Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore _การเงินดิจิทัล

_การเงินดิจิทัล

Published by Guset User, 2023-07-11 03:41:24

Description: _การเงินดิจิทัล

Search

Read the Text Version

\" การเงินดิจิทัล \" no.089

BLOCKCHAIN \"บล็อกเชน\" คือเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล ที่ไม่มีตัวกลาง ใช้รูปแบบการจัดเก็บเป็นสำเนาไว้ในเครื่องของ ทุกคนที่ใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน ทำให้ทุกคนรู้ว่าใครเป็นเจ้าของและมีสิทธิในข้อมูลตัวจริง เมื่อมีการอัพเดท ข้อมูลใดๆ สำเนาข้อมูลในฐานเดียวกันก็จะอัพเดทตามไปด้วยทันที ทำให้ปลอมแปลงข้อมูลได้ยาก ระบบนี้ถูกนำมาใช้ในการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึง \"BITCOIN\" อีกทั้งยังสามารถพัฒนาไปใช้ใน ระบบอื่นๆ ที่ต้องการความโปร่งใสได้ด้วย

CRYPTOCURRENCY \"คริปโทเคอร์เรนซี\" คือ\"สินทรัพย์ดิจิทัล\" ประเภทหนึ่งที่อยู่ในระบบบล็อกเชน ใช้แลกเปลี่ยน คล้ายกับเงิน แต่ไม่มีรูปร่าง จับต้องไม่ได้ จึงจัดว่าเหรียญคริปโทฯเหล่านี้ เป็นทรัพย์สินดิจิทัล ที่สามารถซื้อขาย แลกเปลี่ยน และสะสมได้

NFT (NON-FUNGIBLE TOKEN) \"NFT\" คือสินทรัพย์ดิจิทัลอีกประเภทหนึ่งในระบบบล็อกเชน ที่มีจุดเด่นคือสามารถใช้แสดง ความเป็นเจ้าของบางสิ่งบางอย่างที่ไม่สามารถทำซ้ำหรือทดแทนกันได้

DEFI (DECENTRALIZED FINANCE) ระบบการเงินแบบ \"ไม่มีศูนย์กลาง\" หรือ ในการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ ผ่านระบบ BLOCKCHAIN ไม่ต้องผ่านตัวกลางที่เป็นธนาคาร \"DEFI\" จะถูกสร้างบนระบบนิเวศน์ของ \"ETHEREUM\" ทุกธุรกรรมจะดำเนินการผ่าน \"SMART CONTRACT\" หรือสัญญาซื้อขายเงินดิจิทัล ซึ่งข้อดีคือ ไม่ว่าใครก็จะไม่สามารถแก้ไข หรือปลอมแปลง ข้อมูลในธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ ทำให้ระบบ DEFI มีความโปร่งใสเพราะไม่ว่าใครก็สามารถเข้าตรวจสอบ ผ่าน SMART CONTRACT ได้ทุกเวลานั่นเอง

CBDC (CENTRAL BANK DIGITAL CURRENCY) \"สกุลเงินดิจิทัล\" ที่ออกโดยธนาคารกลาง หรือธนบัตรในรูปแบบดิจิทัล มีมูลค่าคงที่สามารถใช้ชำระหนี้ ได้ตามกฎหมาย ช่วยลดค่าธรรมเนียมที่ไม่จำเป็น ปลอดภัย และมีความน่าเชื่อถือสูง

METAVERSE \"เมตาเวิร์ส\" หรือ \"เทคโนโลยีเสมือนจริง\" คือเทคโนโลยีที่ผสมผสาน \"โลกความจริง\" และ \"เทคโนโลยี\" ที่เป็นเรื่องจินตนาการเข้าด้วยกัน ทำให้มนุษย์สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้ในโลกเสมือนที่สร้าง ขึ้น ที่เกิดเป็นการปฏิสัมพันธ์หรือมูลค่าต่างๆ ตามมา เช่น ไปทำธุรกรรมที่ธนาคารบนโลกเสมือนจริง แต่ตัวนั่งอยู่ที่บ้าน เป็นต้น

DIGITAL FACTORING ใบแจ้งหนี้ดิจิทัล ใช้เป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อ ลดปัญหาการขอสินเชื่อซ้ำซ้อนโดยใช้ใบแจ้งหนี้ใบเดียวกันและการปลอมแปลงเอกสาร

E-KYC (ELECTRONIC KNOW YOUR CUSTOMER) ระบบการระบุตัวตนและพิสูจน์ตัวตนแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันการสวมรอยแบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่นการทำ NDID การจดจำใบหน้า สแกนลายนิ้วมือ ฯลฯ

NDID (NATIONAL DIGITAL ID) \"NDID\" คือการบริการ \"ยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล\" เพื่อสมัครบริการทางการเงินต่างๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝาก สะดวก รวดเร็ว

OTP (ONE TIME PASSWORD) รหัสผ่าน ที่ใช้ครั้งเดียวในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อยืนยันตนก่อนทำธุรกรรมออนไลน์

Bitcoin (BTC) บิตคอยน์เป็นเงินดิจิทัลสกุลแรกของโลกที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 2009 โดยผู้สร้างที่ใช้นามแฝงว่า “ซาโตชิ นากาโมโตะ” (Satoshi Nakamoto) สำหรับการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบิตคอยน์จะเป็นอิสระจากรัฐบาลหรือ ตัวกลางใด ๆ โดยจะถูกบันทึกไว้ในบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ (DLT) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ทำให้ยากที่จะย้อนกลับ ดัดแปลง หรือทำลายทิ้งได้

Ethereum (ETH) อีเธอเรียม (Ethereum) ถูกสร้างขึ้นในปี 2013 โดยโปรแกรมเมอร์ชาวรัสเซีย-แคนนาดาที่มีชื่อว่า “วีตาลิค บูเจริน” (Vitalik Buterin) Ethereum เป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชนแบบกระจายอำนาจ โดยมีเหรียญ “อีเธอร์” (ETH) ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2015 เป็นสกุลเงินหลักทำงานบน “Ethereum Blockchain” นอกจากนี้ Ethereum ยังถูกใช้งานในรูปแบบของโทเคนที่ไม่สามารถทดแทนกันได้ (Non-Fungible Token) หรือ เอ็นเอฟที (NFT) สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนงานศิลปะ รวมถึงไอเทมในเกมและโลกเสมือนจริง (Virtual World) ด้วย

Tether (USDT) ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2014 โดย บริษัท Tether ที่มีนาย Brock Pierce เป็นผู้ก่อตั้ง USDT คือสกุลเงินดิจิทัลประเภท Stablecoin หรือสกุลเงินที่มีค่าคงที่ โดยที่มาของทุกๆ 1 USDT จะถูกค้ำประกันด้วยเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ ที่มีอยู่ใน บัญชีของบริษัท Tether จุดประสงค์หลักของ USDT คือการรักษามูลค่าของเงินดิจิทัลที่มีอยู่ใน cryptocurrency exchange เพราะหลายที่ไม่สามารถเปลี่ยนเงินดิจิทัลมาเป็น fiat currency ได้

Binance Coin (BNB) ไบแนนซ์ คอยน์ (Binance Coin) เปิดตัวในปี 2017 โดยเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างขึ้นโดย “Binance” ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้ทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม Binance โดยผู้ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม Binance จะได้รับส่วนลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมหากใช้เหรียญ BNB นั่นเอง

USD Coin (USDC) USD Coin (USDC) เปิดตัวในปี 2018 โดยบริษัท Centre ซึ่งเป็นบริษัทที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างแพลตฟอร์ม ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลระดับโลกอย่าง Coinbase และบริษัท Circle โดยมีความตั้งใจที่ต้องการให้คนทั้งโลกสามารถเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าเทียบเท่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ได้

Ripple (XRP) เหรียญ “XRP” ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นโดย Ripple Labs Inc ซึ่งก่อตั้งในปี 2012 โดย Chris Larsen และ Jed McCaleb โดย Ripple เป็นโปรโตคอลการชำระเงินที่เปรียบเสมือนสะพานในการโอนเงินระหว่างประเทศที่มีความโปร่งใส โดยมีจุดเด่นคือการประมวลผลธุรกรรมที่รวดเร็ว สามารถทำธุรกรรมได้ภายใน 3-5 วินาที และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก เพียง 0.00001 XRP หรือประมาณ 0.00000426 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อธุรกรรมเท่านั้น นอกจากนี้ Ripple ยังเปิดให้ นักพัฒนาทั่วโลกสามารถสร้าง Decentralized Applications (DApp) ได้ ผ่านโซลูชัน XRP Ledger อีกด้วย *ไม่สามารถขุดได้*

Cardano (ADA) หรียญ “ADA” (เอดา) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2017 เป็นเงินสกุลหลักบนเครือข่ายคาร์ดาโน (Cardano) ที่ถูก สร้างขึ้นในปี 2015 โดย “ชาร์ลส์ ฮอสกินสัน” (Charles Hoskinson) หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Ethereum โดย Cardano เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะแบบกระจายอำนาจ (Proof of Stake: PoS) รุ่นที่สาม ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทลาย ข้อจำกัดของ Proof of Work (PoW) ทำให้สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วขึ้นในต้นทุนที่ต่ำลง รวมถึงประหยัด พลังงานมากขึ้น ซึ่งชื่อของเหรียญ ADA มีที่มาจาก “เอดา เลิฟเลซ” (Ada Lovelace) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษ ที่ถูกขนานนามว่าเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก

Binance USD (BUSD) Binance USD หรือเหรียญ BUSD ก่อตั้งโดย Paxos แพลตฟอร์มโครงสร้างพื้นฐานเหรียญ Stablecoin และ Binance แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกเจ้าเก่าเจ้าเดิม เช่นเดียวกับเหรียญ USDT และ USDC มูลค่าเหรียญ BUSD จะถูกอ้างอิงกับสกุลเงินทั่วไป (Fiat Currency) อย่างเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ใน อัตราส่วน 1:1 ประโยชน์ของเหรียญ BUSD คือทำให้ผู้ถือสามารถโอนเหรียญ BUSD ได้ในทุกที่ด้วยเวลาเพียงไม่กี่ นาที พร้อมต้นทุนที่ต่ำกว่าการทำธุรกรรมทั่วไป นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นหลักประกันและสินทรัพย์สำหรับกู้ยืม สกุลเงินดิจิทัล รวมถึงใช้เหรียญ BUSD ใช้จ่ายเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการในร้านค้าที่รับรองได้อีกด้วย

Solana (SOL) โซลาน่า (Solana) ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยเป็นบล็อกเชนที่ทำงานด้วยฉันทามติแบบ Proof of History (PoH) ร่วมกับฉันทามติแบบ Proof of Stake (PoS) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ และ สามารถคำนวณธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ประมาณ 65,000 ธุรกรรมต่อวินาที รวมถึงสร้างบล็อกใหม่ได้ในทุก ๆ 400 มิลลิวินาที ด้วยค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมเพียง 0.00025 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อธุรกรรมเท่านั้น ในขณะ ที่ Ethereum Blockchain ทำได้เพียง 14 ธุรกรรมต่อวินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่อธุรกรรมที่สูงถึง 4.524 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 22 พ.ค. 2022) ทำให้ Solana ได้รับสมญานามว่า “Ethereum Killer”

Dogecoin (DOGE) Dogecoin ถูกสร้างขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปี 2013 โดยวิศวกรซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า Jackson Palmer และ Billy Markus เหรียญ DOGE ถือเป็น “ราชาแห่งเหรียญมีม” โดยมีมูลค่าตลาดสูงสุดในกลุ่มเหรียญมีม (Meme Coins) วัตถุประสงค์ในการสร้างเหรียญมีมคือเป็นเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความสนุกโดยเฉพาะ โดยมีแรง บันดาลใจมาจากมีม (Meme) ที่เป็นกระแสร้อนแรงบนโลกออนไลน์ ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมีม “สุนัขพันธุ์ชิบะอินุ” ชื่อดังหน้าตาน่ารักน่าชังนั่นเอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook