Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรรณไม้ตะเเบกนา

พรรณไม้ตะเเบกนา

Published by jirapat.chairat34, 2019-09-11 02:51:13

Description: จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นกึ่งผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ประมาณ 15-35 เมตร เรือนยอดเป็นรูปเจดีย์ต่ำ ๆ แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบต้น เปลือกลำต้นเกลี้ยงเป็นสีเทาอมเหลือง หรือสีน้ำตาลอมเทา มีรอยขรุขระเป็นหลุมตื้น ๆ เกิดจากสะเก็ดแผ่นบาง ๆ ของเปลือกที่หลุดร่วงไป ดูคล้ายกับเปลือกต้นฝรั่ง แต่จะมีจุดด่างขาว ๆ อยู่ตามลำต้น ทางตอนบนของลำต้นจะค่อนข้างเรียบ ส่วนเปลือกชั้นในเป็นสีชมพูอมม่วง ซ้อนกันเป็นชั้น ๆ สลับกับชั้นลายเส้นสีขาว โคนต้นเป็นพูพอนชัดเจน ตรงส่วนที่เป็นพูพอนมักจะกลวงขึ้นไปประมาณ 3-5 เมตรจากผิวดิน ตามกิ่งอ่อนมีขนสีน้ำตาลสาก ๆ ขึ้นหนาแน่น เนื้อไม้มีความแข็งประมาณ 628 กก. ความถ่วงจำเพาะประมาณ 0.68 ความแข็งแรงประมาณ 1,219 กก./ตร.ซม. ความเหนียวประมาณ 2.89-กก.-ม. ความดื้อประมาณ 112,700 กก.ตร.ซม. และมีความทนทานตามธรรมชาติ ตั้งแต่ 3-17 ปี เฉลี่ยประมาณ 9.4 ปี อาบน้ำยาไม้ได้ยากมาก (ชั้นที่ 5) ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด พบขึ้นในป่าราบ ป่าดงดิบ และป่าเบญจพรรณชื้นและแล้งทั่วไปทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-400 เมตร พบได้

Keywords: พันธ์ุไม,ต้นตะเเบกนา

Search

Read the Text Version

โรงเรียนเทศบาล 7 (ศริ ินาวนิ วทิ ยา) สังกดั กรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถ่ิน ฐ า น ข้ อ มู ล พ ร ร ณ ไ ม้ โรงเรียนเทศบาล 7 (ศิรินาวนิ วทิ ยา) ต้นตะแบกนา 130 ถนนสขุ สวสั ด์ิ 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลาปาง 52000

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Lagerstroemia calyculata Kurz ช่ือเรียกอื่น : ตะแบกขาวใหญ่ , ตะแบกใหญ่ , เปลือยดง , ตะแบกหนงั , ตะแบกแดง , เปลือย ช่ือวงศ์ : LYTHRACEAE ลกั ษณะ : จดั เป็ นพรรณไมย้ ืนตน้ ก่ึงผลดั ใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีความสูงได้ ประมาณ 15-35 เมตร เรือนยอดเป็ นรูปเจดียต์ ่า ๆ แตกก่ิงกา้ นสาขาออกรอบตน้ เปลือกลาตน้ เกล้ียงเป็ นสีเทาอมเหลือง หรือสีน้าตาลอมเทา มีรอยขรุขระเป็ นหลุม ต้ืน ๆ เกิดจากสะเกด็ แผน่ บาง ๆ ของเปลือกที่หลดุ ร่วงไป ดูคลา้ ยกบั เปลือกตน้ ฝร่ัง แต่จะมีจุดด่างขาว ๆ อยตู่ ามลาตน้ ทางตอนบนของลาตน้ จะค่อนขา้ งเรียบ ส่วน เปลือกช้นั ในเป็ นสีชมพูอมม่วง ซอ้ นกนั เป็ นช้นั ๆ สลบั กบั ช้นั ลายเส้นสีขาว โคน ตน้ เป็ นพูพอนชดั เจน ตรงส่วนที่เป็ นพูพอนมกั จะกลวงข้ึนไปประมาณ 3-5 เมตร จากผิวดิน ตามกิ่งอ่อนมีขนสีน้าตาลสาก ๆ ข้ึนหนาแน่น เน้ือไม้มีความแข็ง ประมาณ 628 กก. ความถ่วงจาเพาะประมาณ 0.68 ความแข็งแรงประมาณ 1,219 กก./ตร.ซม. ความเหนียวประมาณ 2.89-กก.-ม. ความด้ือประมาณ 112,700 กก.ตร. ซม. และมีความทนทานตามธรรมชาติ ต้งั แต่ 3-17 ปี เฉลี่ยประมาณ 9.4 ปี อาบ น้ายาไมไ้ ดย้ ากมาก (ช้นั ท่ี 5) ขยายพนั ธุ์ดว้ ยเมล็ด พบข้ึนในป่ าราบ ป่ าดงดิบ และ ป่ าเบญจพรรณช้ืนและแลง้ ทวั่ ไปทางภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวนั ออก ภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ และภาคตะวนั ออกเฉียงใต้ ท่ีมีความสูงจากระดบั น้าทะเล ประมาณ 100-400 เมตร พบไดม้ ากที่ป่ ายบุ ศรีราชา (ตน้ ตะแบกท่ีข้ึนในป่ าดงดิบ จะไมผ่ ลดั ใบ)

การกระจายพนั ธ์ุ : พบตามป่ าเบญจพรรณช้ืน ป่ าดิบ ป่ าน้าท่วม ตามทอ้ งนา ท่ีความสูง 20 300 เมตร จากระดบั น้าทะเล ช่วงเวลาการออกดอก : ออกดอกเดือนพฤศจิกายน เดือนมกราคม ประโยชน์ : และเดือนพฤษภาคม เดือนกรกฎาคม ติดผล เดือนธนั วาคม เดือนกมุ ภาพนั ธ์ ไมต้ ะแบกเป็ นไมท้ ่ีมีคุณค่าชนิดหน่ึงของไทย เน้ือไมม้ ีลกั ษณะเป็ นสีเทาถึงสี น้าตาลอมเทา เส้ียนไมต้ รงหรือเกือบตรง เน้ือไมม้ ีความละเอียดปานกลาง เป็ นมนั แข็ง เหนียว แข็งแรง เล่ือยไสกบ ตกแต่งไดง้ ่าย ขดั ชักเงาไดด้ ี จึงมีการนามาใช้ ประโยชน์กนั มาก ไม่ว่าจะเป็ นการนามาใชท้ าสิ่งปลูกสร้างที่ตอ้ งการรับน้าหนกั มาก ๆ เช่น รอด ตอ กาน เคร่ืองบน ไมป้ าร์เกต์ ใชใ้ นงานก่อสร้างอาคารบา้ นเรือน เรือ แพ เกวียน แจว เครื่องมือกสิกรรม ฯลฯ ส่วนไมต้ ะแบกชนิดลายจะนิยม นามาใชท้ าเครื่องเรือน ดา้ มหอก ดา้ มมีด พานทา้ ยปื น คิวบิลเลียด ด้ามปากกา ดา้ ม ร่ม ไมถ้ ือ กรอบรูปภาพ สันแปรง ไมบ้ ุผนังที่สวยงาม มีลกั ษณะเหมือนไมเ้ สลา สามารถนามาใชท้ ดแทนกนั ไดด้ ี[2] เนื้อไม้: ใชท้ าส่ิงปลูกสร้างที่รับน้าหนกั และทาเครื่องมือการเกษตร ราก: แกแ้ ผลในปากและคอ แก่น: แกโ้ รคเก่ียวกบั ทางเดินปัสสาวะ เปลือก: แกไ้ ข แกท้ อ้ งเสีย ใบ: ยอดออ่ นรับประทานเป็นผกั สด ตม้ หรือชงแกเ้ บาหวาน ขบั ปัสสาวะ เมลด็ : แกเ้ บาหวาน นอนไมห่ ลบั แหล่งข้อมูล: สานักงานหอพรรณไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่ าและพันธ์ุ พืช แหล่งอ้างองิ :

ลกั ษณะของลาตน้ ลกั ษณะของใบ

ลกั ษณะของดอก ลกั ษณะของผล

ผู้ จั ด ทา ❖ ด.ช จิรภทั ร ชยั รัน์ ม.2 เลขที่4 ❖โรงเรียนเทศบาล7(ศิรินาวนิ วิทยา) มธั ยมศึกษาปี ท่ี2


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook