ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ พ ร ะ น ค ร PHRANAKORN RAJABHAT UNIVERSITY ร า ย ง า น ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า วิจัยเกี่ยวกับการน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การบริหารสถานศึกษา เสนอ อ.ดร.มีนมาส พรานป่า จัดทำโดย นายวิชาญ พิมมาศ 6351751602002 หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต การบริหารการศึกษา รุ่น 37 รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับผู้บริหารการศึกษา วิทยาลัยการฝึกหัดครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
ร า ย ง า น ก า ร ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า วิจัยเกี่ยวกับการน้อมนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจของพอเพียงสู่การบริหารสถานศึกษา
คำนำ รายงานเล่มนี้เป็นการรายงานผลการ ศึกษาค้นคว้าวิทยานิพนธ์ การศึกษาค้นคว้า อิสระ จำนวน 5 เรื่องที่เกี่ยวกับการน้อมนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การ บริหารสถานศึกษา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ใน การนำไปประยุกต์ในชีวิตประจำวัน สถาน ศึกษาของผู้จัดทำ การจัดการเรียนการสอน การจัดการชั้นเรียน ในการนี้ต้องขอขอบพระคุณผู้เรียนงาน วิจัยทุกท่านและขอขอบคุณอาจารย์ประจำ วิชา ที่ทำให้การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้สำเร็จ หากมีสิ่งใดผิดพลาด ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ วิชาญ พิมมาศ ผู้จัดทำ ก
สารบัญ 1 กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ 5 ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียน 10 รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี 17 การจัดการศึกษาบนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ 21 พอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียนศรีแสงธรรม 27 28 การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ การพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 โรงเรียนบ้านทุ่งฮ้าง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม การนำไปประยุกต์ใช้ บรรณานุกรม ข
กระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษากระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อศึกษาผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี กรอบแนวคิด ตัวแปรที่ศึกษาคือ กระบวนการการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ ประกอบด้วย การพัฒนา หน่วยการเรียนรู้แบบบูรณาการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ และการบริหาร จัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรเป้าหมาย ผู้บริหาร ครู นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนรัตนาธิเบศร์ จำนวน 939 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มีทั้งหมด 6 ชนิด สนทนากลุ่มครูผู้สอน แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียน แบบสอบถามเพื่อการวิจัยสำหรับผู้ปกครอง แบบสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา แบบสัมภาษณ์กรรมการสถานศึกษา แบบสังเกตการสอนแบบบูรณาการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นตอนการสร้างเครื่องมือ ศึกษาค้นคว้าเอกสาร ตำรา บทความและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง กับการจัดการเรียนการ สอนแบบบูรณาการ ที่นำเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อเป็นแนวทาง ในการกำหนดกรอบแนวคิด
วิธีดำเนินการวิจัย (ต่อ) ดำเนินการสร้างและตรวจสอบคุณภาพของประเด็น การสนทนากลุ่มครูผู้สอน แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เรียน แบบสอบถามเพื่อการวิจัยสำหรับผู้ปกครอง แบบสอบถาม ผู้บริหารสถานศึกษา แบบสัมภาษณ์กรรมการสถานศึกษา แบบสังเกตการสอนแบบบูรณาการตาม หลักเศรษฐกิจพอเพียง ตามโครงสร้างและรายละเอียดที่กำหนดขึ้นจากหัวข้อที่จะศึกษาให้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย ระยะเวลาในการศึกษา ผู้วิจัยใช้ระยะเวลาในการศึกษา และเก็บรวบรวมข้อมูลในโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ เป็นเวลา 5 เดือน คือเมษายน ถึง สิงหาคม 2552 โดยผู้วิจัยเริ่มติดต่อกับทางโรงเรียนเป็นเวลาล่วงหน้า 3 เดือน เพื่อขอความร่วมมือในการเข้าไปเก็บข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล ติดต่อกับอาจารย์ ที่ทำหน้าที่สอนในช่วงชั้นที่ 3 และเป็นผู้ประสานงานครูผู้สอนในการ จัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษาของโรงเรียนรัตนาธิเบศร์ ใน การขอความอนุเคราะห์เข้าไปเก็บข้อมูลการวิจัย หนังสือราชการจากภาควิชาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไป ยังโรงเรียนรัตนาธิเบศร์เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลคือภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2552 ระหว่างเดือนเมษายนถึง สิงหาคม 2552 รวมใช้เวลาประมาณ 5 เดือน ในขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยได้จัดตารางเวลา ที่จะทำการสังเกต การสัมภาษณ์ การสนทนากลุ่ม โดยผู้วิจัยเป็นผู้ทำการสังเกตครูผู้สอนด้วยตนเอง ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ตามความเป็นจริง โดยการ ทำการตรวจสอบ จาก การนำเครื่องบันทึกเสียงจากการสัมภาษณ์และการสนทนากลุ่มมาถอดข้อความการสนทนา คำ ตอบคำ การตรวจสอบความเชื่อถือของข้อมูลแบบสามเส้าโดยผู้วิจัยรวบรวมข้อมูลจากแหล่ง ข้อมูลที่แตกต่างเพื่อเป็นการตรวจสอบว่าสารที่และเวลาต่างกันนั้น กระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบบูรณาการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นอย่างไร เหมือนเดิมหรือต่างกันออกไปจากเดิม มากน้อยเพียงใด การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยทำการตรวจสอบข้อมูล ในด้านความครบถ้วนของข้อมูลความเป็นจริงของข้อมูล และความถูกต้องของข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ ทั้งข้อมูลจากการสังเกตและข้อมูลจากการสัมภาษณ์ ซึ่งจะเป็นข้อความบรรยายในการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบกันโดยเรียบเรียงเนื้อหาจัดหมวดหมู่ ตามกระบวนการจัดการเรียนการสอนเศรษฐกิจพอเพียงทั้ง 4 ด้าน ในส่วนของแบบสอบถามใน แต่ละด้านใช้สถิติพื้นฐานในการอธิบายข้อมูลโดยสรุปเป็นภาพรวมและรายด้านตามวัตถุประสงค์ ของการวิจัย
ผลการวิจัย การศึกษากระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงกรณี ศึกษาโรงเรียนรัตนาธิเบศร์จังหวัดนนทบุรี สามารถสรุปผลการศึกษาได้ดังนี้ พัฒนาหน่วยการเรียนรู้ ผลที่ได้พบว่า ครูผู้สอน พัฒนาจัดทำ หน่วยการเรียนรู้แผนการจัดการ เรียนรู้บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา จากการศึกษาหลักสูตรแกนกลางของสถาน ศึกษา จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังรวมกับ การ วิเคราะห์ตัวบ่งชี้ กำหนดประเด็นหลักร่วมกัน เป็นหัวข้อ \"เศรษฐกิจพอเพียง\" มีการเชื่อมโยง การบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง ในขั้นนำ ขั้นสอน และขั้นสรุป ออกแบบ สื่อการเรียนรู้ และการ วัดผลประเมินผลการเรียนรู้ ให้มีความเหมาะสมกับผู้เรียน โดยกลุ่มบริหารวิชาการติดตาม ตรวจสอบ ความเหมาะสมความสอดคล้องกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง การจัดการเรียนรู้ ผลที่ได้พบว่าทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้นำแผนการจัดการเรียนรู้มาใช้ในการ จัดการเรียนรู้บูรณาการภายในสาระการเรียนรู้และระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยเชื่อมโยง เนื้อหาบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง มีการจัดห้อง เป็นระเบียบเรียบร้อย แสงสว่างเพียงพอ มี ขนาดเหมาะสมกับจำนวนผู้เรียน ความสัมพันธ์ระหว่างบทเรียนกับเศรษฐกิจพอเพียงจากการ จัดการเรียนรู้ของครู อยู่ในระดับมาก ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเพื่อนครูในกลุ่มสาระ การเรียนรู้นำมาหาค่าคุณภาพความยากง่าย อำนาจจำแนก ตามคุณสมบัติของเครื่องมือวัด กำหนดเกณฑ์ในรูปแบบของมาตรประมาณค่า ครูผู้สอนป้อนกลับผู้เรียนขณะที่ทำการสอนเพื่อให้ ทราบระดับความสามารถของตนเองและสิ่งที่ควรปรับปรุงผู้เรียนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการวัดผล ประเมินผลการเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของ ครูผู้สอนอยู่ในระดับมาก การบริหารจัดการ ผลที่ได้พบว่าสถานศึกษามีการให้ความรู้แก่ครูผู้สอนค้นสนับสนุนให้เข้ารับ การอบรมพัฒนาการจัดการเรียนรู้บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงให้คำปรึกษาปัญหาแนะนำครูผู้ สอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ผู้บริหารสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาและสถานที่ภายในสถานศึกษา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการแสดงความ เห็นการนำเศรษฐกิจพอเพียงมาจัดการเรียนรู้ ผลการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงทำให้ผู้เรียน มีความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ พอเพียง ในความพอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน ความรู้และคุณธรรม จากที่ครูผู้สอน ถ่ายทอด ผ่านการจัดการเรียนรู้และการปฏิบัติ ผู้เรียนได้นำความรู้ ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันทั้งต่อตนเอง และถ่ายทอดไปสู่ครอบครัวของตนเอง
ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะสำหรับครูผู้สอน ครูผู้สอนส่วนใหญ่มีการบูรณาการภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ของตนเอง ควรมีการบูรณา การระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ด้วย โดยมีการออกแบบหน่วยการเรียนรู้การจัดการเรียนรู้ตลอด จนการวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ร่วมกัน ในกรณีที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ครูผู้สอนควรส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้นโดยมี ส่วนร่วมในการออกแบบการเรียนรู้ออกแบบชิ้นงานและเกณฑ์การประเมินร่วมกับครูผู้สอน เพื่อ ให้การจัดการเรียนรู้เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ข้อเสนอแนะสำหรับผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารควรมีการกระตุ้นให้ครูผู้สอนมีการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการระหว่าง กลุ่มสาระการเรียนรู้มากขึ้นโดยกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการในเรื่องตารางสอนสถานที่ใน การประชุมรวมทั้งคอยรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆเพื่อให้ครูผู้สอนสามารถจัดการเรียนการ สอนแบบบูรณาการระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ได้ ควรสนับสนุนให้ครูผู้สอนมีการจัดทำหน่วยการเรียนรู้บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียงโดยดึง ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมเพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้เรียนได้มีแหล่งการเรียนรู้เพิ่มเติมนอก สถานที่ในส่วนที่ผู้เรียนอาจยังไม่รู้ และช่วยส่งเสริมให้ชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมกับสถาน ศึกษาในการพัฒนาผู้เรียนซึ่งเป็นบุตรหลานให้ได้รับการเรียนรู้ จากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป ควรทำการศึกษากระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการตามหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ทั้งระดับช่วงชั้นที่ 3 (มัธยมศึกษาปีที่ 1-3) เพื่อให้เห็นพัฒนาการของผู้เรียนใน เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งด้านความรู้ทักษะและคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ควรศึกษาการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนในการจัดการศึกษาตามแนวคิดเศรษฐกิจพอ เพียงจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้สิ่งใกล้ตัวเกิดความตระหนักและรักชุมชน
การจัดการศึกษาบนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียนศรีแสงธรรม วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนศรีแสงธรรมก่อนนําหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นหลักในการจัดการศึกษา เพื่อศึกษาผลการประยุกต์ใช้ ปัญหา อุปสรรคและผลกระทบในการนำหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการจัดการศึกษาของโรงเรียนศรีแสงธรรม กรอบแนวคิด วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรเป้าหมาย โรงเรียนศรีแสงธรรม เป็นโรงเรียนขนาดเล็กประเภทการกุศลของวัดในพระพุทธ ศาสนา สังกัดคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตั้งอยู่อำเภอโขงเจียม จังหวัด อุบลราชธานี เปิดสอนระดับมัธยมศึกษา คือมัธยมศึกษา 1 ถึงมัธยมศึกษา 6 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การศึกษาเอกสารและเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อศึกษา รวบรวมข้อมูล การสังเกต การสัมภาษณ์ เครื่องมือและวิธีการรวบรวมข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ตอนดังนี้ เครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูล การศึกษาเอกสาร ตามประเด็นที่กำหนดไว้
วิธีดำเนินการวิจัย (ต่อ) การสังเกตแบบมีส่วนร่วม โดยผู้วิจัยใช้วิธีสังเกตแบบมีส่วนร่วมเพื่อที่จะให้ได้ข้อมูล ในระดับที่ลึกและละเอียดมากที่สุด การสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการเครื่องมือคือแนวคำถามการสัมภาษณ์โดยผู้วิจัยใช้ วิธีสัมภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการนี้เพื่อที่จะทำให้ได้คำตอบที่หลากหลายและรอบด้าน จะทำ ผู้ถูก สัมภาษณ์ รู้สึกอิสระที่จะเล่าและให้ข้อมูล การสัมภาษณ์แบบเจาะลึก เครื่องมือคือแนวคำถามการสัมภาษณ์โดยผู้วิจัยใช้วิธีการ นี้เพื่อค้นหาคำตอบเฉพาะเจาะลึกในเรื่องที่ต้องการเพื่อให้ได้รายละเอียดทุกแง่ทุกมุมในเรื่องนั้นๆ วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การเข้าสู่สนามเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยเหตุเป็นผู้รับใบอนุญาตในการจัดตั้ง โรงเรียนจึงทำให้ผู้วิจัยสามารถเข้ามาเก็บข้อมูล ได้อย่างสะดวก ได้รับความร่วมมือจากครู บุคลากรผู้ปกครอง และนักเรียนรู้จักกันดี ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยวางแผนการทำงานโดยเริ่มศึกษางานโรงเรียนอย่างคร่าวๆว่ามีวิธีการ ทำงานอย่างไร การเก็บข้อมูลผู้วิจัยวางแผนที่จะศึกษาข้อมูลพื้นฐานและข้อมูลการดำเนินงาน ของโรงเรียนโดยใช้วิธีศึกษาเอกสารไปพร้อมพร้อมกับการเก็บข้อมูลเพิ่มเติมโดยวิธีการสังเกต สัมภาษณ์ การออกแบบสอบถามสำหรับกรณีที่มีข้อสงสัยในความถูกต้องและเที่ยงตรงของข้อมูล ผู้วิจัยจะทำการเก็บข้อมูลซ้ำอีกครั้ง ผู้ให้ข้อมูล คุณครูและผู้บริหาร ประกอบด้วยครูอาวุโสจำนวน 3 คน เป็นผู้ที่เริ่มมาทำงาน กับโรงเรียนตั้งแต่รับใบอนุญาต และเข้าใจแนวทางการทำงานภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงเป็นอย่างดี และนำมาใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี และกลุ่มครูทั่วไปจำนวน 3 คน เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ 3 คน คนที่ 1 เป็นแม่ครัวที่อยู่กับวัดป่าศรีแสง ธรรมตั้งแต่ก่อนเริ่มก่อตั้งโรงเรียนปัจจุบันเป็นแม่ครัวของโรงเรียน ซึ่งรู้เรื่องราวภายในได้เป็น อย่างดี คนที่ 2 เป็นนักการที่อยู่กับวัด มาก่อนสร้างโรงเรียน และทำงานเกี่ยวกับโรงเรียนมา ตั้งแต่ เริ่มก่อตั้งโรงเรียน คนที่ 3 เป็นพนักงานขับรถที่ขับรถรับส่งนักเรียนมาตั้งแต่เริ่มเปิดโรงเรียน ทั้ง สามคนนี้ เป็นคนในหมู่บ้านที่โรงเรียนตั้งอยู่และมีที่พักอาศัยไม่ไกลจากโรงเรียน กลุ่มผู้ปกครอง ประกอบด้วย ผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 6 คน เป็นผู้ปกครอง นักเรียนที่ส่งบุตรหลานเข้าเรียนที่โรงเรียนศรีแสงธรรมตั้งแต่เริ่มเปิดโรงเรียนซึ่งเป็นผู้ปกครองทั้ง เด็กเก่งและเด็กที่มีปัญหาทางการเรียนและความประพฤติ กลุ่มนักเรียนจำนวน 10 คนประกอบด้วย นักเรียน 2 กลุ่มด้วยกันกลุ่มที่ 1 ได้แก่ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายจำนวน 5 คน กลุ่มที่ 2 ได้แก่นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นจำนวน 5 คน กลุ่มกรรมการสถานศึกษาประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษาจำนวน 2 คน ซึ่งเป็นกรรมการบริหารสถานศึกษาสมัยที่ 2 และเป็นผู้ร่วมคิดริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนศรีแสงธรรม ทำให้มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับโรงเรียนเป็นอย่างดี กลุ่มผู้นำในท้องถิ่นได้แก่ กรมที่ 1 องค์การบริหารส่วนตำบลจำนวน 3 คน กลุ่มที่ 2 ผู้นำชุมชนได้แก่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน จำนวน 9 คน
วิธีดำเนินการวิจัย (ต่อ) การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเป็นการสร้างกรอบแนวคิดสำหรับการวิเคราะห์จึงนำ ข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลความถูกต้องน่าเชื่อถือในการจดบันทึกและทำดัชนี จัดทำ ข้อสรุปชั่วคราวโดยการจำแนกข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูล สร้างข้อสรุปแบบอุปนัย และสร้างบท สรุป ระยะเวลาที่ใช้ในการวิจัย ขั้นเตรียมการ 2 เดือนเริ่มตั้งแต่เดือน มกราคม ถึง กุมภาพันธ์ 2558 ขั้นการเก็บรวบรวมข้อมูล 4 เดือนเริ่มตั้งแต่ มีนาคม ถึง มิถุนายน 2558 ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล 2 เดือนเริ่มตั้งแต่ กรกฎาคม ถึง สิงหาคม 2558 ขั้นเขียนรายงานและจัดทำบทสรุป 5 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือน กันยายน ถึง ธันวาคม 2558 ผลการวิจัย การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทนี้ เป็นการนำเสนอโดยมุ่งตอบปัญหาการวิจัย 2 ข้อ ได้แก่ 1) โรงเรียนศรีแสงธรรมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหาร โรงเรียนอย่างไร 2 ) การนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการจัดการศึกษา ของโรงเรียนศรีแสงธรรม ได้ผลอย่างไร มีปัญหา อุปสรรค และผลกระทบอย่างไรบ้าง โดยแยกนำ เสนอ 2 ข้อดังนี้ ตอนที่ 1 สภาพและปัญหาของโรงเรียนศรีแสงธรรม ก่อนนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงมาประยุกต์ใช้ ด้านการบริหารโรงเรียน การบริหารโรงเรียนระยะแรก เป็นการทำตามขั้นตอนให้ถูกต้องตามระเบียบเท่านั้น มี ส่วนพัฒนาเพิ่มเติมในโครงการพิเศษที่จัดเป็นสวัสดิการให้นักเรียน รวมทั้งจัดนิเทศอบรมแนะนำครู แบบไม่เป็นทางการ เพื่อให้ทำการจัดการเรียนการสอนได้ตามหลักสูตร แม้กระทั่งบรรยากาศสภาพ แวดล้อมภายนอกยังต้องปรับปรุงรวมถึงการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษา นับเป็น ปัญหาที่ต้องรีบดำเนินการทั้งสิ้น ด้านการพัฒนาหลักสูตร เรื่องการพัฒนาหลักสูตรของโรงเรียนในระยะเริ่มต้นที่มีเวลาจำกัดบุคลากรและครูยัง ขาดประสบการณ์และความรู้การจัดหลักสูตรจึงทำเพียงให้ครบองค์ประกอบของระเบียบและ มาตรฐานการจัดการศึกษาตามกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการ ด้านการจัดการเรียนการสอน เนื่องจากโรงเรียนเพิ่งเปิดใหม่ประสบการณ์การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน มีน้อย กอรปจำนวนชั้นเรียนมีน้อยจึงทำตามรูปแบบที่ตาม ระเบียบของรัฐที่กำหนดยังไม่มีการพัฒนาที่ หลากหลาย ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนในระยะเริ่มต้นยังมีกิจกรรมน้อยซึ่งนักเรียนก็น้อยจึงเป็น ไปตามหลักสูตรกำหนดเท่านั้นยังไม่มีการพัฒนาหรือจัดให้สอดคล้องกับนักเรียนเอง
ผลการวิจัย (ต่อ) ตอนที่ 2 ผลการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในโรงเรียนศรีแสงธรรม ด้านการบริหารโรงเรียน มีการน้อมนำ ของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในการบริหารโรงเรียน ประกอบ ด้วย การจัดโครงสร้างการบริหาร การกำหนดวิสัยทัศน์นโยบายและแผนงานโครงการต่างๆ การ พัฒนาความรู้บุคลากร การจัดระบบนิเทศภายในสถานศึกษา การจัดสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียน และการมีส่วนร่วมของชุมชน ผลกระทบด้านบวก สถานศึกษามีความพร้อมมากขึ้น ผลกระทบด้านลบ บางครั้งสถานศึกษาอาจถูกมองว่ารับบริจาคบ่อยเกินไป ด้านการพัฒนาหลักสูตร 1) ความมีเหตุผล คือ หลักสูตรเป็นสิ่งจำเป็นที่กำหนดทิศทางของนักเรียนต้องมีความ รอบคอบระมัดระวัง 2) ความพอประมาณ คือหลักสูตรแกนกลางไม่ถึงกับสร้างหลักสูตรใหม่ เพียง ปรับให้เหมาะกับบริบทของตนเอง 3) ความมีภูมิคุ้มกัน คือครูสามารถเข้าใจเนื้อหาสอนให้ สอดคล้องกับมาตรฐานการเรียนรู้ได้แม้จะมีการสับเปลี่ยนบุคลากรบ่อย 4) ด้านคุณธรรม คือ การ คิดใคร่ครวญแบบโยนิโสมนสิการคือเห็นภายนอกแล้วน้อมเข้ามาสู่ภายใน 5) ด้านความรู้ คือ การนำหลักการ แนวคิด การพัฒนาหลักสูตรมาใช้เป็นกรอบทำงาน ผลกระทบด้านบวก ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาบรรจุใช้ในการ วิเคราะห์หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาส่งผลให้โรงเรียนมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น ในการพึ่งพาตนเอง นักเรียนเป็นคนดีมีคุณธรรม ไปเรียนรู้มีมุมมองในการพัฒนาตนเองมากขึ้นผู้ ปกครองอยากส่งบุตรหลานเข้าเรียนมากขึ้นทุกปี และทำให้ครูแสวงหาความรู้เพิ่มเติมสอดคล้องกับ สาระวิชาใหม่ๆที่มีในหลักสูตรของโรงเรียน ผลกระทบด้านลบ ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ พัฒนาหลักสูตรอาจจะมีการเข้าใจว่าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงใช้ได้เฉพาะกับเกษตรกร เท่านั้นในระยะแรกจึงมีนักเรียนมาเรียนน้อยในปีต่อมาจึงค่อยๆเพิ่มขึ้น ด้านการจัดการเรียนการสอน 1) ด้านการมีเหตุผล คือ นักเรียนที่มาเรียนที่โรงเรียน ต้องมีความรู้และคุณธรรม 2) ความพอประมาณคือพอประมาณกับความรู้ความสามารถของนักเรียนโดยยึดตามเกณฑ์มาตรฐาน ของกระทรวงกำหนด 3) ความมีภูมิคุ้มกันคือ นักเรียนที่จบหลักสูตรของโรงเรียนสามารถศึกษาต่อ ระดับที่สูงขึ้นได้ หรือมีใครจะประกอบอาชีพก็สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข 4) หลักคุณธรรมคือ การบูรณาการหลักธรรมคติธรรม ความจริงตามธรรมชาติ วิธีการดำเนินชีวิตใน รายวิชา 5) หลักความรู้ คือการจัดการเรียนการสอนอิงกรอบของกระทรวงกำหนดและสอดแทรก ภูมิปัญญาเทคโนโลยีที่เหมาะสม รายการเรียนการสอน ผลกระทบด้านบวก ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ จัดการเรียนการสอนทำให้ตรงความต้องการของชุมชนที่อยากเห็นนักเรียนเป็นคนเก่งคนดี วิธีการ ดูแลเอาใจใส่รายบุคคล ผู้ปกครองจึงไว้วางใจที่ทางโรงเรียนจัดแนวทางการศึกษาต่ออย่างไรเหมาะ กับนักเรียนที่จบไปซึ่งผู้ปกครองก็เห็นดีด้วย ทั้งมีตัวอย่างรุ่นพี่ที่จบออกไปเรียนระดับอุดมศึกษามี ผลการเรียนเฉลี่ยอยู่ในระดับดี ยิ่งเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น รวมถึงระดับมหาวิทยาลัยต่างๆ มา ติดต่อให้ทุนเรียนฟรี ในสาขาวิศวะพลังงานทดแทนอีกด้วย ผลกระทบด้านลบ อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าหลักปรัชญาไม่ใช่ทฤษฎีการสอน ทำให้ขาดความเชื่อมั่นต่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนซึ่งความจริงคือการสอนไปตามปกติแต่มี การนำมาวิเคราะห์ว่าสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไรในแต่ละกระบวนการ
ผลการวิจัย (ต่อ) ตอนที่ 2 ผลการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ในโรงเรียนศรีแสงธรรม(ต่อ) ด้านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 1) ด้านความมีเหตุผล คือ สังคมที่มีคนดีมีคุณธรรมย่อมมีความสุข 2) ความพอ ประมาณคือ รู้จักสถานะของตน สิ่งใดสำคัญก่อนหลัง 3) ความมีภูมิคุ้มกันคือ รู้จักการคบหาบุคคลรู้จัก บริบทของชุมชน และท้องถิ่น 4) ด้านคุณธรรม คือ การประพฤติปฏิบัติกิจกรรมบนพื้นฐานของหลัก ธรรมมะ 5) ด้านความรู้คือการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้เจริญขึ้น ผลกระทบด้านบวก ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนที่เป็นผลให้นักเรียนเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย มีสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศนำไปเผยแพร่หลายภาษา และสื่อโทรทัศน์ ช่องต่างๆก็ได้มาทำสารคดีเผยแพร่ออกไป ผลกระทบด้านลบ ในการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการ จัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนคือ มีกิจกรรมต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลาโรงเรียนจึงไม่ค่อยมีเวลาไปร่วมกิจกรรม กับโรงเรียนอื่นหรือหน่วยงานอื่น การอภิปราย ด้านการบริหารสถานศึกษา จากผลการวิจัยพบว่ามีการพัฒนาโรงเรียนจนเป็นแหล่งเรียนรู้ โรงเรียนพลังงานทดแทนต้นแบบสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เอง 100% มีสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมด้าน พลังงานอย่างต่อเนื่องที่ได้รับความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังเป็นที่รู้จักในนาม โรงเรียนพึ่งพาตนเอง จนประชาชนร่วมบริจาคสนับสนุนกิจกรรมของโรงเรียนต่อเนื่องสามารถ สร้างอาคารเรียน 4 ชั้นงบประมาณ 18 ล้านโดยไม่พึ่งพางบประมาณจากรัฐ ด้านการพัฒนาหลักสูตร จากผลการวิจัยที่พบว่าโรงเรียนได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอ เพียงเป็นกรอบแนวคิด การสร้างหลักสูตรสถานศึกษา มีรายวิชาเพิ่มเติมที่สอดคล้องกับบริบทของ โรงเรียนคือวิชาพลังงานทดแทนและวิชาโซล่าเซลล์ที่เน้นภาคปฏิบัติจัดทำหน่วยการเรียนรู้บูรณา การหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตลอดจน การนิเทศติดตาม จนมีหน่วยงานสถาบันการศึกษาเข้ามาสนับสนุน เพื่อขยายผลไปทั่วประเทศทั้งที่ เริ่มจากครูจบใหม่ยังไม่มีประสบการณ์และยังไม่มีใบประกอบวิชาชีพ เหตุที่ได้ผลเช่นนี้ เป็นเพราะ ว่าโรงเรียนได้นำสื่อด้านพลังงาน มาเข้าสู่การปฏิบัติจริงในชั้นเรียน จนเกิดความชำนาญ ทั้งครูและ นักเรียน ด้านการจัดการเรียนการสอน จากผลการวิจัยที่พบว่าแม้มีความขาดแคลนทรัพยากรทางการ ศึกษาแต่ครูได้จัดกระบวนการเรียนการสอนด้วยความทุ่มเทเสียสละเน้นประโยชน์ของผู้เรียนเป็น สำคัญนักเรียนก็มีความตั้งใจและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ดี สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 100% เหตุที่ได้ผลเช่นนี้ เป็นเพราะว่ามีการเอาใจใส่ต่อกระบวนการจัดการเรียนการสอน มีการฝึก ปฏิบัติจริงบูรณาการวิชาความรู้เข้ากับหลายสาขาวิชาและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ด้านการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จากผลการวิจัยที่พบว่านักเรียนมีจิตสาธารณะรู้จักสละ ทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะด้วยความสามัคคีไม่มีเรื่องทะเลาะวิวาทรู้จักทำนาปลูกผักอาชีพดั้งเดิม ของท้องถิ่นรู้จักรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามเหตุที่ได้ผลเช่นนี้เป็นเพราะว่ามีกิจกรรมการ อบรมส่งเสริมคุณธรรมนั่งสมาธิ สมาทานศีล แปลในทุกวันก่อนเข้าเรียนและในเทศกาลฤดูเข้า พรรษายังมีการถือศีล 8 ในทุกวันศุกร์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม เพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ วัตถุประสงค์ ตรวจสอบการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน ประทุมนุสรณ์ เพื่อทราบแนวทางการพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ กรอบแนวคิด การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กระทรวงศึกษาธิการได้แบ่งกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็น 3 ลักษณะประกอบด้วย กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี กิจกรรมชุมนุม ส่วนหลักฐาน ตามแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหลักการสำคัญคือ ปรัชญา 3 ห่วงและ 2 เงื่อนไข ประกอบ ด้วย 3 ห่วงคือ 1) พอประมาณ 2) มีเหตุผล 3) สร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว 2 เงื่อนไขคือ 1) ความรู้ 2) คุณธรรม นำมาสู่แนวคิดการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนประทุมนุสรณ์ วิธีดำเนินการวิจัย ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ผู้บริหารคณะครูคณะกรรมการสถานศึกษาขั้น พื้นฐานของโรงเรียนประทุมอนุสรณ์ สังกัดสำนักงานบริหารการศึกษาเอกชน สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานครเขต 3 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 113 คน เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการวิจัย ครั้งนี้ให้บรรลุวัตถุประสงค์ มีระบบและสอดคล้อง กับวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้วิจัย จึงได้กำหนดรายละเอียด และขั้นตอนการดำเนินการวิจัยเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 จัดเตรียมโครงการ เป็นการจัดเตรียมโครงการอย่างเป็นระบบโดยศึกษา ปัญหา ศึกษาวรรณกรรมต่างๆที่เกี่ยวข้องจากตำรา เอกสารทางวิชาการ ข้อมูลสารสนเทศรวม ทั้งวิจัยที่เกี่ยวข้อง เรียบเรียงผลงานเสนอขอความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อปรับปรุง แก้ไขข้อบกพร่องและเสนอขออนุมัติโครงการวิจัย จากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร ขั้นตอนที่ 2 สร้างเครื่องมือโดยหาความตรงเชิงเนื้อหาและทดสอบความเชื่อมั่นของ เครื่องมือนำเครื่องมือไปเก็บรวบรวมข้อมูลและทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ตลอดจนแปร ผลการวิเคราะห์
วิธีดำเนินการวิจัย (ต่อ) ขั้นตอนที่ 3 รายงานผลการวิจัยเป็นขั้นตอนการจัดทำรายงานผลวิจัย เสนอต่อคณะ กรรมการผู้ควบคุมงานวิจัย เพื่อตรวจสอบความถูกต้องตามหลักวิชาการ ถ้าปรับปรุงข้อบกพร่อง ตามคำแนะนำที่คณะกรรมการควบคุมงานวิจัย ให้ข้อเสนอแนะ และจัดพิมพ์รายงานการวิจัยฉบับ สมบูรณ์ เสนอต่อบัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามจำนวน 2 ฉบับ โดยใช้ถามแบ่งเป็น 2 ตอน มีรายละเอียดดังนี้ ตอนที่ 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับ สถานภาพส่วนตัว ของผู้ตอบแบบสอบถามในเรื่อง เพศ อายุ วุฒิการศึกษา มีลักษณะเป็นแบบตัวเลือกที่กำหนดคำตอบไปให้ ตอนที่ 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่สำคัญ มีลักษณะแบบ มาตราส่วนประมาณค่า (Rating scales) ของไลเคริ์ท (Likert) 5 ตัวเลือก คือ มากที่สุด มาก ปาน กลาง น้อย และน้อยที่สุด การสร้างเครื่องมือ ผู้วิจัยดำเนินการสร้างเครื่องมือ เป็นแบบสอบถามโดยมีขั้นตอนดังนี้ ตอนที่ 1 ศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร แนวคิดและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่าง ประเทศ พร้อมทั้งศึกษาวิธีการสร้างแบบสอบถามจากงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาเรียงลำดับและนำผล การศึกษามาสร้างแบบสอบถาม ตอนที่ 2 นำแบบสอบถามที่สร้างขึ้นเพื่อเสนอคณะกรรมการที่ปรึกษางานวิจัยเพื่อ ตรวจสอบความเหมาะสมและนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่านพิจารณาตรวจสอบแบบสอบถาม โดย การหาค่าดัชนีความสอดคล้อง ก็บางข้อคำถามกับลักษณะเฉพาะกลุ่มพฤติกรรม เพื่อนำมา ปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ตอนที่ 3 นำแบบทดสอบที่ปรับปรุงแก้ไขแล้ว ไปทดลองใช้ (try out) กับผู้บริหารครู และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนอภิจิตรอนุสรณ์จำนวน 30 คนที่ไม่ได้เป็น ประชากร ตอนที่ 4 นำแบบสอบถามที่นำไปทดลองใช้ มาคำนวณหาค่าความเชื่อมั่น ของ แบบสอบถามโดยใช้วิธีการของครอนบาค ได้ค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.9567 การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยดำเนินการดังนี้ นำหนังสือขอความร่วมมือจากคณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร ถึงผู้ อำนวยการโรงเรียนประทุมนุสรณ์ เพื่อขอความอนุเคราะห์เก็บข้อมูล ผู้วิจัยนำแบบสอบถามจากและเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเองจากโรงเรียน ประทุมนุสรณ์ จัดให้มีการประชุม สัมมนา การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ สถิติที่ใช้ในการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้จัดทำข้อมูลหลังจากที่ได้รับแบบสอบถาม กลับคืนมาดำเนินการดังนี้ วิเคราะห์สถานภาพส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถาม ใช้ค่าความถี่ (frequency )ค่าร้อย ละ (percentage) เพื่อเป็นการตอบคำถามการวิจัย ข้อมูล ที่ได้จากการตอบแบบสอบถาม นำมา วิเคราะห์สภาพการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน ประทุมนุสรณ์โดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน จำแนกเป็นขั้นตอนและโดยภาพรวม เสนอ เป็นตารางประกอบความเรียง
วิธีดำเนินการวิจัย (ต่อ) การวิเคราะห์ข้อมูลจากการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับแนวทางการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย จากการศึกษาผลของการวิจัยสามารถสรุปได้ดังนี้ การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนประทุมอนุสรณ์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าอยู่ในระดับ มากทุกด้าน โดยแรงค่าเฉลี่ยรวมจากมากไปหาน้อยดังนี้ด้านเงื่อนไขความรู้ด้านความพอประมาณ ด้านการมีภูมิคุ้มกันในตัวดี เงื่อนไขคุณธรรม และด้านความมีเหตุผลตามลำดับ แนวทางการพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมี ความจำเป็นที่ต้องให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบประโยชน์ของการ บูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกับการเรียนการสอนของโรงเรียนว่ามีความจำเป็นเช่นไร ใน ยุคปัจจุบัน ให้ความรู้ การสาธิตกิจกรรม ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ให้ง่ายขึ้นตลอดจนการให้ความรู้ในเชิงทฤษฎีที่ถูกต้องพร้อมกับยกตัวอย่าง การบูรณาการกับ ศาสตร์แขนงอื่นเพื่อกระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่อการพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ ปัจจัยสำคัญที่ผู้บริหารทุกคน ตระหนักร่วมกันคือรูปแบบการบริหารงานและนโยบายการทำงานนอกจากนั้นก็คือการสร้างระบบ การสื่อสารที่ดีการเปิดโอกาสให้บุคลากรได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นให้เกียรติซึ่งกันและ กันมีการให้รางวัลกับผู้ที่ตั้งใจทำงานและตักเตือนผู้ที่ประพฤติผิดระเบียบวินัย
การอภิปรายผล จากการวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยข้างต้น ผู้วิจัยได้นำไปสู่การอภิปรายดังนี้ จากผลการวิจัยพบว่าการพัฒนากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนประทุมนุสรณ์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับ มากทุกด้าน โดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยดังนี้ ด้านเงื่อนไขความรู้ ด้านความพอประมาณ ด้าน การมีภูมิคุ้มกันในตัวดี ด้านเงื่อนไขคุณธรรมและด้านความมีเหตุผล ตามลำดับ แสดงให้เห็นว่า การ จัดการเรียนการสอนของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ มีการนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในด้าน ต่างๆ อยู่ในระดับมาก จึงทำให้การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของปวัน มีนษ์ รักเรืองเดช ได้วิจัยเรื่อง การประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติของประชาชนที่เข้าร่วม โครงการชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนที่มีการประยุกต์แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงไปปฏิบัติและรับรู้เกี่ยวกับโครงการและการปฏิบัติตามโครงการชีวิตพอเพียงตาม แนวพระราชดำริอยู่ในระดับค่อนข้างมากและสอดคล้องกับงานวิจัยของสุรางลักษณ์ โรจน์พานิช วิจัย เรื่องการประยุกต์ใช้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกับสถานสงเคราะห์ : กรณีศึกษา : สถานสงเคราะห์เด็ก และเยาวชนบ้านเบธาเนีย อำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ผลการวิจัยพบว่าการนำแนวคิดทฤษฎี เศรษฐกิจพอเพียงนั้น สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเพศทุกวัยและทุกระดับการศึกษา แต่พบว่ามีข้อ จำกัดอยู่บ้างในส่วนของการจัดการวิธีการในการนำไปใช้ เช่น กิจกรรมหรือโครงการบางอย่างไม่ว่าทุก คนจะเข้าร่วมได้เหมือนกัน หากนิติกรรมหรือโครงการเป็นตัวชี้วัดการนำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ก็ควร คำนึงถึงอุปสรรคด้านเวลาและความเหมาะสมของช่วงวัยด้วย จากผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ ด้านความพอประมาณ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อ พิจารณาเป็นรายกิจกรรม พบว่า อยู่ในระดับมากทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมแนะแนว มีค่าเฉลี่ยมาก ที่สุด รองลงมาคือ กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมชุมนุม มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด และเมื่อ พิจารณาเป็นรายส่วน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกส่วน โดยไม่ยึดติดค่านิยม ยึดทางสายกลาง มีค่าเฉลี่ย มากที่สุด รองลงมาคือไม่เบียดเบียนตนเอง และไม่เบียดเบียนคนอื่น มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด การพอ ประมาณในความต้องการต่างๆสร้างความสุขให้กับผู้ปฏิบัติ การไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่นเป็นสิ่ง ที่ครูในโรงเรียนพยายามปลูกฝังให้นักเรียน โดยการสอดแทรกเข้ากับกิจกรรมต่างๆที่สามารถสอด แทรกได้ จึงทำให้การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ของ โรงเรียนประทุมนุสรณ์ด้านความพอประมาณ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย ของ สหัทยา พลปัถพี ได้ศึกษาและนำเสนอแนวทางการพัฒนาคนให้มีคุณลักษณะตามปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ผลวิจัยพบว่า คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของคนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แบ่งเป็น 3 ประการคือ 1) พอประมาณได้แก่พอประมาณกับศักยภาพของตน พอประมาณกับสภาพ แวดล้อมและไม่โลภเกินไปจนเบียดเบียนผู้อื่น 2) มีเหตุผลได้แก่ ไม่ประมาท รู้ถึงสาเหตุพิจารณา ค้นหาปัจจัยที่เกี่ยวข้องและคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการกระทำ 3) มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ได้แก่ พึ่งตนเองได้ทางเศรษฐกิจ พึ่งตนเองได้ทางสังคมคำนึงถึง ผลระยะยาวมากกว่าระยะสั้น รู้เท่า ทันและพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคุณลักษณะทั้ง 3 ประการ จะเกิดขึ้นได้จากการพัฒนาความรู้ และคุณธรรม ซึ่งเป็นเงื่อนไขหลักของการพัฒนาคน สอดคล้องกับงานวิจัยของชิงค์วิน ได้ศึกษา บทบาทของผู้กำกับลูกเสือ ที่มีผลต่อการพัฒนากองลูกเสือ ที่มหาวิทยาลัยอลาสก้า พบว่า ผู้กำกับลูก เสือที่มีความเมตตากรุณาเห็นอกเห็นใจและเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือเป็นอย่างดีอารมณ์ดีสนุกสนาน มี การวางแผนแบ่งกลุ่มการเรียนออกเป็นกลุ่มๆ มีการอภิปรายและการละเล่นต่างๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ นายหมู่ลูกเสือและสมาชิกอายุน้อยยังไม่มีความพร้อมอยากเข้าร่วมกิจกรรม
การอภิปรายผล ผู้ปกครองสนับสนุนให้ได้รับการแก้ไขตรงข้ามกับผู้กำกับที่ไม่มีหลักจรรยาบรรณในจิตใจ ไม่มี ความมั่นใจจัดตั้งกองลูกเสือเคร่งเครียดเกินไป จะพัฒนากองลูกเสือได้ผลน้อยกว่าผู้กำกับลูกเสือที่มี ลักษณะดังกล่าวข้างต้น จากผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ ด้านความมีเหตุผล โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณา เป็นรายการกิจกรรม พบว่า อยู่ในระดับมากทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรม แนะแนว มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือกิจกรรมชุมนุม และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ใน ระดับมากทุกด้าน โดยด้าน ความมีเหตุผล มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดรองลงมาคือ ด้านการตัดสินใจ เกี่ยวกับ ระดับความพอเพียง และการพิจารณาจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องและมีการคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นมี ค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด การปลูกฝังการมีเหตุผลให้กับผู้เรียนเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆโดย การสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลของการกระทำ ต่างที่เกี่ยวข้องกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงทำให้การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน ประทุมนุสรณ์ ด้านความมีเหตุผลโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของไรเมอร์ ได้วิจัยเรื่อง ความสัมพันธ์การพัฒนาตนเองกับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรมของวัยรุ่นในเวเนซุเอลา เพื่อสำรวจความเข้าใจของวัยรุ่นและโครงสร้างความรับผิดชอบ และประเมินกระบวนการของความ เข้าใจและโครงสร้างความรับผิดชอบที่เกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม ของวัยรุ่น ในด้านการ พัฒนาตนเองและความรับผิดชอบผลการวิจัย พบว่า การใช้เหตุผลเชิงจริยธรรม การพัฒนาตนเอง ความรับผิดชอบเชิงจริยธรรม และความรับผิดชอบตนเอง มีความสัมพันธ์กับอายุและเพศและชั้นของ ความรับผิดชอบเชิงจริยธรรม มีความสัมพันธ์กับชั้นของการพัฒนาตนเองมากกว่าการใช้เหตุผลเชิง จริยธรรม จากผลการวิจัยพบว่าการพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ ด้านการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อ พิจารณาเป็นรายกิจกรรมพบว่า อยู่ในระดับมากทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมชุมนุม มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมแนะแนว มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด และเมื่อพิจารณา เป็นรายส่วน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกส่วน โดยกิจกรรมชุมนุม มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมแนะแนว มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด แล้วมาพิจารณาเป็นรายส่วนพบ ว่าอยู่ในระดับมากทุกส่วน โดยรู้จักหลีกเลี่ยงความเสี่ยง มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ การกำหนด ความคาดหวังถึงความเป็นไปได้ และการเตรียมตัวให้พร้อมกับผลกระทบ และคำนึงถึงความเป็นไปได้ ของสถานการณ์ต่างๆ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด อาจเนื่องจากกิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรมที่ต้องการสร้าง ภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนให้มีความรู้เท่าทันกับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และสามารถเอาตัวรอดได้ใน ภาวะฉุกเฉิน จึงทำให้การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนประทุมนุสรณ์ ด้านการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับ งานวิจัยของ สมพร พงษ์เสถียรศักดิ์ไ ด้วิจัยเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการประพฤติ ตนตามคุณธรรมในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของผู้เรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 1 ที่ เรียนหลักธรรมในพุทธศาสนาด้วยการสอนแบบโยนิโสมนสิการกับการสอนแบบไตรสิกขา ผลวิจัยพบ ว่า 1) ผู้เรียนที่เรียนหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาด้วยการสอนแบบโยนิโสมนสิการกับการสอนแบบ ไตรสิกขา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการสอน แตกต่างกัน อ่ยางไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ 2) นักเรียนที่ เรียนหลักธรรมในพุทธศาสนาด้วยการเรียนแบบโยนิโสมนสิการกับการสอนแบบไตรสิกขามีการ ประพฤติตนปฏิบัติตนตามคุณธรรมในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทาง สถิติ 3) ผู้เรียนที่เรียนหลักธรรมในพุทธศาสนาด้วยการสอนแบบโยนิโสมนสิการมีการประพฤติ ตน ตามคุณธรรมในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลังการทดลอง สูงกว่าก่อนการทดลอง
การอภิปรายผล 4) ผู้เรียนที่เรียนหลักธรรมในพุทธศาสนาด้วยการสอนแบบไตรสิกขามีการประพฤติตนตามคุณธรรม ในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหลังการ ทดลองสูงกว่าก่อนทดลอง จากผลการวิจัยพบว่าการพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ ด้านเงื่อนไขความรู้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณา เป็นรายกิจกรรม พบว่า อยู่ในระดับมากทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมแนะแนว มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลง มาคือ กิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารี และกิจกรรมชุมนุม มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด และเมื่อพิจารณาเป็นราย ส่วน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกส่วน โดยนำความรู้มาพิจารณา และใช้ความรู้ประกอบการวางแผนมี ค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงคือ ความรอบรู้ เกี่ยวกับวิชาต่างๆ และมีความระมัดระวังในการปฏิบัติ กิจกรรมแนะแนวเป็นกิจกรรม ที่มุ่งเน้นปรับแนวคิดและชี้แนวทางการดำเนินชีวิตในด้านต่างๆ จึงมี ความจำเป็นที่ต้องนำเงื่อนไขความรู้มาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมตลอดทั้ง กิจกรรมต่างๆที่โรงเรียน ดำเนินการ จึงทำให้การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนประทุมนุสรณ์ ด้านเงื่อนไขความรู้ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ปวัน มีนรักษ์เรืองเดช ได้วิจัยเรื่องการประยุกต์แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติของประชาชนที่ เข้าร่วม โครงการชีวิตพอเพียงตามแนวพระราชดำริ ผลวิจัยพบว่าประชาชนมีการประยุกต์แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง ไปปฏิบัติและรับรู้เกี่ยวกับโครงการและการปฏิบัติตามโครงการ ชีวิตพอเพียงตาม แนวพระราชดำริอยู่ในระดับค่อนข้างมาก จากผลการวิจัย พบว่า การพัฒนาการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาขอเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ เงื่อนไขคุณธรรม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็น รายกิจกรรม พบว่า อยู่ในระดับมากทุกกิจกรรม โดยกิจกรรมชุมนุม มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาคือ กิจกรรมแนะแนว และกิจกรรมลูกเสือ-เนตรนารีมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายส่วนพบว่า อยู่ในระดับมากทุกส่วน โดยใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต มีค่าเฉลี่ยมาก ที่สุดรองลงมาคือตระหนัก ในคุณธรรม และมีความอดทนมีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด อาจเนื่องมาจากการทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นหรือ การอยู่ร่วมกับผู้อื่น จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์หรือข้อตกลงร่วมกันนั่นคือความยุติธรรมที่ใช้ในการตัดสิน หรือใช้ในการพิจารณาเหตุการณ์ต่างๆ ว่าความดำเนินต่อไปเช่นไร จึงทำให้การพัฒนากิจกรรมพัฒนา ผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนประทุมอนุสรณ์ ด้านเงื่อนไขคุณธรรม โดยภาพ รวม อยู่ในระดับมากซึ่งสอดคล้อง กับงานวิจัยของ สมศรีจินะวงค์ ได้วิจัยเรื่อง การวิเคราะห์ กระบวนการเรียนรู้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้ ในชุมชนที่ใช้แนวทางการพัฒนา แบบเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า กระบวนการเรียนรู้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้น อาศัยปัจจัยการ เรียนรู้ทั้งปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกและปัจจัยสภาพแวดล้อม โดยมีลักษณะการเรียนรู้ทั้งในระดับ ปัจเจกบุคคล และการรวมกลุ่ม จากแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในชุมชน และภายนอกชุมชน โดยชุมชนบ้าน สุขใจ จังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้ศรัทธาที่มีต่อบุคคลและชุมชนพอเพียง จังหวัดมหาสารคาม ใช้ความศรัทธา ในตนเองและกระบวนการมีส่วนร่วมเป็นเครื่องหนุนนำการเรียนรู้ เพื่อพิจารณา จากแหล่งที่มาของ รายได้เสริม พบว่า หลังจากที่ชุมชนใช้แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง การกระจายรายได้ของ คนในชุมชนดีขึ้น และสอดคล้องกับงานวิจัยของธิดา โมสิกรัตน์และคณะ ได้ร่วมวิจัยเรื่องการพัฒนา วิธีการสอนโดยใช้เศรษฐกิจพอเพียงเป็นต้นแบบคุณธรรม จริยธรรม สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช พบว่า วิธีการสอนที่เหมาะสมกับการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นตัว แบบคุณธรรมจริยธรรมสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คือ การเรียนรู้ร่วมกันที่มี กระบวนการเรียนในกลุ่มตามขั้นตอนของการเรียน ร่วมมือแบบสแตด กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นใน ระดับมาก ทั้งวิธีการสอนและอาจารย์ผู้สอน โดยเห็นว่าวิธีการสอนที่นำมาใช้ทำให้มีความรู้ความ เข้าใจคุณธรรมจริยธรรมเพิ่มขึ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและการทำงานได้ ในด้านอาจารย์ผู้ สอนกลุ่มตัวอย่างมีความเห็นว่าใช้เวลาสอนที่เหมาะสมจงเวลาใช้ภาษาที่ทำให้เข้าใจได้ชัดเจนและใช้ วิธีสอน มีการอธิบายสรุปประเด็นและตอบข้อซักถามครอบคลุมเนื้อหาตรงประเด็นและชัดเจน
การพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านทุ่งฮ้าง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังการใช้หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อศึกษาพฤติกรรมพอเพียงระหว่างก่อนและหลังการใช้หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กรอบแนวคิด ตัวแปรต้น การจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง (5 หน่วย) หน่วยที่ 1 รับจ่ายอย่างรู้คุณค่าพาชีวิตให้พอเพียง หน่วยที่ 2 พึ่งตนเองในการเพาะปลูก หน่วยที่ 3 พึ่งตนเองในการบริโภค หน่วยที่ 4 พึ่งตนเองในการดูแลสุขภาพ หน่วยที่ 5 เตรียมตัวเพื่อปลูกข้าวกินเอง ตัวแปรตาม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พฤติกรรมความพอเพียง วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านทุ่งฮ้าง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ปีการศึกษา 2555 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง หน่วยการเรียนรู้ 5 หน่วย แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง แบบประเมินพฤติกรรมพอเพียง วิธีการรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยขอหนังสือจากมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เพื่อใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับการ ศึกษาวิจัย เนินการติดต่อผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารโรงเรียน เพื่อขอความร่วมมือ ในการ ศึกษาวิจัย
วิธีดำเนินการวิจัย (ต่อ) การตรวจสอบหาคุณภาพเครื่องมือก่อนการทดลอง เคยผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือแล้วว่าเหมาะสมที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ นำเอกสารที่สร้างขึ้นประกอบด้วยหลักสูตร หน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง ทำการทดลองการเรียนรู้ ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 แจ้งให้นักเรียนรู้วิธีการและบทบาทของนักเรียนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักสูตร เศรษฐกิจพอเพียง วัดและประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบประเมิน พฤติกรรมพอเพียง การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้นำข้อมูลที่เก็บรวบรวม มาวิเคราะห์ข้อมูล โปรแกรมคอมพิวเตอร์สําเร็จรูป สถิติที่ ใช้สถิติพื้นฐานค่าเฉลี่ย หาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ในการทดสอบเครื่องมือ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องเศรษฐกิจ พอเพียง โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปของปกรณ์ ประจันบา ผลการวิจัย หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงที่พัฒนาขึ้นมีโครงสร้าง 5 หน่วยการเรียนรู้ได้แก่ หน่วยรับจ่าย อย่างรู้คุณค่าพาชีวิตให้พอเพียง หน่วยพึ่งตนเองในการเพาะปลูก หน่วยพึ่งตนเองในการบริโภค หน่วยพึ่งตนเองในการดูแลสุขภาพ หน่วยเตรียมตัวเพื่อปลูกข้าวกินเอง พบว่า ผลความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ ต่อหน่วยการเรียนรู้โดยภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดค่าเฉลี่ย 4.69 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.09 เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยของความคิดเห็นในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ พบว่า ทุกหน่วยการเรียนรู้มีความเหมาะสมอยู่ในระดับ มากที่สุด ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 4 พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 52.86 หลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 83.33 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียนพบว่าคะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียน เพิ่มขึ้น ร้อยละ 30.47 พฤติกรรมพอเพียงของนักเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงพบ ว่ามีค่าเฉลี่ยก่อนเรียนร้อยละ 69.88 และค่าเฉลี่ยหลังเรียนร้อยละ 92.14 เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.26
อภิปราย การวิจัยพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านทุ่งฮ้างอภิปราย ผลได้ดังนี้ ผลการพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง มีค่าความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด แสดงให้เห็นว่าเอกสารประกอบหลักสูตรที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นนั้น มีลำดับขั้นตอนการสร้างถูกต้องตาม ขั้นตอนคือ ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ความต้องการของชุมชนและผู้เรียน มีการกำหนดจุดประสงค์ เฉพาะ จัดเนื้อหาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและประเมินผลเป็นไปตามขั้นตอนของไทเลอร์ (1970 อ้างในหอม คลายานนท์, 2534 ) และจิตรลดา ทองอันดัง (2550 ) และเทียน เต้ยหล้า (2551) ผลของการพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง เกี่ยวกับหน่วยและการจัดการเรียนรู้มีความ สอดคล้องระดับ มากที่สุดแสดงให้เห็นว่าเอกสารประกอบหลักสูตรที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น มีหน่วยและ เนื้อหาที่บูรณาการการดำเนินชีวิตจริงในสังคม เป็นไปตามความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น มี เนื้อหาสัมพันธ์กับชีวิตจริง จากสิ่งที่มีความง่ายจากการดำเนินชีวิตประจำวันไปสู่สิ่งที่มีความยาก จากเนื้อหาไปสู่การปฏิบัติ ตั้งแต่การจัดทําบัญชีรายรับรายจ่ายในครัวเรือน การทำปุ๋ยน้ำหมัก ชีวภาพ การปลูกพืชผักสวนครัว การปลูกพืชสมุนไพร และการรู้เรื่องข้าว เป็นการเพิ่มความ สามารถ ที่จะได้ใช้ประสบการณ์ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เป็นการสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับสิ่ง แวดล้อม มีการวางแผนโดยการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานทางที่โรงเรียน และที่บ้านผู้เรียน สอดคล้อง กับงานวิจัยของไทเลอร์ (1970) ข้างในหอม คลายาอานนท์ (2534) ศริญญา ดวงสัน (2550) จิตรลดา ทองอันตังฤทธิ์ (2550) วงเดือน วงพันธ์ (2551) หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น เป็นหลักสูตรที่เน้นการจัดการเรียนรู้แบบ ประสบการณ์จริง เป็นไปตามแนวการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ (1970) ข้างในหอม คลายานนท์ (2534) และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ 2545 (2557) ได้กล่าว ถึงแนวในการจัดการศึกษา ว่าต้องเน้นความสำคัญทั้งความรู้คุณธรรม กระบวนการ จัดกิจกรรมให้ผู้ เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกปฏิบัติได้ ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น ตรงกับแนวคิด ของกับ แนวคิด ของสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (2550) ที่ได้กล่าวถึงประสบการณ์ 5 ขั้น คือ ขั้น ประสบการณ์ ขั้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ขั้นอภิปรายผล ขั้นสรุปพาดพิง ขั้นประยุกต์ใช้ ผู้เรียนได้ เรียนรู้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝนพฤติกรรม เด็กเกิดความพึงพอใจในพฤติกรรมที่เขาได้กระทำ และทุกๆคนสามารถปฏิบัติได้ด้วยตนเองและประสบการณ์ ที่จัดให้กับนักเรียนและสอดคล้องกับ กระทรวงศึกษาธิการ (2552) ที่อธิบายว่าการจัดการเรียนรู้ต้องเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญกระบวนการ เรียนรู้จากประสบการณ์จริงกระบวนการปฏิบัติลงมือทำจริง สามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ ดีบรรลุเป้าหมายของหลักสูตร ของเทียน เต้ยหล้า(2553) ด้านโครงสร้างของหลักสูตรมีความสอดคล้องระดับมากที่สุดเหมาะสมกับความสามารถ ของผู้เรียน โครงสร้างของหลักสูตรสอดคล้องกับแนวการจัดการเรียนรู้ เหมาะสมกับสาระและขั้น ตอนจัดการเรียนรู้สาระ มีความชัดเจนมีความยากง่ายเหมาะสมกับผู้เรียน โดยสัมพันธ์กับท้องถิ่น ชีวิตจริง ด้านการจัดการเรียนรู้ของหลักสูตร มีความสอดคล้องระดับดีมาก เพราะจัดการเรียนรู้ได้ เหมาะสมกับจุดหมายของหลักสูตร ผสมกับสาระ การจัดการเรียนรู้เน้นประสบการณ์ลงมือปฏิบัติ จริง เน้นกระบวนการกลุ่ม เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เนื้อหาสอดคล้องกับท้องถิ่น สอดคล้องกับชีวิต จริง
อภิปราย (ต่อ) ด้านเวลาเรียน ของหลักสูตรอยู่ในระดับมาก เวลาเรียนสามารถยืดหยุ่นได้ โดยเฉพาะ กิจกรรมที่ปฏิบัติต้องใช้เวลามากกว่าปกติ นอกจากนี้ ต้องใช้นอกเวลาเรียนเพิ่มเติม เช่น การดูแล ผัก หรือกิจกรรมเพิ่มเติมที่บ้าน ด้านสื่อและแหล่งเรียนรู้ เหมาะสมมากที่สุด ใช้ทั้งเทคโนโลยี สื่อบุคคลเป็นวิทยากรท้องถิ่น และแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น นักเรียนได้สัมผัสกับประสบการณ์จริง เหมาะสมกับระดับและวัยของ นักเรียน ด้านการวัดผลประเมินหลักสูตร อยู่ในระดับมากที่สุด เพราะเป็นหลักสูตร ขนาดระดับชั้น เรียนประเมินเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ ผลการใช้หลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่านักเรียนมีคะแนน เฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียง ได้สร้างตาม กระบวนการการสร้างเอกสารที่ถูกต้อง มีการตรวจสอบคุณภาพด้วยผู้เชี่ยวชาญ มีลำดับเนื้อหา จาก ง่ายไปหายาก เนื้อหาและกิจกรรมสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันของนักเรียน กิจกรรมที่ ปฏิบัติ มีทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ฝึกฝน และได้เรียนรู้สถานกา รณ์ใหม่ๆ การปฏิบัติเป็นการปฏิบัติประสบการณ์จริงด้วยตนเองทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน นักเรียน สามารถเรียนรู้เนื้อหาไปพร้อมกับการปฏิบัติ สอดคล้องกับผลการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ (1970) อ้างในหอม คลายานนท์ (2534 ) จิตรลดา ทองอันตังฤทธิ์ (2550) ธัญญา กฤตานนท์ (2553) ยุพิน อินตะวงศ์ (2555 ) สมชาย แอบสมตัว (2553) ผลการพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงต่อพฤติกรรม พอเพียงของผู้เรียน พบว่า พฤติกรรมพอเพียงของผู้เรียนมีความก้าวหน้า หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก ผู้ ประเมินคือตัวผู้เรียนเอง ผู้ปกครอง ได้อยู่คลุกคลีกับตัวนักเรียนเป็นประจำ คุณครูผู้สอนสามารถ สังเกต และดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง แบบประเมินความพอเพียง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักเรียน ได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงมีการวิเคราะห์ตนเองให้รู้จัก ความพอเพียง พอดี พอกิน พออยู่ มา แล้ว เด็กได้ฝึกกิจกรรมซ้ำๆกันทำให้เกิดพฤติกรรมเคยชิน ระดับผลการประเมินพฤติกรรมนักเรียน ในแต่ละด้าน มีดังนี้ ด้านความพอประมาณ ด้านความมีเหตุผล ด้านมีภูมิคุ้มกัน ด้านความรู้ ด้าน คุณธรรมมีค่า สรุปผลรวมคิดเป็นร้อยละ 92.14 คุณลักษณะค่าคะแนนสูงสุดคือ ด้านคุณธรรม แสดงว่าแบบประเมินพฤติกรรมมีความเหมาะสมเพราะแบบประเมินได้ผ่านการตรวจสอบจากผู้ เชี่ยวชาญและประเมินพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับแนว ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงของสมพร เทพสิทธา (2550 ) สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ ทางการศึกษา (2547) ที่กล่าวว่าการจัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่างๆ อย่างสมดุลรวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสอดคล้อง กับผลวิจัยของธัญญา กฤตานนท์ (2553) และยุพิน อินตะวงศ์ 2555 ข้อเสนอแนะ การนำหลักสูตรไปใช้ควรกำหนดแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น ซึ่งสอดคล้องกับหลักแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียงผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและประยุกต์ใช้ได้เหมาะสมกับการดำรง ชีวิตในสังคมของชุมชน ควรมีการวิจัยศึกษาการพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงทั้งโรงเรียนและจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดปีการศึกษา
ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัด เทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน สังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตามสถานภาพและประสบการณ์การทำงาน กรอบแนวคิด การศึกษาผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัด เทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ผู้ศึกษาได้ประมวลและกลั่นกรองจากพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ 2557 มาใช้เป็นกรอบแนวคิดสังเคราะห์ออกมาได้เป็น 5 องค์ประกอบ
วิธีดำเนินการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัด เทศบาลอำเภอเมืองจังหวัดนครพนมจำนวน 286 คนประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 30 คนและครูผู้สอนจำนวน 256 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนในโรงเรียน สังกัดเทศบาลอำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม กำหนดขนาดและกลุ่มตัวอย่างโดยใช้เกณฑ์ร้อยละ 85 ของประชากร สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้น ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 107 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือแบบสอบถาม (QUESTIONNAIRE) ซึ่ง ผู้วิจัยได้แบ่งออกเป็น 2 ตอนคือตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นแบบสำรวจรายการ (CHECKLIST) จำนวน 2 ข้อตอนที่ 2 ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัด เทศบาลอำเภอเมืองจังหวัดนครพนมจำนวน 53 ข้อ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า RATING SCALE 5 ระดับ ถามเกี่ยวกับ การดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียน สังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ซึ่งแบบสอบถามได้ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิง เนื้อหา (IOC) จากผู้เชี่ยววชาญ 5 คนซึ่งมีค่าอยู่ระหว่าง 0.60 ถึง 1.00 แล้วนำไปทดลองใช้ค่าอำนาจ จำแนกอยู่ระหว่าง 0.34 ถึง 0.93 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.92 โดยวิธีสัมประสิทธิ์ของ CRONBACH (บุญชมศรีสะอาด, 2560) การเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยนำแบบสอบถามพร้อมกับหนังสือราชการขอความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม จากมหาวิทยาลัยนครพนม ขออนุญาตผู้บริหารโรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วจึงประสานงานผ่านทางโทรศัพท์เพื่อเก็บ รวบรวมแบบสอบถาม เก็บแบบสอบถามกลับคืนมาจำนวน 107 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100 ในช่วง เดือนสิงหาคม - กันยายน 2558 การวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์การดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัด เทศบาลอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยรวมรายด้านและรายข้อ ใช้ค่าเฉลี่ย X BAR และส่วนเบี่ยง เบนมาตรฐาน (S.D.) วิเคราะห์ผลการดำเนินกิจกรรม ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัด เทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตามสภาพ ด้วยค่าที (T-TEST แบบ INDEPENDENT SAMPLES) และประสบการณ์การทำงานโดยการวิเคราะห์ตามความแปรปรวนแบบทางเดียว (F TEST แบบ ONE WAY ANOVA)
ผลการวิจัย ผลการดำเนินกิจกรรม ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม รวบรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ส่วนที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความพอเพียง แล้วด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการสร้างภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีดังตารางที่ 1 การเปรียบเทียบ ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน สังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตามสภาพงานและประสบการณ์การทํางาน โดยรวมแต่ละรายด้าน แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ ดังตารางที่ 2 และตารางที่ 3
ผลการวิจัย อภิปรายผล ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอ เมือง จังหวัดนครพนม โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้เนื่องจากสภาพปัจจุบันมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจสังคมและโลก ทำให้เกิดการแข่งขันสูงในทุกๆด้าน ดังนั้น โรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จึงนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ในการบริหารสถานศึกษาเพื่อช่วยให้สถานศึกษาได้บริหารทรัพยากรทางการศึกษาได้อย่างเหมาะ สม เพียงพอต่อความจำเป็นของสถานศึกษา โดยการนำเอาหลักความพอดีในการจัดทำแผนใช้งบ ประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม ส่งเสริมให้บุคลากรในสถานศึกษานำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิตประจำวัน พัฒนาหลักสูตรให้มีสาระปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น มีการบริหารตามหลักการแบบประชาธิปไตยผู้บริหารส่ง เสริมความรักสามัคคีและความมีน้ำใจในการทำงานร่วมกัน ผู้บริหารใช้หลักสูตรคุณธรรมเป็น แนวทางในการปฏิบัติงานศึกษา ด้วยเหตุนี้ดังกล่าวจึงทำให้ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนมโดยรวมและรายด้านอยู่ ในระดับมาก สอดคล้องกับ อรกานต์ เพ็งขันธ์ เพ็งขันธ์ (2556) ได้ทำการวิจัยการบริหารตาม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐบาล เขตจังหวัดสมุทรปราการ พบว่า การ บริหารตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนมัธยมศึกษาของรัฐบาล เขตจังหวัดสมุทรปราการ ตามความคิดของผู้บริหารอยู่ในระดับมากที่สุดและตามความคิดเห็นของครูอยู่ในระดับมาก
อภิปรายผล (ต่อ) การเปรียบเทียบผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัด เทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตามสถานภาพแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เนื่องมาจากการศึกษาเป็นปัจจัยในการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลต่อการ พัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ สังคมการเมืองและวัฒนธรรม ดังนั้น การให้การศึกษา แก่ประชาชนของประเทศ จึงเป็นการสร้างพลังอำนาจให้แก่บ้านเมือง ดังที่ มารศรี ศักดา (2557) ได้ ทำการวิจัยบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียน ขยายโอกาส สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานีเขต 2 พบว่า ประเทศไทย มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับสูงก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมหลายๆด้าน ทำให้วิถีชีวิต และค่านิยมของสังคมเปลี่ยนไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีพระราชดํารัส \"ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง\" เพื่อชี้แนะแนวทางในการดำเนินชีวิตให้แก่ชาวไทยสามารถดำรงอยู่ได้ อย่างมั่นคงและยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่นเดียวกับ อภิเดช คำจันทราช (2556)ได้ทำการวิจัย ประสิทธิผลการดำเนินงานในสถานศึกษาพอเพียงแกนนำต้นแบบ การขับเคลื่อนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา บุรีรัมย์เขต 4 พบว่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิถีการดำเนินชีวิตของคน โดยการพึ่งตนเอง ให้มีความประหยัดพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ภูมิปัญญาสอดคล้องกับสภาพท้องถิ่น รู้จักใช้ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างประหยัดและคุ้มค่าและยั่งยืน มีจิตสำนึกที่ดีต่อบ้านเมือง และสังคม โดยเฉพาะผู้บริหารและครูผู้สอนควรนำความรู้เศรษฐกิจพอเพียง ไปบูรณาการส่งเสริม สถานศึกษาด้วย ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอ เพียงของโรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตาม สถานภาพ โดยรวมและ รายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ สอดคล้องกับ อัฐมา เจียมวิจิตร์ (2556) ได้ทำวิจัย สภาพการ บริหารจัดการศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การ ศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรีเขต 2 พบว่าการเปรียบเทียบสภาพ การบริหารจัดการศึกษาตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรีเขต 2 จำแนกตามตำแหน่งหน้าที่ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน การเปรียบเทียบผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนสังกัด เทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตามและประสบการณ์การทำงานโดยรวมและรายด้าน แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ ทั้งนี้เนื่องมาจาก การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการ บริหารการจัดการศึกษาในสถานศึกษาควรมุ่งเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ปลูกฝังและเสริมสร้างนิสัยให้ผู้ เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้มี ความรู้ความเข้าใจ ในหลักการของปรัชญา ตระหนักในความสำคัญและทักษะพื้นฐานในการปฏิบัติ ตน และดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้นสถานศึกษาควรมีการจัดระบบการ บริหารจัดการภายในสถานศึกษาเพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง ดังที่ รตี เหงาจิ้น (2556) ได้ทำการวิจัยการ จัดการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง กรณีศึกษาฟาร์มนายนริศ คำธิศรี ปราชญ์ชาวบ้าน จังหวัด สกลนคร พบว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจทุนนิยมยุคโลกาภิวัตน์ ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกร โดยตรงรวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของการผลิต ทางการเกษตรเกิดความ เสื่อมโทรมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นแนวทางในการรอดพ้นจาก ภาวะวิกฤตได้ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงทำให้ผลการดำเนินกิจกรรม ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนเทศบาลอำเภอเมือง จังหวัดนครพนม จำแนกตามสถานภาพโดยรวมและรายด้านแตก ต่างกันอย่างไม่มีนัยยะสำคัญสอดคล้องกับ ดวงแดน วงเดือน (2558) พบว่า สภาพการบริหารการ ศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 28 จำแนกตามประสบการณ์ การทำงาน โดยภาพรวมแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะเพื่อการนำผลการวิจัยไปใช้ สถานศึกษาควรมีระบบการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ได้รับอย่างมีเหตุผลตามความจำเป็นไม่ เกินตัว ผู้บริหารสถานศึกษาควรประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่องความ ประหยัดและความพอเพียง ผู้บริหารสถานศึกษาควรสร้างความตระหนักให้บุคลากรในการเป็นเจ้าขององค์กรร่วมกัน ควรมีการประสานความร่วมมือ กับหน่วยงานต่างๆในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาสถานศึกษา สถานศึกษาควรมีมาตรการในการตรวจสอบการใช้เงินให้เป็นไปตามแผนทั้งรายจ่ายและ รายรับ ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป ควรศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ควรศึกษากระบวนการพัฒนาการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ควรศึกษาปัญหา ในต่อการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียน สังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
การนำไปประยุกต์ใช้ ด้านการบริหารสถานศึกษา การบริการสถานศึกษาด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในทุกฝ่าย งาน ช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก เป็นแบบอย่างที่ดี ตามหลัก 3 ห่วง 2 เงื่ อนไข มีความพอ ประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี เงื่ อนไขความรู้ และเงื่ อนไขคุณธรรม ก่อนจะทำอะไรต้อง พิจารณาหลัก 3 ห่วง 2 เงื่ อนไขเสมอ โดยเฉพาะงาน 4 ฝ่ายในสถานศึกษา ได้แก่ งานบริหารวิชาการ เช่น ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนา 2019 งาน วิชาการต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะบริหารอย่างไรให้สามารถจัดการเรียนการสอนได้ซึ่งงาน วิชาการต้องคิดค้นนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนขึ้ นมาเพื่ อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด งานบริหารบุคคล เช่น ส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัตงานภายใต้สถานการณ์ความไม่ปกติ อย่างปัจจุบัน อาจมีการ Work from home ซึ่งยากต่อการนิเทศติดตาม การมีคุณธรรมใน เรื่องของ ความซื่อสัตย์ จึงสำคัญสำหรับบุคลากรของสถานศึกษา เป็นต้น งานบริหารงบประมาณ เช่น ต้องมีคุณธรรม ด้านความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส มีความ พอดีและมีเหตุผลในการใช้จ่าย และควรกันงบประมาณบางส่วนไว้เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีในยาม ฉุกเฉิน ด้านบริหารงานทั่วไป เป็นการบริหารในวงกว้างของสถานศึกษา ต้องยึกหลัก 3 ห่วง 2 เงื่ อนไขมาประยุกต์ใช้ในการบริหารงาน ด้านการจัดเรียนการสอน การจัดการเรียนรู้สามารถนำหลัก 3 ห่วง 2 เงื่ อนไข มาเป็นเนื้อหาในรายวิชาหรือกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน อีกทั้งยังสามารถนำหลักดังกล่าวมาบูรณาการในกระบวนการจัดการเรียนการสอน ได้ เช่น ความพอประมาณ ครูต้องสอนเนื้อหาที่มีความพอประมาณกับลักษณะของผู้เรียน หาก สอนมากเกินไปอาจทำให้ผู้เรียนเครียด หากสอนเนื้อหาน้อยเกินไปทำให้ผู้เรียนได้เรียนรู้น้อย ต้อง มีความพอดี เป็นต้น ด้านผู้สอนและผู้เรียน ครูผู้สอนต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ ใช้ในชีวิตประจำวัน การจัดการเรียนการสอน เช่น มีความพอประมาณ มีเหตุผลไม่สอนใช้อำนาจ ข่มขู่นักเรียนให้กลัวแต่ต้องอธิบายด้วยหลักการและเหตุผล เป็นต้น ด้านผู้เรียนครูต้องส่งเสริมให้นักเรียนพึ่งพาตนเองได้ให้มากที่สุดจึงค่อยพึ่งพาผู้อื่ น เช่น เรื่องการเรียน ไม่ลอกงานเพื่อน อีกทั้งจะส่งเสริมในเรื่องของการอุปโภคบริโภคในมีค่าใช้จ่าย น้อยที่สุด เช่น การใช้ดินสอจนหมดแท่ง การปลูกผักทานเอง การหยอดกระปุกออมสิน เป็นต้น
บรรณานุกรม ปัฐนันท์ เม่งช่วย และผู้แต่งคนอื่ นๆ. (2552) กระบวนการจัดการเรียนการ สอนแบบบูรณาการตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง : กรณีศึกษาโรงเรียน รัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี :.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์,:ม.ป.ท. พระนพพร สู่เสน. (2559) การจัดการศึกษาบนพื้นฐานหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง กรณีศึกษาโรงเรียนศรีแสงธรรม . มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช/ นนทบุรี. วิยะดา ธนสารมงคลกุล. (2552) การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของโรงเรียนประทุมนุสรณ์ . มหาวิทยาลัยศิลปากร/นครปฐม. มนู วรรณารักษ์. (2557) การพัฒนาหลักสูตรเศรษฐกิจพอเพียงชั้นประถมศึกษาปีที 4 โรงเรียนบ้านทุ่งฮ้าง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง.มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง/ ลำปาง กาณจนา คำสุภา. (2560) ผลการดำเนินกิจกรรมตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ โรงเรียนสังกัดเทศบาล อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม. มหาวิทยาลัยนครพนม / นครพนม
ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ พ ร ะ น ค ร PHRANAKORN RAJABHAT UNIVERSITY ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับผู้บริหารการศึกษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: