แนวทาง การดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของ ผ้สู ูงอายุเพ่อื ป้องกันปญั หาสุขภาพจติ (ฉบับปรบั ปรงุ ครั้งท่ี 1)
ช่อื หนงั สือ แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผู้สงู อายุ เพ่ือป้องกันปญั หาสขุ ภาพจติ (ฉบบั ปรบั ปรุงครั้งที่ 1) บรรณาธิการ นายแพทยส์ ุจรติ สุวรรณชีพ นางนนั ทนา รัตนากร นางสาวกาญจนา วณชิ รมณยี ์ นางสาวพรรณ ี ภาณวุ ฒั นส์ ุข นางสาวนนั ทน์ ภสั ประสานทอง พมิ พ์ครัง้ ท่ี 1 กรกฎาคม 2556 จ�ำ นวน 6,000 เล่ม พิมพ์ครั้งท่ี 2 ธนั วาคม 2556 จำ�นวน 5,000 เลม่ พมิ พ์ครั้งที่ 3 กรกฎาคม 2557 จ�ำ นวน 2,000 เลม่ พมิ พ์ครั้งท่ี 4 พฤศจกิ ายน 2558 จ�ำ นวน 1,200 เล่ม จดั พมิ พ์และเผยแพร่โดย ส�ำ นักส่งเสรมิ และพฒั นาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสขุ ถนนตวิ านนท์ อำ�เภอเมือง จงั หวดั นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 0 2590 8069 โทรสาร 0 2590 8078 พิมพท์ ่ี ชุมนมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ�ำ กดั ISBN 978-974-296-812-0
สารบัญ บทนำ� ความสำ�คญั ของการดูแลทางสงั คมจติ ใจ หนา้ 1 บทท่ี 1 สุขภาพจติ ของผ้สู งู อาย ุ 7 เทคนิคในการ Approach ผูส้ ูงอายุ 11 ปญั หาสขุ ภาพจิตทพ่ี บในผู้สูงอายุ 13 บทท่ี 2 การส่งเสรมิ สุขภาพจติ ผู้สงู อาย ุ 27 บทท่ี 3 การเฝา้ ระวงั ภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ งู อาย ุ 33 บทที่ 4 การดูแลด้านสงั คมจิตใจผูส้ ูงอายทุ ี่ปว่ ยด้วยโรคเรอื้ รงั 39 วิธกี ารใหค้ ำ�แนะน�ำ แบบส้นั 41 วธิ กี ารเสรมิ สร้างพลงั อำ�นาจ 43 วธิ ีการสรา้ งแรงจูงใจ 45 บทที่ 5 ความเศร้าโศกเสียใจของผ้สู งู อายุทเี่ กิดจากการสญู เสีย 47 และการตาย บทท่ี 6 การดูแลผูป้ ว่ ยสงู อายแุ บบประคับประคอง 53 แนวทางการใหก้ ารดแู ลแบบประคับประคองในสถานบริการ 54 การดูแลผู้ปว่ ยระยะสุดทา้ ยในชมุ ชน 57 บทท่ี 7 การเยีย่ มบา้ นและการดูแลผูป้ ว่ ยสูงอายุทบ่ี ้าน 59 การเยย่ี มบ้านเพอ่ื ดูแลความเจบ็ ปว่ ย 60 ระยะก่อนเย่ยี มบ้าน 60 ระยะเย่ยี มบา้ น 62 ขนั้ ตอนการใหบ้ ริการเมือ่ พบผ้ปู ว่ ยและญาติ 63 วธิ กี ารให้การชว่ ยเหลือดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจทส่ี �ำ คญั 65 แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สูงอายุเพือ่ ป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ก
ภาคผนวก 67 วิธกี ารดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจผู้สูงอายุ 68 การใหก้ ารปรึกษาท่ีใช้เปน็ หลกั ในการให้ความช่วยเหลือ 71 แบบคดั กรองโรคซึมเศรา้ 2 ค�ำ ถาม (2Q) 87 แบบประเมนิ โรคซึมเศรา้ 9 ค�ำ ถาม (9Q) 88 แบบประเมนิ การฆา่ ตวั ตาย 8 คำ�ถาม (8Q) 90 รายช่อื แหล่งส่งต่อหน่วยงานโรงพยาบาล 93 ในสังกดั กรมสขุ ภาพจติ 96 บรรณานกุ รม แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พื่อป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจติ ข
บทน�ำ ความสำ�คัญของการดูแลทางสงั คมจติ ใจ มีค�ำ กล่าวทางพุทธศาสนาถึงธรรมชาติ 4 ประการสำ�หรบั ผูส้ ูงอายุท่พี ึง กระท�ำ และควรท�ำ ใหเ้ กดิ ขนึ้ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสขุ ขน้ั โลกยี ส์ ขุ ไดแ้ ก่ สขุ กาย สขุ ใจ พลามยั สมบรู ณแ์ ละเพม่ิ พนู งานอดเิ รก (เชดิ เจรญิ รมั ย,์ 2552) เชน่ เดยี วกบั การ เปน็ ผทู้ ม่ี สี ขุ ภาพจติ ดตี อ้ งเปน็ ผทู้ ม่ี สี มรรถภาพทางจติ ใจในการลดความทกุ ขแ์ ละ สรา้ งสขุ ใหต้ นเองได้ (ส�ำ นกั พฒั นาสขุ ภาพจติ , 2555) จากการส�ำ รวจสถานการณ์ ผสู้ งู อายไุ ทยในปี พ.ศ. 2554 พบวา่ ผสู้ งู อายไุ ทยเปน็ กลมุ่ ทมี่ คี วามเปราะบางทาง จติ ใจอนั เนอ่ื งมาจาก การสญู เสยี สถานภาพทางสงั คม เศรษฐกจิ และตอ้ งพงึ่ พา ผู้อ่นื ในการด�ำ เนินชวี ติ ประจำ�วัน ถา้ ผ้สู ูงอายรุ ายนั้นๆปรบั ตวั ปรบั ใจไม่ทัน จะ นำ�ไปสู่ปัญหาภาวะสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ ท้ังนี้พบว่าผู้สูงอายุไทยจะมีปัญหา ทางดา้ นจติ ใจทีส่ ำ�คัญ 5 อนั ดบั แรก คอื เครยี ด วติ กกงั วล โรคจิต สมองเสือ่ ม ซมึ เศร้า และการตดิ สารเสพตดิ การให้การดูแลทางสังคมจิตใจด้วยการใช้ทักษะการส่ือสารเพื่อให้ ผ้สู งู อายุ รบั รู้ เข้าใจถงึ ปจั จยั ตา่ ง ๆ ทางด้านสงั คม จติ ใจ ที่มผี ลตอ่ ภาวการณ์ เจบ็ ปว่ ยทเ่ี กดิ ขนึ้ และสามารถหาแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาของตนเองไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม จะช่วยให้ผู้สูงอายุรับมือกับสภาวะอารมณ์ สังคม และสิ่งแวดล้อม ท่ีเปลี่ยนแปลงไปได้ นอกจากนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของสถานบริการ ในการรองรับปัญหาสขุ ภาพจิตผู้สูงอายทุ ่ีประเทศไทยตอ้ งเผชิญในทศวรรษนี้ แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พือ่ ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจติ 1
ความหมายของการดูแลทางด้านสังคมจิตใจ (สำ�นักพัฒนา สุขภาพจิต, 2556) การดแู ลทางจติ ใจ อารมณ์ สงั คม และจติ วญิ ญาณของผปู้ ว่ ย/ผรู้ บั บรกิ าร ครอบครัวและผู้ดูแล โดยคำ�นึงถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้ป่วย/ผู้รับบริการ เพื่อให้เกิดความเข้าใจในปัญหาหรือภาวะโรคและมีแนวทางการปรับตัวต่อ ปญั หาหรอื ความเจบ็ ปว่ ย รวมทงั้ ใหก้ ารสง่ เสรมิ และปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ แก่ บคุ คลทว่ั ไป โดยใชก้ ารสอื่ สาร การสนบั สนนุ ทางสงั คมและการสรา้ งสมั พนั ธภาพ เป็นกลไกสำ�คัญในการดำ�เนินการ วัตถุประสงค์ของคู่มอื เพื่อให้บุคลากรในระดับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล (รพสต.) โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลศูนย์ มีความรู้พื้นฐาน และทักษะด้านสุขภาพจิตอย่างเพียงพอ เพื่อให้การดูแลเบื้องต้น การส่งเสริม ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต การส่งต่อ และการติดตามดูแลผู้สูงอายุที่อยู่ในเขต รบั ผิดชอบได้ ผลลัพธท์ ตี่ อ้ งการ 1) บุคลากรสาธารณสุขในระดับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำ�บล (รพสต.) โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลท่ัวไปและโรงพยาบาลศูนย์ สามารถ ใช้ทักษะการส่ือสาร การสนับสนุนทางสังคมและการสร้างสัมพันธภาพเพื่อ ใหก้ ารดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจ 2) มีการจัดกิจกรรมเพ่ือป้องกันปัญหาสุขภาพจิตให้กับผู้สูงอายุใน โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพต�ำ บล (รพสต.) โรงพยาบาลชมุ ชน โรงพยาบาลทว่ั ไป และโรงพยาบาลศูนย์ แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผ้สู ูงอายุเพือ่ ปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ 2
3) มกี ารใหบ้ รกิ ารดา้ นการดแู ลทางสงั คมจติ ใจ เพอ่ื สง่ เสรมิ และปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ ผสู้ งู อายใุ นสถานบริการสุขภาพทุกระดับ กลมุ่ เป้าหมาย 1. ผู้สูงอายุ หมายถึง ผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป ซ่ึงจะพิจารณาตาม สมรรถภาพทางดา้ นรา่ งกายตามนยิ ามของกรมอนามยั คอื (วรรณภา อรณุ แสง และลดั ดา ด�ำ รกิ ารเลิศ, 2553) 1.1 ผู้สงู อายกุ ลมุ่ ตดิ สงั คม หมายถึง กลุ่มผูส้ งู อายทุ ี่ยังสามารถชว่ ย เหลอื ตนเองไดด้ ี ด�ำ เนนิ ชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งอสิ ระ สามารถท�ำ กจิ วตั รประจ�ำ วนั พนื้ ฐานและกจิ วตั รประจ�ำ วนั ตอ่ เนอ่ื งได้ เปน็ ผทู้ มี่ สี ขุ ภาพทว่ั ไปดี ไมม่ โี รคเรอื้ รงั หรอื เป็นเพยี งผู้ทีม่ ีภาวะเสี่ยงตอ่ การเกดิ โรค หรือเป็นผทู้ มี่ ีโรคเร้อื รงั 1 - 2 โรค ที่ยงั ควบคุมโรคได้ 1.2 ผสู้ ูงอายกุ ลุ่มตดิ บา้ น หมายถึง กลุ่มผูส้ ูงอายทุ ช่ี ว่ ยเหลือตวั เอง ได้บ้างหรอื ต้องการความชว่ ยเหลอื จากผอู้ ื่นเพยี งบางสว่ น มคี วามจ�ำ กดั ในการ ด�ำ เนินชีวติ ในสังคม และเป็นกลมุ่ ผ้สู ูงอายุท่ีมโี รคเรื้อรงั ที่ควบคมุ ไม่ได้ มภี าวะ แทรกซ้อนทางด้านร่างกายหรือจิตใจ จนส่งผลต่อการรู้คิด การตัดสินใจ การ ปฏบิ ัตกิ จิ วัตรประจ�ำ วนั พ้ืนฐาน 1.3 ผู้สงู อายกุ ลุ่มติดเตียง หมายถงึ กลมุ่ ผสู้ งู อายุทีไ่ ม่สามารถช่วย เหลือตนเองในการทำ�กิจวัตรประจำ�วันได้ ต้องการความช่วยเหลือจากผู้อ่ืนใน เรื่องการเคลื่อนย้าย การปฏิบัติกิจวัตรประจำ�วันพ้ืนฐานอ่ืนๆ มีโรคประจำ�ตัว หลายโรคทั้งท่ีควบคุมได้และควบคุมไมไ่ ด้ มีการเจ็บป่วยเรอ้ื รงั มายาวนานและ มภี าวะแทรกซอ้ นจากโรคทเ่ี ป็นอยู่ 2. ผู้ดูแล หมายถึง บุคลท่ีทำ�หน้าที่คอยดูแลผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ผู้ท่ีเป็นญาติ และผู้ท่ีรับจ้างดูแล ผู้สูงอายุ (วารี ละกิติ, 2551) แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจิตใจของผ้สู ูงอายเุ พื่อปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ 3
การให้การดูแลทางด้านสังคมจิตใจผู้สูงอายุในการป้องกัน ปญั หาสุขภาพจติ สัดส่วนของผู้สูงอายุจำ�แนกเป็นกลุ่มติดสังคม ติดบ้าน และติดเตียง มีประมาณรอ้ ยละ 78 20 และ 2 (ส�ำ นกั งานสถติ แิ หง่ ชาต,ิ 2554) ในการดูแล ทางดา้ นสังคมจิตใจจ�ำ แนกได้ดังนี้ 1. กลุ่มติดสังคม ซึ่งเป็นกลุ่มท่ีช่วยตัวเองได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหาทาง ดา้ นจติ ใจ การดแู ลหลกั ตอ้ งผลกั ดนั ใหผ้ สู้ งู อายกุ ลมุ่ นเ้ี ขา้ รว่ มชมรมผสู้ งู อายุ หรอื ชมรมต่างๆที่ผู้สูงอายุสนใจ ทั้งน้ีภายในชมรมต้องมีการจัดกิจกรรมเพ่ือพัฒนา ทักษะทางกาย พัฒนาความคิด พัฒนาทักษะท่ีจำ�เป็นในการอยู่ร่วมกับผู้อ่ืน และกิจกรรมท่ีมุ่งเน้นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นอกจากนี้กิจกรรมในชุมชน ควรเป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้สูงอายุให้เกิดความภาคภูมิใจ โดยเฉพาะในกลุ่ม ตดิ สงั คมสามารถเปลี่ยนภาระใหเ้ ปน็ พลังของชมุ ชนได้ เช่น กิจกรรมการช่วยเหลือเด็กเล็ก ด้วยการพัฒนาเด็กเล็ก อาทิ ทำ�อย่างไรให้เด็กเล็กในชุมชนได้ความสนุก (ด้วยการใช้การละเล่นในอดีตเล่น กับเด็กหรือสอนครูพ่ีเล้ยี ง) ไดค้ วามฉลาด (ด้วยการฝึกวธิ ีการต้งั ค�ำ ถามแล้วให้ เด็กเลก็ ตอบ/ฝึกให้เด็กไดใ้ ชจ้ ินตนาการ/เล่านิทานให้เด็กฟงั เปน็ ต้น) ได้ความ ภาคภมู ใิ จ (จากการท่เี ด็กมีคนยกย่องชมเชยและมเี พ่ือนทส่ี งู วยั ) กจิ กรรมชว่ ยเหลอื วยั รนุ่ ดว้ ยวธิ งี า่ ยๆ โดยใหผ้ สู้ งู อายผุ กู สมั พนั ธก์ บั วยั รนุ่ พดู คยุ ไตถ่ าม และเปดิ โอกาสให้วัยร่นุ ได้แสดงออกโดยผสู้ ูงอายเุ ปน็ สือ่ กลางกบั คนต่างวัย กิจกรรมการเพ่ิมขีดความสามารถของผู้สูงอายุเพื่อช่วยเหลือชุมชน เชน่ การฝกึ ทกั ษะการฟงั ใหผ้ สู้ งู อายเุ พอื่ ใหเ้ ปน็ ทปี่ รกึ ษากบั คนตา่ งวยั ฝกึ ทกั ษะ การถ่ายทอดเพื่อให้สามารถถ่ายทอดเร่ืองราวต่างๆในชุมชนได้อย่างน่าสนใจ เป็นตน้ แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผูส้ ูงอายเุ พอื่ ป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจิต 4
2. กลมุ่ ตดิ บา้ น เปน็ กลมุ่ ทอ่ี าจมปี ญั หาสขุ ภาพจติ ได้ ถา้ มปี ญั หาทางดา้ น จติ ใจ ตอ้ งใหค้ �ำ ปรกึ ษาแนะน�ำ ในเรอื่ งนนั้ ๆ กอ่ น จากนนั้ คอ่ ยถามสารทกุ ขส์ ขุ ดบิ การเย่ียมบ้านจึงต้องมีข้อมูลของผู้สูงอายุรายนั้นๆ และต้องเตรียมคำ�ถามท่ี สามารถสรา้ งความมคี ณุ คา่ และกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความภาคภมู ใิ จในผสู้ งู อายกุ ลมุ่ น้ี เมื่อไปเย่ียมบ้านในกลุ่มน้ีบุคลากรสาธารณสุขต้องเป็นฝ่ายฟังเพื่อให้ผู้สูงอายุ ระบายปญั หาแลว้ จงึ ร่วมกนั วางแผนแกป้ ัญหา 3. กลุ่มติดเตียง เป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจิต การเยีย่ มบ้านผู้สูงอายกุ ลุม่ น้ี นอกจากตอ้ งรู้ขอ้ มูลของผสู้ งู อายแุ ล้วตอ้ งเตรียม เร่ืองท่ีจะพูดคุยกับผู้สูงอายุ เม่ือไปถึงบ้านผู้สูงอายุถ้าพอจะน่ังเอนหลังได้ก็ให้ จัดท่าน่ังให้กับผู้สูงอายุเพราะจะทำ�ให้การพูดคุยจะสื่อสารเป็นไปได้ดีขึ้น และ บุคลากรสาธารณสุขต้องกระตุ้นให้ผู้สูงอายุพูดคุยเล่าเร่ืองมากกว่าท่ีจะเป็น ฝ่ายพูดเสียเอง ควรมีข้อมูลเก่ียวกับสิ่งท่ีผู้สูงอายุเคยประสบความสำ�เร็จ ภาคภูมิใจในอดีต เพอ่ื เป็นประเดน็ การตั้งคำ�ถามและใหผ้ ู้สงู อายุเล่าเรอ่ื งใหฟ้ ัง แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผูส้ งู อายเุ พื่อปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ 5
แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผูส้ งู อายเุ พ่อื ปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจติ 6
บทที่ 1 สขุ ภาพจติ ผสู้ งู อายุ ธรรมชาติผสู้ งู อายุ ผสู้ งู อายจุ ะมกี ารปรบั และพฒั นาองคป์ ระกอบจติ ใจระดบั ตา่ งๆกนั ไป โดยทั่วไปจะมีการปรับระดับจิตใจในทางท่ีดีงามมากข้ึน สามารถควบคุมจิตใจ ได้ดีกว่าจึงพบว่าเมื่อคนมีอายุมากข้ึนจะมีความสุขุมมากขึ้นด้วย ผู้สูงอายุมี ลักษณะของโครงสร้างทางจิตใจเฉพาะเป็นของตนเอง ซ่ึงจะเป็นรากฐานของ การแสดงออกของคน แต่ลักษณะการแสดงออกขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆร่วมด้วย ไดแ้ ก่ บคุ ลกิ ภาพเดมิ การศกึ ษา ประสบการณ์ สภาพสงั คมในวยั เดก็ อยา่ งไรกด็ ี มกั พบบ่อยๆวา่ ผสู้ งู อายุจะมปี ญั หาทางดา้ นสงั คมและจติ ใจซ่ึงเปน็ การปรบั ตัว เชิงลบ และการเปล่ียนแปลงท่ีเห็นได้ชัดเจน แบ่งได้ 3 ด้าน ได้แก่ การ เปล่ียนแปลงทางด้านร่างกาย ทางด้านสังคม และทางดา้ นจติ ใจ ในทนี่ จี้ ะกลา่ ว เฉพาะ การเปล่ียนแปลงทางด้านสังคมและจิตใจที่ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต ดงั น้ี 1. ทางด้านสงั คม พบวา่ เมือ่ ก้าวสูว่ ยั สงู อายตุ อ้ งเผชญิ กบั ความสญู เสีย ดงั นี้ (สจุ รติ สุวรรณชีพ, 2555) การสูญเสียสถานภาพและบทบาททางสังคมท่ีเคยมีบทบาท ตำ�แหน่ง และมีคนเคารพนับถือในสังคมเปลี่ยนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของสังคม การมบี ทบาทลดลงท�ำ ใหส้ ญู เสยี ความมน่ั คงในชวี ติ รสู้ กึ วา่ ตนเองหมดความส�ำ คญั ในสงั คม อยใู่ นสภาวะทไ่ี รค้ ณุ คา่ สญู เสยี ความภาคภมู ใิ จในตนเอง ท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายุ มีภาพลักษณท์ ีไ่ ม่ดีต่อตนเอง (Poor Self-Image) และรู้สกึ วา่ ตนเองก�ำ ลังเรมิ่ เป็นภาระของครอบครวั แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผู้สูงอายุเพ่ือปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจติ 7
การสญู เสยี การสมาคมกบั เพือ่ นฝงู เม่ือเกษยี ณอายุ หรอื เมอื่ มี ปญั หาดา้ นสขุ ภาพจนทำ�ให้การเคล่ือนไหวไมส่ ะดวก การสญู เสยี สภาวะทางการเงนิ ทด่ี ี เนอ่ื งจากรายไดล้ ดลงขณะที่ ค่าครองชีพกลบั สูงข้ึนเรอ่ื ยๆ ท�ำ ใหผ้ ู้สงู อายุบางรายมีปญั หาในการด�ำ รงชวี ติ 2. ทางด้านอารมณแ์ ละจติ ใจ (สมภพ เรอื งตระกูล, 2547) ดา้ นบคุ ลกิ ภาพ โดยปกตผิ สู้ งู อายจุ ะมบี คุ ลกิ ภาพไมต่ า่ งจากเดมิ บางรายถา้ มกี ารเปลยี่ นแปลงดา้ นบคุ ลกิ ภาพอาจเปน็ ผลมาจากการเปลย่ี นแปลง ของอตั มโนทัศน์ การยอมรับของสังคม สถานการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ รอบๆตัวผสู้ งู อายุ และการรบั รตู้ ่อสิ่งที่เกดิ ขึ้น ด้านการเรียนรู้ พบว่าการเรียนรู้จะลดลงมากโดยเฉพาะหลัง อายุ 70 ปี แมก้ ารเรยี นรจู้ ะลดลงแตก่ ย็ งั สามารถเรยี นรสู้ ง่ิ ใหมๆ่ ได้ ถา้ การเรยี นรู้ นั้นสมั พันธก์ บั ประสบการณเ์ ดิมท่ีผ่านมา ระยะเวลาที่ใช้ในการเรยี นรู้ขน้ึ อยู่กบั ความต้ังใจจริงของผู้สูงอายุ โดยสิ่งที่ผู้สูงอายุเรียนรู้ได้ดีและเร็วคือการเรียนรู้ เฉพาะอย่างโดยไม่ไปเร่งรดั ดา้ นความจ�ำ มกั พบวา่ ผสู้ งู อายจุ ะจ�ำ เรอื่ งราวในอดตี ไดด้ ี แตจ่ ะ มคี วามจ�ำ เกย่ี วกบั สงิ่ ใหมๆ่ ลดลง การกระตนุ้ ความจ�ำ จงึ ตอ้ งอาศยั การปฏบิ ตั เิ ปน็ ลำ�ดับขน้ั ตอน หรือการจดบนั ทึกชว่ ยจำ� ดา้ นสตปิ ญั ญา โดยปกตคิ วามสามารถทางสมองจะเรม่ิ ลดลงเมอื่ อายุ 30 ปเี ปน็ ตน้ ไป ในผสู้ งู อายจุ ะเกย่ี วขอ้ งกบั ระดบั การศกึ ษา สภาวะสขุ ภาพ ประสบการณ์การเรียนรู้และการแก้ปัญหาในอดีต โดยท่ัวไปการเสื่อมทาง สตปิ ญั ญาจะคอ่ ยเปน็ ค่อยไปไม่เทา่ กนั ทกุ คน คุณลักษณะการเส่อื มทางปัญญา ท่พี บในผู้สูงอายไุ ด้แก่ - ความสามารถในการใชเ้ หตผุ ล - ความสามารถในการค�ำ นวณบวกลบตัวเลข - ความสามารถในการคิดเรือ่ งนามธรรม แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจติ ใจของผสู้ งู อายุเพ่อื ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจิต 8
- ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ แต่จะดีขึ้นถ้ามีการใช้ ประสบการณเ์ ดมิ ทีผ่ า่ นมาเขา้ ชว่ ย อยา่ งไรกต็ ามกย็ ังใช้เวลาในการคดิ นานกว่า วัยหนมุ่ สาว - ความสามารถในการคิดตัดสินใจ พบว่าจะช้าลงบางคร้ัง ต้องให้บคุ คลอน่ื ชว่ ยในการตดั สินใจ ดา้ นการรบั รขู้ อ้ มลู และการน�ำ ความรสู้ กู่ ารปฏบิ ตั ิ โดยปกตเิ นอื่ ง มาจากการเสอื่ มของร่างกาย เชน่ สมองท�ำ งานลดลง ความจำ�ส้นั ลง ดา้ นเจตคติ ความสนใจและคณุ คา่ ซง่ึ จะแตกตา่ งกนั ไปในแตล่ ะ บุคคล ซ่งึ มอี ิทธพิ ลมาจาก เพศ สังคม อาชีพ เช้ือชาตแิ ละวฒั นธรรม ดงั น้ันการ สอนเพ่ือให้ผ้สู งู อายุรบั รูเ้ ร่ืองราวใหม่ๆ จะชว่ ยใหผ้ ู้สงู อายปุ รับเปลี่ยนเจตคตไิ ด้ ด้านการรับรู้เก่ียวกับตนเองและความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง โดยส่วนใหญม่ ักรับรูว้ ่าตนเองอยูใ่ นวัยพงึ่ พงิ เพราะความเส่อื ม ท�ำ ใหค้ วามรูส้ ึก มีคุณคา่ ในตัวเองลดลง การสงั เกตปญั หาสขุ ภาพจติ ในผสู้ งู อายุ (ส�ำ นกั พฒั นาสขุ ภาพจติ , 2555) 1. สังเกตอาการง่ายๆ จากการดำ�เนินชีวิตประจำ�วันได้แก่ การกิน ผดิ ปกติ อาจจะกนิ มากขนึ้ กวา่ เดมิ ยง่ิ ไมส่ บายใจกย็ ง่ิ กนิ มาก หรอื บางคนกต็ รงขา้ ม คือกินน้อยลง เบ่ืออาหาร ซูบผอมลงท้ังๆ ท่ีไม่มีปัญหาทางร่างกาย บางคนมี อาการท้องอืด ทอ้ งเฟอ้ 2. การนอน อาจจะมกี ารนอนหลบั มากกวา่ ปกติ เชน่ มอี าการงว่ ง เหงา ซึม เซ่อื ง อยากนอนตลอดเวลา หรือบางคนก็ตรงข้ามคือ นอนไม่หลับ ตกใจตื่น ตอนดกึ แลว้ ไมส่ ามารถหลบั ตอ่ ไดอ้ กี บางคนอาจมอี าการฝนั รา้ ยตดิ ตอ่ กนั บอ่ ยๆ แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผู้สูงอายุเพอื่ ปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจิต 9
3. อารมณผ์ ดิ ปกติ หงดุ หงดิ บอ่ ยขนึ้ เศรา้ ซมึ เครง่ เครยี ด ฉนุ เฉยี ว วติ ก กงั วลมากขนึ้ กวา่ เดมิ จนสงั เกตเหน็ ไดแ้ ละสรา้ งความล�ำ บากใจใหก้ บั คนรอบขา้ ง 4. พฤติกรรมการแสดงออกที่เปลีย่ นไปจากเดิม เชน่ เคยเปน็ คนร่าเรงิ แจม่ ใส ช่างพดู ช่างคยุ กก็ ลับซมึ เศรา้ เงยี บขรมึ ไม่พูดไมจ่ า บางคนก็หันไปพง่ึ ยาเสพติด เหล้า บุหร่ี เป็นต้น บางคนอาจเคยพูดน้อยก็กลายเป็นคนพูดมาก หรอื แสดงความสนใจในเรื่องเพศอยา่ งผิดปกติ เปน็ ตน้ 5. มีอาการเจบ็ ป่วยทางกาย ซ่งึ หาสาเหตไุ ม่พบ เช่น ปวดเม่อื ยตามตัว ปวดศรษี ะ ปวดกระดกู วิงเวยี นศีรษะ ปวดท้อง เปน็ ตน้ เสียงสะท้อนจากผู้สงู อายุ (จากการสมั ภาษณ์ผปู้ ว่ ยสูงอายุ ท่ีมาใช้บริการท่คี ลนิ ิกโรคเร้อื รัง โรงพยาบาลชุมชน กระทรวงสาธารณสุข) ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มาโรงพยาบาลแม้จะมาตรวจตามนัดหลายคร้ัง คนุ้ ชนิ กบั สถานที่ แตล่ กึ ๆแลว้ บางรายกม็ อี าการตนื่ เตน้ บางรายกห็ วาดกลวั กบั หัตถการทางการแพทย์ ส่ิงที่ผู้สูงอายุแสดงออกมีหลากหลายบางรายความดัน โลหติ สงู ขน้ึ บางรายเดนิ ไปเดนิ มา บางรายจะลกุ ขน้ึ มาถามโนน่ ถามน่ี บคุ ลากร สาธารณสขุ จ�ำ เปน็ ตอ้ งจบั ความรสู้ กึ เหลา่ นใี้ หไ้ ด้ เรามกั พบเสมอวา่ เจา้ หนา้ ทมี่ กั ละเลย เฉยๆ หรือไม่สนองตอบต่อส่ิงท่ีผู้สูงอายุกังวล หรือบางรายหลีกเลี่ยง การตอบคำ�ถาม หรือบางรายแสดงสหี นา้ ร�ำ คาญ หรอื บางรายใช้นํ้าเสยี งท่เี น้น เสยี งไมน่ า่ ฟงั หรอื บางรายดวุ า่ ผสู้ งู อายุ จนท�ำ ใหเ้ กดิ ความคบั ขอ้ งใจตอ่ ผสู้ งู อายุ ในที่สุดก็ทำ�ใหเ้ กดิ ปัญหาดา้ นบรกิ ารกบั ผ้สู ูงอายุตามมา ส่ิงเหล่าน้ีสะท้อนให้เห็นภาพการให้การดูแลผู้สูงอายุแต่เพียง รา่ งกายแตไ่ มไ่ ดค้ �ำ นงึ ถงึ จติ ใจ แคเ่ พยี งปรบั เปลย่ี นทศั นคติ ใสใ่ จ และแสดงออก ด้วยพฤติกรรมง่ายๆ ซ่ึงแสดงถึงความสนใจ ความใส่ใจต่อผู้ที่อยู่ตรงหน้าเรา ด้วยคำ�พูดง่ายๆ ว่า “วันน้ีดูคุณป้าวิตกกังวลมากเลย มีอะไรจะให้ดิฉัน/ผม แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผ้สู ูงอายเุ พอื่ ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ 10
ช่วยเหลือไมค๊ ะ/ครับ” หรือการพดู ปลอบใจ “ดคู ณุ ปา้ /คุณลงุ สีหน้าไมค่ อ่ ยดี เท่าไหร่ นั่งลงก่อนนะคะ มีอะไรต้องการให้ช่วยเหลือไม๊คะ” หรือการให้คำ� แนะนำ�ง่ายๆ ด้วยค�ำ พดู ท่ีอ่อนโยน “ดูเหมือนความดันโลหิตคุณปา้ สงู กว่าปกติ มอี ะไรในใจหรอื เปลา่ คะ กลวั อะไรหรอื เปลา่ หรอื ยงั เหนอ่ื ยอยคู่ ะ นงั่ ลงพกั ผอ่ น กอ่ นนะคะ ซกั 15 นาที แล้วเดีย๋ วค่อยวัดใหม่ ระหว่างน้ีก็ท�ำ ใจใหส้ บายๆนะคะ อยา่ เครยี ด บางทคี วามเครยี ดผสมกบั ความกลวั และการเดนิ ทางเหนอ่ื ยๆกท็ �ำ ให้ ความดันโลหติ สงู ได้ค่ะ” แค่คำ�พูดง่ายๆไม่ก่ีประโยค ไม่ต้องลงทุน แต่คำ�พูดเหล่านี้แสดงให้เห็น ถึงความเอ้ืออาทร การใส่ใจ ความห่วงใย จากบุคลากรสาธารณสุข นอกจาก จะท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายไุ วว้ างใจแลว้ สงิ่ เหลา่ นสี้ ามารถชว่ ยลดปญั หาดา้ นสมั พนั ธภาพ ระหว่างบุคลากรและผ้ปู ว่ ยสูงอายุ รวมท้งั ปญั หาด้านบรกิ ารทอ่ี าจเกดิ ขึน้ ได้ เทคนิคในการ Approach ผสู้ งู อายุ 1. บคุ ลากรสาธารณสขุ ควรเรมิ่ ตน้ ดว้ ยการใหค้ วามเคารพและออ่ นนอ้ ม ต่อผู้สูงอายุไว้ก่อนโดยยึดหลักธรรมเนียมไทยคือการยกมือไหว้ผู้สูงอายุ การ ที่บุคลากรสาธารณสุขยกมือไหว้ผู้สูงอายุจะทำ�ให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าได้รับการให้ เกียรติ ได้รบั การยกย่องจากผอู้ ืน่ เกิดความรูส้ ึกอบอนุ่ และภาคภูมใิ จ การไหว้เป็นสิ่งที่ทำ�ได้ง่ายมากไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ใดๆ แต่กลับ มีพลังมหาศาลที่จะทำ�ให้บุคลากรสาธารณสุขเป็นคนอ่อนน้อม ถ่อมตน มสี ัมมาคารวะ จะชว่ ยให้เกิดความเอ้ืออาทรและความรสู้ ึกดีๆระหวา่ งบุคลากร สาธารณสุขและผสู้ งู อายุ และเป็นทักษะการสร้างสัมพันธภาพท่ีดีทท่ี ำ�ไดง้ า่ ยๆ กอ่ นทจ่ี ะใช้ทกั ษะการสอ่ื สารอนื่ ๆ 2. พยายามจดจำ�ผู้สูงอายุให้ได้และรู้จักผู้สูงอายุให้ได้เป็นรายบุคคล เชน่ จำ�ชอ่ื เรียกได้ถกู ตอ้ ง แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผูส้ ูงอายุเพ่อื ปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ 11
3. เม่ือผู้สูงอายุเข้ามาพูดคุยคำ�พูดง่ายๆที่ส่ือสารกับผู้สูงอายุ “วันน้ี คุณลุงมาพบเจ้าหน้าที่ คุณลุงมีอะไรให้เจ้าหน้าท่ีช่วยเหลือคะ” (เปิดประเด็น ด้วยคำ�ถามปลายเปิด) เม่ือผู้สูงอายุพูดก็ต้องเป็นนักฟังที่ดี ให้ความสำ�คัญกับ ผู้สูงอายุท่ีอย่ตู รงหนา้ รบั ฟังความคิดเห็นของผ้สู ูงอายุด้วยความตง้ั ใจ ใหค้ วาม สนใจในเร่ืองราวที่กำ�ลังรับฟัง และรู้จักกระตุ้นให้ผู้สูงอายุเล่าเรื่องของตนเอง มากที่สุดพร้อมสังเกตและจับใจความส่ิงท่ีผู้สูงอายุเล่า คำ�พูดง่ายๆที่จะทำ�ให้ผู้ สูงอายุพูดคุยต่อเน่ืองคือการสะท้อนความรู้สึกของผู้สูงอายุด้วยคำ�ถามปลาย เปิดที่ผนวกสิ่งที่ผู้สูงอายุเล่า เช่น“ฟังจากท่ีคุณลุงเล่ามาดูเหมือนคุณลุงจะไม่ ค่อยมีความสุข/กังวลใจ/เครียด/กลัว หลังจากท่ีคุณลุงควบคุมระดับน้ําตาลไม่ ได้” (สะท้อนอารมณ์) และต้องแสดงออกถึงความเป็นกันเอง กรณีที่ผู้สูงอายุ พูดคุยความรู้สึกในแง่ลบ ก็เพือ่ ตอ้ งการระบายความร้สู ึก บคุ ลากรสาธารณสขุ ควรฟงั ดว้ ยความตง้ั ใจและสนใจ ไมท่ �ำ ทา่ เบอ่ื หนา่ ย ร�ำ คาญ หรอื เหน็ พฤตกิ รรม ของผสู้ งู อายเุ ปน็ เรอ่ื งนา่ ขนั ในบางกรณอี าจตอ้ งใชภ้ าษากายทเี่ หมาะสมเชน่ การ สัมผสั เพ่อื ปลอบโยน 4. เลือกวิธีการส่ือสารกับผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ต้อง ให้ความสำ�คัญกับความรู้สึกและอารมณ์ของผู้สูงอายุท่ีอยู่ตรงหน้า พยายาม ทำ�ความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกท่ีเกิดขึ้น และระมัดระวังกับการจัดการกับ อารมณ์ของผู้สูงอายุที่มาขอรับการปรึกษา ควรตระหนักไว้ว่า การวิจารณ์ การพูดตำ�หนิติเตียน อาจทำ�ให้เกิดปัญหาสัมพันธภาพระหว่างกันได้ ควรช่วย ให้ผู้สูงอายุตัดสินใจเร่ืองต่างๆด้วยตัวเอง และสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้เกิด การแกไ้ ขปญั หา 5. ระมัดระวังการให้ข้อมูลที่มากจนเกินไป เพราะการรับรู้และความ สามารถดา้ นการจดจ�ำ ของผูส้ ูงอายเุ ริ่มชา้ ลง 6. นา้ํ เสยี งทใี่ ชส้ อื่ สารควรใชน้ าํ้ เสยี งทน่ี มุ่ นวล เหมาะสมและสอดคลอ้ ง กบั สถานการณต์ รงหนา้ อยา่ ลมื การแสดงความรสู้ กึ เปน็ หว่ ง เหน็ ใจ เขา้ ใจผสู้ งู อายุ ทอ่ี ยตู่ รงหนา้ แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พ่อื ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต 12
ปญั หาสุขภาพจิตทีพ่ บในผูส้ งู อายุ สาระสำ�คัญ : มักพบเสมอว่าปัญหาท่ีรบกวนจิตใจผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มักเป็นเร่ืองสัมพันธภาพในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะคนในครอบครัวและ สิ่งท่ีผู้สูงอายุไวต่อความรู้สึกมากท่ีสุดคือการเสียหน้า การเสียคุณค่าและการ เสียความเคารพจากผ้อู น่ื ส่วนปัญหาสุขภาพจิตทพ่ี บบอ่ ยในผู้สงู อายุ คือ เรอื่ ง ความเครยี ด วติ กกงั วล เหงา/วา้ เหว่ จจู้ ้ี ขบี้ น่ กลวั การถกู ทอดทงิ้ รสู้ กึ วา่ ตนเอง ไม่มีคณุ คา่ นอนไมห่ ลบั 1. ความเครียด เป็นสภาวะจิตใจและร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลจากการ ปรบั ตวั เพอ่ื เตรยี มพรอ้ มในการรบั มอื ตอ่ สง่ิ กระตนุ้ หรอื สง่ิ เรา้ ตา่ งๆในสงิ่ แวดลอ้ ม ทบี่ บี คน้ั กดดัน คกุ คามให้เกดิ ความทกุ ข์ ความไมส่ บายใจ หรือความไม่พอใจ (กรมสุขภาพจิต, 2541) อาการท่แี สดงว่าผสู้ ูงอายุเกิดความเครียด 1. อารมณ์ตึงเครยี ด ยม้ิ ไมอ่ อก สนุกไมอ่ อก หัวใจเต้นแรง 2. ผิวหนงั เยน็ หรอื แห้ง บางคร้งั ชาตามปลายมือปลายเท้า 3. มนึ ทัง้ หวั หรือปวดท้ายทอย 4. หงดุ หงดิ ง่าย ดไู มม่ ีความสขุ หรือเบ่ือหนา่ ยกบั ชีวิต 5. คดิ เร่อื งต่างๆไมค่ ่อยออก 6. ไม่อยากพูดคยุ กบั ใคร 7. ขาดความกระตือรอื รน้ ไม่ค่อยมพี ลังหรือแรงกระตนุ้ ในการทำ�งาน 8. เวลาเหลือจนไมร่ วู้ า่ จะท�ำ อะไร 9. นอนหลับยากขึน้ หรือไม่หลบั เลย แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผ้สู ูงอายเุ พ่ือป้องกนั ปญั หาสุขภาพจิต 13
10. มปี ญั หาด้านการรบั ประทานอาหาร อาจทานมากหรือ น้อยกว่าปกติ 11. ไมค่ อ่ ยอยากออกไปเจอญาติ มติ ร เพือ่ น หรอื ใครๆ 12. ไมค่ อ่ ยสนใจงานอดเิ รก หรอื กจิ กรรมทต่ี นเองเคยสนใจท�ำ หรอื เขา้ รว่ ม 13. รู้สกึ หงดุ หงดิ โกรธ คนหรอื สภาวการณ์รอบๆตัว แนวทางการชว่ ยเหลือ 1. หลังจากสังเกตเห็นความผิดปกติท่ีเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ หรือ ผู้สูงอายุมาขอรับคำ�แนะนำ�เร่ืองเครียดวิตกกังวล นอกจากการกล่าวทักทาย โดยทั่วไป แล้วอาจเพิม่ ความไวว้ างใจจากผู้สงู อายุดว้ ยวิธกี ารสร้างสมั พันธภาพ กบั ผู้สูงอายุ วิธงี ่ายๆและให้ผลดคี ือการถามสารทุกข์สขุ ดิบ จากนน้ั ใหบ้ ุคลากร สาธารณสขุ ใชท้ กั ษะการสอ่ื สารเพอื่ ส�ำ รวจปญั หาความเครยี ดทเ่ี กดิ ขนึ้ ดว้ ยการ ถามคำ�ถามปลายเปิด เพื่อกระตุ้นให้ผู้สูงอายุได้สำ�รวจและบอกเล่าความคิด ความรูส้ กึ ของตนเอง เช่นการใชค้ �ำ ถาม “อะไร” หรอื “อย่างไร” เชน่ “คณุ ปา้ พอจะเล่ารายละเอียดของอาการท่ีเกิดขึ้นให้ดิฉันฟังได้ไหมคะ” “อาการท่ีเกิด ขน้ึ เป็นอยา่ งไรอกี คะ” เปน็ ตน้ 2. ใชท้ กั ษะในการสอื่ สาร เชน่ การทวนซา้ํ หรอื การสะทอ้ นอารมณ์ เพ่ือยืนยันความรู้สึกท่ีเกิดข้ึนของผู้สูงอายุ และทำ�ให้ผู้สูงอายุมองเห็นปัญหาท่ี เกิดขึ้นกบั ตนเองชัดขนึ้ 3. สรปุ ความเพอ่ื ใหผ้ สู้ งู อายไุ ดเ้ ขา้ ใจปญั หาโดยเฉพาะสาระส�ำ คญั 4. ช่วยเหลือผู้สูงอายุให้สามารถเชื่อมโยงถึงท่ีมาของปัญหา เกิด ความเขา้ ใจในปัญหาและยอมรบั สง่ิ ท่ีเกิดขนึ้ ได้ โดยบคุ ลากรสาธารณสขุ อาจใช้ ทักษะการตอบโตด้ งั นี้ 4.1 การให้ข้อมูล เช่น “จากที่ฟังมาดูเหมือนว่าคุณป้าจะ หงดุ หงดิ โกรธ ทลี่ กู หลานไมใ่ หค้ วามส�ำ คญั / ไมใ่ หค้ วามเคารพ / ไมม่ าเยย่ี มเยยี น / แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจิตใจของผูส้ ูงอายุเพอ่ื ป้องกันปญั หาสุขภาพจติ 14
ไม่พอใจการกระท�ำ ของลูกหลาน จนท�ำ ให้คณุ ป้าเกดิ อาการนอนไม่หลับ ตื่นมา กม็ ึนหวั ปวดท้ายทอย” 4.2 การหาผลจากการกระท�ำ เชน่ “ลองนกึ อกี ครงั้ ซคิ ะวา่ อะไร ท่เี ปน็ ตน้ เหตทุ ่ีทำ�ให้คณุ ปา้ เกดิ ความเครียด เชน่ ไม่พอใจอะไร / ไม่พอใจใคร / ไมพ่ อใจการกระท�ำ แบบไหนของลูกหลาน” 4.3 การให้ข้อมูลย้อนกลับต่อสิ่งท่ีเกิดขึ้นในมุมมองของ บคุ ลากรสาธารณสุข เช่น “จากที่คุณป้าเล่ามาท้ังหมด แสดงว่าอาการนอนไม่หลับ ตื่นมาก็มึนหัว ปวดท้ายทอย เกิดข้ึนหลังจากที่รู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของ คุณลงุ ” 4.4 การตคี วามสง่ิ ทเี่ กดิ ขน้ึ เชน่ “จากทคี่ ณุ ปา้ เลา่ มาทงั้ หมดนี้ ดเู หมือนการกระท�ำ ของลกู หลานเรื่อง........ท�ำ ใหค้ ุณป้าหงดุ หงดิ ไมพ่ อใจ เกบ็ เอามาคดิ จนเกิดความเครียด และท�ำ ใหน้ อนไมห่ ลับ” 5. การวางแผนในการแก้ปัญหา ซึ่งบุคลากรสาธารณสุขสามารถ ชว่ ยกระตุ้นให้ผ้สู ูงอายมุ ีทางเลือกในการแกป้ ญั หามากขนึ้ ตระหนกั ถึงผลทีจ่ ะ ตามมาจากการเลือกในการแก้ปัญหาในแต่ละทาง ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ อาจใชว้ ธิ ีดงั ต่อไปน้ี 5.1 การให้ความรู้ เช่น การแนะนำ�เร่ืองท่ีเป็นสาเหตุของ ความเครียด วธิ ีการปฏิบตั ิตวั การนอนในบรรยากาศท่ีเหมาะสม วธิ ีการพดู คยุ กับลกู หลาน /คชู่ ีวติ แบบสรา้ งสรรค์ 5.2 การให้คำ�แนะนำ� เช่น ให้ผู้สูงอายุลองนึกถึงสาเหตุท่ีเกิด ขน้ึ ว่าปัญหาอยตู่ รงไหน จากนั้นให้ถามตัวเองวา่ ปัญหาที่เกิดขนึ้ ตวั เองมสี ่วนใน ปญั หามากน้อยแคไ่ หน และจะแกป้ ัญหาท่เี กดิ ข้ึนอยา่ งไร เชน่ กรณที ีผ่ ูส้ ูงอายุ ไม่พอใจเรอ่ื ง ลูกหลานไม่มาเยยี่ ม/ ไม่เคารพ / ไมด่ ูแล แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพ่ือปอ้ งกันปัญหาสุขภาพจิต 15
“คุณป้าคิดว่าทำ�ไมลูกหลานถึงไม่มาหา/ เขาทำ�งานหรือ เปลา่ /แล้วถ้าเขามาจะกระทบกบั การงานของเขาหรือไม่” “เวลาเขามาเยี่ยมแล้วเคยแสดงความเป็นห่วงลูกหลาน ดว้ ยการถามถงึ สารทกุ ขส์ ขุ ดบิ ของลกู หลานหรอื ไม่ (เพอื่ แสดงถงึ ความเปน็ ผใู้ ห้ ของผสู้ งู อาย)ุ หรอื ตอ้ งรอใหล้ กู หลานถามถงึ ทกุ ขส์ ขุ ของตวั เอง (แสดงใหเ้ หน็ วา่ ผ้สู ูงอายเุ ปน็ แตเ่ พียงผ้รู ับซ่งึ ตอ้ งปรับทศั นคตขิ องผสู้ ูงอายดุ ว้ ย)” “เวลาชวนคุย คุยถึงเร่ืองของลูกหลานบ้างหรือไม่ (ดูว่า ผูส้ ูงอายขุ บ้ี ่นหรอื ไม)่ ” “เวลาลูกหลานมามีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเม่ือพบหน้ากัน หรอื ไม่” “เคยช่วยเหลืออะไรลูกหลานบ้างไหม เช่น เล้ียงหลาน/ ใหค้ วามรู้ / เลา่ ประสบการณ์เกย่ี วกบั เรอ่ื งงาน” “เคยชมลกู หลานบ้างหรอื ไม”่ 5.3 การแนะแนวทาง เช่น การให้คำ�แนะนำ�เร่ืองการปรับ มุมมองให้กว้างขึ้นและให้ลูกหลาน/คู่ชีวิตได้รับรู้ปัญหาและเข้ามาร่วมกันแก้ ปัญหาที่เกิดข้ึน/การฝึกทักษะการต้ังคำ�ถามเพ่ือไม่ให้เป็นคนที่น่าเบื่อ/วิธีการ คลายเครียด เป็นตน้ 5.4 การชกั จงู เชน่ “ดเู หมือนว่าการแก้ปัญหาเรอ่ื งการกระทำ� ของคนอน่ื เปน็ สง่ิ ทเ่ี ปน็ ไปไดย้ าก และยง่ิ ท�ำ ใหส้ ถานการณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ยงิ่ ตงึ เครยี ด หรอื กระตนุ้ ใหค้ ณุ ปา้ รสู้ กึ เครยี ดมากขนึ้ ดเู หมนื ไมท่ �ำ ใหอ้ ะไรดขี นึ้ เลย ลองแกไ้ ข ทค่ี วามคดิ ความรสู้ กึ ของตวั เองจะงา่ ยกวา่ หรอื เปลา่ คะ ลองปรบั เปลยี่ นมมุ มอง ใหม่ เอาใจใสก่ บั ผูอ้ ่ืนให้นอ้ ยลงแตใ่ ห้เพม่ิ ความหว่ งใยตอ่ สุขภาพและจติ ใจของ ตวั เองใหม้ ากขึ้น ” 5.5 การฝึกวิธีการจัดการกับความเครียดที่เหมาะสม เช่น การฝกึ ลมหายใจ การฝกึ สติ เป็นตน้ แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สงู อายุเพอ่ื ปอ้ งกนั ปัญหาสุขภาพจติ 16
2. ความวติ กกังวล (พบในทุกกลุม่ ) มีความวิตกกังวลที่ต้องพ่ึงพาลูกหลาน มักแสดงออกเด่นชัดเป็น ความกลวั ขาดความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง เชน่ กลวั ไมม่ คี นเคารพยกยอ่ งนบั ถอื กลวั วา่ ตนเองไร้คา่ กลวั ถูกทอดท้งิ กลัวเป็นคน งกๆ เง่ินๆ กลวั ถกู ท�ำ รา้ ย กลวั นอน ไม่หลับ กลวั ตาย ความวิตกกังวลแสดงออกทาง ด้านรา่ งกาย เช่น เป็นลม แนน่ หน้าอก หายใจไมอ่ อก อาหารไมย่ อ่ ย ไมม่ แี รง ออ่ นเพลีย นอนไม่หลบั กระสบั กระส่าย แนวทางการชว่ ยเหลอื จะมีแนวทางการชว่ ยเหลือเชน่ เดยี วกบั ปญั หาความเครียดแต่ความวิตก กงั วลในผสู้ งู อายุ บางอยา่ งเปน็ ปญั หาการวติ กกงั วลไปเอง เชน่ ความเปน็ หว่ งลกู หลาน ความกังวลอันเกิดจากปญั หาของตนเอง ควรแก้ทค่ี วามคดิ ดว้ ยการสอน วิธีปรับมุมมองให้กว้างและอาจดึงลูกหลานเข้ามาสร้างความเชื่อม่ันให้กับผู้สูง อายุ กลา่ วโดยสรปุ วา่ ความวติ กกงั วลนน้ั ตอ้ งรวู้ า่ เรอ่ื งอะไร แกอ้ ยา่ งไร ถา้ วติ ก กังวลในเรื่องทแี่ ก้ไขไมไ่ ดก้ ็ใหค้ นอน่ื ช่วยแกห้ รอื ให้ทำ�ใจ 3. ร้สู ึกว่าลกู หลานไมเ่ คารพ (พบในทกุ กลมุ่ ) แนวทางการชว่ ยเสรมิ สรา้ งก�ำ ลงั ใจเมอ่ื ผสู้ งู อายรุ สู้ กึ นอ้ ยอกนอ้ ยใจ 1. รับฟังปัญหาท่ีเกิดขึ้น เพ่ือให้ผู้สูงอายุได้ระบายความรู้สึก คบั ข้องใจ พร้อมจับประเด็นความรู้สกึ ทางลบ /ประเด็นที่เปน็ ปัญหา 2. แสดงความเหน็ อกเหน็ ใจและใหผ้ สู้ งู อายทุ บทวนพฤตกิ รรมการ แสดงออกของตนเอง เชน่ 2.1 ให้ผู้สงู อายถุ ามตนเองว่าบ่นมากเกินไปหรอื ไม่ 2.2 ให้ไปฟังคนอ่นื บน่ วา่ แลว้ จะรสู้ กึ อย่างไร 2.3 เป็นผวู้ ิจารณ์พรํา่ เพร่ือหรือไม่ เช่น ดุด่าว่ากลา่ วลูกหลาน มากเกินไปหรอื เปลา่ แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพอื่ ป้องกันปัญหาสุขภาพจิต 17
2.4 ใหผ้ ้สู ูงอายถุ ามตนเองวา่ เปน็ ผ้ใู หท้ ดี่ ีหรอื ไม่ ถ้าดี ใหอ้ ะไร ไดบ้ า้ ง เช่น ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ลูกหลานอาทิ งานบา้ น /ดูแลหลาน ใหค้ วามรู้ - ประสบการณ์ เปน็ ตน้ 3. ชว่ ยคดิ และหาทางออกของปญั หารว่ มกนั 4. ปรบั วธิ คี ดิ ไมค่ วรยดึ ตวั เองเปน็ ศนู ยก์ ลาง หรอื เอาความคดิ ของ ตวั เองเปน็ ใหญห่ รอื ถกู ตอ้ งเสมอ พรอ้ มใหข้ อ้ คดิ เชน่ “ใหค้ ดิ ถงึ อกเขา ไมใ่ ชค่ ดิ ถงึ แตอ่ กเรา” 5. ช่ืนชมและให้กำ�ลังใจ ด้วยการให้ผู้สูงอายุเล่าในเรื่องท่ีตนเอง ภาคภมู ใิ จ หรือเคยท�ำ สำ�เรจ็ มาแลว้ 4. รู้สึกว่าตนเองถูกลกู หลานทอดทง้ิ (กลมุ่ ติดสังคม) แนวทางการชว่ ยเสรมิ สรา้ งก�ำ ลงั ใจเมอ่ื ผสู้ งู อายกุ ลวั การถกู ทอดทง้ิ 1. สนบั สนนุ ใหผ้ สู้ งู อายคุ บหาเพอ่ื นบา้ น พดู คยุ กบั กลมุ่ เพอื่ นในวยั เดยี วกนั ในชมรมผสู้ งู อายุ หรอื พดู คยุ กบั เพอื่ นบา้ น และสรา้ งเครอื ขา่ ยกบั คนใน ชุมชนให้มากท่ีสดุ 2. ฝกึ ทกั ษะทจ่ี �ำ เปน็ ในการอยรู่ ว่ มกบั ผอู้ นื่ เชน่ การใหก้ ารปรกึ ษา การเป็นผู้ฟงั ท่ีดี การลดอัตตา การสือ่ สารอยา่ งสร้างสรรค์ และการจดั การกับ ความเครียด 3. ชักชวนให้ผู้สูงอายุหันมาทำ�กิจกรรมทางศาสนา ศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรม 4. สง่ เสรมิ ใหผ้ สู้ งู อายทุ �ำ กจิ กรรมทสี่ นใจตา่ งๆตามความเหมาะสม หรอื หางานอดเิ รกท่ชี อบท�ำ 5. แนะน�ำ ใหผ้ ู้สงู อายุร้จู ักเป็นผู้ฟงั ทีด่ ี รู้จกั พดู คุยอย่างสรา้ งสรรค์ ไม่เป็นคนช่างตำ�หนิ ตัวอย่างเช่น การแนะนำ�ผู้สูงอายุว่าต้องระลึกไว้เสมอว่า “การไปหาลูกหลานเม่ือคิดถึง ไม่เป็นการเสียศักดิ์ศรี” “การไปเย่ียมเยียนลูก หลานจะชว่ ยสรา้ งสมั พนั ธภาพทดี่ ใี นครอบครวั และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี หก้ บั คน รนุ่ ถัดไป แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจิตใจของผู้สูงอายเุ พือ่ ป้องกนั ปัญหาสุขภาพจิต 18
แนวทางการช่วยเสริมสร้างกำ�ลังใจเม่ือผู้สูงอายุกลัวถูกทอดท้ิง กลุ่มตดิ บา้ น /ตดิ เตยี ง 1. ประสานเครอื ข่ายทางสังคมใหด้ ูแลชว่ ยเหลอื เย่ยี มบา้ น พรอ้ ม สอนวิธีการพูดคุยใหก้ ำ�ลงั ใจ 2. เม่ือไปเยีย่ มบ้าน ต้องพดู คยุ และใหก้ ำ�ลงั ใจ ถ้าไมส่ ะดวกในการ ไปเยย่ี มลกู หลาน ให้ใชอ้ ปุ กรณ์สอื่ สาร หรอื พูดคุยกับเพือ่ นบา้ นใกลเ้ คียง เพ่อื ป้องกนั ความรู้สกึ โดดเดี่ยว และไรท้ ีพ่ ่งึ 3. บุคลากรสาธารณสุขต้องบอกกับผู้สูงอายุว่า “เมื่อลูกหลานมา เยย่ี ม ต้องไม่ไปบ่นว่าลูกหลาน จงึ จะท�ำ ให้ลกู หลานไม่รสู้ กึ วา่ ผู้สูงอายจุ ู้จข้ี ี้บน่ ” 4. ชักชวนให้ผู้สูงอายุทำ�กิจกรรมที่สนใจต่างๆ ท่ีเหมาะสมกับ ศักยภาพ 5. สอนวิธีการต้ังคำ�ถามเชิงบวก เพ่ือให้ผู้สูงอายุมีหัวข้อในการ สนทนา ท่ีไม่ใช่การบ่น การตำ�หนิ การติเตียน เช่น การตั้งคำ�ถามที่ลูกหลาน สนใจ หรอื ชวนพดู คยุ เรอื่ งทล่ี กู หลานก�ำ ลงั ท�ำ อยู่ บคุ ลากรสาธารณสขุ ตอ้ งระลกึ วา่ “การพดู คยุ กบั ลกู หลานจะท�ำ ใหผ้ สู้ งู อายตุ ามทนั เหตกุ ารณ์ และโลกปจั จบุ นั ได้และยังทำ�ให้ลูกหลานภาคภูมิใจ และต้องไม่ลืมกล่าวคำ�ขอบใจให้ลูกหลาน เพ่ือเป็นแบบอยา่ งที่ดีให้กบั ลูกหลาน” 5. จู้จ้ขี ้ีบน่ (พบในทุกกลมุ่ ) แนวทางการชว่ ยเหลอื วธิ ีการให้ค�ำ แนะนำ�ลกู หลาน/ญาติ/ผูด้ ูแล ดงั นี้ 1. แนะน�ำ ใหล้ กู หลาน/ญาต/ิ ผดู้ แู ล รบั ฟงั ผสู้ งู อายทุ บี่ น่ ในชว่ งแรกเพอ่ื เปดิ โอกาสใหไ้ ดร้ ะบายความไมส่ บายใจหรอื ความคบั ขอ้ งใจ 2. แนะนำ�ใหล้ กู หลาน/ญาต/ิ ผดู้ ูแล เปน็ ฝ่ายชวนคุย หม่ันซักถามเพ่ือ ให้ผู้สูงอายตุ อบค�ำ ถามและลมื เร่ืองราวตา่ งๆท่บี น่ ว่าไป แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผูส้ ูงอายเุ พือ่ ป้องกันปญั หาสุขภาพจิต 19
3. บุคลากรสาธารณสุขต้องสอนเทคนิคการต้ังคำ�ถามให้กับลูกหลาน/ ญาติ/ผู้ดูแล โดยคำ�ถามที่ดีต้องเป็นคำ�ถามที่ให้ผู้สูงอายุในบ้านคิดและตอบ ค�ำ ถามทด่ี ตี อ้ งเปน็ สงิ่ ทล่ี กู หลานหรอื ผดู้ แู ลอยากรเู้ พอื่ น�ำ ไปเปน็ ประเดน็ การคยุ 4. แนะนำ�ให้ลูกหลาน/ญาติ/ผู้ดูแล ชักชวนหรือหากิจกรรมให้ ผู้สูงอายุทำ� ซึ่งเป็นงานหรือกิจกรรมท่ีทำ�แล้วเพลิดเพลิน ไม่หมกมุ่นอยู่กับ ความคิดเดิมๆ อาจเป็นกิจกรรมท่ีผู้สูงอายุช่ืนชอบหรือกิจกรรมแปลกใหม่เพ่ือ สรา้ งประสบการณแ์ ปลกใหมแ่ ละดึงความสนใจออกจากเรอ่ื งทบ่ี ่น 5. ลูกหลาน/ญาติ/ผู้ดูแล ไม่ชวนทะเลาะหรือเก็บเรื่องที่ผู้สูงอายุบ่น มาเป็นอารมณ์แต่พยายามทำ�ความเข้าใจธรรมชาติของผู้สูงอายุท่ีมีลักษณะ ย้ําคดิ ยํ้าท�ำ และติดอยูก่ ับอดีต ไมค่ วรตอบโต้ดว้ ยอารมณท์ ่รี ุนแรง แนวทางการช่วยเหลือผสู้ งู อายุ ดงั น้ี 1. บุคลากรสาธารณสุขรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ระบาย ความไมส่ บายใจหรอื ความคบั ข้องใจ 2. ใช้คำ�ถามเพ่ือสะท้อนให้ผู้สูงอายุได้เห็นภาพของตนเองว่าผู้สูงอายุ บน่ มากเกินไปหรอื ไม่ ดว้ ยค�ำ พดู งา่ ยๆวา่ “ถา้ มคี นพูดเช่นนใี้ ห้คณุ ป้าฟังแล้วจะ รูส้ ึกอย่างไร” หรอื “ถ้ามีคนวจิ ารณค์ ุณลุงแลว้ คณุ ลงุ จะรสู้ ึกอยา่ งไร” 3. ช่วยผู้สงู อายฝุ กึ วิธกี ารต้ังค�ำ ถามอยา่ งสร้างสรรค์ ชวนคิด เพื่อเป็น ประเดน็ ในการพูดคยุ แทนการบน่ วา่ 6. รูส้ ึกว่าตนเองไม่มีคณุ ค่า ในวยั สงู อายคุ วามเชอ่ื มน่ั ในตนเองลดลง ความภาคภมู ใิ จในตวั เองลด นอ้ ยถอยลง บางรายตอ้ งพงึ่ พงิ ผอู้ นื่ เพราะปญั หาความเสอื่ มถอยของสมรรถภาพ รา่ งกายและสตปิ ญั ญา บางรายรสู้ กึ นอ้ ยอกนอ้ ยใจหรอื ซมึ เศรา้ ไมส่ ามารถสรา้ ง ก�ำ ลงั ใจเมอื่ เกดิ ความรสู้ กึ นอ้ ยอกนอ้ ยใจได้ บางรายจจู้ ขี้ บ้ี น่ และรสู้ กึ สญู เสยี ภาพ ลกั ษณ์ตอ่ ตนเอง แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจิตใจของผูส้ ูงอายเุ พอ่ื ป้องกันปญั หาสุขภาพจิต 20
แนวทางการช่วยสรา้ งความรสู้ ึกมคี ุณค่าในตนเอง (ในผู้สงู อายกุ ลมุ่ ตดิ สงั คม) 1. ฝึกให้ผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองในเร่ืองง่าย เช่น กิจวัตรประจำ�วัน งานบา้ นเลก็ ๆนอ้ ย หรือการดแู ลเด็กๆ เพื่อไม่ให้รสู้ กึ เปน็ ภาระกับคนอื่น 2. ให้ผู้สูงอายุใกล้ชิดกับเพื่อนผู้สูงอายุคนอื่นๆเพื่อฝึกให้เกิดการ ชว่ ยเหลือกนั เอง เช่น การจัดกจิ กรรมเยี่ยมบ้าน จติ อาสาในรปู แบบต่างๆ เพ่ือ ทำ�ตนใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และเสียสละเพือ่ สว่ นรวม (อาจเป็นแรงงานหรอื ทรพั ย์ หรอื ความรกู้ ไ็ ด)้ 3. ฝกึ ใหผ้ สู้ งู อายชุ ว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ เชน่ การตง้ั ชมรมตา่ งๆ และชมุ ชนควร จดั เวทใี หผ้ สู้ งู อายไุ ดแ้ สดงความคดิ เหน็ หารอื ในประเดน็ ตา่ งๆ เพอ่ื กระตนุ้ สมอง ป้องกนั ภาวะสมองเสื่อม เปน็ ตน้ 4. ฝึกให้ผู้สูงอายุเป็นผู้ให้การปรึกษา/วิทยากร/นักจัดรายการวิทยุ ชมุ ชน ฯลฯ ใหท้ อ้ งถน่ิ เพอื่ ใหผ้ สู้ งู อายเุ กดิ ความภาคภมู ใิ จและเกดิ ความรสู้ กึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของชุมชน มพี ลังในการดำ�เนนิ ชวี ิต และป้องกนั ภาวะซึมเศรา้ แนวทางการสร้างคุณค่าในตนเอง (ในกลุ่มผูส้ งู อายุกลุ่มติดบ้าน) ในกลุ่มน้ีจะเน้นการเยี่ยมบ้านเป็นหลัก บุคลากรสาธารณสุขต้องอาศัย ทกั ษะการสื่อสาร 1. ให้ทักทาย พดู คยุ เพอ่ื สร้างสัมพันธภาพ และให้กำ�ลังใจ โดยปกติ ผู้สงู อายกุ ลุ่มนี้จะรู้สึกดใี จท่ีมีคนมาเย่ยี ม อยากพดู คยุ อยากทกั ทาย อยากเล่า เรือ่ งต่างๆใหผ้ ้อู ่นื ฟังอย่แู ลว้ 2. ให้ถามความเห็นในเรื่องที่ผู้สูงอายุถนัด และให้เล่าเร่ืองราวให้ฟัง พร้อมท้ังจดบันทึกเพ่อื ให้ผู้สูงอายุเหน็ ว่าเร่อื งทเ่ี ลา่ มีคนสนใจ และส�ำ คญั 3. ให้คน้ หาศักยภาพ เพือ่ ประเมินความสามารถและสง่ เสรมิ ศกั ยภาพ ท่ีมอี ยู่ใหม้ ากท่สี ุด เชน่ “ในแตล่ ะวันคณุ ลงุ มกี ิจวัตรประจำ�วันอะไรบ้าง และ กิจกรรมท่ีชอบคืออะไร/อยากทำ�อะไร” “คิดว่าตัวเองเป็นแบบอย่างท่ีดีให้กับ ลกู หลานเรื่องอะไรบา้ ง” แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ ูงอายุเพื่อป้องกนั ปัญหาสขุ ภาพจิต 21
4. ประเมินส่ิงท่ีผู้สูงอายุบอกเล่าและทำ�ให้เกิดการทำ�กิจกรรมตาม ที่เห็นสมควรเช่น อยากทำ�กิจกรรมดอกไม้ประดิษฐ์ควรจัดหาอุปกรณ์ หรือ ประสานหน่วยงานตา่ งๆเพ่ือให้การชว่ ยเหลือ 5. แนะน�ำ และอ�ำ นวยความสะดวกในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม/ชมรม /กลมุ่ ตา่ งๆ ในชุมชน โดยประสานกบั หน่วยงานท่เี กยี่ วขอ้ ง แนวทางการสร้างคณุ คา่ ในตนเอง (ในกลมุ่ ผสู้ ูงอายกุ ลุ่มติดเตียง) ในกลุ่มนี้จะเน้นการเย่ียมบ้าน ต้องเน้นการฟังและการให้กำ�ลังใจ เป็นหลกั 1. ให้ทักทาย สร้างสัมพันธภาพ มักพบเสมอว่าผู้สูงอายุกลุ่มติด เตียงไม่ค่อยอยากพูดคุย บุคลากรสาธารณสุขต้องพยายามให้ผู้สูงอายุพูดคุย เพอื่ เล่า ระบาย ความทุกข์ ความไมส่ บายกาย ไมส่ บายใจ และบคุ ลากรควรรับ ฟงั อยา่ งตง้ั ใจ 2. ให้ผู้สูงอายุเล่าความภาคภูมิใจในอดีต เร่ืองชื่นชม ให้กำ�ลังใจ พรอ้ มกบั คน้ หาสง่ิ ทด่ี ๆี ในเรอื่ งเล่า 3. ถา้ ไมม่ เี รอ่ื งเลา่ บคุ ลากรสาธารณสขุ ควรใหผ้ สู้ งู อายเุ ลา่ เรอ่ื งราว ของชมุ ชนในอดตี วฒั นธรรมประเพณขี องชมุ ชน บคุ คลสำ�คญั ในชมุ ชน เปน็ ตน้ โดยเจ้าหน้าท่ีประสานกับโรงเรียน ให้นักเรียนมาถอดความรู้กับผู้สูงอายุใน ประเด็นเหล่าน้ี 4. ประเมินปัญหาสุขภาพจิต/ภาวะซึมเศร้า หากพบปัญหาให้คำ� ปรึกษาเบือ้ งตน้ หรือส่งตอ่ 5. ใช้เครือข่ายทางสังคมในการดูแลผู้สูงอายุติดเตียง เช่น อสม. ชมรมผู้สูงอายุ แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สูงอายเุ พอ่ื ปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ 22
7. นอนไม่หลับ (พบในทกุ กลุม่ ) ผู้สูงอายุที่มีปัญหานอนไม่หลับ มักจะชอบต่ืนข้ึนกลางดึกหรือไม่ก็ ตืน่ เช้ากวา่ ปกติ และเม่ือต่ืนแล้วก็หลบั ต่อยาก ต้องลกุ ขน้ึ มาท�ำ โนน่ ทำ�นี่ ซง่ึ จะ รบกวนสมาธคิ นอน่ื ในบา้ นทกี่ �ำ ลงั นอนหลบั อยดู่ ว้ ย ทงั้ นส้ี าเหตขุ องการนอนไม่ หลบั อาจเกดิ จากการนอนกลางวันมากเกนิ ไป ไมค่ อ่ ยไดอ้ อกกำ�ลงั กายหรือใช้ แรงงาน ท�ำ ใหร้ สู้ กึ ออ่ นเพลยี เมอ่ื ไดเ้ วลานอนอาจวติ กกงั วลบางเรอ่ื งอยู่ ทน่ี อน ไมส่ บาย อากาศรอ้ นหรอื เยน็ เกนิ ไป มปี ญั หาทางรา่ งกายทร่ี บกวนการนอน เชน่ ปวดหลงั เบาหวานต้องลกุ มาปสั สาวะบอ่ ยจนรบกวนการนอน เป็นตน้ แนวทางการช่วยเหลือ 1. หลังจากสร้างสัมพันธภาพถามสารทุกข์สุขดิบแล้ว ควรจะ ประเมินลักษณะการนอนว่านอนประมาณกี่ช่ัวโมง โดยปกติผู้สูงอายุควรนอน อย่างนอ้ ย 4 - 6 ชั่วโมงตอ่ คืนและติดต่อกันในชว่ งเดียวกัน 2. ประเมินด้าน “คุณภาพ” หรือ “ปริมาณ” ของการนอนเพื่อ ก�ำ จดั สาเหตทุ เ่ี กดิ ขน้ึ ดว้ ยการใหผ้ สู้ งู อายลุ องนกึ เปรยี บเทยี บดวู า่ ชว่ งทรี่ สู้ กึ วา่ หลับไมด่ ีเปน็ ชว่ งไหน เชน่ นอนหลบั ไม่ดีชว่ งต้น คอื ตอ้ งนอนกล้งิ ไปมาอยู่นาน กว่าจะหลับ(แสดงถึงปริมาณการนอนไม่พอ) หรือนอนหลับไม่ดีช่วงกลาง คือ นอนหลบั แลว้ ตน่ื ข้นึ มากลางดึกแลว้ กวา่ จะหลบั ก็ยากแต่ก็ยงั หลบั ได้ (แสดงถึง ปรมิ าณการนอนไมพ่ อ) หรือนอนไม่หลบั ในช่วงทา้ ยคอื หลบั ไปนานแล้วตืน่ ข้ึน มาแลว้ จะนอนไมห่ ลบั ชว่ งดกึ ๆจนกระทง่ั สวา่ งคาตา (แสดงถงึ คณุ ภาพการนอน ที่ไมด่ ี) 3. ประเมนิ ความรุนแรงของปัญหาการนอนท่ีเกิดข้นึ ตอ่ ว่า “กอ่ น หน้าน้ีที่นอนได้ไม่มีปัญหาน่ะ นอนอย่างไร...” “ตัวคุณป้าเองลองนึกดูสิคะว่า อะไรทจี่ ะเปน็ สาเหตทุ ี่คณุ ป้านอนไมห่ ลับ” 4. กรณีของคุณภาพการนอนไม่ดีต้องพยายามหาสาเหตุท่ีเกิดข้ึน และแก้ไขตามสาเหตุโดยพบวา่ สาเหตุของการนอนไมห่ ลบั มกั จะเกิดจาก แนวทางการดูแลทางดา้ นสังคมจิตใจของผ้สู ูงอายเุ พ่ือป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ 23
การใช้สารกระตุน้ ต่อจติ ประสาท อาทิ เหลา้ บหุ ร่ี กาแฟ (ชา ชาเขียว ชาขาว โคก้ ชอ๊ กโกแลต เครือ่ งด่มื ชูก�ำ ลงั ฯลฯ ท่ีมคี าเฟอนี ) ปจั จยั กระตนุ้ ภายนอก เชน่ แสง เสยี ง สะเทอื น สนั่ หนาว รอ้ น ปจั จยั กระตุ้นภายใน เช่น เครยี ด ครุ่นคิดเร่อื งใดเรื่องหน่ึง นานๆ หรอื โรคเร้ือรงั ทเ่ี ป็น เชน่ โรคเบาหวานทีต่ ้องตน่ื บอ่ ยเพือ่ ปสั สาวะ นอกจากน้ี อาจช่วยเหลือด้วยการปรับสุขลักษณะการนอนให้ดี ด้วยการให้คำ�แนะนำ�ดงั น้ี 1. เข้านอนและตืน่ นอนให้เป็นเวลา 2. ออกกำ�ลังกายอย่างสมํ่าเสมอ ไม่ควรออกกำ�ลังกายก่อน นอน และเม่ือออกกำ�ลังกายก็ให้ออกกำ�ลังกายให้พอเมื่อยแต่ไม่ถึงกับเหน่ือย จะช่วยท�ำ ให้หลับไดง้ ่ายขนึ้ 3. จัดสิ่งแวดลอ้ มใหเ้ หมาะสม หลีกเลี่ยงเสยี งดัง หรืออากาศ ร้อน 4. ทำ�จติ ใจใหส้ บายกอ่ นนอน หลีกเลยี่ งสิง่ ทก่ี ระตุ้นจติ ใจ 5. ไม่ใช้เตียงทำ�กจิ กรรมอ่นื ๆ เชน่ อา่ นหนังสือ รบั ประทาน อาหาร เลน่ เกมส์คอมพวิ เตอร์ 6. หากนอนไม่หลับนานเกิน 30 นาที ให้ลุกจากเตียง ทำ�กจิ กรรมอะไรก็ไดจ้ นง่วง แล้วจงึ เข้านอนใหม่ 7. งดการใช้สารกระตุ้นต่อจิตประสาท เช่น สุรา กาแฟ ก่อนนอน 8. หากิจกรรมให้ผสู้ งู อายุท�ำ ในตอนกลางวัน 9. ดูแลรักษาโรคทางกายให้ทุเลา กรณีมีปัญหาเรื่องเครียด วิตกกังวล คงต้องหาสาเหตุ ปลอบโยนให้หายกงั วล แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผ้สู ูงอายุเพื่อปอ้ งกันปัญหาสุขภาพจิต 24
10. หากอาการนอนไมห่ ลบั ยงั คงอยเู่ ปน็ เวลานาน ควรปรกึ ษา แพทยเ์ พ่อื ให้การบำ�บดั รักษาต่อไป 5. กรณีท่ีปริมาณเวลานอนไม่พอ ก็ต้องชี้ให้ผู้สูงอายุเห็นประเด็น ปญั หาหรอื สาเหตทุ เ่ี กดิ ขน้ึ และตอ้ งใหผ้ สู้ งู อายรุ จู้ กั จดั การชวี ติ ตนเองท�ำ ใหเ้ วลา นอนมากข้ึนให้ได้ เร่ิมจากคำ�พูดว่า “ก่อนหน้านี้ทำ�อย่างไรจึงนอนได้เต็มอิ่ม นอนได้นาน” “ช่วงน้ีคิดว่าอะไรเป็นสาเหตุท่ีทำ�ให้รู้สึกว่าตนเองนอนไม่พอ พยายามลองนกึ ดเู พอื่ จะไดช้ ว่ ยกนั วางแผนการนอนใหด้ ขี นึ้ ” และเมอ่ื หาสาเหตุ ไดอ้ าจให้ค�ำ แนะนำ�เพ่มิ เติมไดด้ ังนี้ สามารถนอนพักไดท้ ุกเวลา ไม่ต้องกังวลว่าจะนอนไม่พอ ถา้ นอนไมห่ ลบั จะลกุ ขนึ้ มาท�ำ กจิ กรรมอะไรกไ็ ดเ้ ชน่ ฟงั วทิ ยุ ดทู ีวี จนง่วงแล้วค่อยหลบั ตอ่ ร่วมกันกับผู้สูงอายุในการวางแผนการนอนใหม่ให้เหมาะ สมกบั สภาพความเปน็ จริง ปรบั สุขลกั ษณะการนอนให้ดีดงั คำ�แนะน�ำ ขา้ งตน้ แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจิตใจของผสู้ ูงอายเุ พอ่ื ป้องกันปญั หาสขุ ภาพจติ 25
แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผสู้ งู อายเุ พ่อื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ 26
บทที่ 2 การส่งเสรมิ สขุ ภาพจิตผู้สงู อายุ การปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ ในผสู้ งู อายุ จ�ำ เปน็ ตอ้ งเตรยี มความพรอ้ มให้ กบั ผสู้ งู อายใุ นการปรบั ตวั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงทก่ี �ำ ลงั เกดิ ขน้ึ ไดแ้ กก่ ารปรบั ตวั ให้ เขา้ กบั สภาพรา่ งกายทเี่ สอื่ มลง การปรบั ตวั ใหย้ อมรบั จากการสญู เสยี แบบแผน ของสังคมที่เปล่ียนไป การไม่มีงานทำ�และรายได้ลดลง ซ่ึงเป็นต้นเหตุของการ ไมม่ ีความสุขในผู้สูงอายุ ในเชิงจติ วทิ ยา ความสขุ เป็นการวัดเชงิ อตั วสิ ยั คือเปน็ เรอ่ื งของอารมณแ์ ละความรสู้ กึ แมค้ วามสขุ แตล่ ะคนจะแตกตา่ งกนั ไป แตค่ วาม สุขเชงิ จติ วิทยามักวดั เฉพาะความอยู่ดที างอารมณ์ ซึ่งคำ�ว่าอยู่ดี (well-being) ก็จะวัดรวมเอามิติสุขภาพกาย สุขภาพใจเข้ามาเป็นบริบทของการอยู่ดี มีสุข (Lyubommirsky;2008) เพอ่ื พฒั นาใหเ้ กดิ ความสขุ เชงิ จติ วทิ ยาในผสู้ งู อายุ จ�ำ เปน็ ตอ้ งนยิ ามความ สขุ ทพ่ี รอ้ มจะปฏบิ ัตแิ ละสามารถวัดผลลัพธใ์ นเชงิ สัมพนั ธไ์ ด้ กรมสขุ ภาพจติ ได้ นำ�เสนอแนวคิดเร่ืองสุข 5 มิติ เพ่ือส่งเสริมสุขภาพให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพจิตดี บุคลากรสาธารณสุขสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตโดยใช้กิจกรรมการ เสรมิ สรา้ งความสขุ 5 มติ โิ ดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี (ส�ำ นกั พฒั นาสขุ ภาพจติ , 2556) 1. สุขสบาย (Health) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการดูแลสุขภาพร่างกายให้ มสี มรรถภาพร่างกายที่คล่องแคล่วมกี �ำ ลงั สามารถตอบสนองตอ่ ความต้องการ ทางกายภาพไดต้ ามสภาพทเ่ี ปน็ อยู่ มเี ศรษฐกจิ หรอื ปจั จยั ทจี่ �ำ เปน็ พอเพยี ง ไมม่ ี อบุ ตั เิ หตุหรืออนั ตราย มีสภาพแวดลอ้ มทีส่ ง่ เสริมสขุ ภาพ ไม่ตดิ สงิ่ เสพติด แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผ้สู งู อายุเพ่อื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ 27
วิธสี ่งเสรมิ ใหเ้ กิดความสขุ สบาย จดุ ประสงค์: เพือ่ ใหเ้ กิดความคล่องแคลว่ ว่องไวไมเ่ กดิ อบุ ัติเหตุง่าย 1. แนะนำ�เรื่องการออกกำ�ลังกายท่ีใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ฝึกกายบริหารเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพของระบบการเคล่ือนไหวและควร ออกกำ�ลังกายให้ครบทุกสัดสว่ น ทุกข้อตอ่ ของร่างกาย ทงั้ นี้ การออกก�ำ ลังกาย ไมค่ วรออกก�ำ ลงั กายแบบรนุ แรงและควรท�ำ เปน็ ประจ�ำ ทกุ วนั วนั ละ 15-30 นาที 2. ขณะออกก�ำ ลงั กายตอ้ งฝกึ การควบคมุ การหายใจใหเ้ ปน็ จงั หวะ ตามการออกก�ำ ลงั กาย โดยหายใจใหล้ กึ และผอ่ นลมหายใจออกทางปาก ไมก่ ลน้ั หายใจขณะออกก�ำ ลังกายเพราะจะทำ�ให้ความดนั โลหติ สงู ได้ 3. หลังการออกกำ�ลังกายอย่างเต็มที่ไม่ควรหยุดแบบทันที ควรออกก�ำ ลังกายตอ่ แต่ให้ชา้ ลงประมาณ 5 - 10 นาที แลว้ จงึ หยุด 4. ใช้แรงกายในชีวิตประจำ�วัน และทำ�งานอดิเรกที่ชอบ เช่น กวาดบ้าน ท�ำ สวน ซ่อมแซมเครื่องใชไ้ มส้ อย เป็นต้น 5. ระมัดระวงั การพลัดตกหกล้ม 2. สขุ สนุก (Recreation) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการเลือกวิถีชีวิตท่ีร่ืนรมย์ สนุกสนาน ด้วยการทำ�กิจกรรมที่ก่อให้เกิดอารมณ์เป็นสุข จิตใจสดช่ืนแจ่มใส กระปรกี้ ระเปรา่ วิธสี ง่ เสริมใหเ้ กิดความสุขสนกุ จุดประสงค์ : เพ่ือคลายเครยี ด 1. แนะนำ�เร่ืองเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ หรือกิจกรรมต่างๆท่ี สร้างความสดชน่ื และมชี ีวิตชีวาอยา่ งสร้างสรรค์และดีงาม 2. แนะนำ�เร่ืองการเล่นกีฬา ดนตรี ศิลปะหรืองานอดิเรกท่ีชอบ เชน่ เปตอง รำ�ไมพ้ ลอง เตน้ แอโรบิค เตน้ ฮลู าฮปู รำ�วงพ้นื บา้ น หรือเล่นดนตรี พื้นบา้ น เป็นต้น แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผู้สูงอายเุ พือ่ ปอ้ งกนั ปญั หาสุขภาพจิต 28
3. สุขสงา่ (Integrity) หมายถึง ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต ความภาคภูมิใจในตนเอง ความเชื่อม่ันในตนเอง ยอมรบั นบั ถือตนเอง ให้กำ�ลงั ใจตนเองได้ เห็นอกเห็นใจ ผอู้ ืน่ มลี กั ษณะเอ้ือเฟอ้ื แบ่งปันและมีส่วนรว่ มในการช่วยเหลือผอู้ น่ื ในสงั คม วิธีสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ ความสขุ สงา่ จดุ ประสงค์ : เพอื่ สง่ เสรมิ ความภาคภมู ใิ จและความมคี ณุ คา่ ในตนเอง 1. แนะนำ�ให้ผู้สูงอายุพยายามช่วยเหลือตนเองในเร่ืองง่ายๆ เพ่ือ ไม่ใหเ้ ปน็ ภาระกบั คนอน่ื เช่น กิจวตั รประจ�ำ วัน งานบา้ นเลก็ ๆนอ้ ยๆ การดแู ล เดก็ เป็นตน้ 2. แนะนำ�ให้ผู้สูงอายุรู้จักฝึกการเป็นผู้ฟังที่ดีเพื่อสร้างปฎิสัมพันธ์ อนั ดกี บั ผอู้ นื่ ดว้ ยการไมแ่ ทรกหรอื ขดั จงั หวะขณะทผี่ อู้ น่ื พดู ยกเวน้ กรณที ส่ี งสยั สิ่งที่ผู้พูดกำ�ลังพูด ต้องฟังอย่างต้ังใจเพ่ือจะได้เก็บเร่ืองราว ความคิด อารมณ์ ความรสู้ กึ ของผพู้ ดู ขณะพดู เพอ่ื เปน็ ผใู้ หค้ �ำ แนะน�ำ ปรกึ ษาในเรอ่ื งทตี่ นเองถนดั หรอื มปี ระสบการณ์ 3. ฝึกวธิ กี ารต้ังค�ำ ถามเพ่อื จะได้ใช้เปน็ หัวข้อในการพูดคุยสนทนา กับผู้อ่ืน อาจเร่ิมต้นด้วยการชวนพูดคุยเรื่องท่ีลูกหลานกำ�ลังทำ�อยู่ เรื่อง เทคโนโลยี เรอื่ งขา่ วสารทกี่ ำ�ลงั เปน็ ประเดน็ เพือ่ จะได้ทนั เหตุการณแ์ ละโลกใน ปัจจุบนั ได้ 4. แนะน�ำ เรอื่ งการเปน็ คนไมจ่ จู้ ข้ี บ้ี น่ และระวงั การใชค้ �ำ พดุ ทร่ี นุ แรง ทอ่ี าจทำ�ให้การสนทนาไมส่ ร้างสรรค์ (กล่าวแล้วในบทที่ 1) 5. แนะน�ำ ใหผ้ สู้ งู อายหุ ากจิ กรรมทท่ี �ำ ใหเ้ พลดิ เพลนิ ไมห่ มกมนุ่ อยู่ กับความคดิ เดิมๆ อาจเป็นกิจกรรมท่ีช่นื ชอบ หรอื กิจกรรมแปลกใหมเ่ พื่อสรา้ ง ประสบการณ์การเรียนร้สู ่งิ ใหม่ 6. แนะน�ำ ใหผ้ สู้ งู อายชุ ว่ ยเหลอื กจิ กรรมตา่ งๆทงั้ ในครอบครวั และ ชมุ ชนตามศกั ยภาพที่ตนเองมี แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายุเพอื่ ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจติ 29
4. สุขสว่าง (Cognition) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุด้านความจำ� ความคิดอย่าง มีเหตุผล การส่ือสาร การวางแผน และการแก้ไขปัญหา ความสามารถใน การคิดแบบนามธรรม รวมทั้งความสามารถในการจัดการสิ่งต่างๆได้อย่างมี ประสิทธิภาพ วธิ ีสง่ เสรมิ ให้เกิดความสขุ สว่าง จุดประสงค์: เพ่ือชะลอความเสอื่ มของสมองในดา้ นต่างๆ 1. แนะน�ำ ผสู้ งู อายเุ รอ่ื งการฝกึ การเรยี นรสู้ ง่ิ ใหมๆ่ ทไี่ มค่ นุ้ เคยหรอื ไมเ่ คยรู้มาก่อน เช่น ทำ�กจิ กรรมดว้ ยมือขา้ งทีไ่ ม่ถนดั ท�ำ กิจวัตรประจำ�วันที่ไม่ เคยทำ� 2. แนะนำ�ผู้สูงอายุเรื่องการรวมกลุ่มกับเพ่ือนๆ หรือกลุ่มวัยอื่นๆ เพื่อพบปะพูดคุย แลกเปล่ียนความคิดเห็นซ่ึงจะช่วยให้เกิดความคิดวิเคราะห์ ความคดิ เรื่องการวางแผน และความคดิ เรือ่ งการบริหารจัดการไดด้ ี 3. แนะน�ำ ผสู้ งู อายใุ นการฝกึ กจิ กรรมทจ่ี ะชว่ ยประสานสหสมั พนั ธ์ ระหวา่ งมอื ตา และเทา้ เพอ่ื ปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตุ เกดิ ความคลอ่ งแคลว่ และสามารถ ช่วยเหลือตนเองได้ ด้วยการฝึกหยิบจับวัตถุชิ้นเล็กๆ เช่น ร้อยลูกปัด นั่งป้ัน กระดาษหนังสอื พิมพ์ 1 คู่ดว้ ยเท้าขณะดทู วี ใี ห้กลมท่ีสดุ เปน็ ต้น 4. แนะนำ�ผู้สูงอายุเรื่องการเล่นเกมส์ที่สามารถฝึกฝนด้านความ จำ�หรือฝึกสมองได้แต่ควรเป็นเกมส์ที่ทำ�ให้เกิดการแลกเปล่ียนข้อคิดเห็นกันใน กลุ่มผู้สูงอายุ เพ่ือให้เกิดการแก้ปัญหา เกิดการคิดเชิงบริหารจัดการ เกิดการ จดั ล�ำ ดับความคดิ อนั เป็นการชะลอความเส่อื มของสมอง เปน็ ต้น เชน่ หมากรุก อกั ษรไขว้ ตอ่ ค�ำ ตอ่ เพลง คดิ เลข หรอื การจดจ�ำ ขอ้ มลู ตา่ งๆ เชน่ วนั เวลา สถานท่ี บคุ คล หมายเลขโทรศัพท์ เป็นตน้ แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจิตใจของผสู้ ูงอายเุ พ่อื ปอ้ งกันปัญหาสขุ ภาพจติ 30
5. สอนผสู้ งู อายใุ นเรอ่ื งการฝกึ คดิ แบบมเี หตผุ ล พยายามใชเ้ หตผุ ล ตรวจสอบหาขอ้ เทจ็ จรงิ ไตรต่ รองใหร้ อบคอบจะไดไ้ มต่ กเปน็ เหยอื่ ใหใ้ ครหลอก ได้ อาจเร่ิมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วให้บอกเหตุผลเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จ จรงิ มาใช้สนับสนุนหรือคัดค้าน หรือฝกึ คาดคะเนความเป็นไปได้ของเหตุการณ์ หรือข้อมูลโดยมีการนำ�ข้อมูลที่เชื่อถือได้มาอ้างอิง และสรุปเป็นการคาดคะเน ของตนเอง 5. สขุ สงบ (Peacefulness) หมายถึง ความสามารถของผู้สูงอายุในการรับรู้ เข้าใจความรู้สึก ของตนเอง รจู้ กั ควบคมุ อารมณ์ และสามารถจดั การกบั สภาวะอารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถผ่อนคลายให้เกิดความสุขสงบกับตนเองได้ รวมทั้งสามารถปรับตัวและยอมรบั สภาพทเี่ กดิ ข้ึนตามความเปน็ จริง วธิ สี ่งเสริมใหเ้ กิดความสุขสงบ จุดประสงค์ : เพอื่ ปรับความคดิ บริหารจติ ใหเ้ กิดสติ สมาธิ 1. แนะน�ำ วธิ กี ารผอ่ นคลายตา่ งๆ เชน่ การนงั่ ในทา่ สบาย ฝกึ หายใจ ช้าๆลึกๆ ใช้กล้ามเนื้อกระบังลมบริเวณท้องช่วย โดยหายใจเข้า ท้องป่อง กล้ันหายใจไว้นับเลข 1 - 4 และหายใจออกชา้ ๆนับ1-8 ให้ท้องแฟบ ท�ำ ซ้าํ ๆ เม่ือรสู้ ึกเครียด หงดุ หงิด โกรธ หรือไม่สบายใจ 2. แนะน�ำ เรอ่ื งการฝกึ คดิ ยดื หยนุ่ ใหม้ ากขน้ึ อยา่ เขม้ งวด จบั ผดิ หรอื ตดั สนิ ผดิ ถกู ตนเอง และผ้อู ่ืนอย่ตู ลอดเวลา รูจ้ กั ผ่อนหนักเป็นเบา ลดทฐิ ิมานะ รู้จักใหอ้ ภยั ไมถ่ ือโทษโกรธเคอื ง และปล่อยวาง ชีวติ จะได้มคี วามสขุ มากขึน้ 3. แนะนำ�เร่ืองการฝึกคิดแต่เรื่องดีๆเช่น คิดถึงประสบการณ์ที่ดี คดิ ถงึ ความส�ำ เรจ็ ในชวี ติ ทผี่ า่ นมา ค�ำ ชมเชยทไี่ ดร้ บั ความมนี า้ํ ใจของเพอ่ื นบา้ น เป็นตน้ แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผู้สงู อายุเพอื่ ปอ้ งกันปญั หาสขุ ภาพจิต 31
4. แนะนำ�เรื่องการฝึกคิดถึงคนอื่นบ้าง อย่าคิดหมกมุ่นกับตนเอง เท่าน้ัน เปดิ ใจใหก้ ว้าง รบั รู้ความเปน็ ไปของคนอื่น เร่ิมตน้ งา่ ยๆจากคนใกลช้ ิด ด้วยการใสใ่ จช่วยเหลือ สนใจเอาใจใสค่ นใกลช้ ิดเราบา้ ง จากน้ันหนั กลับไปมอง คนรอบข้างทมี่ ปี ัญหาหนักหน่วงในชวี ติ 5. แนะนำ�การท�ำ กิจกรรมทสี่ ามารถฝึกสติ ฝึกสมาธิ เชน่ การเขา้ รว่ มกจิ กรรมในวันสำ�คัญ เช่น วันพอ่ แห่งชาติ วันแม่แห่งชาติ เปน็ ต้น แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพอ่ื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจิต 32
บทที่ 3 การเฝ้าระวงั ภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ งู อายุ ภาวะซมึ เศรา้ ในผสู้ งู อายเุ ปน็ การเจบ็ ปว่ ยทางจติ ชนดิ หนงึ่ ทต่ี อบสนองตอ่ ความผิดหวัง ความสูญเสยี หรือการถวลิ หาสง่ิ ที่ขาดหายไป เม่ือเกดิ ขึน้ แล้วจะ ท�ำ ใหผ้ ู้สูงอายรุ ูส้ กึ ไมม่ คี วามสุข จิตใจหม่นหมอง หดหู่ หมดความกระตอื รือรน้ เบื่อหน่ายส่ิงต่างๆ รอบตัว แยกตัวเอง ชอบอยู่เงียบๆ คนเดียว ท้อแท้ บางครั้งมีความรู้สึกสิ้นหวัง มองชีวิตไม่มีคุณค่า มองตนเองไร้ค่า เป็นภาระ ต่อคนอื่น ถ้ามีอาการรุนแรงจะมีอันตรายจากการทำ�ร้ายตนเองได้ มีรายงาน การฆ่าตัวตายในผู้สูงอายุพบว่าร้อยละ 90 มีความสัมพันธ์กับภาวะซึมเศร้า อย่างไรก็ตาม มีบางรายท่ีแสดงออกด้วยการหงุดหงิดโมโหง่าย ทะเลาะกับ บตุ รหลานบอ่ ยครงั้ นอ้ ยใจงา่ ย มกั มาพบแพทยด์ ว้ ยอาการใจสน่ั ปวดหวั ปวดหลงั ปวดทอ้ ง ออ่ นเพลยี ไมม่ แี รง นอนไมห่ ลบั ทอ้ งอดื ทอ้ งเฟอ้ เมอื่ แพทยต์ รวจแลว้ ไม่พบความผดิ ปกตใิ ดๆ ท่ีรนุ แรง ภาวะซึมเศรา้ ในผู้สงู อายเุ กดิ ขึน้ ไดจ้ ากหลาย สาเหตรุ ว่ มกนั ทั้งสาเหตุทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ และสภาพสังคม สิ่งแวดลอ้ ม แนวทางการเฝ้าระวังโรคซึมเศร้า (โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธ์ิ, 2552) การคัดกรองผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงจัดเป็นการเฝ้าระวังโรคได้ การคัดกรอง มี 2 ระดบั 1. คัดกรองในผูส้ งู อายุท่วั ไป 2. คัดกรองในกลุ่มเส่ียงหรือมีแนวโน้มการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าสูงกว่า ผ้สู งู อายกุ ลุ่มทวั่ ไป เช่น - ผทู้ ี่มาด้วยอาการซึมเศร้าชัดเจน แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจติ ใจของผ้สู ูงอายุเพอ่ื ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ 33
- ผูป้ ว่ ยทม่ี ีอาการทางกายเรื้อรงั หลายอาการท่ีหาสาเหตุไม่ได้ - ผปู้ ว่ ยโรคเรอ้ื รงั เชน่ เบาหวาน ขอ้ เสอ่ื ม ไตวาย มะเรง็ โรคหวั ใจ และหลอดเลอื ด โรคหลอดเลือดสมองตีบตัน - ผู้ที่มีปญั หาสรุ ายาเสพตดิ - ผทู้ ป่ี ระสบกับการสูญเสยี ท่ีรุนแรงมาไม่นาน แนวทางการคดั กรองโรคซึมเศร้า การคน้ หาผ้ปู ว่ ยโรคซึมเศรา้ จะประกอบดว้ ย 2 ข้ันตอน ข้ันตอนที่ 1 การคดั กรองโรคซมึ เศรา้ ข้ันตอนที่ 2 การประเมนิ โรคซมึ เศร้า ขัน้ ตอนท่ี 1 การคัดกรองโรคซึมเศร้า การคัดกรองหาผูท้ ี่มแี นวโนม้ ทจ่ี ะปว่ ยโรคซึมเศร้ามี 2 ระดับไดแ้ ก่ 1. การคดั กรองในผสู้ งู อายทุ ่ัวไป 2. การคัดกรองในกลุ่มเส่ียง หรือมีแนวโน้มท่ีจะป่วยเป็น โรคซึมเศร้า เชน่ ผูส้ งู อายุท่มี ีโรคเร้อื รงั มีอาการซึมเศรา้ ชดั เจน ผ่านการสญู เสีย ทรี่ ุนแรงมาไมน่ าน หรอื มปี ญั หาสุรายาเสพติด วิธีการคดั กรองโรคซมึ เศร้าในผ้สู ูงอายทุ ่วั ไป เครอื่ งมือ แบบคดั กรองโรคซมึ เศร้า 2 ค�ำ ถาม (2Q) วตั ถุประสงค ์ ใช้คน้ หาผทู้ ่มี ีแนวโนม้ หรอื เสยี่ งต่อการป่วยเปน็ โรคซมึ เศร้า กลุ่มเปา้ หมาย ผ้สู งู อายใุ นชุมชนหรือกลมุ่ เส่ียง ผใู้ ช้ อาสาสมคั รสาธารณสขุ หรอื บคุ ลากรใน โรงพยาบาล สง่ เสริมสขุ ภาพต�ำ บล / โรงพยาบาลชุมชน แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพ่อื ป้องกนั ปัญหาสุขภาพจติ 34
ข้นั ตอนท่ี 2 การประเมนิ โรคซึมเศรา้ แนวทางการประเมินโรคซึมเศร้า เครอ่ื งมือ แบบประเมินโรคซึมเศร้า 9 ค�ำ ถาม (9Q) วตั ถุประสงค์ ชว่ ยการวินจิ ฉยั และใชป้ ระเมินจำ�แนกความรุนแรง กลุม่ เป้าหมาย ผู้สูงอายุในชุมชนและกลุ่มเสี่ยงที่มีผลบวกจากการ คัดกรองโรคซมึ เศรา้ 2 ค�ำ ถาม (2Q) ผใู้ ช้ พยาบาล / แพทย์ การดูแลช่วยเหลือผู้มีแนวโน้มป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและ การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีระดับความรุนแรง ระดบั น้อย การดแู ลชว่ ยเหลือผู้ที่มีโอกาสหรอื มแี นวโนม้ ปว่ ยเปน็ โรคซมึ เศรา้ วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ ปอ้ งกนั การเกดิ โรคซมึ เศรา้ ในกลมุ่ ทม่ี แี นวโนม้ ปว่ ย เป็นโรคซึมเศร้า กล่มุ เปา้ หมาย กลมุ่ ทมี่ แี นวโนม้ ปว่ ยเปน็ โรคซมึ เศรา้ จากการคดั กรอง โรคซึมเศรา้ ดว้ ยตนเอง 2Q ผปู้ ฏบิ ตั ิ บคุ ลากร (พยาบาล) ใน โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพ ตำ�บล / โรงพยาบาลชุมชน / โรงพยาบาลทั่วไป ที่ดำ�เนนิ การประเมินด้วย 9Q แนวทางการดูแลช่วยเหลอื 1. เมื่อแจ้งผลการประเมินโรคซึมเศร้าและสุขภาพจิตศึกษาโดย การสอบความถูกต้องและเพียงพอในความรู้เรื่องโรคซึมเศร้าและเพ่ิมเติมใน สว่ นทขี่ าดหรอื ไมถ่ กู ตอ้ ง อาจมอบเอกสารหรอื แนะน�ำ เทคโนโลยสี �ำ หรบั สง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจติ ใจของผ้สู งู อายุเพ่ือป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจิต 35
2. ประเมินว่ามีปัญหาด้านสังคมจิตใจหรือไม่ ถ้ามีควรให้การ ปรึกษาเพ่อื แกไ้ ขปัญหาดงั กลา่ ว 3. แนะน�ำ เทคโนโลยหี รอื สอื่ สขุ ภาพจติ เรอ่ื งโรคซมึ เศรา้ เชน่ แผน่ พบั หนงั สือ ฯลฯ 4. แนะน�ำ ให้ออกกำ�ลังกาย 30 - 45 นาที อย่างนอ้ ยสปั ดาห์ละ 3 ครั้ง 5. แนะนำ�ให้สำ�รวจ / ประเมินโรคซึมเศร้าด้วย 2Q ด้วยตนเอง เมอ่ื พบวา่ มผี ลบวกใหม้ าพบบคุ ลากรสาธารณสขุ เพอื่ ประเมนิ โรคซมึ เศรา้ อกี ครง้ั การดแู ลชว่ ยเหลอื ผปู้ ว่ ยโรคซมึ เศรา้ ทมี่ คี วามรนุ แรงระดบั นอ้ ย วตั ถุประสงค ์ เพ่ือให้ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าท่ีมีความรุนแรงระดับน้อย หายหรอื ทเุ ลา กลุม่ เป้าหมาย กลมุ่ ท่ีมีผลรวมคะแนน = 7 - 12 คะแนน จากการ ประเมินโรคซึมเศรา้ ดว้ ย 9Q แนวทางการด�ำ เนินการที่โรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำ�บล 1. ประเมนิ การฆา่ ตวั ตายดว้ ยแบบประเมนิ การฆา่ ตวั ตาย 8 ค�ำ ถาม (8Q) 2. แจ้งผลการประเมินโรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย และให้ สุขภาพจิตศึกษาโดยการทวนสอบความถูกต้องและเพียงพอในความรู้เรื่อง โรคซมึ เศรา้ และเพม่ิ เตมิ ในสว่ นขาดหรอื ไมถ่ กู ตอ้ งอาจมอบเอกสาร หรอื แนะน�ำ เทคโนโลยสี �ำ หรับส่งเสรมิ สุขภาพจิต 3. ประเมินว่ามีปัญหาด้านสังคมจิตใจหรือไม่ ถ้ามีควรให้การ ปรกึ ษาเพ่ือแกไ้ ขปญั หาดงั กลา่ ว แนวทางการดแู ลทางด้านสังคมจิตใจของผ้สู ูงอายุเพอื่ ปอ้ งกันปญั หาสุขภาพจติ 36
4. แนะน�ำ ใหอ้ อกก�ำ ลงั กาย นาน 30 - 45 นาที อยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 2 - 3 ครง้ั ยกเวน้ ในผู้ที่มีขอ้ จำ�กัดหา้ มออกก�ำ ลงั กาย 5. แนะน�ำ ให้ / สง่ ต่อเพอ่ื รบั การวนิ ิจฉัยและตรวจรักษาเพ่มิ เติมท่ี โรงพยาบาลชุมชน หรือ โรงพยาบาลท่ัวไป ใกลบ้ า้ น แนวทางการดำ�เนินการท่ีโรงพยาบาลชุมชนหรอื โรงพยาบาลทัว่ ไป 1. กรณีที่รับส่งต่อจากสถานีอนามัยหรือศูนย์สุขภาพชุมชนให้ พยาบาลหรอื ผู้รับผิดชอบประเมนิ ด้วยแบบประเมนิ โรคซมึ เศร้า 9Q ซาํ้ อกี ครงั้ ถา้ คะแนน ≥ 7 ให้ขออนุญาตประเมนิ ด้วยแบบประเมินการฆา่ ตัวตายดว้ ย 8Q 2. แจ้งผลการประเมินโรคซึมเศร้าและการฆ่าตัวตาย แล้วให้ สุขภาพจิตศึกษาโดยการทวนสอบความถูกต้องและพอเพียงในความรู้เรื่อง โรคซึมเศร้า จากน้ันจึงเพิ่มเติมในส่วนขาดหรือไม่ถูกต้องอาจมอบเอกสารหรือ แนะนำ�เทคโนโลยสี ำ�หรบั ส่งเสรมิ สขุ ภาพจติ และส่งพบแพทย์ 3. แพทย์ R/O โรคทางกายและประเมนิ ยาท่ีผู้ป่วยใช้อยู่ ให้หยุด หรือลดยาที่สามารถทำ�ให้เกิดอาการคล้ายโรคซมึ เศร้า 4. แจ้งผลการวินิจฉัยแก่ผู้ป่วยและญาติ พร้อมทั้งแนะนำ�การ ปฏิบตั ติ วั 5. ค้นหาและประเมินปัญหาจิตสังคม ถา้ มีควรใหก้ ารปรกึ ษาช่วย ผู้ปว่ ยใหส้ ามารถแกไ้ ขปัญหาท่ที กุ ข์ใจ (โดยสง่ ใหผ้ ้ใู หก้ ารปรึกษาทไี่ ดร้ บั การฝึก อบรมมาดแี ลว้ เป็นผู้ดำ�เนินการ) 6. นัดติดตามประเมินความรุนแรงของอาการซึมเศร้าด้วยแบบ ประเมินโรคซมึ เศรา้ 9Q แนวทางการดแู ลทางดา้ นสังคมจติ ใจของผ้สู ูงอายเุ พื่อป้องกันปญั หาสขุ ภาพจิต 37
แนวทางการดแู ลทางดา้ นสงั คมจติ ใจของผสู้ งู อายเุ พ่อื ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจติ 38
บทที่ 4 การดแู ลดา้ นสังคมจิตใจผ้สู งู อายุทปี่ ่วยด้วย โรคเรอื้ รงั ผสู้ งู อายถุ งึ 2 ใน 3 มกั เจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคเรอ้ื รงั และหากปรบั ตวั ไมไ่ ด้ หรอื ไมส่ ามารถดแู ลตวั เองไดด้ ี กท็ �ำ ใหอ้ าการก�ำ เรบิ การรกั ษาไมไ่ ดผ้ ล เกดิ ความเจบ็ ป่วยรนุ แรง พกิ ารหรอื เสยี ชีวิต มักพบเสมอว่าผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังและปรับตัวไม่ได้จะมี ปัญหาเครียด หงดุ หงดิ ง่าย ทอ้ แท้ ไมม่ ีกำ�ลังใจในการปรบั วถิ ีชวี ติ บางรายอาจ มอี าการกลวั วิตกกงั วลตอ่ สภาวะโรคท่ีเป็น การดูแลทางดา้ นสงั คมจติ ใจจะชว่ ยสนับสนุนให้ผสู้ งู อายแุ ละญาติเขา้ ใจ ปัญหาสุขภาพและการรักษาท่ีได้รับ การให้ความรู้ในเรื่องการปรับเปล่ียน พฤติกรรม เปลยี่ นวถิ ชี วี ติ เพ่อื ปอ้ งกนั หรือชะลอความรุนแรงของโรค บุคลากร ทางการแพทยค์ วรตระหนกั วา่ พฤตกิ รรมทเี่ กดิ ขนึ้ ของผสู้ งู อายแุ ละญาตเิ ปน็ ผล มาจากสัมพันธภาพและการขาดความไว้วางใจทำ�ให้เกิดความวิตกกังวลของ ผู้สูงอายุและญาตไิ ด้ ตวั อยา่ งเรอ่ื งเลา่ จากประสบการณต์ รงของผสู้ งู อายทุ ป่ี ว่ ยดว้ ย โรคเรอ้ื รังเมอ่ื ไปใชบ้ รกิ ารในสถานบรกิ ารสขุ ภาพ การจูงใจให้ผู้ป่วยปรับเปล่ียนพฤติกรรมเพื่อให้ผู้ป่วยเพ่ิมพฤติกรรมดี และลดพฤตกิ รรมเสย่ี ง การสอ่ื สารทเ่ี ปน็ เชงิ ต�ำ หนิ ขู่ เยาะเยย้ สบประมาท ฯลฯ พร้อมทง้ั การสือ่ สารทางกาย สหี น้าท่าทาง ท่เี ป็นลบ ควรระมดั ระวงั เพราะจะ ทำ�ให้ผู้ป่วยเสียกำ�ลังใจในการดูแลตนเองและมีพฤติกรรมต่อต้านผู้รักษาหรือ บุคลากรสาธารณสขุ แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผู้สงู อายเุ พอื่ ป้องกันปัญหาสขุ ภาพจิต 39
ตัวอย่างประโยคที่ผู้ป่วยไม่ต้องการ กรณีท่ีน้ําตาลในเลือดของผู้ป่วยสูง กวา่ มาตรฐาน หรอื ควบคุมไมไ่ ด้ เชน่ “จะเอาน้ําตาลไปขายหรืออย่างไรคะ คณุ ป้า” “นาํ้ ตาลสงู ๆอยา่ งน้ี เดย๋ี วกต็ าบอด (ไตวาย,อมั พาต, เสน้ เลอื ดสมอง แตก) หรอก” “แลว้ แตป่ า้ นะ จะท�ำ ไม่ทำ� ฉันไมร่ ูห้ รอก ตัวใครกต็ วั มัน” โดยทั่วไปผู้ป่วยส่วนมากมักคาดหวังว่า ผู้ให้การรักษาหรือบุคลากร สาธารณสขุ ควรมที า่ ทที อ่ี อ่ นโยน เหน็ อกเหน็ ใจ ใหก้ �ำ ลงั ใจฯลฯ และจะใหค้ วาม สนใจกับท่าทีของผู้ให้การรักษาหรือบุคลากรสาธารณสุขมาก และจะประเมิน ผใู้ ห้การรักษาหรอื บคุ ลากรสาธารณสุขทกุ คร้งั ท่ีไปรบั บรกิ าร จุดประสงคข์ องการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจ : 1. ชว่ ยใหผ้ สู้ งู อายทุ ปี่ ว่ ยดว้ ยโรคเรอ้ื รงั ใชช้ วี ติ อยา่ งสมดลุ ในการปรบั ตวั หรือวางแผนปรบั วิถชี วี ิตตนเองใหส้ มดลุ สอดคล้องกบั การรกั ษา 2. พัฒนาความสามารถของผู้สูงอายุในการดูแลตนเองท้ังเรื่องการ รบั ประทานยา อาหารและการออกก�ำ ลงั กาย ทกั ษะทจี่ ำ�เปน็ 1. วิธกี ารให้ค�ำ แนะน�ำ แบบสนั้ (Brief Advice) เพือ่ ให้คำ�แนะน�ำ เกยี่ ว กับโรคเรื้อรังที่เป็นและทำ�ให้ผู้สูงอายุตระหนักถึงปัญหาที่ผู้สูงอายุกำ�ลังละเลย หรือมองเหน็ ปัญหาและต้องการทราบแนวทางการแกไ้ ข 2. การเสริมสร้างพลังอำ�นาจ (Empowerment) เพื่อให้ผู้สูงอายุค้น พบปญั หาและจัดการกบั ปญั หาได้ดว้ ยตวั เอง 3. การสร้างแรงจูงใจ (Motivation Interviewing) เพือ่ เพิม่ ศกั ยภาพ ให้ผสู้ ูงอายรุ ้จู ักดแู ลตนเอง และปรับพฤติกรรมทพ่ี งึ ประสงค์ แนวทางการดูแลทางดา้ นสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พอื่ ป้องกันปัญหาสุขภาพจติ 40
แนวทางการให้บรกิ าร 1. วิธกี ารใหค้ ำ�แนะน�ำ แบบสัน้ (Brief Advice) (เทอดศกั ด์ิ เดชคง, 2555) การให้คำ�แนะนำ�แบบส้ัน (Brief Advice) หรือที่เรียกย่อๆว่า BA หมายถึง การให้ข้อมูลเชิงปรึกษาที่ใช้เวลา 5-10 นาที เพ่ือให้ผู้รับคำ�แนะนำ� เกิดความตระหนักในความเสี่ยงหรือปัญหาท่ีมองข้ามไปและรับทราบแนวทาง การแก้ไข ซ่ึงหลักการสำ�คัญที่สุด คือต้องฟังอย่างต้ังใจและจับประเด็นให้ได้ ว่าผูป้ ่วยมเี หตผุ ล/วธิ ีคดิ ต่อโรคท่ีเป็นอย่างไร ก่อนจะให้ขอ้ มูลต่อผ้ปู ว่ ย ขนั้ ตอนการให้คำ�แนะน�ำ แบบสนั้ หลงั สรา้ งสมั พนั ธภาพกบั ผสู้ งู อายแุ ลว้ ใหเ้ รม่ิ ตน้ ดว้ ย การประเมนิ ปญั หา คน้ หาปญั หา และระดับแรงจงู ใจ ดังน้ี 1. ใช้คำ�ถาม/การสนทนาเพ่อื สร้างแรงจูงใจ ไดแ้ ก่ การใชค้ �ำ ถามเพอ่ื กระตนุ้ ผปู้ ว่ ยใหเ้ หน็ ความส�ำ คญั ของปญั หา มองผลดีในอนาคตหากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพได้ หรือมองผลเสีย หากไม่เปลย่ี นแปลงตนเอง กลุ่มค�ำ ถามทีใ่ ชใ้ นการสรา้ งแรงจงู ใจไดแ้ ก่ 1. คุยเรอื่ งผลเสยี หากยงั มพี ฤตกิ รรมเดิม เชน่ “คุณคดิ วา่ จะ เปน็ อยา่ งไร หากปลอ่ ยให้น้ําหนักตวั มากอย่างน้ตี ่อไป” 2. คุยเร่ืองผลดีหากเปล่ียนแปลงพฤติกรรมสุขภาพได้ เช่น “จะเกดิ อะไรขึ้นหากคณุ กินยาความดนั โลหติ สงู ต่อเนือ่ ง” 3. คุยเรื่องความสำ�คัญของคนรอบข้าง เช่น “ลูกเขาจะรู้สึก อย่างไรกับการดมื่ สุราของคุณ” แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายเุ พอื่ ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจิต 41
4. คุยเรื่องเป้าหมายในชีวิต เช่น “คุณอยากให้สุขภาพเป็น อยา่ งไรในอกี สกั 20 ปีขา้ งหนา้ ” 5. การสนทนาเกยี่ วกบั ผลดผี ลเสยี ของทางเลอื กในชวี ติ แลว้ ให้ ผ้สู ูงอายุลองชัง่ นา้ํ หนกั ดวู า่ อย่างไหนจงึ จะเหมาะสมหรอื ดีกวา่ กนั เชน่ หากดม่ื สรุ าจะมขี ้อดอี ะไร ขอ้ เสียอะไร การเสพยาบ้ามีขอ้ ดอี ะไร ข้อเสียคืออะไร หรือ หากคณุ เลอื กที่จะไมเ่ อาใจใสต่ อ่ สุขภาพ กินตามใจปาก ไม่ออกก�ำ ลังกาย แล้ว ปลอ่ ยใหน้ า้ํ หนกั ตวั คณุ เปน็ เชน่ นต้ี อ่ ไปจะเกดิ อะไรขนึ้ บา้ ง แลว้ สดุ ทา้ ยคดิ วา่ ใคร จะดแู ลคณุ 2. การให้ขอ้ มูล การใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั วธิ กี ารหรอื วธิ ปี ฏบิ ตั ทิ จ่ี ะชว่ ยลดความเสยี่ งหรอื แก้ปัญหาสุขภาพ การให้ข้อมูลในจังหวะท่ีผู้ป่วยเร่ิมเกิดแรงจูงใจบ้างแล้วจะมี ความเหมาะสมเพราะผปู้ ว่ ยจะสนใจจดจำ�และน�ำ ไปใช้มากกว่าสภาวะปกติ การใหข้ ้อมูลในขณะนค้ี วรเป็นข้อมูลสนั้ ๆท่ีเขา้ ใจงา่ ย เชน่ กรณีของ การกินเค็มในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูงก็ควรให้ข้อมูลท่ีผู้สูงอายุทำ�ได้เช่น การกนิ เคม็ กนิ ไดข้ นาดไหน และกนิ แบบไหนทจี่ ะเกดิ โทษ หรอื การแนะน�ำ เรอื่ ง การออกกำ�ลังกายอาจแนะนำ�วิธีการออกกำ�ลังกายท่ีเหมาะสมกับสภาพของ ผปู้ ว่ ย เชน่ “คณุ ปา้ ตอ้ งออกก�ำ ลงั กายเสรมิ ความดนั จะไดล้ ด วธิ กี ารออกก�ำ ลงั กาย ก็ง่ายๆ ทำ�กายบริหารท่ีคุณป้าถนัด ไม่เกิดอันตราย ออกกำ�ลังกายนานพอให้ รสู้ กึ เหนอื่ ยกใ็ ห้พกั และจะรไู้ ด้อย่างไรวา่ เหนอ่ื ย กแ็ คค่ ุณปา้ รสู้ กึ วา่ ตอ้ งหายใจ ทางปากกพ็ กั แลว้ คอ่ ยเรมิ่ ใหมท่ �ำ อยา่ งนอ้ี ยา่ งนอ้ ยวนั ละ 2 ครงั้ นะคะ” เปน็ ตน้ พร้อมท้ังอาจให้แผ่นพับรายละเอียดเพิ่มเติมซึ่งผู้ป่วยสามารถศึกษาเองในภาย หลงั ได้ 3. การสรุปและใหก้ ำ�ลงั ใจ การใชค้ �ำ แนะน�ำ แบบสนั้ จะจบลงดว้ ยการสรปุ เกย่ี วกบั ปญั หา (หรอื ความเสย่ี ง) ทเ่ี ผชญิ อยแู่ ละทางแกไ้ ข พรอ้ มทง้ั เนน้ วา่ แรงจงู ใจหรอื พลงั ใจรวมทง้ั เหตุผล ซ่ึงจำ�เป็นในการเปลยี่ นแปลงจะไดม้ าจากสงิ่ ไหน แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผูส้ งู อายเุ พ่อื ปอ้ งกนั ปญั หาสุขภาพจิต 42
2. วิธีการเสริมสร้างพลังอำ�นาจ (Empowerment) เพื่อให้ ผสู้ งู อายคุ น้ พบปญั หาและจดั การกบั ปญั หาไดด้ ว้ ยตวั เอง (สจุ รติ สวุ รรณชพี , 2556) สาระส�ำ คัญ : ใหผ้ ู้สูงอายคุ น้ พบปัญหาด้วยตนเอง บุคลากรสาธารณสขุ เปน็ ผสู้ นบั สนนุ อยา่ ง ตอ่ เนอื่ งหรอื ชแี้ นะสง่ เสรมิ พฒั นาทกั ษะทจี่ �ำ เปน็ เพอื่ ใหผ้ ู้ สงู อายสุ ามารถจดั การแกไ้ ขปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ ดว้ ยตนเอง จนเกดิ ความเชอื่ มน่ั และ มัน่ ใจในการปฏิบัตอิ ย่างยั่งยนื แนวทางการช่วยเหลอื 1. กระตุน้ ใหผ้ ้สู งู อายุค้นพบสถานการณ์จริง ช่วยให้ผู้สูงอายุรับรู้ถึงปัญหาสุขภาพของตนเอง ด้วยการให้ ข้อมูลท่ีแท้จริงทางห้องปฏิบัติการ อาทิ “ขณะน้ีผลนํ้าตาลในเลือดของคุณป้า คือ 260 สงู กวา่ คา่ ปกตมิ าก แสดงถงึ การคมุ นํ้าตาลไม่ได้ เพราะคา่ ปกติคือ 120 และถา้ ไม่คุมน้ําตาลใหไ้ ด้จะเกิดผลเสียตอ่ ระบบตา่ งๆในร่างกายดังนี้ ......” ในช่วงน้ีมักพบว่าเม่ือได้รับทราบข้อมูลจากบุคลากรแล้วผู้สูง อายุส่วนใหญ่มักแสวงหาข้อมูลโดยสอบถามจากบุคลากรในประเด็นที่สงสัย มากทสี่ ดุ จนกว่าจะพอใจ จากนั้นมักจะตระหนักและยอมรับถึงปัญหาทเี่ กิดขึ้น บางรายพรอ้ มท่จี ะปรับเปล่ียนพฤตกิ รรมเพอ่ื ดแู ลสขุ ภาพของตนเอง 2. ข้ันการสะท้อนคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ ด้วยการ 2.1 ให้ผู้สูงอายุค้นหาทางเลือกที่จะปฏิบัติ ซ่ึงบุคลากรต้องใช้การ ถามเพ่ือกระตุ้นให้ผู้สูงอายุสะท้อนคิด ถึงแง่มุมต่างๆในการแก้ปัญหาท่ีตนให้ ความสำ�คัญ เชน่ “ทบี่ อกวา่ เชา้ มธี รุ ะตอ้ งสง่ หลานไปโรงเรยี น ท�ำ ใหอ้ อกก�ำ ลงั กาย ไมไ่ ด้ ถา้ เปลยี่ นมาออกก�ำ ลังกายตอนเยน็ เป็นไปได้หรือไม่” แนวทางการดูแลทางด้านสงั คมจติ ใจของผสู้ ูงอายุเพอื่ ปอ้ งกนั ปญั หาสขุ ภาพจิต 43
“กินข้าวครั้งละ 3 ทัพพี ถ้ากินผักต้มก่อนกินข้าวแล้วค่อยกิน ขา้ วล่ะ” 2.2 ให้เล่าประสบการณ์และประเมินผลการปฏิบัติที่ผ่านมา ทัง้ ล้มเหลวและประสบความส�ำ เร็จ จากนนั้ ชว่ ยกันประเมินผลที่เกดิ ข้นึ และหา ทางแก้ปัญหาร่วมกนั “โอโหทั้งๆท่ีนํ้าตาลก่อนหน้าน้ีต้ัง 200 แต่มาครั้งนี้นํ้าตาล ลดลงมาตั้ง 20 อะไรท่ที �ำ ใหค้ ณุ ปา้ สามารถลดนํ้าตาลไดต้ ัง้ 20 คะ” “เคยมมี ย้ั ทนี่ า้ํ ตาลลดจนเขา้ สเู่ กณฑป์ กตแิ ละครงั้ นนั้ ท�ำ อยา่ งไร /คุณลงุ ปฏิบัติตวั อยา่ งไร” “ท่ีเคยท�ำ ส�ำ เร็จแล้ว มนั มีผลดีอะไรบา้ ง” 2.3 ตัดสินใจเลือกการปฏิบัติที่เหมาะสม ด้วยการ กำ�หนดเป้า หมายและการระบุแนวทางที่จะปฏิบัติ เช่น “จากที่เล่ามาคุณลุงคิดว่าถ้าจะ ปรบั พฤตกิ รรมจะท�ำ อยา่ งไร เรมิ่ จากอะไรกอ่ น .... แลว้ ตอ่ จากนนั้ จะท�ำ อยา่ งไร ตอ่ ....” หรือ “สรุปว่าคุณลุงจะเปลี่ยนวิธีการกินอาหาร และเพ่ิมการ ออกกำ�ลงั กายใช่ไมค๊ ะ ลองทบทวนวิธปี ฏิบตั ิอกี สักครง้ั สคิ ะ วา่ จะทำ�อย่างไร” 2.4 สร้างแรงจูงใจให้คงอยู่ ด้วยการให้กำ�ลังใจ เน้นให้เห็นว่าผู้สูง อายุท�ำ ได้ เชน่ “วธิ ีท่คี ุณป้าเลา่ มาเปน็ วิธีการทดี่ ี เหมาะสมกับชวี ติ ของคณุ ป้า ซง่ึ ขออนญุ าตน�ำ เรอ่ื งดๆี เชน่ นไ้ี ปแนะน�ำ ผสู้ งู อายทุ า่ นอนื่ ทไ่ี มส่ ามารถลดนา้ํ ตาล ได้ จะไดไ้ หมคะ และหวังว่าพบกันคราวหนา้ นํ้าตาลคณุ ป้าคงลดลงนะคะ” “โอโหทั้งๆที่น้ําตาลก่อนหน้านี้ตั้ง 200 แต่มาครั้งน้ีนํ้าตาล ลดลงมาต้งั 20 ดิฉันของชน่ื ชมคณุ ปา้ ทีพ่ ยายามงดอาหารหวานทีช่ อบทานได้” แนวทางการดูแลทางด้านสังคมจิตใจของผสู้ ูงอายุเพอื่ ป้องกนั ปญั หาสุขภาพจติ 44
3. วิธีการสร้างแรงจูงใจ (Motivation Interviewing) เพื่อเพิ่ม ศักยภาพให้ผู้สูงอายุรู้จักดูแลตนเอง และปรับพฤติกรรมท่ีพึงประสงค์ (เทอดศักดิ์ เดชคง, 2555) สาระ : เป็นทักษะที่ใช้กับปัญหาทางด้านจิตใจ โดยช่วยให้ผู้รับการ ปรึกษาสามารถมองเห็นด้านท่ีเป็นบวกของตนเองและสถานการณ์ซ่ึงจะทำ�ให้ ผู้รับบริการมีความม่ันใจ มีความคาดหวัง และส่งเสริมความพยายามในการ แกป้ ัญหา การใหก้ �ำ ลังใจน้ีตอ้ งอิงอย่บู นศักยภาพของผูร้ บั การปรกึ ษาดว้ ย หลักการสำ�คัญ : ต้องให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าบุคลากรสาธารณสุขเป็นพวก เดยี วกบั เขา เพอ่ื ลดแรงเสยี ดทาน ก่อนทจ่ี ะสำ�รวจวา่ อะไรคือส่ิงส�ำ คญั ของผ้สู งู อายุ ตอ้ งระลึกไว้เสมอวา่ การใช้ค�ำ ถามท่กี ระตนุ้ ใหผ้ ู้สูงอายุอยากพดู หรืออยาก ตอบคำ�ถามจะชว่ ยนำ�สู่การสนทนากอ่ นนำ�มาวางแผนการรกั ษาร่วมกัน แนวทางการช่วยเหลือ 1. สรา้ งสัมพันธภาพ ทักทาย แนะนำ�ตวั พร้อมบอกวัตถปุ ระสงค์การ สนทนา 2. ประเมินแรงจูงใจในการดูแลตนเองและระดับความสำ�คัญในการ เปล่ยี นแปลงตนเอง 3. ถามเพ่อื สรา้ งแรงจูงใจ ใชค้ �ำ ถามปลายเปดิ โดยมงุ่ เน้นให้เห็นปญั หา - ถามเพ่ือให้ฉุกใจคิด หันมามองอนาคต/มองเป้าหมายในชีวิต ตนเอง เห็นความสำ�คัญของคนท่ีตนรักและห่วงใย จนเกิดความตั้งใจท่ีจะ ปรบั ปรุงตนเอง - ถามถึงอดีตทดี่ กี ว่า - ถามถงึ สิ่งเลวร้ายสดุ ๆท่ีเป็นไปได้ถา้ ไมด่ ูแลตนเอง - ถามถึงสิง่ ทดี่ ที ่ีสุดทเ่ี ป็นไปไดถ้ ้าคมุ โรคที่เป็นได้ แนวทางการดแู ลทางด้านสงั คมจิตใจของผสู้ งู อายุเพ่อื ป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพจติ 45
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106