Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบ เล่มเต็มๆ

ระบบ เล่มเต็มๆ

Published by aabb2467, 2022-03-17 09:56:17

Description: ระบบ เล่มเต็มๆ

Search

Read the Text Version

การวเิ คราะหร์ ะบบการเบกิ จา่ ยพสั ดุ (กรณศี ึกษา เทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน) จัดทำโดย เลขท่ี 3 นายณัฐภัทร วฒุ ชิ ัย เลขท่ี 4 นายธีรวฒั น์ พานทอง เลขที่ 12 นายคณัสนนั ท์ ทรพั ยส์ นิ เสนอ ครจู ริ วรรณ มะลาไสย รายงานเลม่ นเ้ี ป็นส่วนหนงึ่ ของรายวิชาการวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วชิ า 3204–2006 สาขาวิชาเทคโนโลยีธุรกจิ ดิจิทลั หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสูง (ปวส.) วทิ ยาลัยเทคนคิ จันทบรุ ี ประจำภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

การวเิ คราะหร์ ะบบการเบกิ จา่ ยพสั ดุ (กรณศี ึกษา เทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน) จัดทำโดย เลขท่ี 3 นายณัฐภัทร วฒุ ชิ ัย เลขท่ี 4 นายธีรวฒั น์ พานทอง เลขที่ 12 นายคณัสนนั ท์ ทรพั ยส์ นิ เสนอ ครจู ริ วรรณ มะลาไสย รายงานเลม่ นเ้ี ป็นส่วนหนงึ่ ของรายวิชาการวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบเชิงวตั ถุ รหสั วชิ า 3204–2006 สาขาวิชาเทคโนโลยีธรุ กจิ ดิจิทลั หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชั้นสูง (ปวส.) วทิ ยาลัยเทคนคิ จันทบรุ ี ประจำภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

คำนำ ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานราชการหรือกิจกรรมต่าง ๆ อยู่เสมอไม่ว่าจะทั้งทางตรงและทางอ้อมระบบการเบิกจ่ายพัสดุก็ยังไม่มีความนิยมนำสารสนเทศเข้า มาช่วยในการจัดเก็บข้อมูลส่วนใหญ่ของหน่วยงานราชการนิยมที่จะใช้การจดบันทึกแทนการใช้ เทคโนโลยสี ารสนเทศทำใหเ้ กดิ ความไมส่ ะดวกในหลายเรือ่ ง ใ น ร า ย ง า น เ ล ่ ม น ี ้ ค ณ ะ ผ ู ้ จ ั ด ท ำ ไ ด ้ ก ล ่ า ว ถ ึ ง ก า ร ท ำ ง า น ข อ ง ร ะ บ บ เ บ ิ ก จ ่ า ย พ ั ส ดุ ซ ึ ่ ง เ ป็ น การวิเคราะห์ปัญหาของระบบระบบการการจ่ายพัสดุหรือการจัดเก็บข้อมูลผู้เบิกพัสดุหรือพัสดุ พร้อมทั้งมีการเสนอแนวทางแก้ไขปัญหารวมทั้งมีการออกแบบระบบใหม่โดยการน ำเทคโนโลยี สารสนเทศเขา้ มาใชผ้ ู้สนใจสามารถนำไปวเิ คราะห์และพฒั นาระบบตอ่ ไปไดใ้ นภายหนา้ คณะผจู้ ดั ทำ ก

สารบัญ หนา้ ก คำนำ ข สารบญั ง สารบัญตาราง จ สารบัญภาพ 1 บทท่ี 1 บทนำ 1 1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ 1 1.2 วตั ถุประสงค์ของการวจิ ัย 2 1.3 ขอบเขตการวิจยั 2 1.4 คำจำกัดความทใ่ี ชใ้ นงานวิจยั 1.5 ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะได้รบั 3 4 บทที่ 2 แนวคดิ ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ัยทเ่ี กี่ยวข้อง 8 2.1 การวเิ คราะห์และออกแบบระบบ 15 2.2 หลักการเขยี นผงั งานระบบ 16 2.3 ความร้เู บอ้ื งตน้ เกี่ยวกบั ระบบฐานข้อมูล 17 2.4 โปรแกรม Notepad++ 18 2.5 ภาษา PHP 19 2.6 ภาษา SQL 2.7 กรอบแนวคิดในการวจิ ยั 20 2.8 งานวิจัยทเ่ี กี่ยวข้อง 20 20 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนนิ การวิจยั 20 3.1 การรวบรวมข้อมูล 3.2 การศกึ ษาความเปน็ ไปได้ 3.3 วเิ คราะหโ์ ดยใช้ Data Flow Diagram : DFD 3.4 ความหมายของ Data Flow Diagram และ Entity Relationship Diagram ข

สารบญั (ต่อ) 3.5 ความสมั พนั ธท์ ัง้ หมดของระบบเบิกจา่ ยพสั ดุ หนา้ ของเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน 25 บทที่ 4 ผลการวจิ ัย 27 4.1 ระบบการเบิกจา่ ยพสั ดุ เทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน 32 4.2 การจดั เกบ็ Data Base บทท่ี 5 สรปุ ผลการวจิ ัยอภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ 34 5.1 สรุปผลการวิจัย 34 5.2 ข้อเสนอแนะสำหรับผลการวจิ ยั ที่ไปใช้ 35 37 บรรณานุกรม ภาคผนวก ก 39 Data Flow Diagram หรอื DFD ระดบั 0 ของระบบการเบิกจ่ายพสั ดุ 41 (เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน) ภาคผนวก ข 44 Data Flow Diagram หรือ DFD ระดบั 1 ของระบบการเบิกจา่ ยพสั ดุ (เทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน) ภาคผนวก ค ER-Model แบบ Chen Model and Crow'sFoot Model ของระบบการเบกิ จา่ ยพสั ดุ (เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน) ภาคผนวก ง Entity Relationship Diagram ของระบบการเบิกจา่ ยพสั ดุ (เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน) ภาคผนวก จ 46 สรุปบทสัมภาษณ์ 47 คำถาม 15 ข้อ ค

สารบัญตาราง หนา้ 7 ตารางที่ 8 2.1 ตารางสัญลักษณ์มาตรฐานที่ใช้เขยี นผังงานระบบ 21 2.1 ตารางสัญลกั ษณ์มาตรฐานที่ใชเ้ ขียนผงั งานระบบ (ตอ่ ) 31 3.1 ตารางสญั ลักษณท์ ใ่ี ชใ้ น Data Flow Diagram 32 4.2.1 แสดงข้อมูลแผนก 32 4.2.2 แสดงขอ้ มูลการเบิกจ่ายพสั ดุ 32 4.2.3 แสดงข้อมูลประเภท 32 4.2.4 แสดงข้อมูลรหัสพนักงาน 32 4.2.5 แสดงข้อมูลพัสดุ 32 4.2.6 แสดงขอ้ มลู แผนก 33 4.2.7 แสดงการเบกิ จ่ายพัสดุ 33 4.2.8 แสดงประเภทของพัสดุ 33 4.2.9 แสดงพนักงาน 4.2.10 แสดงพสั ดุ ง

สารบัญภาพ หนา้ 22 ภาพที่ 3.1 แผนภาพกระแสข้อมูล (Data Flow Diagram) 23 Data Flow Diagram ของ level 0 24 3.2 แผนภาพกระแสข้อมลู (Data Flow Diagram) 25 Data Flow Diagram ของ level 1 25 3.3 แสดงถึง Entity Relationship Diagram 25 25 ของเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน 26 3.4 การออกแบบตารางข้อมูล เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน 26 3.5 การออกแบบตารางขอ้ มูล Product 27 3.6 การออกแบบตารางขอ้ มูล order_detail 27 3.7 การออกแบบตารางขอ้ มูล order_head 28 3.8 การออกแบบตารางขอ้ มูล staff 28 3.9 การออกแบบตารางขอ้ มูล type 29 4.1 หนา้ หลกั ของโปรแกรม 29 4.2 หนา้ พนกั งานทั้งหมด 30 4.3 หน้าพสั ดุ มี 6 รายการเพ่ือเรียกดขู ้อมูล 30 4.4 หน้าเพ่มิ ข้อมลู ประเภทพสั ดุ 31 4.5 หน้าลบขอ้ มูลประเภท 31 4.6 หนา้ เพ่ิมข้อมลู พสั ดุ 4.7 หนา้ ลบขอ้ มูลพัสดุ 4.8 หนา้ แสดงรายการพสั ดทุ ง้ั หมด 4.9 หน้าเบิกจา่ ยพัสดุ 4.10 หนา้ กรอกรายละเอยี ดผ้เู บกิ จ

1 บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ความเปน็ มาและความสำคัญ กกกกกกกกงานพสั ดุ เปน็ งานท่สี ำคัญงานหนงึ่ ของเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน ต้องทำควบคู่กับ งานการเงิน พนักงานเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวนได้บริหารอย่างเป็นระบบระเบียบ โดยการจด บันทึกลงสมุด และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เนื่องจากการใช้งานที่ง่ายและสามารถเข้าถึงได้ทุก เพศทุกวัย อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งนอกจากจะมีความสามารถในการพิมพ์เอกสาร ออกแบบ และพัฒนางานต่าง ๆ ได้แล้ว ทั้งความจุ ความเร็ว ความสวยของภาพ และความทันสมัย ทำให้ สามารถนำระบบปฏิบัติการลงไปใสใ่ นเครื่องคอมพิวเตอรไ์ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพมากขึ้น กกกกกกกกเนือ่ งจากระบบการเบิกจ่ายพัสดุแบบเดิมยังมีการจดบันทึกใส่สมุด แล้วแต่ละสปั ดาห์ก็จะ นำข้อมูลการเบิกพัสดุนั้นมาพิมพ์ลงใน Microsoft Excel ซึ่งการทำพัสดุแบบเดิมนั้นยังไม่ตอบสนอง ต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้ตรงต่อความต้องการ เพราะยังไม่มีโปรแกรมสำเร็จรูปในการบันทึก การเบิกจ่ายพัสดุ ซึ่งในการเบิกแต่ละครั้งต้องเขียนใส่สมุด หากลืมเขียนก็จะไม่ได้บันทึกลงใน Microsoft Excel จำทำให้การเช็คพัสดุตอนสิ้นเดือนมีปัญหา คือพัสดุที่เหลือตามจริง กับพัสดุใน ระบบไมต่ รงกนั กกกกกกกกจากปัญหาข้างต้น คณะผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกตใ์ ช้ ในการดำเนินงานดังกล่าว จึงได้มีการจัดทำระบบการเบิกจ่ายพัสดุ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ผ้เู บิกจ่ายพสั ดุให้สามารถดำเนินงานตา่ ง ๆ ได้อยา่ งสะดวกและรวดเรว็ 1.2 ความสำคัญของปัญหา ระบบท่เี รานำมาทำนี้มปี ัญหาเก่ียวกับการแสดงสถานะคงเหลอื ของสนิ คา้ แต่ละประเภท ทำให้ เกิดปัญหาการจ่ายสินค้าและยอดคงเหลือที่เราไม่ทราบ เพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาดในการจ่ายพัสดุ และการรอนานเกินควร และการบริการ เราจึงทำระบบนี้ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวก แกง่ านเทศบาล 1.3 แนวทางแกป้ ัญหา ปญั หาท่เี กิดข้ึนนัน้ เราจึงทำการวเิ คราะห์ระบบการเบกิ จา่ ยพัสดขุ น้ึ มา เพอื่ ไม่ให้เกดิ การผิดพลาด ขึน้ ในการทำงานหรอื การบรกิ ารและการจดั เก็บขอ้ มลู ของเทศบาลในหนว่ ยงานราชการ

2 1.4 วตั ถปุ ระสงคง์ านวจิ ัย เพอ่ื สร้างระบบสารสนเทศในการจดั เก็บขอ้ มูลเบิกจ่ายพัสดุ (กรณศี ึกษา เทศบาลตำบล เขาวัว-พลอยแหวน) 1.5 ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รบั 1.5.1 ไดร้ ะบบสารสนเทศเก่ยี วกับการเบกิ จ่ายพัสดุ (กรณีศกึ ษา เทศบาลตำบลเขาววั - พลอยแหวน) 1.5.2 พนักงานพสั ดุมีความพึงพอใจในการใชร้ ะบบสารสนเทศเกย่ี วกบั การเบกิ จ่ายพสั ดุ อยใู่ นเกณฑด์ ีมาก 1.5.3 สามารถนำความรทู้ ไี่ ดร้ ับไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวัน

3 บทท่ี 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ัยทีเ่ กี่ยวข้อง กกกกกกกกในการดำเนินโครงงานระบบการเบิกจ่ายพัสดุของเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน จะต้องศึกษาหลักการและทฤษฎีของการเขียนโปรแกรมที่นำมาช่วยในการสร้างโปรแกรม ระบบการ เบิกจ่ายพัสดุ โดยใช้โปรแกรม PHP มาสร้าง เพื่อให้สามารถจัดทำโปรแกรมจัดเก็บข้อมูล พัสดุต่าง ๆ อยา่ งมีประสิทธิภาพเพ่ิมยง่ิ มากขึน้ โดยศกึ ษาหลกั การและทฤษฎี ดังหัวข้อต่อไปนี้ 2.1 การวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ 2.2 หลกั การเขียนผงั งานระบบ 2.3 ความหมายของ DFD และ ER Diagram 2.4 วธิ สี รา้ ง DFD 2.5 ความรเู้ บ้ืองต้นเกย่ี วกับระบบฐานขอ้ มูล 2.6 โปรแกรม Notpad++ 2.7 ภาษา PHP 2.8 ภาษา SQL 2.1 การวิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ กกกกกกกกการวิเคราะห์ระบบและการออกแบบ (System Analysis and Design) การวิเคราะห์ และออกแบบระบบคือ วิธีการที่ใช้ในการสร้างระบบสารสนเทศขึ้นมาใหม่ นอกจากการสร้างระบบ สารสนเทศใหม่แล้ว การวิเคราะห์ระบบช่วยในการแก้ไขระบบสารสนเทศเดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นด้วย การวิเคราะห์ระบบก็คือ การหาความต้องการ (Requirements) ของระบบสารสนเทศว่าคืออะไร หรอื ตอ้ งการเพิ่มเติมอะไรเข้ามาในระบบ และการออกแบบกค็ ือการนำเอาความตอ้ งการของระบบมา เป็นแบบแผน หรือเรียกว่าพิมพ์เขียวในการสร้างระบบสารสนเทศนั้นให้ใช้งานได้จริง ตัวอย่าง ระบบ สารสนเทศ เช่น ระบบการขาย ความต้องการของระบบก็คือ สามารถติดตามยอดขายได้ เป็นระยะๆ เพื่อฝ่ายบริหารสามารถปรับปรุงการขายได้ทันท่วงที ตัวอย่างรายงานการขายที่กล่าว มาแล้วจะ ชี้ให้เห็นว่าเราสามารถติดตามการขายได้อย่างไรนักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst หรือ SA) คือ บุคคลที่มีหน้าที่วิเคราะห์และออกแบบระบบ การที่มีนักวิเคราะห์ระบบในองค์กรนั้น เป็นการ ได้เปรียบเพราะจะทำให้รู้โดยละเอียดว่า การทำงานในระบบนั้นๆ เป็นอย่างไร และอะไรคือความ ต้องการของระบบ ในกรณีที่นักวิเคราะห์ระบบไม่ได้อยู่ในองค์กรนั้น ก็สามารถวิเคราะห์ระบบได้ เชน่ กันโดยการศึกษาสอบถามผใู้ ช้ และวธิ ีการอ่นื ๆ ซึ่งจะกล่าวในภายหลงั ผ้ใู ช้ในที่น้ีกค็ อื เจา้ ของ และ ผทู้ ีเ่ ก่ยี วข้อง ในระบบสารสนเทศน้นั เอง ผใู้ ชอ้ าจจะเปน็ คนเดียว หรือหลายคนก็ได้ เพอื่ ให้

4 นักวิเคราะห์ระบบทำงานได้อย่างคล่องตัวมีลำดับขั้นและเป้าหมายที่แน่นอน นักวิเคราะห์ระบบควร ทราบถงึ วา่ ระบบสารสนเทศนน้ั พฒั นาข้นึ มาอยา่ งไร มีขัน้ ตอนอย่างไรบา้ ง 2.2 หลกั การเขียนผงั งานระบบ 2.2.1 ผังงานระบบ คือ รูปภาพหรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนลำดับ หรือขั้นตอนในโปรแกรมรูปภาพ หรือสัญลกั ษณ์ที่ใชเ้ ป็นเอกลกั ษณ์ และแทนความหมายอยา่ งใดอย่างหน่งึ ประเภทของผงั งาน โดยทั่วไปผงั งานคอมพิวเตอร์แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ 2.2.1.1 ผังงานระบบ (System Flowchat) เป็นผังงานที่แสดงถึงขั้นตอนการทำงาน ภายในระบบหนึ่ง โดยจะแสดงถึงความเกี่ยวข้องของส่วนที่สำคัญต่าง ๆ ในระบบนั้น เช่น เอกสาร เบอื้ งตน้ หรอื สื่อบันทึกขอ้ มลู ทใี่ ช้อย่เู ปน็ อะไร และผ่านไปยังหน่วยงานใด มีกจิ กรรมอะไรในหนว่ ยงาน นั้น แล้วจะส่งต่อไปหน่วยงานโต เป็นต้น ดังนั้นผังงานระบบอาจเกี่ยวข้องกับคน วัสดุ และเครื่องจักร ซึ่งแต่ละจุดจะประกอบไปด้วย การนำข้อมูลเข้าวิธีการประมวลผลและการแสดงผลลัพธ์ ( Input Process Output) ว่ามาจากทใ่ี ดอย่างกว้าง ๆ จงึ สามารถเขียนโปรแกรมจากผังงานระบบได้ 2.2.1.2 ผังงานโปรแกรม (Program Flowchat) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า \"ผังงาน\" ผังงาน ประเภทนแี้ สดงถึงขั้นตอนของคำส่ังทีใ่ ช้ในโปรแกรม ผังงานนอี้ าจสร้างจากผังงานระบบโดยผู้เขียนผัง งานจะดึงเอาแต่ละจุดที่เกี่ยวข้องการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏในผังงานระบบมา เขียน เพื่อให้ทราบว่าถ้าจะใช้คอมพิวเตอร์ทำงานในจุดนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตามต้องการ ควรที่จะมี ขั้นตอนคำสั่งอย่างไร และจะไดน้ ำมาเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอรท์ ำงานตอ่ ไป 2.2.2 การใช้งานผังงานระบบ เพื่อให้ทราบถึงความเกี่ยวพันของระบบตังแต่เริ่มต้น ว่ามีการ ปฏิบัติแตล่ ะขัน้ ตอนอย่างไร ใช้วิธีการอะไรบ้าง เหมาะสำหรับผู้บรหิ าร ผู้วิเคราะหร์ ะบบ และ ผู้เขียน โปรแกรม จะได้ทราบถึงความสมั พันธ์ของแผนกต่าง ๆ 2.2.3 ประโยชน์และข้อจำกัดของผังงานระบบ ผังงานระบบเป็นเอกสารประกอบโปรแกรมซึง่ จะ ช่วยให้การศึกษาลำดับขั้นตอนของโปรแกรมง่ายขั้น จึงนิยมเขียนผังงานระบบประกอบ การเขียน โปรแกรม ด้วยเหตุผลดังน้ี 2.2.3.1 คนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้และเข้าใจผังงานระบบได้ง่าย เพราะผังงานระบบไม่ ข้นึ อยกู่ ับภาษาคอมพิวเตอรภ์ าษาใดภาษาหน่ึงโดยเฉพาะ 2.2.3.2 ผังงานระบบเป็นการสื่อความหมายด้วยภาพ ทำให้ง่ายและสะดวกต่อ การ พิจารณาถึงลำดับขั้นตอนในการทำงาน ซึ่งน่าจะดีกว่าบรรยายเป็นตัวอักษร การใช้ข้อความ หรือ คำพดู อาจจะสอื่ ความหมายผิดไปได้ 2.2.3.3 ในงานโปรแกรมที่ไมส่ ลับซบั ซ้อน สามารถใช้ผงั งานระบบตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง ของลำดบั ขัน้ ตอนไดง้ า่ ย โปรแกรมจะแกไ้ ขได้ สะดวกและรวดเรว็ ขึน้

5 2.2.3.4 การเขียนโปรแกรมโดยพิจารณาจากผังงานระบบ สามารถทำให้รวดเร็ว และงา่ ยขน้ึ 2.2.3.5 การบำรุงรักษาโปรแกรมหรือการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโปรแกรมให้มีประสิทธิภาพ ถา้ ดูจากผงั งานระบบจะชว่ ยใหส้ ามารถ ทบทวนงานในโปรแกรมก่อนปรบั ปรงุ ได้ง่ายข้นึ 2.2.4 ข้อจำกัดของผังงานระบบผู้เขียนโปรแกรมบางคนไม่นิยมการเขียนผังงานระบบก่อนที่จะ เขียนโปรแกรมเพราะเสียเวลาในการเขียนเป็นรูปภาพหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีเหตุผล อ่ืนๆ ไดแ้ ก่ 2.2.4.1 ผังงานระบบเป็นการสื่อความหมาระหว่างบุคคลต่อบุคคลมากกว่าที่จะสื่อ ความหมายระหว่างบุคคลกบั เคร่ือง เพราะผังงานระบบไมข่ ึน้ อยู่กับภาษาคอมพิวเตอร์ ภาษาได้ ภาษา หน่งึ ทำใหเ้ คร่ืองไม่สามารถรับและเขา้ ใจวา่ ในมง่ั งานระบบน้ันต้องการให้ทำอะไร 2.2.4.2 เมื่อได้พิจารณาจากผังงานระบบจะไม่สามารถทราบไต้ว่า ชั้นตอน การทำงานใด สำคัญกว่ากนั เพราะทกุ ๆ ชัน้ ตอนใช้รปู ภาพหรอื สัญลักษณใ์ นลกั ษณะเดยี วกัน 2.2.4.3 การเขียนผังงานระบบเป็นการสิ้นเปลือง เพราะจะต้องใช้กระดาษและอุปกรณ์ อื่น ๆ ประกอบการเขียนภาพ บางครั้งการเขียนผังงานระบบอาจจะต้องใช้กระดาษมากกว่า 1 แผ่น ทงั้ ๆ ทกี่ ารอธิบายงานเดียวกันจะใช้เนือ้ ท่ีเพยี ง 3.4 บรรทัดเทา่ นั้น 2.2.4.4 ผังงานระบบจะมีขนาดใหญ่ ถ้าโปรแกรมที่พัฒนาเป็นงานใหญ่ ทำให้ผังงาน ระบบแลดูเทอะทะไม่คล่องตัว และถ้ามีการปรับเปลี่ยนผังงานระบบจะทำได้ยาก นางครั้งอาจจะต้อง เขียนผังงานข้นั ใหม่ 2.2.4.5 ในผังงานระบบจะบอกชั้นตอนการปฏิบัติงานว่าเป็นลำดับอย่างไร ปฏิบัติงาน อะไรแตจ่ ะไม่ระบุให้ทราบวา่ ทำไมจึงต้องเปน็ ลำดับและต้องปฏิบตั งิ านอย่างนนั้ 2.2.4.6 ในภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันในปัจจุบัน เช่น ภาษาซี ผังงานระบบ ไม่สามารถ แทนลักษณะคำสง่ั ในภาษาไดช้ ดั เจน ตรงไปตรงมา 2.2.5 สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียนผังงานระบบต้องใช้สัญลักษณ์ต่าง ๆ นำมาเรียงกันเพื่อแสดง สำดบั การทำงาน โดยมิลูกศรเชื่อมระหว่างภาพต่างๆ สญั ลกั ษณท์ ี่ใช้ในการเขียนผงั งานระบบที่นิยมใช้ กันนั้นเป็นสัญลักษณ์ของหน่วยงานสถาบันมาตรฐานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (American National Standard Instituite : ANSI) แ ล ะ อ ง ค ์ ก า ร ม า ต ร ฐ า น น า น า ช า ต ิ ( Interiaticnal Standard Organization: ISO) หน่วยงานดังกล่าว ทำหน้าที่รวบรวมและกำหนดสัญลักษณ์มาตรฐานที่จะใช้ เขียนผงั งานระบบดังนี้

6 ตารางท่ี 2.1 ตารางสัญลักษณ์มาตรฐานที่ใชเ้ ขียนผังงานระบบ สญั ลกั ษณ์ ความหมาย ตัวอยา่ งการใช้ คำอธบิ าย 1.เร่มิ ผังงานระบบ แสดงการเริ่มต้น หรือการ START 2.จบผงั งานระบบ สิ้นสุดของการเขยี นผงั งาน STOP ระบบ (Terminal Interrupt) การรับข้อมูลหรือแสดง 1. รับ(อ่าน) คา่ A โดยไม่ ข้อมูล (Input Output ระบุสือ่ ที่บนั ทกึ ค่า A Media) 2. แสดงคา่ B โดยไม่ ระบุสอ่ื การรบั ขอ้ มลู หรอื แสดง ข้อมูลโดยใช้บตั รเจาะรู รับค่า (อ่าน) คา่ A ที่ เป็นสื่อ (Punch Tape) บนั ทึกบนบัตร 1 ใบ การรับขอ้ มูลหรือแสดง ข้อมูลโดยใช้เทปกระดาษ อา่ นค่า ID ทบ่ี ันทกึ บน เทปกระดาษ (Punch Tape) ให้พมิ พ์ค่า A ทาง การแสดงข้อมลู หรือ กระดาษตอ่ เนื่อง ผลลพั ธพ์ มิ พ์ทาง เคร่อื งพมิ พล์ งบนกระดาษ แสดงค่า A ทางจอภาพ ตอ่ เนอื่ ง (Continuous Paper) การแสดงผลลพั ธท์ าง จอภาพ (Display)

7 ตารางท่ี 2.1 ตารางสัญลกั ษณ์มาตรฐานทีใ่ ชเ้ ขียนผังงานระบบ (ตอ่ ) สัญลักษณ์ ความหมาย ตัวอยา่ งการใช้ คำอธบิ าย แสดงจุดต่อเนอื่ งท่ีอยู่คน หลงั จากกำหนดคา่ A=3 ละหน้า แลว้ ใหไ้ ปทำตามจุด (Off-Page Connector) ตอ่ เนอ่ื งชอื่ B ซึ่งไม่ไดอ้ ยู่ หนา้ เดียวกนั 2.2.6 หลักเกณฑ์ในการวิเคราะห์งาน การวิเคราะห์งานหรือการวิเคราะห์ปัญหา นับว่าเป็น หัวใจสำคัญของการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่ง ต่าง ๆ เพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงาน การวิเคราะห์ งานเป็นการศึกษาถึงรายละเอียดของปัญหาเกี่ยวกับงานที่ต้องการเขียนโปรแกรมเข้าเครื่อง คอมพวิ เตอรน์ ำมาศึกษา วิเคราะหแ์ ละตคี วามเพื่อช่วยให้เข้าใจง่ายเช่น ตอ้ งการให้เครื่องทำงาน อะไร ลักษณะผลลัพธ์ที่ต้องการแสดงวิธี การประมวลผลที่ต้องใช้และข้อมูลที่จะต้องป้อนเข้าไปกล่าว โดย สรุป การวิเคราะห์งานจะเป็นการศึกษาผลลัพธ์ (Output) ข้อมูลที่นำเข้า (Input) และวิธีการ ประมวลผล (Process) รวมทั้ง การกำหนดชื่อตัวแปร (Variable) ที่จะใช้ในโปรแกรมนั่นเองวิธีการ วิเคราะห์งานใหไ้ ดผ้ ลดีน้นั มี หลายแบบแตห่ ลกั เกณฑใ์ หญ่ ๆ ทนี่ ยิ มใช้กนั อย่างทว่ั ไปสามารถแยก เปน็ ข้อ ๆ ตามลำดับดงั ต่อไปน้ี 2.2.6.1 สิ่งที่โจทย์ต้องการ หมายถึง สิ่งที่ต้องการให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำให้ เช่น ต้องการให้คำนวณคะแนนเฉลี่ยของนักศึกษา ต้องการให้คำนวณเงินเดือนและค่าแรง เป็นต้นงานแต่ ละชิ้นอายต้องกานใช้เครื่องทำงานให้มากว่าหนึ่งอย่าง ซึ่งควรจะเขียนไว้เป็นข้อ ๆ ให้ชัดเจน การ พิจารณาถึงสิ่งที่โจทย์ต้องการเป็นส่วนที่สำคัญมาก เพราะถ้าไม่ทราบก็ไม่สามารถจะทำขั้นตอนตอ่ ไป ได้เลยหรือถา้ เขา้ ใจสว่ นน้ี ผิดก็จะทำใหง้ านผิดทัง้ หมด 2.2.6.2 ผลลัพธ์ที่ต้องแสดง (Output) หมายถึง การวิเคราะห์ลักษณะของงาน หรือ รูปแบบผลลัพธ์ที่ต้องการให้คอมพิวเตอร์แสดงออกมาว่าควรจะมีลักษณะอย่างไร มีรายละเอียดที่ ต้องการให้แสดงในรายงานมากน้อยเพียงใดหรือรายละเอียดชนิดใดที่ไม่ต้องการให้แสดงออกมาใน รายงาน ในกรณีนี้เป็นหน้าที่ของผู้เขียนโปรแกรมเองว่าจะต้องการรูปแบบรายงานออกมาโดยมี รายละเอียดที่จำเป็นและสวยงามเพียงใด เนื่องจากรายงานหรือผลลัพธ์นี้มีความสำคัญต่อผู้บริหาร เนื่องจากผู้บริหารจะใช้รายงานหรือผลลัพธ์ไปช่วยในการตัดสินใจหรือการวิเคราะห์และแก้ไข ปัญหา ตา่ ง ๆ ได้

8 2.2.6.3 ข้อมูลที่ต้องนำเข้า (Input) หมายถึง ข้อมูลที่ต้องป้อนเข้ามาเพื่อใช้ใน การ ประมวลผล ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ลักษณะของผลลัพธ์คือ เมื่อพิจารณาถึง ลกั ษณะของ Output ที่แนน่ อนแลว้ ขอ้ มลู ท่ตี ้องนำเข้าไปก็ควรจะพจิ ารณาให้เหมาะสมกบั ผลลพั ธ์ที่ ตอ้ งการแสดงดว้ ย ท้ังนี้อาจจะต้องพิจารณาถึงขั้นตอนในการประมวลผลควบคไู่ ปดว้ ย 2.2.6.4 ตัวแปรที่ใช้ (Variable) หมายถึง การกำหนดชื่อแทนความหมายของข้อมูล ต่าง เพื่อความสะดวกในการอ้างถึงขอ้ มลู นัน้ และการเขียนโปรแกรมด้วยการต้ังชื่อตัวแปรทใ่ี ชค้ วร คำนึงถึง ความหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลการตั้งชื่อตวั แปรนี้ จะขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของ ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ ในการเขียนโปรแกรมเพราะภาษาคอมพิวเตอร์แต่ละภาษามกี ฎเกณฑ์และ ความสามารถในการตั้งตัว แปรแตกตา่ งกันไปแตโ่ ดยท่ัว ๆ ไปการตั้งชื่อตัวแปรจะพิจารณาความหมาย ของข้อมูลว่าตรงกับคำใด ในภาษาอังกฤษ แล้วนำมาตดั แปลงหรือย่อให้เขา้ กบั หลกั เกณฑ์ของ ภาษาคอมพวิ เตอร์ที่ใช้ 2.2.6.5 วิธีการประมวลผล (Processing) หมายถึงวิธีการประมวลผลโดยแสดงขั้นตอน ต่าง ๆ ที่ต้องทำตามาลำดับ เริ่มจาการรับข้อมูลนำไปประมวลผลจนไดผ้ ลลัพธ์ ขั้นตอนนี้จะต้องแสดง การทำงานที่ต่อเนื่องตามลำดับ จึงต้องจัดลำดับก่อนหลังให้ถูกต้อง ในขั้นตอนของวิธีการนี้ถ้ายิ่งกระ ทำให้ละเอียดกจ็ ะช่วยในการเขยี นโปรแกรมยง่ิ ง่ายข้นึ 2.3 ความรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับระบบฐานขอ้ มลู 2.3.1 ฐานข้อมูล (database) หมายถึง การจัดรวบรวมข้อนิเทศหรือข้อมูลของเรื่องต่าง ๆ ไว้ใน รูปแบบที่จะเรียกมาใช้ได้ทันเมื่อต้องการ ในการเรียกนั้น อาจเรียกเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมาใช้ ประโยชน์เป็นครั้งเป็นคราวก็ได้ ฐานข้อมูลที่ดีควรจะได้รับการปรับให้ทันสมัยอยู่เสมอ กลุ่มของ แฟม้ ขอ้ มลู ทีม่ ีความสมั พันธก์ นั และถูกนำมารวมกนั เช่น ฐานขอ้ มูลในบริษัทแห่ง หน่ึงอาจประกอบไป ด้วยแฟ้มข้อมูลหลายแฟ้มข้อมูล ซึ่งแต่ละแฟ้มต่างก็มีความสัมพันธ์กัน ได้แก่ แฟ้มข้อมูลพนักงาน แฟ้มข้อมูลแผนกในบริษัท แฟ้มข้อมูลขายสินค้า และแฟ้มข้อมูลสินค้า เป็นต้น สรุปได้ว่า ฐานข้อมูล คือ การรวบรวมข้อมูลที่เราต้องการจะจัดเก็บ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กันหรือเป็นเรื่องเดียวกันไว้ ดว้ ยกนั เพอ่ื สะดวกในการใช้งาน 2.3.2 ระบบการจัดการฐานข้อมูล (Data Base Management System : DBMS) หมายถึง ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อรวบรวมข้อมูลให้เป็นระบบ เพื่อจะได้นำไปเก็บรักษา เรียกใช้หรือนำมา ปรับปรุงให้ทันสมัยได้ง่าย ทั้งนี้จำเป็นต้องคำนึงถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องสำคัญ ด้วย โปรแกรมที่ใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งประกอบดว้ ยหน้าท่ี ต่าง ๆ ในการจัดการ กับข้อมูล รวมทงั้ ภาษาท่ีใชท้ ำงานกับข้อมูล โดยมกั จะใช้ ภาษา SQL ในการโต้ตอบระหวา่ งกนั กับผู้ใช้ เพื่อให้สามารถกำหนดการสร้างการเรียกดู การบำรุงรักษาฐานข้อมูล รวมทั้งการจัดการควบคุมการ เข้าถึงฐานข้อมูล ซึ่งถือเป็น การป้องกันความปลอดภัยในฐานข้อมูล เพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่ไม่มีสิทธิการ

9 ใช้งานเข้ามาละเมิดข้อมูลในฐานข้อมูลที่เป็นศูนย์กลางได้ นอกจากนี้ DBMS ยังมีหน้าที่ในการรักษา ความมั่นคงและปลอดภัยของเป็นศูนย์กลางได้ นอกจากนี้ DBMS ยังมีหน้าที่ในการรักษาความมั่นคง และความปลอดภัยของข้อมูล การสำรองข้อมูล และการเรียกคืนข้อมูลในกรณีที่ข้อมูลเกิดความ เสียหาย สรุปได้ว่า \"การพัฒนาระบบการจัดการฐานข้อมูล” คือ โปรแกรมทำหน้าที่ในการกำหนด ลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล อำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำหนด ผู้ที่ไดร้ ับอนุญาตให้ใชฐ้ านข้อมลู ได้พร้อมกับกำหนดด้วยว่า ให้ใชไ้ ดแ้ บบใด เช่น ให้อ่านขอ้ มูล ได้ อย่าง เดียวหรือให้แก้ไขข้อมูลได้ด้วย นอกจากนั้น ยังอำนวยความสะดวกในการค้นหาข้อมูลและ การแก้ไข ปรบั ปรงุ ขอ้ มลู ทำให้ผู้ใชส้ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลได้ง่าย สะดวกและมีประสทิ ธิภาพ เสมอื นเป็น ตวั กลาง ระหวา่ งผู้ใช้กับฐานข้อมูลให้สามารถติดต่อกนั ได้ 2.3.3 ประวัติความเป็นมาของระบบจัดการฐานข้อมูล การจัดการฐานข้อมูลเริ่มต้นจากการท่ี องค์การบริหารการบิน และ อวกาศสหรัฐอเมริกา หรือ นาซ่าได้ว่าจ้างบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) ประเทศ สหรัฐอเมริกาให้ออกแบบระบบเก็บรวบรวมขอ้ มูลที่ได้จากการสำรวจดวงจนั ทร์ในโครงการอะพอลโล โครงการอะพอลโลเป็นโครงการสำรวจอวกาศอย่างจริงจัง และมีการส่งมนุษย์ขึ้นบนดวงจันทร์ได้ สำเร็จด้วยยานอะพอลโล 11 ได้พัฒนาระบบการดูแลข้อมูลเรียกว่า ระบบ GUAM (Generalized Upgrade Access Method) ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของระบบการจัดการฐานข้อมูล ต่อมาบริษัท ไอบเี อ็ม ไดพ้ ฒั นาระบบการจัดการฐานข้อมูลขึ้นมาใหมเ่ พอ่ื ใหใ้ ชง้ านกบั ธรุ กิจทว่ั ๆ ไปไดเ้ รยี กวา่ DLA (Data Language/) จนในที่สุดก็ได้กลายมาเป็นระบบ IMS (Information Management System) ในช่วงปี พ.ศ.2525 มีการนำระบบฐานข้อมลู เข้ามาใชก้ บั คอมพิวเตอร์อย่างเต็มทีไ่ ดม้ ีการ คิดค้น และ ผลิตซอฟต์แวร์เกี่ยวกับฐานข้อมูลออกมามากมาย การเจริญเติบโตของการจัดการ ฐานข้อมูลชุดหน้า ไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับระบบคอมพิวเตอร์และมีการพัฒนามาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันได้มีการนำ คอมพิวเตอร์มาใช้ในการเก็บข้อมูล โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทั่วไปโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้อง เขียนโปรแกรม เองเพียงแต่เรียนรู้คำสั่งการเรียกใช้ข้อมูลหรือการจัดการขอ้ มูล เช่น การป้อนข้อมูล การบันทึกข้อมูล การแก้ไขและเปลี่ยนแปลงข้อมูล เป็นต้น ในอดีตยุคที่มีไมโครคอมพิวเตอร์เกิดขึ้น แรก ๆ โปรแกรม สำเร็จรูปทางด้านการจัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย คือ Personal Filing System ต่อมาได้มีโปรแกรมฐานข้อมูลเพิ่มขึ้นหลายโปรแกรม เช่น Data star DB Master และ dBase II ได้รับความนิยมมาก จนกระทั่ง ในปี พ.ศ.2528 ผู้ผลิตได้สร้าง dBase Ill Plus ออกมา ซึ่งสามารถ จัดการฐานข้อมูลแบบสัมพันธ์ (relational) เชื่อมโยงแฟ้มข้อมูลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ค้นหา และนำมา สร้างเป็นรายงานตามความต้องการได้สะดวก รวดเร็ว ต่อมาได้มีการสร้างโปรแกรมสำเร็จรูปเกี่ยวกบั ฐานขอ้ มูลออกมา เชน่ FoxBASE, FoxPro, Microsoft Access และ Oracle

10 2.3.4 องค์ประกอบของระบบการจัดการฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลประกอบด้วย ส่วนสำคัญหลัก ๆ 5 ส่วน คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล กระบวนการทำงาน และ บุคลากร ดัง รายละเอยี ดต่อไปนี้ 2.3.4.1 ฮาร์ดแวร์ (hardware) หมายถึง คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล และประมวลผลขอ้ มูล ซึง่ อาจประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอรต์ ้ังแตห่ นง่ึ เครื่องขึ้นไปหน่วยเกบ็ ขอ้ มูล สำรอง หน่วยนำเข้าข้อมูล และ หน่วยแสดงผลข้อมูล นอกจากนี้ยังต้องมีอุปกรณ์ การสื่อสารเพ่ือ เชื่อมโยงอุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์หลาย ๆ เครื่องให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เป็นต้น โดย เครื่องคอมพิวเตอรท์ ี่จะใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับประมวลผลข้อมูลในฐานข้อมูลนัน้ สามารถเป็นได้ต้งั แต่ เครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ หรือไมโครคอมพิวเตอร์ซึ่งถ้าเป็นเครื่อง เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ หรอื มนิ ิคอมพิวเตอรจ์ ะสามารถใช้ต่อกับเทอร์มินลั หลายเคร่ือง เพือ่ ให้ผใู้ ช้งาน ฐานข้อมลู หลายคน สามารถดึงขอ้ มลู หรือปรับปรุงขอ้ มูลภายในฐานข้อมูลเดยี วกันพรอ้ มกันได้ ซ่ึงเป็น ลักษณะของการทำงานแบบมัลติยูสเซอร์ (multi user) การประมวลผลฐานข้อมูลในเครื่องระดับ ไมโครคอมพิวเตอร์ สามารถทำการประมวลผลได้ 2 แบบ แบบแรกเป็นการประมวลผลฐานข้อมูลใน เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว โดยมีผู้ใช้งานได้เพียงคนเดียวเท่านั้น (single user) ที่สามารถ ดึงข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูลภายในฐานข้อมูลได้ สำหรับแบบที่สองจะเป็นการนำไมโครคอมพิวเตอร์ หลายตัวมาเชื่อมต่อกัน ในลักษณะของเครือข่ายระยะใกล้ (Local Area Network : LAN) ซึ่งเป็น รูปแบบของระบบเครือข่ายแบบลูกข่าย / แม่ข่าย (client /server network) โดยจะมีการเก็บ ฐานข้อมูลอยู่ที่เครื่องแม่ข่าย (server) การประมวลผลต่าง ๆ จะกระทำที่เครื่องแม่ข่ายสำหรับเคร่ือง ลูกข่าย (client) จะมหี น้าทีด่ ึงขอ้ มลู หรอื ส่งขอ้ มลู เขา้ มาปรบั ปรุงในเครอื่ งแม่ข่าย หรอื คอยรบั ผลลพั ธ์ จากการประมวลผลของแมข่ า่ ย ดงั นัน้ การประมวลผลแบบนจี้ ึงเป็นการเปดิ โอกาสใหผ้ ใู้ ชง้ านหลายคน สามารถใช้งานหลายคนสามารถใช้งานฐานข้อมูลร่วมกันได้ระบบฐานข้อมูลที่มี ประสิทธิภาพดีต้อง อาศัยเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพสูง คือสามารถเก็บข้อมูลได้จำนวนมากและประมวลผลได้ อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับการทำงานจากผู้ใช้หลายคนที่อาจมีการอ่านข้อมูลหรือปรับปรุงข้อมูลพร้อม กันในเวลาเดียวกนั 2.3.4.2 ซอฟต์แวร์ (software) หมายถึง โปรแกรมที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล ซ่ึง มกี ารพฒั นาเพอ่ื ใช้งานไดก้ บั เครือ่ งไมโครคอมพวิ เตอร์จนถึงเครือ่ งเมนเฟรม ซ่งึ โปรแกรมแตล่ ะตัวจะมี คุณสมบัติการทำงานที่แตกต่างกัน ดังนั้นในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรมจะต้องพิจารณาจาก คุณสมบัติของโปรแกรมแต่ละตัวว่ามีความสามารถทำงานในสิ่งที่เราต้องการได้หรือไม่ อีกทั้งเรื่อง ราคาก็เปน็ เรือ่ งสำคัญ เนอื่ งจากราคาของโปรแกรมแตล่ ะตัวจะไมเ่ ทา่ กันโปรแกรมทีม่ ีความสามารถสูง ก็จะมีราคาแพงมากขึ้น นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาว่าสามารถใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการที่เรามีอยู่ได้หรือไม่ ซึ่งโปรแกรมที่ใช้ในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่ Microsoft

11 Access, Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox เป็นต้น โดยโปรแกรมทีเ่ หมาะสำหรับผู้ เริ่มต้นฝึกหัดสร้างฐานข้อมูล คือ Microsoft Access เนื่องจากเป็นโปรแกรมใน Microsoft Office ตัวหนึ่ง ซึ่งจะมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว และการใช้งานก็ไม่ยากจนเกินไปแต่ผู้ใช้งานต้องมี พ้ืนฐานในการออกแบบฐานข้อมูลมาก่อน 2.3.5 ข้อมูล (data) ระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ดีและมีประสิทธิภาพ ควรประกอบด้วยข้อมูล ท่ีมีคุณสมบตั ขิ นั้ พื้นฐานดังนี้ 2.3.5.1 มีความถูกต้อง หากมีการเก็บรวบรวมข้อมูลแล้วข้อมูลเหล่านั้นเชื่อถือไม่ได้ จะ ทำให้เกิดผลเสียอย่างมาก ผู้ใช้จะไม่กล้าอ้างอิงหรือนำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ การตัดสินใจ ของผู้บริหารขาดความแม่นยำ และอาจมีโอกาสผิดพลาดได้ โครงสร้างฐานข้อมูลที่ออกแบบต้อง คำนึงถึงกรรมวิธีการดำเนินงานเพื่อให้ได้ความถูกต้องแม่นยำมากที่สุด โดยปกติความผิดพลาดของ สารสนเทศส่วนใหญ่มาจากข้อมูลท่ีไม่มีความถูกต้องซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากคน หรือ เครื่องจักรการ ออกแบบระบบการจดั การฐานขอ้ มูลจงึ ตอ้ งคำนงึ ถึงในเรือ่ งนด้ี ้วย 2.3.5.2 มีความรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความ ต้องอากรของผู้ใช้มีการตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็ว ตีความหมายสารสนเทศได้ทันต่อเหตุการณ์ หรือความต้องการ มกี ารออกแบบระบบการเรยี กคน้ และแสดงผล ได้ตรงตามความตอ้ งการของผ้ใู ช้ 2.3.5.3 มีความสมบูรณ์ของข้อมูล ซึ่งขึ้นอยู่กับการรวบรวมและวิธีการปฏิบัติด้วย ในการ ดำเนินการจัดทำข้อมูลต้องสำรวจและสอบถามความต้องการข้อมูล เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ และเหมาะสม 2.3.5.4 มีความชัดเจนและกะทัดรัด การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่ในการ จัดเก็บข้อมูลมาก จึงจำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างข้อมูลให้กะทัดรัดสื่อความหมายได้มี การใช้รหัส หรอื ยอ่ ข้อมลู ให้เหมาะสมเพื่อทจ่ี ะจดั เกบ็ ไวใ้ นระบบคอมพวิ เตอร์ 2.3.5.5 มีความสอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ ตังนั้นจึงต้องมีการ สำรวจเพ่ือหาความต้องการของหน่วยงานและองค์กร ดูแลสุขภาพการใช้ข้อมูล ความลึก หรือ ความ กว้างของขอบเขตของข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการ 2.5.6 กระบวนการทำงาน (procedures) หมายถึง ขั้นตอนการทำงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ ต้องการ เช่น คู่มือการใช้งานระบบจัดการ ฐานข้อมูล ตัง้ แตก่ ารเปิดโปรแกรมขึ้นมาใช้งาน การนำเขา้ ข้อมลู การแกไ้ ขปรับปรุงขอ้ มูล การค้นหา ขอ้ มลู และการแสดงผลการคน้ หา เป็นต้น 2.3.6 บุคลากร (people) จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับระบบอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบุคลากร ที่ทำ หน้าที่ ในการจดั การฐานขอ้ มูล มีดงั ตอ่ ไปนี้

12 2.3.6.1 ผูบ้ ริหารขอ้ มูล (data administrators) ทำหนา้ ทใ่ี นการกำหนดความ ตอ้ งการใน การใช้ข้อมูลข่าวสารขององค์กร การประมาณขนาดและอัตราการขยายตัวของข้อมูลใน ตลอดจนทำ การจดั การดูแลพจนานุกรมข้อมลู เปน็ ตน้ องคก์ ร 2.3.6.2 ผู้บริหารฐานข้อมูล (database administrators) ทำหน้าที่ในการ บริหาร จัดการ ควบคุม กำหนดนโยบายมาตรการ และ มาตรฐานของระบบฐานข้อมูลทั้งหมดภายใน องค์กร ตัวอย่างเช่น กำหนดรายละเอียดและวิธีการจัดเก็บข้อมูล กำหนดควบคุมการใช้งานฐานข้อมูล กำหนดระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล กำหนดระบบสำรองข้อมูล และกำหนดระบบการกู้คืน ข้อมูล เป็นต้น ตลอดจนทำหน้าที่ประสานงานกับผู้ใช้ นักวิเคราะห์ระบบ และนักเขียนโปรแกรม เพ่อื ใหก้ ารบริหารระบบฐานข้อมลู สามารถดำเนนิ ไปไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพ 2.3.6.3 นักวิเคราะห์ระบบ (system analysts) มีหน้าที่ศึกษาและทำความ เข้าใจใน ระบบงานขององค์กร ศึกษาปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบงานเดิม และความต้องการของระบบ ใหม่ที่จะ ทำการพัฒนาขึ้นมา รวมทั้งต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจในกระบวนการทำงานโดยรวม ของทั้ง ฮารด์ แวรแ์ ละซอฟต์แวรอ์ กี ดว้ ย 2.3.6.4 นกั ออกแบบฐานขอ้ มลู (database designers) ทำหน้าท่นี ำผลการ วิเคราะห์ ซ่ึง ได้แก่ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำงานในปัจจุบัน และความต้องการที่อยากจะให้มีในระบบ ใหม่ มา ออกแบบฐานขอ้ มลู เพอ่ื แก้ปญั หาทเ่ี กิดขึ้น และให้ตรงกบั ความตอ้ งการของผใู้ ชง้ าน 2.3.6.5 นักเขียนโปรแกรม (programmers) มีหน้าที่รับผิดชอบในการเขียน โปรแกรม ประยุกต์เพื่อการใช้งานในลักษณะต่าง ๆ ตามความต้องการของผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น การเก็บ บันทึก ข้อมลู และการเรียกใช้ข้อมลู จากฐานข้อมลู เป็นตน้ 2.3.6.6 ผู้ใช้ (end-users) เป็นบุคคลที่ใช้ข้อมูลจากระบบฐานข้อมูล ซึ่ง วัตถุประสงค์ หลักของระบบฐานข้อมูล คือ การตอบสนองความต้องการในการใช้งานของผู้ใช้ ดังนั้นใน การ ออกแบบระบบฐานข้อมูลจึงจำเป็นต้องมีผู้ใช้งานเข้าร่วมอยู่ในกลุ่มบุคลากรที่ทำหน้าที่ออกแบบ ฐานข้อมลู ดว้ ย . 2.3.7 หน้าที่ของระบบจัดการฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลมีหน้าที่สำคัญ ๆ หลาย อยา่ ง เพ่ือใหเ้ กิดความถูกต้องและสอดคล้องกันของขอ้ มลู ภายในฐานขอ้ มูล ได้แก่ 2.3.7.1 การจัดการพจนานุกรมข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะทำการจัดเก็บนิยาม ของข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลไว้ในพจนานุกรมข้อมูล เป็นสารนิเทศที่บอกเกี่ยวกับ โครงสร้างของฐานข้อมูล โปรแกรมประยุกต์ทั้งหมดที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลในฐานข้อมูลจะต้องทำงาน ผ่านระบบการจัดการฐานข้อมูล โดยที่ระบบจัดการฐานข้อมูลจะใช้พจนานุกรมข้อมูลเพื่อค้นหา โครงสร้างตลอดจนส่วนประกอบของข้อมูลและความสัมพันธ์ที่ต้องการ นอกจากนั้นแล้วการ

13 เปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีต่อโรงสร้างฐานข้อมูลจะถูกบันทึกไว้โดยอัตโนมัติในพจนานุกรมข้อมูล ทำให้เรา ไม่ต้องเปลย่ี นแปลงแก้ไขโปรแกรมเมื่อโครงสร้างข้อมลู มกี ารเปล่ยี นแปลง 2.3.7.2 การจัดเก็บข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะสร้างโครงสร้างที่จำเป็นต่อการ จัดเก็บข้อมูล ช่วยลดความยุ่งยากในการนิยามและการเขียนโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทาง กายภาพ ระบบการจัดการฐานข้อมูลในปัจจุบันไม่เพียงแต่จะช่วยในการจัดเก็บข้อมูลเท่านั้น แต่ยัง รวมถึงการจัดเก็บกฎเกณฑ์ตา่ ง ๆ ที่ใชใ้ นการตรวจสอบบูรณภาพของข้อมูลอกี ด้วย 2.3.7.3 การแปลงและนำเสนอขอ้ มลู ระบบการจัดการฐานข้อมลู จะทำหน้าทีใ่ นการแปลง ข้อมูลที่ได้รับเข้ามา เพื่อให้สอดคล้องกับโครงสร้างในการจัดเก็บข้อมูล ทำให้เราไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับ ความแตกต่างระหว่างรูปแบบของข้อมูลทางตรรกะและทางกายภาพ กล่าวคือทำให้มีความเป็นอิสระ ของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะแปลงความต้องการเชิงตรรกะของผู้ใช้ ให้เป็นคำสั่งท่ี สามารถดงึ ข้อมูลทางกายภาพท่ีต้องการ 2.3.7.4 การจัดการระบบความปลอดภัยของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะสร้าง ระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูล โดยการกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าใช้ระบบ และ ความสามารถ ในการใชร้ ะบบ เชน่ การอ่าน เพ่มิ ลบ หรอื แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมลู การจดั การระบบ ความปลอดภัย ของขอ้ มลู มีความสำคัญมากในระบบฐานขอ้ มลู แบบทม่ี ผี ู้ใช้หลายคน 2.3.7.5 การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้หลายคน ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะใช้ หลักการออกแบบโปรแกรมทเี่ หมาะสม เพอ่ื ใหแ้ นใ่ จว่าผู้ใชห้ ลายคนสามารถเข้าใชฐ้ านขอ้ มลู พร้อมกัน ไดแ้ ละข้อมลู มคี วามถกู ต้อง 2.3.7.6 การเก็บสำรองและกู้คืนข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะมีโปรแกรมเพื่อ สนับสนุนการสำรองและกู้คืนข้อมูล เพื่อให้แน่ใจด้านความปลอดภัยและความมั่นคงของข้อมูล ใน ระบบ ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะกู้ข้อมูลในฐานข้อมูลคืนมาหลังจากระบบเกิดความล้มเหลว เช่น เมอื่ เกิดกระแสไฟฟ้าขดั ข้อง เป็นตน้ 2.3.7.7 การควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลจะสนับสนุนและ ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ตั้งแต่ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล ไปจนถึงความไม่สอดคล้องกันของ ข้อมูล ความสัมพันธ์ของข้อมูลที่เก็บไว้ในพจนานุกรมข้อมูลจะถูกนำมาใช้ในการควบคุมความถูกต้อง ของข้อมูลด้วย 2.3.7.8 ภาษาท่ใี ช้ในการเข้าถึง ฐานข้อมูล และ การเชือ่ มตอ่ กับ โปรแกรมประยุกต์ระบบ การจัดการฐานข้อมูลสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลโดยผ่านภาษาคิวรี (query language) ซึ่งเป็นคำสั่งท่ี ใช้การค้นคืนจากฐานข้อมูล โดยผู้ใช้เพียงบอกว่าต้องการอะไร และ ไม่จำเป็นต้องรู้ว่ามีขั้นตอน อย่างไรในการนำข้อมูลออกมา เพราะระบบการจัดการฐานข้อมูลจะเป็นผู้กำหนดวิธีการในการเข้าถงึ ข้อมูลอย่างมีประสทิ ธิภาพเอง

14 2.3.7.9 การติดต่อสื่อสารกับฐานข้อมูล ระบบการจัดการฐานข้อมูลที่ทันสมัยจะต้อง สนบั สนนุ การใช้งานฐานขอ้ มลู ผา่ นทางเครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 2.3.8 ข้อดีของการใช้ฐานข้อมูล เมื่อมีการนำระบบการจัดการฐานข้อมลู มาใช้ เพื่ออำนวยความ สะดวกในการบันทึกข้อมูล แก้ไขปรับปรุงข้อมูล ค้นหาข้อมูล รวมทั้งกำหนดผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ ฐานขอ้ มลู เปน็ ตน้ ทำใหฐ้ านข้อมูลมีขอ้ ดีมากมาย ไดแ้ ก่ 2.3.8.1 ลดความจำเจของงานดูแลเอกสาร ซึง่ เปน็ งานประจำท่ที ำใหผ้ ูด้ แู ลรู้สึก เบอ่ื หนา่ ย และขาดแรงจูงใจ แต่เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงานนี้แทนมนุษย์ได้ โดยผ่านโปรแกรม สำหรับการจดั การฐานข้อมลู 2.3.8.2 ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เม่ือข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแล ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ 2.3.8.3 ลดความซ้ำซ้อนในการจัดเก็บข้อมูล เนื่องจากการจัดทำฐานข้อมูลจะมี การ รวบรวมข้อมูลประเภทต่าง ๆ เข้ามาจัดเก็บไว้ในระบบและเก็บข้อมูลเพียงชุดเดียว ซึ่งทุกฝ่ายท่ี เกี่ยวข้องจะสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ต้องการได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำให้เกิด ความรวดเรว็ ในการค้นหาและจดั เกบ็ ข้อมูลดว้ ย 2.3.8.4 หลีกเลีย่ งความขดั แย้งของข้อมลู ได้ เมื่อข้อมูลถูกจัดเก็บระบบฐานข้อมูลจะทำให้ ข้อมูลลดความซ้ำซ้อนลง คือ มีข้อมูลแต่ละประเภทเพียงหนึ่งชุดในระบบ ทำให้ข้อมูลที่เก็บได้ไม่ ขัดแย้งกันเอง ในกรณีที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลที่ซ้ำซ้อนกัน เพื่อสาเหตุบางประการ เช่น เพื่อความ รวดเร็วในการประมวลผลข้อมูล ระบบจัดการฐานข้อมูลจะเป็นผู้ดูแลข้อมูลที่ซ้ำกันให้มีความถูกต้อง ตรงกัน 2.3.8.5 ใช้ข้อมูลร่วมกันได้ เนื่องจากระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละ คนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูลเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงินสามารถท่ี จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัตพิ นักงานในระบบฐานข้อมลู ไดพ้ รอ้ มกนั 2.3.8.6 ควบคุมมาตรฐานของข้อมูลได้ เมื่อข้อมูลต่าง ๆ ในหน่วยงานถูกรวบรวมเข้ามา ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถที่จะวางมาตรฐานในการรับข้อมูล แสดงผลข้อมูล ตลอดจนการ จัดเก็บข้อมูลได้ เช่น การกำหนดรูปแบบของตัวเลขให้มีทศนิยม 2 ตำแหน่ง สำหรับค่าที่เป็นตัวเงิน การกำหนดรูปแบบของการรับ และแสดงผลสำหรับข้อมูลที่เป็นวันที่ นอกจากนี้การที่ข้อมูลมี มาตรฐานเดียวกนั ทำใหส้ ามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหวา่ งระบบได้อย่างสะดวก 2.3.8.7 จัดทำระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ ผู้บริหารระบบฐานข้อมูล สามารถกำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะทำการ

15 ตรวจสิทธิ์ในการทำงานกับข้อมูลทุกครั้ง เช่น การตรวจสอบสิทธิ์ในการเรียกดูข้อมูล การลบข้อมูล การปรบั ปรงุ ข้อมูล และการเพมิ่ ขอ้ มูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล 2.3.8.8 ควบคุมถูกต้องของข้อมูลได้ ปัญหาเรื่องความขัดแย้งกันของข้อมูล ที่มีความ ซับซ้อน เป็นปัญหาในเรื่องความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งเมื่อได้มีการจำกัดความซับซ้อนของข้อมูลออก ปัญหาเรื่องความถูกต้องของข้อมูลที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อายุโดยปกติของคนงาน ควรอยู่ระหว่าง 18- 60 ปี ถ้าหากในระบบฐานข้อมลู ปรากฏมีพนักงานที่มีอายุ 150 ปี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติที่ หน่วยงานจะมีการว่าจ้างคนงานที่มีอายุเกิน 60 ปี และอายุของคนในปัจจุบันไม่ควรเกิน 100 ปี ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ในการนำเข้าข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูลจะ คอยควบคุมใหม้ ีการนำเข้าขอ้ มลู เปน็ ไปตามกฎเกณฑใ์ หม้ ีความถกู ตอ้ ง 2.3.9 ข้อเสียของการใช้ฐานข้อมูลแม้ว่าการประมวลผลข้อมูลด้วยระบบจัดการฐานข้อมูล จะมี ขอ้ ดีหลายประการ แต่กจ็ ะมีขอ้ เสียอย่บู ้างดงั ต่อไปน้ี 2.3.9.1 เสียค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากราคาของโปรแกรมที่ใช้ในระบบการจัดการฐานข้อมูล จะมีราคาค่อนข้างแพง รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง คือ ต้องมีความเร็วสูง มีขนาด หน่วยความจำและหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่มีความจุมาก ทำให้ต้องเสียค่า ว่ายสูง ทำระบบ การ จัดการฐานข้อมลู 2.3.9.2 เกิดการสูญเสียข้อมูลได้ เนื่องจากข้อมูลต่าง ๆ ภายในฐานข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ ในที่เดียวกัน ดังนั้นถ้าที่เก็บข้อมูลเกิดมีปัญหา อาจทำให้ต้องสูญเสียข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูลได้ ดังน้นั การจัดทำฐานขอ้ มลู ที่ดจี ึงต้องมกี ารสำรองขอ้ มลู ไวเ้ สมอ 2.4 โปรแกรม Notepad++ กกกกกกกกNotepad++ (โปรแกรม Notepad โปรแกรม Text-Editor ขั้นเทพ) : สำหรับโปรแกรม นี้เป็น โปรแกรม Notepad ที่มีชื่อว่า Notepad++ นี้ ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาครัง้ แรก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 (เกิน 10 ปแี ลว้ ) โดยกลุ่มพัฒนาโปรแกรมโอเพ่นซอร์ส ท่ีแจกฟรี และแถมซอรส์ โค้ดไปด้วย มันเกิดมา เพื่อ สำหรับ โปรแกรมเมอร์ (Programmer) เป็น อีกหนึ่ง โปรแกรม Notepad หรือที่เรียกว่า โปรแกรม Text Editor หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความ ท่คี วามสามารถนั้นเอาชนะ Notepad อย่างขาด ลอย และปัจจบุ นั น้ีมคี นดาวน์โหลด โปรแกรม Notepad++ นไี้ ปใชแ้ ลว้ มากกว่า 30 ล้านครั้ง จากทั่ว โลก ซง่ึ ถอื เป็นโปรแกรมเขียนโคด้ ที่โปรแกรมเมอรท์ ่ัวโลกนิยมใชม้ ากที่สุดในโลก กกกกกกกกสำหรับ โปรแกรม Notepad++ ตัวนี้ โดยง่ายๆ เลยคือ มีความสามารถในการ รองรับ หลากหลาย ภาษาการเขียนโปรแกรม (Programming Languages) มีปลั๊กอินเฉพาะทางให้เลือก ดาวน์โหลดมากมาย แล้วช่วยให้เหล่าบรรดา โปรแกรมเมอร์ได้พัฒนาโปรแกรมของตนได้อย่างสบาย

16 มีฟังก์ชั่นในการช่วยอำนวยความสะดวก ในการเขียนโปรแกรม (พัฒนาโปรแกรม) กันอย่าครบครัน ไมว่ า่ จะ C, C++, HTML, ASP, Java, Pascal, CSS กส็ ามารถใช้ได้ 2.5 ภาษา PHP กกกกกกกกPHP ย่อมาจาก PHP Hypertext Preprocessor แต่เดิมย่อมาจาก Personal Home Page Tools คือภาษาคอมพิวเตอร์จำพวก Scripting language ภาษาจำพวกนี้คำสั่งต่างๆจะเก็บอยู่ ในไฟล์ ที่เรียกว่า Script และเวลาใช้งานต้องอาศัยตัวแปรชุดคำสั่ง ตัวอย่างของภาษาสคริปต์ก็เช่น JavaScript , Perl เป็นต้น ลักษณะของ PHP ที่แตกต่างจากภาษาสคริปต์แบบอื่นๆ คือ PHP ได้รับ การพัฒนาและออกแบบมา เพ่ือใช้งานในการสร้างเอกสารแบบ HTML โดยสามารถสอดแทรกหรือ แก้ไขเนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ดังนั้นจึงกล่าวว่า PHP เป็นภาษาที่เรียกว่า server-side หรือ HTML- embedded scripting language นั้นคือในทุกๆ ครั้งก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งให้บริการ เป็น Web server จะส่งหน้าเว็บเพจที่เขียนด้วย PHP ให้เรา มันจะทำการประมวลผลตามคำสั่งที่มีอยู่ ให้ เสร็จเสียก่อน แล้วจึงค่อยส่งผลลัพธ์ที่ได้ให้เรา ผลลัพธ์ที่ได้นั้นก็คือเว็บเพจที่เราเห็นนั่นเอง ถือได้ว่า PHP เป็นเครื่องมือที่สำคัญชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เราสามารถสร้าง Dynamic Web pages (เว็บเพจที่ มี การโต้ตอบกับผู้ใช้) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีลูกเล่นมากขึ้น PHP เป็นผลงานที่เติบโตมาจากกลุ่ม ของนักพัฒนาในเชิงเปิดเผยรหัสต้นฉบับ หรือ Open Source ดังนั้น PHP จึงมีการพัฒนาไปอย่าง รวดเร็ว และแพรห่ ลายโดยเฉพาะอย่างยง่ิ เมือ่ ใช้ร่วมกับ Apache Web server ระบบปฏบิ ัตอิ ยา่ งเช่น Linuxหรือ FreeBSD เป็นต้น ในปัจจุบัน PHP สามารถ ใช้ร่วมกับ Web Server หลายๆตัวบน ระบบปฏบิ ัตกิ ารอย่างเชน่ Windows 95/98/NT เป็นต้น 2.5.1 ลกั ษณะเดน่ ของ PHP 2.5.1.1 ใชไ้ ด้ฟรี 2.5.1.2 PHP เป็นโปรแกรมวง่ิ ข้าง Sever ดังนน้ั ขดี ความสามารถไม่จำกัด 2.5.1.3 Conlatfun นน่ั คอื PHP วงิ่ บนเครอื่ ง Unix , Linux ,Windows ไดห้ มด 2.5.1.4 เรยี นรงู้ า่ ย เน่ืองจาก PHP ฝั่งเข้าไปใน HTML และใช้โครงสร้างและไวยากรณ์ 2.5.1.5 เร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อใช้กับ Apach Xerve เพราะไม่ต้องใช้ ภาษาง่ายๆ โปรแกรมจากภายนอก 2.5.1.6 ใชร้ ว่ มกับ XML ไดท้ ันที 2.5.1.7 ใชก้ ับระบบแฟม้ ขอ้ มูลได้ 2.5.1.8 ใชก้ ับข้อมูลตวั อักษรได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2.5.1.9 ใช้กบั โครงสรา้ งขอ้ มูล แบบ Scalar ,Array ,Associative array 2.5.1.10 ใช้กับการประมวลผลภาพได้

17 2.6 ภาษา SQL กกกกกกกกSQL ย่อมาจาก Structured Query Language เป็นภาษาที่ใช้ในการจัดการของ ฐานข้อมูล เชิงสัมพันธ์ ผู้คิดค้น SQL เป็นรายแรกคือ บริษัทไอบีเอ็ม หลังจากนั้นมาผู้ผลิตซอฟท์แวร์ ด้านระบบ จัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ได้พัฒนาระบบที่สนับสนุน SQL มากขึ้น จนเป็นที่นิยมใช้กัน อย่าง แพร่หลายในปัจจุบัน โดยผู้ผลิตแต่ละรายก็พยายามพัฒนาระบบจัดการฐานข้อมูลของตนให้มี ลักษณะ เด่นเฉพาะขึ้นมา ทำให้รูปแบบการใช้คำสั่ง SQL มีรูปแบบแตกต่างกันไปบ้าง ในขณะที่ American National Standards Institute (ANSI) ได้กำหนดรปู แบบมาตรฐานของ SQL ขึ้น ซึง่ เป็น มาตรฐาน ของคำสง่ั SQL ตาม ANSI-86 กกกกกกกกต่อมาในปี 1992 ANSI ได้ปรับปรุงมาตรฐานของ SQL/2 และเป็นที่ยอมรับของ ISO (International Organization for Standardization) SQL/2 มีรายละเอียดเพิม่ ข้ึน เชน่ เพ่ิมประเภทของข้อมลู ท่ีมจี ากเดิม สนบั สนนุ การใชก้ ลมุ่ ตวั อักษร มคี วามสามารถในการให้สิทธเิ์ พ่ิมขน้ึ (Privilege) สนับสนุนการใช้ SQL แบบ Dynamic เพิ่มมาตรฐานในการใช้ Embedded SQLและมี โอเปอเรเตอร์เชิงสมั พนั ธเ์ พ่ิมขึน้ กกกกกกกกนอกจากนี้ ANSI ได้ทบทวนและปรับปรุง SQL อีกครั้ง SQL/3 จุดประสงค์ของการ กำหนดมาตรฐาน เพื่อประโยชน์ในการใช้คำสั่งนี้ร่วมกันในระบบที่แตกต่างกันได้ (Application Portability) นอกจากนี้ การเรียนรู้การใช้คำสั่ง SQL ตามมาตรฐานที่กำหนดขึ้น เป็นการง่ายที่จะ นำไปประยุกตใ์ ชห้ รือเรยี นรู้ เพม่ิ เตมิ จากคำสัง่ SQL ของผูผ้ ลติ แตล่ ะรายได้ 2.6.1 การทำงานของ SQL 2.6.1.1 Select query ใช้สำหรบั ดงึ ขอ้ มูลทีต่ อ้ งการ 2.6.1.2 Update query ใช้สำหรบั แก้ไขข้อมูล 2.6.1.3 Insert query ใชส้ ำหรับการเพ่มิ ขอ้ มูล 2.6.1.4 Delete query ใชส้ ำหรบั ลบขอ้ มูลออกไป 2.6.2 ประโยชนข์ องภาษา SQL 2.6.2.1 สร้างฐานขอ้ มลู และ ตาราง 2.6.2.2 สนับสนุนการจัดการฐานข้อมูล ซึ่งประกอบด้วย การเพิ่ม การปรับปรุง และการ ลบขอ้ มูล 2.6.2.3 สนบั สนนุ การเรยี กใช้หรอื คน้ หาขอ้ มลู 2.6.3 ประเภทคำสงั่ ของ SQL 2.6.3.1 คำสั่งกำหนดประเภทข้อมูล (Data Definition Language Command: DDL) เป็นกลมุ่ คำสัง่ ใชส้ ำหรบั การปรบั เปล่ยี นโครงสร้างของฐานขอ้ มลู ประกอบด้วยคำสง่ั Create,

18 2.6.3.2 คำสั่งในการควบคุมโครงสร้างข้อมูล (Data Control Language Commandะ DCL) ประกอบดว้ ยคำสง่ั ทใ่ี ชใ้ นการควบคมุ การเกดิ ภาวะพรอ้ มกัน หรอื การปอ้ งกนั การเกิดเหตุการณ์ Replace, Alter, Truncate, Rename, Drop ที่ผู้ใช้หลายคนเรียกใช้ข้อมูลพร้อมกัน และคำสั่งที่ เกี่ยวข้องกับการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูล ด้วยการกำหนดสิทธิของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน เช่น คำสง่ั Grant และ Revoke 2.6.3.3 คำสั่งในการปรับปรุงข้อมูล (Data Manipulation Language Command: DML) ประกอบด้วยคำสั่งที่ใช้ในการเรียกใช้ ข้อมูล การเปลี่ยนแปลงข้อมูล การเพิ่มหรือลบข้อมูล ซ่ึง ไดแ้ ก่คำสั่ง Insert, Delete และ Update 2.6.3.4 คำสั่งที่ใช้ในการค้นหาข้อมูล (Data Retrieval Command) มีหน้าที่ในการ ค้นหาข้อมูล เพ่ือแสดงรายการข้อมูล หรอื คำนวณ โดยมีคำสัง่ เพยี งคำสง่ั เดยี วนัน้ คือ คำสง่ั Select 2.6.3.5 คำสั่งในการควบคุมการทำรายการข้อมูล (Transaction Control Command) เป็นคำสั่งท่ีใช้ในการยืนยันรายการต่างๆ ที่ผู้ใช้งานได้กระทำกับฐานข้อมูล โดยคำสั่งในกลุ่มนี้จะ ประกอบด้วย \"Commit และ \"Rollback\" 2.6.4 รปู แบบการใชค้ ำส่งั SQL 2.6.4.1 คำสั่ง SQL ที่ใช้เรียกดูข้อมูลแบบโต้ตอบ (Interactive SQL) เป็นการใช้คำส่ัง SQL สัง่ งานบนจอภาพ เพือ่ เรยี กดขู ้อมูลจากฐานข้อมลู ไดโ้ ดยตรงในขณะทีท่ ำงาน 2.6.4.2 คำสั่ง SQL ที่ใช้เขียนร่วมกับโปรแกรมอื่น ๆ (Embedded SQL) เป็นการนำ คำส่งั SQL ไปใช้รว่ มกับชุดคำสัง่ งานทีเ่ ขียนโดยภาษาต่าง ๆ เชน่ COBOL, Pascal, PL เปน็ ต้น 2.7 งานวจิ ัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง กกกกกกกกปรุงศักดิ์ อัตพุฒ (2560) งานพัสดุ โรงเรียนสตรีภูเก็ต มีโปรแกรมพัฒนางานระบบพัสดุ และมีเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ท่มี ีประสิทธภิ าพท่ีสามารถรองรับการทำงานในระบบ e-GP ทำใหป้ ฏบิ ัติงาน พัสดุได้ตามพระราชบัญญัติ การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ ระเบียบ กระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ และกฎกระทรวง ต่าง ๆ และสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้ตามแผนการปฏบิ ัตงิ านที่วางไว้ได้อย่างถูกต้องและเปน็ ระบบได้อย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้และทำให้ทุกหน่วยงานในโรงเรียน สตรีภเู กต็ ได้พัสดุตามกำหนดระยะเวลาในการใชง้ าน

19 กกกกกกกกสุกัญญา ศรีทับทิม (2560) งานพัสดุมีความสำคัญต่อการดำเนินงานขององค์กรทุก ๆ องค์กร เนื่องจากพัสดุเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้การ บริหารงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถจะ ก่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาและงบประมาณ ทันต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การมีความ พรอ้ มดา้ นพัสดุครภุ ณั ฑส์ ามารถทำใหอ้ งคก์ รประสบผลสำเรจ็ ตามเปา้ หมายท่ีวางไวไ้ ด้เพราะถ้าองค์กร ใดขาดหลักการจัดการงานพัสดุที่ดีแล้วการทำงานย่อมจะเกิดความซ้ำซ้อนและสิ้นเปลืองอันเป็นเหตุ ทำให้องค์กรนั้นด้อยประสิทธิภาพ เนื่องจากงานพัสดุเป็นงานที่สนับสนุนแผนงานของโครงการต่างๆ ซึ่งได้วางแผนไว้ให้มีพัสดุพอใช้ตลอดเวลาทำให้งานและโครงการดำเนินไปได้และแม้แต่ส่วนงานด้าน อน่ื ๆ นน้ั จะ ประสบผลสำเรจ็ ไม่ไดห้ ากไม่ได้รบั ความร่วมมอื จากฝา่ ยพสั ดุ

20 บทที่ 3 วธิ ดี ำเนินงานและพัฒนาระบบ 3.1 การรวบรวมขอ้ มูล ความเขา้ ใจพืน้ ฐานสำหรับการรวบรวมขอ้ มูลจะชว่ ยใหก้ ารดำเนนิ การรวบรวมขอ้ มลู เปน็ ไป อย่างครบถ้วน ถูกตอ้ ง และเหมาะสมกบั สภาพระบบการทำงาน โดยนักวเิ คราะหร์ ะบบจะตอ้ ง แยกแยะไดร้ ะหวา่ งปญั หาที่เกิดขึน้ จรงิ กบั ปัญหาท่ีสงั เกตพบโดยมีประเดน็ ต่างๆ ทเี่ กย่ี วขอ้ ง 3.2 ศกึ ษาความเป็นไปได้ ผูศ้ กึ ษาได้ทำการวิเคราะห์ระบบเบิกจา่ ยพัสดุเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน ซึ่งพบปญั หาใน เร่ืองการจ่ายพัสดุไมเ่ ปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ย และขาดหายตกหล่นไป พสั ดพุ รอ้ มทีจ่ ะจำหนา่ ย ชดั เจนว่า สง่ ผลเสยี ในการบริการ ทพ่ี สั ดไุ มม่ ีพรอ้ มจำหนา่ ย โดยสามารถจำแนกปญั หาไดด้ งั น้ี 3.2.1 ไมม่ ีพัสดพุ รอ้ มจำหน่าย เม่อื เจ้าหน้าที่ตอ้ งการพัสดุ 3.2.2 เจา้ หน้าที่ตอ้ งรอสนิ ค้านาน จากนนั้ ผ้ศู กึ ษาไดก้ ำหนดแนวทางในระบบ ให้สามารถทำงานได้คือ แสดงพัสดทุ ี่พรอ้ มจำหนา่ ย 3.3 วิเคราะหโ์ ดยใช้ Data Flow Diagram : DFD 3.3.1 ภาพรวมของแผนผงั กระแสขอ้ มูล ความหมายของแผนผงั กระแสขอ้ มูล ( Data Flow Diagram ) แผนผังกระแสข้อมูล คือ แผนผังชนดิ หนงึ่ ท่ีใชใ้ นการเขียนสัญลกั ษณ์รปู ภาพเพอ่ื แสดงการไหล ของข้อมลู ในระบบว่าเกดิ จากแหล่งใด และปลายทางคอื ทีใ่ ด 3.3.2 สัญลักษณ์ในการเขียนภาพดว้ ย DFD แบบมาตรบาน Gane & Sarson สัญลักษณ์ DFD ความหมาย 3.4 ความหมายของ Data Flow Diagram และ Entity Relationship Diagram 3.4.1 Data Flow Diagram หรือ (DFD) คือ แผนภาพการวิเคราะห์ระบบของนักวิเคราะห์ ระบบ ที่ช่วยใหส้ ามารถเข้าใจในกระบวนการทำงานของแต่ละหน่วยงาน ซึ่งทราบถึงการรับ/ส่งขอ้ มลู การ ประสานงานระหวา่ งกจิ กรรมต่าง ๆ ในการดำเนนิ งาน ซ่ึงเป็นแบบจำลองของระบบ แสดงถึงการ ไหล ของข้อมูลทั้ง INPUT และ OUTPUT ระหว่างระบบกับแหล่งกำเนิดรวมทั้งปลายทางของการส่ง ข้อมูล ซึ่งอาจเป็นแผนก บุคคล หรือระบบอื่น โดยขึ้นอยู่กับระบบงานและการทำงานประสานงาน ภายใน ระบบนั้น นอกจากนี้ยังช่วยให้รู้ถึงความต้องการของข้อมูลและข้อบกพร่อง (ปัญหา) ใน ระบบงานเดมิ เพ่อื ใช้ในการออกแบบการปฏิบตั ิงานในระบบใหม่

21 3.4.2 Entity Relationship Diagram หรือ (ER Diagram) คือ แผนผังแสดงความสัมพันธ์ ระหว่าง Entity หรือกลุ่มข้อมูล ซึ่งจะแสดงชนิดของความสัมพันธ์ว่าเป็นชนิดหนึ่งต่อหนึ่ง (One to One) หนงึ่ ตอ่ หลายสง่ิ (One to Many) หรอื หลายสงิ่ ต่อหลายสิ่ง (Many to Many) ตารางที่ 3-1 ตารางสัญลักษณ์ท่ีใช้ใน Data Flow Diagram (DFD) DeMarco & Gane & Sarson ความหมาย Yourdon Process - ข้นั ตอนการทำงานภายใน ระบบ Data Store - แหลง่ ขอ้ มูลสามารถเปน็ ได้ ท้ังไฟลข์ อ้ มูลและฐานข้อมลู External Entity – ปจั จัยหรอื สงิ่ แวดล้อมท่มี ผี ลกระทบตอ่ ระบบ Data Flows – เสน้ ทางการไหลของ ขอ้ มลู แสดงทศิ ทางของขอ้ มูลจาก ขั้นตอนการทำงานหนึ่งไปยงั อีกขั้นตอน หนง่ึ จากตารางที่ 3-1 ไดศ้ ึกษาระบบการออกแบบระบบโดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word โดยเขียน Data Flow Diagram ระบบ 0 ของระบบเบิกจา่ ยพสั ดเุ ทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน ไว้ดังนี้

22 ภาพที่ 3- Data Flow Diagram Level 0 ของระบบเบกิ จา่ ยพัสดุ ภาพที่ 3-1 แสดงถึง Data Flow Diagram Level 0 ของระบบเบิกจ่ายพัสดุเทศบาลตำบล เขาวัว-พลอยแหวน Process 0 มีขั้นตอนการทำงานดังนี้ ผู้เบิกพัสดุสั่งซื้อพัสดุ และไปยังระบบพัสดุ มีการบันทึกข้อมูลของผู้เบิกพัสดุและรายการเบิกพัสดุ มีการจัดทำรายงานไปยังเจ้าหน้าที่พัสดุ ระบบการทำงานดงั กล่าวข้างตน้ Process : ระบบรา้ นพสั ดุ Input Data Flow : ขอ้ มูลผูเ้ บิก, ใบเสรจ็ รายการ, ใบเสรจ็ รบั เงิน, ชำระเงิน Output Data Flow : รายการเบิกพสั ด,ุ ข้อมูลพัสด,ุ พสั ด,ุ รายการซอื้ พสั ดุ External Entity : เจ้าหนา้ ทีพ่ ัสดุ, ร้านค้า, ผูเ้ บิกพัสดุ

23 ถ้าหากเขยี นแผนภาพ Data Flow Diagram ชั้นท่ี 1 โดยแสดงรายละเอียดขบวนการตา่ งๆ ของ ระบบได้ดังภาพน้ี พนกั งาน รายการเบิกพสั ดุ 1 รายละเอยี ดรายการพัสดุ ผู้ดูแลพสั ดุ การเบิกพัสดุ รายละเอยี ดผู้เบกิ พัสดุ ขอ้ มลู เบิกพสั ดุ รายละเอียดรายการพสั ดุ D1 รายการพสั ดุ รายการผเู้ บิกพสั ดุ เบิกพสั ดุ รายการและจำนวนทเี่ บกิ D2 รายการเบิกพสั ดุ รายละเอียดรายการพสั ดุ รายการเบกิ พัสดุ D3 ขอ้ มูลผู้เบิกพัสดุ ข้อมูลเบกิ พสั ดุ รายการเบิกพสั ดุ พัสดุ รายการแก้ไขพัสดุ รายการเพิม่ เตมิ 2 รายละเอียดรายการพสั ดุ ผ้ดู แู ลพัสดุ คลงั สนิ คา้ รายละเอียดผเู้ บกิ พสั ดุ ข้อมูลเบกิ พสั ดุ รายละเอยี ดการเบิกพัสดุ D1 รายการพัสดุ รายการและจำนวนคงเหลือ D2 รายการเบิกพัสดุ รายละเอียดรายการพสั ดุ รายการเบิกพัสดุ ภาพท่ี 3.2 แผนภาพกระแสขอ้ มูล Data Flow Diagram Level 1

24 ภาพที่ 3-2 แสดงถึง Data Flow Diagram Level 1 ของระบบระบบเบิกจ่ายพัสดุเทศบาล ตำบลเขาวัว-พลอยแหวน เริ่มจากผู้เบิกพัสดุมีการสั่งซื้อพัสดุและมีการตรวจสอบรายการสั่งซื้อพัสดุ และทำข้อมูลรายการสั่งซื้อพัสดุเพื่อท่ีจะเช็ครายการพสั ดุว่ามีไหมแล้วจะทำใบเสร็จพัสดุ และรายงาน เสนอพัสดุให้กับเจ้าหน้าที่พัสดุ เพื่อส่งให้แผนกจัดซื้อเพื่อทำใบสั่งซื้อพัสดุ และส่งให้คลังสินค้าจัดซื้อ จำหน่ายส่งใบส่งใบเสร็จสินค้าให้ และใบเสร็จให้ร้านค้าส่งใบชำระเงินให้เจ้าหน้าที่พัสดุส่งข้อมูลการ สั่งซ้ือพัสดใุ ห้กบั รายการซอ้ื ขายและสง่ ใบเสร็จรับเงนิ ให้ผเู้ บกิ พสั ดุ Process : ระบบรา้ นพัสดุ Input Data Flow : ข้อมลู ผูเ้ บิก, ใบเสร็จรายการ, ใบเสรจ็ รับเงนิ , ชำระเงนิ , รายเอยี ดพสั ดุ Output Data Flow : รายการเบิกพัสด,ุ ขอ้ มูลพัสด,ุ พัสด,ุ รายการพัสดุ External Entity : เจา้ หน้าทพี่ ัสดุ, ร้านค้า, ผ้เู บิกพัสดุ 3.4.3 จากการที่ได้ศึกษาระบบ ผู้จัดทำได้ทำการออกแบบ Entity Relationship Diagram ของระบบฐานขอ้ มลู การเบกิ จา่ ยพสั ดุ ดงั ภาพที่ 3.3 ภาพท่ี 3.3 แสดงถึง Entity Relationship Diagram ของระบบเบกิ จา่ ยพสั ดุของเทศบาล ตำบลเขาวัว-พลอยแหวน

25 3.5 ความสัมพนั ธท์ ั้งหมดของระบบเบิกจา่ ยพสั ดุของเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน พนักงานมคี วามสัมพนั ธก์ บั แผนก, พนกั งานมคี วามสัมพนั ธก์ บั การเบิกจา่ ยพัสดุ, การเบกิ จา่ ย พสั ดมุ คี วามสมั พันธ์กบั พสั ด,ุ พัสดมุ คี วามสมั พนั ธก์ บั ประเภท ภาพที่ 3.4 การออกแบบตารางข้อมลู เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน ตารางข้อมูลท่ีมกี ารจัดเก็บขอ้ มูลรายการสนิ คา้ รายละเอียดสินค้า รายละเอียดการสั่งสินค้าและ ชนดิ สนิ ค้า ภาพท่ี 3.5 การออกแบบตารางข้อมูล Product ตารางขอ้ มลู Product การจัดเกบ็ ขอ้ มูลของสินคา้ โดยมี p_id เปน็ คยี ห์ ลัก (Primary Key) ภาพท่ี 3.6 การออกแบบตารางข้อมลู order_detail ตารางข้อมูล order_detail การจัดเก็บข้อมูลของรายละเอียดสินค้า โดยมี d_id เป็นคีย์หลัก (Primary Key) ภาพท่ี 3.7 การออกแบบตารางขอ้ มลู order_head ตารางข้อมูล order_head การจัดเก็บข้อมูลของผู้สั่งซื้อสินค้า โดยมี o_id เป็นคีย์หลัก (Primary Key)

26 ภาพท่ี 3.8 การออกแบบตารางขอ้ มูล staff ตารางขอ้ มูล staff แสดงข้อมลู พนักงาน โดยมี s_id เป็นคยี ห์ ลัก (Primary Key) ภาพท่ี 3.9 การออกแบบตารางขอ้ มลู type ตารางข้อมูล type แสดงขอ้ มลู ประเภทสนิ คา้ โดยมี t_id เปน็ คียห์ ลัก (Primary Key)

27 กกบทที่ 4 ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนนิ งานในการสร้างระบบการเบกิ จ่ายพัสดุ เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวนซง่ึ ผู้ ศกึ ษาไดด้ ำเนินการเสรจ็ สิน้ เปน็ โครงงานตามวตั ถปุ ระสงคซ์ ง่ึ มีผลการดำเนนิ งานดังนี้ 4.1 ระบบการเบกิ จา่ ยพสั ดุ เทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน 4.1.1 หน้าหลกั ของโปรแกรม แสดงชอ่ื และตำแหนง่ ของพนกั งาน เทศบาลตำบลเขาวัว- พลอยแหวน ภาพท่ี 4.1 หนา้ หลักของโปรแกรม 4.1.2 หนา้ รายการพนกั งานทั้งหมด จะแสดงช่อื เจา้ หน้าทแี่ ละพนกั งานทง้ั หมด และสามารถคลกิ ที่ข้อมลู เพม่ิ เตมิ เพ่ือเข้าไปดูข้อมลู โดยละเอยี ดได้ ภาพที่ 4.2 หนา้ พนกั งานท้ังหมด

28 4.1.3 หน้าพัสดุ สามารถเลือกดูประเภททั้งหมด เพิ่มประเภท ลบประเภท เพิ่มพัสดุ ลบพัสดุ และดพู สั ดุทั้งหมด ภาพท่ี 4.3 หนา้ พัสดุ มี 6 รายการเพอ่ื เรียกดูขอ้ มลู 4.1.4 หนา้ เพมิ่ ขอ้ มูลประเภทพัสดุ กรอกรหสั และช่ือลงในช่อง ภาพท่ี 4.4 หนา้ เพิ่มข้อมลู ประเภทพสั ดุ

29 4.1.5 หน้าลบข้อมูลประเภทพสั ดุ คลิกทีค่ ำวา่ ลบข้อมูล ภาพที่ 4.5 หนา้ ลบข้อมลู ประเภทพสั ดุ 4.1.6 หนา้ เพ่มิ ข้อมูลพัสดุ กรอกประเภท รหัสพสั ดุ ชือ่ จำนวน รายการลงในชอ่ ง ภาพที่ 4.6 หนา้ เพมิ่ ข้อมลู พสั ดุ

30 4.1.7 หนา้ ลบข้อมูลพัสดุ คลิกทคี่ ำวา่ ลบขอ้ มูล ภาพท่ี 4.7 หนา้ ลบข้อมลู พสั ดุ 4.1.8 หนา้ แสดงพสั ดุทง้ั หมด ภาพที่ 4.8 หนา้ แสดงรายการพัสดทุ ้ังหมด

31 4.1.9 หน้าเบิกจ่ายพัสดุ เลอื กพัสดุมาและคลกิ ป่มุ เบกิ จา่ ยเพ่ือทำการเบกิ พสั ดุ ภาพที่ 4.9 หนา้ เบกิ จ่ายพัสดุ 4.1.10 หน้ากรอกรายละเอียดผู้เบกิ พสั ดุ ภาพท่ี 4.10 หนา้ กรอกรายละเอียดผู้เบกิ

32 4.2 การจดั เกบ็ Data Base ตารางท่ี 4.2.1 แสดงขอ้ มูลแผนก ตารางที่ 4.2.2 แสดงขอ้ มลู การเบิกจ่ายพสั ดุ ตารางท่ี 4.2.3 แสดงข้อมลู ประเภท ตารางท่ี 4.2.4 แสดงข้อมลู รหัสพนกั งาน ตารางท่ี 4.2.5 แสดงข้อมลู พสั ดุ

33 ตารางท่ี 4.2.6 แสดงข้อมลู แผนก ตารางที่ 4.2.7 แสดงการเบกิ จ่ายพสั ดุ ตารางท่ี 4.2.8 แสดงประเภทของพสั ดุ ตารางที่ 4.2.9 แสดงพนกั งาน ตารางท่ี 4.2.10 แสดงพัสดุ

34 บทท่ี 5 สรปุ ผลการวิเคราะห์ ออกแบบระบบและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปตามจดุ ประสงค์ ได้ระบบสารสนเทศในการจัดเก็บข้อมูลคลังพัสดุเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน เพื่อการ จัดเก็บขอ้ มูล ผเู้ บิกพัสดุ ขอ้ มูลสินคา้ ข้อมูลการสง่ั ซ้อื ขอ้ มลู พนกั งาน 5.2 ขอ้ เสนอแนะ ข้อเสนอแนะในการเบิกพัสดุของเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน เพื่อที่จะได้มีการบริการ เบกิ พัสดุทีม่ ีประสิทธิภาพมากขนึ้ 5.2.1 การบันทกึ ขอ้ มลู ลกู ค้าอาจผิดพลาดระบบมกี ารทำงานที่ไม่เขา้ ใจเลก็ น้อย 5.2.2 เวลาในการซอ้ื สนิ คา้ อาจมีการปรับเปลีย่ นได้

35 บรรณานกุ รม นภทั ร รัตนนาคนิ ทร์, ความหมายของ DFD และ ER Diagram. [ออนไลน]์ [สืบคน้ วนั ท่ี 5 กุมภาพันธ์ 2565] จาก http://www.macare.net/analysis/index.php?id=-3 บทเรียนออนไลน์ ความหมายของภาษา PHP. (ออนไลน]์ [สืบคน้ วนั ท่ี 10 กมุ ภาพันธ์ 2565] จาก http://www.mindphp.com/คู่มอื /73-คอื อะไร/2127-php-คอื อะไร.html บทเรียนออนไลนค์ วามหมายของภาษา SQL [ออนไลน์] [สบื คน้ วนั ท่ี 10 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 จาก http://www.mindphp.com/ค่มู ือ/73-คอื อะไร/2088-sql-คอื อะไร.html วิกพิ เี ดยี ,ความรเู้ บ้อื งตน้ เกีย่ วกับระบบฐานขอ้ มลู . [ออนไลน]์ [สืบค้นวนั ท่ี 10 กมุ ภาพนั ธ์ 2565] จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ สื่อการเรยี นการสอนออนไลนก์ ารวเิ คราะหแ์ ละออกแบบระบบ. [ออนไลน]์ [สืบคน้ วนั ท่ี 10 จาก กมุ ภาพนั ธ์ 2565] จาก http://learningsystem.6te.net/?page=1 case study_web&design [ออนไลน์] [สืบค้นวนั ท่ี 10 กุมภาพันธ์ 2565] จาก https://pawebdesign.wordpress.com/2010/09/18

36 ภาคผนวก ก Data Flow Diagram หรือ DFD ระดับ 0 ของระบบพสั ดุเทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน

37 DFD Level 0 ระบบเบิกจา่ ยพสั ดุเทศบาลตำบลเขาวัว-พลอยแหวน

38 ภาคผนวก ข Data Flow Diagram หรือ DFD ระดับ 1 ของระบบพสั ดุเทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน

39 DFD Level 1 พนักงาน รายการเบิกพัสดุ 1 รายละเอียดรายการพสั ดุ ผู้ดแู ลพสั ดุ การเบิกพัสดุ รายละเอียดผเู้ บกิ พสั ดุ ขอ้ มูลเบิกพัสดุ รายละเอียดรายการพสั ดุ D1 รายการพัสดุ รายการผเู้ บิกพัสดุ เบิกพสั ดุ รายการและจำนวนทเ่ี บิก D2 รายการเบิกพัสดุ รายละเอยี ดรายการพัสดุ รายการเบกิ พัสดุ D3 ขอ้ มลู ผู้เบิกพัสดุ ข้อมูลเบิกพสั ดุ รายการเบิกพัสดุ พสั ดุ รายการแก้ไขพัสดุ รายการเพ่ิมเตมิ 2 รายละเอยี ดรายการพัสดุ ผู้ดแู ลพสั ดุ คลังสนิ คา้ รายละเอียดผเู้ บิกพสั ดุ ขอ้ มูลเบกิ พสั ดุ รายละเอียดการเบิกพัสดุ D1 รายการพสั ดุ รายการและจำนวนคงเหลอื D2 รายการเบิกพัสดุ รายละเอยี ดรายการพัสดุ รายการเบิกพสั ดุ

40 ภาคผนวก ค ER-Model แบบ Chen Model and Crow'sFoot Model ของระบบพัสดุเทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน

41 Chain ER Model ระบบเบิกจา่ ยพสั ดเุ ทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน

42

43 ภาคผนวก ง Entity Relationship Diagram ของระบบพัสดุเทศบาลตำบลเขาววั -พลอยแหวน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook