วัสดุในชีวิตประจำวัน

วั ส ดุ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จํา วั น FB:NARINRACH SRITHUMMA

คาํ นํา ง า น ชิ น นี เ ป น ง า น ใ น ร า ย วิ ช า ก า ร อ อ ก แ บ บ แ ล ะ เ ท ค โ น โ ล ยี ส ร้ า ง ขึ น เ พื อ ศึ ก ษ า วั ส ดุ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จํา วั น ห วั ง ว่ า จ ะ เ ป น ป ร ะ โ ย ช น์ แ ก่ ค น รุ่ น ห ลั ง ต่ อ ไ ป ถ้าผดิ พลาดประการใดก็ ขออภัยไว้ ณ ทีนีด้วย

สารบญั ความหมายของวัสดุ 4 ไม้ 5 โลหะ 8 11 พลาสติก 13 ยาง

4 วัสดใุ นชวี ิตประจาํ วัน สิงของเครอื งใช้ต่างๆ สรา้ งขนึ จากวัสดหุ ลายประเภท วัสดแุ ต่ละ ประเภท มสี มบตั แิ ละลักษณะทแี ตกตา่ งกัน การ เลอื กใชว้ ัสดใุ หถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสมจึงมี ความสําคัญต่อการออกแบบและสรา้ ง สงิ ของเครอื งใช้ วัสดุทนี ํามาทําสงิ ของเครืองใช้ทีเรา พบเจอในชีวิตประจําวนั เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก ยาง มสี มบตั แิ ละการใช้งานที แตกต่างกัน ดังนี

ไม้(wood) 5 ไม้ คือ วัสดธุ รรมชาตทิ ไี ด้มาจาก ลาํ ตน้ ของต้นไม้ ซงึ ส่วนใหญ่เปนไม้ยืนต้น มีความแข็งแรง ทนทาน ต้านทาน ไฟฟา ไมาเปนสนมิ มรี ปู ร่างคงตัว ผิว เรยี บ มีกลนิ และมลี วดลาย ถา้ ไดร้ ับความชืน เปนอาจบวมผิดรูป และผไุ ด้ ไมแ้ บฃ่ ออก ได้เปน2ปนะเภทคือ

6 ไม้จริงหรือไมธ้ รรมชาติ (natural wood or solid wood) คอื ไม้ทีได้มาจากลาํ ต้นของ ต้นไม้ ไม้โดยตรง แบ่งไดเ้ ปน2ประเภท คือ ไม้ เนือแข็ง (hardwood) และ ไมเ้ นือออ่ น (softwood)

ไม้ประกอบ (processed 7 wood) คือ ไมท้ ไี ดม้ าจากการนําชินส่วน ของไมม้ าตอ่ รวมกนั ดว้ ยกระบวนการ ตา่ งๆ ไมป้ ระกอบมีหลายประเภท เชน่ ไมอ้ ดั ไม้ปาร์ ตเิ คลิ บอรด์

โลหะ (metals) 8 โลหะ คือ วสั ดุทไี ดจ้ ากการถลงุ สินแรต่ ่างๆ โลหะทีนาํ มาใช้งานส่วนใหญ่ จะผา่ นการปรบั ปรุงสมบัตใิ ห้ดีขึนกอ่ น นํามาใช้งาน โลหะเปนตวั นาํ ความรอ้ น และไฟฟา มีความแข็งแรงสูง มคี วาม คงทนถาวร ไม่เสือมสลาย เปนวตั ถุทบึ แสง ทนทานต่อการกดั กร่อนโลหะแบง่ ออกเปน 2 ประเภทคอื

โลหะกล่มุ เหลก็ (ferrous 9 metals) คือ โลหะทีมีเหล็กเปนส่วนประกอบ หลกั แบง่ ออกเปนเหลก็ กลา้ (sreel) และ เหล็กหล่อ (cast Iron) ซงึ มธี าตคุ ารบ์ อน ผสมอยู่ในปริมาณทตี ่างกนั ตงั แต่ 0.1% ไป จนถึง 4.0% คารบ์ อนทีผสมลงในเหล็กมี ผลต่อคงามแขง็ และเปราะของเหล็ก โดย ทวั ไปโลหะกลมุ่ เหล็กจะเกดิ สนมิ และมี สมบตั ิ

โลหะนอกกลุ่มเหลก็ 10 (non-ferrous metals) คือ โลหะทไี ม่มีเหลก็ เปนสว่ น ประกอบ ดงั นันโลหะประเภทนจี ะไม่ เกิดสนิม และไมด่ ดู ติดกับเหแม่เหล็ก เช่น อลูมิเนยี มทองแดง สังกะสี ทอง เหลือง

พลาสตกิ (plastic) 11 พลาสติก คอื วัสดสุ ังเคราะห์ที มนษุ ยส์ ร้างขนึ สว่ นใหญ่เปนผลผลิตที ได้ จากการกลนั นํามันดิบ ปจจุบันพลาสตกิ นาํ มาใช้สร้างสงิ ของเครืองใชม้ ากมาย และมีบทบาทอยา่ งยงิ ตอ่ การดําเนินชวี ิต ประจําวัน พลาสติกแบง่ ออกไดเ้ ปน2 ประเภทคอื

เทอรโ์ มพลาสตกิ 12 (thermoplastics) จะอ่อนตัวและหลอมเหลวเมือไดร้ บั ความร้อนและจะแขง็ ตวั เมอื ทําให้เย็นลง พลาสตกิ ทแี ข็งตวั แล้วสามารถนาํ มาหลอม ซําไดด้ ้วยความร้อน เทอร์โมเซตตงิ พลาสติก (Thermosetting plastic) เปนพลาสติกทีมีสมบตั ิพเิ ศษ คอื ทนทานต่อการเปลยี นแปลง อณุ หภมู ิและทุนปฏิกิริยาเคมีได้ดี

ยาง (rubber) 13 ยาง คอื วัสดุทมี คี วามยืดหยุ่น ถกู นาํ ไป แปรรูปเพือใช้ประโยชนใ์ นการสรา้ งสงิ ของ เครืองใช้หลายชนิดสามารถ แบ่งออกเปน 2 ประเภทคอื

ยางธรรมชาติ (natural 14 rubber) คอื ผลผลิตทไี ด้จากตน้ ยาง เมอื ยังอยู่ ในสภาวะอณุ หภูมิตําใจแข็งกระดา้ ง เมืออยู่ ในสภาวะอุณหภูมิสงู จะอ่อนนมิ มคี วาม ยดื หยนุ่ สงู ทนต่อการสกึ หรอ แตไ่ มท่ นตอ่ ตวั ทําละลายพวกนํามนั ปโตรเลยี ม ยางสงั เคราะห์ (synthetic rubber) คือ ยางทีได้จากการสงั เคราะห์ทาง เคมเี พือเลยี นแบบยางธรรมชาติ ข้อดคี ือ สามารถปรับปรงุ สมบัติตา่ งๆได้

อ้างอิง https://www.krui3.com/conten t /materials-in-daily-life/

จัดทําโดย ด.ช.นรนิ ทรร์ าช ศรีทมุ มา ม.2/1 เลขที 7