เอกสาร รายงาน/หนงั สือตาราวิชาการต่างๆ โดยเสนอเปน็ ข้อเขียน เช่น ◦ เรียงความ ◦ รายงาน ◦ โครงงาน

การจดั การเรียนรู้ (Learning Management) STEM Education Gamification Active Learning

บทบาทของผูส้ อนและผู้เรยี น บทบาทของผ้สู อน 1. การใหค้ าแนะนา ช้ีแนะกิจกรรม สอดคลอ้ งกับหลกั สูตร ผูส้ อนตอ้ งเตรียมการ โดยเสนอให้เลอื กหรือให้ ผู้เรยี นกาหนดเอง ชแ้ี นะวธิ ีดาเนนิ การ คน้ คว้าจากแหลง่ ข้อมลู วธิ ีรวบรวม วิธีนาเสนอ แนะนาการทางาน รว่ มกนั การใชส้ อื่ และแหล่งเรียนรู้

บทบาทของผสู้ อนและผเู้ รยี น บทบาทของผสู้ อน 2. การกากบั ดูแลกจิ กรรม 2.1 กากับดูแลการทางาน โดยแนะนาวธิ ีการทางานให้เปน็ ไปอยา่ งถูกวิธี ถูกรปู แบบ รจู้ กั การ ทางานรว่ มกบั ผู้อื่น รบั ผิดชอบ คดิ และทาอยา่ งสร้างสรรค์ ปรับปรงุ ตนเองอยู่เสมอ 2.2 ประเมนิ ผลตามสภาพจริง โดยการสงั เกตพจิ ารณาระหว่างปฏิบตั งิ านตามขั้นตอน ต่างๆ อยา่ งตอ่ เนือ่ ง ความถกู ต้องเรียบร้อยของผลงาน อาจพจิ ารณาประกอบกบั ผลการ ประเมนิ ตนเองของผ้เู รยี น และประเมินโดยเพื่อน ข้อคิดเหน็ ของผปู้ กครอง/ผู้เกยี่ วข้อง

“เดก็ รนุ่ ใหม่” (คน Gen Z)

Play polleverywhere.com

บทบาทของผูส้ อนและผเู้ รยี น คณุ ลักษณะของผเู้ รียน 1. Critical thinking & Problem Solving หรือทักษะการคดิ เชงิ วิพากษ์และการแก้ปญั หาโดยอาศัยการเรียนรู้และสังเกตุ 2. Creativity & Innovation หรอื ทกั ษะดา้ นความคิดสร้างสรรค์ และการคิดค้นนวตั กรรม 3. Cross-Cultural Understanding ทกั ษะการเรียนรบู้ นความเข้าใจดา้ นวัฒนธรรมท่ีแตกต่าง เพ่อื สรา้ งระเบยี บ 4. Collaboration, Teamwork & Leadership ทักษะด้านการทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา 5. Communications, Information & Media Literacy ทักษะด้านการสื่อสารและมีความรใู้ นการสืบคน้ สอ่ื 6. Computing & ICT literacy ทักษะด้านการใชง้ านอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์และข้อมูลสารสนเทศรูปแบบดิจทิ ัล 7. Career & Learning Skills ทักษะทต่ี รงกับความชานาญในการประกอบอาชพี และการพัฒนาการเรยี นรผู้ สมเขา้ กบั การทางาน

ยกระดับคณุ ภาพการศึกษา 4.0

การเรยี นรู้ยุคใหม่ • การเรียนและการทางาน กาลังจะกลายเปน็ สง่ิ เดยี วกนั • การเรียนคอื ความทา้ ทายตลอดชีวิต การ inspire และ motivate เป็นสง่ิ สาคัญทีจ่ ะทาให้เขาเปลีย่ นชีวติ • การเรียน จะไมเ่ ปน็ ทางการอกี ตอ่ ไป สามารถเรียนนอกมหาวทิ ยาลยั ท่ไี หนก็ได้ ทุกที่ ทุกเวลา • องคก์ ร ปรบั เปลี่ยนเป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้ • สอ่ื แบบใหม่ เป็น platform สาคญั เพอ่ื การเรียนรู้ • สถาบันการศึกษา ต้องปรับเปล่ียน ควบรวม/ปดิ ตัว

















ชโลีวกิตเปล่ยี น

A Theory of Human Motivation by Abraham Maslow 1943









สือ่ ดิจิทัลเบย่ี งเบนความสนใจ Tutorials บนเว็บไซต์ YouTube ชอ่ งทีวีออนไลนเ์ พอ่ื การศกึ ษา ผเู้ รยี นต้องการวดิ ีโอทีเ่ ปน็ ส่งิ ทีผ่ สู้ อนแนะนาเทคนคิ 20 นาที ใชเ้ ทคนิคการนากราฟกิ รปู ภาพ หรอื Infographic มานาเสนอใหเ้ กิดความนา่ สนใจ โฮมรูม (HomeRoom) บน Facebook Google Classroom และ E-Classroom เปลี่ยนโลกของการศกึ ษาในศตวรรตท่ี 21

การวางแผนการจดั การเรียนรู้ 1. ควรคานงึ ถงึ ธรรมชาติความตอ้ งการ ความสนใจ และลกั ษณะการเรยี นรขู้ องเดก็ เพอื่ จะ ใหก้ ารจัดการเรยี นรไู้ ด้ผลบรรลุตามความมุ่งหมาย 2. ควรคานึงถึงความมงุ่ หมายของแต่ละบทเรียน และเขยี นให้ชดั เจนไมค่ วรวางไว้กว้างจนสดุ ท่ีจะทาได้ 3. ต้องคานงึ ถึงกิจกรรมทจ่ี ดั ขึน้ เปน็ สาคัญ โดยคานงึ ถึงตวั เด็กเปน็ ศูนยก์ ลาง และควรให้ เด็กมีโอกาสในการเขา้ รว่ มในการวางโครงการจดั การเรียนรู้ด้วย จะทาใหเ้ ด็กเกดิ ความสนใจ และหาความรูด้ ้วยตนเอง

การวางแผนการจดั การเรียนรู้ (ต่อ) 4. ใหค้ านงึ ถึงความรู้ท่จี าเป็นในการจดั การเรยี นรู้ ได้แก่ ธรรมชาตแิ ละพฒั นาการของเดก็ และให้การจัดการเรียนรูเ้ หมาะสมกบั เด็กแต่ละคน 5. การวางแผนการจดั การเรียนรู้ควรคานงึ ถงึ หลักในการจดั การศกึ ษา ซ่ึงไมม่ สี ูตรตายตวั แต่คงเนน้ ความรู้ หลกั การ การรวเิ คราะห์เคร่ืองมือ วธิ ีใชซ้ ่ึงสามารถยดึ หยนุ่ ได้ตาม สถานการณต์ ่างๆ 6. การวางแผนมใิ ช่นโยบาย แต่เปน็ วธิ กี ารกาหนดนโยบาย เพอ่ื ใหว้ ัตถุประสงค์ชัดเจน ตลอดจนเป็นการจงู ใจในความสาเรจ็ ของงาน

orkshop

Mentimeter https://www.mentimeter.com Easy-to-use presentation software for leaders, educators, and speakers thats interactive, engaging and fun

http://pubhtml5.com/ https://pubhtml5.com/free-flip-book-maker

Zoom https://zoom.us/meetings Enterprise video conferencing with real-time messaging and content sharing https://youtu.be/72bKM91PGHE


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook