5. ผู้เรยี นบันทกึ เทคนคิ วิธีการสงั เกตพฤตกิ รรมทไ่ี ด้จากการเรยี นรู้ 6. กิจกรรมการถอดบทเรียน โดยการแลกเปล่ียนเทคนิควิธีการ ที่ได้จากกระบวนการเรียนรู้เชื่อมโยงทฤษฎีทางจิตวิทยาในบทเรียนท่ีเกี่ยวกับ พฤตกิ รรมผู้เรยี น กระรยะะบเววนลกาขารอเงรียนรู้ อุปกรณ์ 3 ช่วั โมง ในรายวชิ า 1. สมุด หรอื กระดาษ 3 หนว่ ยกติ 2. ปากกา หรอื ดินสอ ผลทค่ี าดว่าจะได้รบั 1. นิสติ ไดเ้ ทคนคิ วธิ กี ารสังเกตพฤตกิ รรมของผู้เรยี น 2. นิสิตสามารถออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้หลากหลาย ตามตอ้ งการของผู้เรียน 3. เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้วิชาชีพครู ในอนาคต ออกแบบโดย พระมหาอธวิ ฒั น์ ภทฺรกวี และ อ.จริ วัฒน์ สิทธธิ รรม มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น 139
31. ทักษะการใช้ชีวติ ด้วยธรรมะ เข้าใจชีวิตจึงจะเข้าถึงธรรมะ เรียนรู้ทักษะการใช้ชีวิตด้วยธรรมะ การนำ� หลกั ธรรมไปปรบั ใชใ้ นการดำ� เนนิ ชวี ติ เพอ่ื ใหส้ ามารถถา่ ยทอดหลกั ธรรม สูพ่ ุทธศาสนิกชนได้อย่างเหมาะสม ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมในรายวิชา รายวิชา จิตวิทยาในพระไตรปิฎก และสอดแทรกในรายวิชาอ่ืนๆ ท่เี กย่ี วข้อง กลมุ่ เป้าหมาย นสิ ิตปรญิ ญาตรี พทุ ธศาสตร์บณั ฑติ ปี 4 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อใหน้ สิ ติ ได้เขา้ ใจในชวี ิตมากขึ้น 2. เพื่อให้เข้าใจการน�ำหลักธรรมะไปใช้ และการถ่ายทอดให้ พุทธศาสนิกชนน�ำหลักธรรมไปปรับใช้ในการด�ำเนนิ ชวี ติ 3. วธิ กี ารแก้ปัญหาด้วยหลักธรรม วิธีการ ทักษะการใช้ชีวติ แบบกระบวนการวิจัย 1. Check In ส�ำรวจสภาวะอารมณข์ องผู้เขา้ ร่วมกจิ กรรม เพื่อกระตนุ้ ให้ เกดิ การเรียนรู้ 2. กิจกรรมสัตว์ 4 ทิศ เพื่อดูพฤติกรรมของแต่ละบุคคลในเบื้องต้น ท�ำความคนุ้ เคย 3. กจิ กรรมคุณค่าแท้ – คณุ ค่าเทยี ม 4. แบง่ กลมุ่ 4 กลุ่ม ด้วยการนบั เลข 1-4 5. ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ กำ� หนดหวั ขอ้ /ประเด็นปัญหา หรอื เหตกุ ารณท์ ่เี กิดขึ้นใน ปัจจุบนั บอกสาเหตุ และวิธแี ก้ปญั หาดว้ ยหลกั ธรรม หรอื การปรบั ประยุกต์ใช้ ในชวี ิตประจ�ำวนั 140
6. แต่ละกลุ่มน�ำเสนอ สะทอ้ นประเดน็ ปัญหาท่กี ลุ่มไดเ้ รยี นรู้ 7. ถอดบทเรียน ทบทวนสงิ่ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้จากการทำ� กิจกรรม ระยะเวลาของกระบวนการเรยี นรู้ ตลอดภาคการศึกษา สอดแทรกในเนือ้ หา แต่ละสปั ดาห์ ผลทค่ี าดว่าจะไดร้ บั 1. เขา้ ใจในชวี ิตมากขนึ้ 2. รจู้ กั วธิ กี ารน�ำหลกั ธรรมมาแกป้ ัญหา 3. แนะน�ำพุทธศาสนกิ ชนทเี่ ข้ามาปรกึ ษาปญั หาชวี ิตด้วยหลกั ธรรมได้ ออกแบบโดย พระอธิการนัฐวฒุ ิ สิรจิ นโฺ ท และ ดร.พระมหาคมคาย สริ ิปญฺโญ วิทยาลัยสงฆ์รอ้ ยเอ็ด มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 141
32. หวั ใจพระพุทธศาสนา เรยี นรสู้ าระสำ� คญั ของ “โอวาทปาฏโิ มกข”์ อนั เปน็ หวั ใจพระพทุ ธศาสนา ไดแ้ ก่ ละความชั่ว ท�ำความดี ท�ำจิตใจให้ผอ่ งใส ชื่อกจิ กรรม หวั ใจพระพทุ ธศาสนา ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมเสริมคุณธรรม จริยธรรม ในโรงเรียน รายวชิ า พระพทุ ธศาสนา กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลาย นักเรียน ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ วตั ถุประสงค์ ผเู้ รยี นไดเ้ ขา้ ใจ เขา้ ถงึ หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนาคอื โอวาทปาฏโิ มกข์ อนั เป็นหัวใจพระพทุ ธศาสนา ไดแ้ ก่ ละความชวั่ ทำ� ความดี ทำ� จิตใจให้ผ่องใส วิธีการ 1. กจิ กรรม Check In ส�ำรวจความพรอ้ มของผเู้ รยี น เช่น ส่มุ สอบถาม ความรู้ การเคลอื่ นไหวรา่ งกาย เปน็ ตน้ (สงิ่ สำ� คญั คอื การเชอื่ มโยงเขา้ สกู่ จิ กรรม หลกั ของกระบวนกร) 2. ผู้เรียนจะได้รับกระดาษ A4 คนละแผ่น กระบวนกรแจ้งให้ผู้เรียน พับกระดาษเป็น 3 สว่ น 3. กระบวนกรก�ำหนดให้ผู้เรียนเขียนประสบการณ์ เหตุการณ์ท่ีได้รับ บทลงโทษ ค�ำติเตียน หรือเกิดความเดือดร้อนใจท่ีเกิดขึ้นกับตนเอง ลงใน กระดาษส่วนทีห่ นึง่ ให้เวลา 10 นาที 4. กระบวนกรก�ำหนดให้ผู้เรียนเขียนประสบการณ์ เหตุการณ์ท่ีได้รับ รางวัล ค�ำชมเชย ค�ำยกย่อง หรือเกิดความสบายใจท่ีเกิดข้ึนกับตนเอง ลงใน กระดาษส่วนทสี่ อง ให้เวลา 10 นาที 142
5. กระบวนกรก�ำหนดให้ผู้เรียนเขียนประสบการณ์ เหตุการณ์ หรือ สิ่งที่ตนเองท�ำแล้วเกิดความสงบ แจ่มใส สดชื่นเบิกบาน ลงในกระดาษส่วนที่ สาม ใหเ้ วลา 10 นาที 6. ผู้เรียนจับคู่แลกเปล่ียนประสบการณ์ทีละประสบการณ์ด้วยทักษะ การฟงั อย่างลกึ ซ้งึ ในกระบวนการนีอ้ าจกระท�ำตอ่ จากข้อ 3 4 5 ทลี ะขนั้ ตอน 7. กิจกรรมถอดบทเรียน กระบวนกรเชื่อมโยงให้ผู้เรียนได้แยกแยะ ระหว่างความดีและความช่ัว ความช่ัวที่ต้องละ ความดีท่ีต้องสร้าง และวิธี ท�ำจติ ใจให้ผอ่ งใส รกะรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ อปุ กรณ์ 1-2 ช่วั โมง 1. กระดาษ A4 2. ปากกา ผลทคี่ าดว่าจะได้รบั ผู้เรียนเข้าใจเข้าถึงหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาคือ โอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ได้แก่ ละความชั่ว ท�ำความดี ท�ำจิตใจให้ ผอ่ งใส และสามารถน�ำไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตได้ ออกแบบโดย พระมหาอธิวัฒน์ ภทฺรกวี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น 143
33. ฝกึ ทักษะการเปน็ ผู้ฟงั ท่ดี ีและการจบั ประเด็น ฝึกฟังให้ดี และจับประเด็นให้เก่ง เพ่ือให้สามารถพัฒนาตนเองเป็นคน ทมี่ ที กั ษะในการรบั ฟงั ผอู้ น่ื และเปน็ ผฟู้ งั ทดี่ ใี นสงั คม ฝกึ ทกั ษะ Deep Listening การฟังอย่างตั้งใจ โดยอยู่กับคนตรงหน้าระหว่างท่ีเขาส่ือสารออกมา รับฟัง เรื่องราวอย่างใส่ใจกับแววตา ท่าทาง และความรู้สึกของผู้พูด เพื่อเข้าใจ ความรู้สึกของผู้เล่าได้มากข้ึน โดยไม่ขัด ไม่ถามแทรก และไม่ด่วนตัดสินใน ส่ิงที่ได้ยิน แล้วสามารถพูดจับประเด็นเรื่องราวท่ีผู้พูดเล่ามาโดยสรุปสั้นๆ เพ่ือสะท้อนกลับให้ผู้พูดได้เข้าใจตัวเองมากขึ้นได้ พร้อมประเมินทักษะการ ฟังของตนเองด้วยกราฟใยแมงมุม 4 ด้าน เคร่ืองมือที่จะช่วยให้พัฒนาตนเอง ได้ตอ่ ไป ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมในรายวิชา รายวิชา การพัฒนาตน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 (รูปแบบ Online Zoom Meeting) กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาช้ันปีท่ี 1 วิชาเอกคอมพิวเตอร์ธุรกิจ คณะ วิทยาการจดั การ จำ� นวน 28 คน วัตถุประสงค์ 1. ตระหนกั ถึงการเปน็ ผู้ฟงั ท่ีดี 2. เพือ่ ฝกึ ทกั ษะการฟงั ใหแ้ กน่ ักศึกษา 3. เพือ่ ฝกึ ทักษะการจับประเดน็ แกน่ ักศึกษา แนวคิด การฟงั ถอื เปน็ ทกั ษะพน้ื ฐานทสี่ ำ� คญั ตอ่ การใชช้ วี ติ ในศตวรรษท่ี 21 เพราะตอ้ งใช้ สอื่ สารกบั ผอู้ น่ื ใชใ้ นการเรยี นรู้ และใชใ้ นการพฒั นาทกั ษะตา่ งๆ ซง่ึ การเปน็ ผฟู้ งั ทดี่ จี ะชว่ ยพฒั นาตนเองใหม้ คี วามสขุ ชว่ ยยกระดบั ความสมั พนั ธก์ บั คนรอบขา้ ง โดยเฉพาะในปจั จบุ นั ทเ่ี กดิ การแพรร่ ะบาดของโรคไวรสั โควดิ -19 ทำ� ใหน้ กั ศกึ ษา อยู่กับสังคมออนไลน์มากขึ้น มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนหรือคนในครอบครัว น้อยลง และมีนักศึกษาจ�ำนวนไม่น้อยที่เกิดภาวะซึมเศร้า เนื่องจากไม่กล้า 144
ระบายความทุกข์ของตนให้คนรอบข้างฟัง การฝึกทักษะการฟัง Deep Listening การฟังอย่างตั้งใจจึงเป็นอีกหน่ึงแนวทางท่ีจะช่วยให้นักศึกษา สามารถปรบั ตวั อยู่ในสังคมที่กำ� ลงั เปลยี่ นแปลงได้ดยี ิง่ ขนึ้ วธิ ีการ จัดการเรยี นการสอนในรูปแบบ Online Zoom Meeting 1. เปิดห้องเรียน กิจกรรม “เช็คช่ือ” ผ่านช่องแชท เปิดเพลงบรรเลง เบาๆ เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มแกน่ กั ศึกษา 2. เปิดเวทีให้ผู้เรียนได้ทบทวนตัวเองด้วยการต้ังค�ำถาม กิจกรรม Check In ในหัวขอ้ “เหตกุ ารณ์ที่ท�ำให้มคี วามสขุ หรือเหตุการณท์ ี่ประทบั ใจ ท่ีเกิดข้ึนกับนักศึกษาในช่วงท่ีผ่านมา” ร่วมแบ่งปันในชั้นเรียน แลกเปล่ียน เรียนรรู้ ่วมกันในประเดน็ ฟงั แล้วรูส้ กึ อยา่ งไร มองเห็นอะไรทีน่ า่ สนใจ เปน็ ต้น 3. เปิดประเด็นเข้าสู่เนื้อหาบทเรียน กิจกรรมระดมสมองในหัวข้อ “ผู้ฟังที่ดีในมุมมองของนักศึกษาเป็นอย่างไร” พิมพ์แสดงความคิดเห็นผ่าน ชอ่ งแชท หรือพูดอภปิ ราย 4. การฟังด้วยหัวใจ ชมคลิป “เป้ อารักษ์ กับการฟังท่ีจะเปล่ียนชีวิต ที่เหลือของเขา” (https://youtu.be/oD0LwD39_XM) แล้วตั้งค�ำถาม หลงั จากดคู ลปิ - นักศึกษารู้สึกอย่างไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคลิปนี้ (ร่วมพูดคุย ในหอ้ งใหญ)่ - นกั ศกึ ษาคดิ วา่ ผฟู้ งั ทดี่ คี วรมลี กั ษณะอยา่ งไร (รว่ มแสดงความคดิ เหน็ ผา่ นชอ่ งแชท) - เมื่อนักศึกษาเจอปัญหามักจะเล่า/พูดคุยกับใคร เพราะอะไรจึง เลือกพูดคุยกับคนๆ น้ัน (เข้าห้องจับคู่ เพื่อแลกเปลี่ยนกับเพ่ือน แล้วน�ำมา แชรใ์ นห้องใหญ)่ - สรปุ ประเด็น “ลกั ษณะของผูฟ้ ังท่ดี ี” 145
5. ทบทวนชีวิตวัยเด็ก และรับฟังความรู้สึกของตนเอง กิจกรรม “ยอ้ นดกู ารเจรญิ เตบิ โต https://journey.vichacheewit.com/?index=intro ให้เวลาท�ำกจิ กรรม 10 นาที และพัก 10 นาที 6. จบั คเู่ พอ่ื ฝกึ ทกั ษะการฟงั และการจบั ประเดน็ จบั คแู่ บง่ หอ้ งนกั ศกึ ษา โดยแบง่ บทบาทดงั น้ี A: เลา่ เรอ่ื งชวี ิตวยั เด็กของตนเอง (5 นาท)ี B: ฟังและจับประเด็น (2 นาที) A: พูดช่ืนชมเพื่อน 1 เรอื่ งเกยี่ วกับเรือ่ งที่เพือ่ นท�ำไดด้ ี ก่อนท�ำกิจกรรมย�้ำเร่ืองลักษณะของผู้ฟังที่ดี และแนวทางในการ จบั ประเดน็ เมือ่ ครบเวลา ใหส้ ลับบทบาทกนั รว่ มถอดบทเรยี น ตอบคำ� ถามนค้ี ำ� ถามละ 3-4 คน - ความรู้สึกที่เกิดข้ึนตอนท่ีท�ำกิจกรรมวิชาชีวิตท่ีได้กลับไปทบทวน ความทรงจ�ำในวยั เด็ - ความรูส้ กึ ท่ไี ดเ้ ลา่ เรือ่ งราวโดยมเี พอื่ นฟงั อย่างตงั้ ใจ - ความร้สู ึกทเ่ี กดิ ขึ้นในขณะทีเ่ ป็นผู้ฟัง 7. ชวนเขียนจดหมายถึงตัวเองในอนาคต กิจกรรม “เขียนจดหมายถึง ส่งิ ทอี่ ยากเลา่ ให้ตวั เองในอนาคต ตอนเรียนอยูช่ น้ั ปที ี่ 4 ไดร้ ับฟัง” - เขียนลงในกระดาษ - ถ่ายภาพจดหมาย - ส่ง e-mail ถึงอาจารย์ (โดยอาจารย์ตอบเมล์ แล้วตั้งเวลาส่ง ถงึ นักศกึ ษาในวนั ที่ 1/1/2567) ชวนนกั ศกึ ษาแบง่ ปนั เรอ่ื งราวทบ่ี อกถงึ ตวั เองในอนาคต คนละ 1 ประโยค 8. การประเมิน ให้นักศึกษาประเมินตนเอง แบบกราฟใยแมงมุม โดยแตล่ ะหวั ข้อมี 1-10 คะแนน - ทักษะการฟงั - ทักษะการจับประเด็น 146
- การมสี ว่ นร่วมในชน้ั เรียน - การทบทวน - รจู้ ักตัวเอง ถา่ ยรปู สง่ ใน Albums Line 147
9. ปดิ หอ้ งเรยี น รว่ มประกาศเปา้ หมาย “นกั ศกึ ษาจะนำ� ทักษะการเป็น ผู้ฟังท่ีดีไปใช้ในชีวิตประจ�ำวันอย่างไร” และกิจกรรม Check Out ผ่าน ช่องแชท รกะรยะะบเววนลกาขารอเงรียนรู้ อุปกรณ์ 1 คาบเรยี น 4 ชัว่ โมง 1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ และอุปกรณ์ ในการเรียนการสอนออนไลน์ 2. กระดาษและปากกา ผลท่คี าดว่าจะได้รบั นักศึกษาตระหนักถึงการเป็นผู้ฟังที่ดี สามารถน�ำทักษะการฟังและ การจับประเด็นไปประยุกต์ใช้ในการเรียนและการทำ� งานให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น นอกจากน้ียังช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นผู้น�ำที่ดี เปน็ คนทมี่ ที กั ษะในการรับฟังผู้อืน่ และเป็นผู้ฟังท่ีดใี นสังคม ออกแบบโดย ดร.อจั ฉริยา สวุ รรณสงั ข์ และ อ.สุทธณิ ี พรพนั ธไ์ุ พบลู ย์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ภูเก็ต 148
34. เรียนรู้ชุมชนโครงการจิตอาสาวิศวกรสังคม การเปน็ จติ อาสาใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ ยา่ งแทจ้ รงิ ไดน้ นั้ ตอ้ งเขา้ ใจโครงสรา้ ง ของชุมชน เข้าใจความต้องการและปัญหาท่ีแท้จริงของชุมชนก่อนเสมอ เปรียบเสมือนวิศวกรที่ต้องเข้าใจโครงสร้างของส่ิงที่ตนก�ำลังจะก่อร่าง สร้างข้ึนมา เมื่อเข้าใจดีแล้วจึงเร่ิมออกแบบโครงการจิตอาสาในพื้นท่ีชุมชน อยา่ งตระหนักรู้ในคณุ คา่ และความสำ� คัญของชุมชน โดยผูเ้ รียนควรเรมิ่ ต้นจาก การท�ำความเข้าใจความคิดและความรู้สึกของตนเองที่มีต่อชุมชน ท�ำความ เข้าใจความเป็นชุมชน ตระหนักถึงความส�ำคัญด้านต่างๆ ของชุมชน เข้าใจ สภาพสังคม และมีทักษะในการศึกษาวิเคราะห์สภาพชุมชนและสังคม ทต่ี นเองอาศยั อยู่ เพอ่ื ใหก้ ารเขา้ ไปดำ� เนนิ การจดั โครงการจติ อาสาสอดคลอ้ งกบั ปญั หาและความตอ้ งการของชุมชนได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ ชอ่ื กจิ กรรม การเรยี นรชู้ มุ ชน เพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นจดั ทำ� โครงการ จติ อาสา วศิ วกรสงั คม ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กจิ กรรมในรายวชิ า รายวชิ า การพฒั นาตน (รูปแบบ Online โดยใช้โปรแกรม Microsoft Teams) กลมุ่ เปา้ หมาย นักศกึ ษาสาขาวชิ าการบริหารทรพั ยากรมนษุ ยช์ นั้ ปที ี่ 1 คณะวทิ ยาการจดั การ จ�ำนวน 44 คน วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้สึก ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับชุมชน อันเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการลงพื้นที่ เพื่อด�ำเนินการจัดท�ำโครงการ จติ อาสาในชมุ ชน 2. ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้จากภายในจิตใจสู่ภายนอก เพ่ือการอยู่ ร่วมกันของชมุ ชนในชน้ั เรยี นอยา่ งเขา้ ใจและมคี วามสุข 149
แนวคดิ การศึกษาชุมชมหรือการเรียนรู้ชุมชนเป็นการเสริมสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ และการทบทวนความรู้สึกเก่ียวกับความเป็นชุมชน ของผู้เรียน เป็นการเรียนรู้เก่ียวกับรายละเอียดข้อมูลชุมชน หรือ องค์ประกอบของการเป็นชุมชนในแง่มุมหรือมิติต่างๆ โดยผู้เรียนต้อง ตระหนักและให้ความส�ำคัญในการศึกษาชุมชนก่อนการด�ำเนินโครงการ จิตอาสาใดๆ ภายในชุมชน ส�ำหรับการศึกษาหรือการเรียนรู้ข้อมูล ชุมชน รายละเอยี ดทผี่ ู้เรียนต้องศกึ ษาและวเิ คราะห์ประกอบด้วย ประวัติ ความเป็นมา ลักษณะท่ีตั้ง ลักษณะภูมิประเทศ ประชากร ลักษณะ เศรษฐกิจ ลักษณะทางสังคม ศักยภาพของหมู่บ้าน ลักษณะปัญหา และความตอ้ งการในการพฒั นาชุมชน เปน็ ตน้ วิธีการ กระบวนการ/กิจกรรมการเรียนรู้ 1. กิจกรรมการดแู ลลมหายใจ 2. กิจกรรม Check In ประเด็น “ความรสู้ ึก ณ ปจั จบุ ันรสู้ กึ อย่างไร” 3. กิจกรรมการให้ค�ำถามปลายเปิด ประเด็น “นักศึกษารู้สึกอย่างไร กบั ชุมชนที่เราอยอู่ าศัยในตอนน”ี้ 4. กิจกรรม “ชุมชนของฉัน” การให้ค�ำถามปลายเปิดเพ่ือให้นักศึกษา ทบทวน “ความรูส้ กึ ” ของตนเองเก่ยี วกบั สิง่ ท่ีชน่ื ชอบในชมุ ชน สงิ่ ท่ีมคี ณุ คา่ ในชุมชน ส่ิงท่ีท�ำให้รู้สึกรักและหวงแหนชุมชน อาจจะเป็นได้ท้ังบุคคลและ สถานที่ แลว้ เชิญชวนนักศึกษาแบ่งปันใหเ้ พือ่ นฟัง 5. กิจกรรม “องค์ประกอบของชุมชน” การให้ค�ำถามปลายเปิดเพื่อให้ ผู้เรียนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์เก่ียวกับชุมชนที่ผู้เรียนอาศัยอยู่ โดยมีวธิ ีการคอื การแบง่ กลมุ่ ผูเ้ รยี นออกเป็น 8 กล่มุ กลุ่มละ 5 คน เชญิ ชวน ใหน้ กั ศกึ ษาแลกเปลยี่ นกนั ในกลมุ่ แลว้ ใหจ้ ดั ทำ� นำ� เสนอในรปู แบบ Mind Map และน�ำเสนอในกลมุ่ ใหญ่ 150
6. กจิ กรรม “ชมุ ชน เปน็ อยู่ คอื ” การแบง่ ปนั ความรจู้ ากปราชญช์ ุมชน ซ่ึงเป็นสถานท่ีท่ีผู้เรียนต้องไปจัดกิจกรรมจิตอาสา โดยมีวิธีการคือ เชิญชวน ให้ผู้เรียนรับฟัง ลักษณะความเป็นชุมชนในศูนย์การเรียนรู้ ก่อนท่ีนักศึกษา จะลงพืน้ ท่จี ดั กจิ กรรม 7. กิจกรรมการสรุปภาพรวมของกิจกรรม “ชุมชนวิทยา” โดยมีวิธีการ คือ เป็นการสรุปภาพรวมต้ังแต่กิจกรรมแรกจนถึงกิจกรรมการแบ่งปันจาก ปราชญ์ชุมชน 8. กิจกรรมการทบทวนตนเองกับสภาพแวดล้อมรอบข้าง เพื่อให้ นักศึกษาได้กลับมาผ่อนคลายกับสภาพแวดล้อม และการพิจารณา สภาพแวดลอ้ มรอบตัว 9. กิจกรรมชุมชนในห้องเรียนของ “เรา” การให้ค�ำถามปลายเปิด และให้ผู้เรียนแบ่งปันเกี่ยวกับ “ณ ปัจจุบัน ชุมชนในห้องเรียนของเราเป็น อย่างไร” โดยมีวิธีการคือ น�ำเสนอในรูปแบบขึ้นข้อความที่นักศึกษาช่วยกัน แชร์ ผา่ น Mind Map 10. กิจกรรม Check Out เป็นกิจกรรมสุดท้ายที่ให้นักศึกษา บอกความรู้สึกท่ีได้รับจากการเรียนในวันนี้ โดยการส่งต่อความรู้สึกให้เพื่อน คนแรกถึงคนสดุ ท้าย รกะรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ 1 คาบเรยี น 4 ช่ัวโมง อุปกรณ์ 1. เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ในการเรียนการสอนออนไลน์ 2. โปรแกรมเสรมิ การเรยี นรู้ เช่น PowerPoint, คลิปวีดโี อ 3. การลงพ้นื ทเี่ พอื่ เรยี นรู้ภาคสนาม หรือการ Live สดภาคสนาม 151
ผลทีค่ าดว่าจะไดร้ บั 1. ผเู้ รยี นไดท้ บทวนความรสู้ กึ ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั ชมุ ชน อนั เปน็ การเตรียมความพร้อมก่อนการลงพื้นที่เพ่ือด�ำเนินการจัดท�ำโครงการจิต อาสาในชุมชน 2. ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้จากภายในจิตใจของตนเองสู่ภายนอก เพือ่ การอยู่รว่ มกันของชมุ ชนในชั้นเรยี นอย่างเข้าใจและมคี วามสขุ 3. ผู้เรียนสามารถพิจารณาประเด็นในการจัดท�ำโครงการจิตอาสาได้ สอดคล้องกับสภาพปญั หาและความตอ้ งการของชมุ ชน ออกแบบโดย อ.ดร.วาสนา ศรีนวลใย และคณะ สาขาวชิ าการพฒั นาชุมชน คณะมนษุ ยศาสตร์และ สังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏภูเก็ต โดยคณะอาจารย์ผสู้ อนประกอบด้วย 1. อ.ดร.วาสนา ศรนี วลใย 2. อ.ชลิดา แย้มศรีสขุ 3. อ.พรรษชล สุชาฎา 4. อ.กิตตกิ ร วิบูลย์ศรี 5. อ.พลวัฒน์ สงวนนาม 152
35. สือ่ สารสาธารณะอยา่ งมีความรับผิดชอบ ส่ือสารจากภายในสู่ภายนอก จากความทรงจ�ำส่วนตัวสู่การสื่อสาร สาธารณะ กิจกรรมที่น�ำพาผู้เรียนส�ำรวจความรู้สึก และความทรงจ�ำของ ตนเองผ่านภาพถ่าย และภาพสถานทีแ่ หง่ ความทรงจำ� ภายในชุมชนที่อาศยั อยู่ แล้วส่ือสารภาพความทรงจ�ำนั้นน�ำเสนอให้สาธารณชนรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์ เพ่ือเช่ือมโยงสาระการเรียนรู้สู่การส่ือสารต่อสาธารณชนในรูปแบบอื่นๆ และเพื่อให้ผู้เรียนสามารถปฏิบัติการการออกแบบและผลิตสื่อเพ่ือการสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ในงานพัฒนาชุมชนได้อย่างมีความรับผิดชอบ และ มจี รรยาบรรณตอ่ ไป ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กิจกรรมในรายวชิ า รายวิชา เทคโนโลยีการส่ือสารและสารสนเทศในงานพัฒนาชุมชน Communication and Information Technology for Community Development (รปู แบบ Online โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Teams) กลมุ่ เปา้ หมาย นักศกึ ษาสาขาวิชาการพฒั นาชมุ ชน คณะมนษุ ยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ จ�ำนวน 42 คน วตั ถุประสงค์ 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดท้ บทวนความรสู้ กึ ความรคู้ วามเขา้ ใจ เกยี่ วกบั ประเภท ของการส่ือสารบุคคล ส่ือมวลชน และสื่อออนไลน์ ในรูปแบบของวัจนภาษา และอวัจนภาษาก่อนการลงพน้ื ที่เพอ่ื การผลิตสอื่ ในชมุ ชน 2. เพื่อให้ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้จากภายในจิตใจเกี่ยวกับสาร สาระ หรือข้อมูลที่จะสื่อสารผ่านสื่อบุคคล สื่อมวลชน และส่ือออนไลน์ ในรูปแบบ ของวัจนภาษาและอวัจนภาษา เพื่อน�ำเสนอสู่ภายนอกหรือสาธารณชนอย่าง มีความรบั ผิดชอบ และมีจรรยาบรรณตอ่ สงั คม 153
สาระสำ� คญั การสื่อสารเป็นสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตมนุษย์ท่ีต้อง อาศัยการแลกเปล่ียนความรู้ ข่าวสาร และประสบการณ์ซ่ึงกันและกัน เพ่ือให้เกิดการรับรู้ มีความรู้ความเข้าใจ สู่การปรับเปล่ียนทัศนคติ และ นำ� ไปสกู่ ารปฏบิ ตั หิ รอื ยอมรบั จากการสอื่ สารนนั้ ในรายวชิ านผี้ เู้ รยี นจะได้ ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบสอื่ หรอื ผลติ สอื่ เพอ่ื การสอื่ สารในการประชาสมั พนั ธ์ ใหส้ าธารณะชนรบั ทราบ หรอื การสอ่ื สารตอ่ สาธารณชน ผา่ นการออกแบบ ตามประเภทของสื่อท่ีหลากหลาย เช่น ส่ือบุคคล การส่ือสารมวลชน สอื่ ออนไลน์ สอื่ สงิ่ พมิ พ์ สอื่ พน้ื บา้ น สอื่ มลั ตมิ เี ดยี เปน็ ตน้ โดยใชโ้ ปรแกรม ทีส่ ามารถสร้างสรรคส์ ื่อไดง้ า่ ย เชน่ CANVA, PowerPoint, Kinemaster, Facebook, Instagram เป็นต้น โดยใช้สาร สาระ หรือข้อมูลได้หลาก หลายรูปแบบ ท้ังข้อความ เสียง ภาพ คลิปวีดีโอ เป็นต้น โดยสามารถ ฝึกปฏิบัติการออกแบบและผลิตส่ือเผยแพร่ให้สาธารณชนรับรู้ โดยมี การสื่อความหมายได้อย่างเข้าใจ ชัดเจน ครบถ้วนถูกต้อง มีความรับผิด ชอบ และมจี รรยาบรรณ วิธกี าร กระบวนการ/กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. กิจกรรม การดลู มหายใจ 2. กจิ กรรม Check In ประเดน็ “ความรสู้ กึ ณ ปัจจุบนั เปน็ อยา่ งไร” อาจารย์เชิญชวนให้ผู้เรียนร่วมแลกเปลี่ยนความรู้สึก แล้วคนที่แลกเปลี่ยนคน แรกส่งต่อให้ผเู้ รียนคนตอ่ ไปเร่อื ยๆ จนถงึ คนสดุ ท้าย 3. กจิ กรรมการใหค้ ำ� ถามปลายเปดิ ประเดน็ “ภาพจำ� ทอ่ี ยใู่ นใจนกั ศกึ ษา คือ ภาพใด” อาจารย์เชิญชวนให้ผู้เรียนร่วมให้ค�ำตอบ แล้วคนท่ีตอบคนแรก สง่ ตอ่ ใหผ้ ้เู รียนคนต่อไปตอบ สง่ ต่อไปเรอื่ ยๆ จนถงึ คนสดุ ทา้ ย 154
4. กิจกรรม “สื่อ-สาร ภาพถ่าย ภาพจ�ำ” เร่ิมจากการให้ค�ำถาม ปลายเปิด เพื่อให้นักศึกษาทบทวน และแบ่งปันความรู้สึกเกี่ยวกับภาพถ่าย ที่นักศึกษาประทับใจ มีคุณค่าทางจิตใจ มีความรัก มีความผูกพัน มีมิตรภาพ ท่ีอยู่ในภาพน้ัน โดยให้แลกเปลี่ยนกันในกลุ่มย่อย หลังจากนั้นเชิญชวนให้ ตวั แทนนักศกึ ษาจากกลุม่ ยอ่ ยแบง่ ปนั ประสบการณใ์ นกลุ่มใหญอ่ ีกครงั้ 5. กิจกรรมการสรุปบทเรียน เชิญชวนผู้เรียนแบ่งปันความรู้สึกท่ีได้ จากการท�ำกิจกรรม ขึ้นข้อความจากการแบ่งปันของผู้เรียนในรูปแบบของ Mind Map และผู้สอนสรปุ การเรียนรู้ 6. กิจกรรมการเดินส�ำรวจภาพความทรงจ�ำอย่างสบายและสงบเงียบ อยา่ งผอ่ นคลายดว้ ยตนเองในบรเิ วณท่ผี ู้เรียนอาศยั วิธกี ารเรยี นรู้คอื ใหผ้ ูเ้ รยี น ไดใ้ ชเ้ วลาอย่กู ับการส�ำรวจภาพจ�ำ ผา่ นอัลบ้ัมภาพถ่ายท่ีมีอย่แู ลว้ หรอื ออกไป ส�ำรวจและถ่ายภาพสภาพบ้านเรือนท่ีอาศัย หรือสภาพแวดล้อมของชุมชนท่ี นกั ศึกษาอาศัยอยู่ ณ ปจั จุบัน 7. กิจกรรม “ปฏิบัติการสร้างภาพถ่ายส่ือความหมาย” น�ำพาผู้เรียน เรียนรู้การถ่ายภาพ และการใช้โปรแกรมเพ่ือส่ือความหมาย วิธีการเรียนรู้ คือ ปฏิบัติการเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านการถ่ายภาพ และการใช้โปรแกรม CANVA ในการน�ำภาพถ่ายมาผลิตเป็นชิ้นงาน โดยผู้สอนทดลองไลฟ์สดให้ เหน็ สภาพแวดลอ้ มจรงิ ทจี่ ะถ่ายภาพ เชน่ บุคคล สถานที่ หรือสภาพแวดลอ้ ม ผู้เรียนจะฝึกปฏิบัติการไปด้วยกันเป็นรายบุคคล เพื่อให้ได้ภาพถ่าย และ การออกแบบภาพถา่ ยดว้ ยโปรแกรม CANVA กอ่ นนำ� ไปเผยแพรผ่ า่ น Facebook หรอื Application Line ในขนั้ ต่อไป 8. กิจกรรมการแบ่งปัน “ภาพถ่ายของฉัน” เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจาก ท่ีผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติการถ่ายภาพต่างๆ หรือคัดสรรภาพถ่ายได้ตามท่ี ต้องการ ผู้เรียนน�ำภาพถ่ายมาร่วมแบ่งปันความรู้สึก น�ำเสนอความคิด ในการผลติ สื่อ และการสื่อสารความหมายของภาพถ่าย 9. กิจกรรมการดูแลลมหายใจ 155
10. กิจกรรมการแบ่งปันสาธารณะ “ภาพหนึ่งภาพแทนค�ำล้านค�ำ สโู่ ลกออนไลน”์ หลงั จากทผี่ เู้ รยี นไดส้ รา้ งสรรคผ์ ลงานจากการคดั สรรภาพถา่ ย เสร็จแล้ว ก่อนที่จะน�ำไปเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ใดๆ ผู้สอนให้ผู้เรียนร่วมกัน แบ่งปันความรู้สึกและความคิดเกี่ยวกับผลงานการส่ือสารท่ีแต่ละคนได้ สร้างสรรค์ผ่านภาพและข้อความ และร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าเน้ือหา สาระแบบใดทค่ี วรปรากฎบนโลกออนไลน์ โดยผนู้ ำ� พากระบวนการขนึ้ ขอ้ ความ ท่ีผเู้ รียนรว่ มกนั สะทอ้ นใน PowerPoint ใหผ้ เู้ รยี นไดร้ ู้ร่วมกนั 11. กจิ กรรม “การสอื่ สารอยา่ งสรา้ งสรรคผ์ า่ นสอ่ื สงั คมออนไลน”์ เปน็ กจิ กรรมทใ่ี หผ้ เู้ รยี นนำ� สอ่ื ทผ่ี ลติ ขน้ึ (ภาพถา่ ยและขอ้ ความทส่ี รา้ งขน้ึ ใน CANVA) นำ� มาเผยแพร่ผ่านสอ่ื ออนไลน์ เชน่ Facebook , Instagram, Line เปน็ ต้น และให้ผู้เรียนสังเกตการมีส่วนร่วมของสาธารณชนท่ีมีต่อสื่อท่ีผลิตขึ้น ท้ังใน รูปแบบของการกดไลท์ กดแชร์ และการแสดงความคดิ เหน็ ของผู้รบั สาร 12. กิจกรรม Check out เป็นกิจกรรมสุดท้ายที่ให้นักศึกษาบอก ความรู้สึกที่ได้รับจากการเรียนในวันน้ี โดยการส่งต่อความรู้สึกจากเพื่อน คนแรกถงึ คนสดุ ท้าย 156
กระรยะะบเววนลกาขารอเงรียนรู้ 1 คาบเรียน 3 ช่ัวโมง อุปกรณ์ 1. เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์ในการเรียนการสอนออนไลน์ 2. โทรศัพทม์ อื ถอื 3. โปรแกรมเสริมการเรียนรู้ เช่น PowerPoint, CANVA, Kinemater 4. พื้นท่สี �ำหรับการเรยี นรู้และการปฏบิ ัติการภาคสนาม ผลทค่ี าดว่าจะได้รบั 1. ผู้เรียนได้ทบทวนความรู้สึกและตระหนักถึงคุณค่าภายในจาก ความทรงจ�ำในอดตี และภาพถา่ ยปจั จบุ ัน 2. ผเู้ รยี นเกดิ กระบวนการคดิ วเิ คราะหเ์ กยี่ วกบั การสอื่ สารทส่ี รา้ งสรรค์ ในทกุ ประเภทของการส่ือสาร ท้งั บุคคล ส่อื มวลชน และสื่อออนไลน์ ใน รูปแบบของวัจนภาษาและอวัจนภาษา ก่อนการลงพื้นที่เพ่ือการผลิตสื่อ ในชุมชน 3. ผู้เรียนเกิดการตระหนักรู้และเกิดจิตส�ำนึกเกี่ยวกับการสื่อสารผ่าน ส่ือบคุ คล สือ่ สารมวลชน และส่ือออนไลน์อยา่ งมีความรับผิดชอบ และมี จรรยาบรรณต่อสังคม ออกแบบโดย อ.ดร.วาสนา ศรีนวลใย และคณะ สาขาวิชาการพฒั นาชมุ ชน คณะมนุษยศาสตร์ และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ภูเกต็ 157
36. พรสวรรค.์ ..ชื่อของฉัน ไม่ใช่แค่ชื่อเสียงเรียงนาม แต่ให้ผู้เรียนลองค้นหาความเป็นตัวเอง ที่แฝงเรน้ อยใู่ นตัวอกั ษรแตล่ ะตัวของช่ือ เพอ่ื สรา้ งความเชอ่ื ท่ีวา่ มนษุ ย์ทกุ คน มีคุณค่าในตนเอง กิจกรรมนี้เป็นจุดเร่ิมต้นเสริมสร้างการเห็นคุณค่าในตนเอง เพอื่ เปลย่ี นแปลงพฒั นาไปสกู่ ารมกี รอบความคดิ แบบเตบิ โต (Growth Mindset) ที่เชื่อมั่นในคุณค่าและความสามารถของตนเอง เชื่อว่าสมองของมนุษย์ทุก คนพัฒนาได้ ความสามารถและสติปัญญาเป็นเรื่องของพรแสวง คนท่ีมีกรอบ ความคิดแบบเติบโตเชื่อว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรก็น�ำไปสู่การพัฒนา ตนเองได้เสมอ จึงมีความสุขกับการเรียนรู้จากปัญหา มองความล้มเหลวเป็น เร่อื งทา้ ทาย มคี วามมุมานะทจ่ี ะแกไ้ ขอุปสรรค ไมท่ อ้ ถอย อยากเติบโตเรียนรู้ ในทุกๆ วัน และมีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ อยู่เสมอ กรอบความคิดเช่นน้ีจึง สง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางพฤตกิ รรมไปในทางทด่ี ขี นึ้ โดย Growth Mindset จะเกิดข้ึนได้ด้วยการตระหนักรู้ตัวเอง แล้วพัฒนากรอบความคิดที่ดีของ ตัวเองจากทกุ เหตกุ ารณ์ และตอ้ งมกี ารฝึกฝนและปฏิบัตอิ ยา่ งต่อเน่อื ง “กรอบ ความคิดท่ีดจี งึ จะอยภู่ ายในตัวอยา่ งยง่ั ยืน” ชอื่ กจิ กรรม พรสวรรค์...ชือ่ ของฉนั ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กิจกรรมในรายวิชา รายวิชา วิชาความสุขของชวี ติ (รปู แบบ Online Zoom Meeting) กลุ่มเปา้ หมาย นักศกึ ษาช้ันปที ่ี 2 วิชาเอกวทิ ยาศาสตรท์ ัว่ ไป จ�ำนวน 47 คน วตั ถุประสงค ์ สรา้ งแรงบนั ดาลใจในตนเอง เสรมิ สรา้ งความรู้สกึ เหน็ คุณคา่ ในตนเอง 158
วิธกี าร จัดการเรยี นการสอนในรปู แบบ Online Zoom Meeting 1. เรียกพลังผเู้ รียน เชค็ ชอ่ื “บอลล่องหน” อาจารยก์ ดระฆังตรงชื่อใคร เพ่อื นจะใหท้ ำ� อะไรกไ็ ด้ 2. เตรียมความพร้อมผู้เรียน ให้นักศึกษาน�ำความรู้สึกของเรา หัวใจ ของเรากลับมาอยู่กับร่างกายของเรา และ Check In ก่อนเรียนในหัวข้อ “ถา้ เปรียบฉันเปน็ ทะเล ทะเลในใจฉันเป็นอยา่ งไร” 3. ผู้เรียนได้ทบทวนตัวเองด้วยการตั้งค�ำถามในกิจกรรม “นักสืบจิตใจ ตัวเอง” 5 ค�ำถาม (1) ความสามารถหรือทักษะอะไรที่เราคิดว่าเราควรจะเก่ง แต่ก็ ยังไม่เกง่ (2) ท�ำไมเราถึงยังไมเ่ กง่ (3) อปุ สรรคท่ีท�ำให้เราไม่เก่ง (4) ท�ำไมเราถึงเจออปุ สรรคนนั้ (5) มีวธิ กี ารอะไรบา้ งท่จี ะทำ� ให้เราเก่ง 4. เปลี่ยน Fixed Mindset (ข้อจ�ำกัด) มาเป็น Growth Mindset (แบบเตบิ โต) - นักศึกษาดู Clip VDO ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยมีเก้าอี้ตัวแรก... Your Unbounded Answers ขอ้ จำ� กัดในชวี ิต - อภิปรายร่วมกันในช้ันเรียน หัวข้อ “Mindset ของครู...สู่ความ ส�ำเร็จ” - กจิ กรรรม “พรสวรรค.์ ..ชอื่ ของฉนั ” ถอดรหสั ตวั อกั ษรภาษาองั กฤษ แต่ละตัวจากชื่อจริงของตนเอง เป็นการสร้างแรงบันดาลใจจากความสามารถ หรือคุณสมบัติท่ีโดดเด่นของแต่ละคนจากชื่อของตนเอง และเสริมสร้าง ความตระหนกั ในการพฒั นาคุณคา่ ภายในตนเองของผู้เรียน 159
5. จัดระบบสูส่ มอง อาจารย์และนักศึกษาสรปุ ประเดน็ ความรรู้ ่วมกัน 6. สำ� รวจความรู้สึกของผเู้ รยี นหลังการสอน กิจกรรม Check Out ก่อน ออกจากหอ้ งเรยี น เปิดไมคส์ ง่ ความปรารถนาดใี ห้เพื่อนร่วมช้นั ดว้ ยค�ำพดู สนั้ ๆ กระรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ อุปกรณ์ 1 คาบเรยี น 4 ชัว่ โมง เครือ่ งคอมพวิ เตอร์ และ อุปกรณ์ในการเรียนการสอน ออนไลน์ ผลที่คาดวา่ จะได้รับ นักศึกษาเห็นคุณค่าของตนเอง มีความม่ันใจ รักตนเอง เช่ือม่ันใน ความสามารถของตัวเอง ออกแบบโดย ผศ.ชุติมา ประมวลสุข วิชาเอกคอมพิวเตอรศ์ กึ ษา คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ภูเก็ต 160
37. สิง่ ของ...สะท้อนคิด การทบทวนตนเองผ่านการเชื่อมโยงตนเองกับสิ่งของรอบตัว โดย กิจกรรมนี้ให้ผู้เรียนเขียนบรรยายถึง “ของส่ิงนั้น” ที่อยู่รอบตัว เพื่อบอกว่า ในความคิดและความรูส้ กึ ของตนเองของส่งิ น้นั มีความหมายอย่างไร เพื่อนำ� ไป สกู่ ารตระหนกั รูใ้ นตนเอง (Self-awareness) พฒั นาความสามารถในการรบั รู้ เข้าใจความคิด อารมณ์ ความรูส้ ึก และสง่ิ ที่ตนเองให้คณุ คา่ ช่อื กิจกรรม ส่ิงของ...สะทอ้ นคดิ ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กิจกรรมในรายวชิ า รายวชิ า วชิ าความสขุ ของชวี ติ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 รปู แบบ Online Zoom Meeting กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาช้ันปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ วชิ าเอกชีววิทยา สาขาวชิ าเทคโนโลยี ดิจิทัล วิชาเอกวิทยาการคอมพิวเตอร์ รวม 17 คน และนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร สาขาวชิ าเทคโนโลยกี ารประมง สาขาวชิ าเทคโนโลยี อาหาร สาขาวิชานวัตกรรมเกษตรเพ่ือความยงั่ ยืน รวม 35 คน วตั ถุประสงค์ เชื่อมโยงเร่ืองราวของตนเอง มองเห็นตัวเอง และตระหนักถึงส่ิงต่างๆ ทเ่ี กิดขน้ึ กบั ตวั เองได้อย่างชัดเจน แนวคดิ การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-awareness) เป็นความสามารถในการ รบั รู้ เขา้ ใจความคดิ อารมณ์ ความรสู้ กึ และสงิ่ ทเี่ ราใหค้ ณุ คา่ รวมถงึ เขา้ ใจ ว่าส่ิงเหล่าน้ีส่งผลต่อตัวเราหรือพฤติกรรมของเราอย่างไรบ้าง ซึ่งจะช่วย ใหม้ นษุ ยส์ ามารถประเมนิ จดุ เดน่ จดุ บกพรอ่ งของตนเองเพอื่ นำ� ไปพฒั นา ตนเองตอ่ ไปได้ โดยสามารถแบง่ การตระหนักรู้ไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คอื 161
1. การตระหนกั รภู้ ายใน (Internal Self-awareness) คอื การมองเหน็ หรือเข้าใจว่าเรามีตัวตน ความคิดความรู้สึก หรือให้คุณค่ากับส่ิงใด และ ส่ิงเหล่าน้ีมีผลต่อคนอื่นๆ อย่างไร การตระหนักรู้ประเภทน้ีจะช่วยให้ สามารถเข้าใจ รวมถึงเท่าทันความคิด ความรู้สึก หรืออารมณ์ของตนเอง ได้มากยิง่ ขึ้น ซึง่ จะชว่ ยใหส้ ามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ดียงิ่ ขน้ึ 2. การตระหนักรู้ภายนอก (External Self-awareness) คือการ มองเห็น หรือเข้าใจว่าตัวตนของเราเป็นแบบไหนในมุมมองของคนอ่ืนๆ การตระหนกั รปู้ ระเภทนจ้ี ะชว่ ยใหเ้ ราสามารถเขา้ อกเขา้ ใจผอู้ น่ื (Empathy) ไดม้ ากขน้ึ โดยเขา้ ใจว่าเพราะอะไรเขาถึงท�ำเชน่ นี้ เปรียบเสมอื นการไดร้ บั เสียงวิจารณ์จากคนรอบข้างว่าเขามองพฤติกรรม หรือว่าความคิดของเรา อยา่ งไร ซึ่งจะชว่ ยใหส้ ามารถรับมือ และทำ� งานร่วมกับผ้อู น่ื ไดด้ ีย่ิงขนึ้ วธิ กี าร จดั การเรียนการสอนในรปู แบบ Online Zoom Meeting 1. เตรยี มความพรอ้ มผเู้ รยี น กจิ กรรมวาดเสน้ ตอ่ เนอื่ งในลกั ษณะกน้ หอย สงั เกตสิง่ ที่เกดิ ขึ้นในใจขณะวาดเสน้ 2. เปดิ เวทใี หผ้ เู้ รยี นไดท้ บทวนตวั เองดว้ ยการตงั้ คำ� ถาม กจิ กรรม Check In ก่อนเรียนในหัวข้อ “ความสุขของฉันคือ.....อะไร” ร่วมแบ่งปันในช้ันเรียน จับคู่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในประเด็น สถานการณ์หรือความเป็นอยู่ ในปัจจุบัน ท้ังในครอบครัวและในมหาวิทยาลัยมีส่วนส่งเสริมหรือขัดขวาง ความสขุ ของเราอยา่ งไรบา้ ง 3. เชื่อมโยงสัมพันธ์กับตัวเอง เช่ือมโยงเร่ืองราวของตนเองกับส่ิงของ ที่อยู่รอบตัว เขียนบรรยายถึง “ของส่ิงน้ัน” เพื่อบอกว่าในความคิดและ ความรสู้ ึกของเรา ของสง่ิ นั้นมคี วามหมายอย่างไร 162
4. จดั ระบบสสู่ มอง - แลกเปล่ียนประสบการณ์จากช้ินงาน เพื่อการมองเห็นตัวเอง และ ตระหนักถึงสิง่ ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ข้ึนกบั ตัวเองไดอ้ ย่างชดั เจน ผา่ นการรบั รู้และเขา้ ใจ สภาวะต่างๆ - อาจารยแ์ ละนักศกึ ษาสรปุ ประเดน็ การเรยี นรูร้ ่วมกัน 5. ส�ำรวจความรู้สึกของผู้เรียนหลังการสอน กิจกรรม Check Out ทบทวนตวั เองกอ่ นออกจากหอ้ งเรยี นประเดน็ “ความรสู้ กึ หลงั จากไดท้ ำ� กจิ กรรม สิ่งของสะท้อนคดิ ” รกะรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ อุปกรณ์ 1 คาบเรยี น 4 ช่ัวโมง อปุ กรณค์ อมพวิ เตอร์ หรอื Smart Phone ผลท่ีคาดวา่ จะไดร้ บั ผู้เรียนไดท้ บทวนตัวเอง ตระหนกั ถงึ ส่งิ ต่างๆ ทเี่ กิดขึ้นกับตวั เองไดอ้ ย่าง ชัดเจน ออกแบบโดย ผศ.ชตุ มิ า ประมวลสุข วิชาเอกคอมพิวเตอรศ์ ึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏภูเก็ต 163
ห้องเรยี นแห่งความสุข (Happy Classroom) วทิ ยาลัยอาชีวศึกษา ด้วยความมุ่งหมายให้ห้องเรียนเปล่ียนแปลงเป็นห้องเรียนแห่ง ความสขุ ในบรรยากาศทผ่ี เู้ รยี นพรอ้ มทจี่ ะเรยี นรไู้ ดด้ ขี น้ึ และบรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ การเรียนรู้ของรายวิชา ผู้สอนในรายวิชาต่างๆ ได้สอดแทรกกิจกรรม จติ ตปญั ญา เพอ่ื สรา้ งสรรคบ์ รรยากาศของหอ้ งเรยี นใหผ้ อ่ นคลายนา่ เรยี นยงิ่ ขน้ึ และเพมิ่ พลงั การเรยี นรดู้ ว้ ยกระบวนการทท่ี ำ� ใหผ้ เู้ รยี นไดต้ ระหนกั รใู้ นศกั ยภาพ ท่ีมีอยภู่ ายในตนเอง 164
38. เรยี นรภู้ าษาไทยอยา่ งมคี วามสขุ เปลี่ยนภาพลักษณ์วิชาภาษาไทยที่เคยน่าเบ่ือ ครูก็แสนเข้มงวด มา เป็นการเรียนรู้ที่สนุกสนานเบิกบานใจและไม่เคร่งเครียด เรียนรู้ทักษะการฟัง การอา่ น การพดู และการเขยี นภาษาไทย โดยเนน้ ใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั ตวั ตนของตนเอง รู้จักความต้องการที่จะเรียนรู้ของตนเอง ตระหนักถึงคุณค่าของสิ่งท่ีจะเรียนรู้ และสามารถเรยี นรไู้ ดด้ ที ส่ี ดุ ตามศกั ยภาพทมี่ อี ยภู่ ายในตนเองไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมในรายวชิ า รายวิชา ภาษาไทยเพ่ืออาชพี กลมุ่ เป้าหมาย นักเรียนระดบั ชั้นประกาศนยี บตั รช้ันสงู (ปวส.) ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม 25-30 คน วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผูเ้ รียนเรยี นรอู้ ย่างมีความสุข และบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคร์ ายวิชา 2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั ตวั ตนและความตอ้ งการทจ่ี ะเรยี นรขู้ องตนเอง รจู้ กั คณุ คา่ ของสิง่ ทจ่ี ะเรยี นรู้ 3. เพ่ือให้ผู้เรียนรู้จักยอมรับฟังเพ่ือการอยู่ร่วมกับเพ่ือนร่วมชั้นเรียน อยา่ งสงบสขุ แนวคดิ น�ำแนวคิดจิตตปัญญามาบูรณาการกับกระบวนการเรียนรู้รายวิชา ภาษาไทยเพ่ืออาชีพ โดยน�ำมาออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะการฟัง การอ่าน การพูด และการเขียนภาษาไทยเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมี ความสุข และบรรลุจุดประสงค์ของรายวิชา เน้นเร่ืองของคุณความดี ท่ีเรียกว่า จิตพิสัย เน้นการสอนให้ผู้เรียนรู้จักตัวตนภายในของตนเอง รู้จักความต้องการที่จะเรียนรู้ของตนเอง รู้จักคุณค่าของสิ่งท่ีจะเรียนรู้ ยอมรับฟังเพ่ือการอยู่ร่วมกับเพ่ือนร่วมชั้นเรียนอย่างสงบสุข โดยผู้สอน ท�ำให้ผู้เรียนเกิดความเชื่อมั่นว่าสิ่งที่สอนนั้นมีคุณค่าท่ีจะเรียนรู้ รวมถึง ออกแบบวิธีการสอนที่เหมาะสมกับผู้เรียน สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อความสะดวกในการแลกเปล่ียน เรยี นรู้ร่วมกนั ของทุกคน 165
วิธกี าร ตารางกิจกรรมการบรู ณาการจิตตปญั ญาในรายวชิ าภาษาไทยเพ่อื อาชพี จดุ ประสงค*การเรียนร2ู กจิ กรรมเรยี นรแ2ู บบเดิม กจิ กรรมการเรยี นร2บู รู ณาการจติ ตปญ: ญา ครูเปFดเพลงใหผ> ู>เรยี นฟง) แล>วให> ทักษะการฟ)ง ครอู าA น/ใชเ> ทปความรู>เปดF ให>ฟ)ง 1. ตั้งชอ่ื เพลงใหมA 2. สรปุ สาระสำคญั ของเพลง (ฟ)งเพือ่ จบั ใจความ แลว> ใหผ> เ>ู รยี นสรุปสาระสำคัญ 3. เสนอปญ) หาทพี่ บ สำคัญของสารได)> ของเร่ืองทไ่ี ด>ฟง) 4. เสนอแนวทางแก>ไขปญ) หา 5. บอกคุณคAา/ประโยชนXที่ได>รบั ทักษะการอาA นและดู ครใู ห>ผูเ> รยี นอAานหนังสอื พมิ พX ครูให>ผู>เรียนเลือกอาA นและดภู าพทผ่ี ู>เรยี นชอบจากสอ่ื (รบั สารดว> ยการอาA น หรอื ดูขAาวในโทรทศั นXแล>วให>สรปุ ตAางๆ เชนA วารสารหรืออินเทอรXเน็ต และดูเพือ่ เขา> ใจ สาระสำคญั ของขาA ว 1. ตง้ั ชอ่ื ภาพใหมA สาระสำคัญของสารได)> 2. สรุปสาระสำคญั ของภาพ 3. บอกคณุ คาA /ประโยชนทX ่ไี ดร> ับ ทักษะการพูด ครูใหผ> เู> รยี นพดู แนะนำตนเอง - ครูให>ผเู> รยี นพูดเลAาความดีของตนเอง/พAอ/แมA/เพื่อน หรือบุคคลอน่ื ทป่ี ระทับใจหนา> ช้ันเรยี น (พดู แนะนำตนเองและ และอาชพี ทีต่ >องการทำใน - การโต>วาทีญตั ติ “เงนิ ดกี วAาความร”ู> “เมืองดีกวาA กับ พูดเกย่ี วกับอาชพี ได>) อนาคต ชนบท” “เท่ยี วห>างดกี วAาเที่ยววดั ” “อาหารฝร่งั ดีกวาA อาหารไทย” “เทคโนโลยดี ีกวAาธรรมชาติ” โดยพจิ ารณา เลือกญัตตติ ามสาขาวิชาของผู>เรียน - การพูดสาธิตทำอาหาร หรือพดู สาธติ กิจกรรมทีผ่ เู> รียน ชอบ เชนA การแตงA หนา> ฟcอนรำ พับกระดาษ ฯลฯ ทักษะการเขยี น ครูให>ผูเ> รียนเขยี นเรียงความ ครูให>ผ>ูเรียนเขยี นสมุดบันทึกความดขี องตนเอง (เขยี นเชิงอาชีพและ เก่ยี วกบั อาชีพ เขียนโฆษณา เขียนบนั ทกึ ความดีของบุคคลอาชพี ทป่ี ระทบั ใจ เชิงวิชาการได>) และรายงานเชงิ วิชาการ เขียนโฆษณาเชิงสร>างสรรคXตามสาขาวิชา เชนA เขียน เมนอู าหารเปบF พิสดารของแผนกอาหาร ให>วาดภาพ แทนการเขยี นของแผนกวิจิตรศิลปg วรรณคดหี รือ ครูใหผ> ู>เรยี นเรยี นร>วู รรณกรรม ครใู หผ> >เู รียนเรยี นร>วู รรณกรรมพน้ื บ>านจังหวดั ลำปาง วรรณกรรมสำคัญ ของชาติ เชAน ปลาบูทA อง ขนุ ช>าง เรือ่ งหมาขนคำ แลว> ใหพ> ูดเลAา/เขยี นเร่ืองยอA /แสดง ขุนแผน อเิ หนา เปhนกลมุA หรอื วาดภาพตามความสมคั รใจ 166
ผลท่คี าดวา่ จะได้รับ ผู้เรียนจะตั้งใจเรียนมากขึ้น เรียนรู้อย่างมีความสุข และมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี นดขี นึ้ ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ จริง (ทดลองสอนจริงในปี 2562 และปี 2563) การเปล่ียนแปลงจากภายในท้ังตัวของครูและผู้เรียน ครูและผู้เรียน รู้จักตัวตนของตนเองมากข้ึน มีสมาธิในการรับฟังผู้อ่ืนมากขึ้น มีสติในการ เรียนรู้ คิดวิเคราะห์ และแสดงพฤติกรรมปรบั ตวั เพ่อื อยรู่ ว่ มกับผู้อ่ืนไดด้ ขี ึน้ แม้จะไม่เกิดกับผู้เรียนทุกคน แต่การสอนให้ผู้เรียนเป็นคนดี คนเก่ง และ มีความสุขตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติก็เป็นภารกิจและเป็น ความสุขของคนที่ประกอบอาชพี “ครู” ออกแบบโดย อ.วีระ ทองทาบวงศ์ วิทยาลัยอาชีวศึกษาล�ำปาง 167
39. ศลิ ปะพัฒนาสมาธิและสติ ฝึกร่างเส้นศิลปะเพื่อพัฒนาสมาธิ สติ อารมณ์ และความน่ิง ศึกษา และปฏิบัติเกี่ยวกับหลักการวาดเขียนพ้ืนฐานให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติกิจกรรม การรา่ งเสน้ พนื้ ฐานชนดิ ตา่ งๆ โดยใชส้ มาธิ สำ� รวมอารมณ์ ความรสู้ กึ ของตนเอง เพ่ือพัฒนาการวาดภาพหุ่นน่ิงซึ่งเป็นพื้นฐานของการสร้างสรรค์งานศิลปะและ การออกแบบทกุ ประเภท เน้นให้ผเู้ รยี นฝกึ สมาธิ สำ� รวมสติ และได้ฝกึ สะทอ้ น อารมณค์ วามรสู้ กึ ของตนเองจากการทำ� กจิ กรรม เพอื่ ใหส้ ามารถนำ� มาประยกุ ต์ ใช้พฒั นาทักษะการวาดหนุ่ นงิ่ ซง่ึ เปน็ พื้นฐานของการสร้างสรรค์งานออกแบบ ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กจิ กรรมในรายวิชา รายวิชา การวาดเขียนพ้นื ฐาน กลุม่ เปา้ หมาย ผู้เรียนระดับชั้น ปวช.1 แผนกวชิ า การออกแบบ ผู้เขา้ ร่วมกิจกรรม ผเู้ รียนจำ� นวน 30 คน วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ผู้เรียนฝึกสมาธิ ส�ำรวมสติ อารมณ์ สะท้อนความรู้สึกของ ตนเอง เพอื่ พรอ้ มท่จี ะปฏบิ ัติกจิ กรรมการรา่ งเส้นพ้นื ฐานชนดิ ต่างๆ ในรายวิชา การวาดเขยี นพน้ื ฐานทไ่ี ด้รบั มอบหมายด้วยความเขา้ ใจและมน่ั ใจ 2. เพ่ือให้สามารถน�ำเส้นมาประกอบเป็นรูปร่าง รูปทรงเรขาคณิต ระบายแสงเงา วาดภาพหุ่นนิ่งได้ตามล�ำดับ เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้เข้าใจ กระบวนการสรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะ ซง่ึ สามารถนำ� มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการออกแบบ ได้ 168
วธิ กี าร 1. ผู้สอนทักทาย สอบถามอารมณ์ความรู้สึกผู้เรียนทุกคน ต่อจากน้ัน มอบหมายให้ผูเ้ รยี นรา่ งเส้นพนื้ ฐานต่างๆ คร้งั ท่ี 1 2. ผ้สู อนอธบิ ายและแนะนำ� เกย่ี วกบั หัวขอ้ การมีสติอย่กู ับตนเอง การฝกึ ใช้สมาธิจากการนงิ่ เพอื่ ทบทวนตนเอง 3. ผเู้ รยี นฝึกปฏบิ ตั งิ านผ่านการสะท้อนความรู้สกึ โดยการรา่ งเส้นพืน้ ฐาน ต่างๆ ครง้ั ที่ 2 ตามกำ� หนดเวลา และสง่ งานทา้ ยช่วั โมง 4. ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนจดบันทึกทบทวนตนเองผ่านการสะท้อน ความรู้สกึ เสนอแนะ หรือแสดงความคดิ เหน็ จากฝึกเรอ่ื งเส้นพื้นฐานชนดิ ตา่ งๆ 5. ผสู้ อนมอบหมายงาน หัวข้อ การน�ำเส้นพืน้ ฐานชนิดตา่ งๆ มาสร้างเป็น รูปร่าง รูปทรงเรขาคณิตพื้นฐาน การวาดหุ่นน่ิงตามล�ำดับ (ผู้เรียนจดบันทึก ทบทวนตนเองผ่านการสะท้อนความรู้สึกตนเอง เสนอแนะ หรือแสดง ความคิดเห็นจากฝึกเรื่องการน�ำเส้นพื้นฐานชนิดต่างๆ มาสร้างเป็นรูปร่าง รปู ทรงเรขาคณิตพ้นื ฐาน การวาดหนุ่ น่งิ ตามล�ำดับ) 6. ท้ายบทเรียนในสัปดาห์ท่ี 5 ผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนบันทึกผล การสะทอ้ นความรสู้ ึกของตนเอง และแสดงความคดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะจากผล งานท่ีได้ฝึกปฏิบัติ ซ่ึงผู้สอนได้น�ำผลงานของผู้เรียนทุกคนต้ังแต่ครั้งที่ 1 – 5 มาสะท้อนความรู้สึกของตนเองท่ีผ่านมา โดยใช้การวิเคราะห์เปรียบเทียบ ด้านพัฒนาการของทักษะฝีมือ ด้านการน�ำมาประยุกต์ใช้เพ่ือสร้างผลงานของ ผู้เรียนที่ท�ำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ เช่น มีความเข้าใจ มีเหตุผล กล้ายอมรับ และมีความมัน่ ใจภาคภูมิใจในตนเอง เปน็ ตน้ กระรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ อปุ กรณ์ สปั ดาหท์ ่ี 1 – 5 1. ดนิ สอ, ปากกา 2. กระดาษบร๊ฟู 3. ยางลบ 4. กระดานรองวาดเขยี น 169
ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั 1. ผู้เรียนมีสมาธิ สติ สามารถควบคุมอารมณ์ในการร่างเส้นชนิดต่างๆ ตามหัวขอ้ งานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายดว้ ยความต้งั ใจ เข้าใจ และมัน่ ใจในตนเอง 2. ผเู้ รยี นสามารถถา่ ยทอดผลงานจากการฝกึ ใชส้ มาธิ ควบคมุ สตอิ ารมณ์ สะท้อนความรู้สึกของตนเอง มีความสงบน่ิงสร้างผลงานผ่านการร่างเส้น ให้เกิดรูปร่างรูปทรงเรขาคณิตและลงแสงเงา เพ่ือน�ำมาประยุกต์ใช้พัฒนา ทักษะการวาดห่นุ นิง่ ซง่ึ เปน็ พื้นฐานของการสรา้ งสรรคง์ านออกแบบได้ 3. ผู้เรียนสามารถสะท้อนตนเองผ่านผลงานในรายวิชา “วาดเขียน พืน้ ฐาน” ได้ 4. ผู้เรียนมีเหตุผล ยอมรับ และภาคภูมิใจในความสามารถตนเองจาก ผลงานการประเมินตนเองในรายวิชาวาดเขียนพื้นฐาน ตวั อยา่ งผลงานผเู้ รยี นทไี่ มม่ สี มาธิ อารมณ์ ความรสู้ กึ นง่ิ ในขณะปฏบิ ตั งิ าน 1. ผู้เรียนปฏิบัติงานได้ไม่เต็มท่ีเพราะไม่มีสมาธิ อารมณ์ ความรู้สึกน่ิง ในขณะปฏิบัติงาน ขาดความมั่นใจ/ขาดทักษะการร่างเส้น/ไม่เข้าใจการนำ� ไป ประยุกตใ์ ช้ 2. ผู้เรียนรีบร้อน/เร่งรีบเพื่อส่งงานแล้วใช้เวลาเหลือไปท�ำในสิ่งท่ี ไม่เกีย่ วขอ้ งในการเรียน 170
ตัวอย่างผลงานผู้เรยี นทม่ี ีสมาธิ อารมณ์ ความรู้สึกนง่ิ 1. ทำ� ใหเ้ กดิ ทกั ษะในการรา่ งเสน้ ตา่ งๆ เพอื่ นำ� ไปสขู่ น้ั ตอนการรา่ งรปู รา่ ง รูปทรงเรขาคณติ การลงแสงเงา วาดเป็นภาพหุน่ น่งิ เพอื่ พัฒนาการสรา้ งสรรค์ งานออกแบบได้ 2. ผเู้ รียนท�ำงานไดเ้ ต็มท่เี หมาะสมกบั เวลา ออกแบบโดย ผสู้ อนประจำ� แผนกวชิ าการออกแบบ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษา นครสวรรค์ 1. อ.รัตนา พันธ์ลมิ า 2. อ.อธิกัญญ์ นวนเปรม 3. อ.คงคมสัน รมิ สีมว่ ง 4. อ.ศิริโรจน์ พลิ กึ 171
40. แกป้ ัญหาคนเพื่อท�ำโครงการให้ส�ำเร็จ แม้มากคน แต่ไม่มากความอีกต่อไป น�ำกิจกรรมจิตตปัญญามา ประยุกต์ใช้แก้ปัญหาการเรียนในวิชาโครงการที่ต้องมีการท�ำงานกลุ่มร่วม กัน ซึ่งปัญหาของการเรียนวิชาน้ีที่มักเกิดข้ึนเสมอคือ การคิดจัดท�ำนวัตกรรม ใหม่ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง/สังคม การจัดตั้งกลุ่ม การคัดเลือกสมาชิก เข้ามาท�ำงาน การเลือกคนไม่เหมาะสมกับความสามารถหรือความถนัด การไม่ช่วยเหลือกันท�ำงาน เวลาว่างไม่ตรงกัน เป็นต้น ในรายวิชานี้จึงต้อง มีกระบวนการศึกษาปัญหาผู้เรียน เปิดโอกาสให้ได้ท�ำความรู้จักกัน และหา วธิ กี ารในการทำ� งานรว่ มกนั ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ เพอื่ ใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ การเรียนและฝกึ ทักษะการทำ� งานเปน็ ทีมในรายวชิ าโครงการ ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กจิ กรรมในรายวิชา รายวิชา วิชาโครงการ ระดับ ปวส. กล่มุ เป้าหมาย นกั ศกึ ษาระดับชัน้ ปวส.2 แผนกวชิ าคอมพิวเตอร์ธรุ กจิ และแผนกวิชาการบญั ชี วิทยาลัยอาชีวศกึ ษานครสวรรค์ วตั ถปุ ระสงค์ 1. เพอ่ื ให้ผู้เรียนรู้จักตนเองและเขา้ ใจผู้อนื่ 2. เพ่ือบริหารจดั การจดั สรรสมาชกิ ให้เหมาะสมกบั บทบาทหน้าที่ 3. เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นรจู้ กั ชว่ ยเหลือและแบ่งปัน 4. เพอื่ ใหอ้ ย่รู ่วมกันอย่างมคี วามสขุ และสามารถสรา้ งผลงานท่ดี ีได้ 172
วธิ กี าร สปั ดาหท์ ี่ 1: - กจิ กรรมเช็กอิน เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นร้จู กั ตนเองและเขา้ ใจผอู้ ื่น - กิจกรรมจับคู่เปิดใจ หัวข้อความสุขของเรากับความทุกข์ที่คาใจ เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดแ้ ลกเปลยี่ นความสขุ ความทกุ ขข์ องตน ไดท้ ำ� ใหร้ จู้ กั เพอ่ื นมากขนึ้ และสามารถพัฒนาผูเ้ รียนต่อยอดเรอ่ื งทักษะการฟงั อยา่ งลึกซึ้งได้ สัปดาห์ท่ี 2 - 3: การสร้างสรรค์ผลงาน การท�ำงานกลุ่มแบบมี การสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน รู้จักบทบาทหน้าท่ีของตนเอง และสมาชิก ในกลุ่ม เพ่ือใหง้ านประสบความสำ� เรจ็ จึงมกี ารจดั กิจกรรมยอ่ ยดงั น้ี - กิจกรรมสัตว์ส่ีทิศ เพ่ือผู้เรียนวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย และความ สามารถของตน จะไดก้ ำ� หนดบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเองในกลุ่มได้ - กจิ กรรมเกมไวรสั ชงิ เมอื ง เพื่อใหผ้ เู้ รยี นมีสติ สมาธิ มกี ารวางแผน เหน็ บทบาทภาวะผ้นู �ำ ผูส้ นบั สนุน เพอ่ื ท�ำใหง้ านประสบความส�ำเร็จ และรจู้ ักการ วางตวั บคุ คลทส่ี ามารถทำ� หนา้ ทแี่ ทนกนั ไดภ้ ายในทมี (หลกั การสามเหลย่ี มดา้ น เท่า) รวมถงึ รูเ้ ท่าทนั อารมณ์ของตนเองในขณะทีเ่ ผชญิ กับสถานการณต์ ่างๆ - กิจกรรมเกมไวรัสโคโรนา่ เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นรูจ้ ักช่วยเหลือ แบง่ ปัน ในการ ทำ� งานกลุม่ และการจัดทำ� โครงงานได้ประสบความส�ำเรจ็ สปั ดาห์ท่ี 4: การจดั ตั้งกลุ่ม/กำ� หนดหวั ข้อโครงการ ระดมความคิดเห็น ของกล่มุ - จับคเู่ ปิดใจ จบั คูพ่ ูดคยุ ในหวั ข้อส่ิงทฉี่ นั อยากทำ� เพ่อื เตรียมความคิด จัดเรียงล�ำดับความส�ำคัญก่อนน�ำเสนอ แล้วน�ำไปแลกเปล่ียนความคิดกับกลุ่ม ใหญ่ 5 - 6 คน - การคัดเลือกหัวข้อที่จะท�ำโครงการ เลือกใช้วิธีการแบบ Facilitator เพอื่ หาสิง่ ที่อยากทำ� จากโจทย์ What Why How มปี ระโยชน์อยา่ งไร สมาชกิ กลุ่มช่วยกันวิเคราะห์ความคิดเห็น ดี/ไม่ดี เพื่อช่วยกันคัดเลือกหัวข้อท่ีจะท�ำ โครงการ 173
ระยะเวลาของกระบวนการเรยี นรู้ 16 สัปดาห์ ผลท่คี าดว่าจะได้รับ 1. ผู้เรยี นรจู้ กั ตนเองและเข้าใจผ้อู น่ื 2. สมาชกิ รู้จกั หน้าทก่ี ารเรียนของตนเอง รจู้ ักชว่ ยเหลอื และแบ่งปนั 3. การอยู่รว่ มกนั อยา่ งมีความสุข 4. พัฒนานวัตกรรมการเรียนวิชาโครงการที่มีประโยชน์ต่อตนเอง และสงั คม ออกแบบโดย คณะผ้สู อน วิทยาลยั อาชีวศกึ ษานครสวรรค์ 1. อ.วัลลภ ปั้นเพ็ง แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. อ.จิรพงษ์ ประวันนา แผนกวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ 3. อ.ชัจจช์ ญั สา หาญค�ำ แผนกวชิ าการบญั ชี 4. อ.วไิ ลพร แกน่ แก้ว แผนกวิชาการบัญชี 174
41. จิตตปัญญากับการผลิตสื่อมัลติมีเดียส�ำหรับธุรกิจ ดิจทิ ลั เน้นให้ผู้เรียนฝึกการฟังอย่างลึกซึ้ง (Deep Listening) เพื่อเรียนรู้ ทกั ษะการสรา้ งความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คล ลดความขดั แยง้ ในสงั คม เสรมิ ดว้ ย กจิ กรรมกงลอ้ สตั ว์ 4 ทศิ ทที่ ำ� ใหร้ จู้ กั ตวั ตน เขา้ ใจตนเอง และคนรอบขา้ งมากขน้ึ สามารถท�ำงานรว่ มกบั ผอู้ ่นื และอย่ใู นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข รวมถึงสามารถ บรู ณาการผลติ สอ่ื มลั ตมิ เี ดยี ทม่ี เี นอ้ื หาเกย่ี วกบั อาชพี ทเ่ี หมาะกบั บคุ ลกิ ลกั ษณะ นิสัยของตนเอง โดยน�ำความรคู้ วามเขา้ ใจจากกิจกรรมการฟังอยา่ งลกึ ซ้ืง และ กงล้อสัตว์ส่ีทิศมาประยุกต์ออกแบบสร้างสรรค์ผลงานส่ือมัลติมีเดียส�ำหรับ ธุรกจิ ดิจิทลั ตามท่ีไดร้ ับมอบหมาย ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กิจกรรมในรายวชิ า รายวชิ า การผลติ ส่ือมัลติมีเดียส�ำหรับธรุ กจิ ดิจิทลั (30204-2204) กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนระดับช้ัน ปวส.2/2 สาขาวิชาเทคโนโลยี ธรุ กจิ ดจิ ทิ ัล ผู้เข้ารว่ มกจิ กรรม จ�ำนวน 37 คน วัตถปุ ระสงค์ เพ่ือให้ผู้เรียนฝึกการฟังอย่างลึกซ้ึง รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น โดยทไี่ มน่ ำ� ประสบการณต์ นเองไปตดั สนิ ผอู้ น่ื ผเู้ รยี นไดส้ ำ� รวจตนเองและเขา้ ใจ ผอู้ ่ืน สามารถสร้างความสัมพันธร์ ะหวา่ งบุคคล สงั คม และการท�ำงานร่วมกนั อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข ตลอดจนสร้างส่ือมัลติมีเดียส�ำหรับธุรกิจ ดิจิทัลภายใต้เน้ือหาการผลิตส่ือส�ำหรับอาชีพคอมพิวเตอร์ด้วยทฤษฎีกงล้อ สัตวส์ ีท่ ิศ 175
วธิ กี าร กจิ กรรมที่ 1 การฟงั อย่างลกึ ซึ้ง (Deep Listening) 1) ให้ผู้เรียนรู้จักฟังอย่างลึกซ้ึง (Deep Listening) โดยครูอธิบายเรื่อง การฟังอยา่ งลึกซ้งึ ใหผ้ ู้เรยี นฟัง 2) หลังจากผู้เรียนเข้าใจการฟังอย่างลึกซึ้งแล้วให้ผู้เรียนจับคู่กันท�ำ กิจกรรมเลา่ เรอื่ งและฟัง ในหวั ขอ้ “ฉนั อยากเป็นอะไร” โดยให้เล่าย้อนหลงั ไป ในวัยเด็กว่าเคยฝันอยากเป็นอะไร โดยผู้ฟังไม่ต้องถามจนกว่าเพื่อนจะเล่าจบ แล้วให้ผู้ฟังสรุปความฝันในวัยเด็กของเพื่อนจากที่ได้รับฟัง จากน้ันสลับกัน ให้ผู้ฟงั เปน็ ฝ่ายเล่าเร่อื ง แลว้ ทำ� ตามข้นั ตอนเดมิ กจิ กรรมที่ 2 กงล้อสี่ทิศหรือสตั ว์สี่ทิศ น�ำกิจกรรมกงล้อสี่ทิศหรือสัตว์สี่ทิศมาใช้อธิบายบุคลิกภาพของสัตว์ส่ีทิศ แล้วให้ผู้เรียนเปรียบเทียบตนเองว่ามีลักษณะเหมือนสัตว์ชนิดใดใน 4 ชนิด ได้แก่ กระทิง (ไฟ) หนู (น�้ำ) หมี (ดิน) เหยี่ยว (ลม) โดยพิจารณาตนเองว่า อยู่ทิศใด แล้ววิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองประกอบการตัดสินใจ ในการเลือกอาชพี กิจกรรมท่ี 3 บูรณาการการฟังอย่างลึกซื้ง (Deep Listening) และ การรู้จกั ตนเองจากกิจกรรมกงล้อสัตว์ส่ที ศิ 1) หลังจากท่ีผู้เรียนได้ผ่านกิจกรรมท่ี 1 และกิจกรรมที่ 2 ดังกล่าวแล้ว ผู้เรยี นจะเข้าใจตนเองและเขา้ ใจผอู้ ืน่ มากข้ึน 2) ครูมอบหมายให้ผู้เรียนผลิตส่ือมัลติมีเดียและสร้างเน้ือหา (Content) อาชีพของตนเอง โดยน�ำความรู้ความเข้าใจจากกิจกรรมการฟังอย่างลึกซื้ง (Deep Listening) และกงลอ้ สตั วส์ ท่ี ศิ มาประยกุ ต์ และออกแบบสรา้ งสรรคง์ าน ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 176
อุปกรณ์ การจัดห้อง 1. แผ่นชาร์จกงลอ้ ส่ีทศิ ควรจัดแบบไมเ่ ป็นทางการ 2. ส่ือออนไลน์ตา่ งๆ ตวั อย่างเนือ้ หาในรายวิชา รกะรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ 3. โปรแกรมการตดั ต่อ 8-10 สปั ดาห์ ผลท่คี าดวา่ จะไดร้ บั 1. สร้างบรรยากาศที่ดีในช้ันเรียนโดยใช้กระบวนการจิตตปัญญา ในการจัดการเรียนการสอน 2. ออกแบบกจิ กรรมการฟงั อยา่ งลกึ ซง้ึ จะชว่ ยทำ� ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจตนเอง และผอู้ น่ื มากยง่ิ ขึน้ 3. กิจกรรมสัตว์ส่ีทิศท�ำให้ผู้เรียนได้รู้จักจุดเด่นจุดด้อยของตนเอง กระตุ้นให้ผู้เรียนอยากจะพฒั นาตนเองมากขึน้ 3. ผู้เรียนสามารถปรับตัวเข้ากับเพ่ือน องค์กร และสังคมรอบข้าง ได้ดยี ่ิงข้นึ ออกแบบโดย อ.มานพ ฉิมมา วิทยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ 177
42. เขา้ ใจตนเอง เขา้ ใจผู้บรโิ ภค และเข้าใจตลาด จิตตปัญญากับการเรียนรู้หลักการตลาด เริ่มจากการเข้าใจตนเอง เข้าใจ ผู้อื่น (ผู้บริโภค) และเข้าใจการแบ่งส่วนตลาด ผู้สอนใช้กิจกรรมจิตตปัญญา เพื่อน�ำพาให้ผู้เรียนเข้าใจหลักการตลาด ซ่ึงสัมพันธ์อยู่กับการศึกษา ความต้องการของผู้คนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย(ตลาด) โดยเริ่มต้นด้วยการเรียน รู้เพื่อท่ีจะเข้าใจความต้องการของตนเองในฐานะผู้บริโภค จากน้ันจึงขยายสู่ การทำ� ความเขา้ ใจผบู้ รโิ ภคทว่ั ไป และการเลอื กตลาดเปา้ หมายสำ� หรบั ผลติ ภณั ฑ์ ของตนท่ีต้องค�ำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคท่ีมีความแตกต่างหลากหลาย กิจกรรมน้ีเน้นให้ผู้เรียนเข้าใจความหลากหลายของผู้บริโภค แล้วเช่ือมโยง ไปถึงการแบ่งส่วนตลาด และการเลือกตลาดเป้าหมายท่ีเหมาะสมกับธุรกิจ เพอ่ื นำ� ไปสกู่ ารขายผลติ ภณั ฑแ์ ละสรา้ งความพงึ พอใจใหก้ บั กลมุ่ ตลาดเปา้ หมาย ไดใ้ นทสี่ ุด ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กจิ กรรมในรายวชิ า รายวชิ า หลักการตลาด กลุ่มเปา้ หมาย นักศกึ ษาระดบั ชน้ั ปวส.1 สาขาวชิ าการตลาด กลุ่ม 1-2 ผู้เข้าร่วมกจิ กรรม จำ� นวน 27คน วัตถปุ ระสงค์ บูรณาการความรู้ให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการแบ่งส่วนตลาด และการเลือก ตลาดเป้าหมาย 1. เพอ่ื ให้รจู้ ักตนเอง 2. เพอ่ื ให้ร้จู ักและเขา้ ใจผ้อู ่ืน (ผู้บริโภค) 3. เพื่อใหเ้ ข้าใจความแตกตา่ งของคน (ผู้บรโิ ภค) 4. เพอ่ื ตอบสนองความต้องการและสรา้ งความพงึ พอใจใหแ้ ก่ผู้บรโิ ภค 178
วิธีการ กิจกรรมที่ 1 Check In เข้าใจตนเอง เพ่ือให้เขา้ ใจความรู้สึกของตนเอง ในฐานะผูบ้ ริโภค - ให้นักศึกษาทุกคนแสดงออกถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความต้องการ ของตนเองในการเลือกอาหารรับประทาน เพ่ือสะท้อนให้เห็นว่าทุกคนต่างมี อารมณ์ ความรู้สึก ความต้องการเป็นของตนเอง เพ่ือน�ำไปสู่ความเข้าใจว่า ผบู้ ริโภคแต่ละคนก็มคี วามต้องการเปน็ ของตนเอง กิจกรรมท่ี 2 Deep Listening การเข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้รู้ ถึงความต้องการของคนท่ีมีความแตกต่างกัน และบางครั้งอาจมีความต้องการ ทค่ี ลา้ ยคลงึ กัน ซึ่งน�ำไปสู่การจดั ใหอ้ ยใู่ นกลุ่มเดยี วกัน (การแบ่งส่วนตลาด) - ให้นักศึกษาจับคู่สนทนาและสลับคู่ไปเร่ือยๆ จนครบทุกคน เพื่อรับ ฟังความรู้สึก ความต้องการของเพื่อนทุกคนในห้อง เพ่ือให้ทราบถึงอารมณ์ ความรสู้ กึ ความตอ้ งการในการเลือกอาหารรับประทานของทกุ คน - ให้นักศกึ ษาบันทกึ ข้อมลู ของเพือ่ นทุกคนลงบนกระดาษ - ให้นกั ศึกษาด�ำเนนิ การวเิ คราะห์ขอ้ มูลความตอ้ งการของเพือ่ นแตล่ ะคน - ให้นักศึกษาน�ำรายช่ือเพ่ือนที่มีความต้องการที่คล้ายคลึงกันให้อยู่ใน กล่มุ เดียวกนั - สรุปผลท่ีได้จากการท�ำกิจกรรม การจัดกลุ่มคนท่ีมีความต้องการ ที่คลา้ ยคลึงกันเรียกว่า “การแบง่ สว่ นตลาด” กจิ กรรมท่ี 3 กงลอ้ 4 ทศิ การรจู้ กั ตนเองและยอมรบั ผอู้ น่ื เพอ่ื ใหม้ องเหน็ ความแตกตา่ งของคน (ตลาดเปา้ หมาย) - ให้นักศึกษาน�ำกงล้อ 4 ทิศ มาวิเคราะห์ลักษณะนิสัยของเพ่ือนแต่ละ คนในห้องและจดบนั ทกึ - ให้นกั ศึกษาแยกเพ่ือนออกเป็น 4 กลมุ่ ตามทศิ ของกงล้อ - ให้นักศึกษาสมมติว่าตนเองท�ำธุรกิจขายอาหาร และหาวิธีในการตอบ สนองความต้องการ หรือสร้างความพึงพอใจให้แก่เพื่อนท้ัง 4 กลุ่ม เพื่อให้ เพ่ือนเกดิ การตัดสนิ ใจซือ้ อาหารของเรา 179
อปุ กรณ์ 1. ดนิ สอ ปากกา 2. กระดาษ A4 3. Smart Phone, Tablet, Notebook ในกรณีสอน Online 4. ส่ือต่างๆ เช่น App Line, Google Meet, เน้ือหา File PDF ในกรณี สอน Online การจัดหอ้ ง กระรยะะบเววนลกาขารอเงรยี นรู้ แบบไมเ่ ป็นทางการ 1 สปั ดาห์ (4 ชัว่ โมง) ผลทีค่ าดวา่ จะได้รบั นักศึกษาได้รู้ว่าบุคคลมีความต้องการท่ีแตกต่างกัน ความต้องการ ของบางคนอาจคล้ายคลึงกัน ซึ่งน�ำไปสู่การแบ่งส่วนตลาด เม่ือแยก ความต้องการของคนออกเป็นกลุ่มได้แล้วจะน�ำไปสู่การเลือกตลาด เป้าหมายท่ีตนเองมีความสามารถในการตอบสนองความต้องการ หรือ สร้างความพึงพอใจให้แก่ตลาดเป้าหมาย น�ำไปสู่การวางแผนเพื่อ ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดเป้าหมาย และทำ� ใหเ้ กดิ การซ้อื ออกแบบโดย หม่อมหลวงศราธวัฒน์ ชมพนู ุท วทิ ยาลยั อาชีวศึกษานครสวรรค์ 180
43. ตระหนกั รู้เหน็ คุณค่างานวิจยั เปล่ียนวิชาวิจัยที่เคยเป็นยาขมของนักเรียนสายอาชีพมาเป็นวิชา ท่ีมีคุณค่าน่าเรียนรู้ น�ำพาผู้เรียนก้าวผ่านอคติในใจที่ว่า การท�ำวิจัยเป็นสิ่ง ทีย่ าก เป็นสงิ่ ไกลตวั สู่การเห็นคณุ คา่ ของผ้วู จิ ัย (คณุ ค่าในตนเอง) และคณุ คา่ ของงานวิจยั เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ สาธารณชนอยา่ งแทจ้ รงิ ประเภทของการจดั การเรียนรู้ กิจกรรมในรายวิชา รายวชิ า การวจิ ยั เบอื้ งตน้ หลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ชน้ั สงู (ปวส.) กลุ่มเปา้ หมาย ผูเ้ รียนระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชัน้ สงู ทีล่ งทะเบยี น เรียนรายวิชาการวิจัยเบื้องตน้ ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนด้านการวิจัยด้วยกระบวนการ จิตตปัญญา 2. เพื่อส่งเสริมเจตคติท่ีดีต่อการเป็นนักวิจัย เห็นคุณค่าของตนเอง คณุ คา่ ของผูอ้ น่ื และคุณค่าของงานวิจัยเพอื่ ชุมชน 3. เพ่ือให้ผู้เรียนท�ำวิจัยเพ่ือประโยชน์ต่อสาธารณชนได้อย่างแท้จริง โดยการบรู ณาการจิตตปญั ญา เข้าไปทกุ หน่วยการเรยี นรู้ แนวคดิ การจัดการเรียนการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนสายวิชาชีพมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการท�ำวิจัยได้มากขึ้น ก้าวผ่านอคติในใจซ่ึงผู้เรียน สายอาชีพมองว่าการท�ำวิจัยเป็นส่ิงที่ยากและไกลตัว เน่ืองจากธรรมชาติ ของผู้เรียนสายอาชีพมักชอบลงมือปฏิบัติมากกว่าการเรียนรู้จากการฟัง บรรยาย การทอ่ งจำ� นำ� มาสอบ หรอื การจดบนั ทึก โดย หลกั สตู รได้กำ� หนด สมรรถนะการเรียนรู้ในรายวิชาน้ีประกอบด้วย ความเข้าใจหลักการและ กระบวนการวิจัยเบื้องต้น เขียนโครงร่างการวิจัยตามหลักการ วางแผน 181
การดําเนินงานโครงการวิจัยตามหลักการ สรุปผลการวิจัยตามหลักการ และกระบวนการรวบรวมขอ้ มลู วเิ คราะหข์ อ้ มลู และแปลผล เขยี นรายงาน การวิจัยตามหลักการได้ โดยเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ในวิชานี้ ให้มากขึ้น ผู้สอนได้ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนหันมาให้ความส�ำคัญ กับการพฒั นามติ ิภายในของผู้เรยี น โดยใช้รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ 6 ขนั้ สู่ความส�ำเร็จ ด้วยชุดกิจกรรม 7 หน่วยการเรียนรู้ และบูรณาการ จติ ตปัญญาลงไปทกุ หนว่ ยการเรยี นรู้ วิธีการ จัดการเรียนการสอนท้ัง 7 หน่วยการเรียนรู้ โดยบูรณาการกิจกรรม จติ ตปัญญาท้งั 16 กิจกรรม ชอื่ หนว' ย สมรรถนะ กจิ กรรมจติ ตป5ญญา 1. เป&ดโลกการเรียนรส1ู ก3ู ารวจิ ัย 1 ฟง= เรียนร1ู และเข1าใจตนเอง ผู1อน่ื 1. กจิ กรรมผ3อนพักตระหนักรู1 2. การฟง= 4 ระดับ 2. คดิ แบบจิตตปญ= ญาเพอ่ื งานวิจัย 2. คิดจะทำอะไร เพอ่ื ใคร อย3างไร 3. เปFดยดึ พืน้ ท่/ี ไวรัสครองเมือง 4. ผน1ู ำสที่ ศิ 3. เปลีย่ นพลังสร1างสรรคEเปนF การลง 3. ลงมอื ทำด1วยหัวใจของผ1ูให1 5. ชวนคดิ พิชิตปญ= หา แค3 มือทำ เปล่ยี นวิธคี ิดชีวติ กเ็ ปลี่ยน 4. เขียนอยา3 งไรวจิ ัยมีแบบแผน 4. คุณคา3 ของการสือ่ สาร 6. คดิ อย3างสรา1 งสรรคE ไมไ1 ผ3 5. กลา3 วถึงคุณค3าของงานวจิ ัย 5. การให1เกยี รติ บ3มเพาะเมลด็ พนั ธุE 7. พอเพียง พอประมาณ พอ 6. บอกเลา3 เรอ่ื งราวงานวจิ ัย 6. อยากเล3า เล3านทิ รรศการหัวใจ วจิ ยั 7. วจิ ยั เช่อื มโยงโลกภายในสู3โลก 7. เผยแพรส3 3ชู มุ ชน ผใู1 หส1 3ผู ร1ู ับ 8. เดด็ ดอกไม1สะเทือนถงึ ภายนอก ดวงดาว 9. บ3มเพาะเมลด็ พันธใุE นใจ 10. ตน1 ไมจ1 ิตตป=ญญา 11. ภาวนากับตน1 ไม1 12. อ3านแบบคัมภีรE 13. เลโก1การวิจัย 14. เทา3 เทียม ทวั่ ถงึ 15. คิดใหด1 ว1 ยหัวใจของนกั วิจยั 16. ตน1 ไมแ1 หง3 คำขอบคุณ 182 ระยะเวลาของกระบวนการเรียนรู? 18 สัปดาหE 1 ภาคการศึกษา ระหว3างมถิ นุ ายนถงึ ตุลาคม 2564 (ภาค เรียนท่ี 1/2564) และพฤศจิกายนถึงมีนาคม 2565 (ภาคเรยี นท่ี 2/2564)
ระยะเวลาของกระบวนการเรยี นรู้ 18 สปั ดาห์ 1 ภาคการศึกษา ระหวา่ งมถิ ุนายนถงึ ตุลาคม 2564 (ภาคเรยี นที่ 1/2564) และพฤศจกิ ายนถงึ มนี าคม 2565 (ภาคเรยี น ที่ 2/2564) อปุ กรณ์ ชดุ กิจกรรม 7 ชุด รูปแบบการจดั การเรียนร้แู บบโมเดล 6 ข้ัน สู่ความสำ� เรจ็ ในการท�ำวจิ ัย ผลที่คาดว่าจะไดร้ บั ผู้เรียนเห็นคุณค่าภายในของตนเอง ตระหนักถึงการวิจัยอย่างมี คณุ ภาพท่มี คี ุณคา่ ต่อผูอ้ นื่ และสาธารณชน มีผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนสงู ขนึ้ ผู้เรียนมีความสุขในการท�ำวิจัย เกิดความงอกงามทางความคิด การ ส่ือสาร การท�ำงานร่วมกัน สามารถประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กรภายนอกได้ และสิ่งส�ำคัญคือ โลกภายในของผู้เรียนสลักเสลา สวยงาม กว้างขวาง ปลอดโปร่ง โลง่ เบาสบาย เปน็ อสิ ระแตร่ อบคอบรัดกุม มีความระมัดระวัง ทุกการกระท�ำค�ำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดกับตนเอง บคุ คลอืน่ และธรรมชาติส่ิงแวดลอ้ ม ออกแบบโดย วอทิ.ชยชั าฎลายั พการรอออ่าชนพีกศลรสี ำ� โรง 183
44. การออกแบบชิ้นงานสรา้ งสรรค์กฎหมาย วิชากฎหมายไม่ใช่แค่เรื่องเคร่งขรึมท่องจ�ำข้อกฏหมายจนผู้เรียน เกร็งไปหมดเสมอไป แตส่ ามารถเปดิ พน้ื ท่คี วามคดิ สร้างสรรค์ สรา้ งบรรยากาศ แห่งการเรียนรู้อย่างผ่อนคลาย โดยมีกิจกรรมเด่นปิดท้ายรายวิชาให้สรุป ความรู้วิชากฎหมายตลอดภาคการเรียน ผ่านกิจกรรม “การออกแบบช้ินงาน สร้างสรรค์กฎหมาย: บทเรียนที่ตนเองชื่นชอบท่ีสุด” ให้ผู้เรียนเลือกบทเรียน ที่ชอบท่ีสุดแล้วส่ือความหมายออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์ในรูปแบบใด ก็ได้ตามความถนัด กิจกรรมน้ีเน้นให้ผู้เรียนได้ทบทวนการเรียนรู้ของตนเอง ด้วยกระบวนการคิดอย่างใคร่ครวญ สามารถบอกความรู้สึกหรือความประทับ ใจในบทเรียนท่ีได้เรียนรู้ สามารถเช่ือมโยงข้อกฎหมายมาสู่เรื่องใกล้ตัวใน ชีวติ จรงิ ได้ และบอกได้วา่ จะนำ� ส่งิ ท่ไี ด้จากรายวิชานีไ้ ปปรบั ใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อตนเองไดอ้ ยา่ งไร ประเภทของกระบวนการเรยี นรู้ กจิ กรรมในรายวิชา ช่อื กิจกรรม การออกแบบชิน้ งานสร้างสรรคก์ ฎหมาย รายวิชา กฎหมาย (เช่น วิชากฎหมายธุรกจิ กฎหมายพาณิชย์ กฎหมาย ท่วั ไปเก่ยี วกับงานอาชีพ กฎหมายแรงงาน) กลุ่มเป้าหมาย นกั เรียนวิชากฎหมาย ผเู้ ขา้ ร่วมกิจกรรม จ�ำนวน 25-30 คน วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผู้เรียนทบทวนการเรียนรู้ของตนเอง และสรุปความรู้ทั้งหมด ท่เี รยี นมาตลอดภาคเรยี น 2. เพ่ือให้ผู้เรียนใคร่ครวญเชื่อมโยงสิ่งท่ีเรียนรู้สู่สภาพการท�ำงานจริง และมองแนวทางแก้ไขเพื่อประโยชน์ในการท�ำงานอย่างสร้างสรรค์และมี ความสขุ 3. เพ่ือเปิดพื้นท่ีให้ผู้เรียนใช้ความคิดสร้างสรรค์ เกิดความประทับใจ ในการเรยี นวิชากฎหมาย 184
4. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความภมู ใิ จในความสามารถจากความตง้ั ใจจรงิ ของตน เกิดความมั่นใจในตนเอง วิธกี าร ขน้ั เตรียมความพรอ้ มของครผู ู้สอน ในการใชก้ ระบวนการจติ ตปญั ญาในการจดั การเรยี นการสอน ครเู ปน็ ผทู้ ำ� หนา้ ที่ ออกแบบและจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เปิดพ้ืนท่ีให้ผู้เรียนได้มีโอกาสพิจารณา ส�ำรวจตนเองในมิติต่างๆ บนฐานความเมตตากรุณาท้ังต่อตนเองและผู้อื่น รวมทง้ั สรา้ งบรรยากาศท่ีเอ้ือใหผ้ เู้ รียนมีความเปน็ กลั ยาณมิตรตอ่ กัน ท�ำหน้าที่ เสมือนกระจกส่องสะท้อนให้กันและกันด้วยความจริงใจ เปิดกว้าง และรับฟัง โดยครูส่งเสริมให้เกิดการช่วยเหลือเกื้อกูล และมีความโอบอ้อมอารีต่อกัน เกดิ เป็นบรรยากาศของห้องเรียนแหง่ ความสขุ ขนั้ ตอนเตรียมผ้เู รยี นและกจิ กรรมหลัก 1. ในระหว่างภาคการเรียนครูผู้สอนปูพ้ืนกิจกรรมจิตตปัญญาศึกษา มาเป็นล�ำดับก่อนหน้านี้ผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การฟังอย่างลึกซึ้ง การ Check In การ Check Out กิจกรรมกงลอ้ ส่ที ศิ และกจิ กรรมขอบคณุ -ขอโทษ 2. ในสัปดาห์ก่อนสิ้นสุดภาคเรียน ครูผู้สอนให้อิสระผู้เรียนเลือก บทเรียนท่ีช่ืนชอบที่สุด 1 บทเรียนจากบทเรียนท้ังหมด แล้วให้อธิบายว่า ได้เรียนรู้อะไรจากรายวิชานี้ ท�ำไมเราถึงชอบบทเรียนน้ีท่ีสุด บทเรียนน้ี ให้ประโยชน์อะไรกับเรา และจะน�ำกลับไปใช้อย่างไรบ้าง เม่ือทบททวนแล้ว ให้น�ำไปออกแบบเป็นชิ้นงานสร้างสรรค์กฎหมาย ตามรูปแบบท่ีตนสนใจ (มีเนื้อหาที่สรุปความคิดและออกแบบเป็นชิ้นงานสร้างสรรค์กฎหมาย) เตรียมน�ำเสนอในแบบฉบับของตนเอง และแสดงออกถึงความเป็นตัวเราได้ มากที่สุด น�ำเสนอให้เพ่ือนสมาชิกในห้องเรียนได้เรียนรู้ไปด้วยกัน โดยให้ เวลาในการสร้างสรรค์ชนิ้ งาน 1 สัปดาห์ 185
3. ในสัปดาหส์ ดุ ท้าย ในการเตรยี มสถานท่คี วรจดั บรรยากาศแบบไม่เปน็ ทางการและผ่อนคลาย เชน่ นง่ั ลอ้ มวงกับพน้ื 4. วนั นำ� เสนอ ชน้ิ งานสร้างสรรคก์ ฎหมาย 4.1 นำ� ชนิ้ งานสรา้ งสรรค์ “บทเรยี นทตี่ นเองชน่ื ชอบทสี่ ดุ ” ของทกุ คน ไปวางไว้กลางห้อง โดยผู้เรียนทุกคนนั่งล้อมรอบช้ินงานสร้างสรรค์กฎหมาย ทั้งหมด 4.2 ครูน�ำนักเรียนในห้องอยู่ในความสงบสักครู่หนึ่ง แล้วให้ผู้เรียน Check In ความรู้สึกของตนทีละคน (วนครบทุกคน) แล้วกล่าวน�ำเกี่ยวกับ จินตนาการ และการทบทวนเน้ือหาความรู้ต้ังแต่เริ่มแรกจนเนื้อหาสุดท้าย (สรุป) เพ่ือช่วยผู้เรียนร่วมทบทวนประสบการณ์ และให้ย้อนระลึกถึงอารมณ์ ความรูส้ ึก ความคิด และการเรียนรูท้ ่ีเกดิ ข้นึ ตลอดช่วงเวลาทผี่ า่ นมา 4.3 ผู้เรียนน�ำเสนอผลงานท่ีตนเองสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนความรู้ ความเข้าใจ และความคิดของตนเอง (3 นาที/คน) หลังจากน้ันให้สมาชิก ในห้องร่วมแสดงความรู้สึก หลังจากการน�ำเสนอชิ้นงานสร้างสรรค์กฎหมาย (ให้-สาม-ค�ำ) ให้ถ้อยค�ำอย่างไรก็ได้ตามอิสระ (สุภาพ) วนกระทั่งน�ำเสนอ ครบทกุ คน 4.4 เม่ือน�ำเสนอช้ินงานสร้างสรรค์กฎหมายครบทุกคนแล้ว ให้เวลา สมาชิกดูชิ้นงานสร้างสรรค์กฎหมายท้ังหมด และทบทวนประสบการณ์ การเรยี นรูจ้ ากชน้ิ งานสร้างสรรคก์ ฎหมาย 4.5 กลับมาน่ังเงียบๆ อีกคร้ังหน่ึง และอาจให้เวลาสมาชิกบันทึก ลงในบันทกึ สว่ นตัวดว้ ย 4.6 อภิปรายสรุปการเรียนรู้ในกลุ่มใหญ่ โดยเชื่อมโยงกับสิ่งท่ี สมาชกิ ในหอ้ งเรยี นใหค้ วามเห็นเพม่ิ เตมิ 4.7 Check Out (ความรูส้ กึ ) 186
ระยะเวลาของกระบวนการเรียนรู้ 1 สัปดาห์ ส�ำหรับการมอบหมายช้ินงาน และ 2 ชั่วโมง ส�ำหรบั การนำ� เสนอช้นิ งาน อปุ กรณ์ อุปกรณ์ท�ำชิ้นงานสร้างสรรค์กฎหมาย เช่น กระดาษ ดินสอสี ปากกา วัสดุ ตกแต่ง ฯลฯ ผลที่คาดวา่ จะไดร้ บั 1. เกิดบรรยากาศ “ห้องเรียนกฎหมายแห่งความสุข” โดยผู้เรียน ได้ความรูพ้ รอ้ มกับมคี วามสุขในการเรยี น 2. ผ้เู รยี นเกิดความประทบั ใจในการเรียนวชิ ากฎหมาย 3. ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจ ม่ันใจในตนเอง ได้รับการยอมรับ จากความตงั้ ใจในการสรา้ งชนิ้ งาน เกดิ แรงบันดาลใจในการเรยี นร้ตู อ่ ไป 4. เพ่ือนในห้องช่ืนชม ให้ก�ำลังใจกันและกัน เกิดบรรยากาศของ ความประทับใจและมิตรภาพที่ดีตอ่ กัน ออกแบบโดย อ.กญั ภาเอม คะวงค์ดอน ครูวิชากฎหมาย วทิ ยาลัยอาชีวศึกษานครสวรรค์ 187
45. การประยุกต์ใช้ในวิชาสถติ ิ สถิติเป็นเรื่องของตัวเลข จิตตปัญญาเป็นเร่ืองการท�ำความเข้าใจ มนุษย์ ในการประยุกต์ใช้ในวิชาสถิติได้บูรณาการน�ำกิจกรรมจิตตปัญญามาใช้ เพ่ือออกแบบเคร่ืองมือวัดบุคลิกภาพและลักษณะนิสัยของบุคคลแต่ละทิศ ตามทฤษฎกี งลอ้ สท่ี ศิ (สตั วส์ ที่ ศิ ) เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความเขา้ ใจในเนอื้ หาวชิ าการ ความรู้เบื้องต้นทางสถิติ พร้อมท้ังได้เรียนรู้การส�ำรวจความรู้สึกของตนเอง การรับฟงั ผ้อู ่ืน เข้าใจผู้อื่น และทกั ษะการใชช้ ีวิตรว่ มกันอยา่ งมีความสุข ประเภทของกระบวนการเรียนรู้ กจิ กรรมในรายวชิ า รายวิชา โปรแกรมส�ำเร็จรูปทางสถิติ (หลักความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับ โปรแกรมส�ำเร็จรปู ทางสถติ ิ ส�ำหรับการไปใชใ้ นงานวจิ ัยข้ันพน้ื ฐาน) กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนระดับชั้น ปวช.3/1 และ 3/2 แผนกวิชา คอมพวิ เตอร์ธุรกิจ ผู้เข้ารว่ มกิจกรรม จ�ำนวน 33 คน วตั ถุประสงค์ เพอื่ ให้ผเู้ รยี นกลบั มาส�ำรวจตนเอง สรา้ งความตระหนกั รใู้ นตนเอง และ ผู้อ่ืน เข้าใจตนเอง และเข้าใจผู้อื่น รับฟังผู้อื่นโดยไม่ตัดสิน ไม่แทรกแซง สามารถบูรณาการเข้ากับรายวิชาสถิติ ตลอดจนสามารถออกแบบเครื่องมือ วัดบุคลิกภาพของแต่ละบุคคลได้ โดยผู้เรียนจะเกิดความเข้าใจทั้งในด้าน เน้ือหารายวิชา และบุคลิกภาพตามทฤษฎีกงล้อสี่ทิศ (สัตว์ส่ีทิศ) ส�ำหรับใช้ ในการเก็บขอ้ มลู สำ� หรับการวิจัยเบอ้ื งต้น 188
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246