Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประเพณีล้านนา

ประเพณีล้านนา

Published by sueksa756, 2020-12-07 08:37:43

Description: ประเพณีล้านนา

Search

Read the Text Version

สารบญั 01 ประเพณีล้านนา 03 ประเพณีปใหมเ่ มอื ง 04 หรอื ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีสบื ชะตา 05 ประเพณีสรงนําพระธาตุ 06 ประเพณีฟอนผี 08 ประเพณีตานขนั ขา้ ว เขา้ วสั สา 09 ประเพณีฟงธรรมกลางวสั สา 10 ประเพณีนอนจาํ ศีลทีวดั 11 ประเพณีแฮกนา 12 ประเพณีสขู่ วญั ควาย

สารบญั ประเพณีตานก๋วยสลาก 14 ประเพณีตังธรรมหลวง 16 ประเพณีตานขนั ขา้ วออกวสั สา 17 ประเพณีล่องสะเปา 18 ประเพณีปรวิ าสกรรม 19 ประเพณีตานหลัวหงิ ไฟพระเจา้ 20 ประเพณีตานขา้ วใหมข่ า้ วสนั บาตร 21 ประเพณีงานปอยลกู แก้ว 22 ประเพณีงานปอยหลวง 23 ประเพณีปอยล้อ 24 ประเพณีปอยขา้ วสงั ฆ์ 26

ประเพณีล้านนา อาณาจกั รล้านนาใน ประเพณี ๑๒ เดอื นล้านนาเปนประเพณี อดตี มคี วามเจรญิ ทีกําหนดขนึ ในรอบปของชาวล้านนา รงุ่ เรอื งผคู้ นสงบสขุ ประเพณใี นแต่ละท้องถินในล้านนาอาจมี รม่ เยน็ นบั ตังแต่ ความแตกต่างกันบา้ งเพอื ใหเ้ กิดความ โบราณกาลอีกทังความ เขา้ ใจในประเพณใี นแต่ละเดอื นการนบั ศรทั ธ ในพระพุทธ เดอื นของล้านนาเปนการนบั เดอื นทาง ศาสนาไดห้ ยงั รากฝง จนั ทรคติซงึ มคี วามต่างจากของภาค ลึกหล่อหลอมก่อใหเ้ กิด กลางคือการนบั เดอื นของล้านนาจะเรว็ ศิลปะและวฒั นธรรม ประเพณอี ันดงี ามสบื กวา่ ภาคกลาง ๒ เดอื น เนอื งตังแต่อดตี จนถึง ปจจุบนั นชนชาวล้านนา 1 ไดย้ ดึ ถือหลักธรรมและ ปรชั ญาคําสอนของ องค์สมเดจ็ พระสมั มา สมั พุทธเจา้ มาเปน แนวทางในการดาํ เนนิ ชวี ติ ทําใหม้ คี วามสงบ สขุ ตลอดมา

ประเภทของประเพณี ล้านนา ดนิ แดนแหง่ ความหลาก 1. จารตี ประเพณีเปน หลายทางประเพณแี ละ ประเพณีทีเกียวกับศีลธรรมและ สวสั ดิภาพของสงั คมสว่ นรวมมี วฒั นธรรมทีมคี วามนา่ สนใจไม่ การบงั คับใหก้ ระทําถ้าไมท่ ําถือวา่ นอ้ ยไปกวา่ ภาคอืนของไทย เพราะเปนเมอื งทีเต็มไปดว้ ย ผดิ หรอื ชวั ต้องมกี ารลงโทษ เสนห่ ม์ นต์ขลังประเพณขี อง 2. ขนบประเพณีเปน ภาคเหนอื เกิดจากการผสม ผสานการดาํ เนนิ ชวี ติ และ ประเพณีทีได้มรี ะเบยี บแบบแผน วางไวโ้ ดยตรงหรอื โดยอ้อม ศาสนาพุทธความเชอื เรอื งการ นบั ถือผสี ง่ ผลทําใหม้ ปี ระเพณที ี - โดยตรง เปนเอกลักษณข์ องประเพณที ี คือมรี ะเบยี บกฎเกณฑ์กําหนดไว้ จะแตกต่างกันไปตามฤดกู าล -ชโดั ดเยจอน้อม ทังนี ภาคเหนอื จะมงี าน เปนประเพณที ีรจู้ กั กันทัวไป ไมไ่ ดว้ าง ประเพณใี นรอบปแทบทกุ เดอื น จงึ ขอยกตัวอยา่ งประเพณภี าค ไวแ้ นน่ อน ปฎิบตั ิโดยการ เหนอื บางสว่ นมานาํ เสนอ ดงั นี บอกเล่าสบื ต่อกันมา 2

ประเพณีปใหมเ่ มอื ง หรอื ประเพณีสงกรานต์ ซงึ จะอยูใ่ นระหวา่ งวนั ที 13 - 15 เดือนเมษายนชาวล้าน นาจะถือเอาวนั ทีพระอาทิตย์ เคลือนออกจากราศีมนี เขา้ สู่ ราศีเมษ จะถือเปนวนั สงั ขาร ล่อง ในชว่ งเชา้ มดื ของวนั นี ชาวล้านนาจะมกี ารยงิ ปน จุดสะโปก จุดประทัดใหเ้ กิด ความเสยี งดังทัวทกุ บา้ นมุม เมอื ง เดือน 7 เหนอื โ ด ย มี ค ว า ม เ ชื อ ว่ า เ ป น ก า ร ขั บ ไ ล่ สิ ง ชั ว ร้า ย ใ ห้ ไ ป กั บ สั ง ข า ร ป เ ก่ า แ ล ะ เ ฉ ลิ ม ฉ ล อ ง ต้ อ น รับ ค ว า ม เ ป น สิ ม ง ค ล ที จ ะ เ ข้ า ม า กั บ สั ง ข า ร ป ใ ห ม่ ลู ก เ ล็ ก เ ด็ ก น้ อ ย จ ะ ถู ก ป ลุ ก ใ ห้ ตื น แ ต่ เ ช้ า มื ด ใ ห้ ไ ป ห ล บ ใ ต้ ต้ น ม ะ เ ขื อ เ พื อ แ อ บ ดู ปู สั ง ข า ร ย่ า สั ง ข า ร ป เ ก่ า ที กํา ลั ง จ ะ เ ดิ น ผ่ า น ห น้ า บ้ า น ซึ ง เ ป น กุ ศ โ ล บ า ย ใ ห้ เ ด็ ก ๆ ตื น เ ช้ า ต้ อ น รับ ป ใ ห ม่ 3

ประเพณีสบื ชะตา การสบื ชะตา หรอื ชาตา เปนพธิ กี รรมทีชาวล้านนา เดือน7 เหนือ ใหค้ วามสาํ คัญซงึ แสดง ถึงภมู ปิ ญญา และแฝง คติธรรมไวใ้ นองค์ ประกอบของเครอื งสบื ชะตาเพอื ใหเ้ กิดความเปน สริ มิ งคล รวมทังปดเปา สงิ ชวั รา้ ยออกจาก รา่ งกายออกจากชุมชน หรอื บา้ นเมอื งและเปน สญั ลักษณ์ของความ เจรญิ งอกงาม เปนการเสรมิ สรา้ งกําลังใจ รวมถึงเปนสญั ลักษณ์ของ สขุ ภาพรา่ งกายและจติ ใจ ของชาวล้านนา ในอดีตมกั จะ ประกอบพธิ สี บื ชะตาในโอกาส สาํ คัญเชน่ วนั ปในเมอื ง หลัง การหายจากอาการเจบ็ ปวย หลังจากเกิดเหตกุ ารณ์รา้ ย แรงกับบา้ นเมอื ง หรอื ทําบุญ วนั คล้ายวนั เกิด ปจจุบนั นิยม ทําในโอกาสวนั เกษียณอายุ และพธิ ที ําบุญขนึ บา้ นใหม่ คติธรรมทีแฝงอยูใ่ น ประเพณีสบื ชะตาทีสอื ถึง ภมู ปิ ญญาทีสบื ทอดกันมา จากรุน่ สรู่ ุน่ สามารถถอดเปน องค์ความรูส้ าํ หรบั การศึกษา ต่อไปในอนาคตได้เปนอยา่ ง ดี N O M A D I C | 2 4 4

ประเพณีสรงนําพระธาตุ เดือน 8 เหนอื การได้สรงนําพระธาตเุ ปรยี บ ดังการได้สรงนําพระพุทธเจา้ พระอรหนั ต์ และพระสาวก ใน ล้านนาการสรงนําพระธาตเุ ปน งานประเพณีประจาํ ปของทกุ วดั ทีองค์พระเจดียป์ ระดิษฐาน อยู่ แต่การกําหนดวนั จดั งาน ประเพณีสรงนําจะไมต่ รงกัน ขนึ อยูก่ ับการจดั งานในอดีต แรกเรมิ วา่ จดั กันวนั ไหน เมอื นเวันยี เนชมน่ าเดคิมรบแปตก่ใน็จะชมว่ งี งาเนดใือนนวนั 8 จะนิยมจดั งานประเพณีสรงนํา พระธาตกุ ันมาก เนืองจากตรง กับวนั มาฆบูชา เชน่ วดั พระ แก้วดอนเต้าสชุ าดา วดั พระ ธาตดุ อยสเุ ทพ วดั พระธาตุ จอมกิตติ วดั พระธาตดุ อยตงุ เปนต้น 5

ปปรระะเเพพณณเดีฟีฟือนออ9นนเหผผนีอืี เดือน 9 เหนอื การฟอนผเี ปนประเพณีที ผมี ดเปนผปี ูยา่ ทีสบื เชอื แสดงถึงความกตัญ ูของ พอ่ ค้าส,คายหบมดาี,จอาากจการลย่มุ ห์ รอื ผู้ ลกู หลานในวงตระกลู ต่อผี บรรพบุรุษ ปกติการฟอนผี มคี วามรูท้ างด้านศาสตร์ จะจดั ขนึ ทกุ ๆ 3 ป ปไหน ต่างๆ มกั จะมกี ารฟอนเพอื ไมม่ กี ารฟอนก็จะจดั เพยี ง บวงสรวงทีเรยี กวา่ ฟอนผี การถวายเครอื งเซน่ สงั เวย มด การสรา้ งผามจะมี เชน่ หวั หมู ไก่ ลาบ แกง ลักษณะเปนหลังคาเรยี บ อ่อม ผลไม้ หมาก เหมยี ง ขนานกับพนื ดิน ไมม่ กี ารยก บุหรี สรุ า ฯลฯ เมอื ถึงปที จวั สงู เรยี กปะราํ ลักษณะนี ต้องจดั การฟอนผจี ะมกี าร จดั เตรยี มสถานทีสรา้ งปะราํ วา่ ผามเปยง หรอื ทีเรยี กวา่ ผาม การฟอน ผจี ะมคี วามแตกต่างในราย ละเอียดขนึ อยูก่ ับประเภท ของผี 6

ผเี มง็ เปนผปี ูยา่ ทีสบื เชอื สายมาจากเจา้ ผคู้ รองนคร ขุนนางชนั สงู หรอื คหบดีชนั สงู นครลําปางในสมยั ล้านนา เเปคนยเตวกลเาป2น1เม6อื ปงขกนึ ารขนอับงถพือมผา่ ี เมง็ คงมจี ุดเรมิ ต้นตังแต่ง สมยั นันเปนต้นมาและสบื ทอด กันมาจนถึงปจจุบนั นี การ สรา้ งปะราํ จะมลี ักษณะคล้าย กระโจมสงู แล้วมุงหลังคาลง มาเกือบถึงพนื ดิน ปะราํ ลักษณะนีเรยี กวา่ ผามจอ๋ ง การฟอนผเี มง็ ในปจจุบนั ยงั สามารถพบเหน็ ได้ แต่ก็ถกู ปรบั เปลียนขนั ตอนและ พธิ กี รรมใหเ้ ขา้ กับเศรษฐกิจ และสงั คมในยุคปจจุบนั 7

ประเพณีตานขนั ขา้ ว เขา้ วสั สา เดือน 10 เหนอื การตานขนั ขา้ ว คือการทําบุญถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ เพอื อุทิศ สว่ นกศุ ลใหแ้ ก่ญาติพนี ้องผลู้ ่วงลับ การตานขนั ขา้ วสามารถทําได้ตลอด ทังป แต่จะนิยมทํากันในวนั สาํ คัญทางพระพุทธศาสนา ได้แก่ วนั พญาวนั วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา วนั ยเี ปง วนั สเี ปง วนั สบิ สองเปง เปนต้น อาหารทีชาวล้านนานิยมในการตานขนั ขา้ วนัน ได้แก่ แกงฮังเล ต้ม จดื วุน้ เสน้ หอ่ นึงปลา หอ่ นึงไก่ หอ่ นึงหอ่ ไมส้ ม้ หอ่ นึงหยวกกล้วย หอ่ แค เปนต้น สว่ นขนมทีนิยมทําถวายทาน ได้แก่ ขนมเทียน ขนมเกลือ ขา้ วต้ม มดั ขา้ วต้มถัว ขา้ วต้มกล้วย เปนต้น นอกจากกับขา้ วและขนมแล้วยงั มี องค์ประกอบอืนๆ ได้แก่ ขา้ วเหนียว ผลไม้ หมาก เหมยี ง บุหรี กรวย ดอกไม้ และนําหยาด 8

ประเพณีฟงธรรมกลางวสั สา เดือน 11 เหนอื วั น พ ร ะ ใ น ช่ว ง ต ล อ ด พ ร ร ษ า ช า ว ล้ า น น า นิ ย ม ทํา บุ ญ ต ล อ ด ทั ง วั น โ ด ย ช่ ว ง เ ช้ า จ ะ มี ก า ร ทํา บุ ญ ตั ก บ า ต ร ช่ ว ง บ่ า ย ห ลั ง จ า ก รับ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร เ ที ย ง เ ส ร็จ ผู้ เ ฒ่า ผู้ แ ก่ จ ะ ถื อ ขั น ข้ า ว ต อ ก ด อ ก ไ ม้ ธู ป เ ที ย น ไ ป ที วั ด เ พื อ ทํา บุ ญ ฟ ง เ ท ศ น์ ฟ ง ธ ร ร ม พ ร ะ ส ง ฆ์ นิ ย ม เ ท ศ น์ เ ป น เ รือ ง ร า ว ที มี เ นื อ ห า ยื ด ย า ว แ บ่ ง เ ป น ห ล า ย ๆ ผู ก ผู ก พ ร ะ ท่ า น จ ะ แ บ่ ง คั ม ภี ร์แ ต่ ล ะ ผู ก ใ ห้พ ร ะ ภิ ก ษุ ส ง ฆ์ – ส า ม เ ณ ร ช่ ว ย กั น เ ท ศ น์ ต ล อ ด พ ร ร ษ า เ รีย ก ว่ า ก า ร ต ก ธ ร ร ม และเนือหาสว่ นใหญ่เปนธรรม 9 เกียวกับคติ คําสอน เรอื ง ความกตัญ ู รูค้ ณุ มตี ัว ละครเปนตัวดําเนินเรอื ง จงึ เปนทีน่าติดตามและอยากจะ ฟงเรอื งราวของธรรมเรอื งดัง กล่าว เชน่ จาํ ปาสตี ้น, นาคเขา คํา, คันธกมุ าร, กําพรา้ เหล็ก ใน,หมาเก้าหาง,แสงเมอื งหลง ถํา, วมิ าโลมา้ งคอก, เจา้ เมอื ง ไหวเจา้ เมอื งคอน, จุมปูราช พญาแมวขนคํา, เตโจยาโย, รตั นมณีกมุ ารมดสม้ และหงส์ หนิ เปนต้น

ประเพณีนอนจาํ ศีลทีวดั เดือน 11 เหนอื ประเพณีการนอนจาํ ศีล ทีวดั ก็ยงั เปนทีนิยม ประพฤติปฏิบตั ิกันอยู่ โดยเฉพาะผสู้ งู อายุ มกั จะนิยมใหล้ กู หลานไปสง่ และได้รบั ถือได้วา่ เปน ประเพณีทีสาํ คัญของ ชาวล้านนาทีปฏิบตั ิสบื ต่อๆกันมาจนถึง ปจจุบนั พธิ กี รรมจะเรมิ จาก ไหวพ้ ระสวดมนต์ ทําวตั รเยน็ หลังจากนัน จะเรมิ สวดปา ซงึ เปนการสวดมนต์ตาม แบบฉบบั ของล้านนา ชา้ ๆ เนิบๆ เปนทํานองที ไพเราะ และมกี ารนัง สมาธปิ ระกอบ เสรจ็ พธิ ี ประมาณ 21.30 น. จากนันจะเปนการนอน หลับพกั ผอ่ นตาม อัธยาศัย รุง่ เชา้ มกี าร สวดมนต์วตั รเชา้ สมู า แก้วทังสาม เปนอัน เสรจ็ พธิ ี 10

ประเพณีแฮกนา เดือน 11 เหนอื เมอื เรมิ เขา้ สฤู่ ดฝู น ฤดกู ารทํานาจงึ เรมิ ขนึ ก่อนทีจะมกี ารหวา่ นไถเพาะปลกู จะมพี ธิ แี ฮ กนา คือการบอกกล่าวเจา้ ทีเจา้ ทาง แมโ่ พสพ และแมธ่ รณี เพอื ขออนุญาตในการเพาะปลกู และความเปนสริ มิ งคล เครอื งพลีกรรมแมโ่ พสพ และเครอื งพลี กรรมแมธ่ รณี หลังจากเตรยี มเครอื งพลี กรรมพรอ้ มแล้ว จุดธูป เทียนบูชา ประกอบพธิ โี ดยจะกล่าวสงั เวยท้าวทังสี ก่อน แล้วจงึ กล่าวคําสงั เวยแมโ่ พสพและ แมธ่ รณีตามลําดับจนเสรจ็ พธิ ี จากนันก็ เรมิ ไถ ได้ผลผลิตทีดี ไมม่ สี ตั ว์ แมลงมารบกวน การจะ ประกอบพธิ แี ฮกนา ต้อง ตรวจหาฤกษ์งามยามดีตาม ความเชอื ของชาวล้านนา แต่ ทัวไปทีง่ายก็จะถือเอาวนั อาทิตยห์ รอื วนั พฤหสั บดี การเตรยี มเครอื งพลีกรรม นันประกอบด้วย เครอื งพลี กรรมท้าวทังสี 11

ประเพณีสขู่ วญั ควาย หรอื ฮ้องขวญั ควาย เปนพธิ ที ีจะ กระทําหลังจากการเสรจ็ สนิ การไถนาปลกู ขา้ ว ซงึ เปนการเตือนสติใหค้ นเรา ระลึกถึงบุญคณุ ของควาย ทีใชแ้ รงงานไถนา ทําใหค้ น สามารถปลกู ขา้ วไวบ้ รโิ ภค ได้ตลอดทังป เปนพนื ฐาน ของความเจรญิ งอกงาม ของบา้ นเมอื ง ประเพณีสขู่ วญั ควาย ในขณะทีทําการไถนา บางครงั อาจมกี ารดุ เดือน 11 เหนอื ด่า เฆยี น ตี จงึ ต้อง ทําพธิ ขี อขมาทีได้ล่วง การทําพธิ สี ขู่ วญั ควายจะประกอบใน เกิน เปนการสอนให้ กเปบครหรรําวนะเิยพวกียณอลวไกบู ค11่ตดอ้มปใ้วกบนย2คนกกวตําาลรขัวยว้วมเยยเหนิ คดสลสรอกุ ้าม้อื กข1ปงไามพอวลยธ้ลกู1ูปีกดหขเรท้าวมรยียดมาสนกพขาย3ธิ1า้ วี คนรูจ้ กั กตัญ ูรูค้ ณุ เมตตากรุณา สาํ นึก สญิ จน์ ในความผดิ ของตน 12

และหญ้าอ่อนสาํ หรบั ใหค้ วาย กินตลอดชว่ งทําพธิ ี เมอื จะ เรมิ พธิ จี ะมกี ารนําแอกใสท่ ีคอ ของควายไว้ จากนันจงึ เรมิ พธิ ี โดยผปู้ ระกอบพธิ จี ะกล่าวบทสู่ ขวญั ควาย เมอื ถึงบททีวา่ ปลดแอกแล้ว จงึ ทําการ ปลดแอกออกจากคอควาย ไจ1วาต้กกรรนวงันยทนนีปําําลกไาปรยผวเยขกู ดาตทอิดี ก2กไลมขับา้ม้ งหาลผอังกูีก หวั ควาย หลังจากกล่าวบทสู่ ขวญั จบ ก็จะทําการปอนขา้ ว ปอนนํา พรอ้ มประพรหมนําสม้ ปอย แสดงถึงการขอขมาต่อควาย 13

ประเพณีตานก๋วยสลาก เดือน 12 เหนอื ประเพณีตานก๋วยสลาก หรอื ประเพณี กินขา้ วสลาก เปนประเพณีทําบุญโดย มไิ ด้เลือกเจาะจงพระภิกษุ สามเณร รูป ใดรูปหนึงของชาวล้านนา ลักษณะโดย ทัวไปคล้ายคลึงกับประเพณีถวาย สลากภัตของชาวไทยภาคกลาง หาก ทางล้านนานิยมเปนการทําบุญ จตปุ จจยั ถวายแด่พระสงฆ์ โดยมติ ้อง มกี ารทําบุญเปนภัตตาหาร ต่าง ๆ เชน่ เดียวกับภาคกลางการตา นกก๋วันยตสังลแาตก่1ข5องคชําาเดวลือ้านน1น2านเิยหมนปือถฏึงิบตั ิ เดือนเกียงเหนือหรอื ประมาณตังแต่ เดือนกันยายนถึงเดือนตลุ าคมของ ทกุ ป สาเหตทุ ีถือปฏิบตั ิกันเชน่ นีก็เพราะ วา่ เปนชว่ งทีชาวบา้ นได้ปลกู ขา้ วใน นากันเสรจ็ แล้ว จงึ ได้หยุดพกั ผอ่ น พระสงฆก์ ็จาํ พรรษาอยูว่ ดั ไมไ่ ด้ไป ไหนและบวกกับในชว่ งเวลานีก็มี ผลไมส้ กุ เชน่ ลําไย มะไฟ สม้ โอ เปนต้น เมอื ต้นขา้ วในนาเรมิ เขยี ว ขจชี าวนา ทีมฐี านะไมค่ ่อยดีการ ดํารงชวี ติ ก็เรมิ ขดั สนเมอื ขา้ วในยุง้ ก็หมดก่อนฤดกู าลเก็บเกียว จะมา ถึง ดังนันการตานก๋วยสลากใน ชว่ งนีจงึ เท่ากับวา่ ได้สงเคราะหค์ น ยากคนจนเปนสงั ฆทานได้กศุ ล แรง 14

ในวนั ตานก๋วยสลาก ชาว บา้ นจะนําเสน้ สลากทีทํา มาจากใบตาล หรอื ใบลาน โดยเขยี นชอื ผถู้ วายสลาก และผทู้ ีจะอุทิศสว่ นกศุ ล ไปให้ นําไปกองรวมกัน ไว้ ในวหิ ารหน้าพระประธาน เมอื เสรจ็ พธิ กี รรมทาง ศาสนาแล้วเสน้ สลากจะ ถกู นํามาแบง่ สนั ปนสว่ น กันไป ในหมูข่ องพระสงฆ์ ทีได้นิมนต์มาจากวดั ต่างๆ สว่ นหนึงจะถกู แบง่ ใหว้ ดั ทีเปนเจา้ ภาพ ก่อนจะถึงเวลาเพล พระสงฆ์ และสามเณรก็จะนําเอาเสน้ สลากไปอ่าน ซงึ จะมกี ารเรยี กชอื หาเจา้ ของ สลากนันๆ วา่ นังอยูท่ ีใด เมอื พบแล้วพระสงฆจ์ ะใหพ้ รและกรวด เพอื นําอุทิศสว่ นบุญกศุ ลไปใหก้ ับผทู้ ีล่วงลับเปนอันเสรจ็ พธิ ี 15

ประเพณีตังธรรมหลวง เดือนยี เหนอื ตังธรรมหลวง หรอื เทศ นมห์ าชาติ เปนประเพณี การฟงเทศน์ 13 กัณฑ์ ภายในหนึงวนั เปนเรอื ง ราวทีเกียวกับพระ เวสสนั ดรอันเปนพระชาติ สดุ ท้ายของพระโพธสิ ตั ว์ ก่อนทีจะมาประสตู ิเปนเจา้ ชายสทิ ธตั ถะและออกบวช จนตรสั รูเ้ ปนพระสมั มาสมั พุทธเจา้ ชาวล้านนาจะจดั งานเทศน์มหาชาติ ใชเ้ วลา 2 วนั วนั แรกจะเทศน์คาถา พนั มาลัยเก๊า มาลัยปลาย และ อานิสงสเ์ วสสนั ดร และวนั รุง่ ขนึ เรมิ เทศน์กัณฑ์แรกเรมิ ตังแต่ กัณฑ์ ทศพร หมิ พานต์ ทานขนั วนประ เวสน์ ชูชก จุล พล มหาพล กมุ าร มทั รี สกั บรรณ มหาราช ฉะกษัตรยิ ์ และ กัณฑ์สดุ ท้าย คือ นครกัณฑ์ การฟง เทศน์ครบทัง 13 กัณฑ์ ภายในวนั เดียว ชาวล้านนาเชอื วา่ จะมอี านิสงค์ ได้ไปเกิดในยุคของพระศรอี รยิ ะเมตร ไตร ในพธิ กี รรมการฟงเทศน์มกี ิจกรรมที หลากหลาย 16

การตานขนั ขา้ ว คือ การทําบุญถวาย ภัตตาหารแก่พระสงฆ์ เพอื อุทิศสว่ นกศุ ลให้ แก่ญาติพนี ้องผลู้ ่วง ลับ กานตานขนั ขา้ ว สามารถทําได้ตลอดทัง ป แต่จะนิยมทํากันใน วนั สาํ คัญทางพระพุทธ ศาสนา ได้แก่ วนั พญา วนั วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา วนั ยเี ปง วนั สเี ปง วนั สบิ สอง เปง เปนต้น ประเพณีตานขนั ขา้ ว ออกวสั สา เดือนเกียงเหนอื อาหารทีชาวล้านนานิยม 17 ในการตานขนั ขา้ วนัน ได้แก่ แกงฮังเล ต้มจดื วุน้ เสน้ หอ่ นึงปลา หอ่ นึง ไก่ หอ่ นึงหอ่ ไมส้ ม้ หอ่ นึง หยวกกล้วย หอ่ แค เปนต้น สว่ นขนมทีนิยม ทําถวายทาน ได้แก่ ขนม เทียน ขนมเกลือ ขา้ วต้ม มดั ขา้ วต้มถัว ขา้ วต้ม กล้วย เปนต้น นอกจาก กับขา้ วและขนมแล้วยงั มี องค์ประกอบอืนๆ ได้แก่ ขา้ วเหนียว ผลไม้ หมาก เหมยี ง บุหรี กรวย ดอกไม้ และนําหยาด

ประเพณีล่องสะเปา เดือนยี เหนอื ประเพณลี ่องสะเปา คล้ายกับ ประเพณลี อยกระทงในภาคกลาง คําวา่ สะเปา นนั หมาย เรอื สาํ เภา ตามตํานานของประเพณลี ่องสะเปา มปี ระวตั ิสบื มาตังแต่สมยั หรภิ ญุ ไชย ครงั หนงึ เกิดอหวิ าตกโรคที เกิดขนึ ในเมอื ง ผคู้ นล้มตายเปน จาํ นวนมาก ผคู้ นจงึ พากันอพยพไป อยูท่ ีเมอื งหงสาวดเี ปนเวลาหลายป ต่อมาเมอื ทราบวา่ จงึ ได้จดั ดอกไมธ้ ูป อหวิ าตกโรคในเมอื งหรภิ ญุ ไชยได้สงบลงแล้ว จงึ ต่าง พากันเดินทางกลับคืนสู่ เมอื งหรภิ ญุ ไชย แต่หลาย คนไมไ่ ด้กลับมาเนืองจาก ตังรกรากปกฐานบา้ นเรอื น อยูท่ ีเมอื งหงสาวดี สว่ นผทู้ ี กลับมาแล้วคิดถึงญาติพี น้องทียงั อยูเ่ มอื งหงสาวดี ในชว่ งเดือนยเี ปง เทียนเครอื งสกั การะ พรอ้ มทังเครอื งอุปโภค บรโิ ภคใสล่ งใน สะเปา ลอยลงนําแมป่ ง นําแม่ กวง เพอื ระลึกถึงญาติ พนี ้อง จงึ เปนมูลเหตุ ของการลอยสะเปาหรอื ลอยกระทงนับแต่นัน เปนต้นมา 18

หลังจากออกพรรษาพระ สงฆท์ ่านมกั จะธุดงค์นัง กรรมฐานในปาชา้ เปนเวลา หลายวนั หรอื อาจจะ ประกอบเปนงานบุญใหญ่ เพอื หาปจจยั ก่อสรา้ ง เสนาสนะภายในวดั ชาวบา้ น ก็จะมกี ารสรา้ งกระท่อมหลัง เล็กพออยูพ่ อนอนได้ ทีทํา จากฟางขา้ ว หรอื ใบคา หรอื ใบตองตึง ถวายพระสงฆ์ ตามจาํ นวนทีนิมนต์ไว้ ประเพณีปรวิ าสกรรม เดือน 3 เหนอื ก่อนทีพระสงฆจ์ ะเขา้ อาศัย ในกระท่อม จะมกี าร ประกอบพธิ ขี นึ ท้าวทังสี และฤๅษีทังหก หลังจากนัน ชาวบา้ นจะทําการถวาย กระท่อมแก่พระสงฆท์ ีจะมา อธฐิ านอยูป่ รวิ าสกรรม การอยูป่ รวิ าสกรรมของ พเเชวราล้ะสา–งปฆเรยะจ์ น็มะมาแณกี ลาะร2สส0วว.ด0ดป0มานนในต. ์ คตจืนละอม1ดรี0ะกยวานัะรเเวชขลาา้ าวปปบรรา้วิ ะนามสจาซะณมงึ กี ม9ากั ร ทําบุญตักบาตร ถวาย ภัตตาหาร ถวายนําปานะ ตลอดชว่ งการจดั งาน 19

ประเพณีตานหลัวหิงไฟพระเจา้ เดือน 4 เหนอื ประเพณีตานหลัวหงิ ไฟ การเผาบูชาเวลาประมาณตีสตี ี พระเจา้ คือการนําเอาฟนมาเผา หา้ สมภารหรอื เจา้ อาวาส จะเป เพอื ใหพ้ ระพุทธเจา้ หรอื พระพุทธ รูปได้ผงิ ไฟ จดั ขนึ ในวนั เดือนสี ผจู้ ุดก่อกองไฟหลัวหงิ ไฟ เปง หรอื วนั เพญ็ เดือนสเี หนือ อยู่ กพับรใหะเต้จา้ีฆขอ้ นึ งเป3นรคานเแพรอื กปพรระกอ้ ามศ ในชว่ งประมาณเดือนธนั วาคมถึง มกราคม เปนชว่ งทีมอี ากาศหนาว แก่ประชาชนทีอยูต่ ามบา้ น เยน็ ชาวล้านนามคี วามเชอื วา่ เรอื นใหไ้ ด้ยนิ เสยี งและรว่ ม พระพุทธเจา้ หรอื พระพุทธรูปใน อนุโมทนา ด้วย หลังจากการ วหิ ารก็รูส้ กึ ถึงความหนาวเยน็ เชน่ ก่อกองไฟหลัวหงิ ไฟพระเจา้ ไป เดียวกับคนเรา จงึ รว่ มกันหาไม้ สกั พกั เมอื ไฟติดลกุ โพลงขนึ ฟนมาจุดเผาไฟผงิ ใหเ้ กิดความ จะเผาลนไมไ้ ผท่ ีตัดซุกไวเ้ กิด อบอุ่น ประเพณีนีเปนประเพณีที ระเบดิ ขนึ เสยี งดัง ตมู ตาม จะ เกิดขนึ สอดคล้องกับบรบิ ททาง เปนเครอื งเตือนใหป้ ระชาชนผู้ สภาพแวดล้อม เนืองจากในดิน หลับใหลใหต้ ืนขนึ มาหงุ ต้ม นึง แดนล้านนาเปนพนื ที ๆ มคี วาม ขา้ วนึงปลา เตรยี มอาหารมา หนาวเยน็ มาก รวมทังมปี าไมท้ ี อุดมสมบูรณ์ ต้นไมข้ นึ หนาแน่น วดั กินกันทกุ ครวั เรอื น และมคี วามชนื สงู การผงิ ไฟ 20 นอกจากจะใหค้ วามอบอุ่นแก่ รา่ งกายแล้ว ยงั ขบั ไล่ความชนื ใน อากาศทีเปนสาเหตขุ องการเจบ็ ปวย

ประเพณีตานขา้ วใหม่ ขา้ วสนั บาตร ขา้ วหลาม ขา้ วจี เดือน 4 เหนอื ในวนั เดือนสเี ปงนอกจาก ตานหลัวหงิ ไฟพระเจา้ แล้ว ก็จะทําพธิ ที ําบุญทานขา้ ว ใหม่ ขา้ วล้นบาตร ไปพรอ้ ม ๆ กัน ในชว่ งของประเพณี เดือน 4 เมอื ชาวบา้ นนํา ขา้ วเปลือกเขา้ ยุง้ ฉางแล้ว จะนําขา้ วนันไปทําบุญขา้ ว ใหม่ ก่อนทีจะนําไปขา้ วนัน ไปสเี พอื รบั ประทาน การ ทําบุญในวาระนีเรยี กวา่ ทานขนั ขา้ วใหม่ เพอื เปนการอุทิศสว่ นกศุ ลไป ถึงเทวดาขุนนํา ปูยา่ ตา ยาย พอ่ แมท่ ีเปนเจา้ ของไร่ นามาแต่เดิม และ อุทิศ สว่ นกศุ ลไปใหญ้ าติพนี ้อง ทีล่วงลับไปแล้ว สาํ รบั อาหารประกอบไปด้วยขา้ วนึงสกุ พรอ้ มกับอาหารทีนิยมกันตามท้องถิน การทําบุญทานขา้ วจี ขา้ วหลาม การ ทานขา้ วล้นบาตรนีจะเปนการบูชาแม่ โพสพ ขอบคณุ เทวดาอารกั ษ์ และ บาํ รุงพระศาสนาด้วยการใหผ้ ลผลิต แก่วดั 21

ประเพณีงานปอยลกู แก้ว เดือน 5 เหนอื ปอย เปนภาษาพมา่ หมายความ ถึง งานทีมคี นมาชว่ ยกัน หรอื ชุมนุมกัน งานฉลอง งานสมโภช มหกรรม รวมเขา้ ไปหมด แต่มคี ํา วา่ หลวง และ น้อย ต่อท้าย ถ้า เปนงานฉลองใหญ่ เรยี กวา่ ปอย หลวง สว่ นปอยลกู แก้วนีเรยี กวา่ ปอยน้อย คืองานเล็ก ๆนันเอง เปนงานเฉลิมฉลองในประเพณี พธิ กี ารบรรพชาหรอื บวชเณรหรอื เปนประเพณี บวชเณรของเด็กใน ภาคเหนือ ซงึ จะทํากันในเดือน ๕,๖,๗,๘ เหนือ คือราวเดือน กมุ ภาพนั ธถ์ ึงเดือนพฤษภาคม จุดประสงค์ของการจดั ปอย ลกู แก้วหรอื ปอยบวช หรอื ปอยหน้อย ก็เพอื ลกู ศิษยว์ ดั ทีเรยี กวา่ ขะโยมวดั ทีคอยมา อยูร่ บั ใชท้ ํางานในวดั เปนเวลา พอสมควร และได้เรยี นจบ การศึกษาภาคบงั คับแล้ว ทาง วดั และญาติผใู้ หญ่ก็จะรว่ มกัน จดั งานพธิ บี รรพชาใหเ้ ปน สามเณรในพระพุทธศาสนา 22

ประเพณีงานปอยหลวง ปอยหลวงเปนงานทําบุญเพอื เดือน 6 เหนอื เฉลิมฉลองศาสนสมบตั ิต่าง ๆ เพอื ใหเ้ กิดอานุสงสแ์ ก่ตนและ การทําบุญปอยหลวงที ครอบครวั ถือวา่ ได้บุญกศุ ลแรง นิยมทํากันคือทําบุญเพอื มาก นอกจากนียงั เปนเครอื ง อุทิศสว่ นกศุ ลใหพ้ อ่ แม่ แสดงถึงความสามคั คีกลมเกลียว ปูยา่ ตายาย หรอื ญาติพี ของคณะสงฆแ์ ละชาวบา้ นด้วย น้องทีล่วงลับไปแล้วก็ได้ เพราะเปนงานใหญ่ สงิ สาํ คัญทีได้จากการ ทําบุญงานปอยหลวงอีก อยา่ งหนึงก็คือ การแสดง ความชนื ชมยนิ ดีรว่ มกัน เพอื ความสนุกสนาน เพลิดเพลินใหแ้ ก่คนในท้อง ถินโดยการจดั มหรสพ สมโภชเพราะหนึงปถึงจะได้ มโี อกาสได้เฉลิมฉลอง ถาวรวตั ถตุ ่างๆ ได้ 23

ประเพณีปอยล้อ เดือน 6 เหนอื เปนงานปอยหรอื งานบุญ งานฉลอง ทีจดั ขนึ ในการ ประชุมเพลิงพระภิกษุสงฆ์ ทีมรณภาพ ทังนีสานุศิษย์ ทังหลายปารถนารว่ มกัน จดั งานเพอื ราํ ลึกถึงบุญ คณุ และคณุ งามความดี เพอื แสดงกตเวทิตาคณุ ก่อน จะทําการฌาปนกิจ สรรี ะสงั ขารพระภิกษุรูป นัน ปอยล้อจะจดั เฉพาะ งานศพของเจา้ อาวาสหรอื พระภิกษุผเู้ จรญิ พรรษา ซงึ ได้บาํ เพญ็ คณุ ประโยชน์ต่อสงั คมตาม ควร คณะศรทั ธาและลกู ศิษยว์ ดั จะเปนผเู้ ตรยี ม งานทังหมด 24

ในงานมกี ารเฉลิมฉลองเชน่ เดียวกับงานปอย อืน ๆ มกี ารเชญิ ชวน รว่ มกันทําบุญ สงิ ทีจะเหน็ ได้วา่ เปนสญั ลักษณ์ของปอยล้อก็คือ ปราสาท หรอื เมรุขนาดใหญ่ทีถกู จดั สรา้ งขนึ อยา่ งประณีตวจิ ติ ร พสิ ดาร เปนทีสาํ หรบั บรรจุศพของพระภิกษุผมู้ รณภาพปราสาทนัน นิยมทําเปนรูปนกหสั ดีลิงค์หรอื ทีชาวบา้ นเรยี กโดยนิยมวา่ นกหสั ดี ซงึ วางไวบ้ นแมต่ ะเฆท่ ีทําด้วยท่อนซุงอีกทีหนึง งานปอยอาจมกี ารเฉลิมฉลอง มหมรพี สธิ พกี ตา่ารงทๆางปศราะสมนาณาแล3ะ-5 วนั แล้วจงึ จะทํา การลาก ปราสาทคือชกั ลากเมรุนัน นํา ไปยงั ฌาปนสถานทีกําหนดขนึ เปนการชวั คราวในท่งุ โล่งทีใดที หนึงทีเหน็ วา่ เหมาะสม นับได้วา่ ประเพณีปอยล้อนีเปนการทาน อันยงิ ใหญ่อีกประเพณีหนึงที ศรทั ธาชาวพุทธศาสนิกชนจะ แสดงความกตเวทิตาต่อพระ ภิกษุสงฆผ์ เู้ ปน ทีเคารพสกั กา ระของคนทัวไป การดําเนินงาน ทังหมดนันต้องอาศัยการรว่ ม แรงรว่ มใจของทกุ ฝาย 25

ประเพณีปอยขา้ วสงั ฆ์ ประเพณีปอยขา้ วสงั ฆ์ เปน งานบุญของชาวล้านนาเพอื อุทิศสว่ นกศุ ลไปหาผตู้ าย ปอยขา้ วสงั ฆจ์ ะจดั ทีบา้ น เพราะคนตายสมยั ก่อนจะรบี นําไปฝง ไมน่ ิยมเผาเหมอื นใน ปจจุบนั และในขณะทีตังศพ บาํ เพญ็ กศุ ลนันไมม่ พี ธิ ที ําบุญ อุทิศถวายทานใหผ้ ตู้ าย นอกจากพธิ สี วด หรอื แสดง พระธรรมเทศนา จะจดั พธิ ี ทานทีหลังเมอื เจา้ ภาพพรอ้ ม ถ้าเทียบกับภาคกลางก็เชน่ เดียวกับพธิ ที ําบุญรอ้ ยวนั ใหผ้ ู้ ตายนันเอง เดือน 6 เหนอื การจดั ปอยขา้ วสงั ฆ์ เจา้ ภาพจดั เตรยี ม เครอื งปจจยั ไทยทานตามกศุ ลเจตนา และ ความเชอื ซงึ นิยมทําเปนบา้ นจาํ ลอง มี เครอื งใชค้ รบถ้วน ทังทีนอนหมอนมุง้ ถ้วย ชามเสอื ผา้ รองเท้าแวน่ หวแี ละมเี ครอื ง บรโิ ภคคือขา้ วนําและอาหารตลอดจนหมาก เมยี งพลบู ุหรตี ่าง ๆ โดยครบถ้วน 26


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook