บทท่ี 2 แนวคดิ ทางการศึกษากบั การใช้เทคโนโลยแี ละส่ือสารการศึกษา การพฒั นาการศึกษา ตอ้ งมีกระบวนการในการดาเนินงานใหส้ อดคลอ้ งกบั ความเจริญกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา เพื่อใหส้ ามารถนาวทิ ยาการตา่ งๆ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นดา้ นการศึกษาอยา่ งมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์อยา่ งแทจ้ ริง ดงั น้นั ผทู้ ่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การศึกษาตอ้ งทาความเขา้ ใจถึงความสัมพนั ธ์ระหวา่ งแนวคิดทางการศึกษากบั การใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา เพ่อื ให้สามารถนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใชใ้ นการศึกษาไดอ้ ยา่ งเหมาะสมแนวคดิ ทางการศึกษา ปัญหาการจัดการศึกษาในปัจจุบนั และอนาคต การจดั การศึกษาในปัจจุบนั และอนาคต ยงั มีปัญหาที่รอการศึกษาหาคาตอบและรอการแกไ้ ขอีกหลายประการ สรุปที่สาคญั ๆ มีดงั น้ี (เอกวทิ ย์ แกว้ ประดิษฐ,์ 2545 : 36-37) 1. จานวนผเู้ รียนในช้นั มีมากเกินไป ซ่ึงผเู้ รียนแต่ละคนมีความแตกต่างกนั มากท้งั ทางดา้ นความสามารถในการเรียน ความสนใจ เป็นตน้ ผสู้ อนยงั คงใชว้ ธิ ีการสอนแบบบรรยายเป็นหลกั จึงทาให้ไม่สามารถสนองตอบความแตกต่างระหวา่ งบุคคลในการศึกษาได้ 2. ผสู้ อนไมม่ ีเวลาเพียงพอในการเอาใจใส่ผเู้ รียนหรือช่วยเหลือผเู้ รียนเป็ นรายบุคคลเนื่องจากผสู้ อนมีภารกิจหลายอยา่ งที่ตอ้ งปฏิบตั ิ 3. ขาดแคลนวสั ดุอุปกรณ์ที่ส่งเสริมคุณภาพการเรียนการสอนอนั เนื่องมาจากขาดการสนบั สนุนใหค้ ิดพฒั นาส่ือการเรียนการสอนอยา่ งจริงจงั การเรียนการสอนจึงมกั ใชแ้ บบเดิมๆ คือครูเป็นผบู้ อก 4. รูปแบบ ภาพรวมระบบการศึกษา ยงั รวบรัดไมช่ ดั เจนนกั เมื่อพจิ ารณาจากความรวดเร็วในการพฒั นาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาในปัจจุบนั อาจเป็ นไปไดว้ า่ รูปแบบการศึกษาในอนาคตอาจมีการศึกษาไดจ้ ากในบา้ นของตนเองมากข้ึน ผเู้ รียนไมจ่ าเป็ นตอ้ งไปโรงเรียนครูทาการสอนไดจ้ ากท่ีบา้ น 5. มาตรฐานโปรแกรมบทเรียนแตล่ ะวชิ า จาเป็นตอ้ งมีมาตรฐานเดียวกนั จะมีวธิ ีการกาหนดมาตรฐานอยา่ งไร 6. ความรู้พ้ืนฐานของอาจารย์ อาจารยผ์ สู้ อนในยคุ สารสนเทศควรมีความรู้พ้ืนฐานอะไรบา้ งควรรู้วธิ ีสร้างบทเรียนโปรแกรมหรือไม่ ควรมีประสบการณ์ในการสอนร่วมกบั ระบบคอมพิวเตอร์มากนอ้ ยเพียงใด
17 7. งบประมาณ รัฐจดั หางบประมาณจานวนมากเพ่อื จดั ซ้ือจดั หาอุปกรณ์และเครื่องมือใหก้ บัสถานศึกษาไดอ้ ยา่ งไร สถานศึกษาควรมีอุปกรณ์อะไรบา้ งมากนอ้ ยแคไ่ หน และจะทาอยา่ งไรถา้ อุปกรณ์เหล่าน้นั ลา้ สมยั หรือไมไ่ ดร้ ับการดูแลรักษาจากผเู้ ช่ียวชาญ 8. ปัญหาความเหลื่อมล้าทางสงั คม สงั คมยคุ สารสนเทศแมว้ า่ จะเป็นยคุ ท่ีประชาชนน่าจะมีเศรษฐกิจและฐานะดีข้ึน แตย่ งั มีผมู้ ีรายไดต้ ่าอยอู่ ีกมากและอาจจะไมม่ ีเงินสาหรับซ้ืออุปกรณ์การเรียนคอมพวิ เตอร์หรือส่ือการเรียนที่ทนั สมยั สาหรับใหล้ ูกหลานใชศ้ ึกษา ดงั น้นั อาจเป็ นไปไดว้ า่ การศึกษาในยคุ สารสนเทศที่ตอ้ งพ่ึงอุปกรณ์เทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาคอ่ นขา้ งมากจะทาใหช้ ่องวา่ งระหวา่ งคนรวยกบั คนจนเพมิ่ มากข้ึน กรณีเช่นน้ีเป็นหนา้ ท่ีของนกั การศึกษาและนกั เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา ตอ้ งดูแลไมใ่ หค้ วามแตกต่างมีมากไปและตอ้ งใหบ้ ุตรหลานของผมู้ ีรายไดต้ ่ามีโอกาสศึกษาหาความรู้ไดท้ ดั เทียมกบั บุตรหลานของผมู้ ีรายไดส้ ูง 9. โครงสร้างพ้นื ฐานการอานวยความสะดวก 9.1 เกี่ยวกบั การบริหารจดั การ เป็นปัญหาท่ีเกิดจากการขาดผรู้ ับผดิ ชอบโดยตรงในการจดั สิ่งอานวยความสะดวกและใชแ้ หล่งทรัพยากรการเรียนรู้ 9.2 เกี่ยวกบั ดา้ นวชิ าการ บุคลากรท่ีมีความรู้ความเขา้ ใจในการนาวทิ ยาการใหมๆ่ มาใช้ใหเ้ กิดผลทางดา้ นการศึกษาอยา่ งแทจ้ ริงยงั มีนอ้ ย การจดั การศึกษายงั ขาดความร่วมมือจากหลายฝ่ าย 9.3 เก่ียวกบั ดา้ นเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา สถานศึกษาส่วนใหญ่ไมส่ ามารถนาเทคโนโลยแี ละสิ่งประดิษฐใ์ หม่ ๆ เขา้ มาใชใ้ นการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเตม็ ที่ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผเู้ รียน จากปัญหาที่กล่าวมาประเทศไทยเรากาลงั เขา้ สู่สงั คมสารสนเทศ ตอ้ งนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาใหมๆ่ เขา้ มาใชใ้ นวงการศึกษา จะทาใหร้ ูปแบบของการเรียนในช้นั เรียนพลิกโฉมใหม่การเปลี่ยนแปลงน้ีคงจะตอ้ งมีผลกระทบต่อผเู้ ก่ียวขอ้ ง ท้งั รัฐบาล สถานศึกษา ครู คณาจารย์ นกั เรียนนิสิต นกั ศึกษา ผลกระทบในแง่บวกคือคุณภาพของการศึกษาดีข้ึน มีระบบการศึกษาตลอดชีวติ ที่สนองตอบผเู้ รียนได้ แต่ขณะเดียวกนั กอ็ าจสร้างความเหลื่อมล้าใหม้ ากข้ึนซ่ึงคงตอ้ งหาทางป้ องกนั และแกไ้ ขต่อไป ปัจจัยทท่ี าให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงทางการศึกษา 1. แนวโนม้ การเปล่ียนแปลงวถิ ีชีวติ จากสงั คมอุตสาหกรรมไปสู่สงั คมสารสนเทศ หรือสังคมบริการนน่ั ก็คือ ผลผลิต รายได้ และผทู้ างานส่วนใหญ่จะอยใู่ นภาคบริการมากกวา่ ภาคอุตสาหกรรม และอีกนยั หน่ึงงานอุตสาหกรรมจะเปล่ียนไปเป็นระบบอตั โนมตั ิมากข้ึน 2. แนวโนม้ ของการใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาจะเปล่ียนจากส่ือพ้ืนฐานมาเป็ นเทคโนโลยีข้นั สูง เช่น เทคโนโลยสี ารสนเทศ (Information Technology) มากข้ึน
18 3. แนวโนม้ การเปลี่ยนเศรษฐกิจจากระดบั ชาติไปสู่ระดบั โลก การส่ือสารท่ีรวดเร็วทาใหโ้ ลกแคบลงประชาชนทุกมุมโลกสามารถติดต่อสื่อสารกนั ไดส้ ะดวก ดงั น้นั เหตุการณ์และผลกระทบที่เกิดกบั ประเทศหน่ึงจึงไปถึงประเทศอ่ืนๆ ไดร้ วดเร็วและก่อใหเ้ กิดผลกระทบที่กวา้ งขวาง 4. แนวโนม้ การวางแผนระยะส้นั เปล่ียนเป็นระยะยาว คือ รัฐบาลและผปู้ ระกอบธุรกิจเริ่มมองการณ์ไกลข้ึน เร่ิมคิดวางแผนระยะยาวและมองผลประโยชนร์ ะยะยาว 5. แนวโนม้ ที่เปล่ียนจากการรวมศูนยไ์ ปสู่การกระจาย รัฐบาลและภาคเอกชนมีทศั นะในการกระจายอานาจมากข้ึนแทนท่ีจะตอ้ งคอยตดั สินใจแกป้ ัญหาท่ีสานกั งานใหญ่เพยี งแห่งเดียวกส็ ่งเสริมให้มีการตดั สินใจในระดบั ล่างมากข้ึน 6. แนวโนม้ เปลี่ยนจากการพ่ึงสถาบนั มาเป็นพ่งึ ตวั เอง คือ เปลี่ยนท่าทีท่ีจะตอ้ งรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางหรือจากสถาบนั ของรัฐมาเป็ นการช่วยตวั เองท้งั ทางดา้ น เศรษฐกิจ การศึกษาการสาธารณสุขและอื่นๆ 7. แนวโนม้ ท่ีประชาชนเร่ิมแสดงออกและเขา้ ไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ดว้ ยตนเองมากข้ึนเช่น เขา้ ร่วมโครงการพทิ กั ษส์ ่ิงแวดลอ้ ม หรือเขา้ ร่วมกิจกรรมทางดา้ นการเมืองการบริหารมากข้ึน 8. แนวโนม้ ท่ีเปล่ียนจากการจดั การเป็นลาดบั ข้นั ไปสู่แบบเครือขา่ ย คือ เกิดความร่วมมือระหวา่ งผปู้ ฏิบตั ิงานระดบั เดียวกนั มากข้ึน หรือระหวา่ งผทู้ ี่สนใจในเรื่องเดียวกนั มากข้ึน 9. แนวโนม้ ที่เปลี่ยนจากทางเลือกจากดั ไปสู่ทางเลือกที่หลากหลาย คือ ประชาชนมีทางเลือกท่ีจะศึกษาไดห้ ลายแนวทาง เช่น ช่ืนชมศิลปะไดห้ ลายรูปแบบ ใชช้ ีวติ ไดห้ ลายรูปแบบ เป็นตน้ จากแนวโนม้ ของการเปลี่ยนแปลงของสภาพสงั คมดงั กล่าว ทาใหป้ ระชาชนจะตอ้ งปรับตวั ให้เขา้ กบั การเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนน้นั ใหไ้ ด้ และส่ิงที่จะทาใหป้ ระชาชนปรับตวั ไดด้ ีอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุขก็คือการศึกษานน่ั เอง ดงั น้นั เมื่อสภาพสังคมเปล่ียนไปการจดั การศึกษาก็จะตอ้ งปรับเปล่ียนกระบวนทศั นใ์ หมใ่ นการจดั การศึกษาดงั จะไดก้ ล่าวถึงในรายละเอียดต่อไป การปรับเปลย่ี นกระบวนทศั น์ใหม่ในการจัดการศึกษา ระบบการศึกษามีรูปแบบท่ีปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมกบั ยคุ สมยั โดยเฉพาะในปัจจุบนัน้ีเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาเขา้ มามีบทบาทตอ่ การจดั การศึกษาและชีวติ ประจาวนั มากข้ึน ขา่ วสารขอ้ มูลสารสนเทศ และความรู้ท้งั ในระบบและนอกระบบโรงเรียน สามารถส่งผา่ นเครือข่าย ประมวลผลและจดั เก็บดว้ ยคอมพิวเตอร์ นอกจากน้ียงั มีเคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาอีกมากท่ีเขา้ มาช่วยใหร้ ะบบการศึกษามีประสิทธิภาพยงิ่ ข้ึน ดงั น้นั กรอบความคิดของระบบการศึกษาจึงสมควรเปลี่ยนไป เพราะวา่ โลกในปัจจุบนั มีเน้ือหาวชิ า ขอ้ มลู ขา่ วสาร ท่ีตอ้ งเรียนรู้และทาความเขา้ ใจมากข้ึนเร่ือยๆ การเรียนการสอนจึงตอ้ งเนน้ ให้คิดเป็นทาเป็น แกป้ ัญหาเป็ น กระตุน้ ใหผ้ เู้ รียนเป็ นตวั ของตวั เองมากข้ึน และใหค้ วามสาคญั ในเร่ือง
19ความแตกต่างของพฒั นาการของผเู้ รียน ความพร้อมของผเู้ รียน และนาหลกั ทฤษฎีเกี่ยวกบั การเรียนการสอนตา่ งๆ มาประยกุ ตใ์ ชม้ ากมาย ทาใหก้ ารเรียนการสอน บทบาทของครูและผเู้ รียน บทบาทของส่ือการเรียนการสอนและการใชส้ ื่อการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป ครูที่ยงั คงยดึ หนงั สือเป็ นหลกัสาคญั เพียงอยา่ งเดียวในการเรียนการสอนผเู้ รียนเป็ นเพยี งผฟู้ ังรับความรู้เทา่ น้นั จาเป็นจะตอ้ งเขา้ ใจบทบาทของส่ือการเรียนการสอน และบทบาทของผเู้ รียนในกระบวนการเรียนการสอนตามแนวคิดใหม่ซ่ึงบทบาทหนา้ ที่สาคญั ของครู จะตอ้ งวางแผนและจดั การเรียนการสอนให้อยใู่ นสภาพที่ส่งเสริมให้ผเู้ รียนสามารถเรียนรู้ได้ ตอ้ งพฒั นาส่ือการเรียนการสอนใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รียน จุดประสงคข์ องการศึกษาตอ้ งขยายขอบเขตกวา้ งขวางมากข้ึน ซ่ึงทาใหต้ อ้ งพฒั นาวธิ ีและกระบวนการเก่ียวกบั การเรียนการสอนใหม่ใหม้ ีประสิทธิภาพยงิ่ ข้ึน จากการสังเคราะห์แนวความคิดใหมๆ่ ที่นกั การศึกษา นาเสนอไว้ท่ีสาคญั มีดงั น้ี 1. การจดั การเรียนการสอน ปรับแนวคิดใหม่เป็นโรงเรียนไม่ใช่โรงงานท่ีจะผลิตนกั เรียนให้เป็นผลิตภณั ฑท์ ่ีเหมือนกนั แต่เป็นผลผลิตที่มีความรู้ความสามารถจะตอ้ งเป็ นไปตามสภาพความเหมาะสมของความสามารถสติปัญญาของแตล่ ะบุคคล การเรียนรู้จะตอ้ งเป็นไปตามความตอ้ งการของผเู้ รียนมากข้ึน จดั การเรียนการสอนท่ีดึงศกั ยภาพของนกั เรียนออกมา เนน้ สภาพจุดเด่นของนกั เรียนแต่ละคนเพอ่ื ใหผ้ เู้ รียนทาในส่ิงที่ตนเองถนดั 2. การเรียนการสอนที่เนน้ เน้ือหาสาระไมจ่ ากดั อยใู่ นตาราเล่มใดเล่มหน่ึง แต่เป็นการเรียนรู้แบบแสวงหา คน้ หา และสามารถเรียกหาแหล่งความรู้ไดท้ ว่ั โลก เครือขา่ ยแหล่งความรู้หาไดจ้ ากแหล่งต่างๆ ไมจ่ าเพาะแต่ในหนงั สือตาราเพียงอยา่ งเดียว แตจ่ ะมีส่ือการเรียนการสอนประเภทอื่นๆ เขา้ มาช่วยในการเรียนการสอนดว้ ย 3. การเรียนการสอนตามแนวคิดใหม่ บทบาทของผเู้ รียนสามารถแสดงศกั ยภาพไดเ้ ตม็ ที่ ผเู้ รียนจะมีความกระตือรือร้นและตื่นตวั จากสภาพแวดลอ้ มท่ีจดั ไวอ้ ยา่ งมีระบบของครู นอกจากน้นั ผเู้ รียนยงัสามารถจะเรียนไดต้ ามความตอ้ งการ ช่วงเวลาใดสถานท่ีใดกบั บุคคลใดกไ็ ดโ้ ดยใชเ้ ทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษา 4. บทบาทของครูจากการเป็นผปู้ ้ อนความรู้เปล่ียนแปลงมาเป็นผชู้ ้ีนา ครูจะไมใ่ ช่เป็นเพยี งผสู้ อนอยา่ งเดียว แตต่ อ้ งเป็ นผยู้ นื อยขู่ า้ งๆ คอยใหค้ าช้ีแนะที่จะใหผ้ เู้ รียนไดแ้ สวงหาความรู้และเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเองมากที่สุด นกั เรียนจะมีส่วนร่วมในการเรียนมากข้ึนเป็นลกั ษณะของความร่วมมือกนั ระหวา่ งผเู้ รียนกบั ครูและผเู้ รียนดว้ ยกนั โดยครูตอ้ งมีบทบาทที่สาคญั ดงั น้ี 1.1 ตอ้ งวางแผนการเรียนรู้โดยนาวธิ ีระบบมาใช้ สามารถคาดการณ์ไดว้ า่ ผเู้ รียนจะบรรลุจุดมุ่งหมายในการเรียนไดม้ ากนอ้ ยเพียงใดในการเรียนการสอนแต่ละคร้ัง 1.2 ตอ้ งนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชจ้ ดั กิจกรรมการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและใชส้ ื่อการสอนเป็นหลกั ในการสอนแต่ละคาบ
20 1.3 ตอ้ งเป็ นผทู้ ี่สามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 1.4 สามารถพฒั นาสื่อ ท่ีมีคุณภาพท้งั ดา้ นการจูงใจและเน้ือหาที่สอดคลอ้ งกบัประสบการณ์ของผเู้ รียน 1.5 ตอ้ งเป็ นผทู้ ี่สามารถจดั กิจกรรมการเรียนการสอนแบบอภิปรายกบั ผเู้ รียนได้ 1.6 ใหค้ วามร่วมมือและช่วยเหลือผเู้ รียนในกระบวนการเรียนการสอนเพ่ือใหบ้ รรลุจุดมุง่ หมายในการศึกษาแต่ละดา้ นตามความตอ้ งการของผเู้ รียน 1.7 ตอ้ งมีบทบาทช้ีแนะ บริการ จดั ประสบการณ์และเป็นแหล่งความรู้เพ่อื ให้ผเู้ รียนมีอิสระในการคิดตดั สินใจรับผดิ ชอบตามตอ้ งการได้ 1.8 ตอ้ งเป็ นแบบอยา่ งท่ีดีในการเปล่ียนแปลงเขา้ สู่สงั คมสมยั ใหม่ ตอ้ งเป็นนกั บริหาร นกั วจิ ยั และพฒั นาส่ืออยา่ งสม่าเสมอ 2. เป้ าหมายสาคญั ของการเรียนการสอนเปล่ียนจากการสอนของครูเป็นการเรียนของนกั เรียนกล่าวคือ ปัจจุบนั เป็นท่ียอมรับกนั วา่ การเรียนรู้ของนกั เรียนเป็นเป้ าหมายของการศึกษาและการเรียนรู้เป็นกิจกรรมหรือกระบวนการท่ีนกั เรียนจะตอ้ งเป็ นผกู้ ระทา ครูจึงเป็นผมู้ ีหนา้ ที่ในการวางแผนและกาหนดประสบการณ์ท่ีจะช่วยใหน้ กั เรียนเกิดการเรียนรู้ 6. การเรียนรู้น้นั อาจเกิดข้ึนไดจ้ ากหลายวธิ ีการ จะตอ้ งมีการนาวธิ ีการต่างๆ มาใชใ้ นการเรียนการสอน รวมท้งั จะตอ้ งมีการนาสื่อการเรียนการสอนหลายๆ ชนิดมาใชต้ ามความเหมาะสม เพอื่ ช่วยให้ผเู้ รียนบรรลุเป้ าหมายของการเรียนการสอน 7. การมองนกั เรียนในฐานะเป็นกลุ่มเปล่ียนเป็นการยอมรับในฐานะบุคคล คือ ใหค้ วามสาคญัต่อนกั เรียนแต่ละคนมากข้ึนมีการยอมรับความแตกต่างระหวา่ งบุคคล การเรียนการสอนซ่ึงเดิมจดั เป็นกลุ่มเร่ิมเปลี่ยนไปเป็นการเรียนการสอนเพ่ือสนองความตอ้ งการความสนใจของนกั เรียนแต่ละคน และจดั ใหเ้ หมาะสมกบั นกั เรียนแต่ละคนมากยงิ่ ข้ึน เห็นความจาเป็นท่ีจะตอ้ งวางแผนการเรียนการสอนและจดั เตรียมสื่อการเรียนการสอนหลายๆแบบ เพอื่ ให้นกั เรียนแต่ละคนไดร้ ับความสาเร็จในการเรียนรู้ให้มากที่สุด 8. การใชว้ สั ดุการเรียนการสอนเพ่อื การเรียนเป็ นกลุ่ม เปล่ียนเป็นเพ่ือการเรียนการสอนรายบุคคล กล่าวคือไดม้ ีการยอมรับวา่ การเรียนมีหลายวธิ ี นกั เรียนแต่ละคนอาจจะเรียนรู้ไดด้ ว้ ยวธิ ีการประสบการณ์และส่ือการเรียนการสอนต่างๆ กนั มีแหล่งความรู้มากมายและสื่อการเรียนหลายรูปแบบท่ีจะช่วยใหผ้ เู้ รียนเรียนรู้ได้ วธิ ีการและวสั ดุการเรียนการสอนตามแบบเดิมซ่ึงครูเป็นผใู้ ชแ้ ละควบคุมคงจะตอ้ งเปล่ียนไปใหเ้ หมาะสมกบั ผเู้ รียนและวธิ ีการเรียนซ่ึงมีหลายลกั ษณะ 9. วธิ ีการที่มีระบบเชื่อกนั วา่ จะช่วยใหก้ ารเรียนการสอนบรรลุผลสาเร็จ กล่าวคือการวางแผนเกี่ยวกบั การเรียนการสอนจะตอ้ งมีระบบที่ดี พิจารณาองคป์ ระกอบต่างๆ ที่จะส่งผลต่อการเรียนการสอนใหค้ รบถว้ น แลว้ นามาพจิ ารณาวางแผนและปฏิบตั ิในลกั ษณะท่ีจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ การกาหนด
21จุดประสงคท์ ่ีชดั เจนจะช่วยกาหนดกระบวนการและประสบการณ์ท่ีผเู้ รียนจะตอ้ งกระทา รวมท้งั ช่วยประเมินกระบวนการของการเรียนรู้ท้งั หมด ดงั น้นั สถานศึกษาตามแนวคิดใหม่ ตอ้ งมีโครงสร้างของสิ่งอานวยความสะดวกในการเรียนที่ครบถว้ นโดยเฉพาะการใชเ้ ทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาในการเรียนการสอน เป็นการเปิ ดช่องทางเขา้ สู่ระบบโลกาภิวตั น์ในยคุ สังคมสารสนเทศ การปรับเปล่ียนกระบวนทศั นใ์ หม่ทางการศึกษาน้ีจะเป็นการสร้างใหผ้ เู้ รียนเป็นคน คิดเป็ น ทาเป็น แกป้ ัญหาเป็ น เกิดการเรียนรู้อยา่ งต่อเน่ืองตลอดชีวติแนวคดิ การใช้เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา เหตุผลทต่ี ้องนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใช้ในการศึกษา สถานศึกษามีหนา้ ท่ีเตรียมคนใหส้ ามารถอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ปัจจุบนั เม่ือแนวคิดทางการศึกษาเปลี่ยนไปบทบาทหนา้ ที่ของครูและผเู้ รียนก็ตอ้ งเปล่ียนตามไปดว้ ย ครูตอ้ งเปลี่ยนบทบาทในการจดั การเรียนการสอนเพ่ือนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ เหตุผลท่ีตอ้ งนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชใ้ นการศึกษาสรุปไดด้ งั น้ี 1. ประชากรเพิ่มข้ึนอยา่ งรวดเร็ว จึงเกิดปัญหาการขาดแคลนสถานที่เรียน บุคลากร สื่อการ-เรียนการสอน เม่ือประชากรมากข้ึนแตแ่ หล่งความรู้หรือโรงเรียนไมพ่ อเพยี งไมท่ ว่ั ถึง จึงจาเป็นตอ้ งนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาเขา้ มาช่วยแกป้ ัญหา เช่น การใชอ้ ินเทอร์เน็ต การสอนทางไกล เป็นตน้ 2. ประชาชนตอ้ งการการศึกษามากข้ึนและมีคุณภาพ จึงจาเป็นตอ้ งขยายโอกาสทางการศึกษาแก่ประชาชนใหส้ ามารถศึกษาหาความรู้ไดอ้ ยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวติ รวมท้งั การขยายการศึกษาข้นั พ้ืนฐานเพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถศึกษาหาความรู้ไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง 3. การศึกษาเป็นองคป์ ระกอบสาคญั ในการพฒั นาบุคคล ประชาชนเป็นทรัพยากรท่ีสาคญั ของชาติจาเป็ นตอ้ งพฒั นาใหม้ ีคุณภาพทาไดโ้ ดยการใหก้ ารศึกษา ดงั น้นั ถา้ ประเทศใดจะเริ่มพฒั นาเศรษฐกิจและใหป้ ระชากรมีคุณภาพแลว้ ตอ้ งเริ่มพฒั นาที่กาลงั คนเพ่ือช่วยพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมใหด้ ีข้ึน เราจึงตอ้ งนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาเขา้ มาช่วย 4. ความเปลี่ยนแปลงทางสงั คมและดา้ นเศรษฐกิจเป็นไปอยา่ งรวดเร็ว ตลอดจนเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษาทาใหเ้ กิดการศึกษารูปแบบใหม่ๆ เพ่ือใหม้ ีความรู้ทนั กบั การเปล่ียนแปลงทุกดา้ นและสามารถอยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุขตามอตั ภาพจึงจาเป็นที่ทุกคนตอ้ งเรียนรู้ตลอดเวลา ในยคุสงั คมสารสนเทศน้ีบุคคลตอ้ งมีความรู้ท่ีทนั สมยั รู้กวา้ งและรู้จริง จึงตอ้ งนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาเขา้ มาช่วยในการศึกษาคน้ ควา้ 5. แนวคิดพ้ืนฐานทางการศึกษาของประเทศเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม อนั เป็นผลสืบเน่ืองมาจากความเจริญกา้ วหนา้ ทางดา้ นวชิ าการและเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษา ทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงทาง
22การศึกษาท้งั ในดา้ นเน้ือหาวิชา เทคนิควธิ ีสอน การวดั ผล แนวคิดเร่ืองความพร้อม ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล การใชเ้ วลาเพ่ือการศึกษา และการใชแ้ หล่งวทิ ยาการ จึงจาเป็ นตอ้ งนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใชเ้ พอื่ สนบั สนุนแนวคิดใหบ้ รรลุผล หลกั การพจิ ารณาก่อนนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใช้ เป็นที่ยอมรับกนั ทวั่ ไปวา่ เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา สามารถช่วยเพมิ่ ประสิทธิภาพในการจดั การเรียนการสอนและการศึกษาไดเ้ ป็นอยา่ งดี ดงั น้นั ก่อนนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใชค้ วรพจิ ารณาใหเ้ หมาะสมดงั น้ี 1. ตรงจุดมุง่ หมาย 2. เหมาะสมกบั การจดั การเรียนการสอน 3. สอดคลอ้ งกบั สภาพเศรษฐกิจ 4. เหมาะกบั สภาพทอ้ งถิ่น 5. เหมาะกบั งบประมาณที่ไดร้ ับ 6. ความยากง่ายในการใช้ 7. สะดวกตอ่ การซ้ือหาและการบริการจากแหล่งผลิต นอกจากน้นั แลว้ การนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใชใ้ นการศึกษา ใหร้ ะลึกไวเ้ สมอวา่เทคโนโลยที ี่เหมาะสมและใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพกบั สังคมหน่ึง ไมแ่ น่เสมอไปวา่ จะเหมาะสมกบั อีกสังคมหน่ึงหรืออาจกล่าวไดว้ า่ การนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชใ้ นการศึกษาตอ้ งระลึกไวเ้ สมอวา่ตอ้ งเหมาะสมกบั สภาพทอ้ งถิ่นและสภาพแวดลอ้ มเป็นสาคญั กลยทุ ธ์ในการใช้เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา สาหรับครูแลว้ การใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาและการติดตามความเคล่ือนไหวของนวตั กรรมการศึกษาเป็ นสิ่งจาเป็นและเป็นประโยชน์อยา่ งยง่ิ เพราะจะช่วยใหค้ รูสามารถวางแผนการสอนและจดั กิจกรรมไดต้ รงจุดประสงคข์ องการเรียนรู้และน่าสนใจตลอดเวลา อน่ึงเมื่อครูนาส่ือการสอนไปใชจ้ ริงๆในหอ้ งเรียน นกั เทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาจะทาหนา้ ท่ีเป็ นเพียงพเี่ ล้ียงหรือที่ปรึกษาอยวู่ งนอกเท่าน้นั ดงั น้นั จาเป็ นท่ีครูจะตอ้ งรู้จกั กลยทุ ธ์ในการใชเ้ ทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษา ซ่ึงมีหลกั การใชง้ ่ายๆ ดงั น้ี 1. ตอ้ งรู้จกั ธรรมชาติของวชิ าและเน้ือหาที่จะสอนเป็ นอยา่ งดี เช่น จะสอนวชิ าวทิ ยาศาสตร์สภาวะแวดลอ้ มเร่ืองระบบนิเวศนใ์ นทะเล ผสู้ อนตอ้ งเขา้ ใจหลกั การศึกษาเร่ืองของสภาพแวดลอ้ มวา่การศึกษาสภาพแวดลอ้ มน้นั จะตอ้ งศึกษาจากสภาพท่ีเป็นจริงใหม้ ากที่สุดและการสอนเน้ือหาเรื่องระบบนิเวศของทะเลก็จาเป็นจะตอ้ งใหเ้ ห็นความสมั พนั ธ์ในเร่ืองของการถ่ายทอดพลงั งานในลาดบั ข้นั ต่างๆ
23ของการกินอาหารของส่ิงมีชีวติ ในทะเล มองเห็นและเกิดความเขา้ ใจวา่ ในทะเลมีการหมุนเวยี นอยา่ งไรจึงอยใู่ นลกั ษณะสมดุล เป็นตน้ 2. ตอ้ งกาหนดวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ใหแ้ น่ชดั วา่ ในการสอนมีวตั ถุประสงคใ์ หผ้ เู้ รียนแสดงพฤติกรรมอยา่ งไร เช่น ทอ่ งจาได้ ใหอ้ ธิบายไดด้ ว้ ยคาพดู ของตนเอง ใหว้ ิเคราะห์สถานการณ์ใหม่ได้ ฯลฯ การใชส้ ่ือหรือวธิ ีการของผสู้ อนเพื่อใหเ้ ป็นไปตามวตั ถุประสงคบ์ างคร้ังอาจตอ้ งใชผ้ สมผสานหลายวธิ ี 3. พจิ ารณาความจากดั ของสภาพแวดลอ้ มในการเรียนการสอนใหถ้ ่องแท้ เช่น ถา้ ยดึ หลกั วา่จะตอ้ งพานกั เรียนไปศึกษาในสภาพท่ีเป็นจริงใหไ้ ดจ้ ะมีขอ้ จากดั อะไรบา้ ง เช่น สถานศึกษาอยใู่ นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ อาจจะเป็นความยงุ่ ยากลาบากในการพานกั เรียนเดินทางไปศึกษาเกี่ยวกบั ระบบนิเวศนใ์ นทะเล เป็นตน้ 4. ตอ้ งศึกษาระบบ กฎเกณฑ์ วธิ ีการใช้ ของวสั ดุอุปกรณ์สื่อการสอนที่มีอยวู่ า่ แตล่ ะสิ่งน้นั ใช้อยา่ งไร มีขอ้ ดีขอ้ เสียในการใชอ้ ยา่ งไร มีความเหมาะสมเฉพาะในการใชส้ ่ือการสอนประเภทใด เช่น ในการสอนเร่ืองส่ิงแวดลอ้ มทางทะเล ผสู้ อนนิยมการสอนโดยใชบ้ ทเรียนโปรแกรมมากเป็นพเิ ศษก็จะพยายามเอาการสอนแบบน้ีมาสอนเรื่องสิ่งแวดลอ้ มทางทะเล โดยไมพ่ จิ ารณาถึงความเหมาะสมอ่ืนเช่นน้ีผเู้ รียนอาจไดผ้ ลไม่ดีเท่าท่ีควร ดงั น้นั จึงตอ้ งสารวจอยา่ งรอบคอบวา่ ทรัพยากรและส่ิงอานวยความสะดวกท่ีมีอยนู่ ้นั หรือส่ือใดจะก่อใหเ้ กิดประสิทธิภาพสูงสุดหรือรองลงมาในเร่ืองที่ตอ้ งสอน 5. การนานวตั กรรมที่น่าจะเอ้ืออานวยประโยชนใ์ หก้ บั สภาพการเรียนการสอน มาทดลองใช้แลว้ ติดตามผลจากผเู้ รียนดว้ ยตนเองบางคร้ังก็เป็นส่ิงที่ควรกระทา เช่น ในการสอนเรื่องส่ิงแวดลอ้ มแต่เดิมอาจจะใชว้ ดี ิทศั น์ซ่ึงถ่ายทาในตา่ งประเทศเป็นสื่อในการสอน แต่ถา้ เห็นวา่ มีเคร่ืองถ่ายวดี ิทศั น์ใชอ้ ยู่แลว้ ควรเอาเครื่องมือชุดดงั กล่าวไปบนั ทึกสภาพของทะเลไทยมาสอนแทนการใชว้ ดี ิทศั น์ของต่างประเทศแลว้ วจิ ยั เปรียบเทียบผล เป็นตน้ 6. การสรุปและตดั สินใจ หลงั จากที่ดาเนินการตามวธิ ีการท้งั 5 ขอ้ ขา้ งตน้ แลว้ ก็ถึงข้นั ประมวลขอ้ มูลขอ้ สรุปและตดั สินใจเลือกแนวทางปฏิบตั ิ อน่ึงในการตดั สินใจทุกคร้ังนอกจากจะพิจารณาถึงคุณค่าทางวชิ าการและความเอ้ืออานวยของปัจจยั ตา่ งๆแลว้ ปัจจยั ทางเศรษฐกิจกเ็ ป็นส่ิงท่ีจะละเวน้ ไมไ่ ด้จะตอ้ งคานึงถึงดว้ ย และในทา้ ยท่ีสุดของการตดั สินใจกค็ วรจะตอ้ งถามตวั เองวา่ “มีวธิ ีการอะไรท่ีง่ายกวา่ น้ีใหผ้ ลดีกวา่ น้ีและเหมาะสมกวา่ น้ีในการสอนเรื่องท่ีตอ้ งการอีกหรือไม่” ท้งั 6 ประการน้ีเป็นแนวคิดอยา่ งกวา้ งๆ ในการนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชใ้ หเ้ กิดประสิทธิภาพต่อการเรียนการสอน ซ่ึงในปัจจุบนั สถานศึกษาส่วนใหญม่ กั จะมีผรู้ ับผิดชอบเกี่ยวกบั เรื่องเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาประจาอยแู่ ลว้ ครูควรใชบ้ ริการใหเ้ กิดประโยชน์ โดยขอคาปรึกษา ฝึกวธิ ีใช้ทดลองนามาใชร้ ่วมกนั ก็จะก่อใหเ้ กิดผลดีต่อการเรียนการสอนเป็นอยา่ งยงิ่
24 สาเหตุทที่ าให้การใช้เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาไม่ประสบผลสาเร็จ มีนส์ และคนอื่นๆ. (Mean and Others, 1993 : 211-212) ไดก้ ล่าวไวว้ า่ จากการศึกษาคน้ ควา้ เก่ียวกบั เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาในทศวรรษท่ีผา่ นมา พบวา่ การนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชไ้ ม่คอ่ ยประสบผลสาเร็จเทา่ ท่ีควรมีสาเหตุหลายประการคือ 1. ความไม่ชดั เจนในปัญหา ประเดน็ น้ีจาเป็ นอยา่ งยง่ิ ท่ีนกั เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาและผบู้ ริหารการศึกษา จะตอ้ งร่วมกนั วเิ คราะห์ปัญหาทางการศึกษาใหช้ ดั เจนถูกตอ้ งอยา่ งเอาจริงเอาจงัเนื่องจากปัญหาท่ีเกิดข้ึนในแตล่ ะทอ้ งถิ่นและแตล่ ะระดบั ยอ่ มมีไม่เหมือนกนั มีปัจจยั สนบั สนุนต่างกนัถึงแมว้ า่ ทุกคนทราบดีวา่ หากนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชจ้ ะสามารถช่วยแกป้ ัญหาได้ อานวยความสะดวกใหผ้ สู้ อนและผเู้ รียนมีประสิทธิภาพในการเรียนการสอน แต่หากนามาใชไ้ ม่ตรงจุดเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาเหล่าน้นั กไ็ ร้ประโยชน์ 2. ความไมพ่ ร้อมทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยเป็นประเทศที่กาลงั พฒั นาประชากรส่วนใหญ่มีฐานะยากจน สถานศึกษาทุกระดบั ไดร้ ับงบประมาณเพ่ือนามาใชใ้ นการเรียนการสอนคอ่ นขา้ งต่า แตใ่ นความเป็นจริงจะเห็นไดว้ า่ เทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาท่ีนามาใชใ้ นการศึกษาจะมีราคาสูงเป็นเทคโนโลยีส่ือสารการศึกษาท่ีตอ้ งใชบ้ ุคลากรที่มีความรู้และการบารุงรักษาก็มีราคาแพง แมว้ า่ สถานศึกษาใดจะมีความสามารถซ้ือหามาใชไ้ ด้ แต่กต็ อ้ งประสบกบั ปัญหาการจดั ซ้ือจดั หาวสั ดุท่ีจะตอ้ งนามาใชร้ ่วมกบัเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาน้นั เนื่องจากมีราคาแพงบางอยา่ งตอ้ งนาเขา้ จากต่างประเทศ จึงทาใหห้ ลายสถาบนั ไมส่ ามารถใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาได้ 3. ความไมพ่ ร้อมของบุคลากร บุคลท่ีอยใู่ นวงการศึกษาโดยเฉพาะครู อาจารย์ ส่วนใหญย่ งั ขาดความรู้เก่ียวกบั เทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา ยงั ใชไ้ ม่คุม้ คา่ และใชไ้ มถ่ ูกตอ้ งกเ็ ป็นอีกปัจจยั หน่ึงท่ีก่อใหเ้ กิดความสูญเปล่าในการใชเ้ ทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษา จึงจาเป็นตอ้ งใหค้ วามรู้หรือใหก้ ารฝึกอบรมเพิ่มทกั ษะในการใชอ้ ยา่ งตอ่ เน่ือง 4. ความไมเ่ หมาะสมกบั ทอ้ งถิ่น ในการเลือกใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาตอ้ งพิจารณาให้ความสาคญั กบั สภาพแวดลอ้ มเพราะส่ือการเรียนการสอน บางประเภทเหมาะสมต่อการใชใ้ นทอ้ งถิ่นหน่ึงแต่เม่ือนาไปใชอ้ ีกท่ีหน่ึงอาจมีอุปสรรคและไม่เหมาะสม เช่น นาคอมพวิ เตอร์ไปใชใ้ นโรงเรียนประถมศึกษาท่ีอยหู่ ่างไกล ที่อาจยงั ไมม่ ีหอ้ งเรียนและส่ิงอานวยความสะดวกที่เหมาะสมต่อการใช้คอมพวิ เตอร์จึงตอ้ งเกบ็ ไวใ้ นตเู้ ฉยๆ แต่หากนาวดี ิทศั น์มาใชค้ งจะเหมาะสมกวา่ เพราะการใชง้ านไม่ยงุ่ ยากและการบารุงรักษาไมซ่ บั ซอ้ น 5. การไมพ่ ยายามพ่ึงตนเอง เม่ือกล่าวถึงเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาก็มกั จะนึกถึงเครื่องมือเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาท่ีมีราคาแพงซ่ึงแต่ละสถาบนั จะแข่งขนั ซ้ือหามาไว้ แตท่ างรัฐบาลก็ยงั ไม่มีนโยบายในการลดตน้ ทุนหรือสนบั สนุนใหม้ ีการผลิตวสั ดุท่ีจะนามาใชร้ ่วมกบั สื่อราคาแพงท่ีตอ้ งนาเขา้จากต่างประเทศ ยงั คงเป็ นหนา้ ท่ีของบริษทั เอกชนสั่งเครื่องมือมาขายในราคาแพงเกินกวา่ ท่ีจะจดั ซ้ือหา
25มาไดต้ ามราคาท่ีสานกั งบประมาณเป็นผกู้ าหนด จึงส่งผลใหส้ ถาบนั การศึกษาไดใ้ ชเ้ คร่ืองมือในราคาต่าดอ้ ยคุณภาพ 6. การใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาท่ีลา้ สมยั การนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาชนิดใดมาใช้หรือเผยแพร่ควรจะมีการตรวจสอบคุณภาพ ทดลองใชจ้ นกระทง่ั แน่ใจวา่ เหมาะสมกบั สภาพทอ้ งถ่ินใหป้ ระโยชนท์ างการศึกษาที่คุม้ คา่ ต่อการลงทุนและท่ีสาคญั ท่ีสุด คือตอ้ งมีความทนั สมยั สามารถจดั หาวสั ดุมาใชร้ ่วมได้ บริษทั ผนู้ าเขา้ หรือผผู้ ลิตตอ้ งรับประกนั การจดั หาอะไหล่หรือการใหบ้ ริการที่มน่ั คงท้งัในปัจจุบนั และอนาคต 7. การไม่ยอมรับเทคโนโลยีสื่อสารการศึกษา สาเหตุในประเด็นน้ีมีความละเอียดซบั ซอ้ นเพราะวา่ เจตคติของแตล่ ะตนแตกต่างกนั บางคนยากลาบากที่จะใหย้ อมรับหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอาจจะสืบสืบเน่ืองมาจากสาเหตุบางประการ เช่น 7.1 การไม่ประสบความสาเร็จในการใชเ้ ทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาก่อน 7.2 เกิดอคติต่อการใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา เพราะเป็ นการเพิ่มภาระ เกิดความยงุ่ ยากเสียเวลาในการเตรียมก่อนใช้ ฯลฯ 7.3 ไมเ่ ห็นความสาคญั ของการใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษา เนื่องจากไม่มีความรู้ความเขา้ ใจในคุณสมบตั ิหรือคุณค่าของสื่อเหล่าน้นั 7.4 เนน้ เน้ือหาของหลกั สูตรมากกวา่ วธิ ีการแสวงหาความรู้ตามหลกั สูตร จึงยงั คงยดึวธิ ีการสอนแบบท่องจา อยา่ งไรกต็ ามการเปิ ดโอกาสใหบ้ ุคลากรทางการศึกษาไดเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมนิทรรศการ ตลอดจนการเผยแพร่ในลกั ษณะอื่น การจดั อบรม สมั มนาหรือการศึกษาต่อเพ่ือเพิ่มพนู วทิ ยฐานะใหส้ ูงข้ึนก็สามารถจะเปลี่ยนแปลงค่านิยมในการตอ่ ตา้ นการใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาลงได้สรุป การจดั การศึกษาท่ีไม่บรรลุตามเป้ าหมายส่วนใหญม่ าจากสาเหตุ คือ จานวนผเู้ รียนในช้นั มากเกินไป ผสู้ อนไมม่ ีเวลาเพียงพอในการเอาใจใส่ผเู้ รียน ขาดแคลนวสั ดุอุปกรณ์ ขาดงบประมาณเม่ือพิจารณาถึงการจดั การศึกษาสาหรับยคุ สารสนเทศจะเห็นไดว้ า่ ยงั มีปัญหาหลายประการที่รอการแกไ้ ข ไดแ้ ก่ รูปแบบในการจดั การศึกษา มาตรฐานโปรแกรมบทเรียน ความรู้พ้นื ฐานของอาจารยผ์ สู้ อนงบประมาณ ปัญหาความเหลื่อมล้าทางสงั คม โครงสร้างพ้ืนฐานการอานวยความสะดวก นอกจากน้ียงั มีปัจจยั ที่ทาใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลทางการศึกษามามาย เช่น การเปล่ียนแปลงวถิ ีชีวติ จากสงั คมอุตสาหกรรมไปสู่สังคมสารสนเทศ เปลี่ยนจากการใชส้ ื่อพ้ืนฐานมาเป็นเทคโนโลยีช้นั สูง การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจจากระดบั ชาติไปสู่ระดบั โลก การวางแผนระยะส้นั เปล่ียนเป็นระยะยาว เปลี่ยนจากรวมศนู ยไ์ ปสู่การกระจาย เปลี่ยนจากการพ่งึ สถาบนั มาเป็นการพ่ึงตนเอง ประชากรเร่ิม
26แสดงออกและเขา้ ไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ดว้ ยตนเองมากข้ึน เปล่ียนการจดั การแบบเป็นลาดบัข้นั ไปสู่แบบเครือขา่ ย เปล่ียนจากทางเลือกจากดั ไปสู่ทางเลือกที่หลากหลาย จากแนวโนม้ ของการเปล่ียนแปลงของสภาพสงั คมดงั กล่าว ทาใหป้ ระชาชนจะตอ้ งปรับตวั ให้เขา้ กบั การเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนน้นั ใหไ้ ด้ และสิ่งที่จะทาใหป้ ระชาชนปรับตวั ไดด้ ีอยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุขกค็ ือการศึกษานนั่ เอง ดงั น้นั เมื่อสภาพสังคมเปล่ียนไปการจดั การศึกษาก็จะตอ้ งปรับเปลี่ยนกระบวนทศั น์ใหม่ในการจดั การศึกษา การศึกษาจะมีลกั ษณะเป็นการทางานตลอดชีวติ การศึกษาจะมีมาตรฐานดีข้ึน การศึกษาจะมีลกั ษณะท่ีสอดคลอ้ งกบั ความสามารถส่วนตวั มากข้ึน การศึกษาจะมีประสิทธิภาพมากข้ึน การศึกษาจากศนู ยท์ รัพยากรการเรียนแบบผสม การศึกษาจากเครื่องมืออุปกรณ์ท่ีทนั สมยั บทบาทของครูจะเปล่ียนไปจากการเป็นผใู้ หผ้ ปู้ ้ อนมาเป็ นผชู้ ้ีนา โดยใชเ้ ทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษาเขา้ มาช่วยในการจดั การเรียนการสอน การนาเทคโนโลยีส่ือสารการศึกษามาใชค้ วรพิจารณาให้เหมาะสม กล่าวคือ ตรงจุดมุ่งหมายเหมาะสมกบั การจดั การเรียนการสอน สอดคลอ้ งกบั สภาพเศรษฐกิจ เหมาะสมกบั สภาพทอ้ งถ่ินเหมาะสมกบั งบประมาณท่ีไดร้ ับ ความยากง่ายในการใช้ สะดวกต่อการซ้ือหาและการบริการจากแหล่งผลิต การนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใช้ ส่งผลใหเ้ กิดลกั ษณะการเรียนการสอนท่ีสาคญั คือ เนน้การศึกษาดว้ ยตนเองมากข้ึน เนน้ การจดั สภาพแวดลอ้ มใหเ้ อ้ือต่อการเรียนการสอนมากข้ึน เนน้ การเรียนท่ีเป็นอิสระโดยอาศยั เคร่ืองมืออุปกรณ์ แนวทางในการถ่ายทอดความรู้เปลี่ยนไป แหล่งทรัพยากรการเรียนรู้จะมีความสาคญั มากในการศึกษา ส่วนสาเหตุที่ทาใหก้ ารใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาไม่ประสบผลสาเร็จเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการ เช่น ความไม่ชดั เจนในปัญหา ความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ ความไม่พร้อมของบุคลากรความไมห่ มาะสมกบั ทอ้ งถิ่น การไมพ่ ยายามพ่งึ ตนเอง ปัญหาดา้ นเจตคติและขาดบุคลากรที่มีความรู้ในดา้ นเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาแบบฝึ กหดั ท้ายบท 1. ปัญหาการจดั การศึกษาในปัจจุบนั และอนาคตมีอะไรบา้ ง 2. ปัจจยั อะไรบา้ งท่ีทาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงทางการศึกษา 3. กระบวนทศั นใ์ หมใ่ นการจดั การศึกษามีลกั ษณะอยา่ งไร 4. เหตุใดจึงตอ้ งนาเทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษามาใชใ้ นการศึกษา 5. การนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใช้ ทาใหเ้ กิดความเสมอภาคทางการศึกษาอยา่ งไร 6. หลกั การพิจารณาก่อนนาเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษามาใชม้ ีอะไรบา้ ง
27 7. ท่านเห็นดว้ ยหรือไม่กบั คากล่าวที่วา่ “เทคโนโลยที ่ีเหมาะสมและใชไ้ ดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพกบั สงั คมหน่ึง ไมแ่ น่เสมอไปวา่ จะเหมาะสมกบั อีกสงั คมหน่ึง” 8. กลยทุ ธ์ในการใชเ้ ทคโนโลยีสื่อสารการศึกษามีหลกั การใชอ้ ยา่ งไรบา้ ง 9. สาเหตุที่ทาใหก้ ารใชเ้ ทคโนโลยสี ่ือสารการศึกษาไมป่ ระสบผลสาเร็จมีอะไรบา้ ง 10. การไมย่ อมรับเทคโนโลยสี ื่อสารการศึกษา มีสาเหตุมาจากอะไรเอกสารอ้างองิกิดานนั ท์ มลิทอง. (2548). เทคโนโลยีและการสื่อสารเพอื่ การศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ อรุณการพมิ พ.์คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ, สานกั งาน. (2532). แนวทางการจัดการศึกษาในอนาคต. กรุงเทพมหานคร : บริษทั อมรินทร์พริ้นติ้งกรุ๊ฟ จากดั .สมบรู ณ์ สงวนญาติ. (2534). เทคโนโลยที างการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร : ภาคพฒั นาตาราและ เอกสารวชิ าการ หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมการฝึกหดั ครู.เอกวทิ ย์ แกว้ ประดิษฐ.์ (2545). เทคโนโลยกี ารศึกษา : หลกั การและแนวคดิ สู่ปฏิบตั ิ. สงขลา : มหาวทิ ยาลยั ทกั ษิณ.Anglin, Gary J. (1991). Instructional Technology : Past, Present and Future. Colorado : Libranis Unlimited.Means, B. and Others. (1993). Using Technology to Support Education Reform. Washington D.C. : Institute for Educational Leadership.
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: