Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้ที่ 1 เครื่องมือในงานไฟฟ้า

ใบความรู้ที่ 1 เครื่องมือในงานไฟฟ้า

Published by hang.d2drink, 2020-06-14 04:22:51

Description: ใบความรู้ที่ 1 เครื่องมือในงานไฟฟ้า

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง เครื่องมือในงานไฟฟ้า จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเครื่องมือในงานไฟฟ้าได้ 2. บอกเคร่ืองมือวดั ไฟฟ้าได้ 3. ใชเ้ ครื่องมือไดถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน คาชี้แจง ศึกษารายละเอียดตอ่ ไปน้ี แลว้ ปฏิบตั ิกิจกรรมในกิจกรรมที่ 1 การเดินสายไฟฟ้าภายในอาคารดว้ ยเขม็ ขดั รัดสายและการติดต้งั วสั ดุ อุปกรณ์ไฟฟ้า โดยทว่ั ไป มีความจาเป็นจะตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือหลากหลายชนิดร่วมกนั จึงจะสามารถทางานไดอ้ ยา่ ง ถูกตอ้ งและรวดเร็ว ถา้ หากไม่มีเคร่ืองมือบางอยา่ งเหล่าน้ีแลว้ อาจจะไม่สามารถทางานไดเ้ ลย ดงั น้นั เครื่องมือท่ีตอ้ งใชท้ างานจึงมีหลากหลายชนิด โดยข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะงานท่ีทา ซ่ึงเครื่องมือ ที่นิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย มีดงั ต่อไปน้ี 1. เคร่ืองมือสาหรับงานเดินสายไฟฟ้าด้วยเขม็ ขดั รัดสาย 1.1 ไขควง ไดแ้ ก่ ไขควงปากแบน ไขควงปากแฉก ไขควงบลอ็ ค ไขควงใชส้ าหรับ ขนั หรือคลายสกรูทวั่ ไป ดงั ภาพประกอบท่ี 1 ภาพประกอบที่ 1 ไขควงบลอ็ ค ไขควงปากแฉก ไขควงปากแบน

1.2 คมี ไดแ้ ก่ คีมตดั คีมปากแหลม คีมรวม คีมปอกสาย คีมย้าหางปลา คีมล็อค ใชส้ าหรับมว้ นสาย ทาห่วงสาย ปอกสาย ตดั สาย บิดสายใหเ้ ป็นเกลียว จบั ยดึ สาย ย้าข้วั หลกั ตอ่ สาย (หางปลา) ดงั ภาพประกอบที่ 2 คีมปากยาว คีมลอ็ ค คีมจบั แบบเลื่อนได้ คีมปอกสายไฟฟ้า คีมตดั สาย คีมย้าหางปลา ภาพประกอบที่ 2 คีมแบบตา่ ง ๆ 1.3 มีดปอกสาย ไดแ้ ก่ มีดปอกสาย คทั เตอร์ ใชส้ าหรับปอกสาย มีดปอกสายมีราคา แพง ท่ีนิยมใชท้ วั่ ไปคือ คทั เตอร์ชนิดเปลี่ยนใบมีดได้ ดงั ภาพประกอบที่ 3 มีดปอกสาย คทั เตอร์ชนิดเปลี่ยนใบได้ ภาพประกอบท่ี 3 มีดปอกสายและคทั เตอร์

1.4 ค้อนเดินสายไฟฟ้า ขนาดกระชบั มือ บริเวณหวั คอ้ นจะออกแบบใหแ้ หลมมน เพ่อื ใชต้ อกตะปูในบริเวณแคบ ๆ ดงั ภาพประกอบที่ 4 ภาพประกอบที่ 4 คอ้ นเดินสายไฟ 1.5 บดิ หล่า ใชส้ าหรับเจาะแผงไมต้ ่าง ๆ เช่นใชเ้ จาะรูก่อนติดต้งั คทั เอาท์ ดงั ภาพประกอบที่ 5 ภาพประกอบท่ี 5 บิดหล่า 1.6 บักเต้า ใชส้ าหรับตีเส้นให้ตรงหรือไดร้ ะดบั ก่อนท่ีตอกตะปูเดินสายไฟฟ้าวธิ ีใชง้ าน แสดงดงั ภาพประกอบที่ 6 ภาพประกอบท่ี 6 การใชบ้ กั เตา้

1.7 สว่าน ปัจจุบนั นิยมใชส้ วา่ นไฟฟ้า ประกอบดว้ ยสวา่ นเจาะไม,้ เหลก็ และสวา่ น กระแทกใชเ้ จาะปูน, คอนกรีต สาหรับงานเจาะคอนกรีตส่วนใหญ่จะนิยมใชส้ วา่ นโรตารี่ ขนาด ของสวา่ นไฟฟ้าจะเรียกตามขนาดของหวั จบั เช่น ขนาด 3 หุน, 4 หุน เป็นตน้ ดงั ภาพประกอบ ที่ 7 (ก) สวา่ นไฟฟ้าเจาะไม,้ เหล็ก (ข) สวา่ นกระแทกเจาะปูน 1. ฝาครอบ 7. สวติ ช์หยดุ หมุน-กระแทก 2. ปลอกสาหรับล็อค 8. สวติ ชป์ รับทางหมุน 3. ช่องระบายอากาศ 9. สวติ ช์เปิ ด-ปิ ด 4. กา้ นวดั ความลึก 10. ป่ ุมบงั คบั ความเร็วรอบหมุน 5. ดา้ มจบั เพม่ิ 11. ป่ ุมลอ็ ค 6. ป่ ุมปลดล็อค (ค) สวา่ นโรตาร่ี การใส่ดอกสว่าน : จบั กา้ นดอกสวา่ นใส่ในหวั จบั และดนั จนขบเฟื องซ่ึงจะถูกล็อคโดย อตั โนมตั ิ ใชม้ ือดึงอีกคร้ังเพือ่ ตรวจสอบวา่ ดอกสวา่ นถูกล็อคจริง

(ง) การใส่ดอกสวา่ นโรตารี่ การถอด : ดึงปลอกสาหรับลอ็ คของหวั จบั ไปดา้ นหลงั เป็ นการปลดล็อค (จ) การถอดดอกสวา่ นโรตารี่ ภาพประกอบท่ี 7 สวา่ นท่ีใชใ้ นงานติดต้งั ไฟฟ้าและงานทว่ั ไป 1.8 ตลบั เมตร ระดบั นา้ และลูกดง่ิ ตลบั เมตร ใชว้ ดั ระยะ มีหน่วยเป็นเซนติเมตร (cm) และเป็นนิ้ว (inch) ภาพประกอบที่ 8 ตลบั เมตร ระดบั น้า ใชต้ รวจสอบความเที่ยงตรงในงานเดินสายไฟฟ้า ภาพประกอบท่ี 9 ระดบั น้า

ลูกด่ิง ใชจ้ บั ระดบั ในแนวต้งั น้าหนกั ขนาด 400 กรัม ภาพประกอบที่ 10 ลูกด่ิง 1.9 เหลก็ นาศูนย์และเหลก็ ส่ง เหลก็ นาศูนย์ : ผลิตจากเหลก็ แขง็ ใชส้ าหรับตอกนาบนอาคารที่ฉาบดว้ ย ปูนซีเมนตเ์ พื่อป้องกนั ตะปูงอ ซ่ึงจะทาใหเ้ สียเวลาในการ ปฏิบตั ิงาน ในทางปฏิบตั ิจะใชต้ ะปูคอนกรีตโดยการเจียรนยั ปลายใหแ้ หลม เหลก็ ส่ง : ใชส้ าหรับตอกตะปูในท่ีแคบ ไมส่ ามารถใชค้ อ้ นตอกหวั ตะปูได้ โดยตรง ภาพประกอบที่ 11 เหล็กศูนย์ และเหลก็ นาส่ง 1.10 สิ่ว ใชบ้ ากแป้นไมร้ องสวิตช์ หรือแผงคทั เอาท์ เพ่ือใหส้ ามารถสอดสายเขา้ ไปได้ ท่ีใชง้ านทวั่ ไป คือ สิ่วปากบาง และส่ิวเดือย ดงั ภาพประกอบที่ 8

ส่ิวปากบาง ภาพประกอบท่ี 12 สิ่ว สิ่วเดือย 1.11 เลื่อย ใชต้ ดั ไมข้ นาดต่าง ๆ แสดงดงั ภาพประกอบที่ 13 เล่ือยฉลุ เลื่อยลนั ดา เลื่อยรอ ภาพประกอบที่ 13 เลื่อยท่ีใชส้ าหรับงานเดินสายไฟฟ้า 2. เคร่ืองมือวดั ไฟฟ้า เป็นเคร่ืองมือท่ีใชส้ าหรับวดั เพอื่ ตรวจเช็คการทางานของอุปกรณ์ไฟฟ้า การต่อวงจร ไฟฟ้าวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ หากไม่ถูกตอ้ งจะไดแ้ กไ้ ขไดถ้ ูกจุดและใชเ้ วลาในการแกไ้ ขเร็วข้ึน เคร่ืองมือวดั ไฟฟ้ามีหลายชนิดมีลกั ษณะการใชง้ านแตกตา่ งกนั แตเ่ คร่ืองมือวดั เบ้ืองตน้ ท่ีจาเป็น เนื่องจากใชง้ านไดส้ ะดวก หาง่าย และราคาถูก มีดงั ตอ่ ไปน้ี 2.1 ไขควงเช็คไฟ ใชส้ าหรับตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า แหล่งจ่ายไฟฟ้าวา่ มีกระแสไฟฟ้าไหล ผา่ นหรือไม่ ซ่ึงสามารถทาใหร้ ู้วา่ สายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือแหล่งจา่ ยไฟฟ้าใชง้ านไดห้ รือใช้ งานไม่ได้ วธิ ีการตรวจเช็คน้นั ทาไดง้ ่าย ๆ ดงั น้ี ใชป้ ลายไขควงแตะส่วนท่ีเป็ นตวั นาไฟฟ้า เช่น ข้วั ของอุปกรณ์ สายไฟฟ้าท่ีปอกฉนวนออกแลว้ ใชน้ ิ้วแตะที่ทา้ ยไขควงและดูหลอดไฟฟ้าภายใน ตวั ไขควงแลว้ สรุป ดงั น้ี

- หลอดไฟฟ้ามีแสงสวา่ ง แสดงวา่ มีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ น - หลอดไฟฟ้าไมม่ ีแสงสวา่ ง แสดงวา่ ไมม่ ีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ น (ไวพจน์ ศรี ธญั . 2546 : 168-169) หลอดไฟและไขควงหลองไฟนบั เป็นเครื่องมือพ้นื ฐานท่ีสุด และไดร้ ับความนิยมจาก ช่างไฟฟ้าท้งั สมคั รเล่นและอาชีพมาเป็นเวลานานกเ็ พราะเครื่องมือท้งั สองน้ีมีราคาถูกมาก ในการ ใชห้ ลอดไฟตรวจจุดบกพร่องในวงจรไฟฟ้าน้นั เราจะคีบปลายหน่ึง (สายคีบตอ้ งเป็ นฉนวน) เขา้ กบั สายไฟสายหน่ึง โดยทวั่ ๆ ไปมกั คีบกบั สายนิวทรัลหรือสายดิน ส่วนอีกสายหน่ึงก็จะตรวจ แตะเรื่อย ๆ ในวงจรจนพบท่ีบกพร่อง ดงั ภาพประกอบท่ี 14 ซ่ึงเราทาการแตะอู่ 2 คร้ัง คร้ังแรก ที่หลงั ฟิ วส์ ส่วนอีกคร้ังท่ีข้วั หลอดไฟในวงจร หลอดทดสอบจะบอกเราในทนั ทีวา่ สายขาด ระหวา่ งช่วงหลงั ฟิ วส์ถึงโหลด ภาพประกอบที่ 14 ลกั ษณะการใชห้ ลอดไฟตรวจจุดบกพร่อง ระบบไฟฟ้าสองสายตามบา้ นเรือนโดยทว่ั ๆ ไปจะเอาสายหน่ึงลงดินไวเ้ สมอเพ่อื ให้ เกิดความปลอดภยั ยง่ิ ข้ึน ฉะน้นั จึงไดม้ ีผปู้ ระดิษฐไ์ ขควงลองไฟข้ึนมาตรวจสอบวงจรซ่ึงมีลกั ษณะ แสดงดงั ภาพ ภาพประกอบท่ี 15 ลกั ษณะและวงจรเปรียบเทียบของไขควงลองไฟ (ฤทธ์ิ ธีระโกเมน และพวก. 2534 : 191-192)

2.2 มัลตมิ เิ ตอร์ เป็นเคร่ืองมือวดั เอนกประสงค์ เพอ่ื ตรวจสอบสภาพสายไฟฟ้า อุปกรณ์ตา่ ง ๆ เพ่อื ใหเ้ กิดความแน่ใจวา่ อุปกรณ์วสั ดุทุกชิ้นที่จะนาไปติดต้งั อยใู่ นสภาพท่ีพร้อมจะ ใชง้ านดว้ ยความปลอดภยั (ประพนั ธ์ พิพฒั นสุข และไวพจน์ ศรีธญั . 2544 : 30-35) มลั ติมิเตอร์เป็นเคร่ืองมือวดั เอนกประสงคท์ ่ีวดั ไดท้ ้งั แรงดนั ไฟดีซี, เอซี วดั กระแสไฟดี ซี และ วดั คา่ ความตา้ นทาน รวมไวใ้ นตวั เดียวกนั มีช่ือเรียกตา่ งๆ กนั เช่น มลั ติมิเตอร์ (Multimeter) มลั ติเทสเตอร์ (Multitester) หรือ VOM (Volt – Ohm – Milliammeter) ดว้ ยเหตุ ท่ีโวลทม์ ิเตอร์ แอมมิเตอร์และโอห์มมิเตอร์ ตา่ งก็อาศยั หลกั การทางานแบบขดลวดเคล่ือนท่ี (Moving Coil Instrument) ดงั น้นั จึงรวมกนั สร้างเป็นเครื่องวดั เพยี งตวั เดียวเรียกวา่ มลั ติมิเตอร์ ท่ีจาหน่ายในทอ้ งตลาดมีหลากหลายยห่ี อ้ ใหเ้ ลือกใชต้ ามลกั ษณะงาน ราคาจะสูงตามขีด ความสามารถของเคร่ือง มลั ติมิเตอร์ทุกรุ่นจะคงไวซ้ ่ึงความสามารถในการวดั 4 อยา่ ง ไดแ้ ก่ 1. วดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสตรง (DCV) 2. วดั แรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั (ACV) 3. วดั กระแสไฟฟ้ากระแสตรง (DC mA) 4. วดั ความตา้ นทาน ( ) ภาพประกอบที่ 16 มลั ติมิเตอร์ (ไวพจน์ ศรีธญั . 2547 : 120)

มลั ติมิเตอร์น้ีเรียกไดว้ า่ เป็นมิเตอร์สารพดั ประโยชนซ์ ่ึงกาลงั เป็นพระเอกในปัจจุบนั เน่ืองจากใหค้ วามแน่นอนในการวดั มากข้ึนกวา่ แบบที่กล่าวมาแลว้ มนั สามารถวนิ ิจฉยั ไดว้ า่ มี แรงดนั มาในวงจรหรือไม่ ถา้ มีแรงดนั มาคา่ แรงดุนสูงหรือต่ากวา่ ปกติอยา่ งไร ฯลฯ ฉะน้นั ช่าง ไฟฟ้าทว่ั ไปจึงจาเป็นตอ้ งมีมลั ติมิเตอร์ไวป้ ระจาตวั เสมอ บางคนใชแ้ บบดิจิตอลข้ึนเป็ นตวั เลขกนั เลยแสดงวา่ เป็นมืออาชีพไม่ใช่มือสมคั รเล่น แตจ่ ะวา่ กนั ไปแลว้ ถา้ เราวดั วงจรไฟฟ้าพ้นื ๆ ทว่ั ไปก็ ใชม้ ลั ติมิเตอร์แบบใชเ้ ขม็ ธรรมดากใ็ หค้ วามละเอียดพอเพียงในการวดั อยแู่ ลว้ มลั ติมิเตอร์ทวั่ ๆ ไปที่มีจาหน่ายในทอ้ งตลาด (เช่น Sanwa, Simpson, Hioki เป็นตน้ ) และเรียกกนั วา่ VOM (volt ohm milliammeter) น้นั จามารถวดั ค่าดงั น้ี คือ 1. แรงดนั ไฟสลบั (A.C. voltage) เช่น ใชใ้ นการวดั ไฟบา้ นท่ีใชก้ นั โดยทว่ั ๆ ไป เครื่องใชไ้ ฟฟ้าตา่ ง ๆ เช่น ตูเ้ ยน็ พดั ลม 2. แรงดนั ไฟตรง (D.C. voltage) เช่น ใชใ้ นการวดั แรงดนั ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ วทิ ยุ เป็นตน้ 3. กระแสไฟตรง (D.C. current) เช่น ใชใ้ นการวดั กระแสในวงอิเล็กทรอนิกส์ 4. ค่าความตา้ นทาน (resistance) สาหรับกระแสไฟสลบั น้นั เราจะใชอ้ ุปกรณ์อีกตวั หน่ึงคือ คลิปแอมมิเตอร์ (clip หรือ clamp on ammeter) เป็นตวั วดั ซ่ึงจะไดก้ ล่าวต่อไป การใช้มัลตมิ ิเตอร์วดั แรงดนั ไฟฟ้าสลบั ในขณะที่เราบิดสเกลของมลั ติมิเตอร์มาอยใู่ น สเกลน้ีมนั จะทาหนา้ ท่ีเสมือนโวลทม์ ิเตอร์ซ่ึงจะตอ้ งทาการต่อวดั ขนาดในวงจรเสมอ การบิดสเกล วดั ตอ้ งบิดไวท้ ี่ค่าแรงดนั สูงก่อนเสมอ เมื่อแน่ใจวา่ ค่าแรงดนั ที่วดั อยมู่ ีคา่ นอ้ ยจึงค่อยบิดสเกลลดลง จนอ่านผลไดช้ ดั เจน (เขม็ จะตีประมาณ 2/3 ของสเกล) ขณะบิดเปลี่ยนสเกลจะตอ้ งเอาสายวดั ออก ก่อนเสมอ ตวั อยา่ งการวดั แรงดนั ไฟสลบั มลั ติมิเตอร์ตวั หน่ึงเขียนสเปคบอกไวว้ า่ สามารถวดั แรงดนั ไฟสลบั ในช่วง 10 V, 50 V, 250 V, 500 V และ 1000 V โดยการเลือกบิดสเกลเป็น 5 ตาแหน่งดว้ ยกนั และบอกอีกวา่ มีความตา้ นทานภายใน 9 k/V ความผดิ พลาด  3% ของ ค่าสูงสุด เรานามาวดั แรงดนั ไฟ 220 V ที่เขา้ อาคาร จะตอ้ งบิดสเกลไปท่ี 250 V ซ่ึงจะทาใหก้ าร อา่ นแมน่ ยาท่ีสุด แตถ่ า้ เผลอไปบิดสเกลที่ 5 V หรือ 10 V มิเตอร์กจ็ ากเรากลบั ไปสู่บา้ นเก่าทนั ที สมมติวา่ อ่านแรงดนั จากหนา้ ปัดได้ 225 V เราจะสรุปไดท้ นั ทีวา่ คา่ ที่ไดม้ ีคา่ ที่ผดิ พลาด อยรู่ ะหวา่ ง  3% (ของ 250 V) เท่ากบั  7.5 V ซ่ึงแสดงวา่ แรงดนั จริง ๆ อาจจะเป็น 217.5 V

ถึง 232.5 V ได้ ถา้ ผลอนั น้ีเป็นท่ีน่าพอใจสาหรับช่างไฟฟ้าผทู้ าการวดั ช่างก็จะใชม้ ิเตอร์ตวั เก่าน้ี ต่อไป แตถ่ า้ ไม่พอใจกจ็ ะตอ้ งเลือกชนิดท่ีมีความผดิ พลาดนอ้ ยกวา่ น้ีเช่น  1% ค่าความตา้ นทานภายในบอกวา่ 9 k/V น้นั เราวดั ในช่วงสเกล 250 V ฉะน้นั ขณะน้ี มิเตอร์มีความตา้ นทาน 9 k x 250 = 2250 k = 2.25 M ซ่ึงมากพอท่ีจะไม่โหลดวงจรที่กาลงั วดั อยเู่ ปล่ียนแปลงอยา่ งแน่นอน ลกั ษณะการวดั แรงดนั ไฟสลบั ในวงจรแสดงดงั ภาพประกอบท่ี 17 ภาพประกอบท่ี 17 ลกั ษณะการนาเอา VOM มาวดั แรงดนั ไฟสลบั การวดั แรงดนั ไฟตรง การวดั ในช่วงน้ีเหมือนกบั การวดั แรงดนั ไฟสลบั คือต่อขนานกบั วงจรที่ตอ้ งการวดั ค่า แต่ตอ้ งระวงั เร่ืองข้วั บวกลบของมิเตอร์ให้ดีเพราะแรงดนั ไฟตรงมีข้วั บวกและ ลบ ถา้ ต่อกลบั ข้วั เขม็ มิเตอร์จะตีกลบั เสียหายได้ ช่วงสเกลท่ีวดั ท่ีมกั พบเสมอจะอยใู่ นช่วง 0.5 , 2.5 , 10 , 50 , 250 , 1000 V ซ่ึงเป็นปกติ ในภาพประกอบท่ี 18 เป็นลกั ษณะการวดั แรงดนั ไฟฟ้า ดว้ ย VOM เสกลน้ีส่วนใหญใ่ ชว้ ดั แรงดนั ในวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ภาพประกอบที่ 18 ลกั ษณะการนา VOM มาวดั แรงดนั ไฟตรง

สายวดั บวกจะตอ้ งจะตอ้ งอยดู่ า้ นท่ีมีแรงดนั สูงกวา่ (เป็นบวกมากกวา่ เสมอ) จาก ภาพประกอบที่ 18 เป็นการวดั แรงดนั ที่คอลเลกเตอร์ของทรานซิสเตอร์เทียบกบั สายลบ สายศูนย์ หรือกราวด์ ตวั อยา่ งการสดั กระแสไฟตรง การวดั ดว้ ยสเกลน้ีตอ้ งเอา VOM ไปอนุกรมในวงจรที่ ตอ้ งการจะวดั โดยตอ้ งแทรกตวั เขา้ ไปในสายท่ีมีกระแสไหลน้นั ทิศทางของสายวดั บวกอยู่ ทางดา้ นท่ีกระแสเขา้ และทิศทางของสายวดั ลบอยทู่ างดา้ นกระแสไหลออก การต่อของ VOM เขา้ มาน้นั จะเป็นเหมือนกบั ต่อความตา้ นทานค่าต่า ๆ มาก ๆ อนุกรมข้ึนมา ซ่ึงจะไม่ทาใหก้ ระแสใน วงจรลดถอยงกวา่ เดิมแตอ่ ยา่ งใด โดยทว่ั ไปผผู้ ลิตจะบอกแรงดนั ท่ีตกคร่อมไว้ เช่น 500 mV ก็ แสดงวา่ การต่อ VOM เขา้ มาอาจมีแรงดนั ส่วนหน่ึงตกในตวั VOM สูงถึง 500 mV ภาพประกอบที่ 19 ลกั ษณะการนา VOM มาวดั คา่ กระแสไฟตรงในวงจร การวดั ค่าความต้านทาน ช่วงวดั น้ีเป็ นช่วงท่ีใชก้ นั ค่อนขา้ งบอ่ ยในการวดั ความต่อเนื่อง ของวงจร (continuity) วา่ มีการขาดวงจร ณ ตาแหน่งใดบา้ ง และใชว้ ดั ค่าความตา้ นทานของ อุปกรณ์ต่าง ๆ เพ่อื วนิ ิจฉยั วา่ อุปกรณ์เหล่าน้นั เสียหายหรือไม่ โดยทวั่ ไปเรานามาวดั คา่ ดงั น้ี - วดั ค่าขดลวดหมอ้ แปลงขาดหรือลดั วงจรกนั หรือไม่ - วดั ค่าความตา้ นทานของตวั ตา้ นทานตา่ ง ๆ คงค่าเดิมอยหู่ รือไม่ - วดั ค่าทรานซิสเตอร์ท้งั ชนิด NPN หรือ PNP เสียหรือไม่ - วดั ความตา้ นทานต่อเนื่องของสายตา่ ง ๆ ในวงจรวา่ แน่นหนนาดีหรือไม่ ในภาพประกอบท่ี 20 จะแสดงการวดั ค่าความตา้ นทานเมื่อบิดสเกลไปที่สเกล x 10 (วดั โอห์ม) ค่าที่อ่านไดบ้ นหนา้ ปัดคูณดว้ ย 10 ก็จะเป็นคา่ ความตา้ นทานเป็ นโอห์มตาม ตอ้ งการ ใหส้ ังเกตวา่ การวดั ความตา้ นทานน้ีในตวั VOM เองจะจ่ายกระแสวงิ่ ออกมาทางข้วั ลบ ของมนั เอง (สาหรับมิเตอร์บางชนิด เช่น Sanwa, Hioki) ผา่ นตวั ตา้ นทานท่ีตอ้ งการวดั กลบั เขา้ ข้วั บวกเป็นอนั ครบวงจร ฉะน้นั ถา้ เราจะวดั ความตา้ นทานทางไบแอสตรงของไดโอด ก็ตอ่ ทิศทาง

ดงั ภาพประกอบท่ี 20 ก่อนทาการวดั ที่สเกลน้นั ๆ ตอ้ งปรับป่ ุมเป็นศูนย์ (zero adjust) ใหเ้ ขม็ มิเตอร์ช้ีที่ศูนยก์ ่อนโดยการแตะข้วั วดั ท้งั สองลดั ถึงกนั ขณะปรับ ภาพประกอบที่ 20 ลกั ษณะการวดั ค่าความตา้ นทานดว้ ยสเกลวดั โอห์ม ข้อควรระวงั ในการใช้ VOM 1. อยา่ ปล่อยใหม้ ิเตอร์ถูกกระทบกระเทือนเด็ดขาด เช่น ตกจากโตะ๊ ทางาน หล่นจาก มือ เป็นตน้ 2. อยา่ นามิเตอร์เขา้ ใกลค้ วามร้อนสูง เพราะตวั ถงั หรือสายวดั อาจละลายได้ 3. อยา่ ใหม้ ิเตอร์ถูกความช้ืน เพราะจะทาใหช้ ิ้นส่วนที่เป็ นโลหะมีอายสุ ้ันลงได้ 4. อยา่ วดั กระแสหรือแรงดนั ที่มีค่ามากกวา่ สเกลท่ีต้งั ไวเ้ ด็ดขาด 5. หา้ มวดั ทิศของแรงดนั หรือกระแสกลบั ทาง เขม็ อาจจะเสียหายได้ 6. หา้ มนามิเตอร์ที่บิดอยใู่ นสเกลวดั ความตา้ นทานหรือวดั กระแสมาวดั แรงดนั เดด็ ขาด เพราะจะเกิดการเสียหายอยา่ งรุนแรง (ฤทธ์ิ ธีระโกเมน และพวก. 2534 : 193-196)

ใบงานที่ 1 เร่ือง เครื่องมือสาหรับการเดนิ สายไฟฟ้าภายในอาคารด้วยเขม็ ขดั รัดสาย จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเคร่ืองมือสาหรับการเดินสายไฟฟ้าภายในอาคารดว้ ยเขม็ ขดั รัดสายได้ 2. บอกเครื่องมือวดั ไฟฟ้าได้ 3. ใชเ้ คร่ืองมือไดถ้ ูกตอ้ งกบั ลกั ษณะของงาน คาชี้แจง 1. ใหน้ กั เรียนดูเครื่องมือชนิดต่าง ๆ ตามท่ีครูนามาแจกใหด้ ู และศึกษาตามเน้ือหาใน ใบความรู้ท่ี 1 2. ใหน้ กั เรียนทากิจกรรมตามลาดบั 3. ใหน้ กั เรียนจดั ส่งงาน 4. จดั เกบ็ เคร่ืองมือส่งครู 5. ทาความสะอาดพ้นื ที่บริเวณ กจิ กรรม 1. จงบอกช่ือเคร่ืองมือและเครื่องมือวดั ไฟฟ้าชนิดตา่ ง ๆ ตามรูปภาพท่ีกาหนด 2. จงอธิบายหนา้ ที่ ความสาคญั ของเคร่ืองมือดงั ตอ่ ไปน้ี 3. ปฏิบตั ิงานมีความรับผดิ ชอบ ตรงต่อเวลา ซ่ือสตั ย์ ขยนั และมีความสามคั คี ช่ือ / หน้าท่ี ความสาคัญ รูปร่าง ลกั ษณะ ……………………….. 1. ช่ือ หนา้ ที่ . . . . .

ช่ือ / หน้าที่ ความสาคญั รูปร่าง ลกั ษณะ 2. ช่ือ . หนา้ ที่ . . 3. ช่ือ . หนา้ ท่ี . 4. ช่ือ . หนา้ ท่ี . . 5. ช่ือ หนา้ ท่ี . . 6. ชื่อ . หนา้ ที่ . . . . . . . . . .

ช่ือ / หน้าท่ี ความสาคัญ รูปร่าง ลกั ษณะ 7. ช่ือ . หนา้ ที่ . . 8. ช่ือ . หนา้ ท่ี . 9. ชื่อ . หนา้ ท่ี . 10. ช่ือ . หนา้ ที่ . 11. ช่ือ . หนา้ ที่ . . . . . . . . . . .

ช่ือ / หน้าท่ี ความสาคญั รูปร่าง ลกั ษณะ 12. ช่ือ . หนา้ ที่ . . 13. ช่ือ . หนา้ ที่ . 14. ชื่อ . หนา้ ที่ . . 15. ช่ือ หนา้ ที่ . . . . . . . . 16. ช่ือ . หนา้ ท่ี . . .

ช่ือ / หน้าท่ี ความสาคญั รูปร่าง ลกั ษณะ 17. ช่ือ . หนา้ ท่ี . . 18. ช่ือ . หนา้ ท่ี . . . . . . . . .


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook