Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรคณิต ป.2ปรับ 62

หลักสูตรคณิต ป.2ปรับ 62

Published by lawan borisut, 2020-03-22 10:42:43

Description: หลักสูตรคณิต ป.2ปรับ 62

Search

Read the Text Version

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ สาระที่ ๑ จานวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขึน้ จากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ทักษะกระบวนการ คณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ ๑. บอกจานวนของสิ่งตา่ ง ๆ จานวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐และ ๐ ๑. การแก้ปญั หา แสดงสิ่งตา่ ง ๆ - การนบั ทลี ะ ๒ ทลี ะ ๕ทีละ ๑๐และทีละ ๒. การสือ่ สารและการส่อื ๑. ทางานอยา่ งเปน็ ตามจานวนทีก่ าหนด อา่ น ระบบ และเขยี นตัวเลข ๑๐๐ ความหมายทาง ฮินดูอารบิก ตวั เลขไทย - การอา่ นและการเขียนตวั เลขฮินดอู ารบิก คณติ ศาสตร์ ๒. มีระเบียบวินยั ตัวหนังสือแสดง ๓. การเชอ่ื มโยง ๓. มคี วามรอบคอบ จานวนนบั ไม่เกิน๑,๐๐๐ ตวั เลขไทย และตวั หนงั สอื แสดงจานวน ๔. มีความรับผิดชอบ และ ๐ - จานวนคู่ จานวนคี่ ๕. มวี ิจารณญาณ - หลกั คา่ ของเลขโดดในแตล่ ะหลกั และ ๖. มคี วามเชื่อม่นั ใน ๒. เปรยี บเทยี บจานวนนบั ไม่ เกิน ๑,๐๐๐และ ๐ การเขยี นตวั เลขแสดงจานวนในรปู ตนเอง โดยใช้เครอื่ งหมาย = >< กระจาย ๗. ตระหนักในคุณคา่ - การเปรยี บเทยี บและเรียงลาดับจานวน ๓. เรยี งลาดบั จานวนนบั ไม่เกนิ และมเี จตคติทดี่ ตี ่อ ๑,๐๐๐ และ ๐ วชิ าคณติ ศาสตร์

ตัง้ แต่ ๓ ถงึ ๕ จานวนจาก สถานการณ์ต่าง ๆ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั กลุม่ สาระการเรยี นร้คู ณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ สาระท่ี ๑ จานวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดขน้ึ จากการดาเนินการ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ทักษะกระบวนการ คุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ ๔. หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน การบวก การลบ การคณู การหาร ประโยคสัญลกั ษณ์ แสดง จานวนนับไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ การบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์ - การบวกและการลบ แสดงการลบ ของจานวน - ความหมายของการคณู ความหมาย นับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ ของการหาร การหาผลคูณ การหา ๕. หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่ ใน ผลหารและเศษ และความสัมพนั ธ์ของ ประโยคสญั ลกั ษณ์ การคูณและการหาร แสดงการคูณของจานวน ๑ หลกั - การบวก ลบ คณู หารระคน กบั จานวนไม่เกิน ๒ หลัก - การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ ปญั หา พร้อมทง้ั หาคาตอบ

๖. หาคา่ ของตัวไมท่ ราบคา่ ใน ประโยคสญั ลักษณ์ แสดงการหารท่ตี วั ต้ังไมเ่ กนิ ๒ หลกั ตวั หาร ๑ หลกั โดยทีผ่ ลหารมี ๑ หลกั ท้งั หา คาตอบ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ สาระที่ ๑ จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของจานวน ผลที่เกิดขน้ึ จากการดาเนนิ การ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง ทักษะกระบวนการ คณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ๗. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนของจานวนนับ ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ๘. แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ ปัญหา ๒ ขั้นตอน ของ จานวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๒ สาระที่ ๑จานวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. ๑.๒ เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟงั กช์ ัน ลาดบั และอนุกรม และนาไปใช้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ทักษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ (มกี ารจัดการเรยี นการสอน แบบรปู เพ่ือเป็นพ้ืนฐาน แต่ไม่ - แบบรูปของจานวนทีเ่ พ่ิมขนึ้ หรือลดลงที ๑. การแก้ปญั หา ๑. ทางานอย่างเปน็ ระบบ ละ๒

วดั ผล) ทลี ะ ๕ และทลี ะ ๑๐๐ ๒. มรี ะเบียบวินยั แบบรปู ซ้า ๓. มีความรอบคอบ ๔. มีความรับผิดชอบ ๕. มวี ิจารณญาณ ๖. มคี วามเชอื่ มั่นใน ตนเอง ๗. ตระหนกั ในคณุ ค่า และมีเจตคตทิ ด่ี ี ตอ่ วิชา คณติ ศาสตร์ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณิต มาตรฐานค. ๒.๑ เขา้ ใจพืน้ ฐานเกี่ยวกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ตี อ้ งการวัดและนาไปใช้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์

๑. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ เวลา ๑. การแก้ปญั หา ๑. ทางานอยา่ งเปน็ ปญั หาเกีย่ วกับเวลา ๒. การส่ือสารและการสือ่ ระบบ ที่มหี นว่ ยเดย่ี วและเปน็ หนว่ ย - การบอกเวลาเปน็ นาฬิกาและนาที (ช่วง เดยี วกัน ๕ นาท)ี ความหมายทาง ๒. มีระเบยี บวนิ ยั คณิตศาสตร์ ๓. มคี วามรอบคอบ ๒. วัดและเปรียบเทียบความยาว - การบอกระยะเวลาเป็นชวั่ โมงเป็นนาที ๓. การเชื่อมโยง ๔. มีความรับผดิ ชอบ เปน็ เมตรและเซนตเิ มตร - การเปรียบเทียบระยะเวลาเปน็ ชัว่ โมงเปน็ ๕. มีวิจารณญาณ ๖. มคี วามเชือ่ มั่นใน ๓. แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ นาที ปญั หาการบวก การลบ - การอา่ นปฏิทิน ตนเอง เกย่ี วกบั ความยาวที่มหี น่วย ๗. ตระหนกั ในคณุ ค่า เป็นเมตรและเซนติเมตร การแกโ้ จทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั เวลา ความยาว และมีเจตคติทด่ี ี ตอ่ วชิ า - การวดั ความยาวเป็นเมตรและเซนตเิ มตร คณิตศาสตร์ - การคาดคะเนความยาวเปน็ เมตร - การเปรยี บเทยี บความยาวโดยใช้ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเมตรกบั เซนตเิ มตร การแกโ้ จทย์ปัญหาเกีย่ วกบั ความยาวท่ีมี หนว่ ยเปน็ เมตรและเซนติเมตร กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ สาระที่ ๒ การวดั และเรขาคณิต รายวชิ าคณิตศาสตร์

มาตรฐาน ค. ๒.๑ เขา้ ใจพ้นื ฐานเกย่ี วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสิง่ ทตี่ ้องการวดั และนาไปใช้ ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ ๔. วดั และเปรยี บเทียบน้าหนกั น้าหนกั เปน็ กิโลกรมั และกรัม -การวัดน้าหนักเป็นกิโลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขีด กิโลกรัมและขดี ๕.แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ -การคาดคะเนน้าหนักเปน็ กิโลกรัม ปัญหาการบวก การลบเกีย่ วกับ -การเปรียบเทยี บนา้ หนักโดยใชค้ วามสัมพันธ์ นา้ หนักท่ีมหี นว่ ยเปน็ กโิ ลกรัม ระหว่างกโิ ลกรัมกบั กรัม กิโลกรมั กับขดี และกรมั กโิ ลกรมั และขดี การแกโ้ จทย์ปัญหาเกย่ี วกบั น้าหนกั ท่มี หี นว่ ย เปน็ กิโลกรัมและกรมั กิโลกรัมและขีด ๖. วัดและเปรียบเทยี บปริมาตร ปรมิ าตรและความจุ และความจเุ ปน็ ลติ ร - การวัดปริมาตรและความจโุ ดยใชห้ นว่ ยท่ี ไม่ใช่หนว่ ยมาตรฐาน - การวดั ปรมิ าตรและความจุเปน็ ชอ้ นชา ช้อนโต๊ะ ถว้ ยตวง ลิตร

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๒ สาระท่ี ๒ การวัดและเรขาคณติ มาตรฐาน ค. ๒.๑ เขา้ ใจพ้ืนฐานเก่ยี วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการวัดและนาไปใช้ ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ - การเปรยี บเทยี บปริมาตรและความจุเป็น ชอ้ นชา ชอ้ นโต๊ะ ถ้วยตวง ลติ ร - การแก้โจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและ ความจุ ที่มีหน่วยเป็นช้อนชา ชอ้ นโตะ๊ ถว้ ยตวง ลติ ร

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๒ สาระที่ ๒ การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค. ๒.๒ เข้าใจและวเิ คราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบตั ขิ องรูปเรขาคณติ ความสัมพนั ธ์ระหว่างรปู เรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง ทกั ษะกระบวนการ คุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ๑. จาแนกและบอกลกั ษณะของ รูปเรขาคณิตสองมิติ ๑. การแกป้ ญั หา รูปหลายเหลยี่ มและวงกลม - ลักษณะของรปู หลายเหลีย่ ม วงกลม และ ๒. การส่อื สารและการสื่อ ๑. ทางานอยา่ งเป็น ระบบ วงรี ความหมายทาง และการเขียนรปู เรขาคณิตสองมติ โิ ดยใช้ คณติ ศาสตร์ ๒. มรี ะเบียบวนิ ัย แบบของรปู ๓. มีความรอบคอบ ๔. มคี วามรับผดิ ชอบ ๕. มีวจิ ารณญาณ ๖. มีความเชื่อม่นั ใน ตนเอง ๗. ตระหนกั ในคณุ ค่า และมเี จตคติที่ดตี ่อ วิชาคณติ ศาสตร์

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ สาระท่ี ๓ สถิตแิ ละความน่าจะเปน็ คณุ ลักษณะ มาตรฐาน ค. ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปญั หา อันพึงประสงค์ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ทักษะกระบวนการ

การนาเสนอขอ้ มลู ๑. การแกป้ ญั หา ๑. ทางานอยา่ งเปน็ ๑. ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ิรูปภาพ การอา่ นแผนภูมิรูปภาพ ๒. การส่อื สารและการสอ่ื ระบบ ในการหาคาตอบ ความหมายทาง ๒. มรี ะเบียบวนิ ัย ของโจทย์ปัญหาเม่ือกาหนด คณิตศาสตร์ ๓. มคี วามรอบคอบ รูป ๑ รปู แทน ๒หนว่ ย ๔. มีความรับผดิ ชอบ ๕หน่วย หรือ ๑๐หน่วย ๕. มีวจิ ารณญาณ ๖. มคี วามเช่ือมัน่ ใน ตนเอง ๗. ตระหนักในคุณค่า และมเี จตคตทิ ีด่ ตี ่อ วชิ าคณติ ศาสตร์ โครงสรา้ งรายวิชา รายวชิ าคณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์ จานวน ๑๐๐ ช่วั โมง ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๒ ภาคเรยี นที่ ๑ หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วย มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา (ชม.) คะแนน

ระหว่างภาค ปลายภาค ๑ จานวนนบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ ค ๑.๑ ป.๒/๑ บอกจานวนของสง่ิ ตา่ ง อ่านและเขยี นตัวเลขฮนิ ดู ๒๒ ๘ ๔ และ ๐ ป. ๒/๒ อารบกิ ตวั เลขไทย ตัวหนงั สือแสดงจานวนนบั จานวนคู่ ป. ๒/๓ จานวนค่ี การนบั ของจานวนทเ่ี พิ่มขึ้นหรือลดลงทีละ ๒ ทีละ ๕ และทีละ ๑๐๐ เปรียบเทียบและเรยี งลาดบั จานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ ๒ การบวกและการลบ ค ๑.๑ ป. ๒/๔ หาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการบวกและ ๒๒ ๘๔ จานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ การลบของจานวนนับไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ แก้และสร้างโจทย์ และ ๐ ปัญหา พร้อมทัง้ หาคาตอบ ๓ การวดั ความยาว ค ๒.๑ ป.๒/๒ การวดั การคาดคะเน การเปรียบเทียบ และการแก้โจทย์ ๑๘ ๖๓ ป.๒/๓ ปัญหาเกีย่ วกบั ความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร ๔ การชง่ั น้าหนกั ค ๒.๑ ป.๒/๔ การวดั การคาดคะเน การเปรียบเทียบ และการแก้โจทย์ ๑๘ ๖๓ ป.๒/๕ ปญั หาเกีย่ วกบั นา้ หนักที่มหี น่วยเปน็ กิโลกรัมและกรัม กโิ ลกรัมและขีด ๕ การคูณ ค ๑.๑ ป. ๒/๕ ความหมายและความสัมพนั ธข์ องการคณู หาคา่ ของตัวไม่ทราบ ๑๘ ๖๒ คา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับ จานวนไมเ่ กนิ ๒ หลักแก้และสรา้ งโจทย์ปัญหา พรอ้ มทงั้ หา คาตอบ รวมภาคเรียนท่ี๑ ๑๐๐ ๓๕ ๑๕ โครงสรา้ งรายวชิ า รายวชิ าคณติ ศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๒ จานวน ๑๐๐ ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี ๒ หน่วยท่ี ช่อื หน่วย มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด เวลา (ชม.) คะแนน ค ๑.๑ ป. ๒/๖ ๑๘ ระหวา่ งภาค ปลายภาค ๖ การหาร หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการหาร ค ๒.๑ ป.๒/๑ ทต่ี วั ต้ังไม่เกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยที่ผลหารมี ๑ ๒๐ ๖๒ ๗ เวลา หลักท้ังหารลงตัวและหารไมล่ งตัวแก้และสร้างโจทยป์ ญั หา ค ๒.๑ ป.๒/๖ พรอ้ มทั้งหาคาตอบ ๑๔ ๗๓ ๘ ปริมาตรและความจุ บอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที บอกและเปรียบเทียบ ค ๒.๒ ป.๒/๑ ระยะเวลาเป็นช่ัวโมง เป็นนาที อา่ นปฏิทิน แสดงวธิ ี ๑๔ ๕๒ ๙ รปู เรขาคณติ สองมติ ิ ค ๑.๑ ป. ๒/๗ หาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเก่ียวกับเวลาทมี่ ีหน่วยเดี่ยว ๒๐ ป. ๒/๘ และเป็นหนว่ ยเดยี วกนั ๑๖ ๕๒ ๑๐ การบวก ลบ คณู หาร ค ๓.๑ ป.๒/๑ การวดั ปรมิ าตรและความจโุ ดยใช้หนว่ ยท่ีไมใ่ ช่หน่วย ๗๓ ระคน มาตรฐาน การวัด การเปรียบเทยี บ และการแก้โจทย์ ๖๒ ปัญหาเก่ยี วกับปรมิ าตรและความจุ ท่ีมีหน่วยเปน็ ชอ้ น ๑๑ แผนภมู ริ ปู ภาพ ชา ช้อนโต๊ะ ถ้วยตวง ลิตร จาแนก บอกลักษณะของรปู หลายเหลย่ี ม วงกลม วงรี และเขียนรปู เรขาคณติ สองมิติโดยใชแ้ บบรปู หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน แสดงวิธหี าคาตอบ ของโจทย์ปญั หา ๒ ขนั้ ตอนของจานวนนบั ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ ใชข้ ้อมูลจากแผนภูมิรปู ภาพในการหาคาตอบของโจทย์ ปญั หาเม่อื กาหนดรปู ๑ รูป แทน ๒ หนว่ ย ๕ หนว่ ย

หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด เวลา (ชม.) คะแนน ระหว่างภาค ปลายภาค หรอื ๑๐ หน่วย ๑๐๐ ๓๕ ๑๕ รวมภาคเรียนที่๒ ๒๐๐ ๗๐ ๓๐ รวมทั้งสน้ิ

คาอธิบายรายวชิ า รหัสวชิ า ค๑๒๑๐๑ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง ศึกษา ฝกึ ทักษะการคิดคานวณและฝึกแกป้ ญั หา จานวนนบั ๑ ถึง ๑,๐๐๐ และ ๐ บอกและแสดงจานวนสิ่งต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดู อารบิก ตัวเลขไทย การบอกอันดับท่ีหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละหลัก และเขียนแสดงจานวนในรูปกระจาย เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ โดยใช้ เคร่ืองหมาย =≠ >< เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ตัง้ แต่ ๓ ถึง ๕ จานวน และหาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการบวก การลบ การ แก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบของจานวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลกั กบั จานวนไมเ่ กิน ๒ หลัก และประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวต้ังไม่เกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยท่ีผลหารมี ๑ หลัก ท้ังหารลงตัวและหารไม่ลงตัว หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หาร ระคนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอนของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เกี่ยวกับเวลาท่ีมีหน่วยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียว วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร พร้อมทั้งแสดงวิธีการหาคาตอบของโจท ย์ปัญหาการบวก การลบ ความยาว ท่ีมีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรมั และขีด พรอ้ มทั้งแสดงวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบเก่ียวกับน้าหนักท่ีมีหน่วยเป็นกิโลกรัมและกรัม กิโลกรัมและขีด วัดและเปรียบเทียบปริมาตรและความจุเป็นลิตร จาแนกและบอกลักษณะ ของรูปหลายเหล่ียม และวงกลม ใชข้ ้อมูลจากแผนภมู ริ ปู ภาพ และใช้ขอ้ มูลจากแผนภูมิรปู ภาพเกี่ยวกับประเทศในอาเซียนในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อกาหนดรปู ๑ รูปแทน ๒ หน่วย ๕ หน่วยหรือ ๑๐ หนว่ ย

โดยใช้ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆได้อย่างเหมาะสม รู้จักใช้วิธีการท่ีหลากหลายในการ แก้ปัญหา ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจและสรุปผลได้อย่างเหมาะสม สื่อความหมายและการนาเสนอข้อมูลได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงการเตรียมความพร้อมต่อ ภยั พิบัติท่อี าจเกดิ ข้ึน เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร สื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และสามาร ถนาไปใช้ในการ เรียนรู้สิ่งต่างๆ และใช้ในชีวิตประจาวันอย่างสร้างสรรค์ มีระเบียบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และมีความเชื่อม่ันในตนเอง สามารถทางานอย่างเป็นระบบ รวมท้ัง เห็นคุณคา่ และมเี จตคติท่ีดีตอ่ คณติ ศาสตร์ และสามารถตัดสินใจในส่งิ ท่ีมีผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดลอ้ ม ตวั ชี้วดั ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘ ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖ ค ๒.๒ป.๒/๑ ค ๓.๑ป.๒/๑ รวม ๑๖ ตวั ช้ีวดั ผลการเรียนรู้ของ ASEAN Curriculum Sourcebook 1. บุคคลและชุมชนสามารถเตรียมความพร้อมสาหรับภัยพิบตั ิทางธรรมชาติท่ีอาจเกดิ ขน้ึ ได้ 2. การกระทาของเราในแต่ละวนั สามารถสร้างความยงั่ ยนื ในอนาคตได้

การกาหนดแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนตามตัวชีว้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรู้ : คณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๒ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน/สอ่ื ทใี่ ช้ มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั คาสาคัญ พฤตกิ รรม ระดับพฤตกิ รรม หลักฐานการเรยี นรู้ การเรียนรู้ การเรียนรู้ (ถ้ามี) แบบฝกึ หดั ๔. บอกจานวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ แสดงส่ิง บอก (ระบุ KPA) ต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อา่ น (ระดับทีต่ ้องการ ๑. ยกตัวอย่างตวั เลขอารบิกในบตั รคาแลว้ ให้นกั เรียน และเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบิก K สูงสดุ ในตัวชี้วัด) เขยี นตวั เลขไทยและตวั เลขหนงั สือเอง ตัวเลขไทย ตัวหนงั สือแสดง ๒. ให้นกั เรียนจบั คบู่ ตั รคาเลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลขไทย จานวนนับไมเ่ กิน๑,๐๐๐ และ ๐ จา และตวั หนงั สอื

๕. เปรยี บเทยี บจานวนนับไมเ่ กนิ เปรยี บเทียบ K วเิ คราะห์ ๑. เปรียบเทียบส่งิ ของ แบบทดสอบ ๑,๐๐๐และ ๐ โดยใช้ เรียงลาดบั K เข้าใจ ๑. สมุ่ หยบิ บัตรตัวเลข ๒ ตวั และให้นกั เรียน ใบงาน เครอ่ื งหมาย = >< เปรียบเทยี บจานวนมากกว่า, น้อยกวา่ โดยใช้สัญลักษณ์ ๑. ครูสุ่มตวั เลข ๓ จานวน แล้วอธิบายการเรียงลาดบั ๓. เรียงลาดบั จานวนนับไมเ่ กิน ๒. ครูสุ่มตัวเลข ๔, ๕ จานวน แลว้ ให้นักเรียนฝึก ๑,๐๐๐ และ ๐ ต้งั แต่ ๓ ถึง ๕ เรียงลาดบั เอง จานวนจากสถานการณ์ต่าง ๆ การออกแบบการวดั และประเมนิ ผลในชน้ั เรยี น กล่มุ สาระการเรียนรู้ : คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๒ มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด คาสาคญั พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ แนวทางการประเมิน วิธกี ารและเคร่อื งมือ ๑. บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงส่งิ ตา่ ง ๆ ตามจานวนทีก่ าหนด อ่านและเขยี น KPA ตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตวั หนงั สอื แสดงจานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ บอก / ๑. ใหน้ ักเรยี นจับคู่บัตรคาตวั เลข ๑. แบบทดสอบจับคู่ ๒. เปรยี บเทยี บจานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ ๒. ให้นักเรยี นเขียนตัวเลข ๒. ประเมินช้นิ งาน ฮินดอู ารบิก ตวั เลขไทย และตัวหนังสอื เปรียบเทียบ / ๑. ให้นกั เรยี นหยิบบตั รตัวเลข ๑. ประเมนิ การหยบิ บตั ร

และ ๐ โดยใชเ้ ครอื่ งหมาย = >< เปรยี บเทียบจานวน ๒. ใบงานการ ๒. ให้นักเรยี นทาใบงานการ เปรยี บเทียบ ๓. เรียงลาดับจานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ เรียงลาดบั / เปรยี บเทยี บจานวนโดยการใช้ ๐ ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จานวนจาก สญั ลกั ษณ์แทน ๑. ใบงานการเรียงลาดบั สถานการณ์ต่าง ๆ ๑. ให้นักเรียนทาใบงานการ จานวน เรียงลาดบั จานวน หน่วยการเรยี นรู้ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ : คณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ บทท่ี ๑ จานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สาระสาคญั / สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชน้ิ งาน/ภาระงาน แนวทางการจัด ความคดิ รวบยอด สมรรถนะสาคัญ คุณลกั ษณะ กิจกรรมการเรยี นรู้ ของผเู้ รียน อันพงึ ประสงค์ ค ๑.๑ป.๒/๑ บอกจานวนของสงิ่ ต่าง จานวนนับไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐ - ความสามารถ - ใฝเ่ รียนรู้ - แบบทดสอบการ ๑. ยกตัวอยา่ งตัวเลข บอกจานวนของสิ่งต่าง ๆ อา่ นและเขยี นตวั เลข และ ๐ ในการคิด - ม่งุ มั่นในการ จับคจู่ านวน อารบกิ ในบตั รคาแล้ว

แสดงสง่ิ ตา่ ง ๆ ตาม ฮนิ ดู - การนับทลี ะ ๒ ทลี ะ - ความสามารถ ทางาน - ใบงานการ ให้นักเรยี นเขียนตวั เลข จานวนท่กี าหนด อ่านและ อารบกิ ตัวเลขไทย ๕ทีละ ๑๐และทลี ะ ในการส่อื สาร - ความรบั ผิดชอบ เปรียบเทียบจานวน ไทยและตวั เลขหนงั สอื เขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิก ตัวหนงั สอื แสดงจานวน ๑๐๐ - ความสามารถ - ใบงานการ ๒. ใหน้ ักเรยี นจับคู่ ตัวเลขไทย ตวั หนงั สอื นับ จานวนคู่ จานวน - การอ่านและการเขียน ในการเช่ือมโยง เรียงลาดับจานวน บัตรคาเลขฮนิ ดอู ารบิก แสดงจานวนนบั ไมเ่ กนิ ค่ี การนับของจานวน ตัวเลขฮินดูอารบกิ ตวั เลขไทย และ ๑,๐๐๐ และ ๐ ทเ่ี พม่ิ ขึ้นหรือลดลงที ตัวเลขไทย และ ตวั หนงั สอื ค ๑.๑ป.๒/๒ ละ ๒ ทีละ ๕ และที ตัวหนังสือแสดงจานวน ๓. เปรียบเทียบ เปรียบเทียบจานวนนับไม่ ละ ๑๐๐ เปรียบเทียบ - จานวนคู่ จานวนค่ี ส่ิงของ เกนิ ๑,๐๐๐และ ๐ โดยใช้ และเรยี งลาดบั จานวน - หลัก คา่ ของเลขโดดใน ๔. สุม่ หยบิ บัตรตวั เลข เคร่อื งหมาย = >< นบั ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ แตล่ ะหลักและการเขียน ๒ ตัว และใหน้ ักเรียน และ ๐ ตัวเลขแสดงจานวนใน เปรียบเทยี บจานวน ค ๑.๑ป.๒/๓ เรียงลาดบั รปู กระจาย มากกวา่ , น้อยกว่า โดย จานวนนบั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐ -การเปรียบเทยี บและ ใชส้ ญั ลกั ษณ์ และ ๐ ตง้ั แต่ ๓ ถึง ๕ เรียงลาดับ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั / สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชนิ้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคิดรวบยอด สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ กจิ กรรมการเรียนรู้ ของผู้เรียน อนั พงึ ประสงค์ ๕. ครสู ่มุ ตวั เลข ๓ จานวน แล้วอธบิ าย การเรียงลาดับ ๖. ครสู ุม่ ตวั เลข ๔, ๕ จานวน แล้วให้ นักเรยี นฝึกเรยี งลาดับ

เอง บทท่ี ๒ การบวกและการลบจานวนนับไม่เกนิ ๑,๐๐๐ มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคัญ/ สาระการเรียนรู้ นาไปสู่ ชิน้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ -ทบทวนการบวกจานวน สมรรถนะสาคญั คณุ ลักษณะ -แบบฝึกทักษะ สอง -ใบงานการบวก -การบวกโดยใช้เส้น ของผ้เู รียน อันพงึ ประสงค์ ลบ ค ๑.๑ป.๒/๔ หาค่า บวกจานวนสองจานวน - ความสามารถ - ใฝเ่ รียนรู้ ของตวั ไม่ทราบค่าใน โดยใชเ้ ส้นจานวน แผน่ ประโยคสญั ลกั ษณ์ ตารางรอ้ ย ตารางสิบ ในการคดิ - ม่งุ ม่นั ในการ - ความสามารถ ทางาน

แสดงการบวกและ ตารางหน่วย การบวกที่ จานวน ในการส่อื สาร - ความรับผดิ ชอบ - ซื่อสัตย์ สจุ ริต ประโยคสญั ลักษณ์ ไม่มีการทด มีการทด การ - การหาผลบวกโดยใช้ - ความสามารถ แสดงการลบของ ลบทีไ่ ม่มีการกระจาย แผ่นตารางรอ้ ย ตารางสบิ ในการแกป้ ัญหา ตารางหน่วย จานวนนับไม่เกิน และมกี ารกระจาย แก้ -การบวกจานวนสอง จานวนที่ไมม่ ีการทดและมี ๑,๐๐๐ และ ๐ โจทย์ปัญหาการบวก ลบ การทด - การบวกสามจานวน และสร้างโจทย์ปัญหาการ -การลบท่ไี ม่มีการกระจาย - การลบที่มีการกระจาย ค ๑.๑ ป.๒/๘ แสดง บวก ลบ -ความสมั พันธ์ของการ บวกและการลบ วธิ ีหาคาตอบของโจทย์ ปัญหา ๒ ข้ันตอน ของ จานวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐ - การหาตัวไม่ทราบคา่ ของ การบวกและการลบ -โจทยป์ ญั หาการบวก -โจทยป์ ัญหาการลบ - การสรา้ งโจทย์ปัญหา การบวกและการลบ บทที่ ๓ การวดั ความยาว สาระสาคัญ/ สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิ้นงาน/ภาระงาน แนวทางการจดั มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด

ความคดิ รวบยอด สมรรถนะสาคญั คุณลักษณะ กิจกรรมการเรียนรู้ ของผเู้ รียน อันพงึ ประสงค์ ค ๒.๑ป.๒/๒ วดั และ เลือกเครื่องมือวัดท่ี - การวดั ความยาวเป็นเมตร - ใฝเ่ รียนรู้ -แบบฝึกทักษะ เปรียบเทียบความยาว เหมาะสม เปรยี บเทยี บ และเซนติเมตร - ความสามารถ - มงุ่ มั่นในการ - ใบงาน เปน็ เมตรและ ความยาว การวัดความ - การเปรียบเทยี บความ ในการคดิ ทางาน เซนติเมตร ยาวของสิ่งของต่างๆเปน็ - ความสามารถ - ความรบั ผดิ ชอบ ค ๒.๑ป.๒/๓ แสดงวิธี เมตร เซนติเมตร บวก ลบ ยาว ในการสอื่ สาร - ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต หาคาตอบของโจทย์ เกยี่ วกับความยาวและแก้ - การบวกและการลบ ปญั หาการบวก การ โจทยป์ ญั หาความยาว - ความสามารถ ลบเกีย่ วกบั ความยาวท่ี เกี่ยวกบั ความยาว มีหนว่ ยเป็นเมตรและ - โจทยป์ ญั หาการบวก ในการแก้ปญั หา เซนตเิ มตร - ความสามารถ การลบเก่ยี วกบั ความ ยาว ในการใช้ทักษะ ชวี ติ บทท่ี ๔ การวดั นา้ หนกั มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสาคัญ/ สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิ้นงาน/ภาระงาน แนวทางการจัด ค ๒.๑ป.๒/๔ วดั และ ความคิดรวบยอด สมรรถนะสาคัญ คณุ ลกั ษณะ - แบบฝึกทักษะ กจิ กรรมการเรียนรู้ - อา่ นนา้ หนกั เปรียบเทียบ - การวัดนา้ หนักเป็น กรัม ของผเู้ รียน อันพึงประสงค์ - ความสามารถ - ใฝ่เรยี นรู้

เปรยี บเทยี บน้าหนัก น้าหนกั เป็นกโิ ลกรัมและ กโิ ลกรัมและขดี ในการคดิ - มงุ่ มั่นในการ - ใบงาน ทางาน เปน็ กิโลกรัมและกรมั กรัม กโิ ลกรัมและขีด - ความสัมพันธข์ องหน่วย - ความสามารถ - ความรับผดิ ชอบ - ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต กิโลกรัมและขีด การบวกและการลบ น้าหนัก ในการสื่อสาร ค ๒.๑ป.๒/๕ แสดง เก่ยี วกับนา้ หนัก - การเปรียบเทยี บน้าหนัก - ความสามารถ วิธีหาคาตอบของโจทย์ และโจทยป์ ัญหาการบวก - การบวกและการลบ ในการแก้ปัญหา ปัญหาการบวก การ การลบเกีย่ วกับน้าหนัก เกย่ี วกับน้าหนัก - ความสามารถ ลบเกีย่ วกับน้าหนกั ทีม่ ี - โจทยป์ ญั หาการบวก ในการใช้ทักษะ หนว่ ยเปน็ กิโลกรมั และ การลบเกย่ี วกบั นา้ หนัก ชีวติ กรัม กโิ ลกรมั และขีด บทที่ ๕ การคณู สาระสาคญั / สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิ้นงาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคิดรวบยอด มาตรฐาน/ตัวชี้วดั สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ กิจกรรมการเรยี นรู้

ค ๑.๑ป.๒/๕ หาคา่ ความหมายของการคูณ - ความหมายของการคูณ ของผู้เรียน อนั พึงประสงค์ ของตัวไมท่ ราบคา่ ใน - ใฝเ่ รียนรู้ ประโยคสัญลักษณ์ การคณู จานวนหนง่ึ หลกั - การคูณจานวนหน่งึ หลัก - ความสามารถ - ม่งุ มัน่ ในการ แสดงการคูณของ ในการคิด ทางาน จานวน ๑ หลกั กบั กบั จานวนหนงึ่ หลกั การ กับจานวนหน่ึงหลกั - ความรบั ผิดชอบ จานวนไม่เกิน ๒ หลกั - ความสามารถ - ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ คูณจานวนหนึง่ หลกั กบั - การคูณจานวนหน่ึงหลัก ในการแก้ปัญหา จานวนสองหลัก การหาตัว กับจานวนสองหลกั - ความสามารถ ไมม่ าทราบค่าในประโยค - การหาตวั ไม่มาทราบค่า ในการใช้ทักษะ ชวี ติ สัญลกั ษณ์การคณู โจทย์ ในประโยคสัญลักษณ์ ปญั หาการคูณ การสร้าง การคูณ โจทย์ปญั หาการคูณ - โจทย์ปัญหาการคูณ - การสรา้ งโจทย์ปัญหา การคูณ บทท่ี ๖ การหาร

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั สาระสาคญั / สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิน้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคิดรวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ ค ๑.๑ป.๒/๖ หาคา่ สมรรถนะสาคัญ คณุ ลักษณะ - แบบฝกึ ทกั ษะ ของตวั ไมท่ ราบค่าใน - ใบงาน ประโยคสัญลักษณ์ ของผเู้ รียน อนั พงึ ประสงค์ แสดงการหารทีต่ ัวตัง้ ไม่เกิน ๒ หลัก ตวั หาร ความหมายของการหาร - ความหมายของการหาร - ความสามารถ - ใฝ่เรยี นรู้ ๑ หลัก โดยทีผ่ ลหาร มี ๑ หลักพรอ้ มทั้งหา ความสมั พนั ธ์ของการคูณ - ความสมั พนั ธ์ของการ ในการคิด - มุง่ มน่ั ในการ คาตอบ กบั การหาร การหารลงตวั คณู กบั การหาร - ความสามารถ ทางาน และหารไม่ลงตวั การหา - การหารลงตวั และหาร ในการแก้ปญั หา - ความรับผิดชอบ - ความสามารถ - ซื่อสัตย์ สจุ ริต คา่ ของตัวไม่ทราบค่าใน ไมล่ งตวั ประโยคสัญลักษณก์ ารหาร - การหาคา่ ของตวั ไม่ ในการใชท้ ักษะ ชวี ิต โจทยป์ ัญหาการหาร ทราบค่าในประโยค การสรา้ งโจทย์ปัญหาการ สัญลกั ษณ์การหาร หาร - โจทย์ปญั หาการหาร - การสร้างโจทยป์ ญั หา การหาร

บทที่ ๗ เวลา มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคัญ/ สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิน้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ - การอ่านปฏทิ นิ สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะ - การบอกเวลาเปน็ ของผ้เู รียน อนั พึงประสงค์ นาฬิกาและนาที ค ๒.๑ ป.๒/๑ แสดง การอา่ นปฏิทนิ การบอก - การบอกระยะเวลาเป็น - ความสามารถ - ใฝเ่ รียนรู้ - แบบฝกึ ทกั ษะ วิธหี าคาตอบของโจทย์ เวลาเป็นนาฬิกาและนาที ชวั่ โมง นาที ในการคิด - มุ่งมน่ั ในการ - ใบงาน - โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ปัญหาเก่ยี วกบั เวลาทีม่ ี การบอกระยะเวลาเป็น - ความสามารถ ทางาน เวลา หน่วยเดี่ยวและเป็น ชั่วโมง นาที โจทยป์ ัญหา ในการส่ือสาร - ความรับผิดชอบ หน่วยเดียวกัน เก่ียวกับเวลา - ความสามารถ - ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ ในการแกป้ ญั หา - ความสามารถ ในการใชท้ ักษะ ชีวิต

บทท่ี ๘ การวดั ปรมิ าตร มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด สาระสาคัญ/ สาระการเรียนรู้ นาไปสู่ ชิน้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ - การวัดและเปรยี บเทียบ สมรรถนะสาคญั คณุ ลักษณะ - แบบฝกึ ทกั ษะ ปรมิ าตรของของแหง้ - ใบงาน โดยใช้หน่วยทไ่ี ม่ใช่ ของผเู้ รียน อันพึงประสงค์ หนว่ ยมาตรฐาน ค ๒.๑ป.๒/๖ วดั และ การวัดและเปรียบเทยี บ - ความสามารถ - ใฝเ่ รียนรู้ เปรียบเทยี บปรมิ าตร ปรมิ าตร ความจขุ อง - การวดั ปรมิ าตรเปน็ ลติ ร และความจุเปน็ ลติ ร ภาชนะ การเปรียบเทียบ - การเปรียบเทียบ ในการคิด - มุง่ มัน่ ในการ ความจขุ องภาชนะ โจทย์ ปริมาตรเป็นลติ ร - ความสามารถ ทางาน ปัญหาการบวก การลบ - ความจขุ องภาชนะเป็น ในการสือ่ สาร - ความรบั ผิดชอบ ลติ ร - การเปรยี บเทยี บความจุ - ความสามารถ - ซอ่ื สัตย์ สุจริต ของภาชนะ ในการแกป้ ัญหา - โจทย์ปัญหาการบวก - ความสามารถ การลบ ในการใช้ทักษะ ชวี ติ

บทท่ี ๙ รูปเรขาคณิต มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด สาระสาคัญ/ สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิน้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ ของผู้เรียน อนั พงึ ประสงค์ ค ๒.๒ป.๒/๑ จาแนก - บอกลกั ษณะของทรง - ทรงสีเ่ หลีย่ มมุมฉากกับ - ความสามารถ - ใฝเ่ รียนรู้ - แบบฝกึ ทกั ษะ และบอกลกั ษณะของรปู ส่ีเหลยี่ มมมุ ฉาก รูป หลายเหลยี่ มและวงกลม ส่ีเหล่ียมมมุ ฉาก ทรง รปู สเี่ หลี่ยมมุมฉาก ทรง ในการคดิ - มงุ่ ม่ันในการ - ใบงาน กลม วงกลม รปู หลาย กลมกับวงกลม - ความสามารถ ทางาน เหล่ียมและแบบรูป - - รปู หลายเหล่ียม ในการส่อื สาร - ความรับผิดชอบ - วงกลมและวงรี - ความสามารถ - ซ่ือสัตย์ สจุ ริต - แบบรูป ในการแกป้ ัญหา - ความสามารถ ในการใช้ทักษะ ชวี ิต

บทท่ี ๑๐ การบวก ลบ คณู หารระคน มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั สาระสาคญั / สาระการเรียนรู้ นาไปสู่ ชิน้ งาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคดิ รวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะ ของผเู้ รียน อนั พึงประสงค์ ค ๑.๑ป.๒/๗ หา การหาผลลพั ธ์การบวก - การหาผลลัพธ์การบวก - ความสามารถ - ใฝเ่ รยี นรู้ - แบบฝกึ ทกั ษะ ผลลัพธก์ ารบวก ลบ ลบ คณู หารระคน โจทย์ ลบ คูณ หารระคน ในการคิด - มุง่ ม่นั ในการ - ใบงาน คูณ หารระคนของ ปัญหาการบวก การลบ - โจทย์ปัญหาการบวก - ความสามารถ ทางาน จานวนนบั ไม่เกิน การคณู และการหาร ๒ การลบ ๒ ขน้ั ตอน ในการแกป้ ัญหา - ความรบั ผดิ ชอบ - โจทย์ปญั หาการบวก - ความสามารถ - ซ่อื สตั ย์ สจุ ริต ๑,๐๐๐ และ ๐ ขั้นตอน ค ๑.๑ ป.๒/๘ แสดง การลบ การคูณและการ ในการใช้ทักษะ ชีวิต วิธีหาคาตอบของโจทย์ หาร ๒ ข้ันตอน ปญั หา ๒ ข้นั ตอน ของ จานวนนบั ไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐

บทที่ ๑๑ แผนภมู ิรูปภาพ มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั สาระสาคญั / สาระการเรยี นรู้ นาไปสู่ ชิ้นงาน/ภาระงาน แนวทางการจดั ความคิดรวบยอด กิจกรรมการเรยี นรู้ - การอ่านแผนภูมริ ูปภาพ สมรรถนะสาคญั คณุ ลักษณะ - ของผูเ้ รียน อันพงึ ประสงค์ ค ๓.๑ป.๒/๑ ใช้ การอา่ นแผนภมู ริ ูปภาพ - ความสามารถ - ใฝเ่ รยี นรู้ - แบบฝกึ ทักษะ ขอ้ มูลจากแผนภมู ิ รปู ภาพในการหา ในการคิด - ม่งุ มน่ั ในการ - ใบงาน คาตอบของโจทยป์ ญั หา เมอื่ กาหนดรูป ๑ รปู - ความสามารถ ทางาน แทน ๒หนว่ ย ๕หนว่ ย หรือ ๑๐หน่วย ในการสื่อสาร - ความรบั ผิดชอบ - ความสามารถ - ซ่อื สัตย์ สจุ ริต ในการแกป้ ญั หา - ความสามารถ ในการใชท้ ักษะ ชวี ิต

อภิธานศัพท์ การแจกแจงของความนา่ จะเปน็ (probability distribution) การอธิบายลักษณะของตวั แปรสุ่มโดยการแสดงคา่ ที่เป็นไปได้ และความน่าจะเปน็ ของการเกดิ คา่ ต่าง ๆ ของตัวแปรสุ่มน้ัน การประมาณ (approximation) การประมาณเป็นการหาคา่ ซึ่งไมใ่ ชค่ ่าที่แทจ้ ริง แต่เป็นการหาคา่ ทม่ี ีความละเอียดเพยี งพอท่จี ะนาไปใช้ เช่น ประมาณ ๒๕.๒๐ เป็น ๒๕ หรือประมาณ ๑๗๘ เป็น ๑๘๐ หรือประมาณ ๑๘.๔๕ เปน็ ๒๐ เพอื่ สะดวก ในการคานวณ ค่าทไ่ี ดจ้ ากการประมาณ เรยี กว่า คา่ ประมาณ การประมาณค่า (estimation) การประมาณค่าเป็นการคานวณหาผลลัพธโ์ ดยประมาณ ด้วยการประมาณแตล่ ะจานวนท่ีเก่ียวขอ้ ง กอ่ นแลว้ จงึ นามาคานวณหาผลลพั ธ์ การประมาณแตล่ ะจานวน ท่จี ะนามาคานวณอาจใชห้ ลักการปัดเศษ หรอื ไมใ่ ชก้ ็ได้ ขึ้นอยู่กบั ความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ การแปลงทางเรขาคณิต (geometric transformation) การแปลงทางเรขาคณิตในท่นี ้ีเนน้ ท้ังการแปลงท่ีทาใหไ้ ดภ้ าพที่เกดิ จากการแปลงมีขนาดและรูปร่างเหมือนกบั รูปตน้ แบบ ซึง่ เป็นผลจากการเลื่อนขนาน (translation) การสะท้อน (reflection) และการหมนุ (rotation) รวมทง้ั การแปลงท่ีทาใหไ้ ดภ้ าพทเี่ กดิ จากการแปลงมีรูปร่างคลา้ ยกับรูปต้นแบบ แ ตม่ ีขนาดแตกตา่ ง จากรปู ต้นแบบ ซง่ึ เป็นผลมาจากการย่อ/ ขยาย (dilation) การสืบเสาะ การสารวจ และการสร้างขอ้ ความคาดการณเ์ กีย่ วกับสมบตั ิทางเรขาคณติ การสืบเสาะ การสารวจ และการสร้างข้อความคาดการณเ์ ป็นกระบวนการเรียนรู้ทส่ี ง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รียนสร้างองคค์ วามรู้ข้ึนมาด้วยตนเอง ในที่น้ใี ช้สมบัตทิ างเรขาคณติ เปน็ สอ่ื ในการเรียนรู้ ผสู้ อนควรกาหนดกจิ กรรมทางเรขาคณิตทผี่ เู้ รียนสามารถใชค้ วามรู้พ้ืนฐานเดมิ ทเ่ี คยเรยี นมาเป็นพ้ืนฐานในการตอ่ ยอดความรู้ดว้ ยการสบื เสาะ สารวจ

สงั เกตหาแบบรปู และสร้างข้อความคาดการณท์ ี่อาจเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามผู้ สอน ตอ้ งให้ผู้เรยี นตรวจสอบวา่ ข้อความคาดการณ์นั้นถูกต้องหรอื ไม่ โดยอาจคน้ ควา้ หา ความรู้เพิม่ เตมิ ว่าข้อความ คาดการณ์นัน้ สอดคล้องกบั สมบัติทางเรขาคณติ หรือทฤษฎีบททางเรขาคณติ ใดหรือไม่ ในการประเมินผล สามารถพิจารณาไดจ้ ากการทา กจิ กรรมของผู้เรยี น การแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา การแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา เป็นการแสดงแนวคิด วิธกี าร หรอื ขนั้ ตอนของการหาคาตอบ ของโจทย์ปัญหา โดยอาจใชก้ ารวาดภาพประกอบ เขียนเปน็ ขอ้ ความดว้ ยภาษางา่ ย ๆ หรืออาจเขียนแสดงวธิ ที าอย่างเปน็ ขน้ั ตอน การหาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คณู หารระคน การหาผลลัพธข์ องการบวก ลบ คูณ หารระคน เป็นการหาคาตอบของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารทม่ี ี เครื่องหมาย + - × ÷ มากกว่าหนึง่ เครื่องหมายท่ี แตกต่างกัน เช่น (๔ + ๗) – ๓ = (๑๘ ÷ ๒) + ๙ = (๔ × ๒๕) – (๓ × ๒๐) = ตัวอย่างต่อไปนี้ ไม่เปน็ โจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน (๔ + ๗) + ๓ = เปน็ โจทยก์ ารบวก ๒ ขัน้ ตอน (๔ × ๑๕) × (๕ × ๒๐) = เป็นโจทย์การคณู ๓ ขน้ั ตอน การใหเ้ หตุผลเก่ียวกบั ปริภูม(spatial reasoning)

การใหเ้ หตุผลเก่ยี วกับปริภูมิในที่นเี้ ป็นการใช้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสมบัติตา่ งๆของรูปเรขาคณิตและความสัมพันธร์ ะหวา่ งรูปเรขาคณติ มาให้เหตผุ ลหรอื อธบิ ายปรากฏการณห์ รือแก้ปัญหาทางเรขาคณติ ขอ้ มูล(data) ข้อมูลเป็นข้อเท็จจริงหรือส่ิงทย่ี อมรับว่าเป็นข้อเท็จจริงของเร่ืองทส่ี นใจซ่ึงได้จากการเก็บรวบรวม อาจเปน็ ไดท้ ั้งข้อความและตัวเลข ความรสู้ ึกเชงิ จานวน(number sense) ความรู้สกึ เชิงจานวนเป็นสามัญสานกึ และความเข้าใจเกีย่ วกับจานวนทอี่ าจพจิ ารณาในด้านต่างๆเช่น  เขา้ ใจความหมายของจำนวนที่ใช้บอกปรมิ าณ(เช่นดินสอ๕แท่ง)และใช้บอกอันดับท(ี่ เชน่ เต้วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนท๕ี่ )  เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ท่ีหลากหลายของจานวนใดๆกับจานวนอนื่ ๆเชน่ ๘ มากกว่า ๗ อยู่ ๑แตน่ อ้ ยกวา่ ๑๐ อยู่ ๒  เขา้ ใจเกี่ยวกับขนาดหรือค่าของจานวนใดๆเมอ่ื เปรยี บเทียบกบั จานวนอ่ืนเช่น๘ มคี า่ ใกลเ้ คยี งกับ ๔ แต๘่ มีคา่ น้อยกว่า ๑๐๐มาก  เข้าใจผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดาเนนิ การของจานวนเชน่ ผลบวกของ๖๕ + ๔๒ ควรมากกวา่ ๑๐๐เพราะวา่ ๖๕>๖๐ ๔๒>๔๐ และ๖๐ + ๔๐=๑๐๐  ใช้เกณฑ์จากประสบการณ์ ในการเทียบเคียงเพ่ือพจิ ารณาความสมเหตุสมผลของจานวนเชน่ การรายงานว่าผู้เรียนช้ันประถมศึกษาปีท๑ี่ คนหนึง่ สงู ๒๕๐ เซนติเมตร น้ันไมน่ ่าจะเป็นไปได้ ความสมั พันธแ์ บบส่วนยอ่ ย– ส่วนรวม(part – wholerelationship) ความสมั พันธ์แบบส่วนย่อย– ส่วนรวมของจานวนเป็นการเขียนแสดงจานวนในรูปของจานวน๒จานวนขึน้ ไปโดยทีผ่ ลบวกของจานวนเหล่านน้ั เทา่ กบั จานวนเดิม เชน่ ๘ อาจเขยี นเปน็ ๒ กับ๖ หรอื ๓ กับ ๕หรือ๐ กับ๘ หรือ๑ กบั ๒ กับ๕ ซง่ึ อาจเขยี นแสดงความสมั พนั ธ์ได้ดังนี้ ๘๘ ๐๑ ๘ ๘๒

๒๖ ๓๕ ๘๕ จำนวน(number) จานวนเป็นคาทไี่ มม่ คี าจากัดความ(คำอนยิ าม) จำนวนแสดงถงึ ปรมิ าณของส่ิงต่างๆจานวนมหี ลายชนิด เช่น จานวนนับจำนวนเตม็ เศษส่วน ทศนยิ ม จำนวนทหี่ ายไป หรือรูปทีห่ ายไป จานวนทหี่ ายไปหรอื รูปทีห่ ายไปเป็นจานวนหรอื รปู ท่ีเม่ือนำมาเตมิ ส่วนท่ีว่างในแบบรปู แล้วทาใหค้ วามสมั พนั ธ์ในแบบรูปนัน้ ไม่เปล่ียนแปลงเชน่ ๑ ๓ ๕ ๗ ๙ ....... จานวนทีห่ ายไปคือ๑๑ ∆ ∆ ........∆ รปู ท่หี ายไปคือ ตวั ไมท่ ราบคา่ ตัวไมท่ ราบค่าเป็นสญั ลักษณ์ทใี่ ชแ้ ทนจานวนท่ยี ังไม่ทราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์ซึ่งตัวไม่ทราบคา่ จะอยู่ส่วนใดของประโยคสัญลักษณ์ก็ได้ ในระดบั ประถม ศึกษาการหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ อาจหาไดโ้ ดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของการบวกและการลบหรือการคูณและการหารเช่น + ๓๓๓=๙๙๙ ๑๘ ×ก=๕๔ ๑๒๐= A÷๙ ๗๘๙ -๑๕๖= ตวั เลข(numeral) ตวั เลขเป็นสญั ลักษณ์ทีใ่ ช้แสดงจานวน ตัวอย่าง

เขยี นตวั เลขแสดงจานวนมังคุดไดห้ ลายแบบเช่น ตัวเลขไทย:๗ ตัวเลขฮินดูอารบกิ : 7 ตัวเลขโรมนั : VII ตัวเลขท้งั หมดแสดงจำนวนเดียวกนั แม้วา่ สญั ลักษณ์ท่ใี ชจ้ ะแตกตา่ งกัน ตารางทางเดียว (one-waytable) ตารางทางเดยี วเป็นตารางที่มีการจาแนกรายการตามหัวเร่อื งเพียงลักษณะเดยี วเทา่ น้ันเชน่ จานวน นักเรียนของโรงเรียนแหง่ หนึ่งจาแนกตามชนั้ ปี จานวนนกั เรียนของโรงเรยี นแห่งหนึ่งจาแนกตามช้ันปี ชนั้ จานวน(คน)

ประถมศึกษาปีที่๑ ๖๕ ประถมศึกษาปีที่๒ ๗๐ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๖๙ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ๖๒ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ๗๒ ประถมศึกษาปีท่ี๖ ๖๐ รวม ๓๙๘ ตารางสองทาง(two-way table) ตารางสองทางเปน็ ตารางทม่ี ีการจาแนกรายการตามหวั เรื่องสองลักษณะเชน่ จานวนนกั เรียนของโรงเรียนแห่งหน่งึ จำแนกตามชั้นปี และเพศ จานวนนกั เรียนของโรงเรยี นแหง่ หนึ่งจาแนกตามชั้นปีและเพศ ช้ัน เพศ รวม(คน) ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ ชาย(คน) หญิง (คน) ๖๕ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ๗๐ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ ๓๘ ๒๗ ๖๙ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ ๓๓ ๓๗ ๖๒ ประถมศึกษาปีท่ี ๕ ๓๒ ๓๗ ๗๒ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ ๒๘ ๓๔ ๖๐ ๓๒ ๔๐ รวม ๒๕ ๓๕ ๓๙๘ แถวลาดับ(array) ๑๘๘ ๒๑๐

แถวลาดบั เปน็ การจดั เรียงจานวนหรอื ส่งิ ต่างๆ ในรปู แถวและสดมภอ์ าจใช้แถวลำดบั เพื่ออธิบายเกีย่ วกับการคณู และการหารเช่น การคณู การหาร ๒× ๕ = ๑๐ ๑๐ ÷๒ =๕ ๕×๒ = ๑๐ ๑๐ ÷๕ =๒ ทศนิยมซ้า ทศนยิ มซา้ เป็นจำนวนทม่ี ตี ัวเลขหรอื กลุม่ ของตัวเลขที่อยู่หลังจุดทศนยิ มซ้ากนั ไปเร่ือยๆ ไมม่ ที ส่ี นิ้ สุด เชน่ ๐.๓๓๓๓…๐.๔๑๖๖๖... ๒๓.๐๒๑๘๑๘๑๘... ๐.๒๔๓๒๔๓๒๔๓… สำหรบั ทศนิยมเชน่ ๐.๒5ถือว่าเปน็ ทศนิยมซา้ เช่นเดยี วกันเรยี กวา่ ทศนยิ มซา้ ศนู ย์ เพราะ ๐.๒๕=๐.๒๕๐๐๐...ในการเขียนตัวเลขแสดงทศนิยมซ้าอาจเขียนไดโ้ ดยการเติม•ไว้ เหนอื ตัวเลขที่ซ้ากัน เช่น ๐.๓๓๓๓… เขียนเปน็ ๐.๓. อ่านวา่ ศูนยจ์ ุดสาม สามซา้ ๐.๔๑๖๖๖... เขียนเปน็ ๐.๔๑๖. อา่ นว่าศนู ยจ์ ดุ สห่ี นึ่งหกหกำซ้ หรือเติม•ไวเ้ หนือกล่มุ ตัวเลขที่ซา้ กัน ในตำแหน่งแรกและตำแหนง่ สุดทา้ ยเชน่ ๒๓.๐๒๑๘๑๘๑๘... เขียนเป็น๒๓.๐๒๑๘. อ่านวา่ ย่ีสิบสามจดุ ศนู ย์สองหน่งึ แปดหน่งึ แปดซา้ ๐.๒๔๓๒๔๓๒๔๓… เขยี นเป็น๐.๒.๔๓. อ่านวา่ ศูนย์จดุ สองสี่สามสองส่ีสามซา้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เปน็ ความสามารถทีจ่ ะนาความรู้ไปประยกุ ต์ใช้ในการเรียนรู้ สงิ่ ต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรูแ้ ละประยุกต์ใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา เป็นกระบวนการท่ีผู้เรียนควรจะเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาให้เกิดทักษะข้ึนในตนเอง เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ เพ่ือให้ผู้เรียนมีแนวทางในการคิดท่ี หลากหลาย รู้จักประยุกต์และปรับเปลี่ยน วิธีการแก้ปัญหาให้เหมาะสม รู้จักตรวจสอบและสะท้อนกระบวนการ แก้ปัญหา มีนิสัยกระตือรือร้น ไม่ย่อท้อ รวมถึงมีความ ม่ันใจในการแก้ปัญหาท่ีเผชิญอยู่ท้ังภายในและภายนอกห้องเรียน นอกจากนี้ การแก้ปัญหา ยังเป็นทักษะพ้ืนฐานท่ีผู้เรียนสามารถนาไปใช้ใ นชีวิตจริงได้ การส่งเสริมให้ ผู้เรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกบั การแก้ปัญหาอยา่ งมีประสิทธิผล ควรใช้สถานการณ์ หรือปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่กระตุ้น ดึงดูดความสนใจ ส่งเสริมให้มีการประยุกต์ความรู้ทาง คณติ ศาสตร์ ขั้นตอน/ กระบวนการแกป้ ญั หา และยทุ ธวธิ แี กป้ ญั หา ท่ีหลากหลาย การสอื่ สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ การสื่อสาร เปน็ วิธีการแลกเปลี่ยนความคิดและสรา้ งความเข้าใจระหวา่ งบุคคล ผา่ นชอ่ งทาง การสื่อสารต่าง ๆ ได้แก่ การฟัง การพดู การอ่าน การเขียน การ สังเกต และการแสดงท่าทาง การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ เป็นกระบวนการส่ือสารท่ีนอกจากนาเสนอผ่านช่องทาง การส่อื สาร การฟงั การพูด การอ่านการเขยี นการสังเกตและ การแสดงทา่ ทาง ตามปกติแล้ว ยงั เปน็ การสอ่ื สารทีม่ ีลักษณะพเิ ศษ โดยมีการใช้สญั ลกั ษณ์ ตวั แปร ตาราง กราฟ สมการ อสมการ ฟงั ก์ชนั หรอื แบบจาลอง เป็นต้น มาช่วยในการส่ือ ความหมายดว้ ย การสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ เป็นทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ที่จะชว่ ยใหผ้ ู้เรียนสามารถถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ แนวคดิ ทาง คณิตศาสตร์ หรือกระบวนการคดิ ของตน ให้ผู้อ่านรบั รู้ได้อยา่ งถูกต้องชัดเจนและมปี ระสิทธิภาพ การที่ผ้เู รียนมีสว่ นรว่ มในการอภิปราย หรือการเขียน เพือ่ แลกเปลี่ยน ความร้แู ละความคิดเหน็ ถา่ ยทอดประสบการณซ์ ึ่งกันและกัน ยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่ จะช่วยใหผ้ ้เู รยี นเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ได้อย่างมีความหมาย เขา้ ใจไดอ้ ยา่ ง กวา้ งขวางลกึ ซึ่งและจดจาได้นาน มากขนึ้ การเชือ่ มโยง การเชื่อมโยงทางคณติ ศาสตร์ เปน็ กระบวนการท่ตี ้องอาศัยการคดิ วเิ คราะห์ และความคิดรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ ในการนาความรู้ เน้อื หา และหลกั การทางคณติ ศาสตร์

มาสร้างความสัมพันธ์อยา่ งเป็นเหตเุ ป็นผล ระหวา่ งความรูแ้ ละทักษะและกระบวนการท่ีมีในเนอ้ื หาคณิตศาสตรก์ บั งานทเี่ กี่ยวข้อง เพอ่ื นาไปสู่ การแกป้ ญั หาและการเรยี นรู้ แนวคดิ ใหม่ที่ซบั ซ้อน หรือสมบรู ณ์ข้ึน การเช่ือมโยงความรู้ต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ เป็นการนาความรู้และทักษะและกระบวนการต่างๆ ทางคณิตศาสตรไ์ ปสัมพันธ์กันอย่างเป็นเหตุเป็นผล ทาให้สามารถ แก้ปัญหาได้หลากหลายวิธี และกะทัดรัดขึ้น ทาให้การเรยี นรู้คณิตศาสตร์มีความหมายสาหรับผู้เรียนมากย่ิงข้ึนการเช่ือมโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตร์อนื่ ๆ เป็นการนาความรู้ ทักษะและกระบวนการต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ ไปสัมพันธ์กันอย่างเป็นเหตุเป็นผลกบั เนื้อหาและความรู้ของศาสตร์อ่ืนๆ เช่น วิทยาศาสตร์ ดารา ศาสตร์ พันธุกรรมศาสตร์ จิตวทิ ยา และเศรษฐศาสตร์ เปน็ ต้น ทาให้การเรียนคณิตศาสตรน์ า่ สนใจ มคี วามหมาย และผเู้ รยี นมองเหน็ ความสาคญั ของการเรียนคณติ ศาสตร์ การที่ผ้เู รียนเห็นการเช่ือมโยงทางคณิตศาสตร์จะสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนเห็นความสัมพันธ์ของเนอ้ื หาต่างๆในคณิตศาสตร์และความสมั พันธ์ระหว่างแนวคิดทางคณิตศาสตร์กับ ศาสตร์อ่ืนๆทำให้ผู้เรียนเข้าใจเนื้อหาทางคณิตศาสตร์ได้ลึกซง่ึ และมีความคงทนในการเรียนรู้ตลอดจนช่วยให้ผู้เรียนเห็นว่าคณิตศาสตร์มีคุณคา่ นา่ สนใจ และสามารถ นาไปใช้ประโยชน์ในชีวติ จรงิ ได้ การใหเ้ หตุผล การให้เหตุผล เป็นกระบวนการคิดทางคณิตศาสตร์ที่ต้องอาศัยการคิดวิเคราะห์และความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ ในการรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อความ แนวคิด สถานการณ์ทางคณิตศาสตร์ต่าง ๆ แจกแจง ความสมั พันธ์ หรือการเชือ่ มโยง เพื่อให้เกดิ ข้อเท็จจรงิ หรอื สถานการณ์ใหม่ การให้เหตุผลเป็นทักษะและกระบวนการท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักคิดอย่างมีเหตุผล คิดอย่างเป็นระบบสามารถคิดวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างถ่ีถ้วน รอบคอบ สามารถคาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ และแก้ปัญหาได้อยา่ งถูกต้องและเหมาะสม การคิดอย่างมีเหตุผลเป็นเคร่ืองมือสาคัญท่ีผเู้ รียนจะนาไปใช้พัฒนา ตนเองใน การเรยี นรสู้ งิ่ ใหม่ เพือ่ นาไปประยกุ ต์ใชใ้ นการทางานและการดารงชีวิต การคิดสร้างสรรค์ การคดิ สร้างสรรค์ เป็นกระบวนการคิดท่ีอาศยั ความรู้พนื้ ฐาน จนิ ตนาการและวิจารณญาณ ในการ พฒั นา หรือคิดคน้ องค์ความรู้ หรือสิ่งประดษิ ฐ์ใหมๆ่ ทีม่ ีคณุ ค่า และเปน็ ประโยชน์ต่อตนเองและสังคม ความคิดสรา้ งสรรคม์ ีหลายระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั พืน้ ฐานทส่ี ูงกว่าความคดิ พนื้ ๆ เพียงเลก็ น้อย ไปจนกระท่ัง เปน็ ความคดิ ท่ีอยู่ใน ระดับสงู มาก การพฒั นาความคิดสรา้ งสรรค์จะชว่ ยให้ผเู้ รียนมแี นวทางการคดิ ที่หลากหลาย มีกระบวนการคิดจนิ ตนาการในการประยกุ ต์ที่จะนาไปส่กู ารคดิ ค้นส่ิงประดษิ ฐ์ท่ี แปลกใหมแ่ ละมีคุณค่าที่คนส่วนใหญ่คาดคดิ ไม่ถึง หรือมองข้าม ตลอดจนสง่ เสรมิ ให้ผเู้ รียนมีนิสยั กระตือรอื รน้ ไมย่ ่อทอ้ อยากรอู้ ยากเหน็ อยากค้นควา้ และทดลองส่งิ ใหม่ ๆ อยเู่ สมอ

แบบรูป(pattern) แบบรปู เป็นความสัมพนั ธ์ท่ีแสดงลกั ษณะสาคัญร่วมกันของชุดของจานวนรูปเรขาคณติ หรืออน่ื ๆตวั อย่าง (๑) ๑ ๓ ๕ ๗ ๙ ๑๑ (2) (3) รูปเรขาคณิต(geometricfigure) รปู เรขาคณิตเปน็ รูปทป่ี ระกอบดว้ ยจุดเส้นตรงเส้นโคง้ ระนาบฯลฯ อย่างน้อยหน่งึ อย่าง ตวั อยา่ งของรูปเรขาคณติ หนึ่งมติ เิ ชน่ เส้นตรงส่วนของเสน้ ตรง รังสี ตวั อย่างของรปู เรขาคณิตสองมติ ิเช่น วงกลม รปู สามเหล่ียม รูปส่ีเหล่ยี ม ตวั อย่างของรปู เรขาคณิตสามมติ ิเชน่ ทรงกลมลูกบาศก์ปริซึม พรี ะมิด เลขโดด(digit) เลขโดดเป็นสัญลักษณ์พื้นฐานทใี่ ช้เขียนตัวเลขแสดงจานวน จำนวนทน่ี ิยมใช้ในปัจจุบันเป็นระบบฐานสบิ ในการเขียนตัวเลขแสดงจานวนใดๆ ในระบบฐานสบิ ใชเ้ ลขโดดสบิ ตัว เลขโดดท่ใี ช้เขียนตัวเลขฮนิ ดูอารบิกได้แก่0,1,2,3,4,5,6,7,8และ9 เลขโดดทใ่ี ชเ้ ขยี นตัวเลขไทยได้แก๐, ๑,๒,๓, ๔, ๕,๖,๗, ๘และ๙ สนั ตรง(straightedge)

สันตรงเป็นเคร่ืองมือหรืออปุ กรณ์ทใี่ ช้ในการเขียนเส้นในแนวตรง เช่น ใช้เขียนส่วนของเส้นตรงและรังสี ปกติบนสันตรงจะไม่มีขีดสเกลสำหรับการวัดระยะกำกับ ไว้ อย่างไรก็ตามในการเรียนการสอนอนุโลมให้ ใช้ไมบ้ รรทัดแทนสันตรงได้โดยถือเสมือนวา่ ไม่มขี ีดสเกลสำหรับการวดั ระยะกำกับ หน่วยเดี่ยว(single unit) และหน่วยผสม (compound unit) การบอกปรมิ าณที่ไดจ้ ากการวดั อาจใช้หน่วยเดี่ยวเช่นส้มหนกั ๑๒ กิโลกรมั หรือใช้หนว่ ยผสมเชน่ ปลาหนัก ๑ กโิ ลกรัม๒๐๐ กรัม หน่วยมาตรฐาน(standardunit) หน่วยมาตรฐานเป็นหน่วยการวัดทเี่ ป็นทย่ี อมรับกันทว่ั ไป เช่น กิโลเมตร เมตร เซนติเมตรเป็นหนว่ ยมาตรฐานของการวดั ความยาว กโิ ลกรมั กรมั มิลลิกรมั เป็นหนว่ ยมาตรฐานของการวัดนา้ หนัก อตั ราสว่ น(ratio) อัตราส่วนเป็นความสัมพันธ์ท่ีแสดงการเปรียบเทียบปริมาณสองปริมาณซง่ึ อาจมีหน่วยเดียวกันหรือต่างกนั ก็ได้ อตั ราส่วนของปรมิ าณa ตอ่ ปริมาณbเขียน แทนดว้ ยa : b


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook