ไท ลื อ ง า น ส่ ง เ ส ริม ก า ร ศึ ก ษ า ป ร ะ เ พ ณี ศ า ส น า แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ฝ า ย ส่ ง เ ส ริม ก า ร ศึ ก ษ า ศ า ส น า แ ล ะ วั ฒ น ธ ร ร ม ก อ ง ก า ร ศึ ก ษ า เ ท ศ บ า ล เ มื อ ง เ ข ล า ง ค์ น ค ร
สารบญั 01 ไทลือ 02 ภาษาไทลือ 05 ระบบเครอื ญาติ 06 ประเพณพี นื บา้ นไทลือ 11 การแต่งกายไทลือ 15 ผลงานและกิจกรรมวฒั นธรรมไทลือ 18 โครงการจดั งานสบื สานวฒั นธรรมไทลือ
ไทลือ ไทลือ เปนกลุ่มชาตพิ ันธทุ์ ีสําคญั ลกั ษณะทางสังคม ไดแ้ ก่ ระบบครอบครวั กลุ่มหนึง พูดภาษาตระกลู ไท อาศัยอยู่ เครือญาติ การแต่งงาน ศาสนา การศึกษา ในเขตสิบสองปนนา ทางตอนใตม้ ณฑล สภาพเศรษฐกิจของหมบู่ ้าน อาชพี ยนู านของจีน บางส่วนอาศัยอยู่ทาง ความสัมพันธ์ภายในชมุ ชน ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง ตอนเหนือของลาว และทางตะวันออกของ ชมุ ชนไทลือกบั ชุมชนอืน รัฐฉานประเทศพมา่ ต่อมาได้อพยพเข้ามา ไทลือมีประเพณแี ละวฒั นธรรมส่วนใหญ่ ตังถนิ ฐานอยูต่ ามหวั เมืองตา่ ง ๆ ในล้านนา คลา้ ยคลึงกับชาวพืนเมอื งโดยทัวไป เชน่ ปจจบุ ันกระจายอยู่ในจงั หวัดตา่ งๆ วฒั นธรรมการบรโิ ภคข้าวเหนยี ว ทางภาคเหนอื ของประเทศไทย ได้แก่ เปนอาหารหลกั นับถอื พุทธศาสนา เชยี งใหม่ ลาํ พูน ลาํ ปาง แพร่ น่าน เชียงราย แต่อยา่ งไรกต็ าม มปี ระเพณีและพิธีกรรม และพะเยา ทังนีเพราะเหตผุ ลทางการเมอื ง บางอย่างทียังคงเอกลกั ษณเ์ ฉพาะกลุม่ ระหวา่ งรฐั ลา้ นนากับสิบสองปนนาในอดีต ของชาติพันธ์ุ โดยเฉพาะดา้ นภาษาพูด ยงั ใช้ ตอ่ มามีไทลือบางส่วนอพยพเขา้ มาเพิมเตมิ สําเนียงภาษาไทลือ ประเพณีการแต่งกาย ภายหลงั ไทลอื มีขนบธรรมเนยี มประเพณี พิธีกรรมการเลียงผีประจําหมูบ่ า้ น ปจจบุ ันเรมิ มี และวฒั นธรรมใกลเ้ คียงกบั คนไทย การเปลียนแปลงวิถีชวี ิตจากสังคมเกษตรกรรม ในภาคเหนอื แตก่ ม็ ีประเพณวี ฒั นธรรม มาเปนสังคมทีมกี ารผสมผสานเกษตรกรรมเข้ากบั ตลอดจน วิถีการดํารงชีวติ บางอยา่ งทีเปน การลงทนุ คา้ ขายและรับจ้าง เอกลักษณเ์ ฉพาะของกลมุ่ ชาตพิ ันธ์ุ 1
ชาวไทลือมีภาษาพูดและ ภาษาเขียนเปนของตัวเอง เช่นเดียวกับกลุ่มชาติพันธุ์อนื ๆ ภาษาไทลือจัดอยใู่ นกล่มุ ภาษา ตระกูลไท(ไต) ลกั ษณะเด่น ของภาษาไทลือ คือ การเปลยี นแปลงเสียงสระ ภายในคําโดยการเปลียนระดบั ภาษาไทลอืของลนิ ภาษาพูดของชาวไทลือนนั เสียงบางเสียงจะแตกต่างไปจาก ภาษาไทยวน เช่น สระเอีย เปนเอ เช่น เมยี เปน เม สระอัว เปน โอ เช่น ผัว เปน โผ สระเอือ เปน เออ เชน่ เกลอื เปน เกอ เสียงวรรณยุกต์ ของไทลือมี 6 เสียง เหมือนภาษาไทยวนแต่มีลกั ษณะแตกต่างไป คําศัพทท์ ีใช้ในภาษาไทลือมกั เปนภาษาถนิ ตระกลู ไทหรอื คาํ ศัพทไ์ ทดังเดมิ เปนส่วนใหญไ่ ม่มีความหมายซับซอ้ นมากนัก ไทลือทีตาํ บลกลว้ ยแพะ อาํ เภอเมอื งลาํ ปาง และทบี า้ นแม่ปุง บ้านฮ่องห้า อําเภอแม่ทะ อพยพมาจากเมอื งยอง ยอมรบั กล่มุ ชาตพิ ันธข์ุ อง ตนเองว่าเปน \"คนลอื \" ไมเ่ รียกตนเองวา่ คนยอง เหมือนกับทางลาํ พูน แตใ่ นขณะเดียวกัน ถา้ หากมบี ุคคลทไี ม่ใชล่ อื ดว้ ยกันมาเรียกว่า คนลอื หรือ พวกลือจะถือว่าเปนการดูถกู เหยยี ดหยาม ดังนัน ไทลือจึงเปนกลุ่มทีรกั พวกพ้องมาก จะเห็นไดว้ ่ามีใครมาทาํ ความเดอื ดรอ้ นหรอื กระทบผล ประโยชนข์ องสมาชิกในสังคม พวกเขาจะรวมตัวกนั ต่อตา้ นทนั ที ทัง ๆ ที ไมใ่ ชเ่ รอื งของตนเองโดยตรง ไทลือและไทยอง ความจรงิ เปนภาษาทีมี ความคลา้ ยคลงึ กนั มากทังเรืองเสียง คาํ และประโยคจนอาจกลา่ วไดว้ า่ เปนภาษาเดยี วกัน 2
ความแตกตา่ งระหวา่ งภาษาไทลอื เพราะเกรงวา่ จะถูกดถู กู เหยยี ดหยาม กบั ไทยองมีไมม่ ากพอทีจะแยกเปน และถูกเอารัดเอาเปรียบ คนละภาษา เพียงแตกต่างกนั ใน ชาวพืนเมอื งในจังหวดั ลาํ ปางมีทัศนะ ระดับทเี ปนภาษายอ่ ยของกันและกนั ค่อนข้างดูถูก มกั จะเรียกชาวบ้านกล้วย แต่ในเรืองของภาษา ไทลอื หรือ วา่ พวกลือ โดยตังข้อรงั เกยี จไวก้ อ่ น ไทยองไม่ไดน้ าํ มาเปนเกณฑ์ ทจี ะติดตอ่ ดว้ ย บางคนมกั มองสังคม ในการเรยี กตนเอง แต่ใชเ้ กณฑ์ ไทลือตําบลกลว้ ยแพะว่าเปนสังคม ทางสังคมและประวัตศิ าสตร์ ทีเปนโรคเรอื น จงึ ไมย่ อมซอื ผลติ ผล เรียกชอื ตนเองต่อ ๆ มา ถา้ รู้ว่ามาจากบา้ นกลว้ ย แต่ปจจุบัน ความสัมพันธ์ในชุมชนไทลือเปน คนพืนเมอื งยอมรับสถานภาพทางสังคม สังคมทีคอ่ นขา้ งโดดเดยี ว ของไทลือมากขนึ เนืองจากความอดทน เนืองจากไทลอื ไมน่ ิยมติดตอ่ ขยนั มัธยัสถ์ จงึ เปลยี นทัศนะการมอง กับบุคคลภายนอกมากนกั ไทลือจากการดูถูก มาเปนการมองวา่ เปนพวกทขี ยนั ขนั แข็ง มานะอดทน และไมย่ อมเสียเปรยี บใคร 3
ชุมชนใหญ่ของไทลอื ในจังหวัดลาํ ปาง จะอยู่ทตี าํ บลกล้วยแพะ ซึงมอี ยู่ 5 หมู่บา้ น คอื บา้ นกล้วยหลวง หม่ทู ี 1 เปนหม่บู า้ นแหง่ แรก ทไี ทลอื อพยพเข้ามาตังถินฐาน อยหู่ ่างจาก ตวั เมอื งลาํ ปางประมาณ 8 กโิ ลเมตร ปจจุบัน มี 687 ครัวเรอื น มีประชากร 2,752 คน บ้านกล้วยแพะ หมูท่ ี 2 เปนหมบู่ า้ นทขี ยายตัว ออกไปภายหลงั อย่ทู างทิศใต้ของบ้านกลว้ ยหลวง ราว 2 กโิ ลเมตร ติดกับอาํ เภอแม่ทะ มี 548 หลังคาเรอื น มีประชากร 2,461 คน เปนทตี งั ของทที ําการกํานันตาํ บลกลว้ ยแพะ บา้ นกลว้ ยมว่ ง หมู่ที 3 เปนหมู่บ้านทแี ยกไปจากบ้านกลว้ ยกลาง ไปทางทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใต้ อยูห่ ่างจากบา้ น กลว้ ยหลวงไปประมาณ 3 กโิ ลเมตร มี 324 หลงั คาเรอื น มปี ระชากร 1,255 คน บา้ นหวั ฝาย หมทู่ ี 4 เปนหมู่บา้ นทแี ยกไปตัง หมู่บ้านจากบา้ นกล้วยหลวงไปทางทศิ ตะวันออก เปนทตี ังของฝายนาํ แมป่ ุง มี 409 หลงั คาเรอื น มปี ระชากร 1,737 คน บ้านกล้วยกลาง หมู่ที 5 ตงั อยตู่ รงกลางระหวา่ งหมบู่ ้านกลว้ ยหลวง บา้ นกล้วยมว่ ง และ บา้ นกล้วยแพะ อย่หู า่ งจาก บา้ นกล้วยหลวง 1 กโิ ลเมตร ปจจุบนั มีจาํ นวน 306 หลังคาเรือน มีประชากร 1,206คน นอกจากนี ยังมไี ทลอื อีก 2 หมู่บา้ นในบรเิ วณ ใกล้เคียงกัน คือ บา้ นแม่ปุง และบ้านฮ่องห้า อยใู่ นเขตตาํ บลนาํ โจ้ อาํ เภอแม่ทะ อยู่หา่ งไปจาก ชุมชนใหญ่ของไทลอื ตําบลกลว้ ยแพะไปทางทศิ ใต้ ราว 3 กิโลเมตร มีประชากรราว 2,650 คน 4
ระบบเครือญาติ เปนสิงทสี ร้างความสัมพันธข์ นั พืนฐาน ระหว่างบุคคลในสังคม ระบบเครือญาติ แบ่งออกเปน 2 ประเภทใหญๆ่ คือ เครือญาติทางสายโลหิต และ เครือญาตเิ กยี วดองทมี าจากการสมรส ซึงเปนญาติของฝายสามีหรอื ภรรยา สังคมไทลอื จะใหค้ วามสําคญั ทังญาติ ของฝายชายและฝายหญิง แต่ในระยะ 3 ปแรก ตอ้ งไปอยรู่ วมทีบา้ นพ่อแม่ ของภรรยา หลงั จากนนั อกี 3 ป กก็ ลบั มา อยู่ทีบ้านของพ่อแม่สามี ญาตขิ องทาง ฝายชายจึงมีความสัมพันธ์กันมากขนึ เมอื แยกครอบครัวออกไป จงึ มคี วามสัมพันธ์ทีดีกับญาตทิ งั ฝาย ภรรยาและฝายสามี ดังนัน ในระบบสังคมของไทลือจึงมสี ่วนสําคัญในการสรา้ งความเปนปกแผน่ ให้กับ ครอบครวั ซึงมคี ่านยิ มมผี วั เดยี วเมียเดียว ไมน่ ิยมหย่าร้าง และการมภี รรยาหลายคน การปกครองหมู่บา้ นในตาํ บลกลว้ ยแพะ เปนไปตามทีทางราชการกาํ หนด คือ ใช้ระบบคณะกรรมการหมู่บา้ น (กม.) กรรมการหมบู่ า้ นมาจากการเลอื กตังของราษฎรในหมบู่ ้าน ซงึ มีบทบาทในการทํางานส่วนรวม ของหมู่บา้ นและประสานงานการทาํ งานระดบั ตําบลกบั หมบู่ ้านอืนเปนตัวกลางในการ ประสานงานระหว่างสมาชิกสภาผ้แู ทนราษฎรกบั ประชาชน ผ้มู สี ิทธิเลือกตัง ชว่ ยใหค้ ําแนะนาํ แก่ลกู บ้านเรอื งการแจง้ เกิด แจง้ ตาย หรอื ยา้ ยทอี ยู่ ชว่ ยไกล่เกลียข้อพิพาทในหมูบ่ ้าน เชน่ เรืองร้องทกุ ข์จากคสู่ ามี - ภรรยา หรอื ชว่ ยดูแลความสงบในชุมชน แก้ไขปญหาเฉพาะหน้า ต่าง ๆ ทีเกดิ ขึน 5
ประเพณีพืนบา้ นไทลอื ไทลอื มีประเพณตี า่ ง ๆ มากมาย ส่วนใหญ่เปน ประเพณีตา่ ง ๆ ทีประพฤติปฏบิ ตั ิ ประเพณีทีเกยี วขอ้ งกบั วิถีการดําเนินชีวิต ส่วนใหญ่ก็จะคล้ายคลึงกบั ประเพณี ของตนเองเรมิ ตงั แต่เกิดจนตาย ซงึ วตั ถปุ ระสงค์ พืนบ้านของคนไทยภาคเหนอื ทัวไป ของการประกอบพิธีส่วนใหญจ่ ะเปนการ เช่น เรยี กขวัญ , ส่งเคราะห์, สืบชะตา, ใหม้ ขี วญั และกาํ ลงั ใจ ทังแกต่ นเองและครอบครัว ปูจาเตียน หรอื บชู าเทียน, ปูจาขา้ ว รวมไปถึง เครอื ญาติ หลกี เคราะห์ หรอื บูชาขา้ วหลกี เคราะห,์ ปกเฮิน คือ ประเพณีปลกู บ้านของ ไทลือ, ขนึ เฮินใหม่ คอื ประเพณี ขนึ บา้ นใหมข่ องหมู่บ้านไทลือ,ประเพณี การอยูข่ ว่ ง เปนประเพณี แอว่ สาวเพือ แสวงหาเนอื คขู่ องหนมุ่ ไทลือ,ประเพณี การแตง่ งาน, ประเพณีปใหม่ของไทลือ คอื วนั สงกรานต์ของไทย, เก็บขวัญ ขา้ ว, แห่พระอปุ คุต, สู่ขวัญควาย, แฮกนา, ตานขา้ วใหม่และกนิ ข้าวใหม,่ 6
ความเชือของไทลอื ตําบลกล้วยแพะ แบง่ ได้เปน 2 ลกั ษณะใหญ่ ๆ คือ 1. ความเชือทมี หี ลักฐานเปนลายลกั ษณอ์ กั ษร คือ เชอื ตามบทบญั ญตั ขิ องพระธรรมคัมภรี ต์ ่าง ๆ ทังทมี าจากวัด โดยมากเปนคมั ภีร์ใบลาน คาํ สอนตา่ ง ๆ ซงึ เปนบทบญั ญัติชีให้เหน็ ถึงบาปบญุ คุณโทษ ส่วนทมี อี ยู่ ตามบา้ นของผู้รู้ในหมู่บา้ นจะเปนสมุดไทยหรือทเี รียกตามภาษาพืนบ้าน วา่ \"ปปหนังสา\" ก็จะเปนแหลง่ ความรู้ในเรอื งของพิธกี รรม ตาํ ราทาง โหราศาสตร์ ตําราพืนบา้ น ตลอดจนลายแทงต่าง ๆ โดยมากเปนเรือง ทางโลกเกยี วกับวิถีชีวิตของคนในสังคม ผรู้ ้เู หลา่ นจี ะมีบทบาท ในการนําชาวบ้านใหม้ ีความเชือทีเปนผลตอ่ การดํารงชวี ติ ไมน่ อ้ ยทเี ดียว 2. ความเชอื ทเี ปนมขุ ปาฐะ คือ เชอื โดยการจดจาํ หรอื บอกเล่าต่อ ๆ กันมา โดยไมไ่ ด้มกี าร จดบนั ทึกเปนลายลกั ษณอ์ กั ษรไว้ ส่วนมากจะเปนวถิ ชี ีวิตประจาํ วนั ตงั แต่เกิดจนตาย หรอื สิงทเี ปนจารตี ประเพณี วัฒนธรรมตา่ ง ๆ ทไี ด้สังสมไว้ ปฏิบัติสืบตอ่ กันมาหลายชวั อายคุ น จนเปนกรอบของสังคม ทมี ีผลต่อวิถีชีวิตของไทลอื ทังทางตรงและทางอ้อม จากการแบง่ ประเภทความเชอื ของไทลือเปน 2 ลกั ษณะใหญ่ ๆ แล้ว อาจแบ่งเปน ประเภทยอ่ ย ๆ ได้อกี ดงั นี 1.ความเชือเรอื งบคุ คล ไทลือมคี วามเชอื คล้ายคนเมืองทัวไปวา่ คนตายแลว้ ตอ้ งมาเกิดใหม่ 2. ความเชือในเรืองสิงแวดล้อม ทอี ยู่ใกล้ตวั เชือว่าถ้าไม่ปฏิบัติตามจะเกิดอนั ตราย เชน่ ความเชือเรืองสัตว์ ถา้ จะเลยี งสัตวต์ อ้ งดูฤกษ์ยามให้ดี ถ้าไม่ดฤู กษ์ยามให้ดี เลียงไปอาจจะทาํ ให้ล่มจม สัตว์เลียงจะเปนอนั ตรายได้ 3. ความเชือในเรอื งสิงศักดิสิทธิ ไดแ้ ก่ เรอื งแม่ธรณีเจ้าทเี วลาจะทาํ งานสิงใด หรอื ไปประกอบอาชีพในถนิ อนื ตอ้ งบอกแม่ธรณีใหท้ ราบเพือคุม้ ครองให้ปราศจาก สิงชวั ร้ายทงั ปวง 7
4. ความเชอื เรืองเพศ มีดงั นี ผูห้ ญงิ ใด หรือผชู้ ายใด มีปานติดตรงอวัยวะเพศเชือว่า จะแพ้ผัว แพ้เมยี (หมายถึงชนะ) หรอื กินผัว กนิ เมีย อยู่ด้วยกันไมค่ อ่ ยยืนยาว มกั จะตาย จากกัน แล้วมักจะเปนผู้ทีมกั มากในกามคุณ ผู้หญิงในระยะประจําเดอื นห้ามเกบ็ ผักจะทําให้ ผักตาย หา้ มปลูกตน้ หอมจะทาํ ใหป้ ระจําเดอื นไม่หยดุ ชายหญิง เมือได้เสียกนั แล้วจะตอ้ งบอกใหพ้ ่อแมร่ ู้ ถา้ ไมบ่ อกผิดผี จะทาํ ให้อย่ไู มเ่ ปนสุข ห้ามมีเพศสัมพันธ์ ในวนั พระและตอนกลางวัน 5. ความเชือเรอื งสุขภาพและสวัสดิภาพ ส่วนมากจะเปนข้อห้ามตา่ ง ๆ ในทางพฤติกรรม เชน่ คนท้อง มขี ้อหา้ มเรืองอาหารการกนิ ทีเชือว่า จะทาํ ใหไ้ ม่ดีตอ่ สุขภาพของแม่หรอื เดก็ ในทอ้ ง และหลงั คลอด การห้ามกินอาหารบางชนิด สําหรบั คนเจบ็ ปวย หรอื การหา้ มประพฤติปฏบิ ตั ิ บางสิงบางอยา่ งโดยเชอื วา่ จะทาํ มาหากนิ ไมข่ นึ เปนตน้ 6. ความเชอื เรอื งโชคลาภ ไทลือยังมคี วามเชอื เรอื ง ฤกษ์ยาม การสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา เชน่ การแต่งงานตอ้ งดูฤกษ์งามยามดี โดยส่วนใหญด่ จู ากตําราพรหมชาติ ถ้าปฏิบัติตาม ก็จะรุง่ เรอื ง เจริญกา้ วหนา้ อยดู่ ว้ ยกนั ไดม้ ันคง 7.ความเชอื เรืองความฝน ไทลือมคี วามเชือเรืองความฝนเหมอื นกับชาวไทยทัวไป และจะมีตําราทํานายฝนตามความเชือนนั ๆ 8
8. ความเชือเรืองเครอื งรางของขลัง ไทลือ ตําบลกลว้ ยแพะก็ยังมคี วามเชือเรอื งเหล่านอี ยู่ คือยังเชือในเรืองความอยูย่ งคงกระพัน เชอื ในเรอื ง พระเครอื ง ผา้ ยนั ต์ ตะกรุด เหล็กไหล และการสัก ตามเนอื ตามตวั โดยเฉพาะในเรอื งคาถาอาคม การขจดั ปดเปา ความโชครา้ ย ความเจ็บไข้ไดป้ วย เชน่ การส่งเคราะห์ การสืบชะตา การส่งแถน 9. ความเชอื เรืองผี ไทลอื ลําปางมคี วามเชอื เรืองผอี ยู่มาก เช่น ผบี รรพบุรษุ ผีบ้าน ผหี อศาล ผีอาฮัก ผีสือ (ผี กระสือ) ผโี พง (ผกี ระหัง) ผีหมอ้ นึง ผยี ักษ์ ผีกะ หรอื ผปี อบ เปนตน้ 10. ความเชือเรอื งนรกสวรรค์ เชอื วา่ มีจรงิ ถ้าทาํ ดี ทาํ บุญทําทาน ตายไปจะได้ ขนึ สวรรค์ ทําชวั กจ็ ะตกนรก เปนความเชือตามหลกั คําสอนของพุทธศาสนา เชน่ เดียวกับคนเมืองเหนอื โดยทัวไปทีเชือว่าผลกรรมมีจรงิ ถา้ ไมร่ ูจ้ กั ทาํ บุญ ให้ทานแลว้ เวลาตายไปก็จะไม่มีสิงคาํ จุน จะเปนผี ตกนรกเดือดร้อน 11.ความเชอื เรืองหมอดู โหราศาสตร์ เชน่ การทาย วนั เดือนปเกดิ ทายลักษณะเนอื คผู่ วั เมยี ทายลกู ใน ทอ้ ง ดูชะตาชีวิต วนั หา้ มประกอบพิธีมงคลต่าง ๆ ลักษณะของอวัยวะไฝ ปาน ส่วนใหญ่ไดม้ าจากตํารา พรหมชาตขิ องลา้ นนาทไี ด้มาจากวดั หรอื อาจารย์วัด หรือผู้ทีเคยบวชเรยี นมาเปนหนาน (ทดิ ) แล้วจะนํามา ยดึ ถือเปนกรอบของชวี ติ ประจาํ วนั ซงึ เชือกนั ว่าจะ ทาํ ให้เจรญิ รงุ่ เรือง โดยเฉพาะเรืองฤกษ์งามยามดี ในการค้าขายและประกอบพิธมี งคลตา่ ง ๆ 9
จากความเชือทงั 11 ประเภทนี ลว้ นเปน ในเทศกาลงานบุญตา่ งๆ และใช้เปนสถานที ปทัสถานในการดาํ เนนิ ชวี ติ ของไทลอื ประชมุ พบปะเพือทํากิจกรรมต่าง ๆ ตําบลกล้วยแพะ ผสมผสานกับความวิรยิ ะ ของหม่บู า้ นไทลือมคี วามศรทั ธาใพระพุทธ อุตสาหะ ไม่ยอ่ ทอ้ ต่ออุปสรรค เปนผลให้ ศาสนามาก ในวนั สําคญั ทางศาสนา ชาวบ้านกล้วยแพะมฐี านะทางเศรษฐกจิ จะมีประชาชนไปรว่ มประกอบพิธีจาํ นวนมาก ค่อนขา้ งดี ประชาชนมที ีอยอู่ าศัยทีมันคง โดยเฉพาะการทาํ บญุ ในเทศกาลสงกรานต์ มีเครืองอาํ นวยความสะดวกต่าง ๆ ในวนั พญาวัน (15 เมษายน) และวนั ปากป จํานวนมาก การนับถอื ศาสนา ไทลือทตี าํ บล (16 เมษายน) การทาํ บุญตานก๋วยสลาก กลว้ ยแพะ ส่วนใหญน่ ับถือพุทธศาสนา ตานขา้ วใหม่ ประเพณียเี ปง (เพ็ญเดอื น 12) มนี บั ถือครสิ ต์ศาสนาเพียง 2-3 ครอบครวั จะไปทําบุญกันเกือบทกุ ครอบครัว ปญหา แตล่ ะหมบู่ ้านมีวัดประจํา วัดบ้านกล้วยหลวง ของวดั ในปจจุบนั คอื ชาวบ้านไม่นิยมบวช เปนวัดแห่งแรกของหมู่บ้านไทลือ สรา้ งขึน เรยี นเหมอื นกบั สมยั ก่อน ทําให้พระภกิ ษุ ภายหลงั จากการตงั หมบู่ า้ นโดยพระสงฆ์ สามเณรมจี าํ นวนนอ้ ย บางวัดเหลอื สามเณร ทมี าจากเมืองยอง ปจจบุ ันมีพระภิกษุ เพียง 1-2 รปู ทังนีเพราะภายหลงั จากสําเร็จ สามเณรจาํ พรรษาอย่ทู วี ัดแห่งนีจํานวน การศึกษาภาคบังคับกจ็ ะไปทํางานตาม 4 รปู บางครงั จะมีพระภิกษุสามเณรจาก โรงงานอตุ สาหกรรมหรอื ร้านคา้ ในเมอื ง เมืองยองมาพักอาศัยและจาํ พรรษาอยทู่ วี ัด ลําปางและส่วนหนงึ ไปศึกษาตอ่ ทโี รงเรียน แหง่ นี วดั เปนศูนย์กลางของหมบู่ า้ น ใชเ้ ปน ในเมอื ง สถานทปี ระกอบพิธที างศาสนา 10
การแต่งกาย ไทลอื 11
ผชู้ าย สวมเสือคลา้ ยเสือหมอ้ หอ้ ม ลักษณะเปนเสือแขนยาวสีดําหรอื สีคราม บางตวั อาจมีเอวลอย แขนเสือขลิบด้วยแถบผ้าสีต่าง ๆ มีผนื ผ้าตอ่ จากสายหน้าปายมา ตดิ กระดมุ เงินบริเวณใกล้รักแร้ และเอว กางเกงเปนกางเกงกน้ ลกึ เรยี กวา่ “เต่ว 3 ดูก” สีเสือผ้า ของผู้ชายไทลือส่วนใหญ่จะเปนสีเทา สีดํา ถ้ามงี านบญุ จะใส่สีขาว หรอื สีดํา ผา้ ขาวม้าคาดพุง ผา้ โพกศีรษะ ดว้ ยผา้ สีนําตาล สีขาว สีดาํ 12
ผู้หญิง หญงิ สาวชาวไทลอื มีฝมือด้านการทอผา้ เปนอย่างยงิ เพราะได้รบั การฝกฝน มาจากแมแ่ ละญาตพิ ีนอ้ งฝายหญิง การออกแบบสรา้ งสรรค์ผ้าทอไทลอื ถอื ได้วา่ มคี วามวิจิตรพิสดาร โดยสามารถทําเปนลวดลายต่างๆ ไดด้ ว้ ย เทคนิคการจก การขดิ และเกาะลว้ ง เชน่ ลายนาค ลายหงส์ ลายปราสาท เปนตน้ ผ้าทอทที ําขนึ นันใช้สําหรบั เปนเครืองนุง่ หม่ ของคนในครอบครัว รวมถึงเปนเครืองใช้จาํ พวกทีนอน หมอน ผา้ หม่ ฯลฯ ทงั นหี ากตอ้ งการทําบญุ ก็จะทอตุงหรือผ้าทีใชใ้ นพุทธศาสนาถวายทวี ัด สรา้ งกุศลใหผ้ ู้หญิงแทนการ บวชพระ การแตง่ กายของสตรีชาวไทลือนยิ มสวมเสือทีมีลกั ษณะเฉพาะ เรียกวา่ 'เสือปด' แขนยาวตดั เสือเขา้ รปู เอวลอยมสี ายหนา้ เฉียงผกู ติดกัน ดว้ ยดา้ ยฟนหรอื แถบผ้าเลก็ ๆ ทีมุมซ้ายหรือขาวของลําตวั 13
ชายเสือนิยมยกลอยขึนทงั สองข้าง สาบเสือขลบิ ด้วยแถบผ้าสีตา่ ง ๆ ประดบั ด้วยกระดุมเม็ดเล็กเรยี งกนั สวมซินไทลอื ทีมลี วดลายกลางตวั ซนิ ส่วนหัวซนิ เปนผ้าฝายสีดาํ หรอื สีนําตาล ขาว ส่วนตนี ซินเปนผ้าพืนสีดาํ สีเสือผ้า ของผ้หู ญงิ ไทลือ จะใชใ้ นโอกาสที แตกตา่ งกนั ออกไป เช่น ถา้ มงี านบุญ จะใส่เสือปดสีขาว เกลา้ มวยผมไว้บน กระหม่อมและเคียนหัวด้วยผ้าพืนสีขาว หรือสีชมพู ส่วนเสือผ้าสีดาํ จะสวมใส่ ในงานประเพณีหรอื งานแต่งงาน 14
ผ ล ง า น แ ล ะ กิ จ ก ร ร ม วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ท ลื อ เ ท ศ บ า ล เ มื อ ง เ ข ล า ง ค์ น ค ร 15
โครงการสื บสานวัฒนธรรมไทลือ ณ ศู น ย์ วั ฒ น ธ ร ร ม ไ ท ลื อ ตํา บ ล ก ล้ ว ย แ พ ะ วั น ที 1 0 กุ ม ภ า พั น ธ์ 2 5 6 3 16
นทิ รรศการ 225 ป ไทลอื ลาํ ปาง ตาํ บลกลว้ ยแพะ 17
โครงการจดั งาน สบื สานวัฒนธรรมไทลือ ก อ ง ก า ร ศึ ก ษ า เ ท ศ บ า ล เ มื อ ง เ ข ล า ง ค์ น ค ร 18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
ผจู้ ดั ทํา นางสาวธัญลกั ษณ์ ทองสุขงาม นักวิชาการศึกษาชาํ นาญการ รวบรวม/ตรวจสอบ นางสาวสุพัฒตรา ใยแก้ว นกั ศึกษาฝกประสบการณ์วชิ าชีพ สาขาภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละ สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั ลําปาง เรยี บเรียงขอ้ มูล นางสาวจิรชั ญา กนั ธะวงศ์ นักศึกษาฝกประสบการณ์วชิ าชพี สาขาภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏลําปาง ออกแบบรปู เลม่
Search
Read the Text Version
- 1 - 30
Pages: